6 เคล็ดลับการันตีเรื่องประหยัดค่าขันหมากในพิธีแต่งงานไทย

ร้านที่รับทำขันหมากใน พิธีแต่งงานไทย มีเป็นร้อยๆ ร้านเลยจริงไหมคะ แต่การเลือกขันหมากที่สวย ใช้ได้ตามประเพณี และประหยัดเงินทำไม่ยาก ลองไปดูคำแนะนำดีๆ จาก โปรไต๋ – ศุภโชค ชายแสน แห่ง Create Wedding Planner ค่ะ

  1. เปลี่ยนขันหมากใบตองดอกไม้สดเป็นขันหมากกระดาษหรือเช่าชุดขันหมากผ้าก็ช่วยประหยัดได้
  2. สั่งเฉพาะพานที่จำเป็นอย่างพานขันหมากเอก พานธูปเทียนแพ พานสินสอด พานแหวน และพานรับขันหมาก
  3. พานขนมหวานและผลไม้ใช้ถาดที่ทางร้านจัดมาหรือถาดที่มีอยู่แล้ว
  4. เลือกของรับไหว้ที่เก็บไว้ใช้ได้เองหากของเหลือ เช่น ผ้าขนหนู ผ้าพันคอ ชุดถ้วยชาม เป็นต้น
  5. ของถวายพระอย่าซื้อแบบชุดสำเร็จ 199 บาท แนะนำให้ซื้อของมาแพ็คเอง ทั้งประหยัดและได้ของดี
  6. กล้วยอ้อยจับคู่กันแล้วหาผ้าสวยๆ หุ้มโคนต้นผูกริบบิ้นแทนก็ได้

ดูเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีแต่งงานไทยเพิ่มเติม คลิกเลย!

ไขข้อสงสัย…ใครมารับไหว้บ่าวสาวได้บ้าง? ไปหาคำตอบกัน

ประเพณีแต่งงานแบบไทย ช่วงสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ “พิธีไหว้ผู้ใหญ่” หลายคนสงสัยและถามกันเข้ามาบ่อยมากว่า “ใครจะขึ้นมา รับไหว้บ่าวสาว ได้บ้าง?” บางคนบอกว่าแค่พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ญาติพี่น้องเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันบางคนกลับบอกว่าใครก็ได้ที่บ่าวสาวเคารพ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้กระจ่างกัน

สำหรับพิธีไหว้ผู้ใหญ่นั้น แน่นอนว่าผู้ที่จะขึ้นมารับไหว้ได้ต้องเป็นผู้ที่ “มีอายุมากกว่า” เจ้าบ่าวเจ้าสาว ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ปู่ย่าตายาย ญาติพี่น้อง หรือแขกผู้ใหญ่คนสำคัญที่บ่าวสาวเคารพ ซึ่งถ้าหากรู้แล้วว่าจะเชิญท่านไหนขึ้นมารับไหว้บ้างก็ควรแจ้งท่านเอาไว้ล่วงหน้าก่อนวันงาน เนื่องจากท่านจะได้มีเวลาเตรียมของรับไหว้ที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นเงินทอง ของมีค่า รวมถึงฝ่ายเจ้าภาพจะได้เรียงลำดับรายชื่อผู้ใหญ่ที่จะขึ้นรับไหว้ตามความเหมาะสม

ส่วนของที่บ่าวสาวจะเตรียมเอาไว้ไหว้ผู้ใหญ่ควรเป็นของที่ดูดีมีราคาและสมน้ำสมเนื้อกับของรับไหว้ ควรเลือกเป็นของที่คิดว่าจะสามารถใช้ได้ในอนาคตหรือสามารถนำไปบริจาคได้ แนะนำว่าให้เตรียมเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ด้วย เช่น มีรายชื่อผู้ใหญ่จะขึ้นรับไหว้ 10 ท่าน ก็ให้เตรียมของไหว้เผื่อไว้สัก 15 หรือ 20 ชิ้น เพราะอาจจะมีผู้ใหญ่ท่านอื่นที่มีความเอ็นดูบ่าวสาวและตั้งใจมารับไหว้แต่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า

ช่วงเวลาสำหรับพิธีไหว้ผู้ใหญ่มักจะจัดขึ้นหลังจากพิธีรดน้ำสังข์เสร็จแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น บ่าวสาวหรือทางครอบครัวอาจจะขยับไปไว้ในช่วงที่สะดวกก็ได้เช่นกัน

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีแต่งงานไทยเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

เขียนให้ถูก แขกไม่งง กับข้อความใน การ์ดแต่งงานพิธีเช้า

เป็นที่ถกเถียงกันเหลือเกินเวลาที่จะทำ การ์ดแต่งงานพิธีเช้า สำหรับเชิญแขกเหรื่อมาร่วมงานในพิธีการว่าเขียนแบบไหนจึงจะเหมาะ ฝั่งหนึ่งบอกว่าต้องเขียนแจงรายละเอียดทุกอย่างสิ อีกฝั่งบอกว่าจะเขียนทำไมยืดยาว ไม่ต้องทะเลาะกันนะคะ เพราะความจริงแล้ว เขียนได้ทั้งสองแบบ เพียงแต่ในการเขียนแต่ละแบบมีรูปแบบที่ต่างกันค่ะ

การ์ดแต่งงานพิธีเช้าแบบบอกเวลาเดียว

การ์ดแบบที่บอกเวลาเดียวในที่นี้หมายถึง การ์ดเชิญที่ระบุเวลาเริ่มต้นงานที่อยากจะให้แขกมาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีค่ะ ซึ่งแปลว่า บ่าวสาวอยากเชิญแขกมาในช่วงไหนของงานก็แค่ระบุเจาะจงเฉพาะเวลานั้นๆ ลงไป เช่น อยากให้แขกมาร่วมในพิธีแห่ขันหมาก ก็ระบุลงไปในการ์ดชัดๆ ไปเลยว่า 9.09 น. พิธีแห่ขบวนขันหมาก ถ้าอยากเชิญให้มาร่วมงานทันช่วงฤกษ์สวมแหวน ก็ระบุช่วงเวลาสวมแหวนลงไป เช่น 9.49 น. ฤกษ์สวมแหวนหมั้น

Wedding-Idea-013
ตัวอย่างการ์ดแต่งงานพิธีเช้าแบบบอกเวลาเดียวจากร้าน Anya

แต่สำหรับบางบ้านอยากเชิญแขกมาแค่ร่วมรับประทานอาหารกลางวันก็ระบุเวลาลงไปเพียงหนึ่งเวลาเช่นกัน ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรผิดถูก อยู่ที่การตกลงของคู่บ่าวสาวว่า อยากจะแจ้งเชิญแขกตอนไหนเท่านั้นเองค่ะ

การ์ดแต่งงานพิธีเช้าแบบแจกแจงช่วงเวลา

การ์ดแบบที่แจกแจงเวลาคือ บอกทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพิธีค่ะ แต่บ่าวสาวก็สามารถเลือกระบุได้เช่นกันว่าอยากให้แขกมาร่วมงานตั้งแต่ช่วงพิธีไหนบ้าง เช่น บางคู่มีพิธีสงฆ์ก่อนเป็นพิธีแรก แต่อยากจัดเป็นการภายในเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น ในการ์ดก็ไม่ต้องระบุว่ามีพิธีสงฆ์ค่ะ ให้เริ่มต้นที่พิธีการต่อไปได้เลย เช่น

Wedding-Idea-004
ตัวอย่างการเขียนการ์ดแบบแจกแจงเวลาจากร้าน Anya

ข้อดีในการระบุเวลาในการ์ดแต่งงานแบบนี้คือ แขกสามารถรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในวันงาน และสามารถกะเวลาได้ว่าจะเข้าร่วมในช่วงเวลาไหน ต้องเตรียมตัวไปให้ทันก่อนหน้ามากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่พึงระวังในการระบุเวลาแบบแจกแจงลงไปในการ์ดแต่งงานคือ การคุมเวลาให้เป็นไปตามที่ระบุไว้ เนื่องจากถ้าระบุลงไปแล้ว แขกส่วนใหญ่จะคาดหวังว่าเวลาดังกล่าวจะเกิดลำดับพิธีนั้นๆ ขึ้น และจะสามารถวางแผนจัดการไปงานอื่นต่อหรือไปธุระอื่นต่อได้ แต่ถ้าเวลาที่กำหนดกับเวลาจริงคลาดเคลื่อน (ซึ่งเกิดขึ้นได้) ก็ต้องไม่ลืมให้พิธีกรประกาศอยู่เป็นระยะๆ ด้วยเช่นกัน อย่าลืมนะคะว่า ถ้าวันที่คุณเลือกจัดงานเป็นฤกษ์ดีมีคนแต่งเพียบ แขกอาจต้องวิ่งรอกไปหลายงาน แขกก็จะได้จัดสรรเวลาได้ไงคะ

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ประเภทใครเป็นประธาน คุณพ่อคุณแม่ชื่ออะไร บ่าวสาวชื่ออะไร อันนั้นก็ตามรูปแบบทั่วไปที่ร้านการ์ดแนะนำได้เลยนะคะ แต่โดยปกติ ถ้าในงานพิธีนั้นมีประธานที่แน่ชัดก็สามารถระบุลงในการ์ดได้เลย แล้วจึงตามด้วยชื่อคุณพ่อคุณแม่และชื่อบ่าวสาว แต่ในกรณีที่ยังไม่แน่ใจว่า ประธานที่เชิญมาจะมาได้ไหม และต้องพิมพ์การ์ดแล้ว การไม่ใส่ชื่อประธานลงในการ์ดเชิญก็ไม่ถือว่าผิดนะคะ

เพิ่มเติมให้อีกนิดว่า หลังจากการเขียนชื่อไปแล้ว สิ่งที่ห้ามลืมคือ ห้องจัดงาน ชื่อโรงแรม วันที่ ซึ่งถ้าจะให้ดี ระบุชัดเจนไปเลยว่าตรงกับวันไหนของสัปดาห์จะได้ชัวร์สุดๆ สุดท้ายเรื่องดีไซน์ก็สำคัญนะคะเพราะฉะนั้นมาเพิ่ม เคล็ดลับเพิ่มเสน่ห์ให้การ์ดแต่งงานไทย เลือกยังไงไม่ให้เชย กันดีกว่า

7 ทิปส์เพื่อสร้างบรรยากาศให้รูปถ่ายในวันขอแต่งงานสุดพิเศษ

โมเม้นต์ ขอแต่งงาน เป็นช่วงเวลาสุดพิเศษสำหรับคู่รัก และยังเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่สาวๆ หลายคนอยากจะมีอีกด้วย และเพื่อเป็นการเก็บโมเม้นต์สุดพิเศษนี้เอาไว้แบบละเอียด การถ่ายภาพจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่คุณผู้ชายต้องจัดเตรียมไว้ให้พร้อม

และสิ่งที่จะทำให้ภาพถ่ายในวันขอแต่งงานของคุณไม่ใช่ภาพถ่ายธรรมดาคือ การเก็บทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้นจริงในขณะนั้นเอาไว้ เพราะมันเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างแท้จริงที่จะย้อนกลับมาทำแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว

ซึ่งแน่นอนว่าการขอแต่งงานคือการเซอร์ไพ้รส์ที่สาวๆ ไม่ได้รู้ล่วงหน้า เพราะฉะนั้นข้อเสียของสิ่งนี้คือ สาวๆ ต้องเสี่ยงกับสภาพเสื้อผ้าหน้าผมที่อาจไม่พร้อม และรีแอ็คชั่นแบบธรรมชาติที่คุณทำออกมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกช่างภาพที่ซ่อนตัวอยู่เก็บภาพเอาไว้

