7 ทิปส์ช่วยเจ้าสาวหารองเท้าเจ้าสาวสุดเพอร์เฟกต์ในวันสำคัญ

รองเท้าเจ้าสาว ควรเลือกแบบที่สะท้อนถึงบุคลิกของเจ้าสาว ชุดแต่งงาน สถานที่ และที่สำคัญต้องสวมใส่สบายด้วย และนี่คือทิปส์ดีๆ ในการหารองเท้าแต่งงานที่ดีที่สุด!!

รองเท้าเจ้าสาว คืออีกหนึ่งอย่างที่เจ้าสาวทุกคนให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องชุดแต่งงานเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องของความสวยงามและใส่สบาย แถมบางคนยังอยากได้รองเท้าแบบยูนีคที่ไม่เหมือนใครไปอีก แต่ก่อนที่จะเจ้าสาวจะลงทุนซื้อรองเท้าแต่งงาน แพรว wedding อยากให้ฉุกคิดสักนิดว่ารองเท้าที่เจ้าสาวจะเลือกนั้นไปกันได้ดีกับลุคโดยรวมของเจ้าสาวหรือเปล่า มาค่ะ เราจะบอกทิปส์ดีๆ เพื่อให้เจ้าสาวหารองเท้าแต่งงานคู่ที่ดีที่สุด และแน่นอนว่าสิ่งแรกที่เจ้าสาวต้องพิจารณาก่อนเรื่องอื่นๆ ในการเลือกรองเท้าก็คือ ชุดแต่งงาน นั่นเอง

1. รองเท้าแต่งงานต้องโดดเด่นหากเจ้าสาวใส่ชุดแต่งงานแบบสั้น

รองเท้าแต่งงานจะกลายเป็นนางเอกไม่แพ้ชุดแต่งงานทันทีหากเจ้าสาวเลือกชุดแต่งงานแบบสั้นหรือทรงทีเล้นจ์ เพราะคุณจะต้องอวดโฉมรองเท้าแบบ 360 องศา เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่เจ้าสาวจะได้โชว์ตัวตนและสไตล์ผ่านรองเท้าแต่งงานได้อย่างเต็มที่ เช่น รองเท้าเจ้าสาวแบบสีสัน แบบมีลวดลาย รองเท้าส้นสูงแบบหัวแหลม รองเท้าแบบ kitten heels (รองเท้าที่มีความสูงประมาณ 1-1.5 นิ้ว) เป็นต้น

ความยาวของกระโปรงและความสูงของรองเท้าต้องเลือกให้มึความบาลานซ์กัน เพราะมีผลต่อความสวยงามของเจ้าสาวด้วยนะ

2. เติมดีเทลสุดพิเศษสำหรับชุดแต่งงานแบบยาว

แน่นอนว่าชุดแต่งงานแบบยาวไม่ว่าจะทรงไหนก็ไม่มีใครที่จะมองเห็นรองเท้าของเจ้าสาว แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าสาวก็ควรที่จะใส่ใจในรองเท้าสำหรับวันพิเศษคู่นี้ เพราะปัจจุบันช่างภาพจะมีการเก็บภาพรายละเอียดทุกอย่างของเจ้าสาว ไม่เว้นแม้กระทั่งรองเท้าคู่สวย เพราะฉะนั้นการเติมดีเทลที่พิเศษลงไปจะช่วยให้รองเท้าของเจ้าสาวมีความยูนีคมากขึ้น อย่างเช่น ใช้ผ้าลูกไม้เดียวกับชุดแต่งงาน หรือรองเท้าประดับไข่มุกสุดหรู เป็นต้น

ถึงแม้จะใส่ชุดแต่งงานแบบยาว แต่เมื่อเจ้าสาวก้าวเดินเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นรองเท้าของเจ้าสาวก็พร้อมที่จะออกมาอวดโฉมเหมือนกันนะ

3. ชุดแต่งงานทรงเมอร์เมด หรือทรงตรง ต้องเลือกรองเท้าแต่งงานที่มีดีไซน์ด้วย

ชุดแต่งงานทรงเมอร์เมด หรือชุดแต่งงานทรงตรง เป็นชุดแต่งงานแบบเข้ารูปที่กระโปรงด้านหน้ามีความยาวไม่มาก เพราะฉะนั้นเจ้าสาวจึงต้องใส่ใจในการเลือกรองเท้ามากกว่าชุดแต่งงานทรงอื่นๆ อย่างเช่น รองเท้าแบบเปิดด้านหน้า หรือรองเท้าแบบ strappy high-heeled (รองเท้าที่มีเส้นพาดไปมา)

