พิธีปูเตียงเรียงหมอน ในพิธีแต่งงานไทยทำอย่างไรถูกตามหลักประเพณี

พิธีปูเตียงเรียงหมอน ทำตามนี้รับรองว่าเป๊ะ

อีกหนึ่งพิธีในงานแต่งงานไทยตามธรรมเนียมคือ พิธีปูเตียงเรียงหมอน ที่มักจะให้คู่ผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ่าวสาวเคารพนับถือและครองรักกันมายาวนานอย่างมีความสุขเป็นผู้ทำพิธีให้ แพรว wedding เลยจะมาแจกแจงสิ่งของที่ต้องใช้และลำดับขั้นพิธีการให้ว่าที่บ่าวสาวได้เตรียมตัวกัน

1. เมื่อถึงฤกษ์ปูที่นอน ฝ่ายเจ้าสาวจะเชิญคู่สามีภรรยาที่เป็นคนดีมีศีลธรรมที่บ่าวสาวเคารพนับถือ และครองกันมายาวนาน มีชีวิตราบรื่น อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า มีลูกหลานสืบสกุล มาเป็นผู้ทำหน้าที่ปูที่นอนให้

2. เมื่อถึงฤกษ์เรียงหมอน ก็ให้คู่สามีภรรยานำของที่ฝ่ายหญิงเตรียมไว้ คือ หินบดยา, ฟักเขียว, แมวตัวผู้สีขาว (ในที่นี่อาจใช้เป็นแมวสีเทาหรือแมวลาย ที่เป็นรูปปั้นแมวแทนเพื่อความไม่ยุ่งยาก), ถั่วทอง งา และข้าวเปลือก 1 กำมือ (ทั้งสามอย่างนี้อาจนำมาจากที่เหลือใช้ในการโปรยขันหมากก็ได้), น้ำฝน 1 ขัน โดยให้นำของทั้งหมดนี้วางไว้บนฟูก

3. จากนั้นคู่สามีภรรยาจะกล่าวคำให้พรแก่บ่าวสาว พร้อมกับลงไปนอนบนฟูกหรือที่นอนพอเป็นพิธี โดยฝ่ายชายจะต้องนอนทางขวา ซึ่งสาเหตุที่ฝ่ายชายต้องนอนทางขวาก็เป็นเพราะ ในอดีตที่ยังมีการรบพุ่งกันอยู่ ฝ่ายชายเป็นผู้ถือดาบออกรบ ส่วนฝ่ายหญิงอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน เมื่อถึงคราวต้องปกป้อง ผู้ชายจะได้ใช้มือซ้ายจับมือผู้หญิงหลบอยู่ด้านหลัง โดยถือดาบฟาดฟันศัตรูนั้นเอง

4. และขณะที่ฝ่ายชายกำลังจะลุกขึ้นจากที่นอน ให้ฝ่ายหญิงพูดว่า “ฝันถึงสิ่งที่เป็นมงคล” ถึงตอนนี้ฝ่ายชายก็จะทำนายว่า “สงสัยจะเกิดเรื่องดีงาม”

5. เมื่อคู่สามีภรรยาลุกขึ้นจากเตียง ก็ให้นำถั่วและงามาโปรยที่พื้นดินเพื่อเป็นการเสี่ยงทาย หากเมล็ดที่โปรยไว้เจริญงอกงามก็หมายความว่า ชีวิตคู่ของบ่าวสาวจะราบรื่นและยั่งยืนนั่นเอง

โดยหินบดยา ฟักเขียว และแมว จะต้องวางไว้บนที่นอนหรือหัวเตียงเป็นเวลา 3 คืนถึงจะเคลื่อนย้ายออกได้ ซึ่งความหมายของของใช้ทั้งหมดในพิธีนี้นั้นก็มาจากคำให้พรจากผู้ใหญ่ที่ว่า “ให้เย็นเหมือนฟัก ให้หนักเหมือนแฟง ให้อยู่เรือนเหมือนก้อนเส้า ให้เฝ้าเรือนเหมือนแมวคราง” ซึ่งก้อนเส้าในที่นี้ก็คือ หินเตาไฟในครัวแต่เนื่องจากหากนำมาใช้อาจจะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนจึงเปลี่ยนมาใช้เป็นหินบดยาแทน

เอาเป็นว่าหากบ่าวสาวคู่ไหนอยากจะมีพิธีนี้ในงานแต่งของตัวเองแล้วล่ะก็ อย่าลืมทาบทามผู้ใหญ่พร้อมกับให้ท่านทั้งสองให้พรแก่คุณตามที่เราบอกไว้ เพื่อที่ชีวิตคู่ของบ่าวสาวจะได้ร่มเย็นเป็นสุขและรักกันจนแก่เฒ่าตราบนานเท่านาน

แจกจ้า!! สคริปต์งานแต่งสำหรับพิธีปูเตียงเรียงหมอนเวอร์ชั่น 2 ภาษา

ภาพ : Smallmoon Photo

8 อย่างขอให้เช็คและเห็นกับตาเมื่อออนทัวร์สถานที่จัดงานแต่งงานในฝัน

ก่อนเลือก สถานที่จัดงานแต่งงาน 8 เรื่องนี้ที่บ่าวสาวต้องเช็กให้ดี

แพรว wedding เคยแนะนำไปแล้วว่า เวลาไปดู สถานที่จัดงานแต่งงาน ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง และต้องถามรายละเอียดมากมายแค่ไหน แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นค่ะ เพราะว่าที่ทั้งหลายต้องทำการสำรวจสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ ซึ่งเป็นอะไรที่มากกว่าแค่การเยี่ยมหน้ามองภาพรวม จะได้เพิ่มความมั่นใจสุดๆ ในการเลือกว่าทุกจุดผ่านสายตาของคุณมาแล้วจริงๆ ไงคะ

1. ที่จอดรถ

ไม่ควรคิดแค่ว่าวนเข้าไปจอดรถตอนที่ไปเยี่ยมชมสถานที่คือการสำรวจแล้ว เพราะที่จอดรถของโรงแรมหรือสถานที่รับจัดงานแต่งงานอาจมีหลายโซน ดังนั้นควรสำรวจให้ครบ จะได้รู้ว่าสะดวกสบายจริงไหม อยู่หางจากจุดจัดงานมากน้อยแค่ไหน และปลอดภัยกับแขกแน่นอนหรือเปล่า

2. ห้องน้ำ

แค่จำนวนกับความห่างไกลจากบริเวณจัดงานยังไม่พอนะคะ สภาพห้องน้ำ ความแรงของระบบน้ำและกลิ่นภายในห้องน้ำ รวมถึงความถี่ในการทำความสะอาดคือสิ่งที่ต้องสำรวจด้วยตา ทดลองใช้กับตัวเสมอ

สถานที่จัดงานแต่งงาน

3. ครัว อุปกรณ์ครัวและจุดพักอาหาร

ข้อนี้อาจจะยากไปสักหน่อยถ้าจะให้บุกครัว เพราะสถานที่จัดงานส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายให้บ่าวสาวเข้าไปเจาะลึกได้ขนาดนั้น ฉะนั้นสำรวจเท่าที่ทำได้ เช่น จุดพักอาหารสะอาดไหม บ่งบอกสุขอนามัยที่มั่นใจได้หรือเปล่า รวมถึงไกลจากสายตาแขกไหม ไม่ใช่ว่าอยู่บนเส้นทางที่แขกเดินผ่าน นอกจากนี้จานชามช้อนส้อมก็ต้องส่องดูว่าสะอาดไหม สภาพดีหรือเปล่า ยิ่งเป็นงานเลี้ยงแบบซิตดาวน์ดินเนอร์หรือโต๊ะจีนยิ่งห้ามพลาดเด็ดขาด

4. ที่จอดรถทีมงาน

ประเด็นนี้สัมพันธ์กับธีมงานที่เลือกค่ะ ถ้าคุณลือกจัดงานใหญ่โตอลังการโครงสร้างสุดบิ๊ก บริเวณที่จอดรถต่อเนื่องมายังห้องจัดงานอยู่ห่างไกลกันแค่ไหน เพราะถ้าไกลมาก ความลำบากเกิดกับทีมงานแน่นอน หรือแม้แต่ประตูเข้าอาคารเล็กจะเอาโครงสร้างเข้ามาได้ไหม เรื่องนี้จึงต้องรู้ไว้นะคะ

5. ห้องเปลี่ยนชุด

เดี๋ยวนี้เทรนด์จัดงานแต่งงานช่วงเช้าจบกลางวันมีเยอะค่ะ จึงมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบ Day Use ให้กับบ่าวสาว จึงทำให้คุณต้องไม่พลาดเข้าไปสำรวจห้องนี้อย่างถี่ถ้วนว่าขนาดห้องใหญ่พอที่จะให้ใครเข้าไปได้บ้าง แต่งหน้าทำผมได้ไหม และถ้ามีเพื่อนเจ้าสาวแก๊งใหญ่จะใช้เตรียมตัว ห้องนี้สามารถรองรับได้หรือเปล่า

สถานที่จัดงานแต่งงาน

6. เฟอร์นิเจอร์ในพิธี

คำว่ามีโซฟาและโต๊ะกลางให้ไม่ได้บอกสภาพมาด้วย เป็นเรื่องอันตรายที่อย่าได้วางใจเชียวค่ะ คุณควรขอดูเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นๆ ให้เห็นกับตา และพิจารณาว่าสภาพดีอยู่ดังคำกล่าวของเจ้าของสถานที่หรือเปล่า ถ้าดูแล้วสะเทือนใจมากเพราะสภาพไม่ไหวจะทนหรือถ้านำมาใช้จะหลุดธีม จะได้จัดหามาเข้าพิธีเองสบายใจกว่า

7. ลิฟท์และบันไดเลื่อน

บันไดเลื่อนอยู่ตรงไหน กว้างหรือแคบ และลิฟท์มีกี่ตัว สภาพน่ากลัวหรือเปล่า รวมถึงความสะอาดภายในลิฟท์โอเคใช่ไหม ไม่ใช่ว่าทุกครั้งที่เลื่อนขึ้นลงส่งเสียงดังมากจนต้องลุ้น ฉะนั้นลิฟท์เป็นแบบไหน มีกี่ตัว อย่าทำเพียงแค่เยี่ยมหน้าไปมองดู ต้องลองใช้งานจริงด้วยนะคะ

8. ระบบแสงและเสียง

แค่เปิดไฟนิ่งๆ ไม่พอนะคะ ไฟทุกประเภทในห้องจัดเลี้ยงหรือบริเวณจัดงานต้องเปิดให้เห็นแสงจริงเสมอ และถ้าเป็นการจัดงานเอาท์ดอร์ ก็ควรไปลองเทสระบบไฟในเวลาเดียวกับที่จะจัดงาน เพื่อนำมาพิจารณาว่า แสงสว่างยามนั้นเพียงพอกับที่ต้องการหรือเปล่า ซึ่งในการเทสนี้ ขอให้เทสคู่ไปกับระบบเสียงด้วยหลักการเดียวกันค่ะ

เคล็ด(ไม่)ลับอีกต่อไป 5 วิธี ลดค่าใช้จ่ายสถานที่จัดงานแต่งงานของคุณ

เรื่อง : Hoyamemoria
ภาพ : pxhere

3 สิ่งบนรองเท้าแต่งงานที่ว่าที่เจ้าสาวต้องพิจารณาก่อนสอยมาสวมในวันแต่งงาน

คนจะเป็นเจ้าสาวนี่สารพัดสิ่งจริงๆ นะคะ ไหนจะต้องมีธีมงานแต่งที่อยากได้ ชุดแต่งงานที่อยากใส่ เรฟเฟอเรนซ์หน้าผมที่อยากทำ ยังไม่วายต้องมาตัดสินใจเรื่อง รองเท้าแต่งงาน อีก แพรวเวดดิ้งขอบอกเลยว่ารองเท้าแต่งงานนี่ไม่ใช่จะเป็นรองเท้าอะไรก็ได้ หรือเลือกจากแค่ความชอบความสวยภายนอกอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ เพราะยังมีอีก 3 ปัจจัยเล็กๆ น้อยๆ บนรองเท้าแต่งงานที่ว่าที่เจ้าสาวต้องมองหาก่อนเลือกซื้อด้วย

 

