ฟู้ดทรัคงานแต่ง ไอเดียเสิร์ฟอาหารในงานแต่งงานให้แตกต่าง

มารู้เคล็ดลับเสิร์ฟอาหารให้เก๋ไก๋ ไม่ซ้ำใครอย่างสไตล์ฟู้ดทรัคกันดีกว่า … บ่าวสาวอาจจะคุ้นๆ หูกับชื่อฟู้ดทรัคมาบ้าง นั่นก็คือการเสิร์ฟอาหารหรือขายอาหารโดยใช้รถยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งสิ่งที่ทำให้ฟู้ดทรัคได้รับความนิยมเกิดมาจากใช้พื้นที่น้อย ไม่ต้องตั้งร้านขาย และสามารถเคลื่อนย้ายอาหารได้สะดวกดังนั้น ฟู้ดทรัคงานแต่ง จึงเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่เหมาะกับบ่าวสาวที่กำลังหาอาหารมาเสิร์ฟในงานแต่ง แต่งานนี้อาจจะเหมาะกับงานแต่งที่เป็นกันเอง หรือจัดในสวนนะคะ

มาดูกันดีกว่าว่าเคล็ดลับการเสิร์ฟ ฟู้ดทรัคงานแต่ง มีอะไรบ้างที่ต้องคำนึงถึงบ้าง ตามนี้เลย

1. ลักษณะอาหารที่จะนำมาเสิร์ฟ

ฟู้ดทรัคมีหลายร้านให้เลือก เพราะฉะนั้นก่อนอื่นบ่าวสาวจะต้องเลือกก่อนว่าอยากเสิร์ฟอาหารประเภทไหน จากนั้นจึงค่อยตกลงกับทางร้านให้นำรถฟู้ดทรัคเข้ามาในงาน และบ่าวสาวควรจะคุยกันให้ชัดเจนว่าใครจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ จะช่วยกันสั่ง หรือแยกกันสั่งไปเลย แต่ถ้าช่วยกันสั่งล่ะก็เช็คกันให้ดีนะคะ ไม่อย่างนั้นถ้าสั่งอาหารมาชนกันล่ะแย่เลย

2. คุยเรื่องรายละเอียดของรถ

อย่าเพิ่งมองว่าไม่สำคัญนะจ๊ะ ต้องดูด้วยว่าสถานที่ที่จะนำฟู้ดทรัคเข้าไปนั้นสามารถรับน้ำหนักรถฟู้ดทรัคได้หรือไม่ ซึ่งบ่าวสาวจะต้องสอบถามกับสถานที่จัดงานให้ดี ยิ่งในกรณีที่สถานที่เป็นสนามหญ้าด้วยแล้ว อาจต้องคุยกันให้ละเอียด เพราะบางสถานที่ก็ไม่อนุญาตให้นำรถวิ่งเข้าไปได้ และที่สำคัญอย่าลืมสอบถามว่าสถานที่นั้นว่าสามารถรองรับรถฟู้ดทรัคได้จำนวนกี่คัน เพื่อที่บ่าวสาวจะได้นำมาวางแผนในการเลือกร้านได้ถูก และเพื่อการจัดวางพื้นที่ให้เกิดความเหมาะสม เพื่อที่บรรยากาศภายในงานจะได้ไม่อึดอัดจนเกินไป อ้อ แล้วอย่าลืมสอบถามรายละเอียดขนาดตัวรถฟู้ดทรัคและน้ำหนักของรถมาด้วยนะคะ เผื่อทางสถานที่ถามจะได้ตอบได้

3. เรื่องเวลาอย่าให้พลาด

บ่าวสาวควรคุยกับทางร้านฟู้ดทรัคให้ชัดเจนว่า อยากจะให้ร้านมาถึงงานกี่โมง เพราะน่าจะเป็นภาพที่ไม่น่าดูเท่าไหร่ ถ้าหากงานเริ่มไปแล้วแต่จู่ๆ ก็มีรถฟู้ดทรัคขับฝ่าฝูงแขกผู้มีเกียรติเข้ามาจอดกลางงานนะจ๊ะ

4. ใส่ใจรายระเอียดเล็กๆ น้อยๆ

ถึงแม้จะเป็นร้านค้าภายนอก แต่ด้วยงานแต่งงานเป็นงานของเรา เพราะฉะนั้นบ่าวสาวก็มีสิทธิ์ที่จะคุยกับทางร้านไปเลยค่ะว่าอยากให้พ่อครัว แม่ครัว แต่งตัวไปในทางเดียวกันกับงานของเรา หรือตกแต่งตัวรถฟู้ดทรัคให้เข้ากับธีมงาน จะได้เพิ่มสีสันและความน่ารักเข้ากับบรรยากาศของงานได้ด้วย

