ฮันนีมูนรอบโลกใน 8 จุดหมาย 8 ไลฟ์สไตล์ ที่ใช่ตามแบบฉบับของพวกคุณ

มาดูกัน ไลฟ์สไตล์ ของคุณตรงกับสถานที่ฮันนีมูนที่ไหน?

คุณสามี-คุณภรรรยาขา อย่าเพิ่งตีกันเพียงเพราะแค่เรื่องสถานที่ฮันนีมูนเลยนะคะ เพราะ แพรว wedding มีสถานที่ที่เหมาะกับการไปฮันนีมูนในแต่ละสไตล์มาฝาก แถมให้คุณได้เปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศอีกด้วยน้า งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า ไลฟ์สไตล์ ของคุณจะเหมาะกับเมืองไหนบ้าง เตรียมพาสปอร์ตแล้วจองตั๋วตามมากันได้เลยค่า

ไลฟ์สไตล์

สายปาร์ตี้ – นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา

ตอนนี้เมืองนิวยอร์กกลับกลายเป็นเมืองแห่งแฟชั่นศูนย์กลางของโลก โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่เป็นเมืองไม่มีวันหลับใหล เริ่มจากการแต่งตัวของหนุ่ม-สาวเหมือนหลุดมาจากรันเวย์นิวยอร์ก แฟชั่น วีค จัดเต็มพร้อมที่จะไปท่องราตรีกันให้สนุกสุดเหวี่ยง คู่รักนักปาร์ตี้ที่อยากร่วมฉลองหลังการแต่งงาน เมืองนิวยอร์กแห่งนี้จะทำให้พวกคุณได้เปิดตี้กันจนถึงเช้า จะดื่ม จะกิน จะแดนซ์ท่าไหนก็อย่าได้แคร์ค่าาา ส่วนตอนช่วงเช้าหากคุณยังมีแรงตื่นมาเที่ยวไหว แนะนำให้ไปเดินดูพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีถึงสิบกว่าแห่ง ให้คุณได้เพลิดเพลินกับการชมศิลปะสร้างแรงบันดาลใจของคู่รักที่ชอบเสพงานศิลป์ เมืองนี้ก็ถือว่าเหมาะกับคุณเช่นกันค่ะ

ไลฟ์สไตล์

คู่รักนักผจญภัย – วังเวียง, ลาว

คู่รักที่กินง่าย อยู่ง่าย ชอบเรื่องตื่นเต้น รักการผจญภัย วังเวียงเป็นสถานที่ที่เหมาะกับพวกคุณมากๆ เลยค่ะ เพราะมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างมากกก แค่คุณซื้อวันเดย์ทริปคุณก็จะมีกิจกรรมสุดตื่นเต้นรอคุณอยู่ข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็น เดินสำรวจถ้ำ ล่องแก่ง พายเรือคายัค กระโดดน้ำ โหนสลิง ผจญภัยในถ้ำน้ำ และอื่นๆ อีกมากมายให้คุณทั้งคู่ได้มันไปพร้อมๆ กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แห่แหนมาผจญภัยกันยังเมืองแห่งนี้ รับรองว่าทริปนี้ไม่มีเหงา แต่ความลำบากยังไม่หมดเท่านี้ ฮ่าๆ เพราะที่พักส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นโฮมสเตย์ของชาวบ้าว แต่มีบรรยากาศดี๊ดีเลยนะคะ แถมคุณทั้งคู่จะได้สัมผัสธรรมชาติแบบชนบทที่ปราศจากการปรุงแต่งใดๆ อีกด้วย

ไลฟ์สไตล์

พากันชมธรรมชาติ – สวิสเซอร์แลนด์

ประเทศที่มีต้นไม้เขียวขจี ธรรมชาติสวยงาม ก็ต้องยกให้ประเทศสวิสเซอร์แลนด์เขาแหละค่ะ หลายเมืองเลยที่ยังคงมีธรรมชาติที่สวยงาม แม้บางเมืองจะเป็นเมืองจ๋า ไม่ค่อยมีป่าไม้ ทุ่งหญ้า แต่ก็ยังคงอยู่ใกล้กับทะเลสาบให้ชาวเมืองได้สดชื่นกันถ้วนหน้า หากคุณไปประเทศสวิสเซอร์แลนด์ขอแนะนำให้นั่งรถไฟสายโรแมนติกเบอร์นิน่า เอ็กซ์เพรส ที่จะพาคุณเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ ทุ่งหญ้าตามสองข้างทาง ซึ่งเป็นวิวที่สวยงามมากต้องไปเห็นกับตาของตัวเองสักครั้งนะขอบอก ลองนึกดูนะคะได้นั่งรถไฟชิลๆ จิบชา ชมความงามของธรรมชาติ แค่นี้ก็โรเมนติกแล้ว จากรถไฟไปต่อกันที่เรือดีกว่าค่ะ ขอพาคุณล่องเรือไปชมน้ำตกไรน์ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีอายุกว่าหนึ่งหมื่นปี ซึ่งอยู่ในเมือง Schaffhausen เมื่อคุณใช้บริการนั่งเรือชมน้ำตกคุณจะได้สัมผัสกับกระแสน้ำตกอย่างใกล้ชิด ตระการตากับภาพน้ำตกที่อยู่เบื้องหน้า พร้อมละอองน้ำกระเซ็นเข้ามาให้คุณได้สดชื่นกันถ้วนหน้าอีกด้วยค่ะ

ไลฟ์สไตล์

นอนชิลรับลมทะเล – มัลดีฟส์

มัลดีฟส์ทางเลือกของคู่รักที่ต้องการปลีกวิเวกตัดขาดจากความวุ่นวาย หนีไปติดเกาะบนรีสอร์แบบส่วนตัวสุดๆ ได้รับประสบการณ์การฮันนีมูนที่หรูหราในที่พักสุดหรูติดทะเล และบางแห่งยังมีโซนวิลล่าส่วนตัวให้ได้พักกันบนทะเลแบบกระโดดดำน้ำหน้าวิลล่ายังได้เลยค่ะ มัลดีฟส์เหมาะแก่การไปพักผ่อนนั่งเล่น นอนเล่นท่ามกลางบรรยากาศของแสงแดดอันสดใส รับชมวิวทะเลที่อยู่เบื้องหน้า พร้อมเข้ารับการบริการที่แสนสะดวกสบาย แต่ก็ใช่ว่าไปมัลดีฟส์แล้วจะต้องนอนชิลรับลมทะเลเพียงเท่านั้นนะคะ บนเกาะตามรีสอร์ทต่างๆ ยังมีการขายทัวร์ให้คุณได้ไปชมความงานของท้องทะเลที่มากกว่าการอยู่แต่ในที่พัก และยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย ซึ่งตามไปดูกันได้ที่ 5 กิจกรรมที่จะทำให้ฮันนีมูนในฝัน ณ มัลดีฟส์ ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

ไลฟ์สไตล์

คู่รักขาช้อป – ฮ่องกง

นักช้อปห้ามพลาดเลยค่ะ สำหรับสถานที่ช้อปปิ้งแบบเพลินๆ บนเกาะฮ่องกง ที่คุณเอาเงินไปแสนก็ต้องหมดแสนแหละค่ะงานนี้ แล้วยิ่งช่วงเทศกาลที่ลดทั้งเกาะ ซึ่งจะมีในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี เอาใจขาช้อปที่แต่ละแบรนด์แข่งกันลดราคากันกระหน่ำและไม่ได้ลดกัน 5% หรือ 10 % แค่นั้นนะคะ ที่นี่เขาลดกันที 50-70 % กันเลยทีเดียว บนเกาะแห่งนี้จึงมีร้านแบรนด์ดังๆ ที่เป็นที่รู้จักมาเปิดช็อปกันทั่วทั้งเกาะ เลยอยากขอเตือนคุณสามีให้เตรียมตัวกระเป๋าตังค์ฉีกได้เลยค่าถ้าคุณภรรยาของคุณชวนจะไปฮันนีมูนที่ฮ่องกงในเร็วๆ นี้

ไลฟ์สไตล์

งานสถาปัตย์ต้องมา – กรุงโรม, อิตาลี

เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิค มีมนต์ขลังที่เป็นเสน่ห์ของเมืองนี้ หากคุณทั้งคู่เป็นคู่รักที่ชื่นชอบงานสถาปัตยกรรม ชอบการถ่ายรูปที่ได้ฉากหลักแบบดูหรูหรา ใครได้เห็นภาพก็ต้องรู้ว่ามาเที่ยวยุโรปแน่นอนค่า โดยกรุงโรมแห่งนี้ก็มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามหลายจุดที่ให้คุณได้แชะภาพ สถานที่ขึ้นชื่อ ได้แก่ โคลอสเซียมที่เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก มหาวิหารแพนธีออน แม้ดูเก่ามากกก แต่ภายในก็ยังคงสวยงามพร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม น้ำพุเทรวี จุดบริเวณหน้าน้ำพุจะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมุงกันเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่า หากหันหลังให้น้ำพุแล้วอธิษฐาน โยนเหรีญข้ามไหล่ซ้ายให้ลงบนน้ำพุ คำอธิษฐานก็จะเป็นจริงและคุณจะได้กลับมาเที่ยวอิตาลีอีกครั้ง

ไลฟ์สไตล์

สายลุย ชื่นชอบแนวศิลปะวัฒนธรมม – บาหลี, อินโดนีเซีย

บาหลีกำลังเป็นที่นิยมของบรรดาบล็อกเกอร์จากทั่วโลก เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวแทบจะทุกพื้นที่บนเกาะ ข้อแนะนำสำหรับคู่รักที่เลือกไปฮันนีมูนที่บาหลี ถ้าคุณไม่ได้ไปแบบทัวร์หรือจ้างไกด์ท้องถิ่น อยากให้ท่องเที่ยวแบบแบ็คแพ็คเกอร์ ลองขับมอเตอร์ไซต์พากันเที่ยวรอบเกาะดูนะคะ ระยะทางอาจดูไกล มีความลำบากอยู่บ้าง แต่เชื่อเถอะการเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์สะดวกสุดแล้ว เนื่องจากการจราจรที่หนาแน่นติดขัด ถนนแคบ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่หลบซ่อนอยู่ตามซอยเล็กๆ ที่นี่นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องกิจกรรมการเล่นเซิร์ฟบนท้องทะเลและความเขียวชอุ่มของธรรมชาติแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมที่อยู่ตามสถานที่ต่างๆ เห็นได้จากสถานที่ขึ้นชื่อย่าง วัดเตียร์ตาอัมปีล ที่เชื่อกันว่าพระอินทร์ทรงสร้าง คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวเลยมักที่จะลงไปชำระล้างร่างกาย เพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ

ไลฟ์สไตล์

คู่รักเซเลป – หมู่เกาะเติกส์และหมู่เกาะเคคอส

ถ้าคุณเป็นคู่รักซุปตาร์ เซเลบมีชื่อเสียง คงต้องไปฮันนีมูนกันที่ต่างประเทศสิเนอะถึงจะได้มีเวลาแบบส่วนตัว ไม่ค่อยได้พบเจอคนที่จะรู้จักคุณ หนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมของซุปตาร์ระดับฮอลลีวูดเห็นทีคงจะเป็น หมู่เกาะเติกส์และหมู่เกาะเคคอส ที่เหล่าซุปตาร์อย่าง Jenna Dewan Tatum, Brad Pitt, Angelina Jolie, Justin Bieber ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนนอนอาบแดดกันแบบชิลๆ รวมถึงคู่รักซุปตาร์ Sofía Vergara กับ Joe Manganiello ที่เลือกเกาะแห่งนี้เป็นสถานที่ฮันนีมูนหลังการแต่งงาน เรียกได้ว่าเป็นสถานที่พักผ่อนสุดพิเศษจริงๆ ค่ะ เหล่าดาราคงถูกใจกับกลิ่นอายของทะเลแคริบเบียนน้ำสีเขียวมรกตและการได้พักผ่อนในรีสอร์ทแบบส่วนตัว คู่รักที่ไม่ได้เป็นเซเลบก็ไปเยือนเกาะแห่งนี้ได้เหมือนกันนะคะ เผลอๆ โชคดีคุณอาจจะได้เจอกับซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูดเลยก็ได้น้า

การเลือกทริปฮันนีมูนก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกนะคะ ไม่ใช่แค่เลือกสถานที่ที่อยากไป ตามสไตล์ของตัวเองเท่านั้น ควรคำนึกถึงเรื่องต่อไปนี้ด้วย ทริคเลือก สถานที่ฮันนีมูน ที่คุณทั้งคู่ต้องแฮปปี้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าทริปฮันนีมูนนี้คุณทั้งคู่ต้องได้สวีทหวานกลับมาแน่ๆ 😀

Cr : insideweddings.com, chrisyeo.de, pinterest.com

รวมร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาวสวยงามอลังการ ราคาแค่หลักร้อยถึงหลักพัน

เมื่อได้รับเกียรติเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ ชุดเพื่อนเจ้าสาว หากสาวๆ กำลังกลุ้มใจไม่รู้ว่าควรจะไปหา ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว ที่ร้านไหนดี แถมอยากได้แบบสวยๆ แต่ขอราคาไม่แรง ไม่ต้องเครียดกันนะ เรามีมาฝาก

แพรว wedding ได้รวบรวม ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว ในรูปแบบชุดราตรีมาแนะนำ ขอบอกเลยว่าแต่ละร้านชุดสวยงามและราคาไม่แพง น่าโดนมากๆ

1. ร้าน Rent Sheep

เป็นร้านใหญ่ที่มีถึง 6 สาขาด้วยกัน เหมาะสำหรับแก๊งเพื่อนเจ้าสาวที่มาเป็นทีม และต้องการใส่ธีมสีเดียวกัน แถมงานนี้ไม่ว่าจะมาเยอะขนาดไหนทางร้านก็พร้อมรองรับ เพราะมีห้องลองชุดถึงเกือบ 20 ห้อง!! ห้องลองยังเยอะขนาดนี้ ก็การันตีได้ถึงจำนวนชุดที่เยอะมากๆ เรียกได้ว่ามีให้เลือกจนตาลาย แค่สีเดียวก็มีให้เลือกทั้งห้องแล้ว!! แถมที่ร้านยังมีมุมให้ถ่ายรูปเล่นแบบไม่หวงภาพหวงชุดกันอีกด้วย เรียกได้ว่าไม่ว่าจะลองสักกี่ชุดก็มีพนักงานน่ารักๆ คอยบริการด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสไม่หงิกไม่งอ และที่สะดวกสบายก็คือร้านนี้เขาให้เช่าคืนต่างสาขากันได้ด้วยนะ ดังนั้นไม่ว่าเพื่อนๆ จะอยู่ที่ไหนก็สามารถไปเลือกไปลองกันได้ที่สาขาใกล้บ้านได้เลยจ้า

ราคา : ชุดสั้นราคา 800 ชุดยาวราคา 900 บาท ทุกแบบ
เฟซบุ๊ก : @rentsheep
โทร : 083-178-6666

2. ร้าน Gallery by faye nista

จุดเด่นของร้านคือ ชุดจะเป็นงานตัดเองจากทางร้านทั้งหมด ไม่มีงานนำเข้าจากจีน แบบชุดสวมใส่ได้จริง และยังปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้เข้ากับยุคสมัยอีกด้วย สำหรับลูกค้าที่เช่าชุดกับทางร้านจะมีบริการปรับแก้ไขสัดส่วนให้ทุกชุด โดยไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติม (ว้าวว ตัวเล็กตัวใหญ่แก้ไซต์ได้นะจ๊ะ) บอกเลยว่าทางร้านมีชุดเยอะมาก จะเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาวเป็นธีมสีเดียวกันหลายๆ ตัวก็ได้น้า

