อีกหนึ่งความกังวลของคุณเจ้าสาวก็คือเรื่อง เลือกเครื่องประดับเจ้าสาว เนี่ยละ ว่าจะเลือกยังไงไม่ให้ดูเป็นลิเก แล้วเลือกอย่างไรให้ดูเข้ากันได้ดีกับชุดที่เลือกไว้ วันนี้เราจึงจัด 6 เทคนิคมิกซ์แอนด์แมตช์เครื่องประดับให้เข้ากับชุด แล้วยังสวยหวานเป็นเจ้าหญิง ไม่เล่นใหญ่เป็นลิเก
1.เลือกเครื่องประดับจากทรง Neckline ของชุด
การ เลือกเครื่องประดับเจ้าสาว ไม่ว่าจะเป็น สร้อยคอ ต่างหู ตลอดจนสร้อยข้อมือ มักอิงกับเนคไลน์ของชุด ฉะนั้นสาวๆ จึงต้องมีชุดแต่งงานที่จะใส่เสียก่อนเลือกเครื่องประดับนะจ๊ะ
– ไร้สาย เป็นทรงเนคไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ซึ่งเป็นแบบที่ค่อนข้างจะอวดความผ่องของผิวเจ้าสาว ดังนั้นสร้อยคอที่เลือกก็ควรช่วยเพิ่มประกายของผิวด้วยเพชรตัวเส้นหนาประมาณหนึ่ง แต่ต้องไม่ยาวเกินขอบชุด และเลือกต่างหูชิ้นเรียบๆ เพื่อป้องกันการแย่งสายตา
– รูปหัวใจ อีกทรงเนคไลน์ที่อวดความเซ็กซี่ของผู้หญิง เหมาะกับทั้งสาวๆ อกเล็กและอกใหญ่ สร้อยคอที่เลือกควรเป็นจี้รูปหยดน้ำ เพื่อขับเน้นหน้าอกหน้าใจให้ดูมีเสน่ห์ ในขณะที่ต่างหูก็ควรเป็นทรงเดียวกับจี้ เพื่อความสวยงาม Total Look ให้ดูเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
– คล้องคอ ชุดแต่งงานทรงคล้องคอที่เพิ่งกลับมาได้รับความนิยม เป็นทรงที่ไม่เหมาะกับการใส่สร้อยคอ แต่เพิ่มโอกาสให้เล่นกับต่างหูระย้า และสร้อยคอมือเพชร แต่ถ้าอยากได้ความเก๋ สร้อยคอมือมุกก็สวยไม่เบาเลยทีเดียว
– คอวี ชุดแต่งงานคอวี หรือทรงผ่าอกก็ต้องเหมาะกับสายสร้อยยาวๆ ที่ไม่โดดเด่นมากนัก แล้วไปเน้นที่จี้สวยอลังการ จะทำให้ชวนมองมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ต่างหูก็ควรเป็นแบบเรียบๆ ง่ายๆ นะจะได้ไม่แย่งสายตากันไปหมด
2. เลือกให้เข้ากับสีชุด
เจ้าสาวหลายคนกู่ร้องบอกอยู่ในใจว่า ชุดแต่งงานก็สีขาวไง ทำไมยังต้องเลือกให้เข้ากับสีชุด ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่า เดี๋ยวนี้ชุดแต่งงานทำออกมาสีขาวก็จริงแต่มีหลายเฉดมากมาย ถ้าเลือกผิด ก็ผิดเลยนะ
– สีขาวจริง ชุดแต่งงานสีขาวจริงๆ ที่แบบข๊าว ขาว เหมาะกับสาวๆ ที่ผิวออกโทนน้ำผึ้งจะช่วยขับเน้นให้เจ้าสาวดูโดดเด่น ในขณะที่เครื่องประดับก็ควรเลือกสีที่มีความใกล้เคียงกับสีขาวอย่าง เงิน ทองคำขาว และมุก
– สีแชมเปญ เป็นสีขาวที่เข้มขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ และเป็นสีที่ใส่เครื่องประดับได้หลากหลายและให้เข้าได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับสีโรสโกลด์ ทอง หรือจะเป็นทองคำขาวก็ยังสวย
