เครื่องประดับเจ้าบ่าว ตัวช่วยสำคัญที่ช่วยเสริมหล่อในวันวิวาห์

ส่อง เครื่องประดับเจ้าบ่าว ช่วยเสริมหล่อในวันสำคัญ

คุณเจ้าบ่าวคะใครว่าในวันสำคัญคุณจะใส่สูทแล้วจบพร้อมเดินเข้างาน ไม่จิ๊งงงง เพราะคุณยังสามารถหล่อได้มากกว่านั้นค่ะ ด้วย เครื่องประดับเจ้าบ่าว ที่แพรว wedding รวบรวมมาให้ มาเติมนิดเสริมหน่อยให้เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง รับรองว่าสูทตัวเดิมที่คุณเคยลองจะดูดีขึ้นในพริบตา ไม่เชื่อก็ลองดู ^^

เครื่องประดับเจ้าบ่าว

– พ็อคเก็ตสแควร์หรือผ้าเช็ดหน้าที่พับไว้ในกระเป๋าเสื้อสูท แนะนำให้ใช้ผ้ามันเงาเพื่อสร้างความโดดเด่น และควรหลีกเลี่ยงลวดลายหรือเนื้อผ้าที่เหมือนกับเนคไทมากเกินไป

– เข็มขัดควรมีดีไซน์เรียบๆ เส้นเล็ก และสีเดียวกับรองเท้าที่ใส่ บอกลาหัวเข็มขัดใหญ่โตอลังการที่มักขโมยซีนทุกอย่างในร่างกายของคุณไปหมด

– ถ้าเลือกใส่เสื้อกั๊กไว้ด้านใน ก่อนสวมเสื้อสูทให้ปลดกระดุมเม็ดล่างสุดของเสื้อกั๊กออก จะดูเท่กว่าติดครบทุกเม็ด

– เปลี่ยนจากกระดุมข้อมือเสื้อเชิ้ตธรรมดามาเป็นคัฟลิงค์ดีไซน์เท่ที่บ่งบอกความเป็นคุณได้อย่างชัดเจน

– ถุงเท้าต้องไปด้วยกันกับกางเกงและรองเท้า โดยเลือกสีให้ใกล้เคียงกันมากที่สุดหรือสีที่เข้มกว่า ที่สำคัญความยาวของถุงเท้าต้องอยู่ในระดับเลยข้อเท้าขึ้นไป

– รองเท้าควรไปกันได้ดีกับสูท เช่น รองเท้าสีดำเข้ากับสูทสีดำ น้ำตาลเข้ม น้ำเงินเข้ม  ส่วนรองเท้าหนังสีน้ำตาลเหมาะกับสูทสีครีมเข้ม และสีน้ำตาล และถ้าไม่อยากได้ลุคทางการมากนัก ลองหารองเท้าหนังที่มีสายผูกด้านหน้า ก็ดูเท่มีสไตล์ดีเหมือนกัน

– หากใส่เนคไทควรวัดความกว้างของเนคไทให้พอดีกับปกเสื้อเชิ้ตเพื่อความบาลานซ์

– สีเนคไทควรเป็นสีเดียวกันหรือใกล้เคียงกับเสื้อสูท แต่ถ้าอยากเพิ่มลูกเล่น ในกรณีที่เป็นงานสุภาพให้เลือกเนคไทที่มีสีเข้มกว่าเสื้อสูทสักนิด ส่วนงานที่ไม่เป็นทางการสามารถใช้สีอ่อนได้และควรให้ความยาวอยู่บริเวณเอว

– ลองใส่โบไทดูบ้างเพื่อเพิ่มความสนุกในการแต่งตัว แถมยังได้ลุคกึ่งทางการแฝงด้วยความขี้เล่น นอกจากนี้ยังสามารถใส่กับเสื้อเชิ้ตชิลๆ ในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้เพราะมีลวดลายและสีสันให้เลือกตามแต่สไตล์ของแต่ละคน

เมื่อเช็กความหล่อส่องความพร้อมกันเรียบร้อย ก็ถึงเวลาควงกันออกไปสู่ช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิตได้เลย

สุดท้ายอย่าลืมเพิ่มเสน่ห์มัดใจสาวข้างกายด้วย 10 น้ำหอมสำหรับเจ้าบ่าวให้เจ้าบ่าวทั้งหล่อและหอมเพอร์เฟ็คในวันแต่งงาน

ภาพ stylecowboys.nl, pinterest.com, pexels.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

อยากเท่ไม่ซ้ำใครต้องลองใส่แจ็คเก็ตชุดแต่งงาน รับประกับความเก๋เว่อร์!!

5 สไตล์ แจ็คเก็ตชุดแต่งงาน บอกเลยน่าใสมากกก

มาสร้างความทรงจำและความพิเศษให้กับวันสำคัญด้วยลุคเจ้าสาวที่เท่ไม่ซ้ำใครกับ แจ็คเก็ตชุดแต่งงาน ที่บอกเลยว่าสามารถนำมาแมตช์กับชุดแต่งงานที่สวยหวานได้แบบไม่อยากเลย แพรว wedding เลยไปรวบรวมแจ็คเก็ตหนัง 5 สไตล์ที่ว่าที่เจ้าสาวสามารถนำมาแมตช์กับชุดแต่งงานได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะใส่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง หรือใส่ในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็เก๋เริดแน่นอน

แจ็คเก็ตหนังสไตล์เบสิค

ตัวเลือกสุดคลาสสิคคงหนีไม่พ้นแจ็คเก็ตหนังสีดำ แต่จะหนังแบบดำล้วนมาเลยก็คงไม่ใช่ ว่าที่เจ้าสาวอาจจะมองหาแจ็คเก็ตหนังสีดำที่มีการปักหรือเพ้นต์ลวดลายที่ดูอ่อนหวานเพื่อเบรกความเท่หนักแน่นของสีดำสักนิด โดยเฉดสีที่จะเลือกมาเบรกความเข้มนั้นก็หนีไม่พ้นสีชมพูนั่นเอง

แจ็คเก็ตชุดแต่งงาน

แจ็คเก็ตดีไซน์เก๋

หากว่าที่เจ้าสาวหลงรักลุคที่ดูน่าทึ่ง ก็อาจจะมองหาแจ็คเก็ตในเฉดสีเมทัลลิคที่กำลังอินเทรนด์อยู่ในปีนี้ (ปี 2018) หรือจะหาแจ็คเก็ตที่มีความหมายดีๆ แปะอยู่ด้านหลังก็ได้เหมือนกัน และเพื่อเพิ่มความเก๋โดดเด่น ว่าที่เจ้าสาวอาจจะเพิ่มดีเทลบางอย่างที่ไม่ซ้ำใครลงไป เช่น รายละเอียดต่างๆ ที่สื่อถึงงานแต่งงานของคุณ ความชอบของเจ้าสาว หรือสัญลักษณ์ที่คุณและว่าที่เจ้าบ่าวรู้กันสองคนก็ได้

เสื้อกั๊กหนัง

อีกหนึ่งรูปแบบแจ็คเก็ตที่จะสร้างลุคเจ้าสาวให้ดูโดดเด่นก็คือ เสื้อกั๊ก เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่อยากโชว์ดีเทลช่วงลำแขนได้เป็นอย่างดี เช่น หากเจ้าสาวสวมชุดแต่งงานแบบเสื้อแขนยาวซีทรู ก็สามารถหยิบเสื้อกั๊กหนังมาแมตช์ได้อย่างลงตัว แถมยังไม่แข่งกันขโมยซีนอีกต่างหาก แถมยังเป็นอีกหนึ่งลุคที่การันตีความเก๋ไม่ซ้ำใครชัวร์

แจ็คเก็ตสีอ่อนที่เข้ากับชุดแต่งงาน

ใครว่าแจ็คเก็ตหนังจะมีแค่สีดำอย่างเดียวล่ะจ๊ะ เพราะแจ็คเก็ตหนังก็มีหลากหลายเฉดสีให้ว่าที่เจ้าสาวได้เลือก และหากว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่คิดว่าแจ็คเก็ตหนังสีดำจะดูแมนไปหรือเปล่า อยากปรับลุคให้ซอฟต์ลงมาหน่อย ก็อาจจะเลือกเป็นแจ็คเก็ตเฉดสีอ่อนอย่าง สีชมพูหรือสีครีม เป็นต้น โดนเลือกเฉดสีให้ติดไปทางพาสเทลนิดๆ เพื่อให้ลุคดูนุ่มนวล และเพื่อให้ดูเข้ากับชุดแต่งงานที่เป็นเฉดสีขาวหรือเฉดสีบลัชอีกด้วย

แจ็คเก็ตแนวสปอร์ต

Squad jackets หรือแจ็คเก็ตแนวสปอร์ต ถ้านึกไม่ออกลองนึกถึงแจ็คเก็ตทีมกีฬา อย่างเช่น รูปแบบแจ็คเก็ตของทีมเบสบอลดูก็ได้ค่ะ ซึ่งงานนี้ไม่ว่าจะใส่แบบเดี่ยว หรือใส่แบบคู่สำหรับคุณและว่าที่เจ้าบ่าว หรือจะเลือกโดดเด่นกันเป็นทีมกับแก๊งเพื่อนเจ้าสาวของคุณก็ได้ เพียงแค่เลือกลวดลาย หรือข้อความที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตน ความเป็นคู่ หรือความเป็นทีม รับรองว่านี่จะเป็นแอคเซสซอรี่อีกหนึ่งชิ้นที่สร้างความประทับใจให้กับคุณได้ดีอย่างแน่นอน

มีแจ็คเก็ตเก๋ๆ แล้วว่าที่เจ้าสาวอาจจะลองมองหาชุดแต่งงานเก๋ๆ เสริมด้วยก็ได้นะคะ ตามไปส่องกันไปที่นี่เลยกับ 10 ชุดแต่งงานเก๋ๆ ที่ว่าที่เจ้าสาวจะแต่งในปีนี้ไม่ควรพลาด!!

ภาพจาก www.azazie.com, www.pinterest.com, www.lovemydress.net, wedding.film

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

เสริมดวงความรัก กระชับความสัมพันธ์ ตั้งแต่คบหา แต่งงาน ยันใช้ชีวิตคู่

เคล็ดไม่ลับเสริมรักให้รุ่งจาก หมอช้าง -ทศพร ศรีตุลา นักโหราศาตร์คนดัง ที่เผยทริคเด็ด เสริมดวงความรัก กระชับความสัมพันธ์ ตั้งแต่คบหา แต่งงาน ยันการใช้ชีวิตคู่ ใครอยากหวานชื่นตลอดศกต้องอ่าน!

  • จะดูดวงเรื่องคู่ แต่คู่ดันไม่มา จะทำยังไงดี!

“เมืองไทยกับเรื่องดวงเป็นของคู่กัน และมันอยู่ในชีวิตเราทุกขั้นตอน ตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย การใช้ชีวิตคู่ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่มีเรื่องดวงเข้ามาเกี่ยวข้อง

“การดูดวงความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ควรมาเป็นคู่ แต่ส่วนมากผู้หญิงจะมาคนเดียว เข้าใจว่าโอกาสที่ผู้ชายจะมาด้วยเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะถ้าเพิ่งเริ่มคบกัน ดังนั้น ควรมีข้อมูลที่จำเป็นในการไขคำพยากรณ์ คือ วันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟาก ซึ่งตรงนี้เป็นเทคนิคของแต่ละคนที่จะหลอกถามแฟนมา

“ก่อนจะมาดูดวง อยากให้เข้าใจว่า การเริ่มต้นความรักเหมือนการซื้อหุ้น ผลประกอบการในอดีตไม่ได้บ่งบอกถึงกำไรในอนาคต บางคนรักกันจะเป็นจะตาย แต่อยู่ไปสัก 10 ปี 15 ปี ผู้ชายไปมีเมียน้อยก็เห็นบ่อย ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือ ทำช่วงเวลาที่มีอยู่ให้ดีที่สุด ซึ่งนักโหราศาสตร์จะให้คำแนะนำได้ว่าช่วงนี้มีอดีตตามมาหลอกหลอนนะ หรือดูได้ว่าจะเจอมรสุมในช่วงไหน ทำให้มีความระมัดระวังมากขึ้น”

  • คำถามยอดฮิตของสาวๆ ผู้ชายคนนี้ใช่คู่เราไหม?

“จริงๆ ก็ถามได้ แต่ต้องบอกว่าถ้าเขายอมคบเรา ทุกคนก็เป็นแฟนกันได้หมด เพียงแต่ว่าเป็นได้นานและมีความสุขหรือเปล่า แต่ถ้าให้แนะนำ ควรถามว่า “อะไรคือสิ่งที่จะทำให้เราอยู่กันได้นานที่สุด” จะเป็นประโยชน์มากกว่า เช่น ดวงผู้ชายคนนี้เดินทางตลอด ถ้าคุณมีเงื่อนไขว่าต้องส่งฉันเข้านอน เสาร์อาทิตย์จับมือไปดูหนังก็คงไปกันลำบาก นี่คือสิ่งที่หมอดูจะพูดให้คุณเข้าใจ

“นักโหราศาสตร์ที่ดีไม่ควรชี้นำ หน้าที่คือแนะนำ เพราะมีกฏของการพยากรณ์ข้อหนึ่งคือ “ห้ามทายสามีภรรยาให้ราคี ห้ามทายชีวิตวิบัติตัดชันษา” บางทีมันมีกรรมของแต่ละคนที่ทำให้ไปกันต่อหรือเลิกรากัน เราอาจบอกได้ว่าช่วงมรสุมจะหมดไปเมื่อไหร่ ควรจะประคองกันไปอย่างไร ซึ่งไม่ใช่แนะนำแล้วทุกคนจะทำได้”

  • ผู้ใหญ่บอกว่าชงกับแฟน จะทำอย่างไรดี?

