วิธีอบร่ำผ้าแบบโบราณ รู้ไว้เป็นไอเดีย เพิ่มความหอมให้ ชุดแต่งงานไทย

พูดถึง ชุดแต่งงานไทย แน่นอนว่ามีความสวยงามอยู่แล้ว แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราลองมาอบร่ำผ้ากันดู เพื่อที่ ชุดแต่งงานไทย นั้นจะได้ทั้งสวยและมีกลิ่นหอมแบบโบราณแท้ๆ โดยไม่ต้องพึ่งน้ำหอมราคาแพง

ชุดแต่งงานไทยขั้นตอนการทำ ชุดแต่งงานไทย ให้หอมก็ไม่ยากและไม่ง่ายเสียทีเดียว มีขั้นตอนอะไร และอุปกรณ์ใดบ้าง มาดูกัน

อุปกรณ์

  1. หีบไม้ ทำความสะอาดให้ดีไม่ให้มีฝุ่นผง (ถ้าไม่มีให้หากล่องพลาสสติกมีฝาปิดมิดชิด)
  2. น้ำปรุง (คนละประเภทกับน้ำอบ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายน้ำอบ หรือร้านขายของออนไลน์)
  3. เทียนอบ
  4. เปลือกมะกรูดป่น
  5. น้ำตาลทราย
  6. ดอกมะลิ ดอกกระดังงา ดอกการเวก จำปี ใบเตย กุหลาบมอญ (ดอกสด)

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

วิธีการทำ

  1. ทำความสะอาดหีบไม้ หรือกล่องพลาสสติกให้สะอาด ไม่ให้มีฝุ่งผงใดๆ เลยนะจ๊ะ เพราะต้องใช้เก็บผ้าไว้ ถ้าสกปรกผ้าก็จะสกปรกตาม และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอีกด้วย
  2. นำผ้าที่ซักแล้ว มาตากให้แห้ง และพับลงหีบ
  3. นำน้ำปรุง เปลือกมะกรูดป่น น้ำตาลทราย มาผสมกัน แล้วนำไปเผา (แค่พอให้ไฟติด ไม่ต้องเผาจนไหม้เกรียม) จากนั้นหาถ้วยใบเล็กๆ บรรจุของที่เผาแล้ว และวางเทียนอบไว้ด้านบน
  4. จุดไฟให้เทียนอบติด และปิดฝาให้สนิท ทำแบบนี้ให้ครบ 5 ครั้ง ครั้งล่ะครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง
  5. เมื่อทำจนครบแล้ว เปิดฝาแล้วนำดอกไม้สดที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในหีบ
  6. ปิดฝาทิ้งไว้ 3-4 วัน

ชุดแต่งงานไทย

เพียงเท่านี้เราก็จะได้ชุดไทยแต่งงานที่หอมอบอวลไปด้วยกลิ่นของการอบร่ำผ้าแล้วล่ะจ่ะ งามแบบไทยอีกทั้งยังหอมแบบไทยอีก รับรองว่าเป็นบ่าวสาวที่มีเสน่ห์สุดๆ ไปเลยล่ะ หรือถ้าใครจะนำมาอบเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ก็ทำได้นะจ๊ะ การันตีว่าหอมแน่นอน … นอกจากนี้ยังมีวิธีการทำแป้งเจิม ที่วิธีการทำคล้ายๆ กัน ไหนๆ อบร่ำผ้าแล้ว จะทำแป้งเจิมด้วยก็ได้นะ  แป้งเจิม กระแจะจันทร์ คืออะไรมาดูกัน … พร้อมรู้วิธีการทำ ไม่ยากอย่างที่คิด

ภาพปกจาก : tatnewsthai.org/
ภาพประกอบจาก : yanisanaimsom.wordpress.com , thinsiam.com , เฟสบุค คนรักไม้ดอกหอมและเครื่องหอมไทย

เมแกน มาร์เคิล เลือก ช่างผมเจ้าสาว ในวันเสกสมรสแล้ว! จะเป็นใครมาดูกัน!

ถึงแม้เราจะยังไม่รู้เรื่องชุดเจ้าสาว แต่ในตอนนี้ ช่างผมเจ้าสาว ผู้จะเนรมิตทรงผมในวันสำคัญของว่าที่ดัชเชส  เมแกน มาร์เคิล ก็ได้รับการยืนยันแล้ว

ซึ่งเขาคนนั้นมีชื่อว่า มิเกล เปเรซ (Miguel Perez) เป็นเซเลบบริตี้แฮร์สไตล์ลิสต์ชาวสเปนโดยกำเนิดแต่มาเติบโตที่ลอนดอน

 

ลูกค้าเซเลบของเขาแต่ละคนนั้นโปรไฟล์ไฮโซไม่เบา ยกตัวอย่างเช่น Amal Clooney ภรรยาคนสวยของดาราชายดาวค้างฟ้าอย่าง จอร์ช คลูนีย์  ซี่งเป็นคนเดียวกันกับที่แนะนำมิเกลให้รู้จักกับเมแกนเมื่อเมแกนเพิ่งย้ายมาอยู่ลอนดอนใหม่ๆ เพราะทั้งสองนั้นซี้กันอยู่

เมแกน มาร์เคิล
usmagazine.com

โดยก่อนหน้าที่เขาจะได้รับเลือกให้เป็นช่างทำผมเจ้าสาวในวันเสกสมรสของเมแกน เขาเคยทำผมให้เมแกนอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการตัดผม ทำสีผม หรือสไตล์ลิ่งผมออกงาน ซึ่งทรงผมออกสื่อของเมแกนในระยะหลังๆ ก็เป็นผลงานของมิเกล

gettyimages

สื่ออังกฤษวิเคราะห์กันว่า ด้วยความที่สไตล์ทรงผมของมิเกลที่โดดเด่นคือสไตล์ปล่อยสลายและพองฟูมีวอลูมแบบเป็นธรรมชาติ เพราะฉะนั้นเป็นไปได้สูงว่าทรงผมที่เมแกนจะเลือกใช้ในวันเสกสมรสคือทรงผมปล่อยยาวสยายแบบเดียวกันกับ เคธ มิดเดิลตัน แต่พักหลังๆนี้สื่อก็สังเกตว่าเมแกนทำผมเกล้าหลวมสไตล์ Messy Bun บ่อยเหมือนกัน ก็เป็นไปได้อีกว่าเธออาจจะเลือกทำทรงนี้สำหรับวันเสกสมรสก็ได้

ช่างผมเจ้าสาว
brit.co

ปัจจุบันนี้มิเกลทำงานอยู่ในซาลอนชื่อ Salon Sloane ในกรุงลอนดอน และค่าตัวของเขาในการตัดผมลูกค้าต่อหนึ่งครั้งนั้นสูงถึง 250 เหรียญสหรัฐ!!! (ราวๆ 9,000 บาท!) หรือถ้าอยากจะใช้บริการทำผมออกงาน ราคาก็จะอยู่ที่ 210 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 7,500 บาท!) เท่านั้นเอง

https://www.instagram.com/p/BcrIRmuFXrV/?taken-by=salonsloane

 

แหม่…สมชื่อเซเลบริตี้แฮร์สไตล์ลิสต์จริงๆค่ะ  ว่าที่เจ้าสาวคนไหนมีโอกาสไปเที่ยวกรุงลอนดอน อยากจะแวะเวียนไปทำผมกับช่างผมเซเลบคนนี้ก็สามารถแวะเวียนไปได้ เพราะเขาบอกว่าซาลอนแห่งนี้ คนธรรมดาที่ไม่ใช่เซเลบเค้าก็เวลคัมนะจ๊ะ..

..แต่จะสู้ราคาได้มั้ยเนี่ย อีกเรื่องนะ…ปาดเหงื่อแพพ

ติดตามข่าวล่าสุดของ งานเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล ได้ที่นี่ คลิกเลย

Credit Story: brides.com

ไอเดียกล่องใส่แหวนสุดเก๋ ที่เจ้าสาวเห็นแล้วอยากเซย์ I Do อีกรอบแน่นอน

เก็บกล่องใส่แหวนกำมะหยี่สีแดงแบบเดิมๆ ไว้ในตู้ไปก่อน แล้วลองเปลี่ยนมาใช้เป็น กล่องใส่แหวน ดีไซน์เก๋ที่รับรองว่ายูนีคไม่ซ้ำใคร ส่วนหนุ่มๆ คนไหนที่มีแพลนขอสาวแต่งงานก็ลองนำไอเดียเหล่านี้ไปใช้ รับรองว่าสาวเจ้าใจอ่อน say yes ทันทีแน่นอน เชื่อสิ

หากคุณจัดงานแต่งงานริมทะเล ต้องไม่พลาดกับกล่องใส่แหวนดีไซน์รูปเปลือกหอยที่เข้ากับบรรยากาศท้องทะเลเป็นที่สุด

สำหรับบ่าวสาวที่อยากเปลี่ยนรูปแบบกล่องใส่แหวน แต่ไม่ต้องการดีไซน์ที่แปลกล้ำมากนัก ลองเพิ่มหมอนเล็กๆ ที่วางเคียงกันพร้อมกับผูกแหวนด้วยริบบิ้นติดไว้กับหมอน เพื่อป้องกันแหวนหล่นหายขณะเคลื่อนย้าย

กล่องใส่แหวนดีไซน์เป็นหนังสือ เปรียบเสมือนบทบันทึกความรักของบ่าวสาวตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันแต่งงาน ด้านในลองดีไซน์เป็นริบบิ้นเพื่อใช้แขวนแหวนไว้ก็ได้ เก๋ไก๋ไปอีก

แหวนแต่งงานเปรียบเหมือนของขวัญที่ดีที่สุดของบ่าวสาว เพราะฉะนั้นกล่องใส่แหวนดีไซน์เรียบหรูก็ดูจะเข้าธีมไม่น้อย แล้วอย่าลืมเลือกกล่องที่มีความแข็งแรงสักหน่อยจะได้มีความปลอดภัยในการช่วยเก็บรักษาของล้ำค่าของคุณ

กล่องใส่แหวนทรงกลมสุดโรแมนติก ที่ดูเผินๆ เหมือนกับดวงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับเหมือนกับความรักของคุณ

กล่องใส่แหวนรูปกล่องของขวัญ กับแหวนแต่งงานที่อยู่ภายในซึ่งเป็นของขวัญสำหรับการเริ่มต้นชีวิตคู่ได้เป็นอย่างดี

ถ้าบ่าวสาวอยากให้สุนัขตัวโปรดที่ต้องอยู่เฝ้าบ้านในวันแต่งงานได้มาเป็นส่วนหนึ่งในวันสำคัญด้วย ลองมองหากล่องใส่แหวนที่ดีไซน์เป็นสายพันธุ์สุนัขตัวโปรดของคุณดู ก็ซึ้งดีไปอีกแบบนะคะ

สำหรับสุภาพสตรีอันเป็นที่รัก กล่องใส่แหวนกำมะหยี่สีสันสวยงามพร้อมโลโก้ Mrs. เรียบหรูดูดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

กล่องใส่แหวนรูปรถฟักทองของเจ้าหญิงซินเดอเรลล่า ดูสวยสง่ามงามเหมาะกับเจ้าสาวที่เป็นเจ้าหญิงของคุณเจ้าบ่าวเป็นที่สุด

เลือกดีไซน์กล่องใส่แหวนได้แล้วก็ไปเลือกแหวนกันต่อเลย 22 ดีไซน์แหวนแต่งงานช่วยสร้างคาแร็กเตอร์เจ้าสาวให้โดดเด่น

ภาพ : brides.com

สุดยอดบิวตี้ไอเท็มสำหรับ เจ้าสาว โหวตจากเมืองนอก! มีชิ้นไหนบ้างมาดูด่วนเร็ว!

