เช็กลิสต์ สถานที่ฮันนีมูนทั่วโลก เดือนไหนเวิร์กสุดที่จะไปเยือน

แพรว wedding มีเช็กลิสต์ สถานที่ฮันนีมูน ทั่วโลกทั้ง 12 เดือนมาฝาก เพื่อที่คุณและคนรักจะได้มีทริปที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม

คู่รักหลายคู่ที่กำลังวางแผนว่าจะไปไปสวีทหวานกันที่ไหนดี หรือว่าที่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามันที่อยากไปยัง สถานที่ฮันนีมูน แปลกใหม่ อย่างเช่น ทริปต่างประเทศ ถ้าเป็นอย่างนั้นสิ่งสำคัญอันดับแรก (นอกจากเงินในกระเป๋า!) ก็คือการเช็กสภาพอากาศและภูมิทัศน์ของแต่ละประเทศว่าช่วงไหนที่เหมาะสำหรับการไปฮันนีมูนมากที่สุด เพราะในช่วงเวลา 1 ปีเมืองต่างๆ ทั่วโลกก็จะมีราคา ผู้คน ส่วนลด หรือสภาพอากาศที่ต่างกันไป เพราะฉะนั้นการวางแผนแบบยาวๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่าด่วนตัดสินใจจองตั๋วแบบปุ๊ปปั๊ปทัวร์เด็ดขาด

 

มกราคม – ไอซ์แลนด์

เดือนมกราคมถือว่าเป็นเดือนที่ยังอยู่ในช่วงฤดูหนาวและอากาศยังขมุกขมัวไม่โปร่งใสนักใน ไอซ์แลนด์ แต่สำหรับการฮันนีมูนแล้ว นี่ถือว่าเป็นสถานที่ที่สวยงาม และเป็น destination ที่เหมาะสำหรับคู่รักที่อยากไปสัมผัสเมืองที่อากาศหนาวสุดขั้ว ที่สำคัญ ถ้าไปถูกเวลา วางแผนดีๆ และมีโชคช่วย ใน 1 ชั่วโมงของวัน คุณและคนรักอาจได้พบกับแสงเหนือสุดโรแมนติกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้คนทั่วโลกและคนรักอยากมาเยือนเพื่อดูสิ่งนี้มากที่สุด

กุมภาพันธ์ – แองกวิลลา

แองกวิลลา เป็นอาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรในทะเลแคริบเบียน เหมาะสำหรับคู่รักที่กำลังมองหาสถานที่ที่มีอากาศอุ่นๆ ของอากาศแบบสิ้นหน้าหนาวพร้อมวิวทะเล แถมที่นี่ยังเต็มไปด้วยรีสอร์ทสุดหรูระดับลักซ์ชัวรี่ และชายหาดที่มีชื่อเสียงและยอดเยี่ยมที่สุดในโลก กับหาดทรายสีขาวที่ทอดยาวล้อไปกับน้ำทะเลสีฟ้าใสแจ๋ว ซึ่งหาดที่ผู้คนนิยมไปมากที่สุดคือ อ่าวรองเดอวัวร์ ซึ่งเป็นชายหาดสาธารณะสุดโรแมนติก และนอกจากจะมีดีเรื่องทะเลแล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยของอร่อยอีกด้วย

มีนาคม – ไทย

คู่รักชาวไทยมีเฮ เพราะไม่ต้องไปไหนไกลให้เสียเวลา เพราะเดือนมีนาคมเป็นเดือนที่อากาศในบ้านเราออกจะอุ่นๆ คือไม่หนาว แต่ก็ไม่ร้อนแบบทรมาน แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าสภาพอากาศในแต่ละภาคของบ้านเรานั้น ถึงแม้จะเดือนเดียวกันแต่กลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นการเช็กกรมอุตุฯ ก่อนวางแผนเป็นเรื่องจำเป็น และบอกเลยว่าใครที่อยากจะไปทะเลก็ลุยได้เลย จะฝั่งอ่าวไทยหรืออันดามันก็สวยหมด โดยเฉพาะหมู่เกาะสิมิลัน สวยมากกก ห้ามพลาดเชียวล่ะ

เมษายน – โมรอคโค

เป็นช่วงเวลาที่สภาพอากาศวิเศษมากเว่อร์ สำหรับภูมิประเทศเมืองทะเลทราย เพราะคุณและคนรักจะสามารถเดินชิลและทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างสบายตัว เพราะอากาศไม่ร้อนมากหรือเย็นจัดเกินไป ที่สำคัญคุณยังไม่ต้องเจอกับกรุ๊ปทัวร์ที่มักจะหลั่งไหลมาที่นี่ในช่วงหน้าร้อนหรือหน้าหนาวอีกด้วย ทำให้คุณสามารถเดินชมตลาดนัดอันเลื่องชือ เดินทอดน่องบนถนน หรือชิลไปกับสถานที่สำคัญต่างๆ ได้แบบไม่ต้องเบียดกับใคร

พฤษภาคม – พรอว็องส์

พรอว็องส์ เป็นบริเวณทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศสบนฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดกับประเทศอิตาลี ซึ่งช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยงในการไปเยือนเพราะจะเต็มไปด้วยฝูงชนคือช่วงเดือนซัมเมอร์ แถมหน้าร้อนยังเป็นหน้าไฮ-ซีซั่นของที่นี่อีกด้วย เรียกได้ว่าค่าวิลล่าหรือโรงแรมต่างๆ แพงหูฉี่เชียวล่ะ เพราะฉะนั้นเดือนพฤษภาคม จึงถือเป็นช่วงเวลาที่ดีก่อนที่จะเข้าไฮ-ซีซั่นอย่างเป็นทางการ และก่อนที่นักท่องเที่ยวจะแห่มา!! แต่ไม่ต้อง เอ๊ะ..ว่าแล้วโลว์-ซีซั่นแบบนี้จะมีอะไรให้ดู เพราะคุณและคนรักจะได้พบกับประสบการณ์ของอากาศที่กำลังดี และยังได้สัมผัสกับทุ่งหญ้า ทุ่งดอกไม้ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา รวมไปถึงเดินชมหมู่บ้านที่มีสถาปัตกรรมที่ดูแปลกตา และจบวันด้วยช่วงเย็นที่สุดโรแมนติกในบรรยากาศแบบสบายๆ

มิถุนายน – ตาฮีตี

ตาฮีตี เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มของหมู่เกาะวินด์เวิร์ดของเฟรนช์พอลินีเชีย ตั้งอยู่ในหมู่เกาะโซไซตี มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ในช่วงเดินนี้ ตาฮีตี อยู่ในฤดูกาลที่ค่อนข้างแห้งแล้งแต่ไม่ถึงกับไม่น่าเที่ยว เพราะในขณะที่ตลอดปีที่ผ่านมาการหาโรงแรมที่นี่ดูจะเป็นเรื่องยาก แต่พอถึงเดือนนี้ปุ๊ปความยากก็หายไป เพราะนี่เป็นช่วงเวลาที่ดีอีกหนึ่งช่วงที่คุณและคนรักจะได้พบกับแสงอาทิตย์อันสดใสและน้ำที่ใสสะอาด และรับรองว่านี่จะเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนริมทะเลที่มีความสุขที่สุดอีกหนึ่งทริปในช่วงโลว์-ซีซั่นของที่นี่แน่นอน

กรกฎาคม – โครเอเชีย

ประเทศโครเอเชียมีทุกอย่างที่เหมาะสำหรับการฮันนีมูนในเดือนนี้ ยิ่งถ้าคู่รักคู่ไหนที่มีความสนใจในเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เมืองโบราญเก่าๆ ที่มีตึกรามบ้านช่องสวยๆ และหมู่บ้านที่เหมือนหลุดออกมาจากโลกภาพยนตร์จะต้องหลงรักที่นี่อย่างแน่นอน แถมยังมีอาหารทะเลสดๆ นอกจากนี้ยังมีสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวาสำหรับคู่รักสายดริ้งค์ แต่สิ่งที่เป็นไฮไลต์เลยก็คือชายหาดและชายฝั่งทะเลที่ไกลสุดลูกหูลูกตา หากมีงบเหลือๆ ลองเช่าเรือยอร์ชสักลำแล้วไปยังเกาะ Adriatic รับรองว่างานนี้มีฟิน

สิงหาคม – กรีซ

ประเทศกรีซ เป็นหนึ่งในเกาะที่ได้ชื่อว่าโรแมนติกที่สุดในโลก ซึ่งสถานที่ในฝันของหลายคนคงหนีไม่พ้น ซานโตรินี และไมโคนอส ซึ่งในเดือนสิงหาคมนี้ถือเป็นช่วงที่คึกคักมากสำหรับสถานที่ขึ้นชื่อทั้งสอง เพราะฉะนั้นไปฮันนีมูนทั้งทีเราก็ต้องหลีกหนีจากความวุ่นวาย แล้วไปอิ่มเอมกับบรรยากาศอันน่ามหัศจรรย์ ดื่มด่ำไปกับเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันมากกมาย และมีผู้คนที่น้อยกว่าสองที่แรกกว่าครึ่ง!! นั่นก็คือที่ Paros, Corfu และ Rhodes แทน

กันยายน – ทัสกานี

ภาพ – lovefromtuscany.com

ตอสคานา หรือ ทัสกานี เป็นแคว้นหนึ่งของประเทศอิตาลี มีเมืองฟลอเรนซ์เป็นเมืองหลัก ซึ่งในเดือนนี้เป็นเดือนที่ดีเพราะไม่ใช่ช่วงไฮ-ซีซั่นของที่นี่ และเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างในช่วงซัมเมอร์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีทุกอย่างครบไม่ต่างจากช่วงไฮ ไม่ว่าจะเป็น อากาศสุดเพอร์เฟกต์, อาหารทะเลสดๆ และไวน์ที่ดีติดระดับโลก และสถานที่สำคัญที่ห้ามพลาดก็คือ หมู่บ้านเก่าแก่ที่ตั้งลดหลั่นกันอยู่บนเนินเขา ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกและไฟภายในบ้านเริ่มเปิด รับรองว่าจะเป็นภาพที่คุณและคนรักจะต้องจดจำแน่นอน

ตุลาคม – เกาะไอร์แลนด์

ในเดือนนี้เนินเขาของเกาะไอร์แลนด์จะเขียวขจีเป็นพิเศษ ทุ่งหญ้าจะมีฝูงแกะออกมาวิ่งเล่น ชายฝั่งทะเลที่สวยงาม เดินชมหมู่บ้านอันแปลกตา และฟินไปกับปราสาทเก่าสุดโรแมนติก และที่สำคัญเป็นเดือนที่ไร้ซึ่งนักท่องเที่ยว จึงทำให้ราคาที่พักและอาหารถูกอย่างน่าเหลือเชื่อ (ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้โข!) แต่อาจจะมีฝนพรำลงมาทักทายเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นสภาพอากาศก็ยังดีพอให้คู่รักได้ฟินกันอยู่ เพราะฉะนั้นอย่าลืมพกร่มติดกระเป๋ากันไว้ด้วยนะ

พฤศจิกายน – ศรีลังกา

บ้านของช้างและเสือดาว, รีสอร์มสไตล์ลักซ์ชัวรี่, ชายหาดอันสวยงาม และประวัติศาสตร์ในยุคอาณานิคม นี่คือคำจำกัดความอย่างง่ายของประเทศศรีลังกา สถานที่ฮันนีมูนสุดเพอร์เฟกต์ที่ซ่อนตัวอยู่ ซึ่งแทบจะมีกิจกรรมครบทุกอย่างทั้งแบบผจญภัย หรือจะแบบพักผ่อนปล่อยตัวปล่อยใจแบบเต็มที่ ซึ่งเดือนนี้เป็นเดือนที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยนิยมไปเที่ยวเท่าไหร่นัก เนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างจะมีฝน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ทำให้กิจกรรมหรือการมาฮันนีมูนต้องสะดุด เพราะหลังฝนตกคุณก็จะพบกับแสงแดดอันสดใสที่จะช่วยให้ทริปนี้ของคุณหวานชื่นเหมือนฟ้าหลังฝนเชียวล่ะ

ธันวาคม – รวันดา

ภาพ- africageographic.com

อย่าเพิ่งกลัวหากได้ยินชื่อประเทศนี้ เพราะที่นี่เขามีดีนะเออ.. ในเดือนธันวาคมถือเป็นเดือนเริ่มต้นที่จะเข้าสู่ฤดูแล้งที่จะมีแค่ช่วงสั้นๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่คุณจะได้แอบส่องกอริลล่า!! เอาล่ะ คู่รักนักผจญภัยในดินแดนซาฟารีต้องเตรียมกันให้ดี ทั้งเรื่องการจองที่พัก การประกันด้านความปลอดภัย และใบอนุญาตในการติดตามกอริลล่า รับรองว่าทริปนี้จะเป็นทริปที่คุณและคนรักจะพูดถึงกันไปอีกนานแน่นอน

ภาพเปิด pixabay

ดูสถานที่แต่งงานและสถานที่ฮันนีมูนเพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

