คำถามกวนใจหนุ่มสาวคนโสดในวันรวมญาติพร้อมคำตอบเอาตัวรอด

วันรวมญาติ ถือเป็นฝันร้ายของหนุ่มสาว คนโสด ทั้งหลาย เพราะนอกจากจะต้องปวดหัวกับการตอบคำถามเรื่องทั่วไปอย่างเรื่องการเรียน การงาน หรือการเงินแล้ว ยังมีคำถามจี๊ดใจอย่างเรื่องความรักที่ต้องตอบอีก ซึ่งบรรดาญาติๆ มักยิงคำถามอะไรกันบ้างและจะตอบยังไงให้รอด เราจะบอกให้รู้กันค่ะ

คนโสด ต้องรอด! ตอบคำถามแบบมั่นใจเวลาถูกถามย้ำๆ ว่าเมื่อไหร่จะมีแฟน!

คนโสด
Photo by www.redbubble.com

มีแฟนหรือยัง ?
คำถามฮอตฮิตที่ทำร้ายจิตใจคนโสดคงหนีไม่พ้นคำถามเกี่ยวกับเรื่องแฟน ไม่ว่าจะเป็นมีแฟนหรือยัง เมื่อไหร่จะมีแฟน ไม่พาแฟนมาด้วยหรอ แม้ใจจริงอยากจะตอบไปเหลือเกินว่า ถ้ามาก็คงเห็นแล้วล่ะ ก็ขอให้สะกดอารมณ์เอาไว้ หากอยากจบประเด็นนี้ไวๆ ก็อาจเลี่ยงด้วยการตอบไปเลยว่า มีแต่ไม่ได้มา แต่ถ้าไม่อยากโกหกและพร้อมจะตอบคำถามในข้อต่อไปที่ว่า ทำไมล่ะ ก็ตอบไปตรงๆ เลยว่าไม่มี พร้อมบอกเหตุผลเก๋ๆ สักข้อ เช่น ยังไม่เจอคนที่ใช่ อยากโฟกัสกับเรื่องงานมากกว่า ถ้ามีแล้วไม่ดีก็ขอไม่มีดีกว่า แค่นี้ก็รอดแล้วล่ะ

คนโสด
Photo by www.livingly.com

เมื่อไหร่จะแต่งงาน ?
ถ้าคนมีคู่โดนยิงคำถามนี้ก็คงไม่เจ็บนัก แต่สำหรับคนโสดแล้ว ขอบอกเลยว่าเจ็บจี๊ดแบบคูณสองเลยทีเดียว เพราะแค่แฟนยังไม่มีเป็นตัวเป็นตน จะให้คิดไกลไปถึงเรื่องแต่งงานได้ยังไง หากโดนคำถามนี้เข้าไป คงต้องใช้วิธีตอบแบบขำๆ กลบเกลื่อน แต่แอบบอกเป็นนัยให้รู้ว่ายังไม่มีแฟน เช่น เนื้อคู่ยังไม่เกิดเลย ช่วยหาแฟนให้หน่อยสิ แค่นี้ญาติก็คงเข้าใจแล้วว่าคุณยังโสดสนิท

คนโสด
Photo by www.someecards.com

เป็นเกย์/เลสเบี้ยนหรือเปล่า ?
สำหรับคนโสดสนิทที่ไม่เคยมีแฟนให้ญาติเห็นเลยอาจต้องเจอกับคำถามนี้ ซึ่งหากคำตอบของคุณคือไม่ใช่ ก็ขอให้มองเป็นเรื่องขำขันกันไป แล้วบอกเหตุผลว่าทำไมจึงไม่มีแฟนไปสักข้อ แค่นี้ก็จบ แต่หากคำตอบในใจของคุณคือใช่ ก็อาจใช้โอกาสนี้บอกให้เขารู้เลยก็ได้ (ถ้าคุณพร้อมและประเมินสถานการณ์แล้วว่าจะไม่ทำให้งานกร่อย) เรียกว่าถามมาก็ตอบไป แถมยังได้เปิดตัวอย่างสบายใจอีกด้วย

คนโสด
Photo by www.someecards.com

เมื่อไหร่จะมีลูก
แม้จะเป็นเปอร์เซ็นต์เพียงน้อยนิดที่คนโสดจะมีโอกาสโดนคำถามนี้ แต่ก็ต้องเตรียมคำตอบเอาไว้ให้ดี อย่าเผลอเหวี่ยงใส่ในความไม่รู้ของญาติ เพราะเขาอาจจะลืมก็ได้ว่าคุณยังโสด วิธีตอบเอาตัวรอดง่ายๆ เลยคือ บอกตามตรงเลยว่ายังไม่มีแฟน หรือตอบอ้อมๆ ว่าไว้รอถามหลังแต่งงานดีกว่านะ แค่นี้ญาติคุณก็หงายเงิบ และคิดได้ว่าช่างเป็นคำถามที่ไม่ควรเอ่ยออกไปเลยจริงๆ

ถ้าอ่านมาจนถึงตรงนี้แสดงว่าคุณยังโสด มาค่ะ แพรวเวดดิ้งมีเคล็ดลับให้เลิกโสด จะได้ไม่ต้องตอบคำถามแทงใจดำอีกต่อไป!

ภาพ : bamag.com

ทรงผมเจ้าสาวผมสั้นนี่แหละช่วยให้เจ้าสาวสวยชิคดูอ่อนวัย

ทรงผมเจ้าสาว ผมสั้น ให้ลุคเจ้าสาวดูทันสมัย ดูอ่อนวัย แถมเติมเครื่องประดับผมได้แบบอันลิมิตด้วย

“ผมสั้นทำอะไรได้น้อย” พูดเป็นเล่นไป!! ใครยังคิดแบบนี้อยู่อีก แฮร์สไตลิสต์ทั้งหลายต่างออกความเห็นกันว่า ทรงผมเจ้าสาว ผมสั้นนี่แหละสวยชิคดูอ่อนวัย แถมยังเปิดจินตนาการสำหรับเครื่องประดับผมได้อย่างไม่จำกัด เพราะเมื่อผมสั้นดูไม่เยอะแยะ จะประดับอะไรเข้าไปก็ไม่ดูใหญ่เกินเบอร์ ฉะนั้นเจ้าสาวผมสั้นไม่จำเป็นต้องคล้อยไปตามความเชื่อเดิมๆ แล้ววิ่งไปต่อผมเพื่อทำทรงเกล้า แค่เพื่อให้ดูเหมือนเจ้าสาวในอุดมคติ เป็นเจ้าสาวผมสั้นนี่แหละชิคสุด ๆ ไปเลย – เรื่อง  Padcha_Praewnista

TIPS & TRICKS
เจ้าสาวผมสั้นต้องใส่ใจเป็นพิเศษกับการเซตทรงให้ดูมีวอล่มุ เลือกทรงผมให้เหมาะกับความยาวของผมแบบไม่ต้องฝืนจะดูสวยง่ายกว่า เจ้าสาวผมสั้นมากแบบ Pixie Cut ต้องเน้นย้ำให้ช่างช่วยยกโคนผมให้หนามีวอลุ่มไม่ลีบแบน

ส่วนเจ้าสาวผมสั้นที่ยาวเลยหูนั้นมีช้อยส์ให้เลือกมากมาย ทั้งเครื่องประดับต่างๆ ที่คาดผมรูปเปียที่ช่วยให้ผมดูเยอะขึ้น หรือม้วนลอนได้ทั้งแบบเรโทรลอนเรียบเป็นคลื่นสวยเก๋ หรือลอนแบบ Messy ยุ่งนิดๆ ดูชิคและโมเดิร์น

เรื่องที่เจ้าสาวผมสั้นห้ามลืมคือ การเล็มปลายผมเล็กน้อยในช่วงก่อนวันสำคัญ เพราะผมที่สั้นอยู่แล้วจะโชว์ชัดมากหากมีเส้นที่อ่อนแอแตกปลาย ใครใคร่ใส่เครื่องประดับผมประเภทผ้าคลุม มงกุฎ ควรเลือกแบบที่ใช้ซี่หวีชนิดที่เป็นเหล็กซี่ถี่ ไม่แนะนำหวีพลาสติก เพราะไหลลื่นไม่เกาะผม จะอันตรายหลุดง่ายสำหรับเจ้าสาวผมสั้น

Perfect Pairing

Short Hair + Bang

ทรงผมเจ้าสาว

เจ้าสาวผมม้าเก๋จะตาย ดูอ่อนวัยและไม่ได้เห็นกันบ่อย เติมที่คาดผมเข้าไปนิดปิดจบสวยเลย

Short Hair + Flower

ทรงผมเจ้าสาว

ทรงผมเจ้าสาว

งานจัดในสวนหรือริมทะเลยิ่งเหมาะ เซตผมสั้นให้เป็นลอนยุ่งนิดๆ แล้วประดับด้วยมงกุฎหรือกิ๊บติดผมดอกไม้ กลายเป็นลุคเจ้าสาวแบบโบฮีเมียนสดใสเป็นธรรมชาติ

Short Hair + Bobby Pin

ทรงผมเจ้าสาว

ทรงผมเจ้าสาว

ม้วนผมลอนใหญ่สไตล์เรโทร แสกผมให้เอียงไปข้างถนัด แล้วติดกิ๊บสวยๆ เรียงเป็นแผงด้านข้าง ทำให้เจ้าสาวดูชิคมีสไตล์แบบแฟชั่นนิสต้า

Short Hair + Crown/ Headband

ทรงผมเจ้าสาว

ด้วยความเก๋คล่องตัวของผมสั้นนั้น จึงเป็นการเปิดโอกาสให้สามารถใส่ที่คาดผมหรือมงกุฎอันเบิ้มๆ ได้แบบไม่ต้องกลัวดูหวานจนเชย หรือกลัวจะดูย้อนยุคเกินไป

Bride in Focus

Audrey Hepburn

ภาพเก่าของเจ้าหญิงแห่งฮอลลีวู้ด ออเดรย์ เฮปเบิร์น ในวันแต่งงานเป็นเครื่องการันตีถึงความเก๋เหนือกาลเวลาของเจ้าสาวผมสั้น คุณแม่ออเดรย์ในผมสั้นสุดพลังกับหน้าม้าเต่อนิดๆ ซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์ จับคู่กับมงกุฎดอกไม้ที่ทำให้ผมสั้นสุดมั่นดูอ่อนหวานขึ้นทันตา มาดูตอนนี้ก็ยังคงเป็นเจ้าสาวที่เก๋ชิคไม่ซ้ำใคร

Hilary Duff

เจ้าสาวหน้าสวย ฮิลารี ดัฟฟ์ แต่งงานรอบสองอย่างเรียบง่ายในบรรยากาศแสนอบอุ่น กลายเป็นเจ้าสาวผมสั้นที่ครีเอตลุคออกมาได้ลงตัวสุดๆ ผมบ๊อบสั้นถูกแต่งทรงให้มีวอลุ่มสวย ด้านหน้าหวีเรียบแสกกลางโดดเด่นด้วยการเลือกใช้ที่คาดผมประดับมุกเข้ากันเป๊ะกับชุดเจ้าสาวสไตล์มินิมัลสีขาวเรียบไม่รุงรัง

STAR in FOCUS

สาวสวยแพงอย่าง ลิลี่ คอลลินส์ ถือเป็นสาวผมสั้นที่เล่นสนุกกับการสไตลิ่งทรงผมได้อย่างน่ามองไปเสียทุกช็อต สังเกตได้ว่าลิลี่ไม่ได้ชื่นชอบการประดับประดาผมด้วยเครื่องประดับสักเท่าไร แต่ก็สามารถทำให้ผมสั้นดูเปลี่ยนไปได้หลากหลาย ทั้งเซตคลื่นแบบเรโทร ดรายเหยียดตรงเก๋ๆ ยีฟูตีโป่งได้ฟีลย้อนยุค ไปจนถึงการเกล้าต่ำที่แนะนำให้สำหรับสาวผมสั้นที่ไม่ชอบเครื่องประดับฟรุ้งฟริ้งจำไปใช้ได้รับประกันว่าสวยเก๋ไม่รุงรัง

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความสวยความงามและสุขภาพเพิ่มเติม คลิกเลย <<

6 สิ่งที่จะเปลี่ยนไปทันทีหลังจากสวมแหวนหมั้นที่ว่าที่บ่าวสาวต้องรับมือ

หลังจากคุกเข่าขอแต่งงานสวม แหวนหมั้น จับจองหัวใจกันอย่างเป็นทางการแล้ว นั่นก็แปลว่าอีเวนท์สำคัญในชีวิตกำลังจะเกิดขึ้น เราเลยจะกระซิบบอกคุณด้วยความหวังดีว่า ต่อจากนี้คุณจะเจอการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ให้คุณเตรียมรับมือไว้ให้ดีนะจ๊ะ

1. มือซ้ายเป็นจุดสนใจมากขึ้น

หลังจากที่มีแหวนมาประดับนิ้วนางข้างซ้ายแล้วคุณจะต้องเจอกับสายตาซอกแซกของมวลหมู่มิตรที่พยายามสอดส่ายสายตามองหาแหวนเพชรประกายเปรี้ยงบนนิ้วคุณ ก็จงทำใจให้ดี เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนหน้าที่ของคุณก็แค่ เตรียมมือสวยๆ ให้คนมองก็พอ

2. ร้อยพันคำถามที่เข้ามา

ญาติสนิทมิตรสหายจะถาโถมคำถามเข้าหาคุณว่า “จะแต่งเมื่อไหร่”  “แต่งที่ไหน” “เตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว”  ก็อย่ารู้สึกรำคาญไป เขาถามเพราะอยากไปร่วมแสดงความยินดีด้วย ส่วนมนุษย์ขี้อิจฉาที่พูดจาไม่มงคลเท่าไหร่ก็ปล่อยๆ ไปอย่าใส่ใจ ให้คิดเสียว่าข่าวของคุณโด่งดังจนแม้แต่เขายังสนใจ

3. มี “คู่หมั้น” แล้ว

คุณมีคู่หมั้นแล้ว จงหาโอกาสเรียกบ่อยๆ นะ เพราะคำนี้จะอยู่ไม่นานหรอก เดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็น คุณ “สามี”แล้ว

4. เก็บหอมรอมริบ

นับจากนี้จะเกิดมหกรรมใช้เงินครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดเตรียมงานแต่งงาน และการเริ่มต้นครอบครัวใหม่ คุณจะต้องควบคุมการใช้เงินให้ดี และวางแผนออมเงินแบบรัดกุมสุดๆ

5. เวลาผ่านไปเร็วมาก

ช่วงเวลาหลังจากนี้จะผ่านไปเร็วมาก จงอย่าชะล่าใจเป็นอันขาดว่าเหลืออีกตั้งปี อะไรที่เตรียมได้ล่วงหน้าก็เริ่มทำซะตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างการมองหาเวดดิ้งแพลนเนอร์ ยิ่งหาได้ไว ยิ่งดีต่องานของคุณเอง

6. หาโอกาสออกทริปกระชับมิตร

ถือเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่จะให้ทั้งสองครอบครัวกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ก่อนจะผูกรวมเป็นทองแผ่นเดียวกัน

เห็นไหมคะว่าการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลานี้ไม่น่ากลัวเลย แต่สาวๆ ก็ต้องเตรียมรับมือให้ดี เพราะอย่างที่บอกว่าเวลาจะผ่านไปเร็วมาก ถ้าสับสน หรืองงอะไรในเรื่องการจัดงาน เราก็พร้อมให้คำปรึกษานะคะ

>> อ่านคำแนะนำและไอเดียดีๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

เช็กเลย 10 พฤติกรรมที่ทำให้เดทแรกของหนุ่มๆ สาวๆ แป้กไม่เป็นท่า

เดทแรก ผ่านไปแล้วเขาไม่ติดต่อมาอีกเลย ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ สาวๆ หนุ่มๆ คงต้องสังเกตตัวเองแล้วนะคะว่า เผลอทำ 10 พฤติกรรมที่ทำให้เดทแรกแป้กไม่เป็นท่าออกไปบ้างหรือเปล่า

เดทแรก ยังแป้ก! อาจเป็นเพราะ 10 เรื่องนี้ รีบเช็กแล้วปรับตัวด่วน!