เว็บไซด์เจ้าสาวชื่อดังของเมืองนอกจัดโหวตให้ผลิตภัณฑ์ความงามเหล่านี้เป็น best of ของว่าที่ เจ้าสาว เราคัดมาให้เฉพาะชิ้นที่มีขายในเมืองไทยให้เจ้าสาวตามไปสอยกันด่วนๆ

ในทุกๆปี เว็บไซด์เวดดิ้งชื่อดังของเมืองนอกอย่าง brides.com และ marthastuartwedding.com  จะจัดให้มีการโหวตผลิตภัณฑ์บิวตี้ที่ดีที่สุด โดยคะแนนเสียงจะมาจากเหล่าเจ้าสาวที่แต่งงานไปแล้ว บิวตี้กูรู และเมกอัพอาร์ทิสต์ ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการโหวตให้เป็นชิ้นที่เลิศที่สุดนั้นจะต้องกลายมาเป็น wish list ที่เหล่าว่าที่เจ้าสาวจะต้องพุ่งตัวไปสอยกันแน่นอน ถึงแม้ว่าหลายชิ้นจะเป็นแบรนด์ที่ยังไม่มีขายในเมืองไทย (แง้) แต่ก็มีอีกหลายชิ้นซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่หาได้ที่บ้านเราและเชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีด้วย! เราก็เลยรวมรวบผลโหวตบิวตี้ไอเท็มกลุ่มบำรุงผิวและเส้นผมจากทั้งสองเว็บมาให้เหล่าว่าที่เจ้าสาวได้แคปหน้าจอเก็บกันรัวๆ แล้วรีบซิ่งไปซื้ออย่างไว เพราะซื้อก่อนก็สวยก่อนนะจ๊ะ

เมกอัพรีมุฟเวอร์: Garnier Micellar Cleansing Water (249 บาท)

เคลนซิ่งลบเครื่องสำอางสูตรน้ำที่นอกจากราคาน่ารักน่าคบ คุณภาพยังดีเวอร์วัง ใช้เทคโนโลยีไมเซลล่าที่ช่วยดึงเอาสิ่งสกปรกบนผิวหน้าออกอย่างอ่อนโยน และที่เราเลิฟเป็นพิเศษนั้นเป็นเพราะสูตรปราศจากน้ำหอมทำให้ผิวแพ้ง่ายยังสามารถใช้ได้ด้วย

มาส์กหน้า: Origins Clear Improvement Active Charcoal Mask (1,250 บาท)

มาส์กชาร์โคลจากถ่านไม้ไผ่ (Bamboo Charcoal)ที่ช่วยดูดสิ่งสกปรกส่วนเกินออกจากรูขุมขน โดดเด่นด้วยสูตรอ่อนโยนที่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหรือลอกหลังใช้ และยังมีส่วนผสมของเลซิตินที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย

มอยซ์เจอไรเซอร์ผิวหน้า: Clinique Dramatically Different Moisturizing Gel (1,650 บาท)

มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่มีมาตั้งแต่รุ่นคุณแม่! โดดเด่นด้วยการช่วยกระตุ้นให้ผิวเพิ่มความชุ่มชื่นในผิวตามธรรมชาติ ในตอนนี้พัฒนาสูตรให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกด้วยเนื้อสัมผัสแบบเจล ทำให้สาวผิวมันก็สามารถใช้ได้ แถมยังไม่ทิ้งความมันไว้บนผิวหน้า เหมาะกับการใช้ทั้งกลางคืนก่อนนอนและใช้ก่อนแต่งหน้าในตอนเช้า

ออยล์บำรุงผม: Moroccan Oil Treatment

ออยล์เนื้อเข้มข้นจากส่วนผสมออยล์ธรรมชาติหลากชนิดเหมาะกับใช้หลังสระผมก่อนนอนจาก ว่าที่เจ้าสาวที่ทำสีผมหรือทำเคมีเยอะๆ แล้วมีปัญหาปลายผมแห้งแตกปลาย ใช้ออยล์ชิ้นนี้ลูบเบาๆที่ปลายผมเป็นประจำ ผมจะค่อยๆสุขภาพดีขึ้น นอกจากสูตรเข้มข้นแล้วยังมีสูตรเนื้อบางเบาให้เป็นตัวเลือกสำหรับใครที่ไม่ชอบออยล์เนื้อหนักเกินไปด้วย

แชมพูและครีมนวดผม สูตรผมธรรมดา: Pantene Pro-V Daily Moisture Renewal Shampoo and Conditioner

แชมพูสูตรสำหรับผมธรรมดาถึงผมแห้งที่ต้องการบำรุงให้ผมดูสุขภาพแข็งแรงขึ้น มีน้ำหนักและเงางามมากขึ้น จากส่วนผสมของออยล์ธรรมชาติที่ทำให้ผมชุ่มชื่นแต่ไม่ลีบแบน และยังช่วยลดปัญหาผมแตกปลายด้วย

แชมพูและครีมนวดผม สูตรผมเสียหรือผมเส้นใหญ่: Kérastase Discipline Bain Fluidealiste และ Fondant Fluidealiste

แชมพูที่เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่ผมผ่านการทำเคมี ทำสี หรือแห้งเสียมาก ได้รับการพัฒนาสูตรจากช่างผมมืออาชีพให้ช่วยบำรุงล้ำลึกเพื่อกู้คืนเส้นผมให้กลับมาสุขภาพดีและมีน้ำหนักขึ้น อีกทั้งลดผมชี้ฟูได้อีกด้วย

เอาละค่ะ แคปหน้าจอเก็บไว้กันหรือยังเอ่ย! ถ้ายังไม่ฟินกับลิสต์สกินแคร์เพื่อเตรียมผิวเจ้าสาว เรายังมี ลิสต์ ออยล์บำรุงผิวสำหรับเจ้าสาว ชิ้นเดียวใช้ได้หัวจรดเท้า มาแนะนำอีกนะ คลิกเลย

credit story: brides.com, marthastewartweddings.com

5 อันดับ สถานที่แต่งงานสุดแปลก! จะแปลกขนาดไหนต้องมาดูกัน

จัดอันดับ สถานที่แต่งงาน สุดแปลก!

หลายคนใฝ่ฝันจัดงานแต่งงานในสถานที่สุดโรแมนติก ไม่ว่าจะเป็น ริมทะเลบริเวณชายหาด ดาดฟ้าโรงแรมหรู หรือแม้แต่ในโบสถ์สวยๆ สักแห่งก็อยู่ในภาพจินตนาการที่สาวๆ หลายคนฝันถึง แต่ก็ไม่รู้นะคะว่าสถานที่ธรรมดาที่คนทั่วไปนิยมจัดงานแต่งงานจะเอ้าท์ไปแล้วรึเปล่า ก็ดูอย่างในต่างประเทศสิคะคู้ณณณณ สรรหา สถานที่แต่งงาน สุดแปลก ที่เห็นแล้วต้องถึงกับอึ้ง! ฮันแน่ อยากรู้กันแล้วสินะคะว่าสถานที่แปลกๆ ที่ว่าเนี่ยจะมีที่ไหนกันบ้าง ตามมาดูเป็นตัวอย่างกันได้เลยเผื่อคุณอยากแต่งงานในสถานที่พวกนี้ หรือเห็นแล้วอาจจะขอเซย์กู๊ดบายดีกว่า ต้องลองมาดูกันก่อนค่ะ

อันดับ 5 ดำดิ่งลงไปใต้สมุทร

สถานที่แต่งงาน
ภาพจาก : dissenyviatges.cat

วิวาห์ใต้มหาสมุทรเคยเป็นกระแสอยู่สักพักใหญ่ คุณอาจจะเคยเห็นตามข่าวในโทรทัศน์ว่ามีบ่าวสาวดำดิ่งลงไปจัดพิธีแต่งงานกันใต้ท้องทะเล ซึ่งมีทั้งต่างประเทศและในประเทศของเราอย่างที่ จังหวัดตรัง ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และก็มีบ่าวสาวที่ให้ความสนใจไม่น้อยในแต่ละปีเช่นเดียวกัน โดยคู่บ่าวสาวต้องใส่ชุดดำน้ำและอุปกรณ์ดำน้ำที่ทางทีมงานได้จัดเตรียมไว้ให้ หรือถ้าอยากจะใส่เป็นชุดแต่งงานแบบสากลก็ย่อมได้นะคะ แต่ยังไงก็ต้องมีอุปกรณ์ดำน้ำ คิดซะว่าเป็นเครื่องประดับเก๋ๆ ไม่เหมือนใคร ฮ่าๆ ซึ่งบ่าวสาวจะดำน้ำลงไปพร้อมทีมงานรักษาความปลอดภัย โดยภายในพิธีก็มีทั้งจดทะเบียนสมรส รสน้ำสังข์ ถ่ายรูปเป็นทีระลึก การแต่งงานใต้ท้องทะเลมีบรรกาศที่ไม่ซ้ำจำเจ แถมยังเห็นเหล่าบรรดาสัตว์น้ำ วิวแปลกตา แถมไม่มีแขกเยอะแยะให้วุ่นวายอีกด้วย

อันดับ 4 สวนสนุกสุดฟัน

สถานที่แต่งงาน
ภาพจาก : popwed.co

ส่วนใหญ่สถานที่แห่งนี้เรามักจะเห็นผู้คนไปถ่ายพรีเวดดิ้งกันซะมากกว่า เพราะถ้าจัดงานแต่งงานอาจจะไม่มีบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวมากนัก แต่ก็แปลกไปอีกแบบนะคะ เหมือนได้ประกาศให้คนทั่วไปที่ไม่ใช่แขกของเราได้รับรู้ถึงการแต่งงานในครั้งนี้ไปด้วย สวนสนุก Coney Island ในนิวยอร์ก เป็นหนึ่งในสวนสนุกที่คู่บ่าวสาวมักเลือกใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน โดยมักจัดขึ้นบริเวณใกล้รถไฟเหาะที่เป็นจุดเด่นของสวนสนุกแห่งนี้ เมื่อเสร็จพิธีด้านล่างกันเรียบร้อยแล้ว บ่าวสาวก็สามารถพาแขกของคุณเปิดประสบการณ์มาร่วมงานแต่งงานที่ไม่เหมือนกับงานแต่งงานไหนๆ ด้วยการขึ้นรถไฟเหาะที่น่าหวาดเสียว ซึ่งงานนี้ทุกคนในงานจะได้สนุกสุดมันเหมือนกันถ้วนหน้าจ้าไม่ต้องห่วง อิอิ

อันดับ 3 พิพิธภัณฑ์ก็จัดงานแต่งได้เหมือนกัน

สถานที่แต่งงาน
ภาพจาก : emilychappellphotography.com

การแต่งงานในพิพิธภัณฑ์ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมในประเทศไทยมากนัก เพราะมีเพียงไม่กี่แห่งที่อนุญาตให้จัดงานในพิพิธภัณฑ์ได้ แต่พิพิธภัณฑ์หลายแห่งทางฝั่งตะวันตกนั้นเปิดให้บ่าวสาวได้เข้ามาจัดงานวิวาห์ได้ เช่น Perot Museum of Nature and Science และ Fernbank Museum พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่จะมาทำให้ภาพงานแต่งงานเกิดฉากหลังที่มีภาพเป็นของหายากอย่าง โครงกระดูกไดโนเสาร์ เชื่อว่าจะเปิดมาดูกี่ปีๆ ก็ไม่เบื่อเลยค่ะ หรือบ่าวสาวสายอาร์ตก็อาจจะชอบพิพิธภัณฑ์ที่ดูมีความโมเดิร์นขึ้นมาหน่อย ซึ่งที่สหรัฐอเมริกาก็มีนะคะ ตั้งอยู่ที่ชิคาโกมีชื่อว่า The Modern Wing พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะสมัยใหม่ที่เปิดโอกาสให้คู่รักเข้ามาจัดงานแต่งงานได้ แต่อาจจะต้องจัดแบบเรียบร้อยเป็นทางการ เพราะถ้ามันเกิดไปหากทรัพย์สินในพิพิธภัณฑ์เสียหายแล้วจะหนาวววว

อันดับ 2 พิสูจน์รักบนภูเขาเอเวอเรสต์

สถานที่แต่งงาน
ภาพจาก : nepalisite.com

ปีนขึ้นมายังภูเขาที่สูงที่สุดในโลกกันค่ะ สูงขนาดนี้ก็ยังมีคู่รักที่มีความมุมานะ รักการผจญภัยพยายามปีนกันขึ้นมาแต่งงานกันถึงบนภูเขาเอเวอเรสต์ (แต่แขกในงานไม่มีนะคะ เป็นการแต่งงานแบบเรียบง่าย เพียงการสวมแหวนและขึ้นไปถ่ายรูปเพียงเท่านั้น) อ่า เดี๋ยวจะหาว่าโม้ คู่แต่งงานที่เคยขึ้นไปแต่งกันถึงบนภูเขาเอเวอเรสต์ คือ คู่ของ Ashley Schmeider และ James Sisson เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2017 ใช้เวลาในการเดินทางขึ้นไปถึง 9 วันเลยทีเดียว แต่ก็อยู่จัดพิธีแต่งงานพร้อมถ่ายรูปสวยๆ ได้เพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้น เนื่องจากสภาพอากาศข้างบนไม่ค่อยเป็นใจมากนัก ถึงอย่างไรก็ขอชื่นชมในความรักของคู่บ่าวสาว รวมไปถึงทีมงานที่ขึ้นไปกับคู่นี้ด้วยนะคะ เก่งมากๆ เลยนะคะเนี่ยนับถือเลยอ่ะ

อันดับ 1 กองขยะซากปรักหักพัง

สถานที่แต่งงาน
ภาพจาก : สำนักข่าว China Xinhua News

ใช่ค่ะพวกคุณอ่านกันไม่ผิดหรอก กองขยะนี่แหละค่ะที่คู่รักชาวจีนเขาไปแต่งงานกัน เห็นเป็นกองขยะที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังแบบนั้น งานแต่งนี้ก็ยังคงมีความหมาย มีที่มาที่ไปนะคะ เพราะที่คู่รักชาวจีนคู่หนึ่งต้องมาแต่งงานกันในบรรยากาศที่ดูจะเป็นมลพิษขนาดนี้ เหตุเกิดจากแผ่นดินไหวรุนแรงที่มณฑลเสฉวน ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งทรัพย์สินเงินทอง บ้านเรือน และพลัดพรากชีวิตไปหลายคนด้วยกัน ความผูกพันของบุคคลกับสถานที่ ความสูญเสียในทรัพย์สิน และความมุ่งมั่นที่จะแต่งงานของคู่รักชาวจีนคู่นี้ จึงแสดงให้เห็นถึงความรักที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ไม่ต้องมีเรื่องเงินๆ ทองๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ขอแค่ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันก็พอ ไม่ว่างานแต่งงานจะเกิดขึ้นในสถานที่แบบไหนก็ตาม…