5. เช็คก่อน กลิ่นอาหารแรงไปไหมนะ

หากบ่าวสาวไม่อยากให้กลิ่นมาทำให้บรรยากาศงานแต่งของคุณต้องเสีย ก็ควรหลีกเลี่ยงรถอาหารที่อาจมีกลิ่นแรงๆ เกิดขึ้นได้ เพราะฟู้ดทรัคคือการปรุงอาหารแล้วเสิร์ฟเลย เพราะคงไม่ดีนักหากทำไป เสิร์ฟไป ส่วนงานก็ดำเนินไป แต่ดันมีกลิ่นรุนแรงรบกวนบรรยากาศงานที่กำลังโรแมนติก แทนที่จะได้กลิ่นของความรักดันได้กลิ่นอาหารที่ตีกันตลบอบอวลแทน

ฟู้ดทรัคงานแต่ง ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียในการเสิร์ฟอาหารที่น่าสนใจนะคะ หากบ่าวสาวคู่ไหนที่อยากเปลี่ยนสไตล์ในการจัดงานก็ลองศึกษากันดีๆ เพราะเป็นทางเลือกที่เก๋ไก๋ น่ารักแน่นอน หรือถ้าอยากจะเปลี่ยนมาจัดงานแต่งงานในร้านอาหารสุดน่ารักก็สามารถเข้าไปดูการสร้างสรรค์ ร้านอาหารน่ารัก เนรมิตปาร์ตี้งานแต่งแสนอบอุ่น กันได้เลย

ภาพจาก : Pinterest.com

ซัมเมอร์นี้คู่ไหนที่กำลังจะมีข่าวดีและมองหา ธีมงานแต่งงาน ที่ร้อนแรงไม่แพ้อุณหภูมิของประเทศไทย และอยากทำให้เข้ากับบรรยากาศในตอนนี้คงหนีไม่พ้นธีมงานแต่งงานซัมเมอร์ที่ต้องใช้ไอเดียเนรมิตกันซะหน่อย เพราะเราเชื่อว่าคุณคงอยากได้ธีมงานแต่งงานที่นำเทรนด์ ไม่ค่อยซ้ำใคร และคงรู้สึกเบื่อกับงานแต่งงานในฤดูร้อนที่มีเพียงแต่สีสันสดใส แต่ขาดความมีไลฟ์สไตล์ของคู่บ่าว-สาว งั้นเราก็ขอเสนอธีมงานที่มีความกิ๊บเก๋เล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยทำให้งานแต่งงานในช่วงซัมเมอร์ดูไม่น่าเบื่ออีกต่อไป…พร้อมไปดูกันรึยังคะ? ถ้าพร้อมแล้วตามมาชมกันเล๊ยยย

ธีมสีโอลด์โรส

ด้วยเฉดสีสันอันอ่อนหวานของสีส้มอมชมพูทำให้งานแต่งงานของคุณดูโรแมนติกเป็นมิตรกับทุกคนในงาน คงจะดีไม่น้อยถ้าคุณจะลองปรับโทนสีนี้กับการจัดตกแต่งในงานของคุณ ด้วยการเลือกเฉดสีไล่โทนเข้มถึงอ่อนให้คุมอยู่ในโทนเดียวกัน หากใครคิดว่าสีโอลด์โรสตอนนี้เอ้าท์ไปแล้วก็ลองเปลี่ยนมาเป็นธีมงานสีพีชที่มีความคล้ายกัน แต่ก็ยังนำเทรนด์อยู่น้า ส่วนของประดับตกแต่งให้เลือกใช้ของที่ดูหวานๆ เช่น ดอกไม้ ริบบิ้น ลูกโป่ง ที่สำคัญควรใช้สีขาวเข้ามาช่วยลดความหวานเลี่ยนจนเกินไปด้วย และแน่นอนชุดทีมเพื่อนเจ้าสาวก็สำคัญไม่แพ้กันสำหรับธีมสีนี้ การที่เพื่อนเจ้าสาวแต่งตัวสีเดียวกันครบแก๊งก็จะดูน่ารักสดใสมากๆ เลยแหละค่ะ

ธีมคันทรี่

เอาล่ะหนีแดดร้อนๆ มาหลบร่มเงากับงานแต่งงานในสวนสไตล์คันทรี่สบายตา เพิ่มไอเดียไม่ธรรมดาด้วยเก้าอี้กองฟางนุ่มสบายคล้ายอยู่ในฟาร์ม ส่วนการตกแต่งสถานที่ด้วยธงสีหลากสี ลวดลายน่ารัก ห้อยระโยงระยางให้ความรู้สึกเหมือนมาปาร์ตี้ ตกแต่งคู่กับบรรดาดอกไม้สีสันสดใสที่เข้ากันอย่างดีกับซัมเมอร์นี้ และจะดีแค่ไหนถ้าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของคุณได้เป็นสักขีพยานในวันพิเศษของคุณด้วย มันคงเป็นบรรยากาศอันแสนอบอุ่นที่ทุกคนจะอดยิ้มไม่ได้:)