Photo by Louis Hansel @shotsoflouis on Unsplash

มาสาย

เหนุ่มๆ หลายคนซีเรียสเรื่องความตรงต่อเวลามาก เพราะถือเป็นการให้เกียรติและให้ความสำคัญกัน อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความมีวินัยในการดำเนินชีวิตของคุณอีกด้วย ดังนั้นสาวๆ ที่กำลังจะออกเดท โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเดทแรก ควรรักษาเวลาให้ดีหรือไปก่อนเวลาสักนิด รับรองว่าพิชิตใจชายหนุ่มได้แน่นอน

ก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือ

สาวๆ หลายคนมักแก้อาการเขินอายหรือประหม่าด้วยการเล่นโทรศัพท์มือถือ แต่เราขอเตือนเลยว่าอย่าทำอย่างนั้นดีกว่า เพราะหนุ่มๆ อาจมองว่าคุณติดโทรศัพท์หรือติดสังคมโซเชียลมากจนเกินไป อีกทั้งยังดูไม่ให้ความสนใจและไม่ให้ความสำคัญเขาซึ่งอยู่ตรงหน้าคุณอีกด้วย

กินน้อยหรือมากจนเกินงาม

เดทแรกส่วนใหญ่จะต้องมีการกินข้าวด้วยกัน สาวๆ จึงต้องระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ การกินน้อยเกินไปหรือไม่กินเลยอาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกกังวลหรือเกร็งว่าคุณเป็นอะไรหรือเปล่า ส่วนการกินมากจนเกินงามหรือกินอย่างตะกละตะกลามก็อาจทำให้หนุ่มๆ ตกใจได้ (บางรายอาจช็อกตอนเช็คบิล) ดังนั้นควรกินให้เป็นปกติ (แต่ถ้าเป็นสาวที่กินเยอะเป็นปกติอันนี้ก็ไม่ว่ากัน) และที่สำคัญอย่าลืมรักษามารยาทบนโต๊ะอาหารด้วย

Photo by Matt W Newman on Unsplash

คุยแต่เรื่องตัวเอง

การเป็นสาวช่างพูดช่างคุยเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้บรรยากาศของเดทแรกไม่น่าเบื่อ แต่ต้องระวัง อย่าลืมตัวคุยแต่เรื่องของตัวเองเพียงคนเดียวจนดูเป็นสาวช่างเพ้อนะคะ สาวๆ ต้องรู้จักเป็นผู้ฟังที่ดีบ้าง หรือถามถึงเรื่องของเขาบ้าง เพื่อให้เขารู้สึกว่าคุณสนใจและให้ความสำคัญ อีกทั้งยังทำให้ได้เรียนรู้ตัวตนของกันและกันในเดทแรกทั้งสองฝ่ายอีกด้วย

ซักไซ้ละเอียดยิบ

สาวๆ ต้องอย่าลืมว่าคุณมาออกเดท ไม่ได้มาเป็นกรรมการสัมภาษณ์งานแต่อย่างใด ดังนั้นอย่ายิงคำถามใส่เขาเป็นชุด หรือซักไซ้เขาอย่างละเอียดเป็นอันขาด เพราะจะทำให้หนุ่มๆ อึดอัดใจ อีกทั้งเรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นหรือไม่ควรถามกันในเดทแรก เช่น ฐานะทางการเงิน เรื่องครอบครัว ความรักครั้งเก่า เรื่องเอ็กซ์คลูซีฟอย่างนี้เก็บไว้ถามกันในระยะยาวดีกว่านะคะ

ไม่ออกความคิดเห็นเลย

สาวๆ ประเภทที่ชอบตอบว่า “อะไรก็ได้” ต้องระวังให้ดี เพราะหนุ่มๆ หลายคนเขาอาจไม่ปลื้มกับพฤติกรรมนี้ สาวๆ อาจคิดว่าไม่ร้ายแรงอะไร แต่ความจริงแล้วกลับทำให้เขารู้สึกว่าคุณเป็นคนที่ขาดความมั่นใจ และไม่ช่วยกันคิดบ้างเลย อย่าลืมนะคะว่าเขากำลังหาเพื่อนคู่คิดอยู่ และเดี๋ยวนี้ก็หมดสมัยของการให้ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้าแล้วล่ะค่ะ

Photo by René Ranisch on Unsplash

ไม่เสนอตัวจ่ายบ้าง

ถ้ายังมีสาวๆ คนไหนที่คิดว่าเวลาออกเดทหนุ่มๆ ต้องเป็นคนจ่ายเสมอ ขอบอกเลยว่าหัวโบราณระเบิด หรือบางคนกลัวว่าจะเป็นการดูถูกฝ่ายชาย ข้อนี้ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะการเสนอตัวเป็นคนจ่ายบ้างทำให้คุณดูดีแบบผู้หญิงสมัยใหม่ที่ไม่หวังพึ่งผู้ชายเพียงฝ่ายเดียว อีกทั้งยังทำให้คุณดูเป็นคนแฟร์ๆ สไตล์อเมริกันแชร์อีกด้วย สตรองขนาดนี้รับรองว่าประทับใจหนุ่มๆ แน่นอน

แสดงอาการเบื่อหน่าย

ถ้ายังอยากมีเดทครั้งต่อไปกับชายหนุ่มตรงหน้า อย่าทำพฤติกรรมดังต่อไปนี้เด็ดขาด นั่งหน้าหงอยบูดบึ้ง ถามคำตอบคำ เหม่อลอย ดูนาฬิกาตลอด สนใจสิ่งอื่นมากกว่า เพราะพฤติกรรมที่ว่ามานี้จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณกำลังเบื่อหน่ายเขาอยู่ อีกทั้งยังเป็นการทำลายบรรยากาศของเดทแรกให้หม่นหมองอีกด้วย

แต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็ม

แน่นอนว่าผู้หญิงต้องอยากสวยที่สุดในการออกเดทครั้งแรกเพื่อให้เขาประทับใจ แต่ทั้งนี้ก็ต้องไม่ลืมความเป็นตัวของตัวเอง ประเภทที่แต่งหน้าจัดเว่อร์หรือแต่งตัวจัดเต็ม ขอบอกเลยว่าผู้ชายบางคนเขาก็ดูออก หรือถ้าดูไม่ออกแล้วคุณสวยอย่างนั้นไม่ได้ตลอด รับรองว่าเขาช็อกแน่

รีบติดต่อเขาทันทีหลังจากการเดท

ไม่ว่าคุณจะรู้สึกประทับใจเขามากแค่ไหนก็ไม่ควรติดต่อเขาในทันทีทันใดหลังจากเดทแรกเสร็จสิ้น ควรปล่อยระยะเวลาให้ผ่านไปสักระยะหนึ่งก่อนหรือรอให้เขาติดต่อมาเอง เพราะการรีบติดต่อไปเป็นการแสดงออกว่าคุณชอบเขาจนเกินงาม อีกทั้งยังดูจู่โจมจนเกินไปอีกด้วย หนุ่มๆ หลายคนแอบกลัวสาวประเภทนี้อยู่ไม่น้อย ดังนั้นควรสงวนท่าทีสักนิดเพื่อให้ดูมีค่าและน่าค้นหานะคะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ : Unsplash.com

9 ทริคเลือกชุดคุณแม่บ่าวสาว ให้สวยสมวัยดูดี แถมยังสวยเข้าธีม

ว่าที่บ่าวสาวหลายคู่มักจะยุ่งกับการเตรียมรายละเอียดอื่นๆ จนลืมคิดไปว่า เอ๊ะ! แล้วคุณแม่จะใส่ชุดแบบไหน ใส่ชุดอะไร ดังนั้นลูกๆ ทั้งหลายอย่าปล่อยให้คุณแม่ต้องหงอยเหงานั่งเลือกชุดเดียวดายนะคะ มาเอา 9 ทริคนี้ไปช่วยคุณแม่เลือก ชุดคุณแม่บ่าวสาว สวยๆ ใส่ในวันสำคัญของคุณกันเถอะ

1. คุณผู้หญิงในชุดผ้าลูกไม้

ชุดคุณแม่บ่าวสาว

ชุดผ้าลูกไม้สวยๆ สักชุดมักจะตอบโจทย์สตรีสูงวัยในหลายๆ โอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานวิวาห์ของลูกสาวลูกชายสุดที่รัก คุณแม่ทั้งหลายก็มักจะเลือกใส่เดรสผ้าลูกไม้ปักดิ้นเงินดิ้นทองแบบพองาม ไม่ว่าจะยาวกรอมพื้นหรือยาวระดับเข่า แขนยาว แขนสามส่วน หรือแขนสั้น ซึ่งผ้าลูกไม้จะช่วยเสริมให้คุณแม่ดูดี ดูสง่า มีฐานะและเหมาะสมกับวัยด้วยนะคะ

2. เพราะเป็นแม่ลูกจึงเหมือนกัน

ชุดคุณแม่บ่าวสาว

หากคุณแม่และคุณลูกคนไหนอยากได้กิมมิกเก๋ไก๋ที่ใครๆ เห็นแล้วต้องร้องอ๋อว่าเป็นแม่เจ้าสาวแน่นอน ลองเลือกชุดที่มีดีเทลคล้ายกับชุดของเจ้าสาว (แต่ก็ไม่ต้องเหมือนกันเป๊ะๆ นะ) เช่น เลือกชุดที่เนคไลน์หรือช่วงแขนสไตล์เดียวกันแต่เป็นสีอื่นที่ไม่ใช่สีขาว แบบนี้ก็เจ๋งดีนะคะ

3. ชุดไทยไปเลยค่ะคุณแม่

ชุดคุณแม่บ่าวสาว

ข้อนี้เลือกไม่ยากเลย ถ้าเป็นพิธีไทยคุณแม่จะเลือกใส่ชุดไทยในพิธีเช้าก็ได้ค่ะ ไม่ได้ดูแปลกหรือทับไลน์เจ้าสาวแต่อย่างใด คุณแม่คนไหนก็ใส่กัน เพราะนอกจากจะทำให้คุณแม่ดูสง่างามสมกับเป็นหญิงไทยแล้ว ยังเข้ากับบรรยากาศความเป็นไทยของพิธีแต่งงานในตอนเช้าด้วย

4. แต่งให้เข้ากันกับคุณพ่อ

4

ข้อนี้คงต้องขอความร่วมมือจากคุณพ่อด้วยนะคะ เพราะเรากำลังจะบอกให้คุณพ่อกับคุณแม่เป็นทีมเดียวกัน โดยเลือกชุดที่ดูเข้ากัน เช่น ถ้าคุณพ่อเลือกสูทโทนสีสว่างอย่างสีครีม สีขาว ชุดของคุณแม่ก็อาจจะเป็นสีเดียวกับสูทของคุณพ่อได้เลย แต่ถ้าคุณพ่อเลือกสูทดำ (ส่วนใหญ่จะเลือกแบบนี้) ขอแนะนำให้คุณแม่โฟกัสที่เสื้อเชิ้ตตัวในแทน แล้วไปเลือกสีให้เหมือนหรือใกล้เคียงกัน  แบบนี้เรียกได้ว่าครอบครัวสามัคคีค่ะ

5. ลุคคุณนายในชุดผ้าไหมมันวาว

5

ถ้าคุณแม่คนไหนไม่ชอบใจผ้าลูกไม้เพราะจะทำให้เกิดอาการคันยุบยิบทุกครั้งที่ใส่ ชุดผ้าไหมก็ตอบโจทย์ได้อย่างดีค่ะ อาจจะเสริมความสวยของชุดด้วยการปักเลื่อม คริสตัล หรือดิ้นเงินดิ้นทองลงไปบนชุดก็จะช่วยให้ชุดไม่เรียบจนเกินไปนัก (แต่อย่าปักเยอะจนรกเป็นคุณนายภูธรนะคะ)

6. คุณแม่หัวใจยังสาว

6

คุณแม่คนไหนที่ยังมีแรงและไม่ยอมร่วงโรยไปตามวัย จะลองเลือกเดรสสั้นที่มีลวดลายและสีสันสดใสก็ได้นะคะ บอกให้หลายๆ คนรู้ไปเลยว่า ถึงจะเป็นแม่แต่ก็ยังเปรี้ยวปรี๊ดได้อยู่นะจ๊ะเด็กๆ

7. ธีมสีของครอบครัว

7

ใครที่คิดว่าชุดสีเดียวกันต้องสงวนไว้ให้แก๊งเพื่อนเจ้าสาวเท่านั้น ขอบอกว่าคิดใหม่ได้แล้วค่ะ คราวนี้เราขอเสนอไอเดียสุดเก๋ “ธีมสีสำหรับครอบครัว” ดูบ้างเป็นไงคะ จะให้ทั้งสองครอบครัวใส่สีเดียวกันหมด หรือครอบครัวเจ้าสาวใส่สีหนึ่ง ครอบครัวเจ้าบ่าวใส่อีกสี กำหนดธีมแบบนี้คุณแม่ก็แค่หาชุดสีนั้นๆ ใส่ให้เข้ากันกับคนอื่น ดูเป็นครอบครัวสุขสันต์ดีออก

8. ชุดราตรีเริดๆ ตามฝันที่อยากใส่

หญิงสาวทุกคนมีชุดในฝันที่อยากใส่ทั้งนั้นแหละค่ะ ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเจ้าสาวคนเดียวเท่านั้นหรอกนะ เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณแม่จะอยากใส่ชุดราตรีที่ดูสวยหรูหราแค่ไหน เราอยากให้คุณแม่ได้ทำตามความฝันค่ะ จัดเต็มไปเลยเนอะ (ยังไงแขกก็แยกออกอยู่แล้วว่าคนไหนแม่คนไหนลูก)

9. เดรสทรงเอยาวระดับเข่า

คุณแม่คนไหนที่มั่นใจในเรียวขาและอยากโชว์รองเท้าสวยๆ ลองมองหาเดรสที่มีความยาวระดับเข่ามาใส่ดูนะคะ ไม่ยาวซ้ำจำเจกับแขกผู้ใหญ่คนอื่น แต่เราอยากเตือนด้วยความห่วงใยว่า ไม่ว่ารองเท้าคุณแม่จะสวยขนาดไหนก็อย่าได้เปรี้ยวเลือกส้นเข็มที่สูงปรี๊ดนัก ล้มในงานจะพาลลำบากเอานะ

ชุดสำหรับคุณแม่เจ้าสาวจริงๆ แล้วเลือกไม่อยากเลยค่ะ แค่คุณแม่ออร์เดอร์มาว่า อยากใส่ชุดแบบไหน ยังไง เดี๋ยวคุณลูกก็จะจัดหามาให้ คุณแม่นั่งรอนอนรอสบายๆ เฉิดฉายเป็นคุณแม่คนสวยช่วยต้อนรับแขกในงานแต่งแค่นั้นก็พอแล้ว

>> ดูไอเดียและคำแนะนำเรื่องชุดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

เรียบเรียง : www.marthastewartweddings.com
ภาพ : www.marthastewartweddings.com, www.pinterest.com

3 ข้อจำง่ายกับเทคนิคเลือกซื้อแหวนแต่งงานสำหรับมือใหม่หัดซื้อ

ก่อนที่จะไปถึงการวางแผนจัดงานแต่งงาน หนึ่งเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นก่อนก็คือการ เลือกซื้อแหวนแต่งงาน ที่ทำเอาว่าที่บ่าวสาวมือใหม่ที่ไม่เคยซื้อและไม่มีความรู้เรื่องเพชรเลยมึนตึ๊บ เริ่มต้นไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่าต้องเลือกแบบไหน หรือเลือกแบบใดถึงจะดี แพรว wedding เลยมาสอนวิธีเลือกซื้อแหวนแต่งงานง่ายๆ ที่ไม่ต้องอาศัยเทคนิคอะไรเยอะ แต่รับรองว่าคุณและคู่รักจะได้แหวนแต่งงานที่ถูกใจแน่นอน

