ปีๆ หนึ่งมีคู่รักแต่งงานกันเป็นร้อยๆ คู่ และในบรรดาคนรอบกายคุณไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ เพื่อน พี่ น้อง หรือญาติคนอื่นๆ ก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานแต่งงานมาไม่น้อย ว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่อยากให้แขกของคุณรู้สึกว่างานแต่งครั้งนี้ดูดีและน่าจดจำมากกว่างานอื่นที่เคยไปมาและให้เขาเหล่านั้นรู้สึกว่าเป็นมากกว่าแค่งานเฉลิมฉลองตามธรรมดา ตามเรามาเลยค่ะ เพราะวันนี้เรามี ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ สำหรับการจัดงานแต่งงานให้ตราตรึงใจแขกมาฝากกัน
1. อย่ายืดเยื้อเยิ่นเย้อ
ถึงแม้ว่างานแต่งงานจะใช้เวลาอย่างน้อยๆ สามชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม บ่าวสาวทั้งหลายอย่าเพิ่งชะล่าใจไปว่ามีเวลาเหลือเฟือแล้วฉันจะทำอะไรนานเท่าไหร่ก็ได้ เราขอแนะนำว่า ให้คุณกระชับและกำหนดช่วงเวลาของแต่ละพิธีการให้ชัดเจน อย่าให้นานเกินไปจนแขกออกอาการเบื่อหรือรำคาญ จัดเวลาแต่ละช่วงให้เหมาะสมจะดีที่สุด
2. สร้างเอกลักษณ์จากตัวบ่าวสาว
การหยิบความชอบส่วนตัวหรือไลฟ์สไตล์ของคู่บ่าวสาวครีเอทสิ่งละอันพันละน้อยและของใช้ต่างๆ ในงานแต่ง เช่น การ์ด ซองใส่การ์ด ของชำร่วย ฯลฯ แบบนี้ก็ช่วยให้งานแต่งงานของคุณดูยูนีคไม่เหมือนใคร ไม่ว่าแขกคนไหนก็ไม่มีทางลืมงานแต่งครั้งนี้แน่นอน
3. ใครๆ ก็ใช้ #hashtag
เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะโผล่หน้าไปงานแต่งที่ไหนก็ล้วนแล้วแต่มี #hashtag ประจำงานแต่งกันทั้งนั้น ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้ชื่อบ่าวสาวเป็นคำสำคัญ หรือจะอยากครีเอทด้วยไอเดียสร้างสรรค์ ใช้คำเจ๋งๆ เท่ๆ แบบไม่มีใครเหมือนก็ได้ แต่อย่าลืมกำชับเหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่ให้ติด #hashtag เวลาอัพโหลดรูปด้วยนะ
4. กล่องยังชีพสุดน่ารักสำหรับแขก
สำหรับใครที่เลือกจัดงานแต่งงานตามต่างจังหวัด แล้วเหล่าแขกผู้มีเกียรติของคุณจะต้องเดินทางมาค้างอ้างแรมกันก่อนวันงาน เราแนะนำให้คุณเตรียมกล่องยังชีพไว้คอยต้อนรับจะดีที่สุด ซึ่งสิ่งของในกล่องนั้นอาจจะเป็นขนมทานเล่น น้ำ แผนที่สถานที่โดยรอบ เช่น ร้านอาหาร ร้านขายยา และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ด้วยก็ได้ ทำแบบนี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับแขก รับรองว่าปลื้มกันทั้งงาน
5. ทักทายแขกให้ครบทุกคน