กลายเป็นดึงดราม่าเฉยยยย เป็นไงบ้างคะทุกคน สนใจจัดงานแต่งงานใน 5 สถานที่นี้ไหมคะ? หากคุณไม่ได้เป็นคนมีไลฟ์สไตล์แปลกแหวกแนวจนเกินไป งั้นกลับมาที่การจัดงานแต่งงานแบบไทยๆ ในสถานที่ไทยๆ ปกติกันดีกว่าเนอะ ^^”  5 สถานที่ในแบบไทยๆ ที่ไม่ใช่เรือนไทยแต่เหมาะกับ พิธีงานหมั้นไทย เป็นที่สุด

ข้อมูลจาก : wedding.kapook.com, thairath.co.th, nepalisite.com, manager.co.th

มาทำขนมอาลัวแจกเป็น ของชำร่วยงานแต่ง ดีกว่า เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครแถมกินได้ด้วย

ของชำร่วยงานแต่ง ในปัจจุบันนั้นมีมากมายให้บ่าวสาวได้เลือก แต่ถ้าบ่าวสาวคู่ไหนอยากจะลองลงมือทำของชำร่วยที่มีสีสันด้วยตัวเอง แถมยังมีดีไซน์สวยงาม น่ารัก และสามารรับประทานได้ เราขอแนะนำ ขนมอาลัว เลยค่ะ

หลายคนคงเคยเห็นและคุ้นหน้าคุ้นตาขนมจิ๋วสุดน่ารักชนิดนี้มาแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า แม่มะลิ หรือ มารี กีมาร์ เป็นผู้คิดค้นขนมชนิดนี้ขึ้นมา และได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมี 2 แบบ คืออาลัวชาววัง และอาลัวจิ๋ว แตกต่างกันตรง อาลัวชาววังจะมีส่วนผสมของกะทิเยอะกว่า และมีขนาดใหญ่กว่านั่นเอง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูวิธีการทำและส่วนผสม ของชำร่วยงานแต่ง สุดน่ารักนี้กันดีกว่า บอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิดนะจ๊ะ

ของชำร่วยงานแต่ง

อุปกรณ์

  1. แป้งเค้ก หรือแป้งเอนกประสงค์ 1 ถ้วย
  2. น้ำตาลทราย  1 ถ้วย
  3. น้ำกะทิ 2 ถ้วย
  4. สีผสมอาหารที่ชอบ
  5. กลิ่นมะลิ 2-3 หยด
  6. กระทะเทฟร่อน หรือกระทะทองเหลือง
  7. ไม้ตีแป้ง
  8. ตะแกรงร่อนแป้ง
  9. กระดาษ และหัวบีบสำหรับใช้บีบตัวแป้ง

ของชำร่วยงานแต่ง

วิธีทำ

  1. นำแป้งเค้ก หรือแป้งเอนกประสงค์ที่เตรียมไว้ มาเทลงตะแกรงร่อน เพื่อให้แป้งไม่เกาะตัวเป็นก้อน
  2. นำแป้งที่ร่อนจนเป็นผงละเอียดมาใส่ในถ้วยใบใหญ่ พร้อมเทน้ำกะทิลงไป ผสมให้เข้ากัน
  3. เทน้ำตาลลงไป แล้วผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. นำไปตั้งไฟ โดยใช้ไฟอ่อนๆ ค่อยๆ ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน
  5. พอแป้งสุก ผสมสีผสมอาหารที่ต้องการลงไป และเมื่อแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อนเหนียวๆ ให้ปิดไฟ
  6. นำแป้งที่ได้มาใส่ถุงกระดาษที่มีหัวบีบอยู่
  7. บีบแป้งลงไปในจาน หรือถาดแบนๆ ให้เป็นก้อนสวยๆ
  8. จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้ง ใช้เวลา 1 วัน

ของชำร่วยงานแต่ง

เพียงเท่านี้เราก็จะได้ขนมอาลัวสวยๆ ที่จะทานเองก็ได้ หรือจะนำมาแจกเป็นของชำร่วยในงานแต่งก็ดี สวยงามน่ารัก มุ้งมิ้งสุดๆ … แต่ถ้าทำทานเองก็ดูปริมาณให้พอดีนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นหุ่นจะเสียได้ และเบาหวานอาจจะมาหาโดยไม่รู้ตัว

นอกจากนี้บ่าวสาวสามารถหากล่องเล็กๆ หรือถุงสวยๆ มาบรรจุลงขนมอาลัวลงไป ก็จะเพิ่มความสวยงามและความเก๋ไก๋ให้กับขนมมากยิ่งขึ้นค่ะ … นอกเหนือจากอาลัวแล้ว ยังมีของชำร่วยงานแต่งอีกหนึ่งสิ่งที่อยู้คู่กับคนไทยมาแสนนานนั่นก็คือ ‘จำปาดอง’ ภูมิปัญญาชาววัง ที่แจกเป็นของชำร่วยงานแต่งก็ดีของรับไหว้ก็เริด ลองทำดูนะจ๊ะ

ภาพจาก : Pinterest.com

Let’s stay in shape! กับ 5 ท่าโยคะง่ายๆเพื่อเจ้าสาวหุ่นสวย

การฟิตหุ่นให้มีรูปร่างดีขึ้นก่อนถึงวันแต่งงานด้วยการออกกำลังกายด้วย โยคะ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเวลา และความมุ่งมั่นตั้งใจ โดยทั่วไปการเตรียมตัวสำหรับงานแต่งงานจะมีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้ากันอยู่แล้วประมาณ 3 เดือน 6 เดือน หรือบางคู่เตรียมตัวกันเป็นปีก็มี ซึ่งเป็นเวลาที่เพียงพอสำหรับการฟิตหุ่น เมื่อคู่บ่าวสาวทราบกำหนดวันแต่งงานเป็นที่แน่นอนแล้วก็ลุยฟิตหุ่นกันได้เลย

 

ในปัจจุบันมีวิธีการออกกำลังกายให้เลือกมากมายแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่การออกกำลังกายที่กำลังมาแรง และหลายๆ คนให้ความสนใจกันคือการเล่นโยคะ เพราะเป็นกีฬาในร่มเลือกเวลาฝึกได้ตามใจชอบ โดยเจ้าสาวอาจจะชวนเจ้าบ่าวไปเล่นโยคะด้วยกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นก็ยิ่งดี ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ตั้งเป้าหมายด้วยกันว่าจะฟิตหุ่นให้สวย หล่อก่อนถึงวันแต่งงาน

การฝึกโยคะนอกจากจะได้ร่างกายที่แข็งแรงแล้วยังได้ฝึกสมาธิอีกด้วย การฝึกโยคะช่วงแรกๆ อาจจะมีอาการปวดเมื่อยบ้าง แต่เมื่อฝึกไปเรื่อยๆ ร่างกายก็จะเกิดความเคยชิน ช่วงแรกๆ อาจจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล หากฝึกไปจนคล่องแล้วก็สามารถฝึกเองที่บ้านได้ และในวันนี้เรามีท่าโยคะสำหรับลดสัดส่วน ทำให้ร่างกายฟิต เฟิร์ม จะเป็นท่าอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

ท่าตรีโกณ ช่วยบริหารต้นขา และส่วนน่องให้ดูเรียวงาม

โยคะ

ท่าเรือ สำหรับคู่บ่าวสาวที่กังวลเรื่องต้นแขนต้นขาใหญ่ ต้องท่านี้เลยช่วยลดไขมันแขน ขา และสะโพกได้ดี

โยคะ

ท่านั่งเก้าอี้ หากชุดเจ้าสาวเป็นชุดที่เน้นสัดส่วน ท่านี้ช่วยกระชับสัดส่วนได้อย่างดีทีเดียวค่ะ

โยคะ

ท่ากระดานข้าง ช่วยลดไขมันหน้าท้อง ลดสะโพก และต้นขา ทำให้มีกล้ามแขนที่สวยงาม สำหรับเจ้าสาวที่ใส่ชุดแต่งงานแบบเปิดแขนเปิดไหล่ท่านี้ช่วยได้ค่ะ

โยคะ

ปิดท้ายกันด้วย ท่าอาสนะ เพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อน

โยคะ

การฝึกโยคะเป็นการรักษาสมดุลของร่างกาย ช่วยให้รูปร่างดีขึ้น ฟิต เฟิร์ม เมื่อฝึกไปซักพักจะรู้สึกได้ว่าร่างกายสมดุลขึ้น และมีสมาธิมากขึ้น คู่บ่าวสาวบางคู่เมื่อได้ใช้เวลาฝึกโยคะด้วยกันจากที่เคยเป็นคนใจร้อน อาจจะกลายเป็นคนใจเย็นลง มีสติในการครองคู่มากขึ้นนับว่าเป็นผลพลอยได้ที่คุ้มค่าจากการฝึกโยคะทีเดียวเลยนะคะ

 

cr : shape.com, fitnessvsweightloss.com, beautyepic.com, yogajournal.com

ซาราห์ เจสสิก้า ปาร์กเกอร์ ปล่อยคอลเลคชั่นชุดแต่งงานแบรนด์ของตัวเองแล้ว!!

“ฉันคิดว่าเสื้อผ้าทุกชุดใน คอลเลคชั่นชุดแต่งงาน ของฉันมีความความเฉพาะตัวในแต่ละแบบ และฉันพอใจกับมัน” ปาร์เกอร์กล่าว

นักแสดงหญิงและไอคอนิคด้านแฟชั่นอย่า เจสสิก้า ซาราห์ ปาร์กเกอร์ ก้าวเท้าข้างหนึ่งเข้าสู่วงการอุตสาหกรรมเจ้าสาวเป็นครั้งแรกกับการสร้างแบรนด์รองเท้าเจ้าสาวของเธอที่ใช้ชื่อว่า SJP by Sarah Jessica Parker แต่ตอนนี้เธอได้ก้าวเท้าอีกข้างเข้าสู่โลกของการแต่งงานอย่างเต็มตัว และยังถูกมองว่าเป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตาอีกด้วย กับ คอลเลคชั่นชุดแต่งงาน ของเธอที่ใช้ชื่อว่า SJP by Sarah Jessica Parker Bridal ซึ่งคอลเลคชั่นนี้จะวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟผ่านทางร้านค้าปลีกออนไลน์ระดับไฮ-เอนด์ Gilt โดยคอลเลคชั่นแรกของ SJP by Sarah Jessica Parker Bridal เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวานนี้ (วันที่ 24 เมษายน 2561) ซึ่งเป็นชุดแต่งงาน 10 สไตล์ในรูปแบบ reade-to-wear ที่เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวสไตล์โมเดิร์นสุดๆ

คอลเลคชั่นชุดแต่งงาน

ซึ่งสไตล์ชุดแต่งงานคอลเลคชั่นของปาร์กเกอร์นั้นเรียกได้ว่าเป็นสไตล์ที่แตกต่างจากชุดแต่งงานแบบเดิมๆ และเจือไว้ด้วยกลิ่นอายของความสมัยใหม่ที่ช่วยให้เจ้าสาวที่สวมใส่ได้ลุคทันสมัยในสไตล์ปาร์กเกอร์ ก็แหมระดับไอคอนิคด้านแฟชั่นตัวแม่จะให้มาออกแบบชุดแต่งงานแบบธรรมดาเห็นทีคงจะไม่ได้ ซึ่งถึงแม้เธอจะขาดประสบการณ์การเป็นเจ้าสาว แต่เธอก็สามารถเข้าถึงความต้องการของหญิงสาวที่จะเป็นเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี ซึ่งปาร์กเกอร์ได้ออกแบบแคปซูลคอลเลคชั่นนี้ขึ้นมารองรับว่าที่เจ้าสาวทุกไซส์และทุกรูปร่าง และมอบความเป็นตัวของตัวเองให้กับสาวๆ แบบเต็มที่ ซึ่งเธอได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจากความแตกต่างของผู้หญิงแต่ละคน โดยงานนี้เธอได้ทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ของร้านค้าออนไลน์ Gilt เพื่อสร้างสรรค์ชิ้นงานที่เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวทุกแบบทุกสไตล์

โดยชุดแต่งงานของปาร์กเกอร์หรูหราด้วยเนื้อผ้าสุดหรู ซึ่งเป็นผ้าที่นำเข้ามาจากทั้งสเปน, อิตาลี และฝรั่งเศส และยังเต็มไปด้วยเนื้อผ้าหลากสีสัน และหลายดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็น ชุดแต่งงานประดับโบ, ประดับขนนก แม้กระทั่งชุดแต่งงานปักลูกปัดสุดประณีตสไตล์แฮนด์เมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ว่าที่เจ้าสาวทุกคนต้องการในวันสำคัญหรือแม้กระทั่งการนำไปสวมใส่ในวันสำคัญอื่นๆ ในชีวิตก็ได้ด้วย เพราะยังมีชุดสีดำที่เหมาะกับช่วงปาร์ตี้ หรือบอดี้สูทผ้าขนสัตว์ดีไซน์เรียบเก๋ ที่แมตช์กับมินิสเกิร์ตประดับขนนกสุดเก๋ ซึ่งเสื้อผ้าแต่ละชุดในคอลเลคชั่นนี้ตัดเย็บในนิวยอร์ก โดยมีรองรับตั้งแต่ไซส์ 0 ไปจนถึงไซส์ 14 ขึ้นไป

