5 สไตล์เนคไท & โบไท แมตช์ลุค ชุดเพื่อนเจ้าบ่าว สไตล์ซัมเมอร์

ซัมเมอร์ซีซั่นแห่งความสดใส กับลุคแอคเซสซอรี่ ชุดเพื่อนเจ้าบ่าว สุดจี๊ดดดด

ขอต้อนรับเข้าสู่หน้าร้อนอย่างเป็นทางการ!! หากหนุ่มๆ แก๊งไหนที่ได้รับเชิญให้ไปงานแต่ง หรือไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้กับเพื่อนรัก แพรว wedding อยากจะนำเสนอแอคเซสซอรี่สุดจี๊ดที่เข้ากับซีซั่นซัมเมอร์ได้เป็นอย่างดีอย่าง เนคไท และโบไท สีสันสดใส และลวดลายจัดจ้าน ที่สามารถนำมาแมตช์ให้กับ ชุดเพื่อนเจ้าบ่าว ได้แบบไม่ยากเลย

สีสันคุมโทน แต่โดดเด่นด้วยลายตาราง

ชุดเพื่อนเจ้าบ่าว

ต้อนรับฤดูอันสดใสด้วยเฉดสีน้ำเงิน และสีเขียว และถ้าจะให้ดีแนะนำให้แมตช์สีสันสุดป๊อปนี้เข้ากับชุดเพื่อนเจ้าบ่าวอย่างสูทสีเทา ที่ด้านในเป็นเชิ้ตสีขาว เพื่อที่แอคเซสซอรี่ของคุณจะได้โดดเด่น และไม่แย่งซีนกับสูทตัวเก่ง

สดใสให้สุดด้วย สีเหลือง

ด้วยสีสันอันสดใสและโดดเด่นอย่างสีเหลือง ก็อาจจะเบรกด้วยการเลือกใส่เนคไทแบบสกินนี่ แต่ก็ยังสามารถสร้างลุคนี้ให้ดูสนุกสนานมากขึ้นด้วยการแมตช์สีเหลืองเข้ากับเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินลายสก๊อตที่ด้านในที่เข้ากับบรรยากาศงานแต่งงานในสวนสุดๆ

โบไทสไตล์ มัลติ-คัลเลอร์

สร้างลุคชุดเพื่อนเจ้าสาวให้สดใสและโดดเด่นด้วย โบไทหลากหลายเฉดสีสันในหนึ่งชิ้น ที่จะช่วยดึงบุคลิกของแก๊งเพื่อนเจ้าสาวให้ดูดีมีเอกลักษณ์ได้แบบยกแก๊งแน่นอน … แถมไม่ดูเป็นบริกรด้วยน้า

Paisley ลวดลายสไตล์วินเทจ

หนุ่มๆ สายฮิปสเตอร์ที่รักในสไตล์แบบวินเทจ เนคไท หรือโบไทลวดลาย Paisley นี่แหละที่ตอบโจทย์มากที่สุด โดยเลือกแมตช์กับสูทสีเรียบและเชิ้ตสีพื้นที่ด้านใน เท่านี้ก็ได้ลุคแบบบอยๆ ย้อนยุคกันแบบยกแก๊งแล้ว

โดดเด่นมีสไตล์ด้วย โบไทแบบ DIY

สร้างลุคสูทธรรมดาให้ดูโดดเด่นด้วยดีไซน์โบไทแบบ DIY สุดเท่ เช่น อาจจะเลือกใช้ผ้าหรือลวดลายแบบพิเศษที่มีทำขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะแก๊งคุณเท่านั้น หรือจะเลือกดีไซน์การผูกโบไทแบบเท่ๆ ที่ไม่เหมือนใครก็ได้เช่นกัน งานนี้แล้วแต่ความครีเอทของแต่ละแก๊งเลยจ้า

ดูสไตล์ชุดเพื่อนเจ้าบ่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่ 5 สไตล์ชุดเพื่อนเจ้าบ่าวที่หนุ่มๆ ยุคนี้ ห้ามพลาด

ภาพ Pinterest

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

ครีเอทได้ในสไตล์คุณ กับ 5 ดิสเพลย์ แผนผังที่นั่งงานแต่ง สุดเก๋

พูดถึงเรื่องการจัดที่นั่งสำหรับแขกที่มาร่วมงาน หากการจัดการในส่วนนี้ไม่ดีพอก็อาจทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น ที่นั่งไม่เพียงพอ แขกที่มาร่วมงานนั่งกระจัดกระจาย ทำให้แขกที่มาเป็นคู่ต้องนั่งแยกกัน ซึ่งจะทำให้แขกรู้สึกไม่ดีได้ เป็นต้น การวาง แผนผังที่นั่งงานแต่ง จึงเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ให้ผู้ร่วมงานรู้ว่าตนเองนั่งตรงไหน ไม่ต้องมามัวยืนงง วันนี้เราจึงมีไอเดียครีเอทการจัดดิสเพลย์แผนผังที่นั่งเก๋ ๆ มาแนะนำกัน ใครสนใจก็นำไปใช้โลดเลยจ้า

แผนผังจากกระดานดำ

แผนผังที่นั่งงานแต่ง

ถือเป็นวิธียอดฮิตที่ทั้งง่ายและคลาสสิกสุดๆ และหากอยากเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร คุณสามารถเพิ่มความเป็นตัวเองลงไปด้วยการตกแต่งอะไรก็ได้ในแบบของคุณ จะง่ายๆเพียงวาดรูปดอกไม้ด้วยชอล์กหลากสีลงไป หรือเอาดอกไม้มาตกแต่งให้เลื้อยเกาะไปกับกระดานดำก็น่ารักไปอีกแบบ

แผนผังจากกระถางต้นไม้

แผนผังที่นั่งงานแต่ง

สดชื่นแถมยังน่ารักเว่อร์ ไอเดียดีๆที่แค่เห็นก็อดยิ้มไม่ได้แบบนี้ เพียงนำกระถางต้นไม้ขนาดเล็ก จะเป็นไม้ดอก ไม้ประดับ หรือแม้แต่ผักสลัดก็ได้ มาจัดเรียงกันให้สวยงามพร้อมกับติดเลขโต๊ะที่นั่งพร้อมรายละเอียดลงไป สวยสดใสสะดุดตาสุดๆไปเลย

แผนผังจากห่วง

แผนผังที่นั่งงานแต่ง

แผนผังไอเดียสุดบรรเจิดแบบนี้เหมาะสำหรับงานแต่งในสวนมากถึงมากที่สุดเลยค่ะ แค่แต่งห่วงเหล็กให้กลมกลืนไปกับธรรรมชาติด้วยการประดับดอกไม้ใบหญ้าเข้าไป แล้วแขวนแผนผังที่นั่งลงไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพียงเท่านี้คุณก็จะมีแผนผังที่นั่งเริ่ดๆสำหรับงานแต่งในสวนแล้ว

แผนผังจากหน้าต่าง

แผนผังที่นั่ง

เรียกว่าสวยและคลาสสิกสุดๆ เพียงแค่ใช้หน้าต่างกรุกระจกใส เขียนแผนผังที่นั่งตามช่อง แล้วพิงเอาไว้ที่ผนัง ทำให้เก๋ขึ้นไปอีกหลายเลเวลจากการเพิ่มลูกเล่นได้โดยการนำของเก่ามาวางไว้ ดูดีมีความวินเทจสไตล์ม้ากมาก

แผนผังจากแผนที่

แผนผังที่นั่ง

อีกวิธีแสนบรรเจิดที่จับเอาแผนที่มาทำแผนผัง งานนี้เพิ่มสีสันให้งานวิวาห์ของคุณได้มากทีเดียว ครีเอทออกมาแบบนี้น่าจะโดนใจคู่รักนักเดินทางอยู่ไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ

>> ดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย! <<

cr : rockmywedding.co.uk, christinemcnally.co.uk

ตีแผ่ความเชื่อวันแต่งงาน เพราะอะไรบ่าวสาวห้ามเจอกันก่อน

ความเชื่อวันแต่งงาน ที่รู้ไว้ก็ดี

หลายคนคงเคยได้ยินความเชื่อวันแต่งงานที่ว่า ห้ามบ่าวสาวเจอกันก่อนที่จะถึงวันแต่งงาน บางบ้านก็บอกว่าห้ามเจอกันก่อน 1 วัน บางบ้าน 3 วันบ้าง 7 วันบ้าง แล้วแต่ ความเชื่อวันแต่งงาน ที่แต่ละบ้านยึดถือปฏิบัติ แต่เคยคิดสงสัยไหมคะว่า ไหนๆ ก็จะแต่งกันอยู่แล้ว จะมาห้ามไม่ให้เจอกันทำไม เราจึงเสาะหาเหตุผลมาไขข้อสงสัยนี้

กุศโลบายอย่างหนึ่งที่ แพรว wedding ไปค้นเจอมาก็คือ “เพื่อฝึกความอดทน” ค่ะ อุ๊ต๊ะ! นี่จะแต่งงานนะคะไม่ได้เรียน รด. ทำไมจะต้องฝึกความอดทนด้วย คำตอบก็คือ ทนต่อความคิดถึง ทนให้ถึงเวลาที่เหมาะสม และที่สำคัญคือ การใช้ชีวิตคู่หลังจากแต่งงานนั้น บ่าวสาวจะต้องมีน้ำอดน้ำทน อดทนอดกลั้นให้มากเข้าไว้ แต่เราว่านะคะ ปัจจุบันนี้แค่บ่าวสาวเข้าพิธีวิวาห์ได้ก็ถือว่ามีความอดทนเยอะแล้วนะ เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะว่ากว่าจะฝ่าด่านของการเตรียมงานที่ทั้งคู่จะต้องทุ่มเถียงกันเพื่อให้ได้ตามแบบที่ตัวเองต้องการนี่ก็ถือว่ายากแล้ว บางคู่ทะเลาะกันใหญ่โต แต่สุดท้ายก็แต่งจนได้ ถือว่าผ่านด่านทดสอบสำคัญไปด่านหนึ่งแล้วนะ

อีกหนึ่งความเชื่อที่สืบถอดกันมาแต่โบราณว่า เนื่องจากในสมัยก่อนผู้หลักผู้ใหญ่มักจะสรรหาชายหญิงที่คู่ควรและเหมาะสมมาแต่งงานกัน หรือที่เราคุ้นเคยก็คือ “การคลุมถุงชน” ซึ่งบางครอบครัวก็อาจจะนัดให้มาดูตัวกันก่อนแต่ง แต่บางครอบครัวก็ให้ไปเจอกันในวันแต่งงานเลย เพราะกลัวว่าถ้าได้เห็นหน้ากันก่อนแล้วเกิดไม่ชอบใจ จะไม่ยอมแต่งงานกันก็เป็นได้

สำหรับเรื่องนี้ฝรั่งเขาก็มีความเชื่อประมาณนี้เหมือนกัน ชาวยุโรปเชื่อกันว่า เคราะห์ร้ายจะมาเยือนคู่รัก หากว่าเจ้าบ่าวแอบไปเห็นชุดเจ้าสาวก่อนพิธีแต่งงานจะเริ่มขึ้น ส่วนชาวยิวเชื่อว่า สัปดาห์สุดท้ายก่อนวันแต่งงาน จะต้องให้บ่าวสาวแยกกัน ไม่เจอหน้ากัน เพื่อลดความกังวลและความตื่นเต้นของทั้งสองฝ่าย อีกทั้งให้ทั้งคู่ได้ใช้เวลาตระเตรียมเรื่องส่วนตัวต่างๆ ที่ต้องทำในฐานะคนโสดเป็นครั้งสุดท้าย และสุดท้ายก็คือ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเจ้าสาวจะยังคงบริสุทธิ์ ไม่เสียเวอร์จิ้นก่อนจะถึงพิธีแต่งงานจริง

