แนะนำ 5 ช่างภาพงานแต่ง ใน 5 สไตล์ที่แตกต่างและน่าจับตามอง!

หา ช่างภาพงานแต่ง อยู่หรือเปล่า? เพราะ แพรว เวดดิ้ง อยากแนะนำ 5  ช่างภาพที่มีสไตล์หลากหลายให้คุณเลือกตามใจชอบ มาดูกันว่ามีใครบ้าง

ช่างภาพงานแต่ง ปัจจุบันมีให้คุณเลือกใช้บริการกันอย่างมากมาย แต่แพรว เวดดิ้ง คัด 5 ช่างภาพรุ่นใหม่ที่มีสไตล์โดดเด่นน่าจับตามองมาให้คู่บ่าวสาวดูเป็นทางเลือกค่ะ ชอบใครถูกใจงานใครลองติดต่อไปสอบถามรายละเอียดได้เลยค่ะ

 

Doglookplane Photographer

ช่างภาพงานแต่ง
Doglookplane Photographer
ช่างภาพงานแต่ง
Doglookplane Photographer
ช่างภาพงานแต่ง
Doglookplane Photographer
ช่างภาพงานแต่ง
คุณมาร์ช – ณัฐพล จรูญศักดิ์

คุณมาร์ชณัฐพล จรูญศักดิ์ ช่างภาพงานแต่งงานอารมณ์ดีที่ภาพถ่ายของเขาจะมีการใช้สีสันสดใสในแบบเฉพาะตัว นอกเหนือจะความสามารถในการเก็บอารมณ์ของภาพ ในเวลาช่วงสำคัญ เขายังสามารถเจาะมุมมองของคู่บ่าวสาวในแบบที่เป็นกันเองเพื่อให้ภาพออกมาดูเป็นธรรมชาติไม่เหมือนการเซทถ่าย ความอารมณ์ดีของเขายังทำให้คู่บ่าวสาวอาจจะได้เพื่อนใหม่กลับไปหลังวันงานอีกคนก็ได้นะ 🙂

เฟซบุ๊ก:doglookplane.photographer

โทร: 089-355-9969

ไลน์: doglookplane

อีเมลล์: [email protected]

PAOPHOTO

ช่างภาพงานแต่ง
PAOPHOTO
ช่างภาพงานแต่ง
PAOPHOTO
ช่างภาพงานแต่ง
PAOPHOTO
คุณเปา – ทวีวัฒน์ บรรยงบุญฤทธิ์

คุณเปาทวีวัฒน์ บรรยงบุญฤทธิ์ ช่างภาพพรีเวดดิ้งผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพพอทเทรทคู่ในสตูดิโอ สไตล์ที่โดดเด่นของคุณเปาคือ การถ่ายภาพแบบ ‘Real Portrait’ โดยคุณเปาจะมีวิธีบิ้ลท์ให้คู่บ่าวสาวสามารถ

สื่อสารผ่านทางสีหน้าแววตาและอิริยาบถต่างๆอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ภาพถ่ายดูโดดเด่นสวยงามและมีเรื่องราวโดยแทบไม่ต้องมีพรอพประกอบมากมาย

ไอจี: PAOPHOTO

เฟซบุ๊ก: PAOPHOTO.NET

OAD.ARI

ช่างภาพงานแต่ง
OAD.ARI
ช่างภาพงานแต่ง
OAD.ARI
ช่างภาพงานแต่ง
OAD.ARI
คุณโอ๊ต – oad.ari

คุณโอ๊ตช่างภาพงานแต่งงานที่เริ่มจากการถ่ายภาพแนวสตรีทมาก่อน จึงทำให้สไตล์ภาพถ่ายของเขาโดดเด่นในเรื่องของการเลือกโลเคชั่นที่ลงตัวและการใช้สีสันเฉพาะตัว เขายังมีวิธีการที่ช่วยให้คู่บ่าวสาวที่ไม่ชินกับการถ่ายภาพเวดดิ้งมาก่อนรู้สึกผ่อนคลายเหมือนว่ามาถ่ายรูปเล่น ทำให้ภาพที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติและสมจริง

โทร: 06-4258-7000

ไลน์: oadari12345

ไอจี: oad.ari

Keepmoment Photography

Keepmoment Photography
Keepmoment Photography
ช่างภาพงานแต่ง
Keepmoment Photography
ช่างภาพงานแต่ง
คุณอั๋น – ชัยพัฒน์ โลกาพัฒนา

คุณอั๋น – ชัยพัฒน์ โลกาพัฒนา ช่างภาพที่โดดเด่นในเรื่องของการจับอารมณ์ ณ โมเม้นต์สำคัญของงานแต่งงานสมชื่อ Keepmoment ที่เน้นการบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง เพื่อเก็บภาพความทรงจำที่เป็นตัวตนของบ่าวสาวและแขกในงาน รวมทั้งช่วยให้คู่บ่าวสาวรู้สึกรีแลกซ์เมื่ออยู่หน้ากล้อง เพื่อความเป็นธรรมชาติของภาพถ่ายมากที่สุด

โทร: 086-762-2313

เฟซบุ๊ก:Keepmoment Photography

ไอจี:Keepmoment

เว็บไซด์: www.keepmoment.com

WIRUN KULTAN PHOTOGRAPHY

WIRUN KULTAN PHOTOGRAPHY
WIRUN KULTAN PHOTOGRAPHY
WIRUN KULTAN PHOTOGRAPHY
คุณ วิรุฬห์ กุลตัณฑ์

คุณวิรุฬห์ กุลตัณฑ์ช่างภาพแต่งงานผู้มีสไตล์โดดเด่นของตัวเองจนเตะตาเหล่าคู่บ่าวสาวที่ชื่นชอบสีสันเฉพาะตัวที่เขามักจะใช้ในงานถ่ายภาพของตนเอง รวมทั้งการจับแสงและเงาและมุมมองของภาพที่ทำให้คู่บ่าวสาวดูโดดเด่นท่ามกลางผู้คนมากมาย

โทร: 094-958-8989
ไลน์: wirunkultan

เฟซบุ๊ก: WIRUN KULTAN PHOTOGRAPHY
ไอจี: wirun
อีเมลล์: [email protected]
เว็บไซด์: www.wirunkultan.com

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับ 5 ช่างภาพ 5 สไตล์ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ชอบใครอยากใช้บริการใครก็สามารถติดต่อไปได้เลยค่ะ และในโอกาสหน้าเราก็จะรวบรวมเหล่าช่างภาพหน้าใหม่มาให้ว่าที่บ่าวสาวเลือกกันอีกอย่างแน่นอน

ชอบคอนเท้นต์นี้ของเรา? คลิกอ่าน วิธีถ่ายภาพพรีเวดดิ้งแบบประหยัดงบ ไม่ต้องไปไหนไกลแต่ได้ภาพสวย

Cover Photo from: oad.ari

10 อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ ที่จะเติมเต็มให้อิ่มท้องและยังช่วยลดน้ำหนักอีกด้วย

อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย และเป็นประโยชน์ต่อการลดน้ำหนักให้สวยแบบสุขภาพดี

การรับประทานอาหารที่จำกัดปริมาณแคลอรี่ไม่เกิน 1000 แคลอรี่ และไม่คำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาอาหาร เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อคุณลดน้ำหนัก เพราะการรับประทาน อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ นั้นเป็นประโยชน์แก่ร่างกายและทำให้อิ่มท้องได้นานขึ้น ซึ่งร่างกายสามารถย่อยอาหารแล้วนำโปรตีนไปใช้ได้โดยตรง แต่ก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนด้วย เช่น ขนาดร่างกาย รูปแบบการออกกำลังกาย และเป้าหมายของการลดน้ำหนักด้วย

การที่จะลดน้ำหนักได้อย่างประสบความสำเร็จต้องอาศัยวินัยและความตั้งใจเป็นส่วนสำคัญ ทั้งการกินอาหารคลีน การกินโปรตีน การออกกำลังกาย และวิถีชีวิตที่จะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้จริง แต่เราแนะนำว่า หากคุณจะวางแผนการลดน้ำหนักล่ะก็ ควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาโปรแกรมที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณ เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและสามารถลดน้ำหนักได้อย่างเห็นผลและยั่งยืน

แต่วันนี้ แพรว wedding จะมาแนะนำ อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ ที่ทำได้ด้วยตัวคุณเองและหารับประทานได้ง่าย เพราะการเริ่มต้นดูแลสุขภาพที่ดีนั้นต้องเริ่มต้นจากตัวเรา โดยเฉพาะคุณว่าที่เจ้าสาวที่ต้องเตรียมงานแต่งและต้องดูแลตัวเองไปพร้อมๆ กัน ก็อาจจะเครียดและกังวงจนน้ำหนักลด หรือเครียดจนทานเยอะจนอ้วนขึ้นได้ ทำให้สวมชุดแต่งงานได้ไม่สวยนัก การรับประทานอาหารเสริมโปรตีน นั้นจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้เจ้าสาวมีรูปร่างที่ดูดีอยู่เสมอ และนี่คือ 10 อาหารโปรตีนที่เราจะมาแนะนำกัน

1. ไข่ไก่

ไข่ไก่ ยังคงเป็นคำตอบของแหล่งโปรตีนที่ดีที่สุด ในไข่ไก่ 1 ฟอง มีโปรตีน 6 กรัม ซึ่งเป็น 14 % ของปริมาณโปรตีนที่ผู้หญิงควรได้รับภายใน 1 วัน และจากการศึกษาพบว่า หากรับประทานไข่ไก่ในมื้อเช้าจะช่วยให้อิ่มท้องนานถึง 36 ชั่วโมง

อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ


2. แซลมอน

แซลมอน เป็นอาหารที่สามารถนำมาปรุงอาหารได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะรับประทานแบบดิบ ต้ม ย่าง หรือนึ่งก็อร่อยไม่แพ้กันเลย โดยปลาแซลมอน 3 ส่วน จะมีโปรตีน 22 กรัม และไขมัน 7 กรัม อุดมไปด้วยคุณค่าที่ดีต่อสุขภาพจริงๆ

อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ


3. อกไก่

อกไก่ ที่เหมาะกับการรับประทานเพื่อดูแลสุขภาพคือ ต้องไม่รับประทานหนัง ซึ่งไก่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะสามารถนำมาปรุงอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อยทั้งอบ ย่าง หรือผัดแบบใช้น้ำมันให้น้อยที่สุด อกไก่ 1 ชิ้น จะมีโปรตีน 26 กรัม และมีเพียง 128 แคลอรี่เท่านั้น

อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ


4. ถั่วและพืชตระกูลถั่ว

เพราะถั่วเหล่านี้เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม ที่สามารถรับประทานเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อที่จะเสริมโปรตีนให้กับร่างกายได้ อีกทั้งยังมีเส้นใยจำนวนมากที่จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างราบรื่นอีกด้วย

อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ


5. ถั่วเหลืองหมัก

แม้ถั่วเหลืองหมักจะเป็นอาหารมังสวิรัติ แต่ทุกคนก็สามารถนำมาปรุงเพื่อรับประทานได้นะ ถั่วเหลืองครึ่งถ้วยจะมีโปรตีน 15.4 กรัม และเส้นใย 3.5 กรัม ถั่วมีประโยชน์แบบนี้แล้ว อย่าพลาดซื้อเก็บไว้ทานเล่นกันนะ

อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ

6. คอทเทจชีส

คอทเทจชีส เป็นเนยแข็งสด ที่เหมาะกับช่วงเวลาควบคุมน้ำหนัก ใน 1 ถ้วย มีโปรตีน 28 กรัม และมีปริมาณ 163 แคลอรี่ โดยรับประทานง่ายๆ จะทานแบบเปล่าๆ หรือจะเลือกเติมน้ำผึ้งและความหวานธรรมชาติจากผลไม้ ก็อร่อยแล้ว

อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ


7. กรีกโยเกิร์ต

กรีกโยเกิร์ต 1 ถ้วย มีโปรตีน 24 กรัม สามารถรับประทานได้ทั้งตอนเช้า ตอนกลางวัน หรือจะเป็นอาหารว่างระหว่างวันก็อยู่ท้องเหมือนกัน ถ้าเบื่อๆ ก็สลับรับประทานกับคอทเทจชีสได้นะ ก็อร่อยดีไปอีกแบบ

อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ


8. ถั่วและธัญพืช

ถั่วและธัญพืชอุดมไปด้วยโปรตีนและเป็นแหล่งไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ถั่วมีโปรตีน 4-7 กรัม โดยจะนำมาปรุงเพื่อรับประทานก็ได้ แต่เราแนะนำให้ทานสดๆ คลีนๆ หรือรับประทานพร้อมกับสลัดก็จะเฮลตี้มากๆ

อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ


9. ผักใบเขียว

เมื่อหั่นผักใบเขียวพวกคะน้า หรือบล็อคโคลี่ ในถ้วยตวง จะมีโปรตีนประมาณ 2-3 กรัม นอกจากนี้กะหล่ำปลีและผักโขม ยังเป็นผักใบเขียวที่มีโปรตีนสูงด้วยล่ะ

อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ


10. หน่อไม้ฝรั่ง

หน่อไม้ฝรั่ง เป็นผักเครื่องเขียงที่นิยมนำมาประกอบในจานอาหารมากมาย เพราะหน่อไม้ฝรั่ง 1 ถ้วย มีโปรตีน 2.9 กรัม และยังมีรสชาติที่เข้ากับทุกจานอาหารอีกด้วย

อาหารโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อ

นอกจากการรับประทานอาหารมื้อหลักจะเป็นสิ่งสำคัญแล้ว อาหารว่างระหว่างวันก็ควรเอาใจใส่เหมือนกันนะ เพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการอยากอาหาร และช่วยให้ >> ลดน้ำหนักให้ทันวันวิวาห์ด้วย 10 ของว่างมีคุณค่าแต่ไม่เพิ่มน้ำหนัก << ด้วยนะ