8 เรื่องสำคัญห้ามมองข้ามถ้าอยากจัดงานแต่งงานเอาท์ดอร์

สายลม แสงแดดและความรู้สึกที่ได้สัมผัสธรรมชาติในชุดเจ้าสาวในฝัน เคียงคู่กับคุณเจ้าบ่าวแสนดีเป็นโมเม้นต์ที่คู่รักอยากมีกันทั้งนั้น บางคู่ก็เลยตั้งธงไว้เลยว่า ถ้าแต่งงานเมื่อไหร่ จัดแต่งกลางแจ้งแบบ งานแต่งงานเอาท์ดอร์ ชัวร์ แต่ฝันของคุณจะสวยงามแค่ไหน ก็อยู่ที่การเตรียมความพร้อมแบบรอบด้าน ว่าแต่จะมีเรื่องไหนบ้างไปเตรียมการพร้อมๆ กันเลย

1. เตรียมพร้อมกับสภาพอากาศ

บ่าวสาวที่อยากจัดงานแต่งงานกลางแจ้ง ควรคำนึงถึงเรื่องสภาพอากาศเอาไว้ให้มาก เพราะไม่มีใครสามารถควบคุมสภาพอากาศได้ ดังนั้นคุณควรมีแผนสำรองอย่างการเช่าเต็นท์หรือการจัดสถานที่จัดงานแต่งงานภายในอาคารที่จะเคลื่อนย้ายแขกทุกคนในงานให้เข้ามาในอาคารได้ถ้าเกิดสภาพอากาศเกิดเปลี่ยนแปลงกะทันหันขึ้นมาจนจัดงานแต่งงานกลางแจ้งต่อไม่ได้

2. ศึกษากฎระเบียบต่างๆ

ทุกๆ ที่จะมีกฎและข้อกำหนดเอาไว้ซึ่งก็อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสถานที่ อย่างข้อกำหนดเรื่องการใช้เสียง การเช่าเต็นท์ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือข้อกำหนดอื่นๆ ซึ่งเจ้าของสถานที่สำหรับจัดงานแต่งงานอาจช่วยแนะนำบ่าวสาวในการจัดการเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ได้ หรือถ้าบ่าวสาวมีนักวางแผนงานแต่งงานคอยช่วยอยู่ก็อาจจะมอบหมายหน้าที่ในการจัดการเรื่องเหล่านี้ให้แก่นักวางแผนการแต่งงานช่วยจัดการแทน

3. ระบบแสง

การจัดงานกลางแจ้งยามค่ำคืน บ่าวสาวควรคิดถึงเรื่องแสงไฟเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจัดงานในสถานที่ที่ดูมืดกว่าปกติ และเน้นการใช้แสงไฟจากเทียนซึ่งอาจดูโรแมนติกแต่ก็อาจเป็นการยากสำหรับแขกในงานที่จะเดินไปรอบๆ งานในสภาพสลัวๆ ของแสงไฟ คงไม่มีบ่าวสาวคู่ไหนอยากให้แขกคนใดคนหนึ่งล้มคะมำลงไปเพราะมองทางไม่เห็น ดังนั้นควรคำนึงถึงเกี่ยวกับเรื่องแสงไฟที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่แขกที่มาร่วมในงานแต่งงานด้วย

4. ระบบเสียง

นอกจากดูแลเรื่องแสงสว่างให้เพียงพอแล้ว คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจถึงเรื่องการจัดระบบเสียงไม่ว่าเสียงเพลง เสียงไมโครโฟนหรือระบบเสียงโดยทั่วไปเพื่อให้แขกที่มาได้ยินเสียงต่างๆ ชัดเจน ใช้ตัวช่วยเรื่องระบบเสียงอย่างไมค์ติดเสื้อสำหรับบ่าวสาวและพิธีกร อาจให้ DJs หรือวงดนตรีช่วยจัดการเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ได้

งานแต่งงานเอาท์ดอร์

5. พัดลมทำความเย็น

อย่างที่รู้ว่าอากาศเมืองไทยเป็นอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดงานแต่งงานกลางแจ้ง คุณควรเตรียมการเช่าพัดทำความเย็นเผื่อเอาไว้ด้วยเพื่อไม่ให้มีใครเป็นลมเป็นแล้ง หรือเหงื่อออกเป็นน้ำตกจนหมดสวยหมดหล่อ และต้องการจะกลับบ้านก่อนที่งานจะสิ้นสุดลง

6. อย่ามองข้ามเรื่องลม

ในการจัดงานกลางแจ้งควรคำนึงถึงเรื่องลมเอาไว้ด้วย ตรวจสอบว่าของตกแต่งในงานแต่งงานต่างๆ โดยเฉพาะเต็นท์ (ถ้ามี) จะปลอดภัยและต้านทานแรงลมไว้ได้แค่ไหน

งานแต่งงานเอาท์ดอร์

7. การเก็บรักษาอาหาร

อาหารในงานแต่งงานคือสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลถึงความปลอดภัยและความเรียบร้อย คุณควรเตรียมการสำหรับการดูแลอาหารจากทั้งสภาพอากาศ แมลงหรือสิ่งอื่นๆ ที่อาจเป็นตัวทำลายความสมบูรณ์ของอาหาร วิธีที่ดีอย่างหนึ่งคือการเก็บรักษาอาหารอยู่ในที่สำหรับเก็บอาหารภายในจนกว่าจะถึงเวลาเสิร์ฟ ลองปรึกษาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวกับการดูแลอาหารและเครื่องดื่ม เรื่องการทำให้อาหารดูสดใหม่และพร้อมเสิร์ฟให้แขกได้อย่างไม่มีปัญหาเมื่อถึงเวลา

8. ระวังแมลงรบกวน

และสิ่งสุดท้ายที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือเรื่องของแมลงรบกวนที่อาจเป็นปัญหาได้หากเลือกจัดงานแต่งงานกลางแจ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงตอนค่ำๆ ดังนั้นจึงควรพูดเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้กับเจ้าของหรือพนักงานที่ดูแลสถานที่ที่จัดงานแต่งงานเพื่อเตรียมพร้อมเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เช่น การฉีดพ่นยากันแมลงก่อนงานแต่งงานเล็กน้อยหรือการจัดเทียนตะไคร้หอมหรือแสงไฟล่อแมลงระหว่างช่วงงานฉลองแต่งงาน อาจวางขวดสเปรย์หรือยาจุดกันแมลงแบบไม่มีสารพิษไว้รอบๆ งานแต่งงาน ห้องน้ำหรือใกล้ๆ ทางเข้าเพื่อช่วยป้องกันแมลงให้กับแขกที่มาร่วมงาน

อ่านเทคนิคจัดงานแต่งดีๆ ได้ตามลิงค์นี้เลย

8 อย่างขอให้เช็คและเห็นกับตาเมื่อออนทัวร์สถานที่จัดงานแต่งงานในฝัน
7 เรื่องต้องสตรองเมื่อบ่าวสาวเริ่มจัดงานแต่งงาน

ภาพ : insideweddings.com

เตรียมพบโรงแรมบูติคแบรนด์หรูดีไซน์ร่วมสมัย “คาเพลลา กรุงเทพ” สถานที่จัดงานแต่งงานริมน้ำแห่งใหม่บนถนนเจริญกรุง

ว่าที่บ่าวสาวที่กำลังมองหา สถานที่จัดงานแต่งงาน ที่ไม่ซ้ำใคร และชื่นชอบบรรยากาศการจัดงานริมแม่น้ำสุดโรแมนติก เราขอกระซิบบอกว่า อีกไม่นานนี้จะมีโรงแรมบูติคแบรนด์หรู ดีไซน์ร่วมสมัยแห่งใหม่ เปิดตัวบนถนนเจริญกรุง

แพรวเวดดิ้ง ขอแนะนำ “โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ” โรงแรมสไตล์รีสอร์ทกลางเมืองริมแม่น้ำเจ้าพระยาสถานที่จัดงานเลี้ยง งานเฉลิมฉลอง งานพิธีหมั้น และงานวิวาห์แห่งใหม่ ที่พร้อมจะมอบสุนทรีย์และประสบการณ์แห่งการพักผ่อนให้แก่ทุกท่านได้สัมผัสอย่างน่าประทับใจแล้วเร็วๆ นี้

ห้องบอลรูม โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ
บรรยากาศสบายๆ ของงานจัดเลี้ยงด้านนอก บริเวณสวนสวยริมแม่น้ำเจ้าพระยา

โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพพร้อมเนรมิตภาพฝันงานแต่งงานของคู่บ่าวสาวให้เป็นจริงเตรียมเปิดตัว “ห้องบอลรูม” ที่มีภาพของแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านเป็นฉากหลังด้วยพื้นที่กว่า 747 ตร.ม. เมื่อรวมกับพื้นที่บริเวณด้านหน้าสามารถรองรับแขกผู้มีเกียรติได้มากถึง 900 คน ทำให้ห้องจัดเลี้ยงแห่งนี้ สามารถรังสรรค์งานวิวาห์ของคู่บ่าวสาวให้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด นอกจากนี้ยังมี “คอร์ทยาร์ด” พื้นที่สนามหญ้าพร้อมระเบียงริมแม่น้ำไว้รองรับการจัดงานแต่งงาน หรือปาร์ตี้สละโสดสุดชิคในบรรยากาศกลางแจ้งไว้เป็นตัวเลือกอีกด้วย ทางโรงแรมฯ พร้อมให้บริการแบบ “ครบ-จบ-ในที่เดียว” รองรับทุกรูปแบบของการจัดงานและการเฉลิมฉลอง ด้วยทีมงานคุณภาพ ทั้งด้านสถานที่ อาหาร และการจัดดอกไม้ที่คัดสรรมาเฉพาะผู้เชี่ยวชาญและชำนาญงานในระดับมืออาชีพ อีกทั้งการเดินทางมาที่โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพก็สะดวกสบาย ด้วยพื้นที่จอดรถกว่า 300 คัน และมีบริการรับจอดรถ (Valet Parking service) และบริการเรือรับ–ส่ง จากท่าเรือสาทรไว้คอยอำนวยความสะดวกให้กับแขกทุกท่าน

ห้องพักและวิลล่าดีไซน์ร่วมสมัยจำนวนทั้งสิ้น 101 ห้อง ของโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ถ่ายทอดเรื่องราวและวิถีชีวิตของผู้คนริมแม่น้ำไว้อย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด มีระเบียงส่วนตัวที่สามารถชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบพาโนรามา สำหรับห้องพักประเภทวิลล่าจำนวน 7 หลัง นับเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และเป็นวิลล่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาหนึ่งเดียวของกรุงเทพมหานคร รายล้อมไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้น้อยใหญ่ ศาลาริมน้ำ และสระจากุซซี่กลางแจ้งเพื่อให้ท่านได้สัมผัสกับความเป็นส่วนตัว และประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟเหนือระดับสไตล์รีสอร์ทกลางกรุงริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ห้อง Riverfront Premier

 

 

 

ห้องพักสไตล์วิลล่าริมน้ำสุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วยพื้นที่ใช้สอย 259 ตร.ม.

สิ่งอำนวยความสะดวกและประสบการณ์แห่งการพักผ่อนที่โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ได้จัดเตรียมไว้ให้กับทุกท่านแบบครบครัน เช่น ร้านอาหารไทย “พระนคร”, ร้านอาหารเมดิเตอร์เรเนียน “โค้ท บาย เมาโร โคลาเกรคโค” โดยเชฟมิชลินสตาร์ 3 ดาว, ซาลอนและร้านขนมหวาน “สเตลลา” ที่ให้บริการเครื่องดื่มและซิกเนเจอร์ค็อกเทล รวมไปถึงบริเวณโถงล็อบบี้ที่มี “ที เลานจ์” ไว้ให้บริการชุดน้ำชาและขนมยามบ่ายอย่างเพลิดเพลิน ตลอดจนบริการสปาและความงาม “ออริกา เวลเนส” สำหรับผู้ที่รักความสวยความงามและใส่ใจในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมอีกด้วย ที่สำคัญทางโรงแรมฯ มีบริการผู้ช่วยส่วนตัว หรือ “คาเพลลา คัลเจอร์ลิสต์” ไว้คอยอำนวยความสะดวกให้คำปรึกษาและแนะนำบริการต่างๆ แก่แขกทุกท่านที่เข้าพักตลอด 24 ชั่วโมง

“ออริกา เวลเนส” บริการสปาและความงาม สำหรับผู้ที่รักความสวยความงามและใส่ใจการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
ร้านอาหารไทย “พระนคร”
นั่งชิลล์ชมวิวแม่น้ำที่ “สเตลลา” จิบเครื่องดื่มและซิกเนเจอร์ค็อกเทล เสิร์ฟพร้อมขนมหวานสไตล์ “โอมากาเสะ”
“ที เลานจ์” บริเวณโถงล็อบบี้ให้บริการชุดน้ำชาและขนมยามบ่ายอย่างเพลิดเพลิน

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมสถานที่จัดงานแต่งงานที่โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ สามารถติดต่อฝ่ายขายเพื่อทำการนัดหมายหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดงานเลี้ยงหรืองานแต่งงานได้ที่อีเมล์ [email protected] หรือ โทร. 02-098-3888

