ตราประทับครั่ง เป็นตราประทับปิดผนึกซองจดหมายที่เรามักเห็นกันในหนังยุควิคตอเรีย เห็นทีไรก็รู้สึกได้ถึงความหรูหราผู้ดี๊ ผู้ดี แต่สำหรับในงานแต่ง ครั่งเป็นอะไรได้มากกว่าตราผนึกซองจดหมายอีกนะ เราจึงได้รวมไอเดียใช้งานครั่งสวยๆ มาให้แล้ว
ในปัจจุบันมีหลายร้านที่รับออกแบบ และทำตัวประทับตามสั่ง พร้อมทั้งขายแท่งครั่งหลากสีให้บ่าวสาวเลือกแมทช์กับสีของงานได้เลย
ครั้งหน้ามีไอเดียเก๋ๆ อะไร เราจะรีบเอามาฝากเลย แต่ตอนนี้ใครที่ยังอยากได้ไอเดียสวยๆ สำหรับใช้ในงานแต่งละก็ คลิกได้เลย
จัดงานแต่งงาน 1 ครั้ง เสียเงินไม่ใช่น้อย หลายๆ คู่ก็อยากจะเซฟค่าใช้จ่ายด้วยการนับจำนวน แขกงานแต่ง ให้เป๊ะ เพื่อคำนวณทั้งอาหารและของชำร่วย งานนี้จึงต้องพึ่ง RSVP (เป็นคำย่อมาจากภาษาฝรั่งเศสที่ว่า Répondez s’il vous plaît) หรือ จดหมายยืนยัน การเข้าร่วมงาน แพรว wedding มีวิธีดีๆ ที่จะทำให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้คำตอบทันเพื่อไปใช้ในการกำหนดค่าใช้จ่ายแน่นอน
ในจดหมายเชิญก็พ่วงด้วยอีเมล์หรือเบอร์โทรศัพท์ของผู้ที่มีหน้าที่ดูแลแขกหรือนับจำนวนไปเลย และแอบทิ้งท้ายในการ์ดด้วยประโยคที่สื่อไปในแนวว่า “ยืนยันการเข้าร่วมกับเบอร์ หรือ อีเมล์นี้นะ” ทางทีดีให้แค่เบอร์และอีเมล์เดียวเท่านั้นจะไม่เกิดการยืนยันซ้ำ หรือนับจำนวนแขกตกหล่น
วางแผนระยะเวลาให้ดี กะเวลาคร่าวๆ อย่าง ส่งบัตรเชิญสัก 8-6 อาทิตย์ก่อนจัดงานแต่ง และให้เดดไลน์ ตอบรับเข้าร่วมงานภายใน 4-3 อาทิตย์ แค่นี้ก็ทำให้จัดการอะไรได้ง่ายขึ้นแล้ว
ถ้าจะใช้คำอย่าง RSVP บางคนก็ไม่เข้าใจ แล้วพลาดการตอบกลับ เพราะงั้นใช้คำที่เข้าใจง่ายๆ เถอะนะคะ อย่างพวก “ยืนยันการเข้าร่วมงาน” คือไม่ต้องเป็นคำที่เก๋ไก๋ล้ำยุค แต่เข้าใจชัดทั่วกัน
แทนที่จะเชิญด้วยถ้อยคำทางก๊ารทางการ ลองเปลี่ยนเป็นคำทีเล่นทีจริงว่าแบบ ขอเชิญมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำ หรืออาจจะเป็นการถามเพลงที่อยากฟัง อยากแดนซ์ในงานก็ได้
ช่วงระหว่างที่ให้ผู้มางานตัดสินใจมาจะมาดีไหมน้า ก็หมั่นติดต่อไปเรื่อยๆ เตือนกันนิดๆ อย่าง “ยังไม่ลืมงานแต่งของเรานะ” “วันงานแต่งยังว่างอยู่ใช่ไหม” แต่อย่าไปถามแกมบังคับหรือบ่อยจนเขาอึดอัดใจ เอาแค่กำลังดี แขกจะได้รู้ว่า เราอยากให้เธอมางานจริงๆ นะ
อย่าทิ้งเวลาให้คนยืนยันเข้าร่วมนานเกินไป หรือทิ้งห่างจากงานนานไปเพราะไม่อย่างนั้นคนจะลืม ทั้งลืมยืนยัน และลืมไปงาน!!
ทำตามทั้งหมดนี้ รับรองว่าคนที่คุณเจ้าบ่าวเจ้าสาวอยากให้มาร่วมในโมเม้นต์พิเศษนี้จะปรากฏตัวในงานครบทุกคนแน่นอนค่ะ
ติดตามคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานอีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!
ขอบคุณข้อมูล : brides.com
a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a
A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A A
สำหรับคู่รักทั้งหลายที่กำลังเตรียมตัวออกทริปในช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะมาถึง แล้วกำลังฝันหวานถึงโปรแกรมฮันนีมูนที่คุณจะได้ใช้เวลาอยู่กับที่รักแบบไร้งานมากังวลอีกครั้ง และบางคนเริ่ม จัดกระเป๋าเดินทาง กันแล้ว เอาล่ะ..พอพูดถึงเรื่องจัดกระเป๋าแล้วมันก็เลยจะเป็นห่วงอยู่หน่อยๆ แล้วหน้าที่เก็บกระเป๋าส่วนมากก็คงไม่ใช่ใครนอกจากคุณสาวๆทั้งหลาย แพรว wedding เราก็ไม่อยากให้คุณพลาดลืมนั่นลืมนี่แล้วต้องไปเสียเงินซื้อใหม่กลางทางโดยใช่เหตุ
ข้าวของกองรอบตัวเต็มไปหมด ลืมอะไรขึ้นมาก็พาลจะทำให้ทริปแสนหวานเซ็งกันไปอีก… สำหรับใครที่กำลังจะกับปัญหานี้อยู่ เรามีทริคเด็ดมาบอกค่ะ อะไรที่ต้องเตรียม อะไรที่ห้ามลืม เราลิสต์มาให้ตรงนี้แล้ว
1. เสื้อผ้า
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเตรียมเสื้อผ้าก็คือสไตล์การท่องเที่ยวของทริปนั้นๆ ถ้าไปเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ก็ต้องเตรียมเสื้อผ้าที่ทะมัดทะแมงหน่อย เช่น กางเกงขายาว เสื้อที่ใส่สบาย หรือถ้าไปเที่ยวแบบชิลๆ ถ่ายรูปสวยๆ อันนี้ก็จัดเต็มได้ตามใจชอบ ต่อมาก็ดูเรื่องสภาพอากาศว่าร้อนหนาวขนาดไหน ถ้าหนาวมากๆ ก็ควรเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวไปให้พร้อม และที่สำคัญที่สุดคือเตรียมเสื้อผ้าไปให้เพียงพอ ควรคิดเป็นสเต็ปๆ เลยว่าวันนี้จะทำอะไรแล้วจะใส่ชุดไหน ต้องมีชุดเล่นน้ำด้วยไหม ซึ่งเราแนะนำว่าเตรียมไปเผื่อเหลือดีกว่าขาดค่ะ
2. ชุดชั้นใน
ชุดชั้นในถือเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคุณสาวๆ ถ้าเผลอลืมเอาไปแล้วต้องหาซื้อใหม่จะเป็นความวุ่นวายที่ทำให้หงุดหงิดเบาๆ เพราะมันไม่ได้หาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ อย่างน้อยก็ต้องห้างสรรพสินค้าล่ะค่ะ ยิ่งถ้าไปเที่ยวตามป่าตามเขาแล้วเกิดหาซื้อไม่ได้ขึ้นมา รับรองว่าได้ลำบากกันแน่ๆ
3. อุปกรณ์อาบน้ำ
บางคนอาจจะบอกว่าลืมก็ไม่เป็นไรเพราะหาซื้อง่าย แต่สำหรับบางคนถือเป็นการเสียเงินโดยใช่เหตุ เราแนะนำให้คุณมีกระเป๋าใบเล็กสำหรับใส่อุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ นานาเตรียมไว้เลย ในนั้นควรจะมีข้าวของขนาดพกพา ไม่ว่าจะเป็น ยาสระผม สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน โฟมล้างหน้า ถึงคราวท่องเที่ยวเมื่อไหร่ก็หยิบยัดใส่กระเป๋าเดินทางได้ทันทีทันใดเลย
4. ยารักษาโรค
ห้ามลืมเด็ดขาดสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเฉพาะโรคที่ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป หรือถ้าคุณไม่มีโรคประจำตัว อย่างน้อยก็ควรเตรียมยาพื้นฐานติดไปด้วยเผื่อยามฉุกเฉิน เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้เมา ยาดม ยาใส่แผล พลาสเตอร์ปิดแผล เป็นต้น
5. ที่ชาร์จแบต
ที่ชาร์จแบต ไม่ว่าจะเป็นที่ชาร์จแบตโทรศัพท์ หรือที่ชาร์จแบตกล้อง ไอเท็มสำคัญของมนุษย์ไฮเทคโนโลยีทั้งหลาย ส่วนใหญ่มันจะเล็กๆ แยกเป็นหลายชิ้นส่วน คุณเมียแนะนำว่าควรมีกระเป๋าใบเล็กไว้สำหรับใส่อุปกรณ์พวกนี้ต่างหากด้วยเหมือนกัน เพราะถ้าขืนยัดๆ ใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทาง เดี๋ยวก็หลงๆ ลืมๆ อีกว่าไปใส่ไว้ช่องไหนมุมไหน เกิดอาการข้าวของหายแล้วจะเที่ยวไม่สนุกกันซะเปล่าๆ นะคะ
6. ข้าวของควรเตรียมเผื่อยามฉุกเฉิน (ETC)
นอกจากข้าวของห้ามลืมที่ว่ามาแล้ว ยังมีข้าวของที่ควรเตรียมไว้เผื่อยามฉุกเฉินด้วยนะคะ อาจพกติดรถไว้หรือหากใครไม่ได้เดินทางด้วยรถส่วนตัวก็พกติดกระเป๋าไว้สักหน่อย เชื่อเถอะค่ะถึงแม้จะไม่ได้ใช้ แต่ยังไงก็อุ่นใจ ถ้าถึงคราววิกฤตแล้วได้หยิบมาใช้เมื่อไหร่ คุณจะกลายเป็นผู้หญิงที่มีความละเอียดรอบคอบที่สุดในโลก ได้ใจที่รักคุณไปเต็มๆ เลยล่ะค่ะ
– มีดหรือกรรไกร – ร่ม – ผ้าเช็ดตัว
– เสื้อกันฝน – โลชั่นหรือสเปรย์กันยุง – รองเท้าแตะ
– กรรไกรตัดเล็บ – กระดาษทิชชู่ – ถุงพลาสติก
– ทิชชู่เปียก – ผ้าอนามัย – ไฟฉาย
– ปลั๊กพ่วง – ปากกา
ขาไปจัดกระเป๋าได้อย่างครบถ้วนไม่หลงลืมอะไร ขากลับก็ต้องไม่พลาดเช่นกันนะคะ จำสักนิดว่าหยิบจับอะไรยัดใส่กระเป๋าไปบ้าง แนะนำว่าจดไว้เลยดีที่สุดค่ะ จะได้เช็คกันชิ้นต่อชิ้นให้ชัวร์ สำคัญที่สุดอย่าลืมเก็บความสุขกลับบ้านไปให้เต็มกระเป๋าด้วยนะคะ
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ฮันนีมูนเพิ่มเติมได้ที่ คลิกเลย!