ดูหลายๆ ร้าน ลองหลายๆ แบบ

ว่าที่บ่าวสาวอาจจะมีแบบแหวนแต่งงานที่เห็นภาพจากอินเตอร์เน็ตแล้วอยากใส่ตาม หรือมีแบบแหวนที่ต้องการอยู่ในใจ แต่บางครั้งพอได้มาลองของจริงแล้วแบบแหวนแต่งงานในฝันอาจไม่เหมาะกับนิ้วมือคุณก็ได้ แต่อย่าเพิ่งถอดใจไปค่ะ เพราะนี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น ถึงเวลาที่คุณและคนรักต้องออกตระเวนตามหาแหวนแต่งงานในฝันให้เจอ ด้วยการไปดูแบบแหวนแต่งงานหลายๆ ร้าน เพราะแต่ละร้านเขาก็จะมีสไตล์ เทคนิค หรือรูปแบบของแหวนแต่งงานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งนอกจากบ่าวสาวจะได้เปรียบเทียบแบบแหวนแต่งงานที่แตกต่างกันของแต่ละร้านแล้ว อาจะมีผลต่อเรื่องบัตเจ็ตในการซื้อด้วย เพราะแต่ละร้านก็อาจจะมีข้อเสนอโปรโมชั่นพิเศษลดแลกแจกแถมไม่เหมือนกัน และที่สำคัญ อย่าปักใจลองแบบแหวนแต่งงานเพียงแค่แบบเดียว พยายามลองแหวนแต่งงานหลากหลายแบบเพื่อที่จะได้รู้ว่านิ้วมือของคุณนั้นเหมาะกับแหวนแต่งงานแบบไหนมากที่สุด

ถ้าหนุ่มๆ อยากจะเซอร์ไพร้ส์คนรักก็ต้องเช็คให้ชัวร์ว่าเธอชอบแบบไหน หรือจะหนีบคนสนิทของว่าที่เจ้าสาวที่รู้ใจเธอที่สุดไปช่วยเลือกด้วยสักคน

เลือกซื้อแหวนแต่งงาน

หาสีของเพชรและตัวเรือนที่ชอบ

หากบ่าวสาวชอบเพชรแบบยืนหนึ่งก็ตรงเข้าพุ่งชนได้เลยค่ะ หรือจะมองหาเพชรแฟนซีที่ไม่ใช่สีขาวก็ช่วยให้ผู้สวมใส่ดูสวยหรูแบบแตกต่าง แต่คู่ไหนที่ไม่อยากใส่เพชรจริงๆ อาจลองมองหาเป็นอัญมณีสีสันต่างๆ ที่นอกจากจะแตกต่างแล้วยังช่วยเสริมพลังชีวิตให้กับผู้สวมใส่ (สายมูเตลูไปอีก อิอิ) แถมเทรนด์อัญมณีกำลังเป็นที่นิยมของเจ้าสาวชาวต่างชาติยุคมิลเลเนียลอีกด้วย

และแหวนแต่งงานแบบเพชรแฟนซีหรือแบบประดับอัญมณีนี้ ยังช่วยให้บ่าวสาวมีทางเลือกเพื่อเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

ต่อมาก็คือการเลือกตัวเรือนของแหวนแต่งงานที่มีหลายสีให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นแบบทองคำ ทองคำขาว หรือสีพิงค์โกลด์ แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดีขอแนะนำให้เลือกเป็นตัวเรือนแบบทองคำขาวหรือแบบแพลตินั่ม เพราะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยเพราะเป็นสีที่สามารถสวมใส่ได้ง่ายในชีวิตประจำวัน และทุกสไตล์การแต่งตัว

ส่วนตัวเรือนสีพิงค์โกลด์เป็นสีที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะเป็นสีที่อาจได้รับความนิยมเพียงช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ถ้าบ่าวสาวไม่แคร์และอยากแตกต่าง แหวนแต่งงานตัวเรือนสีพิงค์โกลด์ก็เป็นอะไรที่ตอบโจทย์สุดๆ และตัวเรือนทองคำ เหมาะสำหรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการความคลาสสิคแบบ timeless

เลือกซื้อแหวนแต่งงาน

ความรู้ขั้นพื้นฐาน 4Cs

ว่าที่บ่าวสาวที่ยังไง๊ยังไงก็เพชรนี่แหละที่จะเป็นแหวนแต่งงานของฉัน ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่างน้อยคุณทั้งคู่ต้องมีความรู้ขั้นพื้นฐานเรื่อง 4Cs สักนิด โดยเฉพาะเรื่องสี (color) อย่างน้อยคุณก็ต้องแยกให้ออกว่าเพชรที่คุณเลือกนั้นมีสีแบบใด ซึ่งสีของเพชรจะแสดงสัญลักษณ์ตัว D – Z หรือแสดงตัวเลขเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ 100% ลงไปเรื่อยๆ โดยสีระดับ D – F คือ 100 – 98% ถือเป็นเกรดไร้สี (Colorless) และสีระดับ G – J คือ 97 – 94% ถือว่าเป็นเกรดเกือบไร้สี (Near Colorless) การบอกระดับสีเพชรบนป้ายอาจมีแค่ตัวอักษรภาษาอังกฤษอย่างเดียวหรือจะบอกคู่กับเปอร์เซ็นต์ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะเลือกเขียนอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ระบุแค่ D Color อย่างเดียวซึ่งก็หมายถึงน้ำ 100% เป็นต้น

(อ่านเพิ่มเติม >>> ถอดรหัส 4Cs อ่านป้ายบนแหวนแต่งงานให้เป็นไม่ถูกหลอก)

เลือกซื้อแหวนแต่งงาน
cr. https://www.pricescope.com

ซึ่งคุณสมบัติ 4Cs นี้จะเป็นตัวกำหนดราคาแหวนแต่งงานของบ่าวสาวด้วย โดยเฉพาะเรื่องจำนวนกะรัต (Carat) ที่สาวๆ ส่วนใหญ่มักจะคิดว่ายิ่งใหญ่ยิ่งดี แต่จริงๆ แล้วการจะใส่แหวนเพชรให้สวย ขนาดของเพชรหรือตัวกะรัตจะต้องเหมาะสมกับขนาดความยาวและความกว้างของนิ้วผู้สวมใส่ด้วย

นอกจากนี้ยังต้องดูไปถึงเรื่องการเจียระไน (Cut) และความบริสุทธิ์ของเพชร (Clarity) ที่จะส่งผลต่อการส่องประกายแววาวของเพชรและราคา อย่างเช่น เพชรที่มีน้ำหนักน้อยกว่าแต่มีความบริสุทธ์ของเพชรมากกว่า อาจจะมีราคาที่สูงกว่าเพชรที่มีน้ำหนักเยอะแต่มีความบริสุทธิ์ไม่เท่าเม็ดเล็กก็ได้

>> ดูแบบแหวนแต่งงานและเครื่องประดับเพิ่มเติม คลิกเลย <<

ภาพเปิด : stocksnap.io

10 สิ่งห้ามทำเมื่อทะเลาะกับแฟน สติหลุดแค่ไหนต้องประคองให้อยู่

เคยไหมที่เวลาสติหลุดสมองกระเจิงจากการ ทะเลาะกับแฟน ไม่ว่าจะเรื่องงี่เง่าหรือเป็นสาระ คุณทั้งคู่ก็จะมีอารมณ์อยากเอาชนะกันเสมอ คำถามคือ อยากเลิกหรืออยากคืนดี ถ้าคำตอบคือคืนดี อ่านเลยแล้วเตือนตัวเองว่า อย่าทำ!!

1. ทะเลาะกันอย่าเที่ยวโพส

เคยได้ยินไหมว่าความในอย่านำออก ฉันใดก็ฉันนั้น ทะเลาะกันสองคนไม่จำเป็นต้องไปเที่ยวโพสต์ให้โลกรู้ เพราะนอกจากอาจเจอผู้ไม่หวังดีแล้ว ยังเป็นการไม่ให้เกียรติคนรักอีกด้วยนะ  อ่อๆ ที่สำคัญ แมวขโมยที่จ้องจะกินปลาของคุณ อาจฉวยโอกาสนี้ย่องมากินก็ได้

2. คำหยาบภาษาพ่อขุน

ส่วนหนึ่งของการทะเลาะที่รุนแรงทวีคือ ใครซักคนเริ่มพูดภาษาพ่อขุนขึ้นมา ทำให้จากที่มีปากเสียงอยู่แล้วยิ่งของขึ้นกันไปใหญ่ แถมจะทำให้ความดีที่คุณสั่งสมมาตั้งแต่ต้นดับสูญสลายไป ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครชอบคนที่พูดจาไม่เพราะหรอกค่ะ

3. ขุดเรื่องอดีตครั้งที่ล้าน

ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเป็นนักโบราณคดีจอมขุดหรือยังไง ถึงได้ชอบเอาเรื่องเก่าผ่านไปเป็นล้านปีมาพูดซ้ำๆ ย้ำ ฉะนั้นอย่าได้พูดเด็ดขาด อะไรผ่านแล้วก็แล้วกันไป ยิ่งขุดยิ่งขุ้ยจะยิ่งทำให้อีกฝ่ายเอือมระอาและ ความรักที่คุณเคยมีให้แก่กันก็มีแต่จะลดน้อยลงไปกว่าเดิม

divorce-argument

4. เปรียบเทียบ เปรียบเปรย

นี่ชีวิตคู่นะ ไม่ใช่ช้อปปิ้งออนไลน์จะมานั่งเปรียบเทียบของชิ้นนั้นชิ้นนี้ ยิ่งเปรียบเทียบแฟนเก่าแฟนใหม่นี่ไม่ควรเลยนะ เพราะตอนนี้เรื่องที่กำลังดำเนินคือเรื่องระหว่างคุณและเขา จะมาเทียบให้ช้ำใจกันไปอีกทำไม ที่สำคัญแต่ละคนก็ต่างกันไป ไม่มีใครเหมือนใคร แล้วคุณจะพูดเปรียบเทียบไปทำไม

5. เลี่ยงที่จะไม่คุย

หลายคู่ที่เวลาทะเลาะกันก็เดินหนีเดินหาย ถ้าเดินหายแบบว่าแค่แยกมุมไปสงบอารมณ์อันนี้โอเค แต่ถ้าเป็นแบบว่าหนีหายหน้าปิดเครื่องไม่มาเคลียร์อันนี้ไม่น่ารักเอาซะเลย เพราะเป็นการสะสมปัญหาแบบข้ามวันข้ามคืน ยิ่งจะทำให้ปัญหาบานปลายเข้าไปอีก

6. ปรึกษาเพื่อน

เพื่อนอาจจะเป็นที่ปรึกษาชั้นยอด แต่ก็ต้องเลือกพูดให้ถูกคนนะ เพราะเพื่อนบางคนอาจไม่ได้ชอบขี้หน้าแฟนคุณ แล้วมีหรือจะพูดเรื่องดีๆ ให้คุณแฮปปี้เอนดิ้งกัน แถมบางคนยังติดนิสัยขี้เม้า ก็เอาเรื่องของคุณไปขยายความต่อ ใส่สีตีไข่จนเรื่องเล็กนิดเดียวบานปลาย ดีไม่ดีถึงหุแฟนคุณแบบผิดๆ ทีนี้ละ ชีวิตเศร้าเลยนะ

7. ทำลายข้าวของ

นี่เรื่องจริงไม่ใช่มิวสิควีดีโอนะเธอ ที่จะเห็นของใกล้มือเป็นไม่ได้ต้องขว้างปา ไม่ว่าจะแก้วน้ำ จาน ชาม มันไม่ได้ทำให้เกิดผลดีเลย นอกจากจะเสียของแล้วยังจะเสียแฟนอีก คุณก็อาจจะเจ็บตัวด้วย

8. ท้าเลิก

โอ๊ย…พูดกันจังว่า “งั้นก็เลิกกันไปซิ” เคยคิดไหม ถ้าอีกฝ่ายบ้าจี้เลิกจริงๆ คุณจะเสียใจแค่ไหน เพราะการที่คุณคิดว่าบอกเลิกแต่เขาไม่เลิกหรอกเนี่ยพลาดมาเยอะแล้วนะ ฉะนั้นอย่าเผลอหลุดพูดเชียวละ ถ้าไม่คิดจะเลิกจริงๆ เพราะถ้าสุดท้ายคุณกลืนน้ำลายตัวเองขึ้นมาเนี่ย เสีย…เลยนะ

Quarrel between husband and the wife

9. ขอโทษไปงั้นๆ

คำขอโทษเป็นการแสดงความสำนึกผิดที่ออกมาจากใจจริงๆ แต่ถ้าจะพูดขอโทษเพื่อให้ปัญหาจบๆ ไปนั้นไม่ได้เป็นการแสดงความสำนึกผิดอย่างแท้จริง และมันอาจจะทำให้อีกฝ่ายยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิมอีกนะคะ

10. โกรธไม่พูด งอนให้เดาเอง

คนฟอร์มจัดเสียแฟนสุดที่รักไปนักต่อนักแล้วนะ สิ่งสุดท้ายที่เราขอเตือนคือ เมื่อไหร่คุณโกรธ พูดเลยว่าโกรธให้อีกฝ่ายรู้ อย่าคิดว่างอนอยู่เธอต้องรู้สิ เพราะเวลาอารมณ์ขึ้นไม่มีใครเดาทางใครได้หรอก รู้แต่วิธีรับมือเมื่อรู้ว่าโกรธว่างอนเท่านั้นแหละ ฉะนั้นทะเลาะกันแล้วห้ามปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาดเพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นเบื่อหน่ายและเลิกรากันในที่สุด

เป็นยังไงบ้างค่ะ กับ 10 สิ่งที่ไม่ควรทำเวลาทะเลาะกับแฟน ถ้า 10 ข้อนี้ตรงกับนิสัยของใครละก็ลดๆ ลงหน่อยนะจ๊ะ สมัยนี้หนุ่มๆ สาวๆ อารมณ์ร้อนกันซะด้วย แต่ยังไงก็คิดก่อนที่จะพูดจะทำอะไรนะค่ะ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจกับการกระทำภายหลัง

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย << 

ภาพ : vincekotchian.com, 123rf.com

9 ร้านรับจัด พานขันหมาก กับราคาสุดว้าวที่จับต้องถึง!!

9 ร้านรับจัด พานขันหมาก ราคาสุดว้าวววว!!