แปลและเรียบเรียงข้อมูลจาก Popsugar
ภาพจาก Pinterest

มารู้จักกับ “พานรับขันหมาก” กันเถอะ

งานแต่งงานแบบไทย ๆ เป็นพิธีการที่สวยงาม ละเอียดอ่อน  และเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย ทุกขั้นตอนล้วนมีเสน่ห์และแฝงไปด้วยความหมายในตัวเอง อย่างพิธีแห่และรับ ขันหมาก ที่สวยงามและเต็มไปด้วยพิธีรีตองนั้นก็เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ อย่างวันนี้ แพรว wedding จะพาคุณๆมารู้จักกับ “พานรับขันหมาก” หรือที่บางคนอาจเรียกพานเชิญขันหมากนั่นแหละค่ะ มาดูกันซิว่าพานนี้มีความสำคัญอย่างไร และจะปรากฏกายตอนไหนในช่วงของพิธีการกัน

  • ตามขั้นตอนงานแต่งที่ถูกต้องตามประเพณีไทยนั้น เมื่อขบวน ขันหมาก ของเจ้าบ่าวมาถึงเขตบ้านแล้ว ฝ่ายเจ้าสาวจะจัดพานใส่หมากพลู สำหรับรับขันหมาก เตรียมไว้ให้เฒ่าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าว ซึ่งอาจให้เด็กผู้หญิงแต่งตัวสวยงาม หรือญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว ถือพานออกไปรับ ก็ได้ เป็นการแสดงความยินดีและให้เกียรติเฒ่าแก่ฝ่ายชาย

ขันหมาก

  • เมื่อมีผู้นำพานรับขันหมากมามอบให้ เฒ่าแก่ฝ่ายชายจะหยิบหมากพลูที่จีบไว้เป็นคำ ๆ เคี้ยวกินหรือหยิบไว้ พอเป็นพิธี แล้วส่งพานคืนให้พร้อมกับของชำร่วยหรือซองใส่เงิน ผู้ที่ถือขันหมากต้องไปยืนอยู่นอกเขตบ้าน เพราะต่อไปจะมีการปิดกั้นประตูเงินประตูทอง  เมื่อรับพานคืนมาพร้อมของ รางวัลแล้วผู้ทำหน้าที่รับขันหมาก ก็จะนำขบวนขันหมากเข้าสู่เขตบ้าน

ขันหมาก

  • ในการรับขันหมากนั้น นอกจะให้เด็กยกพานรับขันหมากแล้ว ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวก็จะออกมาให้การต้อนรับด้วย เพื่อเจรจาต้อนรับเฒ่าแก่ของฝ่ายเจ้าบ่าว พูดคุยกันในเรื่องอันเป็นมงคลเกี่ยวกับ ฤกษ์งามยามดีในวันนี้ บางทีหน้าที่โต้ตอบ
  • ทั้งนี้การจัดขบวนขันหมากอาจใช้ผู้ที่มีความรู้ด้านนี้โดยเฉพาะคอยควบคุม เรียกว่า นายขันหมาก ส่วนเฒ่าแก่เป็นเพียงผู้ร่วมมาในขบวนขันหมากและเป็นผู้ทำพิธีในฐานะผู้ใหญ่ ของฝ่ายชาย นายขันหมาก บางทีเรียกว่า คนเอิ้น หรือผู้ขานขันหมาก มีหน้าที่บอกกับทางผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงว่า บัดนี้ขบวนขันหมาก ได้มาถึงบ้านของฝ่ายหญิงแล้ว

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีแต่งงานไทยเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

cr : หนังสือประเพณี พิธีมงคล วันสำคัญของไทย โดย กิตติ ธนิกุล, my.inlovephoto, sitphotograph

สคริปต์งานไทย 2 ภาษาจัดเต็มทั้ง เจรจา สู่ขอ นับสินสอด และสวมแหวน

สคริปต์งานไทย แบบ 2 ภาษาครบไม่มีตกหล่น

ว่าที่บ่าวสาวคนไหนที่อิมพอร์ตคุณว่าที่เจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวชาวต่างชาติมาทำพิธีแต่งงานแบบไทย คงต้องปวดหัวไม่น้อยเพราะไม่รู้จะพูดให้เขาและครอบครัวเข้าใจได้อย่างไรว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ แพรว wedding เลยขอทำหน้าที่ล่ามส่วนตัวให้ด้วย สคริปต์งานไทย แบบ 2 ภาษา ที่นอกจากจะช่วยบ้านเขาได้แล้ว บ้านเราก็รอดด้วยนะเออ เจรจาสู่ขอ นับสินสอด และสวมแหวนหมั้น

เจรจาสู่ขอ นับสินสอด และสวมแหวนหมั้น

• ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายและเจ้าบ่าวนั่งประจำที่ พร้อมด้วยพานขันหมาก พานสินสอด และพานแหวนหมั้น (ส่วนพานอื่นๆ ให้จัดเรียงตามจุดที่เตรียมไว้)
ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว : วันนี้นำอะไรมากับขบวนขันหมากบ้าง
ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว : (คลี่ผ้าห่อพานขันหมากออก) วันนี้นำสินสอดได้แก่… (ตามที่ตกลงไว้) มาเพื่อขอลูกสาวให้กับ… (ชื่อเจ้าบ่าว) ซึ่งเป็นบุตรของ… (ชื่อพ่อแม่ฝ่ายชาย) ขอท่านจงได้รับของหมั้นนี้ไว้ เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความสุขความเจริญของบุคคลทั้งสองสิ้นกาลนาน
• ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวส่งหมากพลูให้ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวเพื่อเป็นการทักทาย ซึ่งผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวต้องรับมาถือพอเป็นพิธี
• ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวนับสินสอดซึ่งสมัยนี้มักจะนับพอเป็นพิธี (หรือจะไม่นับก็ได้) พร้อมบอกว่า “มากมายเหลือเกิน คงนับกันไม่หวาดไม่ไหว” แล้วโปรยถั่ว งา ข้าวตอก ดอกไม้ลงบนสินสอด เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญงอกงาม
• รวบห่อสินสอดให้แม่เจ้าสาวแบกขึ้นบ่าด้วยท่าทางหนักอึ้งแล้วนำไปเก็บ
• เจ้าบ่าวไปรับตัวเจ้าสาวมายังจุดประกอบพิธี
• เมื่อถึงฤกษ์เจ้าบ่าวสวมแหวนหมั้นแก่เจ้าสาว

เพื่อเอาเคล็ด ฝ่ายชายจะต้องใส่เงินสินสอดมากกว่าที่ตกลงไว้เล็กน้อย เมื่อตอนนับขันหมาก เฒ่าแก่ฝ่ายเจ้าสาวอุทานออกมาว่า “เงินเกิน” เพื่อให้บ่าวสาวมีโชค ทำมาค้าขึ้น มีเงินทองงอกเงย และเมื่อตรวจนับ โปรยข้าวตอกดอกไม้เครื่องหอมลงในสินสอดเรียบร้อย

Negotiation, Dowry Count and Engagement Ring
              • The seniors from both sides sit in their positions, behind the Khan Maak tray, the dowry tray, and the engagement ring tray. (Other trays are arranged at designated spots.)
The senior on the bride’s side: What did you bring with the Khan Maak procession today?
The senior on the groom’s side: (Unwrapping the Khan Maak package) Today I brought the dowry, which is … to ask the bride to marry (the groom’s name).
              • The senior on the groom’s side hands over the betel tray to the bride’s senior as a way of greeting. The senior receives and holds them briefly.
              • The bride’s senior counts the dowry, only ceremonially. These days some do not have to count at all. After that, they will shower beans, sesame seeds, popped rice and flower petals on the dowry, as a symbol of prosperity.
              • The dowry pack then will be wrapped up for the bride’s mother to put on her shoulder, pretending it is a heavy package and then bringing it away.
              • The groom escorts the bride to the ceremony spot.
              • Once it reaches the auspicious time, the groom puts the engagement ring on the bride’s finger.

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิธีแต่งงานแบบไทยได้ตามนี้เลย >> แจกกันแบบสเต็ปบายสเต็ป กับขั้นตอนลำดับพิธีแต่งงานไทยฉบับสมบูรณ์ <<

แจกฟรีไม่มีหวง สคริปต์พิธีแห่ขันหมาก 2 ภาษาถูกใจเขยสะใภ้สายฝ. แน่นอน

แห่ขันหมาก 2 ภาษา แบบฝรั่งไม่งง แถมยังสนุกมากขึ้นด้วย

แค่เฉพาะสริปต์พิธี แห่ขันหมาก ของคนไทยด้วยกันเองก็ว่ายากแล้ว นี่ดันอิมพอร์ตเขย/ สะใภ้ชาวต่างชาติเข้ามาอีก งานนี้ไม่ว่าใครต่อใครก็ต้องมีงง แพรว wedding เลยจัดสคริปต์พิธีแห่ขันหมากเวอร์ชั่น 2 ภาษามาให้รับรองว่าความงงจะหายไป และได้ควาสนุกเข้ามาแทน แถมยังช่วยสร้างบรรยากาศให้แขกชาวต่างชาติได้คึกคักและมีส่วนร่วมไปด้วย

Many say that Thai-style wedding ceremonies are complicated, so Praew Wedding would like to give you a hand. Let this “Thai wedding guide” put the bride and the groom at ease. For the foreign grooms and their families, this English version of the guide will help them better understand the oriental rituals.

แห่ขันหมาก
• ฝ่ายเจ้าบ่าวตั้งขบวนขันหมาก โห่เอาฤกษ์เอาชัย แล้วเคลื่อนขบวนไปยังบ้านเจ้าสาว
The Khan Maak Procession
              • The groom’s entourage sets up the Khan Maak procession. The auspicious cheer marks the beginning of the parade, after which the party moves to the bride’s residence.

เชิญขันหมาก
• เมื่อขบวนขันหมากมาถึงหน้าบ้านเจ้าสาว โดยมีผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวและเด็กถือพานเชิญขันหมากรอต้อนรับและทักทายกับทางเฒ่าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าว ด้วยบทสนทนาดังนี้
                            ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว : สวัสดีค่ะ ขบวนขันหมากนี้คึกคักดีจัง วันนี้มาทำอะไรกัน เห็นมีข้าวของมากมาย
                            ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว : วันนี้ฤกษ์งามยามดีจะมาขอลูกสาวบ้านนี้ (พร้อมพูดชื่อเจ้าสาว…) ให้กับเจ้าบ่าว (พร้อมพูด                               ชื่อเจ้าบ่าว…) เพื่อมาเป็นสะใภ้บ้านเรา ไม่ทราบว่าจะยินดีต้อนรับหรือไม่
                            ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว : ยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ คู่นี้รักกันมานาน เหมาะสมกันทุกประการ ขอเชิญมาเป็นทองแผ่น                                 เดียวกัน และนี่คือพานเชิญขันหมากที่ทางเราเตรียมไว้ต้อนรับค่ะ
• เด็กเชิญขันหมากส่งพานเชิญขันหมากให้ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว พร้อมพูดว่า “สวัสดีค่ะ วันนี้วันดีฤกษ์ยามงามดี ขอเชิญขันหมากเข้าบ้านได้เลยค่ะ” (แต่ถ้าเด็กเชิญขันหมากยังเล็กเกินไปจนพูดเป็นประโยคไม่ได้ อนุโลมให้แค่ยื่นพานอย่างเดียวก็พอ) จากนั้นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวหยิบหมากพลูจากพานเชิญขันหมากมาถือพอเป็นพิธีแล้ววางคืนพร้อมให้ซองเงิน
• เคลื่อนขบวนขันหมากเข้าบ้านผ่านด่านประตูเงินประตูทองไปยังจุดประกอบพิธี ซึ่งในการจะผ่านด่านได้นั้นเจ้าบ่าวจะต้องให้ซองเงินเป็นการตอบแทนแก่ผู้กั้นประตูหรือปฏิบัติภารกิจตามที่ผู้กั้นประตูร้องขอ เช่น ตะโกนบอกรักเจ้าสาว วิดพื้น ร้องเพลง เป็นต้น

The Khan Maak Invitation
              • The procession arrives in front of the bride’s house. They are greeted by the senior middleman from the bridal party. Children will be standing by with the tray carrying a bowl of betel nuts.
                            The bride’s senior: What a lively procession! What brought you here today?
                            The groom’s senior: Today is a good day with auspicious time. We came to ask for the daughter of this house. Will you welcome us?
                            The bride’s senior: You are greatly welcome. Please come in.
              • The children hand over the tray to the groom’s senior, who will then pick the betel nuts and leaves from the tray to hold briefly before putting them down and giving the envelopes of money to the children.
              • The procession moves through the silver and gold “gates” to the wedding ceremony area. In order to pass the gates, the groom must give the envelopes of money to the gatekeepers or fulfill a challenge given by them, e.g. to shout out his love for the bride, to do push-ups or to sing a song.

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีแต่งงานไทยเพิ่มเติม คลิกเลย!