เพราะฉะนั้นการขอแต่งงานจึงเป็นเหตุการณ์ที่สามารถวางแผนทุกอย่างไว้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 50 เปอร์เซ็นต์คือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถวางแผนได้ แพรว wedding เลยมีทิปส์จากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ 50 เปอร์เซ็นต์ที่คุณผู้ชายและทีมงานที่เกี่ยวข้องต้องวางแผนเพื่อเก็บช่วงเวลาสุดประทับใจให้ออกมาสวยงามและสมบูรณ์แบบมากที่สุด

1. เลือกช่างภาพมืออาชีพ

แน่นอนว่าวันพิเศษของคุณขนาดนี้แก๊งเพื่อนรักก็ย่อมมีส่วนในวันสำคัญวันนี้ด้วย และบางคนอาจจะยื่นข้อเสนอที่ว่า “เดี๋ยวถ่ายให้ก็ได้นะ” แต่ถึงอย่างนั้นจะเป็นการดีกว่าถ้าคุณเลือกช่างภาพในวันแต่งงานให้มาเก็บภาพในวันนี้ด้วย ซึ่งไม่ใช่ว่าเพื่อนของคุณถ่ายภาพไม่ดีหรอกนะ แต่เพราะการได้ช่างภาพมืออาชีพมาถ่ายนั้นจะช่วยให้คุณได้ภาพที่สมบูรณ์แบบมากกว่า เพราะช่างภาพจะรู้มุมกล้องที่ดีและสามารถจับความรู้สึกของช่วงเวลานั้นๆ ด้วยเทคนิคแบบมืออาชีพ

แต่ถ้าหากคุณเลือกที่จะใช้มือสมัตรเล่นจริงๆ ก็ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตั้งค่ากล้องนั้นใช้ความเร็วสูงสุดด้วยชัตเตอร์แบบต่อเนื่อง ซึ่งคุณจะได้ภาพถ่ายในช่วงเวลานั้นแบบต่อเนื่องจากนั้นก็แค่มาเลือกช็อตที่ดีที่สุด

TIP รูปภาพของคุณจะเป็นธรรมชาติมากขึ้น หากคุณใช้ช่างภาพเจ้าใดเจ้าหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่งตลอดช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของคุณทั้ง การขอแต่งงาน, พรีเวดดิ้ง, งานหมั้น และวันแต่งงาน คุณจะได้ภาพถ่ายที่ดูสวยงามและเป็นเรื่องราวเดียวกันมากที่สุด

2. วางแผนให้ดี

วางแผนล่วงหน้ากับช่างภาพให้ดีและคุยรายละเอียดต่างๆ ที่คุณอยากได้ เช่น สถานที่ที่ขอแต่งงานเป็นที่ไหน และจะขอในช่วงเวลาใด คุณและคนรักจะยืนอยู่ตรงไหน และถ้าหากสถานที่นั้นเป็นสถานที่สาธารณะ และถ้าเป็นไปได้คุณและช่างภาพอาจจะต้องไปหามุมดีๆ และช่วงเวลาที่ผู้คนอาจจะไม่พลุ่งพล่านมากนัก พร้อมชี้จุดที่คุณจะคุกเข่าขอสาวแต่งงานให้ช่างภาพได้รู้ เพื่อที่ช่างภาพจะได้รู้ว่าจะต้องถ่ายภาพคุณและคนรักอย่างไร

TIP หากคุณจะขอแต่งงานในบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกต้องวางแผนให้ดีและทุกอย่างจะต้องไม่เลท เพราะแสงยามเย็นจะไม่หยุดรอคุณและคนรักหรอกนะ

3. มีช่างภาพมากกว่า 1 คน

การเก็บภาพประทับใจในวันขอแต่งงานไม่ได้แค่บันทึกภาพของฝ่ายหญิงไว้ฝ่ายเดียวเท่านั้น ภาพของหนุ่มๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะในวันนั้นนอกจากสาวๆ ที่จะประทับใจแบบตั้งตัวไม่อยู่แล้ว หนุ่มๆ อย่างคุณอาจซาบซึ้งจนน้ำตาลูกผู้ชายหลั่งออกมาโดยไม่ตั้งใจก็ได้ เพราะฉะนั้นการมีช่างภาพมากกว่า 1 คนเพื่อเก็บทุกรีแอ็คชั่นและทุกความรู้สึกของคุณและคนรักเอาไว้ก็อาจทำให้คุณได้ภาพวันขอแต่งงานที่สมบูรณ์แบบ อย่างน้อยอาจมีช่างภาพสัก 2 คน คนหนึ่งสำหรับคุณ และอีกคนสำหรับคนรัก

TIP วางตำแหน่งตัวเองและคนรักกับฉากหลังให้ดี เพราะช่างภาพจะถ่ายภาพจากด้านข้างของคุณ หรือคุณทั้งคู่กำลังหันหน้าเข้าหากัน

4. จัดลำดับความสำคัญของแสงที่ดี

แสง คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ภาพถ่ายของคุณสวยงาม ซึ่งแสงธรรมชาติเป็นแสงที่ดีที่สุดและทำให้ภาพถ่ายออกมาสวยที่สุดด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นอย่าลืมปรึกษาช่างภาพว่าช่วงเวลาไหนที่แดดกลางแจ้งจะเอื้อต่อการทำให้ถ่ายภาพออกมาได้สวยที่สุด และสำหรับการขอแต่งงานในบรรยากาศอินดอร์ ตำแหน่งที่ดีที่สุดที่คือตำแหน่งที่ใกล้หน้าต่างที่มีธรรมชาติส่งเข้ามาโดนใบหน้าของคุณทั้งสองคนที่กำลังหันหน้าเข้าหากันอยู่ แต่หากห้องนั้นเป็นห้องทึบ ก็อาจใช้แสงไฟอ่อนๆ จากหลอดไฟ ไฟราว นอกจากนี้การเสริมบรรยากาศด้วยแสงเทียนหรือโคมไฟที่ให้แสงที่เย็นและสบายตาก็ช่วยให้ภาพถ่ายของคุณดูโรแมนติกขึ้น

TIP อย่าลืมทำทุกอย่างให้ช้าลงสักนิด โดยเฉพาะช่วงเวลาที่คุณกำลังจะคุกเข่า เพื่อให้ช่างภาพได้เคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิมมายังตำแหน่งใหม่ที่เหมาะสมได้ทันเวลา

5. อย่ากังวลว่ามีกล้องถ่ายอยู่

ใบหน้าเหยเก่ของอารมณ์ตกใจ และใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาในภาพถ่ายเป็นเรื่องที่ทั้งคุณและคนรักต้องยอมรับและทำใจ เพราะภาพถ่ายที่ดีที่สุดคือ ภาพสไตล์แคนดิดที่เต็มไปด้วยอารมณ์จริงๆ ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้น ไม่ต้องพยายามทำใบหน้าให้สวยหล่อเพราะรู้ว่ามีกล้องถ่ายอยู่ ทางที่ดีคุณไม่ควรกังวลในเรื่องนี้ และควรจะปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติแล้วปล่อยให้ภาพถ่ายเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ฉะนั้นปล่อยทุกอย่างออกมาให้เต็มที่ เพราะภาพถ่ายที่ดีที่สุดคือภาพที่เต็มไปด้วยอารมณ์แบบเหยเกนั่นแหละ

6. เตรียมกระเป๋าฉุกเฉินไว้ด้วย

ข้อนี้อาจจะต้องเป็นหน้าที่ของหนุ่ม หรือแก๊งเพื่อนสาว กับการเตรียมกระเป๋าที่เต็มไปด้วยของฉุกเฉินทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ทิชชู่, เมคอัพ, กระจกเล็กๆ, แบตเตอรี่สำรอง, ที่ชาร์ตแบต, ชุดสำรอง, พร็อพส์ต่างๆ ฯลฯ

ดูไอเดียแหวนแต่งงานได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ unsplash.com

ความหมายสุดลึกซึ้งของแหวนแต่งงานแต่ละแบบ อินแบบไหนจัดไป

“ทำไมฝรั่งนางนั้นถึงสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย 2 วง” เชื่อว่าหลายคนคงเคยสงสัยกันใช่ไหมคะ เพราะอย่างธรรมเนียมไทยของเราก็จะมีแค่แหวนหมั้นเพียงวงเดียว ไม่มี แหวนแต่งงาน คำตอบก็คือ ตามธรรมเนียมฝรั่งนั้นเขาจะเรียกแหวนที่เจ้าบ่าวสวมแก่เจ้าสาวในวันหมั้นหรือวันที่คุกเข่าขอเธอแต่งงานว่า Engagement Ring ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแหวนเม็ดเดี่ยว (Solitaire) ส่วนอีกวงหนึ่งคือแหวนที่บ่าว-สาวแลกกันในวันแต่งงานเรียกว่า Wedding Band โดยนิยมเป็นแหวนเกลี้ยง (Classic) หรือแหวนเพชรรอบนิ้ว (Eternity) ซึ่งเจ้าสาวจะสวมแหวน 2 วงนี้ซ้อนกันเรียกว่า Bridal Set เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้รู้ว่าฉันแต่งงานแล้วนะ

นอกจากนี้แหวนแต่ละแบบที่จะเลือกมาเป็น Bridal Set นั้นยังมีความหมายที่ลึกซึ้งแตกต่างกันออกไปอีกด้วยนะ

แหวนเม็ดเดี่ยว (Solitaire) นิยมใช้ในการหมั้น มีความหมายถึงการรักเดียวใจเดียวและความซื่อสัตย์

แหวนเพชรรอบนิ้ว (Eternity) ด้วยลักษณะของเพชรรอบวง จึงหมายถึงความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด

แหวนเกลี้ยง (Classic) นิยมใช้เป็นแหวนแต่งงาน เพื่อเป็นตัวแทนของคำมั่นสัญญาว่าจะมั่นคงตลอดไป

แหวนเพชร 3 เม็ดเรียง (3 Stone Ring) นิยมมอบให้กันในโอกาสครบรอบแต่งงาน เพราะเพชร 3 เม็ด หมายถึงความรักที่ยาวนานเหนือกาลเวลา ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน จนถึงอนาคต

แหวนสามวง (Trinity Ring) ด้วยตัวแหวนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ จึงหมายถึงความรักที่สามัคคีกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ดูไอเดียแหวนแต่งงานและเครื่องประดับเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรียบเรียงข้อมูลจาก : www.bridalguide.com
ภาพ : pinterest, unsplash.com

4 สเต็ปเจ้าสาวต้องรู้ ก่อนเลือกทรงผมเปียสวยหวานในวันแต่งงาน

ทรงผมเปีย เป็นอีกหนึ่งลุคสุดคลาสสิคของเจ้าสาวเลยก็ว่าได้ เพราะให้ลุคที่ดูสวยหวานสวยงดงามเหมาะกับความเป็นเจ้าสาว แถมแบบผมเปียก็มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ เรียกได้ว่าไม่ว่าจะจัดงานสไตล์ไหน ใส่ชุดแต่งงานยังไง ก็มีผมเปียรอพร้อมเสิร์ฟให้กับเจ้าสาวอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวก่อน ผมเปียจะสวยสมบูรณ์แบบไม่ได้หากขาด 4 สเต็ปสำคัญที่เรานำมาฝาก 

1. เลือกผมเปียให้เหมาะกับสภาพเส้นผม

รูปภาพสวยๆ ของผมเปียอันงดงามที่เจ้าสาวเห็นในอินเทอร์เน็ตนั้น ไม่ได้หมายความว่ามันจะเหมาะสมกับคุณเสมอไป เพราะนอกจากความสวยงามของเปียแล้ว เจ้าสาวยังต้องคำนึงถึงเรื่องความหนาของเส้นผม สีผม และความยาวของเส้นผมด้วย ถึงจะได้ผมเปียสุดเพอร์เฟกต์ที่เหมาะสมลงตัวกับตัวเอง