ความยาวของชุดแต่งงาน

เจ้าสาวทุกคนอย่าเพิ่งรีบซื้อรองเท้าแต่งงานเด็ดขาดหากยังไม่ได้ชุดแต่งงานที่จะใส่ในวันสำคัญ เพราะความยาวของชุดแต่งงานมีผลต่อการเลือกรองเท้าเจ้าสาวด้วยนะ และยังขึ้นอยู่กับความสูงของเจ้าสาวด้วยอีกส่วนหนึ่ง หากชุดแต่งงานกระโปรงยาวเสมอพื้นเมื่อเจ้าสาวสวมรองเท้าแล้วชายกระโปรงชุดแต่งงานควรที่จะยาวเลยพื้นออกมาเล็กน้อย  ซึ่งโดยปกติแล้วดีไซเนอร์จะมีเทคนิคการตัดเย็บชุดแต่งงานที่สามารถเพิ่มความยาวของชายกระโปรงได้อยู่แล้ว จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเวลาเจ้าสาวไปลองชุดแต่งงานถึงต้องนำรองเท้าแต่งงานไปด้วยนั่นเอง แต่ถ้าเจ้าสาวใส่ชุดแต่งงานแบบหน้าสั้นหลังยาว หรือชุดแต่งงานแบบสั้น อันนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเจ้าสาวแต่ละคนแล้วว่าต้องการความสูงขนาดไหนที่ตัวเองสามารถเดินได้อย่างถนัด

ความสบายเมื่อสวมใส่

นี่เกือบจะต้องเป็นปัจจัยแรกๆ ที่เจ้าสาวจะต้องพิจารณาหากจะต้องเลือกความสูงของรองเท้าเจ้าสาว เพราะมีเจ้าสาวหลายคนที่เมื่อถึงวันจริงกลับมีความกังวลในรองเท้าที่ตัวเองเลือกมา เช่น เดินไม่ถนัด ยืนไม่สะดวก ใส่แล้วไม่สบายเท้า เพราะฉะนั้น อย่าทำให้วันสำคัญของคุณต้องเต็มไปด้วยความกดดัน ยิ้มไม่ได้ หัวเราะไม่ออก มีความสุขไม่เต็มที่เพราะดันมีปัญหากับรองเท้าส้นสูงที่ใส่อยู่ แพรวเวดดิ้งขอแนะนำให้เจ้าสาวเลือกระดับความสูงของรองเท้าที่คุณคุ้นเคย หรือเมื่อใส่แล้วสามารถยืนและเดินไปรอบๆ งานได้อย่างสบาย  หากคู่ไหนใส่แล้วรู้สึกต้องฝืนยืนหรือต้องพยายามเดินให้ได้ เราขอให้คุณเปลี่ยนคู่ใหม่ซะ และสำหรับสาวๆ ที่ไม่เคยใส่ส้นสูงมาก่อนเลย และกังวลว่าจะสะดุดหกล้มกลางงานแต่ง แพรวเวดดิ้งขอแนะนำให้สวมรองเท้าสไตล์แฟลต หรือรองเท้าแบบไม่มีส้นไปเลยค่ะ เพราะปัจจุบันมีแบรนด์รองเท้ามากมายที่ดีไซน์รองเท้าเจ้าสาวแบบส้นแบนออกมาเพื่อตอบโจทย์ว่าที่เจ้าสาวสไตล์นี้ ที่สำคัญยังใส่แดนซ์ต่อในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ได้เลยด้วย

ความสบายใจ

นอกจากความสะดวกสบายทางกายภาพแล้ว ความสบายทางใจของเจ้าสาวก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นเจ้าสาวที่สูงกว่าเจ้าบ่าวอยู่แล้วด้วย แพรวเวดดิ้งขอให้เจ้าสาวทำใจให้สบายๆ ในเรื่องนี้ เพราะปัจจุบันตามร้านรองเท้ามี แผ่นเสริมส้น หลายระดับให้เจ้าบ่าวเลือก ส่วนเจ้าสาวก็อาจจะต้องลดระดับความสูงเพื่อช่วยคุณเจ้าบ่าวสักหน่อย เท่านี้ก็เป็นอันลงตัว หรือคู่ไหนที่สูงเท่ากันพอดีเป๊ะแต่พอเจ้าสาวใส่ส้นสูงก็ดันสูงเกินเจ้าบ่าวไปซะนี่ ก็สามารถแก้ปัญหาด้วยการให้เจ้าบ่าวเสริมส้นได้เหมือนกัน แต่ถ้าเกิดพลาดพลั้งในวันงานเจ้าสาวดันสูงกว่าเจ้าบ่าวจริงๆ งานนี้ช่างภาพของบ่าวสาวจะเป็นผู้ช่วยในการหามุมที่ดีที่สุดเพื่อให้คุณทั้งคู่ดูสมดุลในภาพถ่าย

ถึงวันจริงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็แค่ทำใจให้สบาย ปล่อยวางทุกอย่าง แล้วมีความสุขไปกับวันสำคัญของชีวิตก็พอ

อ่านเพิ่มเติม >>> 7 ทิปส์ช่วยเจ้าสาวหารองเท้าเจ้าสาวสุดเพอร์เฟกต์ในวันสำคัญ

ภาพ : https://unsplash.com

วิธี ดูแลผิว ในชีวิตประจำวัน ที่เจ้าสาวหลายคนเหมือนจะรู้แต่กลับทำผิดอยู่ก็เป็นได้!

การ ดูแลผิว เพื่อเตรียมเป็นเจ้าสาวที่คุณทำอยู่ทุกวันถูกต้องจริงแล้วหรือเปล่านะ? ลองเข้ามาเช็คกับเราดูเพราะสิ่งที่ทำอยู่อาจจะผิดจนกลายเป็นทำร้ายผิวก็เป็นได้

ว่าที่เจ้าสาวส่วนใหญ่จะเข้มงวดกับการ ดูแลผิว ช่วงเวลาที่ใกล้จะแต่งงานมากเป็นพิเศษ อาจจะลงทุนกับสกินแคร์ดีๆ หรือเข้าคอร์สดูแลผิวหน้า แต่เชื่อไหมคะว่าหลายคนตกม้าตายกับเรื่องง่ายๆ จนทำให้คอร์สดูแลผิวแสนแพงที่ลงทุนไป หรือสกินแคร์ดีๆ ที่อุตส่าห์รูดบัตรเครดิตซะเกือบเต็มวงเงินเพื่อซื้อมาใช้ ดันไม่ได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพซะงั้น? ลองอ่านเช็คลิสต์ต่อไปนี้จากเราดู ว่าคุณทำสิ่งต่อไปนี้หรือเปล่า? ถ้าใช่ รีบ ลด ละ เลิก เพื่อผิวเจ้าสาวสวยเพอร์เฟ็คทันวันแต่งงานของเราพอดีค่ะ

ดูแลผิว1. คุณไม่ใส่ใจกับการล้างเครื่องสำอาง

ต่อให้สกินแคร์ดีแค่ไหน ถ้าคุณทำความสะอาดเมกอัพบนผิวหน้าออกไม่หมด ประสิทธิภาพของสกินแคร์ก็ไม่สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เต็มที่ แถวซ้ำร้ายสิ่งสกปรกตกค้างบนผิวยังทำให้สิวขึ้นและหน้าหมองคล้ำอีกต่างหาก การทำความสะอาดผิวที่ถูกต้องสำหรับสาวๆที่แต่งหน้าเป็นประจำ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณใช้รองพื้น) คือการเช็ดทำความสะอาดเมกอัพด้วยคลีนเซอร์ก่อนแล้วจึงใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าต่อ และทราบไหมคะว่าถ้าหากคุณใช้เมกอัพชนิดกันน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาสคาร่าหรืออายไลเนอร์ คุณควรจะใช้คลีนเซอร์ที่ช่วยลบเมกอัพประเภทกันน้ำออกโดยเฉพาะด้วย

2. คุณไม่ทาครีมกันแดด!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนแผดเผาราวกับว่าห่างจากดวงอาทิตย์แค่ 1 กิโลเมตร อย่าคิดว่าการที่คุณไม่ได้เผชิญแสงแดดโดยตรงหมายความว่ารังสียูวีและอินฟราเรดต่างๆ จะไม่สามารถเข้ามาทำร้ายผิวของคุณได้ อย่างน้อยเราแนะนำว่าหากคุณเป็นสาวออฟฟิศที่ส่วนใหญ่ใช้เวลาในร่ม ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ประมาณ 30 สำหรับผิวหน้า รวมทั้งผิวกายด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากคุณต้องเผชิญแสงแดดระหว่างวันมากหน่อย (อารมณ์ประมาณว่าเดินไปทานข้าวกลางวันไกล) เราแนะนำให้เพิ่มเป็น SPF 50 ค่ะ อย่าลืมเลือกที่ค่า PA++++ (สี่บวกขึ้นไป) เพราะนั่นหมายความว่าครีมกันแดดชิ้นนี้สามารถปกป้องครอบคลุมชนิดของรังสีในแสงแดดได้มากกว่าค่ะ

3. คุณสครับผิวหน้าบ่อยเกินไป

อะไรที่มากเกินไปก็ใช่ว่าจะดีนะคะ การสครับผิวหน้าบ่อยๆ เป็นการทำให้เซลล์ผิวที่แข็งแรงยังไม่ทันจะได้ถึงคราวผลัดเซลล์ผิวก็ต้องหลุดลอกออกไปซะก่อน เซลล์ผิวชั้นล่างที่ยังไม่แข็งแรงจำเป็นต้องขึ้นมาแทนที่ ทำให้ผิวหน้าของเราอ่อนแอ แสบแดง และระคายเคืองง่ายขึ้นค่ะ ทางที่ดีไม่ควรสครับผิวเกินกว่า 2-3 สัปดาห์ครั้ง เพราะเซลล์ผิวของคนเรามีรอบในการผลัดเซลล์ประมาณ 28 วัน หรือ 1 เดือนนั่นเองค่ะ

4. คุณแต่งหน้าทุกวันโดยไม่ปล่อยให้ผิวได้พักบ้าง

เข้าใจนะว่าสาวๆหลายคนก็อยากดูสวยทุกวัน แต่การแต่งหน้าบ่อยๆ ยิ่งถ้าใช้รองพื้นเนื้อหนาหนักทุกวัน จะเป็นการลดอ็อกซิเจนที่เข้าสู่ผิวของเรา และยังเสี่ยงต่อการมีเมกอัพตกค้างบนผิวเยอะกว่าคนที่ไม่ได้แต่งหน้าบ่อยๆ นอกจากจะเป็นสิวง่าย ผิวหน้าของเราจะดูไม่สดใส  อย่างน้อยในวันพักผ่อนที่ไม่ได้ออกไปทำงาน ปล่อยให้ผิวหน้าได้พักหายใจบ้าง หรือถ้าจำเป็นต้องแต่งหน้าจริงๆ แทนที่จะใช้รองพื้นแบบปกปิดหนา เปลี่ยนมาใช้คุชชั่นหรือบีบีครีมเนื้อบางเบาแทนดูค่ะ

5. คุณขยี้ตาบ่อย!

รู้ไหมคะว่าผิวรอบดวงตาของคนเราบอบบางแค่ไหน การขยี้ตาแรงๆ เป็นการทำร้ายผิวรอบดวงตาให้หย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยง่ายยิ่งขึ้นไปอีก ต่อให้ลงทุนกับอายครีมราคาแพงแสนแพง ก็ไม่อาจจะช่วยได้ถ้าคุณยังคงชอบขยี้ตาแรงๆค่ะ เราแนะนำว่าถ้าหากรู้สึกคันดวงตา ลองใช้น้ำตาเทียมช่วยหยอดตา ใช้ไม้พันสำลีช่วยแคะเศษผงในตาออกอย่างเบามือ หรือลองลืมตาในน้ำเกลือที่ใช้ล้างคอนแทคเลนส์ดูค่ะ (สำหรับสาวๆที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ ดวงตาของเราจะยิ่งระคายเคืองได้ง่าย เราแนะนำให้ใส่ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด และควรมีอย่างน้อย   2-3 วันในหนึ่งสัปดาห์ที่เราพักดวงตาโดยการใส่แว่นสายตาแทนค่ะ)

เป็นยังไงบ้างคะ? ว่าที่เจ้าสาวคนไหนอ่านแล้วพบว่าตัวเราเองแอบทำตามบางข้อ ถ้าลด ละ เลิก ซะวันนี้ เรารับรองว่าจะช่วยให้ผิวของคุณดูสวยสดใสขึ้นในวันสำคัญแน่ๆค่ะ ถ้าชอบคอนเท้นต์นี้ของเรา ลองคลิกอ่าน บิวตี้ไอเท็มใหม่ที่จะช่วยปกป้องผิวไม่ให้คล้ำแดด เหมาะสำหรับเจ้าสาวงานแต่งกลางแจ้งสุดๆ

เทคนิคการเลือกเค้กแต่งงานสวยๆ ที่เข้ากับธีมงานแต่งของบ่าวสาวได้อย่างลงตัว

เค้กแต่งงานสวยๆ กับเคล็ดลับการเลือกให้เข้ากับธีมงานแต่ง ไม่ว่าจะอินดอร์ หรือเอ้าท์ดอร์ก็ลงตัวเป๊ะ

เค้กเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมให้งานแต่งงานดูดีขึ้น แถมมีให้เลือกมากมายหลายแบบ แต่จะเลือกยังไงให้เหมาะกับรูปแบบงานแต่งงาน แพรว wedding มีเคล็ดลับการเลือก เค้กแต่งงานสวยๆ มาฝากแล้วค่ะ

