ห้ามลืม! 7 ค่าใช้จ่ายงานแต่งแบบยิบย่อยในวันแต่งงานที่บ่าวสาวอาจไม่ทันได้เตรียม

หลายคู่แต่งงานอาจจะให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษสำหรับการตั้งงบประมาณสำหรับวันแต่งงาน แต่ในความเป็นจริงก็มักมี ค่าใช้จ่ายงานแต่ง ยิบย่อยที่อาจคาดไม่ถึงเพิ่มเติมเข้ามาได้อีก แต่จะมีอะไรบ้างที่มองข้ามกันไป เริ่มไปเช็คกันเลยค่ะ

1. ค่าไปรษณีย์

คู่แต่งงานหลายคู่อาจคิดหนักในการเลือกวันที่แต่งงานและบัตรเชิญสำหรับงานแต่งงาน แต่มักลืมเรื่องการจัดส่งจดหมายเหล่านี้แก่แขกที่ต้องการเชิญมาร่วมงาน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจำนวนแขกที่ต้องเชิญมาร่วมงานด้วยเหมือนกัน เพราะถ้ายิ่งเชิญแขกมาร่วมงานมากก็ยิ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดส่งมากขึ้น และไม่ควรลืมจดหมายตอบกลับของแขกที่จะสามารถมาร่วมงานได้หรือไม่เพราะจดหมายตอบกลับเหล่านี้ก็ต้องการค่าแสตมป์สำหรับการจัดส่งกลับด้วยเหมือนกัน

2. อุปกรณ์เครื่องเขียนและกระดาษ

คู่แต่งงานต้องการงบประมาณสำหรับค่ากระดาษหรือค่าอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ สำหรับบัตรเชิญ รายการอาหาร กำหนดการในงานแต่งงาน หรือจดหมายขอบคุณ ซึ่งแม้เป็นค่าใช้จ่ายที่ดูเหมือนไม่สำคัญและมักถูกมองข้ามแต่ก็คือค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้นมากถ้าจำนวนแขกที่มาร่วมงานมีจำนวนมาก

3. เกินเวลา

เวลาทำงานของผู้ที่ว่าจ้างมาให้บริการในงานแต่งงานมักจะถูกกำหนดไว้เป็นเวลาที่ตายตัว (อย่างผู้ให้ความบันเทิงและช่างภาพ) ดังนั้นถ้างานแต่งงานเกิดเกินกว่าเวลาที่คาดการณ์ไว้ ค่าล่วงเวลาอาจจะถูกคิดเงินเพิ่มด้วย ดังนั้นคู่แต่งงานควรพยายามอ่านสัญญาว่าจ้างก่อนเซ็นให้รอบคอบเสียก่อนว่าจะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มมามากแค่ไหน ถ้าหากงานเกิดเกินกว่าเวลาที่กำหนดและพยายามวางแผนการจัดงานแต่งงานทั้งงานให้อยู่ในตารางเวลาเพื่อไม่ให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

4. ค่าเช่า

การเช่าสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ จะขึ้นอยู่กับสถานที่แต่งงานด้วย คู่แต่งงานอาจนำโต๊ะ เก้าอี้ แก้วน้ำ หรือสิ่งอื่นๆ มาเองถ้าไม่ต้องการเช่าจากสถานที่จัดงานแต่งงาน และถึงแม้คู่แต่งงานไม่ได้เช่า แต่ค่าการขนส่งสิ่งของที่จำเป็นเหล่านี้มาในงานแต่งงานก็มีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมเข้ามาด้วยเช่นเดียวกัน

5. ค่าตัดเค้กและค่าเปิดขวด

คู่แต่งงานบางคู่อาจนำเค้กและไวน์มาเอง แต่สิ่งเหล่านี้ก็สามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายได้เพราะพนักงานที่ให้บริการในงานแต่งงานจะต้องมีหน้าที่ในการตัดเค้กและเสิร์ฟแก่แขกรวมถึงการคอยเปิดจุกขวดไวน์เพื่อบริการให้แก่แขกที่มาในงาน ซึ่งเป็นการเพิ่มงานให้กับพนักงานเหล่านี้ จึงต้องมีค่าใช้พิเศษเพิ่มขึ้นด้วย

6. ค่าพักโรงแรม

คู่แต่งงานที่จัดงานแต่งงานนอกสถานที่อาจต้องเดินทางไปถึงสถานที่จัดงานแต่งงานก่อนงานแต่งงานและต้องเช่าสถานที่หรือห้องสำหรับพักอาศัยไม่ว่าจะเป็นของตัวคู่แต่งงานเองหรือแขกที่จะมาร่วมงาน ดังนั้นจึงเป็นค่าใช้จ่ายที่ควรจัดเตรียมเอาไว้

7. แผนการสำรอง

การจัดงานแต่งงานกลางแจ้ง คู่แต่งงานจำเป็นต้องมีแผนการสำรองอย่างเช่น การที่สภาพอากาศเกิดเปลี่ยนแปลงกะทันหัน และทางสถานที่แต่งงานไม่มีตัวอาคารที่สำหรับจัดงานแต่งงานสำรองเอาไว้ คู่แต่งงานอาจต้องมองหาเต็นท์สำรอง หรือเครื่องทำความร้อนสำหรับถ้าเกิดสภาพอากาศเกิดเปลี่ยนแปลงเป็นหนาวเฉียบพลันขึ้นมากะทันหัน

อ่านคำแนะนำและดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติมได้อีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

Cr. marthastewartweddings.com , shefinds.com

เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในวันแต่งงานที่ว่าที่บ่าวสาวต้องบอกแขกให้รู้

แค่บ่าวสาวส่งการ์ดเชิญให้กับแขกไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะจบแค่นั้น เพราะจริงๆ แล้วยังมีอีกหลายเรื่องที่แขกอยากรู้จากคุณ เพื่อจะได้เตรียมตัวไปร่วมงานแต่งใน วันแต่งงาน ได้แบบไม่ขาดตกบกพร่อง และที่สำคัญไม่เป็นตัวประหลาดในงาน ฉะนั้นบ่าวสาวทั้งหลายตั้งใจอ่าน แล้วรีเช็คดูสิว่า ข้อมูลที่แขกอยากรู้จากคุณเหล่านี้ คุณได้แจ้งให้แขกรู้หรือยัง

 

  • สีและสไตล์ชุดควรเป็นแบบไหน

ย้ำกันอยู่หลายครั้งว่าในการ์ดเชิญควรมีรายละเอียดของเรื่องโทนสีและสไตล์ชุดสำหรับไปร่วมงานให้กับแขกหรือที่เราเรียกกันว่า Dress Code นั่นแหละ เพราะแขกจะได้ไม่ต้องคิดเองจนปวดหัว เพราะบางทีคิดไปแล้วก็พลาดกันเพียบ ธีมสีชมพูแต่ใส่น้ำเงินท้องน้ำทะเลลึกเลยอะไรแบบนี้ เรื่องสีและสไตล์ชุดจึงเป็นเรื่องที่แขกเหรื่อ (โดยเฉพาะสาวๆ) อยากรู้กันมากเป้นอันดับหนึ่ง

ส่วนหนุ่มๆ แม่จะหยิบสูทใส่ใส่ก็จบ แต่เวลาเลือกเสื้อเชิ้ตด้านในหรือแม้แต่เนคไทด์ก้ต้องอิงอาศัยข้อมูลนี้เหมือนกันนะจ้ะ

  • จอดรถได้ที่ไหน

เรื่องนี้สำคัญมากกับยุครถยนต์ล้นถนนแบบนี้ เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่แขกอยากรู้จากว่าที่บ่าวสาวทั้งหลาย เพราะถ้ารู้ว่าจอดรถได้ที่ไหน จะได้กะเวลาออกจากบ้านถูก (เผื่อเวลารถติด++) รวมถึงเลือกเส้นทางการขับขี่เพื่อให้ได้ไปถึงสถานที่จัดงานและจอดรถได้ถูกจุดตามที่เจ้าภาพจัดเตรียมไว้

  • ปาร์ตี้และกิจกรรมอื่นๆ ในงาน

ปกติงานแต่งงานจะมีก็พิธีเช้าและงานฉลอง แต่สำหรับยุคนี้มีตั้งแต่ปาร์ตี้สละโสด อาฟเตอร์ปาร์ตี้หลังงานฉลอง โอ๊ย…สารพัดแล้วแบบนี้แขกจะไม่อยากรู้เพื่อเตรียมตัวก่อนล่วงหน้าได้ยังไง ซึ่งเหตุที่ต้องเตรียมตัวก่อนล่วงหน้าเพราะถ้างานสนุกมากอาจมีเมาจนขับรถไม่ได้ แขกก็ต้องเตรียมตัวหาที่นอนล่วงหน้า ไหนจะต้องแพลนว่าจะเอารถไปดีไหมหรือเรียกแท็กซี่ดี ก็แหม…งานมงคลแบบนี้มันต้องสุดๆ ไปเลย

  • รับซองและของขวัญแน่นะ

มีหลายงานที่บ่าวสาวมีเจตจำนงค์ที่จะไม่รับซอง ไม่เอาของขวัญ แต่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าอย่างทั่วถึง ขอเพียงแขกมาร่วมยินดีก็พอ ทีนี้พอแขกไม่รู้ก็วิ่งหากล่องใส่ซองกันให้วุ่น เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แขกอยากรู้เพื่อจะได้เตรียมตัวถูก

อ่านคำแนะนำและดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

ภาพ : claraganey.com

เช็กนิสัยเพื่อนเจ้าสาวแต่ละราศี ให้พร้อมรับหน้าที่สำคัญในวันแต่งงาน

ว่าที่เจ้าสาวที่กำลังหัวหมุนกับการเตรียมงานแต่ง และอยากจะมอบหมายกระจายหน้าที่ให้แก๊งเพื่อนสาวเข้ามาช่วยเสริมทัพ ซึ่งแน่นอนว่าสาวๆ ในแก๊ง เพื่อนเจ้าสาว ก็ต่างบุคลิกต่างสไตล์กันออกไป และนี่คือวิธีรับมือ กับเพื่อนเจ้าสาวแต่ละราศีที่ทั้งเจ้าสาวและเพื่อนในแก๊งต้องรู้ ใครถนัดแบบไหนก็ส่งหน้าที่อันยิ่งใหญ่ให้ไปเลย

 

  • ราศีเมษ (21 มีนาคม – 19 เมษายน)

ราศีเมษมีความขี้เล่น ดังนั้นเพื่อนเจ้าสาวราศีนี้จึงมักจะเป็นหัวโจกในการจัดปาร์ตี้สละโสดที่แสนจะสนุกสุดเหวี่ยง เธอจะขุดสารพัดเกมมาให้เดอะแก๊งได้เล่นอย่างไม่รู้เบื่อ จนบางครั้งสนุกจนถึงขั้นเพื่อนๆ ต้องรีบเบรกเลยก็มี

  • ราศีพฤษภ (20 เมษายน – 20 พฤษภาคม)

เป็นสาวที่มีความกระตือรือร้นและเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์มาก เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนเจ้าสาวที่จะได้รับความไว้วางใจจากเจ้าสาวที่สุดก็ว่าได้ และเป็นคนที่ควบคุมสถานการณ์ได้ดี แถมยังเก็บความลับเก่งอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนเจ้าสาวที่พร้อมจะอยู่เบื้องหลังเพื่อซัพพอร์ตเพื่อนรักในทุกๆ เรื่อง

  • ราศีเมถุน (21 พฤษภาคม – 20 มิถุนายน)

สาวราศีนี้เป็นนักติดต่อสื่อสารที่ดี ดังนั้นเพื่อนเจ้าสาวราศีนี้จึงมักจะเป็นผู้นำในการวางแผนและตัดสินใจในหลายๆ เรื่อง จึงควรค่าแก่การได้รับความไว้วางใจจากเจ้าสาวให้เป็นแม่งานในการจัดการเรื่องต่างๆ เพราะสามารถบริหารจัดการเวลาได้ดี แต่อย่ามอบหมายหรือรับงานมาจนล้นมือทำไม่ทันนะจ๊ะ แบ่งงานให้เพื่อนคนอื่นๆ ช่วยบ้างก็ได้

  • ราศีกรกฎ (21 มิถุนายน – 22 กรกฎาคม)

