ลดปัญหาครอบครัวกับ 5 วิธีสานสัมพันธ์ให้พ่อแม่ของเธอกับฉันเลิฟกันได้

แม้ว่าความรักจะเกิดขึ้นจากคนสองคน แต่เมื่อถึงเวลาจะตกล่องปล่องชิ้นกัน ความรักกลับไม่ใช่เรื่องของคนสองคนอีกต่อไป โดยเฉพาะคนสำคัญอย่าง “พ่อแม่” ทั้งฝ่ายคุณและฝ่ายคนรักจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นทันที ปัญหามันอยู่ที่ว่าถ้าเกิดพ่อแม่คุณและพ่อแม่เขากลับไม่ชอบหน้ากันและเข้ากันไม่ได้ แบบนี้ความหวังที่จะจัดงานแต่งอย่างราบรื่นคงจะเป็นเรื่องยาก เอาเป็นว่าคู่รักคู่ไหนที่ต้องเป็นคนกลางเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวอย่าเพิ่งวิตกกังวลค่ะ มาอ่าน 5 วิธีประสานใจด้านล่างนี้ที่เราแนะนำดีกว่าจะได้ลด ปัญหาครอบครัว เผื่อว่าอะไรๆ จะได้ง่ายขึ้น

1. เพราะอะไรถึงไม่ชอบกัน

สิ่งแรกที่อยากให้ทำคือ หาเหตุผลที่พ่อแม่ของทั้งคุณและเขาไม่ชอบกัน ซึ่งมันอาจมีร้อยแปดพันประการ ไม่ว่าจะเป็นเพราะฝั่งนั้นดูจนกว่า ฝั่งนั้นดูหรูแต่งตัวโอเว่อร์เกินไป ฯลฯ ลองตะล่อมถามพ่อแม่ของคุณดูว่า “ทำไมถึงไม่ชอบบ้านนั้นล่ะ มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า?” หาสาเหตุให้ได้ก่อนดีกว่าจะได้หาทางแก้ไขกันถูกจุด

2. หาทางออกร่วมกันคนรัก

หลังจากที่ทราบสาเหตุแล้วว่าพวกท่านไม่ชอบกันเพราะอะไรก็อย่าเพิ่งท้อแท้ใจนะคะ ลองนั่งคุยกันสองคนก่อนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมันรุนแรงแค่ไหน แล้วจะแก้ไขกันอย่างไรดี ส่วนใหญ่แล้วก็คงหนีไม่พ้นการ “พูดคุยปรับทัศนคติ” ของพ่อกับแม่ ในเบื้องต้นขอแนะนำว่าพ่อใครแม่ใครก็ให้แยกไปคุยกันเองก่อน จากนั้นจึงค่อยหาแนวร่วมหรือคนที่เขาเข้าใจคุณ ซึ่งอาจเป็นคนในครอบครัวอย่าง พี่ ป้า น้า อา มาช่วยเกลี้ยกล่อมกันอีกที (ประมาณว่ามาเป็นทัพเสริมนั่นแหละ)

3. คุยอย่างไรให้ได้ผล

การจะปรับความคิดของพ่อกับแม่ไม่ใช่ว่าจะพูดอะไรยังไงก็ได้นะคะ แนะนำว่าให้พูดด้วยเสียงนุ่มๆ อ้อนๆ เล่าให้ท่านฟังถึงความดีของแฟนคุณในตอนต้น (ต้องมั่นใจด้วยนะว่าแฟนคุณดีจริง) จากนั้นค่อยเริ่มพูดไปถึงพ่อแม่และครอบครัวทางฝั่งของแฟนว่าเขารักและเอ็นดูคุณเป็นอย่างดี ดูแลคุณเหมือนลูกคนหนึ่ง (ย้ำอีกทีว่าต้องมั่นใจว่าเขาดูแลคุณดีจริงๆ ) อนุญาตให้คุณเพิ่มเติมเสริมแต่งเรื่องราวได้นิดหน่อย เพื่อค่อยๆ ลดทิฐิและปรับทัศนคติของท่านทั้งสอง

ระหว่างที่พูดขอให้คุณลองสังเกตท่าทีของพ่อแม่ด้วย ถ้าท่านเริ่มออกอาการฮึดฮัดไม่อยากฟัง คุณควรจะถอยออกมาก่อนแล้วค่อยหาจังหวะเข้าทำคะแนนใหม่ และอย่าเร่งเร้าเอาแต่พูดๆๆ ของอย่างนี้ต้องใจเย็นและอดทน ถือคติที่ว่า น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน ท่องไว้ให้ขึ้นใจเลย!

4. ลองจัดมีตติ้งพ่อแม่ดูหน่อยไหม

หลังจากที่พูดคุยและปรับทัศนคติของพ่อกับแม่แล้ว ถ้าเห็นว่าท่านเริ่มมีท่าทีอ่อนลงและเริ่มคล้อยตาม ขั้นต่อไปก็คือ “พาทั้งสองครอบครัวมาเจอกัน” อาจจะนัดเป็นร้านอาหารที่บรรยากาศสบายๆ ซึ่งคุณทั้งคู่ก็จะต้องเป็นคนกลาง สร้างบรรยากาศให้มันดี ช่วยหาเรื่องพูดคุยสนุกๆ และทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรู้สึกรีแลกซ์ ไม่อึดอัดจนเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังคงต้องสังเกตปฏิกิริยาของพวกท่านอยู่ดีนะคะ ถ้าเห็นว่าสถานการณ์ราบรื่นก็พอจะเบาใจได้ แต่ถ้าไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ต้องรีบกู้สถานการณ์ทันที

5. หาก 4 ข้อแรกไม่ได้ผล ก็บอกตรงๆ เลยแล้วกัน

สำหรับคู่ไหนที่ พูดก็แล้ว พามาเจอก็แล้ว แต่ยังไม่เห็นวี่แววว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และคุณก็ยังคงรักกันหวานชื่น อยากแต่งงานกันจนเต็มแก่ จะให้รอต่อไปคงไม่ไหว ถ้าคุณทั้งคู่มั่นใจว่ารักกันจริง คนนี้แหละที่จะฝากชีวิตไว้ แนะนำว่าให้บอกกับพ่อแม่ไปตามตรงเลยค่ะว่าอยากแต่งงานแล้วจริงๆ ขอให้พ่อกับแม่เห็นใจในความรักครั้งนี้ด้วย 90% พ่อแม่ส่วนใหญ่พอเจอประโยคนี้เข้าไปก็ยอมตามใจและไปสู่ขอให้

สำหรับใครที่เจอเคสโหดหิน ยอมให้แต่งแต่ไม่ยอมไปเจรจาให้ แนะนำว่าลองหาผู้หลักผู้ใหญ่ที่คุณคิดว่าเป็นที่เคารพของทั้งสองครอบครัวไปทาบทามสู่ขอฝ่ายหญิงก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องบอกกล่าวพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายให้ท่านรับรู้ไว้ก่อนด้วย

หนุ่มสาวคู่ไหนที่ไม่อยากให้ความรักของคุณต้องลงเอยด้วยโศกนาฏกรรมเหมือนในบทประพันธ์ชื่อดังอย่าง “โรมิโอกับจูเลียต” หรือนวนิยายไทยเรื่อง “ขมิ้นกับปูน” ก็ลองเอา 5 วิธีข้างต้นไปใช้กันนะคะ รับรองว่าตอนจบของคุณทั้งสองต้จะต้องสุขสมหวังอย่างที่ตั้งใจไว้แน่นอน

>> อ่านเรื่องราวความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ : www.huffingtonpost.com

