อาหารงานแต่งเมนูไหนดี เมนูไหนร้าย บ่าวสาวควรรู้ไว้เพื่อเสริมมงคล

อาหารงานแต่ง เมนูไหนรอด เมนูไหนห้าม มาดูกัน

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญในงานแต่งงานที่บ่าวสาวไม่ควรมองข้ามก็คือเรื่อง อาหารงานแต่ง ที่นอกจากจะต้องอร่อยแล้ว อาหารเหล่านั้นจะต้องเป็นมงคลด้วย แพรว wedding เลยขอพาเข้าครัวบุกชี้เมนูไหนดีพร้อมเสิร์ฟ และเมนูไหนควรเก็บให้ไกลด่วนๆ มาฝาก (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละครอบครัวนะคะ ^^)

อาหารมงคล เสริมรักยั่งยืน

ห่อหมก สื่อความหมายให้คู่บ่าวสาว เออออห่อหมก ไปกันได้ด้วยดีในทุกเรื่อง
ขนมจีบ หมายถึงความรักหวานชื่นเหมือนตอนจีบกันใหม่ๆ ตลอดไป
ขนมจีนน้ำยา เชื่อว่าจะทำให้ครองรักกันยืนยาวเหมือนเส้นขนมจีน และผักเครื่องเคียงอย่างถั่วงอก มีความหมายถึงความเจริญงอกงาม
ข้าวเหนียว สื่อถึงความรักที่เหนียวแน่น มั่นคง

อาหารต้องห้าม นามไม่เป็นมงคล

ต้มยำ เป็นอาหารรสชาติเผ็ดร้อน เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตคู่เกิดการทะเลาะกันแบบร้อนแรง
ปลาร้า เป็นของหมักดอง มีกลิ่นเหม็น เชื่อว่าจะทำให้ความรักของทั้งคู่โดนดอง จนเบื่อและเหม็นหน้ากัน
หอยขม ด้วยชื่อสื่อถึงความรักที่ขมขื่น จึงไม่นิยมนำหอยขมมาทำเป็นอาหารในงานมงคล
แกงบอน เปรียบได้กับปากบอน ปากเสีย เป็นเหตุให้ทะเลาะกันจนเลิกรา
หมี่กรอบ มีลักษณะหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ง่าย สื่อความหมายถึงความรักที่เปราะบางถึงขั้นแตกหัก
ข้าวต้ม เป็นอาหารที่ใช้ในการอวมงคลหรืองานศพ จึงไม่นิยมนำมาใช้ในงานแต่งงาน
ตีนไก่ ไม่นิยมนำมาทำเป็นอาหารในงานแต่ง เพราะเชื่อว่าจะทำให้คู่บ่าวสาวทะเลาะวิวาทกันจนถึงขั้นเลือดตกยางออก

ปัจจุบันความเชื่อเรื่องอาหารเหล่านี้ถูกลดทอนลงไปบ้างแล้ว อย่างเช่น ต้มยำ หมี่กรอบ หรือข้าวต้ม ก็เป็นอาหารที่พบเห็นกันมากขึ้นในงานแต่ง แต่สุดท้ายเราเชื่อว่าความรักความเข้าใจของคนสองคน มีอิทธิพลกับชีวิตคู่มากกว่าสิ่งอื่นใด จริงไหมล่ะคะ

ว่าแล้วก็ตามไปส่อง ธรรมเนียมการกินของบ่าวสาวในงานแต่งงานของแต่ละประเพณี กันหน่อยดีกว่า

ภาพ : jitramas.co.th, www.yaklai.com

มงคลแฝดและพวงมาลัยแฝด ใน พิธีแต่งงานแบบไทย เสร็จงานแล้วห้ามทิ้ง!

มงคลแฝด & พวงมาลัยใน พิธีแต่งงานแบบไทย ของมงคลที่บ่าวสาวต้องเก็บรักษาไว้ให้ดี

จัด พิธีแต่งงานแบบไทย หนึ่งครั้งก็มีของที่ต้องใช้มากมายก่ายกอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งของสำคัญอย่าง “ มงคลแฝด ” และ “พวงมาลัยแฝด” ที่มักจะมีคำถามเข้ามาหลังไมค์กับเราเสมอว่า “เสร็จงานแล้วต้องทำอย่างไร?” คราวนี้ใครที่ยังไม่รู้ เรามีคำตอบมาให้ค่ะ

สำหรับมงคลแฝด ตามประเพณีแล้วจะนิยมนำไปใส่ในหมอนหรือที่นอนของคู่บ่าวสาว จากนั้นจึงเย็บปิดแล้วใช้นอนตามปกติ หรือใครที่ไม่อยากกรีดหมอนให้ลำบาก จะนำไปวางไว้บนหัวเตียงหรือเก็บไว้บนหิ้งพระก็ไม่ผิดแต่อย่างใด ส่วนพวงมาลัยแฝด หรือที่หลายคนมักเรียกว่าพวงมาลัยบ่าวสาว หลังเสร็จงานแล้วมักจะนำไปเก็บหรือแขวนไว้กับหิ้งพระภายในเรือนหอก็ได้ค่ะ

รู้อย่างนี้แล้วเจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งหลายอย่าเผลอนำของมงคลทั้งสองอย่างนี้ไปทิ้งนะคะ เก็บไว้ให้เป็นสิริมงคลกับความรักของคุณทั้งคู่จะดีกว่า

และยังมีข้าวของอีกหลายสิ่งที่บ่าวสาวต้องรู้นะ >>> ข้าวของที่ต้องใช้ในพิธีแต่งงานแบบไทย มีอะไรบ้างไปเช็คกัน

10 อาหารที่เหมือนจะเฮลท์ตี้ แต่เจ้าสาวที่อยาก ลดน้ำหนัก ไม่ควรกิน!

อย่าถูกหลอกด้วยชื่อที่เหมือนจะดูดี เพราะ 10 อาหาร ที่คนส่วนใหญ่กินเพื่อ ลดน้ำหนัก เหล่านี้ เจ้าสาว ไม่ควรทานก่อนแต่งงาน!

Anna Mitsios, นักโภชนาการจาก นิว ยอร์ค เปิดเผย 10 อาหารที่ล้วนฟังดูเป็นอาหาร ลดน้ำหนัก และที่จริงหากทานในช่วงเวลาปกติก็สามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้เหมือนกัน แต่ถ้าหากทานช่วงใกล้วันสำคัญแล้วละก็ มีโอกาสที่จะกลับกลายเป็นให้ผลร้ายมากกว่าผลดี มาเฉลยว่าเป็นอาหารอะไรบ้าง มาอ่านกันค่ะ

1. มุสลิ บาร์ (Muesli Bars)

อาหารประเภทแท่ง หรือ บาร์ มักจะต้องใช้น้ำตาลหรือน้ำผึ้งเพื่อยึดเหนื่ยวส่วนประกอบอื่นๆให้อัดอยู่เป็นแท่งได้ เราจึงทานน้ำตาลเข้าไปเป็นปริมาณสูงแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว

ลดน้ำหนัก
babyology.com.au

 

2. น้ำผลไม้บรรจุกล่อง

ต่อให้เขียนข้างกล่องว่าน้ำตาลน้อย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำให้อ้วน ทางที่ดีคั้นสดๆเองที่บ้าน (หรือถ้าอยากทานจริงๆ เลือกยี่ห้อที่ใช้น้ำตาลหญ้าหวานแทนน้ำตาลทรายหรือน้ำเชื่อมค่ะ)ลดน้ำหนัก

3. โปรตีนบาร์

ยี่ห้อส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ มีส่วนผสมที่เป็นสารสังเคราะ์สูง แถมยังมีน้ำตาลเยอะอีกต่างหาก ถ้าอยากได้โปรตีน ทานอาหารจริงๆ อย่างเนื้อสัตว์ หรือไข่ไก่ ดีกว่าค่ะ

ลดน้ำหนัก
Bariatric Food Source

4. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ

หากไม่ใช่กรีกโยเกิร์ตที่ระบุชัดเจนกว่าน้ำตาล 0% จริงจริ๊งงงง โยเกิร์ตส่วนใหญ่แม้จะเป็นรสธรรมชาติก็มักจะเต็มเปี่ยมด้วยน้ำตาลเช่กนัค่ะ

ลดน้ำหนัก
prettysimplesweet.com

5. โปรตีนเกษตร

เพราะเนื้อสัตว์ปลอมส่วนใหญ่ทำจากเต้าหู้ที่ใส่ยีสต์และส่วนผสมสังเคราะห์ในปริมาณสูง สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้อาหาร รวมทั้งสามารถกระตุ้นการเกิดสิวด้วยลดน้ำหนัก

6. ผลไม้อบแห้ง

เหมือนจะเฮลท์ตี้แต่เช่นกันค่ะ….ผลไม้อบแห้งส่วนใหญ่เต็มไปด้วยน้ำตาล เพราะน้ำในเนื้อผลไม้ถูกดูดออกหมดแล้วนั่นเอง

ลดน้ำหนัก
nutritiouseats.com

7. น้ำผลไม้สกัดเย็น (แยกกาก)

เป็นอีกหนึ่งอาหารที่คนเข้าใจผิดว่าแสนจะเฮลท์ตี้ แต่น้ำตาลสูงอีกเช่นเคย และอีกหนึ่งประการคือเมื่อน้ำผลไม้แยกกากออกไปแล้ว จึงไม่มีไฟเบอร์ที่เป็นประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารค่ะ

ลดน้ำหนัก
withfoodandlove.com

8. นมถั่วเหลือง

คนส่วนใหญ่เลือกทานนมถั่วเหลืองเพราะกลัวฮอร์โมนในนมวัว แต่นมถั่วเหลือง (ถ้าไม่ได้คั้นเองที่บ้าน) ก็เสี่ยงที่จะมีสารสังเคราะห์สูง รวมทั้งหากคุณมีปัญหาเรื่องไทรอยด์หรือฮอร์โมนไม่สมดุลอยู่แล้ว ยิ่งไม่ควรทานนมถั่วเหลืองค่ะ

9. กราโนลา

เหมือนกันกับมุสลิบาร์ และโปรตีนบาร์ เพราะกราโนลายี่ห้อส่วนใหญ่ในตลาดจะเคลือบน้ำตาลให้รสชาติดี พยายามหายี่ห้อที่ไม่ผสมน้ำตาลจริงๆ หรือทำกราโนลาเองที่บ้านง่ายๆ ด้วยการผสมข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด กับถั่วอังมอนด์และถั่วอื่นๆ ที่เราชอบค่ะ

10. ซูชิ

หากเป็นปลาที่ไม่สดสะอาดจริง ทานใกล้ๆวันแต่งงานอาจเสี่ยงอาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะปลาแซลมอนที่หากไม่ได้คุณภาพจะมีสารสังเคราะห์เจือปนในปริมาณสูงทีเดียวค่ะ

เซอร์ไพรส์กันไหมคะ สำหรับ 10 อาหารที่เหมือนจะสุขภาพดี แต่ที่จริงอาจจะยิ่งทำให้เราอ้วน หรือมีผลกระทบต่อร่างกายส่วนอื่นได้ รู้แบบนี้เลี่ยงได้ก็เลี่ยงดีกว่าค่าาา แล้วถ้าใครอยากรู้ว่าช่วงใกล้วันแต่งงานเราควรทานอะไรดีละ? คลิกอ่านที่นี่เลย!

Credit Story: marthastewartwedding.com

ทำตัวแบบนี้ไม่โดนนินทากับ 7 มารยาทในการนั่งร่วมกินโต๊ะจีนกับคนแปลกหน้าในงานแต่ง

แพรวเวดดิ้งเชื่อล้านเปอร์เซ็นต์เลยว่า ใครก็ตามที่เคยมีประสบการณ์เป็นแขกในงานแต่งงานที่เลี้ยงแบบโต๊ะจีนต้องเคยเกิดอาการวางตัวไม่ถูกเมื่อต้องนั่งร่วมโต๊ะกับคนแปลกหน้า และปัญหาสำคัญใหญ่บิ๊กก็คือ ใครจะเริ่มตักก่อนเบิ้ลได้ไหม และต้องคุยอะไรไหม วันนี้เราก็เลยทำสรุปมาให้ว่า มารยาทโต๊ะจีน ที่ควรปฏิบัติเมื่อนั่งกินกับคนแปลกหน้ามีอะไรบ้าง

 1. กำลังจะนั่งก็ถามสักหน่อย

การเลี้ยงแบบโต๊ะจีนจะไม่ได้มีระบุที่นั่งชัดเจนแบบงานเลี้ยงซิตดาวน์ดินเนอร์ แต่ส่วนใหญ่เจ้าภาพจะใช้วิธีจัดโต๊ะตามกลุ่มความสัมพันธ่น กลุ่มที่ทำงาน เพื่อนมหาวิทยาลัย แต่ในกรณีที่คุณไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้นๆ และต้องนั่งกับโต๊ะแขกทั่วไป หากเป็นโต๊ะโล่งๆ ก็สบายไปเพราะคุณคือคนแรกที่ได้เลือกที่นั่งที่ชอบ แต่ถ้าคุณต้องไปแจมกับโต๊ะอื่นเมื่อไหร่ ถามคนที่นั่งก่อนสักหน่อยว่า ที่ว่างบนโต๊ะมีคนนั่งหรือยัง ไม่ใช่เห็นว่าเห็นว่างก็นั่งพรวดลงไป แม้คุณจะคิดว่าก็ไม่ได้ระบุนี่นาทำไมจะนั่งไม่ได้ แต่ก็ควรเช็คนะคะว่า คนที่นั่งก่อนมากับใคร มากี่คน จริงไหม

2. กั๊กที่ได้แต่ก็ต้องปล่อยที่ได้

เคยมีใช่ไหมละค่ะที่คุณทำการจองที่นั่งไว้ให้กับเพื่อนหรือคนที่นัดแนะว่าจะมาร่วมโต๊ะด้วย ซึ่งในช่วงแรกๆ ที่แขกยังมาไม่เยอะ คุณอาจพูดบอกกับแขกที่มาสอบถามหาที่นั่งว่างได้อยู่ แต่ถ้าในกรณีที่โต๊ะแทบจะเต็มอยู่แล้วทุกโต๊ะ คนที่นัดแนะว่าจะมานั่งด้วยยังไม่มา คุณก็ควรมีมารยาทในการปล่อยที่นั่งนั้นให้คนอื่นได้นั่งนะคะ ยิ่งถ้างานกำลังจะเริ่ม แล้วคนที่ว่ายังไม่มา อย่าไปกั๊กเลยค่ะ สงสารแขกท่านอื่นเนอะ