ธีมฮาวาย

ร้อนนี้ทีมฮาวายต้องมา! แน่นอนนาทีนี้ใครๆ ก็ใส่เสื้อฮาวาย งานแต่งงานธีมฮาวายทำไมจะมาสำหรับซัมเมอร์นี้ไม่ได้จริงไหม ลองเลือกใช้สีสันโทนร้อนคู่โทนเย็นกับลายดอกไม้มากมายที่แสดงถึงความสนุกสนานไม่เป็นทางการ เหมาะกับงานแต่งงานริมทะเลสุดๆ และขอเสนอไอเดียให้เพื่อนเจ้าบ่าวใส่เสื้อฮาวายแบบเดียวกัน กางเกงขาสั้นดูสบาย ทางด้านเพื่อนเจ้าสาวควรเลือกใส่ชุดที่มีสีสันสดใสอาจมีลายดอกเล็กๆ ผ้าพริ้วๆ รับลมทะเล แค่การแต่งตัวก็ทำให้งานดูน่ารักไม่เบา ส่วนทางด้านดอกไม้ตกแต่งต้องเป็นสีเจ็บๆ เข้มๆ เลยนะคะ โดยเฉพาะสีแดงจะเข้ากับความสดใสของธีมเลยค่ะ

ธีมสีของสวนเขตร้อน (TROPICAL LUXE)

แรงบันดาลใจจากธรรมชาติอันเขียวชอุ่มของป่าไม้เขตร้อนประยุกต์ให้กลายเป็นธีมงานแต่งงานที่มีสไตล์ได้ด้วยการใช้โทนสีเขียว-ขาว แซมสีส้มหรือแดง และปิดท้ายด้วยการเลือกใช้ภาชนะที่มีสีทองเพียงเล็กน้อยให้พอหรูหรา สะท้อนถึงตัวตนเขตร้อนในฉบับลักซ์ชัวรี่ ใช้พืชพรรณสีเขียวเข้มเข้ามาตกแต่งเพิ่มเสน่ห์ความงามตามธรรมชาติด้วยรูปทรงของพืชที่แปลกๆ สำหรับแขกที่จะมาร่วมงานก็ยังได้สนุกกับการแต่งตัวสไตล์ฮิปสเตอร์ได้อีกด้วย

ธีมสีน้ำเงิน-ขาว

สุดท้ายนี้เรามากับธีมโทนเย็นของสีน้ำทะเลกับธีมงาน Navy Blue Wedding ที่มาพร้อมกับสีครามมหาสมุทรตัดกับสีขาวเล็กน้อยให้ความสวยสงบแบบคูลๆ ดับร้อนให้ซัมเมอร์นี้ไปเลยค่ะ แถมสีโทนนี้ยังให้อารมณ์ที่ดูคลาสสิกจะมองกี่ครั้งๆ ก็ไม่เบื่อ เริ่มจากเก็บรายละเอียดกับการ์ดเชิญที่ออกแบบให้เรียบแต่แฝงความอ่อนหวานด้วยการฉลุลายดอกสีขาวที่การ์ด แต่จุดเด่นงานนี้คงอยู่ที่ชุดเจ้าบ่าวสีกรมหรือบางคนเลือกใส่สูทผ้ายีนส์ดูวัยรุ่นขึ้น แถมเข้ากับธีมไปอีก

ทางด้านช่อดอกไม้ของเจ้าสาวรับซัมเมอร์นี้ก็มีเช่นกันค่ะ หากอยากรู้ว่ามีไอเดียอะไรแปลกใหม่บ้างลองตามไปดูกันในนี้เลย เกาะติดเทรนด์ ช่อดอกไม้เจ้าสาวเตรียมรับซัมเมอร์ 2018

Cr : pacificweddings.com, pinterest.com

ธีมงานแต่งสีบลัชพิ้งค์ เทรนด์ใหม่เพิ่มความน่ารักมุ้งมิ้งให้กับงาน

พูดได้เลยว่า สีบลัชพิ้งค์ เป็นโทนสีที่กำลังมีกระแส บ่าวสาวเริ่มนำมาใช้ในธีมงานแต่งกันมากขึ้น เพราะเป็นสีที่สุภาพ อ่อนหวาน ไม่เข้มไม่แรงจนเกินไป หรือเรียกได้ว่า เป็นโทนสีที่เรียบแต่โก้สุดๆ … แพรว wedding เลยมาแนะนำการจัด ธีมงานแต่งสีบลัชพิ้งค์ อย่างไรให้ปัง มาดูกันดีกว่าทำยังไง

1. ชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาว 

เริ่มจากสิ่งที่เป็นเหมือนพระเอกนางเอกในงานก่อน นั่นก็คือบ่าวสาวนั่นเอง ซึ่งชุดเจ้าสาวนั้นสามารถเลือกเป็นสีบลัชพิ้งค์ได้เลย เพราะทั้งดูสวย และเรียบหรูสุดๆ ส่วนเจ้าบ่าวสามารถใส่สูทสีเข้มแล้วเลือกเนคไทกับบูโทเนียร์เป็นสีบลัชพิ้งค์เพื่อให้เข้ากับเจ้าสาวก็ได้นะคะ

