15 คำถามต้องได้คำตอบก่อนเซ็นต์สัญญาจองสถานที่จัดงานแต่งงาน

สถานที่จัดงานแต่งงาน เป็นเรื่องแรกที่บ่าวสาวต้องสรุปให้ได้ เพราะเกี่ยวพันไปถึงการเตรียมงานเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดจำนวนแขก การลงรายละเอียดในการ์ดเชิญ หรือแม้แต่รูปแบบงานแต่งงาน แต่ของแบบนี้จะให้ตัดสินใจง่ายๆ ทันทีเลยคงไม่ได้ ฉะนั้นเพื่อความดีงามบังเกิด ความไม่หงุดหงิดใจไม่มี เอา 15 เรื่องนี้ไปถามเจ้าของสถานที่ก่อนค่อยจรดลายเซ็นต์จองยังทัน

 

สถานที่จัดงานแต่งงาน

1 ในห้องมีอะไรให้บ้างแล้วสภาพโอเคไหม : เช็คว่าของที่ทางสถานที่มีให้เพียงพอกับการใช้งานของคุณไหม ซึ่งส่วนใหญ่นอกจากเรื่องระบบแสงและเสียงแล้ว ยังมีโซฟา โต๊ะตัวกลางที่ประธานต้องนั่ง แต่เรื่องนี้ถามอย่างเดียวไม่ได้นะคะ ต้องขอดูด้วย เพราะบางที่มีให้แต่เก่ามากสภาพไม่ไหวก็ตัดใจเอาของใหม่เข้าไปใช้เถอะค่ะ

2 เข้ามาตกแต่งได้เมื่อไหร่และมีกฎอะไรบ้าง : ในกรณีที่คุณมีทีมไปตกแต่งสถานที่ ต้องถามเรื่องนี้ด้วย เพื่อคุณจะได้นำข้อมูลไปกำหนดเวลาการทำงานของทีมตกแต่ง รวมถึงแจ้งข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ต้องระวังไงคะ

3 สามารถทำอาหารในบริเวณที่จัดงานหรือไม่ : ถ้าเจ้าภาพอยากมีกิจกรรมเรื่องการกินประเภทปิ้งๆ ย่างๆ แทรกเข้าไปเพื่อสร้างบรรยากาศของงาน (โดยเฉพาะงานแต่งงานในสวนหรือริมทะเล) อย่าคิดเอาเองว่าไม่ได้อยู่ในห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมก็น่าจะทำได้ เพราะบางทีบาร์บีคิวกับเตาไฟฟ้าก็อาจก่อให้เกิดค่าปรับหลักหมื่นได้ ถ้าคุณไม่เช็คให้ดีๆ

4 มีเจ้าหน้าที่คอยอยู่อำนวยความสะดวกและประสานงานกี่คน : การที่คุณเช่าสถานที่ไม่ได้หมายความว่า คุณจะเป็นผู้ถือกุญแจห้องเปิดเข้าไปแล้วจัดการทุกอย่าง ดังนั้นอย่าลืมถามถึงเจ้าหน้าที่ประจำสถานที่ที่คุณเลือกด้วย เพราะในยามที่คุณไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนหรือมีเหตุฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่เหล่านี้คือคนที่จะตอบได้ โดยจำนวนเจ้าหน้าที่ควรมีทุกจุดจำเป็น เช่น ระบบไฟ ระบบเสียง แม่บ้าน ยาม พนักงานช่วยเสิร์ฟ ฯลฯ

5 มีคนใช้สถานที่นั้นก่อนและหลังงานของคุณในวันนั้นหรือไม่ : เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการขนของเข้าออกในห้องจัดเลี้ยงค่ะ (หรือเรียกว่าการเทิร์นห้องค่ะ) เพราะถ้ามีคนใช้ห้องนั้นก่อนงานของคุณ ต้องเช็คให้ชัวร์ว่าออกไปเวลาไหน เพื่อคำนวณเวลาการเตรียมสถานที่ในงานของคุณ และในกรณีที่มีคนต่อคิวใช้ห้อง คุณก็ต้องรู้ว่า จะต้องเข้มงวดเรื่องการส่งแขกให้หมดตอนไหน เพื่อไม่ให้งานของคุณไปกระทบกระเทือนงานของใครไงคะ

6 ห้องน้ำอยู่ตรงไหนบ้างและเพียงพอไหม : เชิญแขกมาเป็นร้อยจะมีแค่ห้องน้ำชายหญิงอย่างละห้องคงไม่ไหวแน่ๆ อย่าลืมเช็คให้ชัวร์ว่าจำนวนห้องน้ำ พอดีกับแขกไหม แล้วคุณรับได้หรือเปล่า หากว่าไม่เพียงพอแต่ชอบที่นี่มากๆ จะได้หาทางแก้ไขได้ถูกจุด

7 มีงานแต่งงานในวันเดียวกันกับห้องอื่นหรือเปล่า : บางสถานที่มีห้องจัดเลี้ยงมากกว่า 1 ห้อง และรับจัดงานแต่งงานในฤกษ์ดีพร้อมกัน การที่แขกจะมาผิดงานเป็นไปได้สูง ไหนจะเรื่องการแบ่งสรรปันที่จอดรถอีก ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องถามนะคะ

8 มีที่จอดรถให้แขกทั้งหมดกี่ที่ : เช็คให้แน่ใจว่าสถานที่แห่งนั้นมีที่จอดรถอำนวยความสะดวกให้แขกมากน้อยแค่ไหน มีกี่ลานจอด หรือกี่อาคาร เพราะบางสถานที่แม้ที่จอดรถจะดูน้อยแต่มีพื้นที่สำรองที่สามารถนำรถไปจอดได้แล้วมีรถกอล์ฟขับรับส่งแขกให้ แบบนั้นคุณโอเคไหมล่ะ

9 หากฝนตกมีพื้นที่สำรองเป็นแผนสองตรงไหนบ้าง : ตามหัวข้อเลยค่ะ ถ้าคุณจัดงานแต่งงานเอาท์ดอร์แล้วฝนหลงฤดูดันมาเยือนอย่างไม่ทันตั้งตัว ทางสถานที่ดังกล่าวมีพื้นที่ตรงไหนรองรับแขกหรือเป็นพื้นที่สำรองไว้หลบฝนหรือไม่ แล้วสถานที่นั้นรองรับแขกของคุณได้ทั้งหมดหรือเปล่า ที่สำคัญอยู่ไกลกับจุดจัดงานแค่ไหน

10 มีไมโครโฟนกี่ตัวและระบบเครื่องเสียงเป็นยังไงบ้าง : ใช่ว่าทุกสถานที่จะมีไมโครโฟนให้คุณครบจำนวนที่ต้องการเสมอไปนะคะ บางทีมีแค่ไมโครโฟน 2 ตัว ที่เวลาใช้ต้องโยนสลับกันตามจังหวะ หรือแม้แต่บางทีมีเครื่องเสียงให้แต่จำกัดประสิทธิภาพการใช้งาน ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องถามเพื่อนำมาแมตซ์กับลำดับงานที่วางไว้ไงคะ

11 เสียงดังได้มากน้อยแค่ไหน : แม้เรื่องนี้จะดูไม่น่าถาม แต่มีมาแล้วที่การนำเครื่องเสียงเข้าไปเพิ่มความสนุกของบ่าวสาวทำให้ระดับเสียงในงานดังกว่ามาตรฐานปกติที่ทางสถานที่เคยจัดงาน ดังนั้นเรื่องนี้ถามกันไว้ก็ไม่เสียหายนะคะ

12 มีค่าธรรมเนียมในการนำเข้าอยู่ที่เท่าไหร่ : ส่วนใหญ่ที่ต้องเสียงค่านำเข้าจะเป็นพวกซุ้มอาหาร วงดนตรีหรือดอกไม้ค่ะ แต่ราคาอาจไม่เท่ากันนะคะ ฉะนั้นต้องถามค่ะ เพราะคนจ่ายคือคุณไม่ใช่คนที่คุณจ้างเข้ามา

13 มียุงหรือแมลงอะไรบ้างไหม : คำถามนี้ลืมไม่ได้เชียวนะคะถ้าคิดจะจัดงานแต่งงานริมทะเลหรือในสวน ถามไว้เลยจะได้เตรียมอุปกรณ์กันแมลงไว้เผื่อแขกทุกคน

14 ค่าปรับในกรณีทำข้าวของเสียหายอันเกิดจากอะไรก็ตามแต่ : จะเป็นแขกเมา เจ้าบ่าวอ้วก หรือแม้แต่งานโครงสร้างทำพรมหรือกำแพงในห้องจัดเลี้ยงเสียหาย ก็ต้องมีการจ่ายเงินค่าปรับทั้งนั้น ว่าแล้วก็ลิสต์ราคาค่าปรับกันซะหน่อย จะได้ช่วยกันระวังว่าราคาค่าเสียหายไม่ใช้ร้อยสองร้อยนะจ้ะ เอาเป็นว่ารู้ราคาไว้จะได้หวั่นๆ แล้วหาทางป้องกันมากขึ้นดีกว่านะคะ

15 คืนห้องได้ช้าสุดตอนไหน : เข้าใจคำว่าติดลมนะคะ เพราะเดี๋ยวนี้หลังเสร็จพิธีการก็ต่อด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้ทั้งนั้น แต่อย่าลืมค่ะว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฉะนั้นแล้วเช็คไว้เลยค่ะว่าคุณจะต้องส่งห้องคืนเมื่อไหร่ และถ้าคืนช้าจะโดนปรับไหม ราคาเท่าไหร่

 อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่จัดงานแต่งงาน สถานที่ฮันนีมูน พร้อมคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : pexels.com

4 ส่วนสำคัญในชุดแต่งงานช่วยสร้างความงามให้กับเจ้าสาว

ก่อนที่จะชี้ชัดว่าอยากได้ ชุดแต่งงาน แบบไหน แพรว wedding อยากให้คุณว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายได้ลองนำ 4 ส่วนที่เป็นองค์ประกอบในชุดแต่งงานที่เรานำมาฝากสักนิด เพราะอาจจะช่วยให้คุณว่าที่ทั้งหลายตัดสินใจเลือกแบบชุดแต่งงานได้ง่ายขึ้น ไปดูกันดีกว่า 4 ส่วนที่ว่านี้มีอะไรบ้าง

  • เสริมช่วงเอว สร้างเคิฟสวย

ชุดแต่งงาน

ว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่อยากได้สรีระให้ดูมีทรวดทรงองค์เอวนิดๆ การเล่นกับช่วงเอวของชุดแต่งงานก็สามารถสร้างเคิฟที่ดีให้กับว่าที่เจ้าสาวได้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเลือกเป็นเข็มขัดเก๋ๆ เพิ่มลูกเล่นด้วยการต่อผ้าที่เอว หรือจะเป็นชุดแต่งงานแบบสองชิ้นที่เสื้อชิ้นบนยาวเหนือเอวเล็กน้อย แล้วแมตช์กับกระโปรงทรงสูง ก็ช่วยให้ช่วงเอวของเจ้าสาวดูโดดเด่นได้เช่นกัน

  • เผยแผ่นหลังอันทรงเสน่ห์

ข้อนี้เหมาะมากสำหรับว่าที่เจ้าสาวขี้อายที่ไม่อยากเผยผิวด้านหน้า เพราะการเผยแผ่นหลังก็ช่วยสร้างความเซ็กซี่นิดๆ ให้กับลุคเจ้าสาว แถมไม่ว่าจะถ่ายภาพมุมข้าง หรือถ่ายจากด้านหลังขณะที่ว่าที่บ่าวสาวกำลังเดินเข้างานคู่กันก็ช่วยให้ลุคของว่าที่เจ้าสาวดูสวยสง่างามไม่น้อย โดยงานนี้ว่าที่เจ้าสาวสามารถสร้างสรรค์ดีไซน์ชุดแต่งงานที่ด้านหลังได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นแบบทรงวี แบบผูกโบ ประดับลูก ก็ล้วนสวยงามไม่แพ้กัน เพียงแค่เลือกให้เหมาะกับสไตล์และตัวตนของคุณให้มากที่สุด อ่อ แล้วอย่าลืมขัดสีฉวีวรรณแผ่นหลังให้นวลเนียนด้วยนะคะ

  • ชายกระโปรงพลิ้วไหว

เพื่อช่วยสร้างลุคเจ้าสาวให้ดูสง่างามและน่าจดจำในวันสำคัญมากขึ้น ช่วงกระโปรงหรือชายกระโปรงก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่จะช่วยสร้างความน่าประทับใจให้กับชุดและลุคของเจ้าสาวได้ ไม่ว่าจะเป็น ชายกระโปรงแบบพองฟู แบบผ้ามุ้งดูฟรุ้งฟริ้ง แบบสวยหวานประดับลูกไม้ หรือจะเลือกเป็นแบบเลเยอร์สุดสมัย ก็ขึ้นอยู่กับใจของเจ้าสาวสไตล์ไหนที่ใช่และตอบโจทย์ในใจของเจ้าสาวได้มากที่สุด