ราคา : 800 บาท
เฟซบุ๊ก :
facebook.com/dressgalleryfayenista
โทร : 06-3982-6000

ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว

3. My Moment Dress

ร้าน My Moment Dress บริการเช่าและจำหน่ายชุดราตรี ประกอบด้วยชุดราตรีสำหรับทุกวัย รวมถึงชุดราตรีแบบทันสมัย ทั้งราตรีสั้น ราตรียาว, เดรสออกงานกลางคืน, ชุดไปงานแต่งงานกลางวัน-กลางคืน รวมทั้งเสื้อคลุม กระเป๋า รองเท้า และเครื่องประดับสำหรับออกงานให้บริการอีกด้วย ร้านนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2015 โดยเริ่มต้นจากการเป็นผู้เช่ากลายมาเป็นผู้ให้เช่า ทางร้านจึงเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดีว่าลูกค้าต้องการอะไร และใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็น การแนะนำชุดราตรีให้เหมาะกับคาแรคเตอร์ลูกค้า และการแก้ไซส์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ลูกค้าของได้ใส่ชุดพร้อมความมั่นใจเต็มร้อยในวันงาน

ราคา : 500-3500 บาท
เฟซบุ๊ก : 
facebook.com/mymomentdress
โทร : 09-2980-2956

ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว

4. The Special Dress

ร้าน The Special Dress มีชุดราตรีเพื่อนเจ้าสาวหลากรูปแบบ และหลากสีสันให้เลือกใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นราตรีสั้น ราตรียาว และแต่ละชุดมีการออกแบบให้สวยงามทันสมัย เน้นดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ให้ความหรูหรา จึงมั่นใจได้เลยว่าใส่แล้วดูดีแน่นอนจ่ะ แถมยังมีหลายไซต์ให้เลือกอีกด้วยน้าาา เพราะฉะนั้นสาวๆ ไซส์อวบทั้งหลายก็สบายใจหายห่วงว่าจะไม่มีไซส์ได้เลย

ราคา : 600-900 บาท
เฟซบุ๊ก : 
facebook.com/thespecialdress
โทร : 08-4663-9929

ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว

5. The Dressis

จุดเด่นของร้าน คือมีชุดให้เลือกกว่า 2,000 ชุด และเป็นชุดราตรีที่ทางร้านออกแบบตัดเอง จึงรับประกันได้เลยว่ามีเนื้อผ้าและคัตติ้งคุณภาพที่ดีแน่นอน อีกทั้งยังมีชุดราตรีเกรดพรีเมี่ยมนำเข้า ทำให้ทางร้านมีแบบชุดที่สวยงามแตกต่างและไม่ซ้ำใคร และทางร้านยังมีการอัพเดทงานชุดราตรีแบบใหม่ในทุกเดือน ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าทางร้านจะมีแบบชุดใหม่ๆ ให้เลือกแน่นอน แถมยังมีทั้งบริการเช่าชุด ตัดเช่า และตัดซื้อด้วยนะจ๊ะ นอกจากชุดราตรี ชุดเพื่อนเจ้าสาวแล้ว ทางร้านยังมีบริการชุดสำหรับคุณแม่เจ้าบ่าวเจ้าสาว อีกทั้งชุดสูทสำหรับสุภาพบุรุษ ชุดราตรีเด็ก ก็มีเหมือนกัน เรียกได้ว่าครบทั้งครอบครัวทีเดียวจ้าาาา

ราคา : เริ่มต้น 800 บาท
เฟซบุ๊ก : 
facebook.com/thedressis
โทร : 09-8664-4269
ไลน์ : @thedressis

6. Waswerebeen

ชุดของร้านจะเป็นชุดที่ออกแบบและตัดเย็บเองภายใต้แบรนด์ SHAPE21 โดยมีช่างตัดเย็บมืออาชีพให้คอยบริการ นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าและรองเท้าให้บริการเช่าด้วย และสำหรับลูกค้าต่างจังหวัดก็มีบริการส่งไปรษณีย์ให้ด้วยนะ เพียงแค่ลูกค้าแจ้งขนาดตัว ทางร้านก็จะแก้ไขชุดให้ตามขนาดตัวฟรี!!! ส่วนลูกค้าที่ไม่อยากได้ชุดเช่า ทางร้านก็มีชุดใหม่จำหน่ายในนามของแบรนด์ในเพจ SHAPE21 ด้วย ซึ่งราคาขายก็ไม่แพงอยู่ที่ 1,200-1,300 บาทค่ะ (อู่ยย ซื้อเลยก็ไม่แพงนะเออ) สำหรับเพื่อนเจ้าสาวไซต์อวบก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะทางร้านมีไซส์ให้บริการถึง 4XL เลยนะ

ราคา : เริ่มต้น 500 บาท
เฟซบุ๊ก : 
facebook.com/waswerebeen/
โทร : 06-3663-6249
ไลน์ : w_w_b

ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว

มาแล้วจ้า! เทรนด์ชุดแต่งงาน 2019 จากรันเวย์ Bridal Fashion Week

พลาดไม่ได้กับ เทรนด์ชุดแต่งงาน 2019 จากรันเวย์ Bridal Fashion Week

Bridal Fashion Week เพิ่งผ่านพ้นไปมาหมาดๆ แล้วว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายจะรอช้าอยู่ทำไมล่ะคะ ล้อมวงกันเข้ามาค่ะ เพราะเราได้รวบรวม เทรนด์ชุดแต่งงาน 2019 มาให้เหล่าว่าที่กันแล้ว และแน่นอนว่าเนื่องด้วยกระแส Royal Wedding ของเมเเกน มาร์เคิล ที่กำลังมา ชุดส่วนใหญ่ก็จะออกเป็นแนวเจ้าหญิงๆ หน่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบผ้าคลุม หรือชุดกระโปรงทางบอลกาวน์ เป็นต้น เอาเป็นว่าจะมีแบบไหนบ้าง ไปดูกันดีกว่า … รับรองว่าสวยปังมากแบบก.ไก่ล้านๆ ตัวเลยล่ะจ่ะ

1. ชุดแต่งงานทรง Ball Gown 

เทรนด์นี้กลับมาอีกครั้ง เนื่องมาจากกระแสพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล กับชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์ ที่ให้ลุคสวยงามแบบเจ้าหญิง โดยดีเทลความฟรุ้งฟริ้งของกระโปรงนั้นก็มีตอบโจทย์ทั้งเจ้าสาวสายหวานแบบผ้าลูกไม้ หรือเจ้าสาวสายเรียบหรูที่เน้นผ้าชีฟองฟูฟ่องแลดูสง่างาม

ชุดเจ้าสาว
ภาพจาก : Galia Lahav
ชุดเจ้าสาว
ภาพจาก : Mariage by Viktor
ชุดเจ้าสาว
ภาพจาก : Moniquel Lhuillier

2. ชุดแต่งงานเรียบหรู

เรียบหรูในที่นี่คือเรียบในสไตล์แบบมินิมอลที่ให้กลิ่นอายแบบยุค 90s นิด เพราะชุดแต่งงานเทรนด์นี้เป็นชุดแต่งงานที่เน้นความโดดเด่นของเนื้อผ้า และรูปทรงของเพียงอย่างเดียว โดยไร้ซึ่งดีเทลหรือการตกแต่งใดๆ เรียกได้ว่าเป็นลุคที่ดูน้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ของจริง เหมาะกับเจ้าสาวที่อยากได้ลุคสวยสง่าโดยไม่จำเป็นต้องโอเวอร์อลังการ บวกกับเมคอัพอีกนิด ทรงผมเก๋ๆ อีกหน่อย เท่านี้ก็ได้ลุคเรียบหรูดูแพงแล้ว

ชุดเจ้าสาว
ภาพจาก : Gracy Accad
ชุดเจ้าสาว
ภาพจาก : Reem Acra
ชุดเจ้าสาว
ภาพจาก : Justin Alexander

3. ชุดแต่งงานแบบกางเกง

ดูเหมือนว่าปีนี้จะเป็นปีที่เอาใจเจ้าสาวสายห้าวพอตัวอยู่เหมือนกันนะคะ เพราะชุดแต่งงานแบบกางเกง หรือจัมพ์สูทกำลังมาแรงมากๆ ในปีนี้ แถมเจ้าสาวหลายคนยังหันมาเลือกสวมชุดสไตล์นี้ในงานแต่งงานมากขึ้นอีกด้วย และถึงแม้จะเป็นลุคกางเกงก็ใช่ว่าจะสวยหวานแบบเจ้าสาวไม่ได้นะจ๊ะ เพราะเจ้าสาวสามารถเติมดีเทลอย่างเช่น โบหรือผ้าลูกไม้ลายสวยๆ ผสมผสานไปกับชุดสไตล์นี้ได้เช่นกัน เท่านี้ก็ช่วยให้ลุคของเจ้าสาวดูเป็นสาวทันสมัยแล้ว

ชุดเจ้าสาว
ภาพจาก : Lela Rose
ชุดเจ้าสาว
ภาพจาก : Mariage by Viktor
ชุดเจ้าสาว
ภาพจาก : Naeem Khan

4. ชุดแต่งงานสีลาเวนเดอร์

ด้วยกระแสของสีแพนโทนในปีนี้ก็คือ สีม่วง ซึ่งหลากหลายแบรนด์หรือคอลเลคชั่นต่างๆ ก็ได้เสิร์ฟสีสันนี้ให้เราได้เห็นในวงการแฟชั่นมาตั้งแต่ต้นปี และแน่นอนว่าในแฟชั่นรันเวย์ชุดแต่งงานก็ไม่พลาดที่จะหยิบเอาเฉดสีมาแรงสีนี้มาเป็นแรงบันดาลใจในชุดเจ้าสาวด้วย แต่อย่าเพิ่งตกใจว่าจะเป็นสีม่วงเข้มแบบน่าตกใจนะจ๊ะ เพราะม่วงของเจ้าสาวอย่างเรา ต้องม่วงแบบนุ่มนวลในเฉดสีม่วงแบบพาสเทลเท่านั้น ซึ่งแบรนด์ชุดแต่งงานอย่าง Vera Wang, Jenny Packham และ Hayley Paige ก็ได้ทำออกมาให้ว่าที่เจ้าสาวได้เห็นแล้วว่าเฉดสีนี้หน่ะสวยน่าใส่ขนาดไหน

ชุดเจ้าสาว
ภาพจาก : Hayley Paige
ภาพจาก : Jenny Packham

5. ชุดแต่งงานแหวกอกสุดเซ็กซี่

เทรนด์นี้เอาใจว่าที่เจ้าสาวสายแซ่บสุดๆ กับชุดแต่งงานแหวกอกทรง V ลึกสุดเซ็กซี่ เพราะคอลเลคชั่นนี้จะมาในแบบเปิดโชว์หน้าอกหน้าใจสักนิดนึง แต่ถ้าในประเทศไทยใส่ชุดแบบนี้ในพิธีการก็อาจจะเป็นลุคขัดใจผู้ใหญ่และไม่เหมาะสมอยู่สักหน่อย แต่ถ้าหากหยิบเทรนด์นี้มาใส่ในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้รับรองว่าสวยจบเจ้าบ่าวยอมสยบแน่นอน!!

ภาพจาก : Reem Acra
ภาพโดย Mike Colon

6. ชุดแต่งงานที่เน้นการปักแบบ 3D

อีกหนึ่งเทรนด์ที่ว่าที่เจ้าสาวอาจจะคุ้นตากันมาตั้งแต่รันเวย์ครั้งที่แล้ว และแน่นอนชุดแต่งงานที่เน้นงานปักแบบ 3D หรือการเน้นลวดลายขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งลูกไม้แบบอลังการ ก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในเทรนด์ของปี 2019 อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งขอบอกเลยว่าถึงแม้ดอกจะเยอะจะใหญ่ตู้มแตกขนาดไหน แต่ดูแล้วรอดไม่รกตาเลยสักนิด แถมยังดูสวยงามน่ารักอีกต่างหาก

ภาพจาก : Reem Acra
ภาพจาก : Lela Rose
ภาพจาก : Willow by Watters
ชุดเจ้าสาว
ภาพจาก : Mariage By Viktor

อยู่บ้านก็ ทำสปา ได้! มาดูผลิตภัณฑ์สปา ที่จะช่วยให้เจ้าสาวผ่อนคลายหายเครียด!

ช่วงใกล้งานแต่งมันก็จะเครียดๆหน่อย มีอะไรจะคลายเครียดได้ดีไปกว่าการไป ทำสปา ให้คลายเมื่อยแถมได้ขัดผิวประทินโฉมด้วยผลิตภัณฑ์กลิ่นหอมจรุงใจ แต่ครั้นจะไปบ่อยๆ กระเป๋าสตางค์ก็ไม่เอื้ออำนวยน่ะสิ แต่หมดปัญหาถ้าเจ้าสาวมีผลิตภัณฑ์เหล่านี้ที่จะช่วยรังสรรค์บ้านของคุณให้กลายเป็นสปาส่วนตัวสุดหรูในพริบตา ไม่ต้องเสียเงินเข้าสปาก็สามารถขัดผิว บำรุงผิว และโอบล้อมตัวเราเองด้วยกลิ่นหอมได้ที่บ้าน ประหยัดเงินไปอีกเยอะ แถมยังได้บรรยากาศแสนโรแมนติกกับคู่รักของเราแบบส่วนตั๊ว ส่วนตัวด้วยนะ ผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยคุณเจ้าสาวรังวรรค์สปาได้เองที่บ้านมีอะไรบ้างมาส่องกันเลยจ้า

1. กลิ่นหอมจากเทียนหอมหรือเครื่องหอม

จะเนรมิตบ้านหรือห้องอาบน้ำให้มีบรรยากาศสปา ต้องโอบล้อมบรรยากาศด้วยกลิ่นหอมสไตล์สปาเป็นอย่างแรก

First Peace Candle และ Potpouri จาก Sulwhasoo

Perfume Diffuser จาก Innisfree

ทำสปา

Scented Candle จาก FRESH

ทำสปา

รวม! 4 สวนสนุก ในประเทศไทยเหมาะกับถ่ายพรีเวดดิ้งย้อนวัยในวันวาน

อยากได้รูปพรีเวดดิ้งสุดคิ้วท์ก็ต้องถ่ายที่ สวนสนุก กันนี่แหละค่ะ:D

ในต่างประเทศคู่รักวัยรุ่นส่วนใหญ่เลือก สวนสนุก เป็นสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง น่ารักๆ เพราะทั้งบรรยากาศ เครื่องเล่น ฟิลลิ่ง และการแต่งกายของว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวที่ไม่จำเป็นต้องเป็นทางการมากนัก แต่กลับให้ภาพที่ได้ออกมาดูน่ารักสดใสเหมือนได้ย้อนวันวานกลับไปสมัยป็อบปี้เลิฟอีกครั้ง สำหรับในประเทศไทยถึงแม้จะไม่มีสวนสนุกใหญ่ๆ อย่าง Universal หรือ Disneyland แต่ก็ยังมีสวนสนุกที่มีการตกแต่งที่สวยงามเหมาะแก่การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งคู่รักในแบบอลังการงานสร้าง แถมคุณไม่ต้องบินไกลไปถ่ายถึงต่างประเทศด้วยน้า