3. ใครเปิดก่อนดี

เวลาที่อาหารลงวางบนกลางโต๊ะ สิ่งที่เจอกันแทบทั้งนั้นคือ อาการลังเลหรือเรียกอีกอย่างว่าดูเชิงจะเกิดขึ้นทันทีประมาณคนไหนบนโต๊ะจะเริ่มต้นตักอาหารก่อนนะ วิธีง่ายๆ ที่เรียกได้ว่าเป็นมารยาทที่ควรทำคือ ลองสังเกตดูว่ามีผู้อาวุโสอยู่ร่วมโต๊ะหรือเปล่า ซึ่งแม้คุณจะไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ก็ควรเชื้อเชิญบอกกล่าวแขกผู้อาวุโสท่านนั้นให้ทานก่อน เพราะเป็นมารยาทที่ผู้อ่อนวัยกว่าพึงกระทำ แต่ในกรณีที่ดูๆ แล้วน่าจะเป็นคนวัยเดียวกัน คุณจะเปิดก่อนก็ไม่ผิด แต่อย่าลืมหันไปชวนคนร่วมโต๊ะทานสักนิดนะคะ

4. ตักเพิ่มได้ไหม

ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นกับเมนูที่เป็นซุปค่ะ อย่างกระเพาะปลา หูฉลามที่มาเป็นชามโต ถ้ามองแล้วทุกคนได้ทานกันครบและยังมีอยู่ในชามกลาง ก็ไม่แปลกนะคะที่คุณจะยื่นมือไปตักเพิ่ม แต่จะแปลกและดูแย่ทันทีหากการตักนั้นเป็นการตักแบบคนทั่วชามเพื่อคัดเฉพาะเนื้อๆ มาใส่ถ้วยส่วนตัว และตักอยู่คนเดียวมากกว่ารอบสอง

มารยาทโต๊ะจีน

5. อย่าลืมใช้ช้อนกลาง

แน่นอนว่าเมื่อนั่งร่วมโต๊ะจีนที่กินอาหารร่วมกันจะมีช้อนกลางมาให้ทุกเมนู ดังนั้นคุณต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่าต้องหยิบช้อนกลางมาตักอาหารสู่จานของตัวเองเสมอ เพราะนอกจากเป็นมารยาทพึงทำแล้ว ยังเป็นการเลี่ยงเรื่องโรคติดต่อที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่าแฝงมากับช้อนของคนอื่นๆ

6. มีความเกรงใจผู้ร่วมโต๊ะ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลุกขึ้นตักอาหาร มารยาทในการทานอาหาร เป็นสิ่งที่คุณควรระวังตัวเสมอเมื่ออยู่ร่วมโต๊ะกับคนอื่น เพราะคุณคงไม่อยากให้ใครเม้าคุณว่าทานอาหารอย่าตะกละตะกลามหรือแม้แต่ลุกขึ้นตักอาหารข้ามหน้าข้ามหัวใช่ไหมล่ะ

7. มีน้ำใจบ้าง

มารยาทข้อสุดท้ายเรียกว่าเป็นคัมภีร์ในการอยู่ร่วมกันกับคนอื่นในสังคมที่คุณต้องไม่ลืมนำมาใช้กับเรื่องมารยาทในการการกินโต๊ะจีนร่วมกับผู้อื่นเสมอ นั่นคือ มีน้ำใจให้เพื่อนร่วมโต๊ะไม่ว่าจะช่วยหยิบช้อนกลางส่งให้ ขยับเก้าอี้เพื่อให้คนอื่นแทรกตัวเข้ามานั่ง หรือแม้แต่การช่วยเติมน้ำที่หมดแก้ว

ทำตามทั้ง 7 ข้อที่แพรวเวดดิ้งแนะนำเสมอเมื่อต้องร่วมทานอาหารโต๊ะจีนกับคนแปลกหน้า รับรองเลยว่า เมื่อลุกขึ้นจากโต๊ะเมื่อไหร่ ไม่มีการโดนนินทาลับหลังชัวร์

 >> ดูไอเดียงานแต่งและคำแนะนำดีๆ ในการวางแผนจัดงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : www.cbc.ca, jonathankuhnphotography.com

4 สัญญาณนี้จะบอกว่า…ว่าที่เจ้าสาวได้เจอ ชุดแต่งงาน ที่ใช่แล้ว

ชุดแต่งงาน ชุดไหนกันนะที่จะเหมาะกับสไตล์และมีรูปทรงที่เหมาะกับธีมงานแต่งด้วย

บางครั้งการที่เจ้าสาวตามหา ชุดแต่งงาน อย่างบ้าคลั่ง หรือมีแบบชุดแต่งงานประมาณ 100 ชุดเซฟเก็บไว้นั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าแบบชุดแต่งงานที่เจ้าสาวชอบหรือกำลังมองหานั้นจะเหมาะสม หรือเข้ากับสถานที่ หรือสไตล์งานแต่งของเจ้าสาว เช่น หากเจ้าสาวคิดว่าอยากจะเต้นรำเปิดฟลอร์สวยๆ แต่ดันเลือกชุดแต่งงานลากยาวประมาณ 20 ฟุตก็ดูจะไม่เหมาะกับช่วงเต้นรำที่ต้องหมุนและขยับตัวอยู่ตลอดเวลา หรือหากงานแต่งงานของคุณเป็นงานแต่งงานที่เป็นทางการมากๆ และมีแขกผู้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ หรือจัดงานในสถานที่ที่ค่อนข้างศักดิ์สิทธิ์ อย่างเช่น งานแต่งงานแบบไทย บางครั้งการใส่ชุดแต่งงานแบบคอลึกมากๆ ก็เป็นสิ่งไม่เหมาะไม่ควร เป็นต้น เพราะฉะนั้นเหนือความสวยงามและแบบชุดที่ว่าที่เจ้าสาวอยากได้ สไตล์งานแต่งและสถานที่แต่งงานของเจ้าสาวจะเป็นตัวกำหนดให้ว่า ชุดแต่งงานที่คุณกำลังมองหาและเหมาะกับคุณนั้นคือชุดแต่งงานชุดไหนกันแน่

ชุดนั้น…คุณจะต้องชอบด้วยเหตุผลของคุณเอง โดยไม่มีคนอื่นมาบอกว่าดี

ถึงแม้ว่าบางครั้งคุณอาจจะได้รับความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ หรือแม้กระทั่งข้อติชม จากครอบครัว เพื่อน หรือจากดีไซเนอร์ร้านชุด แต่คุณจะต้องแน่ใจว่า หากคุณมาเลือกชุดเพียงคนเดียว โดยที่ไม่มีความคิดเห็นจากบุคคลรอบข้างเลย คุณก็จะยังคงชอบชุดนี้อยู่ดี และถ้าหากคุณมั่นใจว่าชุดแต่งงานชุดนี้จะต้องดูดีเมื่อคุณสวมใส่ล่ะก็ มันอาจจะเป็นสัญญาณของความเป็นไปได้ว่า ชุดแต่งงานชุดนี้แหละคือชุดที่คุณกำลังมองหา

ชุดนั้น…คุณจะต้องซื้อมาด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง

ข้อนี้คล้ายๆ  กับข้อข้างบน เพราะคุณจะต้องมั่นใจว่า คุณไม่ได้ซื้อชุดแต่งงานชุดนี้ด้วยเหตุผลอย่างอื่น นอกเหนือจากความจริงที่ว่า คุณชอบชุดนี้และอยากจะใส่จริงๆ เช่น ไม่ได้ซื้อเพราะว่า คุณแม่ไม่ชอบชุดอื่นที่คุณเลือกเลย หรือซื้อเพราะมีชุดนี้เพียงชุดเดียวที่ไซส์พอดีกับรูปร่าง หรือเป็นชุดที่กำลังอยู่ในช่วงโปรโมชั่น หรือแม้กระทั่งคิดเอาเองว่าชุดนี้เป็นสไตล์ที่คุณคิดว่าน่าจะใส่ได้พอดีในอีก 8 เดือนข้างหน้าก่อนถึงวันงาน หรือซื้อเพราะว่าร้านกำลังจะปิด!! และคุณไม่อยากกลับมาอีกเป็นครั้งที่สอง อย่ากลัวและอย่าเร่งเร้าตัวเอง เพราะคุณต้องมั่นใจว่าการที่คุณตกลงจะซื้อหรือเลือกชุดนั้นๆ คุณจะต้องอยู่ในอารมณ์และความรู้สึกที่อยากซื้อจริงๆ โดยที่ไม่อยู่ในสถานการณ์การกดดันต่างๆ

ชุดแต่งงาน

ชุดนั้น…คุณจะสามารถกิน เดิน เต้น และสนุกไปกับการเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่างๆ ได้

อย่าลืมว่าคุณจะต้องยืน นั่ง และทำกิจกรรมต่างๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมงในชุดนี้ เพราะฉะนั้นจงแน่ใจว่า คุณจะรู้สึกสะดวกสบายในชุดนี้ เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่มีการปรับแก้ไซส์ให้พอดี อย่าลืมลองทำกิจกรรมเหล่านี้ทุกครั้ง เพื่อที่จะเช็กได้ว่าชุดนั้นหลวมหรือฟิตเกินไปหรือเปล่า เพราะคุณคงไม่อยากมายืนพะวงในวันงานว่า เกาะอกจะหลุดไหมตอนเดินเข้างาน หรือตอนนั่งแล้วหายใจไม่ออกเพราะชุดรัดแน่นจนเกินไปหรอกนะ

ชุดนั้น…คุณจะต้องได้เห็นตัวเลือกอื่นมาหมดแล้วจริงๆ

ถึงแม้ว่าคุณจะมั่นใจกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ว่า ชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์คือชุดแต่งงานที่คุณต้องการและอยากใส่จริงๆ แต่เราอยากแนะนำให้คุณว่าที่เจ้าสาวลองคิดนอกกรอบในสิ่งที่ตัวเองต้องการดีๆ อีกที ด้วยการลองชุดสไตล์อื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ลิสต์ของคุณดูบ้าง เพราะคุณอาจจะเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ว่า คุณอาจได้เจอกับชุดแต่งงานทรงอื่น หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะกับคุณ และช่วยให้คุณรู้สึกเป็นเจ้าสาวจริงๆ

ติดตามเคล็ดลับการเลือกชุดแต่งงาน และอัพเดทชุดแต่งงานสวยๆ ได้ที่นี่ >> คลิกเลย <<

ภาพ unsplash.com

สูตรไม่ลับระงับอาการ “Bridezilla” ของเหล่าว่าที่เจ้าสาวสายขี้กังวล

มันก็เป็นเรื่องแปลกนะคะ ที่อยู่ๆ ผู้หญิงอย่างเราๆ จะกลายเป็นคนละคนในช่วงระหว่างเตรียมงานวิวาห์ จากที่เคยอ่อนหวานในวันที่เขาเอ่ยปากขอแต่งงาน  กลับแทนที่ด้วยร่างทรงองค์ Bridezilla  ซะอย่างนั้น! งานนี้ใครที่กำลังจะกลายร่าง เรามีวิธีที่จะใช้สะกดอาการนี้มาฝาก

1. ผ่อนคลายบ้างก็ได้

การเตรียมงานที่มีรายละเอียดมากมายมักทำให้เจ้าสาวเกิดความเครียดและมีอารมณ์ฉุนเฉียว ซึ่งเป็นสัญญาณการมาของร่างไบรด์ซิลล่าเพราะฉะนั้น เมื่อเริ่มรู้สึกถึงความไม่เข้าที่เข้าทางของอารมณ์   จงปลีกตัวออกมาหาเวลาผ่อนคลาย อาจจะไปนอนแช่น้ำอุ่นๆ หรือขับรถเล่นแถวชานเมืองให้จิตใจสงบลง และเมื่อร่างปกติกลับมา คุณก็จะมีพลังในการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป

2. ฟังไปยิ้มไป อย่าหน้าบึ้ง

ถึงแม้ว่าการแต่งงานจะเป็นเรื่องของคนสองคนตกลงจะใช้ชีวิตร่วมกัน  แต่การเตรียมงานแต่งนั้นคงจะไม่ใช่ เห็นได้ชัดว่าจะมีใครหลายคนมาพูดแนะนำนู่นนี่นั่น โดยเฉพาะเหล่าญาติผู้ใหญ่ที่ชอบพูดว่า “ทำอย่างนั้นสิ ทำอย่างนี้สิ” ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเลย ถึงแม้จะรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องทนฟัง แต่ก็ขอให้ปั้นยิ้มแล้วพยักหน้าตามเป็นผู้ฟังที่ดี อย่าปล่อยให้ร่างไบรด์ซิลล่าออกมาทำหน้าบึ้งตึงเด็ดขาด หากพบเจอกับคำแนะนำดีๆ ก็นำไปทำตามได้ แต่ถ้าไม่ ก็แค่ปล่อยให้มันลอยไปกับลมเท่านั้น

3. เพื่อนช่วย ช่วยเพื่อน

อย่างที่บอกแหละค่ะ ว่าการเตรียมงานแต่งงานมันเหนื่อย ดีไม่ดีจะมีของแถมเป็นโรคประสาทพ่วงมากับ อาการไบรด์ซิลล่าอีก  ดังนั้น เพื่อนเจ้าสาวจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะมาช่วยเราเตรียมงาน ซึ่งเราควรลิสต์รายการว่ามีอะไรที่เพื่อนพอจะช่วยได้บ้าง จัดสรรแบ่งปันกันไปตามงานที่เพื่อนถนัด และไม่หนักจนเกินไป หากมีอะไรไม่ได้ดั่งใจก็อย่าโวยวายเจ้ากี้เจ้าการสั่งนั่นสั่งนี่เด็ดขาด ให้คิดไว้เสมอว่า “นี่เพื่อนนะ ไม่ใช่คนใช้” ถ้าไม่รักกันจริงคงไม่มาช่วยให้แหนื่อยเปล่าหรอกนะ