ภาพ : thesweetestthingblog.com
ช่วงนี้ขอตามเทรนด์ แหวนแต่งงาน ที่มาแรงในปีนี้กันหน่อย แพรว wedding มีไอเดียแหวนแต่งงานที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เรื่องดีไซน์ต้องขอบอกเลยว่าสวยงาม กับแหวนแต่งงานหลากดีไซน์เก๋ ที่ยังคงความคลาสสิคเอาไว้และยังเพิ่มฟังชั่นความน่าสนใจจากแหวนแต่งงานแบบที่เคยมีมา ถ้าไม่อยากเชยไม่อยากเอาท์ ไปอัพเดทกันค่ะกับ 10 ดีไซ์แหวนแต่งงานที่มาแรงที่สุดในปี 2018 ที่เรานำมาฝากกันเลยค่ะ
มีแบบไหนโดนใจกันบ้างมั้ยคะสาว ๆ แต่ละแบบที่คัดมาดีไซน์สวยเด่นสะดุดตาทั้งนั้นเลยนะคะ ถูกใจวงไหนก็จูงมือที่รักไปที่ร้านแล้วนำแบบที่เลือกไว้ ไปเลือกกันที่ร้านหรือจะให้ดีไซเนอร์ออกแบบใหม่ให้ตรงใจตามที่เลือกกันไว้ก็จัดเลย 😉
ติดตามไอเดียและแบบแหวนแต่งงานสวยๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!
cr : southernliving.com, wediplomate.com
สำหรับเจ้าสาวที่มีหุ่นกะทัดรัดเป็นนางสาวเมตรครึ่ง อาจจะมีความกังวลเรื่องการเลือก ชุดแต่งงานเจ้าสาวตัวเล็ก ว่าจะเลือกยังไงดีไม่ให้ออกมาแล้วดูเตี้ยตันมากกว่าเดิม เรามีทรงชุดแต่งงานที่เหมาะกับเจ้าสาวตัวเล็กมาฝากกัน
ทรงเอ็มไพรม์
ชุดแต่งงานทรงเอ็มไพรม์ เป็นชุดเข้ารูปช่วงหน้าอก แล้วปล่อยตรงยาวลงมา เป็นชุดที่จะทำให้เจ้าสาวตัวเล็กดูมีช่วงตัวที่ยาวมากขึ้น
ทรงเมอร์เมด
ชุดแต่งงานทรงเมอร์เมด เป็นชุดที่เข้ารูปทุกสัดส่วน เน้นช่วงอก เอว สะโพก ทำให้เห็นสัดส่วนของเจ้าสาวได้ชัดเจน ในขณะที่ปลายชุดจะมีชายยาวออกมา ทำให้เจ้าสาวดูสูงโปร่งมากยิ่งขึ้น
หน้าสั้นหลังยาว
ชุดแต่งงานแบบหน้าสั้นหลังยาว ไม่ว่าจะยาวเพราะการติดเครปด้านหลัง หรือเพราะการเล่นระดับของชายกระโปรงก็ตาม จะทำให้เจ้าสาวดูสูงโปร่งและไม่เตี้ยตัน เพราะจะมองเห็นช่วงขาที่ดูยาวมากขึ้นกว่าปกติ
ทรงเอไลน์
ชุดแต่งงานที่บานออกเล็กน้อย เหมาะกับเจ้าสาวทุกสัดส่วนเพราะสามารถช่วงปกปิดได้ทั้งเอวและสะโพก ที่สำคัญคือชุดมีการเข้าช่วงเอว ทำให้เจ้าสาวดูหุ่นพรียวมากยิ่งขึ้น
Tip : เจ้าสาวที่ช่วงตัวไม่ยาวมากนัก เลือกชุดที่มีตัวเสื้อเป็นคอวีหรือคอกว้าง จะทำให้เจ้าสาวตัวเล็กดูเพรียวมากขึ้น
สำหรับเจ้าสาวหุ่นแบบอื่นๆ ไม่ต้องน้อยใจไป เราจะหาแบบชุดสวยๆ ที่เหมาะกับรูปร่างมาฝากกันแน่นอน ส่วนใครที่อยากได้ไอเดียชุดแต่งงานสวยๆ คลิกได้เลย เรามีให้ดูเพียบ
ภาพ pinterest
แหวนหมั้น หรือ แหวนแต่งงาน เป็นสิ่งที่มีความสำคัญทั้งในงานแต่งงานและในชีวิตคู่เพราะทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะต้องสวมติดนิ้วไว้ตลอดเวลาในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกับเจ้าสาวที่อาจจะต้องจัดเต็มกว่าเจ้าบ่าวสักหน่อย เพราะฉะนั้นเรื่องของดีไซน์ ความแตกต่าง และความโดดเด่นต้องมา แพรว wedding เลยจัดมาให้กับ 20 แบบแหวนหมั้นประดับเพชรสีชมพูดีไซน์เก๋ ซึ่งนอกจากจะสวยงามแล้ว บอกเลยว่าคนดังและเซเลบฯ เมืองนอกเขานิยมใส่กันมากนะจ๊ะ ก็แหม เฉดสีออกจะน่ารักขนาดนี้ ถ้าได้มาอยู่บนนิ้วจะสวยขนาดไหน จริงไหม
แถมเฉดสีอัญมณีนี้ก็ไม่ใช่มีแค่เฉดสีเดียวแล้วจะใส่เหมือนๆ กันไปหมดทุกนางนะจ๊ะ เพราะเฉดสีสุดโรแมนซ์นี้มีมากมายหลากหลายเฉดให้สาวๆ ได้เลือกตามความชอบของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็น ชมพูดเข้ม ชมพูอ่อน หรือชมพูใส แม้กระทั่งเฉดสีที่กำลังป๊อปปูลาร์อยู่ในตอนนี้อย่างเฉดสีบลัช
และรู้หรือไม่ว่าเพชรสีชมพูนั้นเป็นอีกหนึ่งเฉดสีของอัญมณีที่ใส่แล้วดูแพงใช่เล่นนะจ๊ะ เพราะแพงทั้งราคาและแพงทั้งลุคเลยขอบอก ซึ่งถ้าเจ้าสาวกำลังมองหาเฉดสีชมพูแบบเอ็กซ์คลูซีฟแล้วล่ะก็ อาจจะต้องขยับบัดเจ็ตเพิ่มเข้ามาอีกนิด แล้วเลือกใช้เป็น พิงค์ แซฟไฟร์ หรือแซฟไฟร์สีชมพู ซึ่งเป็นพลอยเนื้อแข็งรองจากเพชร มีราคาสูง และให้สีชมพูที่ชัดเจน สว่าง ไม่ติดโทนน้ำตาลหรือสีเทา แต่ถ้าอยากดร็อปราคาลงมาจากแซฟไฟร์ แต่ยังคงไว้ซึ่งความดูดีมีระดับก็อาจจะเลือกเป็น มอร์แกนไนท์ (Morganire) ก็ได้ซึ่งนอกจากจะให้สีชมพูสวยหวานแล้ว ยังเป็นหินแห่งความรัก ทำให้ชีวิตคู่ของผู้สวมใส่มีความสุขหอมหวานเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบมีความสุขสงบสุขในทุกวัน หรือจะเลือกเป็นทัวร์มาลีน ที่ช่วยในเรื่องโชคลาภและความรุ่งเรืองก็ได้นะคะ
แถมอัญมณีสีชมพูนี้เป็นอีกหนึ่งเฉดสีที่จะช่วยสร้างความวาไรตี้ให้กับแหวนหมั้นวงสวยของเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี แพราะสามารถประดับเพชรล้อมตามดีไซน์ที่เจ้าสาวต้องการได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์เพชรล้อม หรือแบบเพชรเม็ดเดี่ยวก็ยังได้ เอาเป็นว่าเลือกในสไตล์ที่คุณชอบมากที่สุดจะได้ใส่ติดนิ้วได้แบบไม่มีเบื่อแล้วกันนะคะ
และนี่คือ 20 แบบแหวนแต่งงานสีชมพูสุดหรูที่เรานำมาฝาก
แต่อยากอินเทรนด์ก็ต้องไม่พลาดกับ 10 ดีไซน์แหวนแต่งงานที่มาแรงในปี 2018
ภาพ hattonjewels.com, julersrow.blogspot.com, caymancode.com, lauriesarahdesigns.com, popsugar.com, bbbgem.com, pinterest.com
a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a
a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a
บ่าวสาวที่กำลังมองหา เค้กแต่งงานสวยๆ แต่เบื่อเค้กแบบเดิมๆ ที่มี 3 ชั้น 7 ชั้น มีครีมดอกไม้เป็นส่วนตกแต่ง ห้ามพลาดเรื่องนี้เลย เพราะเรารวม 20 เค้กแต่งงาน ที่มีดีเทลแปลกตา ตกแต่งไม่ซ้ำใคร แถมมีครบทั้งชิค หรู และมินิมอล ใครชอบแบบไหน ก็จัดไปเลย
ได้แบบ เค้กแต่งงาน ที่ชอบหรือยัง แต่ถ้ายังไมได้อีก เราก็มีเค้กแต่งงานแบบอื่นๆ อีกเพียบ คลิกดูได้เลย
ภาพ pinterest
จุดเด่นของการถ่ายภาพ พรีเวดดิ้งแนวสตรีท คือการไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว อาศัยความเป็นธรรมชาติทั้งของสถานที่และตัวบ่าว-สาว ส่วนใหญ่จะเน้นอารมณ์ความน่ารักสดใส ความชิค มีสไตล์ในแบบของคู่รักวัยรุ่น ทำให้ดูมีความทันสมัยบวกกับการแต่งกายเสื้อผ้าหน้าผมที่ไม่เน้นความเป็นทางการมากนัก บางคู่ใส่เพียงเสื้อคู่ธรรมดาๆ หรือเลือกเสื้อผ้าตามแฟชั่น ส่วนโลเคชั่นก็หาได้ง่ายโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีสถานที่มากมายที่ให้ฟิลลิ่งได้โดยเราแทบไม่ต้องไปเซทอะไรเลย ว่าแต่จะมีที่ไหนโดนๆ บ้างนั้นตามมาดูกันค่ะ