“ความรักไม่ได้มีแบบเดียวเหมือนในละคร ปีชงเป็นรูปแบบหนึ่งของความรัก ก็รักกันไปแบบชงๆ เช่น อาจมีเรื่องจุกจิกหรือมีมุมมองความคิดต่างกัน ไม่ได้อับเฉาอะไรขนาดนั้น แต่คนจีนจะกังวลเพราะไม่อยากให้คู่แต่งงานต้องปรับตัวเยอะ แต่ปัจจุบันผมว่าคนเราเปิดกว้างมากขึ้น บางคนอาจมองว่าความต่างเป็นการเติมเต็มก็ได้ มีเยอะแยะที่ชงแล้วอยู่ด้วยกันดี”

  • มีวิธีแก้เคล็ดหรือเสริมดวงความรักไหม?

“มีหลายวิธี เช่น บางคู่พื้นดวงบอกว่าจะไม่ได้เจอกันทุกวัน ในทางฮวงจุ้ยอาจแนะนำให้มีห้องส่วนตัว เช่น มี 2 ห้องนอน เพื่อให้แต่ละฝ่ายมีพลังของตัวเอง เหมือนกึ่งๆ ว่าแยกกันอยู่ หรือบางคนดวงอยู่ด้วยกันไม่ได้ อาจไม่จดทะเบียนหรือจดแป๊บหนึ่งแล้วหย่า

“บางคนตามดวงแต่งงานไม่ได้ ลองสังเกตดูว่าบางคนกำลังจะแต่งงานแล้วเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดเรื่องไม่ดี ไม่ได้จะบอกให้งุบงิบไปอยู่กินกันสองคน แต่การแต่งงานไม่จำเป็นต้องจัดอลังการในห้องบอลรูมเสมอไป อาจเลี่ยงเป็นทำบุญร่วมกัน สู่ขอกับผู้ใหญ่ตามธรรมเนียม หรือนัดกินข้าวในครอบครัวเพื่อให้ผู้ใหญ่รับรู้ เข้าใจว่าบางทีผู้หญิงก็มีความฝันอยากใส่ชุดเจ้าสาว อาจใส่ไปถ่ายพรีเวดดิ้งไว้ดูกันสองคนก็ได้”

“ถ้าเป็นแฟนกันแล้วอยากเสริมดวงความรัก ผมแนะนำเรื่องการทำบุญ ทริคการสร้างบุญร่วมกันคือ ขอให้เป็นการเดินทางไปด้วยกันอย่างเต็มใจและกรวดน้ำอธิษฐานจิตร่วมกัน แต่บางคนชอบไปไหว้คนเดียวแล้วก็ไปขอให้แฟนหนูอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งที่ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน

“บางคนมองหาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในด้านความรักโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ค่อยมี ส่วนมากเป็นเรื่องของประสบการณ์ เช่น คนนั้นไปขอเรื่องความรักที่นี่แล้วดีจึงบอกต่อกันมา หรือมาจากตำนานความรักอมตะ เช่น เจ้าแม่เขาสามมุก ฯลฯ แต่สำหรับผมสำคัญที่สุดคือการสร้างตำนานร่วมกัน ถ้าอยากไปคนละที่ ทะเลาะกันตั้งแต่เริ่มเดินทางจะดีได้อย่างไร ควรจะเป็นที่ที่อยากไปด้วยกัน การทำบุญจะได้เป็นประสบการณ์ที่ดี ถ้าจะให้มั่นใจขึ้นก็อาจถวายของเป็นคู่ เช่น เชิงเทียนคู่ แจกันคู่ ฯลฯ”

  • แต่งงานอย่างไรให้เปี่ยมสุข

“ว่าที่บ่าวสาวต้องท่องไว้ว่างานแต่งไม่ใช่เรื่องของคนสองคน ฉะนั้น ถ้าผู้ใหญ่มีความเชื่ออะไรที่ทำแล้วสบายใจก็ควรจะเป็นไปตามนั้น ส่วนเรื่องของดวง แนะนำว่าหากจะดูฤกษ์ควรเลือกอาจารย์ที่มั่นใจและใช้คนเดียว ไม่ใช่ฝ่ายหญิงมีคนหนึ่ง ฝ่ายชายมีอีกคน จะกลายเป็นมากหมอมากความ

“ในส่วนของพิธีการ งานบุญเป็นขั้นตอนที่สำคัญ ควรเริ่มต้นพิธีด้วยการทำบุญกรวดน้ำร่วมกันซึ่งก็มีมาแต่โบราณ แต่สมัยนี้บางคนขี้เกียจตื่นหรือต้องเอาเวลาไปแต่งหน้า อยากฝากไว้ว่า ถ้าช่วงเช้าไม่ทันจริงๆ ถวายเพลหรือสังฆทานก็ได้ ใครที่กังวลเรื่องฤกษ์หรือเลือกฤกษ์สะดวกยิ่งควรมีการทำบุญ จะทำให้วันนั้นกลายเป็นฤกษ์ที่ดี ส่วนขั้นตอนอื่นๆ เป็นเรื่องของวัฒนธรรมและความเชื่อของแต่ละครอบครัว

“สำหรับการตกแต่งและรายละเอียดอื่นๆ นั้น เวดดิ้งแพลนเนอร์มักเลือกอะไรที่ดูสดใสสวยงามอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยแนะนำการ์ดที่มีรูโบ๋หรือรูทะลุตรงกลาง ถ้าจะฉลุเน้นตามขอบๆ ก็พอ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

สารพัดวิธีบอกรัก ตะล่อมคนข้างกายให้พูดคำว่า ‘รัก’ ให้เราให้ได้

หากรู้สึกว่าความรักไม่ค่อยหวานชื่นเพราะมีแฟนปากแข็ง กว่าจะได้ยินคำว่ารักแต่ละทีนั้นช่างยากเย็นเหลือเกิน ลองนำสารพัด วิธีบอกรัก พร้อมเทคนิคตะล่อมเขาให้พูดความในใจของ เราไปใช้กันดูสิคะ ถ้าแฟนคุณเขาไม่ได้เป็นใบ้ รับรองว่าต้องปริปากออกมาจนได้แหละค่ะ

แกล้งงอนให้ง้อด้วยคำรัก

เรียกว่าเป็นวิธีเบสิกที่บางครั้งก็เป็นสถานการณ์จริงๆ ไม่ได้แกล้งงอนแต่อย่างใด เพราะไม่ว่าจะเป็นสาวๆ หรือหนุ่มๆ ถ้าต้องเจอกับคุณแฟนปากแข็งก็ย่อมจะงอนตุ๊บป่องเป็นธรรมดา พองอนได้ที่เมื่อไหร่ก็ถึงคราวไล่บี้ให้เขาเอาคำรักซึ้งๆ มางอนง้อแล้วล่ะค่ะ แต่ต้องระวังหน่อยว่าอย่างอนมากจนเกินงาม เพราะถ้าเขาไม่ง้อขึ้นมาจะหน้าแตกเอาได้

แกล้งป่วยให้ช่วยดูใจ

ติ่งซีรีย์เกาหลีทั้งหลายคงจะรู้ดีว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลขนาดไหน เพราะคนเรามักจะเห็นอกเห็นใจกันในยามป่วยไข้นี่แหละค่ะ ลองแกล้งป่วยเบาๆหรือถือโอกาสตอนป่วยจริงก็ได้ ออดอ้อนออเซาะขอกำลังใจเป็นความในใจหวานๆ จากเขา ถ้าป่วยขนาดนี้แล้วเขายังไม่รีบเอ่ยปากบอกรักก็ใจแข็งเกินไปหน่อยแล้วล่ะค่ะ

แกล้งสตรองให้คิดหนัก

ถ้าอยากเอาชนะคนปากแข็งให้ได้ ลองใช้วิธีแข็งใส่ดูสิคะ แสดงให้เขาเห็นไปเลยว่าคุณสตรองนะไม่มีเขาคุณก็อยู่ได้ มัวปากแข็งอยู่นักใช่ไหม ถ้าคุณเชิดใส่เมื่อไหร่ ระวังจะเสียใจไม่รู้ตัว ทีนี้แหละค่ะเขาจะเริ่มคิดหนักแล้วว่ากลัวจะเสียคุณไป และรีบทำอะไรสักอย่าง ซึ่งสิ่งแรกที่เขาควรจะทำและทำได้ก็คือเผยความในใจให้คุณรู้ยังไงล่ะค่ะ

พูดก่อนให้พูดกลับ

หากถามเขาฝ่ายเดียวแล้วยังเงียบเป็นเป่าสาก ลองใช้วิธีเผยใจให้เขารู้ก่อนสิคะ เชื่อว่าน่าจะโดนใจสำหรับสาวๆ หนุ่มๆ ที่รักความแฟร์ คุณพูดไปเขาก็พูดกลับ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ แถมยังได้รู้ความในใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ต้องเก็บเอาไว้ให้ค้างคาใจกันเสียเปล่าๆ

พูดสิ…มีรางวัลให้

สำหรับบางคนอาจขาดแรงจูงใจในการเผยความในใจ ดังนั้นลองใช้วิธีหลอกล่อด้วยของรางวัลสิคะ ซึ่งของรางวัลที่ว่านั้นไม่จำเป็นต้องเป็นข้าวของเสมอไป อาจจะเป็นไออุ่นจากอ้อมกอดหรือหอมแก้มฟอดใหญ่ๆ ก็ได้ เรียกว่าของรางวัลล่อตาล่อใจขนาดนี้ คุณอาจจะได้ฟังคำรักหวานๆ กันจนหูชาเลยทีเดียว

ถ้าไม่พูดจะเดินจากไปแล้วนะ

ถ้าต้องเจอกับคุณแฟนที่ปากแข็งเสียยิ่งกว่าหิน คงถึงคราวต้องยื่นคำขาดตามตำราสายโหดกันแล้วล่ะค่ะ ประมาณว่า “ถ้าไม่ยอมเผยความในใจเสียที ฉันคงต้องเดินจากไปแล้วนะ” บอกกันตรงจัดชัดเจนขนาดนี้ ถ้าเขายังไม่สนใจใยดี ก็เตรียมเซย์กู๊ดบายได้เลย

หลอกให้พูดแบบเนียนๆ

อีกหนึ่งวิธีตะล่อมแบบบ้านๆ ที่ได้ผลมาแล้วนักต่อนัก โดยในระหว่างที่เขากำลังทำอะไรอยู่อย่างเพลินๆ หรือคุยกันจนเคลิ้ม ก็ปฏิบัติการแบบเนียนๆ เลย เช่น โชว์ของบางอย่างแล้วถามเขาว่าน่ารักไหม ถ้าเขาตอบว่าน่ารักก็ถามต่อทันทีว่า น่ารักแล้วรักไหมล่ะ โดนมุกนี้เข้าไป รับรองว่าเขาต้องตั้งตัวไม่ทันจนเอ่ยปากบอกว่ารักออกมาแน่นอน

ถ้าเขาบอกรักแล้วก็มาอ่านเรื่องนี้กันต่อเลย >> เทคนิค เติมความหวาน ง่ายๆ แบบน้ำตาลเรียกแม่ที่คู่รักต้องทำ <<

เคล็ดลับเสริมเฮง ทำบุญเสริมรัก แบบนี้สิ รับรองแม่สามีทั้งรักทั้งหลงชัวร์

ทำบุญเสริมรัก นอกจากจะเป็นการทำบุญเสริมดวงชีวิตแล้ว แม่สามียังรักอีกด้วย

สาวทั้งโสดและไม่โสดคงมีอาการหวั่นใจอยู่ลึกๆ ว่าชีวิตนี้ฉันจะต้องเจอปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้แบบในละครไทยหรือเปล่า วันนี้เราจึงหาหนทาง ทำบุญเสริมรัก ให้เกื้อหนุนความเอ็นดูให้แม่ผัวเลิฟ กับ 11 บุญพึงทำ ดังต่อไปนี้

1. ถวายผ้าจีวร

การถวายผ้าจีวรแด่พระสงฆ์ นอกจากจะทำให้ผิวพรรณผ่องใสไม่ต้องเสียเงินรักษาสิวฝ้ากระให้สิ้น และที่สำคัญจะทำให้เป็นที่ยอมรับของทุกคน ซึ่งแน่นอนว่าตอนถวายอย่าลืมอธิษฐานขอให้แม่ผัวยอมรับในตัวคุณ แถมทิ้งท้ายไว้อีกนิดว่า การถวายผ้าจีวรจะทำให้ฟันฝ่าอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย

2. ไหว้พระพุทธรูปด้วยจิตศรัทธา

อานิสงส์ผลบุญจากการไหว้พระด้วยศรัทธาจากก้นบึ้งของหัวใจเนี่ย จะทำให้เป็นที่เคารพนับถือ แต่อย่าไปคิดให้ขุ่นแม่มานับถือนะคะ ประเด็นอยู่ตรงนี้ว่า จะทำให้ชีวิตครอบครัวสุขสบาย ไร้ศัตรูมากวนใจ คุณแม่ที่กำลังวางแผนประหัตประหารลูกสะใภ้ตาดำๆ ต้องชะงักและเห็นในคุณงามความดีที่กวางน้อยอย่างเราๆ ได้เพียรทำมา

3. การทำบุญด้วยการสร้างสะพาน

ทำบุญด้วยการสร้างสะพาน ถือเป็นบุญใหญ่ ในยามยากก็จะมีคนเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นขุ่นแม่สามีที่กางปีกปกป้องหญิงสาวตัวเล็กๆอย่างเรา อีกทั้งยังได้รับรับความรัก ไม่ใช่แค่จากขุ่นสาเท่านั้น แต่รวมไปถึงแม่ผัวด้วยที่จะทั้งรัก ทั้งหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว ข้อสำคัญคือ ความรักจะมั่นคงและแข็งแกร่งมาก ดุจสะพานเสริมใยเหล็กยังไงอย่างนั้น

4. ถวายเชิงรองก้นบาตร

ถวายเชิงรองก้นบาตร จะทำให้มีผู้อุปถัมภ์ค้ำจุน และแน่นอนว่าในบ้านสามีที่เราไปอยู่ คนที่จะค้ำจุนเราได้ดีที่สุดก็แม่สามีไงค่ะ ถวายเชิงรองก้นบาตรไว้ขุ่นแม่จะได้เกื้อหนุน ไม่ปล่อยทิ้งคุณลูกสะใภ้ไว้กลางทะเลให้ต้องเปล่าเปลี่ยวเอกา ยามมีปัญหากับลูกชายคุณแม่ท่านจะได้เป็นเพื่อนคู่คิด มิให้เราต้องก้าวพลาด