  • อวดสะโพกกลมกลึงสุดเซ็กซี่

ถ้าหากเจ้าสาวจะต้องเลือกบางอย่างเพื่อช่วยให้รูปร่างของเจ้าสาวดูดีขึ้น การเน้นสะโพกให้ดูกลมกลึงก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยเจ้าสาวได้ แถมยังช่วยให้เจ้าสาวได้ลุคเจ้าสาวสุดเซ็กซี่ไปอีก อย่างเช่น ชุดแต่งงานทรงเมอร์เมด หรือจะเลือกเป็นชุดแต่งงานแบบสลิปเดรสที่เข้ารูปก็ยังได้ แต่ถ้าเจ้าสาวอยากได้ลูกเล่นเพิ่มขึ้นมาอีกนิดก็อาจจะเลือกเป็นผ้าลูกไม้สวยงามที่ช่วงสะโพกแล้วต่อเป็นผ้ามุ้งพองฟูทิ้งยาวลงมาก็ช่วยให้ชุดแต่งงานดูสวยหวานและเซ็กซี่ในเวลาเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ได้ชุดเจ้าสาวแล้วก็อย่าแมตช์ชุดและลุคเจ้าสาวให้ปังด้วยเวลเจ้าสาวด้วยนะคะกับ เคล็ด (ไม่) ลับเลือกเวลเจ้าสาวที่ใช่ให้กับชุดแต่งงานที่ชอบ

CR. brides.com

รวม ท่าโพสถ่ายรูปสำหรับเจ้าสาวไซต์อวบ ลองทำดูผอมเพรียวแน่นอน

การเตรียมความพร้อมสำหรับเจ้าสาวในเรื่องของเรือนร่างมีมากมายหลายวิธีให้หุ่นดูเป๊ะ แต่ถ้าเตรียมความพร้อมไม่ทัน หรืออวบๆ แบบนี้แหละสวยแล้ว … แพรว wedding มี ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซต์อวบ ที่ถ่ายมุมไหนก็รอด ลดน้ำหนักไม่ทันไม่ใช่ปัญหาค่ะ แถมยังสามารถใช้ได้ตั้งแต่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ไปจนถึงงานแต่งจริงๆ ก็ได้นะคะ

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

1. เอียงข้างเล็กน้อย บิดสะโพกให้เป็นรูปตัว S เล็กๆ

เพื่อเผยให้เห็นเอวของเจ้าสาว และเห็นสรีระชัดเจนมากยิ่งขึ้น อาจจะนำแขนข้างใดข้างหนึ่งแอบไว้ด้านหลัง และก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อให้หน้าดูเรียวยาวขึ้นค่ะ

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

2. ท้าวสะเอวข้างเดียว หรือสองข้าง

เป็นท่าเบสิคที่คิดอะไรไม่ออก หลายๆ คนมักจะชอบโพสท่านี้ แต่ก็ไม่ผิดนะคะ เพราะท่านี้จะช่วยทำให้เห็นเอวของเจ้าสาวชัดเจนมากยิ่งขึ้น หรือสามารถบิดเอวให้เป็นรูปตัว S เล็กๆ เพิ่มก็ได้นะคะ

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

3. ภาพหน้าตรง เอียงศีรษะนิดหน่อย

คนสวย จะมุมไหน ท่าไหนก็สวยใช่ไหมคะ ถ้ามั่นใจในตัวเองถ่ายภาพด้านหน้าตรงได้เลยค่ะ ก็มั่นใจซะอย่าง แต่สามารถเพิ่มลูกเล่นด้วยการเอียงศีรษะเล็กน้อย หรือหันไปมองทางอื่น ได้ฟิลลิ่งแบบแอบถ่ายก็สวยไปอีกแบบ และสามารถบิดเอวเป็นตัว S เล็กๆ เพิ่มเพื่อให้สรีระดูมีเคิฟ แถมยังให้ลุคเซ็กซี่น่าค้นหานิดๆ

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

4. หันข้าง

สามารถโพสเดี่ยวได้ หรือโพสคู่กับเจ้าบ่าวก็จะได้โมเม้นต์ฟรุ้งฟริ้งดูแตกต่าง แต่ถ้ารู้สึกว่า เอ๊ะ หันข้างขนาดนี้แล้วจะเห็นหน้าไหมล่ะ เจ้าสาวสามารถบิดตัวกลับมาหากล้องได้นิดหน่อย แล้วอาจจะเพิ่มลูกเล่นให้กับภาพถ่ายและสไตล์ของเจ้าสาวอีกนิดด้วยการนำดอกไม้ช่อโตๆ มาถือเป็นพร๊อบก็ได้ แถมเจ้าดอกไม้ช่อนี้ยังมีข้อดีตรงที่ว่า สามารถนำมาช่วยบังสรีระได้อีกด้วย

ท่าโพสถ่ายรูป สำหรับเจ้าสาวไซส์อวบ

5. หันหลัง

ถ้าเบื่อกับการหันข้าง หรือบิดเอว ก็สามารถหันหลังได้นะคะ แต่ไม่ใช่หันหลังให้กล้องนะ แต่คือการหันหลังแล้วเบี่ยงตัวกลับมาหันหน้าหากล้องเล็กน้อย ท่านี้จะช่วยทำให้สรีระของเจ้าสาวดูบางลง พร้อมเล่นกับส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายได้เป็นอย่างดี แถมท่านี้ถ้าจะให้ดีอย่าลืมชวนคุณเจ้าบ่าวมาโพสด้วยกัน โดยเจ้าสาวอาจจะซบลงที่แผงอกของเจ้าบ่าว เท่านี้ก็ได้ภาพถ่ายที่ทั้งสวยและโรแมนติกแล้ว

เอาเป็นว่าเจ้าสาวก็ลองไปโพสท่าตามแบบที่เราแนะนำดูนะคะ รับรองว่าจะช่วยทำให้เจ้าสาวไซต์อวบดูผอมเพรียวลงแน่นอน ว่างๆ ก็ลองฝึกโพสหน้ากระจกไปก่อนเนอะ เพื่อที่จะได้รู้มุมสวยของตัวเราเอง เพราะผู้หญิงแต่ละคนก็มีมุมสวยที่แตกต่างกัน เพื่อที่วันจริงจะได้โพสอย่างมั่นใจท้าแสงแฟลช

ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ Pinterest.com

4 ไอเดีย ชุดเพื่อนเจ้าสาว แบบ Mix แต่ไม่ Match ยังไงให้สวยเริด!

เดี๋ยวนี้เวลาไปงานแต่งงานทีไรสิ่งที่จะได้รับความสนใจเป็นอันดับสองรองจากบ่าวสาวมักจะเป็นกลุ่ม เพื่อนเจ้าสาว นี่แหละค่ะ แถมยังดูรู้ได้ง่ายๆ ด้วยว่าคนไหนเป็นเพื่อนเจ้าสาวบ้าง เพราะแต่ละนางก็แต่งตัวเหมือนกันเด๊ะ! ตอนนี้นะคะ เราอยากจะบอกว่าเทรนด์ ชุดเพื่อนเจ้าสาว แบบฝาแฝดกำลังจะ OUT แล้วนะจ๊ะ ตอนนี้เขาฮิตเพื่อนเจ้าสาวหลากสไตล์แต่ยังคงคอนเซปต์ “เหมือนในความต่าง” จะมีไอเดียไหนบรรเจิดบ้าง ตามไปดูกันเลย!

1. สีเดียวกัน แต่ต่างเฉดสี

amy-bob-wedding-bridesmaids-0305-s111884-0715_vert
ชุดเพื่อนเจ้าสาวเฉดสีเดียวกัน

ไอเดียนี้เหมาะสำหรับงานแต่งที่ว่าที่เจ้าสาวกำหนดธีมสีชัดเจนว่าเป็นสีอะไร และต้องการให้เหล่าเพื่อนเจ้าสาวใส่สีนั้น แต่ถ้าสีเดียวกันก็ดูจะเป็นการบังคับขืนใจเพื่อนๆ ไปสักหน่อย ลองกำหนดสีแบบกว้างๆ แล้วปล่อยให้เพื่อนเจ้าสาวเลือกกันตามใจชอบว่าจะใส่เฉดไหน จะเข้มหรือจะอ่อน เช่น เจ้าสาวกำหนดสีน้ำเงินเป็นสีหลัก เพื่อนเจ้าสาวก็สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม สีกรมท่า หรือสีฟ้าพาสเทล รวมถึงถ้าเจ้าสาวคนไหนมอบหมายตำแหน่งหัวหน้าเพื่อนเจ้าสาว ก็อาจจะให้เพื่อนคนนั้นใส่สีที่ตัดกันกับคนอื่นไปเลยก็ได้ (ถ้าไม่มีใครมีปัญหานะ)

2. ไม่จำเป็นว่าชุดต้องเหมือนกันเด๊ะๆ หรอก

bridesmaids-delesie0233-mwds110843_vert
ชุดเพื่อนเจ้าสาวที่ไม่ต้องเหมือนกันเป๊ะ

สำหรับเจ้าสาวคนไหนที่ยังอยากให้เพื่อนๆ ใส่ชุดสีเหมือนกัน เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกัน และง่ายต่อการแจกจ่ายม้วนผ้าสำหรับใช้ตัดชุด เราขอแนะนำว่ารูปแบบในส่วนช่วงบนของชุดก็ปล่อยให้เหล่าเพื่อนสาวเขาตัดสินใจเองดีกว่าว่าอยากได้แบบไหน จะเป็นเกาะอก สายเดียว ไหล่ปาด หรือคอวี ก็ปล่อยให้นางเลือกตามใจชอบเถอะนะ

3. แบ่งทีมเพื่อนเจ้าสาวก็ดูเก๋ดี

petra-marc-wedding-santa-barbara-0430-s111812_vert
ชุดเพื่อนเจ้าสาวแบบแบ่งทีม

อีกหนึ่งไอเดียเริ่ดๆ ที่อยากให้ว่าที่เจ้าสาวลองทำดูก็คือ แบ่งทีมเพื่อนเจ้าสาวออกเป็น 2 ทีม แล้วกำหนดสีชุดให้แต่ละทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เป็นสีคู่ตรงข้ามกันจะดี เช่น ทีมนี้ใส่สีขาว ทีมนี้ใส่สีดำ ถึงเวลามาถ่ายรูปด้วยกันจะได้มีลูกเล่น ไม่ได้เหมือนซ้ำจำเจกันไปทั้งแถบ!

4. กำหนดสไตล์เสื้อผ้าให้เพื่อน

hilary-kyle-rw0513-87_vert
กำหนดสไตล์ให้บ้างก็ได้

ไอเดียนี้ไม่ได้กำหนดเรื่องสีหรือทรงแต่อย่างใด แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ กำหนดสไตล์เสื้อผ้าให้กับเหล่าเพื่อนเจ้าสาว เช่น อยากให้เพื่อนเจ้าสาวใส่ชุดแบบวินเทจย้อนยุค จะสีไหน ทรงไหนก็ได้ แต่สไตล์ต้องมาแนวเดียวกันห้ามหลงธีม

ดูไอเดียเกี่ยวกับเพื่อนเจ้าสาวเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

เรียบเรียงและภาพ : www.marthastewartweddings.com, www.tulleandchantilly.com

ทิปส์การเลือก ผมเจ้าสาว ชุดไทย ให้หน้าดูเด็ก จากช่างผมมืออาชีพ!