ทรงผมเปีย

2. เลือกผมเปียให้เหมาะกับชุดเจ้าสาว

ผมเปียที่เจ้าสาวเลือกนั้นจะต้องเข้ากับชุดแต่งงานของเจ้าสาวด้วย เช่น ผมเปียที่เบี่ยงข้างที่ดูสวยงามเหมาะสมกับชุดแต่งงานทรงสลิปเดรสที่ดูเรียบหรู หรือหากชุดแต่งงานของเจ้าสาวมีดีเทลด้านหลังที่สวยงาม ก็ควรเลือกผมเปียที่ถักขึ้นไปเพื่อเผยให้เห็นดีเทลด้านหลัง เป็นต้น

ทรงผมเปีย

3. ผมต่อ เทคนิคสำหรับสาวผมสั้นอยากถักเปีย

หากคุณอยากมีผมเปียที่งดงาม แต่ผมดันสั้นถักยังไงก็คงไม่สวย ขอแนะนำให้เจ้าสาวใช้ผมต่อที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความยาวแล้ว ยังช่วยเพิ่มความหนาของเปียให้ดูสวยงามเพอร์เฟกต์อีกด้วย เพราะฉะนั้นเลือกทรงผมเปียที่ชอบแล้วนำไปปรึกษาช่างว่าความยาวขนาดไหนที่เจ้าสาวจะต้องต่อ แล้วอย่าลืมเลือกเฉดสีผมให้เหมือนหรือใกล้เคียงกับสีผมจริงของเจ้าสาวด้วยนะคะ

ทรงผมเปีย

4. ทำสีผมเพิ่มความเปล่งประกาย

ผมเปียที่สวยงามและหรูหราดูมีมิตินั้น ผมของเจ้าสาวจะต้องทำสีให้สว่างและทำไฮไลต์นิดๆ เพราะฉะนั้นลองปรึกษาช่างทำผมดูว่าสีไหนที่เหมาะกับคุณมากที่สุด และเจ้าสาวก็จะต้องมั่นใจในเฉดสีที่เลือกด้วย เพื่อที่จะได้ลุคที่ตรงใจและโดดเด่นที่สุดในวันสำคัญ

ทรงผมเปีย

ดูเรื่องราวความงามและสุขภาพเพิ่มเติม คลิกเลย!

ภาพ : marthastewartweddings.com, wantthatwedding.co.uk,
theweddingplaybook.com, pinterest, insideweddings.com,
bridalguide.com

5 ข้อง่ายๆ ก่อนฟันธงเลือก ชุดเพื่อนเจ้าสาว รับรองเป๊ะเวอร์

เมื่อเพื่อนสาวได้ฤกษ์สละโสดทั้งที มีหรือที่แก๊งเพื่อนเจ้าสาวจะไม่ตื่นเต้น และสิ่งแรกที่นึกถึงก็คือ ชุดเพื่อนเจ้าสาว บางกลุ่มถึงขั้นนัดคุยกันเป็นการเป็นงานยิ่งกว่าทำงานซะอีก แต่เดี๋ยวก่อน! โปรดอย่าลืมว่างานนี้คุณเป็นได้แค่แขกรับเชิญ และการเลือกชุดเพื่อนเจ้าสาวนั้นก็ต้องเลือกให้สอดคล้องไปกับธีมงานหรือแม้กระทั่งกับชุดเจ้าสาวด้วย เพราะฉะนั้นหากไม่อยากพลาด ก่อนตัดสินใจเคาะเลือกชุด แพรว wedding อยากให้สาวๆ มาเช็ก 5 ข้อต่อไปนี้กันก่อน รับรองว่าเป๊ะปังแบบไปถูกงานแน่นอน

1. แต่งตัวตามธีมงาน

สิ่งสำคัญอันดับแรกที่สาวๆ ต้องนึกถึงเพื่อช่วยสร้างให้ภาพรวมของงานออกมาในทางเดียวกัน แต่ก็สามารถที่จะสนุกไปกับการเลือกรูปแบบชุดที่ต้องการได้ เช่น หากธีมงานหรือชุดเจ้าสาวเป็นสไตล์โบฮีเมียน ชุดเพื่อนเจ้าสาวก็อาจจะเป็นลุคที่ดูสบายๆ ไม่เป็นทางการ อย่างชุดเดรสสั้นที่ยังคงความสวยหวานในสไตล์เพื่อนเจ้าสาว หรือหากเป็นธีมงานสุดหรูที่เจ้าสาวสวมชุดทรงบอลกาวน์สุดอลังที่ดูหรูหราราวกับเจ้าหญิง ก็ลองเลือกชุดเพื่อนเจ้าสาวให้มีความระยิบระยับหรือจะล้อไปกับธีมสีอัญมณีสุดล้ำค่าไปเลยก็ยังได้

2. หาบางอย่างที่ดูเข้ากัน

บางครั้งแก๊งเพื่อนเจ้าสาวก็ไม่จำเป็นต้องใส่ทุกอย่างให้ดูเหมือนกันทั้งหมดก็สามารถสวยเป๊ะเหมือนมางานเดียวกันได้ เพียงแค่เลือกรายละเอียดหรือองค์ประกอบบางอย่างที่เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน เช่น เนื้อผ้าที่เหมือนกัน ลูกไม้ที่เหมือนกัน หรือสีที่เหมือนกันก็ได้ แต่อย่าลืมว่า แตกต่างแต่ต้องไม่หลุดธีมนะจ๊ะ

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

3. หลีกเลี่ยงรูปแบบชุดที่เหมือนเจ้าสาว

หากคุณมีโอกาสได้เห็นชุดเจ้าสาว เราก็ขอให้คุณนำสิ่งนั้นมาพิจารณาในการเลือกชุดสำหรับแก๊งเพื่อนเจ้าสาวด้วย เช่น หากเจ้าสาวใส่กระโปรงฟูฟ่องหนา 8 ชั้น เพื่อนเจ้าสาวก็ควรเลี่ยงกระโปรงพองแบบสุ่ม แล้วหันมาใส่เป็น Slip dress เก๋ๆ แต่แฝงความเรียบหรูดูดีเอาไว้แบบเต็มขั้นแทน และที่สำคัญอย่าเลือกชุดให้อู้ฟู้จนกลบรัศมีนางเอกของงานอย่างเจ้าสาวนะคะ ไม่อย่างนั้นเพื่อนสาวต้องร้องไห้เสียใจแน่ๆ เลย

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

4. เพิ่มสีสันด้วยเพื่อนเจ้าบ่าว

การจับคู่ชุดของเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็สำคัญเหมือนกันนะจ๊ะ และจำเป็นต้องแต่งให้ไปในทางเดียวกันด้วย แขกจะได้ไม่งงว่าหลงมางานผิดหรือเปล่า เช่น หากชุดเพื่อนเจ้าสาวเป็นผ้าพลิ้วไหวสบายๆ ในโทนสีเรียบง่ายหรือพาสเทล และเป็นสไตล์ที่ไม่เป็นทางการมากนัก ชุดเพื่อนเจ้าบ่าวก็อาจจะเลือกให้เป็นเฉดสีที่อ่อนละมุนเข้ากันด้วย หรือหากเป็นงานแต่งสุดหรู แน่นอนว่า ชุดสูททักซิโด นั้นเหมาะที่สุดและเข้ากันได้ดีกับชุดราตรีของเพื่อนเจ้าสาวทุกชุดแน่นอน

5. ให้เจ้าสาวมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

และข้อสุดท้ายเราอยากให้สาวๆ ท่องจำให้ดี แน่นอนว่าในฐานะที่คุณเป็นเพื่อนเจ้าสาวการตัดสินใจส่วนใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับคุณ แต่อย่างน้อยก็ควรให้เจ้าสาวผู้ที่เป็นเจ้าของงานได้มีส่วนรับรู้หรือตัดสินใจอะไรบางอย่างสักนิด เช่น อาจให้เจ้าสาวเป็นคนกำหนดสี รูปแบบชุด หรือกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นดีเทลของชุดก็ได้ นางจะได้ไม่น้อยใจและรู้สึกเป็นส่วนเกิน

Read More : 5 ลุคชุดเพื่อนเจ้าสาวเก๋ๆ สวยยกแก๊งไม่มีขโมยซีนแน่นอน

ภาพ : mikkelpaige.com, pinterest.com

5 เทคนิคช่วยว่าที่เจ้าสาวเลือกชุดแต่งงานราคาประหยัดแต่ใส่แล้วดูแพง

แพรว wedding เชื่อว่ายังมีเจ้าสาวอีกหลายคนที่คิดว่า ชุดแต่งงานไม่ต้องแพงมากก็ได้ เพราะใส่แค่ไม่กี่ชั่วโมง จึงตั้งงบประมาณไว้ไม่มาก ประมาณว่าพอให้สมเหตุสมผลเพื่อจัดสรรเงินไปลงกับเรื่องอื่นๆ แทน ซึ่งความคิดนี้ไม่ผิดนะคะ แต่สิ่งที่คุณควรระวังคือ ต้องเลือกชุดอย่างมีสติและพิจารณาในรายละเอียดให้ดี เพราะถ้าพลาดไปเนี่ย ชุดแต่งงานราคาประหยัด ของคุณจะโชว์ความถูกให้ชาวบ้านเห็นแบบที่เรียกกว่า ลุคชีฟ ทันที ส่วนถ้าจะเลือกยังไงให้ดูดี เรามีเทคนิคมาให้ลองทำตาม

เลือกชุดขาวเหมือนเดิมแต่ไม่ต้องขาวโอโม่

อย่าลืมว่าสีขาวก็มีเฉดเหมือนกันนะคะ จะเป็นขาวเว่อร์วัง ขาวมุก หรือขาวงาช้าง เรียกว่าสารพัดขาวเลยค่ะ แต่การเลือกใส่สีขาวที่ขาวผ่องมากไปกับชุดราคาถูกนั้น เชื่อได้เลยว่าคุณจะไม่ได้รับชุดเจ้าสาวสีขาวจากเนื้อผ้าเกรดเออย่างแน่นอน ฉะนั้นสิ่งที่ควรทำคือเลี่ยงความเสี่ยงที่จะให้สีขาวแบบที่ดูไม่หรูมาทำลายลุคของคุณไงคะ

วัสดุตกแต่งไม่ต้องเยอะ

ที่เตือนว่าอย่าเลือกชุดที่ใช้วัสดุตกแต่งเยอะก็เพราะการเป็นชุดราคาถูกส่วนใหญ่ต้นทุนการผลิตไม่ได้มากนัก ฉะนั้นผู้ผลิตชุดมักจะไม่ลงทุนกับสิ่งที่จะนำมาตกแต่งเท่าไหร่นัก (แหม…จะขายของถูกก็ต้องคุมต้นทุนให้ต่ำไว้จริงไหมล่ะคะ) จึงไม่แปลกที่ชุดนี้ของคุณจะคาดหวังวัสดุที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพอย่างคริสตัลสวาลอฟสกี้ไม่ค่อยได้  ฉะนั้นการที่คุณประโคมใส่ลูกปัดปลอมๆ ลงไป จึงไม่เป็นการดีเท่าที่ควร เพราะมองด้วยตาก็รู้ทันทีว่าชีฟมากกกก