แพรว wedding ได้รวบรวมสวนสนุกในประเทศไทย 4 สถานที่ใหญ่ๆ ที่ใครก็ต้องรู้จัก มาให้เหล่าคู่รัก ไม่ว่าจะวัยรุ่นหรือวัยไหนๆ ก็สามารถไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสุดคิ้วท์ในบรรยากาศสุดฟันกันได้เลยจ้า

 

ดรีมเวิลด์

สวนสนุก
รูปภาพจาก : thaiticketmajor.com

ขอข้ามเรื่องเครื่องเล่นไปเลยเนอะ เพราะในสวนสนุกแห่งนี้ได้จัดโซนถ่ายรูปให้สำหรับนักท่องเที่ยวและว่าที่บ่าว-สาวที่นิยมมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกันอยู่แล้ว โดยแบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่ จุดแรกเราจะเห็นได้ตั้งแต่เดินผ่านประตูมาเลยค่ะ กับเลิฟ การ์เด้น หรืออุทยานแห่งความรัก ที่ประดับประดาไปด้วยมวลพฤกษานานาพันธุ์แซมด้วยสถาปัตยกรรมประดิษฐ์เป็นรูปหัวใจดวงโตๆ กว่า 100 ดวง รับรองรูปถ่ายของคุณจะต้องอบอวลไปด้วยความรักแน่ๆ ต่อมาจุดที่สอง เมืองจำลอง 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ถ้ามีเทคนิคการถ่ายภาพหน่อยมโนว่าไปถ่ายที่ต่างประเทศได้เลยแหละ และสุดท้ายโซนโฟโตเปีย คู่รักจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับบ้านฮอบบิท บ้านขนมหวาน และปราสาทแบบในเทพนิยาย ที่จะทำให้คุณได้กลายเป็นเจ้าหญิง-เจ้าชายในรูปนี้แน่ๆ เห็นไหมคะเป็นสวนสนุกที่น่าสนใจเข้าไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งมากๆ แถมราคาก็น่าสนใจเช่นกัน เพราะจ่ายเพียงค่าบัตรผ่านเข้าประตู (เริ่มต้น 250 บาท) คุณก็สามาถเข้าไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งได้แล้วค่ะ ไม่ต้องเสียค่าสถานที่เพิ่มเติมด้วย แต่ห้ามขึ้นไปถ่ายบนเครื่องเล่นนะคะ

โทร. 0-2577-8666

คาเมล รีพับบลิค ชะอำ

สวนสนุก
ภาพจาก : yellowthai.yellowpages.co.th

สวนสนุกสไตล์โมร็อกโกแห่งใหม่ของประเทศไทย เนรมิตบรรยากาศให้เหมือนกับอยู่ในดินแดนแอฟริกาตะวันออก นอกจากให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศของสวนสนุกแล้วคุณยังได้เพลิดเพลินชมสัตว์หาดูยากที่คุณก็สามารถไปถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด ภายในมีมุมให้คุณได้ถ่ายภาพรีเวดดิ้งสวยๆ มากมาย ด้วยตัวอาคารที่ใช้สีส้มสดใส หากนำภาพที่ถ่ายไปตั้งไว้หน้างานเชื่อว่าต้องเด่นมาแต่ไกลกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ในโซนของเอ้าท์ดอร์ก็ยังมีมุมธรรมชาติต้นไม้สีเขียวหรือถ้าอยากให้มีสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยได้ร่วมเฟรมกับคุณแบบสแนปเก๋ๆ ก็ยังทำได้เลยน้า และที่นี่ยินดีให้บริการทั้งห้องแต่งหน้า แต่งตัว บัตรวีไอพีเครื่องเล่นแบบเป็นคู่ เมื่อคุณใช้สถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง 4 ชั่วโมงขึ้นไป เริ่มต้นตั้งแต่ 2 ชั่วโมงในราคา 3,210 บาท / 4 ชั่วโมง ราคา 6,420 บาท และชั่วโมงต่อไปก็บวกเพิ่มตามเรทราคาปกติเลยค่ะ

โทร. 0-3289-0860

ซานโตรินี ปาร์ค ชะอำ

สวนสนุก
ภาพจาก : dealinlove.com

แวะไปคาเมล รีพับบลิคกันแล้วลองข้ามมาฝั่งซานโตรินี ปาร์คกันบ้างดีกว่าค่ะ เป็นทั้งสวนน้ำและสวนสนุกสไตล์ซานโตรินี ที่ขึ้นชื่อของประเทศกรีซ ด้วยการตกแต่งที่คุมโทนสีฟ้า-ขาว เสริมให้สถานที่แห่งนี้ดูมีความสดใสเข้ากับบรรยากาศของสวนสนุก พร้อมกับบริการต่างๆ มากมาย เช่น แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร สวนน้ำ สวนสนุก ที่พัก ส่วนคู่รักคู่ไหนที่สนใจมาถ่ายพรีเวดดิ้งก็ต้องตรงมายังโซนของสวนสนุกเลย เพราะให้คุณได้ถ่ายภาพน่ารักๆ ได้ทั้งบรรยากาศภายนอกไปจนถึงบนเครื่องเล่นเลยนะคะ มีราคาเริ่มต้นที่ 4 ชั่วโมง 7,000 บาท พร้อมห้องแต่งตัวแบบ VIP ที่ไม่ต้องไปใช้รวมกับนักท่องเที่ยวด้วยน้า

สวนสยาม

สวนสนุก
ภาพจาก : ทีมงานของสวนสยาม

อีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นทั้งสวนสนุกและสวนน้ำในที่เดียว บนพื้นที่ถึง 300 ไร่ ภายใต้บรรยากาศของเครื่องเล่นที่มีสีสันสดใสและได้รับมาตรฐานระดับโลกกว่า 30 ชนิด  คู่รักที่สนใจเข้ามาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งที่สวนสยามนั้นก็มีจุดฮอตฮิตหลายโซนด้วยกัน ทั้งในแบบสวนสวยๆ โซนเครื่องเล่นโดยรอบ โซนสวนน้ำที่เต็มไปด้วยสไลเดอร์สีจี๊ด ในราคา 6,420 บาท (ราคานี้รวม Vat 7% แล้วนะคะ) โดยจำกัดจำนวนทีมงานที่รวมบ่าวสาวแล้วไม่เกิน 7 ท่าน พร้อมมีบริการรถกอล์ฟที่มาคู่คนขับรถให้แบบส่วนตัวสุดๆ และมีเจ้าหน้าที่คอยประสานงานตามจุดต่างๆ ให้การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น แถมยังใจดีเปิดห้องแต่งตัวแอร์เย็นฉ่ำให้ได้พักผ่อนตามอัธยาศัย สุดท้ายอิ่มท้องกับบัตรรับประทานอาหาร 7 ใบมูลค่า 700 บาท ถ้าไม่ได้มาถ่ายพรีเวดดิ้งก็นึกว่ามาเที่ยวเลยนะคะเนี่ย อิอิ

โทร. 0-2919-7200

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ คู่ไหนที่สนใจถ่ายภาพพรีเวดดิ้งคิ้วท์ๆ ในรูปแบบสวนน้ำ-สวนสนุก และถือโอกาสได้ไปเที่ยวพักผ่อนย่านชะอำ-หัวหินทะเลใกล้เมืองกรุง เพิ่มตัวเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งกันได้ใน  สวนน้ำและสวนสนุกสุดฟัน ถ่ายพรีเวดดิ้ง ให้ปังในราคาไม่ถึงหมื่น เองค่า

ข้อมูลจาก : Dream World, CAMEL REPUBLIC CHA-AM, Santorini Park Cha-Am, Siam Park City

รองเท้ากัดวันแต่งงาน … ปัญหาโลกแตกของเจ้าสาว มีวิธีแก้อย่างไร มาดู

รองเท้ากัดวันแต่งงาน แค่เกริ่นขึ้นมาแค่นี้ สาวๆ ก็เบ้หน้าหนีไปตามๆกันแล้วใช่ไหมจ๊ะ กัดวันไหนก็กัดได้ แต่มากัดวันแต่งงานนี่ ฉันไม่โอเคเลยนะ เพราะเจ้าสาวต้องเดินแทบจะทั่วทั้งงานเพื่อต้อนรับแขกที่มาร่วมงานอย่างทั่วถึง แต่ถ้ารองเท้ากัดนี่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ต้องฝืนเดินยิ้มไป แบบนี้ไม่โอ!!

แก้ปัญหา รองเท้ากัดวันแต่งงาน ให้เจ้าสาวเดินสวยมั่นใจไร้เจ็บ

ทำอย่างไรดีถ้าหากเจ้ารองเท้าคู่สวยดันมาทรยศในงานแต่งซะนี่ … ไม่ยากค่ะ แพรว wedding มีวิธีแก้ปัญหา รองเท้ากัดวันแต่งงาน มาฝาก รับรองเป็นประโยชน์แน่นอน สำหรับสาวๆ ที่ไม่ใช่เจ้าสาวจะเข้ามาอ่านด้วยก็ได้น้า เพราะหัวอกผู้หญิงด้วยกันร้อยทั้งร้อยต้องเจอเหมือนกันแน่นอน

1. แป้งฝุ่น

งงใช่ไหมคะว่าแป้งฝุ่นมีส่วนช่วยอะไรน้า … แป้งฝุ่นเมื่อนำมาโรยก่อนใส่รองเท้าแล้ว ผงของแป้งจะช่วยทำให้เท้าลื่น ไม่ฝืด และทำให้ลดการเสียดสีของเท้ากับรองเท้านั่นเองค่ะ แต่ถ้าสาวๆ คนไหนใส่รองเท้าสีดำ หรือสีเข้มก็อย่าลืมเช็ดผงแป้งให้เรียบร้อยก่อนเดินเข้างานนะจ๊ะ

รองเท้ากัดวันแต่งงาน

2. ทาน้ำมันมะกอก หรือออยล์

แก้ปัญหากันง่ายๆ ไปเลย ด้วยกาานำออยล์หรือน้ำมันมะกอกมาทาบริเวณเท้าให้ชุ่มชื่น เพื่อให้เท้าไม่แห้ง เวลาใส่รองเท้าจะได้ลดการเสียดสีได้ แถมออยล์ยังช่วยบำรุงไม่ให้เท้าแห้งอีกด้วยนะจ๊ะ แต่ก็ไม่ต้องชโลมมากจนเกินไปนะคะ เพราะจากที่รองเท้าไม่กัดเดี๋ยวจะเปลี่ยนเป็นอาการเดินไม่ถนัดแทน แบบนี้ก็ไม่โอเนอะ

รองเท้ากัดวันแต่งงาน

3. เทียน

นำเทียนไขมาขัดๆ ถูๆ บริเวณรองเท้าที่สัมผัสกับเท้าของเรา ตัวเทียนไขจะช่วยทำให้ด้านคม ด้านเหลี่ยมของรองเท้าทู่ มน และนิ่มลงค่ะ รับรองว่าใส่แล้วไม่บาด ไม่กัดเท้าเราแน่นอน

รองเท้ากัดวันแต่งงาน

4. แผ่นรองเท้า

เหมาะสำหรับรองเท้าคัชชูนะจ๊ะ หาซื้อได้ตามร้านขายรองเท้า หรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป ซื้อติดไว้เลยดีที่สุด ถ้าหากคิดว่าอยากจะใส่รองเท้าคัชชูนะ

รองเท้ากัดวันแต่งงาน

5. ใส่รองเท้าให้ชิน

เป็นวิธีที่แสนจะง่าย ไม่เปลือง ไม่ต้องหาอุปกรณ์เพิ่มเติม เจ้าสาวควรเลือกรองเท้าที่มีขนาดพอดีกับเท้า แล้วเมื่อได้รองเท้ามาแล้ว ก็ควรนำมาสวมใส่ให้ชิน เพื่อให้รองเท้าได้ขยายขนาดให้พอดีกับเท้านั่นเองค่ะ เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์อื่นๆ ให้วุ่นวายแล้ว

รองเท้ากัดวันแต่งงาน

เมื่อรู้แล้ว ก็ควรเตรียมรองเท้าให้ดีก่อนถึงวันงานนะจ๊ะ เพื่อที่เราจะได้เดินได้อย่างสะดวกและมั่นใจ ไร้ปัญหารองเท้ากัดนั่นเอง รู้วิธีแก้รองเท้ากัดไปแล้ว ก็มาเลือกแบบรองเท้าสวยๆ กันต่อเลย สวยหรูดูดีด้วย 5 สไตล์ รองเท้าเจ้าสาวที่เลอค่าใส่แล้วเริด

ภาพจาก : Pinterest.com , fasicare.com

งานแต่งดูดีมีสไตล์พร้อมกลิ่นอายสุดหรูของ คุณเอม & คุณนนท์ @ โรงแรมสีมาธานี จ. นครราชสีมา

หลังจากคบหาดูใจกันมากว่า 3 ปี คุณเอม – วราลี  ตรีรัตนกุลพร และคุณนนท์ – อานนท์ มิตรสูงเนิน ก็ได้ฤกษ์จูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ แถมเจ้าสาวยังให้เหตุผลสุดหวานในการเข้าสู่ประตูวิวาห์ในครั้งนี้ว่า เพราะเจ้าบ่าวเป็นคนดีแบบ 360 องศา คือรักเจ้าสาวและรักครอบครัว เป็นคนเสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่วันแรกจนวันที่ตัดสินใจแต่งงานกัน แต่ถึงแม้เหตุผลจะหวานน้ำตาลเรียกพี่ขนาดนี้ แต่ธีมงานแต่งนั้นบ่าวสาวก็แอบกระซิบบอกเวดดิ้งแพลนเนอร์ว่าขอ งานแต่ง ธีมหรู มีสไตล์ และต้องมัน!

