How to ทรงผมประดับดอกไม้ เพิ่มระดับความหวานอย่างไรให้สวย

ทรงผมประดับดอกไม้ กับไอเดียที่จะช่วยเสริมลุคให้เจ้าสาวสวยหวานจนละสายตาไม่ได้ ซึ่งนอกจาทรงผมที่สะท้อนความเป็นตัวตนของเจ้าสาวและชุดแต่งงานแล้ว ก็ต้องมีพร๊อพที่จะเพิ่มความโดดเด่นและเสริมความมั่นใจให้เจ้าสาวเต็มไปด้วยเสน่ห์ แพรว wedding เลยขอแนะนำการประดับดอกไม้บนทรงผมของเจ้าสาว โดยเฉพาะการเลือกใช้ดอกไม้สด ที่นอกจากจะให้กลิ่นหอมและสีสันที่เป็นธรรมชาติกว่าดอกไม้ปลอมแล้ว ยังช่วยให้ลุคเจ้าสาวสวยราวต้องมนตร์เหมือนหลุดมาจากเทพนิยาย ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติสุดๆ

อ่ะๆ เจ้าสาวเริ่มสนใจกันแล้วใช่ไหมล่ะว่าแล้วจะประดับดอกไม้อย่างไรให้เข้ากับทรงผมดี เรามี 4 ไอเดียทรงผมประดับดอกไม้ ที่เหมาะกับเจ้าสาว 4 สไตล์มาฝาก

ประดับน้อยๆ แต่โดดเด่น

ทรงผมประดับดอกไม้

เพื่อไม่ให้บดบังความสวยงามของทรงผมที่ช่างผมบรรจงทำ เพียงแค่ประดับดอกไม้สดสัก 1-2 ดอก ก็คุมอยู่แล้ว โดยสามารถเลือกใช้ได้ทั้งดอกไม้ไซส์เล็กไซส์ใหญ่ ดอกไม้สีสันสดใส หรือดอกไม้รูปลักษณ์แบบเรียบๆ ก็แล้วแต่ความชอบของเจ้าสาว แต่ขอแนะนำว่าให้เลือกใช้ดอกไม้ที่มีความสด และเป็นดอกที่บานสะพรั่ง เพราะการประดับดอกไม้นอกจากจะเพิ่มลุคที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ให้เจ้าสาวแล้ว ดอกไม้ที่ยังคงความสดยังมีผลต่อภาพลักษณ์เจ้าสาวด้วยนะ เพราะฉะนั้นเจ้าสาวจะต้องใส่ใจจุดนี้เป็นพิเศษ คราวนี้พอได้ดอกไม้สวยๆ แล้วจะประดับตรงส่วนไหนของทรงผมก็รับรองได้เลยว่านางเอกของวันนั้นคือเจ้าสาวคนสวยนี่แหละไม่ใช่ดอกไม้แต่อย่างใด ><

ทรงผมประดับดอกไม้

 

ประดับอย่างบางเบา แบบเรียบง่าย แต่มีลูกเล่น

ทรงผมประดับดอกไม้

การประดับดอกไม้สไตล์บางเบานี้ เหมาะกับเจ้าสาวที่ทำผมแบบถักเปีย ทั้งแบบปล่อยยาวและรวบขึ้น เพราะผมเปียที่ให้ลุคดูซอฟต์อ่อนละมุนนั้น ถ้าได้ประดับด้วยดอกไม้เล็กๆ ตามแนวผมเปียด้วยแล้ว ยิ่งช่วยเน้นให้เจ้าสาวดูอ่อนหวาน อ่อนเยาว์สุดๆ ถ้าเจ้าบ่าวเห็นเจ้าสาวในสไตล์นี้รับรองว่าเขาจะละลายให้กับความน่ารักของเจ้าสาวแน่นอน >< แต่สิ่งสำคัญในการเลือกดอกไม้คือ ดอกไม้ที่นำมาประดับจะต้องเป็นดอกไม้ที่มีตัวดอกเล็กๆ และที่สำคัญความสดของดอกไม้ก็ยังต้องมีอยู่นะ

ทรงผมประดับดอกไม้

 

ประดับแบบจัดเต็มด้วยดอกไม้สวยๆ

ทรงผมประดับดอกไม้

สำหรับเจ้าสาวที่ชื่นชอบดอกไม้เป็นพิเศษ และอยากเพิ่มความอ่อนหวานปนเซ็กซี่ แนะนำให้เลือกประดับเป็นดอกไม้สีสดใส พร้อมๆ กับจัดเต็มดอกไม้ชุดใหญ่กันไปเลย โดยเลือกดอกไม้ที่มีไซส์ขนาดกลางๆ เช่น ดอกกุหลาบ ที่เข้ากับหลายๆ ทรงผมของเจ้าสาวได้ดี ทั้งแบบปล่อยยาว หรือเกล้าหลวมๆ เผยให้เห็นช่วงต้นคอ อาจเสริมด้วยใบไม้สีเขียวเพื่อให้ตัดกับสีดอกไม้และสีผม ก็ให้ฟิลเป็นเจ้าสาวขี้เล่นขึ้นมาอีกนิดนะ

ทรงผมประดับดอกไม้

 

ดึงดูดสายตาด้วยใบไม้สีเขียว

ทรงผมประดับดอกไม้

ผสมผสานสไตล์มินิมอลและเอิร์ธโทนด้วยใบไม้ ที่ช่วยให้ลุคของเจ้าสาวดูเหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยาย กับทรงผมที่ประดับด้วยใบไม้สีเขียวชอุ่ม โดยเลือกใบไม้ที่มีขนาดเล็ก และเพื่อให้ทรงผมและลุคของเจ้าสาวดูอ่อนหวานขึ้นมาอีกนิด อาจแซมด้วยดอกไม้เล็กๆ สีขาวเพื่อให้ดูน่ารักขึ้น และช่วยให้สีเขียวของใบไม้ดูโดดเด่นขึ้นมา

ทรงผมประดับดอกไม้

อีกสิ่งที่สำคัญคือ เคล็ดลับจัดแต่งทรงผม ไปงานแต่งงานแบบสวยๆได้อย่างมือโปร เพื่อที่จะประดับดอกไม้บนทรงผมให้คงสวยได้ตลอดวัน

ภาพจาก Pinterest

แม่ไม่บอกผ่านชุดแต่งงานที่เลือกไว้! ทำแบบนี้สิถ้าแม่ไม่ปลื้มชุดแต่งงานของคุณ

ปัญหาแม่ไม่ปลื้ม ชุดแต่งงาน เนี่ย เจอกันมาแทบทั้งนั้นค่ะ บางคนถึงขนาดทะเลาะกันใหญ่โตเลยก็มี เพราะเจ้าสาวเองก็คิดว่านี่งานแต่งของหนูนะ ความสุขนี้ก็ของหนู ทำไมแม่ไม่เข้าใจ ในขณะที่แม่ก็จะคิดว่า ที่ติที่ว่าที่คอมเม้นต์ไปก็เพราะหวังดีและอยากให้ลูกสาวคนสวยได้สวยที่สุด เอาละคะ ถ้าใครกำลังเจอเรื่องนี้อยู่ แพรว wedding มีคำแนะนำมาให้ค่ะ

แต่ก่อนอื่น สิ่งที่แพรว wedding อยากให้ว่าที่เจ้าสาวทุกคนเช็คคือ  แม่ไม่ปลื้มชุดของคุณในระยะไหน ถ้าไม่ปลื้มตั้งแต่เห็นแบบชุดก็ยังพอคุยกันได้ง่ายหน่อย เพราะเท่ากับช่างยังไม่ลงมือ และถ้าคิดจะปรับเปลี่ยนแบบก็ยังเป็นไปได้ อยู่ที่ว่าคุณจะยอมปรับแบบตามที่แม่คอมเม้นหรือเปล่า แต่ถ้ามาเห็นเอาตอนที่ชุดเสร็จแล้วนี่สิเรื่องใหญ่ เพราะการแก้ชุดที่ตัดเย็บเสร็จแล้ว อาจทำให้เกิดความพังได้นะคะ เอาล่ะค่ะ เมื่อรู้แล้วว่าอยู่ในระยะไหน ก็เริ่มแก้ไขปัญหานี้เลยค่ะ

  • คิดและพิจารณาตามคำพูดของแม่ก่อน

จิ้งจกทักยังต้องฟัง นี่แม่เลยนะ ทำไมลูกสาวคนสวยอย่างคุณจะดื้อดึงไม่ยอมฟัง แพรว wedding ขอให้คุณคิดและพิจาณาตามคำพูดของแม่ก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง อะไรที่ท่านพูดแต่คุณลืมคิดไปหรือเปล่า อย่าเพิ่งโวยวายทันทีว่าไม่เอาไม่เปลี่ยน เพราะบางทีสิ่งที่ท่านคอมเม้นมา อาจจะทำให้คุณสวยขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้

  • ยืนยันความต้องการของคุณด้วยความนุ่มนวล

แม้สิ่งที่แม่พูดจะถูกต้อง แต่บางครั้งไม่ถูกใจ อันนี้เราก็ไม่ว่ากัน เพราะคุณกับคุณแม่อาจจเป็นคนละแนวกันอย่างแรง ซึ่งถ้าคุณต้องการให้ชุดแต่งงานของคุณเป็นไปในแบบที่คุณฝันไว้จริงๆ และไม่อยากปรับเปลี่ยนตรามที่แม่คอมเม้นละก็ บอกท่านไปตรงๆ ด้วยเหตุผลและคำพูดที่นุ่มนวล บอกท่านให้เข้าใจความฝันและความอยากได้ความทรงจำที่แสนพิเศษนี้ในแบบของคุณจริงๆ เชื่อเถอะว่าถ้ามีเหตุผลและพูดกันดีๆ ไม่มีแม่ที่ไหน จะขัดใจความสุขในวันสำคัญของลูกอย่างคุณค่ะ

  • พบกันครึ่งทางได้ไหม

คำแนะนำในข้อนี้เป็นอะไรที่ถ้าทำได้คงดีมาก แต่คุณและคุณแม่ต้องพร้อมที่จะลดความต้องการของตัวเองลงนะคะ เช่นถ้าท่านติทรงชุดทั้งหมดว่าไม่เหมาะสมแต่คุณชอบมาก ลองถามความเห็นท่านก่อนว่า ตรงไหนของชุดทรงนี้ที่ท่านรู้สึกว่าไม่เหมาะสมมากที่สุด แล้วปรึกษาช่างดูว่าแก้ไขแบบไหนได้บ้างให้ยังคงชุดทรงนี้ที่คุณชอบ หรืออาจปรับเปลี่ยนเนื้อผ้าที่ช่วยให้ชุดดูดีขึ้นในสายตาของท่าน อะไรแบบนี้

แต่ไม่ว่าจะแก้ไขปัญหานี้ด้วยทางออกไหนก็ตาม ขอให้คุณคิดเสมอนะคะว่า ที่ท่านติเพราะรัก และอยากเห็นคุณดูดีที่สุดในวันงาน อย่าโมโหท่านนำโด่งไปก่อน เรื่องแบบนี้คุยกันได้และมั่นใจเถอะค่ะว่าแม่ของคุณทำไปเพราะรักคุณเสมอ

ดูไอเดียชุดแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ทิปส์การเลือก ผมเจ้าสาว ชุดไทย ให้หน้าดูเด็ก จากช่างผมมืออาชีพ!