ภาษาอังกฤษโดย : ธัญญารัตน์ ดอกสน

โซเชียลมีเดียกับ 6 เทคนิคการกระชับพื้นที่ใจให้รักสดใสกว่าที่เคย

อย่างที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันเราสามารถติดต่อสื่อสารและรับทราบข้อมูลข่าวสารได้สะดวกรวดเร็วขึ้น  โดยเฉพาะการสื่อสารผ่าน โซเชียลมีเดีย ต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็น Line, Twitter, Facebook, Instagram  ฯลฯ  แต่ก็ทำให้เกิดผลเสียในวงกว้าง เมื่อการใช้โซเชียลมีเดียเหล่านี้ทำให้คนรัก  คนในครอบครัว  พ่อแม่ลูกหันมาพูดคุยกันน้อยลง  เพราะต่างคนต่างก้มหน้าจิ้มแต่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง

รักยังหวานและสดใส ด้วยเทคนิคการใช้ โซเชียลมีเดีย ในชีวิตประจำวัน

Photo by Cristian Dina from Pexels

หากเรากลับมานั่งทบทวนกันให้ถ้วนถี่จัดสรรพื้นที่และเวลาให้ดีๆ แล้ว  เราก็สามารถใช้โซเชียลมีเดียที่หลายคนมองว่าเป็นของแสลงนี่แหละค่ะเป็นตัวกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ยิ่งอบอุ่น  แน่นแฟ้น  หวานชื่น  ขึ้นมาอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าสัญญาณ 4G ซะอีก ว่าแต่จะทำอย่างไรได้บ้างนั้นเรารวบรวมมาให้ที่นี่แล้วค่ะ แต่อย่างไรซะก็ต้องยึดสายกลางเข้าไว้ ไม่มากเกินไปเพราะอาจจะกลายเป็นดาบสองคมขึ้นมานะคะ

1. สร้างข้อตกลงที่ชัดเจน

คุณควรจะพูดคุยถึงความต้องการหรือความจำเป็นของแต่ละคน  แล้วกำหนดกฎเกณฑ์การใช้โซเชียลมีเดียในช่วงเวลาที่ชัดเจนว่าตอนไหนใช้ได้ และตอนไหนไม่ควรใช้ เช่น ไม่ควรใช้ตอนทานข้าว เมื่ออยู่บนเตียงพร้อมนอน หรือเมื่ออยู่กับครอบครัว เพื่อให้ต่างคนต่างไม่อึดอัดจนเกินไป  ในขณะเดียวกันก็มีเวลาได้พูดคุยกันมากขึ้น  และใช้เวลาด้วยกันได้อย่างเต็มที่

2. เคารพกติกาและข้อตกลงระหว่างกัน

แน่นอนค่ะว่าสังคมไหนๆ ก็ต้องการกติกา  หากคุณวางข้อตกลงต่อกันไว้อย่างไรก็ควรจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด  การทำบ้างไม่ทำบ้างแสดงให้เห็นถึงความไม่จริงจัง  ไม่ให้เกียรติ  แล้วยังทำให้หมดความน่าเชื่อถือ  ไม่น่าเชื่อใจ  ส่งผลให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันตามมาอีก

Photo by Afif Kusuma on Unsplash

3. ส่งข้อความหากันเป็นกิจวัตร

เช่น  สวัสดีตอนเช้า ฝันดี ทานข้าวรึยัง หรือวันนี้ทำงานเหนื่อยไหม ฯลฯ  ข้อความเหล่านี้อาจจะดูเป็นข้อความธรรมดาๆ  แต่เชื่อได้ว่ามีใครหลายต่อหลายคนที่ไม่กล้าจะพูดกันซึ่งๆ หน้า  ไม่ใช่เฉพาะในฐานะคนรักเท่านั้น  ข้อความเหล่านี้เป็นกำลังใจที่ดีอย่างเหลือเชื่อสำหรับคนในครอบครัวทุกคน  ซึ่งเป็นช่องทางที่แสดงออกถึงความรักความห่วงใยได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ

4. ส่งภาพถ่ายหรือวีดีโอ

ถึงกันเพื่อแสดงว่าให้รู้ว่า  เราอยากให้เขามีส่วนร่วมรับรู้ในสิ่งที่เราทำ ให้ความสำคัญและนึกถึง  เช่น   เวลาออกไปทำงานนอกสถานที่   หรือ นัดสังสรรค์กับเพื่อนๆ เมื่อเขาไม่ได้ไปด้วย  สำหรับคนรักก็คงเรียกง่ายๆ ว่ารายงานตัวนั่นแหละค่ะ

Photo by Ketut Subiyanto from Pexels

5. วีดีโอคอล หรือเฟซไทม์หากัน

คุยข้ามประเทศก็ไม่เสียเงิน  เพราะฉะนั้นลองใช้เครื่องมือเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์กันดีกว่านะคะ  ลองเลยไม่ว่าจะอยู่ห่างกันที่ไหน  ต้องไปทำงานต่างจังหวัด หรือที่ไกลๆแคไหน ก็ใช้เทคโนโลยีที่ว่านี้ช่วยย่นระยะทางได้  ถึงห่างไกลแต่เราไม่ห่างกันนะคะ

6. ใช้ง้อ

เวลาโกรธกันบางครั้งแค่เห็นหน้าก็อยากเดินหนีไม่อยากรับฟังอะไรแล้ว  หรือพูดกันไม่กี่คำก็พาลจะวงแตกเอา โซเชียลมีเดียจึงเป็นอีกช่องทางที่เราสามารถใช้แสดงความรู้สึกนึกคิดในเวลาที่ไม่เข้าใจกัน  จนไม่สามารถจะพูดคุยกันได้ในบางสถานการณ์ต่อหน้าได้  เพราะเราสามารถไตร่ตรองเรียบเรียงสิ่งที่ต้องการถ่ายทอดก่อนจะส่ง  ส่วนคนรับข้อความก็มีเวลาที่จะเลือกรับฟังเมื่อพร้อม  อ่านซ้ำ ฟังซ้ำได้  เพื่อให้เวลาตัวเองได้ทบทวนได้อีกนะคะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ และการใช้ชีวิตคู่เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย <<

cr : livestrong.com, healthandtrend.com

“Post Wedding Blues” ซึมเศร้า หลังแต่งงาน เรื่องซีเรียสที่เจ้าสาวต้องรู้

รู้หรือไม่ว่าอาการ ซึมเศร้า หลังแต่งงาน มีอยู่จริง และสามารถบ่อนทำลายสุขภาพร่างกายและจิตใจของคู่แต่งงานใหม่ได้มากกว่าที่คุณคิด รู้ไว้ก่อนเพื่อป้องกันแต่เนิ่นๆดีกว่า

Post Wedding Blues ซึมเศร้า หลังแต่งงาน บ่าวสาวควรรู้และเตรียมรับมือ

ห๊ะ? อะไรนะ? มีอาการอะไรแบบนี้ด้วยหรือเนี่ย? …ใช่ค่ะ เราบอกเลยว่าอาการ ซึมเศร้า หลังแต่งงาน เป็นอาการที่มีอยู่จริง มีคนมากมายต้องตกอยู่ในสภาวะนี้จริงๆ เหมือนอาการซึมเศร้าหลังคลอด อาจจะเป็นอะไรที่ว่าที่เจ้าสาวส่วนใหญ่คาดไม่ถึงและอาจจะยังไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่เราแนะนำว่าเรื่องแบบนี้รู้ไว้ดีกว่าแก้ เราก็เลยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าอาการซึมเศร้าหลังแต่งงานนี้มาให้เหล่าว่าที่เจ้าสาวลองศึกษาดูและป้องกันตัวเองแต่เนิ่นๆ เพื่อชีวิตคู่ที่แข็งแรงหลังแต่งงานค่ะ

ซึมเศร้า
Photo by IG @avamariaphoto

อาการซึมเศร้าหลังแต่งงานเกิดจากอะไร

อาการนี้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า post wedding blues ซึ่งสาเหตุนั้นหลากหลายมากมายและแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่รวมๆ แล้วเกิดจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์อย่างเฉียบพลันของเจ้าสาว ทั้งช่วงก่อนงานแต่งงานและหลังงานแต่งงาน คิดดูสิคะช่วงเตรียมงานแต่ง เราตื่นเต้นและรู้สึกกระฉับกระเฉงเพราะทุกเรื่องเป็นเรื่องใหม่และเป็นครั้งแรกของเรา ช่วงเวลานั้นผู้คนมากมายจะมาห้อมล้อมเพื่อแสดงความยินดี เป็นช่วงเวลาที่เพื่อนๆ ที่เรารัก และญาติๆ ที่ไม่ได้เจอกันมานานมาพบปะกัน เต็มเปี่ยมด้วยความสุขเหลือล้น แต่แล้วจู่ๆ หลังงานแต่งงานเสร็จสิ้นไปสิ่งเหล่านี้หายไปจากชีวิตภายในวันเดียว หลายคนต้องย้ายออกจากอ้อมอกคุณพ่อคุณแม่ไปอยู่บ้านสามีเป็นครั้งแรก ยิ่งถ้าหากคุณทั้งสองไม่เคยอยู่ด้วยกันมาก่อน การอยู่ด้วยกันครั้งแรกอาจจะนำพาประสบการณ์ไม่คาดฝันหลายๆ เรื่องให้คุณผู้หญิงต้องเซอร์ไพรส์ในทางที่ไม่ดี การเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันนี่เองเป็นสาเหตุหลักของการซึมเศร้าหลังแต่งงานค่ะ

อาการที่บ่งบอกว่าเราตกอยู่ในภาวะ ซึมเศร้าหลังแต่งงาน

  • รู้สึกเบื่อไปหมด ไม่เอนจอยแม้กระทั่งกิจกรรมที่เราเคยชอบ
  • ไม่อยากพบเจอผู้คน อยากปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียว
  • หรืออารมณ์ฉุนเฉียวง่าย ชวนทะเลาะ หงุดหงิดบ่อยๆ
  • นอนมากเกินไป หรือนอนไม่หลับเลย
  • กินน้อยลง หรือกินมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ซึมเศร้า
Photo by Kayla Coleman Photography

วิธีจัดการกับอาการซึมเศร้าหลังแต่งงาน

1. ก่อนอื่น ทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลง

เริ่มตั้งแต่ก่อนวันแต่งงานเลยค่ะ เราต้องเข้าใจว่า วันแต่งงานเป็นแค่พิธีการที่จะเริ่มต้นพาเราเข้าสู่ ชีวิตคู่ แทนที่จะสนใจเพียงแต่การจัดงานให้เพอร์เฟ็คสมใจ อย่าลืมคิดถึงว่าหลังวันแต่งงานแล้วเราวางแผนชีวิตตัวเองยังไงด้วยนะคะ และจะยิ่งดีหากคุณแชร์การวางแผนนี้ร่วมกับคู่รักของคุณ ลองหาแผนการใหม่ๆ หลังแต่งงานให้ชีวิตมีเป้าหมายตลอดเวลา เช่น แพลนซื้อบ้านใหม่ แพลนทริปไปเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น

2. ไม่อายที่จะขอคำปรึกษาจากแพทย์

หากรู้สึกว่าอาการที่เป็นอยู่ของเราเริ่มควบคุมไม่ได้ หรือเริ่มส่งผลกระทบกับชีวิตด้านอื่นๆ เช่น การทำงาน อย่าอายที่จะเดินไปขอนัดพบจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่าคิดว่าการไปพบจิตแพทย์แล้วใครจะมองว่าเราเป็นบ้าหรือมีความผิดปกติทางจิต เพราะที่จริงแล้วจิตแพทย์สามารถช่วยให้คำแนะนำเพื่อลดความเครียดและปรับแก้อาการที่เป็นสภาวะชั่วคราวเหล่านี้ได้ด้วยเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม ยิ่งปล่อยให้ตัวเองเครียดนานเท่าไร การเข้าไปพบจิตแพทย์ก็จะยิ่งทำให้ต้องใช้เวลาในการรักษานานกว่าเดิมด้วยค่ะ

3. ปรับตัวเข้าหาคู่รักของคุณ

เพราะชีวิตคู่ไม่ได้ประกอบด้วยคนๆ เดียว จริงไหมคะ? ลองเปิดใจคุยกับคู่รักของเราเกี่ยวกับอาการที่เราเป็นอยู่เพื่อหาทางแก้ไขร่วมกัน บอกเล่าอย่างเปิดใจถึงปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์หรือความยากลำบากในการต้องเผชิญกับสิ่งใหม่ๆ (เช่น บ้านใหม่ ครอบครัวใหม่ การย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันครั้งแรก) โดยโฟกัสที่การร่วมกันแก้ปัญหา ไม่ใช่การชวนทะเลาะหรือการเรียกร้องให้เขาปรับตัวเข้ามาหาเราแต่ฝ่ายเดียวค่ะ

4. หาโอกาสออกไปพบปะเพื่อนๆ และครอบครัว

คู่รักส่วนใหญ่ที่เริ่มอยู่ด้วยกันใหม่ๆ อาจจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดจนบางทีเหมือนใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากเกินไป แต่เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับชีวิตคู่ต่างก็แนะนำว่าคู่รักควรจะมีเวลาส่วนตัวที่ห่างจากกันและกันบ้าง ซึ่งกลับจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของเราแข็งแกร่งขึ้นด้วย ใน 1 อาทิตย์ ลองหาเวลาซัก 1-2 วัน ที่เราจะออกไปทานข้าวกับกลุ่มเพื่อนเก่า หรือกลับบ้านไปหาครอบครัวบ้าง จะช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดีค่ะ

ซึมเศร้า
Photographer: Peyton Rainey

สุดท้ายนี้ อยากให้ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายคำนึงถึงคนข้างๆของเราให้มากๆเข้าไว้นะคะ อย่าใส่ใจกับความต้องการของเราอย่างเดียวจนลืมดูแลความสัมพันธ์ของเราล่ะ อะไรที่ปรับเข้าหากันได้คนละครึ่งทางก็ลองปรับเข้าหากันดู เพื่อชีวิตคู่ที่ยั่งยืนของคุณและคู่รักค่ะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

credit story: theknot.com , vogue.com

เตรียมการให้ดี 4 ข้อควรระวังในงานแต่งที่บ่าวสาวต้องจดไว้

ในงานแต่งงานใครๆ ก็อยากให้ทุกอย่างออกมาเป๊ะไม่มีจุดผิดพลาด แต่ก็อาจมีเหตุไม่คาดฝันในงานแต่งงานเกิดขึ้นได้ แพรว wedding เลยมาเตือน 4 ข้อควรระวังในงานแต่ง โดยงานนี้คุณตั้ม จาก Marisa the Planner and Organizer จะมาช่วยเตือนให้ว่าที่บ่าวสาวได้ฟังว่า 4 เรื่องที่ว่านี้มีอะไรบ้าง

