11 เรื่องที่บ่าวสาวต้องรู้ในวันแต่งงาน ฉุกเฉินแค่ไหนก็รับมือได้ไม่มีหวั่น

ใน วันแต่งงาน ต่อให้เตรียมตัวมาเป๊ะ พร้อมผจญทุกสิ่งอย่าง แต่บางทีก็อาจมีพลาดเกิดเหตุไม่คาดฝัน แต่ถ้าเราเตรียม 11 สิ่งต่อไปนี้ก่อนหน้าวันงาน รับรองว่าต่อให้เกิดอะไรก็รับมือได้สบายมาก

1. ก่อนส่งคืนชุดบ่าวสาวที่เช่ามา อย่าลืมตรวจเช็คร่องรองต่างๆ ถ้ามีคราบเปื้อนอยู่ให้ใช้ทิชชู่เปียกลองเช็ดดู เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่ามัดจำไปฟรีๆ

2. ถ้าคืนแต่งงานแดนซ์เพลินจนเผลอทำไวน์แดงหกใส่ชุด อย่าเพิ่งเครียดให้ใช้วิธีเกลือจิ้มเกลือ ไวน์หก ก็ใช้ไวน์ขาวเทซ้ำลงไปเลย คราบจะออกง่ายขึ้นนะจ๊ะ

3. เวลชอบหลุดนักใช่ไหม!! กิ๊ฟ 18 ตัวก็เอาไม่อยู่หรือเปล่า!! ให้ใช้สเปรย์ฉีดผมฉีดลงไปบนเวลในตำแหน่งที่ต้องการติดกับผมเลย จะทำให้เวลาเหนียวหนึบอยู่ทรงไม่ลื่นหลุดง่าย

4. เจ้าสาวบ่อน้ำตาตื้น จะปล่อยให้น้ำตาไหลพรากไร้การซับก็ไม่งาม จะถือทิชชู่โต้งๆ ก็ไม่สวย ให้ซ่อนทิชชู่เอาไว้ในมือที่ถือช่อดอกไม้ หรือฝากไว้ในกระเป๋าสูทของเจ้าบ่าวก็ได้นะ น้ำตาร่วงปุ๊บ ก็ออกมาซับปั๊บ

5. ยังไงอาหารที่เตรียมไว้ในงานแต่งก็เหลือ เพราะฉะนั้นให้ถามคนจัดการเรื่องอาหารก่อนเลยว่า ถ้างานเลิกแล้วมีภาชนะให้ใส่กลับบ้านหรือเปล่า ถ้าไม่มี เราเตรียมไว้เองเลย

6. เกิดเค้กสวยๆ ดันมีรอยบุบ จะเคาะ ปะ พ่นสีเหมือนรถก็ไม่ได้ ให้หาดอกไม้ที่ประดับอยู่ไกลๆ มาติดลงบนเค้กเพื่อซ่อมแซมนะจ๊ะ

7. ถ้าจะจัดงานเอาท์ดอร์ ห้ามลืมแจกสเปยร์ไล่แมลงให้แขกเด็ดขาด และอย่าลืมฉีดสเปรย์ที่ขาโต๊ะเตรียมไว้ก่อนนะจะช่วยไล่แมลงให้ออกห่างจากโต๊ะ

8. ผมมันใช่ไหม โรบแป้งลงบนผมเลยค่ะ แล้วสะบัดๆ ความมันจะหายวับทันตา

9. ทำให้เครื่องดื่มเย็นเร็วทันใจ ต้องแช่ลงในถังน้ำแข็งที่มีน้ำอยู่ด้วย จะทำให้เย็นภายใน 5 นาทีเลยล่ะ

10. ถามคนจัดดอกไม้ว่า ตอนงานเลิก จะช่วยห่อดอกไม้เป็นช่อแบบง่ายๆ ให้แขกนำกลับบ้านได้หรือเปล่านะ

11. บ่าวสาวควรกินยาแก้แพ้ก่อนเริ่มงาน เพราะอาจจะมีอาการแพ้เกสรดอกไม้ แพ้เครื่องสำอางโดยไม่รู้ตัว

และนี่คือ 11 ข้อ ที่จะช่วยให้วันแต่งงานออกมาสวยเพอร์เฟ็กต์ แม้เกิดเหตุไม่คาดฝัน แถมอุปกรณ์ช่วยชีวิตทั้งหมดก็เป็นของใกล้ตัว ที่หยิบมาใช้สอยได้แบบง่ายดายด้วย

อ่านคำแนะนำดีๆ และดูไอเดียจัดงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

วิธีแบ่งเครื่อง ขันหมาก อย่างง่าย แบบที่ไม่ต้องแย่งกันให้มีเคือง!

หลังจากเสร็จพิธีแต่งงานตอนเช้าหลายคนก็มักจะสงสัยว่า ของที่มากับขบวน ขันหมาก จะต้องแบ่งสันปันส่วนกันอย่างไร รวมถึงความเชื่อที่ว่า บ่าวสาวห้ามกินขนมขันหมาก นั้นจริงหรือไม่ เราจะมาเฉลยข้อข้องใจทั้ง 2 ข้อนี้กัน 

การแบ่งเครื่องของที่มากับขบวนขันหมาก เช่น พานขนมงคล 9 อย่าง พานผลไม้ ฯลฯ หลังเสร็จพิธีให้แบ่งของออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งให้ฝ่ายเจ้าสาวเก็บไว้และอีกส่วนหนึ่งให้ทางเจ้าบ่าวนำไปเลี้ยงแขก พร้อมกับส่งถาดและพานต่างๆ ที่ใส่ของมาคืนให้ทั้งหมด เวลาส่งคืนต้องไม่คืนเป็นถาดเปล่า ให้มีหมากพลู ขนม และของแถมพกติดไปด้วย เพื่อเป็นรางวัลให้กับผู้ทำหน้าที่ยกของขันหมากมา

ส่วนความเชื่อที่ว่า “บ่าวสาวห้ามทานขนมขันหมาก” ขอบอกว่าเป็นเพียงแค่ความเชื่อของบางบ้านบางครอบครัวค่ะ จริงๆ แล้วทุกคนสามารถทานได้ เพราะถือว่าเป็นขนมมงคลและมีความหมายดีอยู่ในชื่อขนมแต่ละชนิดอยู่แล้ว รวมถึงความเชื่อที่ว่า สาวโสดห้ามทานขนมขันหมาก เพราะจะทำให้ไม่มีคนมาขอแต่งงาน อันนี้ก็แล้วแต่สาวๆ จะปักใจเชื่อกันนะคะ ใครสบายใจจะไม่ทานก็ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ (แต่จริงๆ แล้วมันทานได้นะ!)

Read More : มารู้จักกับ “พานรับขันหมาก” กันเถอะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Jirayu The Wedding Planner

“เวดดิ้งแพลนเนอร์” เลขาฯ ส่วนตัวของบ่าวสาวยุคใหม่ จำเป็นไหมที่ต้องมี?

“จำเป็นไหมที่ต้องจ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์” กลายเป็นคำถามแรก ๆ ที่ผุดขึ้นมาในใจของว่าที่คู่แต่งงานในยุคนี้ ปัญหาสำคัญคือหลายคู่ไม่รู้ว่า เวดดิ้งแพลนเนอร์ ทำอะไรบ้าง เราจึงเชิญคุณกุ้ง – สุริยา ครุฑทอง Creative Director แห่ง Chic Planner มาไขความกระจ่าง

  • รู้จักเวดดิ้งแพลนเนอร์

“เรื่องแรกที่บ่าว – สาวสับสนกันมากคือ ‘เวดดิ้งแพลนเนอร์’ และ ‘เวดดิ้งออร์แกไนเซอร์’ มีหน้าที่เหมือนหรือต่างกันอย่างไร คำตอบคือออร์แกไนเซอร์จะทำงานเฉพาะในวันงาน เหมือนเป็นแม่งานที่คอยตรวจดูความเรียบร้อยและควบคุมลำดับพิธีให้ดำเนินไปตามแผนงาน แต่แพลนเนอร์จะมีขอบเขตการทำงานที่กว้างกว่า มีหน้าที่วางแผนการทำงานทั้งหมดให้งานแต่งหนึ่งงานจบลงอย่างสมบูรณ์แบบตามที่บ่าว – สาวต้องการ ไม่ใช่แค่เสนอแบบการตกแต่ง แต่เสนอทุกเรื่องที่เกี่ยวข้อง ไม่เว้นแม้แต่ชุดชั้นใน แต่จะมีข้อยกเว้นอยู่ 2 ข้อ คือ ไม่เข้าไปยุ่งกับการดูแลทรัพย์สินมีค่าไม่ว่าจะเป็นการหาคนมานั่งเฝ้ากล่องรับซองหรือดูแลสินสอด รวมถึงการเชิญแขก”

  • ส่งแบบล่าช้าราคาเพิ่งมา จำใจยอมจ้าง

“หลายคู่เจอกรณีนี้เพราะไม่ได้ตกลงกันให้ชัดเจนตั้งแต่แรกว่าจะมีการส่งแบบให้ดูเมื่อไร รายละเอียดการทำงานเป็นอย่างไร สุดท้ายก็ต้องใช้งานเพราะหนีไปทางไหนไม่ทันแล้ว ทางออกคือ ควรชัดเจนตั้งแต่ตอนแรก ทั้งเรื่องรูปแบบงานและกระบวนการทำงาน มีเงื่อนไขอะไรแจงมาให้หมด เพราะแพลนเนอร์เองก็อยากได้ลูกค้า ส่วนบ่าว – สาวก็ต้องการคนทำงานที่จริงใจ ฉะนั้นวิน ๆ คือบ่าว – สาวต้องร้องขอรายละเอียดเหล่านั้นทันทีที่ตกลงว่าจ้างงาน อ่านรายละเอียดก่อนเซ็นสัญญา แล้วค่อยเดินตามแผนงานทั้งหมดที่วางร่วมกัน”