งานแต่ง

บ่าวสาวตัดสินใจเลือกใช้ เศกสกล 1982 มารับหน้าที่เป็นเวดดิ้งแพลนเนอร์สำหรับวันสำคัญของทั้งคู่เนื่องจากสามารถเข้าใจและตอบโจทย์ธีมคอนเซปต์ที่บ่าวสาววางเอาไว้ได้เป็นอย่างดี โดยเหตุผลที่บ่าวสาวเลือกจัดงานในธีมนี้เพราะอยากให้ครอบครัว แขกที่มาร่วมงาน รวมไปถึงตัวบ่าวสาวเองได้มีความทรงจำดีๆ สุดประทับใจร่วมกันในวันสำคัญ และไม่อยากให้งานออกมาน่าเบื่อ ที่สำคัญต้องเป็นงานแต่งที่ในโคราชไม่เคยทำมาก่อน เพราะฉะนั้นในช่วงสิ้นสุดพิธีการจึงมีการปล่อยไม้เด็ดออกมาเซอร์ไพรส์ด้วยการเชิญคุณป๊อป – ปองกูล สืบซึ้ง มาสร้างความสนุกสนานในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เรียกได้ว่านอกจากจะทำเอาเจ้าสาวถึงกับยิ้มแก้มปริแล้ว แขกภายในงานก็ได้รับความสนุกสนานไปอย่างเต็มที่และยิ้มไปตามๆ กัน

สุดท้ายบ่าวสาวเผยให้แพรว wedding ฟังว่าที่งานออกมาได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้เป็นเพราะเธอได้เวดดิ้งแพลนเนอร์ที่ดีที่เข้าใจในความต้องการ และได้ครอบครัวที่ช่วยดูแลเป็นธุระจัดการเรื่องต่างๆ ให้ โดยบ่าวสาวมีหน้าที่แค่จัดการตัวเองให้ดูดีเตรียมพร้อมสวยหล่อในวันสำคัญของชีวิต แถมยังเป็นงานแต่งงานที่เต็มไปด้วยการเซอร์ไพรส์สร้างความปลาบปลื้มใจให้กับบ่าวสาวตลอดงาน จึงเรียกได้ว่านอกจากจะเป็นวันสำคัญในชีวิตที่ครอบครัว เพื่อนๆ และแขกจะมีความสุขได้รับรอยยิ้มกลับบ้านแล้ว ยังเป็นวันที่บ่าวสาวมีความสุขและจะประทับใจไม่รู้ลืมเช่นกัน

The Details : Chic & Elegant

Venue :  โรงแรมสีมาธานี จ. นครราชสีมา
Wedding Dress :  Amata Wedding (โทร. 09-3016-2662, 0-2712-6220)
Makeup & Hair : CHART-MAKEUP (ไอจี : @ chartmakeup)
Wedding Planner :  บริษัท เศกสกล 1982 จำกัด (โทร. 08-5713-7813)
Photo : Vokeng Photographer  (โทร. 08-6656-0409)
คมกฤษณ์ สวนใคร้ (โทร. 09-0325-5995)

อัพเดทเทรนด์ เมกอัพ และ ทรงผมเจ้าสาว ส่งร้อนๆ จากรันเวย์ Bridal Spring 2019

ปีหน้า ทรงผมเจ้าสาว ทรงไหนกำลังจะมา เมกอัพเจ้าสาวแบบไหนกำลังจะอินชัวร์ เรารวมคำตอบมาให้แล้ว ถ้าไม่อยากเป็นเจ้าสาวตกเทรนด์ เลื่อนลงมาอ่านเลย!

จบลงไปแล้วอย่างสวยงาม สำหรับแฟชั่นวีคชุดเจ้าสาวประจำฤดูใบไม้ผลิปี 2019  หรือ Bridal Fashion Week Spring 2019 ที่เหล่าแบรนด์ชุดเจ้าสาวและแบรนด์แฟชั่นที่มีไลน์ชุดเจ้าสาวจากหลากหลายเมืองแฟชั่นทั่วโลก พากันจัดแฟชั่นโชว์เพื่อนำเสนอคอลเลกชั่นชุดเจ้าสาวที่จะกลายเป็นเทรนด์หลักของปีหน้า ซึ่งนอกจากเหล่าชุดเจ้าสาวใหม่ๆจะอลังการและสร้างความตื่นตาตื่นใจให้เราเหมือนเคย เทรนด์เมกอัพเจ้าสาวและทรงผมจากรันเวย์ต่างก็มีความอลังการงานสร้างเช่นกัน อดไม่ไหวจนเราต้องนำมารายงานเหล่าว่าที่เจ้าสาว ใครที่ไม่อยากตกเทรนด์ มาดูกันเลยค่ะว่า ปีหน้านี้ เมกอัพลุคไหนจะมาแรง ทรงผมทรงไหนที่ทำแล้วปังกว่าใครแน่นอน

เจ้าสาวผมสั้น นี่คือยุคของคุณ!

เจ้าสาวผมสั้นสามารถปล่อยผมให้ดูเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องรวบหรือพยายามเกล้าผม อาจจะใช้การม้วนสร้างเลเยอร์ให้ดูพองฟูน่ารักแทน

Amsale Spring 2019

งานที่คาดผมก็มา ดูเป็นเจ้าสาวคุณหนูน่าทะนุถนอม

อีกหนึ่งแอ็คเซสเซอรี่ผมเจ้าสาวอย่างที่คาดผมกำลังจะกลับมาอินเทรนด์แล้ว แถมยังมีให้เลือกหลากแบบหลายสไตล์ด้วย

BHLDN Spring 2019

หรือจะเปลี่ยนจากคาดผมเป็นผ้าผูกคอก็เก๋ไปอีกแบบ

และยังได้อารมณ์เจ้าสาววินเทจที่ดูไม่แก่ ไม่เชย แต่เก๋ไก๋มีสไตล์สุดๆ

Lela Rose Spring 2019

ย้อนส่องชุดแต่งงานมินฮโยริน ที่ขึ้นแท่นเป็นชุดแต่งงานไอคอนิคของวงการเค-ป๊อป

ชุดแต่งงานมินฮโยริน ชุดแต่งงานไอคอนิคของวงการเค-ป๊อป ที่สาวค่อนโลกอยากใส่ตาม!!

ถึงแม้จะเข้าสู่ประตูวิวาห์ไปตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ ชุดแต่งงานมินฮโยริน ก็ได้กลายเป็นชุดแต่งงานไอคอนิคของวงการเค-ป๊อปไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะด้วยความสวยงามที่เรียบหรู เน้นความน้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ จึงทำให้ชุดแต่งงานของเธอนั้นกลายเป็นชุดแต่งงานที่สาวๆ กว่าค่อนโลกอยากจะใส่ตามขึ้นมาทันที แพรว wedding เลยจะขอพาย้อนไปส่องถึงที่มาที่ไปของชุดแต่งงานไอคอนิคนี้กันว่า กว่าจะออกมาสวยสมบูรณ์แบบขนาดนี้เขาต้องวางแผนและทำยังไงกันบ้าง

ชุดแต่งงานมินฮโยริน
Photo: Hong Jang Hyun

หลายคนอาจจะได้เห็นบรรยากาศงานแต่งงานที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกของมินฮโยริน และแฟนหนุ่ม (ที่ตอนนี้เป็นสามีไปแล้ว T^T) แทยัง แห่งวง Bigbang กันไปแล้ว และเหนือกว่าบรรยากาศงานแต่งที่สวยงามราวเทพนิยายนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากคือ ชุดแต่งงานของมินฮโยริน จากแบรนด์ Oscar de la Renta จากคอลเลคชั่น Fall 2018 ที่สวยงามไม่แพ้บรรยากาศของงานแต่งงานเลย

“การได้ใส่ชุดแต่งงานเป็นสิ่งที่ต้องทำสักครั้งในชีวิต และมันก็สำคัญมากเพราะมันจะนำเสนอความเป็นตัวเองและสะท้อนถึงความเป็นตัวตนของฉันด้วย” มินฮโยรินได้ให้สัมภาษณ์กับ Vogue และเธอก็หวังว่าเธอจะได้ร่วมงานกับ ลอว์ร่า คิม ดีไซเนอร์ชาวเกาหลี และทันทีที่ทีมงานได้รู้ถึงความต้องการนี้ของเธอจึงมีการติดต่อหาเธอแทบจะทันทีเพื่อออกแบบและสเก็ตช์ภาพชุดแต่งงานที่เธอจะสวมในพิธีฉลองมงคลสมรส หลังจากนั้น คิม และ เฟอร์นานโด การ์เซีย ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ทั้งสองของแบรนด์ Oscar de la Renta ก็ได้นำเสนอชุดผ้าแพรทำด้วยไหมทั้งชุดที่ให้อารมณ์ความละเอียดอ่อน พร้อมการประดับด้วยดอกไม้ไว้ทั่วทั้งชุด ซึ่งชุดนี้ใช้เวลาทำจนกระทั่งเสร็จสิ้นเป็นเวลาถึง 240 ชั่วโมงในนิวยอร์ก โดยใช้ผ้าไหมอิตาเลียน 10 หลา และประดับประดาไปด้วยดอกไม้ที่เรียงรายไปทั่วทั้งตัวเสื้อช่วงบนและกระโปรง พร้อมกลีบดอกไม้อันเป็นเอกลักษณ์และแซมด้วยกลีบเกสรตัวผู้เพื่อช่วยเพิ่มมิติให้กับชุดแต่งงาน ในขณะที่ช่วงบนของเกาะอกดีไซน์ให้เหมือนกับกลีบดอกไม้ที่ห่อหุ้มอยู่ โอโห นี่มันชุดเทพธิดาแห่งหมู่มวลดอกไม้ชัดๆ!!

ชุดแต่งงานมินฮโยริน
Photo: Hong Jang Hyun
ชุดแต่งงานมินฮโยริน
Photo: Hong Jang Hyun

และวันหนึ่งในหน้าหนาวเดือนมกราคม คิมมาถึงที่สตูโอส่วนตัวของเธอที่ย่านคังนัม, เกาหลีใต้ เพื่อมาพบกับมินฮโยรินสำหรับการฟิตติ้งชุดแต่งงาน “ทันทีที่ฉันเห็น ฉันก็รู้ทันทีว่านี่แหละคือชุดแต่งงานของฉัน” มินฮโยรินกล่าว “ผ้าไหมอันสวยงามกับดีเทลของดอกไม้แบบ 3D ที่ใช้เทคนิคการปักแบบ appliqué ที่อ่อนหวานช่วยให้ชุดนี้เป็นชุดแต่งงานที่เพอร์เฟกต์”

และทันทีที่เวลเจ้าสาวได้ประดับลงบนศีรษะของเธอ พร้อมเทียร่าประดับเพชรจาก Joséphine Aigrette Impériale by Chaumet แมตช์กับตัวเวลที่โปรยปรายไว้ด้วยดอกป๊อปปี้ก็ช่วยให้ลุคทั้งหมดของ มินฮโยรินดูสวยงามราวกับเจ้าหญิงในชุดแต่งงานจากแบรนด์ Oscar de la Renta “ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันกำลังฝัน” มินฮโยรินกล่าว

แถมงานนี้มินฮโยรินเธอไม่ได้เฉิดฉายในชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวนะจ๊ะ เพราะอีกหนึ่งชุดที่เธอเลือกมาก็สวยงามไม่แพ้กัน กับชุดแต่งงานผ้าทูลล์ที่เล่นระบายช่วงหน้าอกจากแบรนด์ Jenny Packham ในคอลเลคชั่น 2018 ที่ชื่อ Adorn

ตามไปส่อง 10 ชุดแต่งงานคนดังฝั่งโคเรีย กันต่อเลย

เรียบเรียงข้อมูลและภาพจาก vogue.com, elle.sg, preview.ph

รวมสถานที่ขอแต่งงานสุดโรแมนติกกับบรรยากาศสุดฟินบน Rooftop Bar

ตามมาส่อง สถานที่ขอแต่งงาน กันดีกว่า … แน่นอนว่ามีหลายที่ ตามไลฟ์สไตล์ที่ว่าที่เจ้าบ่าวชอบ แต่ลองมาดูกันสิว่ามี สถานที่สุดโรแมนติกพร้อมบรรยากาศสุดฟินบน Rooftop Bar ที่ไหนบ้าง

แพรว wedding ขอแนะนำ Rooftop Bar สถานที่ขอแต่งงาน อีกหนึ่งสไตล์ที่อาจเป็นสถานที่ในใจของหนุ่มๆ หลายคน ที่กำลังมองหาสถานที่สุดฟินไว้ขอสาวแต่งงาน งานนี้เราเตรียมสถานที่มาให้แล้ว หนุ่มๆ ก็แค่เตรียมคิดเซอร์ไพรส์ดีๆ คำพูดซึ้งๆ และแหวนเพชรสวยๆ เตรียมไว้เลย

 

1. Sirocco Sky Bar – โรงแรมเลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ

Rooftop Bar ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านบางรัก คุณและคนรักจะได้วิวสุดฟินบนชั้น 63 ของโรงแรม เรียกได้ว่าสูงได้ใจและสวยมากๆ แถมยังสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างชัดเจน ส่วนการเดินทางก็สะดวกมาก หากใครที่ไม่มีรถส่วนตัวก็เพียงแค่เดินทางโดยรถไฟฟ้า บีทีเอส แล้วมาลงที่สถานีสะพานตากสินได้เลยค่ะ แถมขอแต่งงานเสร็จแล้วหากยังรับประทานอาหารที่โรงแรมไม่อิ่ม ก็สามารถมาฟินกับอาหารย่านบางรักที่เขาว่ากันว่าเป็นย่านที่มีแต่ของอร่อยกันต่อได้อีกด้วย

เวลาเปิด-ปิด: 18:00 – 01:00 น.
โทร : 02-624-9555

สถานที่ขอแต่งงาน
ภาพจาก : Lebua.com

2. Horizon Bar – โรงแรมฮิลตัน พัทยา

ตั้งอยู่บนชั้น 34 ของโรงแรมฮิลตัน พัทยา (โรงแรมอยู่ติดกับเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช) คอนเฟิร์มเลยว่าบรรยากาศนั้นสุดแสนจะโรแมนติก เพราะสามารถมองวิวเมืองพัทยาได้ถึง 360 องศา หากเป็นในตอนกลางวันก็สามารถชื่นชมกับฟ้าใสทะเลสวยได้อย่างเต็มตา แต่ถ้าเป็นในยามค่ำคืนก็จะได้ตื่นตาไปกับแสงไฟอันระยิบระยับที่แทบไม่เคยหลับใหล นับว่าเป็นภาพที่สวยงามชวนให้ฟินไปอีก นอกจากนี้ที่ Horizon Bar ยังมีโซฟาขนาดใหญ่ไว้ให้บริการ ที่ให้ความรู้สึกราวกับว่าที่นี่คือพื้นที่ส่วนตัวของคุณสองคนที่จะได้นั่งดื่มด่ำไปกับบรรยากาศและช่วงเวลาสุดพิเศษ โอย แค่คิดก็ฟินเว่อร์

เวลาเปิด-ปิด : 17:00 – 01:00 น.
โทร : 038-253-000

สถานที่ขอแต่งงาน
ภาพจาก : siam2nite

3. Myst Maya – เมญ่า เชียงใหม่ ไลฟ์สไตล์ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์

ลองหลบหลีกความวุ่นวายจากเมืองกรุง ขึ้นเหนือไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ที่เชียงใหม่กันบ้าง Myst Maya ตั้งอยู่บนชั้น 6 ของ เมญ่า เชียงใหม่ ไลฟ์สไตล์ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ ที่ถึงแม้จะสูงไม่ถึงหลัก 10 ชั้นแต่บอกเลยว่าเรื่องขอวิวนั้นไม่ธรรมดา เพราะสามารถมองเห็นวิวตัวเมืองเชียงใหม่ได้แบบ 360 องศาเลยนะคะคุณ แถมภายในก็มีการตกแต่งคล้ายๆ กับ โคลอสเซียม โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน นอกจากนี้ยังสามารถมาชมวิวพระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้าตรงดอยสุเทพได้แบบพอดีอีกด้วยนะคะ รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมแต่งตัวสไตล์กรีกไปให้เข้ากับธีมของสถานที่กันด้วยนะ อิอิ