ทรงผมเจ้าสาวในชุดไทย เป็นอะไรที่แอบเลือกยากนะว่ามั้ยคะเหล่าว่าที่เจ้าสาว เพราะนอกจากจะต้องคำนึงถึงรูปหน้า ยังต้องคำนึงถึงแบบชุดและความเหมาะสมเรียบร้อยสวยงามอีกด้วย แต่ปัญหาที่กลายเป็นข้อกังวลใจอันดับแรกๆของการเลือกทรงผมเจ้าสาวชุดไทย หนีไม่พ้นความกลัวที่ว่าเราจะดูแก่ไหม เพราะชุดไทยนั้นเป็นชุดที่ทำให้เจ้าสาวผู้ใส่ดูภูมิฐานขึ้นอยู่แล้ว วันนี้แพรวเวดดิ้งเลยไปหาคำตอบมาให้ว่าที่เจ้าสาวถึงที่ จากปากของช่างผมมือเจ้าสาวมืออาชีพอย่าง คุณตี๋ เจ้าของไอจี @teethory ที่นอกจากผลงานทรงผมเจ้าสาวของคุณตี๋จะโดดเด่นได้หลากหลายสไตล์แล้ว คุณตี๋ยังทำผมให้กับเหล่าดาราและเซเลบมาแล้วมากมายอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นช่างผมเจ้าสาวที่น่าจับตามองอีกคนในวงการเลยละค่ะ มาดูคำแนะนำจากคุณตี๋กันดีกว่า

  • บอกทิปส์การเลือกทรงผมชุดไทยไม่ให้ดูแก่หน่อยค่ะ

คนไทยติดว่าผมกับชุดไทยต้องเนี้ยบ แต่ต้องยอมรับว่าลุคของเจ้าสาวบางคนทำผมเนี้ยบมากก็ดูแก่ เจ้าสาวบางคนกลับเหมาะกับการทำผมฟุ้งๆเบาๆมากกว่า แต่ความยากก็คือความฟุ้งเบานี้จะต้องไม่มากเกินไปจนกลายเป็นผมเจ้าสาวชุดสากล ตี๋จะดูจากรูปหน้าของเจ้าสาวแต่ละคนเป็นหลัก เจ้าสาวบางคนสามารถรวบสูง เปิดหน้าผากได้ บางคนต้องมีปอยผมลงมาระหน้าผากนิดนึง บางคนแสกกลางได้ บางคนแสกไม่ได้เลย เป็นต้น

ผมเจ้าสาว

  • ผมเจ้าสาวในชุดไทยตอนนี้เป็นแบบไหนคะ

ช่วงนี้ชุดไทยของเจ้าสาวมีดีไซน์ที่ดูโมเดิร์นขึ้น เป็นแบบชุดไทยประยุกต์มากขึ้น ทำให้สามารถแมทช์กับแบบผมที่ไม่ต้องเนี้ยบมาก หรือแบบผมที่มีแรงบันดาลใจมาจากผมของเจ้าสาวชุดสากลก็ได้ แค่ว่าให้อยู่ในกรอบว่าไม่หลุดเกินไป และยังควรจะดูสุภาพกว่าผมของเจ้าสาวชุดสากล แต่ปีนี้ที่เห็นได้ชัดคือเจ้าสาวเปิดหน้ากันเยอะ เปิดหน้าผากรับทรัพย์อะไรอย่างนี้ ข้างหลังก็ปล่อยเป็นหางม้าบ้าง เกล้าบ้าง หรือเทรนด์การถักเปียแบบเนี้ยบๆ ก็เข้ากับชุดไทยนะ เจ้าสาวบางคนทำก็ดูน่ารักดี ดูเด็กลง แม้กระทั่งเกล้าสูงแบบดังโงะก็ยังได้ ไม่ได้มีข้อจำกัด

ผมเจ้าสาว

  • ทิปส์การเลือกทรงผมชุดไทยของเจ้าสาวหน้ากลม

ถ้าหน้าผากแคบ เก็บผมเรียบไปเลยก็สวยดี แต่ถ้าหน้าผากกว้างควรมีปอยผมมาระหน้าผากนิดนึง จริงๆแล้วผสมกับเปียแบบเรียบๆก็สวยและยิ่งส่งให้เจ้าสาวดูเด็กลง หรือจะทำผมทรงดังโงะแบบญี่ปุ่นก็ยังได้ แต่อันนี้ต้องดูให้แมทช์กับแบบชุดด้วย

  • ทิปส์การเลือกทรงผมชุดไทยของเจ้าสาวหน้าเหลี่ยม กรามชัด

โครงหน้ากรามชัดๆ รวบหมดไม่ค่อยรอดเพราะจะยิ่งเน้นกรามและโหนกแก้ม แต่ก็มีเหมือนกันที่เจ้าสาวหน้ามีกรามชัดแต่กลับรวบผม แสกกลาง แล้วสวย อันนี้ต้องมาดูกันหน้างานอีกที ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าสาวด้วยว่าเซล์ฟไหม

 ผมเจ้าสาว

  • คำแนะนำในการเลือกทรงผมชุดไทยของเจ้าสาว

ว่าที่เจ้าสาวสามารถเลือกทรงผมที่ชอบมาก่อนได้ แล้วพอวันจริงเราค่อยมาดูกันหน้างานอีกทีว่าทรงที่เจ้าสาวชอบ สามารถทำได้ตามแบบเลยไหม ซึ่งจริงๆแล้วขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย สภาพเส้นผมเจ้าสาวด้วย รูปหน้าด้วย แบบชุดด้วย ถ้าสมมติว่าช่างผมเห็นแล้วว่าไม่เหมาะก็อาจจะแนะนำให้เปลี่ยนทรง หรืออย่างน้อยก็อาจจะขอปรับนิดหน่อยถ้าเจ้าสาวยืนยันว่าอยากได้ทรงนั้นจริงๆ ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าสาวดูสวยที่สุด และมั่นใจที่สุด

เป็นยังไงกันบ้างคะ คำแนะนำจากช่างผมมืออาชีพอย่างคุณตี๋ สามารถช่วยให้เหล่าว่าที่เจ้าสาวมีไกด์ไลน์ในการเลือกทรงผมชุดไทยที่เหมาะกับตัวเองกันหรือยังเอ่ย? ถ้ามีแล้ว เรามาส่อง วิธีการเลือกช่างแต่งหน้าที่ใช่ในวันแต่งงาน กันต่อเลยดีว่า คลิกอ่านเลย

ใครที่อยากติดตามผลงานของคุณตี๋ กดฟอลโลว์ไอจีเลยที่ IG @teethory นะคะ

ขอขอบพระคุณภาพจาก IG @teethory 

แม่ไม่บอกผ่านชุดแต่งงานที่เลือกไว้! ทำแบบนี้สิถ้าแม่ไม่ปลื้มชุดแต่งงานของคุณ

ปัญหาแม่ไม่ปลื้ม ชุดแต่งงาน เนี่ย เจอกันมาแทบทั้งนั้นค่ะ บางคนถึงขนาดทะเลาะกันใหญ่โตเลยก็มี เพราะเจ้าสาวเองก็คิดว่านี่งานแต่งของหนูนะ ความสุขนี้ก็ของหนู ทำไมแม่ไม่เข้าใจ ในขณะที่แม่ก็จะคิดว่า ที่ติที่ว่าที่คอมเม้นต์ไปก็เพราะหวังดีและอยากให้ลูกสาวคนสวยได้สวยที่สุด เอาละคะ ถ้าใครกำลังเจอเรื่องนี้อยู่ แพรว wedding มีคำแนะนำมาให้ค่ะ

แต่ก่อนอื่น สิ่งที่แพรว wedding อยากให้ว่าที่เจ้าสาวทุกคนเช็คคือ  แม่ไม่ปลื้มชุดของคุณในระยะไหน ถ้าไม่ปลื้มตั้งแต่เห็นแบบชุดก็ยังพอคุยกันได้ง่ายหน่อย เพราะเท่ากับช่างยังไม่ลงมือ และถ้าคิดจะปรับเปลี่ยนแบบก็ยังเป็นไปได้ อยู่ที่ว่าคุณจะยอมปรับแบบตามที่แม่คอมเม้นหรือเปล่า แต่ถ้ามาเห็นเอาตอนที่ชุดเสร็จแล้วนี่สิเรื่องใหญ่ เพราะการแก้ชุดที่ตัดเย็บเสร็จแล้ว อาจทำให้เกิดความพังได้นะคะ เอาล่ะค่ะ เมื่อรู้แล้วว่าอยู่ในระยะไหน ก็เริ่มแก้ไขปัญหานี้เลยค่ะ

  • คิดและพิจารณาตามคำพูดของแม่ก่อน

จิ้งจกทักยังต้องฟัง นี่แม่เลยนะ ทำไมลูกสาวคนสวยอย่างคุณจะดื้อดึงไม่ยอมฟัง แพรว wedding ขอให้คุณคิดและพิจาณาตามคำพูดของแม่ก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง อะไรที่ท่านพูดแต่คุณลืมคิดไปหรือเปล่า อย่าเพิ่งโวยวายทันทีว่าไม่เอาไม่เปลี่ยน เพราะบางทีสิ่งที่ท่านคอมเม้นมา อาจจะทำให้คุณสวยขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้

  • ยืนยันความต้องการของคุณด้วยความนุ่มนวล

แม้สิ่งที่แม่พูดจะถูกต้อง แต่บางครั้งไม่ถูกใจ อันนี้เราก็ไม่ว่ากัน เพราะคุณกับคุณแม่อาจจเป็นคนละแนวกันอย่างแรง ซึ่งถ้าคุณต้องการให้ชุดแต่งงานของคุณเป็นไปในแบบที่คุณฝันไว้จริงๆ และไม่อยากปรับเปลี่ยนตรามที่แม่คอมเม้นละก็ บอกท่านไปตรงๆ ด้วยเหตุผลและคำพูดที่นุ่มนวล บอกท่านให้เข้าใจความฝันและความอยากได้ความทรงจำที่แสนพิเศษนี้ในแบบของคุณจริงๆ เชื่อเถอะว่าถ้ามีเหตุผลและพูดกันดีๆ ไม่มีแม่ที่ไหน จะขัดใจความสุขในวันสำคัญของลูกอย่างคุณค่ะ

  • พบกันครึ่งทางได้ไหม

คำแนะนำในข้อนี้เป็นอะไรที่ถ้าทำได้คงดีมาก แต่คุณและคุณแม่ต้องพร้อมที่จะลดความต้องการของตัวเองลงนะคะ เช่นถ้าท่านติทรงชุดทั้งหมดว่าไม่เหมาะสมแต่คุณชอบมาก ลองถามความเห็นท่านก่อนว่า ตรงไหนของชุดทรงนี้ที่ท่านรู้สึกว่าไม่เหมาะสมมากที่สุด แล้วปรึกษาช่างดูว่าแก้ไขแบบไหนได้บ้างให้ยังคงชุดทรงนี้ที่คุณชอบ หรืออาจปรับเปลี่ยนเนื้อผ้าที่ช่วยให้ชุดดูดีขึ้นในสายตาของท่าน อะไรแบบนี้

แต่ไม่ว่าจะแก้ไขปัญหานี้ด้วยทางออกไหนก็ตาม ขอให้คุณคิดเสมอนะคะว่า ที่ท่านติเพราะรัก และอยากเห็นคุณดูดีที่สุดในวันงาน อย่าโมโหท่านนำโด่งไปก่อน เรื่องแบบนี้คุยกันได้และมั่นใจเถอะค่ะว่าแม่ของคุณทำไปเพราะรักคุณเสมอ

ดูไอเดียชุดแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

How to ทรงผมประดับดอกไม้ เพิ่มระดับความหวานอย่างไรให้สวย

ทรงผมประดับดอกไม้ กับไอเดียที่จะช่วยเสริมลุคให้เจ้าสาวสวยหวานจนละสายตาไม่ได้ ซึ่งนอกจาทรงผมที่สะท้อนความเป็นตัวตนของเจ้าสาวและชุดแต่งงานแล้ว ก็ต้องมีพร๊อพที่จะเพิ่มความโดดเด่นและเสริมความมั่นใจให้เจ้าสาวเต็มไปด้วยเสน่ห์ แพรว wedding เลยขอแนะนำการประดับดอกไม้บนทรงผมของเจ้าสาว โดยเฉพาะการเลือกใช้ดอกไม้สด ที่นอกจากจะให้กลิ่นหอมและสีสันที่เป็นธรรมชาติกว่าดอกไม้ปลอมแล้ว ยังช่วยให้ลุคเจ้าสาวสวยราวต้องมนตร์เหมือนหลุดมาจากเทพนิยาย ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติสุดๆ

อ่ะๆ เจ้าสาวเริ่มสนใจกันแล้วใช่ไหมล่ะว่าแล้วจะประดับดอกไม้อย่างไรให้เข้ากับทรงผมดี เรามี 4 ไอเดียทรงผมประดับดอกไม้ ที่เหมาะกับเจ้าสาว 4 สไตล์มาฝาก