บางรัก
สถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คน การจราจรที่คับคั่ง ร้านค้าต่างๆ นานา เป็นหนึ่งจุดในกรุงเทพฯ ที่ให้ความเป็นสตรีทอย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด สถานที่ยอดฮิตของเขตบางรักที่บ่าว-สาวนิยมไปถ่ายพรีเวดดิ้งกันก็จะเป็นที่ ไปรษณีย์กลางบางรัก ที่มีสถาปัตยกรรมแบบไทยร่วมสมัยที่สายอาร์ตและสายสตรีทไม่ควรพลาด แถมไม่เสียค่าใช้จ่ายในส่วนของสถานที่แต่อาจต้องทำเรื่องของอนุญาติสักนิดนึงนะคะ และใกล้กันนั้นยังมีถนนเจริญกรุงที่ตั้งของอาคารบ้านเรือเก่าดูมีความขลังก็เป็นสถานที่ที่เหมาะกับแนวสตรีทเช่นกันค่ะ
สะพานพุทธ
สะพานที่มีสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ ให้วิวทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยา ยิ่งเวลายามเย็นพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าคุณจะได้ภาพบรรยากาศสุดโรแมนติก โดยเฉพาะคู่รักคู่ไหนแสดงอารมณ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติภาพของคุณต้องสวยงามจนไม่พลาดที่จะเอามาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์แน่นอน และสำหรับใครที่อยากได้วิวสะพานถ่ายพรีเวดดิ้งในกรุงเทพฯ ก็ยังมีอีกหลายแห่งให้เลือกนะคะ ไม่ว่าจะเป็น สะพานพระราม 8, สะพานช่องนนทรี และสะพานภูมิพล เอาเป็นว่าสะดวกตรงไหนก็ไปเลือกถ่ายกันเลย
สยาม
โลเคชั่นสไตล์โมเดิร์นหลายมุมเอาใจชาววัยรุ่นผู้ชื่นชอบการแชะภาพไม่เว้นแม้แต่คู่รักที่มองหาสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่ดูมีความทันสมัย เป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศแบบวิถีชีวิตของคนเมือง บางคู่โพสท่าเก่งๆ ก็จะได้รูปที่ออกมามีความชิคๆ หรือจะเป็นแนวน่ารักสดใจย้อนวัยกลับเป็นวัยรุ่นอีกครั้งก็ยังได้ค่า
สถานีรถไฟหัวลำโพง
ที่ตั้งของสถานีรถไฟที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะเป็นโดมขนาดใหญ่ สไตล์อิตาเลียนผสมกับศิลปะแบบเรอเนสซองซ์ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับสถานีรถไฟแฟรงก์เฟิร์ตในประเทศเยอรมนี ประดับตกแต่งด้วยหินอ่อน เพดานมีการสลักลายนูนต่างๆ ละเอียดสวยงามไม่แพ้สถาปัตยกรรมของสถานที่อื่นๆ ซึ่งฉากหลังที่เป็นทั้งสถาปัตยกรรมและรถไฟช่วยสื่ออารมณ์พาคู่บ่าว-สาวได้ย้อนไปในสมัยรัชกาลที่ 5 แบบย้อนยุคได้อีก หากบ่าวสาวเลือกสวมใส่ชุดแต่งงานแบบสากลก็ยิ่งดูมีความแตกต่างที่ลงตัว รับรองว่าภาพที่ได้ต้องเก๋ไม่แพ้ใครแน่นอนค่ะ
เสาชิงช้า
เสาชิงช้าขนาดใหญ่สีแดงตั้งสูงเด่ดตระหง่าอยู่บริเวณทางแยกบนถนนบำรุง นอกจากในรูปภาพจะให้ฉากหลังที่มีเสาชิงช้าสีแดงสดแล้วยังได้ฉากหลังของสถาปัตยกรรมเก่าแก่อย่างอาคารพาณิชย์และอาคารบ้านเรือน หรือถ้าจังหวะดีๆ หน่อยฝูงนกพิราบอาจมาร่วมแชะภาพร่วมกับคุณด้วยก็ได้
เยาวราช
ไชน่าทาวน์ประเทศไทยถ่ายยังไงก็ดูเหมือนไปประเทศจีน ด้วยเอกลักษณ์การตกแต่งแบบจีนทั้งป้ายอาคารร้านค้าต่างๆ การใช้สีแดง ร้านค้าขายสินค้า หรืออาหารจีน เป็นต้น ซึ่งสามารถมาถ่ายรูปให้ดูสตรีทได้ทั้งตอนกลางวันและกลางคืน เนื่องจากให้ความรู้สึกแตกต่างกันไม่มากนัก ถนนเยาวราช เป็นถนนที่มีความครึกครื้นตลอด 24 ชั่วโมง เชื่อว่าบ่าว-สาวที่มาถ่ายพรีเวดดิ้งนอกจากจะได้ภาพถ่ายสุดเท่แล้วยังได้อิ่มท้องกันถ้วนหน้า เพราะของกินตลอดสองข้างทางอาจทำให้คุณหันมาถ่ายธีมคู่รักสายกินที่กำลังเป็นกระแสก็ได้นะคะ
Read More : 5 อุทยานแห่งชาติ สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง ไม่ไกลมากได้ภาพสวยปังประหยัดงบด้วย
ขอบคุณรูปภาพจาก : facebook.com/sanit.portfolio
a a a a a a a a a a a a a
ใกล้ฤกษ์วิวาห์เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับหนุ่ม พอล ภัทรพล และ ฟอว์น ไปยดา มหิทธนันท์ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายน นี้ เราก็ไม่พลาดเอาเรื่องราวสุดน่ารักในช่วงขอแต่งงาน และเทคนิคพิเศษที่ทำให้แหวนตรงไซส์แถมถูกใจว่าที่เจ้าวสาวในแบบฉบับหนุ่มพอลมาฝากกัน
ที่มาของ แหวนเป๊ะ ทั้งไซส์ และดีไซน์
พอล : พี่เตรียมแหวนล่วงหน้า 3 ปี จากที่ไม่เคยรู้เรื่องเพชร ก็ต้องมาศึกษาเรื่อง 4Cs ของเพชร ต่อก็มาก็ต้องหาไซส์และแบบที่พี่ฟอว์นชอบ ซึ่งเพื่อนเขาก็มาช่วยในขั้นตอนนี้ (หนุ่มๆ อ่านไว้นะจ๊ะ จะได้มีเทคนิคหาไซส์แหวนแบบเป๊ะ) โดยวางแผนว่า เพื่อนจะซื้อแหวนโดยชวนพี่ฟอว์นไปเป็นเพื่อน ตอนซื้อก็ทำเป็นลองแล้วให้พี่ฟอว์นลองด้วย ถามว่าชอบแบบไหน วงไหน จนได้ทั้งขนาด และแบบที่ชอบ
ฟอว์น : เพื่อนน่ารักมากค่ะ เราไม่ทราบเลยว่าเขาแอบปรึกษาเพื่อนรักเรา ตอนที่ได้แหวนก็ชอบมาก เพราะทุกอย่างเป็นเราเลย คัดติ้งก็ชอบมาก ไม่มีหลวม ไม่คับ จนสุดท้ายก็เพิ่งมาทราบทีหลังว่าว่าถามจากเพื่อนรักเราเนอะ
วันเกิดสุดพิเศษ กับของขวัญวันเกิดที่ดีสุดในชีวิต
พอล : พี่รู้สึกว่าคนนี้คือคนที่เราจะใช้ชีวิตด้วยกันไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว แต่ก็ต้องมีพิธีแต่งงาน ก็ใช้วันเกิดของตัวเอง เพื่อสื่อว่า “คุณคือของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตผมเลยนะ” เลือกขอเขาในร้านที่เราเดตกันแรกๆ และเป็นร้านที่เขาชอบ วันนั้นมีเตรียมการกับที่ร้านว่าจะมีเล่นไวโอลินนะ แต่จังหวะก็ไม่ถูกอีก คือเราวางแผนไว้ว่า เล่นไวโอลินก่อน1 เพลง ขอแต่งงาน แล้วไวโอลินก็เล่นอีก 1 เพลงปิดท้าย แต่พอวันจริงคนสีไวโอลินเขาเดินมาที่โต๊ะ แล้วเล่น 2 เพลงต่อกัน ทุกโต๊ะก็มองใหญ่เลย แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ความไม่เพอร์เฟ็ค คือความเพอร์เฟ็ค
และนี่คือโฉมหน้าแหวนเพชรที่หนุ่มพอล ใช้ขอของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิต กับแหวนทรงกลม 3.5 กะรัต เจียรไน 58 เหลี่ยม ซึ่งถือว่าเป็นเพชรทรงที่สวยที่สุดเลยทีเดียว
เรารู้ว่าแค่นี้ไม่จุใจอยู่แล้วสำหรับชาวแพรวเวดดิ้ง เราจึงเตรียมคอมโบ้ความหวาน ความซึ้ง และแนวคิดของคู่รักคู่นี้ที่สปอย์ไว้หน่อยว่า 5 ปีไม่เคยทะเลาะกัน!!! (ทำได้อย่างไร) มาให้ทุกคนได้อ่านกัน อีกไม่นานเกินรอ
ภาพ IG : fawnfelisha, paulpattarapon