“พวกเราวางแผนในการสร้างสรรค์ผลงานทุกชิ้นอย่างตั้งใจ เพื่อให้ว่าที่เจ้าสาวได้มีความสุขในวันสำคัญ” ปาร์กเกอร์กล่าว

ซึ่งงานนี้เธอไม่ได้ปล่อยคอลเลคชั่นออกมาเอาใจว่าที่เจ้าสาวเท่านั้นนะจ๊ะ เพราะเธอก็พร้อมที่จะเอาใจว่าที่เพื่อนเจ้าสาว หรือแขกสาวๆ ที่ต้องการชุดไปงานแต่งเก๋ๆ เช่นกัน ก็สไตล์  ซาราห์ เจสสิก้า ปาร์กเกอร์ ซะอย่าง รับประกันความเริดค่า!! ส่วนสาวๆ ชาวไทยจะลองช้อปแบบออนไลน์ หรือจะนำมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับชุดของตัวเอง เราว่านางก็คงไม่หวงน้า

ถ้ายังแซ่บไม่พอก็ตามไปส่อง เทรนด์ชุดแต่งงาน 2019 จากรันเวย์ Bridal Fashion Week

ภาพ : brides.com, SJP by Sarah Jessica Parker Bridal

สร้างรอยยิ้มให้ปิ๊งในวันสำคัญ ด้วยสูตรเด็ดขจัดคราบฟันเหลือง

ฉีกยิ้มได้อย่างมั่นใจ ด้วยเคล็ดลับเด็ด ขจัดคราบฟันเหลือง

ไม่ว่าจะหญิงหรือชายใครๆ ก็อยากมีฟันขาวสะอาด เพราะเวลาอวดยิ้มแต่ละทีจะได้ดูสวยงาม แต่จะทำยังไงได้ก็ในเมื่อแต่ละวันเราทานอะไรต่อมิอะไรเข้าไปตั้งเยอะแยะ คราบพลัคเกาะสะสมจนฟันกลายเป็นสีเหลืองไปซะนี่  คิดจะไปทำเลเซอร์ฟันขาวแต่กลับไม่มีทั้งเวลาและทรัพย์ในกระเป๋า หยุดค่ะ! อย่าเพิ่งคิดว่าปัญหานี้จะไม่มีทางออก เพราะแพรว wedding มีเคล็ดลับการ ขจัดคราบฟันเหลือง ให้กลับกลายมาเป็นฟันขาวได้ด้วยวิธีง่ายๆ ต่อไปนี้

อุปกรณ์มีไม่มากหากแต่ว่าหาง่าย ได้แก่

  • มะนาว  ½  ลูก
  • เบกกิ้งโซดา  1  ช้อนโต๊ะ
  • แปรงสีฟัน

เมื่อได้อุปกรณ์ครบแล้วก็มาเริ่มผสมกันเลยดีกว่า บีบมะนาวใส่ลงไปในเบกกิ้งโซดาที่เตรียมไว้แล้วใช้แปรงสีฟันคนส่วนผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำมาแปรงฟัน 2-3 นาที เสร็จแล้วบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดตามปกติ เพียงเท่านี้ ฟันของคุณก็จะขาวสะอาด

แต่ขอบอกว่าใช้วิธีนี้สัก 1 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอ ส่วนจะแปรงเช้าหรือเย็นก็แล้วแต่ความสะดวก เพราะเบกกิ้งโซดาที่มีฤทธิ์เป็นด่างมาผสมกับน้ำมะนาวที่มีฤทธิ์เป็นกรดจะกัดกร่อนฟัน ทำให้เกิดอาการเสียวฟัน ฟันผุ และระคายเคืองเหงือกได้ ทางที่ดีควรใช้ควบคู่ไปกับยาสีฟันสูตรฟันขาวเพื่อรักษาสุขภาพที่ดีของฟันและเหงือกก็โอเคนะคะ

ทริคดีๆ ยังมีอีกเพียบ รวมเด็ด 10 เคล็ดลับความงามเจ้าสาวต้องรู้ไว้

ภาพ : yourdentalhealthpartners.com

รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งสวยปัง ระยะทางไม่เกิน 200 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ

ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่กำลังหา สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง อยู่ แต่ไม่อยากเดินทางไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก มาดูกันดีกว่าว่ามีที่ใดบ้าง เพราะ แพรว wedding ได้รวม สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง สวยปัง ระยะทางไม่เกิน 200 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ มาแนะนำในกับบ่าวสาวได้ตามไปเช็กอินกัน อย่ารอช้า เช็คตารางวันว่าง บอกช่างภาพ แล้วออกไปถ่ายภาพกันดีกว่าค่ะ

1. เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี

เกาะสีชัง นับว่าเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทั้งคนในประเทศไทยและชาวต่างชาติ เพราะระยะทางไม่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ไม่ว่าจะเดินทางไปกลับ หรือไปนอนค้างคืนก็ได้หมด และที่สำคัญยังมีวิวสวยๆ น้ำทะเลสีครามสดใส เป็นสถานที่สุดโรแมนติกให้บ่าวสาวสามารถไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งฟินๆ กันได้ด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ตั้งอยู่บนเกาะให้บ่าวสาวได้ไปกราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วยนะจ๊ะ ส่วนบ่าวสาวที่อยากตามไปเช็กอินก็สามารถเข้าไปถ่ายได้เลย ไม่ต้องทำหนังสือขออนุญาต แต่ช่วยร่วมมือกันดูแลรักษาความสะอาด และทำตัวให้เหมาะสมกันน้า

สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง

2. เดอะเวโรน่า แอท ทับลาน จังหวัดปราจีนบุรี

เป็นสถานที่ที่เพิ่งเปิดเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ตั้งอยู่ในจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม และแหล่งช้อปปิ้ง โดย เดอะเวโรน่า ได้แรงบรรดาลใจมาจาก เมืองเวโรน่า แห่งแคว้นเวเนโต้ ประเทศอิตาลี หรือเมืองที่โรมีโอ & จูเลียตอาศัยอยู่นั่นเอง ภายในมีการตกแต่งที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นหอคอย ทะเลสาบ หอระฆัง นอกจากนี้ยังมีเรือกอนโนล่า ให้บ่าวสาวได้นั่งถ่ายภาพเก๋ๆ ได้อีกด้วยนะจ๊ะ แต่ขอกระซิบบอกเลยว่า ถ้าไปช่วงฤดูหนาวจะฟินสุดๆ เพราะอากาศดีมากกกกกก ส่วนบ่าวสาวที่สนใจอยากไปถ่ายภาพชิคๆ ก็สามารถติดต่อกับสำนักงานเวโรน่าก่อนเข้าไปถ่ายทำนะคะ เพราะที่นี่ต้องเสียค่าบำรุงสถานที่ในการถ่ายทำด้วย

สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง

3. เกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี

อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และเป็นเกาะที่อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีนั่นเองค่ะ ถ้าใครเคยไปมาแล้วจะรู้เลยว่าชายหาด และน้ำทะเลสะอาดมากๆ แถมยังมีปะการังสวยๆ ให้ดูอีกด้วยนะ เรียกได้ว่างานนี้นอกจากบ่าวสาวจะได้ถ่ายภาพริมทะเลแบบสวยๆ แล้ว ยังสามารถฟินกันต่อได้กับทริปดำน้ำอีกด้วย ถือว่าคุ้มสุดๆ เพราะได้ทั้งภาพพรีเวดดิ้งแถมยังได้เที่ยวพักผ่อนไปในตัว และถ้าไปในหน้าร้อนก็อาจจะหาโอกาสเล่นน้ำดับร้อนไปซะเลย แต่ก่อนที่บ่าวสาวจะเข้าไปใช้สถานที่ในการถ่ายภาพนั้น ต้องทำหนังสือขออนุญาตกับทางกองทัพเรือก่อนน้า

สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง

4. อุทยานแห่งชาติ เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี

เป็นอุทยานแห่งชาติที่บอกเลยว่าไปแล้วคุ้มสุดๆ เพราะอะไรหน่ะเหรอคะ ก็เพราะว่ามีทั้งป่าเขาที่เขียวขจีและน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นที่บ่าวสาวไปแล้วจะได้ความสดชื่นและความสนุกกลับมาแน่นอน แถมอากาศก็ไม่ร้อน แต่กลับเย็นสบาย หรือถ้าบ่าวสาวคู่ไหนร้อนจะลองลงไปถ่ายในน้ำตกเพื่อดับร้อนก็ดูเย็นฉ่ำได้ภาพเก๋ๆ ไปอีก แต่ก่อนไปลองเช็คดูก่อนนะคะว่าน้ำตกแห้งไหม เพราะช่วงถ่ายภาพน้ำตกที่ดีที่สุดคือช่วงหลังฤดูฝน (เดือนพฤศจิกายน-มกราคม) … แถมถ้างานนี้บ่าวสาวเช็กเวลาดีๆ ทำการบ้านไปเยอะๆ อาจจะได้ภาพถ่ายกับทางช้างเผือกสวยๆ กลับมาก็ได้นะ และยังถ่ายได้ทั้งกลางวัน และกลางคืนอีกด้วย นอกจากนี้ขากลับยังสามารถแวะเที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรีได้อีก เอาเป็นว่าบ่าวสาวคู่ไหนที่สนใจก็เตรียมทำจดหมายขออนุญาตกับทางกรมอุทยานแห่งชาติก่อนเข้าไปถ่ายภาพได้เลยค่ะ

สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง

5. สวนหลวง ร.9 กรุงเทพมหานคร

สวนหลวง ร.9 เรียกได้ว่าเป็นสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในสกรุงเทพมหานคร (อู้ว!!) แถมยังเดินทางไม่ไกลเลย เพราะอยู่ในเขตประเวศ หรือทิศตะวันออกของกรุงเทพนั่นเองค่ะ ภายในมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม บวกกับความงามของเหล่าพฤกษานานาพันธุ์ให้เลือกถ่ายรูปกันได้ไม่มีเบื่อ แต่ถึงจะอยู่ใกล้ก็ไม่ใช่ว่าจะเดินดุ่มๆ เข้าไปถ่ายได้เลยนะจ๊ะ เพราะบ่าวสาวจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมกันก่อน เนื่องจากสวนหลวง ร.9 คิดค่าถ่ายภาพพรีเวดดิ้งตามจำนวนชุดที่บ่าวสาวเปลี่ยน คือ 1,000 บาทต่อ 1 ชุดนะคะ

สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง

6. สถานีรถไฟ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ใครแวะไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งตามรอยออเจ้ากัน ก็อย่าลืมแวะไปสถานีรถไฟ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กันนะ เพราะอยู่ในตัวเมืองอยุธยา เดินทางง่าย และไม่เสียค่าสถานที่ แต่เวลาถ่ายก็ระวังรถไฟกันหน่อยน้าาาา

ถ้าบ่าวสาวอยากมีภาพพรีเวดดิ้งสวยๆ งานนี้ไม่ต้องไปไกลก็ได้ภาพสวยปัง และยังได้เที่ยวอีกด้วยนะ อย่ารอช้า รีบหาวันแล้วออกไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งดีกว่า … แต่ถ้าบ่าวสาวยังไม่อยากเดินทางไปไหนเลย ด้วยอากาศที่ร้อนระอุขนาดนี้ จะเปลี่ยนมาถ่ายภาพในกรุงเทพฯ ก็ได้ เพราะสวยไม่แพ้กันเลยกับ 6 จุดสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งแนวสตรีทสุดชิคในกทม.

ภาพจาก : Club Art Studio

สถานที่ฮันนีมูนของ เจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกน มาร์เคิล ได้รับการเปิดเผยแล้ว!!!

