เมื่อพูดถึงงานเฉลิมฉลองแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้และแทบจะเรียกว่าเป็นของคู่กันเลยก็คือ เครื่องดื่ม โดยถ้าพูดถึงในส่วนของชนิดที่ไร้แอลกอฮอล์หรือซอฟต์ดริงก์นั้นมักไม่ใช่ปัญหาในการเตรียมการของเจ้าภาพมากนัก เพราะส่วนใหญ่ฝ่ายจัดเลี้ยงจะคิดรวมไปในค่าอาหารเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ต้องคิดวางแผนให้ดีและคิดให้หนัก ก็คือเครื่องดื่มชนิดมีแอลกอฮอล์นี่แหละค่ะ วันนี้ แพรว wedding เลยขอนำสิ่งที่คุณควรรู้ไว้หากตัดสินใจจะใช้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศในงานของคุณนะคะ 😉
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานแต่งงาน
ในช่วงของการฉลองที่ไม่ว่าจะเป็นงานค็อกเทล บุฟเฟต์ หรือโต๊ะจีนนั้นมักจะมีไวน์แดง เบียร์ และวิสกี้ กับแชมเปญสำหรับดื่มอวยพร หรือคุณอาจเลือกใช้เหล้าผสมสีสวยๆ วอดก้า จินโทนิก มาร์ตินี่ เบียร์สด พันช์หรืออื่นๆ ตามต้องการก็ได้ ในส่วนของบรั่นดีที่มีราคาแพงมากนั้นไม่จำเป็นนัก ถึงคุณไม่จัดไว้ก็คงไม่มีแขกเรียกหา เพราะคนส่วนมากเข้าใจดีว่ามีราคาค่อนข้างสูง
ชนิดของเครื่องดื่ม
การเลือกชนิดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรคำนึงถึงรสนิยมของแขกส่วนใหญ่ เราควรจะต้องทราบ หรือคาดการณ์ถึงความชอบในการดื่มของแขกที่จะมาร่วมงาน เช่น แขกผู้ใหญ่มักจะนิยมดื่มไวน์ หรือวิสกี้ ส่วนแขกที่อายุน้อยลงมาอาจจะไม่ค่อยดื่มไวน์ แต่จะนิยมวิสกี้ หรือเบียร์สดมากกว่า สำหรับการกะปริมาณ ปกติแขกหนึ่งคนจะหยิบเครื่องดื่มชั่วโมงละหนึ่งแก้ว แต่อย่าลืมว่าแขกบางคนอาจดื่มเฉพาะซอฟต์ดริงก์ และคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ มักเลือกเครื่องดื่มเพียงชนิดเดียวตลอดคืน ไม่นับแชมเปญที่ดื่มอวยพร นอกจากนี้ สำหรับงานค็อกเทล แขกส่วนหนึ่งอาจกลับก่อนงานเลิก
ปริมาณในการเสิร์ฟ
เครื่องดื่มหนึ่งขวดรินได้กี่แก้ว จะขึ้นอยู่กับขนาดของแก้วที่ใช้และปริมาณที่รินนะคะ การเสิร์ฟเครื่องดื่มในงานเลี้ยงนั้นโดยทั่วไปมักรินน้อยกว่าปกติ
- ไวน์หนึ่งขวดขนาด 1000 c.c. รินได้ประมาณ 7-10 แก้ว
- แชมเปญหนึ่งขวด อาจรินได้ถึง 12 แก้ว
- วิสกี้หนึ่งขวดขนาด 750 c.c. ผสมบางๆจะได้ประมาณ 30 แก้ว
- เบียร์สดจะอยู่ที่ 100 แก้ว / ถัง
การประสานงานกับฝ่ายจัดเลี้ยง / สถานที่
ทางสถานที่จัดงาน และฝ่ายจัดเลี้ยง มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ให้บริการอยู่แล้ว แต่ราคาย่อมสูงกว่าปกติ เจ้าภาพจึงนิยมนำไปเอง ฝ่ายจัดเลี้ยงส่วนใหญ่จะไม่ได้คิดค่าเปิดขวด แต่บางที่ก็คิดขึ้นอยู่กับระเบียบของสถานที่ โดยมากก็ต่อรองกันได้ ตรงนี้ทางเจ้าภาพต้องสอบถามกันให้เรียบร้อยก่อน หน้าที่ของฝ่ายจัดเลี้ยงก็จะเตรียมแก้ว และดูแลแช่ไวน์-แชมเปญไว้ให้ ส่วนถ้ามีเครื่องดื่มที่พิเศษนอกเหนือจากนี้เช่นพันช์ หรือค็อกเทลสูตรพิเศษก็ควรคุยกันไว้ล่วงหน้า โดยส่วนใหญ่เครื่องดื่มจะต้องถูกนำไปส่งให้ทางฝ่ายจัดเลี้ยงก่อนวันงาน 1-2 วัน เพื่อความเรียบร้อยในการเตรียมงาน ส่วนในวันงานเมื่อใกล้เวลางานทางเจ้าภาพก็ควรส่งตัวแทนที่ดูแลเรื่องเครื่องดื่มไปดูแลความเรียบร้อย กรณีที่เจ้าภาพมีวิสกี้หรือไวน์ชั้นเยี่ยมสำหรับแขกผู้ใหญ่โดยเฉพาะ ก็ควรมอบหมายให้ใครซักคนเป็นผู้ดูแลเป็นพิเศษ
cr : bathvenues.co.uk, apracticalwedding.com, weddingwire.com