เนื้อผ้าเงาวับยิ่งทำให้ดูแย่

อย่างที่บอกว่าเนื้อผ้าช่วยทำให้ภาพรวมของชุดดูดีและดูดับได้พอๆ กัน การเลือกใช้เนื้อผ้าเงาวับไม่ได้หมายถึงคุณได้เลือกผ้าเนื้อพิเศษมาตัดเย็บชุดหรอกนะคะ เพราะของแบบนี้หลายคนดูออกว่าความเงาที่ว่านั้นเกิดจากเทคนิคพิเศษหรือการเคลือบด้วยสารเคมีเพื่อเลียนแบบของแพง แล้วแบบนี้คุณจะเสี่ยงเลือกเนื้อผ้าเงาวับให้มาขัดตาขัดใจไปทำไม

เลือกชุดไม่เซ็กซี่ อย่าโชว์เกิน

หัวข้อนี้เกี่ยวเนื่องไปในเรื่องของการตัดเย็บที่หลายคนอาจมองข้าม และคิดว่าไม่เห็นเป็นไรถ้าคิดจะเลือกชุดราคาถูกที่ให้อารมณ์เซ็กซี่ แต่คุณอย่าลืมนะคะว่า ชุดดีๆ คัตติ้งเนี้ยบๆ ให้ลุคเซ็กซี่แบบมีคลาสราคาไม่แพงหาได้ค่อนข้างยาก ส่วนใหญ่ชุดราคาถูกจะไม่ค่อยใส่ใจกับการตัดเย็บ แล้วคุณจะมั่นใจได้อย่างไรคะว่า ชุดเซ็กซี่ราคาถูกของคุณจะดูดีมีระดับอย่างที่หวัง ฉะนั้นละก็ อย่าเสี่ยงถ้าไม่มั่นใจนะคะ เพราะเกิดใส่ๆ ไปตะเข็บหลังหลุดเพราะเย็บไม่แน่นจบเลยนะคะ

เลือกกิมมิคแค่อย่างเดียว

ความไม่เยอะคือเรื่องที่ดีสำหรับชุดแต่งงานที่ราคาไม่ถูกนะคะ คุณจึงควรเน้นไปเลยว่าจะโชว์การจับจีบตรงช่วงเอวแบบสุดฝีมือช่าง หรือจะเอาลูกไม้ทำมือประดับที่ช่วงอก เพราะการใส่รายละเอียดที่มากเกินไปนอกจากจะทำให้ดูล้นๆ แล้ว เราอยากให้คุณย้อนกลับไปอ่าน 4 หัวข้อก่อนหน้าประกอบค่ะ คือถ้าเยอะแยะแล้วคัตติ้งไม่เนี้ยบ วัสดุไม่ดี สีขาวแบบไม่มีคลาสหรือใช้ผ้าเงาเกิน กิมมิคสารพัดที่ใส่จะดึงภาพชุดแต่งงานในฝันให้ดำดิ่งสุดชีพได้ทันทีไงละคะ

ดูไอเดียชุดแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

เบลล่า ราณี กับ เซตเครื่องประดับ เจ้าสาวสุดเพอร์เฟ็กต์ เป๊ะเข้ากับทุกชุดแต่งงาน

สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่ไม่อยากให้เนื้อตัวดูโล่งเกินไปในวันแต่งงาน แพรวเวดดิ้งขอแนะนำให้เลือก เซตเครื่องประดับ มาช่วยเสริมความงาม โดยเฉพาะเครื่องประดับแบบเข้าเซตทั้ง ต่างหู สร้อยคอ และแหวนเพชร ที่มีดีไซน์ที่เข้ากันและเข้ากับชุดแต่งงานและบุคลิกของเจ้าสาว อย่างเช่น เครื่องประดับเพชรจากร้าน Vijittra’s Jewellery ที่ เบลล่า ใส่ถ่ายแฟชั่นชุดแต่งงานสวยๆ ในนิตยสารแพรวเวดดิ้ง ฉบับเดือนตุลาคม 2562 นี้ ดูแล้วรับรองว่าเจ้าสาวจะได้แรงบันดาลใจดีๆ เพื่อนำไปเลือกเครื่องประดับให้เข้ากับชุดและตัวเองได้แน่นอน

ชุดแต่งงานแบบเกาะอก เป็นทรงเนคไลน์สุดคลาสสิคที่เจ้าสาวหลายคนนิยมสวมใส่ และเป็นทรงเนคไลน์ที่ช่วยดึงสายตาไปยังรอยยิ้มของเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นจึงควรแมตช์เนคไลน์สไตล์นี้กับสร้อยคอแบบสั้น หรือ ต่างหูแบบแชนเดอเลีย

สิ่งแรกที่เจ้าสาวควรจะต้องคำนึงถึงก่อนเลือกเครื่องประดับคือ อย่าใส่อะไรที่ใหญ่เกินความจำเป็น เพราะยิ่งเครื่องประดับชิ้นใหญ่เท่าไหร่ก็จะยิ่งขโมยความสวยจากลุคเจ้าสาวไปเท่านั้น ฉะนั้น “น้อยแต่มาก” คือดีที่สุด เพราะความสวยและมีเสน่ห์อยู่ที่รอยยิ้มสดใสเป็นธรรมชาติและมีความสุขของเจ้าสาวต่างหาก

เครื่องประดับที่เหมาะกับชุดแต่งงานสีขาวจะต้องออกแนวน่ารักๆ ให้เหมาะกับสีขาวของชุด อย่างเช่น เครื่องประดับเพชรแบบเข้าเซตดีไซน์เรียบง่ายที่ดูเข้ากัน

ดูแบบเครื่องประดับเพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

เครื่องประดับเพชรจาก Vijittra’s Jewellery
โทร. 06-1614-5096
ไลน์ : @Vijittra
ชั้น 3 เซ็นทรัล ลาดพร้าว โทร. 0-2103-4008
ชั้น 1 ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต โทร. 0-2958-0598
ชั้น 1 เจ.เจ.มอลล์ โทร. 0-2265-9618
ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางกะปิ โทร. 0-2363-3044
ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางแค โทร. 0-2454-9159
ชั้น 2 แฟชั่นไอส์แลนด์ โทร. 0-2116-4889เสื้

วงดนตรีในงานแต่ง อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่บ่าวสาวต้องให้ความสำคัญ

มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าดนตรีสำคัญกับงานแต่งงานอย่างไร เพื่อจะได้ตั้งหลักเลือก วงดนตรีในงานแต่ง อย่างถูกต้อง

  • ดนตรีในช่วงพิธีการ มักจะใช้เพลงบรรเลง หรือมีนักร้องเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกมากขึ้นในช่วงการเปิดตัวบ่าว – สาว ตัดเค้ก ดื่มอวยพร และโยนช่อดอกไม้
  • ดนตรีช่วงหลังพิธีการหรืออาฟเตอร์ปาร์ตี้ อาจใช้วงดนตรีแบบเต็มวงก็ได้ แต่ถ้าอยากแด๊นซ์แบบจัดหนักก็ต้องเป็นดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์สนุก ๆโดยมีดีเจเปิดแผ่น หรือคู่ไหนที่อยากชิลก็อาจเลือกวงอะคูสติกที่ฟังง่ายและสามารถโยกตามได้

แล้วจะเลือกวงดนตรีแบบไหนดี 

  • เครื่องดนตรี ให้บ่าวสาวลองนึกถึงเครื่องดนตรีหรือเสียงของเครื่องดนตรีที่ชอบ และควรเลือกให้เหมาะกับธีมงานจะดีที่สุด
  • สไตล์เพลง เลือกสไตล์เพลงที่ชอบและตกลงกันให้ดีว่าจะเลือกเพลงแนวไหนให้เข้ากับงานมากที่สุด จากนั้นลองลิสต์รายชิ่อเพลงที่ชอบหรือเพลงพิเศษที่อยากให้วงดนตรีเล่นเพื่อจะได้เลือกรูปแบบวงดนตรีได้ถูกต้อง

สิ่งที่ควรนำมาพิจารณาเพิ่มเติม ในการเลือกวงดนตรีหรือแนวเพลง

  • ความเป็นมืออาชีพ ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานทำให้วงดนตรีทราบถึงลำดับพิธีการ จึงสามารถเลือกเพลงที่เหมาะสมและเล่นได้หลากหลายแนว ที่สำคัญคือ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้และมีความรับ-ผิดชอบ
  • งบประมาณ เป็นสิ่งสำคัญที่บ่าว – สาวต้องคิดถึงเป็นอันดับแรก ๆ เพราะค่าใช้จ่ายมักจะขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของวงดนตรีที่เลือก
  • จำนวนแขก ถ้าแขกมีจำนวนไม่มากนักอาจเลือกวงดนตรีขนาดเล็กเพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย
  • ลักษณะแขกที่มาร่วมงาน เพื่อให้บ่าว – สาวเลือกแนวเพลงให้เหมาะสมเช่น ถ้าจัดงานในหมู่เพื่อนฝูงอาจเลือกเป็นเพลงแด๊นซ์เพื่อ ความสนุกสนาน แต่ถ้าเป็นแขกผู้ใหญ่ เพลงแจ๊ซหรือคลาสสิกอาจจะเวิร์คที่สุดเพื่อความสบายหู
  • สถานที่ การจัดงานแต่งงานในโรงแรมสุดหรูกับงานสไตล์เอ๊าต์ดอร์ วงดนตรีและแนวเพลงก็อาจจะต้องแตกต่างกันเพื่อ ให้เข้ากับสถานที่
  • ระบบเสียงของสถานที่จัดงาน ควรเช็คให้เรียบร้อยว่าต้องนำอุปกรณ์มาติดตั้งเพิ่มเติมหรือไม่
  • ขนาดของห้องจัดเลี้ยง หากห้องจัดเลี้ยงมีขนาดเล็ก แต่เลือกวงดนตรีวงใหญ่จัดเต็มมาเล่นในงาน ก็อาจจะกลายเป็นงานแสดงดนตรีไปได้

10  คำถามที่บ่าวสาวอย่าลืมถามวงดนตรี

1. สไตล์โดดเด่นของวงดนตรี และแนวเพลงที่ถนัด 

เพื่อให้เพลงและงานออกมาในทิศทางเดียวกัน

2. วงดนตรีสามารถเล่นเพลงที่บ่าว – สาวขอหรือเพลงป็อปทั่วไปได้หรือไม่? 

หากบ่าว – สาวมีเพลงประทับใจที่อยากให้วงดนตรีเล่นในวันสำคัญ ให้แจ้งกับวงล่วงหน้าเพื่อนักดนตรีจะได้ไปฝึกซ้อม ที่สำคัญถามด้วยว่าขอพิเศษแบบนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือไม่ นอกจากนี้หากทางวงสามารถเล่นเพลงป็อปทั่วไปได้ด้วยก็ถือว่าน่าสนใจ เผื่อมีแขกในงานรีเควสต์ก็จะช่วยสร้างอารมณ์ร่วมได้ดี

3. ตกลงเรื่องพื้นที่การแสดงของวงดนตรีและเช็กว่ามีเครื่องขยายเสียงมาด้วยหรือไม่?

ที่ตั้งของวงดนตรีภายในงานส่งผลต่อเรื่องของเสียงเพลงที่จะดังก้องไปทั่วงาน เพราะฉะนั้นต้องปรึกษากับวงดนตรีว่าพื้นที่ตรงไหนเหมาะสมที่สุด และอย่าลืม!! สอบถามเรื่องเครื่องขยายเสียงว่าทางวงจะเป็นคนเตรียมมาหรือจะยกหน้าที่นี้ให้คุณจัดการ

4. มีนักดนตรีทั้งหมดกี่คนและมีนักร้องหรือไม่?

เพื่อจะได้จัดสรรพื้นที่ในงานให้วงดนตรีได้ถูก หากมีนักร้องด้วยควรสอบถามเรื่องอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมเพิ่มเติมให้ชัดเจน เช่น ไมโครโฟนต้องใช้กี่ตัว ใครเป็นฝ่ายเตรียม

5.วงดนตรีต้องการแสงหรือสเปเชียลเอฟเฟ็กต์อื่น ๆ ขณะเล่นหรือไม่?