  • วิธีคุยกับพ่อแม่ให้ยอมรับเวดดิ้งแพลนเนอร์

“เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่อยู่ในยุคที่ยังไม่มีอาชีพนี้เกิดขึ้น วิธีที่จะทำให้ท่านยอมรับคือ  พาท่านมานั่งคุยกับแพลนเนอร์เพื่อให้เห็นภาพว่า การทำงานมีมากกว่าการตกแต่งและบ่าว – สาวจะได้รับบริการมากกว่าให้โรงแรมจัดงานเพียงฝ่ายเดียว บางบ้านอาจคิดว่าให้ญาติพี่น้องเพื่อนสนิทช่วยก็ได้ แต่การที่ไม่ได้ใช้เงินจ้างจะกลายเป็นบุญคุณและใช้งานไหว้วานกันได้ไม่เต็มปาก จึงมีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะทำให้งานไม่ไหลลื่น สิ่งเหล่านี้คือประเด็นสำคัญที่จะช่วยโน้มน้าวใจคุณพ่อคุณแม่ เพราะความสะดวกสบาย และสิ่งที่เกิดขึ้นในงานเป็นการดูแลโดยมืออาชีพที่คุณพ่อคุณแม่และญาติ ๆ ไม่ต้องเหนื่อยเลย แค่แต่งตัวสวยๆ ยิ้มรับแขกก็พอ”

  • แพลนเนอร์เสกงานได้ทุกแบบไหม

“ผมเชื่อว่าแพลนเนอร์ทุกเจ้าในเมืองไทยสามารถจัดงานแต่งได้ทุกสไตล์ที่บ่าว – สาวต้องการ แต่ขณะเดียวกันทุกเจ้าก็มีคาแร็คเตอร์ของตัวเอง บ่าว – สาวยุคใหม่รู้จักทำการบ้านมาก่อนและค่อนข้างรู้จักตัวเอง จึงมักหาตัวอย่างงานที่ชอบมาเก็บไว้และค้นหาแพลนเนอร์ที่เคยทำผลงานในสไตล์ที่ชอบหรือเทสต์ที่ใกล้เคียงกัน เพียงแต่สิ่งที่จะประกอบการตัดสินใจไม่ได้จบแค่เรื่องตกแต่ง แต่เป็นเรื่องบริการที่ต่างกันไปในแต่ละเจ้า”

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรื่อง : ยุวพร
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : CHIC PLANNER WORLDWIDE SERVICE 

5 สิ่งที่ต้องทำก่อนเลือก สถานที่จัดงานแต่งงาน ในฝันของคุณ

ถ้าการมองหา สถานที่จัดงานแต่งงาน ของคุณเป็นเรื่องที่ยากเย็นไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหนก่อนดี ไหนจะเรื่องจำนวนแขกที่มางานและค่าใช้จ่ายต่างๆ อีก เกิดมาก็ไม่เคยแต่งงานซะด้วยแล้วจะทำอย่างไรดีนะ? หากคุณเกิดคำถามเหล่านี้อยู่ จงคลายกังวลไปได้เลยค่ะ เพระวันนี้ แพรว wedding ขอมากระซิบบอกวิธีการเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานให้ตรงใจไร้ปัญหา เพียงคุณเช็กลิสต์ตามเราดังต่อไปนี้การเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานจะกลายเป็นเรื่องง่ายในทันที ไปดูกัน

สถานที่1. จัดลำดับความสำคัญ

อันดับแรกคิดธีมแล้วช่วยกันจดรายชื่อสถานที่ในดวงใจที่เข้ากับธีมพร้อมรายละเอียดในวันงานว่าอยากทำออกมาเป็นแบบไหน อยากให้มีอะไรบ้าง สิ่งสำคัญของงานคืออะไร จัดลำดับความสำคัญให้เรียบร้อย เป็นการมองภาพรวมแบบกว้างๆ ยังไม่เจาะลึกลงรายละเอียดในสถานที่นะคะ แล้วค่อยช่วยกันลงคะแนนในแต่ละที่เพื่อนเป็นการตัดตัวเลือกให้เหลือน้อยลงจะได้เลือกง่ายขึ้นด้วยค่ะ

2. ลิสต์คำถาม

เช่น สถานที่นั้นสามารถจอดรถได้กี่คัน การเดินทางไปสะดวกหรือไม่ ทางสถานที่มีกฎระเบียบหรือข้อจำกัดอะไรบ้าง ทางสถานที่จะมีบริการอะไรให้บ้าง ราคาค่าใช้จ่ายทั้งหมดกี่บาท เป็นต้น เมื่อลิสต์คำถามครบถ้วนแล้วให้คุณหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรไปถามในแต่ละแห่งที่ได้ปักหมุดไว้ได้เลย

3. ทำตารางเปรียบเทียบ

สร้างตารางเปรียบเทียบง่ายๆ โดยนำคำถามจากข้างต้นมาใส่ในตารางแล้วนำข้อมูลที่ได้จากการสอบถามมาใส่เพื่อทำการเปรียบเทียบว่าที่ไหนจะคุ้มค่าและสะดวกสบายมากที่สุด ตารางเปรียบเทียบจะช่วยให้คุณมั่นใจว่าได้ถามคำถามที่จำเป็นทั้งหมดในแต่ละสถานที่นั้นหรือยัง และจัดเรียงตามความแตกต่างให้เห็นได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญอย่าลืมใส่งบประมาณค่าบริการที่นอกเหนือจากค่าสถานที่ด้วยนะคะ

4. ปรึกษาออแกไนซ์หรือเวดดิ้งแพลนเนอร์

กรณีที่คุณจ้างทีมออแกไนซ์หรือเวดดิ้งแพลนเนอร์แนะนำให้ปรึกษาโดยตรง เพราะทางออแกไนซ์หรือแพลนเนอร์คือผู้ที่มีประสบกาณ์การจัดงานแต่งงานมานับครั้งไม่ถ้วน ย่อมรู้จักสถานที่ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานแต่งงานมากมาย โดยคุณสามารถเสนอราคาวางงบประมาณเรื่องสถานที่แล้วให้พวกเขาแนะนำรายชื่อสถานที่ โปรโมชั่นต่างๆ ที่จะเพียงพอต่องบประมาณของคุณได้

5. เชื่อมั่นในการตัดสินใจของตนเอง

บ่าวสาวต้องถามตัวเองว่าจากการวิเคราะห์มาทั้งหมดคุณมีตัวเลือกที่ดีอย่างน้อย 3-5 ตัวเลือก อยู่ในรายการของคุณหรือไม่ ให้คุณพยายามชั่งน้ำหนักจากตัวเลือกเหล่านี้ให้ดีก่อนตัดสินใจ สามารถเลือกได้จากการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ที่สำคัญจงเชื่อมั่นในการตัดสินใจของคุณว่าสถานที่นั้นเหมาะสมที่จะทำให้ครอบครัว เพื่อนสนิท และผู้ร่วมงานทุกคนสนุกสนานกับการเฉลิมฉลองความรักให้แก่คุณทั้งคู่นั่นเอง

และถ้าหากบ่าวสาวได้สถานที่จัดงานแต่งงานในฝันแล้ว ก่อนจองสถานที่อย่าลืมเช็ก 15 คำถามต้องได้คำตอบก่อนเซ็นต์สัญญาจองสถานที่จัดงานแต่งงาน ด้วยนะคะ รับรองว่างานแต่งในฝันจะออกมาสวยงามไม่มีสะดุดุแน่นอน

cr : marthastewartweddings.com, paradiseweddingsworldwide.com

Serealscape สถานที่แต่งงานจัดโปรสุดคุ้มที่งาน “SEREAL&NCC OPEN HOUSE 2019”

เวลาแห่งความสุขครั้งสำคัญที่สุดของคุณและคนรักได้เริ่มขึ้นแล้ว ซีเรียลสเคป (Serealscape) สถานที่แต่งงาน แห่งใหม่บนถนนราชพฤกษ์ – ตลิ่งชัน ที่โดดเด่นด้วยสไตล์เฉพาะตัวกับการตกแต่งพื้นที่ในแต่ละส่วนให้มีบรรยากาศเสมือนหนังโรแมนติคสุดคลาสสิค พร้อมเปิดบ้านต้อนรับคู่บ่าวสาวแล้ว โดยงานนี้ซีเรียลสเคปได้ร่วมกับ Ncc Catering ( เอ็นซีซีแคเทอริ่ง) ออร์แกไนซ์และแคเทอริ่งระดับมืออาชีพที่ให้บริการจัดเลี้ยงและจัดงานแต่งงานมาจำลองการจัดงานแต่งงานในบรรยากาศเสมือนจริง ณ สถานที่จริงๆ ให้คู่รักได้มาสัมผัส อีกทั้งยังมอบแพ็กเกจงานแต่งสุดคุ้ม!! พร้อมส่วนลดพิเศษกว่า 60,000 บาทให้แก่คู่บ่าวสาวอีกด้วย โดยงานจะมีในวันเสาร์ที่ 20 และวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 12.00 – 20.00 น.

นอกจากนี้ภายในงานว่าที่บ่าวสาวยังจะได้พบกับการออกร้านพร้อมโปรโมชั่นดีๆ จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานวิวาห์ อาทิ ชุดเจ้าสาว, สูทเจ้าบ่าว, ร้านเครื่องประดับ, ช่างภาพงานแต่งมืออาชีพ, บริการด้านสปาและความงาม, การ์ดและของชำร่วยที่พร้อมให้บริการและให้คำปรึกษาแบบครบจบในที่เดียว

ว่าที่บ่าวสาวที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานเพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลย ที่สำคัญงานนี้เข้าร่วมงานฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายนะ

https://forms.gle/5MCokXvjLnGewP8x7

ทรงผมเจ้าสาว สำหรับ สาวหน้าเหลี่ยม ไม่เซล์ฟกราม ช่วยเชฟรูปหน้าให้สวยละมุน

สาวรูปหน้าเหลี่ยมคลิกด่วนเลยค่ะ เรามาบอก ทรงผมเจ้าสาว ที่จะช่วยเชฟให้รูปหน้าสาวหน้าเหลี่ยมดูมนขึ้น ไม่ต้องกังวลกับโหนกแก้มหรือกรามอีกต่อไป!

หลังจากที่สาวหน้ากลมได้ทราบกันไปแล้วว่าทรงผมเจ้าสาวแบบไหนที่ช่วยให้หน้าเราดูยาวขึ้น ก็มาถึงตาของว่าที่เจ้าสาวรูปหน้าเหลี่ยมกันละ! เรารู้นะว่าปัญหาของสาวหน้าเหลี่ยมคือความรู้สึกว่าโหนกแก้มเราแหลมไป กรามเราใหญ่ไปเหมือนหน้าผู้ชาย T^T เวลาจะทำผมทีก็ต้องพยายามเอาปอยผมมาปิดกรอบหน้า ทำให้ยิ่งดูหน้าหมองหมดราศีกันไปใหญ่ พอจะหาทรงผมเจ้าสาวที่ใช่ก็ลำบากอีก แต่นี่จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เพราะเรามาบอกคุณแล้วว่า ทรงผมเจ้าสาว ที่จะช่วยพรางสายตาให้ใบหน้าคุณดูละมุนนี ไม่แข็งกระด้างเหมือนผู้ชาย จะต้องทำยังไง รวมทั้งทรงผมที่คุณควรหลีกเลี่ยงเพราะจะยิ่งทำให้หน้าเราดูเหลี่ยมยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ! 