รวมไอเดียงานแต่งสีเทา-พีช คู่สีหรูหราจับคู่แล้วคลาสสิก

“สีเทา” ไม่ได้ทำให้งานแต่งดูหม่นหมองนะคะ เพราะสีเทาช่วยสร้างความเรียบหรูคลาสสิกได้ดีทีเดียวเชียวล่ะค่ะ ยิ่งถ้ามาจับคู่กับสีส้มพีชจนกลายมาเป็น งานแต่งสีเทา-พีช (Grey-Preach Wedding) ด้วยแล้วละก็ ความหวานฉ่ำกำเนิดแน่นอน ส่วนไอเดียไหนในงานแต่งงานที่จะใส่สีนี้ลงไปได้ มาดูพร้อมๆ กับแพรว Wedding เลยค่ะ

ชุดเพื่อนเจ้าสาวสีส้มพีชมาเป็นทีมอย่างพร้อมเพรียงกัน

เด็กน้อยในงานแต่งก็มีส่วนร่วมได้ด้วยชุดเอี๊ยมสีเทาคู่กับโบไทด์สีส้มพีชไงคะ

เก้าอี้นั่งของแขกในงานพิฑีการอย่าได้ปล่อยให้โล่ง แค่หาผ้าสีเทาและพีชมาผูกไว้ก็เนรมิตเก้าอี้ตัวใหม่สีเข้าธีมได้แล้วค่ะ

การ์ดเชิญต้องไม่พลาด แค่บอกธีมสีหลักเทา-ส้มกับทางร้านแล้วเลือกเทคนิคที่ชอบใจก็ได้ความหรูหราสุดคลาสสิก

เติมดอกไม้จริงสีส้มพีชบนเค้กสำหรับบ่าวสาวที่เลือกเป็นลายหินอ่อนสุดฮิต

เห็นไหมล่ะว่าทุกสิ่งในงานแต่งสามารถเติมสีเทา-พีชลงไปได้

เลือกชนิดดอกไม้สำหรับให้เพื่อนเจ้าสาวถือแบบที่มีสีส้มพีชเข้าไว้

 

ใส่รายละเอียดบนโต๊ะอาหารด้วยดอกไม้ ผ้าปูโต๊ะด้วยสีเทา-ส้ม

ห้อยตัวย่อชื่อบ่าวสาวที่หลังพนักพิงเก้าอี้ด้วยสรส้มพีช

เติมรายละเอียดสีเทาลงไปบนโต๊ะอาหารด้วยป้ายบอกเบอร์โต๊ะและกระดาษสีเทารัดอุปกรณ์การกิน

จับคู่ให้เหมาะเมื่อเพื่อนเจ้าสาวใส่สีส้มพีช เพื่อนเจ้าบ่าวก็จัดไปค่ะสูทสีเทาสุดเท่

ช่อดอกไม้สุดอลังของเจ้าสาวก็เลือกสีส้มเป็นหลักแต่เลือกแบบคละเฉดสีนะคะจะได้ดูมีอะไร

ดอกไม้ติดหน้าอกเจ้าบ่าวไม่ยุ่งยาก ก็แค่หยิบสักดอกใส่งานที่มีสีเดี

เซนเตอร์พีชขนโต๊ะอาหารไม่ต้องเป็นแจกันเสมอไปก็ได้นะคะ

ตัวอย่างดอกไม้ที่ให้สีพีชสวยๆ สำหรับนำมาตกแต่งงานของคุณ ฤดูกาลที่แต่งมีดอกไม้ ออเดอร์เลย

ติดตามไอเดียต่างๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ : Pinteresst

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

บ่าวสาวต้องอ่าน! 5 วิธีรับมือกับความขัดแย้งช่วงเตรียมงานแต่ง

ถึงแม้ว่าช่วง เตรียมงานแต่ง จะสร้างความเครียดไม่น้อยให้กับว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว ไม่ว่าจะเรื่องเงิน เรื่องญาติ หรือแม้แต่เรื่องท็อปฮิตติดชาร์ตอย่าง “ความเห็นไม่ตรงกัน” ฉันจะเอาแบบนี้ ส่วนเธอต้องการแบบนั้น สุดท้ายก็ทะเลาะกันจนกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต บางคนเกิดอาการท้อจนไม่อยากแต่งงานเลยทีเดียว อย่ากังวลไปเลยค่ะ ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาโลกแตกซะหน่อย เราขอนำเสนอ 5 วิธีที่จะช่วยคุณรับมือกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ลองทำตามข้างล่างนี้ดูนะ รับรองว่าความเครียดจะกลายเป็นปัญหาจิ๊บๆ ไปเลย

1. สร้างช่วงเวลาที่มีแค่เพียงคุณสองคน

ถึงแม้การแต่งงานจะเป็นเรื่องของคนสองคน แต่การเตรียมงานนั้นมักจะได้คนรอบข้าง เช่น ญาติผู้ใหญ่หรือเพื่อนพ้องมาช่วยออกความคิดเห็นอยู่เสมอ บางครั้งคุณอาจจะรู้สึกขัดใจหรือมีอารมณ์กับคำแนะนำจากผู้หวังดีเหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจรายละเอียดต่างๆ ของงานแต่งก็ควรจะมาจากคุณสองคนเสียส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นลองหาช่วงเวลาหรือสถานที่ที่เป็นส่วนตัว มีเพียงแค่คุณและคนรักเพื่อที่จะได้ใช้เวลาปรึกษา พูดคุย และเลือกสิ่งที่คุณทั้งคู่ต้องการจริงๆ

2. เปิดใจคุยกัน

เมื่อเกิดความคิดเห็นไม่ตรงกันขึ้นมาก็ขอให้คุณทั้งคู่ใจเย็นๆ เข้าไว้ ลองนั่งลงคุยกันว่าคุณสองคนคิดแตกต่างกันอย่างไร อาจจะใช้เวลาสัก 15-30 นาที ผลัดกันเป็นผู้พูดและเป็นผู้ฟังที่ดี จำไว้เสมอว่าอย่าเอาแต่เป็นคนพ่นไฟอยู่ฝ่ายเดียว เพราะอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม

3. อย่าเสียงดังใส่กันเด็ดขาด

อีกครั้งที่ต้องขอย้ำคำว่า “ใจเย็นๆ” เพราะการปรึกษากันเกี่ยวกับรายละเอียดของงานก็อาจจะมีบางช่วงบางตอนที่กระทบกระทั่งกัน แต่สิ่งที่จะช่วยให้เรื่องราวไม่ลุกลามใหญ่โตก็คือการควบคุมอารมณ์ ท่าทาง และน้ำเสียง ควรใช้น้ำเสียงแบบเรียบๆ นุ่มๆ บวกกับเลือกใช้คำพูดที่ไม่รุนแรง ยึดหลักประนีประนอมค่อยพูดค่อยจากันเข้าไว้ แล้วทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ด้วยดี

4. ตกลงกันให้ชัดเจน

ทุกครั้งที่เกิดความขัดแย้งสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งคือ ตกลงกันให้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่คุยกันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากอะไรและจะแก้ไขกันอย่างไร คงจะไม่ใช่เรื่องดีที่จะต้องกลับมาทะเลาะกันในเรื่องเดิมซ้ำๆ เพราะฉะนั้นเคลียร์กันให้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกไปเลยดีกว่า

5. จุมพิตปิดท้าย

หลังจากที่คุณทั้งคู่ได้นั่งคุยกันและปรึกษาหาทางแก้ไขเรื่องราวความขัดแย้งที่เกิดขึ้นแล้ว อย่าลืมที่จะปิดท้ายด้วยอ้อมกอดหรือจูบเบาๆ สักเล็กน้อย เพื่อเติมเต็มกำลังใจให้แก่กันและสัญญากันไว้ด้วยว่า ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น คุณทั้งสองคนก็จะช่วยกันฟันฝ่าจนกว่าจะถึงวันสำคัญที่พวกคุณรอคอย

ลองเอา 5 วิธีนี้ที่เราแนะนำไปใช้ รับรองได้ว่าต่อให้มีปัญหาขัดใจอีกสักร้อยพัน คุณก็จะรักษาความรักที่มีต่อกันไปจนถึงวันวิวาห์ได้แน่นอน

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

เรียบเรียง : www.thespringsevents.com
ภาพ : www.brides.com, www.popsugar.com

หลากหลายไอเดียเค้กแต่งงาน สวยปังถึงขั้นบ่าวสาวไม่กล้าลงมีด!!