4. ขอเวลาคุยกันสักนิด

ช่วงเตรียมงานวิวาห์ ถ้าไม่คุยกับว่าที่เจ้าบ่าวแล้วจะให้ไปคุยกับใคร ถูกไหม? แบ่งปันเวลาว่างๆ ในแต่ละวัน จะมากหรือน้อยก็ขอให้เป็นเวลาที่คุณทั้งคู่ได้พูดคุยกัน เพราะท่ามกลางสถานการณ์วุ่นวาย คนที่ช่วยให้ผ่อนคลายได้ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเจ้าบ่าวของคุณนั่นแหละ หาเวลาว่างซักนิดเพื่อเติมกำลังใจจากคนรัก เพียงเท่านี้ก็จะสามาถรช่วยระงับอาการไบรด์ซิลล่าได้ชะงัดทีเดียว

5. ยอมรับและปล่อยวาง

เมื่อถึงวันงานจริง ขอให้เจ้าสาวทุกคนมองข้ามความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และตั้งใจทำหน้าที่เจ้าสาวให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าคุณจะอยากให้งานแต่งงานออกมาสมบูรณ์แบบไร้ที่ติขนาดไหน แต่อย่าลืมว่าคุณไม่ใช่ซุปเปอร์วูแมนที่จะสกัดกั้นทุกความผิดพลาดได้ทั้งหมด ขอให้เลือกเก็บแต่ความทรงจำที่สวยงามในวันสำคัญ และเป็นนางเอกของงานอย่างสมสง่าก็พอ

ความตื่นเต้นและความเครียดเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร โดยเฉพาะเจ้าสาวมือใหม่ที่กำลังเตรียมงานแต่งงาน อาจจะกดดันจนกลายร่างเป็น Bridezilla พาเอาคนรอบข้างออกอาการเหวอกันได้ แต่ถ้าไม่อยากให้ร่าง Bridezilla ออกมาแสดงอิทธิฤทธิ์จนกลายเป็นเจ้าสาวสติแตก ก็ให้เอาวิธีที่เราแนะนำไปใช้กัน  รับรองสติจะอยู่กับตน คนรอบข้างรักหลงยกให้เป็นเจ้าสาวแสนหวานแน่นอน

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติม คลิกเลย! <<

ภาพ : www.sheknows.coma a a a a a

5 ข้อผิดพลาดในงานแต่งงาน ที่บางครั้งว่าที่บ่าวสาวอาจนึกไม่ถึง

พอรู้ตัวเองอีกทีว่าจะต้องเป็นว่าที่บ่าวสาว ก็ทำเอาหลายคู่ตั้งตัวไม่ทัน เริ่มต้นไม่ถูก ลืมโน้น พลาดนี่ จนบางครั้งอาจทำให้เกิด ข้อผิดพลาดในงานแต่งงาน ที่ยากจะกลับมาแก้ไข แพรว wedding เลยถือโอกาสนี้มาเตือนเหล่าว่าที่ทั้งหลายให้รู้ตัวกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ว่ามีเรื่องไหนบ้างที่ต้องระวังอย่าให้พลาดหรือเกิดขึ้นในงานแต่งงานเด็ดขาด


1. #hashtags สุดยาก
#hashtags ในงานแต่งงานนอกจากจะเป็นชื่อบ่าวสาว วันเดือนปีที่แต่งงานแล้ว บ่าวสาวบางคู่ก็อยากที่จะครีเอทให้ดูดีไม่เหมือนใคร แต่ก่อนที่จะคิดคำอะไรที่ยากๆ แบบเข้าใจกันสองคน เราขอให้เหล่าว่าที่บ่าวสาวไตร่ตรองสักนิดเพราะเจ้าแฮชแท็กนี้จะต้องพิมติดกันแบบไม่เว้นวรรค เพราะฉะนั้น การคิดคำที่อ่านง่าย ไม่ยาวมาก แบบที่แขกไม่ต้องเพ่งตามองแล้วมองอีกก็ยังงงว่า “มันอ่านว่าอะไร” เพราะถ้าทั้งยากทั้งยาว สุดท้ายแฮชแท็กที่บ่าวสาวอุตส่าห์คิดขึ้นมาก็สูญเปล่า เพราะว่าแขกขี้เกียจจะพิมเอานะ

2. เดรสโค้ดสุดครีเอทีฟ
สิ่งที่จะช่วยสร้างสีสันอีกอย่างให้กับงานแต่งงาน และช่วยให้แขกที่มางานรู้สึกสนุกและมีส่วนร่วมคือ เดรสโค้ด แต่ถ้าบ่าวสาวมีความครีเอทีฟสูงเกินไป ด้วยการเลือกเดรสโค้ดยากๆ เพราะอยากให้งานแต่งมีสีสัน เช่น ธีมการ์ตูน หรือธีมสียากๆ อย่าง สีเขียวนกแก้ว หรือสีเขียวหัวเป็ด ชนิดที่แขกเสิร์ชหาจากูเกิ้ลจนปวดหัว แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ และถ้างานแต่งงานของบ่าวสาวมีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้เกียรติมาร่วมงาน เดรสโค้ดก็ควรจะเป็นอะไรที่ดูเรียบง่ายจะเหมาะสมกว่า

3. เปลี่ยนชุดแต่งงานแค่ 2 ชุดก็พอ
แต่งงานครั้งเดียว แต่ชุดแต่งงานที่อยากใส่ดันเยอะเหลือเกิน เกิดอาการรักพี่เสียดายน้องขึ้นมาหากต้องตัดชุดไหนออกไปสักชุด แถมคุณเจ้าบ่าวก็ช่วยซัพพอร์ตเรื่องชุดแบบเต็มที่ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จัดไปค่ะ แต่!! สิ่งที่เจ้าสาวต้องพึงระวังและคิดให้ดีคือ ช่วงเวลาที่จะใช้ในการเปลี่ยนชุด รวมไปถึงลุคแต่งหน้า-ทำผมด้วย

ซึ่งลุคแต่งหน้าทำได้มากสุดก็อาจจะแค่เติมแก้มนิด เติมตาหน่อย แล้วจบด้วยเปลี่ยนสีปาก ส่วนทรงผมก็อาจจะเริ่มจากปล่อยผม แล้วเกล้าผม จบด้วยการติดเครื่องประดับ เพราะฉะนั้นเจ้าสาวต้องคุยกับช่างแต่งหน้า-ทำผมให้เคลียร์ว่าจะมีกี่ชุด เปลี่ยนหน้ากี่ลุค เปลี่ยนผมกี่ทรง เพื่อที่ช่างจะได้ววางแผนในการแต่งหน้า-ทำผมได้ถูก รวมไปถึงแจ้งกับทางผู้จัดงานด้วยว่าคุณจะเปลี่ยนชุดในช่วงพิธีไหนบ้าง เพื่อที่ผู้จัดงานจะได้จัดไทมไลน์ในช่วงเวลาที่เจ้าสาวไปเปลี่ยนชุดได้ถูก

แต่จริงๆ แล้วการมีชุดแต่งงานเพียงแค่ 2 ชุด ดูจะเป็นอะไรที่เหมาะสมลงตัวที่สุด ทั้งสำหรับไทม์ไลน์ของช่วงพิธี และลุคแต่งหน้าทำผมที่ไม่ต้องยืดเยื้อเพราะต้องรอเจ้าสาวแค่คนเดียว

TIP หากเจ้าสาวอยากออกแบบชุดแต่งงานด้วยตัวเองที่มีรายละเอียดต่างๆ ที่ชอบและอยากได้ ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะสามารถใส่ทุกอย่างที่ต้องการลงไปในชุดแต่งงานชุดเดียวได้หรอกนะ เพราะหนึ่ง. ต้องคำนึงถึงรูปร่างของเจ้าสาวด้วยว่าเหมาะกับชุดแต่งงานแบบที่เจ้าสาวอยากได้หรือไม่ และสอง. ยังต้องดูให้เหมาะสมกับรูปแบบของงานและสถานที่ด้วย เพราะฉะนั้นการรับฟังและเชื่อใจผู้เชี่ยวชาญจึงสำคัญมากในการที่จะได้มาซึ่งชุดเจ้าสาวที่ทั้งสวยงามและเหมาะสม

4. เลือกดอกไม้ที่ชอบแต่ไม่ตรงตามฤดูกาล
ดอกไม้คือส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยสร้างสีสัน ความสดชื่น ความสวยงาม และความอ่อนหวานให้กับงานแต่งงานของคุณ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกว่าอยากได้ดอกไม้อะไรมาประดับไว้ในงานแต่งงาน เราขอแนะนำให้คุณเลือกช่วงเวลาที่จะจัดงานให้ได้ก่อน เพราะการเลือกดอกไม้นอกฤดูกาลมาจัด นั่นเท่ากับว่าบ่าวสาวจะต้องแบกรับคอร์สอันมหาศาลเอาไว้ด้วย ดังนั้นให้ช่วงเวลาที่จัดงานเป็นตัวกำหนดดอกไม้ที่จะใช้ในงานน่าจะช่วยให้บ่าวสาวประหยัดได้มากกว่านะ

5. งานแต่งจีนนะ ไม่ใช่งานแซยิด
ภาพถ้วยจานชามสีขาว-ฟ้าที่เป็นลวดลายจีน หรือแม้กระทั่งเซตสำหรับยกน้ำชา ที่ผู้ใหญ่หลายคนอาจจะมองว่าเหมาะสมและดูดีเป็นทางการสำหรับงานแต่งงานที่มีแต่แขกผู้ใหญ่เป็นคนจีน แต่ระวังว่าภาพถ่ายที่ออกมาแทนที่จะดูเป็นงานแต่งงาน อาจจะดูเป็นงานเลี้ยงแซยิดครอบครัวแทนนะ ซึ่งถึงแม้จะเป็นงานแต่งจีนจ๋า แต่ก็ไม่ต้องใช้จานชามแบบจีนก็ได้ อาจจะลองเปลี่ยนมาใช้อะไรที่เป็น สีแดง ซึ่งเป็นสีมงคลแทนดูก็ได้นะ

>> ดูไอเดียดีๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพ pexels.com

ซ้อมไว้ก่อนคำถามงานแต่งสองแง่สามง่ามกับแนวทางการตอบแบบเอาอยู่

หลายครั้งหลายคราเวลาที่ได้มีโอกาสไปร่วมงานแต่งงาน สิ่งหนึ่งที่มักจะเก็บมาเล่าสู่กันฟังสนุกๆ คือ ช่วงที่ได้เห็นบ่าวสาวตอบคำถามบนเวทีที่มีทั้งอารมณ์ขัน ความซึ้ง ความหวานของคู่รัก แต่ก็มีไม่น้อยที่บ่าวสาวจะออกอาการอึ้งกิมกี่กับคำถามประเภทแง่สามง่าม ที่พิธีกรโยนมาให้ หลายคนถึงกับหน้าแดงแจ๋เขินอายจนตอบไม่ถูก วันนี้ แพรว wedding เลยรวบรวม 5 คำถามงานแต่ง กำกวมพร้อมแนวทางการตอบมาฝากว่าที่บ่าวสาวกันจ้า

1.  เสร็จงานคืนนี้จะทำอะไรต่อ?

คำถามยอดฮิตที่มีเกือบทุกงานแต่ง เมื่อพิธีกรถามขึ้นมาว่า “เสร็จงานคืนนี้จะทำอะไรต่อ?” (พร้อมทำหน้าแบบมีเลศนัย) แขกทุกคนจะหูผึ่งรอฟังคำตอบ ถึงแม้ว่าจะเป็นคำถามเรียกเสียงฮาได้มาก  แต่ถ้าว่าที่บ่าวสาวมัวแต่ตื่นเต้นคิดคำตอบไม่ทัน อาจทำให้แขกในงานเงิบกันก็ได้นะ

วิธีการตอบคำถามแบบนี้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่คุณตั้งสติสักนิดแล้วมองไปรอบๆ งานว่ามีแขกผู้ใหญ่อยู่เยอะแค่ไหน ถ้าพวกท่านยังนั่งอยู่ คุณควรจะตอบกลางๆ ไม่ให้ดูกำกวมเกินไปนัก เช่น พักผ่อนครับ/ค่ะ เคลียร์ค่าใช้จ่ายกับทางโรงแรมครับ/ค่ะ เป็นต้น แต่ถ้าบรรยากาศเริ่มผ่อนคลาย ไม่เป็นทางการมากอย่างในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่มีแต่เหล่าเพื่อนพ้อง คุณก็สามารถตอบให้สนุกๆ ได้ เช่น เดี๋ยวคิดก่อนนะ หรือตอบตรงๆ ไปเลยว่า ทำการบ้านด้วยกันก่อนนอน รับรองได้ฮากันทั้งงานแน่!

2. ชอบอะไรในตัวเจ้าสาว?

ข้อนี้ดูเหมือนจะเป็นคำถามเบๆ ที่ได้ยินกันบ่อยทุกงานแต่ง แน่นอนว่าแขกหลายคนก็รอฟังคำตอบของทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเหมือนกันว่าทั้งคู่นั้นชอบอะไรและปิ๊งปั๊งกันตรงไหน ซึ่งวิธีตอบที่กล่าวถึงนิสัยใจคอของคนรัก เช่น ชอบที่เขาเป็นคนน่ารัก นุ่มนวล รักครอบครัว แบบนี้ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่แขกผู้ใหญ่รับได้

ขณะเดียวกันในความเป็นจริงแล้ว พิธีกรอาจจะหมายถึงอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ถ้าหากว่าภายในงานไม่เหลือแขกผู้ใหญ่แล้ว คุณก็สามารตอบขำๆ ไปก็ได้ เช่น ชอบที่ดวงตา จมูก ไหปลาร้า หน้าอก ขาอ่อน หรือขนหน้าแข้ง แบบนี้ก็ฮาดีเหมือนกันนะ

3 .เจ้าสาว/เจ้าบ่าว สวย/หล่อ ตรงไหน?