รูปแบบเค้ก vs รูปแบบงานแต่ง

“สิ่งที่ต้องนำมาประกอบการตัดสินใจในการเลือกเค้กแต่งงานนอกจากเรื่องคอนเซปต์งาน รูปแบบที่ต้องการ และงบประมาณแล้ว ยังต้องคำนึงถึงขนาดห้อง ความสูงของเพดาน อุณหภูมิห้อง และจำนวนแขกด้วย และขึ้นอยู่กับความชอบของบ่าวสาว และคอนเซปต์ของงานเป็นหลัก”

เค้กแต่งงานสวยๆ

เค้กแต่งงานจริง

เหมาะสำหรับงานในบรรยากาศอินดอร์ที่มีเครื่องปรับอากาศเพื่อป้องกันไม่ให้เค้กละลาย และหากอยากให้งานดูอบอุ่นเป็นกันเอง แนะนำให้เลือกเค้ที่มีขนาดไม่สูงหรือไม่ใหญ่มากนัก

เค้กแต่งงานปลอม

เหมาะสำหรับงานในห้องโถงขนาดใหญ่ เช่น ห้องบอลรูมของโรงแรม หรืองานเอ้าท์ดอร์ที่มีแขกค่อนข้างเยอะ เนื่องจากเค้กมีขนาดใหญ่และตกแต่งแบบจัดเต็ม จึงสามารถเป็นจุดศูนย์กลางของงาน ช่วยให้งานดูหรูหราอลังการมากยิ่งขึ้น

คัพเค้ก

เหมาะสำหรับงานอินดอร์ที่จัดขึ้นภายในห้องที่มีขนาดเล็กถึงปานกลาง เพราะคัพเค้กไม่ต้องการพื้นที่ในการตัดเค้กมากนัก นอกจากนี้ยังสะดวกและไม่เสียเวลาในการเสิร์ฟเค้กให้กับแขกผู้ใหญ่ด้วย

การดูแลเค้กจริงในงานเอ้าท์ดอร์

สำหรับบ่าวสาวที่อยากได้เค้กแต่งงานจริงทั้งหมดในงานแต่งแบบกลางแจ้ง ขอแนะนำให้ใช้เค้กจริงไม่เกิน 5 ชั้น และเป็นแบบคลุมน้ำตาลฟองดองต์เพื่อช่วยรักษารูปทรงเค้กตามต้องการ เพราะเค้กคลุมด้วยน้ำตาลจะใช้ครีมระหว่างชั้นเค้กค่อนข้างน้อยจึงละลายช้ากว่าเค้กแบบครีมปกติ อีกทั้งการคลุมด้วยน้ำตาลยังช่วยยืดอายุการเก็บรักษาเค้กให้นานยิ่งขึ้น และยังสามารถตกแต่งเค้กได้หลากหลายแบบอีกด้วย

สิ่งสำคัญในการจัดงานเอ้าท์ดอร์คือ ควรนำเค้กออกมาใกล้เคียงกับเวลาเริ่มงานมากที่สุด หากนำออกมาในช่วงตัดเค้กได้จะยิ่งดี เพื่อคงความสวยงามของเค้กไว้ให้นานที่สุด นอกจากนี้การให้ทางร้านเข้าไปเซตเค้กให้หน้างานก็ถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายระหว่างการขนส่งและการจัดตกแต่งได้

งบประมาณกับการเลือกเค้กแต่งงาน

หากมีงบประมาณค่อนข้างจำกัดแต่อยากได้เค้กแต่งงานดีไซน์สวยๆ ขอแนะนำให้เช่าเค้กแต่งงานปลอมเพราะมีต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำกว่าการใช้เค้กจริงหรือคัพเค้ก (ควรโทร. จองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์) ส่วนบ่าวสาวที่มีกำลังทรัพย์ขึ้นมาหน่อย ลองเพิ่มความพิเศษและเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับเค้กด้วยการเสิรมตุ๊กตาบ่าวสาวเป็นรูปของตัวเองใส่ชุดแต่งงาน หรือจะออกแบบเค้กเป็นรูปทรงต่างๆ แล้วตกแต่งด้วยของที่ชอบเพื่อบ่งบอกความเป็นตัวตนที่แท้จริง (ควรสั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน) นอกจากจะดูดีไม่ซ้ำใครแล้ว ยังเป็นการสร้างความทรงจำพิเศษร่วมกันของคู่บ่าวสาวด้วย

รู้เคล็ดลับการเลือกเค้กแต่งงานไปแล้ว ก็ถึงเวลาไปเลือกเค้กแต่งงานสวยๆ ต่อเลย >>> 9 ไอเดียเค้กแต่งงานเก๋ทรงพลังแถมยังเซฟงบ

ภาพ unsplash.com, pinterest.com

เซตเครื่องประดับ เจ้าสาวเลือกยังไงให้สวยถูกใจและคุ้มค่า

เซตเครื่องประดับ นอกจากจะสวยแล้ว ต้องดูร่วมสมัยด้วยนะ เรามีเคล็ดลับให้ได้ทั้งสองสิ่งนี้มาฝาก

เซตเครื่องประดับ ก็เหมือนแฟชั่นเสื้อผ้าที่ไม่ได้มีแบบเดียวเท่านั้น และถ้าเมื่อไหร่ที่เทรนด์แฟชั่นหมุนเวียนเปลี่ยนไป เครื่องประดับที่ใช้ก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบตามไปด้วย แต่หากคุณต้องการเครื่องประดับที่ใส่กี่ปีหรือกี่ครั้งก็ยังเข้าได้กับทุกยุคสมัย ขอให้เลือกเครื่องประดับที่ออกแบบในสไตล์คลาสสิค เน้นความเรียบหรูจะดูดีที่สุด เพราะสามารถใส่ได้กับเสื้อผ้าทุกรูปแบบ แถมยังนำไปใช้ได้ทุกโอกาสอีกด้วย

นอกจากที่บ่าวสาวจะเลือกเครื่องประดับแบบคลาสสิคที่ให้ความเรียบหรู สิ่งที่ควรคำนึงถึงคู่กันไปด้วยคือความสวยงาม และควรเลือกเครื่องประดับเพื่อการลงทุนด้วย นั่นก็คือ การให้ช่างออกแบบหรือเลือกแบบที่ใช้ได้นานและหลายโอกาส และถ้าเมื่อไหร่ที่ต้องเลือกระหว่างเครื่องประดับที่มีเพชรเม็ดเล็กหลายๆ เม็ด กับเพชรเม็ดใหญ่ไม่กี่เม็ดบนตัวเรือนชิ้นเดียว ขอแนะนำให้เลือกแบบหลัง เพราะมูลค่าในอนาคตจะมากกว่าแน่นอน

เซตเครื่องประดับ

ก่อนเจอนักออกแบบต้องเตรียมสิ่งนี้

ต้องชัดเจนว่าจะนำเครื่องประดับชิ้นที่ว่านี้ไปใช้ในโอกาสอะไร เพื่อให้นักออกแบบช่วยแนะนำความเหมาะสมโดยรวมว่า จะจับคู่กับชุดที่จะใส่ออกงานนั้นๆ หรือรูปแบบชุดแต่งงานให้ลงตัวได้อย่างไร และสามารถนำไปใช้ต่อในโอกาสอื่นได้หรือไม่

ถัดมาคือต้องการเครื่องประดับที่ทำจากตัวเรือนอะไร ประกอบด้วยอัญมณีประเภทใด และควรตั้งงบประมาณในใจไว้ด้วยสักนิด จากนั้นค่อยพูดคุยกับนักออกแบบเพื่อให้ช่วยสรุปสิ่งที่ต้องการออกมาเป็นเครื่องประดับที่ตรงใจคุณมากที่สุด

เครื่องประดับกับระยะเวลาการผลิต

โดยส่วนมากเครื่องประดับแบบสั่งทำระยะเวลาในการผลิตจะอยู่ที่ประมาณ 1 เดือน (หรือถ้าใครกลัวเสร็จไม่ทันวันงานจะล่วงหน้านานกว่านี้ก็ได้นะ) นับตั้งแต่การออกแบบ  ขึ้นตัวเรือน ปรัแต่ง และฝังเพชร แต่ถ้าหากบ่าวสาวไม่ได้ต้องการที่จะสั่งทำเครื่องประดับเซตใหม่นั้นแบบ made to order แล้วล่ะก็ ก็อาจจะเลือกจากเครื่องประดับสำเร็จรูปที่ทางร้านมีได้เลย โดยอาจจะสอบถามพูดคุยกับนักออกแบบเพื่อให้ทางร้านช่วยคัดเลือกตัวเรือนที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่บ่าวสาวต้องการมากที่สุดมาให้ลองก่อน จากนั้นจึงปรับรูปแบบที่มีอยู่ให้ตรงตามความต้องการของบ่าวสาวมากที่สุด และด้วยวิธีการที่ว่านี้จะทำให้ระยะเวลาในการผลิตเครื่องประดับชิ้นหนึ่งลดลงไปอีก

เมื่อเลือกเครื่องประดับที่ทั้งสวย ร่วมสมัย และคุ้มค่าแล้ว ก็ต้องเลือกให้เข้ากับชุดแต่งงานด้วยนะ >>> ชุดเจ้าสาวและเครื่องประดับชิ้นสำคัญ … ความลงตัวที่ต้องเข้ากัน

ภาพ : unsplash.com, pinterest.com

บ่าวสาวฝึกไว้เคล็ดลับเด็ดๆ ช่วยให้ยิ้มได้ยาวแบบเหงือกไม่แห้ง

อีกหนึ่งปัญหาที่ บ่าวสาว เจอกันมานับไม่ถ้วนในวันแต่งงานคือเรื่องของการยิ้มค่ะ โดยเฉพาะบางคนที่ปกติเป็นเสือยิ้มยาก จะกังวลมากเป็นพิเศษว่าในงานแต่งงานที่ต้องเจอแขกนับร้อยต้องถ่ายรูปนับพันช็อต จะทำยังไงให้ยิ้มได้ยาวนาน และยิ้มยังสวยหล่อสดใสเห็นฟันส่องประกาย ง่ายนิดเดียวค่ะ ลองทำตามวิธีที่แพรว wedding หามาฝากดู

ลูกอมช่วยท่านได้

‘ยิ้มจนเหงือกแห้ง’ คำนี่แหละค่ะ ที่บ่าวสาวทั้งหลายเจอมากับตัว เพราะต้องยิ้มทุกรูปและยิ้มกับทุกคนที่มาร่วมยินดี แต่พอยิ้มไปมากๆ ปากก็เริ่มหุบไม่ลงและดูเหมือนรอยยิ้มนั้นจะถูกล็อกไว้บนใบหน้าแบบแปลกๆ เพราะอากาศสัมผัสกับทั้งเหงือกและฟันจนรู้สึกว่าส่วนนี้จะแห้งไปโดยปริยาย พอจะหุบยิ้มแล้วเผยยิ้มใหม่ก็มีอาการติดๆ นิดนึง งั้นก็หาลูกอมมาเป็นตัวช่วยสิคะ เพราะเมื่อคุณอมลูกอม น้ำลายที่ออกมาจะช่วยลดอาการเหงือกและฟันแห้งได้ค่ะ

ดื่มน้ำและใช้ลิ้นแอบเลียฟันหน้า

เตือนตัวเองไว้เลยค่ะว่าผ่านไปสัก 10 นาทีต้องจิบน้ำสักหน่อย เพื่อให้ในช่องปากมีความชุ่มชื้น ถ้ามองไม่เห็นใครจะเสิร์ฟน้ำให้ก็ใช้มือยกขึ้นมาบังหน้าแล้วเอาลิ้นเลียฟันหน้าอย่างไว เพื่อใน้บ่อน้อยในปากหน้าที่ให้ความชุ่มชื่น จากนั้นเปิดปากยิ้มต่อไปอย่างมั่นใ

บางทริคที่เราบอกไปอาจอ่านแล้วตลกๆ ดูแล้วจะเป็นไปได้ไง แต่ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้ ลองดูไม่เสียหาย จริงไหมคะ

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการวางแผนแต่งงานและดูไอเดียงานแต่งเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : maxpixel.freegreatpicture.com

เคล็ดลับใส่รองเท้าส้นสูงให้ปังในวันแต่งงาน แบบไม่ต้องทนทรมานปวดหลัง!