สาวกรกฎขึ้นชื่อในเรื่องความจงรักภักดี และเป็นสาวที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่แบบว่าขึ้นสุดลงสุด เพราะฉะนั้น เธอจะเป็นคนที่มีความรู้สึกร่วมกับไปกับคุณในทุกๆ โมเม้นต์ ทั้งซึ้งจนร้องไห้ จนถึงฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นคุณมีความสุขเลยล่ะ หากต้องการเพื่อนช่วยบิ้วอารมณ์ล่ะก็ ห้ามมองข้ามสาวราศีนี้เด็ดขาด

  • ราศีสิงห์ (23 กรกฎาคม  – 22 สิงหาคม)

เพื่อนเจ้าสาวราศีนี้น่าจะเป็นสาวที่มีความดราม่าเก่งที่สุดในกลุ่ม แถมยังมีความทะนงตัวนิดๆ จึงอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะพูดให้เพื่อนราศีนี้ให้คล้อยตามหรือเห็นด้วยกับคุณ รู้อย่างนี้แล้ว แก๊งไหนที่เพื่อนสาวราศีนี้ก็รีบหาวิธีทำให้สาวเจ้ายอมคล้อยตามกันด่วนๆ

  • ราศีกันต์ (23 สิงหาคม – 22 กันยายน)

นี่คือเพื่อนเจ้าสาวที่เจ้าสาวทุกคนต้องการ เพราะสาวราศีกันต์เป็นนักวางแผนและมีแผนสำรองเสมอ หรือหากแผนที่วางไว้พัง เธอก็รู้ดีว่าจะต้องแก้ไขความพังนั้นได้อย่างไร แถมยังเป็นสาวที่มีน้ำใจ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือผู้อื่นตลอดเวลาด้วยความเต็มใจ ปราศจากความเห็นแก่ตัว แถมสาวราศีนี้ยังเป็นคนที่เพื่อนๆ สามารถมาระบายเรื่องราวต่างๆ กับเธอเพื่อขอคำแนะนำอยู่เสมอด้วย

  • ราศีตุลย์ (23 กันยายน – 22 ตุลาคม)

หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างที่เจ้าสาวกำลังจะเดินเข้างาน เพื่อนเจ้าสาวราศีตุลย์คือผู้ที่จะเข้ามาแก้ไขสถานการณ์นั้นให้คลี่คลายได้อย่างทันท่วงที รวมไปถึงยังสามารถสยบความดราม่าต่างๆ ได้ด้วยทักษะเฉพาะตัวของสาวราศีนี้อีกด้วย เรียกได้ว่าสาวราศีตุลย์คือคนกลางที่ดีคนหนึ่งเลยทีเดียว

  • ราศีพิจิก (23 ตุลาคม – 21 พฤศจิกายน)

ราศีแห่งสาวเจ้าเสน่ห์ แถมยังเป็นสาวที่มีความแน่วแน่อีกต่างหาก ที่สำคัญสาวราศีนี้ยังรู้จักวิธีพูดจาเข้าหาผู้คน เพราะฉะนั้นในวันแต่งงาน เพื่อนเจ้าสาวราศีนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการทักทายแขกที่โต๊ะลงทะเบียน หรือเชิญแขกไปนั่งที่โต๊ะ หรือแม้กระทั่งช่วยประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ ให้กับเจ้าสาวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

  • ราศีธนู (22 พฤศจิกายน – 21 ธันวาคม)

ถ้าเรื่องความเป็นคนใจดีต้องยกให้สาวราศีนี้เลยค่ะ แต่ถึงจะใจดีแต่ก็เป็นคนที่เด็ดขาดมากๆ หากเรื่อใดที่ช่วยเหลือได้เธอก็พร้อมจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ถ้าเรื่องไหนที่เธอไม่สามารถจริงๆ เธอก็พร้อมที่จะปฏิเสธแบบทันควันเช่นกัน เพราะเธอจะใจดีและช่วยเหลือในเรื่องที่เธอทำได้เท่านั้น

  • ราศีมังกร (22 ธันวาคม – 19 มกราคม)

เพื่อนเจ้าสาวราศีนี้เป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ ไว้ใจได้ วางใจได้ และพึ่งพาได้ เพราะฉะนั้นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่บางเรื่องจึงมักถูกวางไว้ในมือของสาวราศีนี้อยู่บ่อยๆ แถมสาวราศีนี้ก็จะทำทุกหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างระมัดระวัง ที่สำคัญเธอยังเป็นคนที่มีอารมณ์ขันช่วยสร้างสีสันในแก๊งเพื่อนได้อย่างดีอีกต่างหาก

  • ราศีกุมภ์ (20 มกราคม – 18 กุมภาพันธ์)

สาวราศีกุมภ์คือสาวศิลปิน มีพลังความคิดสร้างสรรค์ค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรหากต้องมีการใช้ความคิดการออกแบบล่ะก็เชื่อใจสาวราศีนี้ในความครีเอทได้เลย แต่ขณะเดียวกันสาวราศีนี้ก็ไม่อยากเป็นจุดสนใจของผู้คน มีความถ่อมตัวสูง เพราะฉะนั้นจึงมักเลือกที่จะอยู่เบื้องหลังมากกว่า

  • ราศีมีน (19 กุมภาพันธ์ – 20 มีนาคม)

สาวราศีนี้มักเป็นที่ถูกใจของผู้คนที่เธอพบปะอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นหน้าที่ที่ดีสุดสำหรับเพื่อนเจ้าสาวราศีนี้ก็อาจจะเป็นการประจำอยู่ที่โต๊ะลงทะเบียน การเชิญแขกเข้างาน หรือว่าที่เจ้าสาวอาจจะหนีบเพื่อนสาวราศีนี้ไปคุยกับเวนเดอร์ต่างๆ ก็ได้เหมือนกันนะ เอาเป็นว่าหากต้องจัดการเรื่องต่างๆ ในงานแต่งแล้วว่าที่เจ้าบ่าวไม่ว่างไปด้วย ก็สามารถหนีบเพื่อนสาวราศีนี้ไปด้วยได้เลย

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนเจ้าสาวเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ข้อมูลจาก Brides.com

วิธีผูกโบไทชุดเจ้าบ่าวแบบง่ายๆ ทำเองได้ไม่ต้องตกใจหากโบหลุด

เคยเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับชุดเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาวมาก็เยอะแล้ว วันนี้เราขอเอาใจเจ้าบ่าวและแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าวกันสักหน่อยกับขั้นตอนการผูกโบไท ชุดเจ้าบ่าว แบบง่ายๆ ที่คุณก็ทำเองได้  รวมถึงว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่อยากมีโมเม้นต์ประทับใจผูกโบไทให้เจ้าบ่าวของตัวเองบ้างล่ะก็ ต้องรีบเลื่อนลงไปอ่านแล้วทำตามเลยจ้า

 

1

1. คล้องโบไทไว้ที่คอ กะให้ความยาวของทั้งสองด้านเท่ากัน หรืออาจให้ข้างใดข้างหนึ่งยาวกว่าได้นิดหน่อยเพื่อความสวยงาม

2

2. นำสายโบไทด้านขวาพาดทับมาด้านซ้ายตามแนวเฉียง แล้วสอดอ้อมด้านล่างขึ้นไปในช่องระหว่างคอกับโบไท ดึงและปรับให้แน่นพอดีกับลำคอ ขยับให้ปมของโบไทอยู่ตรงกลาง แล้วพาดพักไว้ด้านข้างลำคอ

3

3. จับชายด้านที่ห้อยอยู่พับขึ้นมาในลักษณะรูปโบ โดยพับไปทางด้านซ้ายแล้วใช้นิ้วขี้กับนิ้วโป้งประคองไว้

4

4. นำชายโบไทอีกข้างที่พักไว้ พาดลงมาตรงกลาง โดยใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งประคองไว้ในลักษณะเดิม (ยังไม่ต้องเอานิ้วออก)

5

5. พับด้านที่ห้อยอยู่กลับขึ้นไปข้างหลังของตัวโบ (พับเข้าหาตัวเอง) แล้วสอดเข้าไปในช่องว่างตรงนิ้วชี้ ค่อยๆ ดึงส่วนที่สอดผ่านช่องว่างออกมาทีละนิด โดยดึงเฉพาะตรงที่ถูกพับ ระวังอย่าดึงตรงด้านปลายโบไทเพราะจะทำให้โบไทหลุด (ถ้าผูกใหม่ก็จะเหนื่อยหน่อยนะคะ)

6

6. เมื่อได้ออกมาเป็นรูปโบแล้ว สามารถดึง ปรับ และจับให้ดูพองได้เพื่อความสวยงาม

Tips

ขอแถมเคล็ดลับการเลือกโบไทให้เหมาะกับตัวเองอีกสักเล็กน้อยเพื่อความหล่อเพอร์เฟ็กต์ของเจ้าบ่าวและเหล่าแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าวทั้งหลายตามนี้

โบไทมีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ มีทั้งโบไทที่ทำจากผ้าไหม (Silk) และผ้ากำมะหยี่ (Velvet) ซึ่งมีให้เลือกหลายสีตามความชอบของแต่ละคน ขอแนะนำว่าถ้าเป็นงานที่แขกผู้ใหญ่เยอะและค่อนข้างเป็นทางการ ควรเลือกโบไทสีพื้นๆ เรียบๆ เช่น สีดำ สีน้ำเงิน สีเทา สีขาว ทั้งนี้ควรเลือกให้มีสีเดียวกันกับสีชุดสูทที่คุณเลือกใส่ด้วย

ส่วนงานแต่งของใครที่เน้นบรรยากาศชิลล์ๆ ปาร์ตี้กสนุกสนานก็สามารถเลือกโบไทสีเจ็บๆ ให้แสบทรวงอย่าง สีเขียว เหลือง แดง หรือจะมีลายจุด ลายดอก ให้ดูเก๋ เท่ หล่อ ตามสไตล์หนุ่มเจ้าสำราญก็ได้ อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับชุดเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าบ่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Atelier Azzurro

12 คำถามต้องถามให้ชัดก่อนจ้างวงดนตรีงานแต่งมาบรรเลงในงาน

จะหาวงดนตรีดีๆ ที่ถูกใจมาแสดงในงานแต่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป เพราะเราได้รวบรวมคำถามต้องถามก่อนตัดสินใจจ้าง วงดนตรีงานแต่ง มาฝากกันแล้ว

1. เคยเล่นดนตรีในงานแต่งมาก่อนหรือเปล่า?

ถือว่าเป็นคำถามสำคัญที่คู่บ่าวสาวควรถามเป็นคำถามแรกเพื่อให้เกิดความแน่ใจว่า วงนั้นๆ มีประสบการณ์การเล่นเพลงในงานแต่งมาแล้ว เพราะถ้าเคยอย่างน้อยๆ ก็จะรู้ว่าต้องเล่นเพลงแนวไหนต้องเอนเตอร์เทรนด์แขกอย่างไร ซึ่งถ้าเล่นบ่อยจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและมีประสบการณ์ที่สูง อีกทั้งยังสามารถไปเช็คอ้างอิงกับงานก่อนหน้าได้

2. มีนักดนตรีกี่คนและใช้เครื่องดนตรีกี่ชิ้น?

การที่รู้ว่าวงที่จะจ้างมีนักดนตรีกี่คน มีเครื่องดนตรีอะไรบ้าง คุณจะได้รู้ว่าวงนั้นๆ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณหรือไม่ อีกทั้งยังช่วยทำให้ตัดสินใจจ้างได้ง่ายยิ่งขึ้น

3. มีนักดนตรีสำรองไหม?

เป็นสิ่งที่คุณควรทราบ ถ้าหากคุณต้องจองวงดนตรีล่วงหน้าเป็นเวลานานๆ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้ว่าในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้น คุณจะได้มั่นใจว่าคนที่มาสำรองมีประสบการณ์และความสามารถทัดเทียมกับนักดนตรีคนนั้น และอย่าลืมว่าที่มาสำรอง อยู่ในเงื่อนไขการจ่ายเพิ่มเติมหรือเปล่า

2

4. มีเครื่องดนตรีสำรองไหม?