ประเพณีแต่งงานของคนไทยสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ พานขันหมาก ที่เจ้าบ่าวจะนำไปสู่ขอเจ้าสาว แต่ก็มีเจ้าบ่าวหลายๆ คนที่มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณเลยทำให้กลัวว่าจะได้ขันหมากที่ไม่ครบชุดหรือไม่ถูกตามหลักประเพณี และเพื่อคลายกังวล แพรว wedding เลยเสาะหาและรวบรวม 9 ร้านรับทำชุดขันหมากที่มีระดับราคาตั้งแต่หลักพันต้นๆ จนไปถึงระดับหรูหราราคาแพงมาฝากจ้า

1. แทนคุณ เวดดิ้ง

ร้านให้บริการชุดขันหมากราคาประหยัด เพราะนอกจากจะมีชุดขันหมากใบตองสดแล้ว ทางร้านยังมีชุดขันหมากงานผ้าประดิษฐ์ให้เช่านับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
ราคา : 3,000 – 12,900 บาท
โทร : 08-4108-9393
ที่ตั้งร้าน : 1/1 ซ.ประชาอุทิศ 54 แยก 8 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม.
เว็บไซต์ : www.tankhunwedding.com

2. สปัณขันหมาก


ร้านจัดชุดขันหมากใบตองสดที่มีให้คุณเลือกหลากหลายรูปแบบ ใช้เทคนิคการประดิษฐ์ที่พิถีพิถันแบบวิจิตรศิลป์ชั้นสูง ทำให้ได้ชุดขันหมากที่มีความปราณีตสวยงาม
ราคา : 4,200 – 18,900 บาท
โทร : 0-2903-4820,08-0584-6049,08-4682-5371
ที่ตั้งร้าน : 48/72-73 หมู่ 4 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี
เว็บไซต์ : www.sapankanmak.com

3. ไอริส (Flower & Wedding)

เป็นร้านที่ใช้ใบตองและดอกไม้สดมาทำชุดขันหมากในราคาที่ถูกและประหยัด นอกจากนี้ทางร้านยังรับทำการ์ดในราคาย่อมเยา เหมาะกับงานที่มีงบประมาณจำกัดแบบสุดๆ
ราคา : 4,900 – 14,900 บาท
โทร : 0-2581-3492, 08-0772-5000, 08-9797-4849
ที่ตั้งร้าน : 18/260-2 ถ.ปทุม-กรุงเทพ ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี
เว็บไซต์ : www.irisflowerwedding.com

4. Wedding Thai by ม.ล.เมลดา จรูญโรจน์

ทางร้านรับจัดชุดพานขันหมากของไทยและจีน มีทั้งแบบใบตองสดและดอกไม้สด โดยลูกค้าสามารถเลือกสีดอกไม้และวัสดุที่ใช้ทำได้ตามธีมงาน ที่สำคัญทางร้านยังรับให้คำปรึกษาเรื่องพานขันหมากฟรี!
ราคา : 11,900 – 24,900 บาท
โทร : 09-1569-5195
ที่ตั้งร้าน : 310/1232 ถ.สรงประภา เขตดอนเมือง กทม.
เว็บไซต์ : www.weddingthai.net

5. พิธีรีตอง

ร้านนี้มีพานขันหมากให้เลือก 3 แบบคือ แบบกลีบพลับพลึง แบบกลีบกล้วยไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และแบบชาววังที่มีความประณีตและวิจิตรสวยงาม นอกจากนี้ทางร้านก็ยังมีพานขันหมากแบบจีนไว้ให้คู่รักได้เลือกใช้กันอีกด้วย
ราคา : 6,000 – 24,500 บาท
โทร : 08-9922-9857, 08-5088-9857
ที่ตั้งร้าน : 14/18 ม.เพลินวิภา ซ.รามอินทรา 40 แยก 33 ถ.รามอินทรา แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.
เว็บไซต์ : www.piteereetong.com

6. รับจัดขันหมากครบชุด (บริการทั่วไทย)พานขันหมากราคา : 12,900 – 31,900 บาท
โทร : 09-5518-8774, 09-5518-8775
ที่ตั้งร้าน : 77/447 ม.2 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
เว็บไซต์ : www.facebook.com/teeradech.tee

7. พานขันหมากพานขันหมากราคา: 8,000 – 65,000 บาท
โทร: 08-1123-4526
ที่ตั้งร้าน : ปากคลองตลาด (ตลาดส่งเสริมการเกษตร) ถ.จักรเพชร เขตพระนคร กทม.
เว็บไซต์ : พานขันหมาก.com

8. ดอกแก้วพานขันหมากราคา : 5,800 – 29,000 บาท
โทร : 084-439-1344
ที่ตั้งร้าน : 295/25 ม.สุขนิเวศน์2 สุขสวัสดิ์ 64 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม.
เว็บไซต์ : www.dorkkaew.com

9. พิธีไทย (ร้านเดียวกับ TK Center Organizer)

ราคา : 20,000 บาท
โทร : 09-7235-8885, 08-9874-9967, 08-4314-4994
ที่ตั้งร้าน : 99/447-448 ม.6 หมู่บ้านมณฑาทิพย์ ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม
เว็บไซต์ : www.piteethai.com

นี่คือ 13 ร้านรับจัดชุดขันหมากที่แพรว wedding หามาฝากคุณเจ้าบ่าวให้เลือกกันในระดับราคาต่างๆ ตามกำลังทรัพย์ที่มี เพราะนอกจากจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีแล้วยังทำให้ประหยัดเงินและมีเวลาเหลือทำอย่างอื่นได้อีกจ้า

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีแต่งงานไทยเพิ่มเติม คลิกเลย <<

ภาพเปิด : Mcsiri : Photography

ขอบคุณภาพ : www.facebook.com/Irispatumthani, www.facebook.com/พิธีรีตอง-พานขันหมาก-พิธีแต่งงาน, www.facebook.com/สปัณพานขันหมากขนมไทย, www.facebook.com/weddingthai, www.tankhunwedding.com, www.piteereetong.com, www.wiwathai.com, www.facebook.com/gardenflower.thai, www.firstlove-prakasit.com, www.bananaleafwedding.com, www.flowersskill.com, www.facebook.com/teeradech.tee, www.dorkkaew.com, www.weddingcafehatyai.com, พานขันหมาก.com, www.piteethai.com

คิดจะแต่งงานกันทั้งที 5 เรื่องต่อไปนี้ต้องคุยกันให้ดีก่อนแต่งงาน

เมื่อมั่นใจแล้วว่าเขาและเธอคือคนที่ใช่ หัวใจก็เรียกร้องวันวิวาห์ แต่เดี๋ยว ก่อนแต่งงาน ! ทั้งทีมันก็มีเรื่องที่ต้องตกลงกันก่อน โดยเฉพาะ 5 เรื่องต่อไปนี้ที่คู่รักทุกคู่ควรจะเปิดอกคุยก่อนจะตัดสินใจลงไปอยู่ในเรือลำเดียวกัน

1. จับเข่าคุยกันสักนิดว่าการแต่งงานและการใช้ชีวิตคู่สำคัญสำหรับคุณทั้งคู่อย่างไร

แน่นอนว่าไม่มีคำตอบใดผิดและไม่มีคำตอบใดถูก แต่การที่คุณทั้งคู่ค่อยๆ คิดว่าอะไรคือสิ่งที่คาดหวังสำหรับชีวิตคู่ ทั้งในวันนี้และในอนาคต ย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ความรักหลังแต่งงานมีความสุขและราบรื่น แต่คิดเพียงฝ่ายเดียวไม่เกิดประโยชน์อะไรแน่นอน ดังนั้นก่อนจะเซย์เยส ลองถามใจตัวเองสักนิดว่ามีมุมมองที่แท้จริงต่อเรื่องนี้อย่างไร จากนั้นหาเวลานั่งคุยกันสักหน่อยว่ามีมุมมองการใช้ชีวิตคู่ตรงกันไหม อะไรบ้างที่ควรปรับให้เข้ากัน รวมถึงรูปแบบงานแต่งที่ต้องการเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ปรับจูนความเข้าใจและทัศนคติต่างๆ ให้เคลียร์ชัดก่อนที่จะตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน

2. เงินทองของต้องคุย

เรื่องเงินๆ ทองๆ นี่แหละ ที่ทำให้คู่รักกลายเป็นคู่ร้างมานักต่อนัก เพราะฉะนั้นคุณทั้งคู่ควรที่จะเปิดใจคุยให้รู้เรื่องกันไปเลยว่า มีความกังวลหรือมีหนี้สินใดๆ ผูกมัดเอาไว้ก่อนแต่งงานหรือไม่ อย่ากลัวที่จะต้องปรึกษาเรื่องการเงินของกันและกัน ให้คุณทั้งคู่นึกไว้เสมอว่า “รู้วันนี้ดีกว่ามีเซอร์ไพรส์วันหน้า” รวมไปถึงเรื่องสำคัญอย่างสินสอดทองหมั้นและงบประมาณการจัดงานแต่งว่ามีมากน้อยแค่ไหน วางแผนใช้เงินในอนาคตกันอย่างไร เงินเธอกับเงินฉัน ใช้กระเป๋าเดียวกันหรือเปล่า คุยกันให้กระจ่าง จะได้ไม่ต้องขุ่นเคืองใจกันในภายหลัง

3. บ้านเธอ บ้านฉัน อยู่กันที่ไหนดี

เรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาสำหรับคู่รักสมัยนิยมที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่ก่อนแต่งงาน แต่สำหรับคู่รักมือใหม่การตัดสินใจเรื่องเรือนหอรอรักนั้นก็จำเป็นไม่น้อย คุยกันให้ชัดเจนว่าจะอยู่บ้านเธอ จะอยู่บ้านฉัน หรือจะแยกออกมาเป็นครอบครัวเล็กๆ น่ารัก แต่อย่าลืมว่าคุณพ่อคุณแม่ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงด้วย บางคู่มีเงื่อนไขเรื่องการทำงานหรือเรื่องจำเป็นอื่นๆ ที่ทำให้ต้องอยู่แยกกันหรือสลับไปมาระหว่างสองบ้าน ก็ควรจัดสรรเวลาให้ดี จะอยู่บ้านนี้กี่วัน จะไปบ้านนั้นวันไหน ตกลงกันให้เข้าล็อค เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา

4. เจ้าตัวเล็กของเราจะให้เขามาเมื่อไหร่

หลังจากแต่งงานการมีพยานรักก็ต้องตามมา แต่ว่าควรจะมาในเวลาที่คุณทั้งคู่คิดว่าพร้อมแล้วที่จะให้ความรักและดูแลชีวิตน้อยๆ อีกหนึ่งชีวิตได้เป็นอย่างดี ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรึกษาหารือกันอย่างจริงจังว่าจะมีลูกไหม มีเมื่อไหร่และมีกี่คน อย่าให้โซ่ทองคล้องใจต้องกลายเป็นบ่วงผูกคอในเวลาที่ไม่พร้อมจะดีกว่า

5. ชีวิตหลังแต่งงานใน 10 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

การวางแผนชีวิตคู่ในระยะยาวไม่ใช่เรื่องเสียหาย หลายคู่วาดฝันว่าในอนาคตครอบครัวจะต้องมีธุรกิจที่มั่นคง ในขณะที่อีกหลายคู่ขอแค่ชีวิตที่สงบเรียบง่ายตามสไตล์พอเพียง ถ้าทั้งคู่คิดเหมือนกันก็สบายใจได้ แต่หากว่าคนหนึ่งเกิดอยากอยู่แบบชิลล์สบายในชนบท แต่อีกคนกลับอยากท่องไปให้ทั่วโลก ก็ไม่ควรจะละเลยหัวข้อสนทนานี้ไปเด็ดขาด หากความคิดไม่ตรงกัน ก็ถึงเวลาที่ต้องมานั่งจับเข่าคุย หาจุดกึ่งกลางระหว่างความต้องการของทั้งคู่ เลือกสิ่งที่ทำแล้วทั้งสองฝ่ายมีความสุข ใจเขาใจเรา ยืดหยุ่นกันบ้างก็สร้างชีวิตรักที่ดีได้

การวางแผนชีวิตคู่นั้นไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงแค่ว่าที่บ่าวสาวซื่อสัตย์ จริงใจ และกล้าที่จะเปิดอกคุยกัน รับรองว่าชีวิตหลังแต่งงานคุณจะได้เคียงคู่ชู้ชื่นกันอย่างราบรื่นแน่นอน

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

9 เหตุผลที่การันตีได้ว่าผู้หญิงรักสัตว์จะเป็นภรรยาที่เพอร์เฟ็กต์เว่อร์

ผู้หญิงรักสัตว์ จะเป็นภรรยาที่เพอร์เฟ็กต์เวอร์ อาจจะเป็นตรรกะที่แปลกสักนิด แต่ขอบอกว่าจริงนะเออ ถ้าไม่เชื่อ เรามี 9 เหตุผลที่จะสนับสนุนความคิดนี้ได้ดีมาเล่าสู่กันฟัง

เธอจะแบ่งปัน

บ่อยครั้งที่สายตาเว้าวอนของเจ้าตูบหรือเจ้าหมียวทำให้สาวๆ อดที่จะแบ่งปันอาหารให้กับมันไม่ได้ ด้วยเหตุนี้แหละทำให้สาวๆ ที่รักสัตว์เรียนรู้ที่จะแบ่งปันและมีน้ำใจ ทั้งต่อสัตว์โลกและเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสามี ลูก และคนในครอบครัว

เธอจะรอบคอบ

สัตว์เลี้ยงไม่สามารถพูดกับเราได้ว่ามันกำลังเป็นอะไรหรือต้องการอะไร ดังนั้นคนที่จะเลี้ยงน้องหมาหรือน้องแมวสักตัวหนึ่งต้องเป็นคนที่มีความรอบคอบ ใส่ใจ และระมัดระวังสิ่งต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงแสนรักได้ ซึ่งแน่นอนว่าความรอบคอบของสาวๆ ที่รักสัตว์จะส่งผลดีหลายๆ อย่างต่อการใช้ชีวิตคู่ด้วย เช่น เธอจะเป็นแม่บ้านที่ดูแลบ้านได้ดีเยี่ยม หรือเธอจะเป็นภรรยาที่ช่วยการงานของสามีได้อย่างเพอร์เฟ็กต์

เธอจะซื่อสัตย์

น้องหมาเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์เป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกถ้าสาวๆ ที่รักน้องหมาจะมีนิสัยซื่อสัตย์เช่นเดียวกัน เพราะเธอต้องซื่อสัตย์ที่จะเลี้ยงดูมันโดยไม่ทิ้งขว้างหรือเบื่อหน่าย แม้ในยามที่มันไม่น่ารักหรือแก่ชรา ซึ่งไม่ต่างกับการใช้ชีวิตคู่เลยที่ต้องอาศัยความซื่อสัตย์เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินความรักให้ราบรื่น

เธอจะให้อภัย

เป็นธรรมดาของสัตว์เลี้ยงที่ย่อมไม่รู้ประสีประสาจนทำอะไรให้เจ้าของต้องขุ่นเคืองใจ เช่น กัดรองเท้า คุ้ยข้าวของกระจุยกระจาย ซึ่งหากเป็นคนทั่วไปก็คงโกรธหรือโมโห แต่สำหรับสาวๆ ที่รักสัตว์แล้ว เธอจะพร้อมให้อภัยกับเรื่องเหล่านี้ได้เสมอ ซึ่งนั่นแปลว่าหากเธออยู่ในสถานะภรรยาก็จะมีคุณธรรมข้อนี้อยู่ในใจ คือรู้จักให้อภัย และไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องที่ใครๆ ก็ทำผิดพลาดกันได้

เธอจะมีความรับผิดชอบ

ความรับผิดชอบเป็นคุณสมบัติที่สาวรักสัตว์จะขาดไปไม่ได้เลย เพราะการเลี้ยงน้องหมาหรือน้องแมวสักตัวหนึ่ง เธอต้องรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ทั้งยังต้องรับผิดชอบต่ออีกหลายๆ หน้าที่ให้ดีไปพร้อมกันด้วย ซึ่งก็ถือเป็นข้อดีหากเธอต้องมารับบทบาทภรรยาหรือแม่ที่ต้องมีความรับผิดชอบสูง เชื่อว่าคุณผู้ชายคงจะเบาใจไปได้มากทีเดียว

เธอจะอดทน

หากผู้หญิงมีความอดทนมากกว่าผู้ชายเท่าไหร่ ผู้หญิงที่รักสัตว์ก็มีความอดทนมากกว่าผู้หญิงทั่วไปอีกเท่านั้น เพราะเธอต้องผ่านปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแสนรักมากมาย เธอต้องมีคุณสมบัติสำคัญอีกหลายประการจึงจะเป็นเจ้าของที่ดีได้ ซึ่งความอดทนที่ว่านั้นก็สร้างขึ้นจากเรื่องราวเหล่านี้นี่เอง

เธอจะอารมณ์ดี

ความน่ารักและความไร้เดียงสาของเจ้าตูบหรือเจ้าเหมียวทำให้สาวที่รักสัตว์กลายเป็นคนอารมณ์ดี คิดบวก ขี้เล่น และสนุกสนาน ซึ่งก็เป็นคุณสมบัติอีกข้อของสาวๆ ที่หนุ่มๆ ชื่นชอบ เพราะการได้อยู่กับคนที่มีความสุขก็จะทำให้เรามีความสุขตามไปด้วย