สำหรับเจ้าสาวที่ต้องการใส่รองเท้าส้นสูงให้ออกมาสวยดูดีเป็นสง่า เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่า รองเท้าเจ้าสาว แบบส้นสูงนั้น ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เจ้าสาวดูสวยโดดเด่นในชุดเจ้าสาว แต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธอีกเช่นกันว่าการใส่รองเท้าส้นสูงเป็นความทรมานของผู้หญิงอีกอย่างหนึ่ง เจ้าสาวหลายคนเมื่อเสร็จงานถึงกับนิ้วชาไปหลายวัน แต่ในเมื่อเจ้าสาวจะต้องใส่ส้นสูงตลอดทั้งงานแล้ว วันนี้ แพรว wedding เลยมีวิธีสำหรับการใส่รองเท้าส้นสูงให้สวยและไม่ปวดล้าในวันแต่งงานมากเกินไปมาฝากกันค่ะ ที่สำคัญเจ้าสาวจะต้องไม่กังวลจนเกินไป จับมือชายหนุ่มคนข้างๆ แล้วเดินบนรองเท้าส้นสูงเริดๆ เข้าประตูวิวาห์อย่างมีความสุขจะดีกว่านะคะ 😉
  • เลือกรองเท้าที่ใส่สบาย

เพราะว่าในวันงาน เจ้าสาวจะสวมใส่รองเท้าส้นสูงเกือบตลอดทั้งงาน เหนือสิ่งอื่นใดเจ้าสาวควรเลือกรองเท้าที่ใส่แล้วรู้สึกสบาย ไม่หลวมและไม่คับจนเกินไป เมื่อใส่แล้วลองใส่เดินไปรอบ ๆ เพื่อที่จะดูว่ารองเท้าสามารถรองรับพื้นแต่ละแบบได้ดีแค่ไหน ถ้าจะให้ดีควรไปเลือกซื้อรองเท้าในช่วงบ่ายถึงเย็น เพราะนั่นเป็นช่วงเวลาที่เท้าคุณขยายเต็มที่

  • ยืนหลังตรงเข้าไว้

การบาลานซ์น้ำหนักบนส้นสูงถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันจะช่วยทำให้เจ้าสาวไม่รู้สึกเมื่อยมากเกินไป หลักการง่าย ๆ สำหรับการยืนบนส้นสูงนาน ๆ นั่นคือเจ้าสาวควรยืนหลังตรง อกผาย ไม่เดินก้มหน้า ลองเจ้าสาวคนไหนได้ทำตามแบบนี้ เชื่อเลยว่าจะช่วยบรรเทาอาการความปวดล้าจากการใส่รองเท้าส้นสูงได้เยอะเลย

  • ค่อยๆ เดิน ค่อยๆ ก้าว

ขอให้เจ้าสาวทุกคนจำไว้ว่าในวันนั้นคุณคือคนที่สวยที่สุดในงาน ดังนั้นอย่าได้กังวลมากเกินไป เจ้าสาวควรที่จะผ่อนคลายเยื้องย่างอย่างสง่างามดุจนางพญาบนรองเท้าส้นสูงคู่สวย เดินช้า ๆ ไม่ต้องรีบ หรือถ้าเกิดเหตุสะดุดยังไงก็ขอให้มีสติ อย่าเพิ่งตกใจ แล้วก็เดินต่อไปให้เป็นปกติมากที่สุด

  • หลีกเลี่ยงรองเท้าส้นเข็ม

ถ้าเจ้าสาวไม่อยากร้องโอดโอยเพราะอาการเจ็บปวดเท้า แนะนำให้เจ้าสาวทั้งหลายหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นเข็มอย่างเด็ดขาด เพราะรองเท้าส้นสูงลักษณะนี้ จะทำให้เจ้าสาวปวดหลังและเมื่อยขา เผลอ ๆ พอใส่แล้วปวด อาจส่งผลให้เจ้าสาวหน้าหงิกหน้างอ และควรเลือกรองเท้าที่มีลักษณะส้นแชมเปญแทน ซึ่งมีฐานรองเท้าที่รองรับน้ำหนักได้มากนั่นเอง แต่ถ้าคุณว่าที่เจ้าสาวคนไหนคุนเคยแลเซียนกับการใส่รองเท้าส้นเข็มอยู่แล้วก็ลุยเลยค่ะ

  • พกรองเท้าสองคู่

สุดท้ายเจ้าสาวควรเตรียมรองเท้าส้นสูงไว้สองคู่ เพื่อที่ว่าเกิดรองเท้าคู่ใดคู่หนึ่งอาจส้นหลุด เจ้าสาวอย่างเราจะได้มีรองเท้าไว้สำรองทันท่วงที ที่สำคัญเจ้าสาวควรสวมใส่รองเท้าส้นสูงคู่นั้น ๆ ให้ชินเท้า ก่อนจะใส่จริงในวันงาน เพราะจะได้ชินกับรองเท้าในวันแต่งงานโดยไม่ต้องกลัวรองเท้ากัดอีกด้วยค่ะ

อ่านคำแนะนำและดูไอเดียเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานเพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

cr : easyweddings.co.uk, lover.ly, twotwentyone.net

4 กฏเหล็กสร้างชุดเพื่อนเจ้าสาวให้สวยเป๊ะในราคาสบายกระเป๋า

จะเริ่มต้นหา ชุดเพื่อนเจ้าสาว ยังไงดีน้าาาา..??

พอเพื่อนสาวได้ฤกษ์สละโสด บรรดาเพื่อนสาวทั้งหลายต่างก็เตรียมตัวเป็นการใหญ่เพื่อที่จะเป็นเพื่อนเจ้าสาวสุดเพอร์เฟกต์ในวันสำคัญ โดยเฉพาะเรื่อง ชุดเพื่อนเจ้าสาว นั้นต้องสวยเด่นมีคอนเซปต์ไม่เหมือนใคร แต่นั่นละค่ะ งานดีงานเด่นก็มักจะมาพร้อมบัดเจ็ดที่มโหฬาร แต่ถ้าหากคุณอยากประหยัดแล้วจัดงบไว้เปย์อย่างอื่น แพรว wedding มี 4 กฏเหล็กต้องคิดก่อนจิ้มเลือกชุดเพื่อนเจ้าสาวมาฝาก รับรองว่างานนี้สบายใจแถมสบายกระเป๋าด้วย

1. ตั้งงบให้ชัดก่อนจิ้มเลือกชุด

ก่อนที่คุณจะเริ่มท่องโลกอินเตอร์เน็ตเพื่อหาแบบชุดเพื่อนเจ้าสาวล้านแปดในนั้น ลองมานั่งล้อมวงแล้วตั้งงบราคาชุดกันก่อนเป็นอันดับแรกดีกว่า ว่าราคาประมาณไหนที่ดูจะสมเหตุสมผลและเป็นที่พอใจของทุกคนในแก๊งมากที่สุด เพื่อที่จะได้พุ่งไปยังแบรนด์หรือร้านที่มีชุดเข้ากับราคาที่ตั้งไว้ เพื่อช่วยลดทอนเวลาและไม่ต้องมานั่งเสียเวลาเลือกร้านใหม่ทุกครั้ง ซึ่งขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้การพูดคุยแบบเปิดใจกันสักหน่อย หากใครจ่ายไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องบอกเพื่อนไปตรงๆ จะได้หาวิธีการหรือให้การช่วยเหลือกันได้อย่างถูกต้อง อย่าลืมนะคะว่าจะสวยทั้งทีก็ต้องสวยแบบสบายใจจะได้ยิ้มออกมาอย่างสดใสในวันสำคัญ

2. เผื่อค่าใช้จ่ายส่วนอื่นไว้ด้วย

ตอนที่คิดคำนวณค่าชุดนั้น อย่าลืมคิดไปถึงค่าเครื่องประดับเสริมความงามอย่างอื่นด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น รองเท้า เครื่องสำอางเซตใหม่ หรือเครื่องประดับแบบเซตที่เข้ากับชุด เป็นต้น โดยเฉพาะหากแก๊งของคุณอยากจะมีเครื่องประดับอะไรสักร่วมกันเพื่อให้เป็นซิกเนเจอร์ หรืออาจจะอยากจ้างช่างหน้าช่างผมระดับมืออาชีพมาช่วยเสกความงามในวันนั้น ทางที่ดีลิสต์ไว้เลยก็ดีนะคะ ว่าในวันนั้นนอกจากเรื่องชุดแล้ว เราอาจจะต้องเพิ่มงบเพื่อเรื่องไหนอีกบ้าง จากนั้นจึงลองมาไล่เช็กดูว่าสิ่งไหนจำเป็นหรือไม่จำเป็น และสามารถตัดบางอย่างออกไปได้หรือไม่ จะได้หาแนวทางอื่นๆ ร่วมกันใหม่แบบไม่ทรมานกระเป๋า

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

3. ตั้งคีย์ลุคแล้วไปหาชุดของตัวเอง

หากราคาเป็นเรื่องที่คุณกังวลจริงๆ (โดยเฉพาะกับเพื่อนสาวที่กำลังมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเคลียร์แบบอีรุงตุงนังเต็มไปหมด) ก็อาจจะตั้งคีย์ลุคร่วมกันอย่างเช่น สี หรือสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบชุด แบบคอเสื้อ เนื้อผ้า หรือรายละเอียดบางอย่าง แล้วปล่อยให้เพื่อนสาวแต่ละคนแยกย้ายกันไปจัดหาของตัวเอง ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะประหยัดแล้วยังช่วยให้แต่ละคนสามารถหาสไตล์หรือชุดที่ตัวเองชอบและอยากใส่จริงๆ ได้โดยยึดคีย์หลักของลุคไว้ร่วมกัน และยังเป็นการสร้างความสบายใจในเรื่องของราคาให้กับเพื่อนสาวที่มีปัญหาด้านการเงินอีกด้วย และอย่าลืมคอยอัพเดตกันเป็นประจำสม่ำเสมอนะคะว่าชุดของแต่ละคนไปถึงไหนแล้ว หากมีรูปก็อวดโชว์กันหน่อยเผื่อของบางคนมีรายละเอียดหรือดีเทลตรงไหนที่ซ้ำกันจะได้หลีกทางให้กันถูก

4. ชุดเพื่อนเจ้าสาวแบบเช่า หรือเช่าตัด

ชุดเพื่อนเจ้าสาวไม่จำเป็นต้องตัดใหม่เสมอไปหรอกนะคะ เพราะชุดเช่าสวยๆ มีให้เลือกมากมายในปัจจุบัน หรือหากใครไม่อยากใส่ชุดที่คนอื่นเคยใส่แล้วก็อาจจะเลือกเป็นบริการแบบตัดเช่าไปเลยก็ได้ เพราะชุดประเภทนี้ราคาต่ำกว่าการซื้อผ้ามาตัดเองแน่นอน แถมเรื่องดีไซน์หรือรูปแบบนั้นไม่ต้องห่วงเพราะแขวนกันเป็นราวให้เลือกกันยาวๆ ไปเลยหนึ่งวัน รับรองว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีชุดที่ถูกใจคุณแน่นอน และทางร้านก็มีบริการปรับขนาดให้เข้ากับรูปร่างของคุณอีกด้วย ที่สำคัญเราเชื่อว่าสาวๆ น้อยคนที่จะใส่ชุดเดิมที่เคยใส่แล้วไปออกงานอีกครั้ง ก็แหม ลงรูปซะเต็มไอจีขนาดนั้น หากเพื่อนมาทักว่าชุดซ้ำก็ช้ำใจหน่อยๆ เหมือนกันจริงไหมล่ะคะ

รู้อย่างนี้แล้วก็ตามไปส่องตามลิงค์นี้กันได้เลย รวมร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาวสวยงามอลังการ ราคาแค่หลักร้อยถึงหลักพัน

ภาพ : weddceremony.com, davidsbridal.com

เซฟค่าใช้จ่ายช่างภาพงานแต่งอย่างไรได้บ้าง … มาอ่านกัน

จะประหยัดค่า ช่างภาพงานแต่ง ได้ยังไงกันนะ??