นอกจากเสียงเพลงที่จะสร้างสีสันในงานแต่งงานแล้วแสงสีและสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ เช่น ฟ็อกกี้ก็สามารถช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูโรแมนติกได้ไม่น้อย ถ้าจะมีต้องนัดแนะคิวให้ชัดเจน จะได้ไม่พลาดในนาทีสำคัญ

6.บุคคลที่จะมาเซตอัพอุปกรณ์ก่อนงานเริ่ม

ในวันงานควรมีคนในวงดนตรีมาเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนแขกจะมาถึง บ่าว – สาวจึงควรสอบถามชื่อและเบอร์ติดต่อไว้ เพื่อผู้ดูแลสถานที่จะได้ประสานงานได้สะดวก

7. ในแพ็คเกจสามารถเล่นได้กี่ชั่วโมง?

วงดนตรีบางวงอาจมีข้อจำกัดเรื่องเวลาการเล่น หรือใน 1 วันอาจรับงาน 2 – 3 คิว จึงควรตกลงเวลากันให้ดี นอกจากนี้ต้องสอบถามให้ชัดเจนว่าจะพักช่วงไหนและกี่นาที หรือหากงานล่าช้าเกินเวลาที่ตกลงไว้จะอยู่ต่อให้ได้หรือไม่และจะคิดค่าใช้จ่ายเท่าไร ขอแนะนำให้จัดอาหารให้นักดนตรีด้วยจะได้มีแรงเล่นจนจบงาน

8.นักดนตรีจะใส่ชุดอะไรมาร่วมงาน?

ถ้าหากคุณเชิญวงดนตรีระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แต่หากต้องการให้นักดนตรีแต่งกายเป็นพิเศษเพื่อให้เข้ากับธีมงานของคุณก็ต้องแจ้งล่วงหน้า เช่น ชุดทักซีโด หรือชุดตามธีมสี

9. ถ้าเกิดต้องเลื่อนหรือยกเลิกงานจะมีการดำเนินการอย่างไร?

หากเกิดเหตุขัดข้องต้องเปลี่ยนวันหรือขอยกเลิกการจ้าง ต้องจ่ายค่าเสียหายหรือไม่อย่างไร

10.ประสบการณ์การเล่นดนตรีในงานแต่งงาน

เพราะวงดนตรีที่มีประสบการณ์เล่นในงานแต่งจะมีความเชี่ยวชาญและมีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว จึงแนะนำให้บ่าว – สาวลองสืบดูจากการเขียนรีวิวในอินเทอร์เน็ต หรือสอบถามจากบ่าว – สาวที่เคยใช้บริการดูก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจ

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ pexels.com

ทำเถอะ! 5 เรื่องดีๆ ที่จะทำให้แหวนแต่งงานคงสภาพสวยปิ๊งตลอดกาล

ต่อให้ แหวนแต่งงาน ของคุณจะราคาไม่แรงแตะหลักล้าน แต่แพรว wedding เชื่อว่า คุณค่าของแหวนวงนี้มหาศาลกว่าแหวนวงไหน แล้วทำไมไม่ดูแลรักษาแหวนแต่งงานวงนี้ให้สวยปิ๊งเหมือนวันแรกที่ได้สวมละคะ อ่ะๆ ถ้าคุณบอกว่า ไม่รู้จะทำยังไง มาค่ะ อ่านตรงนี้แล้วทำซะ แล้วแหวนแต่งงานของคุณจะอยู่คู่กับคุณในสภาพเดิมที่ประกายเพชรไม่จางหายไปไหนอย่างแน่นอน

 

  • พยายามอย่าสัมผัสหัวแหวน

เราคงห้ามไม่ให้คุณลูบๆ คลำๆ แหวนวงงามที่เขาคนนั้นสวมให้คุณไม่ได้ ยิ่งช่วงที่เพิ่งได้สวมกันสดๆ ร้อยทั้งร้อยของสาวๆ เป็นห้ามใจไม่ได้ต้องทั้งลูบทั้งมองและแอบจุ๊บๆ หัวแหวนบ่อยๆ แต่ขอบอกว่า ทำให้น้อยลงสักนิดก็ดีนะคะ เพราะคราบสกปรกจากมือ รอยลิปมันลิปสติกบนริมฝีปากหรือแม้แต่ครีมทามือที่คุณทาไว้จะเปลี่ยนมาอยู่บนหัวแหวนแทนนะสิคะ ยิ่งถ้าคุณไม่ใช่คนที่ชอบทำความสะอาดแหวนตัวแล้วละก็ คราบสกปรกจะสะสมที่หัวแหวน บ่อยครั้งเข้าความหมองก็เกิดน่ะสิ

  • ระวังอย่าให้โดนสารเคมี

อย่าคิดไปไกลว่าเราจะหมายถึงคุณต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์เข้าห้องทำการทดลองถึงจะมีสารเคมีกระเด็นมาโดนหัวแหวน แต่ที่เราพูดถึงตอนนี้คือ พวกน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า น้ำยาถูพื้น ฯลฯ ที่คุณแม่บ้านคนเก่งอย่างคุณอาจเผลอเรอทำงานบ้านจนลืมถอดแหวนออกก่อน พอโดนสารเคมีเหล่านั้นไปที ทองที่ชุบบนตัวเรือนก็จะทำปฏิกริยากันทันที ผลก็คือ ตัวเรือนซีดบ้างล่ะ ลอกบ้างล่ะ ฉะนั้นระวังให้ดี ก่อนที่ต้องเสียเงินไปชุบใหม่นะคะ

  • ถอดแหวนทุกครั้งที่จะเล่นกีฬา

การเล่นกีฬาทั้งๆ ที่ยังสวมแหวนอยู่ โดยเฉพาะแหวนแต่งงานที่หัวแหวนชูออกมา เสี่ยงอันตรายสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นแหวนหลุดออกจากนิ้วโดยไม่รู้ตัว ตัวเรือนของแหวนกระทบหรือกระแทกกับอุปกรณ์กีฬาจนบิดผิดรูป รวมถึงหนามเตยไปเกี่ยวเอาเสื้อผ้าจนทำให้เพชรที่หัวแหวนหลุดออกไปโดยไม่รู้ตัว ล้วนก่อให้เกิดความเสียหายกับแหวนแต่งงานได้ทั้งนั้น

แหวนแต่งงาน

  • ทำความสะอาดแหวนซะบ้าง

ไม่ว่าคุณจะสวมแหวนวงนี้ติดตัวหรือนานๆ ใส่ที ก็ต้องมีช่วงเวลาของการนำแหวนออกมาทำความสะอาดนะคะ เพราะทั้งฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ตามจุดต่างๆ ในตัวเรือน หรือแอบซ่อนตามซอกเล็กซอกน้อยจะได้หลุดออกมา และทำให้แหวนแต่งงานของคุณส่องประกายสวยงามได้เสมอ ซึ่งการทำความสะอาดก็ไม่ยาก แค่น้ำอุณหภูมิปกติผสมน้ำยาล้างจานนิดหน่อย แล้วใช้แปรงขนอ่อนๆ เส้นเล็กๆ มาขัด จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด ใช้ผ้าซับให้แห้งก็เสร็จภารกิจคลีนนิ่งแหวนแต่งงานแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าไม่มีเวลาหรือกลัวทำผิด ก็ส่งร้านจิวเวลรี่ที่มีบริการทำความสะอาดแหวนก็ได้นะคะ

  • ส่งให้ช่างเช็คสภาพปีละหน

ข้อนี้หลายคู่มองข้าม เพราะคิดว่าแค่ใส่อยู่บนนิ้ว จะต้องมาเช็คสภาพอะไร บอกตรงนี้เลยนะคะว่า หนามเตยบนตัวเรือนชิ้นเล็กมาก ช่างผู้ชำนาญถึงต้องเอากล้องส่องขยายเวลาทำแหวนไงละคะ แล้วแบบนี้คุณจะรู้ได้ยังไงว่า หนามเตยที่มียังแข็งแรง เพชรทุกเม็ดยังฝังแน่น รวมถึงตัวเรือนยังแข็งแรงทั้งวงไหม แล้วแบบนี้ ทำไมไม่เอาแหวนไปให้ทางร้านเช็คสภาพบ้างล่ะคะ

ดูไอเดียแหวนแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรื่อง : Hoyamemoria
ภาพ : maxpixel

เคล็ดลับในการรีดชุดแต่งงานเองที่ทำได้ไม่เห็นยากอย่างที่คิด

เจ้าสาวคนสวยทุกคน คงไม่อยากให้ ชุดแต่งงาน สุดสวยของคุณดูยับและไม่พร้อมสำหรับวันงานสำคัญ หลายๆ คนคิดว่าการ รีดชุดแต่งงานเอง เป็นเรื่องลำบากและยุ่งยากและเสี่ยงจะทำชุดพังไปอีก ทีนี้ล่ะเรื่องใหญ่ของจริง แต่สำหรับว่าที่เจ้าสาวสายแม่บ้านแม่เรือนที่ทำงานอะไรแบบนี้อยู่เป็นประจำแล้ว เราว่าไม่ยากเกินความสามารถคุณแน่นอนค่ะ แค่ใช้อุปกรณ์และเทคนิคให้ถูกวิธี ดังนั้นวันนี้ แพรว wedding  จึงมีเคล็ดลับในการรีดชุดแต่งงานด้วยตัวเองมาฝากกันค่ะ

 

  • ไดร์เป่าผม

คุณสามารถใช้ไดร์เป่าผมช่วยทำให้ชุดเรียบได้ เหมาะสำหรับชุดที่มีเนื้อผ้าบางเบา เพียงคุณใช้ไดร์เป่าผมเปิดลมให้เบาสุด แล้วค่อยๆไล่เป่าไปตามเนื้อผ้า แต่ระวังอย่าเป่าใกล้ผ้ามากเกินไป เพราะอาจจะเกิดการผิดพลาดและทำลายเนื้อผ้าของคุณได้

  • เครื่องทำน้ำอุ่นช่วยคุณได้

หากชุดของคุณไม่ได้ยับมากจนเกินไป เพียงแขวนชุดไว้ในห้องน้ำ และเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นให้ร้อนสุดๆ ความร้อนจากไอน้ำในห้องน้ำจะช่วยทำให้ชุดของคุณเรียบขึ้นได้ แต่วิธีการนี้ไม่เหมาะกับชุดที่ซับซ้อนหลายชั้นหรือยับมาก เพราะอาจจะเรียบได้ไม่ทั่วถึงค่ะ

  • เครื่องรีดผ้าไอน้ำ

เครื่องรีดผ้าไอน้ำสามารถรีดเนื้อผ้าได้เกือบทุกชนิด อีกทั้งยังไม่ทำลายเนื้อผ้า เพียงคุณค่อยๆไล่หัวของเครื่องรีดผ้าไปตามชุดสวยของคุณ โดยเริ่มจากส่วนช่วงบนก่อน และถ้าส่วนกระโปรงมีหลายชั้น ให้เริ่มรีดจากด้านในออกมาด้านนอก และอย่าใช้อุณหภูมิที่แรงเกินไป

ข้อควรระวังในการรีดชุดแต่งงานด้วยตัวเอง คือต้องดูที่เนื้อผ้าของชุดแต่งงานของคุณ ว่าเป็นผ้าชนิดใด เพราะผ้าบางประเภท เช่น ผ้าไหม หรือผ้าลูกไม้นั้นต้องใช้ความระมัดระวังในการดูแลเป็นอย่างมาก ถ้าไม่มั่นใจว่าจะสามารถดูแลด้วยตัวเองได้ การปรึกษามืออาชีพ เช่น ร้านรับซักชุดแต่งงาน ก็เป็นการช่วยถนอมชุดแต่งงานสุดสวยของคุณให้สวยพร้อมในวันงานสำคัญได้เช่นกันค่ะ

