PART 3 – Will You Mary Me?
กร : เราคบกันมาตั้ง 8 ปี (เมื่อปีที่แล้ว) ผมว่าก็ต้องเริ่มคิดเริ่มมองอนาคต แล้วทั้งอายุ ทุกๆ อย่างก็พร้อมหมดแล้ว เลยตัดสินใจเซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงานเขาในวันครบรอบซะเลย
บี : เราไม่ได้นึกเลย เพราะเราคบกันมานานมาก และบีไม่อยากอยู่บนความหวังจนเกินไป อยากอยู่บนความจริงมากกว่า ก็เลยไม่ได้คิด แล้วก็ไม่อยากหวังด้วย เพราะทุกวันที่อยู่ด้วยกันก็โอเคมีความสุขดีอยู่แล้ว ถ้ามันถึงวันนั้นก็คงจะถึงวันนั้นเอง แต่วันนั้นคือรู้สึกชาไปทั้งตัว เหมือนอยู่ในความฝัน ถ้าไปดูในวิดีโอจะเห็นว่าบีเดินแล้วก็หยุด แล้วก็กรี๊ด พอเจอหน้าเพื่อนก็ยิ่งช็อค ทำอะไรไม่ถูก ตอนนั้นฟังไม่รู้เรื่องเลยว่าพี่กรพูดว่าอะไรบ้างเพราะช็อคอยู่
กร : แผนการเซอร์ไพร้ส์ผมคิดเองทุกอย่าง ลงทุนจ้างออแกไนซ์เซอร์ ก่อนหน้านั้นคิดหลายอย่างว่าควรจะเป็นที่เมืองนอกไหมจะได้มีภาพสวยๆ แต่ว่าการเตรียมการไปต่างประเทศอาจต้องเตรียมการค่อนข้างเยอะ เลยตัดสินใจว่าขอที่เมืองไทยนี่แหละ แล้วก็เป็นช่วงเวลาพิเศษตรงกับวันครบรอบพอดี เลยมองหาสถานที่ซึ่งบังเอิญไปเห็นโรงแรมนี้ในไอจีของคนรู้จักก็เลยเริ่มสืบว่าคือโรงแรมอะไร จากนั้นก็เริ่มจัดการทุกอย่าง นัดบีทานข้าวที่ร้านเสต็กชั้นล่างก่อนที่จะขึ้นมาทำเซอร์ไพร้ส์ข้างบน
บี : วันนั้นบีไปไลฟ์ขายของที่บ้านเพื่อน ซึ่งเพื่อนบอกว่าวันนี้ทำงานได้ถึง 4 โมงเพราะต้องไปกินข้าวกับพ่อต่อ ระหว่างที่ไลฟ์พี่กรก็ส่งข้อความมาบอกว่าเดี๋ยวจะไปกินข้าวที่ร้านนี้ พอเห็นว่าเป็นโรงแรมเราก็แบบยังไม่มีชุดเลย ก็เลยพิมพ์ไปหาเพื่อนว่าไม่มีชุดไปกินข้าววันครบรอบเลย เพื่อนก็ตอบมาว่ามีชุดที่จะให้เราช่วยรีวิวพอดีให้ส่งคนไปรับชุดได้เลย เราก็ส่งคนไปรับชุดปกติไม่ได้คิดอะไร (กร : แต่คือเพื่อนทุกคนรู้หมดแล้ว)
กร : ตอนคิดแผนเซอร์ไพร้ส์ก็คิดไว้ว่าถ้าขอกันแค่ 2 คนก็อาจให้ความรู้สึกแบบนึง แต่ถ้าขอท่ามกลางบรรยากาศที่มีเพื่อนๆ มาร่วมดีใจด้วยคงเป็นความรู้สึกที่พิเศษมากขึ้น ซึ่งตอนแรกผมคิดว่าจะมีแต่เพื่อนเขาอย่างเดียว เพราะเพื่อนเราเราก็ไม่กล้าเชิญ เราก็เขิน (บี หัวเราะ) สุดท้ายเพื่อนเขาตอบรับมาเยอะมาก (บี หัวเราะ) ก็เลยคิดว่าเอาเพื่อนเราด้วยดีกว่า มาเป็นกำลังใจให้หน่อย เพราะวันนั้นตื่นเต้นมาก แผนคือผมเลือกโทรหาตัวแทนเพื่อนบีคนเดียวให้เป็นคนจัดการฝั่งเพื่อนเขาทั้งหมด ฝั่งผมก็จะมีเพื่อนตัวแทนหนึ่งคนที่จัดการเรื่องเพื่อนผมทั้งหมดเหมือนกัน ส่วนเรื่องลำดับการต่างๆ ผมทำหน้าที่ประสานเอง ซึ่งวันนั้นทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่บีบอกว่าวันนั้นผมล่กๆ ยังไงไม่รู้ (หัวเราะ)