เธอจะใจเย็น
การเลี้ยงสัตว์ทำให้สาวๆ เป็นคนใจเย็น เพราะจะสังเกตเห็นได้ว่าในการสื่อสารกับมันหรือการฝึกหัดให้มันทำสิ่งต่างๆ ต้องใช้ความพยายามและเวลาเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นการฝึกจิตใจของผู้เลี้ยงไปในตัวด้วย ทีนี้หากหนุ่มๆ ได้สาวที่รักสัตว์มาเป็นภรรยาก็หมดกังวลได้เลยว่าเธอจะใจร้อนดั่งไฟหรือเปล่า

เธอจะมีสัญชาตญาณความเป็นแม่

ถ้าจะเปรียบเทียบกัน สัตว์เลี้ยงแสนรักก็ไม่ต่างกับลูกสาวลูกชายในอ้อมอกอ้อมใจของพ่อแม่สักเท่าไหร่ เพราะทั้งสองอย่างนี้ก็ต้องการการเลี้ยงดู การดูแล และการเอาใจใส่จากเจ้าของหรือพ่อแม่ ด้วยเหตุนี้ทำให้หนุ่มๆ มั่นใจได้ว่าสาวๆ ที่รักสัตว์ เธอจะมีสัญชาตญาณความเป็นแม่อยู่ในตัวเอง เธอจะรู้ว่าต้องเลี้ยงลูกอย่างไร จะเล่นกับเด็กอย่างไร หรืออย่างน้อยที่สุดเธอก็จะเรียนรู้วิธีการเป็นแม่ที่ดีได้อย่างรวดเร็ว

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย << 

ข้อมูลและภาพ : www.brides.com, www.legaltemplates.net

20 เทคนิคจัดงานแต่งงานให้ดูดี และน่าจดจำไปชั่วนิรันดร์ฟอร์เอเวอร์

ปีๆ หนึ่งมีคู่รักแต่งงานกันเป็นร้อยๆ คู่ และในบรรดาคนรอบกายคุณไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ เพื่อน พี่ น้อง หรือญาติคนอื่นๆ ก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานแต่งงานมาไม่น้อย ว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่อยากให้แขกของคุณรู้สึกว่างานแต่งครั้งนี้ดูดีและน่าจดจำมากกว่างานอื่นที่เคยไปมาและให้เขาเหล่านั้นรู้สึกว่าเป็นมากกว่าแค่งานเฉลิมฉลองตามธรรมดา ตามเรามาเลยค่ะ เพราะวันนี้เรามี ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ สำหรับการจัดงานแต่งงานให้ตราตรึงใจแขกมาฝากกัน

1. อย่ายืดเยื้อเยิ่นเย้อ

ถึงแม้ว่างานแต่งงานจะใช้เวลาอย่างน้อยๆ สามชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม บ่าวสาวทั้งหลายอย่าเพิ่งชะล่าใจไปว่ามีเวลาเหลือเฟือแล้วฉันจะทำอะไรนานเท่าไหร่ก็ได้ เราขอแนะนำว่า ให้คุณกระชับและกำหนดช่วงเวลาของแต่ละพิธีการให้ชัดเจน อย่าให้นานเกินไปจนแขกออกอาการเบื่อหรือรำคาญ จัดเวลาแต่ละช่วงให้เหมาะสมจะดีที่สุด

2. สร้างเอกลักษณ์จากตัวบ่าวสาว

ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ

การหยิบความชอบส่วนตัวหรือไลฟ์สไตล์ของคู่บ่าวสาวครีเอทสิ่งละอันพันละน้อยและของใช้ต่างๆ ในงานแต่ง เช่น การ์ด ซองใส่การ์ด ของชำร่วย ฯลฯ แบบนี้ก็ช่วยให้งานแต่งงานของคุณดูยูนีคไม่เหมือนใคร ไม่ว่าแขกคนไหนก็ไม่มีทางลืมงานแต่งครั้งนี้แน่นอน

3. ใครๆ ก็ใช้ #hashtag

ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะโผล่หน้าไปงานแต่งที่ไหนก็ล้วนแล้วแต่มี #hashtag ประจำงานแต่งกันทั้งนั้น ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้ชื่อบ่าวสาวเป็นคำสำคัญ หรือจะอยากครีเอทด้วยไอเดียสร้างสรรค์ ใช้คำเจ๋งๆ เท่ๆ แบบไม่มีใครเหมือนก็ได้ แต่อย่าลืมกำชับเหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่ให้ติด #hashtag เวลาอัพโหลดรูปด้วยนะ

4. กล่องยังชีพสุดน่ารักสำหรับแขก

ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ

สำหรับใครที่เลือกจัดงานแต่งงานตามต่างจังหวัด แล้วเหล่าแขกผู้มีเกียรติของคุณจะต้องเดินทางมาค้างอ้างแรมกันก่อนวันงาน เราแนะนำให้คุณเตรียมกล่องยังชีพไว้คอยต้อนรับจะดีที่สุด ซึ่งสิ่งของในกล่องนั้นอาจจะเป็นขนมทานเล่น น้ำ แผนที่สถานที่โดยรอบ เช่น ร้านอาหาร ร้านขายยา และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ด้วยก็ได้ ทำแบบนี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับแขก รับรองว่าปลื้มกันทั้งงาน

5. ทักทายแขกให้ครบทุกคน

ไม่ว่างานแต่งงานของคุณจะเชิญแขกเยอะแค่ไหน สิ่งสำคัญที่จะสร้างความทรงจำดีๆ ระหว่างคุณกับแขกก็คือการพูดคุยกันต่อหน้า ไม่ว่าจะเป็นแขกผู้ใหญ่ฝั่งใครก็ตาม คุณควรจะโอภาปราศรัยกับเขาเหล่านั้นด้วยร้อยยิ้ม อย่าเพียงแต่พูดประโยคซ้ำๆ อย่างคำขอบคุณเพียงอย่างเดียว ควรถามไถ่สารทุกข์สุกดิบบ้างพอหอมปากหอมคอและเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย

6. จัดโต๊ะจัดกลุ่มแขกให้ลงตัว

ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ

Seating Plan หรือแผนที่นั่ง ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียเก๋ไก๋สำหรับงานแต่งงาน คุณควรจะแบ่งแขกที่เชิญมาออกเป็นกลุ่มๆ เช่น เพื่อนสมัยประถม เพื่อนสมัยมัธยม เพื่อนสมัยมหา’ลัย เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนคุณพ่อ-คุณแม่ และอีกสารพัดแขก จากนั้นก็จัดการวางผังที่นั่งให้กับแต่ละกลุ่ม พร้อมทำป้ายวางไว้ที่หน้างานอย่างสวยงาม ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นของประดับให้งานดูดีเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ทั้งสำหรับเจ้าภาพและแขก ลดทอนความวุ่นวายของการเลือกที่นั่งไปได้เลย

7. เปิดบาร์ให้สายดริ๊งก์

ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ

งานแต่งที่ใดก็ล้วนแล้วแต่มีสายดริ๊งก์ สายจิบ สายกระดกอยู่เต็มงาน เพราะฉะนั้นเราแนะนำให้คุณเปิดบาร์เล็กๆ ไว้ภายในบริเวณสถานที่จัดงานแต่ง ใครที่งบเยอะ สามารถจัดหาเครื่องดื่มได้แบบไม่อั้นก็สามารถจัดไวน์ชั้นเลิศหรือบรั่นรสดีให้แขกได้ ส่วนใครที่งบพอตัวแต่ยังอยากสร้างความสนุกผ่านการดื่มก็สามารถเลือกเครื่องดื่มแบบไม่แพง อย่างเช่น เหล้า เบียร์ หรือค็อกเทลก็ได้เช่นกัน

8. เครื่องดื่ม Signature

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-signature-cocktail-julie-paisley

นอกจากเปิดบาร์เครื่องดื่มแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรมีเพื่อความน่าจดจำของงานแต่งก็คือ เครื่องดื่มพิเศษที่ไม่เหมือนงานไหนๆ อาจจะเป็นการผสมผสานเครื่องดื่มที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวชอบดื่มก็ได้ หรือจะสร้างค็อกเทลรสชาติใหม่ก็เข้าท่า ส่วนบ่าวสาวคู่ไหนที่ไม่สันทัดเรื่องของมึนเมา น้ำผักผลไม้อย่างเช่น น้ำฝรั่ง น้ำดอกอัญชัญ ฯลฯ ก็ใช้ทดแทนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้แบบไม่มีที่ติ แถมดีต่อสุขภาพด้วยนะ

9. สิ่งอำนวยความสะดวกต้องมีครบ

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-throw-the-best-wedding-guests-comfortable-ashley-mccormick

คุณควรจะเช็กให้แน่ใจว่ามีสิ่งไหนที่แขกต้องการเมื่อมาร่วมงานแต่งงานของคุณ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับวัน เวลา และสถานที่ที่คุณเลือกจัดงาน อย่างเช่น ถ้าคุณจัดงานแต่งบนชายหาดริมทะเล สิ่งที่ควรจะเตรียมไว้ให้แขกก็คือ รองเท้าแตะ แว่นกันแดด และร่ม เพราะฉะนั้นคุณควรจะ make sure ว่าแขกของคุณจะไม่รู้สึกลำบากเมื่อมางานแต่งงานของคุณ

10. มุมนั่งพักขา

บ่าวสาวคู่ไหนที่จัดงานแต่งแบบซิทดาวน์ดินเนอร์หรือแบบโต๊ะจีนคงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แต่ใครที่คิดจะจัดงานแต่งแบบค็อกเทลและบุฟเฟต์แล้วล่ะก็ เรื่องที่นั่งสำหรับแขกเป็นสิ่งสำคัญมาก! เพราะนอกจากโต๊ะนั่งของแขกผู้ใหญ่แล้ว คุณควรจะหาพื้นที่หรือมุมเล็กๆ ตกแต่งให้สวยงามตามธีมงานเพื่อตั้งเก้าอี้หรือโซฟาสำหรับให้แขกมานั่งพักขาบ้าง ตกแต่งมุมนั่งพักให้สวยงามตามธีมงาน คงไม่มีแขกคนไหนอยากยืนตั้งแต่ตอนต้นงานจนจบงานหรอกนะ

11. ไม่ต้องพูดยาวมากก็ได้

เราเข้าใจดีค่ะว่างานแต่งงานจำเป็นต้องมีญาติผู้ใหญ่ขึ้นมาอวยพรให้บ่าวสาว แต่สิ่งสำคัญคือ อย่าให้พูดยาวมากจนเกินไป เพราะแขกส่วนใหญ่จะเริ่มเบื่อและไม่สนใจฟัง (อันนี้เรื่องจริง!) ทางที่ดีให้แจ้งผู้ที่จะขึ้นพูดว่ามีเวลาให้พูดนานเท่าไหร่ ท่านละกี่นาที เพื่อที่ท่านจะได้เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ

12. เปิดช่วงให้แขกรีเควสต์เพลงแดนซ์

เสร็จจากพิธีการแล้วก็เข้าสู่ช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ถ้าคุณอยากเอนเตอร์เทนเหล่าเพื่อนพ้องให้แดนซ์มันจนฟลอร์ไฟลุก แนะนำให้หาดีเจเจ๋งๆ สักคนมาช่วยในงาน รวมถึงเปิดช่วงให้ขาแดนซ์ทั้งหลายสามารถรีเควสต์เพลงสนุกๆ ที่พวกเขาอยากออกสเต็ป รับรองว่าเต้นลืมเหนื่อยแน่นอน!

13. EIY bar – Eat It by Yourself

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-throw-the-best-wedding-diy-bar-chalk-shop-events

ปกติแล้วงานแต่งมักจะมีอาหารที่แคทเธอริ่งจัดมาให้ เรียงเป็นคำสวยงามเสร็จสรรพ ทำให้แขกต้องทานตามเมนูที่มี เราจึงอยากให้คุณลองจัดมุมขนมและเครื่องดื่มเล็กๆ แบบ Eat It by Yourself อาจเป็นขนมปังน่ารักๆ ล้อมรอบไปด้วยท็อปปิ้งหรือแยมต่างๆ ให้แขกเลือกจับคู่ทานตามที่อยาก รับรองว่าทั้งอิ่มและสนุก

14. มุมชาร์ตแบตต้องมี

เดี๋ยวนี้แบตเตอรี่โทรศัพท์ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก มางานแต่งทั้งทีต้องถ่ายรูปเป็นร้อยเป็นพัน เพราะฉะนั้นบ่าวสาวต้องไม่ลืมหามุมเล็กๆ ใกล้ห้องน้ำหรือทางเข้างาน ตกแต่งเป็นมุมสำหรับชาร์ตแบตโทรศัพท์ให้กับแขก และอย่าลืมติด #hastag งานแต่งไว้ตรงนั้นด้วย

15. เพิ่มความสนุกด้วยเกม

ในระหว่างที่แขกคนที่มาก่อนนั่งรอ ยืนรอ ให้ถึงเวลาที่บ่าวสาวลงมาถ่ายรูป หรือรอให้ถึงฤกษ์เริ่มพิธีการ นอกจากจะมีอาหารมาแก้ขัดในช่วงรอแล้ว เกมก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียดีๆ ที่จะช่วยให้แขกวัยสะรุ่น อย่างเพื่อนพี่น้องได้เล่นชิลๆ ฆ่าเวลา หรือจะใช้เบรกเวทีแดนซ์ในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ให้เหล่าหนุ่มสาวได้พักสเต็ปเท้าก็ได้เหมือนกัน

16. ของกินเล่นสำหรับช่วงปาร์ตี้

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-throw-the-best-wedding-late-night-harwell-photography-hot-chocolate

หลังจากจบช่วงพิธีการอาหารต่างๆ ก็มักจะหมดไปพร้อมกัน เหลือแต่เครื่องดื่มที่ยังมีให้เติมกันไม่อั้น แต่จะให้ขาแดนซ์ดื่มอย่างเดียวคงไม่ดีเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นบ่าวสาวควรคุยกับแคทเธอริ่งเพื่อให้เขาจัดเตรียมขนมทานเล่น (เรียกง่ายๆ ว่ากับแกล้ม) ไว้เติมพลังแดนซ์ให้ชาวปาร์ตี้ด้วย

17. ของชำร่วยที่ใช้งานได้จริง

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-throw-the-best-wedding-favor-people-want-annie-mcelwainเรามีโอกาสได้ร่วมงานแต่งมาหลายต่อหลายครั้ง เชื่อเถอะค่ะว่าของชำร่วยที่ดีที่สุดคือของชำร่วยที่ใช้งานได้จริง เพราะว่าทุกครั้งที่เขาหยิบมันมาใช้มันจะทำให้เขาระลึกถึงงานแต่งงานของคุณเสมอ และแน่นอนว่ามันจะไม่ได้ถูกทิ้งไว้ในตู้โชว์หรือที่ไหนสักที่ให้ฝุ่นจับ

18. มุมถ่ายรูปเก๋ๆ

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-photo-booth-sarah-chen

งานแต่งงานไหนๆ ก็มีมุมถ่ายรูปค่ะ แต่จะดีกว่าไหมถ้างานแต่งของคุณจะมีมุมถ่ายรูปที่ไม่ใช่แค่แบ็กดรอปแข็งๆ ธรรมดา ลองหาไอเดียใหม่ๆ ให้มุมถ่ายรูปมีสีสัน วางพร็อบหรือของตกแต่งที่แขกสามารถหยิบมาใช้โพสต์ท่าเก๋ๆ ดีกว่ายืนเอาหน้าแนบช่อดอกไม้เป็นไหนๆ

19. ปรับพิธีการตามสไตล์ใจอยาก

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-throw-the-best-wedding-first-look-marisa-holmes

พิธีการในงานแต่งงานในบ้านเราค่อนข้างที่จะเข้มงวด แต่ก็ใช่ว่าเราจะปรับแต่งให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความชอบของบ่าวสาวไม่ได้ ใครที่อยากได้งานสนุกสนานเฮฮา ก็สามารถลองใส่ลูกเล่นให้กับขบวนขันหมากในตอนเช้า หรือแม้กระทั่งงานฉลองตอนเย็น ลองเปลี่ยนจากโยนช่อดอกไม้ธรรมดามาเป็นจับฉลากชื่อสาวโสด แบบนี้รับรองว่าสาวไร้คู่ในงานไม่ต้องเหนื่อยกระโดดบนส้นสูง แต่ได้ลุ้นตัวโก่งเหมือนหวยออก!