คำถามวัดใจคู่รักมาถึงแล้วจ้า ที่ต้องบอกว่าวัดใจก็เพราะว่า หากได้ยินคำถามนี้แล้วเกิดไม่คิดให้ดีก่อนตอบ คนที่จะออกอาการงอนคงไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคนที่ยืนข้างกายบนเวทีนั่นแหละจ่ะ เพราะฉะนั้นก่อนจะตอบออกมาต้องให้เวลาคิดสักนิด ลองมองคนข้างๆ ให้ดีแล้วตอบให้ชัดๆ หรือตอบแบบกันเหนียวไปเลยว่า “สวย/หล่อ ทุกกระเบียดนิ้ว” แบบนี้รับรองว่ารอดชัวร์! แต่ระวัง! อย่าเผลอตอบว่า “ไม่รู้” เด็ดขาด มิเช่นนั้นหลังเสร็จงานอาจต้องตามง้อกันจนเหนื่อย!

แต่กับบางคู่ที่มีพื้นฐานนิสัยฮาๆ และขี้เล่น (ส่วนใหญ่เป็นเจ้าบ่าว) อาจตอบแบบขำๆ ไปเลยก็ได้ว่า สวย/หล่อ เวลาหันหลัง แบบนี้เป็นต้น

4. กี่ครั้งแล้วเนี่ย?

ขอบอกเลยว่าได้ยินคำถามนี้ทีไรหัวใจมักจะหล่นไปที่ตาตุ่ม อุ๊ยต๊ายตาย! พิธีกรช่างถามมาได้ว่า “กี่ครั้งแล้วเนี่ย?” และไอ้จำนวนครั้งที่ว่านี้พิธีกรก็ไม่ได้ระบุให้ชัดเจนแจ่มแจ้งว่าคืออะไร ทำเอาแขกในงานรีบกางใบหูรอฟังคำตอบ แต่ในขณะเดียวกัน บ่าวสาวบนเวทีก็คงคิดว่าจะตอบยังไงกับคำถามนี้ดี ซึ่งบอกให้ฟังตรงนี้เลยก็ได้ว่า ตอบไม่ยาก!

วิธีที่คุณจะรอดพ้นคำถามนี้ไปแบบสวยๆ หล่อๆ ในขณะที่ผู้ใหญ่หลายท่านยังอยู่ในงาน เพียงแค่คุณหยิบยกการกระทำน่ารักๆ ใสๆ อย่างเช่น การจับมือหรือไปดูหนังมาตอบคำถาม เช่น จับมือหลายครั้งแล้วครับ/ค่ะ หรือ ไปดูหนังด้วยกันมาหลายครั้งแล้วครับ/ค่ะ แบบนี้รับรองว่า win ชนะคำถามกำกวมแบบไม่ขัดใจผู้ใหญ่และไม่ประเจิดประเจ้อด้วย

5. อีกกี่เดือนจะมีน้อง?
แหม… ถามมาโต้งๆ แบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการเลียบๆ เคียงๆ ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวรีบปั๊มเจ้าตัวน้อยให้ออกมาวิ่งเล่นไวๆ เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่มั่นใจว่าจะผลิตลูกได้ภายในเร็ววัน แนะนำให้ตอบเบี่ยงประเด็นไปว่า “อ๋อ มีน้องอยู่แล้วครับ/ค่ะ ทั้งน้องสาว น้องชาย น้องรหัส” แบบนี้ก็เรียกเสียงฮากลบความเขินได้เหมือนกัน แต่ถ้าบ่าวสาวคู่ไหนตอบไม่ระวัง เช่น เดี๋ยวอีก 3 เดือน 6 เดือน มีแน่! แบบนี้ระวังแขกจะต๊กกะใจ คิดว่าเจ้าสาวป่องก่อนแต่งนะจ๊ะ

5 คำถามข้างต้นอาจไม่ได้เกิดกับทุกคู่รัก แต่ถ้าบังเอิ๊ญบังเอิญว่าบรรยากาศสนุกสนานมันพาไป ชวนให้พิธีกรอยากเรียกเสียงหัวเราะด้วยคำถามสุดเสี่ยงสองแง่สามง่าม กำกวมนิดๆ ทะลึ่งหน่อยๆ แบบนี้ล่ะก็ บ่าวสาวก็เตรียมสติแล้วตอบให้ดีๆ จะได้ไม่ต้องยืนอ้ำๆ อึ้งๆ บนเวทีให้อายแขกเหรื่อนะ ^^

>> ดูคำแนะนำและไอเดียเกี่ยวกับงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพ pexels

วาระเวลา การ์เด้นฮอล สถานที่จัดงานแต่งงานที่เป็น “Exclusive Functional Hall แห่งแรกของประเทศไทย” ให้บ่าวสาวได้งานแต่งงานสวยสมใจฝัน

วาระเวลา การ์เด้นฮอล เป็น Exclusive Functional Hall หรือสถานที่ที่ได้รับการดีไซน์ฟังก์ชันการใช้งานขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การเป็นสถานที่จัดงานที่มีความ Flexible คือสามารถจัดงานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การจัดงานแต่งงานแบบ private party, แบบ exclusive event, หรือใช้เป็นสถานที่สำหรับ fashion shooting รวมไปถึงการเป็น art gallery และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งชื่อของ “วาระเวลา” สร้างขึ้นมาจากการนำคำภาษาไทยสองคำมาผสมกันคือคำว่า “วาระ” หมายถึง โอกาสพิเศษ และ “เวลา” หมายถึง ช่วงเวลา เพราะฉะนั้น “วาระเวลา” จึงหมายถึง “ช่วงเวลาพิเศษในชีวิต” วาระเวลา การ์เด้นฮอล จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ที่คุณสามารถเข้ามาสร้างประสบการณ์ที่พิเศษในแบบฉบับของคุณเองได้เพื่อสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจนั่นเอง

เวลา การ์เด้นฮอล ตั้งอยู่บนถนนโยธินพัฒนา 3 ซึ่งการเดินทางสะดวกเพราะใกล้ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ และศูนย์การค้า Central Festival Eastville  โดยในพื้นที่สามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง 350 ท่าน และมีพื้นที่จอดรถได้ประมาณ 175 คัน ซึ่งภายในพื้นที่มีทั้งในส่วนของ Indoor และ Outdoor โดยแต่ละพื้นที่จะถูกเชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด ประกอบไปด้วย

  • Hallway Garden : สนามหญ้าจริง ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับจัดงานกลางแจ้งในสนามหญ้าสีเขียวบริเวณด้านนอก รายล้อมด้วยทิวสนและต้นโอ๊ค ท่ามกลางสายลมและแสงแดดอ่อนๆ เหมาะสำหรับพิธีแลกแหวน, พิธี Vow Ceremony หรือพิธีรดน้ำสังข์ก็ได้

 

  • The Overture : เป็นห้องสำหรับทำพิธีหลักๆ ตั้งแต่พิธีเจรจาสู่ขอ สวมแหวน ยกน้ำชา จนถึงพิธีรดน้ำสังข์ หลังจากนั้นยังสามารถใช้เป็นจุดตั้ง Photo Backdrop ได้ด้วย ซึ่งห้องนี้สามารถรองรับแขกได้ประมาณ 50 ท่าน

 

  • Duet Patio : สนามหญ้าตรงกลางพื้นที่ท่ามกลางสายลมและแสงแดดอ่อนๆ โดยพื้นที่ Duet Patio นี้ทางทีมงานสามารถดีไซน์ออกมาได้หลากหลายรูปแบบทั้งใช้สำหรับการจัดเลี้ยง หรือจะตกแต่งเป็นทางเดินเพื่อเปิดตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปสู่ VARAVELA Chamber ก็ได้ นอกจากนี้ VARAVELA ยังได้เพิ่มหลังคาแบบพิเศษที่สามารถเปิด – ปิดได้ ตรงโซน Duet Patio เพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องสภาพอากาศ อีกทั้งยังสามารถรับแสงแดดธรรมชาติที่สาดส่องมาได้อีกด้วย ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้สามารถรองรับแขกได้ประมาณ 150 ท่าน

  • Varavela Chamber : ห้องโถงจัดเลี้ยงสำหรับพิธีฉลองมงคลสมรสขนาดใหญ่ ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ความเป็นกลางของธรรมชาติ” ภายในมีเสาหินประดับหัวเสาด้วยสถาปัตยกรรมแบบกรีก พร้อมก่ออิฐเป็นซุ้มโค้ง Arch ตามแบบสถาปัตยกรรมโรมัน ด้านข้างติดกระจกขนาดใหญ่ทำให้แสงจากภายนอกสาดส่องเข้ามาถึงภายในตัวห้อง เหมาะสำหรับจัดงานแต่งงานทั้งแบบ Long table และแบบ Cocktail ซึ่งสามารถรองรับแขกได้ประมาณ 250 ท่าน

  • Signature Lounge : ห้องรับรองสำหรับแขกผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย และยังสามารถใช้ประกอบพิธีรดน้ำสังข์ และสามารถทำเป็นห้องส่งตัวได้อีกด้วย ห้องนี้สามารถรองรับแขกได้ประมาณ 20 ท่าน
  • Arches Lawn : เป็นบริเวณพื้นที่สำหรับวางอาหาร ทั้งแบบ Buffet และ Cocktail รวมทั้ง Food Station ต่างๆ
ดูภาพเพิ่มเติม คลิกที่รูปได้เลย >>

ในส่วนของแพ็คเกจทาง วาระเวลา การ์เด้นฮอล ก็มีให้บ่าวสาวได้เลือกเพื่อให้ตอบโจทย์กับงานแต่งงานของคุณ ตามนี้

  • SET A : THE MINIMAL เริ่มต้นที่ 150,000 บาท“เรียบง่ายแต่ครบถ้วน” ด้วยเซตเริ่มต้นที่วาระเวลาคิดมาให้แล้วในราคา 150,000 บาท ที่ให้ครบทั้งสถานที่จัดงานเน้นบรรยากาศในสวน พร้อมการตกแต่งเรียบง่ายด้วยฉากถ่ายภาพสำหรับทำพิธีเช้าที่สามารถปรับเปลี่ยนตามธีมที่ต้องการได้ใหม่ และหากต้องการเพิ่มเติมการตกแต่งส่วนอื่นๆ แบบ Customize ก็สามารถทำได้ โดยทางวาระเวลามีดีไซเนอร์และทีมตกแต่งที่จะช่วยออกแบบพร้อมตกแต่งให้อยู่ในงบประมาณที่บ่าวสาวตั้งไว้ และยังให้คำปรึกษาสำหรับตำแหน่งการจัดวางในจุดต่างๆ ให้บ่าวสาวอีกด้วย

 

  • SET B : THE SIGNATURE เริ่มต้นที่ 270,000 บาท“ไม่มากไม่น้อย…กำลังพอดี” คือคำจำกัดความของ Set B ที่เซตราคาไว้ที่ 270,000 บาท ให้บ่าวสาวได้จัดงานแต่งงานตามประเพณีในช่วงเช้าต่อเนื่องด้วยงานเลี้ยงฉลอง โดยวาระเวลามีให้ทั้งฉากถ่ายภาพและแกลลอรี่ภาพถ่าย หรือถ้าบ่าวสาวอยากแตกต่างไม่ซ้ำใคร วาระเวลายังมีทีมตกแต่งมืออาชีพที่พร้อมออกแบบเพื่อต่อยอดความฝันของคุณให้เป็นจริง พร้อมให้คำแนะนำการจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อให้งานแต่งงานของบ่าวสาวออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด นอกจากนี้ใน Set B ยังมีทีมรันคิวที่ช่วยวางลำดับงานให้เป็นไปตามฤกษ์และอยู่ในช่วงเวลาที่คุณต้องการถึง 3 คน เพื่อดูแลให้งานแต่งงานของคุณ ไหลลื่นแบบไม่มีหลุดคิว

 

  • SET C : THE SELECTIVE เริ่มต้นที่ 350,000 บาท“ครบถ้วนทุกสิ่งที่งานแต่งงานต้องมีทั้งทีมงานและของตกแต่ง” เพื่อให้บ่าวสาวได้มีงานแต่งงานในฝันที่สมบูรณ์แบบที่สุดในราคาเพียง 350,000 บาท ในส่วนของตกแต่ง วาระเวลามีให้ทั้งฉากถ่ายภาพสำหรับใช้ในพิธีการช่วงเช้าทั้งหมดและเติมเต็มงานแต่งงานครั้งเดียวในชีวิตของคุณด้วย Photo Backdrop ที่สามารถใช้ได้ทั้งบริเวณ Indoor และ Outdoor โดยเลือกแบบได้ตาม Catalog Decoration (Light Installation / Medium Installation / Heavy Installation)

นอกจากนี้วาระเวลายังใส่ใจในความครบถ้วนแบบไม่มีตกหล่นด้วยการใส่รายละเอียดใน Main Stage Backdrop โดยสามารถปรับสีตามธีมที่บ่าวสาวต้องการโดยทีมตกแต่งที่จะทำงานคู่กับ Personal Planner ที่คอยให้คำแนะนำและช่วยดูแลให้คุณได้งานแต่งงานในรูปแบบและงบประมาณที่วางไว้ และยังมีทีมรันคิวเพื่อช่วยวางแผนลำดับงานและประจำการตามจุดต่างๆ ถึง 5 คน พร้อมพิธีกรมืออาชีพที่พร้อมดูแลทุกสถานการณ์อีก 1 คน เพื่อให้คุณได้มีงานแต่งงานที่แสนพิเศษเป็นที่น่าจดจำ

วาระเวลา การ์เด้นฮอล
ตั้งอยู่บนถนนโยธินพัฒนา 3 ใกล้ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์
โทร. 02-946-6626 และ 097-271-3888
เฟซบุ๊ก : www.facebook.com/VARAVELA
เว็บไซต์ : www.varavela.com
อีเมล : [email protected]