ไม่ว่างานแต่งงานของคุณจะเชิญแขกเยอะแค่ไหน สิ่งสำคัญที่จะสร้างความทรงจำดีๆ ระหว่างคุณกับแขกก็คือการพูดคุยกันต่อหน้า ไม่ว่าจะเป็นแขกผู้ใหญ่ฝั่งใครก็ตาม คุณควรจะโอภาปราศรัยกับเขาเหล่านั้นด้วยร้อยยิ้ม อย่าเพียงแต่พูดประโยคซ้ำๆ อย่างคำขอบคุณเพียงอย่างเดียว ควรถามไถ่สารทุกข์สุกดิบบ้างพอหอมปากหอมคอและเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย
6. จัดโต๊ะจัดกลุ่มแขกให้ลงตัว
Seating Plan หรือแผนที่นั่ง ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียเก๋ไก๋สำหรับงานแต่งงาน คุณควรจะแบ่งแขกที่เชิญมาออกเป็นกลุ่มๆ เช่น เพื่อนสมัยประถม เพื่อนสมัยมัธยม เพื่อนสมัยมหา’ลัย เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนคุณพ่อ-คุณแม่ และอีกสารพัดแขก จากนั้นก็จัดการวางผังที่นั่งให้กับแต่ละกลุ่ม พร้อมทำป้ายวางไว้ที่หน้างานอย่างสวยงาม ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นของประดับให้งานดูดีเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ทั้งสำหรับเจ้าภาพและแขก ลดทอนความวุ่นวายของการเลือกที่นั่งไปได้เลย
7. เปิดบาร์ให้สายดริ๊งก์
งานแต่งที่ใดก็ล้วนแล้วแต่มีสายดริ๊งก์ สายจิบ สายกระดกอยู่เต็มงาน เพราะฉะนั้นเราแนะนำให้คุณเปิดบาร์เล็กๆ ไว้ภายในบริเวณสถานที่จัดงานแต่ง ใครที่งบเยอะ สามารถจัดหาเครื่องดื่มได้แบบไม่อั้นก็สามารถจัดไวน์ชั้นเลิศหรือบรั่นรสดีให้แขกได้ ส่วนใครที่งบพอตัวแต่ยังอยากสร้างความสนุกผ่านการดื่มก็สามารถเลือกเครื่องดื่มแบบไม่แพง อย่างเช่น เหล้า เบียร์ หรือค็อกเทลก็ได้เช่นกัน
8. เครื่องดื่ม Signature
นอกจากเปิดบาร์เครื่องดื่มแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรมีเพื่อความน่าจดจำของงานแต่งก็คือ เครื่องดื่มพิเศษที่ไม่เหมือนงานไหนๆ อาจจะเป็นการผสมผสานเครื่องดื่มที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวชอบดื่มก็ได้ หรือจะสร้างค็อกเทลรสชาติใหม่ก็เข้าท่า ส่วนบ่าวสาวคู่ไหนที่ไม่สันทัดเรื่องของมึนเมา น้ำผักผลไม้อย่างเช่น น้ำฝรั่ง น้ำดอกอัญชัญ ฯลฯ ก็ใช้ทดแทนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้แบบไม่มีที่ติ แถมดีต่อสุขภาพด้วยนะ
9. สิ่งอำนวยความสะดวกต้องมีครบ
คุณควรจะเช็กให้แน่ใจว่ามีสิ่งไหนที่แขกต้องการเมื่อมาร่วมงานแต่งงานของคุณ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับวัน เวลา และสถานที่ที่คุณเลือกจัดงาน อย่างเช่น ถ้าคุณจัดงานแต่งบนชายหาดริมทะเล สิ่งที่ควรจะเตรียมไว้ให้แขกก็คือ รองเท้าแตะ แว่นกันแดด และร่ม เพราะฉะนั้นคุณควรจะ make sure ว่าแขกของคุณจะไม่รู้สึกลำบากเมื่อมางานแต่งงานของคุณ