5. ปิดทององค์พระ

การปิดทององค์พระส่วนใหญ่จะเน้นผลทางด้านทรัยพ์สิน ส่วนผลพลอยได้ที่คาดไม่ถึงเนี่ยก็คือเรื่องของคนรอบข้างที่จะแบบว่ารักใครชื่นชม จะทำอะไรก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย เพราะงั้นยามปิดทองคราใดก็นึกถึงหน้าขุ่นแม่สามีเข้าไว้นะคะ ท่านจะเอ็นดูและเออออห่อหมก

6. ถวายสายโยก

ผู้ที่ทำบุญด้วยสายโยก หรือสายถลกบาตรสำหรับคล้องไหล่ โบราณท่านว่าจะเป็นผู้มีสติตั้งมั่น ไม่หวั่นกับปัญหาต่างๆ ซึ่งอันนี้เหมาะมากกับผู้ที่มีแนวโน้มจะได้แม่สามีที่ขยันสร้างปัญหา กระซิบให้รู้อีกอย่างว่าทำบุญด้วยสายโยกเนี้ย ยังจะทำให้คะแนนความเอ็นดูจากคนรอบกายพุ่งขึ้นอีกด้วยนะ

7. ถวายน้ำยาดับกลิ่นปาก

อันนี้ไม่ได้แก้ปัญหาปากเหม็นแต่อย่างใด  แต่จะช่วยให้มีคำพูดคำจาถูกจริตคนฟังมากขึ้น โดยเฉพาะกับคุณแม่ที่กำลังเปิดศึกก็จะเปลี่ยนมาหยอดคำหวาน ดลบันดาลให้ชีวิตรักก็ปลอดโปร่งไร้อุปสรรค

8. ทำบุญด้วยดอกธูปเทียน

ยามที่ถวายดอกไม้ขอให้ตั้งใจหนักๆ เพราะเขาบอกว่านอกจากจะทำให้รูปร่างหน้าตาสวยงามแบบไม่ต้องพึ่งหมอที่เกาหลี แล้วยังทำให้คนทุกเพศ ทุกวัยยอมรับแบบไม่มีข้อกังขา เพราะงั้นต่อไป ถวายดอกไม้ครั้งใด ก็อย่าลืมตั้งจิตคิดถึงคุณแม่สามีในอนาคตนะจ๊ะ

9. ถวายกรรไกรตัดเล็บ

บอกเลยว่าถวายสิ่งนี้แล้วโอสุดๆ ทำให้ชีวิตเจอเรื่องดีๆ บริสุทธิ์ผุดผ่อง ผ่องแผ้วนพคุณ ไปอีก และยังจะได้รับความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ ซึ่งโตจนแต่งงานแล้ว จะอยากได้ความเอ็นดูจากผู้ใหญ่คนไหนมากที่สุดละคะ ถ้าไม่ใช่แม่สามี จริงม่ะ เพราะงั้นไปหาซื้อกรรไกรตัดเล็บมาถวายให้ไวเลย

10. ถวายตู้ใส่พระไตรปิฎก

เขาบอกว่าจะช่วยให้ไม่โดดเดี่ยวอยู่กลางบ้านทรายทอง แต่ที่เน้นหนักๆคือ เป็นการเสริมเสน่ห์ ให้มีความหมดจดทางรูปร่างน่าตา ใครเห็นใครก็รัก งานเนี้ยถวายตู้พระไตรปิฎกเมื่อไหร่ได้หลงกันตั้งแต่สามียันแม่สามีเลยล่ะคร้า

11. ถวายผ้าคลุมองค์พระ

สาวใดที่ถวายผ้าคลุมองค์พระบอกเลยว่าจะอุดมไปด้วยเครื่องประดับ เสื้อผ้า ยันแก็ดเจตต่างๆ และยังเป็นที่รักใคร่ของผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ต้องถูกแม่สามีจิกหัวใช้เป็นสะใภ้ก้นครัว และยังจะได้รับความเกรงใจจากบรรดาญาติพี่น้องของสามีสุดที่เลิฟอีกด้วย

อ่านครบ 11 อย่าง แล้ว ต้องรีบไปหามาถวายพระท่านอย่างด่วนๆ ถือเป็นการสะสมบุญ จะได้ไม่ต้องเผชิญปัญหาปวดหัวนะจ้ะ แต่ถ้าอยากเจอคู่แท้หรือได้เกิดมาคู่กันอีกก็ต้อง >>>วิธีการการทำบุญให้เจอคู่แท้

 ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.tlcthai.com

4 ไอเดียงานแต่งสุดน่ารักแถมแขกยังนำกลับบ้านได้ด้วย

ว่าที่บ่าวสาวทุกคู่ก็อยากจะจัดงานแต่งงานให้ออกมาดูดีเป็นที่ประทับใจของแขก หลายคู่จึงพยายามผุด ไอเดียงานแต่ง เพื่อมาเติมสีสันภายในงาน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา แพรว wedding เลยขอนำเสนอไอเดียงานแต่งเก๋ๆ ที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งภายในงาน และแขกยังสามารถนำกลับบ้านไดด้วย

 

เครื่องหยอดขนม

ย้อนอดีตวัยหวานด้วยเครื่องหยอดขนมที่เหมาะกับธีมงานแต่งสไตล์วินเทจสุดๆ แถมบ่าวสาวยังสามารถครีเอทการใช้งานเจ้าเครื่องนี้ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การใส่ขนมเอาไว้ให้แขกได้มาหมุนทานแบบเพลินๆ หรือจะออกแบบของชำร่วยสุดเก๋ที่สามารถใส่ไว้ในเครื่องนี้ได้ แล้วให้แขกได้เสี่ยงทายด้วยการหมุนด้วยตัวเอง ก็เป็นกิมมิกน่ารักๆ ที่น่าจะสร้างรอยยิ้มให้กับแขกได้ไม่น้อยเลยนะ

 

รองเท้าแตะ

หากบ่าวสาวจัดงานแต่งงานในสวนหรือริมทะเล เราขอให้ลิสต์สิ่งนี้เอาไว้ด้วย เพราะด้วยพื้นที่ของงานที่อาจจะไม่เหมาะหากสาวๆ ต้องใส่รองเท้าส้นสูง หรือหนุ่มๆ ที่ต้องใส่รองเท้าแบบทางก๊ารทางการ ยิ่งในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ด้วยแล้ว ก็ต้องสนุกให้สุดเหวี่ยงแบบไม่มีอะไรมาเป็นอุปสรรค เพราะฉะนั้น รองเท้าแตะ จะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ให้กับแขกได้เป็นอย่างดี แถมยังใช้แจกเป็นของชำร่วยไปในตัวได้อีกด้วย

 

บาร์ของหวาน

ถ้าธีมงานแต่งงานของบ่าวสาวเป็นแนวหวานแบบน้ำตาลเรียกพี่ เราขอให้คุณหามุมดีๆ สักมุมแล้วเพิ่ม บาร์ของหวานเก๋ๆ เอาไว้ด้วย เพราะนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งงานได้แล้ว หากแขกมาถึงก่อนที่อาหารจะเสิร์ฟ มุมนี้ก็ถือได้ว่าเป็นมุมที่จะช่วยรองท้องและเรียกน้ำย่อยให้แขกได้เจริญอาหารเป็นอย่างดี โดยอาจจะเลือกของหวานให้มีความหลากหลายและมีดีไซน์ที่น่ารัก และหากกลัวว่าของหวานจะเหลือก็อย่าลืมวางถุงแบบ take away ให้แขกไว้ด้วยนะ

 

ป๊อปคอร์น

อาหารว่างที่สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย จะทานก่อนงานเริ่มก็ได้ หรือจะจัดไว้ในช่วงปาร์ตี้ไว้ทานคู่กับเครื่องดื่มก็เวิร์ค แล้วอย่าลืมมองหาแพ็คเกจจิ้งอย่างถุงกระดาษน่ารักๆ ไว้ด้วยนะ หรือถ้าใจป้ำกว่านั้นก็ลองจัดหาท็อปปิ้ง อย่าง ผงปาปริก้า ชีส หรือคาราเมลไว้ให้แขกได้เลือกทานตามรสชาติที่แต่ละคนชอบ

>> ดูไอเดียและคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพ pexels.com

ไอเดียจับคู่เค้กแต่งงาน ให้เหมาะกับทุกธีมงานและสถานที่งานแต่ง

หลายครั้งที่การเลือก เค้กแต่งงาน มักจะรวมอยู่ในเช็คลิสต์ของว่าที่บ่าวสาว ซึ่งหลายคู่ก็เลือกให้ความสำคัญในเรื่องดีไซน์เป็นหลักว่าต้องสวย เก๋ ดูดี เป็นที่ประทับใจของผู้พบเห็น

แต่ก่อนที่จะไปเลือก เค้กแต่งงาน กัน หากว่าที่บ่าวสาวอยากให้ภาพรวมของงานแต่งออกมาดูดี ไม่สะดุดตรงส่วนใดส่วนหนึ่งว่า เอ๊ะ! อันนี้ดูไม่เข้าพวก ก็อย่าลืมใส่ใจการเลือกเค้กแต่งงานให้เข้ากับธีมงานหรือสถานที่ด้วย โดยเฉพาะบ่าวสาวที่เลือกใช้เป็นเค้กแต่งงานจริงทั้งหมด เพราะวัตถุดิบบางอย่างอาจไม่เหมาะกับสถานที่แต่งงานของบ่าวสาว เช่น เค้กแต่งงานแบบฟองดองท์ เหมาะกับงานแต่งงานกลางแจ้ง เพราะเป็นเค้กเคลือบน้ำตาลที่ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เป็นต้น

แพรว wedding เลยรวมเค้กแต่งงานหลากดีไซน์ที่เหมาะกับหลายธีมงานและสถานที่แต่งงานมาฝาก จะทำเป็นเค้กแต่งงานจริงก็ได้ หรือเค้กแต่งงานปลอมก็ดีมากบอกเลย!

เค้กแต่งงานในสวน

แน่นอนว่าแต่งงานในสวน เค้กแต่งงานก็ต้องมีดีเทลของใบไม้และดอกไม้เป็นหลัก ซึ่งด้วยบรรยากาศของงานแต่งในสวนที่ชอุ่มไปด้วยสีเขียว การเลือกเค้กแต่งงานสีขาว แล้วประดับดอกไม้สีสันสดใสจะช่วยให้เค้กแต่งงานของบ่าวสาวดูโดดเด่น และถ่ายภาพออกมาได้อย่างสวยงาม


เค้กแต่งงานท่ามกลางขุนเขา

งานแต่งงานแบบเอ๊าท์ดอร์ เป็นเทรนด์งานแต่งในปี 2019 เพราะฉะนั้นคงไม่แปลกหากบ่าวสาวจะจัดงานแต่งท่ามกลางบรรยากาศของขุนเขาหรือบนยอดดอย ซึ่งในเมืองไทยก็มีสถานที่อันสวยงามที่รอให้บ่าวสาวไปสร้างความโรแมนติกอยู่มากมาย ส่วนเค้กแต่งงานที่เหมาะกับสถานที่แต่งงานแบบนี้ ก็ต้องเป็นเค้กแต่งงานที่ตกแต่งด้วยกิ่งไม้ ใบไม้แห้ง หรือดอกไม้ในเฉดสีร้อนแบบฤดูใบไม้ร่วง จะช่วยเสริมบรรยากาศงานแต่งงานให้ดูโรแมนติกมากยิ่งขึ้น


เค้กแต่งงานแบบริมทะเล

เรียกได้ว่าเป็นสถานที่แต่งงานในฝันของหลายคู่ เพราะฉะนั้นเค้กแต่งงานก็ต้องดีไซน์ให้เข้ากับสถานที่ด้วย เช่น เค้กแต่งงานสีฟ้าเข้ากับผืนฟ้าและท้องทะเล ตกแต่งด้วยเปลือกหอย ปลาดาว หรือปะการัง เป็นต้น หรือถ้าอยากให้ดูเก๋หน่อย อาจเติมดีเทลอย่างนกฟลามิงโก ที่สื่อถึงอารมณ์ของฤดูร้อนและท้องทะเล หรือจะเลือกตกแต่งเค้กด้วยลวดลายแบบรีสอร์ทสไตล์แบบมาราเกชก็เริด


เค้กแต่งงานในร้านอาหาร

หากสถานที่แต่งงานของบ่าวสาวไม่ใช่โรงแรมหรู แต่เป็นสถานที่แต่งงานทางเลือก หรือร้านอาหารเก๋ๆ เค้กแต่งงานก็ต้องดีไซน์เริดไม่แพ้กัน โดยเน้นเป็นเค้กแต่งงานขนาดเล็กที่ไม่ต้องโอเวอร์ไซส์มาก เน้นการตกแต่งแบบเรียบง่าย ดีไซน์เก๋ไก๋ให้เข้ากับธีมงาน แนะนำให้เลือกเป็นเค้กแต่งงานจริงทั้งหมด เพราะเมื่อจบงานแล้วจะได้ตัดแบ่งให้แขกในงานได้ทาน เป็นการสร้างความอบอุ่นให้งานไปอีก

>> ดูไอเดียและคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

เคล็ดลับรักทางไกล รักยังไงให้แฮปปี้ ถึงไกลแค่ไหนรักยังอยู่ดี

ขอบอกก่อนเลยค่ะว่า จุดเริ่มต้นของบทความ รักทางไกล จากแพรวเวดดิ้งนี้มาจากการท่องโลกอินเทอร์เน็ตและพบเห็นหนุ่มๆ สาวๆ หลายคนชอบตั้งกระทู้ว่า “อยู่ไกลกับแฟนจะดูแลความสัมพันธ์อย่างไรดี” บางคนก็โอดครวญว่าความรักไปไม่รอดเพราะรักแท้แพ้ระยะทาง รักแท้แพ้ความห่างไกล รักแท้แพ้คนใกล้ชิด และอีกสารพัดความพ่ายแพ้ของ “รักระยะไกล” แต่แม้จะรักกันแบบไกลๆ ก็มีวิธีดูแลให้รักยังดีอยู่ได้ค่ะ เชื่อเรา!