**สงวนสิทธิ์เปิดให้เข้าชมแก่คู่รักและผู้ที่ทำการนัดหมายล่วงหน้าเท่านั้น

สามารถติดตามข่าวสารและสำรองห้องพักได้ที่ www.capellabangkok.com

ไขข้อข้องใจ “สูท VS ทักซิโด้” เหมือน-ต่างกันอย่างไร

ว่าที่เจ้าบ่าวคนไหนที่ยังข้องใจว่า สูท (Suites) กับ ทักซิโด้ (Tuxedo) ต่างกันอย่างไร แล้วเจ้าบ่าวอย่างคุณควรจะใส่แบบไหน ถ้าอยากรู้คำตอบก็เลื่อนเม้าส์ลงไปอ่านกันเลย

suit

สูท

มาเริ่มกันที่ชุดสูทก่อนค่ะเพราะเป็นอะไรที่เข้าใจไม่ยาก ปกติแล้วส่วนประกอบหลักของชุดสูททั้ง แจ็กเกต (เสื้อตัวนอก) และกางเกงจะถูกตัดเย็บด้วยผ้าชนิดเดียวกันทั้งชุด มีกระดุมแถวเดียว นิยมใช้วัสดุที่ค่อนข้างแข็งมาทำกระดุม เช่น พลาสติกหรือเขาสัตว์ ส่วนปกมีให้เลือก 2 แบบคือ ปกป้าน (Notched Lapel) และ ปกแหลม (Peak Lapel)

 

tuxedo

ทักซิโด้

สำหรับชุดทักซิโด้ต้องทำความเข้าใจนิดนึงค่ะว่า “ทักซิโด้เป็นชุดสูทประเภทหนึ่ง” นิยมใส่ในงานที่เป็นทางการ หรือสำหรับคนที่มีความสำคัญสำหรับงานนั้นๆ เช่น งานแต่งงาน ผู้ที่ควรจะใส่ทักซิโด้ก็คือ เจ้าบ่าว และพ่อเจ้าบ่าว เป็นต้น ทักซิโด้มีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างจากสูททั่วไปดังนี้

1. ปกและขอบกระเป๋าที่อยู่บนแจ็กเกต จะใช้ผ้าไหมที่มีความมันวาว

2. แบบปกมีให้เลือก 3 แบบคือ ปกป้าน (Notched Lapel), ปกแหลม (Peak Lapel) และ ปกโค้งหรือปกกล้วย (Shawl Lapel)

3. กระดุมเป็นแถวคู่

4. วัสดุที่ใช้ทำกระดุมจะเป็นผ้า โดยนำผ้าไหมแบบเดียวกับที่ใช้ทำปกและขอบกระเป๋ามาหุ้มไว้ ทั้งกระดุมเสื้อและกระดุมแขน

5. มีคัมเมอร์บันด์ (ผ้าคาดเอว) ที่ทำจากผ้าไหมมันวาวชนิดเดียวกับที่ใช้ทำปก ซึ่งจะช่วยเก็บหน้าท้องให้หุ่นดูสมาร์ทมากยิ่งขึ้น

6. กางเกงไม่มีหูเข็มขัด แต่มีกระดุมไว้ยึดด้านข้างแทน (จะถูกคัมเมอร์บันด์คาดทับไว้)

7. ด้านข้างของกางเกงมีแถบผ้าไหมมันวาวแบบเดียวกับที่ใช้ทำปก คาดยาวตั้งแต่เอวลงมาถึงปลายขากางเกง

8. เชิ้ตด้านในนิยมเป็นเชิ้ตที่มีการตีเกล็ดเป็นเส้นตรงจากอกยาวลงมาจนเลยช่วงเอวเล็กน้อย

คำแนะนำที่เจ้าบ่าวต้องอ่าน!!!

– ชุดสูทสำหรับพิธีเช้าส่วนใหญ่นิยมเป็นสูทสีอ่อน เช่น สีเทาอ่อน สีน้ำตาลอ่อน เป็นต้น
– ชุดสูทสำหรับพิธีฉลองมงคลสมรสช่วงเย็นนิยมเป็นชุดทักซิโด้สีเข้ม เช่น สีน้ำเงิน หรือ สีดำ
– จะตัดสูททั้งที 3 ข้อนี้จำให้แม่น
เลือกผ้าคุณภาพดีจะทำให้ใส่สบาย
เลือกแบบปก (Pattern) ที่ชอบและเหมาะสม
เลือกคัตติ้งว่าจะเป็นแบบเข้ารูป (พอดีตัว) หรือหลวมนิดหน่อยพอให้ใส่สบาย

Tip แถมให้!
เพื่อความหล่อที่สมบูรณ์แบบ แนะนำให้ว่าที่เจ้าบ่าวทุกท่านเลือกเชิ้ตด้านในที่แขนยาวโผล่ออกมาจากแขนแจ็กเกต สักเล็กน้อย หรือถ้าเอาไม้บรรทัดวัดก็ประมาณ ¼ – ½ นิ้ว

ดูไอเดียเกี่ยวกับชุดเจ้าบ่าวอีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

ขอขอบคุณข้อมูล : Atelier Azzurro IG : azzurrotailor
ภาพ : blog.knotstandard.com, etsy.com, fameimages.com, imgind.com, rustyzipper.com, styleforum.com

6 ข้อทำตัวเป็นแขกงานแต่งที่ดีไม่ใช่เรื่องยาก..แต่ต้องทำให้ได้

ได้รับเกียรติให้ไปร่วมเป็นสักขีพยานในงานแต่งงานทั้งที แขกอย่างเราก็ต้องทำตัวให้ดีให้สมกับการได้รับเชิญจริงไหมคะ อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะงงว่า เอ๊ะ แล้วแขกที่ไม่ดีนั้นเป็นอย่างไร ก็ได้รับการ์ดเชิญมาก็ไปร่วมงานแล้วยังดีไม่พอเหรอ หากคุณอยากเป็น The Best ด้าน แขกงานแต่ง เราขอแนะนำให้ปฏิบัติตามทั้ง 6 ข้อนี้ที่เรานำมาฝาก รับรองว่าตำแหน่งสุดยอดแขกแห่งปีต้องเป็นของคุณแน่นอน

1.  อย่าเพิ่งรับปากว่าจะ ‘ไป’ หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถไปร่วมงานได้ชัวร์ๆ

ซึ่งจะเป็นการดีกว่าที่คุณจะบอกคู่บ่าวสาวไปตรงๆ ว่ายังไม่แน่ใจขอไปดูตารางงานก่อน หากไม่ติดอะไรจะไปร่วมงานแต่งแน่ๆ แต่…ถ้าคุณติดธุระที่ไม่สามารถไปร่วมงานได้จริงๆ ก็เพียงแค่บอกบ่าวสาวไปตรงๆ เลยค่ะ เพราะเชื่อเถอะว่าเขาจะเข้าใจและไม่โกรธคุณแน่นอน ดีกว่าคุณไปให้ความหวังแล้วบ่าวสาวไม่พบคุณในงาน นี่สิค่ะที่จะทำให้บ่าวสาวอาจงอนของจริง

2. หากคุณจะหนีบใครสักคนไปเป็นเพื่อนร่วมงานแต่งงาน อาจจะแจ้งบ่าวสาวให้ทราบล่วงหน้าสักนิด

โดยเฉพาะหากงานนั้นเป็นงานเลี้ยงแบบซิทดาวน์ดินเนอร์ หรือโต๊ะจีน หรือเป็นการเลี้ยงที่บ่าวสาวจะต้องฟิกซ์ที่นั่งไว้ให้พอดีกับจำนวนแขก การแจ้งล่วงหน้าจะทำให้บ่าวสาวคำนวณจำนวนแขกที่จะมาร่วมงานได้อย่างถูกต้อง และเป็นการการันตีว่าเพื่อนที่คุณควงแขนไปร่วมงานด้วยจะไม่ต้องไปยืนเหวออยู่หน้างานเพราะไม่มีที่นั่งด้วยไงคะ

3. มารยาทที่ดีของแขกคือการไปถึงงานก่อนที่พิธีการจะเริ่ม

เพื่อที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะได้มีโอกาสพบปะ พูดคุย และถ่ายภาพกับคุณก่อนที่เขาทั้งคู่จะเข้าสู่พิธี ยิ่งถ้าหากคุณไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ร่วมอาฟเตอร์ปาร์ตี้ด้วยแล้วล่ะก็ หากคุณยังไปสายแล้วไม่ได้ทักทายบ่าวสาวอีก ก็เหมือนกับคุณไปงานแบบเสียเปล่านะคะ เผลอๆ บ่าวสาวอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าคุณไม่ได้ไปร่วมงานแต่งเอาด้วย

4. หากคุณตั้งใจที่จะไปร่วมแสดงความยินดีกับบ่าวสาวแบบจริงใจ ก็ควรที่จะอยู่ให้จบตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้นพิธีการ

เพราะอย่างน้อยสิ่งนี้ก็เป็นการแสดงความยินดีกับบ่าวสาวได้เป็นอย่างดีอีกทางหนึ่ง ซึ่งถ้าคุณอยู่ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบงานแล้วไม่ได้อยู่ร่วมอาฟเตอร์ปาร์ตี้ต่อ เราว่าบ่าวสาวก็คงเข้าใจและไม่โกรธแน่นอน เพราะฉะนั้นเคลียร์คิวตัวเองมาให้ดี แล้วไปสนุกกับวันสำคัญของบ่าวสาวให้เต็มที่นะคะ

5. หากคุณอยู่ร่วมในพิธีแต่งงานที่เป็นทางการมากๆ อย่างเช่น พิธีแต่งงานไทยที่จัดขึ้นภายในห้องเล็กๆ หรือภายในโบสถ์ หรือสถานที่ที่ไม่ใหญ่มาก เราขอแนะนำให้คุณ ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ เพราะหากเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ หรือระหว่างที่พ่อแม่กำลังกล่าวให้พรกับบ่าวสาวอยู่นั้น อาจจะโดนแขกคนอื่นมองแรงส์เอาได้ ส่วนใครที่อยากจะเก็บภาพโมเม้นต์สำคัญของบ่าวสาวเอาไว้ด้วยโทรศัพท์มือถือ ก็ควรที่จะปิดเสียงชัดเตอร์ และปิดแฟลชด้วยนะคะ เพราะหากรบกวนทั้งเสียงทั้งแสงแบบนี้คงไม่ดีแน่นอน สุดท้าย อย่าลืมเช็กให้ดีว่าคุณไม่ได้ตั้งเตือนอะไรเอาไว้ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่คุณกำลังอยู่ในพิธีด้วยน้า

6. ถ้าเป็นไปได้แขกอย่างเราควรหลีกเลี่ยงการใส่ชุดสีขาวไปร่วมงานแต่ง

(แต่ถ้าธีมงานเป็นสีขาวอันนี้เราไม่ห้าม) ทางที่ดีควรใส่เป็นเฉดสีครีม หรือเฉดสีไอวอรี่แทนจะดีกว่า เพราะงานนี้คุณไม่ได้เป็นนางเอก แต่เป็นได้แค่แขกรับเชิญเท่านั้น เนอะ ^^

ติดตามคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานอีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ unsplash.coma a

แต่งงานริมทะเล กับ 5 เรื่องที่เจ้าสาวต้องรู้เมื่อถึงเวลาเลือกชุดแต่งงาน

การเลือกชุดแต่งงานให้เหมาะกับสถานที่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากนะคะ เพราะฉะนั้นคุณเองก็ควรรู้เสียก่อนว่าจะจัดงานที่ไหนเพื่อให้หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างชุดแต่งงานนั้นเลือกมาได้เป็นอย่างดี อย่างวันนี้ แพรว wedding ก็มีเทคนิคการเลือกชุด แต่งงานริมทะเล มาฝากกันค่ะ ก็แหม.. การจัดงานริมชายหาดแล้วมีเบื้องหลังเป็นเกลียวคลื่นงามน่ะออกจะเป็นภาพฝันของใครหลายๆคนใช่ไหมล่ะคะ… ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่าว่ามีอะะไรที่เราไม่ควรมองข้ามกันบ้าง 😉

 

เนื้อผ้า (Fabric)

ชุดแต่งงานที่เนื้อผ้าระบายความร้อนได้ไม่ดีนักไม่ควรนำมาใส่อย่างเด็ดขาดเลยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกผ้าใยสังเคราะห์ ทางที่ดีคุณควรเลือกผ้าเนื้อนุ่ม เบาและพลิ้วสวยไว้เป็นดีที่สุด เช่น ผ้าชีฟอง ผ้าเครป ผ้าด่วน ผ้าฝ้าย หลีกเลี่ยงผ้าเนื้อแข็งจำพวกผ้าไหม ผ้าแก้ว ซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกระคายเคืองผิวด้วยนะคะ และทางที่ดีคุณควรปรึกษาเรื่องนี้กับดีไซเนอร์ผู้เชี่ยวชาญในร้านเลยค่ะ

ความยาว (Length)

ความยาวของชุดนั้นจเป็นแบบสั้นหรือแบบยาวกรอมเท้าได้ แต่ไม่ควรยาวแบบลากพื้นนะคะสาวๆ เพราะคุณจะเดินหรือเคลื่อนไหวบนพื้นทรายได้ลำบากมากเลยทีเดียว และอาจเผลอทำชุดเปียกน้ำทะเลโดยไม่รู้ตัวด้วย เก็บชุดยาวลากพื้นแบบกรุยกรายไว้สำหรับถ่ายภาพ pre wedding ก็น่าจเพียงพอแล้วล่ะค่ะสาวๆ