ในยุคปัจจุบันความเชื่อที่ว่าห้ามบ่าวสาวเจอหน้ากันยังคงมีบางบ้านบางครอบครัวถือปฏิบัติอยู่ แต่ก็อย่างว่าล่ะค่ะ เดี๋ยวนี้บ่าวสาวเขาเตรียมงานเองมากขึ้น พ่อแม่มีส่วนร่วมน้อยลงไปทุกที จะมาห้ามไม่ให้เขาเจอกันเพื่อตรวจเช็กความเรียบร้อยของงานก็คงลำบาก เอาเป็นว่าใครสบายใจจะห่างกันสัก 2-3 วัน เพื่อทำตามความเชื่อแบบโบราณก็ดีค่ะ แต่ถ้าใครจะไม่ทำเขาก็ไม่ถือนะคะ แล้วแต่สะดวกเลยจ้า

ความเชื่อเกี่ยวกับการแต่งงานเพิ่มเติม >> 4 ข้อห้ามในงานแต่ง…ความเชื่ออินเตอร์ที่ฝรั่งเขาทำกัน

ข้อมูลบางส่วนจาก : faith.haijai.com, www.tlcthai.com
ภาพ : victoriablaireblog.com

สไตล์ชุดแต่งงานในปี 2019 จากเหล่าสไตล์สิสต์ชื่อดังที่เจ้าสาวไม่ควรพลาด

หากคุณเพิ่งถูกแฟนหนุ่มคุกเข่าขอแต่งงานในช่วงต้นปีแบบนี้แล้วล่ะก็ แน่นอนว่างานแต่งนั้นต้องตามมาอีกไม่ช้าแน่นอน และแน่นอนว่าการเตรียมงานรวมไปถึงเรื่องความสวยความงามนั้นก็ต้องตามมาติดๆ โดยเฉพาะเรื่องชุดแต่งงานที่เหล่าเจ้าสาวมักจะให้ความสำคัญมว๊ากกกก แถมแค่ความสวยงามอย่างเดียวยังไม่พอแต่ต้องอินเทรนด์ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าหากเจ้าสาวจะเลือกช้อปชุดแต่งงานทั้งทีก็ต้องเลือกคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดเพื่อไม่ให้ตกยุคใช่ไหมล่ะ แพรว wedding เลยอยากให้ว่าที่เจ้าสาวของเราเก๋ล้ำกว่าใครเลยจัดสไตล์แฟชั่น ชุดแต่งงาน 2019 มาให้ซะเลย 

1. ชุดแต่งงานหลากเฉดสี

ชุดแต่งงาน

จากวันนี้ไปชุดแต่งงานสีขาวหรือสีงาช้างจะไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่เจ้าสาวมองหาอีกแล้ว “เพราะเจ้าสาวยุคใหม่อยากที่จะเปลี่ยนสไตล์ที่ซ้ำซากให้มีเอกลักษณ์และปรับลุคให้น่าประทับใจมากขึ้น กับการเลือกสวมชุดแต่งงานที่มีสีสันมากกว่าการสวมชุดแต่งงานสีขาวแบบเดิมๆ” ผู้จัดการด้านแผนกสินค้าของแบรนด์ David’s Bridal กล่าว “สำหรับเจ้าสาวที่ยังยึดติดกับสไตล์เดิมๆ หลายคนก็ยังคงมองหาชุดแต่งงานในโทนสีแชมเปญหรือสีบลัช  แต่สำหรับเจ้าสาวหัวสมัยใหม่กลับมองไกลกว่านั้นและเลือกลุคที่ดูสนุกสนานอย่างชุดแต่งงานในโทนสีน้ำเงิน, สีลาเวนเดอร์, สีเงิน หรือสีทอง ที่จะช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับเจ้าสาวได้มากกว่า”

2. ความเมทัลลิคต้องมี

ชุดแต่งงาน

แน่นอนว่าสาวๆ มักจะได้เห็นความเจิดจรัสของความเป็นเมทัลลิคในทุกรันเวย์ ตั้งแต่ชุดราตรี ลุคเมคอัพ ไปจนถึงเครื่องประดับต่างๆ และดูเหมือนว่าเทรนด์เมทัลลิคนี้กำลังคืบคลานเข้าไปอยู่ในทุกที่ของโลกแฟชั่น แม้กระทั่งแฟชั่นชุดแต่งงาน “การผสมผสานความเป็นเมทัลลิคกับสีทอง สีโรสโกลด์ และสีเงิน ต่างก็ได้รับความนิยมมากขึ้นในโลกของแฟชั่นและจะเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่โดดเด่นสำหรับลุคเจ้าสาวในปี 2019 ด้วย” ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของ USA Bride และ Dareth Colburn Bridal Collection กล่าว “ตั้งแต่การมิกซ์แอนด์แมตช์ความเป็นเมทัลลิคเข้าไปในเครื่องประดับ เฮดแบนด์ เข็มขัดชุดแต่งงาน และอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่จะมีให้เห็นมากขึ้นแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน”

3. ชุดแต่งงานแบบหน้าสั้นหลังยาว

ชุดแต่งงาน

ชุดแต่งงานความยาวเสมอพื้นหรือชายกระโปรงลากยาว 3 เมตรต้องหลีกทางให้กับชุดแต่งงานแบบหน้าสั้นหลังยาวเมื่อก้าวเข้าสู่แฟชั่นชุดแต่งงานในปี 2019 ซึ่งเป็นรูปแบบชุดที่ให้ลุคน่าหลงใหล “รูปทรงชุดแต่งงานนี้จะต้องมาพร้อมกับรองเท้าส้นสูงเก๋ๆ และสถานที่จัดงานแต่งแบบสบายๆ ที่ดูไม่เป็นทางการมากนัก เช่น งานแต่งแบบเอ้าท์ดอร์”

4. เครื่องประดับจากธรรมชาติ

ชุดแต่งงาน

เจ้าสาวยุคใหม่สวยอย่างเดียวไม่ได้แต่ต้องฉลาดเลือกใช้วัตถุดิบด้วยนะคะ หากเจ้าสาวกำลังมองหาเครื่องประดับแนะนำให้ใส่เป็นเพชรพลอยเทียมหรือไข่มุกที่เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น “คริสตัล, มุกเคชิ (ไข่มุกที่มีรูปทรงไม่กลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการเลี้ยงหอยมุก), โอปอล หรือวัสดุบางอย่างที่อาจจะช่วยสร้างลุคของเจ้าสาวให้ดูแตกต่างไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นเฮดพีชหรือเครื่องประดับ แล้วอย่าลืมเลือกรูปทรงของเครื่องประดับให้ดูมีความอ่อนช้อยบิดพลิ้ว เช่น เฮดแบนด์สไตล์เถาวัลย์ที่ประดับไว้บนศีรษะ แทรกไว้ในเปียสวยหวาน หรือจะครอบไว้ที่มวยผมก็ได้ รวมไปถึงแอคเซสซอรี่เบสิคอย่างสร้อยคอและสร้อยข้อมือด้วย เพียงแค่เลือกให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองรับรองว่าจะช่วยให้ลุคของเจ้าสาวดูโดดเด่นดูดีมีเอกลักษณ์แน่นอน

5. กลิ่นอายสไตล์เจ้าหญิง

ถึงแม้เจ้าสาวชาวไทยจะไม่ค่อยอินกับการแต่งงานของเจ้าชายแฮร์รี่กับเมแกน มาร์เคิล สักเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะว่าชุดแต่งงานที่เมแกนเลือกใส่ในวันสำคัญนั้นจะเป็นตัวกำหนดทิศทางเทรนด์ของปี 2019 อย่างแน่นอน “เมื่อเหล่าดีไซเนอร์รู้ว่าเมแกนจะเข้าพิธีเสกสมรสอย่างเป็นทางการกับเจ้าชายแฮร์รี่ ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นและให้ความสนใจกับชุดแต่งงานของเธอเป็นอย่างมากเช่นเดียวกับความตื่นเต้นเมื่อครั้งชุดของ แคเธอริน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ (เคต มิดเดิลตัน)” ผู้จัดการบริษัทรับจัดอีเว้นต์ Bold Catering & Design กล่าว ซึ่งแบรนด์ดีไซเนอร์ชื่อดังที่ตื่นเต้นไปกับลุคของเจ้าหญิงก็มีทั้ง Alexander McQueen, Vera Wang, Monique Lhuillier และ Carolina Herrera รับรองว่าคอลเลคชั่น 2019 นั้นจะมีต้องมีชุดแต่งงานสุดทันสมัยในสไตล์เจ้าหญิงแน่นอน

เสริมลุคงานแต่งไทยให้ดูหรูด้วยสายกั้นประตูเงินประตูทองสุดบรรเจิด

หลากไอเดีย สายกั้นประตูเงินประตูทอง สุดบรรเจิด

หมดยุคปลดสร้อย โซ่ หรือเข็มขัดมาทำเป็น สายกั้นประตูเงินประตูทอง กันอีกแล้ว เพราะแพรว wedding มีไอเดียใหม่ไฉไลกว่าเก่ามานำเสนอกับสายกั้นประตูเงินประตูทองที่งดงามช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้งานไทยของบ่าวสาวดูสมบูรณ์แบบมาฝาก 

1สายกั้นประตูเงิน-ประตูทองแบบมาลัยกลมพวงใหญ่แต่งอุบะพู่ ดูเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ความเป็นไทย

2สายกั้นประตูเงิน-ประตูทองแบบเถาวัลย์ดอกไม้ ช่วยสร้างบรรยากาศหวานๆ ให้กับงานได้เป็นอย่างดี

3               เก๋ไก๋อย่างไทยด้วยสายกั้นประตูเงิน-ประตูทองที่นำไอเดียมาจากมาลัยลูกโซ่

4               สายกั้นประตูเงินประตูทองแบบเถาวัลย์เหมาะสำหรับงานแต่งธีมสีเขียวหรือธีมรัสติก

6สายกั้นประตูเงิน-ประตูทองดอกรักแต่งตาข่ายดอกพุด อุบะขาเดียว และอุบะแขก วิจิตรงดงามเหมาะสำหรับงานแต่งไทยอย่างที่สุด

7แต่งแต้มสีสันให้งานด้วยสายกั้นประตูเงิน-ประตูทองที่ร้อยเรียงจากกลีบกุหลาบแดงเป็นมาลัยกลมพวงใหญ่แต่งอุบะไทยธรรมดา

8สายกั้นประตูเงิน-ประตูทองไข่มุกที่เสริมความเป็นไทยให้โดดเด่นด้วยอุบะพู่สีเดียวกับธีมงาน

9               เอาใจบ่าว-สาวตี๋หมวยด้วยสายกั้นประตูเงิน-ประตูทองไข่มุกแต่งอุบะประยุกต์สไตล์จีน

ดูแบบสายกั้นประตูเงินประตูแล้ว เรื่องนี้ก็ต้องรู้เหมือนกันนะ ทริคเด็ด!! พูดยังไงให้ผ่านประตูเงินประตูทองแบบฉลุย!