ประดับน้อยๆ แต่โดดเด่น

ทรงผมประดับดอกไม้

เพื่อไม่ให้บดบังความสวยงามของทรงผมที่ช่างผมบรรจงทำ เพียงแค่ประดับดอกไม้สดสัก 1-2 ดอก ก็คุมอยู่แล้ว โดยสามารถเลือกใช้ได้ทั้งดอกไม้ไซส์เล็กไซส์ใหญ่ ดอกไม้สีสันสดใส หรือดอกไม้รูปลักษณ์แบบเรียบๆ ก็แล้วแต่ความชอบของเจ้าสาว แต่ขอแนะนำว่าให้เลือกใช้ดอกไม้ที่มีความสด และเป็นดอกที่บานสะพรั่ง เพราะการประดับดอกไม้นอกจากจะเพิ่มลุคที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ให้เจ้าสาวแล้ว ดอกไม้ที่ยังคงความสดยังมีผลต่อภาพลักษณ์เจ้าสาวด้วยนะ เพราะฉะนั้นเจ้าสาวจะต้องใส่ใจจุดนี้เป็นพิเศษ คราวนี้พอได้ดอกไม้สวยๆ แล้วจะประดับตรงส่วนไหนของทรงผมก็รับรองได้เลยว่านางเอกของวันนั้นคือเจ้าสาวคนสวยนี่แหละไม่ใช่ดอกไม้แต่อย่างใด ><

ทรงผมประดับดอกไม้

 

ประดับอย่างบางเบา แบบเรียบง่าย แต่มีลูกเล่น

ทรงผมประดับดอกไม้

การประดับดอกไม้สไตล์บางเบานี้ เหมาะกับเจ้าสาวที่ทำผมแบบถักเปีย ทั้งแบบปล่อยยาวและรวบขึ้น เพราะผมเปียที่ให้ลุคดูซอฟต์อ่อนละมุนนั้น ถ้าได้ประดับด้วยดอกไม้เล็กๆ ตามแนวผมเปียด้วยแล้ว ยิ่งช่วยเน้นให้เจ้าสาวดูอ่อนหวาน อ่อนเยาว์สุดๆ ถ้าเจ้าบ่าวเห็นเจ้าสาวในสไตล์นี้รับรองว่าเขาจะละลายให้กับความน่ารักของเจ้าสาวแน่นอน >< แต่สิ่งสำคัญในการเลือกดอกไม้คือ ดอกไม้ที่นำมาประดับจะต้องเป็นดอกไม้ที่มีตัวดอกเล็กๆ และที่สำคัญความสดของดอกไม้ก็ยังต้องมีอยู่นะ

ทรงผมประดับดอกไม้

 

ประดับแบบจัดเต็มด้วยดอกไม้สวยๆ

ทรงผมประดับดอกไม้

สำหรับเจ้าสาวที่ชื่นชอบดอกไม้เป็นพิเศษ และอยากเพิ่มความอ่อนหวานปนเซ็กซี่ แนะนำให้เลือกประดับเป็นดอกไม้สีสดใส พร้อมๆ กับจัดเต็มดอกไม้ชุดใหญ่กันไปเลย โดยเลือกดอกไม้ที่มีไซส์ขนาดกลางๆ เช่น ดอกกุหลาบ ที่เข้ากับหลายๆ ทรงผมของเจ้าสาวได้ดี ทั้งแบบปล่อยยาว หรือเกล้าหลวมๆ เผยให้เห็นช่วงต้นคอ อาจเสริมด้วยใบไม้สีเขียวเพื่อให้ตัดกับสีดอกไม้และสีผม ก็ให้ฟิลเป็นเจ้าสาวขี้เล่นขึ้นมาอีกนิดนะ

ทรงผมประดับดอกไม้

 

ดึงดูดสายตาด้วยใบไม้สีเขียว

ทรงผมประดับดอกไม้

ผสมผสานสไตล์มินิมอลและเอิร์ธโทนด้วยใบไม้ ที่ช่วยให้ลุคของเจ้าสาวดูเหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยาย กับทรงผมที่ประดับด้วยใบไม้สีเขียวชอุ่ม โดยเลือกใบไม้ที่มีขนาดเล็ก และเพื่อให้ทรงผมและลุคของเจ้าสาวดูอ่อนหวานขึ้นมาอีกนิด อาจแซมด้วยดอกไม้เล็กๆ สีขาวเพื่อให้ดูน่ารักขึ้น และช่วยให้สีเขียวของใบไม้ดูโดดเด่นขึ้นมา

ทรงผมประดับดอกไม้

อีกสิ่งที่สำคัญคือ เคล็ดลับจัดแต่งทรงผม ไปงานแต่งงานแบบสวยๆได้อย่างมือโปร เพื่อที่จะประดับดอกไม้บนทรงผมให้คงสวยได้ตลอดวัน

ภาพจาก Pinterest

“ยิหวา ปรียากานต์” ใน ชุดแต่งงานไทยดีไซน์หรูหราได้ลุคเจ้าสาวสมัยใหม่

นักแสดงสาวหน้าหวาน ยิหวา – ปรียากานต์ ใจกันทะ ที่ก่อนหน้านี้หลายคนติดใจในใบหน้าของเธอในบท “จันตา” จากละครเรื่องกรงกรรม กับใบหน้าสวยสดใสไร้เครื่องสำอางที่สวยฉ่ำมาก เห็นหน้าหวานๆ แบบนี้ แพรวเวดดิ้งเลยถือโอกาสชวนสาวยิหวานมาใส่ ชุดแต่งงานไทย ในสไตล์หรูหรามีความทันสมัยในแฟชั่นของนิตยสารแพรวเวดดิ้งซะเลย ซึ่งพอแต่งองค์ทรงเครื่องครบแล้วก็ไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆ

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

เสื้อผ้าจาก Deep Love Wedding
โทร. 0-2398-5739 0-2399-1693, 09-5789-9556
เว็บไซต์ www.deeplovewedding.com
เฟซบุ๊ก : DeepLove ชุดแต่งงาน ชุดไทย
ไอจี : @deeplove_official
ไลน์ : @deeploveweddingร

บ่าวสาวต้องเช็ค! 5 เรื่องก่อนจองแพ็กเกจถ่ายพรีเวดดิ้ง

ก่อนจะ ถ่ายพรีเวดดิ้ง มาเช็ก 5 เรื่องนี้กันก่อนนะ

หนึ่งในสิ่งที่ว่าบ่าวสาวทั้งหลายใส่ไว้ใน To do List  ในวาระที่จะแต่งงานจนเรียกได้ว่าเป็นธรรมเนียมไปแล้ว ก็คือ การ ถ่ายพรีเวดดิ้ง ที่ปัจจุบันมีสตูดิโอให้เลือกใช้บริการมากมายและเลือกได้ในหลายราคา โดยมีเงื่อนไขต่างๆ กันไปอยู่ที่คุณจะพอใจแบบไหน แต่ไม่ว่าจะเลือกสตูฯ ใดก็ตาม แพรว wedding มี 5 เรื่องอยากให้คุณเจรจาตกลงกับทางสตูดิโอนั้นๆ ให้ชัวร์ก่อนตัดสินใจว่า ถ่ายกับที่นี่แหละ!!’

1. คิดให้ชัวร์กับจำนวนรูปที่ได้ในแพ็กเกจ

แม้ว่าปกติแล้วในแพ็กเกจถ่ายพรีเวดดิ้งจะระบุว่า ในราคาที่ซื้อนี้ คุณจะได้ภาพทั้งหมดกี่รูป แต่ว่าที่ส่วนใหญ่มักลืมคิดไปว่า เมื่อได้เห็นภาพทั้งหมด คุณอาจชอบภาพที่เมื่อบวกลบจำนวนแล้วเกินกว่าจำนวนรูปที่จะได้รับตามแพ็กเกจ ทำให้ต้องควักเงินจ่ายค่ารูปเพิ่มทีหลัง ซึ่งเผลอๆ ราคารูปที่เพิ่มอาจมากมายจนซื้อเป็นแพ็กเกจที่ใหญ่กว่า และได้รูปมากกว่าที่ตัดสินใจในตอนแรก  ฉะนั้นตัดสินใจให้แน่วแน่ว่าจำนวนรูปที่อยากได้เท่าไหร่ดี โดยอาจคิดเผื่อไว้สักหน่อย ไม่ก็ลองต่อรองจำนวนกับทางสตูฯ เพิ่มเติมตั้งแต่แรก ดีกว่าต้องเสียเงินอีกก้อนโดยไม่จำเป็น

2. คุยให้เคลียร์ถึงจำนวนรูปที่ผ่านการรีทัชสวยงาม

นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ว่าที่บ่าวสาวพลาดกันมานักต่อนัก เพราะอาจคิดไปเองว่ารูปที่ได้จะสวยงามเหมือนในกรอบที่ตั้งโชว์หน้าร้านทุกรูป ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่นะคะ สตูดิโอแต่ละที่มักจะทำรีทัชให้ในจำนวนหนึ่งเท่านั้น (ก็แหม…การรีทัชให้สวยเริ่ดแต่ละรูปต้องใช้เวลาและฝีมือมากนะคะ) คุณว่าที่จึงควรเช็คในเงื่อนไขของแพ็กเกจนั้นๆ ให้ดีก่อนที่จะต้องจ่ายค่ารีทัชเพิ่มเพราะไม่รู้จำนวนจริง

3. เช็คให้ชัวร์ถึงจำนวนชุดที่ใส่ถ่าย

ในการถ่ายพรีเวดดิ้ง ทางร้านส่วนใหญ่จะกำหนดในแพ็กเกจว่าบ่าวสาวได้เปลี่ยนกี่ชุดเวลาถ่ายภาพ ซึ่งอย่าลืมเคลียร์ให้ชัดว่า คุณจะได้ใช้ชุดที่ทางร้านเตรียมให้ทั้งหมดกี่ชุด เป็นชุดอะไรแบบไหน ชุดไทยหรือสากลและสามารถเอาชุดส่วนตัวใส่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งได้หรือเปล่า และถ้านำไปถ่ายไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มใช่ไหม

ถ่ายพรีเวดดิ้ง

4. ช่างแต่งหน้าและช่างภาพชุดนี้จะตามไปทำให้ในวันงานหรือเปล่า

อีกหนึ่งเงื่อนไขที่ทางสตูดิโอเสนอมาให้ในแพ็กเกจก็คือ ช่างแต่งหน้า-ทำผมที่ทำสวยหล่อให้ในวันถ่ายพรีฯ จะตามไปทำสวยหล่อให้ในวันจริงด้วย ซึ่งแม้คุณโอเคกับเงื่อนไขนี้ แต่ในวันที่ซื้อแพ็กเกจ คุณยังไม่รู้ว่าช่างสองหน่วยงานนี้จะฝีมือตรงใจไหม ฉะนั้นอย่าลืมถามเผื่อด้วยว่า ถ้าในวันถ่ายพรีฯ ไม่ปลื้มผลงานสามารถเปลี่ยนคนได้ไหม และเสียเงินค่าเปลี่ยนหรือเปล่า ดีกว่ามาบ่นว่าก็มันร่วมในแพ็กเกจแก้ไขไม่ได้

5. จะได้รับรูปหลังถ่ายเสร็จเมื่อไหร่และได้พร้อมกันทุกอย่างเลยไหม

นัดแนะให้มั่นใจและชัวร์ว่า หลังจากที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งเสร็จแล้ว ทางสตูฯ จะส่งภาพให้คุณได้เชยชมวันไหน และอย่าลืมถามลงรายละเอียดไปเลยว่า จากภาพทั้งหมดที่ถ่ายมา จะได้รับพร้อมกันทุกรูปหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นแบบมาทั้งอัลบั้ม ใส่กรอบ หรือเป็นซีดี ไม่ใช่การส่งงานแบบทยอยส่งใช่ไหม เพราะบางรูปคุณอาจต้องนำไฟล์ไปทำอย่างอื่นหรือใช้ประกอบในพรีเซนเทชั่น ซึ่งถ้ารูปมาไม่ครบ เท่ากับว่างานอื่นๆ ที่ต้องเตรียมโดยมีรูปพรีเวดดิ้งมาเอี่ยวต้องสะดุดตามนั่นเอง

ค่อยๆ ใช้เวลาพูดคุยและเช็คให้ชัวร์ทั้ง 5 ข้อนี้ แล้วค่อยเซย์เยสกับสตูดิโอก็ยังไม่สาย ดีกว่ามานั่งปวดหัวและเสียเงินเพิ่มให้กระเป๋าฉีกทีหลังนะคะ อ่ะ ว่าแล้วก็ไปฝึกซ้อมท่าถ่ายภาพกันดีกว่า >>> จะแต่งงานแล้ว เซ็กซี่ได้ รวมท่าโพสสุดเซ็กซี่ ไว้ใช้ถ่ายพรีเวดดิ้ง

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : wikimedia, sixheartsphotography.com

3 ระดับความยาวกระโปรงเจ้าสาวสุดฮิต พร้อมทริคการเลือกให้เข้ากับทรงชุดแต่งงานเรียบหรู