ทรงชุด (Style)

สไตล์ของชุดแต่งงานที่เหมาะกับงานแต่งงานริมทะเลที่สุด คือ ชุดทรงแอมไพร์แบบต่อใต้อก ที่ให้อารมณ์ที่เป็นธรรมชาติ และทำให้นึกถึงเทพธิดาแห่งท้องทะเลในนิยายกรีกโรมัน รองลงมาได้แก่สไตล์ชุดกระโปรงสั้นที่มีความยาวประมาณปิดหัวเข่าที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและกระฉับกระเฉง

การตกแต่ง (Embroidery) 

ควรหลีกเลี่ยงการประดับชุดด้วยลูกไม้หนาๆจำนวนมาก ที่นอกจากะทำให้ชุดแข็งไม่พลิ้วไหวแล้ว ขอบของลูกไม้อาจทำให้คุณรู้สึกระคายเคืองผิวได้อีกด้วย เลือกชุดเรียบๆที่มีการตกแต่งเพียงเล็กน้อย อาจเป็นจำพวกคริสตัล หิน ลูกปัด หรือชุดที่ตกแต่งด้วยริบบิ้น หรือจะเลือกแต่งเป็นชุดเรียบ ๆ ที่ไม่มีการตกแต่งไปเลยก็ได้นะคะ แล้วเสริมด้วยเครื่องประดับจำพวกหิน เช่น สร้อยคอ ต่างหู กำไล หรือข้อมือ แบบนี้ก็เก๋ไม่แพ้กันเลยล่ะค่ะ

รองเท้า (Shoes)

พยายามเลือกรองเท้าส้นแบนเพื่อเดินบนพื้นทรายได้ ลืมรองเท้าส้นสูงไปได้เลยถ้าคุณคิดจะจัดงานริมทะเลนะคะสาวๆ ไม่งั้นคงจะะเป็นภาพที่ดูทุลักทุเลน่าดูเลย

ติดตามไอเดียเกี่ยวกับชุดแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

cr : brides.com

6 ทริคสุดเจ๋งได้แหวนแต่งงานดีและโดน ราคาประหยัดด้วยตัวเอง

หากคุณกำลังมองหา แหวนแต่งงาน วงงามอยู่ละก็ อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจไปเลือกซื้อที่ร้านทันทีที่คิดได้ล่ะ เพราะวันนี้ แพรว wedding มีคำแนะนำ 6 ข้อในการเลือกแหวนแต่งงานมาฝาก รับรองว่าซื้อมาแล้วถูกใจผู้รับแถมยังคุ้มค่าเงินที่จ่ายอีกด้วย

 

1. คุณภาพกับราคา สองสิ่งนี้คู่กันเสมอ

เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเพชรเป็นอัญมณีที่มีราคาสูง จะมาหวังซื้อแหวนเพชรขนาด 5 กะรัต ในราคาหลักแสนก็เป็นไปไม่ได้ นอกเสียจากคุณจะเลือกเพชรเม็ดใหญ่แต่น้ำไม่ดี ก็แหมเลือกเป็นแหวนหมั้นทั้งทีก็เลือกที่คุณภาพดีๆ แต่เม็ดเล็กหน่อยจะดีกว่านะจ๊ะ

2. เปลี่ยนแนวบ้างอย่ายึดแต่แบบเดิม

แหวนหมั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นแหวนเพชรเสมือนไป คุณอาจเลือกเป็นพลอยสีหรืออัญมณีประจำวันเกิด ก็ดูเก๋ไปอีกแบบ แต่ก็ต้องสอบถามกับคู่ของคุณด้วยนะจ๊ะจะได้แฮปปี้ทั้งคู่จ้า

3. จงจำไว้ว่าซื้อให้เธอ ไม่ใช่ซื้อให้ตัวเอง

ถึงแม้เพชรแฟนซีอาจจะไม่ใช่สไตล์ของคุณ แต่หากแฟนของคุณชอบก็ควรจะซื้อให้เธอ เพราะอย่าลืมว่าคุณซื้อให้เธอ ไม่ได้ซื้อใส่เอง และแหวนก็เป็นเครื่องประดับที่เธอจะต้องใส่ไปอีกนานแสนนาน

4.ขนาดไม่ใช่เรื่องสำคัญ

ไม่ต้องกังวลว่าน้ำหนักเพชรจะมากหรือน้อย เพราะความใสและสะอาดของเพชรต่างหากที่สำคัญ จำไว้ว่าต่อให้เพชรของคุณมีขนาดเล็กแต่น้ำใสสะอาดก็ย่อมดูดีกว่าเพชรเม็ดใหญ่แต่น้ำไม่สวย

5. อย่ายึดติดเรื่องใบรับรองกับเพชรทุกเม็ด

ในการซื้อเพชรการที่มีใบรับรองก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะเราจะได้มั่นใจว่าได้ของที่ดี โดยเฉพาะเพชรที่เป็นไฮไลน์ของเครื่องประดับ เช่น เพราะเม็ดกลางหรือเพชรเม็ดที่ใหญ่ที่สุดบนตัวเรือน แต่ในบางครั้งใบรับรองก็อาจไม่มีความจำเป็นต้องมีในเพชรทุกเม็ดบนตัวเรือนอย่างเพชรประดับยิบๆ ย่อยๆ ที่แม้จะเข้าข่ายสามารถมีใบรับรองได้ก็ตาม (เพชรขนาด 0.30 กะรัตขึ้นไป สามารออกใบเซอร์ได้) เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว คุณอาจต้องเก็บใบรับรองเป็นบึกๆ เลยก็ว่าได้ ฉะนั้นถามหาใบรับรองเน้นๆ ที่เม็ดโตก็พอ

6. ของดีมีอยู่ทุกที่

จงอย่ามองข้ามร้านเพชรขนาดเล็กไปล่ะ เพราะคุณอาจจะได้เพชรน้ำงามเม็ดสวยจากร้านเหล่านี้ก็ได้ และที่สำคัญราคามักจะถูกกว่าตามร้านเพชรใหญ่ๆ อีกด้วย

ทั้งหมดนี้คือ 6 ข้อสำคัญสำหรับการเลือกซื้อแหวนหมั้น ว่าที่เจ้าบ่าวทั้งหลายสามารถลองนำไปทำตามกันได้นะจ๊ะ เผลอๆนอกจากจะได้แหวนที่ถูกใจแล้วเผลอๆ ยังเหลือเงินเก็บอีกเพียบนะจ๊ะ

ติดตามคำแนะนำดีๆ และแบบเครื่องประดับสวยๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

cr : engagement-now.com, fifthand.wordpress.com, cobymadison.com,
diamondenvy.com, jewelrywise.com

ว่าที่บ่าวสาวระวังให้ดีกับการเล่นโซเชี่ยลมีเดียที่ไม่ระวังอาจพลาดได้

คนกำลังจะเป็น ว่าที่บ่าวสาว แน่นอนว่ามีความในใจเป็นหมื่นล้านคำ แต่ว่าไม่รู้จะพูดกับใครที่ไหน ที่ระบายก็คงไม่พ้นโซเชียลมีเดีย แต่ถ้าโพสต์มากๆ ก็คงโดนมองบนอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเราจึงอยากขอเตือน 5 เรื่อง ที่ว่าบ่าวสาวต้องระวังเรื่องการโพสต์สักนิด

1. โพสต์ไม่หยุด ไม่หย่อน

บ่าวสาวที่ขยันโพสต์ โพสต์อยู่นั่นเรื่องเดิมๆ เวิ่นเว้อแต่เรื่องความรัก เรื่องงานแต่ง รับรองว่าโดนเหม็นเบื่อ มองบนแน่ๆ เพราะฉะนั้นหากอยากโพสต์จริงๆ จัดหนักตู้มเดียวไปเลยแค่ครั้งหรือสองครั้งก็พอ อย่ามาทีละนิดทีละหน่อย เพราะจะโดนเอาไปเมาท์ได้

2. แฮชแท็กเยอะเกิ๊น

เดี๋ยวนี้มีบ่าวสาวมักนิยมทำแอชแท็กขึ้นมาสำหรับ บันทึกความทรงจำในงานแต่ง แต่ก็ควรมีแฮชแท็กแค่อันเดียวเท่านั้น และเลือกเอาที่สะกดง่ายๆ เพราะหากมีหลายอันและสะกดยากจะทำให้คนที่มางานแต่งไม่ค่อยอยากจะให้ความร่วมมือเท่าไหร่ แล้วจะกลายเป็นแฮชแท็กเหงาๆ ไปเลย

3. หงุดหงิดมาลงที่โซเชียล

แม้โกรธใครไม่ว่าจะเป็นคนจัดงาน หรือว่าที่แม่สามี หรือไบรด์ซิลล่ามาจากไหน ก็ห้ามเอาไปลงที่โซเชี่ยลมีเดียเด็ดขาด! เพราะใครผ่านมาเห็นมันก็เป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี เผลอๆ อาจทำให้เกิดปัญหาทะเลาะกันได้ เพราะฉะนั้นมีอะไรให้เก็บไว้ หรือถ้าเก็บไม่อยู่ก็เขียนลงกระดาษ แล้วเก็บไว้อย่าให้เห็น

4. อย่าบอกรักผ่านหน้าวอลล์

มีหลายคนที่ชอบปล่าวประกาศความรักผ่านหน้าวอลล์ อย่าง “ฉันรักเขามากจริงๆ เขาคือผู้ชายที่ดีที่สุด บราๆ” ซึ่งเป็นอะไรที่แบบเห็นแรกๆ ก็รู้สึกว่าน่ารัก แต่ถ้ามาบ่อยก็จะเอียนๆ  สู้ไปบอกรักกันซึ่งๆ หน้า ให้ได้สวีทกันสองต่อสองดีกว่า คนไม่หมั่นไส้ แถมยังได้โรแมนติคอีกต่างหาก

5. ใช้มือถือตลอด ในวันแต่งงาน

ในวันแต่งงานบ่าวสาวควรอยู่ให้ห่างจากโทรศัพท์ เพราะคุณควรใช้เวลาเพื่อซึมซับกับความทรงจำดีๆ ตรงหน้า มากกว่าจะจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ในโซเชี่ยล และที่สำคัญคือมันคงไม่งามหากว่าแขกมาเห็นบ่าวสาวต่างก้มหน้าก้มตาอยู่กับมือถือ a a a a  a a a a  a a a a  a a a  a

นี่คือ 5 ข้อที่บ่าวสาวสายโซเชี่ยลต้องระวัง คือถ้าเผลอทำก็ไม่ผิดหรอก แต่ถ้าไม่ทำก็จะน่ารักกว่า นอกจากเรื่องโซเชียลแล้ว ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่เจ้าสาวควรระวัง ถ้าอยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง คลิกอ่านได้เลย

ภาพ unsplash.com

ข้าวของห้ามมี ความเชื่อในงานแต่งจีนที่ว่าที่บ่าวสาวเชื้อสายจีนต้องรู้

ความเชื่อในงานแต่งจีน ว่ากันว่าห้ามมีข้าวของเครื่องใช้บางอย่างที่ส่อแววว่า จะทำให้เกิดความไม่มงคลในชีวิตคู่ของบ่าวสาว วันนี้เราจึงทำมาเป็นบทสรุปง่ายๆ ให้ได้รู้ ได้อ่านและนำของที่ว่า ออกไปให้พ้นทางรัก 

  • สิ่งของแตกหัก

ความเชื่อในงานแต่งจีนอย่างแรกคือ สิ่งของแตกหัก หรือแม้แต่มีรอยร้าว เช่น แก้วร้าว จานบิ่น แจกันปากแตก ของเหล่านี้ ไม่ควรมีอยู่ในงานมงคลทุกงานเลยนะจ๊ะ ไม่ว่าจะเป็นงานแซยิด งานวันเกิด งานฉลองขึ้นตำแหน่ง และ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าอยู่ในงานแต่งแล้วละก็ จะหมายถึง ความร้าวฉาน ทะเลาะเบาะแว้ง ความแตกหัก (ที่เชื่อ) นั่นเอง ทางที่ดี บ่าวสาวควรตรวจข้าวของให้เรียบร้อย ก่อนที่จะนำมาใช้ในงาน น่าจะสบายใจที่สุด

  • สิ่งของสีดำ

สมัยนี้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยถือเรื่องสีกันแล้วละคะ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะยอมให้มีสีดำเข้ามาอยู่ในงานแต่ง เพราะความเชื่อเรื่องนี้มีมาตั้งแต่คนจีนสมัยก่อนแล้วว่า ของสีดำเห้ามใช้ ห้ามมีเด็ดขาด เช่น ชุดเจ้าสาวอินเทรนด์ที่คาดเอวด้วยโบว์สีดำ ที่คาดผมสีดำ ประดับเพชรวิบวับ หรือบางคนเคร่งจัด ชุดเจ้าบ่าวก็ห้ามเป็นสูทสีดำ หรือ ทักซิโด้สีดำ โดยเด็ดขาด แต่พอเป็นจีนยุคใหม่หรือจีนประยุกต์ ความเชื่อในงานแต่งจีนก็อาจมีการลดทอนลงบ้าง ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละครอบครัว เพราะเท่าที่เราเห็นบางงานยังเอาองุ่นดำมาเลี้ยงแขกก็ยังมีเลยจ้า