1. อัพเดตเรื่องราวของกันและกันทุกวัน

ยุคนี้มันยุคเทคโนโลยีครองโลกนะคะทุกคน เพราะฉะนั้นต่อให้อยู่ไกลกันขนาดไหนก็ยังเห็นหน้าและได้ยินเสียงกันสบายมาก ไม่ว่าจะเฟสไทม์ วิดีโอคอล ไลน์ เฟซบุ๊ก และแอพพลิเคชั่นอีกหลายอย่างที่จะเป็นตัวช่วยให้คุณและคนรักได้แบ่งปันเรื่องราวที่ตัวเองพบเจอในแต่ละวันมาเล่าให้กันและกันฟัง แบบนี้ก็สามารถช่วยย่นระยะความห่างไกลและความคิดถึงได้เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้ “คุยกันทุกวัน” ดีกว่านะ

2. เข้าใจในช่วงเวลาของกันและกัน

สำหรับคู่รักที่อยู่กันคนละประเทศ คนละทวีป และช่วงเวลาไม่ตรงกัน ขอแนะนำว่าให้ทำข้อตกลงเรื่องเวลากันให้ดีว่า จะโทรหากันตอนไหน คุยกันตอนกี่โมง เรื่องนี้สำคัญค่ะ เพราะบางคู่ที่อยู่กันคนละทวีป ไทม์โซนตรงข้ามกัน เช่น ตัวคุณอยู่ไทยแต่แฟนอยู่อเมริกา ระยะเวลาห่างกันตั้ง 12 ชั่วโมง แบบนี้ควรตกลงเวลาที่จะนัดคุยกันให้ดี เอาที่คุณและคนรักสะดวก เราเคยเจอมาว่ามีบางคนถึงกับต้องตั้งนาฬิกาปลุกตอนตีสองทุกคืนเพื่อตื่นมาคุยโทรศัพท์กับคนรักเลยนะ น่านับถือในความรักจริงๆ ค่ะ

3. ไม่โกหกกันคือเรื่องสำคัญ

ถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีช่วยย่นระยะทางแล้ว แต่ปัญหาทางใจก็ยังเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ คู่รักส่วนใหญ่ที่อยู่ไกลกันมักจะทะเลาะกัน เช่น ฝ่ายหญิงไม่พูดความจริง เพราะคิดว่าอยู่ไกลกันขนาดนี้ฝ่ายชายคงไม่รู้เรื่องอะไรหรอก ขอบอกไว้เลยนะคะว่าห้ามคิดแบบนี้เด็ดขาด ถ้าเกิดเขาจับได้ขึ้นมา รับรองว่าความรักจะไม่ราบรื่น ต้องมานั่งระแวงระวังกันไม่มีที่สิ้นสุด เพราะฉะนั้นพูดความจริงเป็นทางที่ดีที่สุด ถ้าจะออกไปสังสรรค์ปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงก็บอกตรงๆ ไปเลย ไม่ต้องอ้างเรื่องอื่นหรือโกหกเรื่องไหน

4. เชื่อใจและไม่คิดมาก

ข้อนี้ก็สำคัญไม่น้อยกว่าข้อข้างบนนะคะ เพราะในเมื่อเขาหรือเธอเลือกที่จะพูดความจริงแล้ว คุณก็ต้องเชื่อใจและอย่าไปคิดมากให้ฟุ้งซ่าน ไม่เช่นนั้นตัวคุณเองนั่นแหละที่จะกระวนกระวายใจจนไม่เป็นอันทำอะไรอย่างอื่น เพราะฉะนั้นแค่รับรู้ว่าเขาไปทำอะไร ที่ไหน กลับเมื่อไหร่ ก็ดีกว่าคอยตามคอยจิกจนเขาไม่บอกอะไรให้เรารู้เลย แบบนี้ความรักคงไปไม่รอดแน่ๆ

5. หมั่นเติมความหวานให้กันบ้าง

คู่รักหลายคู่อาจเกิดคำถามว่า “อยู่ไกลกันจะเติมความหวานให้กันอย่างไร” เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เพราะคุณก็สามารถทำเซอร์ไพร้ส์หรือเติมความหวานให้กันได้ ด้วยการส่งของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไปให้ เช่น จดหมายแห่งความคิดถึง ก็เป็นอีกหนึ่งของขวัญที่ยังคลาสสิกทุกยุคทุกสมัย หรือจะเป็นของขวัญทำมือ การ์ดวันเกิด การ์ดปีใหม่ หรือไปพบเจออะไรที่แฟนคุณชอบหรือสิ่งของน่ารักๆ ก็ซื้อส่งไปให้เขาก็ได้เช่นกัน

6. ส่งเพลงเพราะๆ ซึ้งๆ แทนความคิดถึง

ข้อนี้ถือเป็นข้อ recommend เลยนะคะ เพราะว่าเพลงสำหรับคนรักที่อยู่ไกลกันเนี่ยเยอะมากกก! แถมแต่ละเพลงความหมายก็กินใจสุดๆ ใช้เป็นตัวแทนความคิดถึงและความห่วงใยได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเพลง หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ (เวอร์ชั่นออริจินัลก็ไพเราะอมตะ แต่ถ้าอยากเปลี่ยนเมโลดี้เบาๆ ขอแนะนำเวอร์ชั่นวง sofa ค่ะ), ห่างไกลเหลือเกิน (บอย โกสิยพงษ์), อดทนกับความเหงา (วง Klear), ไกล (Musketeers), อยากเจอ (วง Blue Shade), มองได้แต่อย่าชอบ (ลุลา), ห่างไม่ไกล (ลุลา), ประตูวิเศษ (มิ้น สวรรยา), กระโดดกอด (วง Klear), และอีกหลายเพลง รับรองว่าคนฟังต้องนั่งยิ้มแก้มปริแน่นอน

7. มีเวลาก็มาหากัน

การใช้เวลาอยู่ด้วยกันก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญค่ะ แต่ด้วยความที่คุณทั้งคู่ไม่ได้อยู่ใกล้กันหรือใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากเหมือนคู่อื่นๆ เพราะฉะนั้นถ้ามีวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดยาวๆ ก็อย่าลืมนัดมาเจอกันนะคะ ได้จูงมือเดินเที่ยว โอบกอด และทำกิจกรรมด้วยกันบ้าง ความรักจะได้สดชื่นหวานฉ่ำอยู่เสมอ

ส่วนใครที่อยู่ไกลโพ้นคนละทวีป คงต้องขยันเก็บเงินค่าตั๋วเครื่องบินกันหน่อยนะคะ หรือจะนัดเจอกันคนละครึ่งทาง (ประเทศที่อยู่ตรงกลาง) ก็ดีนะ ได้เที่ยวต่างประเทศเพิ่มความโรแมนติกพร้อมกับซ้อมฮันนีมูนไปในตัว

“Distance means so little when someone means so much…ระยะทางไกลจะไร้ความหมาย หากว่าใครคนนั้นมีความหมายมากกว่า” ประโยคสุดฮิตจากโลกโซเชียลสำหรับคนที่มีรักระยะไกลที่เราไปเจอมา เลยปิ๊งความคิดขึ้นมาว่า ถ้าคนๆ นั้นเป็นคนที่สำคัญสำหรับคุณจริงๆ เป็นคนที่คุณรักจริงๆ ก็ขอให้คุณมั่นคงในความรักเข้าไว้ แล้วเชื่อเถอะค่ะว่า “รักแท้จะไม่แพ้อะไรทั้งนั้น”

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

cr : consciousreminder.com

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว อีกหนึ่งดีเทลชุดแต่งงานที่น่าหลงใหล

สร้างลุคเจ้าสาวให้ดูมีเสน่ห์น่าค้นหาด้วย ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว ที่เจ้าสาวต้องหลงรัก <3

เมื่อนึกถึงชุดแต่งงานแนวเซ็กซี่หรือเย้ายวนนิดๆ ว่าที่เจ้าสาวหลายคนก็อาจจะนึกถึงชุดแต่งงานแบบเกาะอก ชุดแต่งงานแบบเว้าหลัง หรือชุดแต่งงานแบบซีทรู แต่…ยังมีชุดแต่งงานอีกหนึ่งสไตล์ที่ว่าที่เจ้าสาวหลายคนอาจจะมองข้ามไปนั่นก็คือ ชุดแต่งงานแขนยาว ซึ่งระยะหลังมานี้หากว่าที่เจ้าสาวสังเกตจะเห็นได้ว่าบรรดาดีไซเนอร์ต่างงัดไม้เด็ดมาเติมกิมมิกให้แขนเสื้อมีความเซ็กซี่กว่าที่เคยในโลกของแฟชั่นชุดแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็น ดีเทลชุดแต่งงานแบบเปิดไหล่ที่เน้นผ้าลูกไม้ช่วงแขนอันสวยงาม หรือ ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว ที่เต็มไปด้วยอิลิเม้นต์อันน่าประทับใจ

ชุดแต่งงานสไตล์แบบเปิดไหล่

เปลี่ยนสไตล์ชุดแต่งงานแบบเปิดไหล่ให้ดูน่าสนใจกว่าเดิม ด้วยการเสริมความหวานปนความเย้ายวนนิดๆ ด้วยสไตล์ชุดแต่งงานเปิดไหล่แบบมีแขน แล้วเสริมดีเทลที่น่าสนใจด้วยผ้าลูกไม้สวยหรู อีกหนึ่งลุคชุดแต่งงานที่ให้กลิ่นอายเซ็กซี่แต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิคตามแบบฉบับเจ้าสาว

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว

เสริมความระยิบระยับให้สวยหรู

เพิ่มความหรูหราให้ชุดแต่งงานมีลูกเล่นขึ้นอีกหนึ่งระดับ ด้วยการประดับลูกปัดหรือกลิตเตอร์ในรูปทรงต่าง หรือลวดลายต่างๆ ที่แตกต่างและมีสไตล์กว่าเดิม รับรองว่าลุคนี้จะช่วยให้เจ้าสาวสวยหรูดูแพงแบบไม่ต้องพยายาม

เสริมลูกไม้ให้ดูเซ็กซี่

สร้างเลเยอร์ให้ชุดแต่งงานดูเย้ายวนน่าค้นหาด้วยเทคนิคการใช้ผ้าลูกไม้แบบผ้าซีทรู เช่น อาจจะเลือกเป็นชุดแต่งงานแบบเกาะอก ที่มีซิลลูเอทของผ้าลูกไม้สวยหวานสไตล์คอปาด ที่สามารถแมตช์ให้เข้ากันได้อย่างน่าหลงใหล แถมเป็นสไตล์ชุดที่ดูดีมีสไตล์จะใส่งานเช้าก็ได้ หรือใส่งานเย็นก็ดี

แต่ถ้าคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวสายโมเดิร์นที่ต้องการลุคแบบเรียบหรูกึ่งมินิมอลนิดๆ ก็อาจจะเลือกเป็นชุดแต่งงานแบบเรียบง่าย แล้วเสริมด้วยลูกไม้ดีไซน์เก๋ๆ เท่านี้ก็ช่วยให้ชุดแต่งงานที่ดูเรียบนั้นโดดเด่นขึ้นมาทันที

ชุดแต่งงานแบบสองชิ้น

แตกต่าง โดดเด่นไม่ซ้ำใคร และมีสไตล์เป็นของตัวเอง ด้วยชุดแต่งงานแบบสองชิ้น โดยช่วงบนเน้นเป็นเสื้อแขนยาวแบบซีทรู แล้วแมตช์ด้วยกระโปรงดีไซน์เรียบง่ายที่เข้ากับรูปร่างของคุณ เท่านี้ก็เป็นอันสวยเริดแบบตะลึงทั้งงาน!!