บี : ระหว่างทางไปโรงแรมบีโทรหาเพื่อนสนิทคนนึงถามว่าอยู่ไหน เขาก็บอกว่าอยู่แถวสยาม เราก็งงเพราะปกติเพื่อนคนนี้ไม่ค่อยออกจากบ้าน คุยกันอยู่สักพักอยู่ๆ เขาก็บอกว่าวันนี้เป็นวันดีอากาศดีนะ (หัวเราะ) แล้วอยู่ๆ เขาบอกว่าแค่นี้ก่อนนะ ตอนนั้นก็ยังไม่นึกอะไร แล้วบีมีเพื่อนที่อยู่ชัยภูมิกับเพื่อนที่อยู่ภูเก็ตซึ่งเราสนิทกันมากคุยกันตลอด แต่อยู่ๆ เพื่อนที่อยู่ชัยภูมิไม่รับสายบีเลย บีก็บ่นกับเพื่อนที่ภูเก็ตว่าหายไปไหนปกติคุยกันทุกวัน
กร : ทุกคนบอกว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนโก๊ะ ห้ามคุยเด็ดขาด เพราะถ้าคุยแล้วจะหลุด เป็นคนเก็บความลับไม่อยู่
บี : (หัวเราะ) เหตุการณ์แปลกๆ วันนั้นอีกอย่างคือ คนขับรถขับมาจะถึงหน้าโรงแรมแล้วถ้ากลับรถข้างหน้าก็คือถึงเลย แต่เขาบอกว่าไปกลับรถข้างหน้าดีกว่าครับ บีก็งงๆ นิดนึง
กร : เพราะตอนนั้นผมยังเตรียมไม่เสร็จ เพื่อนบียังมาไม่ถึง เลยต้องให้คนขับรถถ่วงเวลาไปก่อน เพราะกลัวว่าเดี๋ยวบีกับเพื่อนจะมาถึงพร้อมกัน
บีเป็นคนที่ดูแลผมดีมากๆ ทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นวันสำคัญอะไรเขาจะมีของขวัญที่ทำให้เราเซอร์ไพร้ส์ตลอด ซึ่งเป็นของที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ของขวัญแต่ละอย่างของเขาคล้ายๆ แฮนด์เมดทั้งหมด ที่สำคัญเขาเป็นคนรักครอบครัว ให้ความสำคัญกับเรื่องครอบครัวมากๆ
PART 4 – ใกล้ถึงวันวิวาห์แล้วหนายอดดวงใจ
บี : ตอนนี้ก็เตรียมการไปในส่วนที่เราสามารถทำได้ ก็ยังรออะไรหลายๆ ด้านอยู่ อย่างธีมสีก็เป็นสีฟ้าคราม ซึ่งเป็นธีมสีที่เราชอบ
กร : จากการที่เราไปมาหลายๆ งานบางทีก็ต้องเข้าใจว่าผู้ใหญ่อาจไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่ และงานเราก็ไม่ได้แบ่งเป็นแขกผู้ใหญ่หนึ่งวัน แขกเด็กหนึ่งวัน แต่จัดรวมกันเลย ก็เลยคิดว่าเอาแค่สีคือง่ายที่สุดแล้ว
บี : ส่วนเรื่องชุดแต่งงานก็มีดูๆ ไว้ค่ะ แต่ยังไม่ได้เลือก
กร : ผมว่าเจ้าสาวคงไม่มีใครที่ลองชุดแต่งงานถึงร้อยชุดใช่ไหมครับ แต่คนนี้ถึงนะครับ (ยิ้ม)
บี : (หัวเราะ) พอดีว่าช่วงนั้นบีจะเปิดร้านชุดแต่งงานพอดีค่ะ เลยต้องเอาตัวเองเป็นหุ่นเพื่อลองชุดที่เราจะนำเข้ามาเพื่อให้พอดีกับหุ่นของคนไทยหรือคนเอเชีย เลยได้มีโอกาสลองชุดแต่งงานเยอะหน่อย เพราะบีกับเพื่อนไปกันแค่สองคนเลยต้องช่วยๆ กันเลือกว่าจะเอาชุดไหนหรือเอาแบรนด์ไหนเข้ามาค่ะ
อ่าน >>> PART 5 – ว่าที่เจ้าสาวที่กำลังจะเปิดร้านชุดแต่งงานเป็นของตัวเอง >>> หน้าถัดไป คลิกเลย!