ทรงผมเจ้าสาวในชุดไทย เป็นอะไรที่แอบเลือกยากนะว่ามั้ยคะเหล่าว่าที่เจ้าสาว เพราะนอกจากจะต้องคำนึงถึงรูปหน้า ยังต้องคำนึงถึงแบบชุดและความเหมาะสมเรียบร้อยสวยงามอีกด้วย แต่ปัญหาที่กลายเป็นข้อกังวลใจอันดับแรกๆของการเลือกทรงผมเจ้าสาวชุดไทย หนีไม่พ้นความกลัวที่ว่าเราจะดูแก่ไหม เพราะชุดไทยนั้นเป็นชุดที่ทำให้เจ้าสาวผู้ใส่ดูภูมิฐานขึ้นอยู่แล้ว วันนี้แพรวเวดดิ้งเลยไปหาคำตอบมาให้ว่าที่เจ้าสาวถึงที่ จากปากของช่างผมมือเจ้าสาวมืออาชีพอย่าง คุณตี๋ เจ้าของไอจี @teethory ที่นอกจากผลงานทรงผมเจ้าสาวของคุณตี๋จะโดดเด่นได้หลากหลายสไตล์แล้ว คุณตี๋ยังทำผมให้กับเหล่าดาราและเซเลบมาแล้วมากมายอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นช่างผมเจ้าสาวที่น่าจับตามองอีกคนในวงการเลยละค่ะ มาดูคำแนะนำจากคุณตี๋กันดีกว่า

  • บอกทิปส์การเลือกทรงผมชุดไทยไม่ให้ดูแก่หน่อยค่ะ

คนไทยติดว่าผมกับชุดไทยต้องเนี้ยบ แต่ต้องยอมรับว่าลุคของเจ้าสาวบางคนทำผมเนี้ยบมากก็ดูแก่ เจ้าสาวบางคนกลับเหมาะกับการทำผมฟุ้งๆเบาๆมากกว่า แต่ความยากก็คือความฟุ้งเบานี้จะต้องไม่มากเกินไปจนกลายเป็นผมเจ้าสาวชุดสากล ตี๋จะดูจากรูปหน้าของเจ้าสาวแต่ละคนเป็นหลัก เจ้าสาวบางคนสามารถรวบสูง เปิดหน้าผากได้ บางคนต้องมีปอยผมลงมาระหน้าผากนิดนึง บางคนแสกกลางได้ บางคนแสกไม่ได้เลย เป็นต้น

ผมเจ้าสาว

  • ผมเจ้าสาวในชุดไทยตอนนี้เป็นแบบไหนคะ

ช่วงนี้ชุดไทยของเจ้าสาวมีดีไซน์ที่ดูโมเดิร์นขึ้น เป็นแบบชุดไทยประยุกต์มากขึ้น ทำให้สามารถแมทช์กับแบบผมที่ไม่ต้องเนี้ยบมาก หรือแบบผมที่มีแรงบันดาลใจมาจากผมของเจ้าสาวชุดสากลก็ได้ แค่ว่าให้อยู่ในกรอบว่าไม่หลุดเกินไป และยังควรจะดูสุภาพกว่าผมของเจ้าสาวชุดสากล แต่ปีนี้ที่เห็นได้ชัดคือเจ้าสาวเปิดหน้ากันเยอะ เปิดหน้าผากรับทรัพย์อะไรอย่างนี้ ข้างหลังก็ปล่อยเป็นหางม้าบ้าง เกล้าบ้าง หรือเทรนด์การถักเปียแบบเนี้ยบๆ ก็เข้ากับชุดไทยนะ เจ้าสาวบางคนทำก็ดูน่ารักดี ดูเด็กลง แม้กระทั่งเกล้าสูงแบบดังโงะก็ยังได้ ไม่ได้มีข้อจำกัด

ผมเจ้าสาว

  • ทิปส์การเลือกทรงผมชุดไทยของเจ้าสาวหน้ากลม

ถ้าหน้าผากแคบ เก็บผมเรียบไปเลยก็สวยดี แต่ถ้าหน้าผากกว้างควรมีปอยผมมาระหน้าผากนิดนึง จริงๆแล้วผสมกับเปียแบบเรียบๆก็สวยและยิ่งส่งให้เจ้าสาวดูเด็กลง หรือจะทำผมทรงดังโงะแบบญี่ปุ่นก็ยังได้ แต่อันนี้ต้องดูให้แมทช์กับแบบชุดด้วย

  • ทิปส์การเลือกทรงผมชุดไทยของเจ้าสาวหน้าเหลี่ยม กรามชัด

โครงหน้ากรามชัดๆ รวบหมดไม่ค่อยรอดเพราะจะยิ่งเน้นกรามและโหนกแก้ม แต่ก็มีเหมือนกันที่เจ้าสาวหน้ามีกรามชัดแต่กลับรวบผม แสกกลาง แล้วสวย อันนี้ต้องมาดูกันหน้างานอีกที ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าสาวด้วยว่าเซล์ฟไหม

 ผมเจ้าสาว

  • คำแนะนำในการเลือกทรงผมชุดไทยของเจ้าสาว

ว่าที่เจ้าสาวสามารถเลือกทรงผมที่ชอบมาก่อนได้ แล้วพอวันจริงเราค่อยมาดูกันหน้างานอีกทีว่าทรงที่เจ้าสาวชอบ สามารถทำได้ตามแบบเลยไหม ซึ่งจริงๆแล้วขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย สภาพเส้นผมเจ้าสาวด้วย รูปหน้าด้วย แบบชุดด้วย ถ้าสมมติว่าช่างผมเห็นแล้วว่าไม่เหมาะก็อาจจะแนะนำให้เปลี่ยนทรง หรืออย่างน้อยก็อาจจะขอปรับนิดหน่อยถ้าเจ้าสาวยืนยันว่าอยากได้ทรงนั้นจริงๆ ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าสาวดูสวยที่สุด และมั่นใจที่สุด

เป็นยังไงกันบ้างคะ คำแนะนำจากช่างผมมืออาชีพอย่างคุณตี๋ สามารถช่วยให้เหล่าว่าที่เจ้าสาวมีไกด์ไลน์ในการเลือกทรงผมชุดไทยที่เหมาะกับตัวเองกันหรือยังเอ่ย? ถ้ามีแล้ว เรามาส่อง วิธีการเลือกช่างแต่งหน้าที่ใช่ในวันแต่งงาน กันต่อเลยดีว่า คลิกอ่านเลย

ใครที่อยากติดตามผลงานของคุณตี๋ กดฟอลโลว์ไอจีเลยที่ IG @teethory นะคะ

ขอขอบพระคุณภาพจาก IG @teethory 

4 ไอเดีย ชุดเพื่อนเจ้าสาว แบบ Mix แต่ไม่ Match ยังไงให้สวยเริด!

เดี๋ยวนี้เวลาไปงานแต่งงานทีไรสิ่งที่จะได้รับความสนใจเป็นอันดับสองรองจากบ่าวสาวมักจะเป็นกลุ่ม เพื่อนเจ้าสาว นี่แหละค่ะ แถมยังดูรู้ได้ง่ายๆ ด้วยว่าคนไหนเป็นเพื่อนเจ้าสาวบ้าง เพราะแต่ละนางก็แต่งตัวเหมือนกันเด๊ะ! ตอนนี้นะคะ เราอยากจะบอกว่าเทรนด์ ชุดเพื่อนเจ้าสาว แบบฝาแฝดกำลังจะ OUT แล้วนะจ๊ะ ตอนนี้เขาฮิตเพื่อนเจ้าสาวหลากสไตล์แต่ยังคงคอนเซปต์ “เหมือนในความต่าง” จะมีไอเดียไหนบรรเจิดบ้าง ตามไปดูกันเลย!

1. สีเดียวกัน แต่ต่างเฉดสี

amy-bob-wedding-bridesmaids-0305-s111884-0715_vert
ชุดเพื่อนเจ้าสาวเฉดสีเดียวกัน

ไอเดียนี้เหมาะสำหรับงานแต่งที่ว่าที่เจ้าสาวกำหนดธีมสีชัดเจนว่าเป็นสีอะไร และต้องการให้เหล่าเพื่อนเจ้าสาวใส่สีนั้น แต่ถ้าสีเดียวกันก็ดูจะเป็นการบังคับขืนใจเพื่อนๆ ไปสักหน่อย ลองกำหนดสีแบบกว้างๆ แล้วปล่อยให้เพื่อนเจ้าสาวเลือกกันตามใจชอบว่าจะใส่เฉดไหน จะเข้มหรือจะอ่อน เช่น เจ้าสาวกำหนดสีน้ำเงินเป็นสีหลัก เพื่อนเจ้าสาวก็สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม สีกรมท่า หรือสีฟ้าพาสเทล รวมถึงถ้าเจ้าสาวคนไหนมอบหมายตำแหน่งหัวหน้าเพื่อนเจ้าสาว ก็อาจจะให้เพื่อนคนนั้นใส่สีที่ตัดกันกับคนอื่นไปเลยก็ได้ (ถ้าไม่มีใครมีปัญหานะ)

2. ไม่จำเป็นว่าชุดต้องเหมือนกันเด๊ะๆ หรอก

bridesmaids-delesie0233-mwds110843_vert
ชุดเพื่อนเจ้าสาวที่ไม่ต้องเหมือนกันเป๊ะ

สำหรับเจ้าสาวคนไหนที่ยังอยากให้เพื่อนๆ ใส่ชุดสีเหมือนกัน เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกัน และง่ายต่อการแจกจ่ายม้วนผ้าสำหรับใช้ตัดชุด เราขอแนะนำว่ารูปแบบในส่วนช่วงบนของชุดก็ปล่อยให้เหล่าเพื่อนสาวเขาตัดสินใจเองดีกว่าว่าอยากได้แบบไหน จะเป็นเกาะอก สายเดียว ไหล่ปาด หรือคอวี ก็ปล่อยให้นางเลือกตามใจชอบเถอะนะ

3. แบ่งทีมเพื่อนเจ้าสาวก็ดูเก๋ดี

petra-marc-wedding-santa-barbara-0430-s111812_vert
ชุดเพื่อนเจ้าสาวแบบแบ่งทีม

อีกหนึ่งไอเดียเริ่ดๆ ที่อยากให้ว่าที่เจ้าสาวลองทำดูก็คือ แบ่งทีมเพื่อนเจ้าสาวออกเป็น 2 ทีม แล้วกำหนดสีชุดให้แต่ละทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เป็นสีคู่ตรงข้ามกันจะดี เช่น ทีมนี้ใส่สีขาว ทีมนี้ใส่สีดำ ถึงเวลามาถ่ายรูปด้วยกันจะได้มีลูกเล่น ไม่ได้เหมือนซ้ำจำเจกันไปทั้งแถบ!

4. กำหนดสไตล์เสื้อผ้าให้เพื่อน

hilary-kyle-rw0513-87_vert
กำหนดสไตล์ให้บ้างก็ได้

ไอเดียนี้ไม่ได้กำหนดเรื่องสีหรือทรงแต่อย่างใด แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ กำหนดสไตล์เสื้อผ้าให้กับเหล่าเพื่อนเจ้าสาว เช่น อยากให้เพื่อนเจ้าสาวใส่ชุดแบบวินเทจย้อนยุค จะสีไหน ทรงไหนก็ได้ แต่สไตล์ต้องมาแนวเดียวกันห้ามหลงธีม

ดูไอเดียเกี่ยวกับเพื่อนเจ้าสาวเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

เรียบเรียงและภาพ : www.marthastewartweddings.com, www.tulleandchantilly.com

รวม ท่าโพสถ่ายรูปสำหรับเจ้าสาวไซต์อวบ ลองทำดูผอมเพรียวแน่นอน

การเตรียมความพร้อมสำหรับเจ้าสาวในเรื่องของเรือนร่างมีมากมายหลายวิธีให้หุ่นดูเป๊ะ แต่ถ้าเตรียมความพร้อมไม่ทัน หรืออวบๆ แบบนี้แหละสวยแล้ว … แพรว wedding มี ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซต์อวบ ที่ถ่ายมุมไหนก็รอด ลดน้ำหนักไม่ทันไม่ใช่ปัญหาค่ะ แถมยังสามารถใช้ได้ตั้งแต่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ไปจนถึงงานแต่งจริงๆ ก็ได้นะคะ

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

1. เอียงข้างเล็กน้อย บิดสะโพกให้เป็นรูปตัว S เล็กๆ

เพื่อเผยให้เห็นเอวของเจ้าสาว และเห็นสรีระชัดเจนมากยิ่งขึ้น อาจจะนำแขนข้างใดข้างหนึ่งแอบไว้ด้านหลัง และก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อให้หน้าดูเรียวยาวขึ้นค่ะ

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

2. ท้าวสะเอวข้างเดียว หรือสองข้าง

เป็นท่าเบสิคที่คิดอะไรไม่ออก หลายๆ คนมักจะชอบโพสท่านี้ แต่ก็ไม่ผิดนะคะ เพราะท่านี้จะช่วยทำให้เห็นเอวของเจ้าสาวชัดเจนมากยิ่งขึ้น หรือสามารถบิดเอวให้เป็นรูปตัว S เล็กๆ เพิ่มก็ได้นะคะ

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

3. ภาพหน้าตรง เอียงศีรษะนิดหน่อย

คนสวย จะมุมไหน ท่าไหนก็สวยใช่ไหมคะ ถ้ามั่นใจในตัวเองถ่ายภาพด้านหน้าตรงได้เลยค่ะ ก็มั่นใจซะอย่าง แต่สามารถเพิ่มลูกเล่นด้วยการเอียงศีรษะเล็กน้อย หรือหันไปมองทางอื่น ได้ฟิลลิ่งแบบแอบถ่ายก็สวยไปอีกแบบ และสามารถบิดเอวเป็นตัว S เล็กๆ เพิ่มเพื่อให้สรีระดูมีเคิฟ แถมยังให้ลุคเซ็กซี่น่าค้นหานิดๆ

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

4. หันข้าง

สามารถโพสเดี่ยวได้ หรือโพสคู่กับเจ้าบ่าวก็จะได้โมเม้นต์ฟรุ้งฟริ้งดูแตกต่าง แต่ถ้ารู้สึกว่า เอ๊ะ หันข้างขนาดนี้แล้วจะเห็นหน้าไหมล่ะ เจ้าสาวสามารถบิดตัวกลับมาหากล้องได้นิดหน่อย แล้วอาจจะเพิ่มลูกเล่นให้กับภาพถ่ายและสไตล์ของเจ้าสาวอีกนิดด้วยการนำดอกไม้ช่อโตๆ มาถือเป็นพร๊อบก็ได้ แถมเจ้าดอกไม้ช่อนี้ยังมีข้อดีตรงที่ว่า สามารถนำมาช่วยบังสรีระได้อีกด้วย