แต่งหน้า น้องฉัตร – ฉัตรชัย เพียงอภิชาติ
ถ่ายภาพ ธาดา วาริช
วันสำคัญทั้งทีจะใส่แค่สูทธรรมดาเพลนๆ ได้ยังไง โดยเฉพาะเจ้าบ่าวที่เป็นพระเอกของงาน และแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าวในฐานะเพื่อนพระเอกสุดหล่อ แพรว wedding เลยนำไอเดียเก๋ๆ ของไบไทมาฝาก แถมมีมาให้เลือกถึง 4 สไตล์ด้วยกัน รับรองว่าหนึ่งในนี้จะช่วยเสริมสูทเจ้าบ่าวและ ชุดเพื่อนเจ้าบ่าว ให้ดูดีทั้งในวันงานและในภาพถ่ายแน่นอน
โบไทสีดำ
คลาสสิคสุดๆ สำหรับโบไทสไตล์นี้เพราะฮิตติดลมบนไม่เคยตกเทรนด์ เรียกได้ว่าใส่ปีไหนเมื่อไหร่ก็ไม่ตกยุค แต่สำหรับเจ้าบ่าวหรือเพื่อนเจ้าบ่าวที่รักในความแตกต่าง ก็อาจจะเลือกสีหลักของโบไทในเฉดสีดำ แต่เลือกเพิ่มกิมมิกอย่างเช่น ลดลาย เป็นตัวช่วยเสริมให้สีดำนั้นดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
โบไทแบบสีสัน
ลุคนี้เหมาะกับเจ้าบ่าว หรือเพื่อนเจ้าบ่าวที่ไม่ต้องลุคที่เป็นทางการมากนัก แต่อยากเน้นให้ลุคดูแคชชวลสบายๆ สไตล์ผู้ชายอบอุ่น แนะนำให้แมตช์โบไทสีสันสดใสโดยอาจเลือกแมตช์ให้เข้ากับสีสูท หรือสีของธีมงานก็ได้
โบไทลายดอก
เสริมลุคให้น่ารักกุ๊กกิ๊สไตล์เจ้าบ่าวขี้เล่น หรือแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าวให้สดใส ด้วยโบไทลายดอก ซึ่งเหมาะมากหากคุณจัดงานแต่งงานแบบง่ายๆ ในสไตล์เป็นกันเอง ยิ่งถ้าหากจัดงานท่ามกลางสวนสวยด้วยแล้วรับรองว่าเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย โดยอาจจะเลือกเฉดสีของสูทและลายดอกของโบไทให้มีคู่สีที่ตัดกันเพื่อสร้างความโดดเด่น
โบไทสไตล์ preppy
Preppy คือแฟชั่นสไตล์นักเรียนไฮโซของชนชาติอเมริกัน หรือถ้าพูดง่ายๆ ก็คือสไตล์เรียบเท่ดูดีนั่นแหละ ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นโบไทแบบลายทางเท่านั้น อาจจะเป็นลวดลายหรือไหมพรมไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นหากว่าที่เจ้าบ่าวหรือแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าวเลือกโบไทสไตล์นี้แล้วล่ะก็ รับรองว่าคุณและเพื่อนจะเหมือนได้ย้อนวัยกลับไปในสมัยไฮสคูลอีกครั้ง จนอาจสับสนได้ว่า เอ๊ะ นี่มันงานแต่งงาน หรืองานจบการศึกษากันแน่
CR. marthastewartweddings.com, brighamyoungfamily.org
เคยสงสัยกันไหมคะว่าทำไมในงานแต่งต้องมี เค้กแต่งงาน ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางห้องเสมอ ไม่ว่าจะงานเล็ก งานใหญ่ หรืองานเอ้าท์ดอร์ก็จะขาดของหวานชนิดนี้ไปไม่ได้เลย สำหรับใครที่สงสัยและใคร่รู้ แพรว wedding มีคำตอบมาให้แล้วค่ะ ว่าเค้กแต่งงานนั้นมีไว้เพื่ออะไร
ย้อนเวลากลับไปราวๆ 1,900 ปีที่แล้ว ชาวโรมันในสมัยนั้นนิยมนำข้าวสาลีอันเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์มาอบกับเกลือให้เป็นเค้กชิ้นเล็กๆ สำหรับรับประทานในงานแต่ง แต่ว่าเขาจะไม่ได้ใช้มีดตัดแบบในปัจจุบันนะคะ แต่วิธีการในสมัยนั้นคือ เจ้าบ่าวจะต้องกินในส่วนหัวหรือส่วนด้านบนของเค้ก จากนั้นก็หักแบ่งออกมาแล้วนำไปโปรยลงบนหัวของเจ้าสาว (ก่อนหน้านี้ใช้ปาใส่เจ้าสาว แหมโหดอะไรเบอร์นั้น) เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงชีวิตคู่ที่ยืนยาว มีความสุข และถือเป็นการอวยพรให้เจ้าสาวแข็งแรง มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง ส่วนแขกที่มาในงานก็จะได้รับแบ่งเค้กไปด้วยคนละนิดละหน่อย เนื่องจากเชื่อกันว่าจะได้มีชีวิตที่ดี มีความสุข และประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับบ่าวสาวนั่นเอง
แต่ถ้าใครคิดว่าเค้กแต่งงานจะเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของการมีชีวิตคู่ที่มีความสุขล่ะก็ บอกเลยค่ะว่า ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเค้กแต่งงานก็คือ “การเปิดบริสุทธิ์ของเจ้าสาว” เพราะชาวโรมันเชื่อว่าการหักขนมปังเปรียบเสมือนกับการที่เจ้าสาวยอมสละพรหมจรรย์ และแสดงให้เห็นว่าเธอนั้นมีชายหนุ่มตีตราจองและมีพันธะทางครอบครัวอย่างเป็นทางการ
คราวนี้เขยิบจากฝั่งโรมันมาทางเกาะอังกฤษกันบ้าง ในสมัยนั้นเค้กแต่งงานยังเป็นเพียงแค่ก้อนแป้งจืดๆ ไม่มีความหวานใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเค้กเหล่านั้นจะถูกนำมาวางซ้อนกันหลายๆ ชั้น ยิ่งสูงเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ความเจริญรุ่งเรืองของคู่บ่าวสาว จากนั้นจะให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวมาจูบกันเหนือยอดเค้ก หากเค้กไม่ล้มคว่ำลงมา แสดงว่าทั้งคู่จะมีชีวิตคู่ที่ยั่งยืนและมีความสุข แน่นอนว่ายิ่งสูงเท่าไหร่บ่าวสาวจะจูบกันได้ยากเท่านั้น นั่นจึงเป็นที่มาของตุ๊กตาตัวแทนบ่าวสาวที่ยืนจูบกันอยู่บนยอดเค้กแทน
และสำหรับเค้กเป็นชั้นๆ ที่เราเห็นกันในปัจจุบันนั้น เกิดขึ้นในช่วงปี 1660 ในรัชสมัยของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 มีเชฟชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งเดินทางไปที่ลอนดอน และได้เห็นประเพณีการวางเค้กซ้อนๆ กันแล้วพังครืนลงมา เขาจึงเริ่มคิดสูตรทำเค้กแยกออกมาเป็นชั้นๆ ซึ่งจะต้องเตรียมล่วงหน้าก่อนวันใช้งานจริงหลายวัน และเนื่องจากสมัยนั้นไม่มีตู้เย็น วีธีการถนอมเค้กให้อยู่ได้นานก็คือ ใช้มันหมูเคลือบเค้กให้แข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อเค้กแห้งและล้มลง เมื่อถึงวันแต่งงานก็แค่ขูดเอามันหมูออก แล้วจึงเสิร์ฟให้แขกรับประทาน ใช่ค่ะ ถูกอย่างที่คุณกำลังคิดว่า แล้วใครจะไปกินลง ต่อมาจึงได้เปลี่ยนจากมันหมูมาใช้เป็นน้ำตาลแทน นอกจากจะไม่เหม็นแล้วยังหวานน่ารักประทานอีกด้วย
หวังว่าหลายคนคงจะหายสงสัยกันแล้วนะคะว่าทำไมงานแต่งถึงต้องมีเค้กกับเขาด้วย หลังจากนี้เห็นเค้กแต่งงานที่ไหนคงไม่ได้มองแค่ความสวยงามน่าทานแล้ว แต่คงต้องนึกไปถึงความหมายและสัญลักษณ์ต่างๆ ตามแบบประเพณีดั้งเดิมด้วย หรือบ่าวสาวคู่ไหนอยากจะลองจูบกันจริงๆ เหนือยอดเค้กก็ได้นะคะ แล้วอย่าลืมมาเล่าให้เราฟังด้วยว่าสำเร็จหรือไม่
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวความเชื่อต่างๆ ในเรื่องงานแต่งเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!