จุดเช็กอิน ฮันนีมูน ของเจ้าชายแฮร์รี และเมแกน มาร์เคิล

ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วนะคะ สำหรับงานอภิเษกสมรสครั้งยิ่งใหญ่ของราชวงศ์อังกฤษ โดยเจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกน มาร์เคิล ที่กำลังจะมีพิธีเกิดขึ้นในวันที่ 19 พฤษาคมนี้ ซึ่งสื่อในประเทศและต่างประเทศต่างพากันจับตาดูงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากสื่อหลายสำนักที่คอยรวบรวมรายละเอียดของงานแต่งงานนี้ ไม่ว่าจะเป็น ชุดเจ้าสาวจะใช้ของแบรนด์อะไร วงดนตรีที่จะมาเล่นเปิดฟลอร์เต้นรำ หรือแม้แต่เค้กที่จะใช้ในงาน ก็มีข่าวออกมาให้เกาะติดกันเกือบจะทุกวันเลยแหละค่ะ นี่ก็แทบจะมโนกันได้แล้วว่างานแต่งงานของทั้งสองคนจะออกมาเป็นแบบไหน งั้นเรามาดูเรื่องหลังแต่งงานกันบ้างดีกว่าว่าทั้งคู่มีแพลนจะไป ฮันนีมูน ที่ไหนกันน้า แบบนี้ต้องตามไปกินเผือกกันหน่อยแล้ววว 

ฮันนีมูน

ฮันนีมูน

ฮันนีมูน

ทางด้านแพลนฮันนีมูนหลังแต่งงานระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล ก็แอบมีข่าวแว่วๆ ออกมาว่า ทั้งคู่วางแพลนที่จะเลือก Hoanib Valley Camp ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนรูปแบบซาฟารีใน Kaokoland ประเทศนามิเบีย ซึ่งก็เป็นพื้นที่ที่ห่างไกลผู้คน เงียบสงบมากกกกแบบมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเหมือนได้อยู่กลางทะเลทรายที่มีวิวทิวทัศน์เป็นเนินทรายอันไกลโพล้น ให้บรรยากาศแบบอยู่ในแอฟริกาจนบางทีก็จะมีเจ้าสัตว์ป่าหายากแวะเข้ามาจ๊ะเอ๋บริเวณที่พักอย่างใกล้ชิด แต่ที่พักเขาก็ไม่ได้ไก่กาอาราเล่นะจ๊ะบอกเลย แม้ภายนอกทำออกมาในรูปแบบแคมป์กระโจม แต่ภายในนั้นก็มีเฟอร์นิเจอร์ครบแถมหรูหรานะจ๊ะจะบอกให้ โดยทั้งคู่ได้เลือกห้องพักขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งมีห้องต่างๆ ถึง 6 ห้องด้วยกัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันจัดหนักจัดเต็มไม่แพ้ที่พระราชวังเลยค่ะ ความพิเศษของที่พักแห่งนี้อยู่ที่การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด แล้วลองคิดดูนะคะตอนกลางคืนได้นอนดูดาวระยิบระยับบนท้องฟ้ากันสองคนจะโรเมนติกขนาดไหน><

ฮันนีมูน

และยังมีกระแสข่าวออกมาอีกว่า เหตุผลที่เจ้าชายแฮร์รี่เลือกใช้ Hoanib Valley Camp เป็นสถานที่ฮันนีมูน คาดว่าจากความชื่นชอบในการท่องเที่ยวรูปแบบซาฟารีของเจ้าชาย และได้เดินทางไปยังประเทศนี้ครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2558 โดยเป็นการเดินทางข้ามทวีปเป็นเวลา 3 เดือน ใช้เวลา 5 วันกับองค์กรของ Save the Rhino Trust ในนามิเบีย เพื่อทำงานการกุศลเกี่ยวกับการอนุรักษ์แรดในแอฟริกา ว้าววว นอกจากพระองค์จะมีรูปร่างหน้าตาที่ต้องบอกเลยว่าหล่อเพอร์เฟกต์แล้ว ยังเป็นคนที่มีจิตใจดีมีเมตตาแบบนี้นับว่าสาวเมแกนนั้นโชคดีสุดๆ ไปเลยนะคะเนี่ย อิอิ อิจฉาอ่ะ

ช่วงนี้ก็เตรียมเกาะเพจ แพรว wedding กันแน่นๆ เลยนะคะ คิดว่าคงจะมีข่าวอัพเดตการแต่งงานของ เจ้าชายแฮร์รี่ และ สาวเมแกน กันเป็นระยะๆ ส่วนตอนนี้ก็ตามไปดูข่าวอัพเดตพิธีแต่งงานกันไปพลางๆ ก่อนดีกว่าว่าจะมีเซอร์ไพรสอะไรในงานนี้บ้าง ตามมาดูกันได้เลย อัพเดทข่าวคราว พิธีเสกสมรส ของ เจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกน มาร์เคิล

เรียบเรียงข้อมูลจาก : marthastewartweddings.com

รูปภาพจาก : pinterrest.com

7 เรื่องพลาดๆ ของเจ้าสาวในคืนก่อนวันแต่งงาน

พอใกล้จะถึงวันสำคัญก็ยิ่งตื่นเต้น สติสตางค์หล่นหายไปตามทางซะก็เยอะ ลืมรูทีนดีๆทุกอย่างที่เคยทำ แล้วเผลอทำทุกอย่างที่ทำร้ายตัวเองทางอ้อม ทำให้ตื่นมาแล้วไม่สดชื่น ผิวไม่ใสจนแทบจะกรี๊ดออกมาดังๆให้กับความพังของตัวเอง เพราะฉะนั้น แพรว wedding จึงมาทำลิสต์เตือนคุณว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายกันไว้ก่อน ยิ่งพรุ่งนี้คือวันสำคัญ วันที่เจ้าสาวสวยต้องที่สุดแล้วล่ะก็ นี่คือเรื่องพลาดๆที่คุณต้องหลีกให้ไกลในคืน ก่อนวันแต่งงาน กันค่ะ

 

ดื่มหนักเกินไป

หยุดเลยนะคะ ค่อให้อยากจะฉลองแค่ไหนก็ต้องเบรคไว้ก่อน รู้ไว้เลยว่าเจ้าสาวไม่ควรแตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วในคืนก่อนวันแต่งงาน เพราะจะทำให้ปวดหัวไม่สดชื่นในตอนเช้าและผิวพรรณไม่เปล่งปลั่งด้วย เอาไว้ปลดปล่อยช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็ไม่สายเกินไปนะคะ

สวมรองเท้าคู่ใหม่ หรือสวมรองเท้าส้นสูงนานๆ

เกิดอาการรองเท้ากัดทุกครั้งที่ได้สวมรองเท้าคู่ใหม่ หรือสวมส้นสูงเดินนานๆ จนเมื่อยเท้า นี่คือสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งในคืนก่อนวันแต่งงาน เพราะเราจะปวดเมื่อยและเจ็บแผลที่เท้าสุดๆ ในงานที่เราต้องยืนต้องเดินทั้งวันแบบนี้

เล่นโซเชียลมีเดียมากไป

ความตื่นเต้นอาจทำให้โพสต์สเตตัสไปอย่างไม่รู้ตัว หรือบางทีเราอาจนั่งดูรูปงานแต่งงานของคู่อื่นๆ มาจนเกิดวิตกกังวลไปเปรียบเทียบกับงานแต่งที่จะถึงนี้ด้วย และที่สำคัญอย่าเพิ่งโพสต์ของตกแต่งหรือของชำร่วยในงาน รอให้แขกมาเห็นเองจะดูเซอร์ไพรส์มากกว่า

ลืมเตรียมเงินสดสำรอง

พลาดกันประจำกับเรื่องนี้ เห็นมาเยอะที่ต้องวิ่งกันให้วุ่นยืมคุณพ่อคุณแม่ก่อนบ้างก็มี เพราะฉะนั้นทางที่ดีต้องสำรองเงินสดไว้เผื่อใช้จ่ายฉุกเฉินในสถานการณ์ต่างๆนะคะ แน่นอนว่ามีเผื่อไว้ย่อมดีกว่าไม่เตรียมอะไรเลย

ลืมบำรุงผิวก่อนนอน

ขอย้ำตรงนี้ว่าอย่าเพิ่งทดลองครีมบำรุงผิวใหม่ๆเด็ดขาด ใครจะบอกว่าดีงามแค่ไหนก็อดใจเอาไว้ก่อน แล้วบำรุงตามแบบเดิมด้วยครีมตัวเดิมที่เคยทำ แล้วเน้นการบำรุงรอบดวงตาเป็นพิเศษก็จะดีมากเลยล่ะค่ะ

วิตกกังวลมากไป

เจ้าสาวทั้งหลายมักกลัวว่างานจะออกมาผิดพลาด วิตกกังวัลกันไปล่วงหน้าซะก็เยอะ เอาเป็นว่าลองผ่อนคลายไปกับภาพยนตร์สนุกๆ ที่ชอบสักเรื่อง รวมถึงฟังเพลงสนุกๆ ให้คลายเครียดกันดีกว่า พยายามคิดบวกค่ะ แล้วถ้าถึงเวลางานจริงๆอาจจะต้องสะดุดไปบ้างหรือพบปัญหาก็ให้มั่นใจเถอะว่าทุกอย่างมีทางออกเสมอนะคะ ไม่กังวลเกินไปนะคะสาวๆ

นอนดึกเกินไป

เพราะอย่างที่ทราบว่าส่วนใหญ่เจ้าสาวมักต้องตื่นขึ้นมาแต่งหน้ากันตั้งแต่เช้ามืด เอาเป็นว่าคุณต้องตื่นเช้ากว่าปกติกันมากทีเดียว ดังนั้นถ้าอยากให้ผิวหน้ากระจ่างใสและเครื่องสำอางค์ติดทน คุณก็ควรนอนไวๆ เพื่อให้ผิวได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ พร้อมตื่นขึ้นมายิ้มรับและถ่ายรูปกับแขกทั้งงานในวันสำคัญของคุณ

 

cr : shefinds.com, insideweddings.com

เฟรมภาพครอบครัวใน ภาพวันแต่งงาน ต้องไม่มีใครบ้างมาดูกัน

เมื่อพูดถึง ภาพวันแต่งงาน แล้ว แน่นอนว่าจะเป็นภาพที่คงอยู่กับบ่าวสาวไปตลอด เมื่อนำกลับมาย้อนดูก็จะหวนคำนึงถึงช่วงเวลาอันแสนสุขได้ ซึ่งภาพในวันแต่งงานก็มีทั้ง ภาพบรรยากาศ ภาพบ่าวสาว ภาพเพื่อนบ่าวสาว ภาพแขกในงาน แต่ภาพที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าภาพอื่นๆ ก็คือ ภาพครอบครัว

ซึ่ง ภาพวันแต่งงาน ที่เป็นภาพครอบครัว แน่นอนว่าก็ต้องมีแต่ครอบครัวจริงไหมคะ ไม่ว่าจะเป็น คุณพ่อคุณแม่ของบ่าวสาว และน้องสาวน้องชาย แต่ก็จะมีบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ถือว่าเป็นครอบครัวเหมือนกัน แต่อาจจะเป็นครอบครัวที่ห่างออกไปหน่อย ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้นี่เองที่บ่าวสาวอาจจะต้องบอกช่างภาพไว้ก่อนเลยว่า “ขอถ่ายแยกกับครอบครัวใหญ่” นะจ๊ะ ถ้าอย่างนั้นมาดูกันดีกว่าว่า ครอบครัวห่างๆ ที่เราหมายถึงคือใครกันบ้าง

1. ลูกพี่ ลูกน้อง

กลุ่มบุคคลที่มีอายุไล่เลี่ยกันกับบ่าวสาว ไม่ว่าจะเป็น ลูกลุง ลูกอา ฯลฯ แต่ถ้าถามถึงความสนิทสนม บางคนก็อาจจะไม่เคยพูดไม่เคยคุยกับบ่าวสาวมาก่อนเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นบางครั้งหากต้องมาร่วมเฟรมกันก็อาจจะรู้สึกแปลกๆ เก้ๆ กังๆ นิดหน่อย เพราะไม่รู้ว่าจะต้องไปยืนตรงไหนหรือต้องไปยืนข้างใหญ่ เพราะฉะนั้นเพื่อเลี่ยงปัญหาเก้กังจนทำตัวไม่ถูกนี้ เราว่าปลีกตัวมาถ่ายกับบ่าวสาวแบบส่วนตัวจะดีกว่านะจ๊ะ

 

ภาพวันแต่งงาน

2. ญาติห่างๆ ที่คุณเพิ่งรู้จัก

ไม่แปลกถ้าหากเราจะได้รู้จักญาติใหม่ๆ ในงานแต่งงาน ที่ถึงแม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาจะไม่เคยเจอหน้าเจอตา หรือพูดคุยกันมาก่อนด้วยซ้ำ ก็เพราะว่าวันแต่งงานถือเป็นวันรวมญาติวันหนึ่ง และเป็นวันสำคัญของบ่าวสาวเพราะฉะนั้นญาติๆ จากทุกสารทิศจึงอยากที่จะมาร่วมแสดงความยินดีด้วยนั่นเอง เพราะฉะนั้นเพื่อไม่ให้สับสน และมีคนจนล้นเฟรม อาจจะต้องจัดกรุ๊ปก่อนถ่ายภาพกันก่อน โดยอาจจะแยกเป็นเซตไปเลยว่าเป็นญาติฝั่งไหนก็ให้ถ่ายร่วมกับญาติฝั่งนั้น หรือจะเรียงตามความสนิทสนมก็ได้นะจ๊ะ

ภาพวันแต่งงาน

4. พี่น้องต่างบิดามารดา

ข้อนี้ลองดูตามความเหมาะสมและวิจารณญาณของบ่าวสาวและครอบครัวได้เลย หรืออาจจะพิจารณาตามความสนิทสนมก็ได้ เพราะบางคนถ้าสนิทกันมากๆ จะมองว่าเป็นครอบครัวเดียวกันก็ไม่แปลก แต่ถ้าหากไม่สนิท ก็อาจจะต้องมีการบอกกล่าวว่า ขอถ่ายกับคุณพ่อ-คุณแม่ก่อน แล้วค่อยถ่ายด้วยกันในเฟรมต่อไปนะคะ

