8 เรื่องสำคัญห้ามมองข้ามถ้าอยากจัดงานแต่งงานเอาท์ดอร์

สายลม แสงแดดและความรู้สึกที่ได้สัมผัสธรรมชาติในชุดเจ้าสาวในฝัน เคียงคู่กับคุณเจ้าบ่าวแสนดีเป็นโมเม้นต์ที่คู่รักอยากมีกันทั้งนั้น บางคู่ก็เลยตั้งธงไว้เลยว่า ถ้าแต่งงานเมื่อไหร่ จัดแต่งกลางแจ้งแบบ งานแต่งงานเอาท์ดอร์ ชัวร์ แต่ฝันของคุณจะสวยงามแค่ไหน ก็อยู่ที่การเตรียมความพร้อมแบบรอบด้าน ว่าแต่จะมีเรื่องไหนบ้างไปเตรียมการพร้อมๆ กันเลย

1. เตรียมพร้อมกับสภาพอากาศ

บ่าวสาวที่อยากจัดงานแต่งงานกลางแจ้ง ควรคำนึงถึงเรื่องสภาพอากาศเอาไว้ให้มาก เพราะไม่มีใครสามารถควบคุมสภาพอากาศได้ ดังนั้นคุณควรมีแผนสำรองอย่างการเช่าเต็นท์หรือการจัดสถานที่จัดงานแต่งงานภายในอาคารที่จะเคลื่อนย้ายแขกทุกคนในงานให้เข้ามาในอาคารได้ถ้าเกิดสภาพอากาศเกิดเปลี่ยนแปลงกะทันหันขึ้นมาจนจัดงานแต่งงานกลางแจ้งต่อไม่ได้

2. ศึกษากฎระเบียบต่างๆ

ทุกๆ ที่จะมีกฎและข้อกำหนดเอาไว้ซึ่งก็อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสถานที่ อย่างข้อกำหนดเรื่องการใช้เสียง การเช่าเต็นท์ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือข้อกำหนดอื่นๆ ซึ่งเจ้าของสถานที่สำหรับจัดงานแต่งงานอาจช่วยแนะนำบ่าวสาวในการจัดการเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ได้ หรือถ้าบ่าวสาวมีนักวางแผนงานแต่งงานคอยช่วยอยู่ก็อาจจะมอบหมายหน้าที่ในการจัดการเรื่องเหล่านี้ให้แก่นักวางแผนการแต่งงานช่วยจัดการแทน

3. ระบบแสง

การจัดงานกลางแจ้งยามค่ำคืน บ่าวสาวควรคิดถึงเรื่องแสงไฟเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจัดงานในสถานที่ที่ดูมืดกว่าปกติ และเน้นการใช้แสงไฟจากเทียนซึ่งอาจดูโรแมนติกแต่ก็อาจเป็นการยากสำหรับแขกในงานที่จะเดินไปรอบๆ งานในสภาพสลัวๆ ของแสงไฟ คงไม่มีบ่าวสาวคู่ไหนอยากให้แขกคนใดคนหนึ่งล้มคะมำลงไปเพราะมองทางไม่เห็น ดังนั้นควรคำนึงถึงเกี่ยวกับเรื่องแสงไฟที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่แขกที่มาร่วมในงานแต่งงานด้วย

4. ระบบเสียง

นอกจากดูแลเรื่องแสงสว่างให้เพียงพอแล้ว คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจถึงเรื่องการจัดระบบเสียงไม่ว่าเสียงเพลง เสียงไมโครโฟนหรือระบบเสียงโดยทั่วไปเพื่อให้แขกที่มาได้ยินเสียงต่างๆ ชัดเจน ใช้ตัวช่วยเรื่องระบบเสียงอย่างไมค์ติดเสื้อสำหรับบ่าวสาวและพิธีกร อาจให้ DJs หรือวงดนตรีช่วยจัดการเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ได้

งานแต่งงานเอาท์ดอร์

5. พัดลมทำความเย็น

อย่างที่รู้ว่าอากาศเมืองไทยเป็นอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดงานแต่งงานกลางแจ้ง คุณควรเตรียมการเช่าพัดทำความเย็นเผื่อเอาไว้ด้วยเพื่อไม่ให้มีใครเป็นลมเป็นแล้ง หรือเหงื่อออกเป็นน้ำตกจนหมดสวยหมดหล่อ และต้องการจะกลับบ้านก่อนที่งานจะสิ้นสุดลง

6. อย่ามองข้ามเรื่องลม

ในการจัดงานกลางแจ้งควรคำนึงถึงเรื่องลมเอาไว้ด้วย ตรวจสอบว่าของตกแต่งในงานแต่งงานต่างๆ โดยเฉพาะเต็นท์ (ถ้ามี) จะปลอดภัยและต้านทานแรงลมไว้ได้แค่ไหน

งานแต่งงานเอาท์ดอร์

7. การเก็บรักษาอาหาร

อาหารในงานแต่งงานคือสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลถึงความปลอดภัยและความเรียบร้อย คุณควรเตรียมการสำหรับการดูแลอาหารจากทั้งสภาพอากาศ แมลงหรือสิ่งอื่นๆ ที่อาจเป็นตัวทำลายความสมบูรณ์ของอาหาร วิธีที่ดีอย่างหนึ่งคือการเก็บรักษาอาหารอยู่ในที่สำหรับเก็บอาหารภายในจนกว่าจะถึงเวลาเสิร์ฟ ลองปรึกษาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวกับการดูแลอาหารและเครื่องดื่ม เรื่องการทำให้อาหารดูสดใหม่และพร้อมเสิร์ฟให้แขกได้อย่างไม่มีปัญหาเมื่อถึงเวลา

8. ระวังแมลงรบกวน

และสิ่งสุดท้ายที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือเรื่องของแมลงรบกวนที่อาจเป็นปัญหาได้หากเลือกจัดงานแต่งงานกลางแจ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงตอนค่ำๆ ดังนั้นจึงควรพูดเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้กับเจ้าของหรือพนักงานที่ดูแลสถานที่ที่จัดงานแต่งงานเพื่อเตรียมพร้อมเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เช่น การฉีดพ่นยากันแมลงก่อนงานแต่งงานเล็กน้อยหรือการจัดเทียนตะไคร้หอมหรือแสงไฟล่อแมลงระหว่างช่วงงานฉลองแต่งงาน อาจวางขวดสเปรย์หรือยาจุดกันแมลงแบบไม่มีสารพิษไว้รอบๆ งานแต่งงาน ห้องน้ำหรือใกล้ๆ ทางเข้าเพื่อช่วยป้องกันแมลงให้กับแขกที่มาร่วมงาน

อ่านเทคนิคจัดงานแต่งดีๆ ได้ตามลิงค์นี้เลย

8 อย่างขอให้เช็คและเห็นกับตาเมื่อออนทัวร์สถานที่จัดงานแต่งงานในฝัน
7 เรื่องต้องสตรองเมื่อบ่าวสาวเริ่มจัดงานแต่งงาน

ภาพ : insideweddings.com

Recommended