1. พูดยาวไป

ช่วงเช้าเป็นช่วงที่พิธีกรรมต่างๆ เยอะมากมายจึงต้องมีเจ้าพิธีที่คอยดูแลงานให้เป็นตามขั้นตอน ซึ่งก็มักดำเนินงานไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่!!! เจ้าพิธีก็ไม่สามารถควบคุมสิ่งหนึ่งได้ นั่นก็คือ เฒ่าแก่และญาติผู้ใหญ่ของบ่าวสาว หลายๆ ครั้งเฒ่าแก่หรือญาติผู้ใหญ่ของบ่าวสาวที่ต้องพูดในช่วงสู่ขอ อาจพูดเกินเลยไปนอกเรื่องนอกราว แถมนอกบทนอกสคริปต์ที่จัดเตรียมไว้ จนทำให้เสียฤกษ์แถมพิธียืดเยื้อออกไปอีก

ทางแก้ ในกรณีที่เป็นเฒ่าแก่อาจให้พิธีกรหาจังหวะตัดบท แต่ถ้าในกรณีที่เป็นญาติผู้ใหญ่ของบ่าวสาว ก็อาจจะต้องให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยสะกิดท่านนิดหนึ่งว่า อ่า…..ถึงเวลาอันสมควรแล้วนะ อะไรแบบนี้ แต่ถ้าบ่าวสาวยังนึกไม่ออกว่าถ้าอย่างนั้นควรพูดยังไงแค่ไหน เราก็มีบทสู่ขอ (ลิงค์) ให้บ่าวสาวสามารถนำไปให้เฒ่าแก่และญาติผู้ใหญ่ใช้ได้เลย

2. จับกบกลางงาน

ชุดสวยๆ ของเจ้าสาวที่มีชายยาวระพื้นอาจทำให้หน้าแตกกลางงานได้เพราะเดินๆ ไปก็ล้ม เดินๆ ไปก็เหยียบชายกระโปรงตัวเองหรือบางทีก็มีคนอื่นมาเหยียบจนล้มลงไปจับกบอายแขกเหรื่อนับร้อยที่อยู่ในงาน แถมทำให้ชุดเสียหายอีกต่างหาก

ทางแก้ : รับชุดมาแล้วก็ซ้อมเดินกับรองเท้าคู่จริงเสียก่อนจะได้คล่อง ถ้าเหยียบชายกระโปรงตรงไหนก็ให้สอยง่ายๆ เก็บขึ้นไป  หรือจะหาคนมาช่วยมาช่วยจับ ช่วยยกชายกระโปรงสิค่ะ ช่วยได้เยอะเลย

3. อกใหญ่เรื่องเล็ก อกเล็กเกาะอกหลุด….เป็นเรื่อง

เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เกิดจากชุดแต่งงานที่ถ้าพลาดไปเนี่ย ยิ่งกว่าอายเป็นล้านเท่า สำหรับสาวที่เลือกชุดแต่งงานแบบเกาะอก อาจต้องเผชิญปัญหาเกาะอกเลื่อนลงไม่ใช่เพราะอกเล็กๆ อย่างเดียว แต่น้ำหนักของชุดก็มีส่วน

ทางแก้ :  ต้องให้คนใกล้ชิดคอยสังเกตยามเลื่อนลง และบังสายตาคนอื่นยามเจ้าสาวดึงเกาะอกขึ้น และตอนลองชุดต้องมั่นใจว่าชุดรัดแน่นแล้ว และมั่นใจขึ้นอีกชั้นด้วยการใส่เกาะอกซับในไว้อีกรอบ

4. สัญญาเป็นมั่นเหมาะ

เป็นเรื่องการของยืนยันวันในกรณีที่บ่าวสาวได้ทำการเจรจาตกลงกับกลุ่มเพื่อนให้ทำอะไรให้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งต่างๆ ในงานแต่ง หรือโชว์ที่กลุ่มเพื่อนบอกว่าจะทำในงานแต่ง แต่ไม่มีการเตือนกัน จนลืมทำไม่ทัน

ทางแก้ : บ่าวสาวต้องไม่ลืมคอนเฟิร์มวันและย้ำเตือนกับเพื่อนของตัวเองว่างานแต่งฉันแล้วนะ ที่เธอรับปากจะทำไปถึงไหนแล้ว ไม่งั้นลำดับพิธีที่เตรียมไว้ล่มแย่

นี่ละคะ 4 ข้อที่คุณตั้ม แพลนเนอร์มืออาชีพบอกกับเราว่าเป็นข้อผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นในงานแต่ง ซึ่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องพึงระวังเอาให้ดีเลยทีเดียว

ติดตามไอเดียและคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ขอบคุณข้อมูลจาก คุณตั้ม Marisa Planner
ภาพเปิด : www.walldevil.com

พิธีเปิดเตียบ อีกหนึ่งประเพณีงานแต่งไทยที่หลายคนอาจไม่เคยรู้

ขึ้นชื่อว่าประเพณี ก็มักจะเป็นอะไรที่ผู้เฒ่าผู้แก่ผู้ใหญ่ท่านยึดถือปฏิบัติต่อๆ กันมา บางอย่างก็ยังคงอยู่ บางอย่างก็ถูกประยุกต์ หรือบางอย่างก็อาจจะสูญหายไปตามกาลเวลา อย่างเช่น พิธีเปิดเตียบ ที่น้อยคนนักจะรู้จัก แพรว wedding เลยขอเปิดตัวเปิดเตียบงานแต่ง ให้ว่าที่บ่าวสาวได้ทำความรู้จักกับพิธีนี้ให้มากขึ้น

เมื่อขบวนขันหมากเข้ามาในบ้านพร้อมแล้ว ทางฝ่ายเจ้าสาวจะต้องจัดชาย-หญิง 2 คู่ที่เป็นสามีภรรยากันโดยการแต่งงานมาทำพิธีเปิดเตียบ โดยให้คนที่ยกเตียบฝ่ายเจ้าบ่าวอุ้มส่งให้ผู้เปิดเตียบหญิงทั้ง 2 คน เมื่อวางลงกับพื้น ให้เปิดผ้าคลุมออก แล้วเอาแป้งหอม น้ำมันหอม และกระแจะประพรมสิ่งของในเตียบทั้ง 4 อย่าง แล้วยกเตียบส่งให้สามีของตนรับไว้ แล้วนำเข้าไปในห้องของพ่อแม่เจ้าสาว ก่อนจะยกอีก 2 เตียบที่เหลือตามเข้าไป

จากนั้นผู้เปิดเตียบจะต้องนำผ้าขาวกว้าง 4 ศอก ยาว 4 ศอกปูที่พื้น แล้วยกเตียบทั้ง 4 และสำรับผ้าไหว้วางไว้กลางผ้า จุดธูปเทียนคู่ ดอกไม้สด 2 ช่อ เพื่อบูชาเทวดา ผีบ้านผีเรือน และปู่ย่าตายายที่ล่วงลับให้ปกป้องคุ้มครอง เฒ่าแก่แต่ละฝ่ายจะจูงมือเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเข้าไปในห้อง เมื่อนั่งลงกับพื้น เฒ่าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าวจะจับมือขวาเจ้าบ่าวประสานกับมือซ้ายของเจ้าสาว แล้วยกมือของทั้งคู่ขึ้นเหนือศีรษะเจ้าบ่าวแล้วค่อยยกไปเหนือศีรษะเจ้าสาว แล้วให้ก้มลงกราบที่พื้น ก่อนจะมาไหว้พ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาว เป็นอันสิ้นสุดพิธีเปิดเตียบ อันเป็นพิธีที่ถือว่าบ่าวสาวได้เป็นสามีภรรยากันโดยถูกต้อง เพราะได้รับการอนุญาตจากบรรพบุรุษผู้ล่วงลับเรียบร้อยแล้ว

หลังเปิดเตียบ จะมีการนำขันทุนของเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวออกมาตรวจสอบว่าเท่ากัน แล้วนำเงินทุนทั้งคู่มาวางลงบนผ้าขาว นำกระแจกแป้งหอมมาประพรม แล้วนำถั่วงาถุงต่างๆ ในขันหมากมาคลุกเคล้าให้ทั่วเงินทุน เฒ่าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าวคลุกเวียนขวาไปซ้าย ส่วนเฒ่าแก่ฝ่ายเจ้าสาวคลุกเวียนซ้ายไปขวา ตามความเชื่อว่า เงินทุนนี้เมื่อนำไปลงทุนแลกเปลี่ยนจะมีกำไรงอกงาม ส่วนสินสอดและของในขันหมาก เมื่อตรวจนับ ประพรมด้วยของหอม แล้วนำออกจากภาชนะแล้ว ห้ามนำภาชนะซ้อนกัน และห้ามเด็กสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานกินขนมขันหมาก เพราะเชื่อว่าจะเป็นหม้ายขันหมากในอนาคต

>> หากอยากรู้ว่า เตียบงานแต่ง นั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง คลิกเลย! <<

สถานการณ์ที่คู่รักต้องรับมือแต่งงานช่วง COVID 19 ว่าที่บ่าวสาวจะไปต่อหรือรอก่อน!?

แต่งงานช่วง COVID 19 ไปต่อหรือรอก่อน!!

ด้วยสภาวะการณ์แบบนี้อาจทำเอาหลายคู่ที่กำลังจะแต่งงานถึงกับช็อกทำอะไรไม่ถูกหากต้อง แต่งงานช่วง COVID 19 บางคู่อาจได้ฤกษ์ดีมาเลยไม่อยากเลื่อนงานแต่งออกไป เพราะกว่าจะได้ฤกษ์ดีฤกษ์ใหม่ก็อาจต้องรอนานอีกเป็นปี แต่ถ้าดันทุรังจะจัดต่อก็ต้องพร้อมรับมือกับความเสี่ยงหลายๆ อย่างที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็น เสี่ยงต่อการติดโรค และเสี่ยงต่อการที่จะไม่มีแขกกล้ามาร่วมงาน แถมการเดินทางข้ามพื้นที่ยังมีความลำบาก เอาเป็นว่าแทนที่ว่าที่บ่าวสาวจะตื่นตระหนกไปกับเหตุการณ์โรคระบาดและงานแต่งงานของตัวเอง แพรวเวดดิ้งขอให้รวบรวมสติแล้วมาวางแผนกันใหม่ดีกว่าว่าเราจะรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไง และมีวิธีไหนที่จะช่วยบรรเทาความเครียดและความวิตกกังวลนี้ลงได้บ้าง แล้วจะมีวิธีการอย่างไรที่จะทำให้งานแต่งงานครั้งนี้อาจไม่ต้องเลื่อน!

1. ว่าที่บ่าวสาวต้องหยุดการดำเนินการใดๆ ก่อน

หากกำหนดการงานแต่งงานของว่าที่บ่าวสาวจะเริ่มต้นในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า เราขอให้คุณหยุดการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานของคุณลงก่อน ไม่ว่าจะเป็น การพิมพ์การ์ดแต่งงาน ของชำร่วย แล้วรีบปรึกษากับผู้จัดงาน เวดดิ้งแพลนเนอร์ โดยเฉพาะสถานที่จัดงานแต่งงาน หรือโรงแรมที่บ่าวสาวจะจัดงานแต่ง เพื่อหารือกันว่าจะเลื่อนหรือยกเลิกไปก่อน

ซึ่งถ้าหากเป็นการเลื่อนงานแต่งงานออกไปแต่ยังใช้เป็นสถานที่เดิม ว่าที่บ่าวสาวต้องสอบถามถึงกำหนดการใหม่ว่าสถานที่ว่างวันไหนบ้าง เพราะอย่าลืมว่าอาจจะไม่ใช่แค่คู่คุณคู่เดียวที่จะเลื่อนงานแต่งงานและเปลี่ยนวันจัดงานใหม่

และหากว่าที่บ่าวสาวพิมพ์การ์ดเชิญและสั่งทำของชำร่วยไปแล้วก็ไม่ต้องตกใจว่าต้องทิ้งแล้วต้องสั่งทำใหม่ทั้งหมด ตราบใดที่ยังไม่ได้ร่อนการ์ดแต่งงาน แพรวเวดดิ้งขอแนะนำให้ทำสติ๊กเกอร์วันจัดงานใหม่แปะทับวันเดิมไปเลย ถึงจะดูไม่สวยงามเท่าไหร่ แต่ก็ประหยัดงบได้นะคะ

2. ว่าที่บ่าวสาวต้องแจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องในงานแต่งงานให้ทราบ

หากว่าที่บ่าวสาวตัดสินใจเลื่อนการจัดงานแต่งงานออกไป และได้วันแต่งงานใหม่พร้อมสถานที่เป็นที่เรียบร้อย อย่าลืมแจ้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในงานแต่งงานของคุณทุกฝ่าย เพื่อแจ้งการเลื่อนหรือยกเลิกไปก่อน แล้วค่อยทำการนัดหมายใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ช่างภาพ ช่างวิดีโอ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม แคเทอริ่ง วงดนตรี ฯลฯ โดยเฉพาะหากคู่ไหนจ้างช่างภาพ ช่างแต่งหน้า และช่างผมชื่อดังที่จองคิวยากยิ่งต้องรีบแจ้งกำหนดการใหม่ด่วนๆ (หากมี)

เรื่องชุดแต่งงานก็เป็นเรื่องที่ว่าที่บ่าวสาวไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าหากคุณมีแผนที่จะเลื่อนงานแต่งงานออกไปช่างอาจจะต้องนัดให้ว่าที่บ่าวสาวไปฟิตติ้งใหม่อีกครั้งเพื่อความพอดีของชุด ฉะนั้นว่าที่บ่าวสาวควรแจ้งกำหนดการใหม่ให้ทางร้านได้ทราบไว้ด้วย