5. เพื่อนๆ

ภาพครอบครัว เป็นภาพที่จะรวมญาติจากหลายๆ ฝ่ายมาไว้ในเฟรมเดียว แต่ถ้าหากถ่ายภาพครอบครัวอยู่แล้วเพื่อนๆ ของคุณอยากขอร่วมเฟรมด้วย ประมาณว่าอยู่ไกลๆ ก็ได้ เราว่างานนี้บ่าวสาวอาจจะต้องให้เพื่อนๆ ตั้งสติ แล้วบอกไปตรงๆ ว่า ช๊อตนี้เป็นภาพครอบครัว ส่วนแก๊งเพื่อนเดี๋ยวมาถ่ายสนุกสุดเหวี่ยงกันภายหลัง หรือหากครอบครัวของบ่าวสาวมีความสนิทสนมกับเพื่อนๆ ของคุณเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็อาจจะพิจารณาดูตามความเหมาะสม เพราะถ้าเพื่อนๆ ถ่ายภาพกับครอบครัวคุณ แต่มาในมู้ดแอนด์โทนที่สนุกสุดเหวี่ยง ก็อาจจะต้องคิดนิดนึงว่าจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ หรือญาติคนอื่นๆ เขินจนยิ้มไม่ออกหรือเปล่าน้า

ภาพวันแต่งงาน

ที่พูดมาไม่ใช่กฎตายตัวที่ต้องทำตามเป๊ะๆ หรือถ้าไม่ทำแล้วจะแย่ ไม่ใช่แบบนั้นนะจ๊ะ … เพราะสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม แต่ที่แน่ๆ ถ่ายภาพครอบครัวหลักยังไงก็ต้องถ่านให้เยอะไว้ก่อน แล้วค่อยจัดกรุ๊ปให้คนอื่นเข้ามาถ่ายด้วย เพียงเท่านี้ก็ไม่เสียมารยาท และแฮปปี้กันหลายๆ ฝ่ายแล้ว … ถ้าคิดได้แล้วว่าจะจัดกรุ๊ปถ่ายภาพอย่างไรดี อย่าลืมดูความสวยงามของซุ้มถ่ายภาพนะ เพื่อที่ภาพครอบครัวจะได้ออกมาน่ารักและสวยปังค่ะ รวมไอเดียจัดซุ้ม ถ่ายภาพในงานแต่ง ให้เก๋ไก๋ น่ารัก ไม่ซ้ำใคร

ภาพจาก : Pinterest.com

7 กุญแจสู่สุขภาพดี เพื่อความรักที่ยืนยาว

เมื่อเรารักกัน เราก็ต้องมีความคาดหวังว่าอยากจะให้คนที่รัก รักเราและอยู่กับเราไปนานๆ ตัวเราเองก็เหมือนกัน ถ้าคิดอยากจะอยู่ด้วยกันไปนานๆก็ต้อง ดูแลตัวเอง ว่าแต่มีอะไรบ้างนั้นวันนี้ แพรว wedding รวมมาให้แล้ว รับรองเลยว่าง่ายแสนง่าย ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มเลยค่า 😉

 

นอนให้เพียงพอ

ดูแลตัวเอง

เหตุผลหนึ่งที่เจ้าหญิงนิทรายังสวยแบบจัดเต็มและร่างกายดูสุขภาพดี อยู่ได้นานจนกระทั่งรอเจ้าชายมาจุมพิตได้ ก็คงเป็นเพราะเธอนอนหลับได้สนิทนั่นเอง อย่าช้า จัดตารางนอนให้ได้วันละ 8 ชั่วโงและเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม การนอนไม่พอทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ

ดื่มน้ำเยอะๆ

ดูแลตัวเอง

ของเหลวที่สำคัญที่สุดในร่างกายทำให้ทุกอย่างทำงานได้อย่างคงที่และลงตัว คุณคงไม่คิดสินะว่าแค่ดื่มน้ำไม่พอ ก็ทำให้คุณมีโอกาสเป็นไตวาย นิ่วในไต ความดันเลือดสูงได้แล้ว

ขัดฟันทุกครั้งหลังอาหาร

ดูแลตัวเอง

สุขภาพปาก เหงือกและฟันที่ดีช่วยลดการอักเสบ การติดเชื้อ และลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้

ไม่สูบบุหรี่

ดูแลตัวเอง

ไม่ใช่แค่มะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง แต่ยังโยงไปถึงมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ เส้นเลือดหัวใจอุดตัน และหน้าแก่อีกด้วย

หัวเราะบ่อยๆ

ดูแลตัวเอง

หาวิถีทางที่ทำให้ตัวเองมีความสุขแบบง่ายๆ การหัวเราะคือยาที่ดีที่สุด และถูกที่สุดที่คุณจะหาได้

อ่านหนังสือ หรือเล่นเกมฝึกสมอง

ดูแลตัวเอง

หนึ่งในกิจการบริหารสมอง ป้องกันอันไซเมอร์ได้ จะมีประโยชน์อะไรถ้าอยู่นานไปแต่จำใครไม่ได้เลย

มีเป้าหมายในชีวิต

ดูแลตัวเอง

ข้อสุดท้ายคือไม่ยากเลย เริ่มจากตั้งความฝันสั้นๆ จะไปเที่ยวที่ไหนในวันหยุดก็ได้ แล้วค่อยขยายไปให้ไกลถึงว่า ชีวิตนี้เราอยู่เพื่อใคร ความหวังทำให้ชีวิตคนเรามีคุณค่าและจะรักษาดูแลชีวิตตัวเองให้ดีอยู่เสมอนะคะ

 

cr : wisebread.com, teenlife.com, rd.com/health

เทคนิคการเลือกแหวนเพชรผู้ชาย เลือกยังไงให้ถูกใจคนรักมากที่สุด

แหวนเพชรแท้ เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แทนความรักของบ่าวสาวก็ว่าได้ และทั้งคู่จะต้องสวมสัญลักษณ์แห่งความรักนี้ติดนิ้วไว้เสมอ เพราะฉะนั้นจึงต้องพิถีพิถันในการเลือกแหวนเพชรแท้กันสักหน่อย โดยเฉพาะสำหรับคุณผู้ชายที่แต่ละคนต่างก็มีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน แล้วอย่างนี้ผู้หญิงอย่างเราจะเลือก แหวนเพชรผู้ชาย ยังไงให้ถูกใจเขามากที่สุด แพรว wedding ไม่รอช้ารีบไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านจิวเวลรี่อย่าง Ananta Fine Jewelry ที่จะมาช่วยสาวๆ เลือกแหวนเพชรให้ถูกใจคนรักมากที่สุด จะมีเทคนิคและหลักการอย่างไรบ้าง ไปดูกัน

เลือกก่อนว่าอยากได้แหวนเพชรผู้ชายแบบมีเพชรหรือไม่มีเพชร

เนื่องจากผู้ชายแต่ละคนก็มีความชอบและบุคลิกที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่เจ้าสาวควรจะตอบให้ได้ก่อนก็คือ เจ้าบ่าวของเรานั้นจัดอยู่ในหมวดผู้ชายประเภทไหน เช่น หากเจ้าบ่าวของคุณเป็นชายหนุ่มที่ชอบแต่งตัวและชอบสวมเครื่องประดับสไตล์จิวเวลรี่อยู่แล้ว ก็อาจจะเลือกเป็นแหวนเพชรขนาดประมาณ 20-30 ตัง ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มากกำลังพอดี หรือจะเลือกไซส์เล็กลงมาอีกนิดกับแหวนเพชรขนาด 2-3 ตัง สำหรับเจ้าบ่าวที่ไม่ได้แต่งตัวจัดมาก แต่ถ้าหากเจ้าบ่าวเป็นผู้ชายทำงาน สายลุย ใช้ชีวิตสมบุกสมบัน และไม่นิยมสวมเครื่องประดับแล้วล่ะก็ แนะนำให้เลือกเป็นแหวนเกลี้ยงที่สามารถสวมติดนิ้วในชีวิตประจำวันได้ง่ายและเข้าได้กับทุกชุด เพราะเป็นดีไซน์ที่เรียบง่ายสามารถใส่ได้แบบไม่เคอะเขิน

 

เลือกแบบและผิววัสดุแหวนเพชรผู้ชาย

ข้อนี้ก็มีความสำคัญสำหรับการเลือกแหวนเพชรผู้ชายเช่นกัน เพราะต้องดูให้เข้ากับการใช้งานของเจ้าบ่าว บุคลิก และไลฟ์สไตล์ของเขาด้วย ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้เจ้าสาวสามารถเลือกแบบแหวนเจ้าบ่าวได้ง่ายและตรงใจเขามากที่สุด ซึ่งแบบแหวนผู้ชายหลักๆ ก็จะมีแบบเงาและแบบด้าน ซึ่งแบบด้านก็จะมีให้เลือกแบบพ่นทรายและลายขนแมวที่ให้บุคลิกต่างกัน โดยเจ้าสาวอาจจะเลือกแบบแหวนจากการทำงานและกิจกรรมประจำวันของเจ้าบ่าวเป็นหลัก หากเจ้าบ่าวเป็นชายหนุ่มออฟฟิศสุดเนี้ยบไม่ได้ทำกิจกรรมโลดโผนในชีวิตประจำวัน ก็อาจจะเลือกเป็นแหวนเกลี้ยงธรรมดาที่ให้ลุคดูดีและมีอารมณ์จิวเวลรี่นิดๆ จากความเงาของตัวเรือน แต่ถ้าหากเป็นเจ้าบ่าวที่มีกิจกรรมประจำวันแบบสายลุยก็อาจจะต้องเลือกเป็นแบบด้านพ่นทรายหรือด้านแบบลายขนแมวแทน เพราะเวลาเป็นรอยจะเห็นไม่ชัดเท่าแบบเกลี้ยง ซึ่งปัจจุบันแบบลายขนแมวจะได้รับความนิยมมากกว่าแบบพ่นทรายเนื่องจากดูทันสมัยและวัยรุ่นกว่า

เลือกสีของตัวเรือนของแหวนเพชรผู้ชาย

นอกจากเรื่องดีไซน์และวัสดุของแหวนแต่งงานแล้ว เรื่องสีของตัวเรือนก็สำคัญไม่แพ้กันเพราะเจ้าสาวจะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายๆ อย่างของเจ้าบ่าวด้วย เช่น สีผิว ความชอบส่วนตัว รสนิยมและสไตล์ของเจ้าบ่าว หรือการเลือกให้เข้ากับเครื่องประดับอื่นๆ ที่เจ้าบ่าวสวมอยู่แล้ว เช่น แหวนแฟชั่น นาฬิกา เป็นต้น ซึ่งหลักๆ แล้วสีของตัวเรือนมีทั้งหมด 3 สีคือ ทองคำขาว, ทองชมพู, ทอง ซึ่งตัวเรือนแต่ละสีก็เหมาะกับโทนสีผิวและสไตล์ของเจ้าบ่าวที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนมากแล้วตัวเรือนเบสิคและนิยมมากที่สุดคือ แหวนเพชรที่ใช้ตัวเรือนทองคำขาว เพราะเหมาะกับทุกสีผิวและสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ง่าย ใส่กับอะไรก็ได้ ไม่ต้องคิดเยอะ

 

เลือกดีไซน์แหวนเพชร

โดยปกติแล้วดีไซน์หรือแบบแหวนเพชรผู้ชายหลักๆ มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ แบบโค้งมนกับแบบเหลี่ยม ซึ่งแบบเหลี่ยมจะให้ลุคที่ดูแข็งแรงและเท่กว่าแบบโค้งมน แต่บางคนก็อาจจะชอบแบบโค้งมนมากกว่าเพราะให้ลุคดูซอฟต์นุ่มนวล ใส่สบายรับกับนิ้วมือได้พอดี เหมาะกับการสวมใส่ในทุกโอกาสและเข้ากับทุกสไตล์การแต่งตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูลักษณะนิ้วมือของผู้ชายด้วย เช่น ถ้านิ้วมีข้อใหญ่หน่อยการใส่แบบเหลี่ยมจะดูสวยกว่า ส่วนผู้ชายนิ้วป้อมสั้นอาจจะต้องใส่แหวนที่มีลักษณะโค้งมนเพื่อให้รับกับลักษณะของนิ้วมือมากที่สุด

เลือกตามงบประมาณที่มีในการเลือกซื้อแหวน

เพื่อให้ง่ายต่อการซื้อแหวนเพชรผู้ชายหรือแหวนเพชรแท้สำหรับเจ้าบ่าว เจ้าสาวควรจะมีงบประมาณคร่าวๆ มาด้วย ซึ่งแหวนผู้ชายประดับเพชรราคาจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 70,000 บาท แต่ถ้าเป็นแบบเกลี้ยงไม่ประดับเพชรราคาจะอยู่ที่ประมาณ 25,000 – 30,000 บาท

นอกจากที่บ่าวสาวจะต้องคำนึงถึงเทคนิค 5 ข้อในการเลือกแหวนเพชรผู้ชายแล้ว สำหรับบ่าวสาวบางคู่ที่แลกแหวนกันก็อาจจะต้องดูด้วยว่าแหวนทั้งสองวงเหมาะสมกันหรือไม่ เช่น หากเจ้าบ่าวซื้อแหวนเพชรเม็ดใหญ่มากให้กับเจ้าสาว แต่เจ้าสาวกลับเลือกเพียงแค่แหวนเกลี้ยงให้เจ้าบ่าวเท่านั้น เมื่อนำไปวางบนพานคู่กันก็อาจจะดูไม่เหมาะสมจนอาจทำให้ผู้ใหญ่ติติงเอาได้เพราะฉะนั้นเพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี บ่าวสาวก็อาจจะต้องเตรียมแหวนผู้ชายไว้สองวงคือ วงหนึ่งเป็นแหวนหมั้นประดับเพชรสมฐานะกับแหวนหมั้นเจ้าสาว สำหรับวางไว้บนพานในวันทำพิธี ส่วนอีกวงอาจจะเป็นแหวนเกลี้ยงที่เจ้าบ่าวสามารถสวมติดนิ้วในชีวิตประจำวันได้นั่นเอง แต่งานนี้ก็อาจจะต้องเตรียมบัดเจ็ทเพิ่มกันไว้อีกสักหน่อยนะจ๊ะ

ขอบคุณวิธีและเทคนิคการเลือกแหวนเพชรผู้ชายจาก https://anantajewelry.com/fine-jewelry-mens/

 

คำถามยอดฮิต … ถ้าต้อง ไปงานแต่งงานคนเดียว ต้องทำตัวอย่างไรดี?