คราวนี้ว่าที่เจ้าสาวก็สวยหวานซ่อนเปรี้ยวกับดีเทลแขนเสื้อชุดแต่งงานที่เรานำมาฝากกันได้แล้วเนอะ แต่ถ้ายังดูกันไม่จุใจ ตามไปส่องชุดสวยๆ กันต่อได้ใน >> 30 ชุดแต่งงานแขนยาวสุดสง่า

ภาพ www.stylemepretty.com

10 ขั้นตอนสู่ภารกิจขอสาวแต่งงาน แค่ทำตามนี้เธอก็พร้อมเซย์เยส

เรียนรู้กันมาพอสมควรแล้วว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำในภารกิจ ขอสาวแต่งงาน คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนการปฏิบัติกันบ้าง สำหรับหนุ่มๆ ที่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี ทำตาม 10 ขั้นตอนนี้ได้เลยจ้า

1. สืบว่าเธอชอบแหวนแบบไหน

1

อันดับแรกต้องรู้ก่อนว่าเธอชอบแหวนแบบไหน เพราะผู้หญิงบางคนก็เอาใจย้ากยาก แถมแหวนก็มีให้เลือกหลายแบบเหลือเกิน จะแหวนเงิน แหวนทอง หรือแหวนทองคำขาว จะเพชรกี่เม็ด กี่กะรัต ถ้าหนุ่มๆ ต้องเลือกเองอาจจะเกิดอาการปวดเศียรเวียนเกล้าหรือไม่ถูกใจเธอก็เป็นได้ ยังไงให้ลองหลอกถามเธอดูก่อน หรือถ้ากลัวว่าแผนจะแตก ลองสืบจากเพื่อนหรือพี่น้องของเธอก็ได้นะ

2. เตรียมบัดเจ็ทให้พร้อม

2

เมื่อเลือกได้แล้วว่าแหวนวงไหนจะถูกใจเธอ ต่อไปก็ต้องเตรียมสตางค์ในกระเป๋าให้พร้อม ก็อย่างที่ทราบกันดีว่ายิ่งงามมากก็ยิ่งมีมูลค่าสูง ยังไงหนุ่มๆ ก็ต้องแบ่งสรรปันส่วนให้ดี เอาที่เหมาะและสบายใจ เพราะเชื่อเถอะว่าความจริงใจนั้นสำคัญกว่ามูลค่าแน่นอน

3. สืบขนาดแหวนที่พอดีกับนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ

3

อย่าลืมขั้นตอนนี้เด็ดขาด เพราะขนาดแหวนที่พอดีกับนิ้วนางข้างซ้ายจะทำให้สาวของคุณฟินขึ้นอีกเท่าตัว เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและพิถีพิถันของคุณ ถ้าไม่รู้ว่าจะทราบขนาดแหวนของเธอได้จากไหน WE-MAG.COM แนะนำให้แอบเทียบขนาดนิ้วของเธอกับนิ้วของคุณ หรือแอบวัดขนาดจากแหวนที่เธอใส่ประจำก็ได้

4. ซื้อแหวนวงงามแล้วซ่อนมันให้ดี

4

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วทั้งแบบ บัดเจ็ท และขนาด ก็มุ่งหน้าไปซื้อแหวนวงงามมาไว้ได้เลย แต่เรื่องสำคัญมันอยู่ตรงที่ว่าคุณจะซ่อนมันไว้ที่ไหน อย่าให้เธอจับได้ว่าจะถูกขอแต่งงานเพราะดันมาเห็นแหวนที่คุณเตรียมไว้เชียวล่ะ

5. แจ้งให้พ่อแม่ของเธอทราบ

5

ขั้นตอนนี้อย่าคิดว่าไม่สำคัญ เพราะถือเป็นธรรมเนียมของคนไทยเลยล่ะค่ะที่ต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู จะขอลูกสาวเขาแต่งงานก็ควรขออนุญาตหรือบอกกล่าวให้พ่อแม่ของเธอทราบก่อน ทำอย่างนี้รับรองว่าได้ใจเธอไปเต็มๆ แน่นอน

6. เลือกสถานที่ขอแต่งงาน

6เพราะสถานที่สุดประทับใจจะทำให้การแต่งงานของคุณออกมาสมบูรณ์แบบ อาจเลือกเป็นสถานที่แห่งความทรงจำของคุณทั้งคู่ เช่น ที่ที่เจอกันครั้งแรก ที่ที่เธออยากไป ร้านอาหารร้านโปรด และที่สำคัญอย่าลืมคำนึงถึงเรื่องความพลุกพล่านของผู้คนด้วยนะคะ เพราะถ้าเป็นสถานที่ที่ผู้คนพลุกพล่านจนถึงขั้นหนาแน่น ความโรแมนติกที่คุณฝันไว้อาจกลายเป็นความชุลมุนวุ่นวายแทน

7. เสื้อผ้าหน้าผมต้องพร้อม

7

แหวนก็มีแล้ว สถานที่ก็เล็งไว้แล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมตัวเองให้หล่อเหลากันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม แต่ขอเตือนนิดนึงนะคะว่า อย่าทำตัวให้หล่อมากจนดูผิดปกติ เพราะเธออาจจับได้เสียก่อน

8. ร่างคำพูดสุดประทับใจ

8

คิดไว้เลยนะคะว่าจะพูดอะไรกับเธอบ้าง เพราะถ้อยคำหวานๆ จะทำให้เธอตัดสินใจเซย์เยสได้ง่ายขึ้น เราแนะนำว่าควรร่างคำพูดไว้แล้วท่องให้แม่น หรือถ้ากลัวพลาดจะจดใส่กระดาษแล้วอ่านต่อหน้าเธอก็ได้ เพราะพอถึงวันจริงคุณอาจตื่นเต้นจนลืมไปหมดทุกสิ่งอย่าง

9. อย่าลืมเตรียมแผนสำรอง

9

เมื่อคุณเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วก็อย่าลืมเตรียมแผนสำรองเอาไว้ด้วย เพราะเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นจู่ๆ ฝนก็ตกลงมา หรือเธอจับได้ซะก่อน ยังไงลองคิดแผน 1 แผน 2 เผื่อไว้หน่อยก็ดีนะคะ

10. คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ

10ขอบอกเลยว่าขั้นตอนนี้แหละที่จะทำให้การขอแต่งงานของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด ใครจะหาว่าน้ำเน่าก็อย่าได้แคร์ เพราะหนุ่มๆ รู้ไหมคะว่า การโดนคุกเข่าขอแต่งงานเป็นความโรแมนติกที่สาวๆ ทั้งหลายใฝ่ฝันเลยล่ะค่ะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.mensfitness.com
ภาพเปิด : wallpaperswide.com

ขาย? เก็บ? บริจาค? ทำแบบไหนดีกับชุดเจ้าสาวและข้าวของหลังแต่งงาน

หลังงานแต่งงานผ่านพ้นไป หลายคู่กลับต้องมานั่งคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรกับข้าวของที่ซื้อหามาตกแต่งในงาน รวมถึง ชุดเจ้าสาว ราคาแพงที่ไม่รู้จะเก็บไว้ตรงส่วนไหนของบ้าน ก็แหม…ไอ้ตอนที่หาซื้อมาถมใส่ในงานก็ไม่ได้คิด ว่าแต่งเสร็จจะไปไว้ไหนใช่ไหมล่ะ เพราะ ณ จุดนั้นงานแต่งของเราต้องสวยและดีดั่งฝัน เอาค่ะๆ ไม่เป็นไร ลองมาดูทางออกที่แพรวเวดดิ้งนำมาเสนอกันดีกว่า

  • ขายสิคะไม่ต้องรอราคาตก!!

“ชุดเจ้าสาวแสนสวย อย่างแรกเลยที่เราขอแนะนำให้ขายต่อทันทีที่งานเสร็จสิ้นคือ ชุดเจ้าสาวค่ะ ถ้าคุณมั่นใจว่าจะไม่เก็บไว้ให้ลูกให้หลานดูหรือแม้แต่ไม่รู้ว่าจะมีทายาทรับช่วงต่อไปใส่ไหม ก็ขายเถอะค่ะ เพราะอย่าลืมนะคะว่ารูปแบบของชุดเมื่อเวลาผ่านไปก็อาจไม่ได้รับความนิยมเช่นทุกวันนี้ รวมไปถึงถ้าคุณเก็บไว้ไม่ดี ลูกไม้ที่เคยสวยจะผุพังไปตามกาลเวลาไหม หรือแต่วัสดุตกแต่งอย่างเลื่อมหรือลูกปัดจะคงสภาพได้นานสักแค่ไหนเชียว แต่ถ้าคุณตัดสินใจขายไปในวันนี้ ไม่ว่าจะขายทางออนไลน์หรือฝากร้านที่ตัดให้ขาย คุณอาจได้รับเงินคืนกลับมามากถึง 50% ของราคาตั้งต้นด้วยนะคะ

ชุดเจ้าสาว

“ของตกแต่งงาน”  ในกรณีที่คุณซื้อของมาตกแต่งงานด้วยตัวเองโดยไม่ได้ใช้บริการเวดดิ้งแพลนเนอร์ ของตกแต่งทั้งหลายจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่าทันทีที่ไฟในงานดับลง และถ้าคุณไม่ได้วางแผนไว้ก่อนว่า ของที่ซื้อมาจะเอาไปตกแต่งบ้านด้วยละก็ เลิกคิดจะเก็บหรือส่งต่อให้ใครไปเลยค่ะ เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าใครจะมารับช่วงต่อและคนนั้นจะจัดงานแต่งธีมเดียวกันหรือใกล้เคียงจนสามารถเอาของเหล่านั้นไปใช้ต่อได้ไหม และที่สำคัญ เทรนด์การจัดงานสไตล์คุณในปีนี้อาจเลอค่ามาก แต่ข้ามคืนปีใหม่ไปอาจเป้นธีมที่ตกยุคไปซะแล้วก็เป็นได้ ฉะนั้นขายเถอะค่ะ

การขายที่ว่านี้ง่ายที่สุดคือประกาศขายในเพจหรือบนโลกออนไลน์ต่างๆ หรือถ้าพอรู้จักบรรดาเวดดิ้งแพลนเนอร์หรือบริษัทรับจัดงานอีเว้นต่างๆ ก็ลองนำไปเสนอขายซะ เพราะบริษัทพวกนี้ต้องใช้พร้อพจัดงาน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเขาซื้อก็จะช่วยให้คุณกำจัดของเหล่านี้ไปได้ และแม้ราคาจะได้คืนมาไม่เท่าต้นทุนก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไร แต่มีของไม่ใช้แล้วเต็มบ้าน จริงไหมละ

  • เก็บไว้สิคะ ใช้งานต่อได้อีกเพียบ!!

“เครื่องประดับทั้งหลาย” จะเป็นต่างหู กำไล สร้อยคอหรือแม้แต่จี้ชิ้นเล็กๆ ที่เข้าข่ายเป็นเครื่องประดับทั้งหลายไม่ว่าจะของจริงหรือของปลอมสามารถนำไปใช้ต่อได้ในชีวิตประจำวัน เพราะของเหล่านี้คุณแยกชิ้นเอามาใส่กับชุดทำงานก็ได้ ออกงานก็ดี รวมไปถึงรองเท้าเจ้าสาวที่ไม่มีใครมานั่งจำหรอกว่าคุณใส่คู่นี้แต่งงาน เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วรองเท้ามันแอบซ่อนในกระโปรงเจ้าสาวทั้งนั้น

“สูทของสามี” จริงอยู่ที่ชุดเจ้าสาวของคุณควรขายไปซะ แต่สำหรับชุดสูทของคุณเจ้าบ่าวยังสามารถนำไปใช้ในวาระอื่นได้ เพราะเสื้อสูทสามารถแยกใส่คลุมกับเสื้อได้หลากหลาย กางเกงเองก็เช่นกัน ไม่ต้องจับมาเป็นชุดเดียวกันเสมอไปนี่นา  ซึ่งนอกจากชิ้นใหญ่ๆ แล้ว พวกเนคไทและหูกระต่ายยังสามารถนำไปใช้ใส่ต่อเวลาไปงานเลี้ยงต่างๆ ได้ด้วย เพราะฉะนั้นแล้วก็เก็บไว้ดีๆ ล่ะ

  • บริจาคสิคะอย่าได้เสียดายของ!!

“ดอกไม้ในงานแต่ง” อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้จริงหรือดอกไม้ปลอมคุณสามารถนำไปบริจาคได้ เพราะเพียงการใช้งาน 3 ชั่วโมงไม่ทำให้ดอกไม้สดเหี่ยวไปได้มากนัก และเคยมีมาแล้วที่เจ้าสาวนำดอกไม้สดที่ตกแต่งงานไปกระจายบริจาคให้กับโรงพยาบาลหรือสถานบำบัดต่างๆ เพื่อใช้ตกแต่งห้องพักคนไข้หรือส่วนต้อนรับ ช่วยสร้างบรรยากาศดีๆ ให้กับสถานที่เหล่านั้น ส่วนดอกไม้ปลอมไม่ต้องคิดมาก คุณบริจาคไป ที่เหล่านี้ใช้ได้ตลอดกาล เห็นไหมว่าได้บุญมากนะคะ

“ของชำร่วยและของรับไหว้” บางคนที่ซื้อของมาเกิน ซื้อมาในปริมาณที่มากเกินไป เช่น ผ้าขนหนูสำหรับใช้ในพิธีรับไหว้ ถุงผ้า พวงกุญแจเครื่องคิดเลข หรือสมุดโน๊ต ฯลฯ ของเหล่านี้เป็นของใช้ที่ยังทำประโยคต่อคนอื่นๆ ได้ แพรว Wedding ขอแนะนำให้นำไปบริจาคค่ะ เพื่อคนด้อยโอกาสจะได้มีของดีๆ เป็นของมือหนึ่งใช้ แม้คุณจะไม่ได้แพ็คสวยงามแบบว่ามีโบผูกก็ไม่สำคัญ เพราะของเหล่านั้นก็ยังใช้ได้

เห็นไหมคะว่ามีวิธีจัดการกับข้าวของต่างๆ ที่อยู่ในงานแต่งงานได้หลายวิธี ทั้งการจัดการที่สร้างรายได้ สร้างบุญกุศล คุณเองได้สบายใจ แถมบางทีได้เงินค่างแต่งงานคืนมาอีกด้วยนะคะ

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพเปิด : pxhere.com

“ศีลเสมอกัน” ทริคการเลือกคู่ให้ดีตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

หลายคนคงจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วกับคำว่า “ศีลเสมอกัน” ที่มักจะกล่าวถึงการเลือกคู่ครองให้ดี แต่นอกจากนี้ยังมีคำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่อง ศรัทธาเสมอกัน, จาคะเสมอกัน และปัญญาเสมอกันด้วย ซึ่งหลายคนคงสงสัยว่า แต่ละอย่างนั้นหมายถึงอะไร แพรว wedding มีคำอธิบายมาฝาก

ศีลเสมอกัน
Photo by Alex Azabache on Unsplash

1. ศรัทธาเสมอกัน

การมีศรัทธาเสมอกัน หมายถึง มีความเชื่อ ความเลื่อมใสในศาสนาหรือสิ่งเคารพบูชาเดียวกัน รวมถึงมีความคิดเห็น จุดมุ่งหมาย และรสนิยมไปในทางเดียวกัน ไม่ขัดแย้งกัน แบบนี้เวลาอยู่ด้วยกันจะไม่เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง หรือเถียงกันว่าความเชื่อของตนดีกว่า เด่นกว่า  น่าเลื่อมใสศรัทธามากกว่า เพื่อเอาชนะความคิดของกันและกัน

ในปัจจุบันสังคมเราเปิดกว้างมากขึ้น อีกทั้งความรักก็ไม่เข้าใครออกใคร คนต่างชาติ ต่างศาสนาก็ข้ามน้ำข้ามทะเลมาพบกันได้ ทางที่ดีควรเคารพในความเชื่อของกันและกัน ไม่แบ่งว่าความเชื่อใครดีกว่าใคร เรียนรู้ในความแตกต่างทั้งความคิด วัฒนธรรม และความเชื่อของกันและกัน แบบนี้ก็ช่วยให้ชีวิตคู่มีความสุขได้