เป็นอีกหนึ่งคำถามเพื่อความมั่นใจ เพราะถ้าหากเครื่องดนตรีหรืออุปกรณ์มีปัญหาในระหว่างงานคุณจะได้รู้ว่าทางวงจะมีวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นอย่างไร

5. รับงานอื่นในวันเดียวกันไหม?

วงดนตรีส่วนใหญ่มักใช้เวลาในการติดตั้งอุปกรณ์นาน และทางโรงแรมจะให้เข้ามาติดตั้งอุปกรณ์และทดสอบเสียงได้ก่อนงานเริ่มเพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น การถามล่วงหน้าจะช่วยให้วงดนตรีสามารถจัดสรรเวลาหรือหาบุคคลอื่นมาช่วยทำงานได้ทันตามเวลาที่กำหนด

6. เคยเล่นดนตรีที่นี่มาก่อนไหม?

หากวงดนตรีที่คุณจ้างมีความเคยชินกับสถานที่เป็นอย่างดี เขาจะรู้ว่าในที่นั้นๆ เป็นอย่างไร ควรใช้เครื่องดนตรีแบบไหนที่จะเหมาะที่สุด รวมถึงรู้ว่าต้องเดินทางมาสถานที่อย่างไร ก็จะใช้ประหยัดเวลาได้มากขึ้น

7. ทำตามสิ่งที่บ่าวสาวต้องการได้จริง?

ส่วนใหญ่วงดนตรียินดีที่จะทำตามสิ่งที่คุณขอเพิ่มเติม แต่คุณก็ควรจะตะล่อมถามเขาให้แน่ใจเสียก่อนเพื่อที่จะให้นักดนตรีได้เตรียมตัวฝึกซ้อมล่วงหน้าซะแต่เนิ่นๆ อีกทั้งยังป้องกันการเล่นแป้กอีกด้วย

3

8. ต้องติดตั้งไฟหรือเอฟเฟ็คเพิ่มเติมไหม?

บางวงอาจใช้ไฟเท่าที่ทางสถานที่จัดไว้ให้ได้อย่างไร้ปัญหา แต่บางวงอาจมีการใช้ไฟหรือเอฟเฟ็คเพิ่ม คุณจะวางแผนการกับทางสถานที่และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมถึงวางแผนตกแต่งให้กลมกลืมกับงานอีกด้วย

9. มีเครื่องดนตรีหรืออุปกรณ์ที่ต้องเช่าเพิ่มไหม? และใครเป็นคนจ่าย

แม้ว่าเครื่องดนตรีและอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะเป็นของวง แต่ในบางครั้งหากคุณต้องการสิ่งที่พิเศษกว่าปกติ ทางวงอาจต้องมีการเช่าอุปกรณ์เพิ่มเติม และต้องถามด้วยว่าเครื่องดนตรีที่เช่าใครเป็นคนจ่าย นักดนตรีหรือว่าเรา

10. มีเงื่อนไขการยกเลิกงานอย่างไร?

เพื่อให้เกิดความแฟร์ทั้งกับตัวคุณและวงดนตรีที่ล็อกคิวมาเล่นดนตรีในงานแต่งของคุณ ควรพูดคุยข้อตกลงเงื่อนไขการยกเลิกงานกับวงดนตรีตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อที่หากงานของคุณต้องยกเลิกขึ้นมา ทางวงดนตรีก็จะได้ไม่เสียเปรียบและช่วยให้ตัวคุณรู้สึกสบายใจนั่นเอง

11. ในช่วงเวลาแสดงมีการพักเบรกไหม? พักกี่ครั้ง ครั้งละกี่นาที

ควรถามเพื่อความแน่ใจ เราจะได้รู้และวางแผนเตรียมเพลงสำหรับเปิดสลับกับการแสดงได้ถูก อีกอย่างในช่วงพักบ่าวสาวก็ควรเตรียมอาหารมาให้นักดนตรีด้วยนะจ๊ะ

12. มีความยืดหยุ่นเรื่องเวลาแค่ไหน?

เพราะเรื่องของเวลาเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เราควรจะคุยกับทางวงดนตรีให้เรียบร้อยก่อนเริ่มงาน เช่น ถ้าหากมีการเลยเวลาจากในสัญญาจะมีการคิดเงินเพิ่มหรือไม่ อย่างไร เพื่อความสบายใจทั้งของทั้งสองฝ่าย และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องเงินตามมาทีหลัง

4

ถึงแม้การเลือกหาวงดนตรีจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ลองนำคำถามเหล่านี้มาช่วยคุณตัดสินใจจ้างวงดนตรีมาเอนเตอร์เทนต์ความสนุกให้แขกภายในงานของคุณดูนะจ๊ะ

ดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

เรียบเรียงข้อมูลและรูปภาพจาก : www.everafterguide.com

5 เทคนิคช่วยว่าที่บ่าวสาวตัดรายชื่อแขก การันตีงานนี้ไม่มีดราม่า

สิ่งหนึ่งที่บ่าวสาวมักจะเป็นกังวลและต้องทำการบ้านอย่างมากในการเตรียมงานแต่งงาน คือการลิสต์ รายชื่อแขก จนบางครั้งอาจกลายเป็นเรื่องตัดสินใจยาก ทำให้เกิดความเครียดหรือขัดใจกันเอง เพราะแขกบางคนก็สำคัญไม่กล้าตัด บางคนตัดไปก็เกรงจะเสียใจทีหลัง ฉะนั้นขั้นตอนในการตัด รายชื่อแขก ออกจึงเป็นอีกพาร์ทในการเตรียมงานที่ยากแสนยากจนบ่าวสาวอยากจะร้องไห้ ถ้าคุณกำลังเจอปัญหานี้อยู่ละก็ แพรว wedding ขอแนะนำเทคนิคการเคลียร์รายชื่อแขกร่วมงานแบบมีเหตุมีผลให้คุณไม่ต้องกังวลกับดราม่าที่จะตามมาอีกด้วยค่ะ

  • งบแค่ไหนที่เราจ่ายได้

ก่อนอื่นคุณจะต้องคำนึงถึงเรื่องงบประมาณ เพราะคุณเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้กับแขกทั้งหมด ดังนั้นหากไม่สามารถรองรับแขกครบทุกคนได้ ก็ควรจะจำกัดจำนวนแขกเท่าที่พอรับไหวดีกว่า จากนั้นจึงเลือกประเภทแพ็กเกจการจัดเลี้ยง และเมนูอาหาร ค่าเครื่องดื่ม แล้วนำมาคำนวณงบเพื่อสรุปค่าใช้จ่ายต่อหัวว่าสามารถสอดคล้องไปกับงบประมาณหลักได้หรือไม่ ซึ่งตัวเลขนี้จะทำให้คุณได้รู้ว่าคุณจะเชิญแขกได้กี่คนนั่นเอง

  • พิจารณาความสัมพันธ์

ถ้าหากมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่ไม่ได้คุยกันมานานเป็นปี นั่นหมายถึงเพื่อนเก่า และญาติที่ห่างเหินมานานมาก คนกลุ่มนี้ก็อาจจะตัดออกจากรายชื่อแขกของคุณได้ หรือแม้แต่เพื่อนใน Facebook ที่เข้ามาเม้นต์หรือโพสต์แม้อาจบ่อยครั้งก็สามารถตัดออกจากรายชื่อแขกได้เช่นกัน กระทั่งเพื่อนของพ่อแม่ที่คุณเองไม่เคยได้ยินชื่อก็สามารถตัดออกได้ตามความเหมาะสม

Cr. marthastewartweddings
  • แบ่งลิสต์รายชื่อ A, B และ C

รายชื่อ A จะประกอบไปด้วยชื่อของครอบครัว และญาติสนิท รายชื่อ B จะเป็นบรรดาเพื่อนสนิท ซึ่งสองกลุ่มนี้จะได้รับคำเชิญอย่างแน่นอน ส่วนกลุ่มคนที่คุณอาจจะอยากเชิญแต่ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะมางานได้หรือไม่ ทั้งเพื่อนที่ไม่สนิทมาก หรือคนรู้จักต่างๆ ให้ใส่รายชื่อไว้ในกลุ่ม C ที่คุณจะตัดออกได้ง่ายที่สุดนั่นเอง

  • เพื่อนร่วมงาน

อาจเป็นมารยาทที่เราต้องเชิญเพื่อนร่วมงานในทีมเดียวกันไปด้วยทุกคน แม้กระทั่งหัวหน้าและเจ้านายของคุณ ส่วนเขาจะไปหรือไม่นั้นก็ต้องว่ากันอีกที ถ้ามีเพื่อนร่วมงานทีมอื่นด้วย ก็ต้องดูที่ระดับความใกล้ชิด คนไหนที่คุณพูดคุยแล้วสบายใจก็เชิญมา แต่ถ้าคนไหนไม่สนิทจริงๆ ก็ไม่ต้องฝืน ตัดออกจากรายชื่อแขกของคุณไปได้เลย

  • พลัสวัน

ลองนึกดูว่าแขกท่านใดที่มีคู่อยู่แล้วบ้าง เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะควงกันออกงาน แต่ก็ต้องนึกถึงว่ากลุ่มคนเหล่านั้นคบกันนานรึยัง ถ้าพวกเขาแต่งงานแล้วหรือคบกันมานาน แถมเราสะดวกใจกับทั้งคู่ ก็สามารถชวนคู่ของพวกเขามาได้ แต่สำหรับคู่รักที่ยังคบหากันได้ไม่นานนั้น ก็คงไม่น่าเกลียดนักหากคุณจะตัดออกจากลิสต์ของคุณ

คำแนะนำทั้ง 5 ข้อที่เราว่าไปนี้ อยากให้คุณเลือกพิจารณาตามความเหมาะสมของสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ด้วยนะคะ เพราะต่างคู่ก็ต่างรูปแบบการใช้ชีวิต รวมถึงเงื่อนไขของแต่ละครอบครัวก็ต่างกัน แต่เชื่อเถอะว่าถ้าทำตามเราไม่ข้อใดข้อหนึ่ง จะช่วยให้คุณทำลิสต์รายชื่อแขกที่ลงตัวได้มากขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

อ่านคำแนะนำและดูไอเดียจัดงานแต่งอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

รวมแบบชุดไทยแขนยาวทั้งไทยแท้-ไทยประยุกต์ ดีไซน์สวยเลิศให้ลุคหรู

ชุดไทยแขนยาว เป็นอีกหนึ่งแบบชุดไทยที่เจ้าสาวหลายคนนิยมสวมใส่ เพราะเป็นชุดที่ดูเป็นทางการและสวยหรู แถมยังมีดีไซน์ที่หลากหลายทั้งไทยแท้และไทยประยุกต์ ชอบแบบไหนก็เลือกใส่ให้เหมาะกับธีมงานและความชอบได้เลย

ซึ่งชุดไทยแขนยาวก็มีทั้ง ชุดไทยศิวาลัย ที่เมื่อก่อนนิยมใช้ผ้ายกไหมหรือยกทอง ด้านหน้ามีชายพก ใช้เข็มขัดไทยคาด ตัวเสื้อแขนยาว คอกลม ตัวเสื้อตัดติดกับซิ่นคล้ายแบบชุดไทยบรมพิมานแต่ห่มผ้าปักลายไทย เจ้าสาวมักนิยมใส่ชุดนี้ในพิธีรดน้ำสังข์หรือพิธีสงฆ์

ชุดไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน Coco Chic Wedding

และชุดไทยแขนยาวอีกหนึ่งแบบคือ ชุดไทยบรมพิมาน ที่ตั้งชื่อตามพระที่นั่งบรมพิมาน ชุดเป็นเสื้อคอกลมขอบตั้ง แขนยาว ใช้ยกผ้าไหมหรือยกทอง เป็นชุดติดกันซิ่นมีจีบข้างหน้าความยาวจรดข้อเท้า ที่ชายพกใช้เข็มขัดไทยคาด ชุดชนิดนี้เป็นชุดที่เจ้าสาวนิยมใช้ใส่ในการเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์หรือพิธีรดน้ำสังข์  สามารถสวมสร้อยคอ ต่างหู สร้อยข้อมือ และเกี้ยวประดับผมร่วมด้วยได้

ชุดไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน BOBO Studio

และหากว่าที่เจ้าสาวเลือกสวมชุดไทยแขนยาวยังต้องคำนึงถึง ความยาวของแขนเสื้อ ด้วยซึ่งทั้ง ชุดไทยบรมพิวานและชุดไทยศิวาลัย ความยาวของแขนเสื้อจะต้องอยู่ระดับข้อมือ ถึงจะมีความสวยงาม

ชุดไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน Monique Wedding
ชุดไทยแขนยาว
ชุดจากร้านเจ้านางเวดดิ้ง

และเคล็ดลับสุดท้ายในการเลือกชุดแต่งงานไทยให้สวยปังก็คือ อันดับแรกต้องดูก่อนว่าบุคลิกของเจ้าสาวเป็นลักษณะใด มีรูปร่างแบบไหน เช่น  เป็นคนตัวผอม สมส่วน เจ้าเนื้อ สูง หรือเตี้ย ต่อมาก็ต้องมาดูที่สถานที่จัดงานแต่งงาน หรือธีมของงานแต่ง ว่ามีลักษณะแบบไหน สีอะไร เพื่อที่เวลาเจ้าสาวใส่ชุดแต่งงานไทยแล้วเข้าไปยืนถ่ายภาพในงานแล้ว จะได้ไม่จมหายไปพร้อมกับสถานที่นั่นเอง

รู้เคล็ดลับการเลือกชุดไทยให้เหมาะกับช่วงพิธีและบุคลิกของตัวเองแล้วก็มาดูแบบชุดแต่งงานไทยสวยๆ กันต่อเลย

ชุดไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน Coco Chic Wedding
ชุดไทยแขนยาว
ชุดไทยแขนยาว จากร้าน Monique Wedding
ชุดไทยแขนยาว
ชุดไทยแขนยาว จากร้าน Deep Love Wedding
ชุดไทยแขนยาว
ชุดไทยแขนยาว จากร้าน BOBO Studio
ชุดไทยแขนยาว
ชุดไทยแขนยาว จากร้าน Smile in Love & Wedding Studio
ชุดไทยแขนยาว
ชุดไทยแขนยาว จากร้าน Vanus Couture
ชุดไทยแขนยาว
ชุดไทยแขนยาว จากร้านเรือนวิวาห์ ชลบุรี

ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติมได้อีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

ว่าที่บ่าวสาวสวมชุดวิวาห์ควงคู่วิ่งพิสูจน์รักใจกลางกรุง คว้างานแต่งในฝันมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ในกิจกรรม “อีซี่ รันนิ่ง ออฟเดอะ ไบรด์ส 8”

ว่าที่บ่าว-สาวสวม ชุดวิวาห์ ควงคู่วิ่งพิสูจน์รักใจกลางกรุง คว้างานแต่งในฝันมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท!! สำเร็จในกิจกรรม “อีซี่ รันนิ่ง ออฟเดอะ ไบรด์ส 8”

“อีซี่ เอฟ เอ็ม 105.5” แจกงานแต่งฟรีอีกครั้ง เป็นอีก 1 ในงานประจำปีที่คนมีรักต่างเฝ้ารอ สำหรับมหกรรมวิ่งแข่งชิงงานแต่งในฝันที่คลื่นเพลงสากลอันดับ 1 “อีซี่ เอฟเอ็ม 105.5”จัดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี กับกิจกรรมEAZY RUNNING  OF THE BRIDES ปีที่ 8 Love Infinity ปีนี้ว่าที่บ่าว-สาวกว่า 120 คู่ คว้าชุดวิวาห์และรองเท้าผ้าใบ มารวมตัวกันเยอะที่สุด เพื่อร่วมสนุกกับภารกิจ “วิ่งเพื่อรัก โรแมนติก ฟันรัน” ณ บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยมีรางวัลงานแต่งงานในฝัน พร้อมของรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เป็นเดิมพันเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

เปิดงานอย่างเป็นทางการโดยคุณเนล ทอมป์สัน (กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี-เทโร เรดิโอ จำกัด), คุณลาวัณย์ เดมอน ชุมสาย ณ อยุธยา (ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีอีซี-เทโร เรดิโอ จำกัด), คุณสมบูรณ์ หอมนาน (รองผู้อำนวยการ สำนักวัฒนธรรมกีฬา และการท่องเที่ยว), คุณชูศักดิ์ จันทยานนท์ (ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย), คุณนิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2561 และเหล่าดีเจจาก“อีซี่ เอฟเอ็ม105.5”

ภารกิจ “วิ่งเพื่อรัก” ในปีนี้ มีระยะทางในการวิ่ง รวม 3 กิโลเมตร พร้อมกับด่านทดสอบ 7 ด่าน ที่ให้เหล่าคู่รักได้ฝ่าฟันร่วมกัน ใช้ทั้งพลังกาย และพลังใจ วิ่งพิสูจน์รัก โดยคู่รักที่สามารถคว้าชัยชนะ คือ(เจ้าบ่าว) คุณภาณุภัทร วัชระสกุลชัย อายุ 29 อาชีพ โปรแกรมเมอร์ และควงคู่ (เจ้าสาว) คุณเกศรินทร์ จินดาหนา อายุ 30 อาชีพ ครูเอกชน วิ่งสู่เส้นชัยเป็นคู่แรกด้วยเวลา 26.10 นาที คว้ารางวัลงานแต่งในฝันจาก EAZY RUNNING  OF THE BRIDESมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท  ไม่ว่าจะเป็น โรงแรมสำหรับจัดงานแต่ง,ชุดแต่งงานคู่บ่าวสาว,แหวนเพชรคู่,แพคเกจฮันนีมูนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงของรางวัลอื่นๆอีกมากมายไปครองได้สำเร็จโดยคู่รักผู้ชนะเผยว่า “เรา 2 คนเป็นนักวิ่งที่วิ่งมาราธอนเป็นประจำ แต่งานนี้เราไม่ได้วิ่งนำมาเป็นที่ 1 อยู่กลางๆของกลุ่มวิ่งด้วยซ้ำ ทำภารกิจไปเรื่อยๆไม่คิดอะไรคนอื่นก็วิ่งผ่านไปหมด แต่เราใช้วิธีออมแรง เพื่อสปีทก่อนเข้าเส้นชัย ลุ้นที่สุดคือด่านวัดดวงที่ต้องหาสัญลักษณ์งานให้ถูกต้อง ซึ่งกว่าเจอต้องวิ่งเป็น 10 รอบ ตอนที่วิ่งเข้าเส้นชัยก็ยังงงมาก ดีใจมากๆที่ได้ที่ 1 (ว่าที่เจ้าบ่าวน้ำตาไหล) เรา2 คนพยายาม แล้วมันก็สำเร็จ!!

และอีก 1 กิจกรรมพิเศษในงานนี้ก็คือ การวิ่งฟันรัน ที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้ออกมาร่วมวิ่งเพื่อแสดงถึงความรักที่ไม่มีขีดจำกัด ภายใต้ธีม “Color of Love”มีนักวิ่งแฟนซีมากมาย แต่งเต็มมาสร้างสีสันในงานนี้ ซึ่งรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย จะนำไปมอบให้กับมูลนิธิออทิสติกไทย โดยนอกจากเหล่านักวิ่งจะได้ร่วมทำบุญไปกับ Eazy FM 105.5 และได้ลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 3 แสนบาทแล้ว ยังได้รับของที่ระลึก ทั้งเหรียญ เสื้อวิ่ง และกระเป๋าผ้า ที่ออกแบบโดยน้องๆ จากมูลนิธิออทิสติกไทยอีกด้วย

นอกจากนี้ว่าที่บ่าวสาวในอนาคตอีก 1 คู่รักของวงการเพลงอย่าง“อู๋ ธรรพ์ณธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา” ควง แฟนสาวต่างวัย “ครูเก๋า” มาร่วมสนุกวิ่งชิงงานแต่งในครั้งนี้ด้วย โดยทั้งคู่ก็วางแผนแต่งงานไว้เร็วๆนี้

ปิดท้ายงานแห่งความรักครั้งนี้ด้วยมินิคอนเสิร์ตจาก โรส ศิรินทิพย์ ที่มาร้องเพลงรัก เพิ่มบรรยากาศในงานให้อบอวลไปด้วยความหวานมากขึ้น สำหรับภาพสวยๆในงาน ได้คุณจักร์วินทร์ ภู่สวาสดิ์ ช่างภาพชื่อดังระดับแถวหน้าของเมืองไทยมาช่วยบันทึกภาพให้อีกด้วย

ติดตามชมภาพและบรรยากาศงาน Eazy Running of the Brides ปี 8 ได้ทาง www.eazyfm.com รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ได้ตลอดทุกช่วงดีเจ ที่ Eazy FM 105.5

จัดงานแต่งงานใช้งบเท่าไหร่? หมดคำถามนี้หากเริ่มจากจัดเงินให้เป๊ะก่อนจัดงาน

จัดงานแต่งงานใช้งบเท่าไหร่ ? คำถามยอดฮิตของว่าที่บ่าวสาวในการจัดงานแต่งงาน หากจะไม่เอ่ยถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ก็คงจะไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของงานเลยก็ว่าได้ แต่จะให้ไปกู้หนี้ยืมสินคนอื่นก็ดูจะไม่เข้าท่ามากนัก แพรวเวดดิ้งเลยมีขคำแนะนำดีๆ สำหรับจัดการเงินในกระเป๋าเพื่อใช้จัดงานแต่งมาฝาก เชื่อเลยว่า ถ้าคุณทำได้แบบนี้ จัดงานแต่งได้อย่างใจ แถมชีวิตไม่เป็นหนี้ (เฉพาะกิจ) อีกด้วย

1. จัดเงินให้สมดุลงบ

ขั้นแรกคุณทั้งคู่จะต้องรู้ก่อนว่าต้องการจัดงานแต่งแบบไหน งานเล็กหรืองานใหญ่ และจะต้องสืบราคาค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นค่าชุดแต่งงาน ค่าสถานที่และค่าตกแต่งงาน หรือค่าใช้จิปาถะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แม้กระทัั่งค่าสินสอดก็ห้ามลืมเด็ดขาด รวมเงินสำรองฉุกเฉินเข้าไปด้วยนะจ๊ะ เผื่อว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น จะได้นำเงินส่วนนี้มาหมุนได้ทันนั่นเอง เมื่อคุณรู้งบประมาณใช้จ่ายคร่าวๆ ก็จัดการแบ่งสัดส่วนเงินให้สมดุลกับงบประมาณทั้งหมดได้เลย

2. วันเป๊ะ…เงินเป๊ะ

การกำหนดวันจัดงานอย่างชัดเจนสามารถช่วยทำให้คุณสามารถควบคุมงบใช้จ่ายได้ แต่ถ้าวันงานของคุณยังไม่แน่นอนมีการเลื่อนวันงานไปมา นอกจากจะเสียเวลาแล้ว คุณยังจะเสียเงินค่าทำสัญญาจองใหม่ หรือเผลอๆ อาจจะต้องย้ายสถานที่จัดงานไปเลยก็มี นั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องตามมาอีกมากมายนั่นเอง

3. ธีมนิ่ง…คนไม่เพิ่ม…เงินไม่งอก

อีกทางหนึ่งที่จะทำให้การจัดเงินเพื่อจัดงานมีประสิทธิภาพดียิ่งๆ ขึ้นก็คือ ถ้ากำหนดธีมและสไตล์งานเรียบร้อยแล้วก็ไม่ควรที่จะปรับเปลี่ยนอีก เพราะนั่นหมายถึงงบประมาณที่คุณตั้งไว้จะงอกเงยบานปลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตกแต่งที่ขอเพิ่มนิดเติมหน่อย จำนวนแขกเพิ่มค่าอาหารเพิ่มตาม ถ้าไม่แน่ใจแต่แรกก็ควรตั้งงบประมาณเผื่อไว้ก่อนแล้วมาคุยส่วนต่างที่งอกมาอย่าให้เกิน และที่สำคัญห้ามคิดเด็ดขาดว่ายิ่งมีคนมางานเยอะเท่าไหร่แล้วจะได้ซองมาก แล้วจะหยิบเงินจากซองมาจ่ายส่วนต่าง เราขอบอกเลยว่ามันไม่คุ้มเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มแน่ๆ ฉะนั้นจงจำไว้เสมอว่าถ้าไม่อยากให้งบบาน งานต้องนิ่งๆ นะจ๊ะ

4. ปล่อยเงินให้ทำงาน

ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงให้คุณเอาเงินต้นทุนการจัดงานแต่งงานไปลงทุนเพิ่มในช่องทางอื่นๆ แต่หมายถึง เมื่อจัดการทุกอย่างตามที่เราวางแผนเรียบร้อยแล้วก็เพียงปล่อยให้เงินทำหน้าที่จัดสรรและดำเนินงานแทนเรา โดยการจ่ายเงินให้ผู้ให้บริการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการจัดงานแต่งงานครั้งนี้ฃและให้เขานำไปเงินในงบของคุณไปบริหารต่อตามแผนที่เตรียมไว้ ซึ่งขั้นตอนนี้เรามีหน้าที่เพียงนั่งนิ่งๆ สบายๆ และเฝ้าดูงานอยู่ห่างๆ เพื่อรอให้ถึงวันสำคัญของเราก็พอแล้ว

นี่คือ 4 ขั้นตอนจัดสรรเงินสำหรับใช้ในงานแต่งง่ายๆ สำหรับใช้ในงานแต่งที่เรานำมาฝาก ที่รับรองว่าเงินที่คุณมีจะเพียงพอต่อการจัดงานแน่นอนจ้า

อ่านคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานและดูไอเดียงานแต่งอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรียบเรียงข้อมูล : www.set.or.th, millionaire-academy.com, tax.bugnoms.com
ภาพ : www.glamour.com

วิธีเลือกต่างหูเจ้าสาวให้เข้ากับทรงผม รับรองสวยเกิดเจิดทุกลุคแน่นอน

ต่างหูเจ้าสาว แบบไหนที่จะเข้ากับลุคสวยอย่างเป็นธรรมชาติของเจ้าสาวกับทรงผมกันนะ?

