การ์ดขอบคุณ มันคืออะไร? แล้วจำเป็นต้องให้กันด้วยหรอ?
Thank you Card หรือ การ์ดขอบคุณ สำหรับคนพิเศษที่มาร่วมงานแต่งงาน เป็นสิ่งหนึ่งที่ตอนนี้เริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา สำหรับใครที่ไม่รู้จักก็ให้นึกถึงการ์ดทั่วไปเลยค่ะ ซึ่งขึ้นอยู่กับการดีไซน์ของบ่าว-สาวว่าจะครีเอทออกมาเป็นแบบไหน ความพิเศษอยู่ที่การเขียนขอบคุณให้กับผู้ที่มาร่วมงานแต่งงาน บ้างก็ให้เฉพาะแขกเพื่อนสนิทส่งตามไปให้ทีหลังพร้อมแนบรูปถ่าย บ้างก็แจกให้ทุกคนคล้ายกับของชำร่วยก็ยังได้ เพราะเป็นของเล็กๆ น้อยๆ ที่บ่าว-สาวต้องการอยากจะให้เป็นที่ระลึกและใช้บอกความรู้สึกที่มีต่อแขกคนพิเศษ แต่ในปัจจุบันอาจจะไม่ค่อยได้เห็นการ์ดขอบคุณตามงานแต่งงานมากเท่าไหร่นัก เพราะบ่าว-สาวส่วนใหญ่เลือกที่จะกล่าวขอบคุณแขกทุกคนบนเวทีในวันแต่งงานไปแล้ว เดี๋ยวนี้จึงไม่ค่อยได้เห็นเสน่ห์ของการเขียนการ์ดขอบคุณที่คนให้เต็มใจและผู้รับก็สุขใจที่ได้อ่านเช่นกัน 🙂
แหนะ เริ่มมีความสนใจอยากเขียนการ์ดขอบคุณขึ้นมากันบ้างแล้วยังคะ คู่ไหนที่สนใจก็อย่าเสียเวลา ตามมาอ่านเทคนิคการทำการ์ดขอบคุณกันต่อเลยดีกว่าค่า
1. การเลือกกระดาษ
ควรใส่ใจตั้งแต่การเลือกกระดาษ เลือกใช้สีสุภาพ เช่น สีขาวนวล สีชมพูอ่อน สีงาช้างออกครีมๆ หรือใครจะสะดวกใช้การ์ดขอบคุณสำเร็จรูปแบบสวยๆ หาซื้อได้ตามร้านการ์ดของชำร่วยก็ไม่ว่ากันค่ะ ยิ่งหากคุณมีงบหน่อยจะเลือกใช้เป็นกระดาษถนอมสายตาก็จะดีมากเลยค่ะ เพราะนอกจากจะดูใส่ใจผู้อ่านแล้ว ยังเป็นกระดาษที่มีสีคลาสสิคแลดูอาร์ตๆ บ่งบอกความมีรสนิยมของบ่าว-สาวได้อีกด้วยน้า
2. เลือกปากกา
เมื่อเลือกกระดาษเสร็จแล้วมาต่อกันที่การเลือกหมึกปากกากันดีกว่าค่ะ ให้ใช้สีสุภาพ เส้นคมชัด ทำให้อ่านง่าย ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกใช้สีดำเข้ม เพราะดูเป็นทางการและสุภาพสุดแล้ว หากจะเลือกใช้สีน้ำเงินควรใช้เป็นปากกาน้ำเงินแบบเจลที่ให้สีเข้มก็จะมีความสวยมากกว่าการใช้ปากกาสีน้ำเงินธรรมดาทั่วไป แต่ก็มีข้อควรระวังกันนิดนึงนะคะ เพราะปากกาแบบเจลจะทำให้เลอะได้ง่าย เวลาเขียนจบ 1 บรรทัด ก็ควรรอให้แห้งดีเสียก่อนแล้วค่อยเขียนต่อ ซึ่งก็ทำให้เสียเวลาอยู่เหมือนกันนะคะ จึงไม่เหมาะกันบ่าว-สาวที่ต้องการส่งการ์ดขอบคุณไปให้แขกทุกคนที่มาร่วมงานค่ะ
3. เรียบเรียง
ก่อนจะลงมือเขียนลงบนการ์ดที่คุณได้จัดเตรียมไว้ ให้คุณร่างแบบว่าจะดีไซน์การ์ดออกมาให้รูปแบบไหน คิดข้อความเขียนใส่ลงกระดาษเปล่าให้เรียบร้อยไว้ก่อน ป้องกันการเขียนข้อความผิดแล้วคุณต้องมานั่งขีดฆ่า ลบให้เลอะเทอะหรือเปลี่ยนแผ่นใหม่ให้สิ้นเปลือง ที่สำคัญถ้าคุณต้องการแจกการ์ดขอบคุณเฉพาะแค่คนพิเศษที่มาร่วมงาน คุณควรเขียนข้อความที่ออกมาจากความรู้สึกที่อยากจะขอบคุณจากใจจริงๆ โดยแต่ละใบไม่ควรมีประโยคที่เหมือนๆ กันนะคะ