เผยความลับที่ซ่อนอยู่ในถ้วยชาใบจิ๋วในพิธียกน้ำชาแบบจีนที่บ่าวสาวต้องรู้

แน่นอนที่สุดว่าใน พิธียกน้ำชา นั้น นอกจากความสวยงามของถ้วยน้ำชาแล้ว ก็ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่บ่าวสาวยังต้องคำนึงถึงอีก อย่างเช่น เรื่องความสะอาด เป็นต้น แพรว wedding เลยขอไขความลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้ลวดลายของถ้วยชาอันสวยงาม พร้อมเคล็ดลับการทำความสะอาดถ้วยยกน้ำชามาฝาก

ถ้วยน้ำชา ทำไมต้องเรียบ

ก็เพราะว่าท่าทางการยกน้ำชา ด้วยการประคองถ้วยเล็กๆ ไว้ด้วยทั้งสองมือ เป็นการแสดงความนอบน้อมและความเคารพต่อผู้ใหญ่ที่เรากำลังยกน้ำชาให้ดื่ม

ลวดลายของถ้วย

ถ้วยชาจีนมักจะมีลวดลายสารพัดแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีความหมายมงคลที่แตกต่างกันไป เรามาดูลายยอดนิยมที่มักใช้ใน พิธียกน้ำชา กันดีกว่าว่ามีความหมายยังไงบ้าง

  • มังกรและหงส์ เป็นลายยอดนิยมอมตะนิรันดร์กาลเห็นได้ในทุกสิ่งของงานแต่ง มังกรเป็นตัวแทนของอำนาจและเจ้าบ่าว หงส์ ตัวแทนของวาสนาและเจ้าสาว ถ้วยหงส์และมังกรจึงเป็นการอวยพรคู่บ่าวสาวให้อยู่คู่กันยาวนานพรั่งพร้อมด้วยอำนาจวาสนา  ช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน
  • ดอกโบตั๋น เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ความมีเสน่ห์ และยังใช้เพื่อเป็นเรียกทรัพย์ให้เกิดความร่ำรวยอีกด้วย
  • ปลา ถือเป็นสัตว์มงคลของจีนอีกหนึ่งชนิด ซึ่งความหมายเน้นหนักไปทางความอุดมสมบูรณ์ของทรัพย์สิน ความร่ำรวยเงินทอง

ความลับของการทำความสะอาด

รู้เรื่องถ้วยกันแล้ว คราวนี้มาว่าด้วยความลับของทางผู้จัดการถ้วยกันดีกว่า ว่าทำไมหนอ ถึงสามารถล้าง เช็ด นำมาใช้ใหม่ได้ไวปานวอกขนาดนี้

ความลับก็คือไม่ได้ล้างจ้า  อย่าเพิ่งร้องยี๋ แสดงท่าทางรังเกียจนะ ที่ว่าไม่ได้ล้าง เพราะทางผู้จัดงานเขามีถ้วยแบบเดียวกัน ลายเดียวกัน เป็นสิบๆ ถ้วย วางเตรียมไว้ข้างๆ พอถ้วยชุดนี้ยกให้ผู้ใหญ่จิบแล้ว ก็เปลี่ยนถ้วยใหม่สำหรับผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ ต่อไปไง

แต่บางสถานที่ซึ่งมิได้มีถ้วยมากมายก่ายกองให้เปลี่ยนได้ไม่ซ้ำเขาก็มีวิธีทำความสะอาดแบบรวดเร็วทันใจเสิร์ฟไวอยู่เหมือนกัน ด้วยการเตรียมน้ำร้อนจัดเอไว้ข้างกายคนรินน้ำชา แล้วจัดการเทน้ำร้อนใส่ในถ้วยเป็นการลวกถ้วยก่อนเททิ้งเพื่อรินน้ำชาลงไป  เป็นการรักษาสุขอนามัยปลอดภัยไร้เชื้อโรค

นี่แหละคือความลับของถ้วยน้ำชาที่หลายคนไม่เคยรู้ คราวนี้ก็ขอให้ตี๋หมวยที่กำลังแต่งงานมีความสุขสมหวัง ร่ำรวยเงินทองและความสุขตามความหมายมงคลของถ้วยชาเลยนะคะ

>> ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อและพิธีแต่งงานแบบต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ขอบคุณข้อมูลจาก คุณวีรพงษ์ ซ้อนศรี ผู้จัดการแผนกจัดเลี้ยง โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด

บ่าวสาวต้องใส่ใจสั่ง แคทเทอริ่ง อย่างไรให้โดนใจแขกร่วมงาน!

แคทเทอริ่ง ดี ก็ทำให้งานแต่งของคุณมีชัยไปกว่าครึ่ง

การสั่งอาหารภายในงาน หรือ แคทเทอริ่ง เพื่อมาจัดเลี้ยงแขกที่เข้าร่วมในงานฉลองนั้นเป็นอีกขั้นตอนที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ก็แหม.. ถ้าท้องอิ่มแถมยังอร่อยจะมองไปทางไหนก็เอ็นจอยไปหมดนั่นแหละค่ะเชื่อเรา ฉะนั้นการสั่งอาหารที่จะมาเลี้ยงแขกภายในงานจึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและควรใส่ใจในดีเทลให้มาก เพราะหากคุณกำลังคิดว่าสั่งอะไรก็ได้นั้นล่ะก็ คุณกำลังทำพลาดอย่างแรงเลยล่ะคะ 

อาหารทานเล่น

แคทเทอริ่ง

การสั่งอาหารที่แขกภายในงานชื่นชอบเป็นอันดับต้นๆนั้นก็คืออาหารทานเล่น อาหารจานแรกที่แขกส่วนมากนิยมชมชอบเป็นพิเศษเนื่องจากทานได้ง่าย และมีความอร่อยแบบลงตัวมากที่สุด  อีกทั้งเด็กๆที่มาด้วยต่างก็ชอบของทานเล่นประเภทนี้มากกว่าอาหารจานหลักเสียอีก การเลือกอาหารทานเล่นจานแรกนี้ เราจึงขอแนะนำให้ท่านสั่งอาหารจำพวกที่มีถั่วเป็นองค์ประกอบ โดยเฉพาะถั่วที่มีราคาเสียหน่อย เช่นถั่วหิมพานต์ ซึ่งถั่วประเภทนี้จะถูกใจทั้งในวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่เลยทีเดียวค่ะ

อาหารจานหลัก  

แคทเทอริ่ง

สั่งอาหารประเภทจานหลักอย่างไรให้ถูกใจแขกภายในงานนั้นเป็นคำถามที่ยากอยู่เหมือนกันนะคะ  บางเจ้าภาพก็เลือกทานหรือสั่งอาหารที่ตนชอบเท่านั้น โดยลืมนึกถึงแขกที่เข้ามาร่วมภายในงาน  ยกตัวอย่างแขกที่มาร่วมในงานเป็นผู้สูงวัยเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ของงาน  การสั่งอาหารจำพวกปลาที่ทานง่ายย่อยง่ายนั้นเป็นอะไรที่ดีเยี่ยมมากๆ ลักษณะการสั่งอาหารประเภทจานหลักจึงควรมองดูเหล่าแขกที่เข้ามาร่วมภายในงานให้ดีๆ ว่าได้เชิญแขกในช่วงวัยใดมาร่วมบ้าง และควรสั่งให้เข้ากับวัยนั้นๆ เช่นในช่วงของแขกที่เป็นวัยรุ่นถึงวัยทำงาน  การสั่งอาหารประเภทหมู หรือเนื้อเป็นอาหารจานหลักนั้นก็มักจะถูกใจแขกที่เข้าร่วมมากกว่าสั่งอาหารประเภทปลานั่นเองค่ะ

ของหวาน 

แคทเทอริ่ง

การสั่งอาหารประเภทของหวานนั้นแบ่งได้เป็นสองชนิดใหญ่ๆ คือ ขนมหวาน กับผลไม้ คุณควรต้องสำรวจดูเสียก่อนว่าควรเลือกเสิร์ฟแบบไหนให้กลุ่มใด  เช่น หากมีผู้หญิงวัยทำงานเข้าร่วมในพิธีนี้มากๆการสั่งอาหารประเภทผลไม้จะทำให้แขกภายในงานถูกใจมากกว่าการสั่งของหวาน เพราะในวัยนี้มักรักษาสุขภายร่างกายและรูปร่างกันมาก แต่หากแขกภายในงานเป็นช่วงวัยเด็ก วัยรุ่น และผู้ชายอยู่มากการสั่งอาหารประเภทของหวานนั้นก็อาจจะเป็นอะไรที่ถูกใจแขกมากกว่าค่ะ

ไหนๆ ก็ใส่ใจทุกรายละเอียดขนาดนี้แล้ว ก็อย่าลืมเรื่อง อาหารงานแต่งเมนูไหนดี เมนูไหนร้าย บ่าวสาวควรรู้ไว้เพื่อเสริมมงคล

cr : mongkolcatering.com, kissthecookcatering.com, macaulifestyle.com, essexroom.com, theviewfromgreatisland.com

Beauty & The Beats ธีมงานแต่ง หรู เริด ดุจเทพนิยาย

ถ้าถามเหล่าสาวๆ ว่าหลงรักเทพนิยายเรื่องไหน เชื่อได้ว่าคำตอบต้องมีเรื่อง Beauty & The Beats หรือ โฉมงามกับเจ้าชายอสูรแน่นอน แล้วเราจะรอช้าอยู่ทำไม ในเมื่อเราสามารถเนรมิต ธีมงานแต่ง Beauty & The Beats นี้ได้ แถมออกมาสวยงามอลังการสุดๆ

ธีมงานแต่ง

สีหลักของงานแต่งงานในธีม Beauty & The Beats คือสี แดง ทอง และน้ำเงิน โดยมีลักษณะทางศิลปะแบบโรโกโก หรือที่เรามักเรียกกันว่า ศิลปะแบบหลุยส์ หรือความลวดลายไม้เลื้อยสีทองนั่นแหละ จึงทำให้งานแต่งในธีมนี้มีความอลังการจัดเต็มได้อย่างหรูหราเลยทีเดียว

เจ้าสาว

ธีมงานแต่ง

จากในการ์ตูนและภาพยนต์เราจะเห็นว่าชุดซิกเนเจอร์ของนางเอกคือสีเหลืองกระโปรงบานฟูฟ่อง แต่เมื่อมาเป็นชุดแต่งงานก็มีดัดแปลงกันเล็กน้อย แต่ยังคงความฟูฟ่องด้วยชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์แบบเปิดไหล่ แล้วอาจจะจัดเต็มลุคเจ้าหญิงเบลล์ด้วยชุดแต่งงานสีเหลืองอ่อนก็ได้นะ

เจ้าบ่าว

ธีมงานแต่ง

หากคุณเป็นเจ้าบ่าวสายแฟชั่นการใส่สูทปักลวดลายสีทอง หรือสูทที่มีความย้อนยุคจะเข้ากับธีมงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าไม่พร้อมจะใส่ขนาดนั้น สูทสีน้ำเงินกับเนคไท และพ็อคเก็ตสแควร์สีทองก็เข้ากับงานได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน

การ์ดเชิญ

เราใช้สีหลักได้ทั้ง 3 สีในการ์ดเชิญ หรืออาจจะเพิ่มลูกเล่นลวดลายแบบโรโกโก ไม่ว่าจะเป็นลายดุน หรือลายฉลุ ที่ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับการ์ดเชิญ และที่ขาดไม่ได้ก็กุหลาบสีแดงที่ตอกย้ำธีมงานให้ชัดเจนจนไม่ต้องบอกแขกก็เข้าใจธีมได้เลย

เค้ก

จัดธีมงาน Beauty & The Beats ได้เปรียบก็ตรงที่พร็อบส์จัดเต็มได้หมด ไม่ว่าจะเป็น ดอกกุหลาบ ลายหลุยส์ และสีทอง ที่แค่หยิบมาไว้ด้วยกันก็สวยเกินห้ามใจ หรือจะใส่กิมมิกรูปปราสาทลงในเค้กก็ยังได้ เป็นธีมงานที่มีทางเลือกสวยๆ เพียบ

เซ็นเตอร์พีช

การจัดดอกไม้กลางโต๊ะ แน่นอนว่าเราต้องให้ความโดดเด่นกับดอกกุหลาบ โดยเฉพาะกุหลาบในโดมแก้ว หรือถ้าไม่ชอบดอกไม้ งานเครื่องทองเหลืองก็ต้องมาไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา เชิงเทียน หรือแม้แต่ชุดชาก็ใช้ได้

การตกแต่ง

สามสีหลักยังถูกนำมาใช้ตกแต่งร่วมกับลวดลายหลุยส์ แล้วยิ่งถ้าได้สถานที่ที่มีลวดลายอยู่แล้วก็จะยิ่งทำให้เข้ากับธีมมากยิ่งขึ้น

เนี่ยล่ะงานแต่งในสไตล์ Beauty & The Beats ที่จัดเต็มทุกลวดลายดีเทล เรียกได้ว่ายกงานหลุยส์มาไว้ในงานได้เลย และแน่นอน อย่าลืมเปิดเพลง Beauty And The Beast ตอนเต้นรำด้วยนะ ^^ ส่วนใครที่อยากดูไอเดียอื่นๆ เรามีอีกเพียบ >> คลิกเลย <<

ภาพ Pinterest

เคล็ดลับเพื่อ เจ้าสาวผมบาง พร้อม 20 ทรงผม ที่ผมบางแค่ไหนก็เอาอยู่

เคล็ดลับเพื่อ เจ้าสาวผมบาง พร้อม 20 ทรงผม ที่ผมบางแค่ไหนก็เอาอยู่

อีกปัญหาของสาวๆ ยามใกล้แต่งงานก็คือ ความเป็น เจ้าสาวผมบาง จะทำให้เกิดความกังวลว่าทำผมแล้วจะไม่สวยบ้าง จะดูลีบแบนบ้าง พอจะมากระตุ้นผมให้ขึ้นทันงานแต่งก็ยากเย็นแสนเข็ญ วันนี้เราเลยมี 5 เคล็ดลับให้ผมดูหนาขึ้น พร้อมกับ 20 ทรงผมสวยๆ เพื่อสาวผมบาง

เคล็ดลับเพื่อ เจ้าสาวผมบาง

1. ทำสีผมแบบเลเยอร์

ทำไฮไลต์สีผมแบบเล่นเลเยอร์หลายๆ ระดับสี ไล่จากเข้มด้านใน มาอ่อนด้านนอก จะทำให้ดูว่ามีผมที่หนามากขึ้น