ต่างหูเจ้าสาว เครื่องประดับที่เสริมความโดดเด่นให้กับใบหน้าและทรงผม ซึ่งต่างหูจัดเป็นเครื่องประดับที่สำคัญ แถมใส่แค่เพียงชิ้นเดียวไม่ต้องพึ่งแอคเซสซอรี่อื่นๆ ก็สวยได้ (ยกเว้นแหวนเพชรเม็ดโตนะจ๊ะ อิอิ)  แต่จะต้องเลือกขนาดใหญ่แค่ไหน หรือรูปทรงแบบใด ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับใบหน้าและทรงผมด้วยนะ แพรว wedding เลยจะมาแนะนำต่างหูที่เหมาะกับทรงผมเจ้าสาวแบบต่างๆ ที่บอกได้เลยว่าน้อยแต่สวยมาก แถมเป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมจากเจ้าสาวมากๆ อีกด้วย

ผมเกล้า ผมรวบ

เพื่อเผยความเรียวได้รูปของใบหน้าที่สวยงาม เจ้าสาวจึงนิยมรวบผมขึ้น แถมยังเป็นลุคที่สะดวกสบาย เพราะไม่ต้องคอยปัดผมที่ปิดใบหน้า เพียงแค่เซ็ตผมให้อยู่ทรงก็โอเคแล้ว

1. ต่างหูทรงหยดน้ำ

เราแนะนำเป็นต่างหูทรงหยดน้ำ ประดับคริสตัลหรือเพชรเพียงเม็ดเล็กๆ ไม่ต้องใหญ่มาก เพราะหากเป็นต่างหูที่ยาวระย้าลงมา หรือขนาดใหญ่ อาจดูมากเกินไปจนขโมยซีนทรงผมหรือเมคอัพเอาได้ เน้นเป็นดีไซน์เรียบๆ ก็พอ รับรองว่า สวยรอดชัวร์

2. ต่างหูแบบห่วงประดับเพชร

คงความมินิมัลแบบเก๋ๆ ด้วยต่างหูห่วงที่ไม่ว่าจะห่วงแบบปกติ หรือประดับเพชร คริสตัลเม็ดเล็กๆ ก็สวย แถมเข้ากับทั้งผมรวบ และผมสั้นก็ได้ด้วยเหมือนกัน เน้นความระยิบระยับเบาๆ แต่ดูสวยแพงไปอีก

ผมยาว ปล่อยผม

เผยความงามอย่างอ่อนโยนของผู้หญิง ด้วยทรงผมยาว ไม่ว่าจะปล่อยผมให้ตรงดูสุขภาพดี หรือดัดเป็นลอนก็ให้ลุคที่ดูสวยแบบธรรมชาติ แถมเป็นลุคที่คลาสสิกมากๆ ด้วย

1. ต่างหูระย้า

เป็นต่างหูที่มีลักษณะใกล้เคียงกับต่างหูทรงหยดน้ำ แต่เพิ่มความยาว เพื่อให้ดูโดดเด่น จะประดับด้วยเพชร คริสตัล หรือมุกก็ได้ทั้งนั้น แต่อาจจะเลือกประดับแค่ขนาดกลางๆ ก็พอ ก็ทำให้ลุคนี้สวย complete!

ต่างหูเจ้าสาว

2. ต่างหูทรงเหลี่ยม

มากกว่าความโดดเด่น แต่ไม่ได้ทำให้ลุคนี้ดูดรอป เพราะด้วยดีไซน์ของต่างหูที่เป็นทรงเหลี่ยมแบบเรียวยาว อันเดียวก็คุมความสวยอยู่หมัด และเพื่อให้ดูโดดเด่น อาจเลือกสีสันที่สดใสจากคริสตัล หรืออัญมณีที่ประดับบนต่างหู ก็เพอร์เฟ็กต์ที่สุดแล้ว

ต่างหูเจ้าสาว

หากเจ้าสาวกังวลว่าต่างหูจะไม่เข้ากับโครงหน้า เราก็ยังมีวิธี จับคู่ต่างหูเจ้าสาวให้เข้ากับใบหน้า เคล็ดลับเพิ่มความงามให้ใบหน้า

ภาพจาก Pinterest

ความเชื่อมงคลเรื่องตำแหน่งมือ-เท้าในงานแต่งงาน ข้างไหนคือข้างที่ดี มาดูกัน

ซ้าย-ขวา กับการประกอบพิธีต่างๆ ใน งานแต่งงาน สำคัญไฉน?

ใน งานแต่งงาน นอกจากเรื่องฤกษ์ยามมงคลต้องดี ต้องเริดแล้ว ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับมือและเท้าของชาวตะวันตกและชาวพุทธที่เชื่อว่าทำตามนี้ในวันแต่งงานแล้วจะเป็นมงคล

จุดเริ่มต้นความเชื่อเรื่องมือ-เท้า

ก่อนอื่นเราขอเล่าเกี่ยวกับก้าวเท้าขวาก่อนจะโชคดี (Right Foot First) หรือไม่? อันนี้ต้องย้อนกลับไปไกลสักนิด โดยความเชื่อนี้เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยยุโรปตอนกลางนู้นแหนะ โดยเมื่อเหล่าอัศวินจะออกศึกเมื่อใดจะมีเคล็ดว่า “จะต้องขึ้นม้าด้วยเท้าข้างขวา” จะทำให้ได้รับชัยชนะในศึกครั้งนั้น หลังจากนั้นเรื่องนี้ก็กลายมาเป็นความเชื่อทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกที่เล่าสู่กันฟังต่อๆ มา ตามนี้

ซ้ายลบ-ขวาบวก

03ชาวตะวันตกเชื่อกันว่าร่างกายด้านซ้ายของคนเราเป็นพลังงานลบทำให้อ่อนแอกว่าทางด้านขวา หากก้าวเท้าซ้ายขึ้นม้าจะนำพาซึ่งโชคร้าย นับเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเก่าแก่ที่ยังสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ในวันเข้าหอจึงเชื่อกันว่าถ้าเจ้าสาวก้าวเท้าซ้ายเข้าเรือนหอจะเป็นลางที่ไม่ดี และการที่เจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาวข้ามธรณีประตู เมื่อวางลงเจ้าสาวจะต้องวางเท้าขวาลงพื้นก่อนเท้าซ้าย เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้ชีวิตคู่บ่าวสาวมีแต่ความโชคดีนั่นเอง แหม แต่ถ้าเรามองในด้านสรีระของผู้หญิงแล้ว จะเห็นได้ว่าการที่เธอก้าวเท้าซ้ายอาจทำให้เสียหลักจนหกล้มได้นั่นเอง

ขวากรรมดี-ซ้ายความเสื่อม

01

สำหรับความเชื่อเกี่ยวกับมือและเท้าในศาสนาพุทธ เราพบว่าในพระไตรปิฎกได้มีการอธิบายเกี่ยวกับซ้ายขวาไว้ว่า เบื้องขวา หมายถึงกรรมดี และความเจริญรุ่งเรือง ตรงกันข้ามว่า “ซ้าย” เป็นสัญลักษณ์แทนความชั่ว ความเสื่อม จึงเป็นคำอธิบายว่าไม่ว่าจะทำพิธีกรรมใดๆ จะต้องทำทางขวามือตลอด ไม่ว่าจะเป็น

การตั้งโต๊ะหมู่บูชาในพิธีสงฆ์ของบ่าวสาวก็จะต้องตั้งอยู่ทางขวามือของคู่บ่าวสาวเสมอ เมื่อจะจุดธูปเทียน ก็จะต้องเริ่มจุดเทียนด้านขวา ตามด้วยเทียนเล่มซ้ายของพระประธานเสมอ แล้วจึงค่อยจุดธูปด้านขวาไล่มาจนครบ 3 ดอก เป็นต้น

แต่ก็มีคนถามมาเยอะว่า เอ๊ะ! แล้วที่เวลาแต่งงานคนไทยนิยมให้ผู้หญิงนั่งทางซ้ายมือของผู้ชายเสมอๆ นั้น เจ้าสาวอย่าพึ่งคิดว่าตนเองเป็นสิ่งไม่ดีหรืออะไร แต่ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่าในสมัยโบราณ ชายไทยจะต้องห้อยดาบไว้ทางซ้ายมือ เวลาเกิดเหตุไม่ดีหรือเรื่องไม่คาดฝันจะได้ใช้มือขวาดึงดาบออกมาปกป้องภรรยาได้อย่างรวดเร็วฉับไวนั่นเอง

จะเห็นได้ว่าจากข้อมูลที่แพรว wedding รวบรวมมาฝาก ไม่ว่าจะเป็นชนชาติไหนหรือศาสนาใด ก็มีความเชื่อเกี่ยวกับการยื่นมือและการก้าวเท้าเหมือนกันทั้งสิ้น อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับด้านขวามือมากกว่าซ้ายมือเหมือนกันอีกด้วย เอาเป็นว่าหากบ่าวสาวไม่รู้จะยื่นมือหรือก้าวเท้าข้างไหนก่อน ก็ขอให้ยึดทางขวามือเป็นหลักก็แล้วกันนะจ๊ะ

นอกจากเรื่องซ้าย-ขวาแล้วยังมีความเชื่อเรื่องอื่นๆ อีกนะ ไปดูกัน แปลกแต่จริง! 11 ความเชื่อเรื่องงานแต่งงานที่บ่าวสาวรู้แล้วจะอึ้ง

เรียบเรียงข้อมูลจาก : www.tlcthai.com, www.pakan2.com, rightle.blogspot.com, www.oknation.net/blog/bunruang , blog.eduzones.com/poonpreecha
ขอบคุณภาพประกอบจาก : bridalguide.com, blog-vmphotography.blogspot.com, goldenplayne.blogspot.com

ตั้งสติแล้วเลือกชุดแต่งงานตามนี้ รับรองไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลังชัวร์!!

ก็แต่งงานครั้งเดียว หากต้องมานั่งร้องไห้ตอนหลังว่าเลือก ชุดแต่งงาน ผิดเห็นทีจะเป็นตราบาปไปชั่วชีวิตแน่นอน!!