20. จบงานแบบ Finale บนแคทวอล์กเริ่ดๆ!

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-throw-the-best-wedding-cool-exit-the-grovers

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา แต่จะปล่อยให้งานจบแบบกร่อยๆ แขกเหรื่อหันหลังเดินออกจากงานธรรมดาไม่ได้! เราแนะนำให้บ่าวสาวขอความร่วมมือเพื่อนพี่น้องช่วยส่งท้ายงานแห่งความสุขด้วยการโปรยดอกไม้ กระดาษวิบวับ หรือจะเป็นไฟเย็นสวยๆ ช่วยส่งบ่าวสาวเข้าห้องหอ รับรองว่าจบงานแบบประทับใจ แถมได้รูปสวยๆ มาเป็นโหล

20 เทคนิคที่ เราแนะนำให้คุณไม่ได้ทำยากแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าที่บ่าวสาวใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ สักนิด รับรองค่ะว่างานแต่งงานของคุณจะต้องน่าจดจำและสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับทุกๆ ที่มาร่วมงานแน่นอน

>> ดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย <<

เรียบเรียงและรูปภาพ : www.brides.com

สานฝันสาวอวบกับ 7 เคล็ดลับเด็ดเพื่อการเลือกซื้อชุดแต่งงานคนอ้วนในฝัน

คนอ้วนก็สวมชุดแต่งงานในฝันได้ไม่ต่างจากคนผอมหุ่นดีนะคะ และการจะเลือก ชุดแต่งงานคนอ้วน สวยๆ สักชุดที่มั่นใจว่าเหมาะกับตัวคุณนั้นไม่ใช่เรื่องยากค่ะ วันนี้เรามี 20 ชุดแต่งงานพร้อม 7 เคล็ดลับเด็ดเพื่อสาวอวบที่กำลังตามหาชุดแต่งงานในฝันมาฝากกัน แค่ทำตามที่บอก รับรองว่าได้ชุดงามๆ สมใจแน่นอนค่ะ

1. โทรสอบถามล่วงหน้า

ลองมองหาร้านชุดแต่งงานที่สนใจจากอินเตอร์เน็ตแล้วลองโทรถามทางร้านเพื่อบอกถึงขนาดรูปร่างของตั­วเองและถามว่าสามารถจัดหาชุดแต่งงานตามขนาดของคุณได้หรือไม่ เพราะโดยปกติแล้วร้านชุดแต่งงานทั่วไปจะมีแค่ชุดตัวอย่างตามขนาดมาตรฐานทั่วไปเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าอาจจะไม่มีชุดที่พอดีกับรูปร่างของว่าที่เจ้าสาวบางคน

2. มองหาร้านชุดแต่งงานขนาดใหญ่

ร้านชุดแต่งงานสาขาเล็กๆ อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักสำหรับว่าที่เจ้าสาวที่มีรูปร่างอวบ ลองไปร้านขายชุดแต่งงานสาขาหลักหรือร้านที่มีขนาดใหญ่แทนก่อน ร้านขนาดใหญ่เหล่านี้จะมีชุดแต่งงานให้เลือกมากมายและคุณอาจเจอชุดที่ใช่และเข้ากับรูปร่างได้ง่ายกว่าร้านสาขาเล็กๆ แต่ถ้ายังไม่คิดว่าจะเจอชุดที่ถูกใจ ร้านขนาดใหญ่เหล่านี้ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเริ่มต้นหาชุดเจ้าสาวสักชุดสำหรับงานแต่งงาน

3. อย่าปล่อยให้ใครมาชี้นำ

สำหรับการเลือกซื้อชุดแต่งงาน คนตัดสินใจคือตัวว่าที่เจ้าสาวเอง ดังนั้นอย่าให้ใครมาครอบงำการตัดสินใจ โดยเฉพาะพนักงานขาย คำแนะนำอาจรับฟังได้แต่ไม่ใช่การตัดสินใจแทน จำไว้นะจ้ะ

4. ปรับสไตล์ให้เข้ากับคุณ

เมื่อลองชุดแต่งงานแล้วรู้สึกถึงความไม่ใช่ อาจลองปรับเปลี่ยนเพื่อให้ชุดแต่งงานที่จะสวมใส่ดูเข้ากับรูปร่างและเพิ่มความสวยมากขึ้น อย่างการเพิ่มแขนของชุดเจ้าสาว ซึ่งสามารถเพิ่มได้ในช่วงการผลิตขั้นสุดท้าย หรือการเพิ่มเติมปรับเปลี่ยนอื่นๆ อย่างเช่น ความยาวสั้นที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงของกระโปรง ลองถามพนักงานขายถึงเรื่องการปรับเปลี่ยน และอย่ากลัวที่จะถามถึงเรื่องราคาสำหรับค่าการปรับเปลี่ยนชุด (เพราะทุกอย่างควรเป็นไปตามเหตุและผล)

5. รูปร่างของคุณไม่ใช่เรื่องน่าอาย

อย่ากลัวที่จะลองชุดแต่งงาน หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวไม่ดีเกี่ยวกับพนักงานขายที่ถามลูกค้าให้ลดน้ำหนักเพื่อให้ใส่ชุดเจ้าสาวได้ หรืออาจจะกรณีอื่นๆ ที่ทำให้ว่าที่เจ้าสาวต้องรู้สึกอับอายกับขนาดรูปร่างตัวเอง ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น สิ่งที่ควรทำคือมองหาพนักงานขายคนใหม่หรืออาจเปลี่ยนร้านเพื่อความสบายใจที่เพิ่มขึ้นแทน

6. มั่นใจในตัวเองเข้าไว้

ความมั่นใจคือสิ่งสำคัญ ลองมองหาชุดแต่งงานที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและพนักงานขายที่จะเป็นคนช่วยมองหาชุดแต่งงานที่ใช่ อย่าให้ใครมาลดความมั่นใจด้วยขนาดรูปร่างหรือการหาชุดแต่งงานที่ยากสำหรับการสวมใส่ ถ้าหากเจอคนที่ทำให้ความมั่นใจลดลง ลองมองหาร้านขายชุดแต่งงานที่อื่นเพราะยังมีร้านขายชุดแต่งงานมากมายที่มีชุดเจ้าสาวหลากหลายที่จะช่วยว่าที่เจ้าสาวดูสวยและดูดีในวันแต่งงาน

7. สนุกไปกับช่วงเวลานั้น

ช่วงเวลาแห่งการเลือกซื้อชุดแต่งงานคือประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่งในชีวิต ดังนั้นควรจะสนุกไปกับมัน ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่งงานที่น่ารัก ระยิบระยับ หรือมีกระโปรงเป็นชั้นๆ แค่ลองมองหาชุดแต่งงานที่ชอบและใช่ และเลือกซื้อด้วยความสนุกและมีความสุขเท่านั้น (แต่อย่าสนุกมากจนลืมเรื่องงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ด้วย)

>> ดูไอเดียชุดแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย! <<

ภาพ Pinterest

ห้ามพลาด! เคล็ดลับลูกดกของสะใภ้อาหมวยที่แฝงไว้ในงานแต่ง

เรื่องหนึ่งที่ครอบครัวชาวจีนให้ความสำคัญหลังจากที่แต่งงานอยู่กินกันไปแล้วก็คือ เรื่องของการสืบสกุลหรือการมีบัตรนั่นเอง เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เหล่าอาม้าอากงทั้งหลายจะหาวิธีการสารพัดเพื่อทำให้สะใภ้อันเป็นที่รักมีบุตรให้ได้ในเร็ววัน ไม่เว้นแม้แต่ในพิธีแต่งงานที่มีการถือเคล็ดความเชื่อต่างๆ ไว้มากมายเพื่อที่จะให้เจ้าสาวนั้นมีลูกในเร็ววัน จะมี เคล็ดลับลูกดก แบบไหนบ้างที่จะช่วยให้คุณมีลูกเร็วเหมือนเสกได้ไปดูกันเลย

1. เอี๊ยมแดงในวันแต่งงาน

ในวันแต่งงาน ชาวจีนมักจะนิยมให้เจ้าสาวสวมเอี๊ยมสีแดง และใส่เมล็ดพืช 5 ชนิดไว้ในกระเป๋าของชุดเอี๊ยม ซึ่งเป็นตัวแทนของความเจริญงอกงาม มีต้นชุงเฉ้าหรือต้นเมียหลวง 2 ต้น พร้อมกับให้แม่เจ้าสาวปักปิ่นปักผมสีทองที่มีลายภาษาจีนเป็นคำว่า “ยู่อี่” ซึ่งหมายถึง “สมปรารถนา” ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นเคล็ดลับให้เจ้าสาวมีลูกมีหลานสืบสกุล

2. ไข่ต้มในขนมอี๊เพื่อลูกชายคนแรก

อาตี๋อาหมวยหลายคนที่แต่งงานจะต้องไม่พลาดการทาน “ขนมอี๊” หรือ “บัวลอยจีน” แน่นอน ซึ่งเคล็ดลับการทานไข่ต้มที่อยู่ในขนมอี๊นั้น ห้ามใช้ช้อนตัดแบ่งครึ่งในถ้วยเด็ดขาด ต้องทานเข้าไปทั้งลูก เพราะชาวจีนเชื่อกันว่าจะทำให้ลูกคนแรกที่เกิดมานั้นเป็นลูกชาย

3. อาบน้ำทับทิมแล้ววิ่งไปกินไข่ต้ม

ความเชื่อนี้ฮีบินเจอมากับคนใกล้ตัวค่ะ เพราะหลังจากที่เพื่อนสาวแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายชายไปแล้ว นางก็กลับมาเล่าให้ฟังว่า หม่าม๊าฝ่ายชายจัดเตรียมพิธีอาบน้ำให้นาง โดยนำกิ่งทับทิมมาโรยไว้ในน้ำที่ต้องใช้อาบ จากนั้นเมื่ออาบเสร็จเรียบร้อยก็ต้องรีบวิ่งออกปอกไข่ต้มแล้วกินเข้าไปในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้ก็เพื่อให้นางมีลูกมีหลานไว้สืบสกุลเร็วๆ นั่นเอง!

4. ฮวงจุ้ยเสริมดวง เร่งเจ้าตัวน้อยให้มาอยู่กับคุณ

ชาวจีนเชื่อกันว่าตำแหน่งของห้องนอนก็ส่งผลกับการมีเจ้าตัวน้อยเช่นกัน ดังนั้นตำแหน่งที่ดีที่สำหรับห้องนอนของคู่รักจะต้องอยู่ทางทิศตะวันตก หรือส่วนกลางค่อนไปทางขวามือของตัวบ้าน อีกทั้งภายในห้องนอนจะต้องทาผนังเป็นสีขาว เตียงนอควรทำด้วยโลหะมันวาว ขาเตียงต้องเป็นทรงกลม โคมไฟในห้องนอนก็ต้องเป็นทรงกลมเช่นกัน ส่วนอุปกรณ์เครื่องใช้ควรมีสีสันสดใสหรือสีโทรสว่าง ห้ามใช้ของสีแดงและของที่มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมที่มีมุมแหลม  ไม่ควรวางตู้ที่มีกระจกเงาไว้ปลายเตียง รวมถึงไม่ควรมีหิ้งพระหรือโต๊ะหมู่ไว้ในห้องนอน เพราะถือว่าเป็นห้องเฉพาะคน

5. ไหว้พระพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ขาดไม่ได้กับสถานที่ยอดฮิตที่คู่รักและครอบครัวมักจะพากันไปกราบไหว้ขอบุตร ไม่ว่าจะเป็น
– เจ้าแม่กวนอิม วัดเล่งเน่ยยี่ ถนนเจิรญกรุง กรุงเทพฯ
– หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา
– ศาลเจ้าพ่อเสือ (ตั๊วเล่าเอี๊ย) ถนนตะนาวศรี กรุงเทพฯ
– เจ้าแม่กวนอิมที่ Repulse Bay ประเทศฮ่องกง
– พระสังกัจจายน์ ที่วัดหลิงซาน ประเทศจีน

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ อยากจะบอกว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของแต่ละครอบครัวนะคะ บางอย่างชาวจีนก็ถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยรุ่นเหล่ากง เหล่าม่า บางอย่างก็เพิ่งจะเคยเจอกับคนใกล้ตัว  เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของบ่าวสาวด้วยนะคะ แต่ถ้าใครที่อยากทำตามเพื่อช่วยให้สบายใจ มีกำลังใจในการผลิตลูกก็อย่าได้เคอะเขิน (เพราะยังไงก็ไม่ขัดกับความหวังดีของบรรพบุรุษ) แต่ก็อย่าลืมว่า สมัยนี้วิทยาการทางการแพทย์เขาล้ำสุดๆ แล้วนะ ถ้าอยากจะมีลูกจริงๆ ควรไปตรวจความพร้อมของร่างกาย และปรึกษาคุณหมอ ก็น่าจะเป็นหนทางที่เชื่อถือได้มากที่สุดนะคะ

>> ดูเรื่องราวเกี่ยวความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย <<

ภาพเปิด : www.nutritionnews.abbott

คู่สีผิวเจ้าสาวกับสีสันของชุดไทยเลือกอย่างไรให้สวยเป๊ะ…ตามนี้

ว่าที่เจ้าสาวหลายคนใฝ่ฝันที่จะได้ใส่ ชุดไทย สวยงามในวันวิวาห์ของตนเอง วันนี้เราอยากให้ทุกคนสวยสมดังหวัง จึงสรรหาเคล็ดลับการเลือกชุดไทยให้เข้ากับสีผิวมาฝากค่ะ

1. สาวผิวเข้ม

สีชุดไทยที่เหมาะกับคุณคือ ชุดโทนสีเหลือง สีทอง สีชมพูอ่อน และสีโอลด์โรส เพราะจะช่วยขับสีผิวให้สวยพอดี ไม่ตัดกันจนดูหลอกตาจนเกินไป

ชุดไทย

ชุดไทย

ชุดไทย

2. สาวผิวสีน้ำผึ้ง (ขาวเหลือง)

สาวผิวงามตามฉบับไทยแท้ น่าอิจฉาที่คนผิวสีประเภทนี้ใส่ชุดไทยได้ทุกสี โดยเฉพาะสีแดง แล้วห่มทับด้วยผ้าตาดทอง ก็จะหญิงสวยราวกับเป็นกุลสตรีผู้สูงศักดิ์

ชุดไทย

3. สาวผิวขาว

จริงอยู่ที่ว่าสาวผิวขาวใส่ชุดแต่งงานได้ทุกสี แต่ถ้าจะใส่ชุดไทยแล้วให้สวยเป๊ะปัง แนะนำว่าเป็นชุดสีโทนเย็น เช่น สีเงิน สีฟ้า สีขาว ก็จะยิ่งสวย แถมให้อีกนิดว่าลองเลือกผ้านุ่งให้มีสีเข้มกว่าสไบชิ้นบน รับรองว่างามแท้แน่นอน

ชุดไทย

ในชีวิตหญิงไทยสมัยใหม่จะมีสักกี่ครั้งที่จะได้ใส่ชุดไทยแบบเต็มยศ อย่างน้อยในงานแต่งของตัวเองก็ครั้งหนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นเลือกชุดไทยให้เหมาะกับสีผิว จะได้สวยที่สุดและเก็บเป็นภาพความทรงจำไปได้อีกนานแสนนาน

>> ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย <<

6 เรื่องต้องคิดให้ดีสักนิดก่อนตัดสินใจแต่งงานกับพ่อแม่เรือพ่วง

แพรวเวดดิ้งเข้าใจดีว่าความรักไม่เข้าใครออกใคร ดังนั้นเราจึงเห็นกันอยู่บ่อยๆ ว่ามีคนโสดตกหลุมรักกับพ่อหม้ายหรือแม่หม้ายลูกติด บางคู่รักกันมากจนถึงขั้นคิดจะแต่งงานรอบสอง ไอ้เรื่องแต่งงานน่ะมันก็เป็นเรื่องน่ายินดีค่ะ แต่! แพรวเวดดิ้งอยากให้คนที่อยู่ในสถานการณ์นี้คิดให้รอบคอบก่อนจะเซย์เยส แต่มีเรื่องอะไรที่ต้องคิดต้องคุยกันก่อนตัดสินใจแต่งงานกับ พ่อแม่เรือพ่วง บ้าง ไปดูกันค่ะ

1. ลูกเขากับเราเข้ากันได้หรือไม่

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเลยค่ะ แค่คุณสองคนรักกันอย่างเดียวคงไม่พอ ความรู้สึกของเด็กก็สำคัญเช่นกัน ลองประเมินตัวคุณเองและลูกของคนรักดูสิว่า เข้ากันได้หรือไม่ ตัวเด็กฉายแววต่อต้านหรือแสดงท่าทีคัดค้านกับการแต่งงานหรือเปล่า ถ้าลูกของเขายินดีและยอมรับคุณเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แพรวเวดดิ้งก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ เพราะถือว่าคุณได้ผ่านบททดสอบสำคัญไปหนึ่งข้อแล้ว

2. รักลูกเขาเหมือนเป็นลูกตัวเองได้ไหม

สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ คุณจะสามารถรักเด็กคนนั้นให้เหมือนเป็นลูกคุณเองได้หรือไม่ รวมถึงถ้าวันหนึ่งคุณมีลูกของตัวเอง คุณจะให้ความรักกับเขาทั้งสองคนได้เท่าเทียมกันหรือเปล่า มันอาจจะฟังดูยากที่จะให้รักลูกคนอื่นเท่ากับลูกของตัวเอง แต่อย่าลืมนะคะ เมื่อคุณตกลงแต่งงานกับผู้ปกครองของเขา นั่นเท่ากับว่าคุณได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา และชีวิตเขา และถ้าคุณไม่สามารถทำได้ มันต้องกลายเป็นปมในใจของเด็กแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องคิดเรื่องนี้ให้หนักด้วยนะ

3. รับพันธะของคนรักได้หรือไม่

หากว่าคนรักของคุณเป็นพ่อหม้ายหรือแม่หม้ายที่คู่คนก่อนเสียชีวิตไปเรื่องนี้คงสบายใจไปเปราะหนึ่ง แต่ถ้าเป็นการหย่าขาดจากกัน คุณคงต้องคิดสักหน่อยว่าความสัมพันธ์ของเขาและคนเก่าในตอนนี้เป็นเช่นไร เหลือไว้เพียงแค่การเป็นพ่อแม่ที่ดีของลูกเท่านั้นหรือไม่ และคุณรับได้แค่ไหนกับการที่เขายังต้องติดต่อกันเรื่องลูกหรือแวะมาหาลูกของเขาบ้าง ซึ่งคุณเองก็ไม่สามารถห้ามได้ นี่ก็เป็นอีกข้อหนึ่งที่คุณควรจะถามใจตัวเองให้ดีว่า “รับได้หรือไม่” ถ้าคำตอบคือ “ไม่” แพรวเวดดิ้งขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งแต่งจะดีกว่าค่ะ

4. เรื่องการเงินก็ต้องคิดนะ

เรื่องเงินก็สำคัญเช่นกันค่ะ คุณควรสังเกต (หรือถ้าจะให้ดีก็ถามเลย) ว่าคนรักของคุณมีภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูกของเขาอย่างไรบ้าง เช่น ค่าเทอม ค่าเรียนพิเศษ ในกรณีฝ่ายชายอาจต้องดูเพิ่มอีกว่า เขายังต้องส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้กับภรรยาเก่าหรือไม่ จากนั้นก็กลับมาคิดสิว่า ถ้ามีเราเพิ่มเข้าไปในครอบครัวอีกคนเขาจะดูแลเราไหวหรือเปล่า รวมถึงเราจะต้องส่งเสียเลี้ยงดูลูกของเขาด้วยไหม เรื่องนี้ต้องเคลียร์กันให้ชัดเจนนะคะ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในภายหลัง

5. จะมีลูกของเราเองด้วยไหม?

นอกจากจะต้องคิดเรื่องลูกของเขาแล้ว อยากให้คุณและคนรักเปิดใจคุยกันเรื่องลูกของตัวเองด้วย เพราะบางทีการที่คุณมีลูกคนใหม่อาจไปกระทบจิตใจของลูกอีกคน (ลูกคนเก่า) โดยเฉพาะเรื่องการดูแลเอาใจใส่และการแบ่งปันความรัก มีหลายคู่ที่ตกลงกันว่าจะไม่มีลูกใหม่ เพราะเขารักลูกของเขามากและไม่อยากให้ลูกรู้สึกไม่ดี สำหรับคู่ที่ตัดสินใจว่าอยากมีลูกของตัวเองก็ต้องให้ความรักกับทั้งสองคนได้อย่างเท่าเทียมกันด้วย (แนะนำให้กลับไปอ่านข้อ 2  อีกครั้งนะคะ)

6. จะให้เด็กเรียกคุณว่าอะไร?

ถ้าคุณตอบทุกคำถามและผ่านมาจนถึงข้อนี้คงแสดงให้เห็นว่าคุณจะแต่งงานแน่แล้ว อีกหนึ่งเรื่องสุดท้ายที่อยากให้คิดก็คือ “ลูกของเขาจะเรียกคุณว่าอะไร?” ซึ่งเรื่องนี้คงต้องให้เด็กเป็นคนตัดสินใจเองนะคะ แต่อย่าไปบังคับให้เขาเรียกพ่อหรือแม่ถ้าเขาไม่เต็มใจเด็ดขาด เพราะบางครั้งคำสำคัญเหล่านี้เขาคงอยากเก็บไว้ให้มีแค่คนเดียวที่ได้ฟังนะ จำไว้ว่าต้อง “แล้วแต่เขาจะเรียก” เท่านั้นค่ะ

สำหรับใครที่กำลังมีความรักกับคุณพ่อคุณแม่เรือพ่วงและกำลังจะตัดสินใจแต่งงาน แพรวเวดดิ้งอยากจะให้คุณลองคิดถึงสิ่งสำคัญที่เราแนะนำมาให้อ่านทั้ง 6 ข้อนี้ และมองให้รอบด้านก่อนตอบตกลงแต่งงาน เพราะบางครั้งความสุขก็ไม่ได้จบลงที่การแต่งงานเสมอไปหรอกจริงไหม

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ : www.genesismasterofevents.wordpress.com

15 นิสัยผู้ชายแบบนี้ที่ผู้หญิงทุกคนร้องยี้ไม่อยากแม้แต่จะอยู่ใกล้

คราวก่อนเขียนบอกความในใจของชายหนุ่มกันไปแล้วเกี่ยวกับ “10 นิสัยผู้หญิงที่ผู้ชายถึงกับต้องส่ายหน้า!” มาคราวนี้ถึงเวลาของเหล่าแม่เสือสาวที่จะมาเปิดอกว่า นิสัยผู้ชาย แบบไหนบ้างที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ชอบ! ถ้าอยากรู้ไปดูกันเลย

เลิกทำได้ไหม 15 นิสัยผู้ชาย ที่ผู้หญิงไม่อยากจะทน

Photo by Greta Schölderle Møller on Unsplash

1. สกปรก ซกมก

บอกตามตรงเลยค่ะว่าถ้านิดๆ หน่อยๆ อย่างเช่น ไม่ล้างมือก่อนทานข้าว ไม่สระผม 1 วัน อันนี้รับได้ แต่ถ้าเป็นประเภทที่ไม่สระผมติดกัน 3-4 วันจนหัวมันเยิ้ม แถมไม่อาบน้ำอีก อันนี้ขอบายค่ะ รับไม่ไหวจริงๆ รวมถึงพวกผู้ชายที่ชอบถอดเสื้อ ถอดกางเกงแล้วหมกๆ ไว้ตามมุมห้องหรือปลายเตียง โดยเฉพาะกางเกงยีนส์ที่ใส่เป็นเดือนแล้วไม่ยอมซัก (ถามจริงๆ ไม่เหม็นเหรอ?) อีกทั้งอันเดอร์แวร์ที่ม้วนตัวเป็นเลขแปดและคงสภาพเช่นนั้นเป็นอาทิตย์ๆ เนี่ย โอ้ย…สกปรกจนขนลุกจริงๆ นะ!

2. ขี้เกียจและไม่มีเป้าหมายในชีวิต

ถ้าเป็นผู้ชายประเภทขี้เกียจไปเที่ยว ขี้เกียจออกจากบ้าน ชอบอยู่แต่ที่บ้าน แบบนี้สาวๆ หลายคนน่าจะปลื้ม แต่ถ้าเป็นประเภทขี้เกียจทำงาน ไม่กระตือรือร้น ทำตัวเลื่อนลอยไม่มีเป้าหมายในชีวิต ไม่วางแผนอนาคตของตัวเอง ผู้หญิงคนไหนที่เจอผู้ชายประเภทนี้ก็เดินหนีกันทุกคนแหละค่ะ ใครจะไปกล้าฝากชีวิตไว้ให้ดูแล เผลอๆ แต่งงานไปเธอก็คงต้องลำบากประคับประคองชีวิตคุณอีก จริงไหม?

3. เห็นแก่ตัว ไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ข้อนี้ไม่ได้จะเรียกร้องให้คุณผู้ชายทั้งหลายเสียสละที่นั่งบนรถสาธารณะให้กับสตรีนะคะ แต่คนที่เห็นแก่ตัวและไม่เป็นสุภาพบุรุษหมายถึงคนที่ชอบผลักภาระต่างๆ ให้กับฝ่ายหญิง ไม่ว่าอะไรก็ตามก็จะต้องให้ฝ่ายหญิงเป็นคนทำให้ เห็นความสบายของตัวเองเป็นหลัก หรือเลือกแต่ของที่คุณชอบโดยที่ไม่คำนึงถึงอีกฝ่าย รวมถึงผู้ชายที่คุยกับสาวที่ละหลายๆ คน มีกิ๊กเยอะๆ และชอบทำตัวหวงกางด้วยเช่นกัน (ออกแนวฉันจะไปก็รั้งไว้อยู่ได้ ทั้งๆ ที่คุณก็มีใครอีกคน) แบบนี้รับรองเลยค่ะว่าผู้หญิงจะตีตัวออกห่างจากคุณเพราะทนความเห็นแก่ตัวของคุณไม่ไหวแน่ๆ

Photo by Sam Solomon on Unsplash

4. ลูกแหง่ติดแม่ ไม่มีความเป็นผู้นำ

ข้อนี้ต้องทำความเข้าใจนิดนึงนะคะว่ามันมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ระหว่างการเป็นผู้ชายที่รักแม่กับผู้ชายที่เป็นลูกแหง่ติดแม่ ถ้าคุณเป็นประเภทที่อะไรๆ ก็ขอถามหม่าม้าก่อนนะ หรือแล้วแต่หม่าม้าเลยครับ ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเอง เอะอะอะไรก็ตามแม่ รอแม่อนุมัติ บอกเลยค่ะว่า “น่าเบื่อมาก!” นี่ถ้าต้องขึ้นเตียงจะปัมปั๊มลูกต้องขออนุญาตหม่าม้าก่อนไหมคะคุณ?

5. ขี้อวด ขี้โม้ หลงตัวเอง

พวกผู้ชายที่พูดจาโอเว่อร์ว่าตัวเองรวยอย่างนั้น มีนั่นมีนี่ ทำไอ้นั่นก็ได้ ทำไอ้นี่ก็เก่ง สารพัดความสามารถ ความหล่อเหลา และความเพอร์เฟ็กต์มารวมอยู่ที่ตัวเขาหมด ทำตัวประหนึ่งนักปราชญ์ที่รู้ทุกอย่างบนโลกใบนี้ ผู้หญิงก็คงออกอาการเซ็งที่ต้องมานั่งฟังคำยกยอปอปั้นตัวเอง นี่ถ้าบินได้แบบไอรอนแมนคงบินโชว์ให้ดูแน่ๆ เลยพ่อคุณเอ๊ย!!!

6. ปากจัด ปากเสีย ชอบดูถูกผู้หญิง

จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเจอมากับคนที่รู้จักกัน คอนฟิร์มให้เลยว่าเวลาผู้ชายเอ่ยปากต่อว่าผู้หญิงแต่ละทีเนี่ย (จริงๆ ก็คือด่านั่นแหละ) บอกเลยนะคะว่า สะอึก สตั๊นท์ ถึงขั้นช็อคไปหลายวิ เพราะแสบกว่าผู้หญิงพูดหลายเท่า โดยเฉพาะผู้ชายที่ปากไม่ดี ชอบดูถูกเพศแม่ และไม่ให้เกียรติผู้หญิงแบบนี้ ใครเห็นเขาก็ต้องเดินหนีค่ะ คงไม่มีใครอยากเอาตัวเองไปเป็นที่ลับฝีปากให้คุณหรอกนะ บ๊ายยย!!

Photo by Liks Digital on Unsplash

7. ติดเพื่อน ติดบอล ติดเกม

ข้อนี้แทบจะเป็นปัญหาโลกแตกของคนเป็นแฟนกันเลยก็ว่าได้ จริงๆ แล้วผู้หญิงเราก็ไม่อยากห้ามคุณออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ไปดูบอล หรือเล่นเกมที่คุณชอบหรอกนะคะ แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชายที่ไม่รู้จักจัดสรรเวลาระหว่างแฟน เพื่อน ฟุตบอล และเกมให้ดีล่ะก็ รับรองเลยค่ะว่าผู้หญิงจะต้องรู้สึกว่าตัวเองไม่มีสำคัญกับคุณ เริ่มเบื่อหน่าย และอีกไม่นานเธอจะต้องถอยห่างและหายไปจากชีวิตคุณแน่

8. เจ้าชู้ ขี้โกหก

เรื่องแบบนี้ไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็คงไม่มีใครชอบทั้งนั้นแหละค่ะ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ซื่อสัตย์กับคนที่คุณรัก ถ้าคุณเป็นประเภทชอบเผลอมองสาวๆ สวยๆ ที่เดินผ่านแต่ไม่ได้คิดอะไร แบบนี้ก็ยังพอเข้าใจได้ แต่ถ้าเที่ยวให้เบอร์สาว แจกไอดีไลน์ไปทั่ว ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีคู่ใจอยู่แล้วเนี่ย แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าเฟรนด์ลี่นะคะ เขาเรียกว่าเจ้าชู้!

นอกจากนี้ ลักษณะอีกอย่างหนึ่งที่มักจะมาคู่กับความเจ้าชู้คือ ชอบโกหก แถเก่ง แถไปเรื่อย ชอบพูดว่าป่าวนะ ไม่ใช่นะ แค่เพื่อนกันนะ โอ๊ย! คุณค่ะ จะบอกให้รู้ว่าผู้หญิงเขาดูออกนะคะ ระวังให้ดีถ้าเธอรู้แล้วแกล้งโง่เนี่ย คลื่นสึนามิจะตามมาแบบไม่ทันตั้งตัวนะจ๊ะหนุ่มๆ

9. โลเล ไม่ชัดเจน

ผู้หญิงหลายคนเวลาคุยกับใครไปนานๆ เธอก็ต้องการความชัดเจนเหมือนกันนะคะว่า ตอนนี้คุณและเธอกำลังคุยกันอยู่ในสถานะไหน เรียกว่าแฟนได้หรือยัง ถ้าเกิดว่าเธอถามแล้วคุณตอบแบบอึกๆ อักๆ ชี้ชัดไม่ได้ว่ารู้สึกต่อกันเช่นไร หรือคุณอยากจะขยับความสัมพันธ์ให้มันมากกว่าเพื่อนคุยหรือเปล่า บอกเลยนะคะว่าผู้หญิงส่วนใหญ่จะรู้สึกว่ามันเสียเวลามาก คุยกันมาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่าอยู่ในสถานะอะไร เพราะฉะนั้นขอเซย์กู๊ดบายเลยแล้วกัน!