สาวๆ หรือหนุ่มๆ ที่กำลังเกิดคำถามในใจว่า ไปงานแต่งงานคนเดียว ควรวางตัวอย่างไรดี … อย่าเพิ่งวิตกกังวลไปจ่ะ เรามีคำตอบมาให้แล้ว

น่าจะเป็นปัญหาที่ต้องคิดกันหลายรอบทีเดียว เพราะการไปงานแต่งงานถ้ามีกลุ่มเพื่อนไปกันเป็นกลุ่มใหญ่ รับรองว่าสนุกสนาน แต่ถ้าต้อง ไปงานแต่งงานคนเดียว ล่ะ จะมีความรู้สึกหว้าเหว่ขึ้นมาทันที และเราจะเริ่มคิดว่า ควรไปดีไหม … คำตอบคือ ต้องไปนะจ๊ะ แต่ต้องวางตัวอย่างไรมาดูกัน

1. อย่าตื่นตระหนก

สิ่งที่ควรทำมากที่สุด คืออย่าตื่นตระหนกนะจ๊ะ มีสติเข้าไว้ เดินเข้างานแบบสวยๆ หล่อๆ สตรองไปเลย อย่าคิดมาก เจอบ่าวสาวก็ขอถ่ายรูปด้วย ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมองว่าเรามาคนเดียวไหม จะบอกว่าไม่มีคนสนใจมานั่งจับผิดเราหรอกเนอะ สนุกกับสิ่งตรงหน้าก็พอแล้ว

 

2. ทำทุกอย่างให้ครบแล้วค่อยกลับ

เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากจะอยู่ต่อเพราะอึดอัด เหงาหงอย ก็ไม่มีเพื่อนหนิหน่า ก็ไม่แปลกเนอะ เพราะเราไปคนเดียว ดังนั้นเข้าไปร่วมงาน มอบซองให้บ่าวสาว ถ่ายรูปคู่ แล้วทานอาหารนิดๆ หน่อยๆ อยู่ร่วมพิธีสักพัก แล้วค่อยขอตัวกลับ อันนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าการเทไม่ไปงานเลยนั่นเองค่ะ

 

3. เลือกโต๊ะอาหารที่ว่างๆ

มาถึงงานให้ไว แล้วเดินเข้าไปเลือกโต๊ะอาหารที่ว่าง (ในกรณีโต๊ะจีน, บุฟเฟ่ต์) เพื่อที่เราจะได้นั่งก่อน แล้วถ้าใครมาทีหลังก็ค่อยมาจอยกับเรา วิธีนี้จะช่วยลดความอึดอัดในการที่เราต้องไปฝ่ายเอ่ยปากขอนั่งร่วมโต๊ะกับคนอื่นได้ ส่วนเวลาทานอาหารก็ลองชวนแขกผู้ร่วมโต๊ะพูดคุยดูนะคะ เช่น จานนี้อร่อยดีนะคะ หรืองานสวยจังเลยเนอะ รับรองไม่มีอะไรน่ากลัว เพราะยังไงเสียทุกคนก็มาเพื่อร่วมยินดีกับบ่าวสาวอยู่แล้ว

ไปงานแต่งงานคนเดียว

4. ลดการเล่นมือถือ

อย่าเพิ่งคิดว่าถ้าเราเขิน ไม่มีอะไรทำแล้ว ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเล่น อันนี้เป็นทางออกที่ไม่ค่อยดีนะจ๊ะ ลองคิดดูว่าถ้าอยู่บนโต๊ะอาหาร ทุกคนกำลังพูดคุยกัน แต่เราก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือ โดยไม่สนใจใครเลย … จะมีใครอยากคุยกับเราล่ะ แถมดูเสียมารยาทอีกด้วยนะ

ไปงานแต่งงานคนเดียว

5. พาเพื่อนสนิท หรือแฟนไปด้วย

ข้อนี้ควรเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่จะนึกถึงเลยนะจ๊ะ เพราะเราต้องเกรงใจบ่าวสาวด้วยเนอะ แต่ถ้าไม่มีใครไปด้วยแล้วจริงๆ ล่ะก็ ก็สามารถชวนเพื่อน ชวนแฟนไปได้ และคนที่คุณชวนไปด้วยก็ต้องวางตัวให้เหมาะสมกับการไปร่วมงานแต่งด้วยนะ ไม่ใช่ถูกบังคับให้ไป แล้วไปนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด อันนี้ก็ไม่ไหวล่ะจ่ะ

ไปงานแต่งงานคนเดียว

และนี่คือคำแนะนำเวลาไปงานแต่งงานคนเดียว ถ้าบ่าวสาวให้เกียรติเชิญเราไปร่วมงานแล้ว อย่าไม่ไปเพียงแค่เหตุผลว่า ไม่มีคนรู้จักในงานเนอะ ไปให้เขาเห็นหน้าตาก็ยังดีกว่า … ที่สำคัญลองมาดู 7 นิสัยไม่น่ารักที่แขกในงานแต่งไม่ควรทำ จะได้ทำตัวให้เป็นแขกที่น่ารักในงานแต่งนั่นเอง

ภาพจาก : Pinterest.com, lioneltan.co.nz

5 วรรณกรรมรัก ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลให้ชีวิตคู่!

สำหรับใครที่ช่วงนี้ระดับน้ำตาลของชีวิตคู่ลดน้อยลงจนน่าใจหาย และเกิดอยากจะมีมุมโรแมนติกขึ้นมากับเขาบ้างอะไรบ้าง  แพรว wedding มีคำแนะนำให้ค่ะ ลองหา นิยายรัก สักเรื่องมาอ่านเพื่อเติมความหวานให้ชีวิตรักของคุณดูสิคะ แล้วถ้าใครถามต่อว่าจะอ่านเรื่องอะไรดี วันนี้เรามีนิยายรักต่างประเทศมาฝากค่ะ บางเรื่องมีแปลเป็นไทยแล้วด้วยนะคะ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ 😉

 

Jane Eyre ผู้เขียน Charlotte Bronte

นิยายรัก

“เจน แอร์” เด็กกำพร้าผู้น่าสงสารที่ถูกป้าใจร้ายส่งไปโรงเรียนประจำที่เข้มงวดและแร้นแค้น แต่เธอก็ใฝ่เรียนจนจบและทำหน้าที่เป็นครูสอนในโรงเรียนนั้นอีกหลายปี กระทั่งสัญชาตญาณความอยากรู้อยากเห็นโลกภายนอกกระตุ้นย้ำ เธอจึงตัดสินใจลงประกาศเสนอตัวเป็นครูพี่เลี้ยงในบ้านส่วนตัว

ในที่สุดเธอก็ได้เป็นครูพี่เลี้ยงของทายาทตัวน้อยแห่งคฤหาสน์ ธอร์นฟิลด์ ด้วยความใกล้ชิดจนเกิดความรักความผูกพัน เธอจึงตัดสินใจเข้าพิธีสมรสกับ “โรเชสเตอร์” เจ้าของคฤหาสน์ แต่เมื่อรับรู้ว่าเขามีภรรยาวิกลจริตซึ่งแอบซ่อนอยู่ในคฤหาสน์ ทำให้เธอหนีออกจากคฤหาสน์ไปตกระกำลำบากอยู่ในโลกภายนอกระยะหนึ่ง แต่ด้วยเสียงเพรียกของหัวใจทำให้เธอหวนกลับคฤหาสน์อีกครั้งพลันพบว่าคฤหาสน์หลังงามถูกเพลิงไหม้ เป็นเหตุให้เขาพิการและตาบอด แต่เธอก็ยังยืนหยัดเคียงข้างเขาด้วยอานุภาพของรักแท้

ความรักของเจน แอร์ ไม่ใช่รักที่หวานแหววโรแมนติก แต่เป็นต้นตำรับนิยายรักที่เปี่ยมไปด้วยความหวังและพลังในการใช้ชีวิตต่อไป ผู้เขียนได้สอดแทรกข้อคิดเอาไว้อย่างแนบเนียนเช่นการยึดมั่นในการทำความดี และเทิดทูนคุณธรรมให้อยู่เหนือความหรูหรา ความสะดวกสบายของชีวิต อ่านแล้วไม่ได้ซาบซึ้งตรึงใจในรักแท้ของเจนที่มีต่อโรเชสเตอร์หรอกค่ะ แต่เข้าใจถึงสัจธรรมของชีวิตมากขึ้นต่างหาก อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรนั้นต้องหามาอ่านให้ได้นะคะ

 

Pride and Prejudice ผู้เขียน Jane Austen

นิยายรัก

เรื่องราวความรักของสังคมชนชั้นกลางและชนชั้นสูง เมื่อชายหนุ่มชนชั้นสูงอย่าง “ดาร์ซี” ที่มาเจอกับ “อลิซาเบธ” หรือ “ลิซซี่” หญิงสาวสังคมชนชั้นกลางแล้วเกิดอาการไม่ถูกชะตา มีปะทะคารมกัน เจอหน้ากันทีไรก็ทะเลาะตลอด เพราะทางลิซซี่ก็เป็นพวกถือดี ทระนงตน (Pride) ส่วนดาร์ซี่เองก็อคติกับผู้หญิงว่าคือพวกหาทางจับผู้ชาย (Prejudice) แม้ขิงก็ราข่าก็แรง แต่สุดท้ายก็จบลงที่ความรัก

วรรณกรรมสุดคลาสสิคระดับโลก จากผลงานปลายปากกาของ Jane Austen นักเขียนชาวอังกฤษผู้โด่งดังจาก 200 ปีที่แล้ว วรรณกรรมเล่มนี้ไม่เป็นเพียงแต่วรรณกรรมอมตะ แต่ยังถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรการเรียนวรรณคดีอังกฤษทั้งในสหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ ค่ะ และจากผลสำรวจของ BBC นิยายเรื่องนั้นยังเป็นหนังสือที่ชาวอังกฤษนิยมอ่านมากที่สุดเป็นอันดับสองตลอดกาล รองมาจาก The Lord of the Rings ซึ่งเขียนโดย J.R.R.Tolkien

หนังสือเล่มนี้มีแปลเป็นภาษาไทยด้วยนะคะชื่อ “สาวทรงเสน่ห์” แต่สำหรับคนที่อยากอ่านวรรณกรรมคลาสสิคเป็นภาษาอังกฤษแต่ไม่อยากเริ่มจากเช็คสเปียร์ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรอ่านมากเลยนะคะ เพราะภาษาอ่านง่ายไม่ยาก ยิ่งถ้าได้ดูหนังมาก่อนจะอินมากเลยนะคะ

 

The Notebook ผู้เขียน Nicholas Sparks

นิยายรัก

นวนิยายที่จะพาหัวใจรักทุกดวงไปสัมผัสกับเรื่องราวความรักที่พลิก “โศกนาฏกรรม” ให้กลายเป็น “ปาฏิหาริย์” ถ่ายทอดด้วยถ้อยคำที่สละสลวย ลึกซึ้ง เล่าเรื่องราว “รักแท้” ตลอด “ชั่วชีวิต” ของคนคู่หนึ่ง ตรึงใจ…จนคุณต้องหลั่งน้ำตาซ้ำแล้วซ้ำอีกเลยทีเดียว

เรื่องราวความรักของ “โนอาห์” กับ “แอลลี” ที่กาลเวลาไม่อาจลบเลือนความทรงจำที่สวยงามของทั้งคู่ได้ โชคชะตาได้นำพาพวกเขาให้กลับมาพบกันอีกครั้ง และโชคชะตาก็พยายามพรากความทรงจำอันสวยงามนั้นด้วยโรคร้ายอย่างอัลไซเมอร์ ทว่าด้วยหัวใจสองดวงที่รักและมั่นคงอย่างแท้จริง ปาฏิหาริย์รักจึงเกิดขึ้น