DO’s: รวบมวยต่ำหลวมๆ ปล่อยผมด้านหน้าประมาณคาง

การเกล้ามวยต่ำจะทำให้เมื่อมองเจ้าสาวจากด้านหน้า เราจะสามารถเห็นมวยผมได้ผ่านคอของเจ้าสาว ช่วยดึงความสนใจออกจากส่วนกราม ผมด้านหน้าที่คลอเคลียอยู่บริเวณกรอบหน้ายังช่วยเหลาให้ใบหน้าเราดูมีเชฟโค้งมนมากขึ้นค่ะ

ทรงผมเจ้าสาว หน้าเหลี่ยม

เจ้าสาวหน้ากลม เลิกเครียด! เรามาบอก ผมเจ้าสาว ที่เหมาะกับคุณแล้ว!

ว่าที่เจ้าสาวหน้ากลมมีกรี๊ด เรารวบรวม ผมเจ้าสาว ที่เหมาะกับเจ้าสาวไม่เซล์ฟแก้ม ไม่เซล์ฟเนื้อใต้คาง มาดูกันว่าทรงผมแบบไหนช่วยปรับให้หน้าเราเรียวเว่อร์!

สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่มีรูปหน้าค่อนข้างกลม เรารู้ว่าการหา ทรงผมเจ้าสาว ที่ใช่สำหรับคุณดูเหมือนเป็นเรื่องยากใช่มั้ยคะ (แต่อันที่จริงแล้วเราชอบสาวหน้ากลมนะ เราว่าช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย!) แต่ถ้าคุณว่าที่เจ้าสาวรู้เคล็ดลับว่าทรงผมสไตล์ไหนที่จะช่วยพรางใบหน้าให้ดูเรียวขึ้น แค่นี้คุณก็ไม่ต้องเครียดกับการหาทรงผมเจ้าสาวที่ใช่อีกต่อไป มาดูกันเลยค่ะว่าทรงผมเจ้าสาวทรงไหนที่ สาวหน้ากลม ควรทำ และทรงไหนที่ควรหลีกหนีให้ไกลเพราะจะทำให้หน้ายิ่งดูกลมค่ะ!

Do’s: ผมปาดแสกข้าง

ผมทรงนี้ช่วยเชฟรูปหน้าของเราให้ดูเรียวขึ้นโดยช่วยดึงจุดสนใจออกจากแก้มของเราค่ะ

ทรงผมเจ้าสาว หน้ากลม

กินคลีน และ ดีท็อกซ์ วิธี ลดน้ำหนัก สุดฮิต ก่อนแต่งงานของเจ้าสาว เวิร์คจริงหรือ?

สองวิธีไดเอ็ทสุดฮิตของเจ้าสาวเพื่อ ลดน้ำหนัก ให้ผอมเพรียว โดยการกินคลีนนั้นมีนิยามที่แตกต่างกันไปแล้วแต่สูตรการไดเอ็ทเพื่อลดน้ำหนักที่ตอนนี้มีหลากหลายสูตร แต่หลักๆแล้วคือการงดอาการแปรรูปทุกชนิด รวมทั้งคาร์โบไฮเดรตแบบแปรรูปอย่างพาสต้าหรือก๋วยเตี๋ยว งดหรือลดการใส่เครื่องปรุงทุกชนิดในอาหารโดยเฉพาะน้ำตาลและเกลือ เน้นการทานเนื้อสัตว์ไร้มันอย่างไก่หรือปลา ผักและผลไม้

ส่วนการดีท็อกซ์ก็มีหลากหลายสูตรจากหลากหลายสำนักเช่นเดียวกัน บ้างก็ให้ทานน้ำผักผลไม้สกัดเย็น บ้างก็แนะนำแบบปั่น บ้างก็ให้ทานเว้นมื้ออาหาร ใครสายฮาร์ทคอร์หน่อยก็อาจจะทานแทนอาหารหลักไปเลยหลายวันติดๆกัน เชื่อว่าเพื่อเป็นการล้างสารพิษออกจากร่างกายช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและน้ำหนักลด

ทว่าที่จริงแล้วนั้นวิธีการไดเอ็ทเหล่านี้ได้ผลมากน้อยแค่ไหน? และร่างกายของเราต้องการการไดเอ็ทเหล่านี้เพื่อลดน้ำหนักหรือเปล่า? จะมีผลกระทบอะไรกับร่างกายในระยะยาวไหม? และถ้าเราสามารถทำได้ ต้องกินยังไงให้ดีกับร่างกายที่สุด มาฟังคำตอบกัน

ลดน้ำหนัก

การตัดคาร์โบไฮเดรตออกโดยสิ้นเชิงไม่ดีนะ!

Sian Porter นักโภชนาการและผู้ให้คำปรีกษาด้านอาหารจากแอล เอ ไม่ค่อยเห็นด้วยกับสูตรการกินคลีนที่แนะนำให้ตัดแป้งออกจากอาหารโดยสิ้นเชิง เพราะแหล่งพลังงานหลักของร่างกายมาจากแป้ง การตัดแป้งออกทั้งหมดจะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายรวน อาจจะทำให้เรารู้สึกปวดหัว อ่อนเพลีย ท้องผูก และในระยะยาวมีผลกับปริมาณคอเลสโตรอลในเลือดของเราได้ ที่สำคัญกว่านั้นสำหรับว่าที่เจ้าสาว คือการตัดแป้งออกนั้นทำให้ผิวของคุณเหี่ยวเร็วขึ้นได้นะคะ! เพราะฉะนั้นถ้าให้แนะนำ ทานแป้งที่มีคุณภาพ อย่าง ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีตชนิดน้ำตาลน้อย หรือพาสต้า เส้นหมี่ ที่ให้พลังงานน้อยดีกว่านะ

ไขมันก็ใช่ว่าจะไม่ดีไปซะหมดนะ

อีกหลายสูตรการกินคลีนอีกเช่นกันที่แนะนำให้เราไม่ทานอาหารใดๆที่มีไขมันเลย ทว่าไขมันบางประเภทจำเป็นต่อร่างกายของเรา และยังจำเป็นต่อการทำงานของสมองเราด้วยนะคะ เลือกทานอาหารที่มีไขมันชนิดดี อย่าง ปลาแซลมอน ทูน่า อะโวคาโด ไข่แดง น้ำมันมะพร้าว และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์ที่ไม่ดีต่อร่างกาย อย่างของทอดทั้งหลายค่ะ

ลดน้ำหนัก

การหมกหมุ่นกับการกินคลีนมากเกินไปไม่ดีต่อสุขภาพจิต

Rebecca Reynolds  อีกหนึ่งนักโภชนาการชาวอเมริกัน กล่าวว่า การหมกมุ่นกับการทานคลีนมากเกินไปจนกลายเป็นอาการทางจิตนั้นมีอยู่จริง ทางจิตเวชเรียกว่าโรค Orthorexia ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับอะนอแร็กเซียและบูลีเมียที่เหล่านางแบบชอบเป็นกันนั่นแหละ เพราะฉะนั้นวิธีการป้องกันคืออย่าซีเรียสกับการลดน้ำหนักมากเกินไป อย่าลืมว่าทุกอย่างตึงเกินไปก็ไม่ดี อยากทานอะไรตามใจปากบ้างก็ทานเถอะ แต่อาจจะทานน้อยลงกว่าที่เคย แล้วค่อยๆปรับตัวไปให้สมดุลระหว่างการควบคุมน้ำหนัก และการได้ทานในสิ่งที่เราชอบบ้าง ดีกว่าค่ะ

ร่างกายต้องการ การดีท็อกซ์ จริงหรือ?

นักโภชนาการ Fiona Tuck กล่าวว่า การดีท็อกซ์ในลักษณะนี้อาจจะกลายเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะที่จริงแล้วร่างกายมีระบบการขับของเสียตามธรรมชาติอยู่แล้วจากการทำงานของตับ ไต ลำไส้ และปอด การดีท็อกซ์อาจจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นจริงแต่อาจจะเป็นผลจากการลดน้ำตาลหรือคาเฟอีนที่บางคนทานเป็นประจำมากกว่า และผลที่ได้ก็ชั่วคราว ในทางตรงกันข้ามการทานแต่น้ำผักผลไม้ติดต่อกันหลายวันโดยไม่ทานอาหารเลยนั้นกลับจะเสี่ยงให้เราเป็นโรคขาดสารอาหาร อ่อนเพลีย เป็นลม และท้องผูกได้

แล้วจะต้องทานยังไงให้ถูกต้องละ?

ทุกอย่างควรเป็นไปในทางสายกลางค่ะ อย่าลืมที่คุณครูเคยสอนสมัยประถมละ! มื้ออาหารที่ดี คือมื้ออาหารที่มีครบทั้ง 5 หมู่ และอยู่ในสัดส่วนที่สมดุล (ต้องทานอะไรยังไงบ้าง? คลิกอ่านค่ะ!) หากต้องการลดน้ำหนักก็ควรลดการกินคาร์โบไฮเดรต (แต่อย่าถึงกับตัดออกหมด) อาหารแปรรูป น้ำตาล และแอลกอฮอล์ แต่ถ้าอยากกินของที่ชอบบ้าง ก็สามารถกินได้บ้างแต่น้อยลง อย่าลืมออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อในการเผาผลาญไขมันที่ดีขึ้นควบคู่กันไปด้วยนะคะ

ลดน้ำหนัก

credit story: spectator.co.uk, abc.net.au, huffingtonpost.com.au, livestrong.com, cnn.com
credit photo: All About Juicing, Cooking Classy, Cafe Delites

อัพเดทแฟชั่นชุดแต่งงาน 4 แบรนด์ดัง 4 สไตล์ของเจ้าสาวคนดังที่น่าใส่ตามในปีนี้

ชุดแต่งงาน เลือกยากพอๆ กับธีมงานและสถานที่เลยใช่ไหมคะ เอาเป็นว่า ว่าที่เจ้าสาวคนไหนยังเลือกชุดแต่งงานไม่ได้ แพรว wedding มี 4 ชุดแต่งงานของเจ้าสาวคนดัง พร้อมอัพเดทชุดแต่งงานคอลเล็กชั่นล่าสุดจาก 4 ชุดแต่งงานแบรนด์ดังมาฝากด้วย จะแต่งปีนี้หรือปีหน้าก็สวยไม่มีเอ๊าท์จ้า

Armani Privé

ภาพ – Credit John & Joseph Photography Inc.