ดูไอเดียและคำแนะนำเกี่ยวกับชุดแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย!

cr : marthastewartweddings.com

สตูดิโอถ่ายภาพ KIRIN snap X labs STUDIO 4 สไตล์ในที่เดียวพร้อมของตกแต่งจัดเต็ม

สำหรับว่าที่บ่าวสาวที่กำลังหาสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในรูปแบบ สตูดิโอถ่ายภาพ แพรวเวดดิ้งมีสถานที่ดีๆ มานำเสนอ ที่งานนี้ว่าที่บ่าวสาวแค่ขนชุดมาก็สามารถถ่ายภาพได้เลยกับที่ KIRIN snap X labs STUDIO ซึ่งมีทั้งหมด 4 สตูดิโอด้วยกัน แถมแต่ละสตูดิโอยังเน้นการได้รับแสงจากธรรมชาติทั้งหมด รับรองว่างานนี้ว่าที่บ่าวสาวได้ภาพสวยไปโชว์หน้างานแน่นอน

KIRIN snap X labs STUDIO มีสตูดิโอทั้งหมด 5 สตูดิโอคือ 
1. สตูใหญ่ newyorker, blue velvet
2. สตูใหญ่ rooftop
3. สตูเล็ก outdoor, craftman
4. สตูเล็ก stay pink
5. สตูเล็ก all white, urban green

– NEWYORKER, BLUE VELVET

 

 

จำลองบรรยากาศห้องสตูดิโอของอพาร์ทเมนท์ขนาดใหญ่สไตล์นิวยอร์ค มีเพดานเป็นฝ้าสูง และการจัดวางแบบ open plan โดยจะมีโซนที่นอน ห้องนั่งเล่นสีขาวล้วน และมีไฮไลท์อยู่ที่อ่างอาบน้ำ ซึ่งการตกแต่งจะมีการโชว์ผนังปูนเดิมผสมกับฉากไม้สีซีด และโครงบันไดเหล็กขึ้นไปชั้นลอย อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยลวดลายของพรมและวัสดุผ้าต่างๆ ให้บรรยากาศความเป็นปารีเซียงมากเวอร์

– OUTDOOR & CRAFTMAN

 

เป็นบรรยากาศแบบมุมห้องนั่งเล่น และห้องทำงาน ภายในห้องนี้จะเป็น Glass House ตกแต่งสไตล์โบฮีเมียน ผสมงานช่างได้ฟีลความอาร์ตสุดๆ พร้อมผนังสไตล์มินิมอล มีดีเทลของผนังที่สร้างความแปลกใหม่ด้วยกำแพงขาวและพื้นหินอ่อนลายก้างปลา

ROOFTOP CLASSY สตูดิโอใหญ่

เป็นพื้นที่โซน Rooftop โดดเด่นด้วยฝ้าจั่วสีขาวเกลี้ยง หลังคาสูง พร้อมมุมเปียโนและมุมนั่งเล่น ซึ่งห้องนี้มีไฮไลต์อยู่ที่แสงแดด โซนที่นอนจะได้รับแสงแดดนวลๆ ทั้งวัน และฝั่งเตาผิงจะได้รับแสงนวลในตอนเช้า และในช่วงบ่ายจะมีแสงแดดจัดพาดที่ผนังให้อารมณ์ที่แตกต่างออกไป

ALL WHITE/GREEN URBAN สตูดิโอเล็ก

– All White

เป็นห้องสีขาวล้วน ทั้งพื้น ผนัง และเพดานจะได้รับแสงธรรมชาติทั้งวัน เป็นแสงแบบนวลตาให้อารมณ์โรแมนติก

– Green Urban

ห้องที่ตกแต่งด้วยสีเขียวไข่กาทั้งห้อง ประกอบไปด้วยชุดเก้าอี้วินเทจหลายชุดที่ดูเข้ากัน ให้อารมณ์ทันสมัยดูเก๋ไก๋สุดๆ

STAY PINK สตูดิโอเล็ก

เป็นห้องที่จำลองให้เหมือนห้องพักสตูดิโอ ตกแต่งด้วยสีชมพูพาสเทล ภายในห้องมีทั้งมุมห้องนอน มุมโต๊ะแต่งหน้า มุมโต๊ะทานอาหาร และห้องทำงาน

สิ่งอำนวยความสะดวกที่ KIRIN snap X labs STUDIO

  • ห้องแต่งตัว ประกอบไปด้วย ชุดโต๊ะแต่งหน้า ห้องเปลี่ยนเสื้อ ห้องน้ำ ราวแขวนผ้า เตารีดไอน้ำ (กรุณาแจ้งล่วงหน้าหากต้องการใช้) และน้ำดื่มฟรี
  • ที่จอดรถ
  • Free Wifi

เงื่อนไขการเข้าใช้บริการสตูดิโอ KIRIN snap X labs STUDIO

  • หากมีการถ่ายวิดีโอ หรือใช้ไฟเพิ่มเกิน 1,000 วัตต์ กรุณาแจ้งล่วงหน้า อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • ทางสตูดิโอขอความร่วมมือในการไม่นำสัตว์เลี้ยง น้ำ เครื่องดื่ม เข้าไปในสตูดิโอ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
  • สามารถนำของว่างและเครื่องดื่มมาทานได้ที่บริเวณห้องแต่งตัว

เรทราคา

ว่าที่บ่าวสาวที่อยากได้ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งแบบธรรมชาติในบรรยากาศสวยๆ หลายสไตล์ ก็เตรียมหาชุดให้เข้ากับห้องสตูดิโอแบบต่างๆ แล้วจูงมือกันมาถ่ายภาพโลด

KIRIN snap X labs STUDIO
ไลน์ : @KIRINsnapxlabs

ไอจี : KIRINsnapxlabs
เฟซบุ๊ก : KIRINsnapxlabs
โทร. 089-497-8328

ขอขอบคุณภาพตัวอย่าง PRE-WEDDING จาก
– ร้านเช่าชุด STYLE STATEMENT (www.stylestatementofficial.com)

– ร้านแว่นตา GLAZZIQ (www.glazziq.com)
– ช่างภาพ SMALLMOONPHOTO (www.smallmoonphoto.com)
– ช่างภาพ FB PAGE : NoteWannasin โทร 080-551-0772
– ช่างภาพ FB PAGE : ¼ second โทร 085-999-5018

5 เรื่องต้องรู้ก่อนปรับขนาดแหวนให้พอดีนิ้ว

ว่าที่บ่าวสาวบางคู่รับมรดกแหวนแต่งงานจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้เกิดปัญหาเรื่องขนาดแหวนที่ไม่พอดีนิ้ว หรือบางคู่ที่แต่งงานไปแล้ว อยู่ๆ แหวนแต่งงานที่เคยใส่ได้แบบพอดิบพอดีกลับหลวมไปบ้างล่ะ คับไปบ้างล่ะ ทีนี้ก็เดือดร้อนต้องไป ปรับขนาดแหวน ให้กลับมาใส่ได้แบบพอดีนิ้ว แต่ก่อนที่จะปรับขนาด แพรว wedding อยากให้คุณรู้ 5 เรื่องต่อไปนี้ไว้ก่อน

 

 ปรับขนาดแหวน

  • ตัวเรือนแหวนแบบไหนปรับขนาดได้

            ตัวเรือนที่ทำจากเงิน ทองคำขาว ทองคำ ทองชมพูและแพลทตินัมสามารถปรับขนาดได้  แต่ถ้าเป็นตัวเรือนทังสเตนและไทเทเนี่ยม (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแหวนเจ้าบ่าว) ไม่สามารถขยายขนาดได้เพราะมีความแข็งและทนความร้อนได้สูง จึงยากที่จะทำการตัดเพื่อเพิ่มหรือลดขนาด

  • แหวนใหญ่ปรับเล็กได้ไม่ยาก

การปรับขนาดแหวนจากใหญ่มาเล็กจะทำได้ง่ายกว่าการปรับแหวนเล็กมาใหญ่ เพราะเป็นการตัดตัวเรือนออกแล้วเชื่อมติดกันอีกครั้ง โดยอาจเชื่อมด้วยน้ำประสานทองเป่าไฟหรือยิงเลเซอร์ก็เนียนสวยเหมือนกัน  แต่ชิ้นส่วนที่ตัดออกไปนั้น แม้จะไม่สามารถนำมาทำแหวนเพิ่มขนาดได้ แต่นำไปหล่อพระได้ค่ะ

  • แหวนเล็กทำให้ใหญ่ทำยากกว่าแต่ก็ทำได้

แน่นอนว่าเมื่อแหวนที่คุณใส่อยู่มีขนาดเล็กกว่านิ้วในขณะนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือขนายแหวนให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งไม่ใช่การนำแหวนมายืดให้ใหญ่ขึ้น เพราะแบบนั้นตัวเรือนจะบางลงจากเดิม เสี่ยงต่อการผิดรูปทรงและมีผลต่อการสวมใส่ที่หากโดนกระแทกก็มีแววตัวเรือนไม่เหมือนเดิมแต่เป็นการเติมวัสดุทำตัวเรือนเพิ่มเข้าไป เพื่อให้ได้ขนาดแหวนที่ใหญ่ขึ้นในความหนาและแข็งแรงเท่าเดิม

  • ใช้เวลาปรับขนาดนานไหม

ถ้าถามว่าต้องถึงขนาดว่าทิ้งแหวนไว้ข้ามวันเลยไหม บอกตรงนี้เลยว่าไม่ค่ะ ถ้าเลือกการปรับขนาดด้วยการยิงเลเซอร์นั่งรอไปสักชั่วโมงนึงก็ได้แหวนมาใส่แล้วค่ะ แต่ถ้าใช้การเลื่อยตัดตัวเรือนแบบวิธีดั้งเดิม

  • ราคาการปรับขนาดแหวนอยู่ที่เท่าไหร่

ราคาค่าแรงในการปรับขนาดแหวนจะเริ่มต้นที่ 200 บาท ซึ่งถ้าคุณลดขนาดแหวนเพียงอย่างเดียวก็จบแค่ค่าแรงค่ะ แต่ถ้าขยายขนาดละก็ต้องเพิ่มราคาวัสดุตัวเรือนเข้าไป ซึ่งในที่นี่ คุณแพท จากร้าน Vijittra’s Jewellery ให้ความรู้กับแพรว wedding ว่า ราคาจะปรับขึ้นตามขนาดแหวน โดยเริ่มต้นที่ 150 บาทต่อไซส์ค่ะ

ดูไอเดียแหวนแต่งงานและเครื่องประดับ พร้อมคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติม คลิกเลย!

เรื่อง : hoyamemoria
ภาพ : bullmastif.info

กำลังเป็นอยู่หรือไม่นะ! กับ Bridechilla อาการเจ้าสาวสุดชิลที่ต้องระวัง

บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินว่าเจ้าสาวคนนั้นคนนี้เครียดเรื่องเตรียมงานแต่งจนออกอาการ Bridezilla แต่วันนี้เราขอนำเสนอเจ้าสาวพันธุ์ใหม่ Bridechilla เรียกได้ว่าแทบจะเป็นขั้วตรงข้ามกันเลยทีเดียว เธอจะเป็นยังไง เราจะพาไปรู้จักกันค่ะ

“Bridechilla” เป็นคำที่ใช้เรียกเจ้าสาวที่ “ใจเย็นมาก” “ผ่อนคลายมาก” และที่สำคัญคือ “ชิลมาก!” แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่อยากให้วันสำคัญออกมาไม่ดีนะคะ จริงๆ แล้วเธอก็เหมือนเจ้าสาวทั่วไปที่อยากมีความสุขที่สุดในวันวิวาห์ แต่ทว่าความชิลล์ของเธอนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุทำให้คนรอบข้างต้องปวดหัวไปตามๆ กัน!