นอกจากรูปแบบชุดแต่งงานแบบต่างๆ ที่เจ้าสาวต้องเลือกแล้ว ก็ยังมีความยาวของกระโปรงอีกหนึ่งเรื่องที่เจ้าสาวต้องตัดสินใจ จะยาวมากยาวน้อยแค่ไหนนอกจากเรื่องรสนิยมและความชอบส่วนตัวแล้ว แพรว wedding อยากบอกว่าเจ้าสาวต้องเลือกให้เหมาะกับรูปแบบของชุดแต่งงาน ธีมงาน และสถานที่ด้วย ถ้าอย่างนั้นมาดูดีกว่า ชุดแต่งงานเรียบหรู ของเจ้าสาวเหมาะกับความยาวกระโปรงระดับไหนมากที่สุด

Sweep

หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า brush เป็นกระโปรงที่มีความยาวกำลังพอดี ซึ่งความยาวในระดับนี้ช่วยทำให้ชุดแต่งงานดูสวยหวานโรแมนติกมากขึ้น มักจับคู่กับชุดแต่งงานทรงทรัมเป็ตหรือทรงเมอร์เมด ซึ่งหากเจ้าสาวจัดงานแต่งงานแบบเอ๊าท์ดอร์หรืองานแต่งในสวน แนะนำให้เลือกความยาวประมาณนี้เพื่อความสะดวกในการเดิน


Chapel

เป็นระดับความยาวกระโปรงที่ได้รับความนิยมในหมู่เจ้าสาวมากที่สุด ความยาวระดับนี้มักจับคู่กับชุดแต่งงานทรงเอ-ไลน์ เป็นความยาวที่กำลังพอดีทำให้เจ้าสาวสามารถเดินได้อย่างสะดวก และเหมาะสำหรับรูปแบบงานแต่งงานในห้องบอลรูม เพราะดูสวยงามหรูหรากำลังดี


Cathedral

เป็นความยาวของชุดแต่งงานที่มีรูปแบบค่อนข้างเป็นทางการ ส่วนมากนิยมจับคู่กับชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์ หรือชุดแต่งงานทรงเอ-ไลน์ หรือจะเลือกเสริมในรูปแบบเป็นชายกระโปรงแบบถอดได้กับชุดแต่งงานทรงตรงก็หรูหราไม่แพ้กัน ความยาวของกระโปรงแบบนี้เหมาะสำหรับรูปแบบงานแต่งงานที่เป็นทางการมากๆ หรืองานแต่งงานภายในห้องบอลรูมขนาดใหญ่

สุดท้าย ก่อนเดินเข้างานว่าที่เจ้าสาวอย่าลืมบอกเวดดิ้งแพลนเนอร์ คนจัดงาน หรือแก๊งเพื่อนเจ้าสาวให้ช่วยเคลียร์พื้นที่ให้แน่ใจว่ากระโปรงของเจ้าสาวจะไม่ไปเกี่ยวเข้ากับอะไร หรือลากสิ่งใดติดไปด้วย ที่สำคัญคืออย่าลืมจัดกระโปรงให้สยายไว้อย่างสวยงามก่อนที่เจ้าสาวจะเดินเข้างานเพื่อภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบ

ว่าทเี่จ้าสาวสามารถเลือกดูแบบชุดแต่งงานสากลและชุดแต่งงานไทยเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!!

ภาพ – stocksnap.io, pinterest

5 เทคนิคให้คู่รักเลือกแหวนแต่งงานให้โดนใจในราคาประหยัด

เมื่อวันสำคัญของการเริ่มต้นชีวิตคู่มาถึง.. แหวนแต่งงาน คือหนึ่งในเรื่องหลักๆ ที่ทุกคู่ต้องใส่ใจให้มาก ด้วยราคาที่ไม่ใช่น้อยๆ ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ทั้งยังเป็นของแทนใจที่มีความหมายมากต่อทั้งคู่ ดังนั้นหากใครไม่เคยมีประสบการณ์การเลือกซื้อแหวนมาก่อนเลย ก็อาจจะทำให้กังวลใจไม่น้อย ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นเลือกซื้ออย่างไร กับคู่ที่ต้องการจะประหยัดงบในส่วนนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ต้องสนใจ เพราะมีหลักอยู่ว่าเลือกยังไงในงบประมาณที่มีให้ได้แหวนแต่งงานที่ถูกใจที่สุดด้วยนะคะ ซึ่งวันนี้ แพรว wedding ลิสต์มาให้โดยเฉพาะเพื่อคู่รักสายบั๊ดเจ๊ทเลยล่ะค่ะ ลองไปดูกันซิว่าต้องดูอะไรกันบ้าง 😉

 

  • กำหนดงบประมาณให้แน่วแน่

ก่อนที่จะเดินเข้าร้านจิวเวลรี่ควรจะกำหนดงบประมาณให้ได้เสียก่อนว่าแหวนในระดับราคาเท่าไหร่ที่จะสามารถซื้อได้ เพื่อจะได้ไม่วอกแวกไปสนใจแหวนวงอื่นที่มีระดับราคาที่สูงเกินกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ และยิ่งถ้ามีงบประมาณไม่มากนักยิ่งต้องตั้งสติให้มั่นเลยนะคะ

  • พิจารณาแหวนที่ทำจากวัสดุราคาไม่แพง

แหวนที่สั่งทำด้วยวัสดุที่มีราคาไม่แพงถือเป็นทางเลือกที่ดี พยายามพิจารณาคุณภาพของแหวนและสีของอัญมณีที่ชอบจากแหวนที่อยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้อย่างรอบคอบก็จะช่วยตีกรอบให้เล็กเข้ามา ทำให้คุณไม่ต้องงงวยกับพาเหรดแหวนละลานตาที่คนขายพยายามมาถมใส่คุณ

  • สีของอัญมณีมีผลต่อราคา

ตามปกติเพชรคือสิ่งที่มีราคาแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีขนาดใหญ่และคุณภาพอยู่ในระดับสูง แต่ถ้าหากอยากได้แหวนที่มีรูปหัวใจขนาดใหญ่ตรงกลางแต่งบประมาณมีไม่พอ อัญมณีมีสีจึงอาจเป็นทางออกของเรื่องนี้ อัญมณีมีสีมักจะมีราคาไม่แพงมาก ถึงจะมีขนาดใหญ่ก็ยังเป็นไปได้ที่จะมีราคาอยู่ในงบประมาณ

  • การเลือกเนื้อวัสดุตัวเรือนแหวน

สิ่งแรกคือต้องตัดสินใจว่าสีของเนื้อโลหะแบบไหนที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีเหลืองหรือสีกุหลาบ แต่ส่วนใหญ่ที่นิยมกันคือสีขาว ไม่ว่าจะเป็นแพลตินัมหรือทองคำขาว แพลตินัมถูกพิจารณาว่าเป็นสุดยอดของความบริสุทธิ์จากธรรมชาติเพราะไม่ผ่านการชุบ เป็นสีขาวตามธรรมชาติที่ต่างจากทองคำขาวที่ต้องผ่านการชุบด้วยโรเดียมทุกๆ 12-18 เดือน อย่างไรก็ตาม แพลตินัมมีราคาขึ้นอยู่กับราคาแร่โลหะตามเวลาช่วงนั้น แต่ถ้าสนใจในทองคำขาว แนะนำให้ปรึกษาคนขายจิวเวลรี่ถึงราคาหลังค่าบริการรวมถึงค่าขัดและชุบที่ฟรี

  • ค่อยๆ เพิ่มเติมทีหลังก็ยังได้

ในการเลือกซื้อแหวนแต่งงาน บางทีงบประมาณอาจมีไม่พอที่จะได้แหวนแต่งงานอย่างที่หมายตาเอาไว้ อย่างว่าที่เจ้าสาวบางคนอยากได้แหวนแต่งงานที่มีเพชรเล็กๆ มากมายรายล้อมรอบๆ แหวน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเพิ่มเติมได้ทีหลังได้เมื่อเก็บเงินได้มากพอ และอาจทำให้ดูเป็นความทรงจำที่พิเศษมากขึ้นอย่างการเพิ่มเติมเพชรเล็กๆ ที่ต้องการลงบนแหวนในวันครบรอบแต่งงานปีแรกก็เก๋ไก๋ไปอีก

ดูไอเดียแหวนแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติม คลิกเลย!

cr : cnbc.com, weddinglovely.com, hinzjewelers.com

ส่องเมกอัพเจ้าสาวอิสลาม พร้อมชี้จุดสวย เน้นจุดไหนให้สวยทะลุฮิญาบ

ว่าที่ เจ้าสาวอิสลาม ทั้งหลาย! เรามาบอกสไตล์เมกอัพที่เข้ากันกับฮิญาบ แถมช่วยส่งให้คุณดูเป็นเจ้าสาวสวยหรูเลอค่าในวันสำคัญสุดๆ

ใครกำลังจำได้เป็น เจ้าสาว ในงานแต่งงานอิสลาม ยกมือค่ะ! ในวันสำคัญของ เจ้าสาวอิสลาม นั้น เจ้าสาวจะต้องอยู่ในชุดแต่งงานตามประเพณีอิสลามซึ่งจะต้องประกอบด้วยผ้าคลุมศรีษะหรือ  ฮิญาบ ซึ่งในยุคนี้มีชุดเจ้าสาวสำหรับพิธีแต่งงานของศาสนาอิสลามรวมทั้งฮิญาบดีไซน์สวยงามอลังการออกมาให้เจ้าสาวอิสลามเลือกอย่างมากมาย แต่ที่จะมองข้ามไม่ได้ก็คือเมกอัพของเจ้าสาวอิสลามที่จะต้องดูมีดีเทลเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ใบหน้าของเจ้าสาวถูกข่มด้วยเครื่องประดับศรีษะจนหมดความโดดเด่น เรามาดูกันดีกว่าว่าสำหรับเจ้าสาวอิสลาม เมกอัพแบบไหนดีนะที่เมื่อมองภาพรวมกับชุดและฮิญาบแล้ว ดูเข้ากั๊น เข้ากัน แถมยังช่วยส่งให้ใบหน้าของเจ้าสาวดูสวย เลอค่า หรูหรา ประดุจเจ้าหญิงในวันวิวาห์ค่ะ

IG: fitaangela
  • โทนสีเมกอัพต้องไปด้วยกันกับสีฮิญาบและสีชุด ไม่ต่างกันกับเจ้าสาวพิธีแต่งงานไทย เจ้าสาวอิสลามควรแน่ใจว่าโทนสีเมกอัพอย่างสีแก้ม และสีปาก เป็นโทนสีเดียวกันหรือไปด้วยกันกับสีชุดเจ้าสาว จะช่วยส่งให้ลุคโดยรวมดูละมุน แต่ถ้าเจ้าสาวเลือกใช้สีชุดแต่งงานที่แมทช์กับสีเมกอัพได้ยากอย่างสีฟ้า หรือสีม่วง เจ้าสาวสามารถเลือกใช้เมกอัพโทนสีตรงกันข้ามแทน (Contrast Color) อย่างสีส้มที่เป็นสีตรงกันข้ามของสีฟ้าและสีม่วง จะช่วยให้ใบหน้าของเราดูโดดเด่นขึ้นมาได้เช่นกัน
IG: zariffilm
  • เน้นความโดดเด่นเพียงจุดเดียวของใบหน้า เมื่อเครื่องประดับศีรษะดูโดดเด่นแล้ว เจ้าสาวควรเลือกเน้นจุดเดียวของใบหน้า เพื่อไม่ให้ลุคโดยรวมดูเยอะและรกจนเกินไป และยังช่วยเน้นส่วนที่เรามั่นใจบนใบหน้าให้สามารถดูฉายแววโดดเด่นขึ้นมาได้ด้วยค่ะ เช่น หากเราชอบดวงตาของตัวเอง สามารถติดขนตาปลอมเพื่อเน้นดวงตาให้ดูโดดเด่น แมทช์กับเรียวปากสีนู้ดเบาบาง หรือในทางตรงกันข้ามหากชอบเรียวปากของตัวเอง สามารถแมทสีเรียวปากสีแดงสุดจี้ด เข้ากับเมกอัพดวงตาและส่วนอื่นที่เบาลงมาก็ได้นะคะ
demilked.com
  • ถ้าเป็นสาวหน้าคม เครื่องหน้าชัด ถือคติน้อยคือมากเข้าไว้ค่ะ เพราะถ้ายิ่งคุณแต่งหน้าเยอะ ลุคโดยรวมจะยิ่งดูเยอะจนรกไปหมด เราสามารถแต่งหน้าเพียงเบาบาง เน้นผิวธรรมชาติ ปัดขนตาน้อยๆ ไม่ต้องติดขนตาปลอม รวมทั้งใช้สีเรียวปากและสีแก้มแบบธรรมชาติ แค่นี้ก็ดูสวยแพงแล้วค่ะ!
interest.pics
  • แต่ถ้าคุณเป็นสาวหน้าหมวย เน้นเรียวคิ้วและดวงตาเข้าไว้ค่ะ เพราะเรียวคิ้วจะเป็นสิ่งที่ช่วยดึงให้ใบหน้าของคุณโดดเด่นออกมาจากฮิญาบ อาจจะใช้การใส่คอนแทคเลนส์สีเสริมเพื่อช่วยดึงให้ดวงตาดูเป็นประกาย (คลิกอ่าน ทิปส์การเลือกสีคอนแทคเลนส์สำหรับเจ้าสาว ที่นี่) หรืออาจจะเสริมด้วยขนตาปลอมติดปลายหางตาเป็นช่อเล็กๆ ให้ดวงตาดูเฉี่ยวขึ้นก็ได้นะคะ
arabiaweddings.com