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

5. หันหลัง

ถ้าเบื่อกับการหันข้าง หรือบิดเอว ก็สามารถหันหลังได้นะคะ แต่ไม่ใช่หันหลังให้กล้องนะ แต่คือการหันหลังแล้วเบี่ยงตัวกลับมาหันหน้าหากล้องเล็กน้อย ท่านี้จะช่วยทำให้สรีระของเจ้าสาวดูบางลง พร้อมเล่นกับส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายได้เป็นอย่างดี แถมท่านี้ถ้าจะให้ดีอย่าลืมชวนคุณเจ้าบ่าวมาโพสด้วยกัน โดยเจ้าสาวอาจจะซบลงที่แผงอกของเจ้าบ่าว เท่านี้ก็ได้ภาพถ่ายที่ทั้งสวยและโรแมนติกแล้ว

เอาเป็นว่าเจ้าสาวก็ลองไปโพสท่าตามแบบที่เราแนะนำดูนะคะ รับรองว่าจะช่วยทำให้เจ้าสาวไซต์อวบดูผอมเพรียวลงแน่นอน ว่างๆ ก็ลองฝึกโพสหน้ากระจกไปก่อนเนอะ เพื่อที่จะได้รู้มุมสวยของตัวเราเอง เพราะผู้หญิงแต่ละคนก็มีมุมสวยที่แตกต่างกัน เพื่อที่วันจริงจะได้โพสอย่างมั่นใจท้าแสงแฟลช

ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ Pinterest.com

4 ส่วนสำคัญในชุดแต่งงานช่วยสร้างความงามให้กับเจ้าสาว

ก่อนที่จะชี้ชัดว่าอยากได้ ชุดแต่งงาน แบบไหน แพรว wedding อยากให้คุณว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายได้ลองนำ 4 ส่วนที่เป็นองค์ประกอบในชุดแต่งงานที่เรานำมาฝากสักนิด เพราะอาจจะช่วยให้คุณว่าที่ทั้งหลายตัดสินใจเลือกแบบชุดแต่งงานได้ง่ายขึ้น ไปดูกันดีกว่า 4 ส่วนที่ว่านี้มีอะไรบ้าง

  • เสริมช่วงเอว สร้างเคิฟสวย

ชุดแต่งงาน

ว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่อยากได้สรีระให้ดูมีทรวดทรงองค์เอวนิดๆ การเล่นกับช่วงเอวของชุดแต่งงานก็สามารถสร้างเคิฟที่ดีให้กับว่าที่เจ้าสาวได้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเลือกเป็นเข็มขัดเก๋ๆ เพิ่มลูกเล่นด้วยการต่อผ้าที่เอว หรือจะเป็นชุดแต่งงานแบบสองชิ้นที่เสื้อชิ้นบนยาวเหนือเอวเล็กน้อย แล้วแมตช์กับกระโปรงทรงสูง ก็ช่วยให้ช่วงเอวของเจ้าสาวดูโดดเด่นได้เช่นกัน

  • เผยแผ่นหลังอันทรงเสน่ห์

ข้อนี้เหมาะมากสำหรับว่าที่เจ้าสาวขี้อายที่ไม่อยากเผยผิวด้านหน้า เพราะการเผยแผ่นหลังก็ช่วยสร้างความเซ็กซี่นิดๆ ให้กับลุคเจ้าสาว แถมไม่ว่าจะถ่ายภาพมุมข้าง หรือถ่ายจากด้านหลังขณะที่ว่าที่บ่าวสาวกำลังเดินเข้างานคู่กันก็ช่วยให้ลุคของว่าที่เจ้าสาวดูสวยสง่างามไม่น้อย โดยงานนี้ว่าที่เจ้าสาวสามารถสร้างสรรค์ดีไซน์ชุดแต่งงานที่ด้านหลังได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นแบบทรงวี แบบผูกโบ ประดับลูก ก็ล้วนสวยงามไม่แพ้กัน เพียงแค่เลือกให้เหมาะกับสไตล์และตัวตนของคุณให้มากที่สุด อ่อ แล้วอย่าลืมขัดสีฉวีวรรณแผ่นหลังให้นวลเนียนด้วยนะคะ

  • ชายกระโปรงพลิ้วไหว

เพื่อช่วยสร้างลุคเจ้าสาวให้ดูสง่างามและน่าจดจำในวันสำคัญมากขึ้น ช่วงกระโปรงหรือชายกระโปรงก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่จะช่วยสร้างความน่าประทับใจให้กับชุดและลุคของเจ้าสาวได้ ไม่ว่าจะเป็น ชายกระโปรงแบบพองฟู แบบผ้ามุ้งดูฟรุ้งฟริ้ง แบบสวยหวานประดับลูกไม้ หรือจะเลือกเป็นแบบเลเยอร์สุดสมัย ก็ขึ้นอยู่กับใจของเจ้าสาวสไตล์ไหนที่ใช่และตอบโจทย์ในใจของเจ้าสาวได้มากที่สุด

  • อวดสะโพกกลมกลึงสุดเซ็กซี่

ถ้าหากเจ้าสาวจะต้องเลือกบางอย่างเพื่อช่วยให้รูปร่างของเจ้าสาวดูดีขึ้น การเน้นสะโพกให้ดูกลมกลึงก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยเจ้าสาวได้ แถมยังช่วยให้เจ้าสาวได้ลุคเจ้าสาวสุดเซ็กซี่ไปอีก อย่างเช่น ชุดแต่งงานทรงเมอร์เมด หรือจะเลือกเป็นชุดแต่งงานแบบสลิปเดรสที่เข้ารูปก็ยังได้ แต่ถ้าเจ้าสาวอยากได้ลูกเล่นเพิ่มขึ้นมาอีกนิดก็อาจจะเลือกเป็นผ้าลูกไม้สวยงามที่ช่วงสะโพกแล้วต่อเป็นผ้ามุ้งพองฟูทิ้งยาวลงมาก็ช่วยให้ชุดแต่งงานดูสวยหวานและเซ็กซี่ในเวลาเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ได้ชุดเจ้าสาวแล้วก็อย่าแมตช์ชุดและลุคเจ้าสาวให้ปังด้วยเวลเจ้าสาวด้วยนะคะกับ เคล็ด (ไม่) ลับเลือกเวลเจ้าสาวที่ใช่ให้กับชุดแต่งงานที่ชอบ

CR. brides.com

15 คำถามต้องได้คำตอบก่อนเซ็นต์สัญญาจองสถานที่จัดงานแต่งงาน

สถานที่จัดงานแต่งงาน เป็นเรื่องแรกที่บ่าวสาวต้องสรุปให้ได้ เพราะเกี่ยวพันไปถึงการเตรียมงานเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดจำนวนแขก การลงรายละเอียดในการ์ดเชิญ หรือแม้แต่รูปแบบงานแต่งงาน แต่ของแบบนี้จะให้ตัดสินใจง่ายๆ ทันทีเลยคงไม่ได้ ฉะนั้นเพื่อความดีงามบังเกิด ความไม่หงุดหงิดใจไม่มี เอา 15 เรื่องนี้ไปถามเจ้าของสถานที่ก่อนค่อยจรดลายเซ็นต์จองยังทัน

 

สถานที่จัดงานแต่งงาน

1 ในห้องมีอะไรให้บ้างแล้วสภาพโอเคไหม : เช็คว่าของที่ทางสถานที่มีให้เพียงพอกับการใช้งานของคุณไหม ซึ่งส่วนใหญ่นอกจากเรื่องระบบแสงและเสียงแล้ว ยังมีโซฟา โต๊ะตัวกลางที่ประธานต้องนั่ง แต่เรื่องนี้ถามอย่างเดียวไม่ได้นะคะ ต้องขอดูด้วย เพราะบางที่มีให้แต่เก่ามากสภาพไม่ไหวก็ตัดใจเอาของใหม่เข้าไปใช้เถอะค่ะ

2 เข้ามาตกแต่งได้เมื่อไหร่และมีกฎอะไรบ้าง : ในกรณีที่คุณมีทีมไปตกแต่งสถานที่ ต้องถามเรื่องนี้ด้วย เพื่อคุณจะได้นำข้อมูลไปกำหนดเวลาการทำงานของทีมตกแต่ง รวมถึงแจ้งข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ต้องระวังไงคะ

3 สามารถทำอาหารในบริเวณที่จัดงานหรือไม่ : ถ้าเจ้าภาพอยากมีกิจกรรมเรื่องการกินประเภทปิ้งๆ ย่างๆ แทรกเข้าไปเพื่อสร้างบรรยากาศของงาน (โดยเฉพาะงานแต่งงานในสวนหรือริมทะเล) อย่าคิดเอาเองว่าไม่ได้อยู่ในห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมก็น่าจะทำได้ เพราะบางทีบาร์บีคิวกับเตาไฟฟ้าก็อาจก่อให้เกิดค่าปรับหลักหมื่นได้ ถ้าคุณไม่เช็คให้ดีๆ

4 มีเจ้าหน้าที่คอยอยู่อำนวยความสะดวกและประสานงานกี่คน : การที่คุณเช่าสถานที่ไม่ได้หมายความว่า คุณจะเป็นผู้ถือกุญแจห้องเปิดเข้าไปแล้วจัดการทุกอย่าง ดังนั้นอย่าลืมถามถึงเจ้าหน้าที่ประจำสถานที่ที่คุณเลือกด้วย เพราะในยามที่คุณไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนหรือมีเหตุฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่เหล่านี้คือคนที่จะตอบได้ โดยจำนวนเจ้าหน้าที่ควรมีทุกจุดจำเป็น เช่น ระบบไฟ ระบบเสียง แม่บ้าน ยาม พนักงานช่วยเสิร์ฟ ฯลฯ

5 มีคนใช้สถานที่นั้นก่อนและหลังงานของคุณในวันนั้นหรือไม่ : เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการขนของเข้าออกในห้องจัดเลี้ยงค่ะ (หรือเรียกว่าการเทิร์นห้องค่ะ) เพราะถ้ามีคนใช้ห้องนั้นก่อนงานของคุณ ต้องเช็คให้ชัวร์ว่าออกไปเวลาไหน เพื่อคำนวณเวลาการเตรียมสถานที่ในงานของคุณ และในกรณีที่มีคนต่อคิวใช้ห้อง คุณก็ต้องรู้ว่า จะต้องเข้มงวดเรื่องการส่งแขกให้หมดตอนไหน เพื่อไม่ให้งานของคุณไปกระทบกระเทือนงานของใครไงคะ

6 ห้องน้ำอยู่ตรงไหนบ้างและเพียงพอไหม : เชิญแขกมาเป็นร้อยจะมีแค่ห้องน้ำชายหญิงอย่างละห้องคงไม่ไหวแน่ๆ อย่าลืมเช็คให้ชัวร์ว่าจำนวนห้องน้ำ พอดีกับแขกไหม แล้วคุณรับได้หรือเปล่า หากว่าไม่เพียงพอแต่ชอบที่นี่มากๆ จะได้หาทางแก้ไขได้ถูกจุด

7 มีงานแต่งงานในวันเดียวกันกับห้องอื่นหรือเปล่า : บางสถานที่มีห้องจัดเลี้ยงมากกว่า 1 ห้อง และรับจัดงานแต่งงานในฤกษ์ดีพร้อมกัน การที่แขกจะมาผิดงานเป็นไปได้สูง ไหนจะเรื่องการแบ่งสรรปันที่จอดรถอีก ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องถามนะคะ

8 มีที่จอดรถให้แขกทั้งหมดกี่ที่ : เช็คให้แน่ใจว่าสถานที่แห่งนั้นมีที่จอดรถอำนวยความสะดวกให้แขกมากน้อยแค่ไหน มีกี่ลานจอด หรือกี่อาคาร เพราะบางสถานที่แม้ที่จอดรถจะดูน้อยแต่มีพื้นที่สำรองที่สามารถนำรถไปจอดได้แล้วมีรถกอล์ฟขับรับส่งแขกให้ แบบนั้นคุณโอเคไหมล่ะ

9 หากฝนตกมีพื้นที่สำรองเป็นแผนสองตรงไหนบ้าง : ตามหัวข้อเลยค่ะ ถ้าคุณจัดงานแต่งงานเอาท์ดอร์แล้วฝนหลงฤดูดันมาเยือนอย่างไม่ทันตั้งตัว ทางสถานที่ดังกล่าวมีพื้นที่ตรงไหนรองรับแขกหรือเป็นพื้นที่สำรองไว้หลบฝนหรือไม่ แล้วสถานที่นั้นรองรับแขกของคุณได้ทั้งหมดหรือเปล่า ที่สำคัญอยู่ไกลกับจุดจัดงานแค่ไหน