เวลาเปิด-ปิด : 18.00-01.00 น.
โทร : 061-5126768

สถานที่ขอแต่งงาน
ภาพจาก : siam2nite

4. Gravity Bar – โรงแรมโนโวเทล หัวหิน ชะอำ บีชรีสอร์ทแอนด์สปา

เหมาะกับคู่รักที่วางแผนไปพักผ่อนที่หัวหินท่ามกลางบรรยากาศสดชื่นริมทะเล Gravity Bar ตั้งอยู่บนชั้น 24 ของโรงแรมโนโวเทล หัวหิน ชะอำ บีชรีสอร์ทแอนด์สปา ภายในมีการตกแต่งที่โดดเด่นด้วยศิลปิน Street Artists หรือการทำกราฟิตี้ตกแต่งนั่นเอง แถมยังสามารถมองวิวทะเลอ่าวไทยได้แบบ 360 องศาอีกด้วย เรียกได้ว่างานนี้ไปแล้วนอกจากจะได้ภาพถ่ายกับวิวทะเลสวยๆ แล้ว ยังได้ภาพถ่ายเท่ๆ กับลายกราฟิตี้กลับมาเป็นของแถมไปอีก เริดนะคะบอกเลย

เวลาเปิด-ปิด : 16.00-24.00  น.
โทร : 032-708-300

ภาพจาก : novotel huahin

5. Vertigo Moon and Bar – โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ

เตรียมชุดให้พร้อมและเซอร์ไพรส์ดีๆ ไว้รอ แล้วจูงมือคนรักไปรับประทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศกรุงเทพฯ ยามกลางคืน ที่บอกเลยว่าอาหารระดับพรีเมียมนะจ๊ะ ไม่ว่าจะเป็น สเต็ก หรืออาหารซีฟู้ดที่รับรองว่าฟินไม่แพ้วิวกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน นี่แค่คิดว่าจะได้ทานอาหารอร่อยถูกปากพร้อมชมวิวที่สวยถูกใจเราก็รู้สึกมีความสุขแทนสาวเจ้าแล้วนะเนี่ย แถมวิวที่นี่ก็ไม่ธรรมดานะจ๊ะเพราะร้านอาหารนั้นอยู่สูงถึงชั้น 61 ที่สามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้สุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว รู้อย่างนี้แล้วก็ซ้อมคุกเข่าเตรียมขอสาวแต่งงานได้เลยนะหนุ่มๆ เพราะด้วยวิวหลักล้านขนาดนี้เธอต้องเคลิ้มเซย์เยสแน่นอน ^^

เวลาเปิด-ปิด : 17.00-01.00 น.
โทร : 026791200

สถานที่ขอแต่งงาน
ภาพจาก : Banyantree Bangkok

6. Red Sky – โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

อีกหนึ่ง Rooftop Bar ที่ขึ้นชื่อใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่วิวนั้นดีไม่แพ้พัทยา เชียงใหม่ หรือหัวหินเลยนะจ๊ะ เพราะคุณและคนรักจะได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติกที่มีวิวของเมืองกรุงให้ชม แถมที่นี่ก็มีให้เลือกถึงสองชั้นไปอีก (อยู่ดาดฟ้าแล้วยังมีสองชั้น!!) โดยชั้นล่างนั้นเป็นร้านอาหารเหมาะกับการออกเดทกับคนสำคัญ ส่วนชั้นบนเป็น Rooftop Bar สุดชิลไว้นั่งรับลม พร้อมมีอาหารรสเลิศคอยบริการ รวมไปถึงค็อกเทลสูตรพิเศษด้วยน้า งานนี้อาจจะฟินกับอาหารที่ชั้นล่างแล้วจูงมือหวานใจไปขอแต่งงานที่บรรยากาศสุดฟินพร้อมวิวพานอรามาของเมืองกรุงที่ชั้นบน ไปทั้งที่ต้องใช้พื้นที่ให้คุ้ม!!

สถานที่ขอแต่งงาน
ภาพจาก : Centarahotel&Resort

เวลาเปิด-ปิด : 16.00-01.00 น.
โทร : 02-100-1234

ได้ไอเดียแล้ว ก็รีบวางแผนดีๆ นะจ๊ะ จองที่แล้วพาว่าที่เจ้าสาวไปเซอร์ไพรซ์ได้เลย และทางที่ดี มารู้วิธี เซอร์ไพรซ์!!…ขอแต่งงานยังไงให้ว่าที่เจ้าสาว Say Yes!! กันดีกว่า

แปะทริค ขั้นตอนการทำการ์ดขอบคุณ ให้ผู้รับประทับใจเก็บไว้เป็นที่ระลึก

การ์ดขอบคุณ มันคืออะไร? แล้วจำเป็นต้องให้กันด้วยหรอ?

Thank you Card หรือ การ์ดขอบคุณ สำหรับคนพิเศษที่มาร่วมงานแต่งงาน เป็นสิ่งหนึ่งที่ตอนนี้เริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา สำหรับใครที่ไม่รู้จักก็ให้นึกถึงการ์ดทั่วไปเลยค่ะ ซึ่งขึ้นอยู่กับการดีไซน์ของบ่าว-สาวว่าจะครีเอทออกมาเป็นแบบไหน ความพิเศษอยู่ที่การเขียนขอบคุณให้กับผู้ที่มาร่วมงานแต่งงาน บ้างก็ให้เฉพาะแขกเพื่อนสนิทส่งตามไปให้ทีหลังพร้อมแนบรูปถ่าย บ้างก็แจกให้ทุกคนคล้ายกับของชำร่วยก็ยังได้ เพราะเป็นของเล็กๆ น้อยๆ ที่บ่าว-สาวต้องการอยากจะให้เป็นที่ระลึกและใช้บอกความรู้สึกที่มีต่อแขกคนพิเศษ แต่ในปัจจุบันอาจจะไม่ค่อยได้เห็นการ์ดขอบคุณตามงานแต่งงานมากเท่าไหร่นัก เพราะบ่าว-สาวส่วนใหญ่เลือกที่จะกล่าวขอบคุณแขกทุกคนบนเวทีในวันแต่งงานไปแล้ว เดี๋ยวนี้จึงไม่ค่อยได้เห็นเสน่ห์ของการเขียนการ์ดขอบคุณที่คนให้เต็มใจและผู้รับก็สุขใจที่ได้อ่านเช่นกัน 🙂

การ์ดขอบคุณ

แหนะ เริ่มมีความสนใจอยากเขียนการ์ดขอบคุณขึ้นมากันบ้างแล้วยังคะ คู่ไหนที่สนใจก็อย่าเสียเวลา ตามมาอ่านเทคนิคการทำการ์ดขอบคุณกันต่อเลยดีกว่าค่า

 1. การเลือกกระดาษ

ควรใส่ใจตั้งแต่การเลือกกระดาษ เลือกใช้สีสุภาพ เช่น สีขาวนวล สีชมพูอ่อน สีงาช้างออกครีมๆ หรือใครจะสะดวกใช้การ์ดขอบคุณสำเร็จรูปแบบสวยๆ หาซื้อได้ตามร้านการ์ดของชำร่วยก็ไม่ว่ากันค่ะ ยิ่งหากคุณมีงบหน่อยจะเลือกใช้เป็นกระดาษถนอมสายตาก็จะดีมากเลยค่ะ เพราะนอกจากจะดูใส่ใจผู้อ่านแล้ว ยังเป็นกระดาษที่มีสีคลาสสิคแลดูอาร์ตๆ บ่งบอกความมีรสนิยมของบ่าว-สาวได้อีกด้วยน้า

2. เลือกปากกา

เมื่อเลือกกระดาษเสร็จแล้วมาต่อกันที่การเลือกหมึกปากกากันดีกว่าค่ะ ให้ใช้สีสุภาพ เส้นคมชัด ทำให้อ่านง่าย ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกใช้สีดำเข้ม เพราะดูเป็นทางการและสุภาพสุดแล้ว หากจะเลือกใช้สีน้ำเงินควรใช้เป็นปากกาน้ำเงินแบบเจลที่ให้สีเข้มก็จะมีความสวยมากกว่าการใช้ปากกาสีน้ำเงินธรรมดาทั่วไป แต่ก็มีข้อควรระวังกันนิดนึงนะคะ เพราะปากกาแบบเจลจะทำให้เลอะได้ง่าย เวลาเขียนจบ 1 บรรทัด ก็ควรรอให้แห้งดีเสียก่อนแล้วค่อยเขียนต่อ ซึ่งก็ทำให้เสียเวลาอยู่เหมือนกันนะคะ จึงไม่เหมาะกันบ่าว-สาวที่ต้องการส่งการ์ดขอบคุณไปให้แขกทุกคนที่มาร่วมงานค่ะ

3. เรียบเรียง

ก่อนจะลงมือเขียนลงบนการ์ดที่คุณได้จัดเตรียมไว้ ให้คุณร่างแบบว่าจะดีไซน์การ์ดออกมาให้รูปแบบไหน คิดข้อความเขียนใส่ลงกระดาษเปล่าให้เรียบร้อยไว้ก่อน ป้องกันการเขียนข้อความผิดแล้วคุณต้องมานั่งขีดฆ่า ลบให้เลอะเทอะหรือเปลี่ยนแผ่นใหม่ให้สิ้นเปลือง ที่สำคัญถ้าคุณต้องการแจกการ์ดขอบคุณเฉพาะแค่คนพิเศษที่มาร่วมงาน คุณควรเขียนข้อความที่ออกมาจากความรู้สึกที่อยากจะขอบคุณจากใจจริงๆ โดยแต่ละใบไม่ควรมีประโยคที่เหมือนๆ กันนะคะ

การ์ดขอบคุณ

4. ลงมือเขียน

ตั้งสติให้ดี เลือกนั่งเขียนในท่านั่งที่สบายและอยู่ในที่สงบๆ ไม่มีอะไรจะมารบกวนสมาธิเราได้ค่ะ เริ่ม! ลงมือเขียนการ์ดในบรรทัดแรกให้ระบุชื่อคนที่คุณจะเขียนถึง ต่อมาก็ลอกประโยคข้อความที่คุณได้เขียนร่างไว้ในข้อก่อนหน้านี้ ในประโยคควรมีการกล่าวถึงของขวัญที่ได้รับว่าสร้างความประทับใจให้กับคุณแค่ไหน โดยไม่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับของขวัญนะคะว่าคุณได้รับอะไรมา อาจเขียนเป็นกลางๆ ก็ได้ เขียนว่าคุณทั้งคู่ชอบของขวัญชิ้นนั้นเพราะอะไร เพื่อทำให้ผู้มอบรู้สึกมั่นใจว่าคุณทั้งคู่ได้รับของขวัญชิ้นนั้นจริงๆ หรือถ้าสิ่งที่คุณได้รับอาจไม่ใช่ของขวัญ แต่เป็นในรูปแบบการกระทำ การลงแรงช่วยงาน ก็ให้คุณเขียนกล่าวถึงในส่วนนั้นด้วยว่าคนพิเศษของคุณได้ช่วยเหลือในเรื่องอะไรบ้างและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานออกมาได้อย่างราบรื่น จะเน้นไปในทางการเขียนชื่นชมให้เขาหายเหนื่อย  หรือกรณีที่ได้รับเงินเป็นของขวัญ ไม่จำเป็นต้องระบุจำนวนเงินที่ได้รับลงไปในการ์ดขอบคุณ นอกเสียจากจำนวนเงินของขวัญที่ได้รับเป็นจำนวนเงินก้อนใหญ่ ถ้าเป็นแบบนั้นให้คุณเขียนคำขอบคุณแล้วควรบอกว่าจะนำเงินก้อนนั้นไปใช้สร้างประโยชน์อะไรก็จะยิ่งดีมากเลยค่ะ

5. เขียนเสร็จเรียบร้อย

เมื่อเขียนข้อความทุกอย่างครบเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมลงชื่อคุณทั้งคู่ด้านล่างสุดให้ชัดเจน ส่วนการใส่ซองกลับไปให้ก็แล้วแต่นะคะว่าจะมีหรือไหม เพราะการ์ดขอบคุณบางคู่ก็เป็นเพียงการ์ดใบเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องมีซองใส่ก็ได้ค่ะ ขอเสริมทริคการเลือกการ์ดขอบคุณนิดนึงนะคะ คือ ควรเลือกการ์ดที่มีขนาดเล็กถึงปานกลางประมาณครึ่งกระดาษ A4 พอค่ะเพราะจะดูน่าอ่านกว่าเลือกใช้กระดาษแผ่นใหญ่ อย่าลืมว่าเขียนคำขอบคุณนะคะไม่ได้เขียนเรียงความ อิอิ

ปล.งานแต่งงานที่มีขนาดใหญ่ มีแขกร่วมงานเป็นจำนวนมาก อนุโลมให้คู่บ่าวสาวใช้การ์ดขอบคุณที่เป็นข้อความกลางๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว เพราะการ์ดขอบคุณไม่ควรส่งถึงมือแขกเกิน 1 เดือน หลังจากสิ้นสุดงานแต่งงานค่ะ

รู้วิธีเขียนการ์ดขอบคุณกันไปแล้ว มาดูการเขียนการ์ดเชิญงานแต่งงานในพิธีเช้ากันบ้างค่ะ ว่าต้องเขียนรายละเอียดอะไรลงไปในงานเชิญบ้าง เขียนให้ถูก แขกไม่งง กับข้อความใน การ์ดแต่งงานพิธีเช้า

ข้อมูลจาก : weddingmarriagelove.blogspot.com, weddingsquare.com

ภาพจาก : lolalouiepaperie.com, pinterest.com

Dry Brushing เทรนด์ขัดผิวแบบใหม่เพื่อเตรียมผิวเจ้าสาวให้สวยวิ๊งกว่าเดิม!

Dry Brushing หรือ “การ ขัดผิว แบบแห้ง” คืออะไร? ดียังไง? แล้วมีวิธีขั้นตอนยังไงบ้างนะ? มาดูกัน

เหล่าว่าที่เจ้าสาวคงคุ้นเคยกับประโยชน์ของการ สครับผิว หรือการ ขัดผิว เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออก เผยผิวใหม่ที่สดใสเนียนกิ๊งกว่าเดิม แถมปัจจุบันนี้ในท้องตลาดก็ยังมีผลิตภัณฑ์กลุ่มช่วยขจัดเซลล์ผิวต่างๆวางขายอยู่มากมายจนเลือกไม่ไหว แต่ทว่าล่าสุด เราได้รับรายงานมาว่าเหล่าเซเลบริตี้และนางแบบชื่อดังของฮอลลีวูด เค้ากำลังฮิตเทรนด์การขัดผิวแบบใหม่ที่เรียกว่า Dry Brushing หรือแปลตรงๆตัวคือการขัดผิวแบบแห้ง ที่เชื่อกันว่าเป็นขั้นตอนการผลัดเซลล์ผิวเก่าเผยผิวใหม่ที่ให้ผลลัพธ์ผิวสวยกว่าเดิม! เราไม่รอช้านำมาเทรนด์นี้มาบอกเล่ากับเหล่าว่าที่เจ้าสาวที่กำลังอยากได้วิธีการเตรียมผิวกายและผิวหน้าให้สวยใสพร้อมสำหรับวันวิวาห์ มาดูกันเลยว่าการขัดผิวด้วยวิธีนี้เวิร์คจริงไหม? และมีขั้นตอนอย่างไรกันบ้าง

Dry Brushing คืออะไร?