ถึงแม้ว่าบางครั้ง เค้กแต่งงาน มักจะมาพร้อมกับแพ็คเกจเมื่อจองโรงแรมเป็นสถานที่แต่งงาน แต่ก็นั่นแหละคะ มันก็มักจะไม่ได้สวยถูกใจเหมือนที่คู่บ่าวสาวอยากได้เสมอไปใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นลองเผื่องบไว้สักนิด แล้วมองหาเค้กแต่งงานสวยๆ ที่ช่วยเสริมให้งานแต่งของบ่าวสาวออกมาดูดี มีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างเช่น 5 ไอเดียเค้กแต่งงานที่แพรว wedding นำมาฝาก บอกเลยว่าสวยจนหมอ เอ๊ย! บ่าวสาวไม่กล้าลงมีดเชียวล่ะ

เค้กแต่งงานประดับดอกไม้ & ใบไม้

เค้กแต่งงาน

อีกหนึ่งสไตล์เค้กแต่งงานที่ให้อารมณ์ดูหรูหรากึ่งทางการนิดๆ กับเค้กแต่งงานที่ประดับประดาไว้ด้วยเหล่าหมู่มวลใบไม้และดอกไม้ที่ดูแล้วสดชื่นสุดๆ แถมยังไม่ต้องคิดดีไซน์เค้กให้ปวดหัว เพราะเพียงแค่เลือกเป็นเค้กก้อนสีขาวสะอาดตา ส่วนจะกี่ชั้นก็แล้วแต่ว่าบ่าวสาวอยากได้สูงแค่ไหน แล้วนำใบไม้ดอกไม้มาประดับตกแต่ง ซึ่งหากว่าที่บ่าวสาวหรือมีเพื่อนๆ ที่มีหัวครีเอทหน่อยในส่วนการตกแต่งนี้อาจจะทำเองก็ได้ แล้วสั่งแค่เค้กปอนด์สีขาวธรรมดา ที่บ่าวสาวถูกใจกับรสชาติมาก็พอ

เค้กแต่งงานขนาดใหญ่สไตล์คลาสสิค

สำหรับคู่ไหนที่อยากได้ความเป็นทางการและความคลาสสิค แค่แต่งงานขนาดใหญ่ความสูงตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไปนี่แหละที่ตอบโจทย์สุด แถมยังเป็นรูปแบบแขกแต่งงานที่เหมาะกับทั้งงานแต่งงานแบบอินดอร์และเอ้าท์ดอร์อีกต่างหาก แถมแขกแต่งงานขนาดใหญ่นี้ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้งานแต่งงานของบ่าวสาวดูหรูหราขึ้นอีกด้วย และถ้าหากอยากได้ความคลาสสิคที่ดูไม่จำเจ เราขอแนะนำให้เลือกเค้กแต่งงานทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ รับรองว่าแกรนด์กว่าใครแน่นอน

เค้กแต่งงานสไตล์แฮนด์เมด

คู่รักสายชิคที่จัดงานแต่งท่ามกลางบรรยากาศแบบสบายๆ เป็นกันเอง ไม่เน้นความหรูหราฟูฟ่าของงานแต่งมากมายนัก เค้กแต่งงานแบบแฮนด์เมดที่ไม่เน้นรูปลักษณ์ที่สวยเป๊ะเรียบกริบมากนักเป็นอะไรที่เข้ากับสไตล์งานแต่งงานของบ่าวสาวที่สุด โดยอาจจะเน้นเป็นเค้กปอนด์เล็กๆ แบบสองชั้น หรือจะเลือกเป็นเค้กขนาดใหญ่ก็ได้ อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกใจหรือฝีมือของบ่าวสาว และอาจจะตกแต่งด้วยใบไม้ใบจิ๋ว หรือดอกไม้ดอกสวยสักนิดเพื่อให้เค้กแต่งงานของบ่าวสาวดูสดชื่นขึ้นมาหน่อย

เค้กแต่งงานพร้อมข้อความกินใจ

ล้ำกว่าใครแถมยังกินใจเป็นที่สุด กับเค้กแต่งงานที่มีข้อความหรือบทกลอนแปะอยู่บนเค้กแต่งงานก้อนโต ซึ่งข้อความเหล่านี้อาจจะมาจาก โค้ดคำพูดจากหนังที่คุณชอบ เนื้อเพลงความหมายดี หรือจะเป็นข้อความจากไดอารี่ หรือจดหมายรักก็โรแมนติกสุดๆ ไปเลย แล้วอย่าลืมเลือกฟร้อนต์สวยๆ ด้วยนะ จะได้ช่วยเพิ่มความฟินขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ

เค้กแต่งงานประดับผลไม้

ถ้าอยากได้ของตกแต่งเค้กแต่งงานแบบที่สามารถรับประทานได้ ผลไม้ นี่แหละเวิร์กสุดๆ เพราะนอกจากจะทานได้ไม่เสียของ การประดับผลไม้ที่มีรูปทรงหลากหลายและสีสันที่ต่างกันออกไป เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสดใสให้กับเค้กแต่งงานของว่าที่บ่าวสาวได้เป็นอย่างดี แถมแขกหรือผู้ใหญ่ที่ไม่ถนัดรับประทานของหวานอย่างเค้ก ก็อาจจะเลือกทานเป็นผลไม้สดๆ ที่ประดับอยู่แทนได้

ภาพ marthastewartweddings.com, pinterest

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

คัมภีร์ 4 ข้อต้องจำวิธีทำให้รักยืนยาว ต่อโปรรักให้ยืดยาวไม่มีสิ้นสุด

“หวานตอนต้น จืดปลายแล้วแม่นบ่” ไม่ได้หมดรักแค่หมดโปร  แหม.. ทีมือถือหมดโปรก็รีบหาโปรใหม่มาใช้ต่อทันที แล้วรักหมดโปรควรรีบหาใหม่ เอ้ย!! รีบ ต่อโปรรัก ด่วน ทีนี้จะต่อกันตรงไหนยังไง  ให้ยิ่งใช้นานก็ยิ่งดี  แพรวเวดดิ้งเลยมีคัมร์ภีร์ 4 ข้อ วิธีทำให้รักยืนยาว มาต่อโปรรักให้หวานกันได้อีก

1.  การแสดงความรัก

หลายคู่เมื่อผ่านการใช้ชีวิตคู่มาได้สักระยะ ความรักที่เคยหวานก็เปลี่ยนเป็นความเฉยชา จนหลงลืมการแสดงความรักและเอาใจใส่ต่อกัน จึงควรมีของขวัญเซอร์ไพรส์ให้เพื่อบอกถึงความรักที่ยังคงมี กอดและหอมแก้มกัน บอกรักกันเท่าที่ทำได้ จะยิ่งเป็นการเพิ่มพลังให้รักยิ่งแนบแน่น