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก : news.sanook.com, trend.horoworld.com, bloggang.com,  lonely-rooyang.com, rainforest.co.th

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

ดูแล จุดซ่อนเร้น ยังไงให้ห่างไกลโรคร้าย บอกเลยว่าที่เจ้าสาวต้องรู้!

ดูแลสุขภาพอย่างดีตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่กลับลืมดูแล จุดซ่อนเร้น ได้ยังไงคะ! เรามาบอกวิธีดูแลส่วนนั้นสำหรับว่าที่เจ้าสาวโดยเฉพาะแล้ว

ว่าที่เจ้าสาวคะ คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่ดูแลสุขภาพตัวเองอย่างดีตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่กลับลืมดูแล จุดซ่อนเร้น เพราะคิดว่าเป็นจุดเล็กๆที่ไม่สำคัญ แต่ที่จริงแล้ว จุดซ่อนเร้นของผู้หญิงเรานั้นเซ้นซิทีฟมาก และต้องการ การดูแลที่ถูกต้องพอๆกับส่วนอื่นของร่างกายเลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าที่เจ้าสาวที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการแต่งงานมีครอบครัว สุขภาพของจุดซ่อนเร้นนั้นถือว่าเป็นหัวใจสำคัญเลยทีเดียวละค่ะ!

แพรวเวดดิ้ง ก็เลยขออาสารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลจุดซ่อนเร้นของผู้หญิงที่ถูกต้อง รวมถึงการดูแลรักษาความสะอาดในชีวิตประจำวัน การไปตรวจร่างกายเพื่อเช็คสุขภาพของจุดซ่อนเร้น และการดูแลรักษาในกรณีที่เกิดความผิดปกติกับจุดซ่อนเร้นของเราขึ้นมา ให้เหล่าว่าที่เจ้าสาวนำไปใช้ เพื่อความสุขของคุณและคู่รักตลอดการแต่งงานค่ะ

(บอกแล้วก็บอกอีกได้) อย่าใช้สบู่กับส่วนนั้น (แม้แต่สบู่สำหรับจุดซ่อนเร้น!!)

เราว่าข้อนี้ว่าที่เจ้าสาวหลายคนคงเคยได้ยินแล้ว แต่เราก็จะบอกอีกที อันที่จริงแล้วบริเวณนั้นของเรามีกลไกการทำความสะอาดตัวเองอยู่แล้ว และสุขภาพจุดซ่อนเร้นที่ดี (รวมถึงช่องคลอดและภายในมดลูก) จะต้องมีจุลินทรีย์ชนิดดีในปริมาณที่เหมาะสม การใช้สบู่กับส่วนนั้นทำให้สมดุลจุลินทรีย์ดีเสียไป อาจก่อให้เกิดตกขาวผิดปกติกับจุดซ่อนเร้นเราได้ค่ะ ทางที่ดีหากต้องการใช้สบู่ ใช้แค่ภายนอกก็พอค่ะ

จุดซ่อนเร้น
whowhatwear.com

แว็กซ์ได้ แต่อย่าแว็กซ์ออกหมดนะจ๊ะ

รู้นะ คืนวันแต่งงานก็อยากทำให้เจ้าบ่าวประทับใจโดยการแว็กซ์ขนบริเวณนั้นออกไปจนหมด ตะ ตะ แต่! รู้หรือไม่ว่าขนบริเวณน้องสาวของเรานั้นมีประโยชน์นะ เพราะมันช่วยปกป้องแบคทีเรียและสิ่งสกปรกออกจากบริเวณนั้น เหมือนขนตาของเราที่ช่วยกรองสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าตา เพราะฉะนั้นการไม่มีขนบริเวณนั้นเลย นอกจากจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าห้องน้ำสาธารณะ!) ยังทำให้เกิดการเสียดสีโดยตรงกับกางเกงในที่อาจจะทำให้บริเวณนั้นระคายเคืองได้ง่ายด้วย ทางที่ดี ถ้าอยากจะแว็กซ์ก็แค่บิกินี่แว็กซ์ก็พอจ้ะ

กางเกงในต้องตากให้โดนแดด

เคยคุยกับคุณหมอสูติฯท่านหนึ่ง ท่านบอกว่า หน้าฝนเนี่ย คนไข้จะเข้ามาหาหมอเพราะเป็นเชื้อราในช่องคลอดกันเยอะมาก สาเหตุน่ะเหรอคะเป็นเพราะว่ากางเกงในไม่โดนแดด! เนื่องจากความอับชื้นนั้นสามารถก่อให้เกิดเชื้อรา ยิ่งกางเกงในที่อยู่ในจุดใต้ร่มผ้าและอยู่กับน้องสาวเราทั้งวันยิ่งเป็นบ่อเพาะเชื้อราชั้นดี! อาการของเชื้อราในช่องคลอดคือมีตกขาวลักษณะเป็นก้อน กลิ่นอ่อนๆคล้ายโยเกิร์ตหรืออาจจะไม่มีกลิ่น และมาพร้อมกับอาการคันม๊ากกก แถมถ้าเป็นแล้วครั้งหนึ่งจะมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ง่ายขึ้นด้วย ถ้ามีอาการแบบนี้ ไปหาหมอด่วนเลยจ้า

จุดซ่อนเร้น

ปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์

ร่างกายของผู้หญิงนั้นไม่เหมือนผู้ชาย  ท่อปัสสาวะของผู้หญิงเราสั้นกว่าแถมอยู่ใกล้กับช่องคลอดและทวารหนัก ทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคท่อปัสสาวะอักเสบมากกว่าผู้ชาย เพราะฉะนั้นหลังมีเพศสัมพันธ์ คุณผู้หญิงควรรีบไปปัสสาวะ เพราะสามารถช่วยชะล้างแบคทีเรียที่อาจจะเข้าสู่มดลูกของคุณได้ และยังช่วยลดโอกาสการเกิดโรคท่อปัสสาวะอักเสบได้ด้วย อ่ออีกอย่างหนึ่งคือ ก่อนมีเพศสัมพันธ์ก็อย่าลืมล้างจุดซ่อนเร้นของคุณและคนรักก่อนด้วยละ ช่วยลดแบคทีเรียได้อีกทางเหมือนกันค่ะ

ถ้ามีอาการเหล่านี้ ไปหาคุณหมอด่วน!

  • ตกขาวมีสีหรือกลิ่นผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีเขียว หรือกลิ่นผิดปกติอย่างกลิ่นคาวปลา กลิ่นเหม็นเปรี้ยว
  • มีเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดออกกระปิดกระปอยโดยที่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
  • ปวดท้องประจำเดือนมากผิดปกติ (ปวดจนไข้ขึ้น ปวดจนเป็นลม)

สุดท้ายแล้ว อย่าลืม ไปหาคุณหมอสูตินรีเวชผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และคัดกรองโรคอื่นๆเกี่ยวกับจุดซ่อนเร้นของเราด้วยละคะ แค่นี้ ว่าที่เจ้าสาวก็จะได้มีสุขภาพจุดซ่อนเร้นที่ดี ห่างไกลจากโรคได้แล้วละค่ะ

เอาละ ดูแลจุดซ่อนเร้นให้ห่างไกลโรคแล้ว ลองมาอ่านเกี่ยวกับ การบิ้วท์จุดซ่อนเร้นให้ห๊อมมมหอมพร้อมสำหรับคืนวันแต่งงาน กันต่อเลย

credit story: brides.com 

credit photo: www.caitlinwallacerowland.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

เทรนด์ เล็บเจ้าสาว ลายดอกไม้ แบบใหม่! อัพเกรดกว่าเดิม!

แปลงโฉม เล็บเจ้าสาว ให้สดใสด้วยลายดอกไม้ไปทั้งมือ

เล็บเจ้าสาว ลายดอกไม้ ฟังยังไงก็ดูซ้ำและน่าเบื่อเนอะ? แต่เทรนด์เล็บเจ้าสาวลายดอกไม้แบบใหม่นี้ คุณจะต้องยังไม่เคยเจอที่ไหนแน่นอน ถ้าไม่อยากได้เล็บเจ้าสาวแบบเดิมๆ ต้องดูค่ะ

เทรนด์เล็บเจ้าสาวลายดอกไม้ ถือเป็นเทรนด์เด่นที่ไม่เคยหนีหายไปไหนเลยนะคะ เพราะเป็นลวดลายที่ทำยังไงก็สวย ดูอ่อนหวานอ่อนช้อย ช่วยให้เรียวเล็บเรียบๆของเจ้าสาวดูมีอะไรมาส่งให้แหวนหมั้นของเราดูโดดเด้ง แต่ในตอนนี้เทรนด์เล็บเจ้าสาวลายดอกไม้ได้อัพเกรดไปอีกขั้น ถึงแม้ล่าสุดนี้เราจะมีเรียวเล็บติดดอกไม้แห้งที่ดูเก๋ไก๋แล้ว คราวนี้ดอกไม้แห้งที่นำมาติดเรียวเล็บนั้นไม่ต้องผ่นการถูกรีดให้แบนเหมือนเก่า แต่ติดเข้าไปทั้งดอกแบบนั้นเลย! ทำให้เราได้เทรนด์ใหมเป็นเรียวเล็บดอกไม้แบบ 3D เก๋ไปอี้กกก ดูอย่างรูปด้านล่างนี้สิ!

IG @dantenewyorkcity

หรือจะเป็นดอกไม้สามมิติประดับเพชรบานิ้วก็หรูหราดีนะ

IG @nail_unistella

หรือถ้ายังไม่หนำใจ ติดทั้งกิ่งลงบนมือเลยสิจ๊ะ อย่าได้แคร์!

IG @nail_unistella

8 ไอเดียช่วยว่าที่บ่าวสาวกระจาย #แฮชแท็กงานแต่ง ให้แขกรู้ทั้งงาน

ในยุคนี้การสร้าง # แฮชแท็กงานแต่ง ไม่ใช่ปัญหาสำหรับว่าที่บ่าวสาวอีกต่อไป แต่ปัญหากลับกลายมาเป็นเรืองที่ว่าทำยังไงให้แขกรู้ว่างานแต่งนี้มี # และใช้ # ว่าอะไร เพราะต่อให้คุณแจ้งบอกในการ์ดหรือป่าวประกาศบอกในโลกโซเชียลเรียบร้อยแล้ว แต่กว่าจะถึงวันงานก็ลืมกันเรียบร้อย ถ้างั้นมาหาที่กระจาย แฮชแท็ก ให้แขกในงานได้รู้กันดีกว่าค่ะ

 

แฮชแท็ก

ใส่ # บนกระจก : จะเป็นกระจกใสมองทะลุหรือกระจกเงาส่องสะท้อนก็ไม่ว่ากัน แต่ต้องไม่ลืมใส่กรอบสวยๆ เข้าธีมแล้วหาสีมาเขียน # ของคุณลงไป จะวางไว้บนขาตั้งเฟรมวาดรูปก็เด่นดี แต่จะให้ดีสุดๆ ต้องตั้งไว้ตั้งแต่ทางเข้างานนะคะ

แฮชแท็ก

ใส่ # บนกระดานไม้ : ไอเดียนี้เหมาะกับสาวกคนรักงานแต่งแนวรัสติกหรือไม่ก็งานสุดชิคในสวนสวย เพราะทำได้ง่ายสุดๆ แถมได้อารมณ์กันเองมากๆ แค่หากระดานไม้สีเข้มแล้วเขียน # ของคุณลงไป จากนั้นวางไว้ที่โค่นต้นไม้หรือแทรกตามมุมถ่ายภาพก็เก๋มาก