2. เครื่องประดับ

เจ้าสาวสามารถเลือกเครื่องประดับที่เป็นเพชร คริสตัล .ในเฉดสีชมพูบลัชพิ้งค์ได้เลยนะจ๊ะ เพราะจะยิ่งเพิ่มความโดดเด่นให้เจ้าสาวได้เป็นอย่างดี แถมเฉดสีนี้ยังเข้ากับชุดแต่งงานสีชมพูสุดหวานตามธีม หรือจะแมตช์กับชุดแต่งงานสีขาวก็รอด

3. รองเท้าเจ้าสาว

อันนี้ควรเลือกให้เข้ากับสีชุดนะจ๊ะ ซึ่งก็คือสีบลัชพิ้งค์นั่นเอง ทั้งนี้รองเท้าเจ้าสาวก็สามารถนำเพิ่มลูกเล่นได้อีกนะคะ เช่น การนำคริสตัลมาประดับตกแต่งเพิ่มความระยิบระยับให้กับรองเท้า หรือจะเลือกเป็นแบบเรียบหรูไปเลยก็ได้เช่นกันค่ะ

4. ของตกแต่งภายในงาน

สีที่เข้ากับสีบลัชพิ้งค์ได้เป็นอย่างดีก็คือ สีขาว หรือสีทอง ซึ่งบ่าวสาวสามารถเลือกใช้สีบลัชพิ้งค์เป็นสีหลัก แล้วตัดด้วยสีขาวและสีทอง เพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับงาน เช่น โต๊ะอาหารปูด้วยผ้าสีขาว แล้วตัดด้วยดอกไม้สีชมพู ผสมผสานสิ่งของประดับตกแต่งบนโต๊ะในเฉดสีทอง เป็นต้น

5. การ์ดเชิญ

เมื่อธีมงานเป็นสีบลัชพิ้งค์ขนาดนี้ การ์ดแต่งงานก็ควรจะเป็นสีเดียวกันถูกต้องไหมคะ โดยสามารถนำสีทองหรือสีเงิน มาตัดความหวานเพื่อเพิ่มความหรูหราและโดดเด่นให้กับข้อความบนการ์ดนั่นเองค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างจ๊ะกับสีบลัชพิ้งค์ เรียบหรูดูแพงเลยใช่ไหมล่ะ บอกเลยว่าสีนี้เป็นสีที่กำลังมาแน่นอน เพราะเป็นสีโทนสุภาพ เรียบหรู ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป บ่าวสาวลองปรึกษากันดูนะว่าชอบหรือเปล่า ถ้าชอบก็เป็นความคิดที่ไม่แย่เลยนะที่จะจัดงานแต่งงานในธีมสีสุดหวานนี้

หรือถ้าอยากจัดงานแต่งสีสดใส ร้อนแรงแต่แพงสุดๆ แนะนำ เพิ่มเสน่ห์ให้งานแต่งงานในธีมสีแดง-ม่วง รับรองเก๋ไม่ซ้ำใคร

ภาพจาก : Pinterest.com

เมื่อพูดถึงงานเฉลิมฉลองแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้และแทบจะเรียกว่าเป็นของคู่กันเลยก็คือ เครื่องดื่ม โดยถ้าพูดถึงในส่วนของชนิดที่ไร้แอลกอฮอล์หรือซอฟต์ดริงก์นั้นมักไม่ใช่ปัญหาในการเตรียมการของเจ้าภาพมากนัก เพราะส่วนใหญ่ฝ่ายจัดเลี้ยงจะคิดรวมไปในค่าอาหารเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ต้องคิดวางแผนให้ดีและคิดให้หนัก ก็คือเครื่องดื่มชนิดมีแอลกอฮอล์นี่แหละค่ะ วันนี้ แพรว wedding เลยขอนำสิ่งที่คุณควรรู้ไว้หากตัดสินใจจะใช้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศในงานของคุณนะคะ 😉

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานแต่งงาน

ในช่วงของการฉลองที่ไม่ว่าจะเป็นงานค็อกเทล บุฟเฟต์ หรือโต๊ะจีนนั้นมักจะมีไวน์แดง เบียร์ และวิสกี้ กับแชมเปญสำหรับดื่มอวยพร หรือคุณอาจเลือกใช้เหล้าผสมสีสวยๆ วอดก้า จินโทนิก มาร์ตินี่ เบียร์สด พันช์หรืออื่นๆ ตามต้องการก็ได้ ในส่วนของบรั่นดีที่มีราคาแพงมากนั้นไม่จำเป็นนัก ถึงคุณไม่จัดไว้ก็คงไม่มีแขกเรียกหา เพราะคนส่วนมากเข้าใจดีว่ามีราคาค่อนข้างสูง