10 มีไมโครโฟนกี่ตัวและระบบเครื่องเสียงเป็นยังไงบ้าง : ใช่ว่าทุกสถานที่จะมีไมโครโฟนให้คุณครบจำนวนที่ต้องการเสมอไปนะคะ บางทีมีแค่ไมโครโฟน 2 ตัว ที่เวลาใช้ต้องโยนสลับกันตามจังหวะ หรือแม้แต่บางทีมีเครื่องเสียงให้แต่จำกัดประสิทธิภาพการใช้งาน ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องถามเพื่อนำมาแมตซ์กับลำดับงานที่วางไว้ไงคะ

11 เสียงดังได้มากน้อยแค่ไหน : แม้เรื่องนี้จะดูไม่น่าถาม แต่มีมาแล้วที่การนำเครื่องเสียงเข้าไปเพิ่มความสนุกของบ่าวสาวทำให้ระดับเสียงในงานดังกว่ามาตรฐานปกติที่ทางสถานที่เคยจัดงาน ดังนั้นเรื่องนี้ถามกันไว้ก็ไม่เสียหายนะคะ

12 มีค่าธรรมเนียมในการนำเข้าอยู่ที่เท่าไหร่ : ส่วนใหญ่ที่ต้องเสียงค่านำเข้าจะเป็นพวกซุ้มอาหาร วงดนตรีหรือดอกไม้ค่ะ แต่ราคาอาจไม่เท่ากันนะคะ ฉะนั้นต้องถามค่ะ เพราะคนจ่ายคือคุณไม่ใช่คนที่คุณจ้างเข้ามา

13 มียุงหรือแมลงอะไรบ้างไหม : คำถามนี้ลืมไม่ได้เชียวนะคะถ้าคิดจะจัดงานแต่งงานริมทะเลหรือในสวน ถามไว้เลยจะได้เตรียมอุปกรณ์กันแมลงไว้เผื่อแขกทุกคน

14 ค่าปรับในกรณีทำข้าวของเสียหายอันเกิดจากอะไรก็ตามแต่ : จะเป็นแขกเมา เจ้าบ่าวอ้วก หรือแม้แต่งานโครงสร้างทำพรมหรือกำแพงในห้องจัดเลี้ยงเสียหาย ก็ต้องมีการจ่ายเงินค่าปรับทั้งนั้น ว่าแล้วก็ลิสต์ราคาค่าปรับกันซะหน่อย จะได้ช่วยกันระวังว่าราคาค่าเสียหายไม่ใช้ร้อยสองร้อยนะจ้ะ เอาเป็นว่ารู้ราคาไว้จะได้หวั่นๆ แล้วหาทางป้องกันมากขึ้นดีกว่านะคะ

15 คืนห้องได้ช้าสุดตอนไหน : เข้าใจคำว่าติดลมนะคะ เพราะเดี๋ยวนี้หลังเสร็จพิธีการก็ต่อด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้ทั้งนั้น แต่อย่าลืมค่ะว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฉะนั้นแล้วเช็คไว้เลยค่ะว่าคุณจะต้องส่งห้องคืนเมื่อไหร่ และถ้าคืนช้าจะโดนปรับไหม ราคาเท่าไหร่

 อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่จัดงานแต่งงาน สถานที่ฮันนีมูน พร้อมคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : pexels.com

เทรนด์ชุดแต่งงานปี 2020 จัดเต็มพร้อมให้เจ้าสาวสวยเด่นก่อนใคร

ก่อนหน้านี้แฟชั่นโชว์ชุดแต่งงานจากรันเวย์ต่างๆ ได้ปล่อยคอลเล็กชั่นใหม่ออกมาแบบจัดเต็มทำเอาว่าที่เจ้าสาวตาลุกวาวเพราะมีลูกเล่นใหม่ๆ บนชุดแต่งงานมาอัพเดทเป็นไอเดียเพิ่มเติมอยู่เสมอ และแน่นอนว่าช่วงปลายปีแบบนี้เจ้าสาวสายแฟชั่นทั้งหลายต่างก็รอคอยเทรน์ชุดแต่งงานในปีหน้าว่าจะมีอะไรใหม่ๆ มาให้อัพเดทอีก และนี่คือ เทรนด์ชุดแต่งงานปี 2020 ที่จะช่วยให้เจ้าสาวที่มีแพลนแต่งปีหน้าสวยเด่นอัพเดทก่อนใครไปเลย

ก่อนหน้านี้ลูกเล่นบนชุดแต่งงานมีทั้งโบ, ชุดแต่งงานเฉดสีต่างๆ, ชุดแต่งงานแบบกางเกง และชุดแต่งงานประดับดอกไม้ ซึ่งเทรนด์เหล่านี้ก็จะยังไม่ได้หายไปไหนเรายังจะได้เห็นอีกในปี 2020 แต่ที่จะมีเพิ่มเติมมาเขย่าหัวใจเจ้าสาวในปีหน้านั้นบอกเลยว่าสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นกิมมิกอย่าง ขนนก, กระเป๋า และผีเสื้อ!

เอาเป็นว่าก่อนที่เจ้าสาวจะเข้าร้านไปเลือกชุดแต่งงาน แพรวเวดดิ้งอยากให้ลองมาอัพเดท 9 เทรนด์ชุดแต่งงานปี 2020 นี้ดูก่อน

ชุดแต่งงานแบบเปลือยหลัง

ว่าที่เจ้าสาวที่ไม่มั่นใจหากจะต้องโชว์ความเซ็กซี่ผ่านชุดแต่งงานสไตล์คอวีเว้าลึก ในปี 2020 นี้เขาเลยมีเทรนด์ชุดแต่งงานแบบเปลือยหลังมาให้แล้วจ้า แถมเป็นเปลือยหลังแบบวีเนคไปอีก เรียกได้ว่าเจ้าสาวขี้อายไม่มั่นใจก็สามารถเผยความเซ็กซี่ผ่านชุดแต่งงานสไตล์นี้ได้ แถมยังเป็นดีไซน์ที่ดูแล้วเก๋ไก๋แฝงความโรแมนติกอยู่ไม่น้อยอีกด้วย

ชุดแต่งงานแบบผ่าหน้า

ที่ผ่านมาเราอาจได้เห็นชุดแต่งงานแบบผ่าหน้ากันมาแล้ว และในปีหน้าเราก็จะได้เห็นชุดแต่งงานสไตล์นี้อีก แต่จะมีความเซ็กซี่มากกว่าเดิม เพราะชุดแต่งงานแบบผ่าหน้าในปี 2020 จะเซ็กซี่ขั้นสุดกันไปเลย เพราะจะโชว์เรียวขาในระดับที่สูงกว่ากระโปรงแบบมินิสเกิร์ต! ผ่านรูปแบบชุดแต่งงานที่มีความยาวในระดับ floor-length (ยาวระพื้น)

ชุดแต่งงานแบบคอร์เซต

เทรนด์ความเซ็กซี่ยังคงมาอย่างต่อเนื่อง กับชุดแต่งงานแบบคอร์เซตที่ช่วงบนมีดีไซน์คล้ายกับชุดชั้นสตรี บอกเลยว่าลุคนี้ถึงจะดูแล้วมีความเซ็กซี่มากโข แต่ถ้าแมตช์ช่วงบนสไตล์นี้เข้ากับกระโปรงทรงบอกกาวน์ที่มีความหวานแหววแล้วล่ะก็ ว่าที่เจ้าสาวขี้อายทั้งหลายก็ใส่ชุดแต่งงานสไตล์นี้ได้แบบสบายๆ ไปเลย

ผีเสื้อบนชุดแต่งงาน

ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดแน่นอน ปีที่แล้วเราได้เห็นดอกไม้บนชุดแต่งงานมาแล้ว แต่ในปี 2020 เราจะได้เห็นผีเสื้อบนชุดแต่งงานกันไปเลย ซึ่งกิมมิกนี้จะพาเจ้าสาวย้อนกลับไปสู่เทรนด์แฟชั่นในยุค 90s ซึ่งเป็นแฟชั่นสไตล์เรเนซองส์ที่มีความโรแมนติกมาก

ชุดแต่งงานแบบมีกระเป๋า

ในปี 2020 เจ้าสาวจะหมดปัญหาคอยเรียกเพื่อนมาเติมลิปสติกกันแล้ว เพราะเทรนด์ชุดแต่งงานปีหน้าจะมีกระเป๋าซ่อนอยู่บนชุดแต่งงานด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสไตล์ชุดแต่งงานที่มีทั้งความสวยงามและมีประโยชน์ด้วยในตัวเดียว แถมเจ้าสาวยังโพสท่าล้วงกระเป๋าเท่ๆ ได้ด้วยน้า

ชุดแต่งงานแบบเปิดไหล่ดีไซน์แขนพองฟู

ชุดแต่งงานแบบเปิดไหล่เป็นสไตล์ชุดแต่งงานสุดคลาสสิคที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอ และในทุกซีซั่นเหล่าดีไซเนอร์ก็มักจะเพิ่มความเก๋ให้กับชุดแต่งงานสไตล์นี้เช่นกัน เช่นเดียวกับในปี 2020 ที่ดีไซเนอร์แบรนด์ต่างๆ ได้ขนไอเดียมาเพิ่มเพื่อเป็นกิมมิกให้กับชุดแต่งงานแบบเปิดไหล่ให้เจ้าสาวต้องร้องว้าว โดยได้หยิบเอาเทรนด์ในยุค 80s กับดีไซน์แขนพองฟูมาแมตช์กับชุดแต่งงานแบบเปิดไหล่ที่ได้ลุคน่ารักสุดๆ ไปเลย

เข็มขัด

แอสเซสซอรี่ที่พักหลังๆ เราเริ่มเห็นบนรันเวย์เจ้าสาวมากขึ้น เป็นไอเท็มที่จะช่วยเสริมช่วงเอวของเจ้าสาวให้ดูโดดเด่นมากเป็นพิเศษ

กระโปรงประดับขนนก

ขนนกเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่ไม่เคยหายไปบนชุดแต่งงาน แต่ในปีหน้าขนนกจะถูกนำไปประดับอยู่บนกระโปรงหรือช่วงปลายกระโปรงมากกว่าที่จะประดับอยู่ทั้งชุด

ชุดแต่งงานสีบลัช

ชุดแต่งงานสีบลัชอาจจะดูไม่ได้เป็นเทรนด์ใหม่มากเท่าไหร่ เพราะเฉดสีนี้ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชุดแต่งงานที่เจ้าสาวหลายคนให้ความนิยมไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเหล่าดีไซเนอร์ก็ยังพยายามทำให้ชุดแต่งงานสไตล์นี้ดูมีความสวยงามมากกว่าเดิมในทุกๆ ปี เพื่อเป็นทางเลือกให้กับเจ้าสาวที่ไม่อยากใส่ชุดแต่งงานสีขาวแบบเดิมๆ ซึ่งลูกเล่นที่เราจะได้เห็นและน่าใส่ตามก็มีทั้ง กระโปรงแบบรัฟเฟิล หรือผ้าทูลล์ไล่เฉดสีแบบออมเบร เป็นต้น

ต่างหูดอกไม้โอเวอร์ไซส์

ก่อนหน้านี้ดอกไม้เคยอยู่บนชุดแต่งงาน แต่ในปีหน้าดอกไม้จะกลายมาเป็นแอสเซสซอรี่สำหรับเจ้าสาวจ้า กับแฟชั่นต่างหูดอกไม้แบบโอเวอร์ไซส์ ที่ให้ลุคเจ้าสาวดูทันสมัยขึ้น จะใส่ข้างเดียวหรือจัดเต็มทั้งสองข้างก็ขึ้นอยู่กับความมั่นใจและสไตล์ชุดแต่งงานที่เจ้าสาวเลือกเลย

CR. brides.com

ผมเจ้าสาว ใครว่าต้องสีธรรมชาติเสมอไป? มาดูกันว่าถ้าอยากเป็นเจ้าสาวผมสีแซ่บต้องทำยังไง?