  • คาร์เนชั่นสีขาว

ใครว่าสีขาวจะเหมาะกับงานมงคลก็ช่าง แต่สำหรับชาวจีนส่วนใหญ่จะเซนซิทิฟกับการนำดอกคาร์เนชั่นสีขาวมาใช้ในงานแต่งงานมากค่ะ เพราะดอกไม้ชนิดนี้นิยมนำไปใช้ ในพิธีศพเท่านั้น ถ้านำดอกไม้ชนิดนี้ไปไว้ในงานมงคล มีหวังชาวจีนในงานถึงกับเครียดแน่นอน และนอกจากนี้ เพื่อความสบายใจของผู้ใหญ่ เราขอแนะนำว่า เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ชนิดไหน เพราะ สีขาว มันใช่แนวทางของความมงคลที่ชาวจีน เทใจให้อย่างแน่นอน

สำหรับสิ่งที่ไม่ควรมีในงานแต่งงาน ที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น นะจ๊ะ ไม่ใช่ว่าจะบังคับไม่ให้มีเลย เพราะบ่าวสาวบางคู่ ก็มีความทันสมัยอยู่ในตัว และการจับคู่สีบางคู่สี ก็ช่วยเติมเต็มฝันงานแต่ง ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เพื่อความสบายใจของญาติผู้ใหญ่ เราก็พยายามไม่ใช้สิ่งของ เหล่านี้ละกันนะจ๊ะ อ่ะๆๆๆ แต่เพื่อเพิ่มความสบายใจให้คุณๆ ที่อยากมีความเฮงในงานแต่ง เราขอเสนอ ให้เพิ่มความเฮงด้วย ชุดแต่งงานสีมงคลของบ่าวสาวจีน มาสวมใส่ รับรองว่ามีแต่เฮง ลองดูนะคะ

Read More : ทำตามโบราณว่า ทำเถอะหนาชีวิตคู่จะยืนยาว ความเชื่อคนจีน เรื่องอายุบ่าวสาวและการแก้เคล็ด ทำความรู้จักขนมแต่งงานพิธีจีนกันเถอะ เช็คลิสต์! ของแต่งงานจีนเจ้าสาวต้องเตรีย

20 เคล็ดลับเตรียมตัววันแต่งงาน ให้เป็นวันดีๆ ที่น่าจดจำ

งานแต่งงานใครๆ ก็อยากให้เป็นวันที่มีแต่เรื่องดีๆ งานราบรื่นไม่ติดขัด เราจึงจัด 20 เคล็ดลับ เตรียมตัววันแต่งงาน มาเพื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวให้เตรียมตัวและทำตาม ทั้งก่อนวันงาน และในวันแต่งงานเพื่อความไหลลื่นของงานแต่งงาน

1. เข้านอนให้ไว เพื่อที่จะได้ตื่นเช้าอย่างสดใส

2. กินอาหารเช้าที่อุดมด้วยโปรตีนและคาร์โบไฮเดตร เพราะเป็นวันที่ใช้พลังงานเยอะมากเลยทีเดียว

3. มีเวลาส่วนตัวให้ตัวเอง เป็นเวลาสำหรับการผ่อนคลายกับเพื่อนเจ้าสาว เพื่อคลายความกังวลที่แฝงอยู่

4. ใส่เสื้อคลุมตอนแต่งหน้าทำผม เพื่อป้องกันเครื่องสำอางและอื่นๆ เลอะชุดแต่งงาน

5. ลิสต์สิ่งที่ต้องทำสำหรับเช้าวันแต่งงาน บางทีความตื่นเต้นในวันงานอาจทำให้หลงลืมเรื่องเล็ก เรื่องน้อยได้
เตรียมตัววันแต่งงาน

6. ทำความคุ้นชินกับรองเท้าแต่งงาน จะได้ไม่ทรมานจากการกัด การบีบของรองเท้าในวันแต่งงาน เพราะต้องใส่รองเท้าคู่นี้ยืนไปตลอดวัน

7. จ้างคนจัดการลำดับพิธี เพราะพวกเขาจะทำให้งานแต่งราบลื่น เป็นไปตามลำดับขั้นตอนอย่างที่ควรเป็น และยังช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้

8. ถ้าไม่จ้าง ก็ให้เพื่อนเจ้าสาวเป็นคนจัดการ หากไม่จ้างคนลำดับพิธี ควรมีเพื่อนเจ้าสาวสักคน ที่เป็นคนรันงานตามขั้นตอน

9. ทำกระเป๋าฉุกเฉิน เจ้าสาวควรมีกระเป๋าใส่อุปกรณ์ฉุกเฉินฝากเอาไว้กับเพื่อนเจ้าสาว เผื่อในงานเกิดเหตุไม่ขาดคิด ของในกระเป๋าจะเกิดประโยชน์ขึ้นมาทันที

10. เซลฟี่ ก่อนเริ่มงานอย่าลืมเซลฟี่ ตัวเองกับคนสำคัญในวันพิเศษไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท และแน่นอนเจ้าบ่าวเตรียมตัววันแต่งงาน

11. หยุดใช้โทรศัพท์ในงาน เมื่อเข้าสู่งานแต่งงานแล้ว บ่าวสาวควรฝากโทรศัพท์เอาไว้กับเพื่อนๆ เพราะคงไม่งามหากบ่าวสาวจะก้มหน้าท่องอินเตอร์เน็ตในงานแต่งตัวเอง

12. ผ่อนคลายก่อนเดินเข้าสู่พิธี ก่อนเดินเข้าสู่งานแต่งตัวเอง ให้บ่าวสาวทำสมาธิ หายใจเข้าออกลึกๆ ไม่ต้องตื่นเต้น แล้วทุกอย่างจะโอเค

13. ยิ้มให้ทุกคน ไม่ว่าเจอใครก็จงแจกยิ้ม แม้ว่าจะเป็นคนที่ไม่ชอบหน้ากัน หรือเป็นคนที่มีปัญหากัน เพราะเจ้าสาวไม่ควรหน้าบึ้งในงานแต่งตัวเอง

14. ดื่มอย่างระวัง เป็นคืนที่ใครต่อใครจะมาชวนชนแก้วกันมากมาย เพราะฉะนั้นทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ควรดื่มอย่างระวัง จิบอย่างมีสตินะจ๊ะ

15. เตรียมรองเท้าคู่สบายไว้ด้วย ในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้เป็นช่วงที่เจ้าสาวมีโอกาสลักไก่ แอบเปลี่ยนรองเท้าจากส้นสูงที่ใส่มาทั้งวัน เป็นรองเท้าสบายๆ อาจเป็นรองเท้าส้นเตี้ย หรือรองเท้าผ้าใบก็ได้เตรียมตัววันแต่งงาน

16. ใช้เวลาร่วมกันพ่อแม่ อย่าลืมใช้เวลาในช่วงค่ำคืนพิเศษนี้กับคุณพ่อคุณแม่ของตัวเองเพื่อเก็บไว้เป็นอีกหนึ่งความทรงจำพิเศษนะ

17. อย่ากินเลอะเทอะ นี่คือคืนที่จะถูกถ่ายรูปและถูกจับจ้องตลอดเวลา เพราะฉะนั้น จงอย่ากินเลอะเทอะ อย่าทำให้เค้กเปื้อนหน้าผม และชุดได้เป็นอันขาด

18. ทำลิสต์เพลงซะ หากไม่อยากเจอเพลงประหลาดๆ ในงานแต่งของตัวเอง ก็จงทำลิสต์เพลงที่ทั้งคู่ชื่นชอบแล้วยื่นให้กับคนเปิดเพลงซะ

19. อย่าเผลอเครียดในงาน ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะเป็นไบรด์ซิลล่ามาแค่ไหน แต่เมื่อถึงวันนี้แล้วจงปล่อยวางทุกสิ่งอย่าง อย่าเครียด อย่ากังวลอะไรอีก นึกไว้เสมอว่าคุณเตรียมงานมาอย่างดีที่สุดแล้ว

20. นึกไว้เสมอว่าวันนี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะ ความรัก แล้วยิ้มรับอย่างมีความสุข เพราะทุกคนที่มาก็เพื่อแสดงความยินดีกับคุณทั้งคู่

ใครทำตามได้ครบทั้ง 20 ข้อ รับรองว่า งานแต่งงานของคุณ จะเป็นงานที่ราบลื่นที่สุด งานหนึ่งเลยทีเดียว และไม่ว่ากี่รูปถ่าย กี่สายตามองก็จะเห็นว่าทั้งเจ้าบ่าว และเจ้าสาวเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม แต่ถ้าอยากให้งานออกมาเพอร์เฟ็คถูกใจแขกด้วย ก็ต้องรู้กันสักหน่อยว่า เรื่องอะไรบ้างที่แขกชอบบ่นในงานแต่งงาน

ภาพ unsplash.com

ฟิตหุ่นด้วย 2 เมนูสมูทตี้ลดไขมัน สูตรลับจากนักโภชนาการ

ฟิตหุ่น ด้วย 2 เมนูสมูทตี้ลดไขมัน สูตรลับจากนักโภชนาการ

ว่าที่บ่าวสาวที่กำลังเร่ง ฟิตหุ่น ให้ทันวันวิวาห์ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินผักและผลไม้เพื่อการไดเอทที่มีประสิทธิภาพ และการลดน้ำหนักให้ได้ผล บางคู่อาจได้ผลลัพธ์เป็นหุ่นเป๊ะปังสมดังใจ แต่บางคู่ก็อาจไม่ใช่อย่างนั้น เพราะทำอยู่ได้ไม่กี่วันก็เบื่อซะก่อน เพราะกินแต่ผักผลไม้แบบเดิมๆ ทุกวัน แพรว wedding เลยอยากชวนเข้าครัวทำ น้ำปั่นลดน้ำหนัก สมูทตี้ช่วยเผาผลาญไขมัน แถมยังได้สุขภาพดีเป็นของแถมด้วย

Kristin Reisinger นักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนัก มีสูตรสมูทตี้ผักผลไม้ปั่นที่จะช่วยเผาผลาญและลดไขมันได้ ที่สำคัญอุดมไปด้วยแหล่งโปรตีน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพราะจะช่วยให้อยู่ท้อง อิ่มนาน ไม่หิวบ่อย และยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งสูตรนี้ใช้ส่วนผสมเพียงแค่ 4 อย่างเท่านั้น!

ซึ่ง Kristin Reisinger บอกว่าการดื่มสมูทตี้ที่มีแคลอรี่ต่ำในตอนเช้าเป็นสิ่งดีที่สุด เพราะจะช่วยเพิ่มพลังงาน ความสดชื่น และแคลอรี่ที่ได้รับจะไม่ถูกเก็บเป็นไขมัน “การผสมสิ่งที่มีแคลอรี่ต่ำสำหรับมื้อเช้า อย่างเช่น อาหารที่มีโปรตีนสูง และอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อร่างกาย เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักและอยากให้ร่างกายแข็งแรง”

และนี่คือ 2 สูตรสมูทตี้ที่เหมาะสำหรับการดื่มในตอนเช้าเพื่อเริ่มต้นวันใหม่แบบสุขภาพดี

  • Wake Up Call Smoothie

ส่วนผสม
– เบอร์ชี่ชนิดต่างๆ แช่เย็น ½ ถ้วย
– ผักขม 1 กำมือ
– นมอัลมอนด์ไม่ใส่น้ำตาล / แบบไม่หวาน 8 ออนซ์
– ผงโปรตีนจากพืชรสวานิลลา 1 ช้อน

“การเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยเมนูนี้ จะช่วยบูสต์ร่างกายให้สดชื่นและตื่นตัวในเช้าวันใหม่ ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งการผสมเบอร์รี่เข้ากับผงโปรตีนจะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานและโปรตีนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่ร่างกายต้องการในตอนเช้าที่ไม่มากเกินไป” Kristin Reisinger นักโภชนาการกล่าว

แต่ถ้าคุณไม่ชอบรสเปรี้ยวขอเบอร์รี่ หรือไม่นิยมดื่มนมอัลมอนด์ นี่คือเมนูปั่นอีกหนึ่งสูตรที่จะช่วยลดไขมันได้ดีไม่แพ้แก้วแรก

  • Kale Recharge Smoothie

สมูทตี้แก้วนี้ไม่ควรดื่มเพื่อทดแทนมื้ออาหาร เพราะมีโปรตีนต่ำมาก เหมาะสำหรับดื่มหลังจากออกกำลังกายในตอนเช้า เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ และเพื่อให้รางกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุในทุกวันได้มากขึ้น

ส่วนผสม
– กล้วยสุกแช่เย็น 1 ลูก
– ผักขม ¾ ถ้วย
– ผักคะน้าเอาเฉพาะใบ ¾ ถ้วย
– แครอทหั่น ½ ถ้วย
– ขิงขูด 1 ช้อนชา
– ผักชีฝรั่งหรือผักชี (แล้วแต่ชอบ) 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
– น้ำ 8 ออนซ์
– น้ำแข็ง 4 ก้อน