ช่างภาพงานแต่ง ถือเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญที่ช่วยเก็บบันทึกโมเม้นต์ดีๆ ที่เกิดขึ้นในงานแต่ง และแน่นอนว่าภาพเหล่านั้นจะถูกเก็บไว้อีกนานเท่านาน ซึ่งปัจจุบันก็มีช่างภาพงานแต่งให้ว่าที่บ่าวสาวได้เลือกใช้บริการเยอะมากขึ้น แต่ส่วนที่ฝีมือดีๆ ผลงานเป็นที่ยอมรับก็มีราคาสูงมากเช่นกัน จนทำเอาบ่าวสาวหลายคนอาจจะสู้ราคาไม่ไหว เพราะว่าต้องนำเงินไปใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ เราเลยนำทริคมาแนะนำคู่บ่าวสาวที่กำลังหาช่างภาพงานแต่งฝีมือดี แต่ราคาไม่สูงมากนัก แล้วจะหาได้อย่างไร มีวิธีการเลือกแบบไหน มาดูกันค่ะ

ช่างภาพในงานแต่ง

1. เลือกที่ผลงาน

แน่นอนว่าสมัยนี้การจะหาข้อมูลช่างภาพงานแต่งนั้น หาได้ไม่ยากเลย อาจจะลองหาตามรีวิวเฟสบุคแฟนเพจต่างๆ คุณก็จะเจอข้อมูลแล้ว เพียงแค่เลือกจากผลงานดูก่อนว่าเราชื่นชอบแบบไหน แล้วหาช่างภาพตามที่เราต้องการ โดยไม่ได้ยึดติดกับแบรนด์ของช่างภาพ … แบรนด์ในที่นี้คือ ชื่อเสียงของช่างภาพ รวมไปถึงสตูดิโอนั่นเองค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้ช่างภาพฟรีแลนซ์ที่ฝีมือดีๆ ยังมีอีกเยอะ และมีเรทราคาปานกลาง ไม่ต่ำและไม่สูงมากก็ยังมีอยู่นะจ๊ะ

ช่างภาพในงานแต่ง

2. ระบุเวลาให้ชัดเจน

การจ้างช่างภาพงานแต่งส่วนมากจะจ้างเป็นคิวงาน เช่น ครึ่งวัน เต็มวัน งานเช้า งานเย็น โดยจะมีการระบุอย่างชัดเจนว่าเรทราคาของแต่ละช่วงเวลามีราคาเท่าใด ซึ่งในกรณีที่บ่าวสาวมีคิวงานเต็มทั้งวัน จะจ้างช่างภาพทั้งวันเลยก็ไม่แปลก แต่ถ้ามีคิวงานแต่งแค่ครึ่งเช้า หรือครึ่งวันเย็น ก็ควรจ้างตามเวลานะจ๊ะ จะได้ช่วยประหยัดลงไปได้เยอะเลย

ช่างภาพในงานแต่ง

3. ปฏิเสธบริการพิเศษ

โดยส่วนมากช่างภาพในงานแต่ง มักจะมีบริการพิเศษต่างๆ มาลดแลกแจกแถมให้กับคู่บ่าวสาวเสมอ แต่เราไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะคะ ดีค่ะ แต่เราต้องดูก่อนว่า เราต้องการภาพอะไรบ้าง ถ้าสิ่งไหนไม่จำเป็นก็ตัดออกค่ะ เอาของแถมมาลองขอเป็นส่วนลดดู เพราะมันเกินความจำเป็นกับที่เราต้องการ ถูกต้องไหมคะ

ช่างภาพในงานแต่ง

4. ถ่ายภาพเพียงอย่างเดียว

ช่างภาพบางคนจะปริ้นต์ภาพถ่ายทั้งหมดให้เราด้วย บวกกับการใส่กรอบภาพใหญ่ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นตาม ถ้าไม่ได้อยากได้ หรือคิดว่าเราไปทำเองก็ได้ ก็บอกไปเลยนะจ๊ะว่า ไม่เอาค่ะ ไม่ต้องเขินเนอะ เพราะเรากำลังประหยับงบ

ช่างภาพในงานแต่ง

5. ใช้ช่างภาพคนเดียว

คนเดียวที่ว่านี้ ไม่ใช่ทั้งงานถ่ายคนเดียวนะจ๊ะ แต่เรากำลังหมายถึง ถ้าบ่าวสาวต้องการใช้บริการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง และถ่ายภาพในงานแต่งก็ลองหาช่างภาพที่จะถ่ายให้เราไปเลยในเจ้าเดียวทั้งสองงาน โดยไม่ต้องเปลี่ยนช่างภาพ เพราะเขาอาจจะมีส่วนลดพิเศษให้เราได้ แถมบ่าวสาวยังจะได้ทำความรู้จักกับช่างภาพก่อนวันถ่ายงานแต่งงานจริงอีกด้วย

ช่างภาพในงานแต่ง

ถ้าคู่ของคุณกำลังอยากจะประหยัดงบก็ลองทำตามที่เราแนะนำไปนะจ๊ะ จะได้นำเงินไปจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้อย่างสบายใจ

นอกจากนี้ลองมาอ่านวิธีการเลือกช่างภาพในงานแต่งงานกันดีกว่ากับ 3 ข้อแนะนำ จาก 3 ช่างภาพเวดดิ้งมือโปร รวมสิ่งที่ควรรู้ก่อนจ้างช่างภาพงานแต่ง

ภาพจาก : Pinterest.com

ทิปส์ ออกกำลังกาย ฟิตหุ่นเจ้าสาวให้ปังเป๊ะฉบับ เมจิ อโณมา ไอดอลฟิตเนสตัวจริง!

ออกกำลังกาย ยังไงให้ถูกต้อง? กินยังไงให้หุ่นดี? แพรวเวดดิ้ง หาคำตอบมาให้จากกูรูสาวสายฟิตเนสสุดสตรองเจ้าของยอดฟอลโลว์กว่าสามแสนคน!

ใครที่กำลังเริ่มวางแผนฟิตหุ่นเตรียมเป็นเจ้าสาวแล้วยกมือ! ใครที่ไม่รู้ต้องเริ่มยังไงยังมือ! นั่นไงล่ะ…เรารู้นะว่ามีว่าที่เจ้าสาวหลายคนอยากเริ่มออกกำลังกายฟิตหุ่นกันมาตั้งนานละ ติดปัญหาตรงที่ว่าไม่รู้จะเริ่มยังไง แถมไม่รู้ว่าที่ทำอยู่น่ะถูกหรือผิดกันแน่ ทำไมน้ำหนักไม่ลดซะที ทำไมน้ำหนักลงช้าจัง ฯลฯ สารพัดปัญหา ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป วันนี้เราดึงตัวกูรูฟิตเนสสาวสวยที่ใครได้ยินชื่อเป็นต้องร้องอ๋อ! เพราะเธอ เมจิ – อโณมา ศรัณย์ศิขริน เจ้าของแอคเคาน์และเพจเฟซบุคที่มียอดผู้ติดตามกว่าสามแสนคน และเธอยังปรากฏตัวตามสื่อต่างๆมากมายในฐานะกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านการฟิตหุ่นสวยของจริง เรามาดูคำแนะนำการออกกำลังกายสำหรับว่าที่เจ้าสาวจากเธอกันค่ะ

ออกกำลังกาย เมจิ อโณมา

  • จุดเริ่มต้นของการฟิตหุ่นที่ถูกต้อง ต้องทำยังไงคะ?

“การจะเบิร์นได้ดีที่สุดต้องสร้างกล้ามเนื้อก่อน เมื่อมีกล้ามเนื้อมากขึ้น การเผาผลาญพลังงานก็มากขึ้น โดยสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้จากโปรตีน ธรรมชาติ เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมันและหนัง ปลา และไข่ สองคือ คาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานต่างจากน้ำตาล เพราะคาร์บจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ฉะนั้นการกินข้าว 1 จานจะค่อย ๆ เผาผลาญ เป็นน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่การกินน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ ในทีเดียวร่างกายจะเผาผลาญได้น้อยและเกิดการสะสมในร่างกาย สุดท้าย คือไขมันดี เช่น ไข่แดง ปลา ถั่ว น้ำมันพืช 100 เปอร์เซ็นต์”

  • ออกกำลังกายแบบไหนที่ช่วยให้หุ่นฟิตเฟิร์ม?

“การออกกำลังกายที่ใช้แรงต้านเยอะ ๆ จะทำให้เราได้ใช้กล้ามเนื้อ ลองเปรียบเทียบการเดินทางราบกับเดินขึ้นเขาในระยะทางที่เท่ากัน อย่างหลัง จะเหนื่อยและเมื่อยกว่า เพราะเราต้องต้านแรงโน้มถ่วง อะไรที่ใช้แรงต้าน แรงหนืด กล้ามเนื้อจะกระทำกับแรงนั้นได้ดีกว่า เพราะฉะนั้นถ้าวิ่งให้เลือก ความชันที่มากหน่อย ถ้าปั่นจักรยานก็ให้มีความหนืด ซึ่งคนที่ใช้เทคนิคนี้ จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าคนออกกำลังในระดับปกติในเวลาที่เท่ากัน และยัง ทำให้กล้ามเนื้อเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าด้วย”

  • ระยะเวลาที่ดีในการเริ่มต้นเพื่อฟิตหุ่นให้ทันวันแต่งงาน

“3 เดือนล่วงหน้า แต่ถ้าน้ำหนักเยอะแนะนำให้ล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ เขาขอแต่งงานเลย และเน้นการสร้างกล้ามเนื้อ เช่น การเล่นเวต โดยใช้ ดัมบ์เบลน้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม อาจเน้นการเล่นให้หัวไหล่กลมกลึง เพราะชุดเจ้าสาวมักเป็นเกาะอกหรือเปิดไหล่ และท่านี้ยังช่วยให้ใต้ท้องแขน ที่หย่อนยานกระชับขึ้นด้วย โดยสามารถเล่นได้ทุกวัน วันละ 15 นาทีก็ได้ เพราะกล้ามเนื้อต้องใช้เวลาในการสร้าง บางคนเล่นครึ่งชั่วโมงแต่ไม่เต็มที่ ก็ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่อยากให้ยึดติดกับเวลา เพราะจะเห็นผลช้าหรือเร็ว อยู่ที่ความเต็มที่มากกว่า”

  • ปาร์ตี้สละโสดจะทำให้หุ่นที่สร้างมาพังไม่เป็นท่าหรือไม่

“นี่คือความพังที่แท้จริงค่ะ ควรจัดปาร์ตี้ก่อนวันแต่งงาน 6 เดือน หรืออย่างต่ำ 3 เดือน เพราะแน่นอนปาร์ตี้ต้องมีแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็น พลังงานที่ร่างกายจะนำมาใช้ทีหลังสุด เจอมาหลายคนแล้วที่ตอนฟิตติ้งชุดพอดีมาก แต่พอไปปาร์ตี้มาต้องแก้ทุกราย”

  • แชร์เคล็ดลับการเลือกกินอาหารช่วงใกล้วันแต่งงาน

“งดผงชูรส แม้ว่าจะมีฉลากโลว์โซเดียมก็ตาม งดขนมปังทุกประเภทรวมถึงขนมปังธัญพืชเพราะอาจมีสารที่ให้ความเหนียว และงดโยเกิร์ต ชีส ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมก่อนหรือวันแต่งงาน เพราะ จะทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะและลำไส้ทำให้ท้องป่อง ที่สำคัญ ไม่ควร อดอาหารและขาดน้ำในวันงานเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้กระเพาะขับแก๊ส ออกมา เป็นสาเหตุให้ตัวบวม”

อ่านกันจบแล้ว ว่าที่เจ้าสาวก็อย่าลืมสร้างวินัยให้ตัวเองด้วยการทำเป็นประจำอย่าได้ขาดตกบกพร่องละ ถ้ามีวินัยซะอย่าง หุ่นสวยในวันแต่งงานจะหนีไปไหนได้!

อยากอ่านเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย? ลองคลิกอ่าน 11 ท่าออกกำลังกายกระชับต้นแขน จากเราสิ!

จะแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ทั้งทีต้อง ป้องกันยุงแมลง กันหน่อยนะ

งานแต่งงานแบบ Outdoor เป็นงานแต่งงานที่เน้นบรรยากาศธรรมชาติรับลมชมวิวนอกอาคารสถานที่ ด้วยเหตุนี้เองจึงมักประสบปัญหารบกวนจากธรรมชาติอย่างยุง มด แมลงมากวนใจ เสียบรรยากาศสบายๆ กันพอดี แพรว wedding เลยมีทริคเล็กๆ น้อยๆ มาแนะนำให้กับบ่าวสาวได้หยิบมาเลือกใช้ก่อนแขกผู้มีเกียรติจะหนีหายหมดความประทับใจในงานแต่งงานของคุณกันไปเสียก่อน และทริค ป้องกันยุงแมลง ที่จะบอกต่อไปนี้เป็นทริคที่จะรบกวนแขกน้อยที่สุด ไม่ทำให้เสียบรรยากาศ และที่สำคัญไม่เป็นอันตรายด้วย

ป้องกันยุงแมลง

ผ้าเช็ดกันยุงและสเปรย์กันยุง ในส่วนของผ้าเช็ดกันยุงจะคล้ายกับทิชชู่เปียกแต่จะมีส่วนผสมของสารสกัดจากพืชที่จะมาช่วยป้องกันยุงและแมลงแถมยังช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น สามารถวางไว้คู่กับผ้าเย็นตามโต๊ะจีนหรือจะแจกพร้อมกับของชำร่วยก็สะดวกดีค่ะ สำหรับสเปรย์กันยุงเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วเลยอยากจะแนะนำให้วางไว้ที่โต๊ะของชำร่วย โดยให้ผู้ร่วมงานเลือกหยิบแล้วแต่สะดวก เพราะผู้ร่วมงานบางท่านอาจรู้สึกเกรงใจที่จะใช้สเปรย์กันยุงฉีดระหว่างงานเลี้ยงฉลอง