2. ความเข้าใจ

ยอมรับข้อบกพร่องของอีกฝ่ายแทนการเลือกจ้องจับนับแต่ข้อเสียของกันเพราะมันไม่ได้ทำให้เกิดผลดีอะไร  ลองเปลี่ยนมาชื่นชมข้อดีของกันดีกว่า เช่น พูดชมเรื่องเล็กที่ทำให้กันบ่อยๆ แล้วพฤติกรรมความรักของทั้งคุณและเขาจะเข้าใจกันอย่างไร้ข้อสงสัย

3. ความรับผิดชอบ

ที่ต้องมีร่วมกัน ไม่ใช่การคิดถึงแต่เรื่องของตัวเองเพียงฝ่ายเดียว เมื่อร่วมชีวิตกันแล้วจากของฉันและของเธอก็เปลี่ยนมาเป็นของเราทั้งคู่ จึงควรคิดถึงความเป็นครอบครัวให้มาก ทั้งการเงินจับจ่ายอย่างมีสติหรือแม้การคบเพื่อนต่างเพศที่ไม่ให้ดูล้ำเส้นเกินไป

4. การแก้ปัญหา

หากเกิดปัญหาซึ่งเป็นสิ่งที่เกินการควบคุมได้ก็ต้องยอมรับ ที่สำคัญกว่านั้นคือการยืนเคียงข้างกัน ไม่ใช่เกิดปัญหาขึ้นก็ผลักให้อยู่ที่คนๆเดียว ควรเป็นคู่คิด แบ่งเบาความทุกข์ที่เกิด และร่วมแก้สิ่งที่เกิดไปด้วยกัน เพราะมากกว่าคำว่ารักคือการยืนข้างๆกันในวันที่ปัญหาเดินเข้ามา

จริงๆ ความรักคงไม่ต้องรอให้หมดช่วงหวานก็ได้ วันนี้หวานมาก พรุ่งนี้อาจหวานน้อยลงไปนิด แค่หันมาใส่ใจกันให้สม่ำเสมอ บอกรักกันเท่าที่ยังมีเสียง สัมผัสและกอดได้ในวันที่ยังไม่หมดแรง แค่นี้ก็เป็นพลังที่ทำให้รักของคุณทั้งคู่ ต่อโปรรักกันไปแบบตลอดชีพแล้ว

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

เรื่อง : พญ. พรรณพิมล หล่อตระกูล
ภาพ : senseforyou.blogspot.com

5 เคล็ดลับหน้าสวยให้เจ้าสาวสวยเด้งจนเจ้าบ่าวต้องร้องว้าว!

แน่นอนว่าในวันแต่งงาน สิ่งที่เจ้าสาวทุกคนให้ความสำคัญคือเรื่องของใบหน้า เพราะฉะนั้นการมีพื้นฐานผิวที่ดี จึงเป็นบันไดขั้นแรกที่จะนำเจ้าสาวไปถึงความงดงามนั้น แพรว wedding จึงมี เคล็ดลับหน้าสวย สุดยอดการปรนนิบัติผิวแบบง่ายๆ ไม่เจ็บตัวมาฝากว่าที่เจ้าสาว ให้ได้เตรียมตัวกันยาวๆ

1. Daily Routine นั้นสำคัญไฉน

 

ภาพ : http://www.today.com

การปรนนิบัติผิวหน้าเป็นประจำเพียงวันละไม่กี่นาทีสามารถช่วยให้ผิวดูมีสุขภาพดีได้  วิธีดูแลผิวขั้นพื้นฐานนั้นมีเพียง 3 ขั้นตอนคือ  ทำความสะอาด  เช็ดด้วยโทนเนอร์  และตบท้ายด้วยครีมบำรุง  ซึ่งการทำความสะอาดไม่เพียงแต่ชำระสิ่งสกปรกบนผิวหน้าเท่านั้น  แต่ยังช่วยลดการอุดตันของสิว  ส่วนการเช็ดด้วยโทนเนอร์  เป็นขั้นตอนที่ช่วยทำให้ผิวสะอาดหมดจด  จากนั้นปิดท้ายด้วยการลงครีมบำรุงเพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้น  เพียง 3 ขั้นตอนนี้  ก็สามารถทำให้เจ้าสาวหน้าเด้งรับวันแต่งงานได้แล้ว

2. สครับแบบไหนใช่สำหรับผิว

เคล็ดลับหน้าสวย
ภาพ : http://www.allure.com
ความสามารถในการผลัดเซลล์ผิวจะลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น  การสครับผิวหน้าจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว  ส่งผลให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล  ซึ่งสภาพผิวแต่ละแบบสามารถปรนนิบัติได้ดังต่อไปนี้
  • ผิวธรรมดา  ควรขัดผิวหน้าเพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง
  • ผิวแพ้ง่าย  สาวผิวแพ้ง่ายไม่ควรสครับผิวหน้า  เพราะจะยิ่งทำให้ผิวระคายเคือง  ควรใช้คลีนเซอร์เช็ดตามด้วยสำลีหรือผ้าสะอาดสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว
  • ผิวมัน  ให้ลืมความเชื่อผิดๆ ที่ว่าผิวมันควรสครับผิวหน้าบ่อยๆ เพราะการสครับบ่อยเกินไป จะยิ่งกระตุ้นให้ผิวหน้าผลิตไขมันออกมามากกว่าเดิม  ดังนั้นสาวผิวมันควรหลีกเลี่ยงการสครับหน้า
  • ผิวแห้ง  ให้เลือกสครับที่มีส่วนผสมเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวซึ่งการปรนนิบัติผิวตรงตามความต้องการ จะช่วยให้เจ้าสาวเป็นเจ้าของผิวเปล่งปลั่งได้ไม่ยาก

3. กินผักนั้นดี  แต่ผักอะไรช่วยให้ผิวสวยล่ะ?

เคล็ดลับหน้าสวย

เคล็ดลับหน้าสวย อีกหนึ่งอย่างคือหากเจ้าสาวอยากมีสุขภาพผิวที่ดี  ให้เลือกรับประทานผักใบเขียวสีเข้ม อาทิ ผักคะน้า  ผักโขม   กะหล่ำปลี และผักชีฝรั่ง  เพราะผักกลุ่มนี้อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ  นอกจากจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่สำคัญแล้ว  กากใยจากผัก ยังช่วยในการขับถ่ายซึ่งส่งผลให้ผิวพรรณสดใส  ดังนั้นหากเจ้าสาวอยากมีผิวใส  อย่าลืมกินผักใบเขียวสีเข้มเป็นประจำ ยิ่งเพิ่มไว้ในมื้ออาหารทุกมื้อได้ยิ่งดี

4. เลี่ยงของหวาน

เคล็ดลับหน้าสวย

หลายคนอาจสงสัยว่าการรับประทานอาหารที่มีรสหวานจะส่งผลเสียต่อผิวได้อย่างไร  จริงๆ แล้วน้ำตาลมีโทษโดยตรงต่อผิวคือ  เร่งการเกิดริ้วรอยก่อนวัย  และขัดขวางการทำงานของคอลลาเจนใต้ผิวหนัง  ผลเสียที่ตามมาคือ ผิวขาดความกระชับและหยาบกร้าน  ดังนั้นหากเจ้าสาวรู้สึกอยากทานของหวาน  ลองเปลี่ยนจากขนมและน้ำอัดลมเป็นผลไม้แทน วิธีนี้นอกจากจะได้ลิ้มรสหวานแล้ว  ยังช่วยรักษาผิวพรรณไปในตัวด้วย