Bridechilla นั้นเหมือนจะเป็นเจ้าสาวที่แสนดี ไม่ขี้โวยวาย ไม่จู้จี้จุกจิก แต่ความจริงคือเธอจะลังเล ตัดสินใจไม่เด็ดขาด และไม่กล้าออกความเห็น จนกลายเป็นว่ายอมทำอะไรตามใจคนรอบข้างเสมอ อย่างเช่น ถ้าเพื่อนเจ้าสาวถามว่า “เธอจะใส่รองเท้าสีขาว สีทอง หรือสีนู้ด?” เธอจะตอบว่า “เธอคิดว่าคู่ไหนสวยล่ะ เอาคู่นั้นก็ได้จ้ะ” และมักจะได้คำตอบคล้ายๆ กันนี้กับทุกคำถาม ซึ่งทำให้เพื่อนเจ้าสาวหรือคนรอบข้างที่อาสามาช่วยงานออกอาการสับสน งงงวย อาจถึงขั้นรำคาญว่า “เอ๊ะ เธอจะเอายังไงกันแน่ นี่งานแต่งเธอนะจ๊ะ ตัดสินใจเองหน่อยไหมล่ะ แม่คุณ!” ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ เข้า กว่าจะถึงวันงานคงต้องถอนหายใจกันเป็นล้านรอบ เหนื่อยตายพอดี!

เอาล่ะค่ะ เจ้าสาวคนไหนที่เริ่มรู้ตัวว่ามีอาการตามที่ว่านี้ พึงระลึกไว้ได้เลยว่าคุณกำลังจะกลายเป็น Bridechilla ที่สร้างภาระให้กับใครหลายคน ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องเริ่มคิดและตัดสินใจอะไรเองบ้าง แสดงความคิดเห็นในสิ่งที่คุณต้องการ บอกออกไปว่าสิ่งไหนที่คุณชอบและสิ่งไหนที่ไม่ชอบ คิดไว้เสมอว่าการเสนอความคิดของคุณนั้นไม่ได้ทำให้คุณกลายเป็น Bridezilla แต่มันคือการแชร์ไอเดียสำหรับวันสำคัญที่จะสะท้อนความเป็นตัวตนของคุณและคนรัก จงเปิดใจพูดกับคนรอบข้างว่าอะไรคือสิ่งที่คุณอยากให้มีในวันสมรสของคุณ พร้อมกับรับฟังความคิดเห็นจากพวกเขา แต่สุดท้ายแล้ว ก็มีเพียงคุณเท่านั้นที่เป็นคนตัดสินใจ

การเป็น Bridechilla นั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ควรเป็นให้พอดี อย่าได้ชิลล์เกินไปจนทำให้คนรอบข้างหนักใจ และอย่ากลัวที่จะบอกให้ชัดเจนว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการ เพราะวันนั้นคือวันสำคัญสำหรับชีวิตคุณ ลุยให้เต็มที่ แต่อย่าให้ถึงกับกลายร่างเป็น Bridezilla แล้วกัน

อ่านคำแนะนำและไอเดียดีๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรียบเรียง : www.love.ly
ภาพ : www.jetmag.com, www.live.huffingpost.com, www.flickr.com

เทคนิคการจัดผังที่นั่งงานแต่งงานฉบับพร้อมใช้แบบแฮปปี้ทั้งงาน

ขึ้นชื่อว่างานแต่งงานย่อมเต็มไปด้วยรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ น้อยๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการจัดงาน อย่างเช่นเรื่อง จัดผังที่นั่งงานแต่งงาน สำหรับแขกที่มาร่วมงาน หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องหยุมหยิม เพราะคิดว่าเมื่อแขกเข้ามาก็คงหาที่นั่งกันได้เอง นั่นอาจไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องเสียทั้งหมด เพราะถ้าขาดระบบการจัดการที่ดีก็อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น วันนี้ แพรว wedding จึงรวบรวมเทคนิคดีๆในการจัดที่นั่งสำหรับแขกที่มาร่วมงานแต่งให้ไม่เกิดปัญหามาฝากกันค่ะ ใครสนใจก็นำไปใช้กันได้เล้ยยย 😉

  • เริ่มต้นวางแผนอย่างรวดเร็ว

การวางแผนเรื่องที่นั่งสำหรับแขกไม่ใช่สิ่งที่ควรวางแผนในช่วงนาทีสุดท้าย การวางแผนเรื่องที่นั่งสำหรับแขกควรเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่ได้รับการตอบรับการมาร่วมงานจากแขกที่เชิญ คู่บ่าวสาวควรเริ่มต้นคุยกันและปรึกษากับผู้ช่วยคนอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมในเรื่องการวางแผนงานแต่งงานให้ช่วยจัดการในเรื่องนี้ได้ การเริ่มต้นวางแผนเร็วจะช่วยลดความเครียดในการจัดที่นั่งสำหรับแขกที่มาร่วมงานให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย

  • แบ่งแขกฝั่งเจ้าบ่าวแล้วเจ้าสาว

การแบ่งแยกที่นั่งสำหรับแขกของฝั่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะช่วยทำให้การจัดที่นั่งสำหรับแขกง่ายขึ้นแล้วหลังจากนั้นค่อยมาตัดสินใจทีหลังว่าที่นั่งตรงไหนจะเป็นที่นั่งสำหรับครอบครัวและเพื่อนของเจ้าบ่าวเจ้าสาว

  • ขอความช่วยเหลือบ้างก็ได้

คู่แต่งงานไม่ควรลังเลในการถามถึงความช่วยเหลือจากครอบครัวสำหรับแนวทางในการจัดที่นั่งสำหรับแขก เพื่อที่จะได้รู้ว่าที่นั่งตรงไหนเหมาะกับแขกคนไหนไม่ว่าจะเป็นญาติสนิทหรือญาติห่างๆ หรือที่นั่งตรงไหนเหมาะสำหรับญาติผู้สูงอายุที่ควรจะนั่ง เป็นต้น

  • กำหนดโต๊ะไม่ใช่ที่นั่ง

เจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ควรเพิ่มงานให้ตัวเองด้วยการจัดเตรียมเก้าอี้นั่งสำหรับแขกในทุกๆ โต๊ะ ควรจะจัดเตรียมเลขที่นั่งโต๊ะสำหรับแขกที่มาร่วมในงานเท่านั้นแล้วให้แขกเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะเลือกนั่งที่เก้าอี้ตัวไหนใกล้กับใคร

  • จัดกลุ่มแขกตามความสัมพันธ์

การจัดกลุ่มแขกโดยยึดหลักความสัมพันธ์ อย่างเช่นการจัดที่นั่งสำหรับเพื่อนร่วมงานโต๊ะหนึ่ง เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยโต๊ะหนึ่ง คุณลุงคุณป้านั่งด้วยกันโต๊ะหนึ่ง ในขณะที่ลูกพี่ลูกน้องสามารถนั่งร่วมกันได้อีกโต๊ะหนึ่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การจัดที่นั่งสำหรับแขกโดยปราศจากคิดมากเกินไป

  • จัดที่นั่งสำหรับกลุ่มคนอายุน้อยไว้ใกล้พื้นที่เต้น

ควรจัดกลุ่มคนที่มีอายุน้อยอย่างกลุ่มเพื่อนหรือบรรดาลูกพี่ลูกน้อง ให้นั่งใกล้พื้นที่เต้นซึ่งพวกเขาจะได้ใช้เวลามากกว่าแขกสูงอายุ และไม่ควรจัดที่นั่งให้คุณปู่คุณย่า คุณลุงคุณป้าหรือกลุ่มแขกสูงอายุนั่งใกล้สิ่งบันเทิงต่างๆ มากจนเกินไป เพราะแขกผู้สูงอายุเหล่านี้มักใช้เวลาส่วนใหญ่ในงานอยู่ที่โต๊ะของตัวเองและไม่ต้องการจะมาตะโกนคุยกันเหนือเสียงเพลงเพื่อคุยกับแขกคนอื่นที่นั่งใกล้เคียง

  • อย่าจัดที่นั่งให้แขกที่ไม่ถูกกันนั่งใกล้กัน

การจัดที่นั่งให้แขกที่ไม่ถูกกันนั่งใกล้กันเพราะอาจจะกลายเป็นเรื่องที่สร้างความเจ็บปวดได้ ดังนั้นควรจัดให้เพื่อนหรือญาติที่อาจไม่ถูกกันให้นั่งแยกห่างออกจากกันไปเพื่อให้งานแต่งงานผ่านไปอย่างราบรื่นและหวังว่าพวกเพื่อนหรือญาติที่ไม่ถูกกันเหล่านี้จะประพฤติตัวให้งานแต่งงานผ่านไปโดยปราศจากการสร้างปัญหา

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

cr : popsugar.com.au, shefinds.com

ผมเจ้าสาว ใครว่าต้องสีธรรมชาติเสมอไป? มาดูกันว่าถ้าอยากเป็นเจ้าสาวผมสีแซ่บต้องทำยังไง?

เจ้าสาวสีผมสุดแซ่บมีกรี้ด เพราะไม่ต้องย้อม ผมเจ้าสาว เป็นสีธรรมชาติ เราก็มีเคล็ดลับให้ลุคและงานแต่งของคุณออกมาดูสวยชิคอินเทรนด์ ต้องทำยังไงบ้าง มาอ่านกันค่ะ

เดี๋ยวนี้เทรนด์สีผมสุดแซ่บกำลังอิน หันไปทางไหนก็มีแต่สาวๆ ทำสีผมจี๊ดๆ กันทั้งนั้น แต่พอพูดถึงว่ากำลังจะแต่งงาน ว่าที่เจ้าสาวหลายคนต้องจำใจย้อมผมกลับเป็นสีธรรมชาติโดยอัตโนมัติ แล้วเราจะเป็นเจ้าสาวที่แหกกฏ มีสีผมสุดจี๊ดกับเค้าบ้างไม่ได้เหรอ? ได้สิคะ! ถ้าผู้ใหญ่ไฟเขียว ว่าที่สามีไฟเขียว ไหนๆวันแต่งงานก็เป็นวันของเราทั้งที เราอยากให้ว่าที่เจ้าสาวมั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็นค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าถ้าคิดจะเป็นเจ้าสาวในสีผมสุดแซ่บ ต้องแมทช์ยังไงให้งานออกมาดูเก๋เว่อร์จนเพื่อนๆ อิจฉา

ชุดไทยเก็บไว้ก่อน งานนี้ต้องกับชุดเจ้าสาวแบบสากลเท่านั้น

เพราะสีผมแปลกตายังไงก็แมทช์กับชุดไทยไม่รอดแน่ๆ แถมงานพิธีไทยที่เน้นผู้ใหญ่ยังดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรนะเราว่า ถ้างานพิธีไทย และงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของคุณเจ้าสาวดันเป็นวันเดียวกัน สามารถใช้สเปรย์ย้อมผมแบบชั่วคราว (บอกช่างทำผมของคุณได้ค่ะ) ย้อมให้เป็นสีที่เรียบร้อยก่อนสำหรับช่วงพิธีเช้า แล้วค่อยล้างออก เผยสีผมสุดแซ่บของเราในงานเลี้ยงฉลองเย็นค่ะ

ผมเจ้าสาว
Photo: greenweddingshoes.com

ใช้สีผมให้กลายเป็นสีธีมงานซะเลย!