ป้องกันยุงแมลง

การบูร เป็นต้นไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง มีขนาดใหญ่เป็นทรงพุ่มหนาทึบ ผงการบูรที่พวกเรารู้จักนั้นได้มาจากเนื้อไม้ของต้นการบูรให้กลิ่นหอมและยังสามารถช่วยไล่ยุงและแมลงได้อีกด้วย บางคนอาจจะเคยเห็นงานแต่งงานที่มีโต๊ะจีนจะนำผงการบูรโรยตามใต้โต๊ะใต้เก้าอี้ ซึ่งนั่นไม่ได้โรยเพื่อดับกลิ่นหรือต้องการให้มีกลิ่นหอมนะคะ แต่โรยเพื่อไม่ให้ยุงมากัดขาสวยๆ ของสาวๆ ที่มาร่วมงานนั่นเอง

ป้องกันยุงแมลง

เทียนหอม นอกจากจะนำมาใช้ประดับบตกแต่งภายในงาน สร้างบรรยาการสุดโรแมนติกแล้ว ถ้าเลือกกลิ่นที่กันยุงได้ก็จะดีไม่น้อยเลย อย่างเช่น ตะไคร้ ที่เป็นสมุนไพรที่นิยมใช้มาตั้งแต่โบราณแถมยังเป็นวิธีพื้นบ้านอีกด้วย และหาได้ง่าย มีสรรพคุณกันยุงได้แน่นอน หรือถ้าอยากได้กลิ่นกลางๆ ที่คนส่วนใหญ่ชอบจะเลือกเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์หอมละมุนก็เอาอยู่เช่นเดียวกัน

ป้องกันยุงแมลง

บริการฉีดไล่ยุงหรือแมลง ซึ่งส่วนใหญ่งานแต่งงานที่จัดในสวนทางสถานที่จะมีบริการฉีดไล่ยุงล่วงหน้าก่อนการจัดงาน โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 1,000 กว่าบาทแล้วแต่สถานที่ และไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องกลิ่นนะคะ กลิ่นจะหายทันก่อนเริ่มงานแน่นอน แต่ถึงแม้เราจะได้กลิ่นแล้วแต่ยุงหรือแมลงยังสามารถได้กลิ่นอยู่จนไม่กล้ามากวนใจแขกของคุณเลยค่ะ

ป้องกันยุงแมลง

เครื่องดักไล่ยุงไล่แมลง เจ้าเครื่องตัวนี้ใช้แสงไฟในการหลอกล่อให้เจ้ายุงเจ้าแมลงเข้ามาหา จากนั้นพัดลมที่แอบทำงานอยู่จะดูดเจ้าแมลงพวกนี้เข้าไปไม่ให้ออกมารบกวนทุกคนอีก สำหรับคู่บ่าวสาวที่มีงบเหลือๆ เครื่องดักไล่ยุงไล่แมลงก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะจัดการปัญหาจุกจิกนี้ได้นะคะ

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

ภาพจาก : asyourmind.com, orami.co.th, sukkaphapd.com,
emasscraft.org, angieslist.com, pinterest.com

เรียนรู้เคล็ดลับเลือกเวลเจ้าสาวที่ใช่ให้กับชุดแต่งงานที่ชอบในวันวิวาห์

เวลเจ้าสาว คือสิ่งที่ช่วยเพิ่มความงามและความโรแมนติกให้กับลุคของเจ้าสาวและชุดแต่งงานได้เป็นอย่างดี และไม่ว่าเจ้าสาวจะเลือกชุดแต่งงานแบบเรียบง่ายหรือชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์สุดอลังราวเจ้าหญิง เหล่าเจ้าสาวก็มักจะคอมพลีตลุคให้เพอร์เฟกต์ด้วยเวลเกือบทั้งนั้น เพราะเวลเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความเป็นเจ้าสาวที่ว่าที่ทั้งหลายอยากจะได้สัมผัสสักครั้งในวันสำคัญของชีวิต แถมเวลเจ้าสาวก็มีแบบให้เลือกมากมายพร้อมความยาวอีกหลายระดับ ที่สำคัญเวลเจ้าสาวนั้นไม่ใช่มีแค่ผ้ามุ้งหรือผ้าโปร่งบางธรรมดานะจ๊ะ เพราะเพื่อให้สมกับความหรูหราแบบเจ้าสาวก็จะต้องมีอะไรที่พิเศษสักหน่อย ไม่ว่าจะเป็น ผ้าทูลล์โปร่งบางแบบพิเศษ, ประดับด้วยลูกไม้สุดหรู, ปักลวดลายดอกไม้ หรือแม้กระทั่งการปักลูกปัดเพื่อความระยิบระยับก็มี

และสำหรับเจ้าสาวที่ตั้งมั่นว่า ฉันจะใส่เวลเจ้าสาวแบบจริงจังไม่เปลี่ยนใจในวันสำคัญนั้น เราอยากให้เจ้าสาวได้ตั้งสติ อย่าเพิ่งผลีผลามไปซื้อหรือสั่งทำเวลก่อนที่จะได้แบบชุดแต่งงานนะจ๊ะ เพราะชุดแต่งงานคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยกำหนดรูปแบบและความยาวของเวลเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นก่อนเลือกเวลเจ้าสาว เรามาพิจารณาถึงสิ่งต่อไปนี้กันก่อนดีกว่า

  • อันดับแรก ความยาวเท่าไหร่ถึงจะพอดีกับชุดแต่งงาน? ไม่ว่าจะเป็นเวลแบบ bird cage และเวลแบบ blushers ที่เป็นเวลแบบสั้นที่ปิดหน้าด้วย รวมไปถึงเวลที่มีความยาวระดับไหล่ ข้อศอก และเสมอนิ้วมือที่เป็นเวลระดับความยาวแบบปานกลาย และเวลที่มีความยาวมากๆ อย่างเช่น

เวลแบบ waltz ที่มีความยาวระดับน่อง
เวลแบบ floor-length ที่ความยาวต้องพอดีกับความยาวของชุดแต่งงานที่เจ้าสาวสวมใส่
เวลแบบ chapel-length ที่มีขนาดกว้างกว่าชุดแต่งงานของเจ้าสาว
เวลแบบ cathedral length ที่ยาวกว่าชุดแต่งงานที่เจ้าสาวสวมใส่

เมื่อเจ้าสาวทราบถึงรูปแบบและความยาวของเวลแบบต่างๆ แล้วก็อาจจะปรึกษากับร้านชุดหรือดีไซเนอร์ว่า เวลแบบไหนที่เหมาะกับชุดแต่งงานที่เจ้าสาวเลือกมากที่สุด

  • อันดับสอง จะต้องคิดถึงทรงผมที่เจ้าสาวจะทำในวันงานด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเวลเจ้าสาวนั้นเหมือนจะออกแบบมาเพื่อให้แมตช์กับทรงผมสไตล์ up-do หรือเจ้าสาวบางคนก็เลือกที่จะปล่อยผมให้ยาวสยายภายใต้เวลไปเลยก็มี หรือแม้กระทั่งผมแบบรวบครึ่งศีรษะก็สามารถสวยในเวลเจ้าสาวได้ และเพื่อการเซฟลุคในวันงานให้มากที่สุด หากว่าที่เจ้าสาวได้เวลแต่งงานมาแล้ว ก็อย่าลืมส่งภาพไปให้ช่างทำผมในวันงานได้ดูด้วย เพื่อที่ช่างจะได้ออกแบบทรงผมให้เข้ากับเวลเจ้าสาวมากที่สุด จะได้ไม่หลุดกลางงานยังไงล่ะคะ

เวลเจ้าสาว

  • อันดับสาม คิดไว้เลยว่าเจ้าสาวอยากได้เวลแบบไหน แค่ผ้าทูลล์แบบเรียบง่ายเพียงพอหรือเปล่า แล้วต้องการแค่ผ้าชั้นเดียวหรือต้องการให้ผ้าซ้อนกันเป็นเลเยอร์ หรือบางทีเจ้าสาวอาจจะต้องการบางอย่างที่สวยงามหรูหราที่ช่วยสร้างความอิมแพ็คในช่วงเปิดตัวเจ้าสาว อย่างเช่น เวลประดับลูกปัดระยิบระยับ, เวลประดับผ้าลูกไม้สุดหรู, หรือเวลที่ประดับดอกไม้ไว้อย่างสวยงาม หรือจะเป็นเลือกเป็นขอบผ้าที่เย็บไว้ด้วยผ้าริบบิ้น เพราะทั้งหมดทั้งมวลนี้จะเป็นสิ่งที่กำหนดงบประมาณสำหรับเวลของเจ้าสาวได้

  • อันดับสี่ เจ้าสาวมีงบประมาณเพียงพอหรือไม่ เพราะเวลเจ้าสาวนั้นต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการตัดเย็บและตกแต่งเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าหากเต็มไปด้วยรายละเอียดแล้วยิ่งต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ ซึ่งบางครั้งเวลที่ใช้ผ้าทูลล์แค่ชั้นเดียวแต่ประดับด้วยลูกไม้อาจจะเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าที่เจ้าคิดก็ได้ เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อจึงควรเปรียบเทียบราคาให้แน่นอนเสียก่อน หรือสอบถามกับช่างให้ชุดเจนก่อนนะคะ

ไปดูแบบเวลเจ้าสาวกันต่อเลย

ภาพ pinterest

อยาก ลดน้ำหนัก ให้หุ่นสวยทันวันวิวาห์? ไม่ต้องอดหาร แค่เปลี่ยนไปกินสิ่งเหล่านี้!

จะ ลดน้ำหนัก การกินสำคัญไม่แพ้การออกกำลังกายนะ แค่เปลี่ยนสิ่งที่กินอยู่ประจำเป็นสิ่งเหล่านี้ ไม่ต้องอดอาหารให้ทรมานไปจนถึงวันแต่งงานก็หุ่นดีได้ มาดูกัน!

เชื่อว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวหลายๆคนมีเป้าหมายอยาก ลดน้ำหนัก ให้ได้ก่อนวันแต่งงานกันทั้งนั้นใช่ไหมคะ? หลายคนเข้าใจว่าเพื่อให้หุ่นดีเราจะต้องกินให้น้อยแล้วออกกำลังกายให้หนัก แต่รู้ไหมว่านั่นเป็นสิ่งที่ผิดค่ะ! ที่จริงแล้วเราควรกินให้พอดีและเลือกกินสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ต้องอดอาหารจนทรมานก็สามารถเป็นเจ้าของหุ่นสวยฟิตเฟิร์มได้ถ้าคุณออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยอย่างมีวินัย มาดูกันเลยว่า อาหารที่เรากินอยู่ประจำ อะไรบ้างที่เราสามารถเปลี่ยนได้เพื่อหุ่นสวยทันวันแต่งงานพอดีค่ะ

 

  • เปลี่ยนจาก ข้าวขาว เป็น ข้าวกล้อง

จริงอยู่ว่าทั้งสองอย่างก็คือคาร์โบไฮเดรตเหมือนกันน่ะแหละ (แถมกินเยอะไปก็อ้วนได้เหมือนกัน) แต่ข้าวกล้องซึ่งเป็นข้าวที่ยังคงมีเปลือกบางๆห่อหุ้มอยู่นั้น นอกจากจะเต็มไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินมากกว่าข้าวขาวที่ถูกขัดเปลือกออก ส่วนเปลือกนี้ยังช่วยทำให้กระบวนการย่อยอาหารของเราช้าลง ทำให้เราอิ่มเร็วขึ้นและอิ่มนานขึ้น รวมทั้งไฟเบอร์ที่สูงขึ้นของข้าวกล้องยังช่วยให้ระบบขับถ่ายเราดีขึ้นด้วย

ลดน้ำหนัก เจ้าสาว

 

  • เปลี่ยนจาก ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ เป็น เส้นหมี่ขาว

รู้ไหมคะว่าก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ที่จะต้องเคลือบด้วยน้ำมันก่อนนำมาปรุงอาหารนั้นแคลอรี่สูงใช่เล่น! ในทางตรงกันข้าม เส้นหมี่ขาวในปริมาณเท่ากันนั้นให้แคลอรี่น้อยกว่าถึงประมาณ 20% เลยทีเดียว นับเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ให้พลังงานน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับเส้นประเภทอื่นค่ะ

ลดน้ำหนัก เจ้าสาว

 

  • เปลี่ยนจาก วุ้นเส้น เป็น เส้นบุก

สาวๆหลายคนเข้าใจว่าวุ้นเส้นให้พลังงานน้อยและเป็นอาหารสำหรับลดความอ้วน แต่เจ้าเส้นใสๆนี้ 100 กรัมให้พลังงานสูงถึงกว่า 300 แคลอรี่เลยทีเดียว! ในทางตรงกันข้าม เส้นบุกในปริมาณเท่ากัน ให้พลังงานเพียงแค่ 10 แคลอรีเท่านั้น แถมยังเปี่ยมด้วยไฟเบอร์ จึงทำให้เรารู้สึกอิ่มท้องนานกว่าด้วยค่ะ