2. ดัดลอนผม

ดัดลอนคลายที่ผมด้านนอก หวียกที่ผมด้านใน จะทำให้ผมดูหนาไม่ลีบแบนติดหนังศีรษะ

3. ตัดผมเล่นระดับ

ทรงผมที่เหมาะกับสาวผมบางคือทรงผมบ๊อบ แล้วให้ดีต้องมีไล่ระดับเลเยอร์ให้ดูมีความลดหลั่น ก็จะทำให้ผมดูหนาขึ้น

4. ผมหน้าม้า

การตัดผมหน้าม้าไม่ใช่แค่ทำให้หน้าดูเด็กลงเท่านั้น แต่ยังช่วยปกปิดความบางของผมบริเวณรอยแสกได้ด้วย และทำให้ไม่รู้ด้วยว่าจริงๆ แล้วผมมันเถิกไปถึงไหนกัน

5. อายแชว์โดว์เติมโคนผม

ส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงจะมีปัญหาก็ตรงรอยแสกของผม จะเห็นไปถึงหนังศีรษะ การใช้อายแชว์โดว์สีเข้มที่เข้ากับสีผมมาถมบริเวณนี้ จะทำให้ผมดูหนาขึ้นมาเองแบบสัมผัสได้

ผมมวยสูง

เกล้ามวยสูง ดัดปอยผมให้คลอเคลียใบหน้า
เปลียนแสกข้างที่ไม่ทำบ่อย แล้วหวีไม่ต้องเรียบมาก พร้อมทำมวยหลวมๆ
สำหรับสาวที่ไม่มีปัญหาเรื่องหน้าผาก ก็รวบทั้งหมดแล้วมาทำมวยที่กลางศีรษะไปเลย

รวบหางม้า

สำหรับสาวที่หน้าผากไม่สูง ก็รวบทั้งหมดมาแล้วมัดหางม้าสูง ดัดปลายนิดๆ แค่นี้สวยเริ่ด
หวีปาดนิดๆ แก้ปัญหาเรื่องหน้าผาก แล้วรวบหางม้าต่ำ ไม่ทำให้ดูหน้าผากเถิก

ผมเปีย

ถักเปียสองข้างจากรอยแสก แม้จะเห็นหนังศีรษะ แต่ก็ไม่ได้ดูน่ากลัว แถมยังดูน่ารักอีกต่างหาก
ผมเถิกหนัก เห็นหนังศีรษะเยอะ ก็จัดเปียรอบผมไปเลย ส่วนตรงกลาง หวียกโคนผมก็สวยแล้ว แถมให้ลุคเฟรนด์ลี่อีกต่างหาก
ทำผมด้านบนให้ดูฟุ้งๆ แล้วรวบมาถักเปียด้านข้าง ดูเป็นเจ้าสาวช่างฝัน
เล่นสีไฮไลต์ แล้วดัดเฉพาะผมด้านบน สวยได้สบายๆ แถมไม่ดึงรั้งผมให้ผมหลุดร่วงด้วย
สาวผมสั้น ดัดลอนเบาๆ ที่ปลายผม แล้วหวีเป๋ ดูเป็นมิตรสุดๆ
หวีด้านบนให้ดูฟุ้งๆ ดัดลอนที่ปลายผม แล้วเพิ่มดีเทลด้วยดอกไม้ เป็นจุดเรียกสายตา
ถึงผมด้านบนจะดูลีบ แต่ก็เพราะสายสร้อยที่สวมอยู่ แล้วดัดลอนปลายผม นี่มันเจ้าสาววินเทจ โบโฮชัดๆ เลย
สวยละมุน ด้วยเกลียวผมด้านข้าง ช่วยเปิดหน้าให้สว่าง พร้อมดูผมพองมากขึ้น
ปกปิดหนังศีรษะด้วยกลุ่มดอกไม้ ปัดปอยผมมาด้านข้าง ส่วนด้านหลังก็หวียกโคนเป็นอันเสร็จสวยงาม

มวยต่ำ

หวีผมด้านบนให้ฟุ้ง แล้วเก็บปลายผมเป็นมวยต่ำ พร้อมติดเครื่องประดับเล็กน้อย ดูไม่ทางการ แถมยังน่ารักมาก
หยีผมให้ฟูขึ้น แล้วเกล้าแบบไม่จริงจัง มามัดจุกเล็กๆ ด้านหลัง ก็ดูผมพองขึ้นมาอีก 10 ระดับ
รวบผมตามรอยแสก แล้วมาถักเปียเก็บแบบหลวมๆ ปล่อยชายผมทิ้งลงมาแบบไม่ตั้งใจ
ดัดลอนทั้งหัว แล้วแบ่งกลุ่มผมมาเป็นปอยด้านหน้า ส่วนด้านหลังก็รวบเป็นมวยหลวมๆ ผมก็ดูมีมิติขึ้นมาก
สำหรับเจ้าสาวหน้าผากสูง แบ่งผมเป็นปอยหวีเป็นกระบังเล็กๆ ด้านหลังตีผมทุยให้ได้รูปทรง ปกปิดหนังศีรษะด้วยที่คาดผมดอกไม้สวยหวาน
รวบผมทั้งหมดไว้ด้านหลัง แต่ตีผมโป่งสูงดูสวยเรียบง่าย

ขนมาให้เพียบขนาดนี้ รักชอบทรงไหนก็จัดการเซฟไปให้ช่างทำผมดูได้เลย และไม่ใช่เพื่อสาวผมบางเท่านั้น เรายังมีเทคนิคดีๆ เพื่อความสวยของเจ้าสาวอีกเพียบ >> คลิกเลย <<

ภาพ unsplash.com, pinterest

เทรนด์คู่สีแต่งงาน Cranberry Orange & Ivory คู่สีร้อนแรงแต่สวยปรอทแตก

เทรนด์คู่สีแต่งงาน Cranberry Orange & Ivory คู่สีร้อนแรงสวยปรอทแตก

Cranberry Orange & Ivory เป็นอีกหนึ่ง เทรนด์คู่สีแต่งงาน ที่ถึงแม้จะดูเป็นโทนสีที่ร้อนแรงแต่เมื่อนำสองเฉดสีแดงเข้มและส้มปรี๊ดมาผสมกัน แล้วเบรคความแรงนี้ด้วยเฉดสีไอวอรี่ กลับได้ออกมาเป็นธีมสีงานแต่งที่สดใสอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเฉดสีนี้สามารถเข้ากันได้ดีกับสถานที่แต่งงานกลางแจ้งแบบบรรยากาศในสวน แต่ถ้าหากว่าที่บ่าวสาวจัดงานแต่งงานในอินดอร์ อาจจะเลือกห้องจัดงานในโทนสีขาว หรือสีเข้มไปเลย ถ้ายังนึกภาพไม่ออกว่าจะจัดงานแต่งธีมสีนี้ยังไงดี เรามีตัวอย่างไอเดียดีๆ มาให้ดูค่า

Cranberry Orange & Ivorycranberry-and-orange-wedding-color-ideas-for-fall-2017

เป็นธีมที่จับเอาสองสีโทนร้อนจัดยิ่งกว่าอุณหภูมิหน้าร้อนของเมืองไทยอย่าง ส้มและแดงมารวมเข้าไว้ด้วยกัน แล้วเบรคด้วยสีอุ่นๆ ที่มีความผู้ดีสูงอย่างขาวงาช้าง ทำให้ดูเป็นธีมที่ร่าเริงแบบไม่กลัวแดดเลยทีเดียว

การตกแต่ง

colour-pallet-120
เพราะเป็นคู่สีแห่งหน้าร้อนการตกแต่งจึงเน้นวัสดุจากธรรมชาติอย่างพวกใบไม้แห้งสีสดที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์  และผลไม้ลูกไม้สีจัดๆ หรือจะเป็นงานแต่งกลางสวนท่ามกลางการเปลี่ยนสีของใบไม้ ก็ทำให้เข้ากับธีมได้แบบไม่ต้องตกแต่งอะไรมากมาย

ช่อดอกไม้

20
เป็นช่อดอกไม้ที่เน้นสีจี๊ดไม่แคร์เวิล์ด แต่เพราะสีส้มทำให้รู้สึกว่าเป็นช่อดอกไม้ที่ค่อนข้างสดใส และในช่อมักมีลูกไม้สีแดงแซมอยู่

อาหาร

เทรนด์คู่สีแต่งงาน

สีแห่งหน้าร้อนขนาดนี้น้ำผลไม้จำพวกทรอปิคอลจึงต้องมา ทั้งน้ำส้ม น้ำแครนเบอร์รี่ น้ำพันซ์ หรือจะเป็นน้ำอินฟิวส์เพื่อสุขภาพก็มี ซึ่งมีการตกแต่งแก้วอย่างสวยงาม ส่วนเค้กก็ใช้สีขาวเป็นหลักเพื่อความสบายตา แต่ในการตกแต่งก็เน้นจัดเต็มทุกสีสัน ด้วยผลไม้สีแดงตระกูลเบอร์รี่ ยังมีลูกเล่นสีส้มที่จัดออกมาหลายเฉดหลายสไตล์ ทำให้เป็นอีกธีมที่เค้กมีความโดดเด่นมากจริงๆ

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

Navy Coral & Gold ธีมสีงานแต่งที่ให้อารมณ์สดใสและเป็นกันเอง

Navy Coral & Gold ธีมสีงานแต่งที่ให้อารมณ์สดใสและเป็นกันเอง

ธีมสีงานแต่ง คือตัวกำหนดหลักว่างานแต่งของบ่าวสาวจะออกมาในอารมณ์ประมาณไหน ซึ่งหากบ่าวสาวอยากได้งานที่ดูแล้ว อบอุ่น สบาย เป็นกันเอง แต่ก็ยังมีความเป็นทางการอยู่ แพรว wedding ขอแนะนำ ธีมสีพีช-สีกรม-สีทอง ที่เมื่อจับมาผสมกันแล้วได้ความลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ

Navy Coral & Gold

navy-blue-coral-and-gold-wedding-color-ideas-for-2017-trends

เทรนด์สีสดใสมว๊าก และยังเป็นการจัดโทนสีที่ต้องยอมรับจริงๆ ว่าไม่คุ้นตา แต่เนี่ยละคะ เทรนด์สีสุดเลอค่าที่จะช่วยให้งานแต่งของบ่าวสาวออกมาดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ กับการผสมผสาน สีน้ำเงินเข้ม สีชมพูอมส้ม และสีทองเลอค่า เข้าไว้ด้วยกัน มาดูกันดีกว่าว่าอยู่ด้วยกันแล้วจะเป็นยังไง

การตกแต่ง

3

เป็นการจับคู่สีที่สนุกสุดๆไปเลย งานนี้ไม่มีใครยอมใคร จึงขอแนะนำว่าสีทองเป็นสีที่รอดเมื่ออยู่กับทั้งสีน้ำเงินและสีชมพู และด้วยความที่สีค่อนข้างสนุกสนานขนาดนี้ ลายที่เข้าได้เป็นอย่างก็คือลายจุดที่สื่อถึงความซนซ่านั่นเอง

เสื้อผ้า หน้าผม

14

หลายคนอาจกำลังคิดว่า แหมมม สีมันช่างโหดร้าย หาความเข้ากันไม่มี แต่เราอยากจะบอกกับคุณๆ ว่า สีนี้มันดีต่อใจทั้งสำหรับคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย คุณเจ้าสาวและแก๊งเพื่อนก็สวยพริ้งในสีชมพูได้ ส่วนคุณผู้ชายก็เท่สมาร์ทในสีน้ำเงิน หรืออยากจะหยิบดอกไม้สีชมพูมาแซมก็ดูดีเข้าธีมไม่เบาเหมือนกันนะคะ

 

อาหาร

19

อาหารในงานจะออกมาโทนสนุกสนานวิบวับกลิตเตอร์ได้เต็มที่ แต่ถ้าอยาได้ความสุขุมก็หยิบสีน้ำเงินมาเบรกความเริ่งร่านี้ก็ได้ ส่วนเครื่องดื่มเราขอแนะนำ น้ำลิ้นจี่สีหวานที่เข้ากับธีมงานสุดๆ

และนี่คือบรรยากาศงานแต่งงานในเฉดสี น้ำเงิน-สีพีช-สีทอง เป็นยังไงคะ พอแมตช์กันให้เห็นภาพแบบนี้แล้วอยากจัดงานสีนี้กันขึ้นมาเลยใช่ไหมล่ะ เอาเป็นว่า บ่าวสาวคู่ไหนที่จัดงานแต่งธีมสีนี้ ก็อย่าลืมส่งภาพมาอวดเราด้วยน้าาาา

>> ดูเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานและดูไอเดียงานแต่งได้อีกเพียบที่นี่ คลิกเลย <<

ภาพ pinterest

อาหารไม่มงคล สารพัดเมนูต้องห้ามในงานแต่งงานที่บ่าวสาวต้องรู้

ขึ้นชื่อว่างานมงคลอย่าง งานแต่งงาน ทุกอย่างที่อยู่ภายในงานก็ต้องมีความหมายที่ดี เพื่อส่งเสริมให้ชีวิตคู่ต่อแต่นี้ของบ่าวสาวมีแต่ความสุข แม้กระทั่งเรื่องอาหารการกินสำหรับเลี้ยงแขกก็ต้องเป็นมงคลไปด้วย แต่เมนูไหนมงคลหรือไม่บางทีว่าที่บ่าวสาวอาจจะไม่รู้ แพรว wedding เลยขอเปิดตู้กับข้าวมาบอกถึง อาหารไม่มงคล ที่ห้ามเสิร์ฟเด็ดขาดในงานแต่งงาน ตามนี้

ตามธรรมเนียมห้ามไม่ให้มี แกงบอน เพราะเปรียบได้กับปากบอน ปากเสีย เป็นเหตุให้ทะเลาะกันจนเลิกรา ต้มยำ เพราะเป็นอาหารรสชาติเผ็ดร้อน เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตคู่เกิดการทะเลาะกันแบบร้อนแรง และ ยำผัก เพราะพ้องเสียงกับคำที่ไม่เป็นมงคล