4. ลงมือเขียน
ตั้งสติให้ดี เลือกนั่งเขียนในท่านั่งที่สบายและอยู่ในที่สงบๆ ไม่มีอะไรจะมารบกวนสมาธิเราได้ค่ะ เริ่ม! ลงมือเขียนการ์ดในบรรทัดแรกให้ระบุชื่อคนที่คุณจะเขียนถึง ต่อมาก็ลอกประโยคข้อความที่คุณได้เขียนร่างไว้ในข้อก่อนหน้านี้ ในประโยคควรมีการกล่าวถึงของขวัญที่ได้รับว่าสร้างความประทับใจให้กับคุณแค่ไหน โดยไม่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับของขวัญนะคะว่าคุณได้รับอะไรมา อาจเขียนเป็นกลางๆ ก็ได้ เขียนว่าคุณทั้งคู่ชอบของขวัญชิ้นนั้นเพราะอะไร เพื่อทำให้ผู้มอบรู้สึกมั่นใจว่าคุณทั้งคู่ได้รับของขวัญชิ้นนั้นจริงๆ หรือถ้าสิ่งที่คุณได้รับอาจไม่ใช่ของขวัญ แต่เป็นในรูปแบบการกระทำ การลงแรงช่วยงาน ก็ให้คุณเขียนกล่าวถึงในส่วนนั้นด้วยว่าคนพิเศษของคุณได้ช่วยเหลือในเรื่องอะไรบ้างและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานออกมาได้อย่างราบรื่น จะเน้นไปในทางการเขียนชื่นชมให้เขาหายเหนื่อย หรือกรณีที่ได้รับเงินเป็นของขวัญ ไม่จำเป็นต้องระบุจำนวนเงินที่ได้รับลงไปในการ์ดขอบคุณ นอกเสียจากจำนวนเงินของขวัญที่ได้รับเป็นจำนวนเงินก้อนใหญ่ ถ้าเป็นแบบนั้นให้คุณเขียนคำขอบคุณแล้วควรบอกว่าจะนำเงินก้อนนั้นไปใช้สร้างประโยชน์อะไรก็จะยิ่งดีมากเลยค่ะ
5. เขียนเสร็จเรียบร้อย
เมื่อเขียนข้อความทุกอย่างครบเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมลงชื่อคุณทั้งคู่ด้านล่างสุดให้ชัดเจน ส่วนการใส่ซองกลับไปให้ก็แล้วแต่นะคะว่าจะมีหรือไหม เพราะการ์ดขอบคุณบางคู่ก็เป็นเพียงการ์ดใบเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องมีซองใส่ก็ได้ค่ะ ขอเสริมทริคการเลือกการ์ดขอบคุณนิดนึงนะคะ คือ ควรเลือกการ์ดที่มีขนาดเล็กถึงปานกลางประมาณครึ่งกระดาษ A4 พอค่ะเพราะจะดูน่าอ่านกว่าเลือกใช้กระดาษแผ่นใหญ่ อย่าลืมว่าเขียนคำขอบคุณนะคะไม่ได้เขียนเรียงความ อิอิ
ปล.งานแต่งงานที่มีขนาดใหญ่ มีแขกร่วมงานเป็นจำนวนมาก อนุโลมให้คู่บ่าวสาวใช้การ์ดขอบคุณที่เป็นข้อความกลางๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว เพราะการ์ดขอบคุณไม่ควรส่งถึงมือแขกเกิน 1 เดือน หลังจากสิ้นสุดงานแต่งงานค่ะ
รู้วิธีเขียนการ์ดขอบคุณกันไปแล้ว มาดูการเขียนการ์ดเชิญงานแต่งงานในพิธีเช้ากันบ้างค่ะ ว่าต้องเขียนรายละเอียดอะไรลงไปในงานเชิญบ้าง เขียนให้ถูก แขกไม่งง กับข้อความใน การ์ดแต่งงานพิธีเช้า
ข้อมูลจาก : weddingmarriagelove.blogspot.com, weddingsquare.com
ภาพจาก : lolalouiepaperie.com, pinterest.com