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับทิปส์การเลือกเมกอัพของเจ้าสาวอิสลาม อย่าลืมนำไปใช้ในวันสำคัญของเจ้าสาวกันด้วยนะคะ ว่าที่เจ้าสาวอิสลามคนไหนที่อยากได้ทิปส์อื่นๆ สำหรับพิธีแต่งงานของศาสนาอิสลาม อินบ็อกซ์เข้ามาพูดคุยกับพวกเรา ทีมงาน Praew Wedding ได้ที่ Facebook: Praew Wedding ได้เลยจ้า

7 เรื่องเจ้าสาวต้องคิดและทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อรองเท้าแต่งงาน

ใครว่า รองเท้าแต่งงาน ที่ซ่อนอยู่ใต้กระโปรงยาวสุดอลังการไม่สำคัญคะ อย่าลืมสิว่าคุณต้องอยู่กับรองเท้าคู่นี้เป็นชั่วโมงๆ เชียวนะคะ ฉะนั้นจะตัดสินใจง่ายๆ หรือเลือกซื้อแบบส่งๆ ไม่ได้เชียว เพราะนั่นหมายถึงอาการเจ็บปวดรวดร้าวและแสนระบมเท้าที่อาจทำให้วันแห่งความสุขกลายเป็นวันสุดทุกข์ที่คุณจะจำไปนานแสนนาน

ถ้าไม่อยากเจอความร้าวรานที่ว่า เราขอให้ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายคิดและทำ 7 เรื่องต่อไปนี้ก่อนที่จะตัดสินใจเซย์เยสช้อปปิ้งรองเท้าคู่สวยมาคู่เท้าในวันแต่งงานค่ะ

  • คิดถึงความสูงของรองเท้า

ไม่มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่าการที่เท้าและขาของคุณต้องยืนเมื่อยอยู่บนรองเท้าส้นสูงนานเกินไป แม้คุณจะเชื่อว่าการใส่ส้นสูงทำให้รูปร่างแลดูสูงเพรียวขึ้นก็เถอะ แต่ในชีวิตจริงความทรมานนีจะทำให้คุณโอดครวญจนคนข้างๆ รำคาญได้ ซึ่งถ้าคุณจะถามว่า แล้วสูงแค่ไหนละ ถึงจะพอดีๆ ที่ยืนแล้วไม่เมื่อย ความสูงรับได้ ขอบอกว่าไม่เกิน 3 นิ้วค่ะ แต่ถ้าคุณเป็นสาวที่ใส่ส้นสูงอยู่แล้ว เราเพิ่มให้อีกนิ้วเป็นสี่นิ้วได้เลย!

  • ใส่แล้วหลุดง่ายไหม

เราเข้าใจคุณว่าที่เจ้าสาวนะคะว่า ระหว่างคัทชูที่ใส่แล้วให้อารมณ์เจ้าหญิงกับรองเท้าแบบมีสายรัดสุดเซ็กซี่เนี่ย คัทชูน่าจะชนะใจว่าที่เจ้าสาวส่วนใหญ่ แต่ข้อเสียที่หลายคนลืมคิดไปคือ รองเท้าคัทชูเสี่ยงที่จะใส่เดินไปแล้วหลุดได้ง่ายกว่ารองเท้าแบบมีสายรัด ยิ่งถ้าคุณมีขนาดเท้าสองข้างไม่เท่ากันแล้วละก็ การที่จะช้อปรองเท้าคัทชูข้างละเบอร์เป็นไปไม่ได้แน่นอน ทางออกที่เราขอเสนอคือ ใส่รองเท้าแต่งงานแบบมีสายรัดที่สามารถขยับขนาดได้ตามรูปเท้าจะดีที่สุด

  • คิดถึงสิ่งตกแต่งบนรองเท้า

คริสตัล ขนนก ริบบิ้น ลูกปัดฯลฯ สารพัดสิ่งที่นำมาตกแต่งบนรองเท้าเจ้าสาวช่วยเสริมให้รองเท้าสวยยิ่งๆ ขึ้นไปก็จริง แต่เจ้าของพวกนี้อาจกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้ชายกระโปรงของชุดเจ้าสาวไปเกี่ยวจนคุณเดินล้มเสียจังหวะทรงตัวได้เหมือนกัน ทางที่ดีถ้าอยากจะมีสิ่งประดับเหล่านี้ ให้คุณลองดูตำแหน่งที่ของเหล่านี้ที่ประดับอยู่บนรองเท้าก่อนตัดสินใจซื้อว่า อยู่ในตำแหน่งไหน สุ่มเสี่ยงที่ชายกระโปรงจะไปเกี่ยวไหม หรือเมื่อใส่เท้าลงไปแล้วทำให้เดินลำบากหรือเปล่า ก็แหม…สวยแค่ตา ใส่ไปจริงๆ ไม่รอดก็มีถมไปนะคะ

  • คิดถึงขนาดและรูปทรงรองเท้าที่เหมาะกับเท้าคุณ

เท้าของทุกคนมีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกันอยู่แล้วนะคะ ดังนั้นอย่ากลัวที่จะขอลองรองเท้าสัก 2-3 ขนาดเพื่อตรวจสอบและหาคู่ที่เหมาะสมกับขนาดและรูปทรงเท้าของคุณที่สุด

  • คิดถึงสภาพอาการและขนาดเท้าที่จะขยาย

บ้านเราเมืองเรามีอากาศที่ร้อนเป็นทุนเดิมนะคะ  ดังนั้นจึงทำให้มีโอกาสที่เท้าของคุณจะบวมด้วยความร้อนในระหว่างวัน ฉะนั้นเพื่อเป็นการเลี่ยงปัญหานี้ เราขอแนะนำให้คุณซื้อรองเท้าในช่วงบ่ายดีกว่าช่วงเช้าค่ะ และเมื่อลองรองเท้าในช่วงเวลาที่เท้าบวมสุดๆ แล้วอยากลืมถามตัวเองนะคะว่า ใส่แล้วสบายจริงไหม เพราะไม่ว่าแบบรองเท้าที่คุณเล็งอยู่จะสวยงามแค่ไหน ก็ไม่สำคัญเท่าคุณใส่ไปแล้วสบายเท่าหรือเปล่า หรือคุณว่าไม่จริง

  • มีงบประมาณเท่าไหร่

แน่นอนว่ารองเท้าแต่งงานก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เจ้าสาวต้องวางงบประมาณไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ ถ้าคุณมีแบรนด์โปรดคุณอาจวางวบประมาณคร่าวงๆ ได้ไม่ยาก แต่ถ้าคุณไม่ได้เลิฟยี่ห้อไหนเป็นพิเศษก็ลองตั้งงบประมาณดูสักนิด โดยเทน้ำหนักให้ความสำคัญไปในเรื่องการใช้งานและความคุ้มค่าของความสบายเท้าที่ใส่ในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต เพราะรองเท้าราคาแพงกว่าปกติที่คุณซื้อ อาจน่าลงทุนกว่ารองเท้าราคาถูกกว่าไม่กี่ร้อยกี่พันแต่นำมาซึ่งอาการเท้าข้ามวันข้ามคืนระบม

  • ชุดเจ้าสาวและธีมงานของคุณเป็นแบบไหน

ไม่ว่าคุณจะชอบรองเท้าคู่นั้นมากแค่ไหน หรือดาราสาวในดวงใจเป็นพรีเซนเตอร์ รวมถึงตัวแม่ในวงการใส่แต่งงานก็คงไม่สำคัญเท่างานแต่งงานของคตุณจัดในธีมไหน และชุดแต่งงานที่คุณเลือกเป็นแบบเพราะทั้งหมดนี้ควรเป็นเรื่องเดียวกันนะคะ ทั้งสไตล์ชุดแต่งงานที่ควรเข้ากับธีมที่จัด ซึ่งส่งผลไปถึงแบบรองเท้าที่เลือก ความยาวของชุดต้องไม่ทำให้เป็นอุปสรรคในการใส่รองเท้าคู่นั้นเดินเฉิดฉายในงาน รวมถึงสิ่งที่นำมาประดับบนรองเท้าควรไปในทิศทางเดียวกับชุดและธีมงาน ไม่อย่างนั้นคนอาจมองว่ารสนิยมของคุณเพี้ยนๆ ได้นะคะ

ถ้าถามว่า คุณควรซื้อรองเท้าเจ้าสาวของคุณเมื่อไหร่ เราขอบอกว่า 4 เดือนก่อนถึงวันงานค่ะ เพราะอะไรใช่ไหมล่ะ เหตุผลเพราะคุณต้องนำรองเท้าคู่นี้ไปใส่ในการลองชุดเจ้าสาวของคุณด้วยยังไงละคะ คุณจะได้รู้ว่าเมื่อรองเท้าสูงระดับนี้ต้องตัดชุดเจ้าสาวเผื่อชายกระโปรงมากแค่ไหน และคุณสามารถเดินได้สบายจริงไหม ถ้ามันเวิร์คก็ลุยต่อ แต่ถ้าไม่จะได้กลับตัวทันไปหาซื้อคู่ใหม่ที่เหมาะกว่ายังไงละคะ

ดูไอเดียเรื่องชุดแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

ตั้งสติแล้วเลือกชุดแต่งงานตามนี้ รับรองไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลังชัวร์!!

ก็แต่งงานครั้งเดียว หากต้องมานั่งร้องไห้ตอนหลังว่าเลือก ชุดแต่งงาน ผิดเห็นทีจะเป็นตราบาปไปชั่วชีวิตแน่นอน!!

แน่นอนว่านอกจากที่เจ้าสาวจะมีธีมงานแต่งงานในฝันแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นความฝันและสาวๆ อย่างเราอยากจะทำให้เป็นจริงมากที่สุดก็คือการเลือก ชุดแต่งงาน ที่ตรงฝันตรงใจในวันสำคัญในชีวิตที่มีแค่ครั้งเดียว แต่…เราจะเลือกชุดแต่งงานในฝันของเราอย่างไรให้ไม่ต้องมานั่งเสียใจตอนหลังว่าไม่น่าเลือกชุดนี้เลย เรามีเทคนิคดีๆ มาบอกต่อ

1. เลือกจากชุดหรือแบบที่เจ้าสาวชอบ

เมื่อได้แบบชุดที่เราชอบแล้ว ก็นำแบบไปปรึกษากับร้านหรือดีไซเนอร์ที่ไว้ใจ เพื่อที่ช่างหรือร้านจะได้ให้คำแนะนำว่าชุดที่เราชอบเหมาะกับรูปร่างเราหรือไม่ ต้องเสริมตรงไหนเพิ่มเข้าไปอีกหรือเปล่า เพื่อให้เข้ากับจุดเด่นของรูปร่างของเจ้าสาวแต่ละคน และที่สำคัญชุดในฝันที่ดีนั้นจะต้องปกปิดส่วนที่เป็นจุดด้อยของเจ้าสาวท่านนั้นๆ ได้ด้วย

2. เจ้าสาวควรจะเลือกชุดไว้ในใจทั้งหมด 3 ชุด โดยแต่ละชุดจะต้องมีรูปแบบหรือสไตล์ที่แตกต่างกัน

จากนั้นก็จัดการลองให้หมดทั้ง 3 ชุดนั่นแหละค่ะ เพื่อที่จะได้ดูว่าแบบไหนที่เจ้าสาวชอบหรือแบบไหนที่เหมาะกับเจ้าสาวมากที่สุด เพราะบางทีแบบที่ชอบกับแบบที่เหมาะอาจจะไม่ได้อยู่ในชุดเดียวกันก็ได้ และที่สำคัญเจ้าสาวอย่าเพิ่งรีบตัดสินใจจากคำพูดอันจูงใจของเซลล์นะคะ เพราะส่วนมากเซลล์จะฮาร์ดเซลล์ขายเราอย่างหนัก จนพาลสติจะลอยๆ จนได้ชุดแต่งงานมาแบบไม่ตั้งใจ เพราะฉะนั้นต้อง have สติก่อน แล้วก็ใช้เวลาในการคิดนิดนึง อย่าเผลอไผลไปตามโปรโมชั่นหรือส่วนลดใดๆ (แต่ถ้าได้ชุดแต่งงานที่อยากได้แล้ว ค่อยสนใจโปรโมชั่นหรือส่วนลดต่างๆ นะจ๊ะ)