10. มุมนั่งพักขา
บ่าวสาวคู่ไหนที่จัดงานแต่งแบบซิทดาวน์ดินเนอร์หรือแบบโต๊ะจีนคงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แต่ใครที่คิดจะจัดงานแต่งแบบค็อกเทลและบุฟเฟต์แล้วล่ะก็ เรื่องที่นั่งสำหรับแขกเป็นสิ่งสำคัญมาก! เพราะนอกจากโต๊ะนั่งของแขกผู้ใหญ่แล้ว คุณควรจะหาพื้นที่หรือมุมเล็กๆ ตกแต่งให้สวยงามตามธีมงานเพื่อตั้งเก้าอี้หรือโซฟาสำหรับให้แขกมานั่งพักขาบ้าง ตกแต่งมุมนั่งพักให้สวยงามตามธีมงาน คงไม่มีแขกคนไหนอยากยืนตั้งแต่ตอนต้นงานจนจบงานหรอกนะ
11. ไม่ต้องพูดยาวมากก็ได้
เราเข้าใจดีค่ะว่างานแต่งงานจำเป็นต้องมีญาติผู้ใหญ่ขึ้นมาอวยพรให้บ่าวสาว แต่สิ่งสำคัญคือ อย่าให้พูดยาวมากจนเกินไป เพราะแขกส่วนใหญ่จะเริ่มเบื่อและไม่สนใจฟัง (อันนี้เรื่องจริง!) ทางที่ดีให้แจ้งผู้ที่จะขึ้นพูดว่ามีเวลาให้พูดนานเท่าไหร่ ท่านละกี่นาที เพื่อที่ท่านจะได้เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ
12. เปิดช่วงให้แขกรีเควสต์เพลงแดนซ์
เสร็จจากพิธีการแล้วก็เข้าสู่ช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ถ้าคุณอยากเอนเตอร์เทนเหล่าเพื่อนพ้องให้แดนซ์มันจนฟลอร์ไฟลุก แนะนำให้หาดีเจเจ๋งๆ สักคนมาช่วยในงาน รวมถึงเปิดช่วงให้ขาแดนซ์ทั้งหลายสามารถรีเควสต์เพลงสนุกๆ ที่พวกเขาอยากออกสเต็ป รับรองว่าเต้นลืมเหนื่อยแน่นอน!
13. EIY bar – Eat It by Yourself
ปกติแล้วงานแต่งมักจะมีอาหารที่แคทเธอริ่งจัดมาให้ เรียงเป็นคำสวยงามเสร็จสรรพ ทำให้แขกต้องทานตามเมนูที่มี เราจึงอยากให้คุณลองจัดมุมขนมและเครื่องดื่มเล็กๆ แบบ Eat It by Yourself อาจเป็นขนมปังน่ารักๆ ล้อมรอบไปด้วยท็อปปิ้งหรือแยมต่างๆ ให้แขกเลือกจับคู่ทานตามที่อยาก รับรองว่าทั้งอิ่มและสนุก
14. มุมชาร์ตแบตต้องมี
เดี๋ยวนี้แบตเตอรี่โทรศัพท์ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก มางานแต่งทั้งทีต้องถ่ายรูปเป็นร้อยเป็นพัน เพราะฉะนั้นบ่าวสาวต้องไม่ลืมหามุมเล็กๆ ใกล้ห้องน้ำหรือทางเข้างาน ตกแต่งเป็นมุมสำหรับชาร์ตแบตโทรศัพท์ให้กับแขก และอย่าลืมติด #hastag งานแต่งไว้ตรงนั้นด้วย
15. เพิ่มความสนุกด้วยเกม
ในระหว่างที่แขกคนที่มาก่อนนั่งรอ ยืนรอ ให้ถึงเวลาที่บ่าวสาวลงมาถ่ายรูป หรือรอให้ถึงฤกษ์เริ่มพิธีการ นอกจากจะมีอาหารมาแก้ขัดในช่วงรอแล้ว เกมก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียดีๆ ที่จะช่วยให้แขกวัยสะรุ่น อย่างเพื่อนพี่น้องได้เล่นชิลๆ ฆ่าเวลา หรือจะใช้เบรกเวทีแดนซ์ในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ให้เหล่าหนุ่มสาวได้พักสเต็ปเท้าก็ได้เหมือนกัน