ภาพเค้กแต่งงานของคุณนก & คุณมิค ถ่ายโดย Punnakanfoto และงานแต่งงานคุณอูน & คุณแพ็ค ถ่ายโดย OAT-CHAIYASITH’s team
คุณภาพของเพชรถือเป็นปัจจัยหนึ่
แหวนแต่งงาน…ไม่จำเป็นต้องเลือกเพชรเม็ดโตเสมอไป แต่ต้องเน้นคุณภาพที่ดี
เดี๋ยวนี้สาวๆ มีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย จากความเชื่อที่ว่าต้องเลือกเพชรเม็ดโตๆ เปลี่ยนมาเป็นการเลือกเพชรโดยเน้นคุณภาพ มีขนาดที่เหมาะสมและต้องมีใบรับประกัน และตรวจสอบได้ถึงแหล่งที่มาของเพชร เพราะแหวนแต่งงาน เป็นแหวนที่จะอยู่กับเจ้าสาวไปตลอดชีวิต คุณภาพเพชรที่เลือกจะต้องดีที่สุด นอกจากนี้ ในแง่ของดีไซน์แหวน สาวยุคใหม่ต้องการดีไซน์ที่บ่งบอกความเป็นตัวเองมากขึ้น อีกหนึ่งดีไซน์ที่มาแรงและเป็นที่ชื่นชอบคือการใช้เทคนิคการผลิตหลายชิ้นส่วน มาประกอบกันเป็นวงเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก หากไม่ผ่านช่างฝีมือผู้มีประสบการณ์ อย่างเช่น คู่บ่าวสาวต้องการแหวนหมั้นที่มีความหมายสื่อถึงเรื่องราวความรัก การดีไซน์อาจจะต้องเป็นแบบอิฐเรียงต่อกันเปรียบเป็นรากฐานในการดำเนินชีวิตครอบครัวอย่างมั่นคง เป็นต้น
มิกซ์แอนด์แมทช์แหวน Wedding Band ให้สวยเป๊ะปัง!!
ใครว่าแหวนแต่งงานต้องใส่เฉพาะวันแต่งงานเท่านั้น ขอบอกก่อนเลยว่าสามารถนำมาใส่ในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายๆ ปัจจุบันยูบิลลี่ ไดมอนด์ มี แหวนหมั้นเพชร (Engagement Ring) และแหวนแต่งงาน (Wedding Band) ที่ดีไซน์เรียบโก้ ไม่จำเป็นต้องใส่กับชุดแต่งงานหรูหราเท่านั้น สามารถใส่ติดนิ้วและมิกซ์แอนด์แมทช์กับการแต่งกายในทุกๆ วันได้
แหวนเพชรไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้ชายอีกต่อไป
ผู้ชายมักคิดว่าการเข้าร้านแหวนเพชรเป็นเรื่องที่ยาก ด้วยความไม่เข้าใจและไม่มีความรู้เรื่องการเลือกเพชร หรือในแง่ดีไซน์ คุณผู้ชายก็ไม่รู้ว่าควรจะเลือกแบบไหน ยูบิลลี่มีแหวนแต่งงานที่มีดีไซน์เน้นความเรียบเท่ ซึ่งออกแบบมาเพื่อผู้ชายโดยเฉพาะ รูปทรงของแหวนเป็นทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งมีด้านที่เท่ากันในทุกด้าน ทำให้สามารถใส่ได้รอบ และยูบิลลี่ได้เพิ่ม Space Grey Gold (ทองคำสีเทา) เข้ามา ทำให้มีความเป็นผู้ชายที่เท่มากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ยังมี แหวนแต่งงาน (Wedding Band) ที่ใช้เทคโนโลยีการประกอบตัวเรือนจากทอง 3 สี ได้แก่ White Gold , Pink Gold และ Space Grey Gold ที่เป็นแหวนคู่รักใส่ได้ทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าว
คู่รักดิจิทัลอัพเดทเทรน์ใหม่กับแบรนด์เครื่องประดับเพชร ยูบิลลี่ ไดมอนด์
ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจะดีมากหากแหวนเพชรของเราจะสามารถเก็บบันทึกเรื่องราวความทรงจำประทับใจในช่วงชีวิตเราไว้กับแหวนเพชรที่มีความหมายสำหรับเรา อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากมากกับการฝังสัญลักษณ์บางอย่างลงบนตัวแหวนที่มีขนาดเล็กและบนวัสดุที่มีความวาวอย่างทองคำ แต่วันนี้ ยูบิลลี่ ไดมอนด์ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคู่รักยุคใหม่ทุกคนให้ต้องเซอร์ไพรส์กับครั้งแรกของโลกในวงการจิลเวลรี่ ที่มีความพิเศษด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาใช้กับเครื่องประดับเพชร และเกิดเป็นแอปพลิเคชั่น “ยูบิลลี่ ไอโมเม้นท์” (Jubilee iMOMENT) ที่จะมาบันทึกเรื่องราวความทรงจำแห่งรักทุกช่วงเวลาที่ประทับใจและทุกโมเม้นท์ โรแมนติก ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย วีดีโอหรือข้อความที่อยากเก็บไว้ เชื่อมกับ ยูบิลลี่ ไอโมเม้นท์ โดยสามารถดูผ่าน ยูบิลลี่ ไอ โมเมนท์ แอปพลิเคชั่น ผ่านการส่องกล้องไปที่สัญลักษณ์ยูบิลลี่หรือEmblem บนแหวนเพชรก็จะเห็นภาพหรือวีดีโอโชว์ขึ้นมาทันที ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ได้ดีมากจริงๆ
รายละเอียดเพิ่มเติม Jubilee Customer Center โทร 02-625-1111
และติดตามข่าวสารได้ที่
Facebook :Jubilee Diamond (Thailand)
Line : @jubileediamond
ติดตามไอเดียและเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับงานแต่งงานได้ที่ praewwedding
งานแต่งงาน ของฉันจะตกแต่งอะไรดีน้า….มีว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนกำลังนั่งคิดนอนคิดเกี่ยวกับการเลือกสรรสิ่งของมาตกแต่งในงานของตัวเองอยู่บ้างไหมคะ ถ้ายังคิดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าจะเอาอะไรมาไว้ในงานดี แพรว wedding ขอแนะนำ 10 สิ่งดังต่อไปนี้ที่คุณควรมีไว้ แล้วงานจะไม่โล่งจนผักบุ้งโหรงเหรง
1. ฉากถ่ายภาพต้องมี!
เรียกได้ว่าเป็นของสำคัญที่ทุกงานห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะถือเป็นอีกหนึ่งกิมมิกเก๋ไก๋ที่จะสื่อให้เห็นว่างานแต่งของคุณเป็นแบบไหน ธีมงานอะไร บางงานก็ถมแบ็กดรอปด้วยดอกไม้หลากสี บางงานก็ห้อยระย้าด้วยไฟราวหรือม่านดอกไม้หวานๆ แล้วแต่ความชอบของเจ้าภาพ และที่สำคัญคือ ถ้าคุณไม่มีไอ้เจ้าแบ็กดรอปนี้แล้วคุณจะยืนถ่ายรูปกับอากาศธาตุเหรอจ๊ะ
2. แกลลอรี่ภาพถ่ายต้องโชว์!