3. ว่าที่บ่าวสาวต้องดูเอกสารการเซ็นสัญญาการจ่ายเงินใหม่

ในกรณีที่ว่าที่บ่าวสาวต้องเลื่อนกำหนดการจัดงานแต่งงานออกไป สิ่งสำคัญที่สุดคือการเซ็นสัญญากับผู้ที่มีความเกี่ยวข้องใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สถานที่จัดงานหรือโรงแรม เวดดิ้งแพลนเนอร์ แคเทอริ่ง ช่างภาพและช่างวิดีโอ ร้านชุดแต่งงาน ฯลฯ หรือผู้ที่มีความเกี่ยวข้องอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ที่ว่าที่บ่าวสาวได้เซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรเอาไว้ เพื่อแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อมูลจากสัญญาเดิม หรือการรับประกันเรื่องอื่นๆ เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันของทั้งสองฝ่าย โดยจะต้องลงข้อมูลอย่างละเอียดถึงสาเหตุการเลื่อน กำหนดการใหม่ และจำนวนเงินมัดจำที่จ่ายไปแล้ว รวมถึงจำนวนเงินที่ยังคงเหลือจ่ายว่าจะมีการเลื่อนกำหนดจ่ายจากวันเดิมออกไปหรือไม่ หรือต้องจ่ายค่าปรับตามสัญญาอย่างไรบ้าง อย่าลืมอ่านให้ละเอียดก่อนเซ็นใหม่กันด้วยนะคะ

4. ว่าที่บ่าวสาวอย่าลืมแจ้งให้แขกทราบ

หากว่าที่บ่าวสาวตกลงกันอย่างชัดเจนแล้วว่าจะเลื่อนงานแต่งงานออกไป อย่าลืมแจ้งให้แขกทุกคนที่บ่าวสาวเชิญให้มาร่วมงานได้ทราบ โดยเฉพาะแขกที่อาจจะต้องเดินทางมาจากพื้นที่อื่นที่จองห้องพักเอาไว้เพื่อมาร่วมงานแต่งงานของคุณเพื่อที่แขกจะได้มีเวลาในการจัดการยกเลิกแผนการเดินทางและห้องพักที่จองไว้ และอย่าลืมแจ้งกำหนดการใหม่และสถานที่ให้แขกได้ทราบด้วย งานนี้ทั้งเจ้าบ่าว เจ้าสาว ครอบครัวของทั้งสองฝ่าย และบรรดาเพื่อนๆ อาจจะต้องช่วยกันกระจายข่าวกันหน่อยนะจ๊ะ ไม่ว่าจะด้วย การประกาศผ่านหน้าเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม การยกหูโทรหา หรือวิธีใดๆ ก็ตามที่จะทำให้แขกทราบการเปลี่ยนกำหนดการวันแต่งงานได้เร็วที่สุด

5. ว่าที่บ่าวสาวที่ตัดสินใจจะจัดงานแต่งงานต่อ!

หากว่าที่บ่าวสาวมีความจำเป็นต้องจัดงานแต่งงานจริงๆ และวางแผนไว้ว่าจะมีทั้งงานหมั้นและงานฉลองมงคลสมรส และสถานที่จัดงานหรือโรงแรมไม่มีปัญหาใดๆ งานนี้ว่าที่บ่าวสาวและครอบครัวของทั้งสองฝ่ายอาจจะต้องมานั่งคุยกันอย่างจริงจังถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงาน เช่น ลดขนาดของสถานที่จัดงานแต่งงาน และงดการจัดอาฟเตอร์ปาร์ตี้เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค

โดยเฉพาะการลดจำนวนแขกให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งแขกที่มาร่วมงานจะต้องเป็นแขกที่มีความสำคัญจริงๆ เท่านั้น และว่าที่บ่าวสาวจะต้องเตรียมความพร้อมในการจัดงานให้ดี ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ

  • การคัดกรองแขกที่จะมาร่วมงานว่าเคยไปพื้นเสี่ยงหรือไม่
  • มีการวัดไข้ของผู้ที่จะเข้างาน
    ** หากแขกคนใดเคยไปยังพื้นที่เสี่ยง และมีไข้เกินที่กำหนด ว่าที่บ่าวสาวอาจจะต้องขออนุญาตให้แขกคนนั้นงดเข้างาน
  • มีจุดแอลกอฮอล์ล้างมือไว้ตามที่ต่างๆ
  • ดูแลความสะอาดของอาหารและเครื่องดื่มที่จะเตรียมให้แขก
  • จัดให้มีการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนวันแต่งงาน
  • การรักษาระยะห่าง Social distancing

แต่หากตัดใครไม่ลงแพรวเวดดิ้งขอให้ลองพิจารณาเลื่อนงานแต่งงานออกไปก่อนจะดีที่สุดนะคะ

ส่วนคู่ไหนที่ต้องเดินทางไปจัดงานแต่งงานที่ต่างจังหวัดอาจจะต้องมีความจำเป็นในการเลื่อนงานแต่งงานออกไปก่อนแทนที่จะดื้อรั้นยืนยันจัดงานแต่งงานต่อไปนะคะ แพรวเวดดิ้งทราบว่าเป็นเรื่องยากที่หลายคู่จะต้องรับมือ และยากที่จะคาดการณ์ว่าจะอีกนานเท่าไหร่สถานการณ์ถึงจะเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของทั้งตัวบ่าวสาวและแขกที่จะมาร่วมงานด้วย

สุดท้ายนี้แพรวเวดดิ้งขอให้ว่าที่บ่าวสาวทำใจให้ดี รักษาสุขภาพ และคิดบวกเข้าไว้นะคะ อดทนอีกนิด รักษาสุขภาพให้แข็งแรงเมื่อสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายเมื่อไหร่จะได้มีแรงกำลังมาลุยจัดงานแต่งงานกันได้อย่างเต็มที่ แพรวเวดดิ้งขอเป็นกำลังใจให้ทุกคู่รักนะคะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการวางแผนจัดงานแต่งงานและดูไอเดียงานแต่งเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ข้าวของอะไรบ้างที่ว่าที่สะใภ้จีนต้องเตรียมไว้ห้ามขาดในพิธีแต่งงานจีน

พิธีแต่งงานจีน เป็นอีกหนึ่งพิธีแต่งงานที่มีความยุ่งขิงไม่แพ้พิธีแต่งงานไทย แถมยังมีการแต่งเข้าบ้านสามีคล้ายๆ กับธรรมเนียมไทยอีกด้วย แต่อาจจะมีรายละเอียดมากกว่าตรงที่ว่า สะใภ้จีนจะไม่สามารถเดินตัวเปล่าเข้าบ้านได้แบบชิลๆ นะจ๊ะ เพราะใน พิธีแต่งงานจีน เจ้าสาวจะต้องเตรียมข้าวของตามธรรมเนียนติดตัวเข้าไปด้วย ส่วนจะต้องเตรียมอะไรบ้างนั้น ไปดูกัน

1. กล่องใส่ของหรือเซฟสีแดง ตามธรรมเนียมจีน เจ้าสาวจะต้องเตรียม ‘สินเดิม’ หรือสิ่งของติดตัวตามฐานะเข้าบ้านสามีด้วย ซึ่งต้องเก็บไว้ในกล่องหรือเซฟสีแดง เช่น เครื่องประดับที่เป็นมรดกตกทอดหรือของขวัญจากพ่อแม่ พร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่เพื่อใส่ในบ้านใหม่ที่เจ้าสาวจะเข้าไปอยู่ (หรือก็คือบ้านสามีนั่นแหละ)

พิธีแต่งงานจีน

2. ของใช้สำหรับเจ้าสาว ที่ต้องเป็นของใหม่เอี่ยมสีแดงหรือสีชมพูติดตัวเข้าไปด้วยอย่างละคู่ ไม่ว่าจะเป็น ถังน้ำ, กะละมัง, กระโถน, กระจก, กรรไกรตัดผ้า, ไม้วัด, เข็ม, ด้าย, ถาดใส่ของ, หมอนหนุนและหมอนข้าง, ผ้าปูที่นอนและผ้าห่ม,พัดสีแดงไว้ถือตอนส่งตัว, หวีอีก 4 อัน, รองเท้าเกี๊ยะสีแดง

3. เอี๊ยมแต่งงานสีแดง ปักลายกิเลน มังกร หรือหงส์ และอักษรจีน ‘แป๊นี้ไห่เล่า’ ที่แปลว่า อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ซึ่งถ้าหากบ้านเจ้าสาวมีฐานะสักหน่อยจะเตรียมสายคล้องเอี๊ยมทองคำหนัก 4 บาทไปเลยก็ได้ เพราะชาวจีนถือกันว่าเลข 4 คือเลขมงคล โดยในเอี๊ยมจะต้องประกอบไปด้วยสิ่งของดังต่อไปนี้

– ธัญพืช 5 ชนิด (โหงวเจ๊งจี้) คือ ข้าวเปลือก, ข้าวสาว, ถั่วเขียว, ถั่วดำ และสาคู ที่ห่อไว้ในกระดาษสีแดง เพราะมีความเชื่อที่ว่าเพื่อให้ครอบครัวและลูกหลานของบ่าวสาวเจริญรุ่งเรืองงอกงาม

– ต้นชุงเฉา เป็นต้นไม้มงคล หมายถึงการมีเกียรติ

เหรียญกิมเล้ง หรือเหรียญทองลายมังกร เพื่ออวยพรให้ร่ำรวย

– ปิ่นทองยู่อี่ โดยจะมีคำว่า ยู่อี่ อยู่ปลายปิ่น มีความหมายว่าให้ทุกสิ่งสมปรารถนา เสียบไว้ที่ปากกระเป๋าเอี๊ยม

หรือบางครอบครัวใส่เงินเพิ่มเติมลงไปด้วย เพื่อถือเคล็ดให้ร่ำรวยมีเงินมีทองตลอดปี พร้อมกันนี้ให้วางสำลี 2 คู่ สื่อความหมายว่าบ่าวสาวจะอยู่ร่วมกันจนแก่เฒ่า และอาจมีเมล็ดแป้งจีน 2 ห่อที่สื่อความหมายว่าเงินทองเฟื่องฟูลงไปด้วย 

4. ส้มเช้ง ติดอักษร ‘ซังฮี้’ ทุกลูก โดยต้องเตรียมไว้เป็นจำนวนเลขคู่ และสามารถปนส้มสีทองจำนวน 4 ลูกลงไปได้

5. ชุดหัวใจหมู ให้มีปอดและตับติดอยู่ด้วย (สามารถสั่งให้ร้านทำให้ได้เป็นพิเศษ โดยแจ้งว่าใช้สำหรับพิธีหมั้น)

6. ชุดต้นซุงเฉา, น้ำตาลทรายแดง และเชือกแดง ในพิธีแต่งงานแบบจีนใช้ต้นชุงเฉ้าจำนวน 2 ต้น แต่ให้ความหมายว่าเป็นเมียเพียงคนเดียว ถ้ามองเผินๆ อาจคิดว่าเป็นต้นไม้ในห่อ แต่จริงๆ แล้วในห่อกระดาษแก้วสีแดงนั้นบรรจุน้ำตาลทรายแดงที่มัดด้วยเชือกแดงไว้ เมื่อเสร็จพิธีนิยมนำน้ำตาลทรายแดงมาปรุงอาหารทานได้

7. ขนมถั่วดำคลุกน้ำตาล นิยมใช้ทั้งหมด 7 คู่

8. เผือก หรือโอวเท้า เตรียมไว้ในจำนวนเลขคู่ ในภาษาจีนมีความหมายว่าความอุดมสมบูรณ์

9. ใบทับทิม หรืออังฮวย สำหรับใส่ประดับไว้ในทุกถาด ซึ่งจะต้องเป็นถาดที่ฝ่ายชายจะนำกลับ

10. เม็ดสาคู ใช้สำหรับโรยของต่างๆ เพื่อเป็นเคล็ดให้คู่รักรักกันเหนียวแน่นกลมเกลียวเหมือนเม็ดสาคู

11. ใบทับทิม เชื่อว่ามีไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลและช่วยปัดเป่าชำระสิ่งชั่วร้ายไปให้หมด บ่าวสาวจึงต้องเตรียมไว้สำหรับประดับของทุกถาด

12. ชุดน้ำชาและกาเหล้าสีแดง จะใช้สำหรับพิธียกน้ำชาแก่ญาติผู้ใหญ่ พร้อมกับการเเนะนำตัวแก่ญาติทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งพิธีนี้ถือเป็นการแสดงความเคารพแก่ญาติผู้ใหญ่ของบ่าวสาว ขาเทียนหรือเชิงเทียนรูปซังฮี้ ใช้ในช่วงก่อนถึงฤกษ์ส่ง ตัวที่เจ้าสาวต้องทานอาหารมงคล 10 อย่างพร้อมครอบครัวและใช้ไหว้ฟ้าดินเมื่อถึงบ้านเจ้าบ่าว

13. ตะเกียง หมายถึง เเสงสว่างในชีวิตและการมีทายาทคนแรกเป็นผู้ชาย ชาวจีนจึงถือเคล็ดว่าตะเกียงนี้ห้ามผูกโบหรือติดของตกเเต่งให้ดูเป็นผู้หญิงเด็ดขาด

14. ไข่ต้ม ย้อมเปลือกเป็นสีแดง จัดเตรียม เป็นจำนวนคู่ สื่อความหมายให้มีลูกหลานมากๆ

15. ชุดลำไยแห้ง 2 ชุด

16. ของขวัญ สำหรับมอบให้พ่อแม่และญาติ ฝ่ายชาย

รูอย่างนี้แล้วก็รีบเตรียมข้าวของเอาไว้ให้พร้อมนะจ๊ะคุณเจ้าสาว จะได้สร้างความประทับใจให้กับคุณพ่อคุณแม่เจ้าบ่าวเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย

>> ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีแต่งงาน และความเชื่อในเรื่องงานแต่งเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