แฮชแท็ก

ใส่ # ลงบนกระดาษพื้นดำ : นึกถึงตอนเรียกที่คุณครูสอนหนังสือบนกระดาษดำ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ในงานแต่ง แต่รอบนี้ไม่ต้องขนทั้งกระดาน แค่หากระดาษแข็งสีดำสนิทมาตัดเป็นสี่เหลี่ยม จากนั้นเขียนประโยคเชิญชวนให้แขกมาใส่ # ง่ายๆ ด้วยลายมือที่เขียนจากชอล์คสีขาว

แฮชแท็ก

ใส่ # ในกรอบรูป : เพราะกรอบรูปมีหลายขนาด แถมยังสามารถตั้งบนโต๊ะร่วมกับเซนเตอร์พีชได้สบายๆ ซึ่งถึงแม้จะจัดงานแบบเลี้ยงค็อกเทล แต่คุณก็สามารถนำกรอบรูปนี้วางแทรกลงในโต๊ะวางอาหารที่ทางโรงแรมจัดเสิร์ฟได้นี่นา

แฮชแท็ก

ใส่ # ในเวดดิ้งไทม์ไลน์ : ไหนๆ ก็ลงทุนทำ wedding Timeline แจกแขกในงานอยู่แล้ว ก็แค่แทรก # ของคุณลงไปให้แขกรู้ แบบนี้เรียกว่า ยิงนัดเดียวได้นกสองตัวเลยล่ะค่ะ

แฮชแท็ก

ใส่ # ลงในพร้อพ : สำหรับบ่าวสาวที่อาจมีทุนทรัพย์เยอะสักหน่อย ก็อาจเลือกวิธีการแทรก # ลงในพร้อพเก๋ๆ ในงานแต่ง เช่นแจกแว่นตาก็เติม # ที่ขาแว่น แจกหมวกก็พิมพ์ # ลงไปที่ปีกหมวกอะไรแบบนั้นก็เนียนๆ ได้นะ

แฮชแท็ก

ใส่ # ลงในไม้คนเครื่องดื่ม : งานปาร์ตี้ที่มีเครื่องดื่มค็อกเทลหรือ Signature Drink สามารถแทรก # ของงานแบบเนียนๆ ไปได้ด้วยการปริ๊น # นั้นลงในกระดาษสีแล้วนำมาพันตกแต่งที่ด้ามจับไม้คนเครื่องดื่ม ถ้าดีไซน์ดีออกแบบเก๋ ไม่แน่นะว่าไอเดียนี้จะมีคุณเป็นแม่แบบในงานอื่นๆ ได้

แฮชแท็ก

ใส่ # ลงบนเมนูอาหาร : แน่นอนว่างานเลี้ยงแบบโต๊ะจีนต้องมีเมนูตั้งวางแจ้งบอกให้แขกได้ดูกันทุกงาน คุณก็แค่ใส่ # ลงไปตอนหัวหรือท้ายเมนูสักนิด แค่นี้แขกก็ยกดูกันแทบทุกคน

ดูไอเดียงานแต่งและคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรื่อง : Hoyamemoria
ภาพ : Brides, www.justlovelyweddings.com

เครื่องประดับศีรษะเก๋ๆ สำหรับหลากไอเดียทรงผมเจ้าสาวชุดราตรี

ทรงผมเจ้าสาวชุดราตรี กับเครื่องประดับสไตล์เฮดพีชสุดปัง

งานแต่งงานเป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิต เพราะฉะนั้นวันนี้แหละที่สาวๆ จะได้สวยที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยสวยมา ไม่ว่าจะเป็น ชุดแต่งงาน สไตล์แต่งหน้า และทรงผมก็ต้องจัดเต็ม และถ้าหากคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวที่ต้องการความระยิบระยับให้กับลุคแล้วล่ะก็ เครื่องประดับศีรษะก็ต้องมา แพรว wedding เลยมีไอเดียที่เป็นสัญลักษณ์ของความระยิบระยับอย่างดวงดาวที่พร่างพราวอยู่บนฟ้า แต่วันนี้จะมาพร่างพราวอยู่ในลุคเจ้าสาวของคุณ กับการแมตช์ทรงผมสไตล์ต่างๆ ให้เข้ากับเครื่องประดับศีรษะสไตล์กาแล็คซี่สุดเก๋ ที่เน้นความน้อยแต่มากของ ทรงผมเจ้าสาวชุดราตรี ที่ทำแล้วสามารถอยู่ยาวได้ถึงช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้อีกด้วย

ทรงผมเจ้าสาวชุดราตรี

เน้นความเรียบโก้ของทรงผมสลีกแบบปล่อย แล้วคาดทับด้วยเครื่องประดับศีรษะที่ระยิบระยับไปด้วยดวงดาว แถมยังสามารถเลือกทำได้ทั้งงานแต่งกลางวัน และงานเลี้ยงฉลองตอนกลางคืนได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งลุคสไตล์เฟมินีนที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกสุดๆ

สำหรับว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่ไม่ชอบความเยอะแยะอลังการ อาจจะเลือกประดับด้วยกิ๊บดีไซน์ดีไซน์พระจันทร์กับดวงดาวคู่กันก็ได้ ซึ่งแมตช์เข้ากับทรงผมมวยต่ำสไตล์ฟุ้งๆ ชวนฝันได้เป็นอย่างดี

เพราะอาฟเตอร์ปาร์ตี้คือช่วงเวลาของความสนุกสนาน เพราะฉะนั้นลุคของเจ้าสาวก็ต้องสนุกสนานไปด้วย กับที่คาดศีรษะประดับดวงดาวไว้วิบวับเหมือนมีสปอร์ตไลท์ส่องให้มีออร่าอยู่ตลอดเวลา แถมไม่ต้องประดิษฐ์ประดอยทรงผมอะไรให้ยุ่งยาก เพียงแค่ปล่อยผมให้สยายพร้อมดัดลอนไว้อ่อนๆ เท่านี้ก็สวยปังพร้อมเขย่าแดนซ์ฟลอร์แล้ว

หากว่าที่เจ้าสาวเลือกทรงผมเปียสำหรับวันแต่งงาน หรือทรงผมชิคนอนสไตล์คลาสสิค ก็สามารถประดับกิ๊บติดผมสไตล์กาแล็คซี่เพิ่มความโดดเด่นให้กับทรงผมได้เช่นกัน

คิดก่อนโพสต์กับ 5 การประกาศสละโสดบนโลกออนไลน์ที่ต้องระวัง

ได้ สละโสด สักทีก็ดีใจ จนอาจไม่ทันได้ระวังบางเรื่อง!!

จริงอยู่ที่ความดีใจมันล้นอกเมื่อเขาคนนั้นเอ่ยปากขอแต่งงาน และยิ่งปลื้มปริ่มเต็มหัวใจเมื่อเขาจัดเซอร์ไพร้ส์ขนานใหญ่ให้ใจเต้นโครมๆ แต่บางทีการประกาศข่าว สละโสด ของคุณบนโลกออนไลน์ที่มีคนตามติดชีวิตเป็นร้อยเป็นพันก็ต้องคิดสักนิดก่อนโพสต์ เพราะคนเราคิดกันไปนานาจิตตังและใช่ว่าโพสต์แนวนี้จะได้รับคำยินดีและมีแต่ความสุขตามมาเสมอไป ไม่ว่าจะเป็น…

ประกาศข่าวดีโดยยังไม่ได้แจ้งครอบครัว

คิดดูสิคะว่า ถ้าบนโลกโซเชียลของคุณมีการประกาศข่าวดีออกไปทันที โดยที่คนในครอบครัวมารู้ทีหลังคนอื่น พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร แน่นอนว่าความน้อยใจบังเกิดเป็นอย่างแรก ซึ่งถ้าแค่นั้นก็ยังพอง้อกันได้ แต่ถ้าครอบครัวของคุณไม่เคยได้สัญญาณว่าคุณและเขาจะร่วมหัวจมท้ายกันมาก่อนล่ะ ทีนี้ศึกในบ้านเกิดได้ทันทีเลยนะคะ และดีไม่ดี ข่าวที่ประกาศออกไปอาจไม่เกิดอีเว้นมงคลจริงๆ ในอนาคตก็เป็นได้

ฉะนั้นถ้าคิดจะประกาศบอก ขอให้ยกหูโทรแจ้งคนในครอบครัวซะก่อน เผื่อเขาไม่ปลื้มแล้วคุณรู้สึกถึงสัญญาณอันตรายจะได้เตรียมรับมือได้ทันดีกว่าดีใจเก้อและต้องมาค่อยตามแก้ข่าวให้ขาเม้าสงบคำ

           สละโสด

ประกาศกร้าวบอกจำนวนกะรัตของเพชรบนแหวนหมั้น

ก็เข้าใจค่ะว่าได้รับแหวนเพชรเนี่ยมันน่าดีใจมากกกกก ยิ่งเป็นแหวนหมั้นด้วยแล้วละก็น้อยคนนักที่จะอดใจไหวในการประกาศให้โลกรู้ว่า ฉันคือสาวผู้โชคดีที่นอกจากจะมีผู้ชายมาขอแต่งงานแล้ว เขายังมอบแหวนเพชร 5 กะรัตแทนใจด้วยนะ แต่คุณขา…แค่อวดแหวนก็พอไหม ไม่ต้องโพสต์แคปชั่นลงไปว่า เขาหมั้นชั้นด้วยแหวนเม็ดโตตั้ง 5 กะรัตแน่ะ แบบนั้นเรียกว่าโพสต์ล่อเป้าให้คนหมั่นคนเม้านะคะ

โชว์คลิปประกายเพชร

แม้บางนางจะไม่โพสต์จำนวนกะรัต แต่ก็อวดแหวนด้วยคลิปการส่องประกายของเพชรเม็ดเป้ง แบบนั้นก็ล่อเป้าเหมือนกันนะคะ  เพราะถือได้ว่าเป็นความจงใจที่จะนำเสนอความอลังการของเม็ดเพชรบนหัวแหวนแบบสุดๆ ประมาณว่า ชั้นไม่พูดไรนะ(แต่ภาพในคลิปมันฟ้องง่ะ) คนที่เห็นคลิปเนี่ยเขารู้ทันคุณหรอกนะ จึงสามารถเข้าใจเจตนาของคุณได้สบายๆ แม้คุณเองจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจอวดแค่อยากระบายออกซึ่งความรู้สึกยินดี แต่แหม…ถ้าอยากทำคลิปก็เป็นคลิปน่ารักๆ ที่บอกข่าวดีกับคนอื่นๆ แทนดีไหมอ่ะ

โพสต์รายละเอียดการจัดงาน

อย่าผลีผลามรีบโพสต์รายละเอียดการจัดงานแต่งงานของคุณในทันทีที่ได้ฤกษ์ยาม และสถานที่เพราะถ้าคุณไม่คิดจะเชิญแขกทุกคนในโลกโซเชียลของคุณละก็ ความเข้าใจผิดคิดว่าคุณเชิญทุกคนจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งความปวดหัวที่ตามมาก็คือ คุณต้องมานั่งหาคำปฏิเสธการมาร่วมงานของแขกที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ทีละคนๆ จนสุดท้ายอาจเกิดผิดใจกันจนความสมพันธ์ที่ดีกระทบกระเทือนเกินแก้ไข