5. อย่าเครียด

 

เคล็ดลับหน้าสวย
 “อย่าเครียด” พูดง่ายแต่ทำยาก  แต่เราก็ยังอยากย้ำประโยคนี้กับ (ว่าที่) เจ้าสาวอีกครั้งว่า “อย่าเครียด”  เพราะความเครียด จะไปเพิ่มระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งจะไปกระตุ้นการผลิตไขมันและขัดขวางการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ  ผลที่ตามมาคือผิวจะเป็นสิว  ติดเชื้อง่าย  และซีดหมอง  ดังนั้นว่าที่เจ้าสาวที่ต้องเตรียมทั้งงานแต่งงานและแก้ปัญหาสารพัด  อย่าลืมหาเวลาไปทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายบ้างนะคะ
การดูแลผิวทั้ง 5 วิธีนี้นั้นแสนง่าย  นอกจากจะช่วยให้เจ้าสาวผิวสวยรับวันแต่งแล้ว  ยังสามารถนำไปดูแลผิวพรรณในระยะยาวได้อีกด้วย  รู้อย่างนี้แล้ว  อย่ามัวแต่นับถอยหลังรอวันวิวาห์จนลืมดูแลผิว  แล้วจะหาว่าเราไม่เตือน
ภาพเปิด : oilskin.org

10 นิสัยผู้หญิงที่ผู้ชายถึงกับต้องส่ายหน้า ไม่อยากให้เขาหนีอย่าทำ!

เป็นประเด็นฮอตฮิตติดชาร์ต ทอล์กกันเป็นอมตะไม่รู้จบ เข้าเว็บบอร์ดไหนเป็นต้องเจอทุกครั้งกับคำถามที่ว่า “ผู้ชายไม่ชอบให้ผู้หญิงทำนิสัยอะไรบ้าง?” คำตอบก็มีหลากหลายจิปาถะ ทั้งหญิงชายต่างก็เข้ามาตอบกันมากมาย เราเลยขอรวบรวมเอา 10 นิสัยผู้หญิง เด็ดๆ ที่เมื่อไหร่ผู้หญิงแสดงด้านนี้ออกมา รับรองว่าผู้ชายเดินหนีแน่นอน!

1. เรื่องมากเอาแต่ใจ

ผู้หญิงคนไหนที่มีไลฟ์สไตล์แบบคุณหนูเอาแต่ใจใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์ชอบทำตัวแบบอันนี้ไม่เอา จะเอาอันนู้น สีนู้นไม่สวย เอาสีนี้ได้ไหม ไอ้นั่นไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ชอบ โอ้ยยย! สารพัดความเยอะมารวมอยู่ในตัวเธอคนเดียวเนี่ย ผู้ชายเขาจะหันหลังเดินหนี แถมบางทีก็ส่ายหน้าเบ้ปากใส่ด้วยนะจ๊ะ ระวังตัวไว้ ใครที่เป็นแบบนี้ก็ลดๆ ลงมาหน่อย หรือถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนซะ แฟนของคุณเขาจะได้อยู่ทนอยู่นาน ไม่เดินหนีไปมีกิ๊กจนไม่กลับมาหาคุณอีกเลย

2. ทำตัวอย่างกับเป็นแม่คนที่สอง

ข้อนี้ทำความเข้าใจกันนิดนึงว่า ผู้ชายเขาแค่อยากจะมีแฟน ไม่ได้อยากมีแม่คนที่สองที่จะมาคอยตามจุกจิกจู้จี้ ซักไซ้ไล่เรียงเรื่องโน้นเรื่องนี้ของเขาอยู่ตลอดเวลา รวมถึงประเภทที่ชอบบอก ชอบสั่ง ชอบสอนให้เขาทำอย่างนั้นสิ อย่างนี้สิ เอาจริงๆ ผู้ชายก็เข้าใจนะว่าคุณเป็นห่วง แต่ในทางกลับกันเขาก็โตแล้วเนอะ ปล่อยให้เขาตัดสินใจเองเถอะว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ถ้าคุณเป็นห่วงก็คอยแนะนำอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ แบบนี้ดีกว่า

3. ขี้หึงและอารมณ์ร้าย

เข้าใจค่ะว่าคนรักกันเรื่องหึงหวงมันก็ต้องมีบ้าง คงไม่มีใครอยากให้แฟนเราไปเจาะแจะกับสาวคนอื่นหรอกใช่ไหม แต่ค่ะแต่! ดูตาม้าตาเรือหน่อยเนอะว่าผู้หญิงที่เขาคุยด้วยน่ะเป็นเพื่อน เป็นพี่ หรือว่าเป็นน้องของเขา ไม่ใช่เอะอะก็โทรจิก โทรตาม ผู้ชายไปไหนไกลสายตาก็คอยแต่จะระแวง แล้วก็กลายร่างเป็นนางมารร้ายโมโหโกรธาใส่เขาอยู่เรื่อย แบบนี้ก็เกินไป ต้องปล่อยให้เขาไปมีสังคมของเขาบ้าง

แต่เดี๋ยวก่อน! ข้อนี้มันยังไม่จบง่ายๆ ค่ะ เพราะถ้าเราเป็นคนดีไม่ขี้หึงหรืออารมณ์ร้ายแบบไร้เหตุผลแล้ว เขายังโกหกว่าแม่สาวพวกนั้นเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง แต่จริงๆ เป็นมากกว่านั้นล่ะก็ ถ้าคุณจับได้เมื่อไหร่อนุญาตให้กลายร่างเป็นนางมารระดับสิบ ปล่อยพลังแบบอันลิมิตใส่เขา และสุดท้ายก็หันหลังสะบัดบ็อบแล้วเดินสวยๆ ออกมาจากชีวิตเขาค่ะ เริดสุด!

4. ติดโรคช็อปปิ้ง ใช้เงินเกินตัว

ข้อนี้รู้ค่ะว่าผู้หญิงหลายๆ คนก็เป็น แต่ก็ควรจะรู้ว่าช็อปเท่าไหร่แล้วควรหยุด ควรกำหนดวงเงินในการช็อปปิ้งบ้างว่า เดือนนี้ซื้อแค่นี้พอ ไม่เช่นนั้นถ้ามัวแต่ช็อปเพลินจนเงินหมดกระเป๋าแล้วต้องไปหยิบยืมคนอื่นมาใช้ประทังชีวิตเนี่ย ผู้ชายเขาจะเบื่อและคิดว่ามันคือการเสียเงินโดยไม่จำเป็น รวมถึงเขาอาจจะมองว่าคุณไม่มีคุณสมบัติจะเป็นแม่ของลูกเขาด้วย เพราะว่าเรื่องเงินถือเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต ถ้าคุณไม่สามารถบริหารเงินได้อย่างดี เขาคงไม่อยากได้คุณมาเป็นคู่ชีวิตหรอกนะ

5. ทำตัวติดหนึบ

คุณผู้หญิงคนไหนที่ชอบติดสอยหอยตามแฟนไปทุกที่ทุกเวลา ขอให้รู้ไว้เลยนะคะว่าเขาก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกันนะ บางทีเขาอาจแค่อยากออกไปเที่ยวสังสรรค์ตามประสาชายหนุ่มกับแก๊งเพื่อนบ้างคุณก็ต้องปล่อยเขา จะไปคอยตามเขาต้อยๆ มันก็ไม่ใช่เรื่อง รวมถึงมันจะทำให้เขารู้สึกว่าเขาขาดอิสระ เพราะจะไปไหนแต่ละทีก็เหมือนมีคุณมาคอยคุมอยู่ตลอด เอาเป็นว่าเว้นระยะห่างให้คุณและเขาได้คิดถึงกันบ้าง แบบในเพลง “ที่ว่าง” ที่พี่โจ้ วงพอสเขาร้องบอกไว้ไง ลองไปฟังดูนะ