2. ศีลเสมอกัน

ข้อนี้หมายถึงการมีความประพฤติ มารยาท และการปฏิบัติตนที่เหมาะสมสอดคล้องกัน รู้จักให้เกียรติกันและกัน ไม่ต้องยกตนข่มคู่ตัวเอง หรือไม่ประพฤติปฏิบัติต่างกันจนเกินไปแล้วทำให้ชีวิตคู่เป็นทุกข์ ไม่ราบรื่น เช่น ฝ่ายหนึ่งขี้เหล้าเมายา ชอบเล่นการพนัน แต่อีกฝ่ายหนึ่งคอยห้ามปราม ไม่ชอบการดื่มเหล่าและสิ่งผิดกฎหมาย เช่นนี้ชีวิตคู่ก็ไม่มีความสุข ความประพฤติไม่ตรงกัน ขัดแย้งกัน อยู่ด้วยกันไม่ได้ก็เรียกว่าศีลไม่เสมอกัน

ศีลเสมอกัน
Image by pasja1000 from Pixabay

3. จาคะเสมอกัน

จาคะ หมายถึง การสละสิ่งของและความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น หากเป็นเรื่องของความรักและชีวิตคู่ก็คงจะเป็นเรื่องของความมีน้ำใจ ใจกว้าง โอบอ้อมเอื้ออารีในระดับเสมอกัน รู้จักเป็นผู้ให้และผู้รับในเวลาที่เหมาะควร รวมทั้งการให้แก่คู่รักและการทำทานแก่ผู้อื่นด้วย หากว่าจาคะไม่เสมอกัน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเห็นแก่ตัว ขี้เหนียว ขี้งก ชีวิตคู่ก็คงจะอยู่กันยาก

4. ปัญญาเสมอกัน

ในข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าทั้งคู่จะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญในระดับเดียวกัน จบปริญญาวุฒิเท่ากันเป๊ะๆ นะคะ แต่ปัญญาในที่นี้หมายถึง การมีความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญที่เกื้อหนุนกันและกันได้ รู้ดี-ชั่ว รู้ว่าอะไรเป็นประโยชน์ และอะไรเป็นโทษ รวมถึงคอยรับฟัง เข้าใจในเหตุผลของกันและกัน และเป็นคู่คิดช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ต้องเผชิญ

หลายคนคงเกิดคำถามว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนๆ นี้กับเราจะมีทั้ง 4 ข้อเสมอกัน เรื่องนี้เราขอบอกว่าไม่ใช่เรื่องยาก ให้คุณและเขาค่อยๆ ศึกษากันและกัน ทั้งนิสัยใจคอและการกระทำ ขอแค่เพียงคุณไม่ตัดสินใจเร่งรีบแต่งงาน มีเวลาได้คบหากันสักนิด ก็จะสามารถรู้ได้ว่าคุณและเขาเป็นคู่กันตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ถ้าใช่ รับรองว่าชีวิตคู่ของคุณจะมีความสุขราบรื่นไปตลอดแน่นอน

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ข้อมูล : torthammarak.wordpress.com
ภาพ : unsplash.com

10 วิธี เปิดตัวบ่าวสาวยอดนิยมทั้งแบบธรรมดาไปจนถึงต้องกล้ามากๆ

ปัญหาเล็กๆ อีกเรื่องที่แทบทุกคู่ต้องเจอคือ จะเปิดตัวเดินเข้าใปในงานแต่งของตัวเองยังไงดีให้มันดูว่า ใช่!! นี่แหละสไตล์คู่ของเรา เพราะจะให้เดินเข้าไปทื่อๆ ก็กระไรอยู่ จะเปิดตัวอลังการเกินก็เคอะเขิน  เราจึงรวบรวม 10 วิธี เปิดตัวบ่าวสาว ยอดนิยมมาให้เลือก รับรองว่าไม่แหวกแหกประเพณี แต่ก็มีดีเทลเก๋ไก๋ ชอบแบบไหนก็เลือก เปิดตัวบ่าวสาว แบบนั้นไปเลย

เปิดตัวแบบที่  1 : เพราะเราคู่กัน

การเปิดตัวแบบยอดนิยมที่ไม่ได้มาคนเดียว แต่บ่าวสาวคล้องแขนกันเข้ามาภายในงาน บางคู่ชวนแก็งค์เพื่อนนำขบวนเข้ามาในงานเป็นคู่ๆ แล้วปิดท้ายด้วยบ่าวสาว หรือถ้าไม่อยากให้ขบวนมันยาวนัก อาจให้คุณเพื่อนตั้งแถวรอรับ พร้อมโยนกลีบดอกไม้ หรือเปเปอร์ชู้ต เป็นการต้อนรับ

เปิดตัวแบบที่ 2 : เจ้าสาวมาดมั่น

เดินเข้ามาคนเดียวด้วยความมั่นใจโดยมีคุณเจ้าบ่าวยืนรอรับอยู่ในงาน ลูกเล่นของการเปิดตัวแบบนี้คือแสงไฟที่จะส่องตามเจ้าสาวไป ยิ่งถ้าชุดของเจ้าสาวมีคริสตัลเล่นแสงไฟวิบวับ คุณเจ้าสาวจะสวยเหมือนนางฟ้าที่มีประกายท่ามกลางความมืด เปรียบเหมือนผู้นำแสงไฟในชีวิตของเจ้าบ่าวเลยทีเดียว

เปิดตัวแบบที่ 3 : เธอรออยู่บนนั้น ฉันจะปีนขึ้นไปหา 

เป็นการเปิดตัวที่ให้อารมณ์เจ้าหญิง เจ้าชายมากๆ โดยส่วนใหญ่แล้วการเปิดตัวแบบนี้ มักจะมีเวทีที่ตกแต่งเป็นหอคอย หรือปราสาทสวยงาม ซึ่งงานนี้คุณเจ้าบ่าวก็อาจจะเดินเข้ามาเดี่ยวๆ หรือมาพร้อมกับขบวนเพื่อนๆ ก็ได้ แต่ไอไลนืเด็ดคือ จังหวะที่จะรับตัวเจ้าหญิงของงานนี่แหละ ฟินไม่ฟินมันวัดกันตรงนี้!

เปิดตัวแบบที่ 4  : ควงแขนคุณพ่อยอดดวงใจเข้างาน 

มีหลายคู่เลยทีเดียวที่ให้คุณพ่อเดินมาส่งคุณเจ้าสาวให้กับคุณเจ้าบ่าวที่ยืนรออยู่ในงาน เป็นสัญญาที่บอกว่า ขอมอบเจ้าหญิงตัวน้อยๆของพ่อให้แก่ผู้ชายคนนี้ดูแล อัยยะลึกซึ้งน่าดู

เปิดตัวแบบที่ 5  : เซอร์ไพรส์ซะเลย  

เมื่อเจ้าสาวเสียงดี งานเซอร์ไพรส์จึงเกิด โดยคุณเจ้าบ่าวยืนรออยู่อาจจะที่กลางงาน หรือบนเวที รอคอยให้เจ้าสาวคนงามปรากฏตัวขึ้น แต่มิเท่านั้นสิค่ะ แทนที่คุณเจ้าสาวจะเดินเข้ามาเฉยๆ ก็เดินร้องเพลงเข้ามาเป็นการเซอร์ไพรส์เจ้าบ่าว เพลงที่เลือกอาจเป็นเพลงสำคัญของคนทั้งคู่ หรือเป็นเพลงแทนใจที่เจ้าสาวอยากบอกให้เจ้าบ่าวรู้

เปิดตัวแบบที่ 6 : แต่เราก็หากันจนเจอ 

บ่าวสาวเดินกันมาคนละทิศคนละทาง โดยวิธีก็มีหลากหลาย อาจจะเดินมาเฉยๆ เดินร้องเพลงคู่ หรือเดินตามเพื่อนๆ ก็ได้ และจะให้โรแมนติคสุดๆ ต้องเป็นเพื่อนบ่าวสาว ล้อมวงให้กลายเป็นฟลอร์เต้นรำขนาดย่อม แล้วคู่พระนางของงานที่เดินมาจากคนละมุมห้องมาพบกันที่ฟลอร์นี้ เต้นรำสวยๆสักเพลง บอกเลยว่าเทพนิยายชัดๆ

เปิดตัวแบบที่ 7  : สายย่อก็มา 

เปิดตัวแบบนี้รับรองว่าดิ้นกันกระจาย โดยให้คุณเจ้าบ่าวเจ้าสาวแดนซ์เข้ามาในงานเลยจร้า เพลงที่ใช้หากเป็นเพลงในเทรนด์ อย่างแนว EMD รับรองว่าตื๊ดกันระเบิดระเบ้อ

เปิดตัวแบบที่ 8  : รับคนดีจากห้องหอ

ก้อปปี้ช่วงรับตัวเจ้าสาวในพิธีเช้ามาใส่ในลำดับพิธีเปิดตัวก็ไม่เลวนะคะ แต่งานนี้อาจต้องพึ่งเทคนิคกันนิดหน่อย โดยให้เจ้าสาวรออยู่อีกห้องหนึ่ง แล้วเจ้าบ่าวก็เดินไปรับ แล้วมีทีมช่างภาพตามติดถ่ายทอดสดบรรยากาศมาขึ้นจอที่ห้องจัดเลี้ยง  แล้วให้บ่าวสาวปรากฏตัวพร้อมกันในงาน เท่ไม่หยอกแถมล้ำไปอีก

เปิดตัวแบบที่ 9 : เซอร์ไพรส์เป็นหมู่คณะ

เซอร์ไพรส์คนเดียวอาจไม่อลังการพอ บ่าวสาวบางคนจึงอาจมีการเตี๊ยมกับเพื่อนๆ เพื่อเซอร์ไพรส์อีกฝ่าย เช่น เจ้าบ่าวรวมกลุ่มกับแก๊งค์เพื่อน เปิดตัวในลุคส์บอยแบรนด์แล้วเต้นให้เจ้าสาวได้ยิ้ม เป็นต้น

เปิดตัวแบบที่ 10  : แฟชั่นโชว์ไหมล่ะ 

งานนี้เพื่อแฟชั่นนิสต้าเลยนะ ด้วยการให้เพื่อนนำขบวนเข้ามาในงานด้วยท่าเดินราวซุปเปอร์โมเดล แล้วปิดท้ายด้วยบ่าวสาว กิมมิคงานอีกอย่างของวิธีนี้อยู่ที่เพื่อนบ่าวสาวเดินขึ้นไปบนเวทีด้วย แล้วตั้งขบวนสวยงามให้ตรงกลางเป็นตำแหน่งของบ่าวสาวที่ต้องไม่ลืมโพสต์เริ่ดๆ ทั้งคณะเป็นการปิดท้าย

ได้ไอเดีย เปิดตัวบ่าวสาว กันหรือยัง แต่ถ้ายังไม่ได้ เราขอแนะนำให้ไปส่อง >> คลิกเลย! Real Wedding << ได้เลย เรามีภาพจากงานแต่งที่เกิดขึ้นจริง อีกเป็นร้อยๆ งานให้คุณดูเป็นไอเดีย

ภาพเปิด : pexels.com

7 คำถามช่วยเจ้าสาวตัดสินใจว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องมีชุดแต่งงานสองชุด

การมี ชุดแต่งงาน สองชุดในวันแต่งงานอาจจะทำให้เจ้าสาบางคนรู้สึกดี และถือเป็นการสร้างสีสันให้กับลุคในการเปิดตัวในช่วงต่างๆ ของเจ้าสาวได้อีกด้วย แต่การจะทำอย่างนี้ได้แน่นอนว่าต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณและข้อจำกัดต่างๆ ของเจ้าสาวด้วย แพรว wedding เลยอยากจะขอให้เจ้าสาวได้ลองมาทำแบบทดสอบด้วยการตอบคำถาม 7 ข้อที่ด้านล่าง ว่าจริงๆ แล้วคุณต้องการชุดแต่งงานสองชุดจริงหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วไปตอบคำถามกันเลย

1. คุณมีสถานที่แต่งงานที่หรูหราอลังการหรือไม่?

สถานที่แต่งงานอันหรูหราเหมาะสำหรับการใส่ชุดแต่งงานมากกว่าหนึ่งชุด นั่นหมายความว่าสถานที่ของคุณมีขนาดใหญ่ทางเดินที่ทอดยาวไปสู่เวที เจ้าสาวอาจจะคิดภาพชุดแต่งงานที่เรียบง่ายหนึ่งชุดสำหรับถ่ายรูปที่แบ็กดร็อป และอีกหนึ่งชุดสำหรับการเปิดตัวเข้างานอย่างอลังการ แต่ช้าก่อนหากคุณตอบว่า ‘ใช่ สถานที่จัดงานของฉันอลังการ’ เราขอย้อนไปยกตัวอย่างงานแต่งงานของ เคต มิดเดิลตัน ที่เธอเดินมาอย่างงามสง่าภายใต้ชุดแต่งงานแบบเรียบง่ายทรงเอไลน์เพียงชุดเดียวของเธอ

2. คุณชอบเต้นไหม?

ถ้าคุณเป็นเจ้าสาวสายแดนซ์นี่ก็เป็นโอกาสที่คุณจะสามารถเปลี่ยนชุดแต่งงานได้อีกหนึ่งชุด ไม่ว่าจะใส่ชุดเดรสสั้นหรือชุดแบบเบาสบายที่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก ซึ่งคุณอาจจะเตรียมไว้หนึ่งชุดสำหรับในช่วงพิธี และเปลี่ยนอีกหนึ่งชุดในช่วงเต้นรำเพื่อเปิดฟลอร์หรืออาฟเตอร์ปาร์ตี้ นั่นเท่ากับว่าเจ้าสาวจะไม่ต้องอยู่ในชุดแต่งงานชุดเดิมตลอดทั้งคืน และสำหรับชุดที่สองนั้นเจ้าสาวก็อาจจะเลือกลุคให้ดูสนุกและเป็นตัวของคุณเองสุดๆ ได้แบบไม่มีข้อจำกัด

ชุดแต่งงาน

3. งานแต่งงานของคุณยาวนานหรือไม่?

