ตั้งสติแล้วเลือกชุดแต่งงานตามนี้ รับรองไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลังชัวร์!!

ก็แต่งงานครั้งเดียว หากต้องมานั่งร้องไห้ตอนหลังว่าเลือก ชุดแต่งงาน ผิดเห็นทีจะเป็นตราบาปไปชั่วชีวิตแน่นอน!!

แน่นอนว่านอกจากที่เจ้าสาวจะมีธีมงานแต่งงานในฝันแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นความฝันและสาวๆ อย่างเราอยากจะทำให้เป็นจริงมากที่สุดก็คือการเลือก ชุดแต่งงาน ที่ตรงฝันตรงใจในวันสำคัญในชีวิตที่มีแค่ครั้งเดียว แต่…เราจะเลือกชุดแต่งงานในฝันของเราอย่างไรให้ไม่ต้องมานั่งเสียใจตอนหลังว่าไม่น่าเลือกชุดนี้เลย เรามีเทคนิคดีๆ มาบอกต่อ

1. เลือกจากชุดหรือแบบที่เจ้าสาวชอบ

เมื่อได้แบบชุดที่เราชอบแล้ว ก็นำแบบไปปรึกษากับร้านหรือดีไซเนอร์ที่ไว้ใจ เพื่อที่ช่างหรือร้านจะได้ให้คำแนะนำว่าชุดที่เราชอบเหมาะกับรูปร่างเราหรือไม่ ต้องเสริมตรงไหนเพิ่มเข้าไปอีกหรือเปล่า เพื่อให้เข้ากับจุดเด่นของรูปร่างของเจ้าสาวแต่ละคน และที่สำคัญชุดในฝันที่ดีนั้นจะต้องปกปิดส่วนที่เป็นจุดด้อยของเจ้าสาวท่านนั้นๆ ได้ด้วย

2. เจ้าสาวควรจะเลือกชุดไว้ในใจทั้งหมด 3 ชุด โดยแต่ละชุดจะต้องมีรูปแบบหรือสไตล์ที่แตกต่างกัน

จากนั้นก็จัดการลองให้หมดทั้ง 3 ชุดนั่นแหละค่ะ เพื่อที่จะได้ดูว่าแบบไหนที่เจ้าสาวชอบหรือแบบไหนที่เหมาะกับเจ้าสาวมากที่สุด เพราะบางทีแบบที่ชอบกับแบบที่เหมาะอาจจะไม่ได้อยู่ในชุดเดียวกันก็ได้ และที่สำคัญเจ้าสาวอย่าเพิ่งรีบตัดสินใจจากคำพูดอันจูงใจของเซลล์นะคะ เพราะส่วนมากเซลล์จะฮาร์ดเซลล์ขายเราอย่างหนัก จนพาลสติจะลอยๆ จนได้ชุดแต่งงานมาแบบไม่ตั้งใจ เพราะฉะนั้นต้อง have สติก่อน แล้วก็ใช้เวลาในการคิดนิดนึง อย่าเผลอไผลไปตามโปรโมชั่นหรือส่วนลดใดๆ (แต่ถ้าได้ชุดแต่งงานที่อยากได้แล้ว ค่อยสนใจโปรโมชั่นหรือส่วนลดต่างๆ นะจ๊ะ)

ชุดแต่งงาน

3. เจ้าสาวต้องทำการบ้านเกี่ยวกับชุดแต่งงานของตัวเองก่อนที่จะเข้าไปปรึกษากับร้านหรือดีไซเนอร์ด้วย

โดยในวันนั้นก็จะอาจจะมีชุดแต่งงานที่เจ้าสาวทำการบ้านไป กับชุดแต่งงานที่ทางร้านหรือดีไซเนอร์แนะนำให้ลอง ซึ่งหากเจ้าสาวได้ลองชุดแต่งงานครบทุกชุดแล้ว ให้เชื่อความรู้สึกแรกซึ่งมันจะเป็นความรู้สึก “ว้าววววว!! อยู่หน้ากระจก รู้สึกว่าชุดนี้แหละใช่เลย หมุนซ้ายหมุนขวาอยู่หน้ากระจกแล้วเห็นตัวเองใส่ชุดนี้ในงานแต่งงาน ก็เป็นอันจบ แต่!! อย่าลองเยอะมากเกินไปนะคะ (3 ชุดกำลังดี) เพราะยิ่งลองเยอะก็จะยิ่งเกิดการเปรียบเทียบขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ความรู้สึกแรกที่เราคิดว่ามันใช่ กลายเป็นความไม่มั่นใจเข้ามาแทนที่

4. อาจจะดูจากบุคลิกของเจ้าสาว และไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันเป็นหลักเพื่อนำมาดีไซน์เป็นชุดแต่งงานที่เป็นตัวเจ้าสาวมากที่สุด

เพราะสิ่งไหนที่เป็นตัวเราก็จะช่วยให้เจ้าสาวรู้สึกมั่นใจในชุดนั้นแน่นอน จากนั้นจึงต้องเลือกร้านหรือดีไซเนอร์ให้ตอบโจทย์กับสิ่งที่เจ้าสาวต้องการมากที่สุดด้วยนะคะ

5. เจ้าสาวต้องพูดคุยแบบเปิดใจกับดีไซเนอร์ถึงความชอบและความไม่ชอบของตัวเจ้าสาวให้มากที่สุด

เพื่อที่ทางร้านหรือช่างจะได้ใช้ประสบการณ์ที่มีเพื่อนำมาปรับแต่งไอเดียของเจ้าสาวจนได้ออกมาเป็นชุดที่ตรงใจและตรงกับบุคลิกของเจ้าสาวมากที่สุด ซึ่งชุดแต่งงานที่สมบูรณ์แบบนั้นจะต้องพอดีกับรูปร่างของเจ้าสาวด้วย โดยไม่จำเป็นต้องตีกรอบว่าหุ่นแบบนี้ต้องใส่ชุดแบบนั้น หรือหุ่นแบบนั้นห้ามใส่ชุดแบบนี้ เพราะไม่ว่าจะหุ่นแบบไหนแต่ถ้าได้ใส่ชุดแต่งงานที่พอดีกับรูปร่างของตัวเองแล้วล่ะก็ นั่นแหละค่ะ คือชุดแต่งงานที่เพอร์เฟกต์ และคุณก็จะเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดแน่นอน

หรือจะเลือกจาก เทรนด์ชุดแต่งงาน 2019 จากรันเวย์ Bridal Fashion Week ก็ได้น้า สวยๆ ทั้งนั้นพูดเลย!!

ภาพ : coveteur.com, pexels.com

Recommended