ลดน้ำหนัก เจ้าสาว

 

  • เปลี่ยนจาก หมู หรือ ไก่ เป็น ปลา

เมื่อเทียบเปอร์เซ็นไขมันในเนื้อหมู เนื้อไก่(ยกเว้นเนื้อไก่ส่วนอก)  และเนื้อปลา แน่นอนว่าเนื้อปลาชนะขาดลอยค่ะ และเนื้อปลายังเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายที่สุดด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าไขมันไม่ดีนะคะ เพราะร่างกายคนเราก็ต้องการไขมันเพื่อใช้ประโยชน์เหมือนกัน ซึ่งจุดนี้เนื้อปลาก็ยังเปี่ยมด้วยไขมันอิ่มตัวประเภทที่ดีต่อร่างกายเราอีกด้วย

ลดน้ำหนัก เจ้าสาว

 

  • เปลี่ยนจาก นมวัว เป็น กรีกโยเกิร์ต

ในนมวัวมีแลคโตส ซึ่งสำหรับบางคนนั้นลำไส้อาจจะย่อยแลคโตสได้ไม่ดี ทำให้เกิดอาการท้องอืด หรือท้องเสียได้ บางคนกินนมวัวแล้วอาจจะรู้สึกว่าท้องป่องๆ ตัวบวมๆ ซึ่งก็อาจจะเกิดจากร่างกายย่อยแลคโตสได้ไม่ดี ในทางตรงกันข้าม กรีกโยเกิร์ตเปี่ยมด้วยจุลินทรีย์ชนิดดีที่เอื้อต่อการทำงานของลำไส้ ช่วยให้เราขับถ่ายได้ดีขึ้น ทั้งนี้อย่าลืมเลือกแบบไม่มีน้ำตาลละคะ

 

  • เปลี่ยนจาก น้ำตาลทรายหรือน้ำเชื่อม เป็น น้ำตาลหญ้าหวาน

ใครที่ติดทานของหวาน หรือน้ำดื่มหวานๆ นี่แหละตัวดีที่ทำให้เรามีพุง! ถ้าลดได้หรือเลิกไปเลยได้เราก็แนะนำนะคะ แต่ทั้งนี้เราเข้าใจว่าสำหรับบางคนที่ยังอยากทานอะไรหวานๆ เราแนะนำให้เปลี่ยนจากน้ำตาลหรือน้ำเชื่อม เป็นน้ำตาลจากหญ้าหวานหรือ สตีวิโอไซด์ (Stevioside) ซึ่งนอกจากจะให้รสหวานมากกว่าน้ำตาลในปริมาณนิดเดียว ไม่ให้พลังงาน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาก็ยังได้มีการขึ้นทะเบียนให้สามารถใช้บริโภคแทนน้ำตาลได้ แสดงว่าปลอดภัยกับร่างกายค่ะ

 

  • เปลี่ยนจาก ของทอด เป็น ของอบ

ส่วนใครที่ติดของทอด ของมัน เราแนะนำให้เปลี่ยนจากการทอด เป็นการอบแทนเพื่อลดการกินไขมันประเภทไม่ดีเข้าสู่ร่างกายค่ะ ซึ่งตอนนี้มีของกินเล่นหลายอย่างที่เน้นการอบแทนการทอดและมีขายในร้านสะดวกซื้อเอาใจสายรักสุขภาพ แต่ไม่ได้หมายความว่าพอเปลี่ยนเป็นของอบแล้วเราจะแทนเท่าไรตามใจปากก็ได้นะคะ หากเป็นประเภทมันฝรั่งซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรต ทานมากเกินไปก็อ้วนได้เหมือนกันค่ะ

 

  • เปลี่ยนจาก ผลไม้รสหวาน เป็น ผลไม้เนื้อฟู

การทานผลไม้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดีใช่ไหมคะ? แต่รู้ไหมว่าผลไม้รสหวานบางประเภท เช่น เงาะ ลิ้นจี่ ลำไย หรือทุเรียน sหากกินเยอะเกินไปก็ให้พลังงานสูงเท่าๆกับการกินข้าวมื้อใหญ่เลยละค่ะ! ลองเปลี่ยนมาทานผลไม้ประเภทเนื้อฟูที่น้ำตาลต่ำ เช่น แอ็ปเปิ้ล ชมพู่ หรือฝรั่ง แทนดีกว่าค่ะ

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ? ได้ไอเดียเปลี่ยนอาหารให้เฮลตี้ขึ้นจากเราแล้วใช่มั้ยละ? อย่าลืมออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วยเพื่อสุขภาพที่ดีและหุ่นฟิตเฟิร์มสวยในวันแต่งงานละ!

ชอบคอนเท้นต์นี้ของเรา? คลิกอ่าน วิธีการฟิตหุ่นสวยในเวลาจำกัด จากเซเลบสายสปอร์ต กันเลย!

ขอบคุณข้อมูลจาก: healthandtrend.com, huffingtonpost.com, livestrong.com

Credit Photo: foodietaste.com, thaitribune.org, coolcathotfood.com, th.openrice.com, taxclinic.mof.go.th, honestdocs.co

บ่าวสาวกับข้อควรรู้ก่อนที่จะสลักแหวนแต่งงานด้วยข้อความสุดซึ้ง

นอกจากบ่าวสาวจะเลือกดีไซน์แหวนแต่งงานได้ตามแบบที่ชอบแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่บ่าวสาวสามารถเพิ่มลูกเล่นให้กับแหวนแต่งงานได้ก็คือการ สลักแหวนแต่งงาน ด้วยข้อความสุดซึ้งไว้ที่ด้านในของแหวนก็ช่วยให้แหวนแต่งงานที่นอกจากจะมีมูลค่าทางตัวเงินแล้ว ก็ยังมีมูลค่าทางจิตใจเพิ่มขึ้นไปอีก แพรว wedding เลยนำข้อควรรู้ก่อนที่บ่าวสาวคิดจะนำแหวนแต่งงานไปสลักข้อความมาฝาก

ส่วนมากแล้วแหวนที่มีขนาดพอดีที่พอจะสลักข้อความลงไปได้นั้น มักจะมีความกว้างของตัวแหวนอยู่ที่ประมาณ 3 มิลลิเมตร เนื่องจากถ้าขนาดแหวนแคบกว่านี้จะทำให้ตัวอักษรหรือตัวหนังสือที่บ่าวสาวจะสลักลงไปนั้นมีขนาดเล็กเกินไปจนอาจทำให้อ่านข้อความนั้นไม่ออก ซึ่งเทคนิกการสลักมีอยู่ 2 อย่างคือการตอกกับการเลเซอร์

  • วิธีการตอก คือทางร้านจะมีแม่พิมพ์เป็นตัวอักษรวางลงบนตัวเรือนแล้วตอกลงไป อยากได้คำว่าอะไรก็เรียงที่ละตัวๆ ข้อเสียคือ ตัวอักษรที่ตอกลงไปจะไม่คม อาจมีบางตัวเบี้ยวๆ เพราะตอกด้วยมือ ถ้าวางพลาดองศาเดียวก็เบี้ยวตามนั้น
  • วิธีเลเซอร์ เป็นวิธีสมัยใหม่ที่ดีกว่าการตอกมากมายมหาศาล เพราะนอกจากจะรวดเร็วแล้ว ยังสามารถเลือกฟ้อนต์สวยๆ ได้มากมาย เพราะสั่งการผ่านระบบคอมพิวเตอร์ คุณจะนำโลโก้งาน ชื่อย่อ วันที่หรือประโยคอินๆ มาใส่ก็ได้ไม่มีปัญหา หรือจะวางเอียงวางตรงไม่ต้องกังวลว่าองศาจะเพี้ยนแน่นอน

สลักแหวนแต่งงาน

และจะสลักอะไรลงไปในแหวนแต่งงานดี

ข้อนี้ขึ้นอยู่กับบ่าวสาวล้วนๆ เลยค่ะ ที่คุณคิดว่ามีความหมายต่อคุณทั้งสอง ซึ่งถ้าเป็นข้อความก็อาจจะเป็นขอความสั้นๆ ที่ไม่ยาวมาก เพราะแหวนแต่งงานก็มีขนาดความยาวของวงแหวนที่เท่ากับรอบนิ้วของบ่าวสาวนั่นเอง เพราะฉะนั้นลองปรึกษากับทางร้านว่า สิ่งที่บ่าวสาวอยากจะสลักลงไปบนแหวนนั้นมีความยาวพอดีกับขนาดแหวนของคุณทั้งคู่หรือไม่ เพราะคำที่มากเกินไปอาจจะส่งผลถึงขนาดของตัวอักษรที่ต้องเล็กลงตามไปด้วย

ศึกษาร้านให้ดีและบอกวันที่ต้องการใช้งานให้แน่ชัด

หากบ่าวสาวเลือกแหวนแต่งงานแทนใจได้แล้ว อาจจะถามทางร้านว่ามีบริการรับแกะสลักข้อความลงบนแหวนหรือไม่ เพราะบางร้านอาจจะไม่ได้มีบริการตรงนี้ และบ่าวสาวควรศึกษาข้อมูลของแต่ละร้านให้ดี พร้อมขอดูตัวอย่างที่ทางร้านเคยทำไว้ว่างานออกมาละเอียดตรงตามที่บ่าวสาวต้องการหรือเปล่า พร้อมทั้งแจ้งกับทางร้านถึงวันที่จะใช้แหวนแต่งงานที่มีข้อความสลักไว้เรียบร้อยให้ชัดเจน ซึ่งบางร้านก็อาจจะทำได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหากทางร้านมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยและมีช่างมืออาชีพผู้มีประสบการณ์ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าในช่วงนั้นๆ ทางร้านมีคิวลูกค้าเยอะหรือไม่ และยังขึ้นอยู่กับความยากง่ายของข้อความหรือสิ่งที่บ่าวสาวจะแกะสลักลงไปด้วย

สิ่งสำคัญต้องตระหนักก่อนจะนำแหวนแต่งงานไปสลักข้อความ

  • ต้องแน่ใจว่าแหวนที่บ่าวสาวจะนำไปสลักนั้นพอกับนิ้วมือของบ่าวสาวแล้ว เพราะถ้าหากสลักไปก่อนแล้วมาทราบทีหลังว่าขนาดแหวนไม่พอดีต้องขยายหรือทำให้เล็กลงแล้วล่ะก็ อาจทำให้ข้อความที่บ่าวสาวสลักไว้บนแหวนนั้นบิดเบี้ยวไม่สวยงาม
  • ตรวจเช็กตัวอักษร ตัวสะกด และวันที่ให้ดี เพราะหากสลักลงไปแล้วเกิดผิดขึ้นมา บอกเลยว่าการแก้ไขนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะจ๊ะ
  • เช็กฟ้อนต์ที่บ่าวสาวอยากจะใช้ให้ดี ว่าถ้าหากอยากใช้ฟ้อนต์นี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือไม่ เพราะร้านอาจจะไม่ได้มีฟ้อนต์ที่บ่าวสาวอยากได้

ดูไอเดียและคำแนะนำเกี่ยวกับแหวนแต่งงานและเครื่องประดับอีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ pexels.com, socialstructure.us, pinterest.com

เครื่องประดับไข่มุก เลือกแมตช์กับช่วงอายุยังไงให้ดูไม่แก่ ไม่เชย

ใครว่า เครื่องประดับไข่มุก ใส่แล้วดูสูงวัย เราขอบอกดังๆ ตรงจุดนี้ว่าคิดใหม่ซะเถอะ เพราะความดีงามของมุกมีมากกว่าที่คุณคิด เพียงแต่คุณต้องเลือกสไตล์ของสร้อยคอให้เหมาะกับวัยและสีผิวของคุณแล้วสร้อยไข่มุกที่ว่าจะเลอค่าน่ามองเสมอเมื่ออยู่บนเรือนร่างของคุณ

  • ใครบ้างที่ใส่มุกได้

พูดเลยว่าเทรนด์การใส่สร้อยมุกไม่จำกัดอายุนะคะ ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวสูงวัยหรือสาวหัวเดิร์นสมัยใหม่ คุณก็หยิบสร้อยมุมาใส่ได้ทั้งนั้น แต่เทคนิกอยู่ที่การเลือกขนาดของสร้อยมุกมาใช้ ซึ่งขนาดที่ว่านี้ไม่ได้จำกัดแค่เพียงขนาดของเม็ดมุก แต่เป็นความยาวและรูปแบบของตัวสร้อยด้วยนะคะ

ถ้าคุณคือสาวรุ่นอายุในช่วง 20-30 ปี บอกเลยว่าต้องเลือกสร้อยไข่มุกที่มีเม็ดเล็ก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 7 มิลลิเมตร