หากคุณกำลังมองหาชุดแต่งงานดีไซน์คลาสสิค เรียบง่าย แต่ดูสวยหรู อย่างเช่นสไตล์ของ แคทเธอรีน ชวาร์เซเน็กเกอร์ ชุดนี้เป็นฝีมือการออกแบบของแบรนด์ Armani Privé กับชุดแต่งงานสไตล์ bustier กับรูปแบบชุดแต่งงานทรงตรงที่มีโครงสร้างเหมือนชุดชั้นในด้วยเนคไลน์ทรงหัวใจที่ด้านหน้าพร้อมคอร์เซตที่ด้านหลัง โดดเด่นด้วยกระโปรงสไตล์ครีไนโลน์ (crinoline) ด้วยการเสริมชายผ้าลูกไม้ลากยาวไปที่ด้านหลัง พร้อมเวลผ้าทูลปักลายลูกไม้ที่ มาเรีย ชไรเวอร์ แม่ของเธอที่ใส่ในวันแต่งงาน และคอมพลีตลุคนี้ด้วยรองเท้าส้นสูงผ้าซาตินสีขาวจากแบรนด์ Armani Privé เช่นเดียวกัน

อัพเดทแฟชั่นชุดแต่งงาน 4 แบรนด์ดัง 4 สไตล์ของเจ้าสาวคนดังที่น่าใส่ตามในปีนี้ >>> คลิกเลย <<<

เบื้องหลังชุดแต่งงานไทยสไตล์กี่เพ้าของ “สายป่าน อภิญญา” ดีไซน์ร่วมสมัยไม่ธรรมดา

เข้าพิธีวิวาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับนางเอกสุดแนว สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข และวุฒิ-นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์ โดยพิธีแต่งงานจัดขึ้นที่ วิลล่า เดอ บัว ภายใต้บรรยากาศแบบเรียบง่ายแต่อบอุ่นด้วยบรรดาของญาติมิตรและเพื่อนสนิทที่มาร่วมแสดงความยินดี โดยเจ้าสาวคนสวยโดดเด่นใน ชุดแต่งงานไทย ที่ดูเป็นสไตล์ของเธอสุดๆ

ภาพจากไอจี @squid_photo

ชุดแต่งงานไทย ของสายป่าน อภิญญา เป็นฝีมือการออกแบบและตัดเย็บของร้าน Vanus Couture โดยคุณสรร สุดเกตุ เป็นผู้ออกแบบชุดนี้ให้กับเธอด้วยตัวเอง โดยคุณสรรได้เล่าถึงที่มาของชุดแต่งงานเก๋ๆ ให้แพรว wedding ฟังว่า “ทางเราได้รับโจทย์จากน้องสายป่านมาว่าตัวงานไม่ได้เป็นงานไทยจ๋า แต่เป็นงานยกน้ำชา ธีมงานเป็นสีแดง-ทอง แต่ด้วยความที่คุณแม่ของน้องชอบความเป็นไทยและอยากเห็นลูกสาวใส่ชุดไทยในวันแต่งงาน เราก็เลยดีไซน์ให้ชุดแต่งงานออกมาในรูปแบบร่วมสมัย โดยจับความเป็นไทยและจีนมาไว้ด้วยกัน”

“ตัวชุดเป็นรูปแบบร่วมสมัยด้านบนดีไซน์เป็นคอจีน ส่วนตัวกระโปรงเป็นแบบหางปลามีชายลากยาว เพิ่มความพิเศษด้วยการเพิ่มตัวสไบด้านหลังที่สามารถถอดได้เพื่อให้กลายเป็นชุดกี่เพ้าในช่วงยกน้ำชา ตัวชุดแทบจะไม่มีการปักลวดลายใดๆ ยกเว้นแค่เฉพาะบริเวณหน้านางที่ตัวกระโปรงเท่านั้นเพื่อให้เข้ากับสไตล์ของเจ้าสาวที่ไม่ใช่สาวหวาน ตัวชุดเป็นสีดอกจำปี ซึ่งเป็นสีมงคลหมายถึงความร่ำรวยและเงินทอง ส่วนเครื่องประดับทางเราก็ออกแบบเหมาะสมและเข้ากับชุดที่ดีไซน์ไว้และให้ดูมีความร่วมสมัยไปทางเดียวกับชุดด้วย ”

“ชุดของเจ้าสาวและเจ้าบ่าวตัดเย็บจากผ้าไหมไทยทั้งหมด เป็นผ้าไหมปักธงชัยจากโคราช ชุดเจ้าบ่าวเป็นสูทผ้าไหมสีครีมทองเพื่อให้เข้ากับธีมงาน เพิ่มความพิเศษด้วยพินที่มีกลิ่นหอมของเทียนอบ”

ภาพจากไอจี @squid_photo
ภาพจากไอจี @squid_photo

ต่างหูจากแบรนด์ SARRAN

 

ดูชุดแต่งงานร้าน Vanus Couture เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!!

7 เรื่องสำคัญที่บ่าวสาวต้องทำก่อนวันแต่งงาน 1 สัปดาห์

ยิ่งใกล้ วันแต่งงาน เข้ามามากเท่าไหร่ บ่าวสาวก็จะนอยด์มากขึ้น กลัวลืมทำนั่น กลัวลืมทำนี่ แต่ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว เพราะแพรว wedding ลิสต์มาให้แล้วตอนนี้ แค่คุณตั้งสติ เตรียมการพร้อมเราไปทีละข้อ รับรองว่าวันแต่งจริงไม่มีพลาด

ลิสต์รายการของต้องใช้วันจริงทุกอย่างและเตรียมให้ครบ

จริงอยู่ที่อีกตั้งหนึ่งอาทิตย์กว่าที่จะถึงวันแต่งจริงๆ แต่เพราะเราบอกคุณแล้วไงคะว่า ให้เตรียมตัวล่วงหน้า 1 อาทิตย์เพราะถ้าขาดเหลือะไรคุณยังมีเวลาวิ่งหาของมาได้ทันการณ์ ซึ่งของทั้งหลายนับหมดตั้งแต่ชุดชั้นใน ถุงน่อง ถุงเท้า เครื่องประดับ อุปกรณ์เสริมทั้งหลาย (ก็ประเภทซิลิโคน กางเกงในเสริมก้น ไปถึงที่เสริมความสูงในรองเท้า) นอกจากนี้ยังมีที่เช็ดเครื่องสำอาง ที่ล้างหน้า แม้แต่โพยกล่าวคำขอบคุณแขกในงาน โพยเผยใจให้ซึ้งในช่วงกล่าวขอบคุณแขก ของขวัญจะเซอร์ไพร้ส์ให้กัน ฯลฯ

อย่าลืมพ่นพื้นรองเท้าด้วย

อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ รองเท้าใหม่ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมักจะมีความลื่นที่พื้นหลังของรองเท้า ซึ่งถ้าคุณไม่ขูดหรือหากระดาษทรายมาถูๆ ให้พื้นรองเท้ามีความหยาบสักหน่อย รับรองว่าเปอร์เซ็นต์การสไลด์ตัวลื่นล้มมีมากแน่นอน ยิ่งถ้าเจอพื้นโรงแรมขัดมันหรือเป็นพื้นหินอ่อนเงาวับด้วยแล้วละก็ เตรียมตัวได้เลย แต่ถ้าคุณไม่กล้าจะเอากระดาษทรายขัดละก็ อาจใช้วิธีธรรมชาติด้วยใส่รองเท้าคู่นั้นแล้วเดินที่พื้นคอนกรีตหรือพื้นที่ขรุขระเพื่อให้พื้นเกิดความสากแบบนั้นก็ช่วยได้

เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน

เมื่อเราพูดว่า “ฉุกเฉิน” เราไม่ได้หมายถึงเครื่องกระตุ้นหัวใจหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์แต่อย่างใด แต่เป็นตัวช่วยแบบที่เราเคยบอกไปแล้วในบทความ ‘20 สิ่งของต้องมีกันเหตุฉุกเฉินในวันแต่งงาน’ ซึ่งขอบอกว่า อย่าได้ลืมเด็ดขาด เพราะมีไว้ดีกว่าขาด

คอนเฟิร์มงานครั้งสุดท้ายกับทีมงาน

อย่ารอให้ถึงคืนวันสุดท้ายก่อนถึงวันงานแต่งจริงแล้วจึงนัดแนะผู้เกี่ยวข้องทุกคนมารวมตัวและคอนเฟิร์มหน้าที่ต่างๆ เด็ดขาด เพราะถ้ามีอะไรฉุกเฉินขึ้นมา คุณจะแก้ไขไม่ทัน แพรว wedding ขอแนะนำให้คุณแบ่งการนัดหมายคุยสรุปงานออกเป็นกลุ่มๆ เช่น กลุ่มตกแต่งสถานที่ ซึ่งอาจเป็นเวดดิ้งแพลนเนอร์ที่จ้างมาเป็นกรณีพิเศษ หรือทีมตกแต่งของโรงแรม เพื่อย้ำเวลาการเริ่มงานและรายละเอียดทั้งหมด กลุ่มต่อมาคือกลุ่มเพื่อนบ่าวสาวของคุณ ถือเป็นการรีเช็คไปตัวว่าเสื้อผ้าพร้อมและรู้งานกันทุกคนแล้วนะ รวมถึงร้านชุดแต่งงานของคุณที่จะต้องนัดหมายให้แน่นอนอีกครั้งถึงวันเวลาในการส่งชุดมาให้คุณถึงที่โรงแรมรวมถึงช่างแต่งหน้าทำผมของคุณ นอกจากนี้ยังต้องไม่ลืมสรุปบทบาทหน้าที่ของทุกคนในครอบครัวอีกครั้งเพื่อไม่ให้เกิดอาการต้องทำอะไร ยังไง ในวันงานให้วุ่นวาย

เตรียมพร้อมสารพัดซอง

จะมีค่าใช้จ่ายบางอย่างที่คุณต้องจ่ายในวันแต่งงาน ตั้งแต่พิธีเช้าอย่างการแห่ขันหมากที่คุณต้องเตรียมซองผ่านประตูเงินประตูทอง ซองค่าน้ำใจให้เถ้าแก่ รวมไปถึงซองใส่เงินค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายหน้างานอย่างค่าพานขันหมากส่วนที่เหลือ ค่ารถตู้รับส่งแขก รวมถึงค่าใช้จ่ายหลังเลิกงานที่ต้องเคลียร์ให้จบในคืนวันงาน คุณสามารถเตรียมไว้เป็นสัดส่วนได้เลยจะได้ไม่ต้องวุ่นวายวิ่งไปกดเอทีเอ็มให้เสียเวลา