และ อาหารมักดอง จำพวก ปลาร้า เพราะมีกลิ่นเหม็น เชื่อว่าจะทำให้ความรักของทั้งคู่โดนดอง จนเบื่อและเหม็นหน้ากัน ปลาส้ม ก็ห้าม

หอยขม ด้วยชื่อสื่อถึงความรักที่ขมขื่น จึงไม่นิยมนำหอยขมมาทำเป็นอาหารในงานมงคล หมี่กรอบ เพราะมีลักษณะหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ง่าย สื่อความหมายถึงความรักที่เปราะบางถึงขั้นแตกหัก ข้าวต้ม เพราะเป็นอาหารที่ใช้ในงานอวมงคลหรืองานศพ จึงไม่นิยมนำมาใช้ในงานแต่งงาน ตีนไก่ ไม่นิมยมนำมาทำเป็นอาหารในงานแต่ง เพราะเชื่อว่าจะทำให้คู่บ่าวสาวทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นเลือดตกยางออก

อาหารไม่มงคล

ส่วน ขนมจีน ในอดีตนิยมทำเลี้ยงแขก เพราะขั้นตอนการทำขนมจีน สามารถเสี่ยงทายชีวิตคู่ได้ หากโรยแป้งลงไปในน้ำร้อน เมื่อตัดขึ้นมาแล้ว จับเป็นเส้นสวยงาม ไม่ขาด ไม่ยุ่ย จะถือว่าบ่าวสาวจะอยู่กินกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข แต่ถ้าแป้งเละและจับไม่เป็นเส้น คู่สามีภรรยาก็จะมีปัญหาในอนาคต

แต่ปัจจุบันความเชื่อเรื่องอาหารเหล่านี้ถูกลดทอนลงไปบ้างแล้ว อย่างเช่น ต้มยำ หมี่กรอบ หรือข้าวต้ม ก็เป็นอาหารที่พบเห็นกันมากขึ้นในงานแต่ง แต่สุดท้ายเราเชื่อว่าความรักความเข้าใจของคนสองคน มีอิทธิพลกับชีวิตคู่มากกว่าสิ่งอื่นใด จริงไหมล่ะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและความเชื่อของบ่าวสาวและครอบครัวนะคะ

>> เมนูอาหารมงคล สำหรับถวายพระและเลี้ยงแขกในงานแต่ง คลิกเลย! << 

ภาพประกอบ www.pinterest.com

พาทัวร์ 10 วัดสวยได้บรรยากาศแบบไทย น่าไปถ่ายพรีเวดดิ้งชุดไทยสุดๆ

ถ่ายพรีเวดดิ้งชุดไทย ในวัดดังทั่วไทย ได้ทั้งความเป็นไทย และความแปลกใหม่ในภาพเดียว

บ่าวสาวที่กำลังมองหาทำเล ถ่ายพรีเวดดิ้งชุดไทย  ไม่ต้องไปเล็งแค่เรือนไทยหลังงามเพียงอย่างเดียวหรอกนะคะ เพราะว่าสถานที่ใกล้เคียงอย่างวัดนั้นก็ให้อารมณ์ไทยสุดๆ แถมราคาไม่แพงจนถึงฟรีเลยค่ะ ไปดูกันซิว่า แพรว wedding ลิสต์มาให้ ที่ไหนใกล้บ้านคุณบ้าง

1. วัดโพธารามมหาวิหาร (วัดเจ็ดยอด) จังหวังเชียงใหม่

nrp_9736-4-copy

วัดชื่อดังที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดี มีอายุเก่าแก่อายุนับพันปี ไฮไลต์เด็ดอยู่ที่ความสวยงามของแปลกตาของสถูปทรงสี่เหลี่ยมและเจดีย์ที่มีถึงเจ็ดยอด รวมไปถึงวิหารมหาโพธิ์ ที่สร้างด้วยศิลปะแบบล้านนาเกิดเป็นความวิจิตรอ่อนช้อย นอกจากนั้นยังมีเงาไม้ร่มรื่น และโบราณสถานทำให้มาถ่ายเพียงแค่วัดเดียวแต่จะได้รูปที่ดูมีความหลากหลาย

ติดต่อ : วัดโพธารามมหาวิหาร อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ โทร. 053 224802


2. วัดอินทราวาส (วัดต้นเกว๋น) จังหวัดเชียงใหม่

nrp_0610-copy

วัดที่อัดแน่นไปด้วยศิลปกรรมที่ถูกต้องตามรูปแบบล้านนาแต่ดั้งเดิมเป๊ะๆ จนได้เป็นต้นแบบหอคำหลวงในงานพืชสวนโลก  ไฮไลต์ของวัดต้นเกว๋นที่บ่าวสาวต้องไปถ่ายมาให้ได้คือ วิหารไม้โบราณแบบศิลปะล้านนาเก่าแก่ และ ศาลามณฑปไม้จัตุรมุขศิลปะแบบล้านนาที่มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งบ่าวสาวทั้งหลายนิยมถ่ายรูปด้านหน้าในชุดไทยสวยสง่าให้ช่างภาพชักภาพติดสถาปัตยกรรมสำคัญทั้งสองในรูปเดียวกัน

_nrp1290-copy

ติดต่อ : วันอินทราวาส อำเภอหางดง โทร. 053248607


3. วัดป่าดาราภิรมย์ จังหวัดเชียงใหม่

_nrp9339-copy

สำหรับบ่าวสาวที่อยากได้ภาพได้บรรยากาศขาวๆ สว่างๆ น่าจะถูกใจวัดแห่งนี้เพราะสถาปัตยกรรมในวัดส่วนใหญ่เน้นโทนสีขาวและสีทองเป็นหลัก โดยเฉพาะพระธาตุเจดีย์พระพุทธบาทสี่รอย ที่มีฐานสีขาว และยอดสีทองสว่างไสว ส่วนอีกมุมที่ห้ามพลาดเลยก็คือพระวิหารหลวงและบันไดทางขึ้นรูปพญานาคที่แสนอ่อนช้อย

ติดต่อ : วัดป่าดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม โทร. 053862890

4. วัดโลกโมฬี จังหวัดเชียงใหม่

nrp_0551-copy

วัดเก่าแก่อายุกว่า 600 ปี แห่งนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณ เหมาะมากสำหรับบ่าวสาวที่อยากได้ความเคร่งขรึมและมีมนต์ขลังรวมถึงดีเทลงานไม้ที่หาชมได้ยากแล้วในปัจจุบัน มุมเด็ดของวัดแห่งนี้คือ ซุ้มประตูและกำแพงอิฐที่ดูยิ่งใหญ่ให้อารมณ์ธรรมชาติและประวัติศาสตร์ได้ในเวลาเดียว และอีกสถานที่ห้ามพลาดคือด้านหน้าคือวิหารไม้ทรงล้านนาที่ดูอ่อนช้อยและสถูปอิฐที่ดูแตกต่างแต่ลงตัวเหมาะจะเป็นตัวแทนของเจ้าสาวผู้แสนอ่อนหวานและเจ้าบ่าวผู้เข้มแข็ง

ติดต่อ : วัดโลกโมฬี อำเภอเมืองเชียงใหม่ โทร. 0-5340-4039


5. อุทยานประวัติศาสตร์ สุโขทัย จังหวัด สุโขทัย

%e0%b8%a8%e0%b8%b8%e0%b9%82%e0%b8%821

อุทยานแห่งนี้เต็มไปด้วยโบราณสถานมากมายเต็มพื้นที่หลายไร่ ชนิดที่ว่าเดินหามุมกันขาลากแน่นอนจึงขอแนะนำบ่าวสาวว่านำรถเข้าไปกันดีกว่าค่ะ ที่แห่งนี้เหมาะกับหนุ่มสาวสายอึดไม่ย่อท้อต่อแดดกล้าและชอบความหลากหลาย แต่ก็มีมุมหลักๆ ที่เห็นแล้วร้องบอกเลยว่าเนี่ยแหล่ะ สุโขทัยคือ วัดศรีชุมที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ทรงอ่อนช้อยตามศิลปะสุโขทัย และวัดสระศรีที่แม้จะเหลือเพียงฐานและเสาแต่นั่นล่ะคือไฮไลต์เด็ดที่โชว์ลานกว้างและยอดเสาที่เรียงแถวยาว รับรองว่าจะต้องเป็นพรีเวดดิ้งที่ยิ่งใหญ่ตระการตาแน่ๆ หรือถ้าเป็นบ่าวสาวสายชิลก็อาจเพิ่มเซตภาพลำลองสวีทหวานด้วยจักรยานท่ามกลางที่มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่เป็นแบคกราวด์ก็สวยแปลกตาไม่น้อยเลยทีเดียว

ติดต่อ : อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อำเภอเมืองสุโขทัย โทร. 055697241

 6. วัดพระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

san4

แลนด์มาร์คสำคัญของวัดแห่งที่บ่าวสาวต้องชักภาพให้ได้คือ เจดีย์ขนาดใหญ่ 3 องค์เรียงรายกันอยู่ในแนวเดียวกัน เหมาะสุดๆ สำหรับคู่รักที่อยากได้ฉากหลังแบบตระการตาให้กับภาพพรีเวดดิ้งของตัวเอง แถมไม่ร้อนเกินไปเพราะมีร่มเงาไม้ใหญ่ให้ได้พักพิง

ติดต่อ : วัดพระศรีสรรเพชญ์ อำเภอพระนครศรีอยุธยา โทร. 035242284


7. วัดกุฎีดาว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

mo

อีกหนึ่งโบราณสถานที่สวยงามของจังหวัดอยุธยาที่ตอนนี้กลายเป็นวัดร้างแสนเงียบเหงา แต่ก็ทำให้ถ่ายภาพได้ง่าย แถมให้บรรยากาศโลกนี้มีเพียงแค่สองเราไม่ให้ทำบาวสาวต้องเคอะเขินหรือกลัวจะมีไทยมุงมายืนล้อมยามโฑสต์ท่าที่แสนเชิดฉาย จุดที่บ่าวสาวห้ามพลาดคือพระอุโบสถรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ภายในมีเสายอดบัวเรียงรายกันอยู่ สวยเด่นไม่ว่าจะถ่ายจากภายในหรือภายนอก

ติดต่อ : วัดกุฎีดาว อำเภอพระนครศรีอยุธยา โทร.  0 35322730-1


8. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร

%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%b8%e0%b8%931

วัดโพธิ์ที่เราคุ้นเคยกันดี ก็เป็นอีกสถานที่เด็ดหากบ่าวสาวอยากถ่ายรูปในบรรยากาศเก่าๆ แต่ไม่อยากออกจากเมืองกรุงต้องมาที่วัดแห่งนี้ ด้วยศิลปะที่เต็มไปด้วยความหลากหลายจากช่วงต้นรัตนโกสินทร์ ทั้งแบบไทยแท้อิทธิพลตั้งแต่สมัยอยุธยา และแบบไทยจีน จุดที่บ่าวสาวต้องมาถ่ายแบบเป็น The Must คือบริเวณพระปรางค์วัดอรุณแลนด์มาร์คสำคัญริมเจ้าพระยา โดยเฉพาะตรงบริเวณบันไดทางขึ้นก่อนถึงพระปรางค์ที่อุดมไปด้วยศิลปะปูนปั้นแบบละเอียดยิบแถมยังเห็นพระปรางค์อยู่ในภาพอีกด้วย หรือจะเกร๋ๆ ไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งเราสามคน เจ้าบ่าว เจ้าสาว และคุณยักษ์วัดแจ้งก็ได้นะ 

ติดต่อ : วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เขตบางกอกใหญ่ โทร. 08-1250-6538


9. วัดราชนัดดารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร

%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8%ab%e0%b8%b01

วัดราชนัดดาฯหลายคนยังงงแต่ถ้าบอกว่า “โลหะปราสาท” ล่ะก็ร้องอ๋อกันขึ้นมาทันทีแน่นอน ทั้งโลกเหลือเพียงแค่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น บ่าวสาวคู่ไหนที่ชอบภาพแลนด์สเคปกว้างไกลกับสิ่งก่อสร้างยิ่งใหญ่ก็ต้องมาที่นี่แหล่ะ แถมจุดรวมพลคู่บ่าวสาวก็มีหลากหลายรอบ ขอเพียงถ่ายติดโลหะปราสาทเป็นใช้ได้ นอกจากนั้นคู่บ่าวสาวยังสามารถเดินมาถ่ายรูปต่อได้ที่ถนนราชดำเนิน ยิ่งถ้าเป็นช่วงกลางคืนถ่ายเก็บบรรยากาศแสงไปก็ยิ่งโรแมนติคสวีทหวาน

ติดต่อ : วัดราชนัดดารามวรวิหาร เขตพระนคร โทร. 022248807


1
0. วัดเฉลิมพระเกียรติ จังหวัด นนทบุรี

%e0%b9%80%e0%b8%89%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b9%91

วัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาในส่วนที่เงียบสงบ วัดแห่งนี้คนค่อนข้างน้อยกว่าวัดอื่นๆ จึงง่ายต่อการถ่ายพรีเวดดิ้ง แถมยังเป็นวัดที่มีหลากหลายมุมให้คู่บ่าวสาวได้เลือก ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์ที่ประดับด้วยศิลปะกระเบื้องจีนสมัยรัชกาลที่ 3  เรือนไทยขนาดใหญ่ และไฮไลต์เด็ดมากๆ คือศาลาริมน้ำที่วิจิตรสวยงาม และไม่เพียงจะได้บรรยากาศแบบวัดแล้ว ยังมีกำแพงหนาที่สร้างเลียนแบบกำเพงเมืองสมัยโบราณและ บรรยากาศแบบสวนไม้ร่มรื่นอีกด้วย

ติดต่อ : วัดเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมืองนนทบุรี โทร. 0-2881-6323