รีบเปลี่ยนชื่อในโปรไฟล์ทันที

ก็รู้นะคะว่าคืออารมณ์ดีใจ ไม่คิดอะไรก็แค่เปลี่ยนชื่อตามความรู้สึก ณ ตรงนั้น แต่ความไม่คิดอะไรนี่แหละ ที่ล่อเป้าให้เม้ามอยและหมั่นไส้ เพราะสาวบางนางเห่อการจะได้ออกเรือนมากจนถึงขั้นเปลี่ยนชื่อโปรไฟล์ตัวเองใหม่ทันทีที่ได้รับการสวมแหวนเพื่อสื่อถึงสถานะที่จะเปลี่ยนไปในเร็ววัน (ทั้งๆ ที่ฤกษ์ยามสถานที่ก็ยังไม่มีมาเลย) ไม่ว่าจะเป็น Future Mrs... หรือถ้าว่าที่สามีรวยหน่อยก็เปลี่ยนชื่อให้สัมพันธ์กับธุรกิจเขาอย่าง ว่าที่คุณนาย…(ชื่อบริษัทเขา) แม้กระทั่งคำพื้นๆ อย่าง ว่าที่เจ้าสาวเดือน…(เดือนที่จัดงาน) เป็นใครมาอ่านเจอก็แบบว่า…โอ๊ย…ลำใยง่ะ

สละโสด

อ่านจบถึงตรงนี้  คงพอมีไอเดียเตือนสติตัวเองบ้างแล้วนะคะว่า แม้การสวมแหวนของคุณคือเรื่องน่ายินดี แต่ก็ต้องมีขอบเขตสักหน่อย อย่าปล่อยให้ความดีใจทำให้เกิดมุมมองที่ไม่ดีต่อว่าที่เจ้าสาวอย่างคุณดีกว่า เพราะคนสมัยนี้นานาจิตตัง แค่คิดก่อนทำ รับรองชีวิตไม่ยุ่งยากค่ะ อ่ะๆ ว่าแล้วก็ไปหากิจกรรมฉลองความไม่โสดกันดีกว่ากับ >>> ไอเดียกิจกรรมสละโสดสำหรับคู่รักที่ไม่ควรพลาด!

เรื่อง : ดอกปีบ

ภาพ : www.huffingtonpost.com, www.brides.com

a a a

บ่าวสาวห้ามลืม! 12 ภาพนี้ต้องมีในอัลบัมภาพถ่ายวันแต่งงาน

ใช่ว่าเมื่อคุณสรุปช่างภาพในวันแต่งงานได้ลงตัวแล้ว เรื่องของภาพถ่ายจะจบลงแค่นั้น เพราะคุณต้องวางแผนในการถ่ายภาพด้วยค่ะ แพรว wedding ขอบอกเลยนะว่า อย่าได้ปล่อยให้ช่างภาพคิดแค่ฝ่ายเดียว เพราะมุมมองและสไตล์ของช่างจะไม่มีทางเหมือนกัน ซึ่งเราว่าเรื่องฝีมือก็แบบว่าต่างคนต่างใจจะชอบแบบไหนก็ว่ากันไป แต่ไม่ว่าฝีมือช่างภาพจะโปรหรือแป้ก 12 ภาพต่อไปนี้ ต้องไม่ลืมย้ำว่าต้องมีบันทึกไว้ใน อัลบัมภาพถ่ายวันแต่งงาน อย่าได้ลืม เพราะทั้ง 12 ภาพ คือ 12 ความทรงจำสำคัญที่คุณย้อนกลับมาดูเมื่อไหร่เป็นได้ซึ้งแน่นอน

เริ่มต้นกันที่ “ภาพการ์ดเชิญ” ที่กว่าจะสรุปธีมสี แบบ หรือโลโก้ คือแบบว่าใช้เวลานานมาก และการ์ดเชิญเหล่านี้ คือจุดเริ่มต้นสำคัญของส่วนอื่นๆ ในวันงานที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็น Mood & Tone ธีมสี ธีมงาน รายละเอียดการจัดงาน ฉะนั้นภาพกลุ่มการ์ดเชิญแบบนี้ต้องมีเก็บเป้นอันดับแรก

ต่อกันด้วยของสำคัญสุดๆ อย่าง “ภาพแหวนแต่งงาน” ที่คุณไม่ควรถ่ายแค่บนพื้นโล่งๆ หรือแค่แบบที่สวมในนิ้ว ลองจัดพร้อพสวยๆ แล้วเอากล่องแหวนมาวางใส่เป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้ รับรองว่าสวยฝัง

ถ้าซินเดอเรลล่ามีรองเท้าสื่อรัก คุณเองก็ต้องมี “รองเท้าแต่งงาน” คู่ใจเหมือนกัน ฉะนั้นภาพนี้จึงต้องไม่พลาด แล้วอย่าลืมยแความดีให้รองเท้าหลังเลิกงานด้วยนะคะ ก็แหม…อยู่กับคู่มาตลอดทั้งคืนนี่นา

สัญลักษณ์อีกหนึ่งแห่งความเป็นเจ้าสาวที่ขาดไม่ได้คือ “ภาพช่อดอกไม้เจ้าสาว” ที่อย่าลืมสะกิดบอกกับช่างภาพเด็ดขาดว่าต้องมีเก็บไว้ให้คุณได้นึกถึงโมเม้นที่ถือเจ้าช่อนี้เข้างานด้วยนะ

อีกโมเม้นสวยๆ ที่ว่าที่เจ้าสาวหลายคนไม่ค่อยอยากให้ถ่าย เพราะยังสวยไม่เต็มคือ “ภาพตอนกำลังให้ช่างแต่งงาน” ภาพแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสถ่ายได้บ่อยๆ นะคะ

ซีนสำคัญที่ฝรั่งชอบถ่ายแต่คนไทยยังไม่ค่อยอินคือ “ภาพของชุดแต่งงาน” ที่มีพร้อพอื่นๆ มาเป็นองค์ประกอบ อย่างภาพนี้คือภาพที่เด็กน้อยที่ทำหน้าที่โปรยดอกไม้กำลังยืนมองชุดเจ้าสาวแสนสวยราวเจ้าหญิงอยู่

“ภาพทรงผมเจ้าสาวจากด้านหลัง” ไม่ต้องให้มีการถ่ายหน้าเจ้าสาวเป๊ะๆ เสมอไป แต่ให้ช่างภาพเก็บความทรงจำเรื่องทรงผมของคุณก็เก๋ดี แถมยังเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ผ่านไป 10 ปีมาย้อนดู จะรู้ว่าวันนั้นเลือกแฟชั่นอะไรมาใส่ให้ตัวเองสวย

“ภาพซีนเหม่ออารมณ์เผลอ” จริงๆ ภาพแบบนี้ไม่ต้องเหม่อก็ได้ แค่คุณโพสต์ให้นิ่ง ส่งตาซึ้งออกไปสักหน่อย ก็จะได้ภาพแห่งซีนอารมณ์ทีบ่งบอกถึงการรอคอยเจ้าบ่าวมารับตัวหรือนับถอยหลังนาทีเริ่มงานแล้วค่ะ

ไหนใครจัดเพื่อนเจ้าสาวยกแก๊งบ้างเอ่ย ถ้าใช่คุณละก็ “ภาพเจ้าสาวแอนด์เดอะแก๊ง” ต้องมี จะได้โมเม้นอบอุ่นสุดๆ จริงๆ นะ

ช่วงเวลาแห่งความหวานซึ้งที่มีเพียงคุณสองคน จะได้ “ภาพสบตาหวานๆ ที่เปี่ยมไปด้วยรัก” แบบนี้ บอกเลยว่า แม้จะมีคนเป็นร้อยรายล้อม ซีนนี้ก็ต้องมี

แน่นอนว่าคิดกันหัวแทบแตกว่าจะเลือกธีมงานไหนมาเป็นธีมหลัก ฉะนั้น “ภาพบริเวณทำพิธีทั้งหลาย” ต้องมี ไม่ว่าจะเป็นจุดสวมแหวนแต่งงาน เวทีเค้ก หรือแม้แต่ฉากถ่ายภาพหน้างาน

นาทีแห่งการกล่าวคำสาบานตน กับ “ภาพแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีการ” ช็อตนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด ซึ่งถ้าเป็นหมู่เราชาวไทย ซีนที่ว่านี้ก็คือ ซีนสวมแหวนแต่งงาน ซีนก้มกราบสามี (ซึ่งคงมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต) รวมถึงซีนหอมแก้มหลังสวมแหวน…อะไรประมาณนั้น

ซีนจูบกันอันแสนดูดดื่มจะได้ “ภาพจุมพิตตรึงใจ” ที่เรียกได้ว่าคอมพลีทมากกกกกก

ปักหมุดทุกวันที่ 14 วันแห่งความรักของเกาหลี ที่เราอยากให้คนไทยได้รู้

รู้หรือไม่ว่าทุกวันที่ 14 ในทุกเดือนของชาวเกาหลีนั้นล้วนเป็น วันแห่งความรัก และมีกิจกรรมน่ารักๆ มากมายให้เหล่าคู่รักได้ออกไปทำกันแบบไม่ซ้ำในแต่ละเดือน แพรว wedding เลยอยากคู่รักคนไทยได้ลองปักหมุดแล้วจูงมือคนรักไปทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกันบ้าง หรือเผื่อจะเป็นอีกหนึ่งไอเดียดีๆ สำหรับการขอแต่งงาน วันแต่งงาน หรือทริปฮันนีมูนของคุณก็ได้ ถ้าพร้อมแล้วกางปฏิทินแล้วเตรียมตัวจดได้เลย

14 ม.ค.  –  Diary Day เป็นวันที่คู่รักจะมอบไดอารี่ที่เขียนมาตลอดระยะเวลาที่คบกันเป็นของขวัญให้แก่กัน การมอบไดอารี่นี้ไม่ได้มีเฉพาะคนที่เป็นแฟนกันเท่านั้น สำหรับคนที่แอบชอบใครอยู่ก็สามารถนำไปให้เขาแทนการสารภาพรักได้เช่นกัน

14 ก.พ. – Valentine Day วันวาเลนไทน์สากล เป็นวันที่สาวๆ จะมอบช็อกโกแลตให้กับชายหนุ่มที่ชอบ

14 มี.ค. – White Day วันที่หนุ่มๆ จะมอบลูกกวาดกลับไปให้กับสาวๆ เพื่อเป็นการตอบรับความรักสาวที่ให้ช็อกโกแลตเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา

14 เม.ย. – Black Day เป็นวันที่กลุ่มคนโสดจะแต่งกายชุดดำ เครื่องประดับสีดำ และพากันไปกินบะหมี่ซอสซีอิ๊วดำที่เรียกว่า “จาจังมยอน”

14 พ.ค. – Rose Day ตามชื่อวันเลยค่ะ คู่รักเกาหลีจะมอบดอกกุหลาบเพื่อแสดงความรักให้กัน โดยไม่จำกัดเฉพาะกุหลาบแดงเท่านั้น จะเป็นดอกกุหลาบสีอื่นก็ได้ ซึ่งแต่ละสีก็จะมีความหมายแตกต่างกันไป

14 มิ.ย. – Kiss Day วันแห่งการจูบ หนุ่มสาวที่จะเพิ่งคบหากันเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา วันนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญ เนื่องจากทั้งคู่จะได้มี First Kiss ซึ่งคนเกาหลีให้ความสำคัญกับจูบแรกมาก ถึงก่อนหน้านี้จะจูบกันมาจนปากเปื่อยแล้ว แต่ก็ไม่มีจูบไหนจะสำคัญเท่ากับจูบในวันนี้