6. แต่งตัวโป๊วับๆ แวมๆ

แหม! เรื่องนี้ก็พูดยากนิดนึงเนอะ เพราะแม้ว่าผู้ชายส่วนใหญ่จะชอบเหล่ชอบมองผู้หญิงที่นุ่งน้อยห่มน้อย แต่พอเอาเข้าจริงๆ เวลาที่คุณแฟนสาวจะแต่งบ้างกลับร้องห้ามซะเสียงดัง เราไปหาคำตอบมาได้ว่า ที่เขาเป็นแบบนั้นมีอยู่ 2 เหตุผล หนึ่งคือ “หวง” ไม่อยากให้ใครมาใช้สายตาแทะโลมแฟนตัวเอง แต่ที่สำคัญกว่าหวงก็คือ “ห่วง” เพราะถ้าคุณแต่งตัวเซ็กซี่แบบล่อตาล่อใจออกไปนอกบ้าน จะเกิดอันตรายอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ (เห็นข่าวกันอยู่ทุกวันนะ) ถ้าจะให้ดีแต่งตัวให้เหมาะสม ถูกกาลเทศะก็แล้วกันจะได้ไม่เป็นปัญหา แถมตัวคุณเองก็ปลอดภัยด้วย แต่ถ้ามันอดใจไม่ไหวเห็นเสื้อผ้าสวยเซ็กซี่แล้วอยากใส่ ก็เก็บไว้ใส่ที่บ้านประมาณว่า “เรือนร่างนี้น้องโชว์ให้พี่เห็นแค่คนเดียว” อันนี้ปลุกใจเสือในบ้านสุดๆ

7. ทำตัวเจ้าชู้ไปเรื่อย

เรื่องเจ้าชู้ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็คงไม่มีใครชอบทั้งนั้นแหละค่ะ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว ยิ่งจะทำให้ดูแย่ขึ้นไปอีก บางคนก็แก้ตัวว่าฉันแค่เป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี แต่แหมคุณค่ะ! ความมีมนุษยสัมพันธ์ดีหรือที่เรียกกันว่าเฟรนด์ลี่เนี่ยก็ต้องดูเวล่ำเวลากันหน่อยเนอะ ไม่ใช่ว่าผู้ชายคนไหนเข้ามาคุยด้วยคุณก็จะหว่านเสน่ห์แจกเบอร์ให้เขาไปซะทุกคน ยิ่งคุณทำแบบนี้ให้เขาเห็นบ่อยๆ เขาก็คงจะต้องคิดว่าต่อหน้าคุณยังทำขนาดนี้ แล้วลับหลังคุณจะทำขนาดไหน ลองเป็นแบบนี้นอกจากผู้ชายเขาจะไม่ชอบแล้ว เขายังมองว่าคุณไม่มีคุณค่าในตัวเองอีกด้วยนะ

8. แข็งเกินไป อ่อนหวานเอาใจไม่เป็น

ข้อนี้ต้องขอบอกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มักไม่ค่อยมีปัญหากันนะคะ เพราะโดยปกติก็มักจะมีลูกอ้อนลูกหยอด หรือว่าเอาใจแฟนหนุ่มเก่งอยู่แล้ว แต่สำหรับใครที่เป็นผู้หญิงสายดาร์ค สายฮาร์ดคอร์ คงต้องลองปรับลองเปลี่ยนดูบ้าง อาจไม่ต้องถึงขั้นหวานจนน้ำตาลเรียกพี่ แค่ทำให้เขารู้สึกว่าคุณเอาใจใส่เขา เป็นห่วงเขา และยังเห็นเขาเป็นคนสำคัญอยู่สำหรับคุณอยู่ก็พอ

9. พูดมาก ชอบนินทา และเพ้อเจ้อ

ลองเช็คตัวเองดูสักนิดว่าตัวคุณเองเป็นผู้หญิงประเภทนี้หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ต้องหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ต่อหน้าผู้ชายนะคะ เพราะเขาจะมองว่าการพูดนินทาคนอื่น หรือเพ้อเจ้อเพ้อฝันแบบไม่หยุดเนี่ย มันดูไร้สาระและน่ารำคาญ ถ้าสาวคนไหนเป็นคนชอบเม้าท์มอยคงต้องเก็บไปนั่งจ้อกับกลุ่มเพื่อนสาวแทนละกันนะ

ส่วนสาวคนไหนที่ชอบแก้ตัวว่า “ไม่ได้นินทาเลย ไม่ได้พูดมากเลย แค่บ่นนิดๆ หน่อยๆ เอง” เอ่อ…อันนี้ก็ต้องบ่น หรือระบายให้เขาฟังแต่พอดีนะจ๊ะ มิเช่นนั้นก็จะกลายว่าเป็นว่าสร้างความรำคาญให้เขาได้ไม่ต่างกันเลยจ้ะ

10. ขี้โกหก!

ข้อนี้ “สั้น ง่าย เข้าใจไม่ยาก” เพราะไม่ว่าใครที่ไหนก็คงไม่ชอบคนที่เอาแต่โกหก แถเก่ง ไหลลื่นไปได้ทุกสถานการณ์หรอกค่ะ ถ้าคิดจะรักกันก็ต้องมีความจริงใจให้กัน ซื่อสัตย์ต่อกัน ชีวิตรักมันถึงจะไปได้ยืนยาวไปได้ตลอดรอดฝั่ง

อุตส่าห์เขียน นิสัยผู้หญิง ที่ผู้ชายไม่ชอบมาตั้ง 10 ข้อ อยู่ๆ ก็ดันเกิดสงสัยขึ้นมาว่า “ผู้ชายเขาไม่ชอบผู้หญิงประเภทนี้จริงๆ หรือเปล่า?” เพราะจากเท่าที่สังเกตมา ผู้หญิงที่มีนิสัยประมาณนี้มักจะมีชายหนุ่มเดินควงแขน อินเลิฟกันหวานชื่น ส่วนผู้หญิงที่นิสัยไม่เข้าข่าย 10 ข้อนี้น่ะเหรอคะ ก็โสดใสไร้ชายเดินข้างไงคะ จบข่าว!