อีกหนึ่งจุดภายในงานแต่งที่จะดึงดูดความสนใจของแขกในงานได้เป็นอย่างดี เพราะภาพถ่ายจะช่วยบอกเล่าเรื่องราวความรักของบ่าวสาวได้ในตัวมันเอง บางครั้งคุณอาจไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อแพ็คเกจถ่ายภาพพรีเวดดิ้งก็ได้นะ เพียงแค่นำภาพถ่ายระหว่างคุณสองคน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายเซลฟี่ตอนไปเที่ยว อออกเดท ทานข้าว หรือดูหนัง แบบนี้ก็ให้ความรู้สึกว่าเป็นคู่รักเรียลๆ เหมือนกัน
3. โซฟาสวยๆ ต้องหามาวาง!
ออพชั่นสำคัญที่นอกจากจะช่วยเสริมให้งานแต่งของคุณดูเลอค่าแล้ว ยังมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นจุดนั่งถ่ายรูปโพสต์ท่าสวยให้กับบ่าวสาวและแขกในงาน หรือว่าจะให้แขกนั่งแก้เมื่อยก็ยังได้ แบบนี้ก็ถือเป็นไอเดียที่ไม่เลวนะคะ เพียงแต่ว่าคุณจะต้องเลือกโซฟาที่ดูเข้ากับธีมงานและการตกแต่งที่คุณวางแผนไว้เท่านั้นเอง
4. ดอกไม้ปลอมดอกไม้จริงต้องเริ่ด!
พูดกันตามจริงบอกกันตรงๆ เลยนะคะ ว่างานแต่งงานร้อยทั้งร้อยไม่เคยมีงานไหนที่ขาดดอกไม้เลยสักงาน ต่อให้งานนั้นๆ บ่าวสาวจะแพ้เกสรดอกไม้ก็เถอะ แต่ไม่วายต้องมีให้เห็นแซมอยู่ในงานบ้างแหละ อ่ะ!! แต่ก็อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกเป็นดอกไม้จริงหรือดอกไม้ปลอม จะตั้งเป็นพุ่มใหญ่ๆ ถมลงไปบนแบ็กดรอป เหน็บแซมตามโต๊ะเก้าอี้ หรือจะห้อยระย้าก็แล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์และความต้องการของบ่าวสาว
5. ไฟประดับต้องมุ้งมิ้ง!
ถึงแม้ว่าคุณและคนรักจะวางแผนแต่งงานท่ามกลางแสงจันทร์ แสงดาวและเราสอง แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องมีแสงไฟให้ความสว่างกันบ้างนะคะ อย่าปล่อยให้งานแต่งต้องมืดตึ๊ดตื๋อเลย (สงสารแขก) ซึ่งเดี๋ยวนี้เรื่องไฟเรื่องแสงสำหรับงานฉลองเขาก็มีลูกเล่นให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแสงเทียนในโหลแก้ววางเรียงรายตามทางเดิน หรือจะเป็นไฟราวแสงสีนวลๆ ห้อยระย้าเก๋ๆ ก็เหมาะสำหรับงานแต่งริมทะเลและในสวนไม่น้อย
6. โคมไฟเลอค่าต้องห้อย!
นอกจากไฟส้มไฟราวที่จำเป็นต้องมีในงานแต่งแล้ว อีกหนึ่งของตกแต่งที่ควรค่ากับงานวิวาห์เห็นทีจะหนีไม่พ้นโคมไฟสวยๆ เอามาประดับในงานสักหน่อยก็ดีนะคะ ชอบโคมไฟแบบไหนก็ลองเลือกมาใช้ดูได้ แต่ขอแนะนำเลยว่า โคมไฟแชนเดอร์เลียประดับคริสตัลวิบวับเป็นอะไรที่คลาสสิกและเวิร์กสุดๆ ใช้ได้ทั้งงานอินดอร์และงานเอ๊าต์ดอร์
7. ป้ายสารพัดสิ่งต้องตั้ง!
อย่างน้อยๆ ในงานแต่งงานก็ควรจะมีป้ายบ้างนะคะ ป้ายอะไรก็ได้ที่ออกแบบมาให้ตรงกับคอนเซปต์งานของคุณ จะเป็นป้ายชื่อบ่าวสาว ป้ายผังที่นั่ง หรือป้ายคำคมความรักเก๋ๆ จับมาใส่ในงานสักอันก็ดีเหมือนกัน ราคามันคงไม่ทำให้ขนหน้าแข้งร่วงหรอกเนอะ
8. กล่องใส่ซองต้องหย่อน!
กาดอกจันของสำคัญไว้ตัวโตๆ ว่าของสิ่งนี้ห้ามลืมเด็ดขาด คุณคงไม่อยากเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ยื่นถือซองเงินจนเต็มไม้เต็มมือต่อหน้าแขกหรอก เพราะฉะนั้นออกแบบกล่องใส่ซองดีไซน์สวยๆ สักใบสองใบวางไว้ที่โต๊ะลงทะเบียนแบบนี้น่าจะดีกว่า
9. ซุ้มประตูทางเข้าต้องเด่น!
ซุ้มประตูก็เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่แขกจะได้เห็นเป็นอย่างแรกก่อนเข้างาน โดยคุณสามารถเลือกไอเดียการจัดซุ้มได้ตามที่ต้องการ บางงานอาจใช้ผ้ามาแขวนซ้ายขวาให้กลายเป็นม่าน บางงานก็เป็นซุ้มดอกไม้โค้งสวย ส่วนงานไหนที่จัดแบบเอ๊าต์ดอร์ท่ามกลางสายลมแสงแดด ฮีบินแนะนำให้ลองยกประตูไม้เก๋ๆ สักบานสองบานมาตั้งเป็นทางเข้างาน แบบนี้ก็เจ๋งดีนะคะ
10. สแตนดี้ตัวอักษรต้องปัง!
อีกหนึ่งกิมมิกที่คุณไม่ควรพลาดใส่ลงไปในงานแต่งก็คงจะเป็นสแตนดี้ตัวอักษรเริดๆ โดยอาจจะทำเป็นชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาว เป็นตัวย่อ หรือจะเป็นคำว่า LOVE ก็ได้ ของแบบนี้ไอเดีย DIY บนอินเทอร์เน็ตมีให้เลือกทำเยอะแยะ งานนี้ทำเองได้ง่ายๆ ไม่ต้องจ้างใครให้เปลืองกะตังค์นะ
ถึงแม้ว่า 10 สิ่งของเหล่านี้อาจจะดูซ้ำกับงานแต่งทั่วไป แต่เราขอบอกเลยว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นของตกแต่งหลักๆ ที่จะทำให้งานแต่งของคุณดูเป็นงานแต่งงาน ไม่ใช่แค่งานเลี้ยงสโมสรแบบไก่กา ถึงแม้ใครๆ จะพูดว่าของแบบนี้เขาก็มีกันทุกงานแต่ง ถูกค่ะ! ของแบบนี้มีกันทุกงาน แต่ไอเดียบรรเจิดเริดๆ ที่คุณมีก็จะทำให้สิ่งของเหล่านี้มีแค่ในงานคุณงานเดียว ไม่ซ้ำกับใครที่ไหน ยังไงๆ ลองออกแบบกันดูนะคะทุกคน
ติดตามไอเดียดีๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานอีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!