ชนิดของเครื่องดื่ม

การเลือกชนิดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรคำนึงถึงรสนิยมของแขกส่วนใหญ่ เราควรจะต้องทราบ หรือคาดการณ์ถึงความชอบในการดื่มของแขกที่จะมาร่วมงาน เช่น แขกผู้ใหญ่มักจะนิยมดื่มไวน์ หรือวิสกี้ ส่วนแขกที่อายุน้อยลงมาอาจจะไม่ค่อยดื่มไวน์ แต่จะนิยมวิสกี้ หรือเบียร์สดมากกว่า สำหรับการกะปริมาณ ปกติแขกหนึ่งคนจะหยิบเครื่องดื่มชั่วโมงละหนึ่งแก้ว แต่อย่าลืมว่าแขกบางคนอาจดื่มเฉพาะซอฟต์ดริงก์ และคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ มักเลือกเครื่องดื่มเพียงชนิดเดียวตลอดคืน ไม่นับแชมเปญที่ดื่มอวยพร นอกจากนี้ สำหรับงานค็อกเทล แขกส่วนหนึ่งอาจกลับก่อนงานเลิก

ปริมาณในการเสิร์ฟ

เครื่องดื่มหนึ่งขวดรินได้กี่แก้ว จะขึ้นอยู่กับขนาดของแก้วที่ใช้และปริมาณที่รินนะคะ การเสิร์ฟเครื่องดื่มในงานเลี้ยงนั้นโดยทั่วไปมักรินน้อยกว่าปกติ

• ไวน์หนึ่งขวดขนาด 1000 c.c. รินได้ประมาณ 7-10 แก้ว
• แชมเปญหนึ่งขวด อาจรินได้ถึง 12 แก้ว
• วิสกี้หนึ่งขวดขนาด 750 c.c. ผสมบางๆจะได้ประมาณ 30 แก้ว
• เบียร์สดจะอยู่ที่ 100 แก้ว / ถัง

การประสานงานกับฝ่ายจัดเลี้ยง / สถานที่

ทางสถานที่จัดงาน และฝ่ายจัดเลี้ยง มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ให้บริการอยู่แล้ว แต่ราคาย่อมสูงกว่าปกติ เจ้าภาพจึงนิยมนำไปเอง ฝ่ายจัดเลี้ยงส่วนใหญ่จะไม่ได้คิดค่าเปิดขวด แต่บางที่ก็คิดขึ้นอยู่กับระเบียบของสถานที่ โดยมากก็ต่อรองกันได้ ตรงนี้ทางเจ้าภาพต้องสอบถามกันให้เรียบร้อยก่อน หน้าที่ของฝ่ายจัดเลี้ยงก็จะเตรียมแก้ว และดูแลแช่ไวน์-แชมเปญไว้ให้ ส่วนถ้ามีเครื่องดื่มที่พิเศษนอกเหนือจากนี้เช่นพันช์ หรือค็อกเทลสูตรพิเศษก็ควรคุยกันไว้ล่วงหน้า โดยส่วนใหญ่เครื่องดื่มจะต้องถูกนำไปส่งให้ทางฝ่ายจัดเลี้ยงก่อนวันงาน 1-2 วัน เพื่อความเรียบร้อยในการเตรียมงาน ส่วนในวันงานเมื่อใกล้เวลางานทางเจ้าภาพก็ควรส่งตัวแทนที่ดูแลเรื่องเครื่องดื่มไปดูแลความเรียบร้อย กรณีที่เจ้าภาพมีวิสกี้หรือไวน์ชั้นเยี่ยมสำหรับแขกผู้ใหญ่โดยเฉพาะ ก็ควรมอบหมายให้ใครซักคนเป็นผู้ดูแลเป็นพิเศษ

cr : bathvenues.co.uk, apracticalwedding.com, weddingwire.com

มาเนรมิต ธีมงานแต่งสีเขียว ให้สวยหรูดูแพงกันเถอะ ^^

เข้าสู่ช่วงซัมเมอร์อากาศก็ร๊อนนนร้อนใช่ไหมล่ะคะ แล้วทำไมเราต้องทำทุกอย่างให้ร้อนตามด้วยล่ะจริงไหม? อย่างเช่นคู่รักที่กำลังจะมีข่าวดีหรือว่าที่บ่าว-สาวที่ได้ฤกษ์จัดงานแต่งงานช่วงซัมเมอร์นี้ เราสามารถทำให้งานแต่งงานของคุณดูมีบรรยากาศเย็นสบายขึ้นได้ในพริบตา งั้นเรามาลองหาธีมงานที่จะช่วยดับร้อนกันหน่อยดีกว่า แค่เลือกสีถูกปุ๊บจากงานแต่งงานในฤดูร้อนก็จะกลายเป็นงานแต่งงานในฤดูใบไม้ผลิสวยๆ แบบต่างประเทศปั๊ป อย่างเช่น ธีมงานแต่งสีเขียว ที่ทั้งเท่ทั้งคูลสุดๆ