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย << 

ภาพ : www.themodernman.com

วิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทอง เตรียมพร้อมก่อนงานแต่ง

เจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งหลายที่มี เครื่องประดับทอง จากรุ่นสู่รุ่นหรือซื้อเก็บไว้ในคลังสมบัติมานาน และเมื่อได้ฤกษ์แต่งงานก็ถึงเวลาที่จะได้นำออกมาใช้สักที ไม่ว่าจะเป็นการนำมาใช้สวมใส่ หรือนำไปใช้เป็นสินสอด แต่เก็บไว้นานขนาดนี้บางทีเครื่องประดับก็อาจจะทรุดโทรมลงไปบ้าง ถ้าอย่างนั้นมาดูวิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทองเพื่อเตรียมพร้อมก่อนงานแต่งกันดีกว่า เพราะคงไม่มีบ่าวสาวคู่ไหนอยากนำทองสีหม่นๆ หมองๆ ออกมาโชว์หรอกจริงไหมคะ … แพรว wedding เลยนำวิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทองมาบอกเล่าให้คู่บ่าวสามารถนำไปทำได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งร้านมาฝากค่ะ

เครื่องประดับทอง

สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือนำยาล้างจาน หรือซันไลต์ที่เรารู้จักกันเนี่ยแหล่ะค่ะ พร้อมกับแปรงสีฟันที่ใช้แล้ว หรือยังไม่ใช้ ก็ได้ เพราะแปรงสีฟันมีเนื้อแปรงที่อ่อนจะช่วยทำความสะอาดทองได้ดีและไม่ทำให้ทองช้ำ วิธีการทำก็ง่ายๆ คือ

  1. นำทองมาแช่ไว้ในน้ำเปล่าสะอาดสักครู่
  2. นำน้ำยาล้างจานมาพร้อมน้ำ แล้วค่อยๆ ขัดที่ตัวทองเบาๆ
  3. จุ่มน้ำแล้วขัดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสะอาด
  4. ล้างด้วยน้ำสะอาดให้น้ำยาล้างจานหลุดออกให้หมด
  5. ซับด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง แล้วเก็บให้เรียบร้อยค่ะ

*ถ้าตัวทองมีอัญมณีประดับอยู่ ควรทำความสะอาดเบาๆ เพื่อป้องกันอัญมณีหลุดนะคะ

ถ้าในกรณีที่ทองมีคราบไขมันจับอยู่มากๆ สามารถนำมาต้มในน้ำเดือดได้ โดยแช่ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วนำขึ้นมาซับให้แห้ง คราบไขมันก็จะหลุดออกจากตัวทองได้ค่ะ แต่อย่าต้มนานเกินไปนะคะไม่อย่างนั้นเครื่องประดับอาจจะเสียหายได้

วิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทอง

ถ้าต้องการให้เครื่องประดับทองดูใหม่เอี่ยมอยู่เสมอ ก็ควรทำความสะอาดบ่อยๆ หรือไม่จำเป็นก็เก็บไว้เพราะการใส่ติดตัวตลอดจะทำให้ทองมีคราบเหงื่อไคลติดอยู่ได้ และอีกสิ่งที่ทำให้ทอดซีดก็คือ คลอรีน ที่ผสมอยู่ในสระว่ายน้ำนั่นเองค่ะ ดังนั้นควรเก็บรักษาทองดีๆ และทำความสะอาดให้ถูกต้อง เพียงเท่านี้บ่าวสาวก็จะมีเครื่องประดับทองสวยๆ ใหม่เอี่ยมมาใส่ประดับในงานแต่งแล้ว แถมไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่หรือนำไปให้ร้านล้างให้เลยค่ะ

วิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทอง

Read More : ความหมาย สีเครื่องประดับ รู้ไว้เพิ่มความมั่นใจให้เจ้าสาว

ภาพจาก : Pinterest.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

10 ไอเดียฉากถ่ายภาพในงานแต่งงานแบบไหนใช่สไตล์คุณ…ไปดูกันเลย

ไอเดียฉากถ่ายภาพ หลากสไตล์ที่บ่งบอกบุคลิกและตัวตนของบ่าวสาวได้เป็นอย่างดี

หากเปรียบงานแต่งหนึ่งงานเป็นคนหนึ่งคน ฉากถ่ายภาพ หรือแบ็กดร็อปก็ไม่ต่างอะไรจากรูปร่างหน้าตาของคนๆ  นั้น เพราะเป็นสิ่งแรกที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็น อีกทั้งยังสามารถสะท้อนธีมงานที่จัดได้เป็นอย่างดี แพรว wedding เลยมี ไอเดียฉากถ่ายภาพ เด็ดๆ มาฝากว่าที่บ่าวสาว เผื่อจะนำไปเป็นไอเดียให้กับงานแต่งของตัวเองได้ ^^

1. แบ็กดร็อปช่วงเวลาดีๆ ของเรา

02_114-JM06ถ้ายังคิดไม่ตกว่าแบ็กดร็อปในงานแต่งของคุณควรเป็นอย่างไร ลองนึกถึงสิ่งที่คุณสองคนชอบทำด้วยกัน  เช่น ถ้าชอบดูภาพยนตร์อาจออกแบบให้เป็นภาพของตั๋วภาพยนตร์ ก็ถือเป็นจุดสนใจที่น่ารักน่าหยิกได้ไม่น้อย

2. แบ็กดร็อปจากของสะสม

05_106-WD03จำลองของสะสมสุดโปรดนำมาประดับตกแต่งแบ็กดร็อป นอกจากจะได้ความเก๋ที่สะท้อนตัวตนของคุณแล้ว ยังมีความสุขที่ได้อยู่กับสิ่งที่รักพร้อมๆ กับการได้ยืนข้างคนรักในวันสำคัญอีกด้วย

3. แบ็กดร็อปจากสถานที่สุดโปรด

08_114-JM01สร้างความโรแมนติกให้กับงานแต่งด้วยแบ็กดร็อปที่ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่สุดโปรด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่เจอกันครั้งแรก หรือจะเป็นสถานที่ในฝัน ยิ่งเป็นสถานที่ที่มีความผูกพันกับบ่าวสาวมากเท่าไหร่ บรรยากาศจะยิ่งดูหวานละมุนมากขึ้นเป็นเท่าตัว

4. แบ็กดร็อปจากนิทานเรื่องโปรด

W123_WONDERLAND-(7)ขอพื้นที่เล็กๆ ให้ความเป็นเด็กในตัวคุณด้วยการเนรมิตนิทานเรื่องโปรดใส่ไว้ในแบ็กดร็อป นอกจากจะเรียกรอยยิ้มจากคุณและคนรักแล้ว ยังสร้างความสดชื่นให้กับแขกที่มางานได้เป็นอย่างดี

5. แบ็กดร็อปจากความใฝ่ฝัน

รูปภาพ(5)6บ่าวสาวที่มีความฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง สามารถเติมเต็มความใฝ่ฝันด้วยการตกแต่งแบ็กดร็อปตามสิ่งที่เคยมุ่งหวังเอาไว้ ไม่แน่นะการจำลองภาพฝันครั้งนี้อาจทำให้คุณได้ต่อยอดให้เกิดขึ้นในชีวิตจริงก็เป็นได้

6. แบ็กดร็อปแด่ผู้รักงานประดิษฐ์

09_114-JM01คู่รักที่คลั่งไคล้งานประดิษฐ์สามารถเนรมิตแบ็กดร็อปในงานแต่งด้วยสิ่งของที่คุณและคนรักทำขึ้น นอกจากจะได้ใช้เวลาร่วมกันแล้วยังสร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่างให้กับงานของคุณอีกด้วย

7. แบ็กดร็อปสามมิติ

Feb_57-(7)แบ็กดร็อปสามมิติทำให้งานดูสมจริงและน่าสนใจขึ้น รับรองเลยว่าแขกไปใครมาเห็นจะต้อง ‘ว้าว’ และจะลืมงานแต่งของคุณไม่ลงอย่างแน่นอน คอนเฟิร์ม!