*สูตรนี้สำหรับ 3 แก้ว

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ข้อมูลจาก www.shefinds.com / ภาพจาก unsplash.com a a a a

7 สิ่งที่คู่รักควรเซย์เยสก่อนวางแผนจัดงานแต่ง

7 สิ่งที่คู่รักควรเซย์เยสก่อน วางแผนจัดงานแต่ง

ตอนขอเธอแต่งงานก็ลุ้นจนใจเต้นโครมคราม พอเดินเข้าไปบุพการีนางก็ยิ่งเกร็งจัด แต่เราขอบอกว่าด่านหินสองด่านนี้ไม่ยากเท่าการ วางแผนจัดงานแต่ง งานหรอกนะคะ เพราะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่คุณทั้งคู่ต้องตกลงใจเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันก่อน ไม่อย่างนั้นแล้ว งานแต่งงานในฝันที่แสนแฮปปี้จะไม่ปรากฎขึ้นอย่างแน่นอน

 

ว่าแล้วก็ไปดูพร้อมๆ กับเราเลยค่ะว่ามีประเด็นไหนบ้างที่ทุกคู่รักควรเซย์เยสพร้อมกันก่อน เพราะนี่ถือเป็นบททดสอบที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ของคุณเลยนะคะ ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันที่ข้อแรกกันเลยค่ะ

วางแผนจัดงานแต่ง

งบประมาณในระดับใกล้เคียงกัน

งบประมาณเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับงานแต่งงาน เพราะว่าไม่ว่าเราจะคิดหรือตัดสินใจทำอะไรก็แล้วแต่ต้องย้อนกลับมาดูงบประมาณทุกครั้ง ดังนั้นจึงสำคัญมากที่คุณทั้งคู่จะต้องตกลงกันในเรื่องของงบประมาณให้ได้ก่อนเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาทีหลัง การคุยในเรื่องกำหนดงบประมาณนั้น จริงๆ แล้วคุยหลายคนจะดีกว่าคุยกันแค่สองคน อาจจะต้องปรึกษาคนในครอบครัวว่าอยากจะช่วยสมทบทุนสำหรับการจัดงานหรือไม่ เพื่อจะได้รวบรวมงบประมาณได้อย่างไม่คลาดเคลื่อนไงล่ะคะ

จัดลำดับความสำคัญในการจ่ายในทิศทางเดียวกัน

คุณควรจัดลำดับความสำคัญว่าอะไรที่สำคัญที่สุดในงานแต่งงานของคุณทั้งคู่ก่อน เช่น เป็นคนชอบรับประทานก็เน้นไปที่เรื่องอาหารหรือเป็นขาแดนซ์ทั้งคู่ก็เน้นวงตรีสดแบบเจ๋งๆ หรือว่าคุณเป็นพวกที่ชอบแต่งตัวก็จูงมือกันไปเลือกชุดให้น้ำหนักกับการแต่งตัวสวยหล่อกันแบบจัดเต็ม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการจัดลำดับที่ว่านี้ ควรนึกถึงแขกที่จะเข้าร่วมงานด้วยนะคะ ถ้าเป็นแขกผู้ใหญ่ที่ต้องใส่ใจเรื่องความสะดวกสบายในการทานอาหารหรืออยู่ในงาน คุณก็อาจต้องเกลี่ยลำดับความสำคัญกันใหม่ให้ลงตัวและบุพการีไม่ขายหน้า

สถานที่ที่ใช่ของเราสองคน

การตัดสินใจร่วมกันว่าคุณทั้งคู่จะจัดงานแต่งที่ไหน อยากได้แบบที่ใกล้บ้านหรือจะเป็นที่จัดงานยอดฮิต คุณอาจลองคิดถึงสถานที่ที่มีความหมายกับคุณทั้งคู่ก็ได้ และสิ่งหนึ่งที่คุณควรตระหนักหากคุณจะจัดงานแต่งงานในต่างประเทศก็คือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เพราะคุณอาจจะต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ เพื่อเป็นการดูสถานที่ก่อนจะมีการจัดงาน หรือคุณอยากจัดงานช่วงพิธีการในโบสถ์ หรือจัดทั้งงานพิธีการและงานเลี้ยงฉลองในที่เดียวกัน เรื่องสถานที่พวกนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องคิดและตัดสินใจให้ได้ก่อนที่จะนึกถึงรายละเอียดในเรื่องต่อไป

วันที่ในการจัดงาน

แน่นอนว่าบ่าวสาวชายวไทยยังยึดติดเรื่องฤกษ์ยาม แต่เดี๋ยวนี้การดูฤกษ์มักไม่ได้ให้มาแค่ฤกษ์เดียว ฉะนั้นหากมีหลายฤกษ์ก็มานั่งเปิดตารางงานวางวันแต่งให้ตรงกันก่อนเลย แล้วนำวันที่เลือกไปจับคู่กับสถานที่ที่ใช่ของคุณทั้งคู่ เพราะการตัดสินใจในเรื่องของวันที่จัดงานมักขึ้นอยู่กับสถานที่ว่า สถานที่นั้นว่างวันที่ต้องการไหม แต่หากเป็นพวกฤกษ์สะดวก จะไม่สามารถเลือกวันที่แน่ชัดไม่ได้อาจจะเลือกเป็นฤดูกาลหรือเลือกเป็นเดือนที่ดีไปก่อน อาจเป็นเดือนที่มีความหมายกับคุณทั้งสองคนก็ได้ และสิ่งที่อยากจะให้นึกถึงคือเดือนที่คนแต่งงานกันมากๆ จะเป็นเดือน พฤษภาคม – ตุลาคม ถ้าคุณเลือกแต่งงานในเดือนเหล่านี้ค่าจัดงานก็จะสูงขึ้นแต่ถ้าคุณเลือกจัดงานในเดือนอื่นนอกจากนี้คุณอาจจะได้ราคาที่ถูกลง

ธีมและสไตล์งานแต่งงานในฝัน

คุณทั้งคู่มองเห็นภาพงานแต่งงานในธีมงานเดียวกันหรือเปล่าคะ เพราะถ้าคุณมีภาพงานแต่งงานของคุณในใจ แล้วสามารถมองเห็นคุณและอีกคนอยู่ท่ามกลางภาพนั้นได้พร้อมๆ กับเพื่อนสนิทและครอบครัวก็แสดงว่าคุณมาทางเดียวกันแล้วค่ะ จากนั้นภาพต่างๆ ทั้งเรื่องการตกแต่ง การแต่งตัวและกิจจกรรมในงานจะค่อยๆ ไหลออกมาจากความต้องการของคุณทั้งคู่ที่แชร์สิ่งที่ฝันร่วมกันอย่างลงตัว

จำนวนแขกที่จะเชิญ

จำนวนแขกที่เข้าร่วมงานขึ้นอยู่กับความกว้างของสถานที่ ดังนั้นก่อนจะเชิญแขกคุณควรรู้สถานที่ว่าจะจัดที่ไหน เพราะสิ่งที่ต้องคิดคือถ้ายิ่งเชิญแขกมากก็ยิ่งสิ้นเปลืองมาก รายชื่อแขกในงานคุณทั้งสองควรช่วยกันคิดว่าวันสำคัญของคุณน่าจะมีความหมายกับใครบ้างควรจะเลือกบุคคลนั้นก่อน หรือคุณอาจจะลองถามพ่อแม่ของคุณเกี่ยวกับการเชิญแขกที่เป็นญาติพี่น้องเพื่อความเหมาะสมก็ได้

เวลาที่ใช้ในการวางแผน

การวางแผนงานแต่งงานนั้นต้องใช้เวลามาก อย่าให้การวางแผนจัดงานมายึดเวลาทั้งหมดของคุณและคู่รักไปคุณควรพักบ้างอาจจะเป็นพักหนึ่งวันต่อสัปดาห์ เพื่อที่วันนั้นคุณจะได้ให้เวลากับคู่รักของคุณ เพื่อทำอะไรก็ได้ที่ไม่เกี่ยวกับการวางแผนแต่งงาน จะเป็นการรับประทานอาหารเย็นกัน หรือดูทีวีด้วยกัน มีเวลาที่โรแมนติกด้วยกันบ้างเพื่อให้คุณทั้งคู่ผ่อนคลายความเครียดลงไปบ้างไงล่ะคะ

ติดตามไอเดียและคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ : vimeo.com/weddingfilmes, tallypress.com a a a

ย้อนดูประตูเงินประตูทองตามประเพณีไทยมีกี่ประตูกันแน่??

ลำดับพิธีสำคัญที่จะขาดไม่ได้ในพิธีแต่งงานแบบไทย และถือว่าเป็นลำดับพิธีที่หลายคนรอยนั้นก็คือ การกั้น ประตูเงินประตูทอง ขอบอกว่าเด็ดสะระตี่ เฮฮาสนุกสนานสุดๆ เพราะเราจะได้เห็นเหล่าเพื่อนเจ้าสาวยืนกั้นประตูซ้อนกันหลายชั้น บางทีเยอะเสียจนอดคิดไม่ได้ว่าซองที่เจ้าบ่าวเตรียมมามันจะพอไหมนะ คราวนี้ก็เลยจะขอพาย้อนไปสมัยโบราณสักหน่อยว่า แท้จริงแล้วเขากั้นกันกี่ประตู เยอะเท่ากับที่เราเห็นในปัจจุบันนี้หรือเปล่า ตามมาหาคำตอบกันค่ะ

ตามประเพณีดั้งเดิมขอไทยเราเมื่อมีงานแต่งงานมักจะนิยมกั้นประตู 3 ประตู ได้แก่ ประตูชัย ประตูเงิน และประตูทอง เมื่อเจ้าบ่าวมาถึงเรือนเจ้าสาว ก่อนที่จะได้พบปะกับคนรักก็จะต้องผ่าน 3 ประตูนี้เสียก่อน แต่จะผ่านแต่ละประตูได้ก็จะต้องมีซองเงินเล็กๆ น้อยๆ ให้คนกั้นประตู ซึ่งเขาเรียกซองพวกนี้ว่า “ของแถมพก” โดยผู้ที่ให้ซองนี้ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าบ่าว บางครั้งก็มีเถ้าแก่และเพื่อนเจ้าบ่าวช่วยกันหยอกล้อและต่อรองขอผ่านประตูเข้าไปหาหวานใจ

ประตูแรกที่เจ้าบ่าวจะต้องเจอก็คือ “ประตูชัย” โดยผู้กั้นประตูจะถือชายผ้าคนละข้าง เรียกกันว่า “การปิดประตูขั้นหมาก” จากนั้นก็จะมีการต่อรองเกิดขึ้นตามแต่บรรยากาศจะพาไป สุดท้ายก่อนจะผ่านประตูเข้าไป ฝ่ายเจ้าบ่าวจะต้องให้ซองเงินแก่ผู้กัน เรียกว่า “ของแถมพกอย่างตรี”

ประตูที่สองได้แก่ “ประตูเงิน” ผู้กั้นประตูจะถือชายผ้าแพรคนละข้าง หรือเป็นผ้าที่มีเนื้อดีกว่าผ้าที่ใช้กั้นประตูชัย มีการต่อรองขอผ่านประตูเช่นเดียวกับประตูชัย แต่ซองเงินที่ให้จะต้องมีค่าสูงกว่า เรียกว่า “ของแถมพกอย่างโท”

ประตูสุดท้ายเป็น “ประตูทอง” ผู้กั้นจะถือชายผ้าแพรอย่างดี หรือถ้าเป็นบ้านที่มีฐานะดีก็จะใช้สร้อยทองสำหรับกั้นประตู และเช่นเดียวกันกับสองประตูที่ผ่านมาคือ จะต้องมีการหยอกล้อ ต่อรองเพื่อขอให้เจ้าบ่าวผ่านประตูไปรับเจ้าสาว แต่อาจจะผ่านยากสักหน่อย เพราะนี่น่ะเป็นประตูสำคัญประตูสุดท้าย และแน่นอนว่าซองเงินจะต้องหนักมากกว่าสองประตูแรกด้วย เรียกว่า “ของแถมพกอย่างเอก”

ถึงแม้ว่าประเพณีดั้งเดิมของไทยจะมีเพียงแค่ 3 ประตู และวัสดุที่นำมาใช้กั้นก็เป็นเพียงแค่ผ้าแพรผืนสวย แพงหน่อยเห็นจะเป็นประตูทองที่ใช้สร้อยทองกั้น แต่ในปัจจุบันงานแต่งหลายงานก็ประยุกต์ทั้งกระดาษ ผ้า หรือดอกไม้นำมาตัดแต่งร้อยเรียงจนสวยงามแล้วนำมากั้นประตู ที่สำคัญมีหลายประตูเสียด้วย บางงานเยอะเสียจนซองที่เจ้าบ่าวเตรียมมาหมดก่อนจะถึงประตูสุดท้ายซะอีก

เราคิดว่าถ้าเจ้าบ่าวคนไหนได้มาอ่านบทความนี้ก็คงจะร้องว่า ว้าววว ถ้างานเรายึดตามแบบประเพณีในสมัยก่อนก็คงดีสินะ!!