คือวิธีการขจัดเซลล์ผิวเก่า ด้วยการขัดผิวโดยไม่ต้องใช้น้ำ ใช้เพียงอุปกรณ์คือแปรงขนธรรมชาติที่ทำจากพืช ปัดตามร่างกายเพื่อให้ขนแปรงดึงเอาเซลล์ที่ตายแล้วออกไป

ขัดผิว
Credit photo: peacefuldumpling.com

ประโยชน์ของ Dry Brushing

  • ไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองจากสครับ: เพราะหลายคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายจะประสบปัญหาแพ้สครับหรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่วางจำหน่ายทั่วไป นอกจากนั้นสครับบางประเภทยังมีเม็ดสครับที่ใหญ่และหยาบเกินไป ยิ่งทำให้ผิวเกิดรอยขีดข่วนและระคายเคืองมากกว่าเดิม
  • ช่วยให้ผิวได้รับอ็อกซิเจนได้ดีกว่า: ซึ่งในระยะยาวจะช่วยลดการเกิดเซลลูไลท์ ลดสีผิวไม่สม่ำเสมอ เพราะอ็อกซิเจนที่เข้าสู่ผิวหนังจะช่วยลำเลียงสารอาหารให้เม็ดเลือดได้ดีขึ้นค่ะ
  • ช่วยขจัดแบคทีเรียบนผิวหนัง และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย: ในขณะที่เราปัดแปรงไปมาทั่วร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่มีต่อมน้ำเหลือง จะเป็นการกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองให้ทำงานในการขับของเสียให้ดีขึ้น ช่วยให้ผิวเราดูใสขึ้น และลดอาการบวมน้ำได้ด้วย
  • ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด: ณ ขณะที่เราปัดแปรงไปมา นอกจากจะกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองให้ทำงานดีขึ้นแล้วยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้ผิวดูมีเลือดฝาดแบบสุขภาพดี และยังช่วยกระตุ้นให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นจากการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้นด้วย
  • ขัดผิว
    Credit Photo: KARMAMEJU SKINCARE

อยากทำซะแล้วละ!  แล้วขั้นตอนละ มีอะไรบ้าง

ขั้นตอนง่ายๆ เพียงมีอุปกรณ์ก็คือ แปรงสำหรับขัดผิวแบบแห้งโดยเฉพาะ ซึ่งเจ้าแปรงที่ว่าจะมีลักษณะพิเศษดังนี้ค่ะ…

  • เป็นแปรงที่ทำมาจากขนแปรงธรรมชาติ ตอนนี้มีแปรงหลากหลายยี่ห้อที่ทำขึ้นมาเพื่อการ Dry Brushing โดยเฉพาะ ซึ่งขนแปรงจะทำจากเยื่อของพืชหลากชนิด
  • ถ้าหาซื้อไม่ได้ เราสามารถใช้เป็นแปรงขนสัตว์แทนก็ได้ แต่แนะนำว่าควรเป็นแปรงจากขนธรรมชาติที่ค่อนข้างอ่อนนุ่มจะดีกว่าขนสังเคราะห์ค่ะ
    Green People Age Defy & Body Brush

    Aromatherapy Associates Body Brush

ขั้นตอนคือ…

  1. ตื่นตอนเช้า ก่อนอาบน้ำ เริ่มแปรงผิวโดยเริ่มจากขา ปัดแปรงขึ้นด้านบนเป็นทิศทางเดียวกัน ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆตามร่างกายโดยปัดแปรงไปในทิศทางเดียวกันตลอดคือปัดขึ้นด้านบน ทิปส์คือคิดภาพเหมือนเวลาเราใช้ช้อนตักไอติม จะเป็นการปัดในลักษณะเหมือนการวนเป็นวงกลมนิดๆค่ะ
  2. หลังจากปัดทั่วร่างกายแล้ว ปิดท้ายด้วยการอาบน้ำเย็นเพื่อปิดรูขุมขน
  3. เช็ดตัวให้แห้ง แล้วทาโลชั่นบำรุงผิวตามปกติค่ะ
    ขัดผิว
    Credit Photo: bluekarmaresort.com

    Credit Photo: skin-brushing.com

เสร็จเรียบร้อยสำหรับเทคนิคการ Dry Brushing เพื่อเตรียมผิวกายเจ้าสาวให้สวยพร้อมในวันวิวาห์ ใครลองทำแล้วได้ผลเป็นอย่างไรมากระซิบบอกเราบ้างนะคะ ^^ ส่วนใครที่ยังอยากฟินกันต่อกับทิปส์การเตรียมผิวกายกิ๊บเก๋จากเรา คลิกอ่าน รวมสูตรความงามจากแม่หญิงการะเกดที่เจ้าสาวเอามาใช้ได้จริง! ที่นี่เลย

Credit Story: vogue.comelle.com

9 เมนูผักผลไม้ปั่น เพื่อรูปร่างในฝันทันวันวิวาห์!

อย่างที่สาวๆเคยได้ยินกันมานั่นแหลค่ะ ว่าอยากลดน้ำหนักให้กินผลไม้แทนมื้อเย็น นั่นก็เป็นเพราะตอนเย็นเราไม่ได้ทำกิจกรรมไรมาก อย่างมาก ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือเบาๆ แล้วเข้านอน ฉะนั้นถ้าจะให้ร่างกายไม่สะสมเราเองจึงควรทานอาหารเบาๆ เอาไว้ และผลไม้ก็มักเป็นตัวเลือกแรกๆสำหรับใครหลายคน ทีนี้เราจะชวนคุณเปลี่ยนมาเป็นน้ำผลไม้ดูกันค่ะ ผลไม้พอปั่นให้อณูเล็กละเอียดหรือคั้นเป็นน้ำแล้วก็ดูดซึมได้ง่าย ร่างกายนำไปใช้ได้ทันที ไม่เกิดการสะสมจนกลายเป็นห่วงยางน้อยๆ วันนี้ แพรว wedding จึงนำ น้ำผักผลไม้ เพื่อสุขภาพ 9 สูตรง่ายๆ ใครๆก็ทำตามได้มามาแบ่งปันกันค่ะ

 

น้ำมะละกอ

น้ำผักผลไม้

มะละกอสีเหลืองๆ ส้มๆ นี่มหัศจรรย์ ปั่นเป็นน้ำผลไม้ลดน้ำหนักแช่เย็นดูสิ ช่วยระบบขับถ่ายดีชะมัด ช่วงไหนลดราคาซื้อมาทิ้งไว้ติดตู้เย็นได้เลย ไม่มีผิดหวัง

น้ำแอปเปิลเขียว

น้ำผักผลไม้

ผลไม้สุดฮิตของคนลดความอ้วน จะกินสดหรือปั่นเป็นน้ำผลไม้ไว้ลดน้ำหนักก็ได้ เพราะแอปเปิลเขียวแคลอรีต่ำเหมาะกับคนที่ต้องการพุงยุบแต่อิ่มอร่อย

น้ำแก้วมังกร

น้ำผักผลไม้

จะสีม่วงหรือสีขาวก็จัดมาเลย จะกินสด หรือจะปั่นเป็นน้ำผลไม้ลดน้ำหนักก็ได้ทั้งนั้น แถมเปลือกยังมีประโยชน์ไม่ต้องทิ้ง เอาไปชุบแป้งทอดหรือยำก็อร่อยเฉยเลย

น้ำทับทิม

น้ำผักผลไม้

เมนูนี้แหละที่ดาราฮิตฮอตกันเหลือเกิน จะดื่มแบบสดๆ หรือจะซื้อแบบสกัดสำเร็จรูปก็ได้นะ ให้คุณประโยชน์ไม่ต่างกัน สะดวกแบบไหนจัดไปเลยค่ะคุณ

น้ำมะเขือเทศ

น้ำผักผลไม้

พืชผลตระกูลผักที่ได้ยินมาตั้งแต่รุ่นแม่ยังสาวยังคงฮิตไม่เลิกรา ก็มะเขือเทศอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย อย่าให้สาธยายเลยว่าดีต่อผิวและรูปร่างอย่างไร เย็นนั้นไปจัดเลยค่ะ ซื้อมาตุนทิ้งไว้ในตู้

น้ำเบอร์รี่ กับเมล็ดเจีย

น้ำผักผลไม้

จริงๆ สูตรนั้นคือ เมล็ดเจียพระเอกของการลดน้ำหนักที่ได้ผลดี นำมาปั่นรวมกับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ชนิดใดก็ได้ คุณสมบัติของผลไม้วิเศษ 2 ชนิดรวมกัน เราก็ได้น้ำผลไม้ลดน้ำหนักที่พร้อมจะช่วยคุณไดเอ็ทแล้ว

น้ำแอปเปิล กับอบเชย

น้ำผักผลไม้

เมนูสุดฮิตของเซเลปดารา เครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม ไฟเบอร์ และวิตามินจากแอปเปิล จับมาปั่นๆ รวมกันอิ่มอยู่ท้องนาน

น้ำบลูเบอร์รี่ กับสับปะรด

น้ำผักผลไม้

ใครอยากพุงยุบจัดสูตรดีท็อกซ์ไปเลย จะเพิ่มแอปเปิลลงไปด้วยก็ได้นะ รับรองได้เรื่อง

น้ำแอปเปิลเขียว กับกล้วย

น้ำผักผลไม้

สูตรนี้ก็ดีท็อกซ์เช่นกัน ใครที่รู้สึกหนักๆ ตัว จัดไปเลย เช้าๆ ดื่มเป็นน้ำผลไม้ลดน้ำหนักก่อนออกกำลังกายสักครึ่ง ชม. รับรองว่าดีเว่อร์

 

cr : organicfacts.net, bostonmagazine.com, skinnyms.com, foodnetwork.com,  fannetasticfood.com

5 กิจกรรมที่จะทำให้ฮันนีมูนในฝัน ณ มัลดีฟส์ ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

ควรไปทำอะไรที่ มัลดีฟส์ กันดี?

มัลดีฟส์ สถานที่ฮันนีมูนในฝันของคู่รักส่วนใหญ่ เป็นประเทศที่มีพื้นที่ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการังจำนวนมากในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อพูดถึงที่นี่ทุกคนก็จะต้องนึกถึงทะเลสีเขียวมรกต น้ำใสกริ๊งจนมองเห็นปลาน้อยใหญ่ หาดทรายเม็ดละเอียดสีขาวสะอาด มาพร้อมที่พักรีสอร์ทสุดหรูที่ตั้งอยู่ภายใต้สถานที่อันเงียบสงบ เหมาะแก่การเดินทางไปฮันนีมูนพักผ่อนยิ่งนัก แต่เดี๋ยวก่อนนนน! มัลดีฟส์ไม่ได้มีดีแค่การไปพักผ่อนนั่งเล่น นอนเล่นเพียงเท่านั้นนะคะ ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมายให้คุณสนุกได้แบบไม่มีเบื่อเลยล่ะ

มัลดีฟ

ดำน้ำ

กิจกรรมดำน้ำของเกาะสวรรค์แห่งนี้คุณทั้งคู่สามารถเช่าสน็อคเกิ้ลกระโจนลงน้ำได้ทั้งบริเวณหน้าที่พัก หรือใครที่อยากชมความสวยงามของใต้ท้องทะเลแบบเต็มๆ ตาก็สามารถซื้อทัวร์วันเดย์ทริปเลือกทริปดำน้ำได้ทั้งแบบน้ำตื้นและแบบน้ำลึกที่จะมีวิทยากรให้คำแนะนำ พร้อมครูสอนการใช้อุปกรณ์ การดำน้ำหลักสูตรเร่งรัดที่คนดำน้ำไม่เป็นก็ยังสามารถดำลงไปเซย์ไฮกับเหล่าบรรดาสัตว์ใต้น้ำได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีกิจกรรมสุดตื่นเต้นที่ต้องขอบอกก่อนว่าคนใจไม่ถึงอย่าลงไปเลยเน้อ นั่นคือ ดำน้ำเคียงคู่ปลาฉลามนั่นเองจ้า แค่ได้ยินชื่อก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้แล้วอ่ะ งั้นขอเชิญคู่รักที่ชอบความตื่นเต้นท้าทายอย่างพวกคุณลงไปเปิดประสบการณ์ที่หาได้ยาก ลงไปแล้วถ้ามีโอกาสได้กลับขึ้นมา อย่าลืมมารีวิวให้ฟังกันด้วยน้า ฮ่าๆ

มัลดีฟ

ไปดูสัตว์โลกน่ารัก

ของเด่น ของดัง ของขึ้นชื่อที่นี่ต้องยกให้คุณโลมาเขาล่ะ ถึงขั้นมีการจัดทัวร์พานักท่องเที่ยวไปชมปลาโลมาที่จะมาโชว์ลีลาการว่ายน้ำไปพร้อมๆ กับเรือของนักท่องเที่ยว แถมไม่ได้มาเพียงแค่ตัวเดียวนะคะพวกนางมากันเป็นฝูงเลยจ้า แต่จะออกมาให้พวกเราได้เห็นกันเฉพาะในวันที่อากาศดี ไร้วี่แววของฝน และต้องอาศัยดวงกันหน่อย หากไปแล้วไม่ได้เจอปลาโลมาก็อย่าเสียใจไปค่ะ เพราะทัวร์นี้คุณจะสามารถได้ชมพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ วิวที่ต้องมาดูกับคู่รักถึงจะฟินสุด นอกจากมีปลาโลมาให้ได้ชมกันอย่างใกล้ชิดแล้ว ในท้องทะเลแห่งนี้ก็ยังมีวาฬ ให้คุณได้ออกกลางทะเลไปพร้อมกับไกด์ทัวร์พาชมวาฬยักษ์ใหญ่ราชาแห่งท้องทะเล และยังไม่หมดนะคะ สำหรับการดูสัตว์โลกน่ารักตระกูลปลา ในบางรีสอร์ทยังมีกิจกรรมให้อาหารปลาฉลามในช่วงเย็น โดยคุณปลาฉลามก็ช่างแสนรู้เสียเหลือเกิน มารอรับอาหารตรงเวลาเป๊ะบริเวณที่รีสอร์ทจัดโซนไว้โดยเฉพาะด้วยนะคะ


มัลดีฟ

ตกหมึก-ตกปลา

การตกหมึกตกปลารอบๆ เกาะของมัลดีฟส์เป็นสิ่งที่ห้ามทำเลยนะคะ เพราะที่นี่มีการอนุรักษ์ธรรมชาติทางทะเลไว้ ตามรีสอร์ทจะรู้กันดีต่างตั้งกฎระเบียบข้อห้ามตกหมึก ตกปลาบริเวณรีสอร์ทเด็ดดขาด อ้าว แล้วทีนี้จะบอกว่ามีกิจกรรมตกปลาได้ยังไงกันล่ะ? หากใครที่ชื่นชอบกิจกรรมนี้ เล่นพอสนุก ไม่ได้มีความต้องการตกกันอย่างจริงจังจนนำกลับมาประกอบอาหารแบบนี้ ที่มัลดีฟส์ก็มีบริษัททัวร์เป็นการจัดทัวร์สำหรับตกหมึก-ตกปลาโดยเฉพาะ โดยทางทัวร์จะพาไปบริเวณที่ได้จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวมาร่วมกันตกปลาสนุกๆ แข่งกันพอหอมปากหอมคอ ซึ่งมีทัวร์ทั้งตอนกลางวันและกลางคืน ในตอนกลางคืนจะเป็นการออกไปกับชาวประมงของรีสอร์ทที่ออกไปจับปลาเป็นปกติ ในตอนนี้คุณจะได้เจอกับปลาที่หลากหลายมากๆ ปลาบางชนิดตกได้แล้วก็ต้องปล่อยคืนสู่ทะเลเช่นกันอย่างปลาฉลามท้องถิ่นที่กลัวจะสูญพันธุ์ในอนาคต