ถ้าหากงานแต่งงานของคุณเป็นแบบเรียบง่ายไม่เน้นพิธีรีตองอะไรมากมายการมีชุดแต่งงานถึงสองชุดก็อาจจะตกไป แต่ถ้าหากงานแต่งของคุณนั้นกินเวลายาวนานและเต็มไปด้วยพิธีการต่างๆ บางครั้งการที่เจ้าสาวจะอยู่ในชุดแต่งงานที่ฟิตเป๊ะพอดีหุ่นในชุดเดียวตลอดงานที่อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6 ชม. แถมยังต้องยืนถ่ายรูปหน้าแบ็กดร็อปกับแขกนับร้อยอีกด้วย จนอาจทำให้เจ้าสาวรู้สึกอึดอัดเกินไป เพราะฉะนั้นการเตรียมชุดแต่งงานไว้อีกหนึ่งชุดเพื่อใส่ในช่วงพิธีการที่ต่างกันก็อาจะเป็นไปได้ เช่น ใส่หนึ่งชุดในช่วงถ่ายรูปกับแขก อีกหนึ่งชุดสำหรับงานในพิธี แต่คุณต้องแน่ใจว่าจะสามารถเปลี่ยนชุดได้เร็วและทันก่อนที่พิธีจะเริ่มด้วย

4. งานแต่งงานอยู่ในสภาพอากาศที่รุนแรงหรือไม่?

เช่น คุณอาจจะจัดงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ในวันที่มีสภาพอากาศร้อนจัด เพราะฉะนั้นอาจจะไม่ดีแน่หากเจ้าสาวต้องเหนียวเหนอะหนะในชุดแต่งงานชุดเดียวไปตลอดทั้งวันจนจบพิธี ซึ่งเจ้าสาวอาจจะสวมชุดแต่งงานผ้าโปร่งสบายตัวในช่วงต้อนรับแขก แล้วเปลี่ยนอีกชุดในช่วงพิธีเพื่อเพิ่มความรู้สึกมั่นใจในชุดใหม่ที่ไร้เหงื่อ เพราะฉะนั้นเรื่องของสภาพอากาศของสถานที่จัดงานก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยเจ้าสาวในการตัดสินใจว่าควรจะมีชุดแต่งงานอีกชุดหรือไม่

ชุดแต่งงาน

5. คุณกำลังวุ่นวายใจกับเรื่องนี้?

สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในจิตใจของเจ้าสาว เพราะการไปเลือกชุดแต่งงานเจ้าสาวอาจจะรู้สึกถูกใจชุดแต่งงานมากกว่าหนึ่งชุดก็ได้ โดยที่ไม่สามารถจะตัดสินใจได้ว่าจะเลือกชุดไหนดี ซึ่งหากเจ้าสาวมีงบเหลือการตัดสินใจเลือกทั้งสองชุดคงไม่ใช่ปัญหา หรือเจ้าสาวบางคนที่คิดว่าหากเลือกสองชุดก็ไม่เกินงบที่ตั้งไว้อยู่ดี ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่ผิดหากเจ้าสาวจะจัดสองชุดกลับมา เพราะนี่เป็นวันสำคัญในชีวิตเพียงครั้งเดียวของคุณ

6. ชุดแต่งงานของคุณทำถูกกฎระเบียบของสถานที่หรือไม่?

บางสถานที่จัดงานแต่งอาจจะไม่อนุญาตให้เจ้าสาวใส่ชุดแต่งงานที่โชว์เนื้อหนังมังสามากนักแต่ต้องเน้นความเรียบร้อยเพื่อให้ความเคารพกับสถานที่ อย่างเช่น การแต่งงานในโบสถ์ (ไม่ทุกโบสถ์นะคะที่เคร่งครัด เพราะฉะนั้นจึงควรเช็กกับทางสถานที่ให้ดีก่อนไปเลือกชุด) เป็นต้น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาที่จะทำให้คุณไม่สามารถใส่ชุดแต่งงานในฝันได้ เช่น หากเจ้าสาวอยากใส่ชุดแต่งงานแบบเกาะอก ก็เพียงแค่หาเสื้อหรือผ้าคลุมสไตล์เจ้าสาวที่เข้ากับชุดแต่งงานเพื่อใส่ในช่วงพิธีภายในสถานที่ แล้วสลัดผ้าหรือเสื้อคลุมออกเมื่อออกมาโยนช่อดอกไม้ที่ด้านนอก เท่านี้ก็เปลี่ยนลุคเจ้าสาวได้ทันตาแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าให้ข้อจำกัดของสถานที่มาปิดกั้นความฝันในการใส่ชุดแต่งงานที่คุณรอคอย

7. คุณนำชุดแต่งงานของคุณแม่มาใส่หรือเปล่า?

เจ้าสาวอาจจะเอาใจหรือทำความต้องการของคุณแม่ด้วยการนำชุดแต่งงานของท่านมาใส่ในงานแต่งงานของคุณ แต่ลึกๆ แล้วคุณไม่ได้ต้องการที่จะอยู่ใส่ชุดนี้จริงๆ เพราะมันไม่ใช่ชุดแต่งงานในฝันที่คุณอยากจะสวมใส่ หรือบางคนอาจเกิดอาการคันหากชุดนั้นเป็นผ้าลูกไม้ ซึ่งเพื่อไม่ให้คุณแม่เกิดอาการน้อยใจ ทางออกของปัญหานี้คือ คุณอาจจะใส่ชุดของท่านสำหรับถ่ายภาพ แล้วเปิดตัวอย่างอลังการในชุดแต่งงานที่คุณต้องการจริงๆ ในช่วงพิธีแทน

ทั้งหมดนี้คือแบบทดสอบความเหมาะสมว่าเจ้าสาวควรที่จะมีชุดแต่งงานสองชุดหรือไม่ หากว่าที่เจ้าสาวคนไหนตอบว่า ‘ใช่’ มากกว่าหนึ่งข้อก็ไม่แปลกที่คุณจะมีชุดแต่งงานสองแบบสองสไตล์ในวันสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของคุณ

>> ดูไอเดียชุดแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพ : jeffallendance.com, greenweddingshoes.com, chicvintagebrides.com,
theweddingday.com

รักหนักแน่น กับ 4 เรื่องช่วยเสริมความสตรองให้ชีวิตคู่

รักกันให้หนักแน่นหนึบ กับ 4 เรื่องช่วยเสริมความสตรองให้ ชีวิตคู่

คงไม่มีใครอยากให้ ชีวิตคู่ ต้องพังไม่เป็นท่า หรืออยู่ด้วยกันแบบปราศจากความสุขประมาณว่าก็อยู่ๆ กันไปจริงไหมคะ แต่พอเจอบางสถานการณ์ก็กระตุ้นความหงุดหงิดจนต้องถามตัวเองว่าจะไปต่อดีไหม เอาเป็นว่าก่อนจะผลีผลามแยกย้าย ลองใช้ 4 เรื่องนี้กระชับสัมพันธ์กันอีกสักรอบค่อยตัดสินใจ

 

ตั้งสติคิดก่อนเหวี่ยง

เวลาที่เจอเรื่องอะไรก็ตามที่ทำให้คุณรู้สึกแย่กับอีกฝ่าย จงเริ่มต้นจากการบอกตัวเองให้ใจเย็น ตั้งสติและคิดให้รอบถึงต้นเหตุของการกระทำก่อนจะแสดงอาการไม่พอใจหรือเหวี่ยงวีนรุนแรงก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องเปิดศึกปะทะคารมได้นะคะ นอกจากนี้ข้อดีของการตั้งสติคิดก่อนก็คือ คุณจะได้ฝึกตัวเองให้มีเหตุผลมากขึ้นอีกขั้นด้วยนะคะ

เข้าใจสถานการณ์ชีวิตของอีกฝ่าย

บางครั้งความกดดันภายในจิตใจของอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องสุขภาพ รวมถึงปัญหาของครอบครัวฝั่งเขา ก็ส่งผลทำให้การแสดงออกกับคุณซึ่งอยู่ในฐานะคู่ชีวิตแปลกไปจากเดิม เช่นจากที่เคยขี้เล่นก็กลายเป็นคนนิ่งขรึม อารมณ์ขึ้นหงุดหงิดง่ายทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เผลอๆ บางทีก็พูดจาไม่เข้าหูโดยไม่รู้สาเหตุ ซึ่งถ้าคุณรู้อยู่แล้วว่า ณ ตอนนี้ ชีวิตเขากำลังเผชิญปัญหาอยู่ก็อย่าถือเป็นอารมณ์ อย่าเอามาน้อยใจเลยนะคะ ในทางตรงข้ามคือต้องยิ่งเข้าใจและเป็นกำลังใจเคียงข้างให้เขาผ่านพ้นไปให้ได้

แบ่งเบาปัญหาแบบไม่ก้าวก่าย

บางคนเวลามีปัญหาก็ไม่อยากรบกวนให้ใครมาเดือดร้อนด้วย จึงอยากลงมือแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง แต่คุณเอง ซึ่งอาจจะอยู่ในฐานะสามีหรือภรรยาก็นิ่งเฉยดูดายไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้อีกฝ่ายลงมือแก้ปัญหาตามที่เขาต้องการค่ะ แล้วคุณทำหน้าที่ช่วยแบ่งเบาปัญหาด้วยการรอดูจังหวะให้เหมาะๆ แล้วค่อยแสดงความเห็นหรือให้ความเห็นในยามที่เขาร้องขอก็พอ เพราะในระหว่างที่เขามีปัญหา สมองอาจไม่แล่นเท่าไหร่หรือคิดวนเวียนจนหาทางออกไม่เจอ คุณอาจเป็นคนที่ช่วยเปิดความคิดสู่ทางออกของปัญหาได้ แบบนี้แหละค่ะที่คุณช่วยแบ่งเบาให้เขาได้โดยที่ไม่ไปก้าวก่ายปัญหาหรือศักยภาพของตัวเขามากเกินไป

เติมความเอื้ออาทรให้กันเสมอ

หัวใจสำคัญที่จะทำให้ชีวิตคู่มีแต่เดินหน้าไม่ได้มีแค่เพียงการให้ความรักที่แสนหอมหวานด้วยการมอบดอกไม้ทุกวันพิเศษ การกอดกันแล้วหลับไป แต่คือการแสดงออกซึ่งความห่วงใย เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และหวังดี ซึ่งคุณทั้งคู่ควรมีและมอบให้กันอย่างสม่ำเสมอ

ลองทำกันดูนะคะ แล้วเชื่อเถอะค่ะความรัก ความเข้าใจที่ก่อเกิดจะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณเดินหน้าสู่อนาคตอันสวยงามที่ตั้งใจไว้

>> ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ชีวิตคู่ และความสัมพันธ์อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : redbookmag.com a a a

25 กิมมิคสร้างสีสันให้งานแต่งงานจากธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

แพรวเวดดิ้งขอนำ 25 กิมมิคน่ารักๆ จาก ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์ ที่เหล่าสาวกของการ์ตูนค่ายนี้ต้องลองนำไปใช้ตกแต่งงานแต่งงาน บอกเลยว่าไม่ควรพลาดจริงๆ

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

สร้างสีสันบนโต๊ะอาหารให้เหมือนกับอยู่ในท้องทะเลอย่างในการ์ตูนเรื่อง Little Mermaide โดยใช้ปลาดาวตกแต่งและใช้จานคล้ายเปลือกหอยโทนสีเขียวอ่อนๆ ตัดกับดอกไม้สีสวยๆ บนโต๊ะ ก็ดูสวยน่ารักไม่เบา

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

มอบความสดชื่นให้กับแขกที่มาร่วมงานด้วยเครื่องดื่มสุดวิเศษอย่างการ์ตูนในเรื่อง Alice in the wonderland แก้วทรงสูงผูกด้วยโบว์สีหวานพร้อมหลอดสีฟ้าตัดขาวโทนสีพาสเทล

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

การ์ดเชิญที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่อง Beauty and the Beast  สร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาร่วมงานตั้งแต่แรกเห็นและยังเปลี่ยนการ์ดเชิญแบบธรรมดาให้แตกต่างที่ทั้งสวยและหรูหรามากขึ้นโดยเพิ่มโบว์และอัญมณีสวยๆ และใช้อักษรที่ดูหรูเข้ากับการ์ด ดูแล้วเจิดสุดๆ

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

กิมมิคๆ เล็กทางประตูเข้าออกของงานจากเรื่อง Tinker Bell ใช้กากเพชร (pixie dust) โปรยปรายให้ระยิบระยับ ดูฟรุ้งฟริ้ง เพ้อฝัน ให้เหมือนเหล่าบรรดาแขกที่มาร่วมงานเป็นนางฟ้า เทวดา โลดแล่นอยู่ในงาน

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

เข็มกลัดผู้กล้าจากเรื่อง Up ก็เป็นกิมมิคที่สามารถติดบนเสื้อของเจ้าบ่าวได้

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

หมวกมิกกี้เม้าส์และมินนี่เม้าส์ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว อะไรจะน่ารักขนาดนี้

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

แรงบันดาลใจในการตกแต่งสถานที่ จากเรื่อง Tangled  ทำให้บรรยากาศในงานดูอบอุ่นและโรแมนติกที่สุด

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

หรือจะเป็นการถ่ายพรีเวดดิ้งแบบเรื่อง Tangled อีกเช่นกัน ที่ให้อารมณ์แปลกไม่เหมือนใคร และดูโรแมนติกเหมือนกับตัวการ์ตูนในเรื่อง

9

อีกหนึ่งที่กิมมิคที่เราขอแนะนำเลย เพราะในงานเหล่าบรรดาสาวๆ ที่จิกส้นสูงมางานก็คงต้องเมื่อยกันบ้าง หากมีสลิปเปอร์ให้เปลี่ยนก็คงดีไม่น้อย โดยไอเดียนี้ได้จากเรื่อง Cinderella