14 ก.ค. – Silver Day เป็นวันที่หนุ่มสาวเกาหลีจะเปิดตัวคู่รักของตัวเองกับเพื่อนๆ และคนรอบข้างอย่างเป็นทางการและจะมอบเครื่องประดับเงินให้กัน

14 ส.ค. – Green Day วันนี้คนที่มีคู่ชูชื่นจะควงกันออกไปเดินเล่นชิลๆ ตามสวนสาธารณะเพื่อชมความสดใสของดอกไม้และต้นไม้ใบหญ้า ส่วนคนโสดที่ไม่มีใครให้ควงก็จะออกมาดื่มโซจูขวดสีเขียวเพื่อเป็นการปลดปล่อยความเหงาตามประสาคนไร้คู่

14 ก.ย. – Music & Photo Day เป็นวันที่คู่รักเกาหลีจะนัดพบกับเพื่อนๆ เพื่อมอบซีดีเพลงรักเป็นของขวัญ พร้อมกับถ่ายรูปร่วมกัน เชื่อกันว่ายิ่งถ่ายรูปได้เยอะเท่าไหร่ก็จะยิ่งรักกันทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น

14 ต.ต. – Wine Day เริ่มเข้าฤดูหนาวอากาศก็เริ่มเย็น วันนี้คู่รักเกาหลีจะมาดื่มไวน์ด้วยกัน เพราะการได้จิบไวน์พร้อมกับคนรู้ใจคงจะทำให้อากาศอบอุ่นขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว

14 พ.ย. – Movie & Orange Day วันนี้หนุ่มสาวเกาหลีจะชวนกันออกมาดูหนังพร้อมกับดื่มน้ำส้มที่หอมหวาน …คงจะเป็นวันที่โรแมนติกไม่น้อย

14 ธ.ค. – Hug Day “หนาวเนื้อห่มเนื้อจึงหายหนาว” เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีอากาศหนาวขึ้นเป็นทวีคูณ คู่รักเกาหลีจึงนิยมแบ่งปันไออุ่นให้กันและกันผ่านอ้อมแขนนุ่มๆ ไม่เพียงแต่คู่รักเท่านั้นที่จะกอดกัน ยังรวมไปถึงคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงด้วย

เป็นไงบ้างคะ รู้สึกอยากลุกขึ้นมาทำกิจกรรมกันบ้างแล้วยัง หรือใครที่มีฤกษ์ตรงกับวันที่ 14 ของเดือนไหนก็ลองนำสิ่งนั้นไปเป็นกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ ในงานแต่งงานก็น่าจะน่ารักไปอีกแบบนะคะ

อ่านเรื่องราวความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ข้อมูลจาก : www.iamsam.diaryis.com
ภาพ : www.noozjyjblog.wordpress.com , www.lolcandy.com , www.bhmpics.com , www.leejin8.wordpress.com , www.th.aliexpress.com , ktownkaja.wordpress.com , www.abc.net.au , www.nypost.com , www.zebrafrozenyogurt.com , www.hancinema.net

จัดไป!! ของรับไหว้ โดนใจผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัยในงานแต่ง

ของรับไหว้ เลือกแบบนี้รับรองถูกใจผู้ใหญ่เลิฟชัวร์

สิ่งหนึ่งในงานแต่งที่ว่าที่บ่าวสาวทั้งหลายตัดสินใจยากเหลือเกินก็คือ ของรับไหว้ เพราะกลัวว่าเลือกมาแล้วผู้ใหญ่จะถูกอกถูกใจหรือนำไปใช้ได้จริงหรือเปล่า แพรว wedding เลยจัดลิสต์ของรับไหว้สุดฮิตที่ให้เมื่อไหร่รับรองถูกใจผู้ใหญ่แน่นอนมาฝาก

ผ้า

ของรับไหว้หนึ่งในของรับไหว้ยอดฮิต แนะนำให้เลือกเป็นผ้าไหมหรือผ้าแพร เพราะดูดีมีราคาและเหมาะกับผู้ใหญ่มากๆ แล้วอย่าลืมมองหาแพคเกจจิ้งสวยๆ ด้วยนะคะ

หมอน

ลองเลือกเป็นหมอนใบชา หรือหมอนเพื่อสุขภาพขนาดพอเหมาะ จะให้ใบเดียวหรือให้เป็นคู่ก็ดูดีไม่แพ้กัน (แต่ถ้าให้เป็นคู่ก็อาจจะช่วยเสริมเรื่องความรักให้อยู่คู่กันตลอดไปก็ได้นะคะ) และก่อนให้อย่าลืมผูกโบหรือริบบิ้นสวยๆ ด้วยนะคะจะได้ช่วยเพิ่มมูลค่า

ชุดเครื่องหอม

ของรับไหว้เครื่องหอมที่จัดเซตในแพคเกจจิ้งสวยงามก็เหมาะจะนำมาใช้เป็นของรับไหว้ แถมยังมีความหมายดีๆ ที่สื่อถึงความรักอันหอมหวนของบ่าวสาว แต่ก่อนเลือกซื้ออย่าลืมเทสต์กลิ่นด้วยตัวเองกันก่อนนะคะ ถ้าจะให้ดีลองชวนคุณพ่อคุณแม่ไปด้วย เผื่อจะได้กลิ่นดีๆ ที่ถูกใจผู้ใหญ่จริงๆ

ชาหอมสมุนไพร

ของรับไหว้ชาหอมสมุนไพรก็น่าจะเป็นของรับไหว้ที่ถูกใจผู้ใหญ่อยู่ไม่น้อย เพราะผู้ใหญ่ส่วนมากชื่นชอบการดื่มชากันอยู่แล้ว แต่ถ้าผู้ใหญ่ท่านไหนไม่ชอบดื่มชาก็ยังสามารถนำสิ่งนี้ไปเป็นของขวัญหรือของฝากคนอื่นๆ ต่อได้อีก และถ้าบ่าวสาวกลัวว่า เอ๊ะ ให้แค่ชาอย่างเดียวจะดูน้อยไปหรือเปล่า ก็ลองมองหาชาหลากหลายแบบมารวมไว้ในกล่องสวยๆ หรือจะแถมแก้วชาเก๋ๆ ไปด้วยก็เริดไม่น้อยเหมือนกัน

ผ้าขนหนู

จับเซตชุดผ้าขนหนูมาสัก 1 เซต แนะนำเลือกแบบที่ไม่เป็นลวดลาย และสีสันไม่จัดจ้าน ขอแนะนำให้เลือกสีเรียบๆ น่าจะเหมาะที่สุด แล้วอย่าลืมใส่ใจเลือกผ้าขนหนูที่มีขนผ้านุ่มนิ่มซับน้ำได้ดีด้วยนะคะ จะได้ไม่โดนติงในภายหลัง

เครื่องเบญจรงค์

ของรับไหว้นอกจากจะดูดีมีราคาแล้ว ยังน่าจะถูกอกถูกใจสำหรับผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบการสะสมข้าวของโบราณอีกด้วย หากมีงบเยอะหน่อยจะซื้อมาเป็นชุดใหญ่แบบจัดเต็มก็ได้ แต่ถ้างบน้อยอยากประหยัด ก็เลือกแบบปังๆ มาสักหนึ่งอันแล้วใส่ไว้ในกล่องหรูๆ ก็ดูดีไม่แพ้กัน

ชุดถ้วยชากาแฟ

ชุดถ้วยชากาแฟชุดถ้วยชากาแฟก็เหมาะจะนำมาใช้เป็นของรับไหว้ เพราะสวยงาม ดูดีมีราคา และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ส่วนลวดลายและรูปทรงนั้นก็ลองมองหาที่สีสันหรือลวดลายไม่ฉูดฉาดหรือทันสมัยมากนัก น่าจะถูกใจผู้ใหญ่มากกว่านะคะ

ข้าว

ของรับไหว้ยอดฮิตอีกหนึ่งอย่าง บวกกับปัจจุบันเทรนด์รักสุขภาพกำลังมา ลองมองหาข้าวกล้องหรือข้าวไรซ์เบอร์รี่ก็เก๋ไม่หยอก ดูห่วงใยใส่ใจผู้ใหญ่ไปอีก สุดท้ายอย่าลืมเลือกแพคเกจจิ้งสวยๆ ก่อนให้ด้วยนะคะ

ของรับไหว้ผู้ใหญ่สไตล์ DIY ที่เราอยากแนะนำ >>> ‘จำปาดอง’ ภูมิปัญญาชาววัง ที่แจกเป็น ของชำร่วยงานแต่ง ก็ดี ของรับไหว้ก็เริด

ขอบคุณภาพจาก : www.miladywedding.com, www.sodazzling.com, www.velamall.com, www.blossomlove.com, www.duckieshop.com, www.thaidirect.co, teapillows.com/

3 งานแต่งธีมย้อนยุค กับเดรสโค้ดสุดปังที่ที่แต่งไม่ยากอย่างที่คิด

ไป งานแต่งธีมย้อนยุค ก็ต้องสนุกกับการแต่งให้ให้เต็มที่สิ!!

งานแต่งธีมย้อนยุค เป็นอีกหนึ่งธีมงานแต่งที่บ่าวสาวยุคนี้นิยมเลือกมาใช้กับงานของตัวเอง เพราะฉะนั้นแขกเหรื่อที่ได้รับการ์ดเชิญก็มักจะกระตือรือร้นหาชุดแนวย้อนยุคเก๋ๆ ไว้ใส่ไปงาน แต่เดี๋ยวก่อน! ไอ้คำว่า “ย้อนยุค” เนี่ย มันยุคไหนกันละจ๊ะสาวๆ เอาเป็นว่าเราขอนำเสนอชุดสำหรับใส่ไปงานแต่งของ 3 ยุคยอดฮิต ได้แก่ ยุค 1920 , 1950 และ 1970 ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไงก็ตามมาดูกันเลยจ้า

1. ยุค 1920 “Flapper Dress” สไตล์เก๋ไก๋หลังสงครามโลกครั้งที่ 1

flapper-dress

สำหรับในยุค 1920 แฟชั่นที่มาแรงสำหรับสุภาพสตรีในช่วงนั้นเห็นที่จะหนีไม่พ้น “Flapper Dress” ใครที่นึกภาพไม่ออกขอให้ไปเสิร์ชอากู๋กูเกิ้ล หาหนังเรื่อง The Great Gatsby หรือซีรี่ส์ยอดฮิตเรื่อง Dowton Abbey (เรื่องนี้สนุกมาก!) จะเห็นว่าสาวๆ ในเรื่องหล่อนใส่ชุดเดรสแบบ

งานแต่งธีมย้อนยุค

Flapper Dress ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่

  1. ทรงผมบ็อบสั้น ดัดลอนเปียก
  2. ผ้าคาดผมเริดๆ ที่ห้ามพลาดห้ามลืมเป็นอันขาด!
  3. แต่งหน้าแน่นๆ ถมเปลือกตาแบบสโมกกี้อายส์
  4. ประโคมมาทั้งไข่มุก ขนนก และเฟอร์หนาๆ พันรอบคอ
  5. เดรสทรงตรง หลวม ไม่รัดรูป ผ้าเบาพลิ้ว และกระหน่ำปักเลื่อมลายวิบวับ

 

2. ยุค 1950 “สาวกระโปรงบาน” ตามแบบฉบับป้ามาริลีน

50s

ถ้าพูดถึงวนิดา นางเอกของพันตรีประจักษ์หลายคนก็คงร้องอ๋อแน่นอน แถมยังเป็นอีกหนึ่งธีมยอดฮิต ไม่ว่าจะงานแต่ง งานวันเกิด หรืองานเลี้ยงรุ่น ก็มักจะนำธีมแฟชั่นของยุค 1950 มาเป็นเดรสโค้ด