เจ้าสาวสีผมสุดแซ่บมีกรี้ด เพราะไม่ต้องย้อม ผมเจ้าสาว เป็นสีธรรมชาติ เราก็มีเคล็ดลับให้ลุคและงานแต่งของคุณออกมาดูสวยชิคอินเทรนด์ ต้องทำยังไงบ้าง มาอ่านกันค่ะ

เดี๋ยวนี้เทรนด์สีผมสุดแซ่บกำลังอิน หันไปทางไหนก็มีแต่สาวๆ ทำสีผมจี๊ดๆ กันทั้งนั้น แต่พอพูดถึงว่ากำลังจะแต่งงาน ว่าที่เจ้าสาวหลายคนต้องจำใจย้อมผมกลับเป็นสีธรรมชาติโดยอัตโนมัติ แล้วเราจะเป็นเจ้าสาวที่แหกกฏ มีสีผมสุดจี๊ดกับเค้าบ้างไม่ได้เหรอ? ได้สิคะ! ถ้าผู้ใหญ่ไฟเขียว ว่าที่สามีไฟเขียว ไหนๆวันแต่งงานก็เป็นวันของเราทั้งที เราอยากให้ว่าที่เจ้าสาวมั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็นค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าถ้าคิดจะเป็นเจ้าสาวในสีผมสุดแซ่บ ต้องแมทช์ยังไงให้งานออกมาดูเก๋เว่อร์จนเพื่อนๆ อิจฉา

ชุดไทยเก็บไว้ก่อน งานนี้ต้องกับชุดเจ้าสาวแบบสากลเท่านั้น

เพราะสีผมแปลกตายังไงก็แมทช์กับชุดไทยไม่รอดแน่ๆ แถมงานพิธีไทยที่เน้นผู้ใหญ่ยังดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรนะเราว่า ถ้างานพิธีไทย และงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของคุณเจ้าสาวดันเป็นวันเดียวกัน สามารถใช้สเปรย์ย้อมผมแบบชั่วคราว (บอกช่างทำผมของคุณได้ค่ะ) ย้อมให้เป็นสีที่เรียบร้อยก่อนสำหรับช่วงพิธีเช้า แล้วค่อยล้างออก เผยสีผมสุดแซ่บของเราในงานเลี้ยงฉลองเย็นค่ะ

ผมเจ้าสาว
Photo: greenweddingshoes.com

ใช้สีผมให้กลายเป็นสีธีมงานซะเลย!

เอ้า! ไหนๆก็ทำสีผมมาซะสวย ใช้สีผมเป็นสีธีมงานแต่งซะเลยค่ะ (อันนี้ว่าที่เจ้าสาวอาจจะต้องวางแผนล่วงหน้านิดนึง ตั้งแต่การ์ด สีดอกไม้ ไปจนถึงสีเสื้อผ้าเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว) ดูอย่างงานในภาพเป็นตัวอย่างได้ค่ะ เราอาจจะใช้สีธีมงานที่เป็นไปในทางเดียวกันกับสีผมของเราเพื่อให้งานออกมาดูกลมกลืนสวยงาม หรือใช้คู่สีตัดกันเพื่อยิ่งดึงให้สีผมเราดูโดดเด่นขึ้นไปอีกก็ได้ (เช่น สีผมสีส้ม ตัดกับธีมงานสีน้ำเงินหรือฟ้า)

ผมเจ้าสาว
photo: greenweddingshoes.com

จับคู่กับชุดเจ้าสาวสไตล์เรียบเท่ ดีเทลน้อยๆ ลูกไม้ไม่เยอะ

เพราะเมื่อสีผมของเราโดดเด่นแล้ว เราไม่ควรเอาดีเทลชุดเจ้าสาวที่เยอะอลังการมาแย่งความเด่นของสีผมและยังเป็นการช่วยเบรคให้ลุครวมๆดูแล้วกำลังพอดีไม่เว่อร์วังเกินไปค่ะ ไหนๆสีผมก็อินเทรนด์แล้ว ลองชุดเจ้าสาวแบบฉีกกฏ เช่น ชุดเจ้าสาวแบบกางเกง หรือ ชุดเจ้าสาวแบบกระโปรงสั้น ดูสิคะ รับรองว่าคุณจะกลายเป็นเจ้าสาวสุดเปรี้ยวแห่งยุคที่เป็น talk of the town เลยละ

ผมเจ้าสาว
Photo: IG @bec_essery_photographer

ใช้ดอกไม้สดประดับผมให้เป็นประโยชน์

ที่เราแนะนำให้ใช้ดอกไม้สดประดับผมมากกว่าเทียร่าหรือเครื่องประดับผมชนิดประดิษฐ์แบบอื่นๆ เพราะดอกไม้สดจะช่วยเบรคความแรงของสีผมคุณให้ดูละมุนขึ้นได้ ในขณะที่เทียร่าหรือเครื่องประดับผมชนิดประดิษฐ์จะทำให้ลุคผมของคุณดูแข็งและดูเยอะเกินงาม แถมดอกไม้สดในคู่สีที่ช่วยส่งให้สีผมของเราดูโดดเด่นจะยิ่งทำให้ลุคโดยรวมของเราดูเก๋มีสไตล์ประดุจเจ้าสาวจาก Pinterest เลยทีเดียวค่ะ

ผมเจ้าสาว
photo: Instagram @confettimagazine, @stvandcompany

ว่าที่เจ้าสาวคนไหนอยากทำผมสีเปรี้ยวๆ แล้วยกมือค่ะ! ใครที่ตัดสินใจจะเป็นเจ้าสาวผมสีแซ่บในวันแต่งงานของคุณ ก็อย่าลืมส่งรูปสวยๆมาให้เราดูให้ชื่นใจกันบ้างนะคะ

credit story: buzzfeed.com

เทคนิคการจัดผังที่นั่งงานแต่งงานฉบับพร้อมใช้แบบแฮปปี้ทั้งงาน

ขึ้นชื่อว่างานแต่งงานย่อมเต็มไปด้วยรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ น้อยๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการจัดงาน อย่างเช่นเรื่อง จัดผังที่นั่งงานแต่งงาน สำหรับแขกที่มาร่วมงาน หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องหยุมหยิม เพราะคิดว่าเมื่อแขกเข้ามาก็คงหาที่นั่งกันได้เอง นั่นอาจไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องเสียทั้งหมด เพราะถ้าขาดระบบการจัดการที่ดีก็อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น วันนี้ แพรว wedding จึงรวบรวมเทคนิคดีๆในการจัดที่นั่งสำหรับแขกที่มาร่วมงานแต่งให้ไม่เกิดปัญหามาฝากกันค่ะ ใครสนใจก็นำไปใช้กันได้เล้ยยย 😉

  • เริ่มต้นวางแผนอย่างรวดเร็ว

การวางแผนเรื่องที่นั่งสำหรับแขกไม่ใช่สิ่งที่ควรวางแผนในช่วงนาทีสุดท้าย การวางแผนเรื่องที่นั่งสำหรับแขกควรเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่ได้รับการตอบรับการมาร่วมงานจากแขกที่เชิญ คู่บ่าวสาวควรเริ่มต้นคุยกันและปรึกษากับผู้ช่วยคนอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมในเรื่องการวางแผนงานแต่งงานให้ช่วยจัดการในเรื่องนี้ได้ การเริ่มต้นวางแผนเร็วจะช่วยลดความเครียดในการจัดที่นั่งสำหรับแขกที่มาร่วมงานให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย

  • แบ่งแขกฝั่งเจ้าบ่าวแล้วเจ้าสาว

การแบ่งแยกที่นั่งสำหรับแขกของฝั่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะช่วยทำให้การจัดที่นั่งสำหรับแขกง่ายขึ้นแล้วหลังจากนั้นค่อยมาตัดสินใจทีหลังว่าที่นั่งตรงไหนจะเป็นที่นั่งสำหรับครอบครัวและเพื่อนของเจ้าบ่าวเจ้าสาว

  • ขอความช่วยเหลือบ้างก็ได้

คู่แต่งงานไม่ควรลังเลในการถามถึงความช่วยเหลือจากครอบครัวสำหรับแนวทางในการจัดที่นั่งสำหรับแขก เพื่อที่จะได้รู้ว่าที่นั่งตรงไหนเหมาะกับแขกคนไหนไม่ว่าจะเป็นญาติสนิทหรือญาติห่างๆ หรือที่นั่งตรงไหนเหมาะสำหรับญาติผู้สูงอายุที่ควรจะนั่ง เป็นต้น

  • กำหนดโต๊ะไม่ใช่ที่นั่ง

เจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ควรเพิ่มงานให้ตัวเองด้วยการจัดเตรียมเก้าอี้นั่งสำหรับแขกในทุกๆ โต๊ะ ควรจะจัดเตรียมเลขที่นั่งโต๊ะสำหรับแขกที่มาร่วมในงานเท่านั้นแล้วให้แขกเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะเลือกนั่งที่เก้าอี้ตัวไหนใกล้กับใคร

  • จัดกลุ่มแขกตามความสัมพันธ์

การจัดกลุ่มแขกโดยยึดหลักความสัมพันธ์ อย่างเช่นการจัดที่นั่งสำหรับเพื่อนร่วมงานโต๊ะหนึ่ง เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยโต๊ะหนึ่ง คุณลุงคุณป้านั่งด้วยกันโต๊ะหนึ่ง ในขณะที่ลูกพี่ลูกน้องสามารถนั่งร่วมกันได้อีกโต๊ะหนึ่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การจัดที่นั่งสำหรับแขกโดยปราศจากคิดมากเกินไป

  • จัดที่นั่งสำหรับกลุ่มคนอายุน้อยไว้ใกล้พื้นที่เต้น

ควรจัดกลุ่มคนที่มีอายุน้อยอย่างกลุ่มเพื่อนหรือบรรดาลูกพี่ลูกน้อง ให้นั่งใกล้พื้นที่เต้นซึ่งพวกเขาจะได้ใช้เวลามากกว่าแขกสูงอายุ และไม่ควรจัดที่นั่งให้คุณปู่คุณย่า คุณลุงคุณป้าหรือกลุ่มแขกสูงอายุนั่งใกล้สิ่งบันเทิงต่างๆ มากจนเกินไป เพราะแขกผู้สูงอายุเหล่านี้มักใช้เวลาส่วนใหญ่ในงานอยู่ที่โต๊ะของตัวเองและไม่ต้องการจะมาตะโกนคุยกันเหนือเสียงเพลงเพื่อคุยกับแขกคนอื่นที่นั่งใกล้เคียง

  • อย่าจัดที่นั่งให้แขกที่ไม่ถูกกันนั่งใกล้กัน

การจัดที่นั่งให้แขกที่ไม่ถูกกันนั่งใกล้กันเพราะอาจจะกลายเป็นเรื่องที่สร้างความเจ็บปวดได้ ดังนั้นควรจัดให้เพื่อนหรือญาติที่อาจไม่ถูกกันให้นั่งแยกห่างออกจากกันไปเพื่อให้งานแต่งงานผ่านไปอย่างราบรื่นและหวังว่าพวกเพื่อนหรือญาติที่ไม่ถูกกันเหล่านี้จะประพฤติตัวให้งานแต่งงานผ่านไปโดยปราศจากการสร้างปัญหา

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

cr : popsugar.com.au, shefinds.com

กำลังเป็นอยู่หรือไม่นะ! กับ Bridechilla อาการเจ้าสาวสุดชิลที่ต้องระวัง

บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินว่าเจ้าสาวคนนั้นคนนี้เครียดเรื่องเตรียมงานแต่งจนออกอาการ Bridezilla แต่วันนี้เราขอนำเสนอเจ้าสาวพันธุ์ใหม่ Bridechilla เรียกได้ว่าแทบจะเป็นขั้วตรงข้ามกันเลยทีเดียว เธอจะเป็นยังไง เราจะพาไปรู้จักกันค่ะ

“Bridechilla” เป็นคำที่ใช้เรียกเจ้าสาวที่ “ใจเย็นมาก” “ผ่อนคลายมาก” และที่สำคัญคือ “ชิลมาก!” แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่อยากให้วันสำคัญออกมาไม่ดีนะคะ จริงๆ แล้วเธอก็เหมือนเจ้าสาวทั่วไปที่อยากมีความสุขที่สุดในวันวิวาห์ แต่ทว่าความชิลล์ของเธอนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุทำให้คนรอบข้างต้องปวดหัวไปตามๆ กัน!

Bridechilla นั้นเหมือนจะเป็นเจ้าสาวที่แสนดี ไม่ขี้โวยวาย ไม่จู้จี้จุกจิก แต่ความจริงคือเธอจะลังเล ตัดสินใจไม่เด็ดขาด และไม่กล้าออกความเห็น จนกลายเป็นว่ายอมทำอะไรตามใจคนรอบข้างเสมอ อย่างเช่น ถ้าเพื่อนเจ้าสาวถามว่า “เธอจะใส่รองเท้าสีขาว สีทอง หรือสีนู้ด?” เธอจะตอบว่า “เธอคิดว่าคู่ไหนสวยล่ะ เอาคู่นั้นก็ได้จ้ะ” และมักจะได้คำตอบคล้ายๆ กันนี้กับทุกคำถาม ซึ่งทำให้เพื่อนเจ้าสาวหรือคนรอบข้างที่อาสามาช่วยงานออกอาการสับสน งงงวย อาจถึงขั้นรำคาญว่า “เอ๊ะ เธอจะเอายังไงกันแน่ นี่งานแต่งเธอนะจ๊ะ ตัดสินใจเองหน่อยไหมล่ะ แม่คุณ!” ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ เข้า กว่าจะถึงวันงานคงต้องถอนหายใจกันเป็นล้านรอบ เหนื่อยตายพอดี!