ภาพ : pinterest.com, decoration-breckgallerywalk.net, darbysmart.com, deerpearlflowers.com, eguang.biz, fabmood.com, fantasticcleanersmelbourne.com.au, joy-wed.com, rockmywedding.co.uk, sarahhearts.com, toovia.com
a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a
ชุดแต่งงานสากล คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดนี้ใช้ชื่อว่า “Vanus couture L’automne Paris Collection” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากความงดงามแห่งช่วงฤดูใบไม้ร่วงของประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งคอลเลคชั่นนี้ทาง วนัช กูตูร์ ได้สร้างสรรค์ผลงานออกมาโดยมีชุดให้เลือกมากกว่า 10 ชุด ทั้งการออกแบบและการตัดเย็บล้วนพิถีพิถัน รวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบในการตัดเย็บ อาทิ คริสตัลจากสวาลอฟกี้ ลูกไม้ฝรั่งเศส หรือการใช้เทคนิคการตกแต่งผ้าลูกไม้ด้วยขนนกกระจอกเทศ ทุกชุดที่ถูกออกแบบมาล้วนงดงามและเลอค่ามากที่สุดเพื่อก้าวสู่ระดับสากล
ตอกย้ำความอินเตอร์กันด้วยการขนทัพนางแบบและทีมงานหลายชีวิตบินไปถ่ายแบบไกลถึงนครปารีสประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียว แถมยังได้ ฟ้า- ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ เจ้าของตำแหน่ง 2nd Miss International 2014 มาเป็นนางแบบอีกด้วย
ตอกย้ำความอินเตอร์กันด้วยการขนทัพนางแบบและทีมงานหลายชีวิตบินไปถ่ายแบบไกลถึงนครปารีสประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียว แถมยังได้ ฟ้า- ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ เจ้าของตำแหน่ง 2nd Miss International 2014 มาเป็นนางแบบอีกด้วย
Vanus Couture
1550,1552 ปากซอยลาดพร้าว 50
ถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทร.0-2002-4895, 0-2002-4896
เฟซบุ๊ก : Vanus Couture
ไอจี : @vanuscouture_official
ติดตามไอเดียและเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับงานแต่งงานได้ที่ praewwedding
ซึ่งคอลเลคชั่นนี้ทาง วนัช กูตูร์ ได้สร้างสรรค์ผลงานออกมาโดยมีชุดให้เลือกมากกว่า 10 ชุด ทั้งการออกแบบและการตัดเย็บล้วนพิถีพิถัน รวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบในการตัดเย็บ อาทิ คริสตัลจากสวาลอฟกี้ ลูกไม้ฝรั่งเศส หรือการใช้เทคนิคการตกแต่งผ้าลูกไม้ด้วยขนนกกระจอกเทศ ทุกชุดที่ถูกออกแบบมาล้วนงดงามและเลอค่ามากที่สุดเพื่อก้าวสู่ระดับสากล ตอกย้ำความอินเตอร์กันด้วยการขนทัพนางแบบและทีมงานหลายชีวิตบินไปถ่ายแบบไกลถึงนครปารีสประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียว แถมยังได้ ฟ้า- ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ เจ้าของตำแหน่ง 2nd Miss International 2014 มาเป็นนางแบบอีกด้วย ซึ่งคอลเลคชั่นนี้ทาง วนัช กูตูร์ ได้สร้างสรรค์ผลงานออกมาโดยมีชุดให้เลือกมากกว่า 10 ชุด ทั้งการออกแบบและการตัดเย็บล้วนพิถีพิถัน รวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบในการตัดเย็บ อาทิ คริสตัลจากสวาลอฟกี้ ลูกไม้ฝรั่งเศส หรือการใช้เทคนิคการตกแต่งผ้าลูกไม้ด้วยขนนกกระจอกเทศ ทุกชุดที่ถูกออกแบบมาล้วนงดงามและเลอค่ามากที่สุดเพื่อก้าวสู่ระดับสากล
วันพรุ่งนี้เป็นวัน 11 : 11 ไม่ใช่แค่เพียงเป็นวันเลขสวยอย่างเดียว แต่ยังเป็นวันสำคัญของคู่รัก อดีตพระเอก พอล – ภัทรพล และคนรักนอกวงการ ฟอว์น – ไปยดา วันนี้เราจึงขอพาคู่รักว่าที่บ่าวสาวมาเปิดใจถึงรัก 5 ปี ที่ทั้งคู่บอกว่าไม่เคยทะเลาะกันเลย
แรกพบสบรัก
พอล : เราเจอกันตามงานอีเวนท์ครับ
ฟอว์น : แต่เราไม่เคยคุยกันนะคะ จะเป็นมองเห็นจากที่ไกล
พอล : พี่ฟอว์นก็แอบส่องพี่มาตลอด (หัวเราะ) พี่ก็เห็นว่าผู้หญิงคนนี้น่ารัก ยิ้มแย้ม สดใส ก็เลยไปถามเพื่อนว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนยังไง เพื่อนก็บอกว่าเป็นคนดีนะ เป็นคนดีเลยละ เก่ง ฉลาด หลังจากนั้นก็พี่ก็ไปส่องเฟซบุ๊กเขา ส่องอยู่ 2-3 ปีเลย เพราะว่าตอนนั้นพี่ฟอว์นเขามีแฟนอยู่แล้ว เราก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่ส่อง ดูจากโพสต์ก็รู้แล้วว่าเขาเป็นคนมีทัศนคติที่ดี เขาไม่เคยโพสต์อะไรแย่ๆ วันหนึ่งก็ได้ทราบข่าวว่าเขาเลิกกับแฟนแล้ว (หัวเราะเขินเบาๆ ด้วยนะ) แต่ก็ไม่ได้คุยกัน จนกระทั่งมีข้ออ้าง เพราะเราไปเห็นเขาโพสต์รูปถือหนังสือธรรมมะโมเดิร์น ก็คิดว่าเขาต้องเป็นคนดีมากๆ แน่เลย จิตใจดีเนอะ ฝักใฝ่ธรรมมะ สวยด้วย ใจดีด้วย ก็เลยส่งข้อความไปหาเขา ถามเขาว่าหนังสือเล่มนี้ดีไหม นี่ คือครั้งแรกที่ได้คุยกัน เขาก็ตอบกลับมาว่ายังอ่านไม่จบเลย
ฟอว์น : ก็เป็นการถ่ายรูปหนังสือที่อีเวนท์ค่ะ
พอล : แต่นั่นแหละก็เป็นจุดเริ่มต้น ให้เราคุยกัน ก็เริ่มจีบเขาทางข้อความ (ตอบติดขัดนิดๆ ตามแบบฉบับหนุ่มขี้อายด้วยนะ)
แผนพิชิตใจ
ฟอว์น : ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจีบ ก็นึกว่าคุยกันในฐานะเพื่อนรุ่นพี่ มารู้ก็วันที่เขาบอกเลย เพราะก่อนหน้านี้เขาก็จะมาแบบเนียนๆ พิมข้อความคุยเล่น ปรึกษาด้วยว่าชอบแฟนเพื่อนอยู่ เหมือนเราเป็นศิราณีเนอะ แล้ววันนึงพี่พอลก็มาบอกว่าไม่ได้ชอบแฟนเพื่อนหรอก
พอล : ก็เหมือนในละครเลย พี่ก็บอกกับเขาตรงๆ ว่าไม่ได้ชอบแฟนเพื่อนที่ไหนหรอก ก็เขาเนี่ยละ พอพูดแบบนี้เขาก็หยุดไปเลย ไม่มีข้อความตอบกลับ เราก็แบบอ้าว หรือเขาจะไม่ชอบเรา สุดท้ายก็พอเขายอมคุยด้วยต่อก็นัดเขาไปกินข้าว ดูหนัง
ฟอว์น : ที่เงียบไปก็เพราะเขาเป็นดารานั่นแหละ เพราะปกติแล้วถ้าให้เลือกได้ก็ไม่ชอบคนที่คนรู้จักเยอะๆ เพราะเราเป็นคนสบายๆ ขอแค่อยู่ด้วยแล้วสบายใจก็พอแล้ว แต่พอมาเจอพี่พอลแล้วจริงๆ เขาก็ไม่เหมือนดาราเลย เป็นคนสัมผัสได้ ง่ายๆ ธรรมดา เข้าถึงได้ ไม่ปาร์ตี้จ๋า เขาก็เป็นที่ใช้ชีวิตไปกับการพัฒนาตัวเอง ศึกษาหาความรู้ ฟอว์นอยู่ด้วยแล้วก็สบายใจ
เป็นแฟนกันนะ
ฟอว์น : อื้ออหื้ออ นานมากค่ะ 5-6 ปีที่แล้ว
พอล : ขอนึกก่อน ก็เป็นพี่ที่บอกเขาละว่าเรามาคบกันอย่างเป็นทางการไหม คือตอนช่วงจีบกันเราก็แฟร์ๆ เนอะ ว่าถ้าเขาคุยกับคนอื่นๆ ด้วย เราก็โอเคนะ เพราะว่าเราทั้งคู่ค่อนข้างฝรั่ง แต่พอถึงจุดหนึ่งเราก็คุยกันว่าเราจะมาคุยกันแบบที่ฝรั่งเรียกว่า Exclusive นะ คือไม่คุยกับคนอื่นแล้ว เราคุยกันแต่ 2 คนนะ จากนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นแล้วก็ยาวเลย เป็น Exclusive จริงๆ จนถึงแต่งงานเลย
ฟอว์น : คือฟอว์นตัดสินใจไปแล่ว แล้วก็ตัดสินใจแค่ครั้งเดียว
5 ปีที่ไม่ทะเลาะกัน (คู่รักทั้งหลายเตรียมสมุดปากกามาจดเลยค่ะ)
ฟอว์น : ไม่มีเลย
พอล : เราเหมือนกันมาก ยิ่งคบกันก็ยิ่งเหมือน ทั้งวิธีคิด ความชอบอะไร อีกอย่างเราทั้งคู่อยู่เหนืออารมณ์ ควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ปัญหาเดียวเลยนะที่เกิดขึ้นไม่รู้จะกินอะไรดี
ฟอว์น : สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราไม่ทะเลาะกันก็เพราะว่า คุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังเราว่าความสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราอยากเอาชนะกันแล้วทำให้เสียความสัมพันธ์มันไม่คุ้ม
รักกัน ทำงานด้วยกันได้จริงๆ นะ
ฟอว์น : ตอนนี้เราทำงานด้วยกัน แต่แบ่งไปตามความถนัด ของพี่พอลก็จะอยู่หน้ากล้อง ส่วนฟอว์นก็จะอยู่หลังกล้อง ดูทุกสิ่งอย่างที่เป็นเบื้องหลัง
พอล : อันนี้พูดถึงที่เราทำเรื่องคอร์สออนไลน์หรือให้ความรู้คนทางโซเชี่ยลมีเดียนะครับ เราช่วยกันคิดหัวข้อ พี่เป็นคนพูด พี่ฟอว์นเป็นคนจัดการ
ฟอว์น : เป็นเพราะเราแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน
พอล :ใช่ ระหว่างการทางทำงานมันต้องมีเรื่องขัดแย้งกันเป็นธรรมดา แต่สำหรับพี่มันเป็นเรื่องเล็กน้อย ก็แค่รับฟังความคิดเห็นของอีกฝ่าย มีเป้าหมายเป็นหลัก
ฟอว์น : แล้วเราต่างเคารพซึ่งกันและกัน ถึงจะความเห็นไม่ตรงกัน แต่ถ้าเราเห็นว่าความคิดเขาดีกว่าของเรา เราก็จะยึดอันที่ดีกว่าเป็นหลัก
บ่าวสาวที่กำลังเข้าสู่พิธีวิวาห์ แต่ยังไม่ได้ กล่องใส่แหวน หรือได้แล้วแต่ไม่ถูกใจ เพราะมีแค่กล่องแดงแบบเดิมๆ เรามีของใหม่มาให้ดู รับรองว่าโดนใจแน่ๆ เพราะแต่ละอัน สวยมั่กๆ
หวังว่าจะมี 1 ใน 20 ที่โดนใจบ่าวสาวกันนะคะ ส่วนลำดับต่อไปอย่างเรื่องการเตรียมงานแต่งเรามีก็รายละเอียดเอาไว้ให้อ่านอีกเพียบ คลิกอ่านได้เลย
a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a
เหล่าบ่าวสาวทั้งหลายที่กำลังวางแผนจัดงานแต่งงาน เรามีเทคนิคดีๆ สำหรับ จัดงานแต่ง ให้ออกมาเป๊ะ สมบูรณ์แบบ ไม่ว่างานจะใหญ่เล็ก เอาท์ดอร์หรืออินดอร์ ด้วย 5 เคล็ดลับนี้ รับรองว่าเอาอยู่!