แค่เห็นชื่อคนเขียนก็รู้เลยว่าไม่ควรพลาด เพราะเขาคือเจ้าพ่อนิยายรักที่สร้างสรรค์ผลงานนิยายรักซึ้งใจมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น A Walk to Remember หรือ The Choice และในวันนี้พี่ก็หยิบหนึ่งในนิยายที่ไม่ว่าใครอ่านก็เป็นต้องซาบซึ้งตรึงใจตราบนานเท่านานมาแนะนำให้น้องๆ อ่านค่ะ ซึ่งก็คือ “The Notebook” นั่นเอง

 

Beautiful Disaster ผู้เขียน Jamie McGuire

นิยายรัก

เรื่องราวของสาวน้อยใสซื่อบริสุทธิ์นามว่า “Abby” ที่บังเอิญชีวิตดันเข้าไปพัวพันกับชายหนุ่มรูปงามและทรงเสน่ห์ หากแต่ดูแบดบอยแห่งมหาวิทยาลัย อย่าง “Travis” ซึ่งเขานั้นตรงข้ามกับเธอทุกอย่าง และเป็นคนที่เธอไม่ชอบขี้หน้าด้วย ทั้งคู่ตกลงพนันกัน ถ้าหาก Abby ชนะเขาจะยอมงดดื่มเหล้าหนึ่งเดือนเต็ม แต่ถ้าหากเขาชนะ Abby ต้องย้ายมาอยู่กับเขาหนึ่งเดือนเช่นกัน

นวนิยายรักที่แนะนำให้อ่านเป็นอันดับสองจากเรทติ้งของ Goodreads นั้นบอกได้คำเดียวว่า “แซ่บ” มาก เรื่องราวความรักวัยรุ่นที่ฝรั่งที่ติดอันดับ best seller จาก New York Times เช่นกันค่ะ เป็นหนังสือทำมือที่ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2011 แถมยังได้รับการแปลถึงห้าสิบภาษาทั่วโลกเลยค่ะ

 

The Merchant of Venice ผู้เขียน William Shakespeare

นิยายรัก

เมื่อ “ปัสสานิโย” ตกหลุมรักสาวงามนามว่า “ปอร์เชีย” ร้อนถึง “อันโตนิโย” ซึ่งเป็นเพื่อนรัก ต้องไปกู้เงินจากนายทุนหน้าเลือดอย่าง “ไชล็อก” เพื่อเป็นของหมั้นหมาย แต่แล้วอันโตนิโยเกิดชำระหนี้ได้ไม่ทันเวลา แล้วเขาจะทำอย่างไร เมื่อสัญญาโหดร้ายระบุไว้ให้ต้องเฉือนเนื้อชดใช้หนี้

หากพูดถึงเช็คสเปียร์แล้ว คงต้องร้องอ๋อ เพราะว่าเขาคือเจ้าของผลงานวรรณกรรมรักสุดคลาสสิคอย่าง “โรมิโอกับจูเลียต” แต่นิยายที่เลือกมาวันนี้ไม่ใช่โรมิโอกับจูเลียตค่ะ แต่เป็นเวนิสวาณิชซึ่งเป็นวรรณกรรมอันเลื่องชื่อ ที่ไม่ได้เน้นการถ่ายทอดเนื้อหาของความรักในแง่มุมเดิม แต่เป็นเพราะนางเอกของเรื่องอย่างปอร์เชียที่ฉลาดหลักแหลมและสามารถช่วยชีวิตคนรักของเธอได้ต่างหากค่ะที่ทำให้เรื่องนี้เป็นวรรณกรรมในดวงใจของใครหลายคน

จบกันไปแล้วนะคะสำหรับ 5 นิยายรักที่เราอยากให้คุณได้ลองอ่าน แต่ละเรื่องที่เลือกมานั้น ขอรับประกันความสนุกค่ะ ช่วงนี้ใครว่างๆ อยากอ่านนิยายดีๆ สักเรื่อง ก็อย่าลืมเก็บ 5 เรื่องที่เราแนะนำเอาไว้พิจารณานะคะ รับรองว่าไม่มีผิดหวังแน่นอนเลยค่ะ

 

cr : penguin.co.uk, setonbooks.com, dekd.com, sophiekinsey1997.com, justjane1813.com

บริการ เช่าสินสอดงานแต่ง ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ คืออะไร มาทำความรู้จักกันดีกว่า

สินสอดงานแต่ง เช่าได้ด้วยเหรอ? … นี่คือคำถามยอดฮิตของนักโซเชียลมีเดีย และว่าที่บ่าวสาวที่กำลังจะจัดงานแต่งงาน เพราะมีกระแสของการ เช่าสินสอดงานแต่ง ไม่ว่าจะเป็นเงินก้อนโต หรือทองคำ ก็มีบริการให้เช่าด้วย เอาเป็นว่าเราจะพาบ่าวสาวไปทำความรู้จักกับธุรกิจนี้ให้มากขึ้น

แพรว wedding ขอพาบ่าวสาวมาฟังดูกันว่าบริการ เช่าสินสอดงานแต่ง คืออะไร โดยเราได้ร้านโรแมนทีส (Romantiese) ที่จะมาอธิบายให้ฟังกันอย่างละเอียด ว่าแท้จริงแล้วบริการเช่าสินสอดคืออะไร และให้บริการในรูปแบบใดบ้าง ไปดูกันเลย

อยากให้ทางร้านอธิบายหน่อยว่าการเช่าสินสอดคืออะไร และมีรูปแบบการให้บริการอย่างไรบ้าง

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ร้านเราเปิดให้บริการเป็นเหมือนบริการเสริมในงานแต่งงาน คือจะมีการเช่าสินสอดที่เป็นเงิน ทองคำแท่ง และรถหรู เพื่อมาใช้ถ่ายรูปในงานแต่ง ซึ่งหลายๆ คนที่เห็นก็จะเข้าใจผิดว่าเป็นธุรกิจสร้างภาพให้กับบ่าวสาวหรือเปล่า ซึ่งทางเราต้องขอบอกว่าไม่ใช่ เพราะก็มีลูกค้าหลายรายที่มีฐานะ มีค่าสินสอดสูงถึงระดับหลายล้านมาใช้บริการ แต่สาเหตุที่มาเลือกใช้บริการของเราก็เพราะในวันแต่งงานจะได้ไม่ต้องมาคอยห่วงว่าเงินจะหายไหม เพราะทางเราจะมีทีมรักษาความปลอดภัยให้กับบ่าวสาวในงานแต่งด้วย ซึ่งเป็นทีมใหญ่ที่พร้อมให้ความดูแลอย่างทั่วถึง อีกทั้งเรายังมีบริการมีสาวๆ ที่จะแต่งกายอย่างสวยมาเพื่อถือพานสินสอด และทีมช่างถ่ายภาพ

ซึ่งลูกค้าที่มาใช้บริการโดยส่วนใหญ่มักจะมีสินสอดของตัวเองอยู่แล้ว อย่างเช่น หากมีค่าสินสอดอยู่ที่ 10 ล้าน เมื่อถึงวันแต่งงานเจ้าบ่าวอาจจะแค่เซ็นเช็คเงินสดใบเดียวแล้วมอบให้ทางเจ้าสาว ซึ่งนั่นก็คือสินสอดที่ทางเจ้าบ่าวได้มอบให้กับเจ้าสาวแล้ว แต่หากจะนำเช็คที่เป็นกระดาษใบเดียวมาวางกลางงานก็อาจจะดูน้อย ดูไม่แพง หรือเห็นไม่ชัดเมื่อเทียบกับนำเงินจริงๆ ที่นำมาวางไว้ในพานสวยๆ ซึ่งเจ้าบ่าวหลายคนมองว่าการนำเงินหลักหลายๆ ล้านบาทมาวางเพื่อแค่ถ่ายรูปอาจจะเกิดความยุ่งยากวุ่นวาย เพราะกว่าจะเบิกออกจากธนาคารออกมาได้ ไหนจะต้องคอยดูแลไม่ให้เงินหายอีก จึงอาจเป็นเรื่องที่เสียเวลา ถ้าเทียบกับการมาใช้บริการเช่าสินสอดก็จะสะดวกสบายมากกว่า อีกทั้งยังได้รับบริการเสริมในเรื่องต่างๆ อีกด้วย

เช่าสินสอดงานแต่ง

ทางร้านเปิดให้บริการเช่าสินสอดงานแต่งมานานหรือยัง

ร้านเราเปิดให้บริการมานานแล้ว แต่เพิ่งจะมีบริการให้เช่าสินสอดงานแต่งเมื่อประมาณ 3เดือนที่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็มีบริการเช่ารถหรู หรือรถคลาสสิคที่มีราคาสูงมาใช้ในงานแต่งงานด้วย เพราะหากสังเกตตามงานแต่งงานต่างๆ ที่มีรถสวยๆ ติดโบว์ใหญ่ๆ หรือประดับลูกโป่งไว้อย่างสวยงามจอดอยู่หน้างาน นั่นก็คือลักษณะการบริการที่เราทำเช่นกัน

การเช่าสินสอดงานแต่งมีแพ็คเกตแบบใดบ้าง และทำไมราคาถึงแตกต่างกัน

ราคาที่แตกต่างกันมาจากจำนวนของสินสอด ยิ่งจำนวนสินสอดเยอะ ทางเราก็จะต้องใช้ทีมงานในการไปดูแลภายในงานเยอะตามไปด้วย ส่วนแพ็คเกจหลักๆ มีดังนี้

เช่าเงินสด 3-5 แสนบาท ราคาเช่า 30,000 บาท

เช่าเงินสด 1 ล้านบาท ราคาค่าเช่า 50,000 บาท

เช่าเงินสด 5 ล้านบาท ราคาเช่า 150,000 บาท

เช่าเงินสด 10 ล้านบาท ราคาเช่า 250,000 บาท

รถเบนซ์ติดโบว์ ราคาเช่า 15,000 บาท

ทองคำแท่งน้ำหนัก 10 บาท ราคาเช่า 3,000 บาท/แท่ง

**ซึงทางร้านจะมีโปรโมชั่นหลายอย่างสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ตลอด

การให้เช่าสินสอดงานแต่งแบบนี้ผิดกฎหมายหรือไม่

ไม่ผิดกฎหมาย เพราะทางร้านเป็นลักษณะการให้บริการเสริมในงานแต่งงาน เป็นการเสริมให้ภาพลักษณ์ของงานดูดี มองง่ายๆ ว่าเพื่อใช้เป็นพร็อพถ่ายภาพนั่นเอง ไม่ใช่ธุรกิจสีเทาแต่อย่างใด หรือเป็นการกู้เงินนอกระบบอย่างที่หลายคนเข้าใจผิดแน่นอน ซึ่งเวลาลูกค้ามาใช้บริการทางเราจะมีทีมทนายทำสัญญาเป็นหลักฐานในทุกเงื่อนไขการเช่า หรือการใช้บริการ อีกทั้งยังมีทีมงานคอยแนะนำกับบ่าวสาวอีกด้วย หรือถ้าบ่าวสาวต้องการให้เป็นความลับ ทางเราก็ยินดีแต่ทั้งนี้ก็ต้องมีพยานเซ็นรับรองเป็นหลักฐานด้วยเช่นกัน

เช่าสินสอดงานแต่ง

พอมีกระแสออกไปแล้วมีบ่าวสาวมาใช้บริการมากขึ้นไหม

มีเพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งรูปแบบการมาใช้บริการของบ่าวสาวก็จะต่างกันไปในแต่ละคู่ บางคู่อาจจะตั้งใจมาเช่าเพื่อความสะดวกสบายภายในงาน เพื่อที่บ่าวสาวหรือครอบครัวจะได้ไม่ต้องวุ่นวายในการดูแลรักษาความปลอดภัยของสินสอดที่มีค่าทั้งหลาย แต่ก็มีบางคู่เหมือนกันที่ยังเข้าใจผิดคิดว่าบริการให้เช่าสินสอดเหมือนเป็นการสร้างภาพ หรือเป็นการกู้เงินนอกระบบ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้นแต่อย่างใด

มีอะไรอยากฝากบอกถึงบ่าวสาวไหมเอ่ย

อย่างไรก็ตามเราอยากให้เข้าใจทางร้านเราว่า บริการให้เช่าสินสอดเป็นธุรกิจที่ให้ความสะดวกสบายกับลูกค้า ไม่ใช่ธุรกิจกู้เงินนอกระบบแน่นอน ซึ่งเป็นงานบริการที่อาจจะดูแตกต่างจากการให้บริการในรูปแบบอื่นๆ แต่ไม่มีการหลอกลวงหรือโกงแน่นอน

เช่าสินสอดงานแต่ง

ไขข้อข้องใจกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ ว่าการเช่าสินสอดงานแต่งนั้นคืออะไร แล้วก่อนที่เจ้าบ่าวจะเตรียมสินสอดนั้นลองมาดู สินสอดเรื่องใหญ่ที่ต้องเคลียร์ให้ชัดเจน เตรียมยังไงให้สมฐานะ กันดีกว่า

ขอขอบคุณบทสัมภาษณ์จากร้านโรแมนทีช (Romantiese)

ภาพจาก : Sanook, Thairath, khunloung-thai