งานแต่งธีมย้อนยุค

ซึ่งลักษณะเด่นๆ ของชุดในยุคนี้คือ

  1. ทรงผมดัดลอนแบบมาลิรีน มอนโร
  2. ปากต้องแดง แดง และแดงเข้าไว้!
  3. เดรสจั๊มพ์เอวเข้า ช่วยเผยทรวดทรงชัดเจน
  4. เน้นสีสันสดใส ลายจุด ลายสก็อต ลายทาง
  5. มีไอเท็มหลักประจำกายคือ หมวกและถุงมือที่เข้ากันกับชุด
  6. กระโปรงบาน ความยาวคลุมเข่า

 

 3. ยุค 1970 “สาวฮิปปี้” แต่งกายแบบแสบทรวงสุดๆ

70s

ยุค 1970 หรือยุคบุปผาชน ขอบอกว่าแฟชั่นจัดเต็มสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของชาว “ฮิปปี้” ที่ได้รับอิทธิพลความคิดและการแต่งการมาจากฝั่งอเมริกา มีความเป็นตัวของตัวเอง อยากแต่งอะไรก็แต่ง อยากหยิบอะไรมาใส่ก็จัดไป

งานแต่งธีมย้อนยุค

ซึ่งลักษณะเด่นของแฟชั่นยุคนี้ก็คือ

  1. ผมยาว ม้วนลอนใหญ่ และไดร์ให้ดูพองๆ ฟูๆ
  2. สีปากซอฟท์ๆ แต่เน้นหนักที่สีตา เขียว ฟ้า ชมพู ก็แต่งได้ไม่มีใครว่าเชย
  3. เสื้อผ้าสีสันแสบตา หลากหลายสีในชุดเดียวกัน ที่สำคัญต้องไซส์เล็ก เอวลอย
  4. กระโปรงสั้นอวดขาสวย กางเกงขาบาน ยิ่งบานยิ่งดี
  5. เอวสูงและสารพัดลวดลาย

สำหรับใครที่ได้การ์ดเชิญไปงานแต่งธีมย้อนยุค เราขอแนะนำว่าให้ดูดีๆ หรือถามบ่าวสาวให้แน่ชัดว่า “ย้อนยุคที่เธอว่ามามันยุคไหนกันแน่?” จะได้หาเสื้อผ้าใส่ไปร่วมงานได้แบบเป๊ะๆ ไม่หลงยุคนะจ๊ะทุกคน!

แต่ถ้าใครยังไม่มีไอเดียชุดไทยเริดๆ ลองไปดูที่นี่เลย >>> งามเลิศในปฐพี..เก็บตกชุดไทยประยุกต์จากงาน ‘อุ่นไอรัก คลายความหนาว’

ภาพ : vintagedancer.com, pinterest.com, flickr.com, funwirks.com, praew.com, moderoute.com, blogs.topwedding.com

6 นิสัยไม่น่ารักที่แขกในงานแต่งไม่ควรทำ

มันก็จริงนะคะที่การมาร่วมงานของคุณคือการให้เกียรติ ให้ความสำคัญกับบ่าวสาว แต่ก็ใช่ว่าเป็นแขกแล้วจะทำอะไรก็ได้นะคะ เพราะมีนิสัยบางอย่างที่แพรว wedding แอบสังเกตการณ์ แขกในงานแต่ง และสอบถามจากบ่าวสาวหลายคู่ที่เกิดอาการไม่ปลื้มเอาซะเลย ถ้าคนเป็นแขกทำอะไรแบบนี้ ถึงกับต้องส่ายหน้าแบบว่าขอทีเหอะ บางอย่างก็ ไม่ควรทำ นะ!

6 เรื่องที่บ่าวสาวไม่ปลื้มและ แขกในงานแต่ง ไม่ควรทำ ขอร้องเลย!

  • ขอเพลงในงานแต่ง

เข้าใจอะไรกันผิดหรือเปล่าคะเนี่ย นี่งานแต่งงานนะคะ ไม่ใช่ปาร์ตี้ปีใหม่หรือสังสรรค์เลี้ยงรุ่นในร้านอาหาร อย่าได้เขียนชื่อเพลงใส่กระดาษแล้วไปยื่นให้กับดีเจหรือนักดนตรีเชียวล่ะ เพราะแต่ละเพลงที่เปิดในงานทางเจ้าภาพได้ตกลงกับนักดนตรีไว้แล้วค่ะ และที่สำคัญคุณเองไม่รู้เงื่อนไขในการจ้างงานของเจ้าภาพกับวงนั้นว่า เล่นได้กี่เพลง เพลงสากลหรือเพลงไทย ราคาต้องบวกไหมถ้าเกินกว่าที่ตกลง ฉะนั้นปล่อยให้เพลงที่กำหนดได้ถูกปล่อยออกมาตามความตั้งใจของเจ้าภาพเถอะค่ะ ส่วนคุณน่ะนะ ฟังและบันเทิงไปค่ะ

  • ชุดขาวต้องเลี่ยง

เช่นเดียวกับข้อเมื่อกี้ค่ะ แต่เปลี่ยนเป็นชุดสีขาวสะอาดตาที่ขอบอกว่า สาวๆ อย่าริหยิบขึ้นมาทาบตัวเด็ดขาด เพราะถ้าทาบแล้วใส่มา เจ้าสาวกรี๊ดใส่แน่นอน เพราะคนไทยเนี่ย สีขาวในงานแต่งยังไงก็คือสีของตำแหน่งเจ้าสาว ซึ่งถ้าบ่าวสาวไม่ได้บอกว่าใส่มาได้ละก็ อย่าทะเล้นหยิบมาใส่แข่งกับนางเอกของงานให้เคืองใจเป็นเด็ดขาด

Photo by Marcel Strauß on Unsplash
  • แบ่งพรรคแบ่งพวกและแบ่งพื้นที่

นี่คืองานแต่งงานที่จะหลอมรวมเอาครอบครัว 2 ครอบครัวให้เป็นหนึ่งเดียว ดังนั้นการที่คุณซึ่งเป็นแขกจะมาบอกว่าไม่นั่งติดคนนี้เพราะไม่ใช่ครอบครัวฉัน ไม่ยืนฝั่งนี้เพราะไม่รู้จักกัน รวมถึงคำว่าต้องถ่ายรูปกับใครไม่รู้ไม่เอาอ่ะ เป็นนิสัยที่ไม่ควรทำ เพราะถ้าทำเมื่อไหร่ แล้วบ่าวสาวรู้เข้าจะสร้างความเจ็บปวดและน่าปวดหัวให้มากมาย ลองคิดแทนใจบ่าวสาวนะคะว่าแขกตั้งเยอะแยะ จะต้องรีบต่อคิวต่อแถวถ่ายรูป คุณจะมาเกี่ยงงอนเพื่ออะไร เอาเป็นว่าต่อให้คุณไม่ชอบคนๆ นั้นแต่ขอให้จำไว้ว่า รักกันไว้เถิด (แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ได้) เพื่อบ่าวสาวที่คุณฝ่ารถติดมาร่วมยินดีไงคะ

  • กินไม่ยั้งไม่เหลือเผื่อใคร

ไม่ได้หวงว่าจะไม่ให้กินหรอกนะคะ แต่ในกรณีนี้เราหมายถึงเมนูพิเศษทั้งหลายที่บ่าวสาวขนมาเสิร์ฟเพื่อเพิ่มความประทับใจให้แขก ไม่ว่าจะเป็น Food Trucks สุดเท่ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเจ้าดังหรือไอศกรีมนำเข้า ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะสั่งตามจำนวนคน โดยลดทอนไปตามปริมาณอาหารอื่นๆ ในงาน  ซึ่งถ้าคุณได้ลองทานแล้วก็อย่าเพิ่งทานซ้ำมากมายหลายจานอยู่คนเดียวหรือกลุ่มเดียว ปล่อยให้คนอื่นได้ทานบ้าง บ่าวสาวบอกว่าจะกราบขอบพระคุณเชียวล่ะค่ะ

  • กลับก่อนงานจะเริ่ม

เข้าใจค่ะว่าบางทีงานแต่งก็ใช้เวลานานมากกว่าจะเริ่ม ทำให้คนเป็นแขกรู้สึกว่าไม่รอแล้วดีกว่า เดี๋ยวต้องเจอรถติดจะยิ่งถึงบ้านดึกอะไรแบบนั้น แพรว wedding อยากให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุของความล่าช้าก่อนตัดสินใจชิ่งนะคะ เพราะส่วนใหญ่ที่งานแต่งในบ้านเราเริ่มต้นช้าก็เพราะประธานยังมาไม่ถึง อาจเพราะรถติดมาก หรือมีภารกิจอื่นๆ ก่อนจนยังมาไม่ถึงตามเวลา ซึ่งทั้งหมดก็ไม่ใช่ความผิดของบ่าวสาวนี่นา ซึ่งแน่นอนว่าถ้าแขกส่วนใหญ่คิดแบบนี้ กว่างานจะเริ่มบรรยากาศคงเหงาพิกล

แขกในงานแต่ง

  • มาร่วมงานเพื่อเมาหัวทิ่ม

หลายคนชอบเหลือเกินเวลาไปงานแต่งงาน เพราะรู้สึกว่าได้กินฟรีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ก็เลยซัดไม่ยั้ง โดยเฉพาะเครื่องดื่มมึนเมาที่พอเมาแล้วพูดไม่รู้เรื่อง โวยวายเอะอะจนเจ้าภาพต้องเข้ามาเคลียร์ ขอบอกตรงนี้เลยว่า เป็นนิสัยแย่มากที่บ่าวสาวกลัวเหลือเกินว่าจะเกิด และหากคุณทำนิสัยแบบนั้น ไม่ใช่แค่บ่าวสาวเท่านั้นจะเมินหน้าหนี แต่แขกทั้งงานจะเม้าคุณไปทั่วคุ้งเชียวล่ะ

บอกเลยว่านิสัยทั้งหมดที่ว่ามานี้เจอกันทีมีปวดหัว แถมเจ้าภาพจะทำรุนแรงมากไปก็ไม่ได้ ก็คุณเป็นแขกที่อุตส่าห์มาร่วมยินดีนี่คะ แต่ครั้นจะไม่ทำอะไรเลย แขกคนอื่นก็เดือดร้อน เห็นไหมละเป็นเจ้าภาพนี่ช่างลำบากเหลือเกิน ลองเอาใจบ่าวสาวมาใส่ใจคุณดู ก่อนจะนำนิสัยไม่น่ารักในงานแต่งครั้งต่อไปนะคะ

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

เรื่อง : Hoyamemoria
ภาพ : www.thisisinsider.com, Brides, Unsplash.com

7 เคล็ดลับเขียนและอ่านคำขอบคุณแขกให้กระชับ ซึ้งใจ แต่ไม่ดราม่า!