มัลดีฟ

การเล่นกีฬาทางน้ำ

ที่นี่ก็มีหลากหลายมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น การเล่นกระดานโต้คลื่นที่เป็นกิจกรรมยอดนิยมบนหมู่เกาะ เพราะมีจุดที่มีคลื่นม้วนใหญ่บางแห่ง (ส่วนตรงไหนสงบน้ำก็นิ่งเชียว) ซึ่งสามารถเดินทางไปได้จากรีสอร์ทที่อยู่ใกล้กับ Male Surfing Safaris หรือการนั่งเรือเพื่อไปเล่นกระดานโต้คลื่นตามเกาะที่อยู่ห่างออกไปก็สามารถให้ทางรีสอร์ทหรือทัวร์จัดให้ได้ ต่อกับอีกหนึ่งความสนุกอย่างไคร์ทเซิร์ฟสุดมันท้าทายคลื่น ลม ทะเล เหมาะกับคนที่ร่างกายแข็งแรงเท่านั้น เพราะบางจังหวะอาจทำให้คุณถึงกับตีลังกาผาดโผนเลยทีเดียว ส่วนใครที่อยากชิลลงมาอีกนิดแนะนำการเล่นวินด์เซิร์ฟที่ต้องอาศัยการควบคุมใบเรือคล้ายเรือใบแล่นฝ่าคลื่นไปตามท้องทะเล นอกจากนี้ยังมีกีฬาทางน้ำอีกมากมายให้คู่รักที่ชื่นชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีมได้สนุกสุดมันไม่รู้ลืม


มัลดีฟ

พายเรือ

ปัจจุบันกิจกรรมพายเรือคายัคและการพายเรือแคนูบนท้องทะเลพร้อมแชะภาพชิคๆ กำลังเป็นที่นิยมของเหลาคู่รักวัยรุ่นที่อยากโพสต์ลงบนโซเชียลให้ดูมีไลฟ์สไตล์อย่างคนคูลๆ ความเป็นจริงแล้วกิจกรรมพายเรือคายัคก็เป็นกีฬาทางน้ำประเภทหนึ่ง ที่ต้องใช้แรงมหาศาลพายกันจนกล้ามแขนขึ้น เพื่อโต้คลื่นขึ้นไปไม่ให้ซัดกลับเข้าฝั่ง และยังเป็นกีฬาที่มองดูยังไงก็เหมาะกับคู่รักดีนะคะ ต้องอาศัยความสามัคคีของทั้งสองคนช่วยกันพายเรือคายัคผ่านกระแสคลื่นลมที่เปรียบได้กับอุปสรรคที่ผ่านเข้ามา ฮิ้ววว ดูดีมีความหมายไปอีก สำหรับคู่รักที่ไม่ได้ชอบกีฬาโลดโผนมาก แค่อยากมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำพอคลายความเบื่อการพายเรือในทะเลมัลดีฟส์ก็เป็นหนึ่งกิจกรรมที่น่าลอง แถมยังได้พร็อพมาถ่ายภาพชิคๆ อีกด้วยน้า

กิจกรรมน่าสนใจทั้งนั้นเลยใช่ไหมคะ? ส่วนใครที่สนใจไปฮันนีมูนต่างประเทศที่มัลดีฟส์ก็ลองมาศึกษาขั้นตอนต่างๆ ให้ดีกันก่อนออกเดินทางได้ใน คู่มือเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางฮันนีมูนต่างประเทศให้ไร้กังวล ค่ะ

Cr : pinterest.com

ดูกันเพลินๆ กับ 10 เครื่องประดับเพชร สุดเลอค่าและมูลค่ามากมายที่สุดในโลก

แพรว wedding ขอยกขบวน เครื่องประดับเพชร แสนสวยสุดเลอค่ามาให้ว่าที่เจ้าสาวได้ดูกันเพลินๆ เผื่อว่าคุณเจ้าบ่าวจะใจดีจัดมาให้ในขบวนขันหมาก ซึ่งที่ว่าเลอค่านี้เลอค่าทั้งความงามและมูลค่า เพราะแต่ละชิ้นเนี่ย…แพงได้อีก แต่จะแพงขนาดไหนไปดูกันเลยค่ะ

อันดับ 10 สร้อยคอเพชรรูปหยดน้ำ มูลค่า 401,120,000 บาท

10สร้อยคอประดับจี้เพชรน้ำงามอันดับ 10 เส้นนี้มาจากร้าน Christie’s ประเทศฮ่องกง ออกแบบโดย William Goldberg ใช้เวลาผลิตถึง 6 เดือน โดยการเจียระไนเพชรให้เป็นรูปหยดน้ำให้ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนัก 75.36 กะรัต นอกจากนี้ยังประดับด้วยเพชรสีชมพูทรงเมล็ดข้าวที่อยู่ด้านบนของจี้ สายคล้องคอทำจากทองคำขาว 18 กะรัต รายละเอียดเยอะขนาดนี้ราคาก็แค่ 401,120,000 บาท เท่านั้น โอ้ว มาย ก๊อททท!!!

อันดับ 9 สร้อยคอเพชรสุดโรแมนติก Heart of the Kingdom  มูลค่า 505,917,000 บาท

9Heart of the Kingdom สร้อยคอเพชรที่ใครเห็นก็ต้องชอบและประทับใจ เส้นนี้ทำจากทับทิมพม่าเจียระไนเป็นรูปหัวใจ น้ำหนักถึง 40.63 กะรัต เพิ่มความหรูหราด้วยการประดับเพชร 150 ชนิด น้ำหนักรวม 155 กะรัต ผลิตโดย Garrard บริษัทเครื่องประดับที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก สนนราคาของแหวนวงนี้ก็เบาๆ ก็แค่ 505,917,000 บาทเท่านั้นค่ะ

อันดับ 8 หนึ่งในแหวนเพชรสามเหลี่ยมที่แพงที่สุดในโลกจาก Bvlgari  มูลค่า 567,350,000 บาท

8แหวนเพชร Blue Diamond ทรงสามเหลี่ยมจาก Bvlgari วงนี้มีความพิเศษตรงที่มีเพชรสองสีอยู่ในวงเดียวกันนั่นคือเพชรสีน้ำเงิน (Blue Diamond) 10.95 กะรัต และเพชรใสไร้สี 9.85 กะรัต ซึ่งราคาต่อกะรัตของเพชรสีนี้มีมูลค่าถึง $1.8 ล้านดอลลาห์ เมื่อความพิเศษสองสิ่งมาอยู่ในที่เดียวกันพร้อมกับเป็นแบรนด์หรูอย่าง Bvlgari ด้วยแล้วราคาก็ไม่ธรรมดาสิคะจัดไปเบาะๆ 567,350,000 บาท

อันดับ 7 เพชรสีน้ำเงินดีเทลเก๋ จาก Chopard Swittzerland มูลค่า 587,587,000 บาท

7แหวนเพชร Blue Diamond จาก Chopard (ร้านเพชรและนาฬิกาชื่อดังของประเทศสวิตเซอร์แลนด์) ที่เห็นราคาแล้วก็แทบจะลมจับเพราะมีราคาสูงถึง 587,587,000 บาท ไฮไลท์อยู่ที่ความสมบูรณ์แบบของเพชร Blue Diamond รูปไข่ 9 กะรัตที่เสริมความงามด้านข้างด้วยเพชรสามเหลี่ยมคล้ายปีกนางฟ้า ตัววงทำจากทองคำขาว 18 กะรัต สวย เวอร์วัง จนอยากได้เป็นเจ้าของสักวงเลยใช่ไหมล่ะ

อันดับ 6 สุดยอดหัวใจมหาสมุทร จากไททานิค มูลค่า 722,739,000 บาท

6หากใครเคยชมภาพยนตร์เรื่องไททานิค คงจะคุ้นตากับ Heart of Ocean เส้นนี้ เพราะโรสใส่ตอนที่แจ๊คกำลังจะวาดภาพสยิวของเธอนั่นเองค่ะ สร้อยเส้นนี้ถูกทำขึ้นโดย Harry Winston ใช้เพชรสีน้ำเงินขนาด 15 กะรัตมาเจียระไนเป็นรูปหัวใจเพื่อสื่อถึงหัวใจของมหาสุมทร สร้อยเส้นนี้นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง Gloria Stuart ก็เคยใส่ไปงาน Academy Awards ในปี 1998 และยังเป็นสร้อยที่แพงที่สุดในงานนี้ด้วยค่ะ มีความเชื่อกันว่า Heart of Ocean นั้นเป็นของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และยังเป็นส่วนหนึ่งของมงกุฎที่พระองค์สวมใส่ด้วยค่ะ

อันดับ 5 ความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของ Perfect Pink มูลค่า 838,377,958 บาท

5เพชรสีชมพูขึ้นชื่อว่าหายากมากๆ และมีมูลค่าสูงมากด้วย จึงไม่แปลกนะคะที่แหวนอย่าง Perfect Pink จะแพงมหาศาล ด้วยชื่อก็บอกอยู่แล้วนะคะว่าต้องยอดเยี่ยม แหวน Perfect Pink มีมูลค่าถึง 838,377,958 บาท วงนี้ประกอบด้วยเพชรสีชมพูบริสุทธิ์น้ำหนัก 14.23 กะรัต และเพื่อเพิ่มความสง่างามให้กับเพชรสีชมพู ด้านข้างจึงประดับด้วยเพชรสีขาว น้ำหนัก 1.67 และ 1.73 กะรัต เพิ่มความหรูหราให้สมกับความเพอร์เฟ็คท์ไปอีกด้วยตัววงที่ทำมาจากทองคำขาว 18 กะรัต

อันดับ 4 สวย หรู ไปกับ The Graff Pink มูลค่า 1,671,243,000 บาท

4The Graff Pink แหวนเพชรสีชมพูอีกวงที่นำเพชรมาถูกเจียระไนให้เป็นรูปสีเหลี่ยมมุมโค้งขนาด 24.78 กะรัตประดับด้วยเพชรสีขาวบริสุทธิ์รูปโล่สองข้าง แหวนเพชรสีชมพูวงนี้ถูกขายในวันที่ 16 พฤศจิกายน ปี 2010 ในงานประมูลเพชรที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ด้วยมูลค่าถึง 1,671,243,000 ให้กับนักเก็บอัญมณีและเพชรผู้มีชื่อเสียง Laurence Graff แหวนสีชมพูวงนี้เห็นแล้วต้องบอกว่าที่สวยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้แต่ราคาก็แพงมากกกกเช่นกันค่ะ

อันดับ 3 สร้อยคอที่แพงที่สุดในโลก L’Incomparable Diamond มูลค่า 1,989,576,000 บาท

3แหวนที่ราคาแพงสุดติ่งเราก็เห็นกันมาจนเต็มอิ่มแล้วนะคะ เราจะพามาดูสร้อยคอที่แพงที่สุดในโลกกันบ้าง L’Incomparable Diamond ถูกจัดอันดับโดย Guinness World Records ว่าเป็นสร้อยเพชรที่แพงที่สุดในโลกค่า สร้อยคอเส้นนี้มีน้ำหนักเพชรถึง 637 กะรัต ตัวจี้ทำจากเพชรสีเหลืองมีน้ำหนัก 407 กะรัต และตัวสร้อยทำจากทองคำขาวประดับด้วยเพชร 230 กะรัต สร้อยคอเส้นนี้ถูกทำขึ้นที่ Mouawad ตั้งอยู่ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

ส่วนคำถามที่ทุกคนสงสัยว่าทำไมสร้อยเส้นนี้ถึงแพงมากที่สุดในโลก ผู้ให้คำตอบคือสถาบัน Gemological ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเกี่ยวกับจิเวลรี่และหินต่างๆ บอกว่าเพชรสีเหลืองนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและสมบูรณ์แบบมากที่สุดในโลกอีกทั้งยังถูกค้นพบโดยเด็กสาวคองโกค่ะ โอ้โหหห ประวัติยาวนานขนาดนี้ก็ต้องยกให้เป็นสร้อยที่แพงอันดับหนึ่งของโลกเลยล่ะค่ะ

อันดับ 2 แหวนเพชรที่ทำจากเพชร 100 % มูลค่า 2,532,187,000 บาท

2เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกเลยนะคะที่เราได้เห็นแหวนเพชรที่ทำจากเพชรทั้งหมด ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมถึงได้แพงเว่อขนาดนี้ แหวนเพชร 100% วงนี้เจียระไนจากเพชรทั้งหมดน้ำหนัก 150 กะรัต ถูกทำขึ้นเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ปี 2012 โดย Shawish  Jewelry ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และราคาที่ไม่ธรรมดาที่บอกเลยว่าแพงมากกกกถึงมากที่สุด เพราะมีราคาสูงถึง 2,532,187,000 บาท

อันดับ 1 Pink Star แหวนเพชรสีชมพูที่แพงที่สุดในโลก มูลค่า 3,006,868,000 บาท

1นับถอยหลังจนมาถึงอันดับ 1 กันแล้วนะคะ หลังจากที่เราดูทั้งแหวนและสร้อยที่ละลานตากันมาแล้ว มาดูกันค่ะว่าอันดับหนึ่งของเราจะเว่อ จะเริ่ดขนาดไหน Pink Star วงนี้ทำจากเพชรสีชมพูที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ค่ะ และยังเป็นเพชรแฟนซีที่มีสีชมพูสวยธรรมชาติมากที่สุด

เพชรชิ้นนี้ถูกเจียระไนออกจากเพชรสีชมพูที่มีขนาด 132.5 กะรัต โดย De Beers ในแอฟริกาปี 1999 และถูกนำมาประมูลเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ในปี 2012 ที่งาน Christie’s เมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดย Isaac Wolf เป็นผู้ประมูลไปในราคา 83.01 ล้านดอลลาห์สหรัฐ หรือเมื่อตีเป็นเงินไทยแล้วมีมูลค่าสูงถึง 3,006,868,000 บาท เพชรสีชมพูชิ้นนี้ถูกเจียระไนเป็นรูปไข่ขนาด 59.06 กะรัต โดยใช้เวลาถึง 2 ปีในการเจียระไน

เห็นวงนี้แล้ว เราอยากกรี๊ดร้องให้ดังไปแปดบ้านเจ็ดบ้านว่าอยากได้มากกกกก แต่เห็นราคาแล้วก็หันไปปลอบใจตัวเองเบาๆ ว่านอนฝันหวานไปก่อนแล้วกัน

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.topteny.com, www.graffdiamonds.com, vogue.com

รวม ของชำร่วยงานแต่ง เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร … จะมีอะไรบ้างมาดูกัน

มาดูไอเดีย ของชำร่วยงานแต่ง ที่เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร กันดีกว่า บ่าวสาวหลายคู่อาจจะเริ่มเบื่อกับไอเดียของชำร่วยแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น ช้อน ส้อม ตะเกียบ หมอน ถ้วยจานชาม พวงกุญแจ ต่างๆ นานา … บอกเลยว่าแขกที่มาร่วมงานก็เบื่อไม่แพ้กับบ่าวสาวนั่นแหละจ่ะ

ไอเดีย ของชำร่วยงานแต่ง ยูนีคสุดๆ รับรองไม่มีใครเหมือน 

ถ้าอย่างนั้นเรามาลองดู ของชำร่วยงานแต่ง ที่ไม่ซ้ำใครกันดีกว่า รับรองว่าถูกใจผู้รับแน่นอน เรียกได้ว่าเมื่อแขกที่มาร่วมงานได้รับไปแล้ว จะไม่แอบวางทิ้งไว้ในงานแน่นอน