ธีมงานแต่งงานส่วนใหญ่ในปัจจุบันนิยมกำหนดออกมาเป็นธีมสี เพื่อให้ง่ายต่อการจัดตกแต่งและแขกร่วมงานสามารถเลือกชุดมาร่วมงานได้ง่ายกว่าการกำหนดธีมแปลกๆ แพรว wedding ก็มีธีมงานสีคูลๆ ที่อยากมานำเสนอ ที่จะช่วยให้งานแต่งงานของคุณไม่ไปซ้ำกับคู่อื่นที่แต่งงานในช่วงนี้ นั่นคือ….ธีมงานแต่งงานสีเขียว นั่นเองจ้า อย่าเพิ่งปิดกันไปก่อนนะคะ เพราะสีเขียวที่เราจะนำมาเป็นธีมงานนั้นไม่ใช่เขียวแว๊นส์หรือเขียวอื๋ออะไรขนาดน้านนน แต่เป็นสีเขียวเข้มออกมาทางมรกตที่ทำให้ดูแพง ดูไฮโซขึ้นได้ในทันที และสามารถเลือกเป็นธีมงานแต่งงานที่จัดได้ทั้งอินดอร์และเอ้าท์ดอร์เลยด้วย แถมยังเลือกของตกแต่งมาจัดได้ไม่ยากอย่างที่คิด อย่างเช่น ต้นไม้ใบไม้ที่นำมาประดับก็เป็นสีเขียวแล้วจริงไหม

การเลือกสีเขียวที่มีโทนตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไปจะช่วยให้การออกแบบภายในงานของคุณดูคมชัดและสบายตา นอกจากนี้เสีเขียวยังเป็นโทนสีวรรณะเย็นซึ่งจะส่งผลให้บรรยากาศภายในงานดูเป็นธรรมชาติ จรรโลงจิตใจ เพราะสีเขียวจะช่วยกระตุ้นให้รู้สึกสดชื่น ซึ่งอาจช่วยให้บ่าว-สาวลดความตื่นเต้นและมีสมาธิกับงานในช่วงพิธีการมากขึ้นได้ด้วยน้า นอกจากนี้สีเขียวยังสื่อความหมายของการเริ่มต้น การเจริญเติบโต และความสัมพันธ์ที่ดี เปรียบได้กับการเริ่มต้นชีวิตคู่ของบ่าว-สาวที่ความสัมพันธ์หรือความรักจะค่อยๆ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วยไงคะ

งั้นเรามาดูตัวอย่างธีมงานแต่งงานสีเขียวกันดีกว่าว่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และอะไรบ้างที่เราต้องเก็บรายละเอียดให้งานแต่งงานของคุณตรงกับธีมงานแต่งงานสีเขียวมากที่สุด อ้อ! ลืมบอกทริคเด็ดไปเลย…ธีมงานแต่งงานแม้จะเป็นธีมสีเขียว แต่ก็ควรใช้สีขาวเข้ามาช่วยแซมให้ดูน่ารักกิ๋บเก๋ทันสมัยมากขึ้นด้วยนะ จะเป็นยังไงตามมาดูเลย

การ์ดงานแต่งงาน ใช้สีเขียวมรกตหรือสีเขียวเข้มแล้วเลือกใช้ตัวหนังสือสีทองที่จะทำให้ดูโดดเด่น หากใครชอบแบบมินิมอลจะเลือกเป็นการ์ดสีขาว ลายตกแต่งรูปใบไม้สีเขียวเข้มไปจนถึงซองใส่การ์ดก็ดูอาร์ตไปอีกแบบ

การจัดโต๊ะอาหาร ใช้ความเป็นธรรมชาติ อย่างเช่น ใบไม้ ใบหญ้า เข้ามาช่วยแต่งแต้มให้มีสีเขียวสบายตา

เค้ก ก็สามารถใช้ใบไม้เข้ามาช่วยตกแต่งได้ด้วยเช่นกัน แต่ต้องเป็นเค้กสีขาวนะจ๊ะถึงจะสวย

การประดับตกแต่งสถานที่ เลือกใช้สิ่งของที่มีสีเขียวและสีขาวแจมด้วยใบไม้สีเขียวอีกเช่นเคย

แบ็คดรอปหรือซุ้ม ใช้วัสดุจากใบไม้สีเข้มทำให้เขียวชอุ่มต้อนรับตั้งแต่หน้างานเลยนะคะ

อาหาร เลือกเมนูอาหารที่มีสีเขียวอ่อนหรือประดับตกแต่งจานอาหารให้มีสีเขียวเข้ามา

เครื่องแต่งกาย ชุดเจ้าสาวยังไงก็ต้องเป็นสีขาวแต่อาจทำให้โดดเด่นขึ้นด้วยเครื่องประดับที่มีเพชรหรือพลอยสีเขียว สำหรับเจ้าบ่าวสามารถเลือกพ็อคเก็ต สแควร์ หรือโบไทสีเขียวมาใส่ได้ ส่วนเพื่อนเจ้าสาวแน่นอนอยู่แล้วต้องเป็นชุดเดรสสีเขียวเข้มเท่านั้นจ้า