อย่าคิดเด็ดขาดว่าการกล่าวคำ ขอบคุณแขก บนเวทีจะเป็นเรื่องจิ๊บๆ ที่แค่ถือไมค์แล้วเซย์ Thanks!! เพราะคุณคงไม่อยากให้แขกที่มาร่วมยินดีนับร้อยนับพันส่ายหน้าแล้วคิดในใจว่าเมื่อไหร่จะพูดจบ (วะเนี่ย!) ดังนั้นเพื่อเลี่ยงความดราม่า ความหน่ายและความพลาด แพรว wedding มี 7 เคล็ดลับมาชี้แนะค่ะ

  1. ร่างหัวข้อออกมาก่อนตามสไตล์นักเขียน

แม้คุณจะไม่ได้เป็นนักเขียนมืออาชีพ แต่ด้วยวิธีของนักเขียนที่ใช้มาแล้วได้ผลกับสารพัดงานเขียนที่ผ่านมา การร่างหัวข้อที่ต้องการให้มีในสคริปต์ช่วยได้มากค่ะ เพราะจะช่วยจับประเด็นในเบื้องต้นให้เห็นภาพรวมว่า เมื่อถึงเวลาต้องพูดบนเวทีจะมีเรื่องไหนบ้างที่แขกจะได้ยินจากคุณ เมื่อร่างออกมาก่อนคุณจะได้ทบทวนว่าอะไรที่มากไปและควรตัดทิ้ง อะไรที่ยังขาดก็ได้เติม แล้วรับรองว่าคำขอบคุณของคุณจะไม่มีอะไรตกหล่นให้เสียดายทีหลังไงคะ

  1. อินเนอร์ไม่ต้องมาเต็ม

อย่าลืมว่าสิ่งที่คุณกำลังจะร่างออกมาและพูดออกไปนั้นคนฟังคือใคร ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะมาอินกับความรักความรู้สึกของคุณที่อยากจะสื่อสารออกไปจากก้นบึ้งของหัวใจทั้งหมด ฉะนั้นความรู้สึกบางอย่างก็เก็บไว้พูดกันแค่สองคนในห้องหอพอ แล้วคัดเอาเฉพาะอินเนอร์บางส่วนมาเท่านั้นจะเรียกว่ากำลังดี

  1. คำสัญญาบางทีไม่ต้องมีก็ได้

บ่าวสาวหลายคู่ชอบที่จะใช้จำนวนแขกมาเป็นสักขีพยานสัญญาจะทำนั่นนี่ให้กัน ซึ่งก็ไม่ผิดถ้าอยากจะพูดเพราะตั้งใจจริง แต่ระวังไว้นิดนึงว่า ถ้าบังเอิญคุณเอ่ยคำสัญญาออกไปแล้ววันหนึ่งทำไม่ได้ ทีนี้ละ พยานปากเอกทั้งหลายก็คงเม้าคุณน่าดู ในจุดนี้ แพรว wedding ก็เลยแค่อยากเตือนไว้ก่อนร่างคำสัญญาแทรกในบทขอบคุณแขกว่า ขอให้มั่นใจจริงๆ ค่อยสัญญาก็ไม่สาย เพราะถ้าพูดออกไปเอไหร่ นอกจากคนข้างๆ จะตั้งความหวังแล้ว แขกนับร้อยยังจับตาดูอยู่ด้วยนะ

  1. ให้เพื่อนสนิทช่วยวิจารณ์

ผู้ช่วยคนสำคัญที่จะกันไม่ได้เกิดความดราม่ามากเกินไป ก็คือเพื่อนซี้ของคุณค่ะ เมื่อร่างเสร็จ ลองเอามาให้เพื่อนอ่านแล้วให้ช่วยวิจารณ์กันก็ดี เพราะเพื่อนจะให้ทั้งมุมมองตรงไปตรงมาได้ในฐานะเพื่อนพร้อมๆ กับมุมมองในฐานะแขก ลองดูสิว่าฟังแล้วเพื่อนรู้สึกยังไงค่อยปรับ

ขอบคุณแขก

  1. ซ้อมอ่านออกเสียงเพียงลำพัง

เมื่อแก้ไขได้อย่างใจคิดแล้ว ต้องไม่ลืมซ้อมอ่านให้คล่องปากค่ะ เพราะความหน่ายที่เกิดขึ้นอย่างหนึ่งคือ วิธีการอ่านหรือพูดคำขอบคุณของบ่าวสาวที่ไม่ได้ซ้อมมาสักนิด เพราะเกิดอาการติดๆ ขัดๆ ในคำพูด ไหนจะเรื่องการสะกดอารมณ์ซึ้งส่วนตัวอีก ซึ่งคุณคงไม่อยากน้ำตาแตกจนพูดต่อไม่ไหวใช่ไหมล่ะ ฉะนั้นซ้อมให้แม่น อ่านให้คล่องจะช่วยทำให้น่าฟังขึ้นค่ะ

  1. ซ้อมอ่านต่อหน้าเพื่อนซี้

เพิ่มความมั่นใจและลดอาการประหม่าอีกนิดด้วยการซ้อมอ่านหรือซ้อมพูดต่อหน้าเพื่อนๆ ค่ะ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่มีประวัติว่าเคยเกิดอาการตื่นเต้นเสมอเมื่ออยู่หน้าชั้นแล้วละก็ การซ้อมครั้งนี้ช่วยเรียกความมั่นใจได้มากค่ะ

  1. ท่องให้ขึ้นใจ ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ

ต่อให้เขียนมาดี ซ้อมมาเยอะ ความผิดพลาดหรือหลุดประเด็นหลุดอารมณ์เล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นได้กับทุกคน ฉะนั้นเคล็ดลับสุดท้ายที่แพรว wedding ขอฝากไว้คือ จงคิดเสมอว่าไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ จงอย่าคาดหวังกับการตอบรับของแขกและอย่าคาดหวังว่าตัวเองจะพูดได้ไหลๆ เหมือนที่ซ้อมเสมอ เพราะเมื่ออยู่บนเวที ทั้งแสงไฟ จำนวนคน และความรู้สึกในฐานะบ่าวสาว อาจทำให้สิ่งที่ซ้อมมาไม่ได้อย่างตั้งใจจนไม่สามารถแสดงออกมาได้เต็มทั้ง 100%

ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ว่านี้ ปล่อยไปเลยค่ะไม่มีใครว่า ไม่ต้องขออ่านใหม่ (เพราะอารมณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว) ขอให้รู้เลยว่า แขกทุกคนเข้าใจดีว่าคุณมีความสุขระคนตื่นเต้น ดีไม่ดี อาการหลุดสคริปต์หรือแม้แต่กลั้นน้ำตาไม่อยู่ อาจนำมาซึ้งโมเม้นที่ดีที่สุดในวันนั้นก็ได้นะคะ

 

เรื่อง : ดอกปีบ

ภาพ : http://www.tuxandtalesphoto.co.uk, http://www.bridebox.com

ไม่ต้องเป็นเชฟก็แอ็คได้! กับ 10 ไอเดียจัดของว่างเลี้ยงแขกเก๋ๆ

งานหมั้นของคนไทยมักจัดกันในช่วงเวลาเช้าๆ แทบทั้งนั้นนะคะ ซึ่งทำให้สิ่งหนึ่งที่บ่าวสาวจะลืมไปไม่ได้คือ อาหารว่างสำหรับแขกที่ให้เกียรติมาร่วมงาน แต่ครั้นจะให้จัดแบบวางใส่จานหรือใส่ถาดก็ดูจะธรรมดาเกินไป วันนี้ แพรว wedding จึงคัดไอเดียการจัด ของว่างงานหมั้น มาฝากคุณค่ะ รับรองได้ว่า แขกทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจกับความสวยงามและเก๋ไก๋ที่คุณตั้งใจทำเพื่อต้อนรับทุกคนแน่นอนค่ะ

1. จัดใส่ในโหลแก้ว เลือกโหลแก้วทรงสวยที่ปากค่อนข้างกว้างมาใส่ขนมทานเล่นอย่างถั่วคั่ว หรือคอร์นเฟลกรวมถึงขนมจำพวกลูกอมสีสันน่ารัก

2. จัดใส่ช้อน ความสะดวกรวดเร็วในการทานคือหัวใจอย่างหนึ่งในช่วงเวลาพักเบรคสู่ลำดับพิธีต่อไปที่บ่าวสาวห้ามลืม ฉะนั้นคุณอาจจัดเสิร์ฟอาหารว่างแบบใส่ช้อนเบ็ดเสร็จให้แขกแค่หยิบช้อนเข้าปากทานได้ทันทีเลยก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจค่ะ

3. เสิร์ฟในแก้วช็อต ใครว่าแก้วช็อตจะนำมาประยุกต์เป็นแก้วใส่อาหารไม่ได้ เพราะแก้วพวกนี้มีจุดเด่นที่ความเล็กน่ารัก แต่ใส่อาหารทานแล้วอิ่มท้องไม่มาก ทำให้แขกไปทานอย่างอื่นต่อได้สบายๆ แถมยังน่ารักอีกด้วยนะคะของว่างงานหมั้น

4. เสิร์ฟเป็นถ้วยพร้อมช้อน ขนมหวานอย่างช็อกโกแลกมูสที่ต้องมีอุปกรณ์ช่วยตัก สามารถจัดไว้คู่กับถ้วยได้เลย แบบนั้นง่ายจะทานไม่ต้องวุ่นวายถามหาว่าช้อนอยู่ไหนอีกด้วยนะคะของว่างงานหมั้น

5. ใส่เป็นถุง ลองนึกย้อนไปถึงสมัยก่อนที่ซื้อขนมทานแล้วแม่ค้านำใส่ถุงกระดาษส่งให้สิคะ นอกจากจะได้ความสะดวกแล้ว ยังได้ย้อนความรู้สึกถึงอดีตวัยใสอีกด้วยนะ

6. เป็นแบบกรวย คล้ายๆ กับการใส่ถุงกระดาษ แต่เป็นอะไรที่ทำได้ไม่ยาก แค่เอากระดาษมาม้วนทำกรวยแล้วใส่อาหารหรือผลไม้ลูกเล็กๆ ลงไป เดินถือทานได้ทั้งงานสบายๆ ค่ะ

7. โหลค็อกเทล การเสิร์ฟเครื่องดื่มในงานครีเอทได้มากกว่าที่คิดนะคะ การเลือกใช้โหลแก้วที่ว่านี้ มีข้อดีตรงที่แขกบริการตัวเอง ไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่มากนัก ที่สำคัญเด็กๆ ในงานชอบสุดๆ เพราะได้เป็นผู้ช่วยคุณพ่อคุณแม่หมุนก๊อกรินเครื่องดื่มใส่แก้วไงคะ

8. จัดวางบนชั้นวางเค้ก อย่าคิดว่าชั้นวางเค้ก 3 ชั้น 5 ชั้น ที่วางขายมีหน้าที่วางแค่ขนมเค้กนะคะ เพียงแค่คุณลองประยุกต์นำมาวางอาหารว่างที่จัดเป็นค็อกเทลคำต่อคำ ชั้นต่อชั้น ชนิดต่างกันก็เก่ดีออกว่าไหม

9. จัดบนเขียงไม้ไล่ระดับ เปลี่ยนจากการวางของว่างบนจานแบนๆ มาไว้บนเขียงไม้ แล้วลองวางแบบไล่ระดับดูสิคะ ตื่นตาตื่นใจไม่พอ ยังเก๋ไก๋แบบว่าคิดมาแล้วด้วยนะ

10. วางแบบแขวนห้อย นำของว่างประเภทของแห้งอย่างถั่วอบหรือขนมปังแท่งมาจัดเรียงห้อยแขวนเป็นแผงๆ ตามแนวยาว ก็เท่เก๋ไม่เหมือนใคร

เป็นไงกันบ้างคะ 10 ไอเดียง่ายๆ แบบนี้จพอจะเป็นไอเดียให้ทุกคนนำไปใช้กันได้ไม่มากก็น้อยนะคะ

>> ดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพ : Pinterest