เอ้า! ไหนๆก็ทำสีผมมาซะสวย ใช้สีผมเป็นสีธีมงานแต่งซะเลยค่ะ (อันนี้ว่าที่เจ้าสาวอาจจะต้องวางแผนล่วงหน้านิดนึง ตั้งแต่การ์ด สีดอกไม้ ไปจนถึงสีเสื้อผ้าเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว) ดูอย่างงานในภาพเป็นตัวอย่างได้ค่ะ เราอาจจะใช้สีธีมงานที่เป็นไปในทางเดียวกันกับสีผมของเราเพื่อให้งานออกมาดูกลมกลืนสวยงาม หรือใช้คู่สีตัดกันเพื่อยิ่งดึงให้สีผมเราดูโดดเด่นขึ้นไปอีกก็ได้ (เช่น สีผมสีส้ม ตัดกับธีมงานสีน้ำเงินหรือฟ้า)

ผมเจ้าสาว
photo: greenweddingshoes.com

จับคู่กับชุดเจ้าสาวสไตล์เรียบเท่ ดีเทลน้อยๆ ลูกไม้ไม่เยอะ

เพราะเมื่อสีผมของเราโดดเด่นแล้ว เราไม่ควรเอาดีเทลชุดเจ้าสาวที่เยอะอลังการมาแย่งความเด่นของสีผมและยังเป็นการช่วยเบรคให้ลุครวมๆดูแล้วกำลังพอดีไม่เว่อร์วังเกินไปค่ะ ไหนๆสีผมก็อินเทรนด์แล้ว ลองชุดเจ้าสาวแบบฉีกกฏ เช่น ชุดเจ้าสาวแบบกางเกง หรือ ชุดเจ้าสาวแบบกระโปรงสั้น ดูสิคะ รับรองว่าคุณจะกลายเป็นเจ้าสาวสุดเปรี้ยวแห่งยุคที่เป็น talk of the town เลยละ

ผมเจ้าสาว
Photo: IG @bec_essery_photographer

ใช้ดอกไม้สดประดับผมให้เป็นประโยชน์

ที่เราแนะนำให้ใช้ดอกไม้สดประดับผมมากกว่าเทียร่าหรือเครื่องประดับผมชนิดประดิษฐ์แบบอื่นๆ เพราะดอกไม้สดจะช่วยเบรคความแรงของสีผมคุณให้ดูละมุนขึ้นได้ ในขณะที่เทียร่าหรือเครื่องประดับผมชนิดประดิษฐ์จะทำให้ลุคผมของคุณดูแข็งและดูเยอะเกินงาม แถมดอกไม้สดในคู่สีที่ช่วยส่งให้สีผมของเราดูโดดเด่นจะยิ่งทำให้ลุคโดยรวมของเราดูเก๋มีสไตล์ประดุจเจ้าสาวจาก Pinterest เลยทีเดียวค่ะ

ผมเจ้าสาว
photo: Instagram @confettimagazine, @stvandcompany

ว่าที่เจ้าสาวคนไหนอยากทำผมสีเปรี้ยวๆ แล้วยกมือค่ะ! ใครที่ตัดสินใจจะเป็นเจ้าสาวผมสีแซ่บในวันแต่งงานของคุณ ก็อย่าลืมส่งรูปสวยๆมาให้เราดูให้ชื่นใจกันบ้างนะคะ

credit story: buzzfeed.com

เทรนด์ชุดแต่งงานปี 2020 จัดเต็มพร้อมให้เจ้าสาวสวยเด่นก่อนใคร

ก่อนหน้านี้แฟชั่นโชว์ชุดแต่งงานจากรันเวย์ต่างๆ ได้ปล่อยคอลเล็กชั่นใหม่ออกมาแบบจัดเต็มทำเอาว่าที่เจ้าสาวตาลุกวาวเพราะมีลูกเล่นใหม่ๆ บนชุดแต่งงานมาอัพเดทเป็นไอเดียเพิ่มเติมอยู่เสมอ และแน่นอนว่าช่วงปลายปีแบบนี้เจ้าสาวสายแฟชั่นทั้งหลายต่างก็รอคอยเทรน์ชุดแต่งงานในปีหน้าว่าจะมีอะไรใหม่ๆ มาให้อัพเดทอีก และนี่คือ เทรนด์ชุดแต่งงานปี 2020 ที่จะช่วยให้เจ้าสาวที่มีแพลนแต่งปีหน้าสวยเด่นอัพเดทก่อนใครไปเลย

ก่อนหน้านี้ลูกเล่นบนชุดแต่งงานมีทั้งโบ, ชุดแต่งงานเฉดสีต่างๆ, ชุดแต่งงานแบบกางเกง และชุดแต่งงานประดับดอกไม้ ซึ่งเทรนด์เหล่านี้ก็จะยังไม่ได้หายไปไหนเรายังจะได้เห็นอีกในปี 2020 แต่ที่จะมีเพิ่มเติมมาเขย่าหัวใจเจ้าสาวในปีหน้านั้นบอกเลยว่าสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นกิมมิกอย่าง ขนนก, กระเป๋า และผีเสื้อ!

เอาเป็นว่าก่อนที่เจ้าสาวจะเข้าร้านไปเลือกชุดแต่งงาน แพรวเวดดิ้งอยากให้ลองมาอัพเดท 9 เทรนด์ชุดแต่งงานปี 2020 นี้ดูก่อน

ชุดแต่งงานแบบเปลือยหลัง

ว่าที่เจ้าสาวที่ไม่มั่นใจหากจะต้องโชว์ความเซ็กซี่ผ่านชุดแต่งงานสไตล์คอวีเว้าลึก ในปี 2020 นี้เขาเลยมีเทรนด์ชุดแต่งงานแบบเปลือยหลังมาให้แล้วจ้า แถมเป็นเปลือยหลังแบบวีเนคไปอีก เรียกได้ว่าเจ้าสาวขี้อายไม่มั่นใจก็สามารถเผยความเซ็กซี่ผ่านชุดแต่งงานสไตล์นี้ได้ แถมยังเป็นดีไซน์ที่ดูแล้วเก๋ไก๋แฝงความโรแมนติกอยู่ไม่น้อยอีกด้วย

ชุดแต่งงานแบบผ่าหน้า

ที่ผ่านมาเราอาจได้เห็นชุดแต่งงานแบบผ่าหน้ากันมาแล้ว และในปีหน้าเราก็จะได้เห็นชุดแต่งงานสไตล์นี้อีก แต่จะมีความเซ็กซี่มากกว่าเดิม เพราะชุดแต่งงานแบบผ่าหน้าในปี 2020 จะเซ็กซี่ขั้นสุดกันไปเลย เพราะจะโชว์เรียวขาในระดับที่สูงกว่ากระโปรงแบบมินิสเกิร์ต! ผ่านรูปแบบชุดแต่งงานที่มีความยาวในระดับ floor-length (ยาวระพื้น)

ชุดแต่งงานแบบคอร์เซต

เทรนด์ความเซ็กซี่ยังคงมาอย่างต่อเนื่อง กับชุดแต่งงานแบบคอร์เซตที่ช่วงบนมีดีไซน์คล้ายกับชุดชั้นสตรี บอกเลยว่าลุคนี้ถึงจะดูแล้วมีความเซ็กซี่มากโข แต่ถ้าแมตช์ช่วงบนสไตล์นี้เข้ากับกระโปรงทรงบอกกาวน์ที่มีความหวานแหววแล้วล่ะก็ ว่าที่เจ้าสาวขี้อายทั้งหลายก็ใส่ชุดแต่งงานสไตล์นี้ได้แบบสบายๆ ไปเลย

ผีเสื้อบนชุดแต่งงาน

ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดแน่นอน ปีที่แล้วเราได้เห็นดอกไม้บนชุดแต่งงานมาแล้ว แต่ในปี 2020 เราจะได้เห็นผีเสื้อบนชุดแต่งงานกันไปเลย ซึ่งกิมมิกนี้จะพาเจ้าสาวย้อนกลับไปสู่เทรนด์แฟชั่นในยุค 90s ซึ่งเป็นแฟชั่นสไตล์เรเนซองส์ที่มีความโรแมนติกมาก

ชุดแต่งงานแบบมีกระเป๋า

ในปี 2020 เจ้าสาวจะหมดปัญหาคอยเรียกเพื่อนมาเติมลิปสติกกันแล้ว เพราะเทรนด์ชุดแต่งงานปีหน้าจะมีกระเป๋าซ่อนอยู่บนชุดแต่งงานด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสไตล์ชุดแต่งงานที่มีทั้งความสวยงามและมีประโยชน์ด้วยในตัวเดียว แถมเจ้าสาวยังโพสท่าล้วงกระเป๋าเท่ๆ ได้ด้วยน้า

ชุดแต่งงานแบบเปิดไหล่ดีไซน์แขนพองฟู

ชุดแต่งงานแบบเปิดไหล่เป็นสไตล์ชุดแต่งงานสุดคลาสสิคที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอ และในทุกซีซั่นเหล่าดีไซเนอร์ก็มักจะเพิ่มความเก๋ให้กับชุดแต่งงานสไตล์นี้เช่นกัน เช่นเดียวกับในปี 2020 ที่ดีไซเนอร์แบรนด์ต่างๆ ได้ขนไอเดียมาเพิ่มเพื่อเป็นกิมมิกให้กับชุดแต่งงานแบบเปิดไหล่ให้เจ้าสาวต้องร้องว้าว โดยได้หยิบเอาเทรนด์ในยุค 80s กับดีไซน์แขนพองฟูมาแมตช์กับชุดแต่งงานแบบเปิดไหล่ที่ได้ลุคน่ารักสุดๆ ไปเลย

เข็มขัด

แอสเซสซอรี่ที่พักหลังๆ เราเริ่มเห็นบนรันเวย์เจ้าสาวมากขึ้น เป็นไอเท็มที่จะช่วยเสริมช่วงเอวของเจ้าสาวให้ดูโดดเด่นมากเป็นพิเศษ

กระโปรงประดับขนนก

ขนนกเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่ไม่เคยหายไปบนชุดแต่งงาน แต่ในปีหน้าขนนกจะถูกนำไปประดับอยู่บนกระโปรงหรือช่วงปลายกระโปรงมากกว่าที่จะประดับอยู่ทั้งชุด

ชุดแต่งงานสีบลัช

ชุดแต่งงานสีบลัชอาจจะดูไม่ได้เป็นเทรนด์ใหม่มากเท่าไหร่ เพราะเฉดสีนี้ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชุดแต่งงานที่เจ้าสาวหลายคนให้ความนิยมไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเหล่าดีไซเนอร์ก็ยังพยายามทำให้ชุดแต่งงานสไตล์นี้ดูมีความสวยงามมากกว่าเดิมในทุกๆ ปี เพื่อเป็นทางเลือกให้กับเจ้าสาวที่ไม่อยากใส่ชุดแต่งงานสีขาวแบบเดิมๆ ซึ่งลูกเล่นที่เราจะได้เห็นและน่าใส่ตามก็มีทั้ง กระโปรงแบบรัฟเฟิล หรือผ้าทูลล์ไล่เฉดสีแบบออมเบร เป็นต้น

ต่างหูดอกไม้โอเวอร์ไซส์

ก่อนหน้านี้ดอกไม้เคยอยู่บนชุดแต่งงาน แต่ในปีหน้าดอกไม้จะกลายมาเป็นแอสเซสซอรี่สำหรับเจ้าสาวจ้า กับแฟชั่นต่างหูดอกไม้แบบโอเวอร์ไซส์ ที่ให้ลุคเจ้าสาวดูทันสมัยขึ้น จะใส่ข้างเดียวหรือจัดเต็มทั้งสองข้างก็ขึ้นอยู่กับความมั่นใจและสไตล์ชุดแต่งงานที่เจ้าสาวเลือกเลย

CR. brides.com