ถ่ายพรีเวดดิ้งในไทยก็มีสไตล์เก๋ไก๋ไม่น่าเบื่อ ไม่ต้องเปลืองเงินลัดฟ้าไปถ่ายพรีเวดดิ้งกันถึงต่างประเทศก็สวยได้ แต่อยากฝากบ่าวสาวที่กำลังวางแผนจะถ่ายพรีเวดดิ้งในวัดว่า จะโพสต์ท่า ยังไงก็สำรวมกริยาอย่าโชว์หวานสวีทให้เกินงามนะคะ 

ขอบคุณ

  • ภาพถ่ายในวัดโพธารามมหาวิหาร วัดอินทราวาส  วัดป่าดาราภิรมย์ วัดโลกโมฬี โดย Grace Wedding Studio โทร 08-9755-1345 เฟชบุ๊ค : พรีเวดดิ้งเชียงใหม่ เช่าชุดแต่งงานเชียงใหม่ Grace wedding studio Chiangmai
  • ภาพถ่ายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดกุฎีดาว จากสวีทเมมโมรี่ สตูดิโอ อยุธยา โดย  tum13 Tum jaranasakun โทร tel.08-9194-2836 เฟชบุ๊ค :  fotopreweding
  • ภาพถ่ายในวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดราชนัดดารามวรวิหาร วัดเฉลิมพระเกียรติ จาก Bre’a Wedding Studio โทร 09-5823-8555, 08-5070- 8248 เว็บไซต์ http://www.breawedding.com/

How To จัดอย่างไรให้เป็นสุดยอดงานแต่งงานที่ประทับใจไม่รู้ลืม

ใครๆ ก็มี งานแต่งงาน ในใจทั้งนั้น แต่จะดีกว่าไหมหากงานแต่งในใจนั้นทำได้จริงและแฮปปี้ด้วย

แพรว wedding เก็บตกประสบการณ์กลั่นกรองเป็นคำแนะนำเพื่อให้คุณได้เตรียมตัวจัด งานแต่งงาน เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดอันไม่ควรให้น้อยที่สุด หรืออย่างน้อยให้ประทับใจเจ้าภาพและแขกเหรื่อมากที่สุด ทำตามนี้รับรองแฮปปี้แน่นอน

ทำโซนนิ่งถ่ายรูป

ถ้าไม่อยากให้แขกมาออกันหน้าฉากถ่ายรูปจนเหมือนจลาจลย่อยๆ ซึ่งจะทำให้ช่างภาพทำงานลำบาก แขกจะเดินเข้าออกห้องจัดเลี้ยงก็ยากเย็น ทำอย่างไรดีให้ช่างภาพหน้าแบ็กดร็อปทำงานง่ายและได้ภาพที่สวยงาม บ่าวสาวอาจทำโซนนิ่งด้วยการกั้นเชือกรอบแบ็กดร็อปและพื้นที่ทำงานของช่างภาพ ร่วมทั้งเจ้าภาพควรหาคนมาจัดคิว 1-2 คน คอยจัดระเบียบให้แขกเข้าแถวและเชิญแขกเข้าออกถ่ายรูปคู่กับบ่าวสาว

ระหว่างบ่าวสาวตัดเค้กก็เช่นกัน แขกเหรื่อมักชูโทรศัพท์ถ่ายรูปกันสลอนอยู่รอบๆ คุณอาจคิดว่าไม่เป็นไร แต่ภาพที่ช่างภาพถ่ายติดในรูปมาเพียบคือ มือ หัวดำๆ แขน สมาร์ทโฟน ไปจนถึงอวัยวะต่างๆ ของแขกเหรื่อ จึงเป็นเหตุให้ช่างภาพหลายๆ คนในหลายๆ งานต้องขึ้นไปอยู่บนเวทีหรือบนซุ้มเค้กร่วมกับบ่าวสาวด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วช่างภาพควรจะเป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งในงาน คือกลืนไปกับสภาพแวดล้อม ไม่เด่นเด้ง ไม่ใช่เห็นชายสูทดำวูบไปวูบมารอบตัวบ่าวสาวทั้งงาน จึงควรขยายพื้นที่รอบซุ้มเค้กออกไปประมาณ 2 เมตร จะช่วยกันแขกออกไปให้ห่างตัวบ่าวสาวและทำให้ช่างภาพทำงานสะดวกขึ้น ภาพในงานก็จะไม่ดูเป็นจราจล ภาพถ่ายเก็บไว้ดูก็จะไม่เห็นมือ แขน ขา โทรศัพท์ และชายสูทดำติดมาในรูปให้ต้องรีทัชออก

งานแต่งงาน

ได้ดูรูปพรีเวดดิ้งกันบ้างไหม

จากประสบการณ์ที่ได้คุยกับเจ้าสาวรุ่นพี่ หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่ารูปแต่งงานที่คุณจะหยิบมาดูบ่อยที่สุดคือ ช่วงเวลาแต่งงาน ไม่ใช่ก่อนแต่ง โดยเฉพาะรูปพรีเวดดิ้งประเภทใส่ชุดแต่งงานเอาหน้าแนบกัน หอมหน้าผาก ตระกองกอด แล้วพริ้นต์ไซส์ใหญ่ยักษ์เอาไปตั้งไว้ในงานแต่ง จากนั้นคุณจะนึกเสียดาย เลยยกกลับมาตั้งไว้ที่บ้าน นั่นแหละตัวดี คุณจะผงะทุกครั้งที่เห็นรูปตัวเอง เพราะมันดูไม่ใช่ตัวคุณในชีวิตประจำวันอย่างแรง ผิดกับรูปขณะแต่งงานสไตล์แคนดิด นั่นละคือรูปที่จะพาคุณย้อนกลับไปสู่วันแห่งความทรงจำได้ดีกว่า

ถ้าคุณยังยืนกรานจะถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง บรรดาเซเลบคนดังฮิตมากที่จะถ่ายเป็นภาพพอร์เทรต อาจเป็นรูปขาว-ดำ เก๋ๆ นิ่งๆ แต่ทำให้ทุกครั้งที่เห็น คุณจะไม่ผงะและรู้สึกว่าครั้งหนึ่งฉันสวยจริง รักกันจริง ไม่ได้แอ็คท่ารักกันแบบฝืดๆ

 

ทำไมค่าตัวช่างภาพดีๆ ถึงแพง!!

ช่างภาพ เป็นสิ่งที่ควรลงทุน เพราะภาพดีๆ จะเก็บไว้ได้ตลอดไป คำถามต่อมาคือให้เพื่อนที่เป็นช่างภาพช่วยถ่ายได้ไหม ช่างภาพแต่ละแขนงก็ถนัดกันคนละด้าน ช่างภาพงานแต่งจะรู้ลำดับพิธีการต่างๆ เป็นอย่างดี รู้มุมว่าจะต้องวิ่งไปดักตรงไหน เวลาใด และยังเป็นช่างภาพที่ฝึกฝนทักษะการมองเห็นและเก็บภาพช่วงเวลาในเสี้ยววินาทีมาดีพร้อม เพราะคุณไม่สามารถย้อนกลับไปทำเหตุการณ์นั้นๆ ได้อีกแล้วในการแต่งงาน มันจึงเป็นภาพประทับใจ ด้วยเหตุนี้ถ้าเพื่อนคุณมีทักษะเช่นนี้ก็นับว่าเข้าทาง อีกคำถามโลกแตกคือ ค่าตัวช่างภาพทำไมถึงได้แพงงงงงจังงงงงงเลยยยยย!! ในที่นี้หมายถึงช่างภาพดีๆ เก่งๆ ทำงานแบบมืออาชีพ หรือคนที่คุณเห็นผลงานของเขาแล้วจี๊ดใจ อยากจ้างแต่อาจจะติดที่ตัวเลขศูนย์หลายหลักไปหน่อย

ซึ่งค่าตัวช่างภาพนั้นก็สามารถแจกแจงออกมาเป็นค่าต่างๆ ได้ดังนี้ ค่าเช่ากล้อง, ค่าเลนส์, ค่าไฟ (ไฟน้ำหรือไฟแฟลช), ผู้ช่วยช่างภาพ (ช่างภาพบางคนก็ต้องการ), ค่าตัวช่างภาพเอง, ค่าวิชาชีพ (ซึ่งคนส่วนมากมักไม่ค่อยคำนึงถึง), รวมถึงค่าคอนเน็กชั่นที่คนส่วนใหญ่ไม่ทันได้คิดถึงในแง่มูลค่า เช่น การที่ช่างภาพได้อุปกรณ์ สถานที่ หรือทีมงานคุณภาพมาถ่ายรูปให้คุณ ไม่ใช่ว่าใครมีเงินก็ทำได้เสมอไป บางครั้งมาจากคอนเน็กชั่นที่ช่างภาพสั่งสมมา ซึ่งคุณต้องให้เครดิตเขาในส่วนนี้ด้วย

งานแต่งงาน

ต่อมาเป็นเรื่องการจ่ายเงิน ซึ่งแล้วแต่ข้อตกลง แต่โดยทั่วไปถ้าเป็นช่างภาพที่มาโดยคอนเน็กชั่น คือมีคนรู้จักที่ไว้ใจได้แนะนรำมาให้และคุณก็รู้สึกไว้ใจเขาด้วย ก็จ่ายเงินรวดเดียวหลังทำงานเสร็จ เช่น จ้างมาถ่ายรูปงานแต่งงาน จ่ายเงินให้หลังงานเลิก ไม่ใช่ตอนรับรูป แต่ถ้าคุณอยากเพลย์เซฟ อาจจะจ่ายมัดจำไว้ก่อน แล้วจ่ายเป็นงวด งวดละกี่เปอร์เซ็นต์ตามแต่ตกลง ซึ่งจะไปสิ้นสุดงวดสุดท้ายเมื่อได้รับไฟล์ภาพ

ส่วนระยะเวลาการรับภาพ มักอยู่ที่ 1 เดือนหลังงานแต่ง คุณอาจะคิดว่าทำไมถึงช้าจัง ถ่ายกล้องดิจิตังต้องทำอะไรนักหนา ช่างภาพต้องเลือกรูป (จากที่ถ่ายมาหลายพัน) ปรับสี และแปลงไฟล์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาทีต่อรูป ไม่รีทัชให้ อันนั้นเป็นอีกราคา คุณจะได้รับไฟล์นามสกุล jpeg โดยเฉลี่ยมักอยู่ที่ 1,000 รูปขึ้นไป แต่ถ้าอยากได้รูปเร็วๆ จริงๆ ช่างภาพบอกว่าวันเดียวก็ทำให้ได้ แต่เหมือนฆ่าตัวตายชัดๆ เพราะงานไม่ละเอียดและเสียสุขภาพคนทำงานนะจ๊ะ เพราะฉะนั้นอย่าเร่งเลยถ้าอยากได้งานดี

 

ช่วงเวลาชมพรีเซ็นเทชั่น

ความของพรีเซ็นเทชั่นที่เหมาะคือชั่วระยะเวลา 1 เพลงหรือไม่เกิน 5 นาที นานกว่านี้สมาธิของแขกจะแตกซ่านและเริ่มหันไปคุยกันเอง ถ่ายรูป อัพไอจี เดินตักอาหาร ฯลฯ ทำให้ไปๆ มาๆ เสียงคุยอาจจะดังกลบเสียงจากวิอีโอพรีเซ็นเทชั่นไปเสียดื้อ เรื่องราวในวิดีโอก็มีส่วนช่วยตรึงความสนใจของแขกเหรื่อ อาจจะมากกว่าการนำภาพตั้งแต่วันเด็กจนถึงวันหมั้นมาเรียงร้อย หรือเป็นฟีลอารมณ์เดินเล่นจูงมือกันไปมาตามท้องทุ่ง รีสอร์ตสวย จะทำให้แขกมึนว่าต้องการจะสื่ออะไร เพราะฉะนั้นการสร้างเรื่องราวและเพิ่มกลิ่นอายความสนุกเข้าไปก็ช่วยดึงความสนใจจากแขกได้เป็นอย่างดี เช่น หนังสั้น หรือการลุกขึ้นมาทำอะไรที่คุณไม่เคยทำมาก่อน แต่ถ้าอยากให้แขกได้อินก็อาจจนำคลิปที่คุณขอเจ้าสาวแต่งงานมารีรันซ้ำอีกครั้งเพื่อเพิ่มความโรแมนติกก็ได้นะ

งานแต่งงาน

ย้อมไฟสไตล์อวตาร

สำหรับงานที่ย้อมไฟห้องหลากสี อาจเป็นออปชั่นที่ดูหวือหวาคุ้มค่าที่โรงแรมแถมมากับแพ็คเก็จ ประมาณว่าย้อมไฟห้องได้ 120 สี เปลี่ยนสีไฟได้ทุก 15 วินาที คุณจงปฏิเสธไปซะ ไม่อย่างนั้นรูปถ่ายงานเดียวกันแต่ละช่วงเวลาสีจะไม่เหมือนกันเลยสักรูป ตอนเปิดตัวบ่าวสาวเข้าห้องเป็นสีฟ้า พอตัดเค้กเป็นสีชมพู โยนดอกไม้เป็นสีม่วง อาฟเตอร์ปาร์ตี้เป็นสีเขียว สรุปว่าทุกคนในงานตัวเป็นสีฟ้า นี่มันเป็นธีมงานหนังอวตารเหรอ!! ทางออกคือ ถ้าอยากย้อมไฟในห้องนั้นย่อมทำไม แต่อย่าปนกันมั่วจนเละเทะ และถ้าจะเปลี่ยนสีให้เลือกโทนสีใกล้ๆ กัน เช่น ฟ้า นำเงิน เขีย แดง ชมพู ส้ม และให้จัดไฟดวงที่ฉายไปยังบ่าวสาวเป็นไฟสีขาวธรรมดา ดวงอื่นจะเป็นสีไหนก็เลือกได้ตามสบาย เพื่อที่ภาพออกมาคุณจะได้ดูเป็นมนุษย์ปกติ และช่างภาพสามารถปรับไฟล์เป็นสีผิวเนื้อได้ง่าย ไม่ออกมาเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนอง แถมชุดแต่งงานสีขาวที่อุดส่าห์เลือกแบบมาอย่างดีดันเปลี่ยนเป็นสีอื่นจนพังเละไม่เป็นท่าก็คงไม่ดีหรอก จริงไหมคะ??

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานและดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ stocksnap.io, thriftymommaramblings.com