แน่นอนว่านอกจากที่เจ้าสาวจะมีธีมงานแต่งงานในฝันแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นความฝันและสาวๆ อย่างเราอยากจะทำให้เป็นจริงมากที่สุดก็คือการเลือก ชุดแต่งงาน ที่ตรงฝันตรงใจในวันสำคัญในชีวิตที่มีแค่ครั้งเดียว แต่…เราจะเลือกชุดแต่งงานในฝันของเราอย่างไรให้ไม่ต้องมานั่งเสียใจตอนหลังว่าไม่น่าเลือกชุดนี้เลย เรามีเทคนิคดีๆ มาบอกต่อ

1. เลือกจากชุดหรือแบบที่เจ้าสาวชอบ

เมื่อได้แบบชุดที่เราชอบแล้ว ก็นำแบบไปปรึกษากับร้านหรือดีไซเนอร์ที่ไว้ใจ เพื่อที่ช่างหรือร้านจะได้ให้คำแนะนำว่าชุดที่เราชอบเหมาะกับรูปร่างเราหรือไม่ ต้องเสริมตรงไหนเพิ่มเข้าไปอีกหรือเปล่า เพื่อให้เข้ากับจุดเด่นของรูปร่างของเจ้าสาวแต่ละคน และที่สำคัญชุดในฝันที่ดีนั้นจะต้องปกปิดส่วนที่เป็นจุดด้อยของเจ้าสาวท่านนั้นๆ ได้ด้วย

2. เจ้าสาวควรจะเลือกชุดไว้ในใจทั้งหมด 3 ชุด โดยแต่ละชุดจะต้องมีรูปแบบหรือสไตล์ที่แตกต่างกัน

จากนั้นก็จัดการลองให้หมดทั้ง 3 ชุดนั่นแหละค่ะ เพื่อที่จะได้ดูว่าแบบไหนที่เจ้าสาวชอบหรือแบบไหนที่เหมาะกับเจ้าสาวมากที่สุด เพราะบางทีแบบที่ชอบกับแบบที่เหมาะอาจจะไม่ได้อยู่ในชุดเดียวกันก็ได้ และที่สำคัญเจ้าสาวอย่าเพิ่งรีบตัดสินใจจากคำพูดอันจูงใจของเซลล์นะคะ เพราะส่วนมากเซลล์จะฮาร์ดเซลล์ขายเราอย่างหนัก จนพาลสติจะลอยๆ จนได้ชุดแต่งงานมาแบบไม่ตั้งใจ เพราะฉะนั้นต้อง have สติก่อน แล้วก็ใช้เวลาในการคิดนิดนึง อย่าเผลอไผลไปตามโปรโมชั่นหรือส่วนลดใดๆ (แต่ถ้าได้ชุดแต่งงานที่อยากได้แล้ว ค่อยสนใจโปรโมชั่นหรือส่วนลดต่างๆ นะจ๊ะ)

ชุดแต่งงาน

3. เจ้าสาวต้องทำการบ้านเกี่ยวกับชุดแต่งงานของตัวเองก่อนที่จะเข้าไปปรึกษากับร้านหรือดีไซเนอร์ด้วย

โดยในวันนั้นก็จะอาจจะมีชุดแต่งงานที่เจ้าสาวทำการบ้านไป กับชุดแต่งงานที่ทางร้านหรือดีไซเนอร์แนะนำให้ลอง ซึ่งหากเจ้าสาวได้ลองชุดแต่งงานครบทุกชุดแล้ว ให้เชื่อความรู้สึกแรกซึ่งมันจะเป็นความรู้สึก “ว้าววววว!! อยู่หน้ากระจก รู้สึกว่าชุดนี้แหละใช่เลย หมุนซ้ายหมุนขวาอยู่หน้ากระจกแล้วเห็นตัวเองใส่ชุดนี้ในงานแต่งงาน ก็เป็นอันจบ แต่!! อย่าลองเยอะมากเกินไปนะคะ (3 ชุดกำลังดี) เพราะยิ่งลองเยอะก็จะยิ่งเกิดการเปรียบเทียบขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ความรู้สึกแรกที่เราคิดว่ามันใช่ กลายเป็นความไม่มั่นใจเข้ามาแทนที่

4. อาจจะดูจากบุคลิกของเจ้าสาว และไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันเป็นหลักเพื่อนำมาดีไซน์เป็นชุดแต่งงานที่เป็นตัวเจ้าสาวมากที่สุด

เพราะสิ่งไหนที่เป็นตัวเราก็จะช่วยให้เจ้าสาวรู้สึกมั่นใจในชุดนั้นแน่นอน จากนั้นจึงต้องเลือกร้านหรือดีไซเนอร์ให้ตอบโจทย์กับสิ่งที่เจ้าสาวต้องการมากที่สุดด้วยนะคะ

5. เจ้าสาวต้องพูดคุยแบบเปิดใจกับดีไซเนอร์ถึงความชอบและความไม่ชอบของตัวเจ้าสาวให้มากที่สุด

เพื่อที่ทางร้านหรือช่างจะได้ใช้ประสบการณ์ที่มีเพื่อนำมาปรับแต่งไอเดียของเจ้าสาวจนได้ออกมาเป็นชุดที่ตรงใจและตรงกับบุคลิกของเจ้าสาวมากที่สุด ซึ่งชุดแต่งงานที่สมบูรณ์แบบนั้นจะต้องพอดีกับรูปร่างของเจ้าสาวด้วย โดยไม่จำเป็นต้องตีกรอบว่าหุ่นแบบนี้ต้องใส่ชุดแบบนั้น หรือหุ่นแบบนั้นห้ามใส่ชุดแบบนี้ เพราะไม่ว่าจะหุ่นแบบไหนแต่ถ้าได้ใส่ชุดแต่งงานที่พอดีกับรูปร่างของตัวเองแล้วล่ะก็ นั่นแหละค่ะ คือชุดแต่งงานที่เพอร์เฟกต์ และคุณก็จะเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดแน่นอน

หรือจะเลือกจาก เทรนด์ชุดแต่งงาน 2019 จากรันเวย์ Bridal Fashion Week ก็ได้น้า สวยๆ ทั้งนั้นพูดเลย!!

ภาพ : coveteur.com, pexels.com

7 เรื่องเจ้าสาวต้องคิดและทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อรองเท้าแต่งงาน

ใครว่า รองเท้าแต่งงาน ที่ซ่อนอยู่ใต้กระโปรงยาวสุดอลังการไม่สำคัญคะ อย่าลืมสิว่าคุณต้องอยู่กับรองเท้าคู่นี้เป็นชั่วโมงๆ เชียวนะคะ ฉะนั้นจะตัดสินใจง่ายๆ หรือเลือกซื้อแบบส่งๆ ไม่ได้เชียว เพราะนั่นหมายถึงอาการเจ็บปวดรวดร้าวและแสนระบมเท้าที่อาจทำให้วันแห่งความสุขกลายเป็นวันสุดทุกข์ที่คุณจะจำไปนานแสนนาน

ถ้าไม่อยากเจอความร้าวรานที่ว่า เราขอให้ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายคิดและทำ 7 เรื่องต่อไปนี้ก่อนที่จะตัดสินใจเซย์เยสช้อปปิ้งรองเท้าคู่สวยมาคู่เท้าในวันแต่งงานค่ะ

  • คิดถึงความสูงของรองเท้า

ไม่มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่าการที่เท้าและขาของคุณต้องยืนเมื่อยอยู่บนรองเท้าส้นสูงนานเกินไป แม้คุณจะเชื่อว่าการใส่ส้นสูงทำให้รูปร่างแลดูสูงเพรียวขึ้นก็เถอะ แต่ในชีวิตจริงความทรมานนีจะทำให้คุณโอดครวญจนคนข้างๆ รำคาญได้ ซึ่งถ้าคุณจะถามว่า แล้วสูงแค่ไหนละ ถึงจะพอดีๆ ที่ยืนแล้วไม่เมื่อย ความสูงรับได้ ขอบอกว่าไม่เกิน 3 นิ้วค่ะ แต่ถ้าคุณเป็นสาวที่ใส่ส้นสูงอยู่แล้ว เราเพิ่มให้อีกนิ้วเป็นสี่นิ้วได้เลย!

  • ใส่แล้วหลุดง่ายไหม

เราเข้าใจคุณว่าที่เจ้าสาวนะคะว่า ระหว่างคัทชูที่ใส่แล้วให้อารมณ์เจ้าหญิงกับรองเท้าแบบมีสายรัดสุดเซ็กซี่เนี่ย คัทชูน่าจะชนะใจว่าที่เจ้าสาวส่วนใหญ่ แต่ข้อเสียที่หลายคนลืมคิดไปคือ รองเท้าคัทชูเสี่ยงที่จะใส่เดินไปแล้วหลุดได้ง่ายกว่ารองเท้าแบบมีสายรัด ยิ่งถ้าคุณมีขนาดเท้าสองข้างไม่เท่ากันแล้วละก็ การที่จะช้อปรองเท้าคัทชูข้างละเบอร์เป็นไปไม่ได้แน่นอน ทางออกที่เราขอเสนอคือ ใส่รองเท้าแต่งงานแบบมีสายรัดที่สามารถขยับขนาดได้ตามรูปเท้าจะดีที่สุด

  • คิดถึงสิ่งตกแต่งบนรองเท้า

คริสตัล ขนนก ริบบิ้น ลูกปัดฯลฯ สารพัดสิ่งที่นำมาตกแต่งบนรองเท้าเจ้าสาวช่วยเสริมให้รองเท้าสวยยิ่งๆ ขึ้นไปก็จริง แต่เจ้าของพวกนี้อาจกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้ชายกระโปรงของชุดเจ้าสาวไปเกี่ยวจนคุณเดินล้มเสียจังหวะทรงตัวได้เหมือนกัน ทางที่ดีถ้าอยากจะมีสิ่งประดับเหล่านี้ ให้คุณลองดูตำแหน่งที่ของเหล่านี้ที่ประดับอยู่บนรองเท้าก่อนตัดสินใจซื้อว่า อยู่ในตำแหน่งไหน สุ่มเสี่ยงที่ชายกระโปรงจะไปเกี่ยวไหม หรือเมื่อใส่เท้าลงไปแล้วทำให้เดินลำบากหรือเปล่า ก็แหม…สวยแค่ตา ใส่ไปจริงๆ ไม่รอดก็มีถมไปนะคะ

  • คิดถึงขนาดและรูปทรงรองเท้าที่เหมาะกับเท้าคุณ

เท้าของทุกคนมีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกันอยู่แล้วนะคะ ดังนั้นอย่ากลัวที่จะขอลองรองเท้าสัก 2-3 ขนาดเพื่อตรวจสอบและหาคู่ที่เหมาะสมกับขนาดและรูปทรงเท้าของคุณที่สุด

  • คิดถึงสภาพอาการและขนาดเท้าที่จะขยาย

บ้านเราเมืองเรามีอากาศที่ร้อนเป็นทุนเดิมนะคะ  ดังนั้นจึงทำให้มีโอกาสที่เท้าของคุณจะบวมด้วยความร้อนในระหว่างวัน ฉะนั้นเพื่อเป็นการเลี่ยงปัญหานี้ เราขอแนะนำให้คุณซื้อรองเท้าในช่วงบ่ายดีกว่าช่วงเช้าค่ะ และเมื่อลองรองเท้าในช่วงเวลาที่เท้าบวมสุดๆ แล้วอยากลืมถามตัวเองนะคะว่า ใส่แล้วสบายจริงไหม เพราะไม่ว่าแบบรองเท้าที่คุณเล็งอยู่จะสวยงามแค่ไหน ก็ไม่สำคัญเท่าคุณใส่ไปแล้วสบายเท่าหรือเปล่า หรือคุณว่าไม่จริง

  • มีงบประมาณเท่าไหร่

แน่นอนว่ารองเท้าแต่งงานก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เจ้าสาวต้องวางงบประมาณไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ ถ้าคุณมีแบรนด์โปรดคุณอาจวางวบประมาณคร่าวงๆ ได้ไม่ยาก แต่ถ้าคุณไม่ได้เลิฟยี่ห้อไหนเป็นพิเศษก็ลองตั้งงบประมาณดูสักนิด โดยเทน้ำหนักให้ความสำคัญไปในเรื่องการใช้งานและความคุ้มค่าของความสบายเท้าที่ใส่ในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต เพราะรองเท้าราคาแพงกว่าปกติที่คุณซื้อ อาจน่าลงทุนกว่ารองเท้าราคาถูกกว่าไม่กี่ร้อยกี่พันแต่นำมาซึ่งอาการเท้าข้ามวันข้ามคืนระบม