– สีงาช้าง สีขาวโทนอุ่นๆ นวลๆ เป็นเฉดที่ได้รับความนิยมมากเฉดหนึ่งเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าสีผิวไหนใส่ก็รอด และแน่นอนเครื่องประดับไม่ว่าสีไหนก็รอดเช่นกัน ทั้งทอง โรสโกลด์ และทองคำขาว
– สีขาวอมเหลือง (Candlelight) สีขาวอมเหลืองโทนนี้ เหมาะกับงานยามเย็นที่สบายๆ หรืองานสไตล์รัสติค ส่วนเครื่องประดับเจ้าสาวที่เหมาะก็ควรจะมีความอมเหลือง อมขาวอยู่เบาๆ เพื่อความเข้ากัน
3. เลือกให้เข้ากับสไตล์ชุด
นอกจากเนคไลน์แล้วสไตล์ของชุดก็มีความสำคัญกับการ เลือกเครื่องประดับเจ้าสาว เหมือนกันนะ แต่สไตล์ไหนจะเหมาะกับแบบไหนมาดูกัน
– สไตล์เบาบาง ชุดแต่งงานที่เน้นความเรียบง่ายเบางบาง ด้วยผ้าชีฟองอาจไม่ต้องมีเครื่องประดับเลยก็ได้ เพราะแค่ความพริ้วของผ้าก็สวยกินขาดแล้ว หรือถ้าอยากใส่ก็เน้นทรงหยดน้ำเรียบๆ จะเข้ากับชุดในสไตล์นี้ที่สุด
– สไตล์เจ้าหญิง ชุดแต่งงานสไตล์เจ้าหญิง หรือชุดทรงบอลกราวควรเลือกสร้อยเพชรเส้นสั้น เพื่อไม่ให้ความวิบวับของสร้อยไปกับความอลังการของชุดและก็ไม่ดูโล้นจนเกินไป หรืออาจจะใส่สร้อยเส้นเล็กๆ แต่ไปหนักที่ต่างหูก็แล้วแต่ความชอบได้เลย แต่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นนะ
– ชุดวินเทจ ชุดแต่งงานสไตล์วินเทจ เครื่องประดับสไตล์วินเทจจึงต้องมาอย่างสร้อยไข่มุก หรืองานรูปดอกไม้แล้วประดับอัญมณีสีๆ ที่เคยได้รับความนิยมในรุ่นคุณปู่คุณย่านั่นแหละ กำลังสวยเลย
4. ให้เป็นไปในทางเดียวกัน
สีและทรงของเครื่องประดับ ไม่ว่าจะสร้อยคอ สร้อยคอมือ และต่างหูควรไปในทิศทางเดียวกัน อย่างจี้เพชรทรงหยดน้ำ ก็ควรหยดเพชรน้ำทั้งต่างหูและสร้อยคอ เพื่อให้มองดูแล้วสวยไม่ขัดสายตา จะมาชิ้นหนึ่งเป็นเพชร อีกชิ้นเป็นทับทิบแบบนี้โอกาสพลาดก็จะสูงมากเชียวละ
5. น้อยแต่มาก
คำนี้ได้ยินบ่อย และใช้ได้เกือบทุกโอกาส กับการเลือกเครื่องประดับเจ้าสาวก็เช่นกัน เจ้าสาวควรใส่เครื่องประดับแค่ 1 – 2 ชิ้น ไม่นับรวมแหวนที่อยู่บนนิ้วนะ ถ้ามากกว่านี้จากเจ้าสาวจะกลายเป็นตู้เพชรเคลื่อนที่ไปได้
6. เลือกให้เข้ากับสไตล์ของเจ้าสาว
ในวันแต่งงานเจ้าสาวควรได้เป็นตัวของตัวเองที่สุด เพราะฉะนั้นเครื่องประดับก็ควรบ่งบอกความเป็นตัวตน และยังควรเป็นชุดที่เจ้าสาวใส่แล้วสบายตัว สบายใจ หากฝืนใส่อะไรที่มันไม่ใช่ ความมั่นใจหดหาย ความสวยก็ลดน้อยลง
นอกจากความเข้ากันของเครื่องประดับกับชุดของเจ้าสาวแล้ว การ เลือกเครื่องประดับให้เข้ากับทรงผม ก็เป็นอะไรที่เจ้าสาวไม่ได้พลาดไม่ได้เหมือนกันนะ
ภาพ unsplash.com, Pinterest