สวยอลังงดงามในทุกพิธีกับ 2 เคล็ดลับเด็ดเลือก ชุดไทย ให้เหมาะกับคุณ

ชุดไทย เต็มยศ แทบจะมีโอกาสเดียวที่ได้ใส่คือในงานแต่งงาน ซึ่งก็เพราะไม่เคยนี่ละ ทำให้ว่าที่เจ้าสาวหลายคนเกิดอาการคิดไม่ออกว่าจะเลือกอย่างไรให้ “เหมาะ” ไม่อยากโหมโรงเยอะขอพูดสั้นๆ ว่าแพรวเวดดิ้งมีคำตอบ 

1. เลือกให้เหมาะกับพิธี

ก่อนจะคิดกันจนหัวแตกว่าควรใส่ชุดแบบไหนให้ถามตัวเองว่าลักษณะงานของคุณเป็นอย่างไรเพราะกำหนดการของงานจะเป็นโจทย์หลักในการกำหนดรูปแบบชุด

สมรสพระราชทาน เนื่องจากบ่าว–สาวต้องเข้าวังเพื่อรับสมรสพระราชทานบ่าว – สาวจึงต้องแต่งกายตามระเบียบโดยเจ้าสาวใส่ชุดไทยบรมพิมาน (ไม่กำหนดสีหรือชนิดของผ้า) ไม่ผ่าหน้าหรือผ่าหลัง แนะนำให้ช่างเสื้อจับจีบหน้านางประมาณสองจีบซึ่งกว้างพอให้หมอบกราบได้สะดวกส่วนรองเท้าต้องเป็นหุ้มส้นเท่านั้น ถ้าเจ้าบ่าวเป็นข้าราชการให้แต่งเครื่องแบบเต็มยศถ้าเป็นพลเรือนให้สวมชุดราชปะแตนพร้อมติดเครื่องหมายเข้าเฝ้าที่คอเสื้อ (สามารถเช่าได้ตามร้านชุดรับปริญญา)

ชุดจากร้าน BOBO Studio จังหวัดภูเก็ต

มีพิธีสงฆ์ ถ้างานของคุณมีพิธีสงฆ์ด้วยก็ยิ่งควรแต่งกายให้เรียบร้อยมิดชิด เช่น ชุดไทยบรมพิมานชุดไทยศิวาลัย (คล้ายชุดไทยบรมพิมานแต่ห่มสไบทับอีกชั้น) หรือชุดไทยประยุกต์ที่ท่อนบนเป็นเสื้อลูกไม้ท่อนล่างเป็นผ้าถุง ไม่แนะนำให้ใส่สไบเปิดไหล่เห็นเนินเนื้อแต่ถ้าอยากใส่จริงๆ ควรเปลี่ยนใช้ในช่วงรดน้ำ

ชุดจากร้าน Deep Love Wedding

ไม่มีพิธีสงฆ์ ถ้าคุณจัดแค่พิธีหมั้นและหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ก็เลือกชุดสวยงามได้ตามความชอบ ส่วนใหญ่เจ้าสาวจะเลือกห่มสไบสวยหวาน ส่วนเจ้าสาวที่เป็นผู้ใหญ่หน่อยมักเลือกชุดไทยบรมพิมานหรือชุดไทยประยุกต์เพราะดูสง่าภูมิฐาน ส่วนเรื่องลุกนั่งสะดวกหรือสวมใส่ง่ายเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหา เพราะส่วนใหญ่ร้านชุดจะตัดแบบสำเร็จรูปจับจีบสไบและจับหน้านางผ้าถุงไว้อย่างสวยงามแล้ว แค่รูดซิปด้านหน้าทีเดียวก็เข้าทรงสวยมีทั้งแบบเย็บติดกันเป็นชุดเดียวและแบบแยกท่อนบนกับท่อนล่าง เพื่อให้สลับคู่สไบหรือเสื้อกับผ้าถุงได้ (ส่วนที่ตัดแบบโบราณต้องให้ช่างมาจับจีบแล้วเย็บตรึงกับตัวไม่ค่อยเป็นที่นิยมนักในปัจจุบัน)

ชุดจากร้าน Coco Chic Wedding

2. เลือกให้เหมาะกับเจ้าสาว

ได้แต่งชุดไทยกับเขาทั้งทีเชื่อว่าทุกคนคงอยากดูสง่าราวสตรีผู้สูงศักดิ์มากกว่าสวยแบบนางเอกหนังจักรๆ วงศ์ๆ แต่จะทำอย่างไรล่ะ

สี สีครีมทองเป็นสียอดฮิตเพราะดูหรูและสง่าแถมเจ้าสาวเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ใส่แล้วรอด ถ้าใจคุณชื่นชอบสีสันอย่างชมพูฟ้าส้ม ฯลฯ แต่ดันเป็นสาวไทยแท้ผิวเข้มกลัวว่าใส่แล้วจะตัดกับผิวฉึบฉับหรือเป็นสาวไทยเชื้อสายจีนตาตี่ผิวขาวซีดที่ใส่สีสดแล้วอาจดูเป็นอาเจ๊ ขอบอกว่าการเลือกสีโทนเบรกลงมาพอจะช่วยได้เช่นเลือกสีชมพูนู้ดๆ หรือสีกะปิแทนสีชมพูสดเลือกสีฟ้าอมเทาแทนสีฟ้าสดเลือกสีจำปาแทนสีส้มแจ๊ด ฯลฯ ทั้งหมดนี้ไม่ต้องกลัวหมองเพราะชุดไทยมักตัดเย็บจากผ้าไหมซึ่งมีความวาวและมีการปักดิ้นทอง ซึ่งจะช่วยขับผิวให้ดูผ่องขึ้น ถ้าจะให้ชัวร์ควรเอาผ้ามาทาบกับตัวเลยว่าเหมาะกับผิวไหม

ชุดจากร้าน Vanus Couture

รูปร่าง ส่วนใหญ่เจ้าสาวรูปร่างท้วมมักไม่กล้าใส่สไบ แต่พอเลี่ยงไปใส่ชุดแขนยาวมิดชิดติดกระดุมถึงคอก็กลายเป็นดูอึดอัดทึบตันไปทั้งตัว แนะนำว่าของแบบนี้ต้องมั่นใจเพราะการห่มสไบก็มีทั้งแบบเข้ารูปโชว์ช่วงเอวและแบบผืนใหญ่ห่มปิดหมดทั้งร่าง โดยมากคนท้วมต้องใส่เปิดๆ หน่อยให้เห็นเส้นเอวจะได้ไม่ดูตัน แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพด้วยบางคนท้วมแต่พอห่มสไบมิดชิดกลับดูดีกว่าเพราะมีบุคลิกสง่าราวนางพญา ดังนั้นการลองสวมจริงจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดว่าชุดแบบไหนเหมาะกับคุณ

ชุดจากร้านเจ้านางเวดดิ้ง

กรณีที่เลือกใส่ชุดไทยแขนยาวคอปิด อย่างชุดไทยบรมพิมานการตัดเย็บให้เอวต่ำกว่าปกติจะช่วยให้ช่วงลำตัวดูโปร่งและสมส่วนขึ้นได้ในระดับหนึ่ง

รองเท้า เนื้อคู่ของชุดไทยคือ รองเท้าส้นสูงหัวแหลมที่มีความเป็นเมแทลลิกจะเงินทองหรือพิ้งค์โกลด์ก็ขึ้นอยู่กับสีเครื่องประดับและดิ้นที่ปักบนชุด แต่แนะนำให้เป็นเฉดอ่อนจะดูมีคลาสกว่ากรณีที่หน้าเท้ากว้างใส่หัวแหลมแล้วไม่สวย ลองเลือกแบบที่มีแพลตฟอร์มด้านหน้าจะช่วยพยุงให้น้ำหนักไม่เทไปหน้ามากนักดูดีขึ้นแถมยังเมื่อยน้อยลงด้วย เจ้าสาวบางคนต้องการสวมรองเท้าสีพื้นเรียบๆ เพื่อจะได้เก็บไว้ใส่ในชีวิตประจำวันด้วยก็อาจเลือกสีที่ไปกันได้กับสีของชุดท่อนบนหรือท่อนล่าง

เครื่องประดับ ถ้าบ้านไหนมีเครื่องทองของเก่าเก็บก็โชคดีไป แต่ถ้าไม่มีต้องเช่าเครื่องประดับเทียมมาใส่ก็ควรเลือกที่ฝีมือประณีตและไม่ต้องประโคมเยอะเดี๋ยวจะดูเหมือนไปรำแก้บน แค่เข็มขัดต่างหูและสร้อยคอหรือข้อมืออีกสักชิ้นก็สวยแล้ว

ชุดเจ้าบ่าว พอเจ้าสาวเลือกชุดได้แล้วก็อย่าลืมหันมาดูคนข้างๆ ด้วยส่วนใหญ่เจ้าบ่าวมักจะโนไอ-เดีย ใส่อะไรก็ได้ มีบ้างที่งอแงไม่ยอมใส่ชุดไทยเพราะเขินอาจพบกันครึ่งทางด้วยชุดเจ้าบ่าวไทยประยุกต์ ท่อนบนเป็นสูทท่องล่างเป็นโจงกระเบนหรือท่อนบนเป็นเสื้อราชปะแตนท่อนล่างเป็นสแล็คก็ตามสะดวก แต่เพื่อความสวยงาม แนะนำให้เจ้าบ่าวเลือกคู่สีที่เข้ากับสีชุดของเจ้าสาวหรือมีสีที่ลิงค์กับชุดเจ้าสาวอยู่ในตัวบ้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นสีเดียวกันเป๊ะและถ้าคนหนึ่งใส่โทนอ่อนอีกคนควรเป็นโทนเข้มเพื่อความลงตัวเช่นชุดเจ้าสาว สีครีมทอง – ชุดเจ้าบ่าวสีเบจชุดเจ้าสาวสีชมพู–ชุดเจ้าบ่าวสีเทาหรือน้ำตาลช็อกโกแลต เป็นต้น

ชุดจากร้าน Vanus Couture

เมื่อเข้าร้านชุดคุณควร…

• พกความมั่นใจไปด้วย ทั้งมั่นใจในตัวดีไซเนอร์และมั่นใจในตัวเอง

• หยิบเรเฟอเรนซ์ไปด้วย ชอบแบบไหนอยากได้อะไรให้เอาติดมือไปเพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้สื่อสารกับดีไซเนอร์ได้ง่ายขึ้น

• ลองก่อนตัดสินใจ อย่ามึนหรือเกรงใจจนยอมเซ็นซื้อแพ็คเกจก่อนลองเด็ดขาด เพราะเซ็นแล้วก็เหมือนอ้อยเข้าปากช้าง ช้างไม่ยอมคายแน่ๆ ต่อให้คุณต่อว่าช้างแค่ไหนก็ตามและอย่าตาโตกับโปรโมชั่นลดเฉพาะวันนี้ ชั่วโมงนี้ เพราะถ้าเซ็นไปแล้วเกิดร้านนั้นไม่มีชุดที่ชอบเลย จะน้ำตาตกใน

• ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นไปบ้าง อย่างน้อยควรแยกออกว่าผ้าไหมแท้ต่างจากไหมเทียมอย่างไร ลูกไม้เซาะดอกเป็นอย่างไร ฯลฯ เพราะบางร้านอาจยกความวิจิตรของชุดไทยสารพัดลุคมาอัพราคาถ้าดูเป็นจะได้ไม่โดนย้อมแมว

• ถ้าคิดจะเช่าชุดต้องทำใจ บางร้านทำเป็นเอวยางยืดเพื่อให้ทุกคนสวมใส่ได้ แต่จะดูไม่เข้ารูป ขณะที่ถ้าเป็นร้านที่มีความประณีตจะเย็บแก้ทรงใหม่เพื่อให้เข้ากับหุ่นลูกค้า นอกจากนี้ชุดที่ผ่านการใช้งานมาหลายครั้ง อาจจะเก่าซีดเป็นขุยดิ้นหลุด ฯลฯ ต้องถามใจตัวเองว่ารับได้ไหมถ้ายอมรับได้ก็จะเซฟงบประมาณไปได้มากกว่าครึ่ง

• ราคา การตัดชุดใหม่มีข้อดีคือ ได้เลือกสีเลือกเนื้อผ้าเองได้ไซส์พอดีตัวเราเป๊ะและชุดเป็นของเรา (จะเก็บเป็นที่ระลึกหรือเผื่อเป็นมรดกให้ลูกหลานก็ว่ากันไป) แต่ราคาจะสูง โดยเฉพาะถ้าเป็นผ้าไหมแท้ทั้งชุด ส่วนการเช่าตัดจะได้เลือกสีเลือกเนื้อผ้าและได้ไซส์พอดีกับเราเหมือนกัน แต่ชุดจะต้องคืนร้านไปราคาจะต่ำกว่าตัดประมาณ 30 – 50 เปอร์เซ็นต์แล้วแต่ร้านสุดท้ายคือการเช่าราคาก็จะต่ำลงกว่าเช่าตัดอีกประมาณ 20 – 40 เปอร์เซ็นต์แต่ก็จะต้องเลือกของเท่าที่มีในร้านและมีข้อจำกัดดังที่กล่าวมาทั้งนี้ขอหมายเหตุตัวโตๆ ว่าเรตราคาเป็นเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละร้านราคานี้เป็นเพียงการประมาณเท่านั้น

>> ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ : งานแต่งงานของคุณแอนและคุณเจมส์ โดย Box Wedding

เคล็ด(ไม่)ลับ วิธีเลือก สถานที่จัดงานแต่งงาน อย่างไรให้ชัวร์ที่สุด

หลังจากคุณทั้งคู่ได้ประกาศแต่งงานอย่างเป็นทางการแล้วก็จะมาถึงขั้นตอนการวางแผนเรื่องที่สำคัญที่สุดเห็นทีจะเป็น สถานที่จัดงานแต่งงาน ที่ตัดสินใจไม่ได้สักที ที่นู่นก็สวยถูกใจแต่กลับจุคนได้น้อยซะงั้น ส่วนที่นี่ก็มีราคาสบายกระเป๋าตังค์แต่ยังไม่ค่อยถูกใจเลย เมื่อความคิดทุกอย่างตีกันอยู่ในหัวแบบนี้คุณจะตัดสินใจจากอะไรดีล่ะคะ แพรว wedding จึงอยากช่วยคุณมาเปิดมุมมองการเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ว่านอกจากเรื่องบรรยากาศ ความสวยงามของสถานที่ ราคาโปรโมชั่นต่างๆ จะมีเรื่องอะไรที่ต้องคำนึงถึงนอกเหนือจากนี้อีกบ้างเรามาดูกันค่ะ