รองเท้าทั้งสองแบบจะเผยให้เห็นเท้าและเล็บของเจ้าสาว เพราะฉะนั้นอย่าลืมทำเล็บและสครับผิวให้เนียนนุ่มด้วยนะ

4. ก่อนเลือกรองเท้าต้องดูเนื้อผ้าชุดแต่งงานด้วย

ไม่เพียงแต่ความยาวของชุดแต่งงานเท่านั้นที่เจ้าสาวต้องคำนึง แต่เรื่องเนื้อผ้าก็จำเป็นต่อการพิจารณาเลือกรองเท้าแต่งงานเช่นกัน เพราะเจ้าสาวคงไม่อยากให้ด้านในของชุดแต่งงานโดยรองเท้าทำลายซะพังยับเยิน หรือจังหวะการเดินต้องสะดุดเพราะเนื้อผ้าด้านในไปเกี่ยวกับอะไรสักอย่างบนรองเท้าจริงไหม โดยเฉพาะหากว่าที่เจ้าสาวสวมชุดแต่งงานแบบผ้าลูกไม่ที่แสนจะบอบบางยิ่งต้องระวังมากเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นรองเท้าที่เหมาะคือ รองเท้าแต่งงานแบบเรียบที่ไร้หมุด หรือคริสตัลที่มีโอกาสไปเกี่ยวผ้าเอาได้

ก่อนซื้อรองเท้าแต่งงานอย่าลืมเช็กให้ดีว่า เนื้อผ้าด้านในของชุดแต่งงานเป็นแบบไหนจะได้เลือกดีไซน์ของรองเท้าได้ถูก

5. หลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูงสำหรับงานแต่งในสวน

คำแนะนำดีๆ สำหรับทุดชุดแต่งงาน ห้ามคิดจะสวมส้นสูงโดยเฉพาะแบบส้นแหลมเด็ดขาดหากคุณจัดงานแต่งงานบนชายหาดหรือในสวน เพราะส้นแหลมจะลงไปปักในดินหรือทรายทันทีที่เจ้าสาวเดินบนพื้น เรียกได้ว่าเดินลำบากหรือเกือบจะเดินไม่ได้เลยล่ะ

หากจัดงานแต่งงานในสวนขอแนะนำให้เลือกเป็นรองเท้าส้นตึก ส้นเตารีด หรือรองเท้าส้นหนา (chunky heel)จะดีกว่า ส่วนงานแต่งงานริมชายหาดแนะนำให้สวมเป็น barefoot beach ไปเลย

6. มองหาความสบายเป็นหลัก

อย่าเพิ่งซื้อรองเท้าแต่งงานหากคุณยังไม่ได้ลองใส่ว่ามันสบายจริงๆ เพราะในวันงานเจ้าสาวต้องยืนอยู่ประมาณ 4-5 ชั่วโมงบนรองเท้าคู่นั้น เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเลือกรองเท้าที่มีความสูงแค่ไหน ต้องมั่นใจก่อนว่าคุณจะสามารถยืนอยู่บนความสูงนั้นได้อย่างสบาย และที่สำคัญหากเจ้าสาวเลือกชุดแต่งงานที่ยาวมากๆ แบบว่าถึงจะเดินกี่ก้าวก็ไม่มีทางได้เห็นรองเท้าเด็ดขาด ถ้าเป็นอย่างนั้นดีไซน์ก็ไม่สำคัญเท่าความสวมใส่สบายแล้วล่ะ

7. เปลี่ยนรองเท้าเมื่อเข้าช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้

หลังจากที่อยู่บนส้นสูงมาเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ก็ถึงเวลาที่เจ้าสาวจะได้ผ่อนคลายสักทีในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ กับการมองหา
รองเท้าแฟลตสวยๆ สักคู่แล้วเพื่อใช้เปลี่ยนในช่วงนี้

ภาพ pinterest

ดูไอเดียเกี่ยวกับชุดแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

Recommended