10

กระดุมมิกกี้เม้าส์ ดีเทลเกร๋สำหรับเจ้าบ่าวที่ทำให้ไม่น้อยหน้าเจ้าสาวได้นะจ๊ะ

11

กุหลาบในโหลแก้วหนึ่งดีเทลสำคัญในเรื่อง Beauty and the Beast หากลองนำมาตกแต่งบนโต๊ะอาหารในงานต้องสวยงาม ชวนฝัน และโรแมนติกสุดๆ ท่ามกลางแสงเทียนแน่นอน

12

สมุดภาพอัลบั้มรวมรูปถ่ายพรีเวดดิ้ง เก็บความทรงจำดีๆ ให้แขกได้ร่วมซาบซึ้งและยังเป็นของตกแต่งภายในงานได้อีกด้วย กิมมิคเกร๋ๆ จากเรื่อง Up

13

มาการองรูปมิกกี้เม้าส์และมินนี่เม้าส์ ของว่างในงานที่แสนจะอร่อยและยังน่ารักอีกด้วย

14

อย่าลืมมองข้ามสิ่งเล็กๆ อย่างเล็บที่มีส่วนให้สาวๆ ดูสมบูรณ์แบบที่สุดในวันสำคัญ ลองเพ้นท์เป็นลวดลายที่ชอบหรือ อย่างลายนี้ได้แรงบันดาลใจจากเจ้าหญิง จัสมิน จากเรื่อง Aladdin

15

คัพเค้กขนมยอดฮิตที่เราเห็นในงานแต่งงาน หากใส่จานก็คงดูธรรมดาไป ว่าไหม ลองเปลี่ยนมาใส่ถ้วยน้ำชาสวยๆ ปักข้อความเกร๋ๆ อย่างในภาพนี้นั้นได้กิมมิคจากเรื่อง Alice in wonderland

16

มองเผินๆ โต๊ะอาหารในภาพอาจจะดูธรรมดา แต่เดี่ยวก่อนลองดูบนโต๊ะอีกรอบเชิงเทียนที่อยู่ในรถฟักทองนั้นช่างทำให้ดีเทลบนโต๊ะอาหารดูหรูขึ้นมาทันทีและคงไม่ต้องบอกว่างานนี้นั้นได้แรงบันดาลใจจากเรื่อง Cinderella นั่นเอง

17

เค้กแต่งงานสุดน่ารักที่ได้หุ่นยนต์จากเรื่อง Wall E มาเป็นตัวแทนของบ่าวสาว น่ารักมากว่าไหม ?

18

สแครบเบิ้ลของเล่นที่เราเห็นในเรื่อง Toy Story ลองนำมาเป็นของตกแต่งในงานให้แขกได้เล่นเพลินๆ หรือจะตั้งไว้ให้แขกได้เรียงเป็นคำอวยพรถ่ายรูปเกร๋ๆ อัพ IG หรือ Facebook แฮชแทคชื่องงานเรา ก็เป็นกิมมิคที่ดูแล้วสร้างสรรค์ไม่น้อย

19

ของตกแต่งบนโต๊ะอาหารในบางทีก็ไม่จำเป็นต้องดูหรูหราเสมอไป ลองสร้างเรื่องราวหรือกิมมิคอย่างในเรื่อง Alice in the wonderland กาน้ำชาลอยได้ที่ดูแล้วชวนมองและดูวิเศษ รับรองว่าบนโต๊ะอาหารของคุณไม่จำเจและน่าเบื่อแน่นอน

20

หากใครเคยดูการ์ตูนเรื่อง Cinderllea ต้องไม่มีทางลืมรถฟักทองที่พานางซินของเราไปพบเจ้าชายแน่นอน แต่หากเรื่องจริงมีรถฟักทองมารับเจ้าสาวของเราบ้างล่ะ คงวิเศษสุดๆ ไปเลยล่ะ

21

ไอเดียจากเรื่อง Sleeping Beauty โดยนำแกนด้ายมาใช้ตกแต่งบนโต๊ะอาหาร และยังมีกระดาษเน็ตใบเล็กที่ซ่อนข้อความอยู่บนแกนด้ายให้แขกได้อ่านก็ดูสร้างสรรค์ไม่น้อย

22

นี่ต้องเป็นเตกิล่าที่ดูน่าดื่มและดูตื่นตาที่สุด เพราะได้ไอเดียจากเรื่อง Peter Pan นั้นเอง

23

บอลดอกไม้กลมๆ ที่เราเห็นทั่วไป อาจดูธรรมดาเกินไป เปลี่ยนบอลดอกไม้ของเราเป็นรูปมิกกี้เม้าส์ก็เกร๋อย่าบอกใครเชียวล่ะ

24

โอ้ว มาย ก็อด เจ้าสาวคนไหนได้แหวนวงนี้ไปต้องร้องกรี๊ดดีใจสุดๆ แน่นอน เพราะแหวนวงนี้ได้แรงบันดาลใจมากเจ้าหญิงเอลซ่า จากเรื่อง Flozen สวย เว่อ อลังการมาก

25

เค้กรูปปราสาท มีไฟวิบวับ ให้ความรู้สึกวิเศษ และดูน่าตื่นเต้นไม่เหมือนใคร สวยงาม หรูหรา แต่กินไม่ได้นะจ๊ะ

สาวๆ คนไหนดูแล้ว ได้ไอเดียก็นำไปลองใช้กับงานตัวเองเป็นกิมมิคเสริมในงาน รับรองว่างานของคุณต้องไม่น่าเบื่อและพิเศษกว่างานไหนๆ แน่นอน

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก www.huffingtonpost.com/,http://2.bp.blogspot.com/

5 ปัญหาก่อกวน ชีวิตคู่ ให้ล่มก่อนได้เริ่ม ที่ว่าที่บ่าวสาวต้องรู้ก่อนแต่งงาน

ชีวิตคู่ ใครๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อคนสองคนต่างที่มา ต่างการเติบโต แล้วต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่หนทางการประคับประคองให้ยืนยาวอยู่เป็นคู่จะง่ายมากขึ้น หากรู้จัก 5 ปัญหาเล็กๆ ที่อาจลุกลามจนนำไปสู่การหย่าร้างได้ตั้งแต่ก่อนวันแต่งงาน

1. ไม่มีความเป็นตัวเอง

หลายคนบอกว่า เป็นตัวเองมากไปก็อยู่กับคนอื่นยาก แต่ถ้าไม่มีความเป็นตัวเองเลย ก็ทำให้อยู่กับคนอื่นไม่ได้เหมือนกันนะ โดยเฉพาะกับคนที่จะต้องอยู่ไปด้วยกันตลอดชีวิต เพราะหากเริ่มต้นโดยการยอมไปเสียทุกอย่าง แล้วคุณคิดว่าจะยอมไปได้อีกนานแค่ไหนกัน เมื่อถึงวันที่ยอมไม่ไหวแล้ว ความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้น ทางที่ดีคือตลอดเวลาที่เรียนรู้กันคุณต้องค่อยๆ เปิดความเป็นตัวเองให้อีกฝ่ายได้เห็น ให้เวลาทำให้เราได้เรียนรู้กันมากขึ้น และอย่าลืมตระหนักในคุณค่าของตัวเองด้วย

2. แต่งงานเพราะอะไร

เมื่อคิดถึงเรื่องแต่งงาน อย่าลืมถามตัวเองด้วยว่า เราอยากแต่งงานเพราะอะไร หากมีคำตอบว่า เพราะแรงกดดันจากสังคม สถานภาพทางการเงิน การงาน นั่นอาจแปลว่าคุณยังไม่พร้อมแต่งงาน เพราะปัจจัยเหล่านี้ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้คู่รักอยู่ด้วยกันได้ยืนยาวเลย แต่หากคำตอบคือความรัก ความเข้าใจ ล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามัวรีรอที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเลย

3. ไม่เคยคุยเรื่องเป้าหมายการใช้ชีวิตกันเลย

เรื่องเป้าหมายการใช้ชีวิตเป็นเรื่องใหญ่ และใหญ่มากสำหรับคนสองคนที่จะมาอยู่ด้วยกัน หากว่าไม่ได้มีเป้าหมายเดียวกัน หรือไม่เคยรู้เป้าหมายของกันและกันมาก่อน ก็อาจจะต่างกันพาครอบครัวไปในทิศทางที่แตกต่างกัน ทางที่ดีจึงควรมานังจับเข่าเปิดอกพูดคุยถึงเป้าหมายของแต่ละคน หากว่าเหมือนกันก็โชคดีไป แต่ถ้าไม่ การยอมรับในเหตุผลและการพบกันครึ่งทาง จะทำให้ทางเดินที่วาดหวังไว้ทอดยาวไปได้อีกไกล

4. ไม่ยอมรับในความแตกต่าง

เราไม่จำเป็นต้องพูดถึงความแตกต่างในแง่ของการเลี้ยงดู พื้นฐาน ฐานะ หรือใดๆ เอาแค่เรื่องแรก คือความแตกต่างระหว่างความเป็นหญิง ความเป็นชาย หากไม่สามารถยอมรับและเข้าใจในจุดนี้ได้ เรื่องความแตกต่างอื่นๆ ก็ยากที่จะคุยกันลงตัวได้แล้ว ทางที่ดีจึงควรคุยกันด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริง บางคู่อาจรวมไปถึงการทำข้อตกลงต่างๆ ร่วมกันเพื่อเป็นบรรทัดฐานของการใช้ชีวิตคู่ และไม่ว่าจะคุยกันเช่นไรต้องไม่ลืมว่านี่คือการปรับตัวเข้าหากัน ไม่ใช่การที่ฝ่ายใดยอมจนไม่เหลือความเป็นตัวเองนะ

5. ไม่ตั้งความหวังจนเกินจริง

หลายคนอาจจะบอกว่า “หวังให้ไกล แล้วไปให้ถึง” แต่สำหรับชีวิตคู่แล้วการตั้งความหวังนั้นทำได้ แต่ควรอยู่บนพื้นฐานของความจริงด้วย แล้วให้ความหวังนั้นเป็นเพียงแรงผลักดันเพื่อไปให้ถึงสิ่งที่ดีกว่า อย่าเคร่งเครียดจนกลายเป็นแรงกดดัน และแรงบีบคั้น เพราะแต่ละคนก็มีกำลังที่จะทนแรงกดดันได้ไม่เท่ากัน หากว่าอีกคนยอมแพ้ไปก่อน ชีวิตคู่ ที่ตั้งใจไว้ก็อาจจะเหลือเพียงตัวคนเดียวได้เหมือนกัน

หากว่าคุณบ่าวสาวพูดคุยตกลงทั้ง 5 ข้อนี้ลงตัวแล้ว ก็จะทำให้เกิดความเข้าใจพื้นฐานในการใช้ชีวิตคู่ แล้วปัญหาที่เหลือก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะจับมือฝ่าฝันไปด้วยกันบนพื้นฐานของความเข้าใจ แต่ถ้าอยากรู้เรื่องเคล็ดลับให้รักยืนยาวก็ >> คลิกอ่านได้เลย <<

ภาพ unsplash.com

3 เคล็ดลับดี๊ดีของ อาหารมงคล ในงานแต่งทำแบบนี้แล้วดีคอนเฟิร์ม!

แน่นอนว่าในงานแต่งคุณต้องสรรหาอาหารรสเลิศมาบริการแขกเหรื่อ แต่เราขอเตือนไว้ว่าถ้าอยากให้ชีวิตคู่แฮปปี้ อาหารที่หามาจะอร่อยอย่างเดียวไม่พอ ต้องเป็น อาหารมงคล ด้วยนะจ๊ะ โดยหลักจำง่ายๆ ในเบื้องต้นคือ เมนูไหนเปล่งเสียงออกมาแล้วแบบว่าฟังดูไม่รื่นหูก็อย่าสั่ง เมนูไหนพูดออกมาแล้วรู้สึกถึงความหมายดีๆ ออเดอร์เลย ว่าแล้วไปดูค่ะว่า เมนูไหนบ้าง

1. เมนูฟังแล้วไม่รื่นหูก็อย่าสั่ง

อาหารคาวที่ว่ากันว่าห้ามไม่ให้นำมาเลี้ยงแขกหรือแม้แต่มีในงานแต่ง ได้แก่ อาหารจำพวกแกงบอน แกงหอยขม ต้มยำ เพราะชื่อไม่เป็นมงคล ฟังแล้วแสลงใจ เดี๋ยวก็ (ปาก) บอน เดี๋ยวก็ (ชีวิต) ขม  รู้แบบนี้ห้ามออร์เดอร์เด็ดขาด!

2. เมนูความหมายดีต่อใจ

ส่วนใครที่ปลื้มมากกับอาหารเส้น ไม่ว่าจะเป็นขนมจีนหรือแม้แต่ฝอยทอง ต้องใช้แบบที่เป็นจับสวย เส้นไม่ขาด เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้มีชีวิตคู่ยืดยาว ฉะนั้นแล้วถ้าจะนำมาเลี้ยงแขกขอให้กำชับคนจัดสำรับเลยว่าอย่าให้เส้นขาดเด็ดขาด OK นะจ๊ะ

3. ห้ามกินจนหมดเกลี้ยงชามเด็ดขาด

ในส่วนของประเพณีแต่งงานแบบจีนนั้น พิธีกินขนมอี๋หรือขนมบัวลอย บ่าวสาวต้องจำไว้ว่าห้ามกินจนหมดถ้วยเด็ดขาด จะต้องเหลือติดถ้วยประมาณ 4-8 ลูก เพราะชาวจีนเชื่อว่าจะทำให้บ่าวสาวร่ำรวย มีเงินเหลือกินเหลือใช้ไงจ๊ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับแนวทางการสั่งอาหารมงคลในงานแต่งงาน สั่งมาไว้ในงานเถอะจ้ะ รับรองได้ว่าจะมงคลกันทุกหน่วยในงานแน่นอน

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อในงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพ : site.google.com