สถานที่จัดงานแต่งงาน

  • ความปลอดภัย

ควรตรวจสอบความปลอดภัยของสถานที่ทั้งภายนอกและภายใน เช่น ภายนอก สถานที่ตั้งอยู่ในซอยเปลี่ยวหรือเปล่า ในตอนกลางคืนพื้นที่แถวนั้นมีแสงสว่างมากเพียงพอหรือไม่ ส่วนลานจอดรถต้องมีความปลอดภัยในทรัพย์สินและตัวบุคคล ซึ่งดูได้จากการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ การรักษาความปลอดภัยของรปภ.เข้มงวดมากแค่ไหน ส่วนภายใน เวลาคุณลงไปเซอร์เวย์สถานที่ให้เช็กวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ในการจัดงานว่าอุปกรณ์มีความเก่าหรือมีอะไรชำรุดเสียหายหรือไม่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อทุกคนในงาน

  • รายชื่อแขก

คำนวณจำนวนแขกที่จะมาร่วมงานก่อนเลือกสถานที่ บางโรงแรมถึงมีห้องบอลรูมขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะจุคนได้ไม่อั้น ทางสถานที่ต้องจัดเตรียมอาหารเครื่องดื่ม อุปกรณ์อำนวนความสะดวก จำนวนที่นั่ง ให้เพียงพอไม่ขาดตกบกพร่องหรือคำนวณให้เกินมานิดหน่อยคิดซะว่าเหลือไว้ยังดีกว่าขาดค่ะ ดังนั้นคุณจำเป็นต้องทราบรายชื่อแขกเพื่อนับจำนวนคนและประสานงานกับทางสถานที่ให้ดี ขอย้ำนะคะ! ต้องทราบจำนวนแขกที่มาร่วมงานก่อนเลือกสถานที่ค่ะ

  • การเดินทาง

สถานที่ที่มีความสะดวกในการเดินทางส่งผลต่อการตัดสินใจมาร่วมงานของแขกเหมือนกันนะคะ หากเป็นไปได้ควรเลือกสถานที่ที่มีการเดินทางสะดวก ทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวและการเดินทางด้วยรถสาธารณะ ยิ่งมีระบบขนส่งมวลชนครบที่พร้อมอำนวยความสะดวกในเขตพื้นที่นั้นยิ่งดีเลยค่ะ เพราะนอกจากแขกที่มาร่วมงานจะเดินทางสะดวกแล้วการขนส่งอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะใช้ในการจัดงานก็จะมีความสะดวกด้วยเช่นกันค่ะ

  • พิธีการและกิจกรรมในงาน

งานแต่งงานบางคู่อาจมีการแบ่งวันจัดงานเป็นวันพิธีหมั้นกับวันเลี้ยงฉลอง การเลือกสถานที่จึงต้องคำนึงถึงพิธีการหรือกิจกรรมต่างๆ ที่คุณจำเป็นต้องใช้พื้นที่มากน้อยแค่ไหน และบรรยากาศในพิธีเหมาะกับสถานที่แบบไหน เช่น พิธีหมั้นแบบไทย เป็นงานเล็กๆ ที่ส่วนใหญ่มีผู้ร่วมงานเฉพาะเครือญาติและเพื่อนสนิท จึงเหมาะกับการใช้บ้านทรงไทยเป็นสถานที่จัดพิธีหมั้นหมาย และในอาทิตย์ถัดมาคุณอาจจัดงานเลี้ยงฉลองอย่างหรูหรา แขกมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง คุณจึงต้องการโรงแรมที่มีห้องโถงขนาดใหญ่เพื่อตอบโจทย์งานแต่งงานของคุณค่ะ

>> ดูไอเดียงานแต่งและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

Cr : insideweddings.com, pinterest.com

ชุดเจ้าสาว 2 in 1 สองสไตล์ภายในชุดเดียวช่วยเจ้าสาวประหยัดงบได้

เรียกได้ว่าเกือบจะกลายเป็นเทรนด์ของเจ้าสาวส่วนใหญ่ไปแล้วกับการมี ชุดเจ้าสาว มากกว่า 1 ชุด ไม่รวมชุดไทยที่ใช้ในพิธีแต่งงานไทยนะ เพราะนี่เรากำลังพูดถึงชุดแต่งงานสำหรับพิธีฉลองมงคลสมรสล้วนๆ บางคนก็สวมชุดหนึ่งสำหรับถ่ายภาพที่แบ็คดร็อป และอีกชุดหนึ่งสำหรับเดินเข้างานและชุดในพิธี แถมบางคนยังมีชุดสำหรับอาฟเตอร์ปาร์ตี้แยกเพิ่มมาอีก 1 ชุด ซึ่งบางครั้งสิ่งที่ต้องการก็สวนทางกับงบในกระเป๋า แพรว wedding เลยมีเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับการออกแบบชุดแต่งงาน 2 in 1 ที่ทั้งสวยตอบโจทย์แถมสบายสตางค์ในกระเป๋าด้วย

ตอบโจทย์ได้ แต่ไม่ทั้งหมด

ชุดสไตล์ 2 in1 นี้เหมาะกับเจ้าสาวที่มีเวลาเปลี่ยนชุดน้อย เช่น หมั้นเช้าแล้วต่อด้วยกินเลี้ยงตอนเที่ยงซึ่งบางคนอาจมีเวลาแค่ 5- 10 นาทีเท่านั้น หรือพิธีฉลองตอนเย็นแล้วต่อด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่มีเวลาให้มันได้เต็มที่แค่ 1-2 ชั่วโมง เจ้าสาวบางคนจึงอยากร่นระยะเวลาการแต่งตัวเพื่อมาสนุกกับเพื่อนๆ ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงต้องออกแบบชุดให้มีแค่การสวมเพิ่มหรือถอดบางชิ้นออกเพื่อเปลี่ยนเป็นอีกลุคได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ทั้งนี้มีเงื่อนไขที่เจ้าสาวต้องทำความเข้าใจและยอมรับให้ได้ว่าชุดสไตล์นี้อาจไม่สามารถตอบโจทย์สิ่งที่เจ้าสาวต้องการทั้งหมดอย่างถ้าฝันว่าอยากใส่ชุดกระโปรงพองฟูเหมือนเจ้าหญิงและมีลูกไม้เยอะๆ อาจมีข้อจำกัดที่ทำให้ชุดออกมาไม่สมบูรณ์แบบได้ จึงจำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นหลัก

cr. Needle & Thread Bridal Cropped Embellished Tulle Cape

ออกแบบให้เหมาะกับลักษณะงาน

ก่อนที่จะออกแบบชุดได้ต้องทราบถึงลักษณะการใช้งานเป็นอันดับแรก เช่น สวมในพิธีหมั้นก่อนจึงเปลี่ยนมาเป็นกินเลี้ยงตอนกลางวัน หรืองานฉลองตอนเย็นแล้วต่อด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้ จากนั้นจึงดีไซน์ชุดให้เหมาะกับแต่ละพิธีการ ถ้าเป็นช่วงพิธีหมั้นอาจต้องดูเรียบร้อยสักนิดส่วนช่วงกินเลี้ยงอาจเปลี่ยนสไตล์ให้ดูหรูขึ้นซึ่งสิ่งสำคัญคือต้องให้เหมาะกับกาลเทศะของแต่ละพิธี ตามด้วยการออกแบบให้เหมาะกับบุคลิกและหุ่น สุดท้ายจึงบวกความชอบของเจ้าสาวเข้าไปโดยดูให้เหมาะกับชุดโดยรวม ส่วนใหญ่ถ้าหมั้นก่อนแล้วกินเลี้ยงมื้อกลางวันมักเพิ่มดีเทลให้กับชุดช่วงเช้า เช่น ดีไซน์ให้มีผ้าคลุมเพื่อความเรียบร้อย

ต้องสวมได้ง่ายและเปลี่ยนได้เร็ว

สิ่งสำคัญที่สุดในการทำชุดสไตล์นี้คือต้องออกแบบโดยคำนึงถึงความง่ายและสะดวกสำหรับการสวมใส่เป็นหลัก ฉะนั้นการกำหนดจุดในการนำสองชิ้นมาประกบกันจึงสำคัญมาก เช่น ถ้าเป็นผ้าคาดไหล่หรือเข็มขัดอาจต้องติดกระดุมแป๊กพลาสติกไปเลย ซึ่งนอกจากจะง่ายต่อการใส่หรือถอดแล้วยังช่วยล็อกไม่ให้ผ้าหรือเข็มขัดเลื่อนไปมาจนทำให้เจ้าสาวเกิดความกังวลอีกด้วย ซึ่งเจ้าสาวจะต้องเรียนรู้วิธีการสวมใส่ก่อนในวันที่ไปรับชุดเพื่อไปบอกต่อกับผู้ที่จะมาช่วยแต่งตัวในวันงานอีกที หรือถ้าจะให้ดีก็หนีบเพื่อนหรือคนนั้นไปด้วยซะเลย ส่วนช่วงฉลองตอนเย็นอาจเน้นให้มีไอเท็มขนาดใหญ่อย่างกระโปรงพองฟูหรือมีโบด้านหลังในช่วงที่เจ้าสาวขึ้นเวทีเพื่อให้ดูโดดเด่นจากระยะไกลเพราะหากชุดมีรายละเอียดที่เล็กมากแขกอาจมองไม่เห็น และเมื่อเข้าสู่ช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็เพียงแค่ถอดกระโปรงด้านนอกออกให้เหลือเป็นเกาะอกแบบมินิสเกิร์ตเพื่อการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวมากขึ้น เป็นต้น

ชุดแต่งงาน Lanvin – ภาพ Samm Blake

>> ดูไอเดียและคำแนะนำเกี่ยวกับชุดแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพเปิด unsplash.com

‘แม่สื่อและเถ้าแก่’ 2 คนสำคัญในพิธีแต่งงานจีนที่ต้องมี

2 คนสำคัญใน พิธีแต่งงานจีน ที่ขาดไม่ได้อย่าง แม่สื่อ และ เถ้าแก่ มีความสำคัญอย่างไร เป็นคนเดียวกันหรือเปล่า เรามีคำตอบมาฝากกันจ้า

ก่อนอื่นขอเฉลยว่า แม่สื่อ กับ เถ้าแก่ เป็นคนละคน คนละตำแหน่งกันนะจ๊ะ รวมถึงมีหน้าที่ที่ต่างกันอีกด้วย ซึ่งตำแหน่งแรกที่เลดี้จะพูดถึงคือ “แม่สื่อ” ผู้ที่เป็นสื่อกลางนำพาคนสองคนให้มาเจอกัน ซึ่งอาจจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ และเหตุผลที่มีแม่สื่อเนื่องจากในสมัยก่อนบ้านไหนที่มีลูกอยู่ในวัยพร้อมที่จะมีครอบครัว ทางพ่อแม่ก็จะติดต่อกับทางแม่สื่อให้ช่วยหาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับลูกตัวมาให้เป็นคู่ครอง ซึ่งหากสองคนที่แม่สื่อหามาเจอกัน ตกลงปลงใจแต่งงาน และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแต่งงานเรียบร้อย ทางพ่อแม่ของคนที่ไหว้วานให้ จะมอบขาหมู 1 ขาเป็นการตอบแทนแม่สื่อ แต่ในปัจจุบันอาจมีการเปลี่ยนมาเป็นเงินทองเพื่อความสะดวกสบายก็ได้

แต่ในปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่าบุคคลที่มาเป็นแม่สื่อให้ชายหญิง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเบรรดาเพื่อนๆ ในแก๊งค์หรือกลุ่มเดียวกันซะมากกว่า เลดี้ถือว่าดีเลยล่ะ เพราะเพื่อนจะรู้ใจเราดีที่สุด ย่อมรู้ว่าเราชอบแบบไหน เป็นอย่างไร และที่สำคัญเราไม่ต้องเสียเงินจ้างอีกด้วย แต่ถ้าสมรักกันแล้วจะเซย์แต้งกิ้วด้วยของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ผิดนะจ๊ะ

แล้วเถ้าแก่ล่ะ…เขาคือใคร

อีกตำแหน่งสำคัญก็คือ “เถ้าแก่” ซึ่งหมายถึงผู้ใหญ่ที่ครอบครัวของบ่าวสาวให้ความไว้วางใจและเคารพนับถือมาทำหน้าที่ทาบทามสู่ขอ ซึ่งเราจะเรียกเถ้าแก่ที่ทำหน้าที่ไปทาบทามฝ่ายหญิงจะเรียกว่า เถ้าแก่ทาบทาม เมื่อถึงวันงานแต่งงาน เถ้าแก่ท่านนี้ยังมีหน้าที่ช่วยแจกซองแดงคนกั้นประตูเงินประตูทอง เพื่อให้เจ้าบ่าวข้ามไปรับตัวเจ้าสาวได้สำเร็จ นอกจากนี้บางบ้านอาจให้เถ้าแก่ไปเป็นประธานในพิธีสู่ขอและพิธีหมั้นอีกด้วย

สำหรับการแสดงน้ำใจขอบคุณนั้น หากเถ้าแก่มาทำหน้าที่เพียงทาบทามและแจกซอง คุณก็สามารถให้เป็นซองก็เพียงพอแล้ว ส่วนถ้ามาเป็นประธานในพิธี ก็อาจจะเพิ่มของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เข้าไปด้วย ก็จะดีไม่น้อย