เอาล่ะค่ะ เจ้าสาวคนไหนที่เริ่มรู้ตัวว่ามีอาการตามที่ว่านี้ พึงระลึกไว้ได้เลยว่าคุณกำลังจะกลายเป็น Bridechilla ที่สร้างภาระให้กับใครหลายคน ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องเริ่มคิดและตัดสินใจอะไรเองบ้าง แสดงความคิดเห็นในสิ่งที่คุณต้องการ บอกออกไปว่าสิ่งไหนที่คุณชอบและสิ่งไหนที่ไม่ชอบ คิดไว้เสมอว่าการเสนอความคิดของคุณนั้นไม่ได้ทำให้คุณกลายเป็น Bridezilla แต่มันคือการแชร์ไอเดียสำหรับวันสำคัญที่จะสะท้อนความเป็นตัวตนของคุณและคนรัก จงเปิดใจพูดกับคนรอบข้างว่าอะไรคือสิ่งที่คุณอยากให้มีในวันสมรสของคุณ พร้อมกับรับฟังความคิดเห็นจากพวกเขา แต่สุดท้ายแล้ว ก็มีเพียงคุณเท่านั้นที่เป็นคนตัดสินใจ

การเป็น Bridechilla นั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ควรเป็นให้พอดี อย่าได้ชิลล์เกินไปจนทำให้คนรอบข้างหนักใจ และอย่ากลัวที่จะบอกให้ชัดเจนว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการ เพราะวันนั้นคือวันสำคัญสำหรับชีวิตคุณ ลุยให้เต็มที่ แต่อย่าให้ถึงกับกลายร่างเป็น Bridezilla แล้วกัน

อ่านคำแนะนำและไอเดียดีๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรียบเรียง : www.love.ly
ภาพ : www.jetmag.com, www.live.huffingpost.com, www.flickr.com

5 เรื่องต้องรู้ก่อนปรับขนาดแหวนให้พอดีนิ้ว

ว่าที่บ่าวสาวบางคู่รับมรดกแหวนแต่งงานจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้เกิดปัญหาเรื่องขนาดแหวนที่ไม่พอดีนิ้ว หรือบางคู่ที่แต่งงานไปแล้ว อยู่ๆ แหวนแต่งงานที่เคยใส่ได้แบบพอดิบพอดีกลับหลวมไปบ้างล่ะ คับไปบ้างล่ะ ทีนี้ก็เดือดร้อนต้องไป ปรับขนาดแหวน ให้กลับมาใส่ได้แบบพอดีนิ้ว แต่ก่อนที่จะปรับขนาด แพรว wedding อยากให้คุณรู้ 5 เรื่องต่อไปนี้ไว้ก่อน

 

 ปรับขนาดแหวน

  • ตัวเรือนแหวนแบบไหนปรับขนาดได้

            ตัวเรือนที่ทำจากเงิน ทองคำขาว ทองคำ ทองชมพูและแพลทตินัมสามารถปรับขนาดได้  แต่ถ้าเป็นตัวเรือนทังสเตนและไทเทเนี่ยม (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแหวนเจ้าบ่าว) ไม่สามารถขยายขนาดได้เพราะมีความแข็งและทนความร้อนได้สูง จึงยากที่จะทำการตัดเพื่อเพิ่มหรือลดขนาด

  • แหวนใหญ่ปรับเล็กได้ไม่ยาก

การปรับขนาดแหวนจากใหญ่มาเล็กจะทำได้ง่ายกว่าการปรับแหวนเล็กมาใหญ่ เพราะเป็นการตัดตัวเรือนออกแล้วเชื่อมติดกันอีกครั้ง โดยอาจเชื่อมด้วยน้ำประสานทองเป่าไฟหรือยิงเลเซอร์ก็เนียนสวยเหมือนกัน  แต่ชิ้นส่วนที่ตัดออกไปนั้น แม้จะไม่สามารถนำมาทำแหวนเพิ่มขนาดได้ แต่นำไปหล่อพระได้ค่ะ

  • แหวนเล็กทำให้ใหญ่ทำยากกว่าแต่ก็ทำได้

แน่นอนว่าเมื่อแหวนที่คุณใส่อยู่มีขนาดเล็กกว่านิ้วในขณะนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือขนายแหวนให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งไม่ใช่การนำแหวนมายืดให้ใหญ่ขึ้น เพราะแบบนั้นตัวเรือนจะบางลงจากเดิม เสี่ยงต่อการผิดรูปทรงและมีผลต่อการสวมใส่ที่หากโดนกระแทกก็มีแววตัวเรือนไม่เหมือนเดิมแต่เป็นการเติมวัสดุทำตัวเรือนเพิ่มเข้าไป เพื่อให้ได้ขนาดแหวนที่ใหญ่ขึ้นในความหนาและแข็งแรงเท่าเดิม

  • ใช้เวลาปรับขนาดนานไหม

ถ้าถามว่าต้องถึงขนาดว่าทิ้งแหวนไว้ข้ามวันเลยไหม บอกตรงนี้เลยว่าไม่ค่ะ ถ้าเลือกการปรับขนาดด้วยการยิงเลเซอร์นั่งรอไปสักชั่วโมงนึงก็ได้แหวนมาใส่แล้วค่ะ แต่ถ้าใช้การเลื่อยตัดตัวเรือนแบบวิธีดั้งเดิม

  • ราคาการปรับขนาดแหวนอยู่ที่เท่าไหร่

ราคาค่าแรงในการปรับขนาดแหวนจะเริ่มต้นที่ 200 บาท ซึ่งถ้าคุณลดขนาดแหวนเพียงอย่างเดียวก็จบแค่ค่าแรงค่ะ แต่ถ้าขยายขนาดละก็ต้องเพิ่มราคาวัสดุตัวเรือนเข้าไป ซึ่งในที่นี่ คุณแพท จากร้าน Vijittra’s Jewellery ให้ความรู้กับแพรว wedding ว่า ราคาจะปรับขึ้นตามขนาดแหวน โดยเริ่มต้นที่ 150 บาทต่อไซส์ค่ะ

ดูไอเดียแหวนแต่งงานและเครื่องประดับ พร้อมคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติม คลิกเลย!

เรื่อง : hoyamemoria
ภาพ : bullmastif.info

สตูดิโอถ่ายภาพ KIRIN snap X labs STUDIO 4 สไตล์ในที่เดียวพร้อมของตกแต่งจัดเต็ม

สำหรับว่าที่บ่าวสาวที่กำลังหาสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในรูปแบบ สตูดิโอถ่ายภาพ แพรวเวดดิ้งมีสถานที่ดีๆ มานำเสนอ ที่งานนี้ว่าที่บ่าวสาวแค่ขนชุดมาก็สามารถถ่ายภาพได้เลยกับที่ KIRIN snap X labs STUDIO ซึ่งมีทั้งหมด 4 สตูดิโอด้วยกัน แถมแต่ละสตูดิโอยังเน้นการได้รับแสงจากธรรมชาติทั้งหมด รับรองว่างานนี้ว่าที่บ่าวสาวได้ภาพสวยไปโชว์หน้างานแน่นอน

KIRIN snap X labs STUDIO มีสตูดิโอทั้งหมด 5 สตูดิโอคือ 
1. สตูใหญ่ newyorker, blue velvet
2. สตูใหญ่ rooftop
3. สตูเล็ก outdoor, craftman
4. สตูเล็ก stay pink
5. สตูเล็ก all white, urban green

– NEWYORKER, BLUE VELVET

 

 

จำลองบรรยากาศห้องสตูดิโอของอพาร์ทเมนท์ขนาดใหญ่สไตล์นิวยอร์ค มีเพดานเป็นฝ้าสูง และการจัดวางแบบ open plan โดยจะมีโซนที่นอน ห้องนั่งเล่นสีขาวล้วน และมีไฮไลท์อยู่ที่อ่างอาบน้ำ ซึ่งการตกแต่งจะมีการโชว์ผนังปูนเดิมผสมกับฉากไม้สีซีด และโครงบันไดเหล็กขึ้นไปชั้นลอย อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยลวดลายของพรมและวัสดุผ้าต่างๆ ให้บรรยากาศความเป็นปารีเซียงมากเวอร์

– OUTDOOR & CRAFTMAN

 

เป็นบรรยากาศแบบมุมห้องนั่งเล่น และห้องทำงาน ภายในห้องนี้จะเป็น Glass House ตกแต่งสไตล์โบฮีเมียน ผสมงานช่างได้ฟีลความอาร์ตสุดๆ พร้อมผนังสไตล์มินิมอล มีดีเทลของผนังที่สร้างความแปลกใหม่ด้วยกำแพงขาวและพื้นหินอ่อนลายก้างปลา

ROOFTOP CLASSY สตูดิโอใหญ่

เป็นพื้นที่โซน Rooftop โดดเด่นด้วยฝ้าจั่วสีขาวเกลี้ยง หลังคาสูง พร้อมมุมเปียโนและมุมนั่งเล่น ซึ่งห้องนี้มีไฮไลต์อยู่ที่แสงแดด โซนที่นอนจะได้รับแสงแดดนวลๆ ทั้งวัน และฝั่งเตาผิงจะได้รับแสงนวลในตอนเช้า และในช่วงบ่ายจะมีแสงแดดจัดพาดที่ผนังให้อารมณ์ที่แตกต่างออกไป

ALL WHITE/GREEN URBAN สตูดิโอเล็ก

– All White

เป็นห้องสีขาวล้วน ทั้งพื้น ผนัง และเพดานจะได้รับแสงธรรมชาติทั้งวัน เป็นแสงแบบนวลตาให้อารมณ์โรแมนติก

– Green Urban

ห้องที่ตกแต่งด้วยสีเขียวไข่กาทั้งห้อง ประกอบไปด้วยชุดเก้าอี้วินเทจหลายชุดที่ดูเข้ากัน ให้อารมณ์ทันสมัยดูเก๋ไก๋สุดๆ

STAY PINK สตูดิโอเล็ก

เป็นห้องที่จำลองให้เหมือนห้องพักสตูดิโอ ตกแต่งด้วยสีชมพูพาสเทล ภายในห้องมีทั้งมุมห้องนอน มุมโต๊ะแต่งหน้า มุมโต๊ะทานอาหาร และห้องทำงาน

สิ่งอำนวยความสะดวกที่ KIRIN snap X labs STUDIO

  • ห้องแต่งตัว ประกอบไปด้วย ชุดโต๊ะแต่งหน้า ห้องเปลี่ยนเสื้อ ห้องน้ำ ราวแขวนผ้า เตารีดไอน้ำ (กรุณาแจ้งล่วงหน้าหากต้องการใช้) และน้ำดื่มฟรี
  • ที่จอดรถ
  • Free Wifi

เงื่อนไขการเข้าใช้บริการสตูดิโอ KIRIN snap X labs STUDIO

  • หากมีการถ่ายวิดีโอ หรือใช้ไฟเพิ่มเกิน 1,000 วัตต์ กรุณาแจ้งล่วงหน้า อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • ทางสตูดิโอขอความร่วมมือในการไม่นำสัตว์เลี้ยง น้ำ เครื่องดื่ม เข้าไปในสตูดิโอ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
  • สามารถนำของว่างและเครื่องดื่มมาทานได้ที่บริเวณห้องแต่งตัว

เรทราคา

ว่าที่บ่าวสาวที่อยากได้ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งแบบธรรมชาติในบรรยากาศสวยๆ หลายสไตล์ ก็เตรียมหาชุดให้เข้ากับห้องสตูดิโอแบบต่างๆ แล้วจูงมือกันมาถ่ายภาพโลด

KIRIN snap X labs STUDIO
ไลน์ : @KIRINsnapxlabs

ไอจี : KIRINsnapxlabs
เฟซบุ๊ก : KIRINsnapxlabs
โทร. 089-497-8328

ขอขอบคุณภาพตัวอย่าง PRE-WEDDING จาก
– ร้านเช่าชุด STYLE STATEMENT (www.stylestatementofficial.com)

– ร้านแว่นตา GLAZZIQ (www.glazziq.com)
– ช่างภาพ SMALLMOONPHOTO (www.smallmoonphoto.com)
– ช่างภาพ FB PAGE : NoteWannasin โทร 080-551-0772
– ช่างภาพ FB PAGE : ¼ second โทร 085-999-5018

เคล็ดลับในการรีดชุดแต่งงานเองที่ทำได้ไม่เห็นยากอย่างที่คิด

เจ้าสาวคนสวยทุกคน คงไม่อยากให้ ชุดแต่งงาน สุดสวยของคุณดูยับและไม่พร้อมสำหรับวันงานสำคัญ หลายๆ คนคิดว่าการ รีดชุดแต่งงานเอง เป็นเรื่องลำบากและยุ่งยากและเสี่ยงจะทำชุดพังไปอีก ทีนี้ล่ะเรื่องใหญ่ของจริง แต่สำหรับว่าที่เจ้าสาวสายแม่บ้านแม่เรือนที่ทำงานอะไรแบบนี้อยู่เป็นประจำแล้ว เราว่าไม่ยากเกินความสามารถคุณแน่นอนค่ะ แค่ใช้อุปกรณ์และเทคนิคให้ถูกวิธี ดังนั้นวันนี้ แพรว wedding  จึงมีเคล็ดลับในการรีดชุดแต่งงานด้วยตัวเองมาฝากกันค่ะ