แต่ถ้ายังสนใจให้ซัมเมอร์นี้ร้อนแรงยิ่งขึ้น สามารถตามมาดูไอเดียฮอตๆ ได้ที่ 5 ไอเดีย เนรมิตธีมงานแต่งงานซัมเมอร์ให้น่ารักกิ๊บเก๋ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

Cr : insideweddings.com, pinterest.com

บ่าวสาวหลายคู่อาจจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า จัดดอกไม้ในงานแต่ง อย่างไรดีให้เป๊ะปัง มาดูกันค่ะ ว่าเลือกสีโทนไหน ใช้ดอกไม้แบบใดกันดี

บอกก่อนเลยว่า จัดดอกไม้ในงานแต่ง ทำไม่ยาก เพียงแค่เลือกชนิดดอกไม้และสีให้ถูกแค่นั้นเอง 

1. โทนสีขาว

แน่นอนว่าใช้สีขาวยังไงก็รอด เพราะเหมาะกับทุกสี ทุกธีมงาน และดอกไม้สีขาวก็สามารถหาได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ดอกทิวลิป ดอกกุหลาบ หรือดอกลิลลี่ หากเลือกมาประดับคู่กับใบไม้สีต่างๆ ก็ยิ่งเพิ่มความสวยงามให้มากขึ้นด้วย

2. โทนสีชมพู

สีชมพูมาแนวหวานๆ แต่ก็สามารถแซมสีขาว สีเขียว ได้นะคะ ยังไงก็รอด หรือจะลองจัดคู่กับดอกไม้สวยๆ อย่างเช่น สีแดงของดอกกุหลาบ หรือสีฟ้าของดอกไฮเดนเยียร์ ก็ให้อารมณ์ความเป็นพาสเทลที่สวยงามไปอีก

3. โทนสีส้ม

มาแนวเปรี้ยวๆ แซ่บๆ แต่แอบหวานนะจ๊ะ โทนนี้เหมาะกับงานที่ต้องการความสดใส หากใช้ดอกไม้โทนสีส้ม บนโต๊ะก็จะโดดเด่น ดังนั้นผ้าปูโต๊ะควรหาสีขาวหรือส้มให้เหมือนกันนะจ๊ะ เพื่อที่สีจะได้ไม่ตัดกันจนเกินไป

4. สีฟ้า

มาแบบหวานแต่ซ่อนความเท่เอาไว้ต้องสีฟ้าเลยค่ะ ซึ่งสีฟ้าสามารถเข้ากับสีชมพูหรือสีขาวได้เป็นอย่างดี ซึ่งดอกไม้ที่จะมาช่วยเสริมให้โต๊ะอาหารมีความโดดเด่น ก็อาจจะเลือกเป็น ดอกคาร์เนชั่น ก็ได้นะคะ เพราะให้สีฟ้าที่สวยงาม พร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดูน่ารักให้อารมณ์ความเป็นกึ่งทางการได้เป็นอย่างดี

5. ใช้โทนสีแตกต่างกัน

ออกแนวคัลเลอร์ฟูลกันไปเลยค่ะ แต่ถ้าจะให้สวยลองจับคู่โทนสีที่คล้ายกันก็จะดีกว่านะคะ เช่น เหลือง ส้ม แดง , ขาว ชมพู แดง เพื่อที่ mood & tone ของสีจะได้ออกแนวใกล้เคียงกัน ไม่โดดเด่นหรือตัดกันมากจนเกินไป หรือจะลองเล่นกับการไล่เฉดสี เราว่าก็ดูโมเดิร์นสวยหรูไปอีกแบบเหมือนกันนะคะ

ทำได้ไม่ยากและยังช่วยเพิ่มความสวยงามเป๊ะปังให้กับโต๊ะอาหารในงานแต่งได้ขนาดนี้ บ่าวสาวต้องไม่พลาดที่จะลองนำไปเป็นไอเดียในงานแต่งของตัวเองกันนะคะ หรือถ้าอยากจะเปลี่ยนแนวมาทำ หวานได้อีกกับ 10 ไอเดียแชนเดอเลียดอกไม้หลากสไตล์ในงานแต่ง ก็เริดไม่แพ้กัน

ภาพจาก : marthastewartweddings.com / Pinterest.com

ของขวัญในงานแต่ง เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ เพราะงานแต่งงานคืองานที่สำคัญในชีวิตของบ่าวสาวนั่นเอง ทั้งเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว ที่กำลังมองหาของขวัญน่ารักๆ มอบให้กันและกันอยู่ อาจจะยังไม่มีไอเดียว่า เอ๊ะ เราจะซื้ออะไรให้เจ้าสาวดีนะ หรือ เจ้าสาวอาจจะคิดว่า เราจะซื้ออะไรตอบแทนแก๊งเพื่อนสาวที่มาช่วยงานและคอยช่วยเหลือทุกอย่างจนงานออกมาดีไม่มีที่ติ