16. ของกินเล่นสำหรับช่วงปาร์ตี้
หลังจากจบช่วงพิธีการอาหารต่างๆ ก็มักจะหมดไปพร้อมกัน เหลือแต่เครื่องดื่มที่ยังมีให้เติมกันไม่อั้น แต่จะให้ขาแดนซ์ดื่มอย่างเดียวคงไม่ดีเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นบ่าวสาวควรคุยกับแคทเธอริ่งเพื่อให้เขาจัดเตรียมขนมทานเล่น (เรียกง่ายๆ ว่ากับแกล้ม) ไว้เติมพลังแดนซ์ให้ชาวปาร์ตี้ด้วย
17. ของชำร่วยที่ใช้งานได้จริง
เรามีโอกาสได้ร่วมงานแต่งมาหลายต่อหลายครั้ง เชื่อเถอะค่ะว่าของชำร่วยที่ดีที่สุดคือของชำร่วยที่ใช้งานได้จริง เพราะว่าทุกครั้งที่เขาหยิบมันมาใช้มันจะทำให้เขาระลึกถึงงานแต่งงานของคุณเสมอ และแน่นอนว่ามันจะไม่ได้ถูกทิ้งไว้ในตู้โชว์หรือที่ไหนสักที่ให้ฝุ่นจับ
18. มุมถ่ายรูปเก๋ๆ
งานแต่งงานไหนๆ ก็มีมุมถ่ายรูปค่ะ แต่จะดีกว่าไหมถ้างานแต่งของคุณจะมีมุมถ่ายรูปที่ไม่ใช่แค่แบ็กดรอปแข็งๆ ธรรมดา ลองหาไอเดียใหม่ๆ ให้มุมถ่ายรูปมีสีสัน วางพร็อบหรือของตกแต่งที่แขกสามารถหยิบมาใช้โพสต์ท่าเก๋ๆ ดีกว่ายืนเอาหน้าแนบช่อดอกไม้เป็นไหนๆ
19. ปรับพิธีการตามสไตล์ใจอยาก
พิธีการในงานแต่งงานในบ้านเราค่อนข้างที่จะเข้มงวด แต่ก็ใช่ว่าเราจะปรับแต่งให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความชอบของบ่าวสาวไม่ได้ ใครที่อยากได้งานสนุกสนานเฮฮา ก็สามารถลองใส่ลูกเล่นให้กับขบวนขันหมากในตอนเช้า หรือแม้กระทั่งงานฉลองตอนเย็น ลองเปลี่ยนจากโยนช่อดอกไม้ธรรมดามาเป็นจับฉลากชื่อสาวโสด แบบนี้รับรองว่าสาวไร้คู่ในงานไม่ต้องเหนื่อยกระโดดบนส้นสูง แต่ได้ลุ้นตัวโก่งเหมือนหวยออก!
20. จบงานแบบ Finale บนแคทวอล์กเริ่ดๆ!
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา แต่จะปล่อยให้งานจบแบบกร่อยๆ แขกเหรื่อหันหลังเดินออกจากงานธรรมดาไม่ได้! เราแนะนำให้บ่าวสาวขอความร่วมมือเพื่อนพี่น้องช่วยส่งท้ายงานแห่งความสุขด้วยการโปรยดอกไม้ กระดาษวิบวับ หรือจะเป็นไฟเย็นสวยๆ ช่วยส่งบ่าวสาวเข้าห้องหอ รับรองว่าจบงานแบบประทับใจ แถมได้รูปสวยๆ มาเป็นโหล
20 เทคนิคที่ เราแนะนำให้คุณไม่ได้ทำยากแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าที่บ่าวสาวใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ สักนิด รับรองค่ะว่างานแต่งงานของคุณจะต้องน่าจดจำและสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับทุกๆ ที่มาร่วมงานแน่นอน
>> ดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย <<
เรียบเรียงและรูปภาพ : www.brides.com