สั่งอาหารบ่าวสาวในช่วงเตรียมตัว

อย่าได้คิดเชียวนะคะว่าการกินในวันแต่งงานจะทำให้พุงออกและใส่เสื้อผ้าไม่สวย เพราะชุดแต่งงานของคุณทำเผื่อการทานอาหารไว้บ้างแล้วอย่างแน่นอน แหม…ดีไซเนอร์ของคุณไม่โหดขนาดที่ไม่ให้คุณกินข้าวในวันสำคัญของชีวิตหรอกนะคะ ฉะนั้นสั่งไปเลยค่ะ อาหารสำหรับกินรองท้องในวันงาน และเมื่อสั่งมาแล้วจงกินค่ะ อย่าได้วางไว้สวยๆ เป็นเพียงพร้อพถ่ายรูปเด็ดขาด เพราะคุณจะเป็นลมได้ง่ายๆ ถ้าไม่มีอะไรตกถึงท้อง

เข้าสปาผ่อนคลายในแบบที่ชอบ

เรื่องสุดท้ายที่บ่าวสาวหลายคู่มักหลงลืม คือการปรนเปรอความสบายและผ่อนคลายให้กับตัวเอง เพราะมัวแต่ไปโฟกัสอยู่แต่กับการเตรียมงานจนหัวปั่น ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นสิ่งพึงทำมากถึงมากที่สุด เพราะช่วงเวลาก่อนถึงวันงานควรเป็นช่วงที่คุณรู้สึกสบายใจและพร้อมจะเข้าสู่ช่วงเวลาดีๆ ของชีวิตในอีก 7 วันข้างหน้า ดังนั้นบ่าวสาวต้องมีลืมเติมพลังให้กับตัวเองได้ผ่อนคลายแบบสุดๆ ก่อนจะไปเจอศึกหนักที่ต้องยืนรับแขกขาแข็งและฉีกยิ้มกว้างๆ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

ภาพ : glamour.com

ชุดงานหมั้น ชุดแต่งงานแบบสั้น อีกหนึ่งไอเดียชุดเจ้าสาวให้ลุคเบาๆ แต่สวยมาก

สำหรับว่าที่เจ้าสาวบางคนชุดแต่งงานในพิธีเช้าอาจจะเลือกใส่เป็นชุดเดรสสไตล์ชุดแต่งงานเพราะด้วยพิธีการที่อาจจะไม่ได้ไทยจ๋ามากขนาดนั้น หรือบางคนไม่อินไม่มั่นกับลุคชุดไทยก็เลยต้องจัดชุดที่กลางๆ ไว้ก่อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากจะใส่ชุดแต่งงานชายกระโปรงลากยาวในช่วงเช้าเพราะดูเป็นทางการซะเหลือเกิน แพรว wedding เลยมี 4 สไตล์ ชุดงานหมั้น แบบสั้นมาเสนอเป็นทางเลือกให้กับสาวๆ พร้อมเทคนิคการแมตช์ว่า “หุ่นแบบฉันหน่ะ สั้นแบบไหนถึงจะรอด”

 

ชุดสั้นสไตล์ Tea Length

ถ้าพูดกันตามตรง ชุดสั้นสไตล์นี้เป็นอีกหนึ่งชุดที่ว่าที่เจ้าสาวหลายคนชื่นชอบ และยังเป็นชุดที่ดูแตกต่างให้เจ้าสาวดูร่วมสมัยอยู่เสมอ ชุดสั้นสไตล์ Tea Length เหมาะกับเจ้าสาวที่มีความสูงปานกลางไปจนถึงเจ้าสาวตัวเล็ก ไม่เหมาะกับเจ้าสาวรูปร่างสูง ซึ่งชุดสไตล์ Tea Length นี้ก็สามารถใส่ดีเทลต่างๆ ได้หลากหลายแบบเพื่อให้ได้ลุคที่ดูเป็นเจ้าสาวสวยดูหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผ้าลูกไม้ไปจนถึงกระโปรงทูทู่ฟูฟ่องดูน่ารัก

ข้อดีของชุดสไตล์ Tea Length คือความสะดวกสบายช่วยให้เจ้าสาวเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว หากมีช่วงพิธีการที่ต้องลุกนั่งบ่อยๆ

ชุดงานหมั้น

ชุดสไตล์นี้เหมาะกับธีมงานวินเทจฟีลย้อนยุค งานแต่งงานที่เรียบง่ายไม่เป็นทางการมาก หรืองานแต่งงานขนาดเล็ก แม้กระทั้งงานแต่งในสวนที่ไม่ต้องลากกระโปรงยาวให้เสียหาย แถมถ้าเป็นบรรยากาศงานแบบเอ๊าท์ดอร์เจ้าสาวยังรู้สึกสบายไม่ร้อนในชุดสไตล์นี้อีกด้วย ที่สำคัญชุดสไตล์นี้ยังสามารถจับคู่กับทรงชุดแบบมีแขนหรือไม่มีแขนก็ได้อีกด้วย

 

ชุดสั้นสไตล์ Knee Length

ชุดสั้นเสมอเข่าเป็นสไตล์ชุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาชุดแต่งงานแบบสั้น และถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวที่กำลังมองหาชุดแต่งงานแบบสั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข้อจำกัดตรงที่ว่า เจ้าสาวที่จะใส่ชุดแต่งงานสั้นเสมอเข่าแล้วสวย จะต้องเป็นเจ้าสาวที่สูงพอสมควรและที่สำคัญต้องมีเรียวขาที่เรียบเนียนเรียวงาม

ชุดงานหมั้น

ชุดสั้นเสมอเข่าให้ลุคที่ดูเซ็กซี่ แต่ขณะเดียวกันก็ดูเป็นทางการไม่โป๊จนเกินงาม เหมาะกับการสวมในพิธีแต่งงานเล็กๆ ไม่เป็นทางการ มีแขกไม่เยอะมาก

ซึ่งแตกต่างจากชุดสั้นแบบมินิสเกิร์ต เพราะชุดสั้นเสมอเข่ามีความสุภาพมากกว่าและเหมาะสำหรับใส่ในพิธีแต่งงานมากกว่า เจ้าสาวอาจสวมชุดนี้ในช่วงพิธีการแต่อาจจะเพิ่มดีเทลของเสื้อคลุมหรือชายกระโปรงที่สามารถถอดออกได้เพื่อให้มีความสุภาพและเป็นทางการมากขึ้น หรือเจ้าสาวบางคนอาจจะเลือกชุดแต่งงานสไตล์นี้เป็นชุดแต่งงานชุดที่สองสำหรับใส่ในช่วงรับรองแขกหลังจากจบพิธีการก็ได้เช่นกัน

 

ชุดแต่งงานแบบสั้น

หากเจ้าสาวเลือกที่จะใส่ชุดแต่งงานแบบสั้น ต้องแน่ใจก่อนว่าธีมงานต้องไม่เป็นทางการ โดยอาจเป็นงานที่จัดเลี้ยงในครอบครัวและเพื่อนฝูง หรือถ้าเจ้าสาวและครอบครัวที่ไม่ยึดติดในรูปแบบประเพณีก็สามารถใส่ชุดแต่งงานแบบสั้นในธีมงานเลี้ยงสุดหรูก็ได้เหมือนกัน

ชุดงานหมั้น

ซึ่งจริงๆ แล้วชุดแต่งงานแบบสั้นไม่ได้แปลว่าจะไม่สุภาพเสมอไป เพราะชุดสไตล์นี้สามารถใส่ดีเทลความหรูหราเพื่อให้ดูเป็นลุคเจ้าสาวมากขึ้นได้ เช่น การตกแต่งชุดด้วยลูกปัด คริสตัล ดีเทลการปักที่ละเอียดอ่อน เพื่อช่วยให้ชุดดูงดงามเป็นทางการดูเป็นชุดแต่งงานมากขึ้น หรือหากอยากได้รูปแบบชุดที่เป็นทางการก็อาจเลือกการตัดเย็บด้วยผ้าลูกไม้ในช่วงบนหรือทั้งชุดไปเลยก็ได้

ซึ่งชุดแต่งงานแบบสั้นเจ้าสาวยังสามารถเสริมชายกระโปรงลากยาวแบบถอดได้เข้าไปก็ได้ ทำให้เจ้าสาวเหมือนได้ชุดแต่งงานสองชุดไปด้วยในตัว ซึ่งก็จะดูคล้ายกับชุดแต่งงานแบบหน้าสั้นหลังยาวนั่นเอง

ข้อดีอีกอย่างของชุดสั้นสไตล์ Knee Length คือเหมาะกับเจ้าสาวที่มีงบประมาณค่อนข้าจำกัด เพราะส่วนใหญ่ชุดแบบสั้นจะราคาถูกกว่าชุดแต่งงานแบบยาว แถมชุดแบบสั้นยังเป็นรูปแบบชุดที่สามารถหาได้ง่ายไม่ได้จำกัดอยู่ที่เฉพาะร้านชุดแต่งงานเท่านั้นอีกด้วย สาวๆ จึงสามารถหาชุดสวยๆ สไตล์นี้ได้ตามร้านเสื้อผ้าแฟชั่นหรือแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า ที่สำคัญยังเป็นชุดที่สามารถนำกลับมาใส่ได้อีกครั้งตามวาระพิเศษต่างๆ อีกด้วย

 

ชุดแต่งงานสไตล์หน้าสั้นหลังยาว

สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่รักพี่เสียดายน้องก็ต้องชุดแต่งงานแบบหน้าสั้นหลังยาวนี่แหละตอบโจทย์ที่สุด และยังเป็นรูปแบบชุดที่ดูเป็นทางการมากกว่าชุดแต่งงานสั้นแบบอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งระดับความต่างของกระโปรงด้านหน้าและด้านหลังสามารถปรับได้ตามความต้องการของเจ้าสาวเลย โดยอาจจะดูจากความชอบ ความเหมาะสม หรือรูปแบบของงานเป็นหลัก เช่น กระโปรงด้านหน้าอาจสั้นสุดในสไตล์มินิสเกิร์ตไปเลยก็ได้

ชุดงานหมั้น
ชุดแต่งงานจากร้าน Deep Love Wedding

ชุดแต่งงานสไตล์นี้อาจเหมาะกับงานแต่งริมทะเลหรืองานแต่งงานในสวน เพื่อช่วยให้เจ้าสาวเดินเหินได้อย่างสะดวก และโดยมากแล้วรูปทรงของชุดสไตล์หน้าสั้นหลังยาวจะเป็นชุดทรงบอลกาวน์, ทรงเอ-ไลน์ และทรงเอ็มไพร์, ทรงเมอร์เมด, ทรงทรัมเป็ต

ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

งานแต่งน้อยแต่มากท่ามกลางสวนดอกไม้ของ CEO นกแอร์ คุณวุฒิ & คุณบี แฟนสาวดีกรีทันตแพทย์หญิง

เมื่อเสาร์ที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา CEO คนใหม่ของนกแอร์ คุณวุฒิ – วุฒิภูมิ จุฬางกูร ได้ฤกษ์ดีจูงมือแฟนสาวดีกรีคุณหมอ คุณบี – ทันตแพทย์หญิง ลภัสรดา ธนพันธ์ เข้าสู่ประตูวิวาห์ ณ ห้องแอทธินี คริสตัล ฮอลล์ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ซูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง ในบรรยากาศธีม งานแต่งเรียบหรู

บรรยากาศงานแต่งงานเต็มไปด้วยความสดชื่นตั้งแต่ทางเข้างานด้วยอุโมงค์ดอกไม้สีสันสดใส ผนังสองด้านถมดอกไม้สีชมพูนานาพันธุ์ช่วยสร้างความสดชื่นให้แขกทันทีที่มาถึง พร้อมเพิ่มความหรูด้วยสายคริสตัลวิบวับที่ห้อยระย้ามาจากด้านบน

และเมื่อเดินพ้นอุโมงค์ออกมาแขกก็ได้เจอกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ยืนอยู่หน้าแบ็คดร็อปเรียบง่ายแต่ดูสวยหรูด้วยแผ่นกระจกที่สะท้อนเล่นกับแสงไฟล้อกับแสงแฟลช พร้อมสวนเล็กๆ ที่จัดตกแต่งไว้อย่างสวยงาม

ทางด้านเวทีภายในห้องบอลรูมก็โดดเด่นสวยงามกับบรรยากาศสไตล์สวนดอกไม้เช่นกัน

และเมื่อถึงเวลาเปิดตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็เล่นเอาแขกในงานถึงกับยิ้มกันไม่หุบ เพราะเจ้าบ่าวของเราคุกเข่าสวมแหวนให้กับเจ้าสาวอย่างโรแมนติกก่อนที่จะเดินควงคู่กันขึ้นบนเวที และค่ำคืนนี้ก็จบลงพร้อมกับเสียงเพลงเพราะของ เบล-สุพล ที่มาสร้างสีสันหวานๆ ให้กับปาร์ตี้ในงานให้อบอวลไปด้วยความรัก

ดูงานแต่งงานอื่นๆ เพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!!

เทรนด์ความงามเจ้าสาว 2019 เป็นเจ้าสาวปีนี้ต้องสวยแบบไหนมาส่องด่วน

อัพเดตทั้งเทรนด์งานแต่ง เทรนด์ชุดแต่งงานไปแล้ว แล้วจะไม่อัพเดต เทรนด์ความงามเจ้าสาว 2019 ไปได้ยังไง ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นคีย์หลักสำหรับการแต่งหน้าเจ้าสาวให้ดูเก๋ไก๋ทันสมัยแล้ว แก๊งเพื่อนเจ้าสาว หรือสาวๆ ที่ต้องไปออกงานทั้งหลายก็สามารถนำเทรนด์ที่เรานำมาฝากไปประยุกต์ใช้ได้เหมือนกันนะ ซึ่งแพรว wedding ขอบอกเลยว่า เทรนด์ปีนี้ไม่ธรรมดาที่สาวๆ แฟชั่นนิสต้าจะต้องเป็นปลื้ม รวมไปถึงสาวแบบเรียบง่ายก็ทำตามได้แบบไม่ต้องเขินด้วย

เทรนด์เมคอัพ 2019 เน้นความงามแบบธรรมชาติที่เจ้าสาวจะดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด เน้นขนตาเรียงตัวสวย ไอเท็มอย่าง ขนตาปลอม จึงถือเป็นสีสันในปีนี้ และยังเป็นตัวช่วยชั้นดีที่เมื่อเพิ่มลงไปช่วยทำให้ลุคโดยรวมของใบหน้าดูเต็มและสวยงามขึ้นทันที แมตช์กับดวงตาแบบเมทัลลิคนิดๆ พร้อมเรียวปากในเฉดสีที่เจ้าสาวชื่นชอบ ซึ่งเฉดสีลิปสติกในปีนี้เน้นความหนักแน่นของเนื้อสีอย่าง สีไวน์แดง หรือหากเป็นว่าที่เจ้าสาวสายหวานก็ต้องเฉดสีชมพูไปเลย

ส่วนทรงผมเจ้าสาวปีหน้าต้องเป็นทรงแบบ half-up-sweeps ที่ช่วยล็อคใบหน้าเจ้าสาวให้สวยได้รูป ดูมีความนุ่มนวล และดูเป็นธรรมชาติ สามารถทำได้กับงานแต่งงานทุกธีมไม่ว่าจะทางการ กึ่งทางการ หรืองานแต่งสบายๆ ไม่เป็นทางการเลยก็ยังได้ นอกจากนี้ยังเทรนด์อื่นๆ ที่สาวๆ ยังต้องอัพเดตกันอีกตามนี้เลย

ทรงผมสบายๆ ไม่ต้องเรียบเป๊ะ

ว่าที่เจ้าสาวสายชิลจะต้องหลงรักลุคนี้ เพราะเป็นทรงผมที่ไม่ต้องเกล้าหรือหวีติดหนังศีรษะให้เรียบเป๊ะ แต่เน้นเป็นมวยผมหลวมๆ ดูฟุ้งๆ ยุ่งนิดๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติ แต่ยุ่งในที่นี้ก็ไม่ได้ถึงขั้นว่ากระเซิงเหมือนนั่งวินมอเตอร์ไซค์มาเข้างานแต่งตัวเองนะจ๊ะ แต่ต้องยุ่งๆ ฟุ้งๆ แบบมีศิลปะ ซึ่งช่างทำผมมืออาชีพผู้มีประสบการณ์จะช่วยเนรมิตลุคนี้ให้กับคุณได้เอง โดยที่พวกเขาจะใช้เทคนิคขั้นเทพที่จะช่วยล็อคทรงผมฟุ้งๆ นี้ให้อยู่ทรงได้นาน

หรือจะเลือกปล่อยผมดัดลอนให้สวย หรือจะเป็นทรงเบี่ยงข้าง ก็ยังเป็นรูปแบบทรงผมที่จะได้รับความนิยมในปีนี้เช่นกัน

เฉดสีชมพูก็มาแรง

ตั้งเฉดสีเบอร์กันดีไปจนถึงแดงเบอร์รี่ เป็นเฉดสีที่เหมาะสำหรับการแต่งแต้มลงบนใบหน้า โดยเฉพาะจุดสำคัญอย่าง ริมฝีปาก ไม่ว่าจะเป็น ลิปสติกเฉดสีเฉดสีแดงทับทิม หรือเฉดสีชมพูต่างๆ สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่อยากได้ความหวานแบบสุดพลัง

นอกจากการเติมสีสันบนริมฝีปากแล้ว พวงแก้ม ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่สาวๆ ต้องให้ความสำคัญ อย่างเช่น บลีชออนในเฉดสีพั้นช์ หรือเฉดสีชมพูกุหลาบอ่อนๆ เป็นต้น

สีผมที่เป็นธรรมชาติ

ได้เป็นเจ้าสาวทั้งทีสาวๆ ก็อยากที่จะเติมความพิเศษเข้าไปในความงามของตัวเองในวันแต่งงานด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งความพิเศษอย่างหนึ่งที่สาวๆ หลายคนมักจะเลือกทำเพราะสามารถเปลี่ยนลุคของตัวเองได้ก็คือ การเปลี่ยนสีผม บางคนก็เปลี่ยนจากดำเป็นน้ำตาล หรือบ้างก็เปลี่ยนจากน้ำตาลเป็นทอง แต่เทรนด์ปีนี้สาวๆ ไม่ต้องคิดเปลี่ยนสีผมให้ปวดหัวค่ะ เพราะเขาเน้นสีผมที่เป็นธรรมชาติเพื่อคุณจะได้ดูเป็นตัวเองที่สุดในวันสำคัญ เพราะฉะนั้นหากคุณเป็นเจ้าสาวผมดำก็จงมั่นใจ ส่วนใครที่มีผมทำสีก็เพียงแค่เติมโคนให้เต็มในสีเดิมก็พอแล้ว

เน้นความกระจ่างใสของผิว

อย่างที่บอกว่าปีนี้เขาเน้นแบบใสๆ ธรรมชาติ เน้นความกระจ่างใสของใบหน้าให้ดูมีความชุ่มชื้น เพราะฉะนั้นว่าที่เจ้าสาวจึงไม่จำเป็นต้องจัดเต็มด้วยรองพื้นหรือแป้งฝุ่นอัดแข็ง แต่ต้องเน้นลุคเมคอัพแบบเผยผิว ประมาณว่าแต่งเยอะแต่ดูน้อย เพราะฉะนั้นการที่เจ้าสาวจะดูสวยได้ในลุคนี้ก็ต้องเริ่มต้นจากการมีผิวที่ดีก่อน

เครื่องหัวกลับมาอีกครั้ง

เทรนด์ทรงผมที่เน้นความเรียบง่ายแบบมวยหลวมหรือปล่อยตรงดัดลอนอาจจะไม่สาแก่ใจสาวๆ แฟชั่นนิสต้าสักเท่าไหร่ ดังนั้นเทรนด์เครื่องประดับศีรษะจึงหวนกลับมาช่วยพลิกความงามนี้ให้กับสาวๆ สายแฟชั่นทั้งหลาย โดยเน้นความหรูหราและระยิบระยับสไตล์เจ้าหญิง อย่างเช่น เทียร่า หรือเครื่องประดับที่ดูเรียบง่ายแต่ทันสมัยที่ให้กลิ่นอายสไตล์ยุค 90s เป็นต้น

หรือถ้าหากเจ้าสาวหรือเพื่อนเจ้าสาวอยากจะสวมมงกุฎดอกไม้ ก็ต้องมีขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยดอกไม้มากเป็นพิเศษ หรือจะเลือกเป็นเครื่องประดับอย่าง หมวกประดับเวลก็ดูเก๋ไก๋ไปอีกแบบดีเหมือนกันนะ