 

  • ไดร์เป่าผม

คุณสามารถใช้ไดร์เป่าผมช่วยทำให้ชุดเรียบได้ เหมาะสำหรับชุดที่มีเนื้อผ้าบางเบา เพียงคุณใช้ไดร์เป่าผมเปิดลมให้เบาสุด แล้วค่อยๆไล่เป่าไปตามเนื้อผ้า แต่ระวังอย่าเป่าใกล้ผ้ามากเกินไป เพราะอาจจะเกิดการผิดพลาดและทำลายเนื้อผ้าของคุณได้

  • เครื่องทำน้ำอุ่นช่วยคุณได้

หากชุดของคุณไม่ได้ยับมากจนเกินไป เพียงแขวนชุดไว้ในห้องน้ำ และเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นให้ร้อนสุดๆ ความร้อนจากไอน้ำในห้องน้ำจะช่วยทำให้ชุดของคุณเรียบขึ้นได้ แต่วิธีการนี้ไม่เหมาะกับชุดที่ซับซ้อนหลายชั้นหรือยับมาก เพราะอาจจะเรียบได้ไม่ทั่วถึงค่ะ

  • เครื่องรีดผ้าไอน้ำ

เครื่องรีดผ้าไอน้ำสามารถรีดเนื้อผ้าได้เกือบทุกชนิด อีกทั้งยังไม่ทำลายเนื้อผ้า เพียงคุณค่อยๆไล่หัวของเครื่องรีดผ้าไปตามชุดสวยของคุณ โดยเริ่มจากส่วนช่วงบนก่อน และถ้าส่วนกระโปรงมีหลายชั้น ให้เริ่มรีดจากด้านในออกมาด้านนอก และอย่าใช้อุณหภูมิที่แรงเกินไป

ข้อควรระวังในการรีดชุดแต่งงานด้วยตัวเอง คือต้องดูที่เนื้อผ้าของชุดแต่งงานของคุณ ว่าเป็นผ้าชนิดใด เพราะผ้าบางประเภท เช่น ผ้าไหม หรือผ้าลูกไม้นั้นต้องใช้ความระมัดระวังในการดูแลเป็นอย่างมาก ถ้าไม่มั่นใจว่าจะสามารถดูแลด้วยตัวเองได้ การปรึกษามืออาชีพ เช่น ร้านรับซักชุดแต่งงาน ก็เป็นการช่วยถนอมชุดแต่งงานสุดสวยของคุณให้สวยพร้อมในวันงานสำคัญได้เช่นกันค่ะ

ดูไอเดียและคำแนะนำเกี่ยวกับชุดแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย!

cr : marthastewartweddings.com

ทำเถอะ! 5 เรื่องดีๆ ที่จะทำให้แหวนแต่งงานคงสภาพสวยปิ๊งตลอดกาล

ต่อให้ แหวนแต่งงาน ของคุณจะราคาไม่แรงแตะหลักล้าน แต่แพรว wedding เชื่อว่า คุณค่าของแหวนวงนี้มหาศาลกว่าแหวนวงไหน แล้วทำไมไม่ดูแลรักษาแหวนแต่งงานวงนี้ให้สวยปิ๊งเหมือนวันแรกที่ได้สวมละคะ อ่ะๆ ถ้าคุณบอกว่า ไม่รู้จะทำยังไง มาค่ะ อ่านตรงนี้แล้วทำซะ แล้วแหวนแต่งงานของคุณจะอยู่คู่กับคุณในสภาพเดิมที่ประกายเพชรไม่จางหายไปไหนอย่างแน่นอน

 

  • พยายามอย่าสัมผัสหัวแหวน

เราคงห้ามไม่ให้คุณลูบๆ คลำๆ แหวนวงงามที่เขาคนนั้นสวมให้คุณไม่ได้ ยิ่งช่วงที่เพิ่งได้สวมกันสดๆ ร้อยทั้งร้อยของสาวๆ เป็นห้ามใจไม่ได้ต้องทั้งลูบทั้งมองและแอบจุ๊บๆ หัวแหวนบ่อยๆ แต่ขอบอกว่า ทำให้น้อยลงสักนิดก็ดีนะคะ เพราะคราบสกปรกจากมือ รอยลิปมันลิปสติกบนริมฝีปากหรือแม้แต่ครีมทามือที่คุณทาไว้จะเปลี่ยนมาอยู่บนหัวแหวนแทนนะสิคะ ยิ่งถ้าคุณไม่ใช่คนที่ชอบทำความสะอาดแหวนตัวแล้วละก็ คราบสกปรกจะสะสมที่หัวแหวน บ่อยครั้งเข้าความหมองก็เกิดน่ะสิ

  • ระวังอย่าให้โดนสารเคมี

อย่าคิดไปไกลว่าเราจะหมายถึงคุณต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์เข้าห้องทำการทดลองถึงจะมีสารเคมีกระเด็นมาโดนหัวแหวน แต่ที่เราพูดถึงตอนนี้คือ พวกน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า น้ำยาถูพื้น ฯลฯ ที่คุณแม่บ้านคนเก่งอย่างคุณอาจเผลอเรอทำงานบ้านจนลืมถอดแหวนออกก่อน พอโดนสารเคมีเหล่านั้นไปที ทองที่ชุบบนตัวเรือนก็จะทำปฏิกริยากันทันที ผลก็คือ ตัวเรือนซีดบ้างล่ะ ลอกบ้างล่ะ ฉะนั้นระวังให้ดี ก่อนที่ต้องเสียเงินไปชุบใหม่นะคะ

  • ถอดแหวนทุกครั้งที่จะเล่นกีฬา

การเล่นกีฬาทั้งๆ ที่ยังสวมแหวนอยู่ โดยเฉพาะแหวนแต่งงานที่หัวแหวนชูออกมา เสี่ยงอันตรายสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นแหวนหลุดออกจากนิ้วโดยไม่รู้ตัว ตัวเรือนของแหวนกระทบหรือกระแทกกับอุปกรณ์กีฬาจนบิดผิดรูป รวมถึงหนามเตยไปเกี่ยวเอาเสื้อผ้าจนทำให้เพชรที่หัวแหวนหลุดออกไปโดยไม่รู้ตัว ล้วนก่อให้เกิดความเสียหายกับแหวนแต่งงานได้ทั้งนั้น

แหวนแต่งงาน

  • ทำความสะอาดแหวนซะบ้าง

ไม่ว่าคุณจะสวมแหวนวงนี้ติดตัวหรือนานๆ ใส่ที ก็ต้องมีช่วงเวลาของการนำแหวนออกมาทำความสะอาดนะคะ เพราะทั้งฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ตามจุดต่างๆ ในตัวเรือน หรือแอบซ่อนตามซอกเล็กซอกน้อยจะได้หลุดออกมา และทำให้แหวนแต่งงานของคุณส่องประกายสวยงามได้เสมอ ซึ่งการทำความสะอาดก็ไม่ยาก แค่น้ำอุณหภูมิปกติผสมน้ำยาล้างจานนิดหน่อย แล้วใช้แปรงขนอ่อนๆ เส้นเล็กๆ มาขัด จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด ใช้ผ้าซับให้แห้งก็เสร็จภารกิจคลีนนิ่งแหวนแต่งงานแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าไม่มีเวลาหรือกลัวทำผิด ก็ส่งร้านจิวเวลรี่ที่มีบริการทำความสะอาดแหวนก็ได้นะคะ

  • ส่งให้ช่างเช็คสภาพปีละหน

ข้อนี้หลายคู่มองข้าม เพราะคิดว่าแค่ใส่อยู่บนนิ้ว จะต้องมาเช็คสภาพอะไร บอกตรงนี้เลยนะคะว่า หนามเตยบนตัวเรือนชิ้นเล็กมาก ช่างผู้ชำนาญถึงต้องเอากล้องส่องขยายเวลาทำแหวนไงละคะ แล้วแบบนี้คุณจะรู้ได้ยังไงว่า หนามเตยที่มียังแข็งแรง เพชรทุกเม็ดยังฝังแน่น รวมถึงตัวเรือนยังแข็งแรงทั้งวงไหม แล้วแบบนี้ ทำไมไม่เอาแหวนไปให้ทางร้านเช็คสภาพบ้างล่ะคะ

ดูไอเดียแหวนแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรื่อง : Hoyamemoria
ภาพ : maxpixel

วงดนตรีในงานแต่ง อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่บ่าวสาวต้องให้ความสำคัญ

มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าดนตรีสำคัญกับงานแต่งงานอย่างไร เพื่อจะได้ตั้งหลักเลือก วงดนตรีในงานแต่ง อย่างถูกต้อง

  • ดนตรีในช่วงพิธีการ มักจะใช้เพลงบรรเลง หรือมีนักร้องเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกมากขึ้นในช่วงการเปิดตัวบ่าว – สาว ตัดเค้ก ดื่มอวยพร และโยนช่อดอกไม้
  • ดนตรีช่วงหลังพิธีการหรืออาฟเตอร์ปาร์ตี้ อาจใช้วงดนตรีแบบเต็มวงก็ได้ แต่ถ้าอยากแด๊นซ์แบบจัดหนักก็ต้องเป็นดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์สนุก ๆโดยมีดีเจเปิดแผ่น หรือคู่ไหนที่อยากชิลก็อาจเลือกวงอะคูสติกที่ฟังง่ายและสามารถโยกตามได้

แล้วจะเลือกวงดนตรีแบบไหนดี 

  • เครื่องดนตรี ให้บ่าวสาวลองนึกถึงเครื่องดนตรีหรือเสียงของเครื่องดนตรีที่ชอบ และควรเลือกให้เหมาะกับธีมงานจะดีที่สุด
  • สไตล์เพลง เลือกสไตล์เพลงที่ชอบและตกลงกันให้ดีว่าจะเลือกเพลงแนวไหนให้เข้ากับงานมากที่สุด จากนั้นลองลิสต์รายชิ่อเพลงที่ชอบหรือเพลงพิเศษที่อยากให้วงดนตรีเล่นเพื่อจะได้เลือกรูปแบบวงดนตรีได้ถูกต้อง

สิ่งที่ควรนำมาพิจารณาเพิ่มเติม ในการเลือกวงดนตรีหรือแนวเพลง

  • ความเป็นมืออาชีพ ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานทำให้วงดนตรีทราบถึงลำดับพิธีการ จึงสามารถเลือกเพลงที่เหมาะสมและเล่นได้หลากหลายแนว ที่สำคัญคือ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้และมีความรับ-ผิดชอบ
  • งบประมาณ เป็นสิ่งสำคัญที่บ่าว – สาวต้องคิดถึงเป็นอันดับแรก ๆ เพราะค่าใช้จ่ายมักจะขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของวงดนตรีที่เลือก
  • จำนวนแขก ถ้าแขกมีจำนวนไม่มากนักอาจเลือกวงดนตรีขนาดเล็กเพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย
  • ลักษณะแขกที่มาร่วมงาน เพื่อให้บ่าว – สาวเลือกแนวเพลงให้เหมาะสมเช่น ถ้าจัดงานในหมู่เพื่อนฝูงอาจเลือกเป็นเพลงแด๊นซ์เพื่อ ความสนุกสนาน แต่ถ้าเป็นแขกผู้ใหญ่ เพลงแจ๊ซหรือคลาสสิกอาจจะเวิร์คที่สุดเพื่อความสบายหู
  • สถานที่ การจัดงานแต่งงานในโรงแรมสุดหรูกับงานสไตล์เอ๊าต์ดอร์ วงดนตรีและแนวเพลงก็อาจจะต้องแตกต่างกันเพื่อ ให้เข้ากับสถานที่
  • ระบบเสียงของสถานที่จัดงาน ควรเช็คให้เรียบร้อยว่าต้องนำอุปกรณ์มาติดตั้งเพิ่มเติมหรือไม่
  • ขนาดของห้องจัดเลี้ยง หากห้องจัดเลี้ยงมีขนาดเล็ก แต่เลือกวงดนตรีวงใหญ่จัดเต็มมาเล่นในงาน ก็อาจจะกลายเป็นงานแสดงดนตรีไปได้

10  คำถามที่บ่าวสาวอย่าลืมถามวงดนตรี

1. สไตล์โดดเด่นของวงดนตรี และแนวเพลงที่ถนัด 

เพื่อให้เพลงและงานออกมาในทิศทางเดียวกัน

2. วงดนตรีสามารถเล่นเพลงที่บ่าว – สาวขอหรือเพลงป็อปทั่วไปได้หรือไม่? 

หากบ่าว – สาวมีเพลงประทับใจที่อยากให้วงดนตรีเล่นในวันสำคัญ ให้แจ้งกับวงล่วงหน้าเพื่อนักดนตรีจะได้ไปฝึกซ้อม ที่สำคัญถามด้วยว่าขอพิเศษแบบนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือไม่ นอกจากนี้หากทางวงสามารถเล่นเพลงป็อปทั่วไปได้ด้วยก็ถือว่าน่าสนใจ เผื่อมีแขกในงานรีเควสต์ก็จะช่วยสร้างอารมณ์ร่วมได้ดี

3. ตกลงเรื่องพื้นที่การแสดงของวงดนตรีและเช็กว่ามีเครื่องขยายเสียงมาด้วยหรือไม่?