เพียงเท่านี้หนุ่มสาวตระกูลแซ่ก็จะได้คลายความสงสัยเรื่องหน้าที่และความสำคัญของแม่สื่อกับเถ้าแก่ รวมไปถึงจะได้หายสับสนกันเสียทีว่าแม่สื่อและเถ้าแก่คือคนเดียวกันหรือคนละคน กันนะจ๊ะ

>> ติดตามประเพณีและความเชื่อเกี่ยวกับงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

เรียบเรียงข้อมูลจาก : www.klothailand.com, hakkapeople.com, www.all-chinese.com
ขอบคุณภาพประกอบจาก : TheBigPlans.com

งานแต่งไทยผสมจีน อีกหนึ่งรูปแบบงานแต่งของเขย-สะใภ้สไตล์ลูกครึ่ง

สมัยนี้คนไทยแท้กับคนไทยเชื้อสายจีนแต่งงานกันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว เพราะอาป๊าอาม้าอาม่าอากงไม่ได้เคร่งครัดธรรมเนียมปฏิบัติเหมือนอย่างแต่ก่อน เพราะฉะนั้นเราจึงได้เห็น งานแต่งไทยผสมจีน กันมากขึ้นในปัจจุบัน

นั่นก็คือการผสมผสานพิธีแต่งงาน 2 ประเพณีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นด้วยพิธีไทย คือมีพิธีสงฆ์ พิธีแห่ขันหมาก พิธีหมั้น พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และงานเลี้ยงกลางวัน แล้วผสานความเป็นจีนเข้าไปในบางช่วงเพื่อความสะดวก ซึ่งลำดับพิธีการมักเป็นไปตามต่อไปนี้

ขันหมากไทยผสมจีน ในขบวนขันหมากจะมีการแทรกขันหมากจีนเข้าไปด้วย เช่น มีถาดส้มเช้ง และผลไม้ติดอักษรจีน “ซังฮี้” ถามขนมงานแต่ง ถาดหมูชุด ฯลฯ (ดูขันหมากเจ้าบ่าวจีนเพิ่มเติม คลิก)

ขันหมากฝ่ายเจ้าสาว บางบ้านอาจเตรียมขันหมากฝ่ายเจ้าสาวเอาไว้ตามธรรมเนียมจีนด้วย เช่น ต้นชุนเช่า ส้ม กล้วย อ้อย ขนมมงคล ฯลฯ โดยจัดวางเตรียมไว้ใกล้จุดประกอบพิธี แต่แยกจากขันหมากของฝ่ายเจ้าบ่าว หลังเสร็จพิธีจะต้องแบ่งผลไม้และขนมขันหมากจากทั้งสองฝ่ายมามอบให้ทางฝ่ายเจ้าบ่าวนำกลับไปด้วย (ดูขันหมากเจ้าสาวจีนเพิ่มเติม คลิก)

พิธีหมั้น เมื่อขันหมากฝ่ายชายมาถึงก็เป็นการสู่ขอ จากนั้นจึงไปรับตัวเจ้าสาวเพื่อมาทำพิธีหมั้น และทำพิธีสวมแหวน

– ป้อนขนมอี๊ หลังจากสวมแหวนแล้วอาจแทรกการป้อนขนมอี๊ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความกลมเกลียว

พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ซึ่งหลังจากเสร็จพิธีหมั้น และการป้อนขนมอี๊แล้ว ก็จะเป็นการรดน้ำสังข์ตามประเพณีไทย

พิธียกน้ำชา ตามธรรมเนียมดั้งเดิม เมื่อเจ้าสาวไปถึงบ้านเจ้าบ่าว เจ้าสาวจะต้องยกน้ำชาให้พ่อแม่และญาติของเจ้าบ่าวดื่ม แต่ครอบครัวไหนที่ไม่เคร่งมากอย่างเช่น คู่ไทย-จีน ก็อาจจะนำพิธีนี้มาไว้ก่อนหรือหลังพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ก็ได้ แล้วเชิญผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว หรือจะเชิญผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายขึ้นมารับน้ำชาแทนพิธีรับไหว้ไปเลยก็ได้ เพราะทั้งสองพิธีนี้มีจุดประสงค์เดียวกัน เพียงแค่เปลี่ยนจากพานธูปเทียนแพมาเป็นการยกน้ำชาแทน จากนั้นผู้ใหญ่จะให้ของรับไหว้เป็นเงินทองหรือของมีค่า ส่วนบ่าวสาวก็มอบของขวัญคืนให้แก่ผู้ใหญ่เพื่อเป็นการขอบคุณ

picture : pinterest

กำหนดการพิธีไทยเขียนในการ์ดเชิญงานแต่งไทยยังไงไม่ให้แขกงง

เพราะด้วยความที่พิธีแต่งงานไทยนั้นมากไปด้วยขั้นตอนและคำศัพท์ที่เฉพาะทาง จึงทำให้บางครั้งบ่าวสาวเกิดอาการมึนตึ๊บว่า แล้วคำแบบไหนที่ถูกต้องกันแน่ที่จะใช้ใน การ์ดเชิญงานแต่งไทย เพื่อไม่ใหแขกงง แพรว wedding เลยไปเจาะลึกจากกูรูมาให้ รับรองว่าหลังจากนี้แขกเคลียร์ชัดไม่งงอีกต่อไปแน่นอน

พิธีแห่ขันหมาก

สำหรับบ่าวสาวที่มีการจัดงานแต่งงานตามประเพณีและต้องการใส่รายละเอียดในการ์ดเชิญว่ามีพิธีการใดเกิดขึ้นก่อนหลัง มักมีความสับสนอยู่กับคำที่เกี่ยวข้องกับคำว่า “ขันหมาก” ซึ่งที่ถูกต้องแล้วนิยมใช้ตามนี้ค่ะ

แห่ขันหมาก

คือคำที่พบเจอบ่อยที่สุดในการ์ดเชิญ หมายถึง ในเวลาที่กำหนดในการ์ดนั้น จะเป็นเวลาที่ขบวนขันหมากเริ่มออกเดินทางไปยังบริเวณบ้านเจ้าสาว หรือพื้นที่ทำพิธีสู่ขอ ซึ่งเมื่อแขกเห็นคำนี้ในการ์ด ขอให้เข้าใจได้เลยว่า หากต้องการร่วมเดินในขบวนต้องมาก่อนเวลาที่กำหนดนี้ และอีกนัยยะหนึ่งคือ หากไม่ร่วมเดินขบวนก็ให้มาทันช่วงเวลาที่ว่า เพราะลำดับพิธีการสู่ขอกำลังจะเริ่มขึ้นหลังจากเวลาดังกล่าว แต่หากคู่ไหนมีการแลกแหวนไปด้วย ในการ์ดเชิญอาจใส่รวบไปเลยทีเดียวว่า “พิธีแห่ขันหมากและพิธีหมั้น”

ส่วนคำที่มักจะทำให้เข้าใจผิดก็คือคำว่า “เชิญขันหมาก” และ “รับขันหมาก” ซึ่งสองคำนี้มีความหมายแบบนี้ค่ะ

เชิญขันหมาก หมายถึงคนที่ทำหน้าที่เชิญขันหมากของฝ่ายชายเข้าบ้าน ส่วนใหญ่เป็นหน้าที่ของญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงที่มายืนรอหน้าขบวนกั้นประตูเงินประตูทอง พร้อมเด็กสาวที่ถือพานเชิญขันหมาก

รับขันหมาก หมายถึง ผู้ที่นั่งอยู่บนเวที ซึ่งมักจะเป็นพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ทางฝ่ายเจ้าสาว จะนั่งรอรับพานขันหมากเอกจากขบวนขันหมากเจ้าบ่าวเมื่อเข้ามาถึงบริเวณพิธี

ส่วนการเชิญแขกมาร่วมพิธีรดน้ำสังข์ จะใช้คำว่า “หลั่งน้ำพระพุทธมนต์และประสาทพร”  ซึ่งก็คือการเชิญมาร่วมรดน้ำสังข์และอวยพรให้แก่คู่บ่าวสาวนั่นเอง

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานไทยเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ขอบคุณข้อมูล จาก ร้านวิริยา การ์ดแต่งงานและของชำร่วย โทร. 08-1900-4041
ภาพ : www.theknot.com

เลือกแบบ ชุดแต่งงานไทย ให้เหมาะสมแต่ละช่วงพิธีงานแต่งไทยแบบกุลสตรี

ชุดแต่งงานไทย ต้องเลือกให้สวยและไปด้วยกันได้กับการประกอบพิธี

นอกจากว่าที่เจ้าสาวจะตื่นเต้นไปกับการเลือกแบบชุดแต่งงานสากลสีขาวที่มีแบบอยู่ในใจกว่า 10 แบบขึ้นไปแล้ว!! อีกหนึ่งชุดแต่งงานที่ว่าที่เจ้าสาวก็ตื่นเต้นและเลือกยากไม่แพ้กันก็คือ ชุดแต่งงานไทย แต่ก่อนจะคิดกันจนหัวแตกว่าควรใส่ชุดแบบไหน แพรว wedding แนะนำให้ถามตัวเองก่อนว่าลักษณะงานของคุณเป็นอย่างไร เพราะกำหนดการของงานจะเป็นโจทย์หลักในการกำหนดรูปแบบชุดให้กับคุณได้นั่นเอง

สมรสพระราชทาน

เนื่องจากบ่าวสาวต้องเข้าวังเพื่อรับสมรสพระราชทาน บ่าวสาวจึงต้องแต่งกายตามระเบียบ โดยเจ้าสาวใส่ชุดไทยบรมพิมาน ไม่กำหนดธีมสีหรือชนิดของผ้า แต่ต้องไม่ผ่าหน้าหรือผ่าหลัง แนะนำให้ช่างเสื้อจับจีบหน้านางประมาณสองจีบ ซึ่งกว้างพอให้หมอบกราบได้สะดวก ส่วนรองเท้าต้องเป็นหุ้มส้นเท่านั้น ถ้าเจ้าบ่าวเป็นข้าราชการให้แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ถ้าเป็นพลเรือนให้สวมชุดราชปะแตนพร้อมติดเครื่องหมายเข้าเฝ้าที่คอเสื้อ (สามารถเช่าได้ตามรานชุดรับปริญญา)

ชุดแต่งงานไทย
ชุดจากร้านอมิตา ทองหล่อ 20

 

มีพิธีสงฆ์

ถ้างานของคุณมีพิธีสงฆ์ด้วย ก็ยิ่งควรแต่งกายให้เรียบร้อยมิดชิด เช่น ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยศิวาลัย (คล้ายชุดไทยบรมพิมานแต่ห่มสไบทับอีกชั้น) หรือชุดไทยประยุกต์ที่ท่อนบนเป็นเสื้อลูกไม้ ท่อนล่างเป็นผ้าถุง ไม่แนะนำให้ใส่สไบเปิดไหล่เห็นเนินเนื้อ แต่ถ้าอยากใส่จริงๆ ควรเปลี่ยนชุดในช่วงรดน้ำสังข์แทน แต่ปัจจุบันเจ้าสาวส่วนมากก็มักนิยมแต่งชุดไทยห่มสไบในพิธีสงฆ์กันมากขึ้น

ชุดแต่งงานไทย
ชุดไทยบรมพิมานจากร้าน เจ้านางเวดดิ้ง
ชุดแต่งงานไทย
ชุดไทยศิวาลัยจากร้าน Vanus Couture
ชุดแต่งงานไทย
ชุดไทยประยุกต์จากร้าน เรือนวิวาห์ ชลบุรี

ไม่มีพิธีสงฆ์

ถ้าคุณจัดแค่พิธีหมั้นและหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ก็เลือกชุดสวยงามได้ตามความชอบ ส่วนใหญ่เจ้าสาวจะเลือกห่มสไบสวยหวาน ส่วนเจ้าสาวที่เป็นผู้ใหญ่หน่อยมักเลือกชุดไทยบรมพิมาน หรือชุดไทยประยุกต์เพราะดูสง่าภูมิฐาน

ชุดแต่งงานไทย
ชุดไทยจากร้าน bubpha wedding dress
ชุดแต่งงานไทย
ชุดไทยประยุกต์จากร้าน Deeplove

ส่วนเรื่องลุกนั่งสะดวกหรือสวมใส่ง่ายเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหา เพราะส่วนใหญ่ร้านชุดจะตัดแบบสำเร็จรูป จับจีบสไบและจับหน้านางผ้าถุงไว้อย่างสวยงามแล้ว แค่รูดซิปด้านหน้าทีเดียวก็เข้าทรงสวย ทีทั้งเย็บแบบติดกันเป็นชุดเดียว และแบบแยกท่อนบนกับท่อนล่างเพื่อให้สลับคู่สไบหรือเสื้อกับผ้าถุงได้ ส่วนที่ตัดแบบโบราณต้องให้ช่างมาจับจีบแล้วเย็บตรึงกับตัว หรือที่เรียกว่าการนุ่งสดนั้นก็ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่เจ้าสาวปัจจุบัน

แต่ปัจจุบันนี้ว่าที่เจ้าสาวส่วนมากไม่ค่อยซีเรียสเรื่องรูปแบบของชุดแต่งงานไทยมากเท่าสมัยก่อน เนื่องจากดีไซน์ที่ทำออกมาค่อนข้างสวยงาม รัดกุม และช่วยเซฟไม่ให้เจ้าสาวโป๊จนเกินงาม จึงทำให้ปัจจุบันรูปแบบชุดไทยที่ว่าที่เจ้าสาวให้ความนิมยมคือชุดแต่งงานที่มีสไบ ไม่ว่าจะเป็น ชุดไทยจักรพรรดิ หรือชุดไทยจักรี เอาเป็นว่าเลือกให้เหมาะสมกับตัวเอง และเลือกรูปแบบชุดที่เจ้าสาวใส่แล้วมั่นใจเป็นพอ

ถ้าเลือกชุดได้แล้ว ก็มาดูเคล็ดลับดีๆ เพิ่มเติมต่อเลย >>> เทคนิคการเลือกชุดแต่งงานไทยของบ่าวสาวยังไงให้ดูเข้ากัน