ในการจัดงานแต่งงาน เรื่องการสไตล์งานแต่งเป็นเรื่องสำคัญที่บ่าวสาวควรคำนึงถึงเป็นสิ่งแรกๆ ซึ่งการหาสไตล์ของงานก็ไม่ยากเย็นอะไร เพียงแค่มองดูว่าทั้งคู่ชอบอะไรแบบไหน หรืออาจจะมองหาไอเดียใน Pinterest ก็ได้ จะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น แล้วค่อยเพิ่ม ค่อยหยอดความเป็นตัวเองลงไปในสไตล์ที่ถูกใจ
ในการจัดงานแต่งงาน ให้บ่าวสาวจัดลำดับความสำคัญของแต่ละอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชุด ภาพถ่าย สถานที่ อาหาร หรืออื่นๆ ที่ทั้งคู่ให้ความสมใจเป็นพิเศษ แล้วจัดสรรเงินและความใส่ใจตามลำดับความสำคัญที่ตั้งไว้ จะทำให้ช่วยได้มากทั้งเรื่องของเวลา การตัดสินใจและที่สำคัญ เรื่องเงิน เพราะจะทำให้บ่าวสาวเลือกได้ว่าควรทุ่มเงินไปกับเรื่องอะไร และควรทุ่นเงินในเรื่องไหน
การส่งการ์ดเชิญทางไปรษณีย์ ในกรณีที่บ่าวสาวไม่ได้เอาไปให้ด้วยตัวเอง ให้เลือกส่งไปรษณีย์วันพุธ หรือวันอังคารในกรณีที่ส่งไปต่างจังหวัด ทั้งนี้ก็เพื่อว่าการ์ดเชิญจะถึงมือผู้รับในวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่มีคนอยู่บ้าน และเพื่อให้คนรับได้อ่านรายละเอียดอย่างชัดเจนนั่นเอง
การเลือกใช้ของที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ และในฤดูกาลนั้นๆ จะทำให้ได้ของสด ของดี ในราคาที่ถูกกว่า แต่การใช้ของนอกพื้นที่ นอกฤดูกาล โดยเฉพาะดอกไม้สด นอกจากจะดูแลยาก ต้องประคบหงมอย่างดี เหี่ยวเร็ว ยังมีราคาสูงทำให้ค่าใช้จ่ายในงานแต่งพุ่งสูงอีกต่างหาก
การเลือกเพื่อนเจ้าสาว ไม่ใช่ว่าจะเลือกตามความสนิท ความสนุกอย่างเดียวเท่านั้น แต่เพื่อนเจ้าสาวยังต้องช่วยเหลือเรื่องการจัดการงานแต่ง รวมถึงดูแลเจ้าสาวในวันสำคัญอีกด้วย ดังนั้นการจะเลือกเพื่อนเจ้าสาวจึงต้องเลือกให้ดี ถามความสมัครใจของสาวๆ ด้วยว่า เขาเต็มใจหรือเปล่าที่จะมาช่วยเหลืองาน
เทคนิคลับ ทั้ง 5 ที่เราบอกคราวนี้จะช่วยให้คุณบ่าวสาวทั้งหลาย จัดงานแต่ง ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้เรายังมีความลับของแขกมาบอกด้วยนะ ความจริงๆ แล้ว แขกในงานแต่งชอบบ่นเรื่องอะไรมากที่สุด ตอนจัดงานจะได้ระวังเอาไว้ให้ดี
ภาพ unsplash.com
เพิ่งปล่อยเพลงใหม่ออกมาหมาดๆ สำหรับหนุ่มๆ Backstreet Boys ที่คัมแบ็คครบทั้ง 5 คน เราเลยเอาใจบ่าวสาว ที่เคยซึ้งกับเพลงของพวกเขาด้วย 8 เพลงงานแต่งงาน ที่หวานซึ้ง มาดูกันว่ามีเพลงอะไรบ้าง
1. As Long As You Love Me
เป็นเพลงที่ขาดไม่ได้สำหรับสาวก BsB กับเพลงดัง จังหวะสนุกๆ ที่จะเปิดในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของบ่าวสาววัย 30 ก็สนุกได้แบบไม่เคอะเขิน กับเนื้อหาเพลงดีๆ มีความหมายว่า ไม่ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ฉันก็รัก~~~
2. How Did I Fall In Love with You
เพลงช้าซึ้งๆ ที่มีความหมายกินใจ เป็นเพลงเปิดฟลอร์ให้บ่าวสาวได้เต้นรำกันก็หวาน และเหมาะมากสำหรับคู่บ่าวสาวที่เริ่มต้นความสัมพันธ์จากความเป็นเพื่อน เพราะเนื้อหาเพลงอารมณ์ประมาณรักซึมบ่อทราย “อยู่ใกล้เธอ เผลอไปรักได้ยังไงก็ไม่รู้” อิอิ
3. Anywhere For You
โอ้ยยย เพลงรักที่หวานซึ้ง หวานจริงๆ ค่ะคุณบ่าวสาวทั้งหลาย เปิดในงานแต่งแทนใจเจ้าบ่าวเมื่อไหร่ เชื่อสิมีน้ำตาร่วงในความซึ้ง ความโรแมนติคกันทั้งงาน
4. Get Down
เพลงดังจากยุค 90s ที่แท้ทรู ทั้งทำนอง เอ็มวี ยันเสื้อผ้าทรงผมนักร้อง ความ 90s หนักมาก แต่แบบนี้มีเสน่ห์นักล่ะ แถมความหมายก็ดีอีกต่างหาก เปิดในงาน After Party เมื่อไหร่ เชื่อได้เลยว่า เหล่าแขกวัยใกล้เคียงกันต้องยิ้มกริ่ม ย้อนยุคถึงวันวานสมัยซ่า จบเพลงรับรองว่ามีหอบจากการแดนซ์แน่นอน แล้วจะพลาดได้ยังไง จริงไหม?
5. Just To Be Close To You
เป็นอีกเพลงที่หวานฉ่ำมากๆ ทั้งเนื้อหา และตัวเพลง จนคิดว่าเพลงนี้มันควรต้องมีในงานแต่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะท่อน “I want to give you all my love (all my love) I gonna give it to you, I gonna give to you” ฟังแล้วละลายไปเลย
6. All I Have To Give
เพิ่มน้ำตาลในเส้นเลือดต่อด้วยเพลงนี้ กับเพลงจังหวะสบายๆ ที่เปิดคลอได้เรื่อยๆ ให้แขกไม่เหงาในช่วงก่อนเข้าสู่พิธีการ ซึ่งก็เป็นอีกเพลงที่มีความหมายซึ้งๆ
7. I Need You Tonight
หวานมาเยอะ มาถึงคราวเพลงที่มีความโรแมนติคขั้นสุด แบบไม่สนอะไรแล้ว รู้แค่ว่าฉันรักเธอ ต้องการเธอ อยากจะใช้เวลาที่เหลือไปกับเธอ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ทำให้คนทั้งสองแต่งงานกันด้วยนี่นา แล้วเพลงนี้จะไม่อยู่ในงานแต่งได้อย่างไร
8. Chances
เพลงล่าสุดจากหนุ่มๆ กับทำนองเพลงเท่ๆ ที่พอให้โยกย้ายได้เบาๆ กับเนื้อหาที่พูดถึงโอกาสที่ทำให้เราได้พบกัน และรักกันในที่สุด เอาเป็นว่าแฟนคลับของหนุ่มๆ ไม่ควรพลาดเพลงนี้ด้วยประการทั้งปวง
หวังว่าบ่าวสาวที่กำลังทำเพลย์ลิสต์งานแต่งจะมีเพลงที่ถูกใจเอาไปเปิดให้แขกฟังแก้เหงาระหว่างรอพิธีการ หรือในช่วงพิธีการ และเราไม่ได้มีเพลย์ลิสต์เท่านี้ ยังมี 10 เพลงรักน่าเปิดในงานแต่งจากหนุ่มๆ เวสไลฟ์ด้วยนะ
ภาพ FB : backstreetboys