1. น้ำมันมะกอก

เอาใจบ่าวสาวสายเฮลธ์ตี้ ลองแจกน้ำมันมะกอกดูนะ ด้วยสรรพคุณที่เรียกได้ว่าชนะเลิศ เพราะสามารถนำมาปรุงอาหารหรือทำสลัดผักก็ได้ แถมยังช่วยลดความอ้วน และยับยั้งโรคเบาหวานได้อีกนะจ๊ะ แล้วอย่าลืมหาขวดสวยๆ พร้อมผูกริบบิ้นตกแต่งนิดหน่อย เท่านี้ก็พร้อมแจกให้แขกแล้ว

ของชำร่วยงานแต่ง

2. เกลือหิมาลายัน

เอ๊ะ ไม่คุ้นหูใช่ไหมจ๊ะ เกลืออะไรนะ … เกลือหิมาลายัน หรือเกลือสีชมพูค่ะ สามารถหาซื้อได้ตามร้านสปา หรือสั่งออนไลน์ก็ได้นะ ส่วนสรรพคุณของเกลือหิมาลายันก็มีเยอะมากๆ เช่น นำมาทำเป็นก้อนแล้วประคบตรงที่ปวดกระดูก กล้ามเนื้อได้ หรือจะนำไปละลายน้ำแล้วนอนแช่ตัวก็จะช่วยให้ร่างกายได้ดูดซึมแร่ธาตุต่างๆ ได้ดีขึ้น นอกจากจะมีสรรพคุณเยอะมากแล้ว สียังสวยอีกด้วยอ่ะ 🙂

ของชำร่วยงานแต่ง

3. เทียนหอม

ลองเลือกเทียนหอมกลิ่นดีๆ หรือกลิ่นที่มีส่วนช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ในร่างกายดู เช่น ลดอาการเวียนหัว ลดความเครียด เพราะจะได้เป็นสิ่งของที่มอบแล้วเกิดประโยชน์ต่อแขกที่มาร่วมงานนั่นเองค่ะ

ของชำร่วยงานแต่ง

4. แว่นกันแดด

ฟังไม่ผิดค่ะ ใช่แล้วแว่นกันแดด ให้ไปรับรองได้ใช้แน่นอน แถมเก๋อีกด้วย และไม่ซ้ำใครไปอีก เพียงแค่ลองเลือกแบบสวยๆ สีสดๆ ดูก็เริ่ดนจ๊ะ … แถมแขกรับไปมีประโยชน์ชัวร์ ก็แหม สภาพแดดเมืองไทยไม่ว่าจะฤดูอะไร ยังไงก็ได้ใช้แน่นอน คอนเฟิร์มเลย!!

ของชำร่วยงานแต่ง

5. เมล็ดพันธุ์พืช

เพียงแค่บรรจุลงถุงสวยๆ ให้ดูน่ารักมุ้งมิ้งก็ไม่แย่นะจ๊ะ เลือกไปเลยว่าจะให้เมล็ดพันธุ์แบบใดบ้าง อาจจะแยกเป็นแบบทานได้ กับทานไม่ได้ ยิ่งถ้าเป็นเมล็ดดอกไม้มงคลด้วยก็ยิ่งดีเลยค่ะ เพราะนอกจากจะได้นำไปปลูกแล้วยังช่วยเสริมความมงคงให้กับแขกที่ได้รับไปอีกด้วย น่ารักแล้วยังดูเป็นคู่รักรักษ์โลกอีกด้วยนะเนี่ย

ของชำร่วยงานแต่ง

เอาเป็นว่า ลองเปลี่ยนจากของชำร่วยแบบเดิมๆ มาเป็นของชำร่วยที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง แถมแขกที่ได้รับไปยังอยากเก็บไว้เพื่อที่จะนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ด้วย และแน่นอนว่าเมื่อมีของชำร่วยที่น่าแจกน่ารับแล้ว ก็ต้องมี 5 ของชำร่วยที่แขกได้มีแอบบ่น เพราะฉะนั้นถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะจ๊ะ

ภาพจาก  marthastewartweddings.com , pinterest.com

รวบตึงไอเดียการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลสุดฮิต!

การ จัดเลี้ยงแบบค็อกเทล นั้น การเลือกและการกำหนดปริมาณให้เหมาะสมถือเป็นสิ่งที่เราต้องใส่ใจกันเป็นอันดับแรกเลยนะคะ เพราะต้องคำนวณให้เพียงพอกับจำนวนแขกที่มาร่วมงานโดยการจัดเลี้ยงงานแต่งงานแบบค็อกเทลนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เครื่องดื่ม ส่วนอาหารก็มักจะเป็นของว่างหรือเมนูเรียกน้ำย่อยซะเป็นส่วนใหญ่พร้อมจัดวางเป็นคำๆ จะได้หยิบรับประทานได้สะดวก การเลี้ยงแบบค็อกเทลนั้นถือเป็นรูปแบบที่นิยมกันมากสำหรับคู่รักยุคใหม่ เพราะเน้นความเป็นกันเองที่สนุกสนาน และมีบรรยากาศน่ารักสดใส วันนี้ แพรว wedding จึงไม่รอช้าพร้อมเสิร์ฟไอเดียการ จัดเลี้ยงแบบค็อกเทล แบบรวบตึงมาฝากกัน ให้อ่านจบเข้าใจแบบครบถ้วนไปเลย 😉

 

เมนูอาหารค็อกเทลที่นิยมเสิร์ฟในงานแต่งงาน

สำหรับเมนูแบบค็อกเทลนั้น ทางผู้จัดงาน ต้องตกลงกับคู่บ่าวสาวก่อนเป็นอันดับแรก ว่าต้องการใช้เมนูแบบ ไทย จีน ญี่ปุ่น หรือนานาชาติ จะได้เลือกทำเมนูได้ถูกต้อง หรือบางครั้งอาจจะนำเมนูของ 2 ชาติมาผสมกัน เพื่อให้เกิดรสชาติที่แปลกใหม่คงความอร่อยถูกปากคนไทยเอาไว้ก็ได้ เพราะการจัดเลี้ยงนอกสถานที่แบบค๊อกเทลนั้น สามารถเลือกเมนูมารับประทานได้หลายแบบ

 จัดเลี้ยงแบบค็อกเทล

เริ่มจากคานาเป้ชนิดต่างๆ ที่เป็นแชนวิชเปิดหน้า สัญชาติฝรั่งเศสที่ให้รสชาติกลมกล่อมเต็มๆ คำ และถึงแม้จัดไว้เป็นคำเล็กๆ แต่ถ้าทานหลายๆ คำก็อิ่มได้เหมือนกัน อีกเมนูที่น่าสนใจก็คือ หมูตะไคร้พันเบคอน ที่ต้องบอกเลยว่า มีความเป็นไทยผสมกลิ่นอายฝรั่งได้อย่างลงตัว จัดไว้แบบพอดีคำน่ารับประทานแบบสุดๆ หอมอร่อยแถมได้คุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย ตามมาด้วยหมูสะเต๊ะที่ต้องบอกเลยว่า นี่คือเมนูบ้านๆ ที่เราเห็นได้ทั่วไป แต่เมื่อนำมาจัดใส่แก้วใสๆ ราดน้ำจิ้มก็เพิ่มความดูดีและน่ากินขึ้นมาอีกเท่าตัว

จัดเลี้ยงแบบค็อกเทล

ต่อกันด้วยของหวาน เช่น ทาร์ตมะม่วง หรือขนมไทยต่างๆ จัดใส่กระทงเล็กๆ ที่มีความหอมหวานอร่อย เหมาะกับคู่บ่าวสาวที่ชอบความเป็นไทย แค่นี้ก็อร่อยฟินๆ กันได้แล้วล่ะค่ะ

เครื่องดื่มที่ใช้เสิร์ฟ

จัดเลี้ยงแบบค็อกเทล

งานแต่งแบบค็อกเทลจะสมบูรณ์แบบไปไม่ได้เลยถ้าขาดเครื่องดื่ม ซึ่งเครื่องดื่มแบบไร้แอลกอฮอล์ส่วนใหญ่ที่นิยมดื่มกันก็คือ น้ำพันซ์แตงโมที่ให้ความหวานสดชื่นแสนอร่อย หรืออาจจะเป็นไอศกรีมแท่งในเครื่องดื่ม อันนี้ก็ถือว่าเป็นของหวานอีกไอเดียหนึ่งที่น่านำไปใช้เช่นกัน เพราะเราจะได้รสชาติของไอศกรีมที่ละมุมลิ้น แทรกอยู่ในตัวเครื่องดื่มได้อย่างกลมกล่อม ขอบอกเลยว่าดื่มแล้วฟินแน่นอน

จัดเลี้ยงแบบค็อกเทล

ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เบาๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับงาน ก็อย่าลืมคิดถึงแชมเปญแบล็คเบอรี่ที่ผสานกันได้อย่างลงตัวด้วยรสชาติที่กลมกล่อมของแชมเปญกับความหวานอมเปรี้ยวของแบล็คเบอรี่ รับรองว่าแขกหลายๆ ท่านในงาน จะต้องถูกใจกันอย่างแน่นอน ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็ถือว่าเป็นเมนูค๊อกเทลยอดนิยม สำหรับการจัดเลี้ยงงานแต่งส่วนใหญ่ เพราะความอร่อยและใช้เวลาในการทำไม่นาน แถมยังรับประทานง่าย เด็กๆ ก็สามารถรับประทานได้

ที่สำคัญเราควรสำรวจดูเรื่องเพศและวัยของแขกส่วนใหญ่กันด้วยนะคะ เพื่อปรับปริมาณอาหารให้เพียงพอกับแขก ไม่ควรเหลือเยอะมากเกินไป และมีความพร้อมบริการแขกอยู่ตลอดเวลา

 

cr : nccfb.com, ediblelongisland.com, orderin.com.au, khuntoy.com, reddiwip.com

มาทำไอศกรีมแท่งผลไม้ ง่ายๆ เตรียมเสิร์ฟใน งานแต่งงานหน้าร้อน กันดีกว่า

เมื่อพูดถึง งานแต่งงานหน้าร้อน แล้ว … แค่คิดก็เหงื่อออกแล้วใช่ไหมจ๊ะ เพราะอากาศเมืองไทยนี่เรียกได้ว่าแค่ตากผ้า ผ้าก็ไหม้แล้ว ถ้าจัดงานแต่งเอ้าท์ดอร์ช่วงหน้าร้อนนี่ไม่ต้องพูดถึง

แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เรามาหาวิธีดับร้อนง่ายๆ ให้ร่างกายสดชื่นใน งานแต่งงานหน้าร้อน กันดีกว่า นั่นก็คือ การทำไอศกรีมแท่งผลไม้ ทำง่ายๆ แถมอร่อยอีกด้วยล่ะ แถมยังได้ประโยชน์จากผลไม้เต็มๆ เราคัดมาให้แล้ว 3 สูตรด้วยกัน ทำง่าย อร่อย อย่ารอช้า ไปหาซื้อวัตถุดิบ อุปกรณ์กันดีกว่า

 

งานแต่งงานหน้าร้อน

สูตรที่ 1

อุปกรณ์

  1. พิมพ์สำหรับทำไอศกรีม (สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป)
  2. ผลไม้ที่ชื่นชอบ แต่แนะนำให้เป็นผลไม้รสหวานเปรี้ยว เช่น สตรอว์เบอร์รี่ , บลูเบอร์รี่ , กีวี่ , ส้ม
  3. น้ำผลไม้ที่ชื่นชอบ

วิธีทำ

  1. นำผลไม้ที่เตรียมไว้มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วหยิบใส่แม่พิมพ์ เลือกเองได้ตามใจว่าจะใส่ให้เต็มหรือบางๆ
  2. นำน้ำผลไม้ที่เตรียมไว้เทตามลงไป
  3. ปิดฝาแม่พิมพ์ นำไปเข้าช่องแช่แข็ง ประมาณ 4-5 ชม.
  4. จากนั้นก็นำมาเสิร์ฟได้เลยจ้า
  • สำหรับใครที่อยากให้รสชาติออกหวาน สามารถผสมน้ำเชื่อมลงไปได้นะจ๊ะ

งานแต่งงานหน้าร้อน

สูตรที่ 2

อุปกรณ์

  1. ลูกกีวี่สด
  2. น้ำเชื่อม
  3. พิมพ์สำหรับทำไอศกรีม
  4. เครื่องปั่นน้ำผลไม้
  5. น้ำเปล่า 1 แก้ว

วิธีทำ

  1. นำกีวีมาปอกเปลือกและหั่น
  2. นำน้ำเชื่อมเทลงไปในเครื่องปั่น พร้อมกับน้ำเปล่า 1 แก้ว จากนั้นนำกีวี่ที่หั่นใส่ลงไป
  3. ปั่นให้เนื้อละเอียด พร้อมชิมว่าได้ความหวานตามที่ต้องการหรือไม่ (สามารถใส่น้ำเชื่อมได้ตามต้องการ แต่ระวังจะหวานจนเสียสุขภาพนะจ๊ะ)
  4. นำน้ำกีวี่ที่ปั่นลงแม่พิมพ์ไอศกรีม และสามารถหั่นเนื้อกีวี่ใส่เพิ่มลงไปได้เพื่อเพิ่มเท็กซ์เจอร์ขณะรับประทาน
  5. ปิดฝาให้เรียบร้อย แช่เย็น 4-5 ชม.
  6. แกะออกพร้อมเสิร์ฟจ้า

 

งานแต่งงานหน้าร้อน

สูตรที่ 3

อุปกรณ์

  1. ผลไม้ชนิดต่างๆ เช่น องุ่น แอปเปิ้ล ลิ่นจี่
  2. เยลลี่รูปทรงต่างๆ (อย่าให้ชิ้นใหญ่จนเกินไป)
  3. น้ำอัดลม แต่ขอแนะนำเป็นน้ำสไปรท์หรือเซเว่นอัพนะคะ เพราะตัวน้ำเป็นสีขาวจะได้มองเห็นเยลลี่ได้
  4. พิมพ์สำหรับทำไอศกรีม

วิธีทำ

  1. หั่นผลไม้ลงไปในพิมพ์สำหรับทำไอศกรีม
  2. ใส่เยลลี่ตามลงไป หรือจะเลือกใส่เป็นผลไม้ก็ได้นะคะ
  3. เทน้ำอัดลมไปลงไปให้เต็ม
  4. ปิดฝาพิมพ์ไอศกรีมแล้วนำไป แช่เย็น
  5. แช่เย็น 4-5 ชม.
  6. พร้อมรับประทานค่ะ

งานแต่งงานหน้าร้อน

เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ ทำไม่ยากเลยใช่มั้ย และคอนเฟิร์มเลยว่าอร่อยแน่นอน แถมบ่าวสาวยังสามารถเปลี่ยนชนิดผลไม้ได้ตามชอบเลยนะจ๊ะ ยิ่งถ้าเป็นผลไม้ตามฤดูกาลราคาก็ไม่แพงอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นออเดิร์ฟเวลคัมสุดสดชื่นรับงานแต่งงานหน้าร้อนแน่นอน แต่ถ้าจะให้ดีเตรียมเครื่องดื่มไว้ให้ดับร้อนด้วยก็ดีน้า รวม เครื่องดื่มในงานแต่ง เย็นชื่นใจ คลายร้อนรับซัมเมอร์ 

ภาพจาก : Pinterest.com , Youtube-RinS CookBook , EDT guide