ชุดแต่งงาน

3. เจ้าสาวต้องทำการบ้านเกี่ยวกับชุดแต่งงานของตัวเองก่อนที่จะเข้าไปปรึกษากับร้านหรือดีไซเนอร์ด้วย

โดยในวันนั้นก็จะอาจจะมีชุดแต่งงานที่เจ้าสาวทำการบ้านไป กับชุดแต่งงานที่ทางร้านหรือดีไซเนอร์แนะนำให้ลอง ซึ่งหากเจ้าสาวได้ลองชุดแต่งงานครบทุกชุดแล้ว ให้เชื่อความรู้สึกแรกซึ่งมันจะเป็นความรู้สึก “ว้าววววว!! อยู่หน้ากระจก รู้สึกว่าชุดนี้แหละใช่เลย หมุนซ้ายหมุนขวาอยู่หน้ากระจกแล้วเห็นตัวเองใส่ชุดนี้ในงานแต่งงาน ก็เป็นอันจบ แต่!! อย่าลองเยอะมากเกินไปนะคะ (3 ชุดกำลังดี) เพราะยิ่งลองเยอะก็จะยิ่งเกิดการเปรียบเทียบขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ความรู้สึกแรกที่เราคิดว่ามันใช่ กลายเป็นความไม่มั่นใจเข้ามาแทนที่

4. อาจจะดูจากบุคลิกของเจ้าสาว และไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันเป็นหลักเพื่อนำมาดีไซน์เป็นชุดแต่งงานที่เป็นตัวเจ้าสาวมากที่สุด

เพราะสิ่งไหนที่เป็นตัวเราก็จะช่วยให้เจ้าสาวรู้สึกมั่นใจในชุดนั้นแน่นอน จากนั้นจึงต้องเลือกร้านหรือดีไซเนอร์ให้ตอบโจทย์กับสิ่งที่เจ้าสาวต้องการมากที่สุดด้วยนะคะ

5. เจ้าสาวต้องพูดคุยแบบเปิดใจกับดีไซเนอร์ถึงความชอบและความไม่ชอบของตัวเจ้าสาวให้มากที่สุด

เพื่อที่ทางร้านหรือช่างจะได้ใช้ประสบการณ์ที่มีเพื่อนำมาปรับแต่งไอเดียของเจ้าสาวจนได้ออกมาเป็นชุดที่ตรงใจและตรงกับบุคลิกของเจ้าสาวมากที่สุด ซึ่งชุดแต่งงานที่สมบูรณ์แบบนั้นจะต้องพอดีกับรูปร่างของเจ้าสาวด้วย โดยไม่จำเป็นต้องตีกรอบว่าหุ่นแบบนี้ต้องใส่ชุดแบบนั้น หรือหุ่นแบบนั้นห้ามใส่ชุดแบบนี้ เพราะไม่ว่าจะหุ่นแบบไหนแต่ถ้าได้ใส่ชุดแต่งงานที่พอดีกับรูปร่างของตัวเองแล้วล่ะก็ นั่นแหละค่ะ คือชุดแต่งงานที่เพอร์เฟกต์ และคุณก็จะเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดแน่นอน

หรือจะเลือกจาก เทรนด์ชุดแต่งงาน 2019 จากรันเวย์ Bridal Fashion Week ก็ได้น้า สวยๆ ทั้งนั้นพูดเลย!!

ภาพ : coveteur.com, pexels.com

ความเชื่อมงคลเรื่องตำแหน่งมือ-เท้าในงานแต่งงาน ข้างไหนคือข้างที่ดี มาดูกัน

ซ้าย-ขวา กับการประกอบพิธีต่างๆ ใน งานแต่งงาน สำคัญไฉน?

ใน งานแต่งงาน นอกจากเรื่องฤกษ์ยามมงคลต้องดี ต้องเริดแล้ว ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับมือและเท้าของชาวตะวันตกและชาวพุทธที่เชื่อว่าทำตามนี้ในวันแต่งงานแล้วจะเป็นมงคล

จุดเริ่มต้นความเชื่อเรื่องมือ-เท้า

ก่อนอื่นเราขอเล่าเกี่ยวกับก้าวเท้าขวาก่อนจะโชคดี (Right Foot First) หรือไม่? อันนี้ต้องย้อนกลับไปไกลสักนิด โดยความเชื่อนี้เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยยุโรปตอนกลางนู้นแหนะ โดยเมื่อเหล่าอัศวินจะออกศึกเมื่อใดจะมีเคล็ดว่า “จะต้องขึ้นม้าด้วยเท้าข้างขวา” จะทำให้ได้รับชัยชนะในศึกครั้งนั้น หลังจากนั้นเรื่องนี้ก็กลายมาเป็นความเชื่อทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกที่เล่าสู่กันฟังต่อๆ มา ตามนี้

ซ้ายลบ-ขวาบวก

03ชาวตะวันตกเชื่อกันว่าร่างกายด้านซ้ายของคนเราเป็นพลังงานลบทำให้อ่อนแอกว่าทางด้านขวา หากก้าวเท้าซ้ายขึ้นม้าจะนำพาซึ่งโชคร้าย นับเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเก่าแก่ที่ยังสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ในวันเข้าหอจึงเชื่อกันว่าถ้าเจ้าสาวก้าวเท้าซ้ายเข้าเรือนหอจะเป็นลางที่ไม่ดี และการที่เจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาวข้ามธรณีประตู เมื่อวางลงเจ้าสาวจะต้องวางเท้าขวาลงพื้นก่อนเท้าซ้าย เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้ชีวิตคู่บ่าวสาวมีแต่ความโชคดีนั่นเอง แหม แต่ถ้าเรามองในด้านสรีระของผู้หญิงแล้ว จะเห็นได้ว่าการที่เธอก้าวเท้าซ้ายอาจทำให้เสียหลักจนหกล้มได้นั่นเอง

ขวากรรมดี-ซ้ายความเสื่อม

01

สำหรับความเชื่อเกี่ยวกับมือและเท้าในศาสนาพุทธ เราพบว่าในพระไตรปิฎกได้มีการอธิบายเกี่ยวกับซ้ายขวาไว้ว่า เบื้องขวา หมายถึงกรรมดี และความเจริญรุ่งเรือง ตรงกันข้ามว่า “ซ้าย” เป็นสัญลักษณ์แทนความชั่ว ความเสื่อม จึงเป็นคำอธิบายว่าไม่ว่าจะทำพิธีกรรมใดๆ จะต้องทำทางขวามือตลอด ไม่ว่าจะเป็น

การตั้งโต๊ะหมู่บูชาในพิธีสงฆ์ของบ่าวสาวก็จะต้องตั้งอยู่ทางขวามือของคู่บ่าวสาวเสมอ เมื่อจะจุดธูปเทียน ก็จะต้องเริ่มจุดเทียนด้านขวา ตามด้วยเทียนเล่มซ้ายของพระประธานเสมอ แล้วจึงค่อยจุดธูปด้านขวาไล่มาจนครบ 3 ดอก เป็นต้น

แต่ก็มีคนถามมาเยอะว่า เอ๊ะ! แล้วที่เวลาแต่งงานคนไทยนิยมให้ผู้หญิงนั่งทางซ้ายมือของผู้ชายเสมอๆ นั้น เจ้าสาวอย่าพึ่งคิดว่าตนเองเป็นสิ่งไม่ดีหรืออะไร แต่ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่าในสมัยโบราณ ชายไทยจะต้องห้อยดาบไว้ทางซ้ายมือ เวลาเกิดเหตุไม่ดีหรือเรื่องไม่คาดฝันจะได้ใช้มือขวาดึงดาบออกมาปกป้องภรรยาได้อย่างรวดเร็วฉับไวนั่นเอง

จะเห็นได้ว่าจากข้อมูลที่แพรว wedding รวบรวมมาฝาก ไม่ว่าจะเป็นชนชาติไหนหรือศาสนาใด ก็มีความเชื่อเกี่ยวกับการยื่นมือและการก้าวเท้าเหมือนกันทั้งสิ้น อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับด้านขวามือมากกว่าซ้ายมือเหมือนกันอีกด้วย เอาเป็นว่าหากบ่าวสาวไม่รู้จะยื่นมือหรือก้าวเท้าข้างไหนก่อน ก็ขอให้ยึดทางขวามือเป็นหลักก็แล้วกันนะจ๊ะ

นอกจากเรื่องซ้าย-ขวาแล้วยังมีความเชื่อเรื่องอื่นๆ อีกนะ ไปดูกัน แปลกแต่จริง! 11 ความเชื่อเรื่องงานแต่งงานที่บ่าวสาวรู้แล้วจะอึ้ง

เรียบเรียงข้อมูลจาก : www.tlcthai.com, www.pakan2.com, rightle.blogspot.com, www.oknation.net/blog/bunruang , blog.eduzones.com/poonpreecha
ขอบคุณภาพประกอบจาก : bridalguide.com, blog-vmphotography.blogspot.com, goldenplayne.blogspot.com

วิธีเลือกต่างหูเจ้าสาวให้เข้ากับทรงผม รับรองสวยเกิดเจิดทุกลุคแน่นอน

ต่างหูเจ้าสาว แบบไหนที่จะเข้ากับลุคสวยอย่างเป็นธรรมชาติของเจ้าสาวกับทรงผมกันนะ?

ต่างหูเจ้าสาว เครื่องประดับที่เสริมความโดดเด่นให้กับใบหน้าและทรงผม ซึ่งต่างหูจัดเป็นเครื่องประดับที่สำคัญ แถมใส่แค่เพียงชิ้นเดียวไม่ต้องพึ่งแอคเซสซอรี่อื่นๆ ก็สวยได้ (ยกเว้นแหวนเพชรเม็ดโตนะจ๊ะ อิอิ)  แต่จะต้องเลือกขนาดใหญ่แค่ไหน หรือรูปทรงแบบใด ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับใบหน้าและทรงผมด้วยนะ แพรว wedding เลยจะมาแนะนำต่างหูที่เหมาะกับทรงผมเจ้าสาวแบบต่างๆ ที่บอกได้เลยว่าน้อยแต่สวยมาก แถมเป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมจากเจ้าสาวมากๆ อีกด้วย

ผมเกล้า ผมรวบ

เพื่อเผยความเรียวได้รูปของใบหน้าที่สวยงาม เจ้าสาวจึงนิยมรวบผมขึ้น แถมยังเป็นลุคที่สะดวกสบาย เพราะไม่ต้องคอยปัดผมที่ปิดใบหน้า เพียงแค่เซ็ตผมให้อยู่ทรงก็โอเคแล้ว

1. ต่างหูทรงหยดน้ำ

เราแนะนำเป็นต่างหูทรงหยดน้ำ ประดับคริสตัลหรือเพชรเพียงเม็ดเล็กๆ ไม่ต้องใหญ่มาก เพราะหากเป็นต่างหูที่ยาวระย้าลงมา หรือขนาดใหญ่ อาจดูมากเกินไปจนขโมยซีนทรงผมหรือเมคอัพเอาได้ เน้นเป็นดีไซน์เรียบๆ ก็พอ รับรองว่า สวยรอดชัวร์

2. ต่างหูแบบห่วงประดับเพชร

คงความมินิมัลแบบเก๋ๆ ด้วยต่างหูห่วงที่ไม่ว่าจะห่วงแบบปกติ หรือประดับเพชร คริสตัลเม็ดเล็กๆ ก็สวย แถมเข้ากับทั้งผมรวบ และผมสั้นก็ได้ด้วยเหมือนกัน เน้นความระยิบระยับเบาๆ แต่ดูสวยแพงไปอีก

ผมยาว ปล่อยผม

เผยความงามอย่างอ่อนโยนของผู้หญิง ด้วยทรงผมยาว ไม่ว่าจะปล่อยผมให้ตรงดูสุขภาพดี หรือดัดเป็นลอนก็ให้ลุคที่ดูสวยแบบธรรมชาติ แถมเป็นลุคที่คลาสสิกมากๆ ด้วย

1. ต่างหูระย้า

เป็นต่างหูที่มีลักษณะใกล้เคียงกับต่างหูทรงหยดน้ำ แต่เพิ่มความยาว เพื่อให้ดูโดดเด่น จะประดับด้วยเพชร คริสตัล หรือมุกก็ได้ทั้งนั้น แต่อาจจะเลือกประดับแค่ขนาดกลางๆ ก็พอ ก็ทำให้ลุคนี้สวย complete!