ดวงตาเฉดสีบรอนซ์

อายแชโดว์ในเฉดสีบรอนซ์ทั้งหลายเป็นไอเท็มที่สาวๆ จะต้องมีไว้ในปีนี้ โดยเฉพาะดวงตาในเฉดสีบรอนซ์น้ำตาลที่ช่วยสร้างมิติให้ดวงตาดูโดดเด่นได้แบบไม่มากเกินไป แต่สำหรับในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็จัดเต็มในลุคแบบเมทัลลิคกันไปเลย

น่ารักด้วยผมหน้าม้า

สาวๆ ที่กำลังมีผมหน้าม้าไม่ต้องเครียดอีกต่อไปว่าผมด้านหน้าจะยาวพอให้รวบขึ้นได้ในวันแต่งงานหรือไม่ เพราะเทรนด์ผมหน้ามาได้กลับมาเขย่าวงการเวดดิ้งอีกครั้ง แถมยังเป็นลุคที่สร้างความเก๋ไก๋ให้กับใบหน้าเจ้าสาวในวันแต่งงาน และดูเป็นตัวของตัวเองแตกต่างจากลุคเจ้าสาวทั่วๆ ไป และไม่ว่าจะผมสั้นหรือผมยาว ผมตรงหรือผมหยิก เกล้าผมหรือปล่อยผม เจ้าสาวก็สามารถแมตช์ผมหน้าม้าได้กับทุกลุคทุกทรงได้อย่างไม่น่าเบื่อเลย

ดวงตาสุดเฉี่ยว

ดวงตาแบบแคตอายเป็นอีกหนึ่งลุคที่สาวๆ ห้ามพลาด โดยมาครบทั้งแบบเส้นหนาและเส้นบาง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความมั่นใจและธีมงานแต่งงานของสาวๆ แต่ละคน ดวงตาที่ดูเฉี่ยวขึ้นนี้จะช่วยทำให้ลุคของเจ้าสาวดูเซ็กซี่ขึ้น เพราะฉะนั้นต้องเลือกแมตช์ลุคนี้กับลุคของชุดแต่งงานให้ดีๆ ด้วยนะ หากชุดแต่งงานที่เจ้าสาวเลือกเป็นทรงบอลกาวน์ลูกไม้เต็มตัวแบบเจ้าหญิงจ๋าล่ะก็ อาจจะต้องบายลุคนี้ในช่วงพิธีไปก่อนเนอะ

คิ้วเป๊ะได้รูป

คิ้ว คืออีกหนึ่งส่วนบนใบหน้าที่สาวๆ ให้ความสำคัญและใส่ใจเป็นพิเศษ ดูได้จากนวัตกรรมการสักคิ้วแบบต่างๆ ที่มีให้สาวๆ ได้เลือกกันแบบหลากหลาย เช่นเดียวกับเทรนด์เมคอัพในปีนี้ที่เน้น คิ้วเข้มสวยเป๊ะได้รูป รู้อย่างนี้สาวๆ ก็เตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่าจะแว็กซ์ให้ได้รูป หรือสักคิ้วแบบต่างๆ แบบถาวรให้เป๊ะไปเลย แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องศึกษาให้ดีๆ ว่าแบบไหนที่จะดีต่อเจ้าสาวมากที่สุดนะ

ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ข้อมูลและภาพ brides.com

10 สวนสาธารณะ ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งฟรี (แต่ต้องหาช่างภาพไปเองนะจ๊ะ)

ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งฟรี !! ก็มีเหรอ? บอกเลยว่า “มี” แถมสวยด้วย

จากรายชื่อสวนสาธารณะทั่วกรุงที่ แพรว wedding ยกหูโทรหา ได้ความมาว่า มีอยู่ 10 สวนที่ยินยอมพร้อมใจและเปิดโอกาสให้ว่าที่บ่าวสาวพาเพื่อนๆ ที่มีฝีมือในการถ่ายภาพ (ที่ไม่ได้ทำธุรกิจเวดดิ้งสตูดิโอ) เข้าไปใช้พื้นที่ ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งฟรี แบบไม่เสียเงินสักแดง แต่มีเงื่อนไขเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณทำตามไม่ยาก ลองไปดูกันนะคะว่า สวนไหนโดนใจ สวนใดใกล้บ้าน สวนไหนเข้าคอนเซ็ปต์ เลือกให้เหมาะ นัดคนถ่าย เตรียมตัวแต่งหน้าแล้วลั่นชัตเตอร์ได้เลย

 

1. สวนสราญรมย์

park03-10

แม้สวนสราญรมย์ หรือ พระราชอุทยานสราญรมย์ จะมีพื้นที่สวนขนาดไม่ใหญ่มาก แต่บอกเลยว่าไปสวนสราญรมย์แต่ความคุ้ม แต่นอกจากจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแล้ว คุณยังได้บรรยากาศย้อนยุคของสถานที่ใกล้เคียงอย่างตึกกระทรวงกลาโหม บริเวณปืนใหญ่ วัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวังอีกด้วย ทีนี้ในสวนยังมีสิ่งก่อนสร้างเป็นพร้อพสวยๆ ให้คุณได้สร้างเรื่องราวกันสองคนอีกเพียบ

ถ้าสนใจจะใช้ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ก็แค่ “เลือกวันถ่ายเหมาะๆ – เตรียมทีมงานให้พร้อม – ถ่ายสำเนาบัตรประชาชนไปด้วย (ใครก็ได้สักคนไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาว แต่ขอให้เป็นทีมงานในวันนั้น) – ออกเดินทาง – ไปถึงให้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเขียนคำร้องขอใช้พื้นที่ – ลั่นชัตเตอร์ได้เลย”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 0-2221-0195

2. อุทยานเบญจสิริ

park12-01

สวนสาธารณะใจกลางกรุงย่านไฮโซอย่างสุขุมวิท ที่ใครไปเดินห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรี่ยมต้องเคยผ่าน ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่ต้นไม้สรเขียวขจีตัดกับชุดสีขาวของเจ้าสาว แต่ยังมีประติมากรรมที่งดงามและเป็นชิ้นงานสำคัญของศิลปินระดับชาติที่ร่วมใจกันถวายเป็นการเทิดพระเกียรติฯ ตั้งประดับอยู่เป็นการถาวรถึง 12 ชิ้นงาน เลือกเอาได้เลยว่า อย่ากให้ชิ้นไหนเป็นส่วนหนึ่งในภาพแห่งความรักของคุณ

ถ้าสนใจจะใช้ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ก็แค่  “เลือกวันถ่ายเหมาะๆ เอาไว้ในใจ – ทำจดหมายส่งหรือถือไปยื่นที่สวนฯ ล่วงหน้า 7 วันก่อนวันถ่าย – เตรียมทีมงานให้พร้อม – เมื่อถึงวันถ่ายแค่ออกเดินทาง – ติดต่อเจ้าหน้าที่ยื่นจดหมายที่ผ่านการอนุญาตแล้ว  – ลั่นชัตเตอร์ได้เลย”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 0-2262-0810

3. สวนรถไฟ

park08-10

สวนรถไฟ หรือเรียกชื่อแบบทางการมากๆ ว่า สวนวชิรเบญจทัศ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีเนื้อที่กว่า 375 ไร่ ตั้งอยู่ย่านจตุจักร (ใกล้ๆ กับสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และสวนจตุจักร) ที่นี่ไม่ได้มีแค่ต้นไม้สีเขียวเท่านั้น แต่ว่าที่บ่าวสาวสามารถนำจักรยานมาประกอบฉากเลิฟๆ ได้ด้วย เพราะมีเลนจักรยานโดยเฉพาะ (ถ้าไม่มีก็มีให้เช่า คันละ 20-6- บาทเอง) แถมยังมีอุทยานผีเสื้อและแมลงที่จัดภูมิทัศน์แบบธรรมชาติประกอบด้วยพรรณไม้ต่างๆ บ่อน้ำ ลำธาร น้ำตกเล็กๆ โอ๊ย…เรียกว่าจุดถ่ายภาพเพียบ

ถ้าสนใจจะใช้ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ก็แค่  “เลือกวันถ่ายเหมาะๆ เอาไว้ในใจ – ทำจดหมายเตรียมไว้ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนของบ่าวสาว (มีการ์ดแต่งงานตัวจริงมาได้ยิ่งดี) ระบุจำนวนทีมงานที่จะเข้ามาถ่ายภาพ – เมื่อถึงวันถ่ายนำสิ่งที่เตรียมมามอบให้เจ้าหน้าที่ – ลั่นชัตเตอร์ได้เลย”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 0-2537-9221 

4. สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

park20-03

เอาใจบ่าวสาวย่านลาดกระบังกันบ้างกับสวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่เน้นหนักไปที่ลานกิจกรรม น้ำพุ ศาลากลางน้ำ ให้บ่าวสาวได้เลือกเก็บภาพสวยๆ ในมุมกว้างๆ สำหับสวนแห่งนี้ น่าจะเหมาะกับการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของบ่าวสาวรักกีฬา เพราะคุณไม่ต้องขนพร้อพด้านสปอร์ตมาให้เมื่อย เพราะเขามีให้เพียบเป็นทุกเดิม บ่าวสาวจะชักภาพแบบกระโดดตัวลอยหรือวิ่งแข่งก็ไม่ว่ากัน แถมค่าใช้จ่ายยังไม่มี ดีเยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ

ถ้าสนใจจะใช้ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ก็แค่  “เลือกวันถ่ายเหมาะๆ–  เตรียมทีมงานให้พร้อม –  ออกเดินทาง  – ลั่นชัตเตอร์ได้เลย”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 0-2543-9793

5. สวนกีฬารามอินทรา

park09-10

บริเวณที่เรียกว่า “สวนภูเขา” ถือว่าเป็นไฮไลน์ของสวนกีฬารามอินทราที่บ่าวสาวไม่ควรพลาด เพราะที่สวนนี้จัดภูมิทัศน์สร้างสภาพแวดล้อมให้เป็นสวนป่าเขียวชอุ่มด้วยพืชพรรณ เกลี่ยเส้นทางเดินและวิ่งออกกำลังกาย เส้นทางจักรยาน ตัดผ่านเนินเขาที่แวดล้อมด้วยสวนป่า เพิ่มบรรยากาศธรรมชาติซึ่งมีรายละเอียดสะดุดตาเพิ่มความน่าสนใจให้กิจกรรมการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นเวลาเข้ามาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งเมื่อไหร่ ไม่ต้องห่วงว่าจะหลวงทาง แค่เดิมตามเส้นทางที่มีรับรองได้ครบทุกบรรยากาศ อยู่ที่ว่าคุณจะหอบชุดสวยหล่ออลังกันไหวไหม ซึ่งถ้าคำตอบคือไหว เตรียมได้ภาพพรีเวดดิ้งสวยๆ ไปเลย