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีแต่งงานไทยเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพเปิด : Doglookplane

6 เทคนิคเลือกประดับเจ้าสาว ให้สวยปัง ไม่ลิเก

อีกหนึ่งความกังวลของคุณเจ้าสาวก็คือเรื่อง เลือกเครื่องประดับเจ้าสาว เนี่ยละ ว่าจะเลือกยังไงไม่ให้ดูเป็นลิเก แล้วเลือกอย่างไรให้ดูเข้ากันได้ดีกับชุดที่เลือกไว้ วันนี้เราจึงจัด 6 เทคนิคมิกซ์แอนด์แมตช์เครื่องประดับให้เข้ากับชุด แล้วยังสวยหวานเป็นเจ้าหญิง ไม่เล่นใหญ่เป็นลิเก

1.เลือกเครื่องประดับจากทรง Neckline ของชุด

การ เลือกเครื่องประดับเจ้าสาว ไม่ว่าจะเป็น สร้อยคอ ต่างหู ตลอดจนสร้อยข้อมือ มักอิงกับเนคไลน์ของชุด ฉะนั้นสาวๆ จึงต้องมีชุดแต่งงานที่จะใส่เสียก่อนเลือกเครื่องประดับนะจ๊ะ

ไร้สาย เป็นทรงเนคไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ซึ่งเป็นแบบที่ค่อนข้างจะอวดความผ่องของผิวเจ้าสาว ดังนั้นสร้อยคอที่เลือกก็ควรช่วยเพิ่มประกายของผิวด้วยเพชรตัวเส้นหนาประมาณหนึ่ง แต่ต้องไม่ยาวเกินขอบชุด และเลือกต่างหูชิ้นเรียบๆ เพื่อป้องกันการแย่งสายตา

รูปหัวใจ อีกทรงเนคไลน์ที่อวดความเซ็กซี่ของผู้หญิง เหมาะกับทั้งสาวๆ อกเล็กและอกใหญ่ สร้อยคอที่เลือกควรเป็นจี้รูปหยดน้ำ เพื่อขับเน้นหน้าอกหน้าใจให้ดูมีเสน่ห์ ในขณะที่ต่างหูก็ควรเป็นทรงเดียวกับจี้ เพื่อความสวยงาม Total Look ให้ดูเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

– คล้องคอ ชุดแต่งงานทรงคล้องคอที่เพิ่งกลับมาได้รับความนิยม เป็นทรงที่ไม่เหมาะกับการใส่สร้อยคอ แต่เพิ่มโอกาสให้เล่นกับต่างหูระย้า และสร้อยคอมือเพชร แต่ถ้าอยากได้ความเก๋ สร้อยคอมือมุกก็สวยไม่เบาเลยทีเดียว

– คอวี ชุดแต่งงานคอวี หรือทรงผ่าอกก็ต้องเหมาะกับสายสร้อยยาวๆ ที่ไม่โดดเด่นมากนัก แล้วไปเน้นที่จี้สวยอลังการ จะทำให้ชวนมองมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ต่างหูก็ควรเป็นแบบเรียบๆ ง่ายๆ นะจะได้ไม่แย่งสายตากันไปหมด

2. เลือกให้เข้ากับสีชุด

เจ้าสาวหลายคนกู่ร้องบอกอยู่ในใจว่า ชุดแต่งงานก็สีขาวไง ทำไมยังต้องเลือกให้เข้ากับสีชุด ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่า เดี๋ยวนี้ชุดแต่งงานทำออกมาสีขาวก็จริงแต่มีหลายเฉดมากมาย ถ้าเลือกผิด ก็ผิดเลยนะ

– สีขาวจริง ชุดแต่งงานสีขาวจริงๆ ที่แบบข๊าว ขาว เหมาะกับสาวๆ ที่ผิวออกโทนน้ำผึ้งจะช่วยขับเน้นให้เจ้าสาวดูโดดเด่น ในขณะที่เครื่องประดับก็ควรเลือกสีที่มีความใกล้เคียงกับสีขาวอย่าง เงิน ทองคำขาว และมุก

– สีแชมเปญ เป็นสีขาวที่เข้มขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ และเป็นสีที่ใส่เครื่องประดับได้หลากหลายและให้เข้าได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับสีโรสโกลด์ ทอง หรือจะเป็นทองคำขาวก็ยังสวย

– สีงาช้าง สีขาวโทนอุ่นๆ นวลๆ เป็นเฉดที่ได้รับความนิยมมากเฉดหนึ่งเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าสีผิวไหนใส่ก็รอด และแน่นอนเครื่องประดับไม่ว่าสีไหนก็รอดเช่นกัน ทั้งทอง โรสโกลด์ และทองคำขาว

สีขาวอมเหลือง (Candlelight) สีขาวอมเหลืองโทนนี้ เหมาะกับงานยามเย็นที่สบายๆ หรืองานสไตล์รัสติค ส่วนเครื่องประดับเจ้าสาวที่เหมาะก็ควรจะมีความอมเหลือง อมขาวอยู่เบาๆ เพื่อความเข้ากัน

3. เลือกให้เข้ากับสไตล์ชุด

นอกจากเนคไลน์แล้วสไตล์ของชุดก็มีความสำคัญกับการ เลือกเครื่องประดับเจ้าสาว เหมือนกันนะ แต่สไตล์ไหนจะเหมาะกับแบบไหนมาดูกัน

สไตล์เบาบาง ชุดแต่งงานที่เน้นความเรียบง่ายเบางบาง ด้วยผ้าชีฟองอาจไม่ต้องมีเครื่องประดับเลยก็ได้ เพราะแค่ความพริ้วของผ้าก็สวยกินขาดแล้ว หรือถ้าอยากใส่ก็เน้นทรงหยดน้ำเรียบๆ จะเข้ากับชุดในสไตล์นี้ที่สุด

สไตล์เจ้าหญิง ชุดแต่งงานสไตล์เจ้าหญิง หรือชุดทรงบอลกราวควรเลือกสร้อยเพชรเส้นสั้น เพื่อไม่ให้ความวิบวับของสร้อยไปกับความอลังการของชุดและก็ไม่ดูโล้นจนเกินไป หรืออาจจะใส่สร้อยเส้นเล็กๆ แต่ไปหนักที่ต่างหูก็แล้วแต่ความชอบได้เลย แต่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นนะ

ชุดวินเทจ ชุดแต่งงานสไตล์วินเทจ เครื่องประดับสไตล์วินเทจจึงต้องมาอย่างสร้อยไข่มุก หรืองานรูปดอกไม้แล้วประดับอัญมณีสีๆ ที่เคยได้รับความนิยมในรุ่นคุณปู่คุณย่านั่นแหละ กำลังสวยเลย

4. ให้เป็นไปในทางเดียวกัน

สีและทรงของเครื่องประดับ ไม่ว่าจะสร้อยคอ สร้อยคอมือ และต่างหูควรไปในทิศทางเดียวกัน อย่างจี้เพชรทรงหยดน้ำ ก็ควรหยดเพชรน้ำทั้งต่างหูและสร้อยคอ เพื่อให้มองดูแล้วสวยไม่ขัดสายตา จะมาชิ้นหนึ่งเป็นเพชร อีกชิ้นเป็นทับทิบแบบนี้โอกาสพลาดก็จะสูงมากเชียวละ

5. น้อยแต่มาก

คำนี้ได้ยินบ่อย และใช้ได้เกือบทุกโอกาส กับการเลือกเครื่องประดับเจ้าสาวก็เช่นกัน เจ้าสาวควรใส่เครื่องประดับแค่ 1 – 2 ชิ้น ไม่นับรวมแหวนที่อยู่บนนิ้วนะ ถ้ามากกว่านี้จากเจ้าสาวจะกลายเป็นตู้เพชรเคลื่อนที่ไปได้

6. เลือกให้เข้ากับสไตล์ของเจ้าสาว

ในวันแต่งงานเจ้าสาวควรได้เป็นตัวของตัวเองที่สุด เพราะฉะนั้นเครื่องประดับก็ควรบ่งบอกความเป็นตัวตน และยังควรเป็นชุดที่เจ้าสาวใส่แล้วสบายตัว สบายใจ หากฝืนใส่อะไรที่มันไม่ใช่ ความมั่นใจหดหาย ความสวยก็ลดน้อยลง

นอกจากความเข้ากันของเครื่องประดับกับชุดของเจ้าสาวแล้ว การ เลือกเครื่องประดับให้เข้ากับทรงผม ก็เป็นอะไรที่เจ้าสาวไม่ได้พลาดไม่ได้เหมือนกันนะ

ภาพ unsplash.com, Pinterest

ซีน ภัสธรากรณ์ กับแฟชั่น ชุดแต่งงาน สวยๆ พร้อมเครื่องประดับครบเซตสุดหรู

ซีน-ภัสธรากรณ์ บุษราคัมวดี นักแสดงสาวหน้าหมวยสวยหวานที่กำลังฮอตสุดๆ ในบทบาทจากละครเรื่อง “ซ่อนเงารัก” ที่ได้รับฟีดแบ็คดีเกินคาด และนี่คืออีกหนึ่งผลงานที่สาวซีนได้มาร่วมงานกับแพรวเวดดิ้งกับการถ่าย ชุดแต่งงาน ถ่ายแฟชั่นสวยๆ พร้อมเครื่องประดับเพชรแบบครบเซต 

ซึ่งชุดแต่งงานที่น้องซีนใส่ก็มีทั้งลุคเจ้าสาวเปรี้ยวจี๊ด ไปจนถึงเจ้าสาวสายหวานที่รักความฟูฟ่องของกระโปรง ที่สำคัญเราแมตช์เครื่องประดับแบบครบเซตที่เข้ากับชุดแต่งงานมาให้ด้วย เอาเป็นว่าว่าที่เจ้าสาวตัวจริงที่กำลังหาแรงบันดาลใจดีๆ เกี่ยวกับชุดแต่งงานหรือเครื่องประดับ แพรว wedding เชื่อว่าแฟชั่นเซตนี้จะเป็นตัวช่วยว่าที่เจ้าสาวได้เป็นอย่างดีแน่นอน

ดูชุดแต่งงานสวยๆ เพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

เสื้อผ้า :
Vanus Couture โทร. 0-2002-4895, 0-2002-4896 เฟซบุ๊ก  Vanus Couture ไอจี  @vanuscouture_official
BOBO Studio จังหวัดภูเก็ต โทร. 08-9471-5069, 09-1158-6178 เฟซบุ๊ก  BOBO Studio โบโบ้สตูดิโอ ไอจี  @bobo_studio

เครื่องประดับ : Vijittra’s Jewellery โทร. 06-1614-5096 ไลน์  @Vijittra

พรีเวดดิ้งน่ารักกับวันสบายๆ ของคู่รัก ที่ถ่ายได้ในบ้านเราเองก็ได้

พรีเวดดิ้งน่ารัก ในวันสบายๆ ที่ถ่ายได้ในบ้านเราเอง

เรารู้นะว่ามีหลายคนที่เบื่อภาพพรีเวดดิ้งแบบชุดแต่งงาน หรือชุดราตรีอลังการ เราเลยขอเอาใจด้วยการรวม 21 ภาพ พรีเวดดิ้งน่ารัก สบายๆ ที่มีถ่ายได้เองในบ้านแถมใส่ชุดชิวๆ  เรียกได้ว่า ทั้งสวย ทั้งประหยัด

ห้องนอน

เริ่มต้นกันที่นอน แน่นอนว่าเตียงต้องมา ภาพก็จะโรแมนติค มีความอิโรติคเล็กๆ แต่รับรองว่ารูปออกมาสวยละมุนเว่อร์

พรีเวดดิ้งน่ารัก
เซอร์ไพรส์ไหมละเธอ
พรีเวดดิ้งน่ารัก
ภาพสวย แสงสวยดีจัง
พรีเวดดิ้งน่ารัก
วันสบายๆ ก็นอนดูซีรีย์ด้วยกันงี้
พรีเวดดิ้งน่ารัก
สงครามหมอน
พรีเวดดิ้งน่ารัก
มาสิ เราจะสอนกีตาร์ให้
Breakfast in Bed

ห้องนั่งเล่น

เป็นห้องสบายๆ ที่มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ภาพที่ได้ก็จะออกแนววันว่างๆ กับกิจกรรมของคู่รัก

Let’s Dance
เปิดเพลงแล้วมาเต้นกัน
ในวันที่ฝนตก ไหลลงตรงหน้าต่าง
ดื่มกันเบาๆ
อุ๊บส์!
ในยามเช้า สบายๆ
อยู่กัน 2 คน ก็สั่งพิซซ่ามากิน ง่ายๆ สบายๆ
กาแฟคนละแก้ว ก็เพียงพอแล้ว

ห้องครัว

ใครว่าห้องนี้ถ่ายรูปไม่ได้ เราขอเถียงขาดใจ เพราะแต่ละรูปที่ออกมาน่ารักมาก แถมสวีทสุดๆ เลยละ

ในระหว่างการเตรียมอาหาร
งุ้ย อ้อนๆ ขออ้อน หน่อยนะ
ช่วยกันทำ แต่ทำไมอาหารเสร็จช้านะ
ผู้ชายก็ทำอาหารเก่งนะ
ตัวไม่ต้องติดกัน แต่ก็ยังอบอุ่นนะ
อย่าแกล้งกันสิ