ที่ตั้งของวงดนตรีภายในงานส่งผลต่อเรื่องของเสียงเพลงที่จะดังก้องไปทั่วงาน เพราะฉะนั้นต้องปรึกษากับวงดนตรีว่าพื้นที่ตรงไหนเหมาะสมที่สุด และอย่าลืม!! สอบถามเรื่องเครื่องขยายเสียงว่าทางวงจะเป็นคนเตรียมมาหรือจะยกหน้าที่นี้ให้คุณจัดการ

4. มีนักดนตรีทั้งหมดกี่คนและมีนักร้องหรือไม่?

เพื่อจะได้จัดสรรพื้นที่ในงานให้วงดนตรีได้ถูก หากมีนักร้องด้วยควรสอบถามเรื่องอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมเพิ่มเติมให้ชัดเจน เช่น ไมโครโฟนต้องใช้กี่ตัว ใครเป็นฝ่ายเตรียม

5.วงดนตรีต้องการแสงหรือสเปเชียลเอฟเฟ็กต์อื่น ๆ ขณะเล่นหรือไม่?

นอกจากเสียงเพลงที่จะสร้างสีสันในงานแต่งงานแล้วแสงสีและสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ เช่น ฟ็อกกี้ก็สามารถช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูโรแมนติกได้ไม่น้อย ถ้าจะมีต้องนัดแนะคิวให้ชัดเจน จะได้ไม่พลาดในนาทีสำคัญ

6.บุคคลที่จะมาเซตอัพอุปกรณ์ก่อนงานเริ่ม

ในวันงานควรมีคนในวงดนตรีมาเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนแขกจะมาถึง บ่าว – สาวจึงควรสอบถามชื่อและเบอร์ติดต่อไว้ เพื่อผู้ดูแลสถานที่จะได้ประสานงานได้สะดวก

7. ในแพ็คเกจสามารถเล่นได้กี่ชั่วโมง?

วงดนตรีบางวงอาจมีข้อจำกัดเรื่องเวลาการเล่น หรือใน 1 วันอาจรับงาน 2 – 3 คิว จึงควรตกลงเวลากันให้ดี นอกจากนี้ต้องสอบถามให้ชัดเจนว่าจะพักช่วงไหนและกี่นาที หรือหากงานล่าช้าเกินเวลาที่ตกลงไว้จะอยู่ต่อให้ได้หรือไม่และจะคิดค่าใช้จ่ายเท่าไร ขอแนะนำให้จัดอาหารให้นักดนตรีด้วยจะได้มีแรงเล่นจนจบงาน

8.นักดนตรีจะใส่ชุดอะไรมาร่วมงาน?

ถ้าหากคุณเชิญวงดนตรีระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แต่หากต้องการให้นักดนตรีแต่งกายเป็นพิเศษเพื่อให้เข้ากับธีมงานของคุณก็ต้องแจ้งล่วงหน้า เช่น ชุดทักซีโด หรือชุดตามธีมสี

9. ถ้าเกิดต้องเลื่อนหรือยกเลิกงานจะมีการดำเนินการอย่างไร?

หากเกิดเหตุขัดข้องต้องเปลี่ยนวันหรือขอยกเลิกการจ้าง ต้องจ่ายค่าเสียหายหรือไม่อย่างไร

10.ประสบการณ์การเล่นดนตรีในงานแต่งงาน

เพราะวงดนตรีที่มีประสบการณ์เล่นในงานแต่งจะมีความเชี่ยวชาญและมีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว จึงแนะนำให้บ่าว – สาวลองสืบดูจากการเขียนรีวิวในอินเทอร์เน็ต หรือสอบถามจากบ่าว – สาวที่เคยใช้บริการดูก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจ

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ pexels.com

เบลล่า ราณี กับ เซตเครื่องประดับ เจ้าสาวสุดเพอร์เฟ็กต์ เป๊ะเข้ากับทุกชุดแต่งงาน

สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่ไม่อยากให้เนื้อตัวดูโล่งเกินไปในวันแต่งงาน แพรวเวดดิ้งขอแนะนำให้เลือก เซตเครื่องประดับ มาช่วยเสริมความงาม โดยเฉพาะเครื่องประดับแบบเข้าเซตทั้ง ต่างหู สร้อยคอ และแหวนเพชร ที่มีดีไซน์ที่เข้ากันและเข้ากับชุดแต่งงานและบุคลิกของเจ้าสาว อย่างเช่น เครื่องประดับเพชรจากร้าน Vijittra’s Jewellery ที่ เบลล่า ใส่ถ่ายแฟชั่นชุดแต่งงานสวยๆ ในนิตยสารแพรวเวดดิ้ง ฉบับเดือนตุลาคม 2562 นี้ ดูแล้วรับรองว่าเจ้าสาวจะได้แรงบันดาลใจดีๆ เพื่อนำไปเลือกเครื่องประดับให้เข้ากับชุดและตัวเองได้แน่นอน

ชุดแต่งงานแบบเกาะอก เป็นทรงเนคไลน์สุดคลาสสิคที่เจ้าสาวหลายคนนิยมสวมใส่ และเป็นทรงเนคไลน์ที่ช่วยดึงสายตาไปยังรอยยิ้มของเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นจึงควรแมตช์เนคไลน์สไตล์นี้กับสร้อยคอแบบสั้น หรือ ต่างหูแบบแชนเดอเลีย

สิ่งแรกที่เจ้าสาวควรจะต้องคำนึงถึงก่อนเลือกเครื่องประดับคือ อย่าใส่อะไรที่ใหญ่เกินความจำเป็น เพราะยิ่งเครื่องประดับชิ้นใหญ่เท่าไหร่ก็จะยิ่งขโมยความสวยจากลุคเจ้าสาวไปเท่านั้น ฉะนั้น “น้อยแต่มาก” คือดีที่สุด เพราะความสวยและมีเสน่ห์อยู่ที่รอยยิ้มสดใสเป็นธรรมชาติและมีความสุขของเจ้าสาวต่างหาก

เครื่องประดับที่เหมาะกับชุดแต่งงานสีขาวจะต้องออกแนวน่ารักๆ ให้เหมาะกับสีขาวของชุด อย่างเช่น เครื่องประดับเพชรแบบเข้าเซตดีไซน์เรียบง่ายที่ดูเข้ากัน

ดูแบบเครื่องประดับเพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

เครื่องประดับเพชรจาก Vijittra’s Jewellery
โทร. 06-1614-5096
ไลน์ : @Vijittra
ชั้น 3 เซ็นทรัล ลาดพร้าว โทร. 0-2103-4008
ชั้น 1 ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต โทร. 0-2958-0598
ชั้น 1 เจ.เจ.มอลล์ โทร. 0-2265-9618
ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางกะปิ โทร. 0-2363-3044
ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางแค โทร. 0-2454-9159
ชั้น 2 แฟชั่นไอส์แลนด์ โทร. 0-2116-4889เสื้

5 เทคนิคช่วยว่าที่เจ้าสาวเลือกชุดแต่งงานราคาประหยัดแต่ใส่แล้วดูแพง

แพรว wedding เชื่อว่ายังมีเจ้าสาวอีกหลายคนที่คิดว่า ชุดแต่งงานไม่ต้องแพงมากก็ได้ เพราะใส่แค่ไม่กี่ชั่วโมง จึงตั้งงบประมาณไว้ไม่มาก ประมาณว่าพอให้สมเหตุสมผลเพื่อจัดสรรเงินไปลงกับเรื่องอื่นๆ แทน ซึ่งความคิดนี้ไม่ผิดนะคะ แต่สิ่งที่คุณควรระวังคือ ต้องเลือกชุดอย่างมีสติและพิจารณาในรายละเอียดให้ดี เพราะถ้าพลาดไปเนี่ย ชุดแต่งงานราคาประหยัด ของคุณจะโชว์ความถูกให้ชาวบ้านเห็นแบบที่เรียกกว่า ลุคชีฟ ทันที ส่วนถ้าจะเลือกยังไงให้ดูดี เรามีเทคนิคมาให้ลองทำตาม

เลือกชุดขาวเหมือนเดิมแต่ไม่ต้องขาวโอโม่

อย่าลืมว่าสีขาวก็มีเฉดเหมือนกันนะคะ จะเป็นขาวเว่อร์วัง ขาวมุก หรือขาวงาช้าง เรียกว่าสารพัดขาวเลยค่ะ แต่การเลือกใส่สีขาวที่ขาวผ่องมากไปกับชุดราคาถูกนั้น เชื่อได้เลยว่าคุณจะไม่ได้รับชุดเจ้าสาวสีขาวจากเนื้อผ้าเกรดเออย่างแน่นอน ฉะนั้นสิ่งที่ควรทำคือเลี่ยงความเสี่ยงที่จะให้สีขาวแบบที่ดูไม่หรูมาทำลายลุคของคุณไงคะ

วัสดุตกแต่งไม่ต้องเยอะ

ที่เตือนว่าอย่าเลือกชุดที่ใช้วัสดุตกแต่งเยอะก็เพราะการเป็นชุดราคาถูกส่วนใหญ่ต้นทุนการผลิตไม่ได้มากนัก ฉะนั้นผู้ผลิตชุดมักจะไม่ลงทุนกับสิ่งที่จะนำมาตกแต่งเท่าไหร่นัก (แหม…จะขายของถูกก็ต้องคุมต้นทุนให้ต่ำไว้จริงไหมล่ะคะ) จึงไม่แปลกที่ชุดนี้ของคุณจะคาดหวังวัสดุที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพอย่างคริสตัลสวาลอฟสกี้ไม่ค่อยได้  ฉะนั้นการที่คุณประโคมใส่ลูกปัดปลอมๆ ลงไป จึงไม่เป็นการดีเท่าที่ควร เพราะมองด้วยตาก็รู้ทันทีว่าชีฟมากกกก

เนื้อผ้าเงาวับยิ่งทำให้ดูแย่

อย่างที่บอกว่าเนื้อผ้าช่วยทำให้ภาพรวมของชุดดูดีและดูดับได้พอๆ กัน การเลือกใช้เนื้อผ้าเงาวับไม่ได้หมายถึงคุณได้เลือกผ้าเนื้อพิเศษมาตัดเย็บชุดหรอกนะคะ เพราะของแบบนี้หลายคนดูออกว่าความเงาที่ว่านั้นเกิดจากเทคนิคพิเศษหรือการเคลือบด้วยสารเคมีเพื่อเลียนแบบของแพง แล้วแบบนี้คุณจะเสี่ยงเลือกเนื้อผ้าเงาวับให้มาขัดตาขัดใจไปทำไม

เลือกชุดไม่เซ็กซี่ อย่าโชว์เกิน

หัวข้อนี้เกี่ยวเนื่องไปในเรื่องของการตัดเย็บที่หลายคนอาจมองข้าม และคิดว่าไม่เห็นเป็นไรถ้าคิดจะเลือกชุดราคาถูกที่ให้อารมณ์เซ็กซี่ แต่คุณอย่าลืมนะคะว่า ชุดดีๆ คัตติ้งเนี้ยบๆ ให้ลุคเซ็กซี่แบบมีคลาสราคาไม่แพงหาได้ค่อนข้างยาก ส่วนใหญ่ชุดราคาถูกจะไม่ค่อยใส่ใจกับการตัดเย็บ แล้วคุณจะมั่นใจได้อย่างไรคะว่า ชุดเซ็กซี่ราคาถูกของคุณจะดูดีมีระดับอย่างที่หวัง ฉะนั้นละก็ อย่าเสี่ยงถ้าไม่มั่นใจนะคะ เพราะเกิดใส่ๆ ไปตะเข็บหลังหลุดเพราะเย็บไม่แน่นจบเลยนะคะ

เลือกกิมมิคแค่อย่างเดียว

ความไม่เยอะคือเรื่องที่ดีสำหรับชุดแต่งงานที่ราคาไม่ถูกนะคะ คุณจึงควรเน้นไปเลยว่าจะโชว์การจับจีบตรงช่วงเอวแบบสุดฝีมือช่าง หรือจะเอาลูกไม้ทำมือประดับที่ช่วงอก เพราะการใส่รายละเอียดที่มากเกินไปนอกจากจะทำให้ดูล้นๆ แล้ว เราอยากให้คุณย้อนกลับไปอ่าน 4 หัวข้อก่อนหน้าประกอบค่ะ คือถ้าเยอะแยะแล้วคัตติ้งไม่เนี้ยบ วัสดุไม่ดี สีขาวแบบไม่มีคลาสหรือใช้ผ้าเงาเกิน กิมมิคสารพัดที่ใส่จะดึงภาพชุดแต่งงานในฝันให้ดำดิ่งสุดชีพได้ทันทีไงละคะ

ดูไอเดียชุดแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!