ต่างหูเจ้าสาว

2. ต่างหูทรงเหลี่ยม

มากกว่าความโดดเด่น แต่ไม่ได้ทำให้ลุคนี้ดูดรอป เพราะด้วยดีไซน์ของต่างหูที่เป็นทรงเหลี่ยมแบบเรียวยาว อันเดียวก็คุมความสวยอยู่หมัด และเพื่อให้ดูโดดเด่น อาจเลือกสีสันที่สดใสจากคริสตัล หรืออัญมณีที่ประดับบนต่างหู ก็เพอร์เฟ็กต์ที่สุดแล้ว

ต่างหูเจ้าสาว

หากเจ้าสาวกังวลว่าต่างหูจะไม่เข้ากับโครงหน้า เราก็ยังมีวิธี จับคู่ต่างหูเจ้าสาวให้เข้ากับใบหน้า เคล็ดลับเพิ่มความงามให้ใบหน้า

ภาพจาก Pinterest

จัดงานแต่งงานใช้งบเท่าไหร่? หมดคำถามนี้หากเริ่มจากจัดเงินให้เป๊ะก่อนจัดงาน

จัดงานแต่งงานใช้งบเท่าไหร่ ? คำถามยอดฮิตของว่าที่บ่าวสาวในการจัดงานแต่งงาน หากจะไม่เอ่ยถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ก็คงจะไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของงานเลยก็ว่าได้ แต่จะให้ไปกู้หนี้ยืมสินคนอื่นก็ดูจะไม่เข้าท่ามากนัก แพรวเวดดิ้งเลยมีขคำแนะนำดีๆ สำหรับจัดการเงินในกระเป๋าเพื่อใช้จัดงานแต่งมาฝาก เชื่อเลยว่า ถ้าคุณทำได้แบบนี้ จัดงานแต่งได้อย่างใจ แถมชีวิตไม่เป็นหนี้ (เฉพาะกิจ) อีกด้วย

1. จัดเงินให้สมดุลงบ

ขั้นแรกคุณทั้งคู่จะต้องรู้ก่อนว่าต้องการจัดงานแต่งแบบไหน งานเล็กหรืองานใหญ่ และจะต้องสืบราคาค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นค่าชุดแต่งงาน ค่าสถานที่และค่าตกแต่งงาน หรือค่าใช้จิปาถะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แม้กระทัั่งค่าสินสอดก็ห้ามลืมเด็ดขาด รวมเงินสำรองฉุกเฉินเข้าไปด้วยนะจ๊ะ เผื่อว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น จะได้นำเงินส่วนนี้มาหมุนได้ทันนั่นเอง เมื่อคุณรู้งบประมาณใช้จ่ายคร่าวๆ ก็จัดการแบ่งสัดส่วนเงินให้สมดุลกับงบประมาณทั้งหมดได้เลย

2. วันเป๊ะ…เงินเป๊ะ

การกำหนดวันจัดงานอย่างชัดเจนสามารถช่วยทำให้คุณสามารถควบคุมงบใช้จ่ายได้ แต่ถ้าวันงานของคุณยังไม่แน่นอนมีการเลื่อนวันงานไปมา นอกจากจะเสียเวลาแล้ว คุณยังจะเสียเงินค่าทำสัญญาจองใหม่ หรือเผลอๆ อาจจะต้องย้ายสถานที่จัดงานไปเลยก็มี นั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องตามมาอีกมากมายนั่นเอง

3. ธีมนิ่ง…คนไม่เพิ่ม…เงินไม่งอก

อีกทางหนึ่งที่จะทำให้การจัดเงินเพื่อจัดงานมีประสิทธิภาพดียิ่งๆ ขึ้นก็คือ ถ้ากำหนดธีมและสไตล์งานเรียบร้อยแล้วก็ไม่ควรที่จะปรับเปลี่ยนอีก เพราะนั่นหมายถึงงบประมาณที่คุณตั้งไว้จะงอกเงยบานปลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตกแต่งที่ขอเพิ่มนิดเติมหน่อย จำนวนแขกเพิ่มค่าอาหารเพิ่มตาม ถ้าไม่แน่ใจแต่แรกก็ควรตั้งงบประมาณเผื่อไว้ก่อนแล้วมาคุยส่วนต่างที่งอกมาอย่าให้เกิน และที่สำคัญห้ามคิดเด็ดขาดว่ายิ่งมีคนมางานเยอะเท่าไหร่แล้วจะได้ซองมาก แล้วจะหยิบเงินจากซองมาจ่ายส่วนต่าง เราขอบอกเลยว่ามันไม่คุ้มเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มแน่ๆ ฉะนั้นจงจำไว้เสมอว่าถ้าไม่อยากให้งบบาน งานต้องนิ่งๆ นะจ๊ะ

4. ปล่อยเงินให้ทำงาน

ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงให้คุณเอาเงินต้นทุนการจัดงานแต่งงานไปลงทุนเพิ่มในช่องทางอื่นๆ แต่หมายถึง เมื่อจัดการทุกอย่างตามที่เราวางแผนเรียบร้อยแล้วก็เพียงปล่อยให้เงินทำหน้าที่จัดสรรและดำเนินงานแทนเรา โดยการจ่ายเงินให้ผู้ให้บริการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการจัดงานแต่งงานครั้งนี้ฃและให้เขานำไปเงินในงบของคุณไปบริหารต่อตามแผนที่เตรียมไว้ ซึ่งขั้นตอนนี้เรามีหน้าที่เพียงนั่งนิ่งๆ สบายๆ และเฝ้าดูงานอยู่ห่างๆ เพื่อรอให้ถึงวันสำคัญของเราก็พอแล้ว

นี่คือ 4 ขั้นตอนจัดสรรเงินสำหรับใช้ในงานแต่งง่ายๆ สำหรับใช้ในงานแต่งที่เรานำมาฝาก ที่รับรองว่าเงินที่คุณมีจะเพียงพอต่อการจัดงานแน่นอนจ้า

อ่านคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานและดูไอเดียงานแต่งอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรียบเรียงข้อมูล : www.set.or.th, millionaire-academy.com, tax.bugnoms.com
ภาพ : www.glamour.com

ว่าที่บ่าวสาวสวมชุดวิวาห์ควงคู่วิ่งพิสูจน์รักใจกลางกรุง คว้างานแต่งในฝันมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ในกิจกรรม “อีซี่ รันนิ่ง ออฟเดอะ ไบรด์ส 8”

ว่าที่บ่าว-สาวสวม ชุดวิวาห์ ควงคู่วิ่งพิสูจน์รักใจกลางกรุง คว้างานแต่งในฝันมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท!! สำเร็จในกิจกรรม “อีซี่ รันนิ่ง ออฟเดอะ ไบรด์ส 8”

“อีซี่ เอฟ เอ็ม 105.5” แจกงานแต่งฟรีอีกครั้ง เป็นอีก 1 ในงานประจำปีที่คนมีรักต่างเฝ้ารอ สำหรับมหกรรมวิ่งแข่งชิงงานแต่งในฝันที่คลื่นเพลงสากลอันดับ 1 “อีซี่ เอฟเอ็ม 105.5”จัดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี กับกิจกรรมEAZY RUNNING  OF THE BRIDES ปีที่ 8 Love Infinity ปีนี้ว่าที่บ่าว-สาวกว่า 120 คู่ คว้าชุดวิวาห์และรองเท้าผ้าใบ มารวมตัวกันเยอะที่สุด เพื่อร่วมสนุกกับภารกิจ “วิ่งเพื่อรัก โรแมนติก ฟันรัน” ณ บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยมีรางวัลงานแต่งงานในฝัน พร้อมของรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เป็นเดิมพันเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

เปิดงานอย่างเป็นทางการโดยคุณเนล ทอมป์สัน (กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี-เทโร เรดิโอ จำกัด), คุณลาวัณย์ เดมอน ชุมสาย ณ อยุธยา (ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีอีซี-เทโร เรดิโอ จำกัด), คุณสมบูรณ์ หอมนาน (รองผู้อำนวยการ สำนักวัฒนธรรมกีฬา และการท่องเที่ยว), คุณชูศักดิ์ จันทยานนท์ (ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย), คุณนิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2561 และเหล่าดีเจจาก“อีซี่ เอฟเอ็ม105.5”

ภารกิจ “วิ่งเพื่อรัก” ในปีนี้ มีระยะทางในการวิ่ง รวม 3 กิโลเมตร พร้อมกับด่านทดสอบ 7 ด่าน ที่ให้เหล่าคู่รักได้ฝ่าฟันร่วมกัน ใช้ทั้งพลังกาย และพลังใจ วิ่งพิสูจน์รัก โดยคู่รักที่สามารถคว้าชัยชนะ คือ(เจ้าบ่าว) คุณภาณุภัทร วัชระสกุลชัย อายุ 29 อาชีพ โปรแกรมเมอร์ และควงคู่ (เจ้าสาว) คุณเกศรินทร์ จินดาหนา อายุ 30 อาชีพ ครูเอกชน วิ่งสู่เส้นชัยเป็นคู่แรกด้วยเวลา 26.10 นาที คว้ารางวัลงานแต่งในฝันจาก EAZY RUNNING  OF THE BRIDESมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท  ไม่ว่าจะเป็น โรงแรมสำหรับจัดงานแต่ง,ชุดแต่งงานคู่บ่าวสาว,แหวนเพชรคู่,แพคเกจฮันนีมูนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงของรางวัลอื่นๆอีกมากมายไปครองได้สำเร็จโดยคู่รักผู้ชนะเผยว่า “เรา 2 คนเป็นนักวิ่งที่วิ่งมาราธอนเป็นประจำ แต่งานนี้เราไม่ได้วิ่งนำมาเป็นที่ 1 อยู่กลางๆของกลุ่มวิ่งด้วยซ้ำ ทำภารกิจไปเรื่อยๆไม่คิดอะไรคนอื่นก็วิ่งผ่านไปหมด แต่เราใช้วิธีออมแรง เพื่อสปีทก่อนเข้าเส้นชัย ลุ้นที่สุดคือด่านวัดดวงที่ต้องหาสัญลักษณ์งานให้ถูกต้อง ซึ่งกว่าเจอต้องวิ่งเป็น 10 รอบ ตอนที่วิ่งเข้าเส้นชัยก็ยังงงมาก ดีใจมากๆที่ได้ที่ 1 (ว่าที่เจ้าบ่าวน้ำตาไหล) เรา2 คนพยายาม แล้วมันก็สำเร็จ!!

และอีก 1 กิจกรรมพิเศษในงานนี้ก็คือ การวิ่งฟันรัน ที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้ออกมาร่วมวิ่งเพื่อแสดงถึงความรักที่ไม่มีขีดจำกัด ภายใต้ธีม “Color of Love”มีนักวิ่งแฟนซีมากมาย แต่งเต็มมาสร้างสีสันในงานนี้ ซึ่งรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย จะนำไปมอบให้กับมูลนิธิออทิสติกไทย โดยนอกจากเหล่านักวิ่งจะได้ร่วมทำบุญไปกับ Eazy FM 105.5 และได้ลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 3 แสนบาทแล้ว ยังได้รับของที่ระลึก ทั้งเหรียญ เสื้อวิ่ง และกระเป๋าผ้า ที่ออกแบบโดยน้องๆ จากมูลนิธิออทิสติกไทยอีกด้วย

นอกจากนี้ว่าที่บ่าวสาวในอนาคตอีก 1 คู่รักของวงการเพลงอย่าง“อู๋ ธรรพ์ณธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา” ควง แฟนสาวต่างวัย “ครูเก๋า” มาร่วมสนุกวิ่งชิงงานแต่งในครั้งนี้ด้วย โดยทั้งคู่ก็วางแผนแต่งงานไว้เร็วๆนี้

ปิดท้ายงานแห่งความรักครั้งนี้ด้วยมินิคอนเสิร์ตจาก โรส ศิรินทิพย์ ที่มาร้องเพลงรัก เพิ่มบรรยากาศในงานให้อบอวลไปด้วยความหวานมากขึ้น สำหรับภาพสวยๆในงาน ได้คุณจักร์วินทร์ ภู่สวาสดิ์ ช่างภาพชื่อดังระดับแถวหน้าของเมืองไทยมาช่วยบันทึกภาพให้อีกด้วย

ติดตามชมภาพและบรรยากาศงาน Eazy Running of the Brides ปี 8 ได้ทาง www.eazyfm.com รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ได้ตลอดทุกช่วงดีเจ ที่ Eazy FM 105.5