เป็นไงคะ กับภาพพรีเวดดิ้งในสไตล์ “วันสบายๆ ในบ้านเราเอง” ชอบกันหรือเปล่า ครั้งหน้า เราจะหาพรีเวดดิ้งในคอนเซ็ปต์น่ารักๆ มาให้ดูอีก ส่วนครั้งนี้เรายังก็มีไอเดียจัดงานแต่งสวยๆ อีกเพียบให้ดู คลิกเลย

ภาพ Pinterest

ขนมมงคลในงานแต่งพร้อมความหมายดีเสริมรักนี้ให้ยั่งยืน

ขนมมงคล ในงานแต่งพร้อมความหมายดีเสริมรักนี้ให้ยั่งยืน

หากเป็นงานของคนไทยไม่ว่าจะเป็นงานไหนก็เพียบพร้อมไปด้วยอาหารการกิน ไม่เว้นแม้กระทั่งงานแต่งงานที่นอกจากจะมีของคาวแสนอร่อยแล้ว ยังต้องมีของหวานอย่างขนมไทยโบราณด้วย ซึ่งขนมที่ว่านี้ก็ต้องมีความหมายที่ดีเป็นพิเศษเพื่อช่วยเสริมความรักของบ่าวสาวด้วย แพรวเวดดิ้ง เลยจัดจานพร้อมเสิร์ฟ ขนมมงคล ที่บ่าวสาวควรจัดหามาไว้ในงานแต่งมาฝาก รับรองว่านอกจากจะรสชาติดีแล้วยังการันตีความหมายดีๆ ด้วย

ขนมมงคล

ขนมกง หรือ ขนมกงเกวียน

เปรียบดั่งกงเกวียนที่หมุนไปข้างหน้าเช่นเดียวกับพระธรรมจักร สื่อความหมายถึงการอวยพรให้บ่าวสาวครองรักกันชั่วนิรันดร์เป็นขนมมงคลที่นิยมใช้เป็นขนมในขันหมาก มีลักษณะเป็นวงกลมและมีเส้นไขว้กันที่ด้านในคล้ายรูปล้อเกวียน นอกจากนี้ยังมีความหมายว่าจะทำให้บ่าวสาวหนักแน่นซึ่งกันและกัน และด้วยความที่ขนมนี้ไม่มีรอยต่อจึงเปรียบได้กับว่าความรักของบ่าวสาวจะยืนยาวต่อไปไม่มีสะดุด โดยขนมกงเป็นขนมโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น และต่อมาเป็นขนมที่แพร่หลายในภาคกลางในฐานะขนมมงคลในงานแต่ง

ขนมทองเอก

เป็นขนมไทยโบราณที่มีลักษณะพิเศษคือ มีทองคำเปลวติดอยู่ด้านบน นิยมใช้เป็นขนมอวยพรเมื่อได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงาน เป็นเจ้าคนนายคน และขนมทองเอกยังหมายถึง การเป็นที่หนึ่ง ซึ่งก็หมายถึงการเป็นเมียเอก หรือเป็นที่สุดนั่นเองจ้า ซึ่งเป็นขนมที่มักนิยมนำมาประกอบในพิธีมงคลสำคัญๆ

ขนมชะมด หรือ ขนมสามเกลอ

เป็นขนมที่แสดงถึงความสามัคคีและไม่มีวันพรากจากกัน โดยนิยมใช้เป็นขนมเสี่ยงทายในงานแต่ง มีลักษณะเป็นลูกกลมๆ เรียงกัน 3 ลูก การเสี่ยงทายจะดูกันตอนทอด ถ้าทอดแล้วยังอยู่ติดกัน 3 ลูก ถือว่าบ่าวสาวจะรักใคร่กลมเกลียวกัน ถ้าทอดแล้วติดกัน 2 ลูก แปลว่าจะมีลูกยาก แต่ถ้าหลุดจากกันหมดแปลว่าชีวิตคู่จะไม่ยั่งยืน อีกนัยหนึ่งถ้าทอดขนมสามเกลอแล้วพองฟูขึ้นจะถือว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก ซึ่งขนมชนิดนี้ถือเป็นขนมมงคลที่ทำเพื่องานแต่งงานโดยเฉพาะ ปัจจุบันหาทานค่อนข้างยาก ส่วนมากจะมีแค่เฉพาะร้านที่รับทำขนมมงคลหรือร้านขนมสำหรับประกอบพิธีต่างๆ และความเชื่อในการทอดขนมทั้งสามลูกก็ค่อยๆ เลือนหายไป คงเหลือไว้แค่ว่าขนมชนิดนี้คือขนมความหมายดีที่ควรมีไว้ในงานแต่ง

ขนมโพรงแสม

หลายคนอาจไม่เคยเห็นขนมชนิดนี้ แต่ขนมโพรงแสมถือเป็นขนมแต่งงานที่เก่าแก่ ในสมัยโบราณขนมนี้เปรียบเสมือนเสาบ้านที่จะทำให้บ่าวสาวอยู่กันได้ยั่งยืนตลอดไป และยังสื่อถึงความร่ำรวยมั่งคั่งอีกด้วย และด้วยลักษณะของขนมชนิดนี้ที่ตรงกลางกลวงคล้ายกับรากแก้วของต้นแสมที่ขึ้นบริเวณป่าชายเลน ซึ่งเป็นรากพิเศษของต้นไม้ชนิดนี้ที่ใช้สำหรับหายใจ คนโบราณจึงนำคำพ้องเสียงตรงนี้มาตั้งเป็นชื่อขนม และสอดแทรกความหมายอันเป็นมงคลเสริมเข้าไป อย่างเช่น การเปรียบเปรยถึงเรื่องความรักนั่นเอง

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อในเรื่องงานแต่งอีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ : youtube.com, ntbdays.com, sites.google.com, taweesakk.blogspot.com, smklocalfood.com

6 เคล็ดลับความงามให้เจ้าสาวเพอร์เฟ็คท์แบบ Head To Toe

“ใกล้ถึงวันวิวาห์แล้วหนาแม่ยอดดวงใจ…” ใช่ค่ะ ใกล้ถึงวันแต่งงานแล้วนะจ๊ะสาวๆ อย่ามัวแต่ร้องเพลงฟังเพลงกันจนเพลิน ลืมนึกถึงความสวยความงามที่เจ้าสาวพึงมี วันนี้แพรวเวดดิ้ง เลยขอนำเสนอ 6 เคล็ดลับความงาม ให้เจ้าสาวนำไปดูแลตัวเอง จะได้สวยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าในวันสำคัญ

1. บอกลาปัญหาแพนด้า พร้อมขนตาหนาฟู

joyusหากสาวๆ ต้องทำงานจนดึกดื่น อดตาหลับขับตานอน เราขอแขะขำให้ใช้ ครีมบำรุงที่มีสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ เช่น ชาเขียวและเกรปซีดที่มีคุณสมบัติช่วยลดรอยคล้ำใต้ดวงตา และ บำรุงขนตาด้วยเซรั่มเฉพาะจุด เพื่อให้ขนตาดูหนางอนงาม เพราะอย่าลืมว่าดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจนะจ๊ะ

และในวันงานก่อนแต่งหน้าเจ้าสาวลอง มาส์กใต้ตาเพื่อลดรอยคล้ำ เสียหน่อย เพื่อทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น

2. สร้างคิ้วให้ Cute

vse-gosty-ruก่อนถึงวันสำคัญว่าที่เจ้าสาวควรจะ ให้ผู้เชี่ยวชาญครีเอทคิ้ว ให้สวยเข้ากับรูปหน้าจะดีที่สุด มิเช่นนั้นจากคิ้วปังจะกลายเป็นคิ้วพังได้นะจ๊ะ จากนั้นดูแลต่อด้วยการ ถอนขนคิ้วที่ขึ้นเกินมาทุก 2 สัปดาห์ ด้วยเครื่องมือง่ายๆ เช่น แหนบ กรรไกรแต่งขนคิ้ว หรือที่โกนคิ้วแบบไฟฟ้า และควร ทาครีมบำรุงตามแนวขน ที่ถอนออกไปเพื่อลดการระคายเคือง อีกทั้งยังช่วยขนคิ้วขึ้นช้าลง พอถึงวันงานเพียงแค่วาดคิ้วให้เข้ารูปเพียงแค่นี้สาวๆ ก็จะได้คิ้วที่ดูสวยเป็นธรรมชาติแล้วหล่ะ

3. ริมฝีปากอวบอิ่มน่าจุมพิต

lhowtoริมฝีปากเรียวสวยดันเกิดลอกเป็นขุยแถมวันแต่งงานก็ใกล้เข้ามาทุกที เรามีแนวทางการรับมือมาแนะนำ ด้วยการ จิบน้ำสะอาดที่มีอุณหภูมิปกติบ่อยๆ สำหรับคนที่ปากแห้งเพราะกิน ยาบางชนิดควรหยุดก่อนชั่วคราว อาการก็จะค่อยๆ กลับมาดีขึ้น แต่ถ้าจำเป็นต้องกินควรจะจิบน้ำให้เยอะขึ้นกว่าเดิม ส่วนว่าที่เจ้าสาวที่ติดการนอนห้องแอร์หรือสาวออฟฟิศที่อยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน เลดี้แนะนำควร วางแก้วใส่น้ำเอาไว้ใกล้ตัวเพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศ และจะช่วยลดอาการผิวและริมฝีปากแห้งได้ ที่สำคัญ หมั่นทาลิปมันที่มีสารป้องกันแสงแดด เพื่อคงความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากอยู่เสมอ

4. มือ-เล็บสวยอ่อนนุ่ม เป๊ะเวอร์สำหรับช็อตสวมแหวน

itips-inสาวๆ ควรดูแลรักษาเล็บในทุกสัปดาห์ด้วยการ ตัดแต่งและขัดเล็บให้เงางาม แล้ว บำรุงด้วยแฮนด์ทรีตเม้นต์ เพื่อความเรียบเนียน ชุ่มชื้นและกระจ่างใส หรืออาจ ใช้น้ำมันบำรุงผมแทนการใช้โลชั่น ก็ได้ เลดี้คิดว่าคงไม่มีเจ้าสาวคนไหนอยากมีมือหยาบกร้านชิมิ!

และก่อนแต่งงาน 1 วันเลดี้แนะนำให้ทำเล็บแบบเรียบๆ เช่น ทาสีคลาสสิกในโทนสีธรรมชาติ แค่นี้ก็จะได้เล็บสวยๆ แถมยังไม่แย่งซีนแหวนเพชรเม็ดโตบนนิ้วของคุณอีกด้วย

5. ใส่ชุดแต่งงานแบบสั้น แต่ขนขาพรึ่บ!!!

mountcastleveincenters2 เดือนก่อนวันแต่งงานแนะนำให้ทำ เลเซอร์กำจัดขน และดูแลเรียวขาของตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วย ผลิตภัณฑ์ดูแลเท้าและเรียวขา เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเนียนกระชับพร้อมเปล่งประกายผิวสวย ทั้งนี้ควรทำหลังจากเลเซอร์ไปแล้ว 4 สัปดาห์ สำหรับเจ้าสาวที่มีปัญหาขนคุดควรไป สครับผิว สักนิดจะช่วยทำให้ปัญหาดังกล่าวลดน้อยลงได้

และการแว็กซ์เป็นวีธีที่เร็วที่สุดแถมยังให้ผลยาวนานมากกว่าการโกน ทางที่ดีสาวๆ ควร แว็กซ์ขน 3 วันก่อนแต่งงาน และอย่าลืมสครับเท้าเพื่อลดความหยาบกร้านด้วย

6. ฉีดน้ำหอมมากเกินไป มีทางแก้

dreamweddingกลิ่นกายหอมหวลชวนฝันเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่เจ้าสาวต้องการ แต่ถ้าพลาดฉีดน้ำหอมมากเกินไปจนกลิ่นหอมกลายเป็นฉุนราวกับเพิ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำหอม ก็อย่ารีบตีโพยตีพายไปนะจ๊ะ ทำใจให้ร่มแล้วดึงสติมองหา สำลีชุบแอลกอฮอล์ให้พอหมาดนำมาเช็ดบริเวณที่ฉีดน้ำหอมลงไปจะช่วยทำให้กลิ่นเบาลง หรือ ทาโลชั่นสำหรับผิวตรงที่ฉีด จะช่วยให้กลิ่นฉุนจางหายไป แต่ถ้าฉีดน้ำหอมโดนชุดแต่งงานละก็ให้ ตบแป้งฝุ่นเบาๆ ลงไปบนชุด ก็สามารถช่วยได้นะ

ทั้งหมดนี้คือทริคดีๆ ที่เรานำมาฝากว่าที่เจ้าสาวมือใหม่ทุกคนเพื่อให้หายกังวลใจกับปัญหาที่มีอยู่ จะได้มีเวลาไปดูแลผิวพรรณให้สวยงามรับวันงานจะดีกว่า สำหรับวันนี้มาดามขอตัวไปเช็คเรทติ้งตามประสาคนโสดก่อนนะ แล้วถ้ามีเคล็ดลับอะไรดีๆ จะนำมาฝากทุกคนในครั้งหน้านะจ๊ะ

ติดตามเคล็ดลับความงามและการดูแลสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ : itips.in.com, stylefashionista.com, dreamwedding.com, lhowto.com, mountcastleveincenters.com, nuriss.com, vse.gosty.ru, veilofgrace.com