แพรว wedding เลยรวบรวม ของขวัญในงานแต่ง สุดคิ้วท์มาให้ ไม่ว่าจะเป็น เจ้าสาวมอบให้เพื่อนเจ้าสาว หรือเพื่อนเจ้าสาวมอบให้เจ้าสาว ก็ทำให้ผู้รับยิ้มแป้นแน่นอน เพราะเป็นของขวัญที่เอาใจสาวๆ สุดๆ ไปเลยล่ะจ่ะ

1. ลิปสติก

ไอเทมสำคัญที่ผู้หญิงทุกคนต้องมีต้องใช้ก็คือ ลิปสติกค่ะ ซึ่งก็มีหลายแบรนด์และหลายราคา แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับใจว่าพร้อมจะเปย์ไหวรึเปล่า ซึ่งก่อนอื่นสาวๆ ควรเลือกสีให้ตรงกับลักษณะและบุคลิกของคนที่จะซื้อให้ก่อนนะจ๊ะ เพื่อที่จะได้เป็นของขวัญชิ้นโปรด ที่หยิบมาใช้บ่อยๆ แถมหยิบมาทีไรก็จะได้นึกถึงกันไปอีก

2. เครื่องประดับคริสตัล

สาวๆ ก็ต้องเหมาะกับอะไรที่ดูเรียบหรู และให้ลุคดูแพง เครื่องประดับคริสตัลจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ตอบโจทย์จุดนี้ได้ดี แต่ไม่ต้องเลือกให้ดูเวอร์วังอลังการมากจนเกินไป ไม่อย่างนั้นจะทำให้ผู้ใส่ดูเหมือนกำลังจะออกไปแสดงหน้าโรงลิเก เอาเป็นว่าเลือกเป็นแบบเรียบๆ และเป็นของชิ้นเดียว เช่น สร้อย แหวน ต่างหู ที่สามารถสวมใส่ในงานได้ และสามารถนำไปสวมใส่ในชีีวิตประจำวันได้ด้วย (ก็จะดีมาก ^^)

3. ครีมบำรุงผิว

เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สาวๆ หลายคนเลือกใช้ ยิ่งเป็นครีมที่มีกลิ่นหอมคล้ายกับการฉีดน้ำหอมด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ผู้รับเลิฟมากเข้าไปอีก แต่งานนี้อาจจะต้องใช้เทคนิคส่วนตัวเดาใจผู้รับกันหน่อยว่า กลิ่นไหนที่จะถูกใจเจ้าหล่อนมากที่สุด ซึ่งคุณอาจจะต้องใช้ทักษะในการจดจำกลิ่นของหล่อนหน่อยว่า ปกติเขาใช้กลิ่นประมาณไหนแล้วไปหากลิ่นที่ใกล้เคียง หรือหากมีโอกาสได้ไปทริปสละโสดที่ต่างจังหวัดด้วยกัน ก็อย่าลืมส่องกระเป๋าเครื่องสำอางดูนะคะว่าเขาใช้กลิ่นอะไรอยู่

4. ผ้าขนหนู

แน่นอนว่าผู้รับจะได้ใช้เจ้าของสิ่งนี้แน่ๆ จ่ะ เพราะเป็นสิ่งที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน โดยอาจจะเลือกลวดลายการ์ตูนที่เพื่อนสาวชอบ หรือสีที่เพื่อนสาวปลื้ม แต่ที่สำคัญไปกว่าลายหรือสีก็คือ ควรจะเลือกเป็นผ้าขนหนูอย่างดีที่มีเนื้อผ้านุ่ม ให้สัมผัสละมุนเมื่อซับลงไปบนผิว สุดท้ายก็แค่บรรจุลงกล่องสวยๆ หรือจะใส่ถุงผ้าโปร่งก็น่ารักดีนะคะ

5. ชุด Air Diffusion

นอกจากข้าวของสวยๆ งามๆ ที่มักจะถูกใจสาวๆ เป็นพิเศษแล้ว สิ่งของอะไรที่ให้กลิ่นหอมก็มักจะดึงดูดสาวๆ ได้เช่นกัน ดังนั้น Air Diffusion คืออีกหนึ่งสิ่งที่เหมาะแก่การมอบเป็นของขวัญ เพราะผู้รับสามารถนำไปวางในห้องนอน ห้องน้ำ หรือห้องรับแขกได้ ลองเลือกกลิ่นที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาความเครียด , เพิ่มความสดชื่น ดู แค่นี้คนรับก็ยิ้มแก้มปริแล้วล่ะจ่ะ

ถ้ายังรู้สึกว่า อยากได้ของที่หลากหลายมากกว่านี้ สามารถอ่านเพิ่มได้เลยที่  10 ไอเดียของขวัญให้เพื่อนเจ้าสาวสุดซี้

ภากจาก : Pinterest.com