เมื่อเลือกขนาดของไข่มุกแล้วแล้วก็มีดูสไตล์ของสร้อยคอกันดีกว่า ถ้าคุณอยากอินเทรน สวยสมวัย บอกเลยว่าต้องเลือกสวมสร้อยไข่มุกแบบสองเส้นซ้อนหรือสามเส้นเป็นโชคเกอร์ติดคอก็เก๋กู้ดไม่เหมือนใคร แต่ควรจับคู่กับชุดสีพื้นๆ เพื่อให้ไข่มุกโดดเด่นเต็มที่ ไม่ควรเลือกชุดหรือเสื้อที่ลายพร่อยไปทั้งตัว เพราะลวดลายละลานตาจะมาตีกับเม็ดไข่มุกได้

ถ้าคุณอายุ 30 ปีขึ้นไป แนะนำให้ขยับขนาดไข่มุกของสร้อยคอขึ้นมาอีกนิด อยู่ที่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณไม่เกิน 10 มิลลิเมตร และเลือกสร้อยแบบเส้นเดียวที่ยาวระดับหน้าอก รับรองว่าสวมแล้วแลดูหรูหราและเพิ่มความสง่างามแน่นอน

  • ไข่มุกมีหลายสี แต่สีไหนดีจะเวิร์คและอินเทรนด์

อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่ามุกอะโกย่ามีหลายเฉดสีที่บางคนอาจรู้สึกว่าสีเหลือบกันจนมองยากเหลือเกินว่าสีไหนเป็นสีไหน ทำให้เวลาที่เลือกไข่มุกมาใส่ต้องคิดแล้วคิดอีก เอาเป็นว่าวิธีง่ายแสนง่ายก็คือ เช็คสีผิวของตัวเองจากนั้นจึงเลือกจับคู่สร้อยมุกให้แมตซ์ เช่น หากคุณมีผิวสีขาวซีดออกเหลือง แนะนำให้เลือกมุกสีขาวครีม หากคุณคือสาวผิวเหลืองควรเลือกมุกสีชมพูหรือขาวอมชมพู แต่ถ้าเป้นสาวผิวสีแทนหรือสีน้ำผึ้ง ต้องเป็นเฉดขาวอมทองจะเริ่ดมากค่ะ

ทราบเทคนิกเลือกสร้อยมุกกันไปแล้วนะคะ ออกงานครั้งหน้า อย่าลืมคว้าสร้อยมุกแสนสวยมาเติมเต็มความงามด้วยนะคะ

ถ้าอยากใส่เครื่องประดับมุกในงานแต่งงานแต่ยังลังเลใจถ้าอย่างนั้นไป รู้จักไข่มุกให้มากกว่านี้ กันเถอะ

Cr. julesbridaljewellery.com

รวมคำถามสุดฮิตของว่าที่เจ้าสาวเกี่ยวกับ การเลือกชุดแต่งงาน

ยากกว่าข้อสอบก็ การเลือกชุดแต่งงาน นี่แหละ!!

แพรว wedding ขอไขปัญหาพร้อมสลัดข้อข้องใจเรื่อง การเลือกชุดแต่งงาน ด้วยชุดคำถามยอดฮิตที่ว่าที่เจ้าสาวมักจะถามไถ่อยู่เสมอ ว่าจะแต่งอย่างไรให้สวยเข้ากัน และเพื่อนเจ้าสาวนั้นก็ต้องรอดด้วย เอาเป็นว่าไปดูคำถามยอดฮิตที่มาพร้อมคำตอบที่ว่าที่เจ้าสาวอยากรู้กันเลย

  • สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกชุดเจ้าสาวให้สวยและดูดีที่สุด

เรื่องแรกที่เจ้าสาวต้องพิจารณาคือสไตล์ ว่าหุ่นของเราเหมาะกับชุดแต่งงานสไตล์ไหนเพื่อเป็นพื้นฐานในการออกแบบ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมของชุดขึ้นอยู่กับความชอบของเจ้าสาวที่สามารถเพิ่มเติมดีเทลและรายละเอียดลงไปภายหลังได้ อีกอย่างที่ต้องพิจารณาคือ พิธีการ สถานที่จัดงาน จำนวนแขก และรูปแบบของงาน เพื่อจะได้เลือกชุดได้อย่างเหมาะสมและดูดี

  • ชุดแต่งงานของดีไซเนอร์ กับชุดแต่งงานจากเวดดิ้งสตูดิโอ

การเลือกใช้ชุดต่างๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการของบ่าวสาว ถ้าต้องการควบคุมงบประมาณอาจเลือกใช้ชุดจากเวดดิ้งสตูดิโอ ซึ่งจะมาพร้อมกับแพ็คเกจต่างๆ เช่น รวมชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว ช่างแต่งหน้าทำผม และการถ่านภาพพรีเวดดิ้งด้วย ซึ่งสะดวกในแง่ที่ว่าไปที่เดียวได้ครบจบหมด แต่ต้องเลือกชุดจากดีไซน์ที่แต่ละร้านเลือกมาไว้แล้ว

แต่ถ้าเจ้าสาวต้องการชุดที่พิเศษสำหรับวันพิเศษครั้งเดียวในชีวิต อาจเลือกตัดชุดกับดีไซเนอร์ ซึ่งถึงแม้ราคาจะสูงกว่าการใช้ชุดจากสตูดิโอ แต่เจ้าสาวจะได้ชุดสวยถูกใจตรงกับความต้องการของเจ้าสาวและธีมงานมากที่สุด

  • สิ่งที่ต้องคำนึง หากเจ้าสาวไม่ต้องการชุดแต่งงานสีขาวแบบปกติ

สำหรับงานแต่งงานในเมืองไทยสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือครอบครัวและญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เพราะแต่ละครอบครัวมีธรรมเนียมปฏิบัติต่างกัน บางบ้านอาจเคร่งครัดธรรมเนียมมาก ซึ่งถ้าผ่านข้อนี้ไปได้ก็เลือกใช้ชุดสีแฟชั่นก็ได้ ซึ่งคงต้องดูว่าสไตล์งานของเจ้าสาวจะเป็นอย่างไร บรรยากาศในงานจะเป็นแบบไหน สีผิวของเจ้าสาวเหมาะกับการใส่สีอะไร หรือเพื่อนเจ้าสาวจะใส่ชุดสีประมาณไหนเพื่อให้เจ้าสาวดูเป็นคนสำคัญที่สุดเวลาถ่ายรูป

  • เลือกชุดแต่งงานยังไงให้ใช่และถูกใจมากที่สุด

ก่อนอื่นเจ้าสาวต้องรู้จักตัวเองก่อนว่า เรานั้นเป็นคนอย่างไร เช่น เป็นสาวเปรี้ยว สาวหวาน หรือสาวเท่ และควรรู้จักข้อบกพร่องของตัวเองด้วยว่าอยู่ตรงไหน จากนั้นก็ให้เลือกแบบชุดโดยเลี้ยงการเน้นขอบกพร่องของตัวเอง เช่น ถ้าช่วงบนเล็ก เอวเล็ก แต่สะโพกใหญ่ ควรเลือกชุดแต่งงานทรงเมอร์เมด เพื่อเลี่ยงจุดสนใจจากสะโพกให้ไปอยู่ที่ช่วงชายกระโปรงแทน และควรมีการปักแค่ที่ชายไล่มาถึงแถวต้นขา เป็นต้น

  • งบประมาณขั้นต่ำของชุดแต่งงาน และสิ่งที่จะทำให้ชุดนั้นราคาสูงขึ้น

งบประมาณขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าสาวโดยตรง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ชุดยิ่งมีขนาดใหญ่ ตัดเย็บยาก และใช้เวลาทำนานมากเท่าไหร่ ราคาก็จะเป็นไปตามชิ้นงานและตามความเป็นจริง ยิ่งถ้าหากเจ้าสาวตัดชุดกับดีไซเนอร์ด้วยแล้ว ส่วนตัวดีไซเนอร์ก็อยากให้เจ้าสาวซื้อชุดนั้นๆ ไปเป็นของตัวเองเลย เพราะสไตล์ของชุดจะกลั่นออกมาจากโจทย์ที่เจ้าสาวให้กับดีไซเนอร์ ซึ่งถูกนำมาตีความและบวกสไตล์ของดีไซเนอร์แต่ละคนเข้าไป จึงทำให้ชุดแต่งงานชุดนั้นพิเศษสำหรับเจ้าสาวที่สวมใส่โดยเฉพาะ

  • เลือกชุดเพื่อนเจ้าสาวยังไงให้เหมาะกับงาน

ชุดเพื่อนเจ้าสาวเป็นเหมือนยูนิฟอร์ม แต่เป็นยูนิฟอร์มที่เต็มไปด้วยความรู้สึกยินดีและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ด้วยความที่รูปร่างและสีผิวของเพื่อนเจ้าสาวแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เพื่อนเจ้าสาวควรคำนึงคือเรื่องทางการภาพต่างๆ เช่น ความสูงต่ำดำขาว และการเลือกแบบชุดที่กลางๆ แต่เมื่อใส่แล้วช่วยเสริมให้เพื่อนทุกคนในกลุ่มดูดีไม่มีใครด้อย

เลือกชุดแต่งงานสากลแล้วก็อย่าลืม เลือกชุดแต่งงานไทยยังไงให้สวยปังมีออร่า ดีไซเนอร์มีคำแนะนำดีๆ มาบอก

ภาพจาก www.pexels.com, pinterest.com

ต้นกล้วยต้นอ้อย ในพิธีแห่ขันหมากใช้เสร็จแล้วจะเอาไปไว้ที่ไหน? ไปดูกัน

ต้นกล้วยต้นอ้อย ถือเป็นของสำคัญในขบวนขันหมาก ซึ่งเมื่อขันหมากมาถึงเราก็จะนำสิ่งของต่างๆ ไปจัดเรียงตามตำแหน่งถูกไหมคะ แต่พอเสร็จจากพิธีการทั้งหลายนี่สิ เจ้าต้นกล้วย ต้นอ้อยที่หอบกันมาถึงบ้านเจ้าสาวเนี่ยจะเอาไปเก็บไว้ตรงไหน หรือนำไปทำอะไรต่อ วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ

ต้นกล้วยและต้นอ้อยที่ฝ่ายเจ้าบ่าวนำมาในขบวนขั้นหมากนั้น เสร็จจากงานแต่งมักนิยมให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวนำไปช่วยกันปลูก ดูแล รดน้ำให้เติบโตเจริญงอกงาม เนื่องจากมีความเชื่อว่าความรักของทั้งคู่จะได้สดชื่นหอมหวานเหมือนต้นอ้อย และออกดอกออกผลมีลูกดกเหมือนต้นกล้วย

นอกจากนี้ยังมีปริศนาธรรมแฝงอยู่อีกหนึ่งอย่าง นั่นคือ ด้วยลักษณะของต้นกล้วยและต้นอ้อยที่นำมาร่วมขบวนขันหมากนั้น มักจะเป็นต้นที่ขึ้นในแนวตรงสูง ไม่คด ไม่งอ เปรียบเสมือนคำสอนให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวซื่อตรงต่อกัน เพื่อที่ความรักจะได้มั่นคงยืนยาว สำหรับบ่าวสาวที่มีเรือนหอเป็นบ้านเดี่ยว หรือมีพื้นที่ให้ปลูกเจ้าสองต้นนี้ก็ง่ายหน่อย เพราะสามารถเอาลงดินแล้วปลูกได้เลย คราวนี้ปัญหาคาใจมันอยู่ที่ว่า ถ้าห้องหอดันเป็นคอนโดฯ ไม่มีพื้นที่ให้ปลูกจะทำอย่างไร ถ้าอยากรู้คำตอบก็อ่านย่อหน้าต่อไปเลยจ้า

สำหรับหนุ่มสาวยุคใหม่ที่แต่งงานเสร็จแล้วย้ายไปอยู่คอนโดฯ ตึกสูงระฟ้า คงจะไม่มีพื้นที่ปลูกกล้วยปลูกอ้อยได้แน่นอน วิธีแก้ปัญหาคือ คุณสามารถนำทั้งสองต้นนี้ไปฝากปลูกไว้ที่บ้านของคุณพ่อคุณแม่ฝ่ายเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องหอบหิ้วไปหาที่ปลูกในคอนโดฯ ให้วุ่นวาย หรือถ้าหากคู่รักคู่ไหนที่ไม่สะดวกจะปลูกจริงๆ ก็อนุโลมว่าไม่ต้องปลูกก็ได้ แต่ขอให้จดจำคติและคำสอนที่ได้จากลักษณะของต้นกล้วย ต้นอ้อย เอาไปไว้ใช้ในการดำเนินชีวิตคู่ก็แล้วกันจ้า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ร้อยโท วิชัย เมืองนก

Read More : โบราณว่าไว้…ทำแบบนี้ใน งานแต่ง ชีวิตคู่จะยืนยาว