ถ้าสนใจจะใช้ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ก็แค่  “เลือกวันถ่ายเหมาะๆ–  เตรียมทีมงานให้พร้อม –  ออกเดินทาง  -ไปถึงแค่เอาการ์ดแต่งงานและสำเนาบัตรประชาชนของทั้งคู่ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ – ลั่นชัตเตอร์ได้เลย”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 0-2551-0612 

7 ไอเดียงานแต่ง 2019 อะไรอิน อะไรเอ้าท์ที่ว่าที่บ่าวสาวจะแต่งปีนี้ต้องรู้

ปีหมูปีนี้เขาว่ากันว่าเป็นปีที่ดีสำหรับการแต่งงาน เพราะฉะนั้นว่าที่บ่าวสาวที่วางแผนว่าจะจัดงานแต่งงานภายในปีนี้ก็ต้องทุ่มกันสุดตัวให้สมกับเป็นปีทอง แพรว wedding เลยมี 7 ไอเดียงานแต่ง 2019 ที่บ่าวสาวต้องรู้ว่าอะไรอิน อะไรเอ้าท์ไปแล้วบ้าง

1. กลับสู่ความคลาสสิค
ปัจจุบันว่าที่บ่าวสาวหลายคนเริ่มที่จะมองหาและจัดงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์กันมากขึ้น เพราะปีนี้ความหวือหวาที่บ่าวสาวเคยเห็นอาจจะมีให้เห็นน้อยลง เพราะเทรนด์ได้วนกลับมาสู่ความคลาสสิคอีกครั้ง

2. บอกลาช่อดอกไม้เจ้าสาวแบบใหญ่เว่อร์
ช่อดอกไม้แบบใหญ่โตอลังการดูเหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมสำหรับเจ้าสาวในปีนี้ ซึ่งสิ่งที่กำหนดเทรนด์นี้ก็ไม่ใช่อะไรและใครที่ไหนแต่คือ ช่อดอกไม้ของเมแกน มาร์เคิล กับดีไซน์ช่อดอกไม้เจ้าสาวช่อเล็กๆ ที่จัดเข้าช่อแบบเรียบง่ายแต่ดูดี ซึ่งนอกจากจะเรียบหรูดูอินเทรนด์แล้ว ช่อดอกไม้ยังไม่ไปบดบังดีเทลของชุดแต่งงานที่เจ้าสาวตั้งใจพิถีพิถันเลือกมาสวมใส่ในวันสำคัญอีกด้วย

vogue.com.au

3. บอกลามงกุฎดอกไม้

มงกุฎดอกไม้ คือหนึ่งในแอสเซสซอรี่ที่เจ้าสาวหรือเพื่อนเจ้าสาวมักจะมองหา เพราะช่วยเพิ่มความสวยงามอ่อนหวานให้กับลุคของสาวๆ และทรงผม แต่บางครั้งความสวยงามก็ไม่ได้มาพร้อมกันความอินเทรนด์ เพราะปีนี้ลุคความงามเขาเน้นอะไรที่ดูน้อยๆ สวยงามแต่คลาสสิค แต่ก็ไม่ถึงกับว่าเจ้าสาวหรือแก๊งเพื่อนเจ้าสาวจะประดับทรงผมด้วยดอกไม้ไม่ได้เลยนะ แต่อาจจะมองหาอะไรที่ดูเป็นทางการมากกว่าดอกไม้มาประดับแทน

4. ชุดเพื่อนเจ้าสาวสีเดียวกันทั้งแก๊งเอ้าท์แล้วนะ

นอกจากรูปแบบชุดแล้ว ธีมสีของชุดเพื่อนเจ้าสาว ก็เป็นที่ถกเถียงสำหรับแก๊งเพื่อนเจ้าสาวอยู่เสมอ และภาพที่เรามักเห็นกันจนคุ้นตาก็คือแผงเพื่อนเจ้าสาวในชุดสีเดียวกัน แต่ถ้าคุณเป็นเพื่อนเจ้าสาว 2019 จะต้องสวยแตกต่างมากกว่านั้น ด้วยการมองหาพาเลตต์สีเดียวกัน แต่แตกต่างเฉดกันออกไป โดยรูปแบบของชุดอาจจะเหมือนหรือต่างกันก็ได้แล้วแต่ความมั่นใจของแต่ละคน สิ่งสำคัญคือการเลือกเฉดสีที่ชอบและต้องให้เหมาะกับสีผิวตัวเอง เท่านี้ก็ช่วยให้ภาพหมู่ของคุณและเจ้าสาวดูสวยแตกต่างแล้ว

หรือหากเจ้าสาวใจดีสักหน่อย อีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจคือ แก๊งเพื่อนเจ้าสาวในชุดสีขาว แต่ต้องเป็นเฉดสีขาวที่ต่างจากสีของชุดเจ้าสาวนะ รับรองว่าถึงจะสีขาวเหมือนกันแต่เจ้าสาวก็ยังโดดเด่นท่ามกลางแก๊งเพื่อนเจ้าสาวสีขาวชัวร์!

5. ไม่ต้องมินิมอลตามเทรนด์ก็ได้

เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็มินิมอล แต่ก็ไม่ใช่เจ้าสาวอย่างคุณจะมินิมอลตามเขาไปซะทุกอย่างนะ โดยเฉพาะเรื่องชุดแต่งงาน ถึงแม้ว่าเทรนด์ชุดแต่งงานปีนี้จะเน้นสไตล์มินิมอลเรียบๆ ตามแบบเมแกน มาร์เคิลก็ตาม เพราะจริงๆ แล้ว ชุดแต่งงาน คือชุดที่ต้องสะท้อนตัวตน บุคลิก และรสนิยมของเจ้าสาวให้ได้มากที่สุดต่างหาก

6. งานแต่งแบบกรีนเนอรี่ ไม่ใช่งานแต่งสีเขียวนะ
ปีนี้ธีม greenery คือธีมงานแต่งที่น่าจับตามอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะต้องสีเขียวไปหมด และห้ามเด็ดขาด! กับการนำกำแพงหญ้าปลอมมาไว้ในงานแต่ง เพราะมันทั้งไม่น่าสวยและไม่น่าดูเอาซะเลย

ส่วนคู่ไหนที่อยากเข้ากระแสด้วยการจัดโต๊ะทานอาหารสไตล์กรีนเนอรี่ เราแนะนำให้เพิ่มดอกไม้เข้าไปอีกนิดๆ หน่อยๆ จะได้ช่วยสร้างความสดชื่น ไม่ทำให้โต๊ะอาหารดูแห้งแล้งจนเกินไป

7. หมดยุคผ้า Runner บนโต๊ะอาหารแล้ว

บ่าวสาวหลายคู่อาจจะคิดว่าการปูผ้ารันเนอร์บนโต๊ะอาหารเป็นอะไรที่ดูสวยงาม นุ่มนวล หรูหรา แต่ไม่ใช่สำหรับปีนี้แน่นอนจ้า แถมยังไม่คุ้มกับค่าซักรีดที่แขกอาจทำอาหารหกเลอะเปรอะเปื้อนด้วย

ดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ pinteresta

Wedding Castle Studio

ติดต่อ : 225/10 Arena 10 ชั้น 5ซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทร. : 08-5661-3390, 08-5661-3391
ไอจี : @weddingcastle
ไลน์ : @weddingcastle
เว็บไซต์ : www.weddingcastlestudio.com

8 สุดยอดธีมงานแต่งเก๋ๆ แบบมาแรงในปี 2019 จัดครั้งเดียวต้องปัง!!

ว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่ยังไม่รู้ว่าจะจัดงานแต่งในธีมไหนดี แต่ได้วันแต่งงานที่แน่นอนมาแล้ว เราขอบอกว่า…อย่ารอช้า ถึงเวลาที่คุณต้องมีธีมงานแต่งในใจแล้ว เพราะธีมงานแต่งจะเป็นตัวกำหนดให้การวางแผนสิ่งต่างๆ ภายในงานเป็นไปได้โดยง่าย เช่น ทางเข้างานจะเป็นแบบไหน การ์ดแต่งงานจะเป็นรูปแบบใด หรือแม้กระทั่งเค้กแต่งงาน เป็นต้น แพรว wedding เลยจัด 8 ธีมงานแต่งเก๋ๆ ในปี 2019 มาให้เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจดีๆ ให้กับธีมงานแต่งในฝันของคุณและคนรักได้…ไม่มากก็น้อย ^^

1. Greenery Wedding

ธีมงานแต่งสีเขียวแบบรักษ์โลกที่เก๋กู้ดสุดๆ มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้ ใบไม้ เป็นหลักในงานแต่งงาน ยิ่งถ้าบ่าวสาวจัดงานแต่งในสวนด้วยแล้ว จะช่วยให้ธีมนี้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

2. Sparkles!!! 

ธีมงานที่เน้นความหรูหรา ดูน่าสนใจ มีความแฟนซีในงานแต่งค่อนข้างสูง ซึ่งคีย์หลักของการจัดงานธีมนี้ก็คือ กลิตเตอร์ เพราะประกายระยิบระยับนอกจากจะช่วยให้งานดูน่าสนใจแล้ว ไม่ว่าจะหยอดไว้ในอะไรก็ช่วยให้สิ่งนั้นดูหรูหราขึ้นมาทันที

3. Fine Art

บ่าวสาวที่หลงใหลในความสวยงามของศิลปะอย่างเช่น ดอกไม้ ต้องไม่พลาดธีมนี้ เพราะเป็นการนำเอาฟอร์ม และสีสันอันอ่อนหวานของดอกไม้มาไว้ในงานแต่ง หรือรูปแบบการจัดดอกไม้สุดเก๋ และจะโดดเด่นมากขึ้นหากดอกไม้เหล่านั้นถูกสื่อสารผ่าน ภาพวาดดอกไม้อันวิจิตรบรรจง ที่สำคัญอย่าลืมใส่ดอกไม้ หรือสีสันของดอกไม้ที่บ่าวสาวชอบไว้ในส่วนต่างๆ ของงาน รับรองว่าหวานแบบไม่เลี่ยนแน่นอน

4. รูปทรงเรขาคณิต & ดอกไม้

รูปทรงเรขาคณิต นับว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่พักหลังมาแรงและมักจะเห็นเป็นส่วนหนึ่งในงานแต่งงานอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นลวดลายที่ให้ความทันสมัยที่ให้อารมณ์แบบหรูหรา แต่ไม่เป็นทางการมากนัก