  • ชุดเจ้าสาวและธีมงานของคุณเป็นแบบไหน

ไม่ว่าคุณจะชอบรองเท้าคู่นั้นมากแค่ไหน หรือดาราสาวในดวงใจเป็นพรีเซนเตอร์ รวมถึงตัวแม่ในวงการใส่แต่งงานก็คงไม่สำคัญเท่างานแต่งงานของคตุณจัดในธีมไหน และชุดแต่งงานที่คุณเลือกเป็นแบบเพราะทั้งหมดนี้ควรเป็นเรื่องเดียวกันนะคะ ทั้งสไตล์ชุดแต่งงานที่ควรเข้ากับธีมที่จัด ซึ่งส่งผลไปถึงแบบรองเท้าที่เลือก ความยาวของชุดต้องไม่ทำให้เป็นอุปสรรคในการใส่รองเท้าคู่นั้นเดินเฉิดฉายในงาน รวมถึงสิ่งที่นำมาประดับบนรองเท้าควรไปในทิศทางเดียวกับชุดและธีมงาน ไม่อย่างนั้นคนอาจมองว่ารสนิยมของคุณเพี้ยนๆ ได้นะคะ

ถ้าถามว่า คุณควรซื้อรองเท้าเจ้าสาวของคุณเมื่อไหร่ เราขอบอกว่า 4 เดือนก่อนถึงวันงานค่ะ เพราะอะไรใช่ไหมล่ะ เหตุผลเพราะคุณต้องนำรองเท้าคู่นี้ไปใส่ในการลองชุดเจ้าสาวของคุณด้วยยังไงละคะ คุณจะได้รู้ว่าเมื่อรองเท้าสูงระดับนี้ต้องตัดชุดเจ้าสาวเผื่อชายกระโปรงมากแค่ไหน และคุณสามารถเดินได้สบายจริงไหม ถ้ามันเวิร์คก็ลุยต่อ แต่ถ้าไม่จะได้กลับตัวทันไปหาซื้อคู่ใหม่ที่เหมาะกว่ายังไงละคะ

ดูไอเดียเรื่องชุดแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

ส่องเมกอัพเจ้าสาวอิสลาม พร้อมชี้จุดสวย เน้นจุดไหนให้สวยทะลุฮิญาบ

ว่าที่ เจ้าสาวอิสลาม ทั้งหลาย! เรามาบอกสไตล์เมกอัพที่เข้ากันกับฮิญาบ แถมช่วยส่งให้คุณดูเป็นเจ้าสาวสวยหรูเลอค่าในวันสำคัญสุดๆ

ใครกำลังจำได้เป็น เจ้าสาว ในงานแต่งงานอิสลาม ยกมือค่ะ! ในวันสำคัญของ เจ้าสาวอิสลาม นั้น เจ้าสาวจะต้องอยู่ในชุดแต่งงานตามประเพณีอิสลามซึ่งจะต้องประกอบด้วยผ้าคลุมศรีษะหรือ  ฮิญาบ ซึ่งในยุคนี้มีชุดเจ้าสาวสำหรับพิธีแต่งงานของศาสนาอิสลามรวมทั้งฮิญาบดีไซน์สวยงามอลังการออกมาให้เจ้าสาวอิสลามเลือกอย่างมากมาย แต่ที่จะมองข้ามไม่ได้ก็คือเมกอัพของเจ้าสาวอิสลามที่จะต้องดูมีดีเทลเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ใบหน้าของเจ้าสาวถูกข่มด้วยเครื่องประดับศรีษะจนหมดความโดดเด่น เรามาดูกันดีกว่าว่าสำหรับเจ้าสาวอิสลาม เมกอัพแบบไหนดีนะที่เมื่อมองภาพรวมกับชุดและฮิญาบแล้ว ดูเข้ากั๊น เข้ากัน แถมยังช่วยส่งให้ใบหน้าของเจ้าสาวดูสวย เลอค่า หรูหรา ประดุจเจ้าหญิงในวันวิวาห์ค่ะ

IG: fitaangela
  • โทนสีเมกอัพต้องไปด้วยกันกับสีฮิญาบและสีชุด ไม่ต่างกันกับเจ้าสาวพิธีแต่งงานไทย เจ้าสาวอิสลามควรแน่ใจว่าโทนสีเมกอัพอย่างสีแก้ม และสีปาก เป็นโทนสีเดียวกันหรือไปด้วยกันกับสีชุดเจ้าสาว จะช่วยส่งให้ลุคโดยรวมดูละมุน แต่ถ้าเจ้าสาวเลือกใช้สีชุดแต่งงานที่แมทช์กับสีเมกอัพได้ยากอย่างสีฟ้า หรือสีม่วง เจ้าสาวสามารถเลือกใช้เมกอัพโทนสีตรงกันข้ามแทน (Contrast Color) อย่างสีส้มที่เป็นสีตรงกันข้ามของสีฟ้าและสีม่วง จะช่วยให้ใบหน้าของเราดูโดดเด่นขึ้นมาได้เช่นกัน
IG: zariffilm
  • เน้นความโดดเด่นเพียงจุดเดียวของใบหน้า เมื่อเครื่องประดับศีรษะดูโดดเด่นแล้ว เจ้าสาวควรเลือกเน้นจุดเดียวของใบหน้า เพื่อไม่ให้ลุคโดยรวมดูเยอะและรกจนเกินไป และยังช่วยเน้นส่วนที่เรามั่นใจบนใบหน้าให้สามารถดูฉายแววโดดเด่นขึ้นมาได้ด้วยค่ะ เช่น หากเราชอบดวงตาของตัวเอง สามารถติดขนตาปลอมเพื่อเน้นดวงตาให้ดูโดดเด่น แมทช์กับเรียวปากสีนู้ดเบาบาง หรือในทางตรงกันข้ามหากชอบเรียวปากของตัวเอง สามารถแมทสีเรียวปากสีแดงสุดจี้ด เข้ากับเมกอัพดวงตาและส่วนอื่นที่เบาลงมาก็ได้นะคะ
demilked.com
  • ถ้าเป็นสาวหน้าคม เครื่องหน้าชัด ถือคติน้อยคือมากเข้าไว้ค่ะ เพราะถ้ายิ่งคุณแต่งหน้าเยอะ ลุคโดยรวมจะยิ่งดูเยอะจนรกไปหมด เราสามารถแต่งหน้าเพียงเบาบาง เน้นผิวธรรมชาติ ปัดขนตาน้อยๆ ไม่ต้องติดขนตาปลอม รวมทั้งใช้สีเรียวปากและสีแก้มแบบธรรมชาติ แค่นี้ก็ดูสวยแพงแล้วค่ะ!
interest.pics
  • แต่ถ้าคุณเป็นสาวหน้าหมวย เน้นเรียวคิ้วและดวงตาเข้าไว้ค่ะ เพราะเรียวคิ้วจะเป็นสิ่งที่ช่วยดึงให้ใบหน้าของคุณโดดเด่นออกมาจากฮิญาบ อาจจะใช้การใส่คอนแทคเลนส์สีเสริมเพื่อช่วยดึงให้ดวงตาดูเป็นประกาย (คลิกอ่าน ทิปส์การเลือกสีคอนแทคเลนส์สำหรับเจ้าสาว ที่นี่) หรืออาจจะเสริมด้วยขนตาปลอมติดปลายหางตาเป็นช่อเล็กๆ ให้ดวงตาดูเฉี่ยวขึ้นก็ได้นะคะ
arabiaweddings.com

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับทิปส์การเลือกเมกอัพของเจ้าสาวอิสลาม อย่าลืมนำไปใช้ในวันสำคัญของเจ้าสาวกันด้วยนะคะ ว่าที่เจ้าสาวอิสลามคนไหนที่อยากได้ทิปส์อื่นๆ สำหรับพิธีแต่งงานของศาสนาอิสลาม อินบ็อกซ์เข้ามาพูดคุยกับพวกเรา ทีมงาน Praew Wedding ได้ที่ Facebook: Praew Wedding ได้เลยจ้า

5 เทคนิคให้คู่รักเลือกแหวนแต่งงานให้โดนใจในราคาประหยัด

เมื่อวันสำคัญของการเริ่มต้นชีวิตคู่มาถึง.. แหวนแต่งงาน คือหนึ่งในเรื่องหลักๆ ที่ทุกคู่ต้องใส่ใจให้มาก ด้วยราคาที่ไม่ใช่น้อยๆ ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ทั้งยังเป็นของแทนใจที่มีความหมายมากต่อทั้งคู่ ดังนั้นหากใครไม่เคยมีประสบการณ์การเลือกซื้อแหวนมาก่อนเลย ก็อาจจะทำให้กังวลใจไม่น้อย ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นเลือกซื้ออย่างไร กับคู่ที่ต้องการจะประหยัดงบในส่วนนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ต้องสนใจ เพราะมีหลักอยู่ว่าเลือกยังไงในงบประมาณที่มีให้ได้แหวนแต่งงานที่ถูกใจที่สุดด้วยนะคะ ซึ่งวันนี้ แพรว wedding ลิสต์มาให้โดยเฉพาะเพื่อคู่รักสายบั๊ดเจ๊ทเลยล่ะค่ะ ลองไปดูกันซิว่าต้องดูอะไรกันบ้าง 😉

 

  • กำหนดงบประมาณให้แน่วแน่

ก่อนที่จะเดินเข้าร้านจิวเวลรี่ควรจะกำหนดงบประมาณให้ได้เสียก่อนว่าแหวนในระดับราคาเท่าไหร่ที่จะสามารถซื้อได้ เพื่อจะได้ไม่วอกแวกไปสนใจแหวนวงอื่นที่มีระดับราคาที่สูงเกินกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ และยิ่งถ้ามีงบประมาณไม่มากนักยิ่งต้องตั้งสติให้มั่นเลยนะคะ

  • พิจารณาแหวนที่ทำจากวัสดุราคาไม่แพง

แหวนที่สั่งทำด้วยวัสดุที่มีราคาไม่แพงถือเป็นทางเลือกที่ดี พยายามพิจารณาคุณภาพของแหวนและสีของอัญมณีที่ชอบจากแหวนที่อยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้อย่างรอบคอบก็จะช่วยตีกรอบให้เล็กเข้ามา ทำให้คุณไม่ต้องงงวยกับพาเหรดแหวนละลานตาที่คนขายพยายามมาถมใส่คุณ

  • สีของอัญมณีมีผลต่อราคา

ตามปกติเพชรคือสิ่งที่มีราคาแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีขนาดใหญ่และคุณภาพอยู่ในระดับสูง แต่ถ้าหากอยากได้แหวนที่มีรูปหัวใจขนาดใหญ่ตรงกลางแต่งบประมาณมีไม่พอ อัญมณีมีสีจึงอาจเป็นทางออกของเรื่องนี้ อัญมณีมีสีมักจะมีราคาไม่แพงมาก ถึงจะมีขนาดใหญ่ก็ยังเป็นไปได้ที่จะมีราคาอยู่ในงบประมาณ

  • การเลือกเนื้อวัสดุตัวเรือนแหวน

สิ่งแรกคือต้องตัดสินใจว่าสีของเนื้อโลหะแบบไหนที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีเหลืองหรือสีกุหลาบ แต่ส่วนใหญ่ที่นิยมกันคือสีขาว ไม่ว่าจะเป็นแพลตินัมหรือทองคำขาว แพลตินัมถูกพิจารณาว่าเป็นสุดยอดของความบริสุทธิ์จากธรรมชาติเพราะไม่ผ่านการชุบ เป็นสีขาวตามธรรมชาติที่ต่างจากทองคำขาวที่ต้องผ่านการชุบด้วยโรเดียมทุกๆ 12-18 เดือน อย่างไรก็ตาม แพลตินัมมีราคาขึ้นอยู่กับราคาแร่โลหะตามเวลาช่วงนั้น แต่ถ้าสนใจในทองคำขาว แนะนำให้ปรึกษาคนขายจิวเวลรี่ถึงราคาหลังค่าบริการรวมถึงค่าขัดและชุบที่ฟรี