Photo by Icons8 Team on Unsplash

10. ใจร้อน ขี้หงุดหงิด

ผู้ชายคนไหนที่รู้ตัวเป็นคนใจร้อน ขี้หงุดหงิด อะไรไม่ได้ดั่งใจก็เริ่มหน้าบึ้ง หน้างอ อารมณ์โมโหพลุ่งพล่าน บอกเลยค่ะว่ารีบปรับปรุงตัวด่วนๆ อย่าว่าแต่ผู้หญิงเขาจะไม่ชอบเลยค่ะ คนรอบข้างคุณเขาก็คงไม่ปลื้มกับพฤติกรรมแบบนี้เหมือนกัน เพราะเขาไม่รู้ว่าคุณจะปะทุอารมณ์ออกมาเมื่อไหร่ และที่สำคัญคงไม่มีใครเขามาคอยเอาใจคุณอยู่ตลอดเวลาหรอกนะ

11. ติดเหล้า ติดบุหรี่

ข้อนี้ถ้าเป็นการออกไปสังสรรค์กินดื่มเพื่อเข้าสังคมผู้หญิงหลายคนก็พร้อมที่จะเข้าใจนะคะ แต่สำหรับผู้ชายคนไหนที่ต้องดื่มทุกวัน สูบบุหรี่ตลอดเวลา แบบนี้ก็ขอปล่อยผ่านเหมือนกันค่ะ เพราะนอกจากคุณจะตัวเหม็นไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นบุหรี่จนไม่น่าเข้าใกล้แล้ว มันยังส่งผลเสียต่อทั้งร่างกายของคุณเองและคนรอบข้างด้วยนะ เผลอๆ เสียสุขภาพจิตกันไปอีก แบบนี้ไม่โอเคเลย

12. ชอบตอบว่า “อะไรก็ได้แล้วแต่เธอเลย”

จริงๆ ผู้หญิงเราชอบผู้ชายที่ชอบตอบคำถามแบบนี้นะคะ แต่ขอให้เป็นคนที่อะไรก็ได้จริงๆ ตามใจเราจริงๆ ถ้าเป็นพวกที่อะไรก็ได้ไม่จริงแบบนี้มีเคืองนะ เช่น ถ้าผู้หญิงถามว่าอยากกินอะไรดี แล้วคุณตอบว่ากินอะไรก็ได้ เธอก็จะเลือกร้านที่เธอชอบแล้วนะ แต่พอเธอเลือกร้านที่เธออยากกินแล้วคุณกลับบอกว่าไม่เอา ไม่กิน แบบนี้เนี่ยมันเสียอารมณ์นะ คุณจะต้องโดนสายตามองแรงด้วยความโกรธปนรำคาญแน่นอน

Photo by Christian Erfurt on Unsplash

13. ชอบผิดนัด ชอบมาเลท

ข้อนี้เห็นมาบ่อยนะคะ มาช้าพอทนได้เพราะถึงยังไงเขาก็มา (แต่อย่าเลทแบบนี้ทุกครั้งนะ ผู้หญิงก็โมโหเป็น) แต่คนที่นัดกันไว้ซะดิบดี อยู่ๆ ก็มาขอเลื่อนขอลา ถ้าบอกล่วงหน้าก่อนวันนัดก็ยังทำใจให้โกรธน้อยลงได้ แต่ผู้ชายจำพวกที่ว่ามาบอกกะทันหันตอนที่เธออยู่จุดนัดพบแล้วเนี่ย โอ้โห้! เลเวลความโกรธจะพุ่งปรี๊ดสูงมาก แล้วคุณก็อาจจะไม่ได้นัด ไม่ได้เจอกับเธออีกเลยก็ได้ เรียกว่าผิดนัดกันครั้งเดียวก็เกินพอ

14. ชอบโชว์พาวเวอร์

ชายหนุ่มคนไหนที่เวลาอยู่กับแฟนในที่สาธารณะหรือว่าในวงเพื่อน วงเหล้า แล้วชอบทำโชว์ว่าตัวเองเก่งกว่าแฟน เหนือกว่าแฟน แต่พออยู่กันสองคนกับเจี๋ยมเจี๊ยม ผู้ชายแบบนี้นานวันไปผู้หญิงก็เบื่อและเซ็งเป็นธรรมดา สุดท้ายก็เธอก็จะโบกมือลา ปิดฉากความสัมพันธ์กับคุณแน่นอน

15. เอาแต่ใจตัวเอง

ถ้าผู้ชายไม่ชอบให้ผู้หญิงเอาแต่ใจตัวเองฉันใด ผู้หญิงก็ไม่ชอบผู้ชายที่เอาแต่ใจตัวเองฉันนั้น เพราะถ้าคุณเป็นคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากไปไหนผู้หญิงก็ต้องตามใจ พอไม่ได้ดั่งใจก็หงุดหงิด ทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ก็ไม่ไหวค่ะ ไม่มีใครตามใจคุณได้ตลอดไปหรอก

ชายหนุ่มคนไหนยังมีหลุด นิสัยผู้ชาย สุดยี้บ้างบางข้อ แบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ค่ะ ถ้ารู้แล้วก็ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เปลี่ยนตัวเองไปนะ ส่วนคุณผู้หญิงทั้งหลายก็ต้องคิดไว้ตลอดนะคะว่า “Nobody Perfect” คุณอาจจะมองหาผู้ชายที่มีข้อติดน้อยที่สุดก็ได้ แล้วก็ต้องถามใจตัวเองด้วยว่าคุณรับข้อเสียของผู้ชายคนนั้นได้แค่ไหน แต่ถ้าจะรอคนที่เพอร์เฟ็ก 100 % จริงๆ คงต้องรอเทพบุตรจุติมาเกิดแล้วล่ะคะสาวๆ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ : www.cooladvices.com

10 ไอเดียฉากถ่ายภาพในงานแต่งงานแบบไหนใช่สไตล์คุณ…ไปดูกันเลย

ไอเดียฉากถ่ายภาพ หลากสไตล์ที่บ่งบอกบุคลิกและตัวตนของบ่าวสาวได้เป็นอย่างดี

หากเปรียบงานแต่งหนึ่งงานเป็นคนหนึ่งคน ฉากถ่ายภาพ หรือแบ็กดร็อปก็ไม่ต่างอะไรจากรูปร่างหน้าตาของคนๆ  นั้น เพราะเป็นสิ่งแรกที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็น อีกทั้งยังสามารถสะท้อนธีมงานที่จัดได้เป็นอย่างดี แพรว wedding เลยมี ไอเดียฉากถ่ายภาพ เด็ดๆ มาฝากว่าที่บ่าวสาว เผื่อจะนำไปเป็นไอเดียให้กับงานแต่งของตัวเองได้ ^^

1. แบ็กดร็อปช่วงเวลาดีๆ ของเรา

02_114-JM06ถ้ายังคิดไม่ตกว่าแบ็กดร็อปในงานแต่งของคุณควรเป็นอย่างไร ลองนึกถึงสิ่งที่คุณสองคนชอบทำด้วยกัน  เช่น ถ้าชอบดูภาพยนตร์อาจออกแบบให้เป็นภาพของตั๋วภาพยนตร์ ก็ถือเป็นจุดสนใจที่น่ารักน่าหยิกได้ไม่น้อย

2. แบ็กดร็อปจากของสะสม

05_106-WD03จำลองของสะสมสุดโปรดนำมาประดับตกแต่งแบ็กดร็อป นอกจากจะได้ความเก๋ที่สะท้อนตัวตนของคุณแล้ว ยังมีความสุขที่ได้อยู่กับสิ่งที่รักพร้อมๆ กับการได้ยืนข้างคนรักในวันสำคัญอีกด้วย

3. แบ็กดร็อปจากสถานที่สุดโปรด

08_114-JM01สร้างความโรแมนติกให้กับงานแต่งด้วยแบ็กดร็อปที่ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่สุดโปรด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่เจอกันครั้งแรก หรือจะเป็นสถานที่ในฝัน ยิ่งเป็นสถานที่ที่มีความผูกพันกับบ่าวสาวมากเท่าไหร่ บรรยากาศจะยิ่งดูหวานละมุนมากขึ้นเป็นเท่าตัว

4. แบ็กดร็อปจากนิทานเรื่องโปรด

W123_WONDERLAND-(7)ขอพื้นที่เล็กๆ ให้ความเป็นเด็กในตัวคุณด้วยการเนรมิตนิทานเรื่องโปรดใส่ไว้ในแบ็กดร็อป นอกจากจะเรียกรอยยิ้มจากคุณและคนรักแล้ว ยังสร้างความสดชื่นให้กับแขกที่มางานได้เป็นอย่างดี

5. แบ็กดร็อปจากความใฝ่ฝัน

รูปภาพ(5)6บ่าวสาวที่มีความฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง สามารถเติมเต็มความใฝ่ฝันด้วยการตกแต่งแบ็กดร็อปตามสิ่งที่เคยมุ่งหวังเอาไว้ ไม่แน่นะการจำลองภาพฝันครั้งนี้อาจทำให้คุณได้ต่อยอดให้เกิดขึ้นในชีวิตจริงก็เป็นได้

6. แบ็กดร็อปแด่ผู้รักงานประดิษฐ์

09_114-JM01คู่รักที่คลั่งไคล้งานประดิษฐ์สามารถเนรมิตแบ็กดร็อปในงานแต่งด้วยสิ่งของที่คุณและคนรักทำขึ้น นอกจากจะได้ใช้เวลาร่วมกันแล้วยังสร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่างให้กับงานของคุณอีกด้วย

7. แบ็กดร็อปสามมิติ

Feb_57-(7)แบ็กดร็อปสามมิติทำให้งานดูสมจริงและน่าสนใจขึ้น รับรองเลยว่าแขกไปใครมาเห็นจะต้อง ‘ว้าว’ และจะลืมงานแต่งของคุณไม่ลงอย่างแน่นอน คอนเฟิร์ม!

8. แบ็กดร็อปจำลองบรรยากาศสวนดอกไม้

Foelove-23ใครที่ชอบสวนดอกไม้ สามารถจำลองบรรยากาศนั้นได้โดยการนำดอกไม้ต้นไม้ชนิดต่างๆ มาวางไล่ระดับบริเวณแบ็กดร็อปเพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับงานแต่งและแขกผู้มีเกียรติ

9. แบ็กดร็อปจากภาพยนตร์สุดเลิฟ

we119-เบนซ์-ปอ-8ฉากเด่นๆจากภาพยนตร์ในดวงใจสามารถเนรมิตให้เกิดขึ้นจริงได้บนแบ็กดร็อป  ไม่ว่าจะทำฉากด้วยอิงค์เจ็ตหรือสามมิติ เพียงคุณนำจุดเด่นของเรื่องมาแต่งแต้ม งานแต่งของคุณก็ดูมีกิมมิกจนยากจะลืม

10. แบ็กดร็อปสำหรับสาวก Polka Dot

catsตอบโจทย์บ่าวสาวที่ชื่นชอบลายจุดสุดคลาสสิก ยิ่งถ้านำมาตกแต่งกับคู่สีที่ตัดกันแล้วล่ะก็ บอกเลยงานนี้แจ่มว้าวอย่าบอกใครเชียว

ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง แบ็กดร็อปก็เช่นกันหากตั้งใจสรรค์สร้างก็สามารถก่อให้เกิดความประทับใจได้ไม่รู้ลืม และแน่นอนว่างานแต่งพิธีไทยก็ต้องการความสวยงามของฉากถ่ายภาพเช่นกัน ไปอัพเดทกันที่นี่ได้เลย คลิกเลย >>> 10 ไอเดียฉากถ่ายภาพงานแต่งงานพิธีไทยให้ทำตาม

ภาพเปิด : wholesale7.net
a

วิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทอง เตรียมพร้อมก่อนงานแต่ง

เจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งหลายที่มี เครื่องประดับทอง จากรุ่นสู่รุ่นหรือซื้อเก็บไว้ในคลังสมบัติมานาน และเมื่อได้ฤกษ์แต่งงานก็ถึงเวลาที่จะได้นำออกมาใช้สักที ไม่ว่าจะเป็นการนำมาใช้สวมใส่ หรือนำไปใช้เป็นสินสอด แต่เก็บไว้นานขนาดนี้บางทีเครื่องประดับก็อาจจะทรุดโทรมลงไปบ้าง ถ้าอย่างนั้นมาดูวิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทองเพื่อเตรียมพร้อมก่อนงานแต่งกันดีกว่า เพราะคงไม่มีบ่าวสาวคู่ไหนอยากนำทองสีหม่นๆ หมองๆ ออกมาโชว์หรอกจริงไหมคะ … แพรว wedding เลยนำวิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทองมาบอกเล่าให้คู่บ่าวสามารถนำไปทำได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งร้านมาฝากค่ะ

เครื่องประดับทอง

สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือนำยาล้างจาน หรือซันไลต์ที่เรารู้จักกันเนี่ยแหล่ะค่ะ พร้อมกับแปรงสีฟันที่ใช้แล้ว หรือยังไม่ใช้ ก็ได้ เพราะแปรงสีฟันมีเนื้อแปรงที่อ่อนจะช่วยทำความสะอาดทองได้ดีและไม่ทำให้ทองช้ำ วิธีการทำก็ง่ายๆ คือ

  1. นำทองมาแช่ไว้ในน้ำเปล่าสะอาดสักครู่
  2. นำน้ำยาล้างจานมาพร้อมน้ำ แล้วค่อยๆ ขัดที่ตัวทองเบาๆ
  3. จุ่มน้ำแล้วขัดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสะอาด
  4. ล้างด้วยน้ำสะอาดให้น้ำยาล้างจานหลุดออกให้หมด
  5. ซับด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง แล้วเก็บให้เรียบร้อยค่ะ

*ถ้าตัวทองมีอัญมณีประดับอยู่ ควรทำความสะอาดเบาๆ เพื่อป้องกันอัญมณีหลุดนะคะ

ถ้าในกรณีที่ทองมีคราบไขมันจับอยู่มากๆ สามารถนำมาต้มในน้ำเดือดได้ โดยแช่ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วนำขึ้นมาซับให้แห้ง คราบไขมันก็จะหลุดออกจากตัวทองได้ค่ะ แต่อย่าต้มนานเกินไปนะคะไม่อย่างนั้นเครื่องประดับอาจจะเสียหายได้

วิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทอง

ถ้าต้องการให้เครื่องประดับทองดูใหม่เอี่ยมอยู่เสมอ ก็ควรทำความสะอาดบ่อยๆ หรือไม่จำเป็นก็เก็บไว้เพราะการใส่ติดตัวตลอดจะทำให้ทองมีคราบเหงื่อไคลติดอยู่ได้ และอีกสิ่งที่ทำให้ทอดซีดก็คือ คลอรีน ที่ผสมอยู่ในสระว่ายน้ำนั่นเองค่ะ ดังนั้นควรเก็บรักษาทองดีๆ และทำความสะอาดให้ถูกต้อง เพียงเท่านี้บ่าวสาวก็จะมีเครื่องประดับทองสวยๆ ใหม่เอี่ยมมาใส่ประดับในงานแต่งแล้ว แถมไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่หรือนำไปให้ร้านล้างให้เลยค่ะ

วิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทอง

Read More : ความหมาย สีเครื่องประดับ รู้ไว้เพิ่มความมั่นใจให้เจ้าสาว

ภาพจาก : Pinterest.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a