  • ค่อยๆ เพิ่มเติมทีหลังก็ยังได้

ในการเลือกซื้อแหวนแต่งงาน บางทีงบประมาณอาจมีไม่พอที่จะได้แหวนแต่งงานอย่างที่หมายตาเอาไว้ อย่างว่าที่เจ้าสาวบางคนอยากได้แหวนแต่งงานที่มีเพชรเล็กๆ มากมายรายล้อมรอบๆ แหวน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเพิ่มเติมได้ทีหลังได้เมื่อเก็บเงินได้มากพอ และอาจทำให้ดูเป็นความทรงจำที่พิเศษมากขึ้นอย่างการเพิ่มเติมเพชรเล็กๆ ที่ต้องการลงบนแหวนในวันครบรอบแต่งงานปีแรกก็เก๋ไก๋ไปอีก

ดูไอเดียแหวนแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติม คลิกเลย!

cr : cnbc.com, weddinglovely.com, hinzjewelers.com

3 ระดับความยาวกระโปรงเจ้าสาวสุดฮิต พร้อมทริคการเลือกให้เข้ากับทรงชุดแต่งงานเรียบหรู

นอกจากรูปแบบชุดแต่งงานแบบต่างๆ ที่เจ้าสาวต้องเลือกแล้ว ก็ยังมีความยาวของกระโปรงอีกหนึ่งเรื่องที่เจ้าสาวต้องตัดสินใจ จะยาวมากยาวน้อยแค่ไหนนอกจากเรื่องรสนิยมและความชอบส่วนตัวแล้ว แพรว wedding อยากบอกว่าเจ้าสาวต้องเลือกให้เหมาะกับรูปแบบของชุดแต่งงาน ธีมงาน และสถานที่ด้วย ถ้าอย่างนั้นมาดูดีกว่า ชุดแต่งงานเรียบหรู ของเจ้าสาวเหมาะกับความยาวกระโปรงระดับไหนมากที่สุด

Sweep

หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า brush เป็นกระโปรงที่มีความยาวกำลังพอดี ซึ่งความยาวในระดับนี้ช่วยทำให้ชุดแต่งงานดูสวยหวานโรแมนติกมากขึ้น มักจับคู่กับชุดแต่งงานทรงทรัมเป็ตหรือทรงเมอร์เมด ซึ่งหากเจ้าสาวจัดงานแต่งงานแบบเอ๊าท์ดอร์หรืองานแต่งในสวน แนะนำให้เลือกความยาวประมาณนี้เพื่อความสะดวกในการเดิน


Chapel

เป็นระดับความยาวกระโปรงที่ได้รับความนิยมในหมู่เจ้าสาวมากที่สุด ความยาวระดับนี้มักจับคู่กับชุดแต่งงานทรงเอ-ไลน์ เป็นความยาวที่กำลังพอดีทำให้เจ้าสาวสามารถเดินได้อย่างสะดวก และเหมาะสำหรับรูปแบบงานแต่งงานในห้องบอลรูม เพราะดูสวยงามหรูหรากำลังดี


Cathedral

เป็นความยาวของชุดแต่งงานที่มีรูปแบบค่อนข้างเป็นทางการ ส่วนมากนิยมจับคู่กับชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์ หรือชุดแต่งงานทรงเอ-ไลน์ หรือจะเลือกเสริมในรูปแบบเป็นชายกระโปรงแบบถอดได้กับชุดแต่งงานทรงตรงก็หรูหราไม่แพ้กัน ความยาวของกระโปรงแบบนี้เหมาะสำหรับรูปแบบงานแต่งงานที่เป็นทางการมากๆ หรืองานแต่งงานภายในห้องบอลรูมขนาดใหญ่

สุดท้าย ก่อนเดินเข้างานว่าที่เจ้าสาวอย่าลืมบอกเวดดิ้งแพลนเนอร์ คนจัดงาน หรือแก๊งเพื่อนเจ้าสาวให้ช่วยเคลียร์พื้นที่ให้แน่ใจว่ากระโปรงของเจ้าสาวจะไม่ไปเกี่ยวเข้ากับอะไร หรือลากสิ่งใดติดไปด้วย ที่สำคัญคืออย่าลืมจัดกระโปรงให้สยายไว้อย่างสวยงามก่อนที่เจ้าสาวจะเดินเข้างานเพื่อภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบ

ว่าทเี่จ้าสาวสามารถเลือกดูแบบชุดแต่งงานสากลและชุดแต่งงานไทยเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!!

ภาพ – stocksnap.io, pinterest

บ่าวสาวต้องเช็ค! 5 เรื่องก่อนจองแพ็กเกจถ่ายพรีเวดดิ้ง

ก่อนจะ ถ่ายพรีเวดดิ้ง มาเช็ก 5 เรื่องนี้กันก่อนนะ

หนึ่งในสิ่งที่ว่าบ่าวสาวทั้งหลายใส่ไว้ใน To do List  ในวาระที่จะแต่งงานจนเรียกได้ว่าเป็นธรรมเนียมไปแล้ว ก็คือ การ ถ่ายพรีเวดดิ้ง ที่ปัจจุบันมีสตูดิโอให้เลือกใช้บริการมากมายและเลือกได้ในหลายราคา โดยมีเงื่อนไขต่างๆ กันไปอยู่ที่คุณจะพอใจแบบไหน แต่ไม่ว่าจะเลือกสตูฯ ใดก็ตาม แพรว wedding มี 5 เรื่องอยากให้คุณเจรจาตกลงกับทางสตูดิโอนั้นๆ ให้ชัวร์ก่อนตัดสินใจว่า ถ่ายกับที่นี่แหละ!!’

1. คิดให้ชัวร์กับจำนวนรูปที่ได้ในแพ็กเกจ

แม้ว่าปกติแล้วในแพ็กเกจถ่ายพรีเวดดิ้งจะระบุว่า ในราคาที่ซื้อนี้ คุณจะได้ภาพทั้งหมดกี่รูป แต่ว่าที่ส่วนใหญ่มักลืมคิดไปว่า เมื่อได้เห็นภาพทั้งหมด คุณอาจชอบภาพที่เมื่อบวกลบจำนวนแล้วเกินกว่าจำนวนรูปที่จะได้รับตามแพ็กเกจ ทำให้ต้องควักเงินจ่ายค่ารูปเพิ่มทีหลัง ซึ่งเผลอๆ ราคารูปที่เพิ่มอาจมากมายจนซื้อเป็นแพ็กเกจที่ใหญ่กว่า และได้รูปมากกว่าที่ตัดสินใจในตอนแรก  ฉะนั้นตัดสินใจให้แน่วแน่ว่าจำนวนรูปที่อยากได้เท่าไหร่ดี โดยอาจคิดเผื่อไว้สักหน่อย ไม่ก็ลองต่อรองจำนวนกับทางสตูฯ เพิ่มเติมตั้งแต่แรก ดีกว่าต้องเสียเงินอีกก้อนโดยไม่จำเป็น

2. คุยให้เคลียร์ถึงจำนวนรูปที่ผ่านการรีทัชสวยงาม

นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ว่าที่บ่าวสาวพลาดกันมานักต่อนัก เพราะอาจคิดไปเองว่ารูปที่ได้จะสวยงามเหมือนในกรอบที่ตั้งโชว์หน้าร้านทุกรูป ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่นะคะ สตูดิโอแต่ละที่มักจะทำรีทัชให้ในจำนวนหนึ่งเท่านั้น (ก็แหม…การรีทัชให้สวยเริ่ดแต่ละรูปต้องใช้เวลาและฝีมือมากนะคะ) คุณว่าที่จึงควรเช็คในเงื่อนไขของแพ็กเกจนั้นๆ ให้ดีก่อนที่จะต้องจ่ายค่ารีทัชเพิ่มเพราะไม่รู้จำนวนจริง

3. เช็คให้ชัวร์ถึงจำนวนชุดที่ใส่ถ่าย

ในการถ่ายพรีเวดดิ้ง ทางร้านส่วนใหญ่จะกำหนดในแพ็กเกจว่าบ่าวสาวได้เปลี่ยนกี่ชุดเวลาถ่ายภาพ ซึ่งอย่าลืมเคลียร์ให้ชัดว่า คุณจะได้ใช้ชุดที่ทางร้านเตรียมให้ทั้งหมดกี่ชุด เป็นชุดอะไรแบบไหน ชุดไทยหรือสากลและสามารถเอาชุดส่วนตัวใส่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งได้หรือเปล่า และถ้านำไปถ่ายไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มใช่ไหม

ถ่ายพรีเวดดิ้ง

4. ช่างแต่งหน้าและช่างภาพชุดนี้จะตามไปทำให้ในวันงานหรือเปล่า

อีกหนึ่งเงื่อนไขที่ทางสตูดิโอเสนอมาให้ในแพ็กเกจก็คือ ช่างแต่งหน้า-ทำผมที่ทำสวยหล่อให้ในวันถ่ายพรีฯ จะตามไปทำสวยหล่อให้ในวันจริงด้วย ซึ่งแม้คุณโอเคกับเงื่อนไขนี้ แต่ในวันที่ซื้อแพ็กเกจ คุณยังไม่รู้ว่าช่างสองหน่วยงานนี้จะฝีมือตรงใจไหม ฉะนั้นอย่าลืมถามเผื่อด้วยว่า ถ้าในวันถ่ายพรีฯ ไม่ปลื้มผลงานสามารถเปลี่ยนคนได้ไหม และเสียเงินค่าเปลี่ยนหรือเปล่า ดีกว่ามาบ่นว่าก็มันร่วมในแพ็กเกจแก้ไขไม่ได้

5. จะได้รับรูปหลังถ่ายเสร็จเมื่อไหร่และได้พร้อมกันทุกอย่างเลยไหม

นัดแนะให้มั่นใจและชัวร์ว่า หลังจากที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งเสร็จแล้ว ทางสตูฯ จะส่งภาพให้คุณได้เชยชมวันไหน และอย่าลืมถามลงรายละเอียดไปเลยว่า จากภาพทั้งหมดที่ถ่ายมา จะได้รับพร้อมกันทุกรูปหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นแบบมาทั้งอัลบั้ม ใส่กรอบ หรือเป็นซีดี ไม่ใช่การส่งงานแบบทยอยส่งใช่ไหม เพราะบางรูปคุณอาจต้องนำไฟล์ไปทำอย่างอื่นหรือใช้ประกอบในพรีเซนเทชั่น ซึ่งถ้ารูปมาไม่ครบ เท่ากับว่างานอื่นๆ ที่ต้องเตรียมโดยมีรูปพรีเวดดิ้งมาเอี่ยวต้องสะดุดตามนั่นเอง

ค่อยๆ ใช้เวลาพูดคุยและเช็คให้ชัวร์ทั้ง 5 ข้อนี้ แล้วค่อยเซย์เยสกับสตูดิโอก็ยังไม่สาย ดีกว่ามานั่งปวดหัวและเสียเงินเพิ่มให้กระเป๋าฉีกทีหลังนะคะ อ่ะ ว่าแล้วก็ไปฝึกซ้อมท่าถ่ายภาพกันดีกว่า >>> จะแต่งงานแล้ว เซ็กซี่ได้ รวมท่าโพสสุดเซ็กซี่ ไว้ใช้ถ่ายพรีเวดดิ้ง

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : wikimedia, sixheartsphotography.com

“ยิหวา ปรียากานต์” ใน ชุดแต่งงานไทยดีไซน์หรูหราได้ลุคเจ้าสาวสมัยใหม่

นักแสดงสาวหน้าหวาน ยิหวา – ปรียากานต์ ใจกันทะ ที่ก่อนหน้านี้หลายคนติดใจในใบหน้าของเธอในบท “จันตา” จากละครเรื่องกรงกรรม กับใบหน้าสวยสดใสไร้เครื่องสำอางที่สวยฉ่ำมาก เห็นหน้าหวานๆ แบบนี้ แพรวเวดดิ้งเลยถือโอกาสชวนสาวยิหวานมาใส่ ชุดแต่งงานไทย ในสไตล์หรูหรามีความทันสมัยในแฟชั่นของนิตยสารแพรวเวดดิ้งซะเลย ซึ่งพอแต่งองค์ทรงเครื่องครบแล้วก็ไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆ

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

เสื้อผ้าจาก Deep Love Wedding
โทร. 0-2398-5739 0-2399-1693, 09-5789-9556
เว็บไซต์ www.deeplovewedding.com
เฟซบุ๊ก : DeepLove ชุดแต่งงาน ชุดไทย
ไอจี : @deeplove_official
ไลน์ : @deeploveweddingร