8. แบ็กดร็อปจำลองบรรยากาศสวนดอกไม้

Foelove-23ใครที่ชอบสวนดอกไม้ สามารถจำลองบรรยากาศนั้นได้โดยการนำดอกไม้ต้นไม้ชนิดต่างๆ มาวางไล่ระดับบริเวณแบ็กดร็อปเพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับงานแต่งและแขกผู้มีเกียรติ

9. แบ็กดร็อปจากภาพยนตร์สุดเลิฟ

we119-เบนซ์-ปอ-8ฉากเด่นๆจากภาพยนตร์ในดวงใจสามารถเนรมิตให้เกิดขึ้นจริงได้บนแบ็กดร็อป  ไม่ว่าจะทำฉากด้วยอิงค์เจ็ตหรือสามมิติ เพียงคุณนำจุดเด่นของเรื่องมาแต่งแต้ม งานแต่งของคุณก็ดูมีกิมมิกจนยากจะลืม

10. แบ็กดร็อปสำหรับสาวก Polka Dot

catsตอบโจทย์บ่าวสาวที่ชื่นชอบลายจุดสุดคลาสสิก ยิ่งถ้านำมาตกแต่งกับคู่สีที่ตัดกันแล้วล่ะก็ บอกเลยงานนี้แจ่มว้าวอย่าบอกใครเชียว

ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง แบ็กดร็อปก็เช่นกันหากตั้งใจสรรค์สร้างก็สามารถก่อให้เกิดความประทับใจได้ไม่รู้ลืม และแน่นอนว่างานแต่งพิธีไทยก็ต้องการความสวยงามของฉากถ่ายภาพเช่นกัน ไปอัพเดทกันที่นี่ได้เลย คลิกเลย >>> 10 ไอเดียฉากถ่ายภาพงานแต่งงานพิธีไทยให้ทำตาม

ภาพเปิด : wholesale7.net
a

15 นิสัยผู้ชายแบบนี้ที่ผู้หญิงทุกคนร้องยี้ไม่อยากแม้แต่จะอยู่ใกล้

คราวก่อนเขียนบอกความในใจของชายหนุ่มกันไปแล้วเกี่ยวกับ “10 นิสัยผู้หญิงที่ผู้ชายถึงกับต้องส่ายหน้า!” มาคราวนี้ถึงเวลาของเหล่าแม่เสือสาวที่จะมาเปิดอกว่า นิสัยผู้ชาย แบบไหนบ้างที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ชอบ! ถ้าอยากรู้ไปดูกันเลย

เลิกทำได้ไหม 15 นิสัยผู้ชาย ที่ผู้หญิงไม่อยากจะทน

Photo by Greta Schölderle Møller on Unsplash

1. สกปรก ซกมก

บอกตามตรงเลยค่ะว่าถ้านิดๆ หน่อยๆ อย่างเช่น ไม่ล้างมือก่อนทานข้าว ไม่สระผม 1 วัน อันนี้รับได้ แต่ถ้าเป็นประเภทที่ไม่สระผมติดกัน 3-4 วันจนหัวมันเยิ้ม แถมไม่อาบน้ำอีก อันนี้ขอบายค่ะ รับไม่ไหวจริงๆ รวมถึงพวกผู้ชายที่ชอบถอดเสื้อ ถอดกางเกงแล้วหมกๆ ไว้ตามมุมห้องหรือปลายเตียง โดยเฉพาะกางเกงยีนส์ที่ใส่เป็นเดือนแล้วไม่ยอมซัก (ถามจริงๆ ไม่เหม็นเหรอ?) อีกทั้งอันเดอร์แวร์ที่ม้วนตัวเป็นเลขแปดและคงสภาพเช่นนั้นเป็นอาทิตย์ๆ เนี่ย โอ้ย…สกปรกจนขนลุกจริงๆ นะ!

2. ขี้เกียจและไม่มีเป้าหมายในชีวิต

ถ้าเป็นผู้ชายประเภทขี้เกียจไปเที่ยว ขี้เกียจออกจากบ้าน ชอบอยู่แต่ที่บ้าน แบบนี้สาวๆ หลายคนน่าจะปลื้ม แต่ถ้าเป็นประเภทขี้เกียจทำงาน ไม่กระตือรือร้น ทำตัวเลื่อนลอยไม่มีเป้าหมายในชีวิต ไม่วางแผนอนาคตของตัวเอง ผู้หญิงคนไหนที่เจอผู้ชายประเภทนี้ก็เดินหนีกันทุกคนแหละค่ะ ใครจะไปกล้าฝากชีวิตไว้ให้ดูแล เผลอๆ แต่งงานไปเธอก็คงต้องลำบากประคับประคองชีวิตคุณอีก จริงไหม?

3. เห็นแก่ตัว ไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ข้อนี้ไม่ได้จะเรียกร้องให้คุณผู้ชายทั้งหลายเสียสละที่นั่งบนรถสาธารณะให้กับสตรีนะคะ แต่คนที่เห็นแก่ตัวและไม่เป็นสุภาพบุรุษหมายถึงคนที่ชอบผลักภาระต่างๆ ให้กับฝ่ายหญิง ไม่ว่าอะไรก็ตามก็จะต้องให้ฝ่ายหญิงเป็นคนทำให้ เห็นความสบายของตัวเองเป็นหลัก หรือเลือกแต่ของที่คุณชอบโดยที่ไม่คำนึงถึงอีกฝ่าย รวมถึงผู้ชายที่คุยกับสาวที่ละหลายๆ คน มีกิ๊กเยอะๆ และชอบทำตัวหวงกางด้วยเช่นกัน (ออกแนวฉันจะไปก็รั้งไว้อยู่ได้ ทั้งๆ ที่คุณก็มีใครอีกคน) แบบนี้รับรองเลยค่ะว่าผู้หญิงจะตีตัวออกห่างจากคุณเพราะทนความเห็นแก่ตัวของคุณไม่ไหวแน่ๆ

Photo by Sam Solomon on Unsplash

4. ลูกแหง่ติดแม่ ไม่มีความเป็นผู้นำ

ข้อนี้ต้องทำความเข้าใจนิดนึงนะคะว่ามันมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ระหว่างการเป็นผู้ชายที่รักแม่กับผู้ชายที่เป็นลูกแหง่ติดแม่ ถ้าคุณเป็นประเภทที่อะไรๆ ก็ขอถามหม่าม้าก่อนนะ หรือแล้วแต่หม่าม้าเลยครับ ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเอง เอะอะอะไรก็ตามแม่ รอแม่อนุมัติ บอกเลยค่ะว่า “น่าเบื่อมาก!” นี่ถ้าต้องขึ้นเตียงจะปัมปั๊มลูกต้องขออนุญาตหม่าม้าก่อนไหมคะคุณ?

5. ขี้อวด ขี้โม้ หลงตัวเอง

พวกผู้ชายที่พูดจาโอเว่อร์ว่าตัวเองรวยอย่างนั้น มีนั่นมีนี่ ทำไอ้นั่นก็ได้ ทำไอ้นี่ก็เก่ง สารพัดความสามารถ ความหล่อเหลา และความเพอร์เฟ็กต์มารวมอยู่ที่ตัวเขาหมด ทำตัวประหนึ่งนักปราชญ์ที่รู้ทุกอย่างบนโลกใบนี้ ผู้หญิงก็คงออกอาการเซ็งที่ต้องมานั่งฟังคำยกยอปอปั้นตัวเอง นี่ถ้าบินได้แบบไอรอนแมนคงบินโชว์ให้ดูแน่ๆ เลยพ่อคุณเอ๊ย!!!

6. ปากจัด ปากเสีย ชอบดูถูกผู้หญิง

จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเจอมากับคนที่รู้จักกัน คอนฟิร์มให้เลยว่าเวลาผู้ชายเอ่ยปากต่อว่าผู้หญิงแต่ละทีเนี่ย (จริงๆ ก็คือด่านั่นแหละ) บอกเลยนะคะว่า สะอึก สตั๊นท์ ถึงขั้นช็อคไปหลายวิ เพราะแสบกว่าผู้หญิงพูดหลายเท่า โดยเฉพาะผู้ชายที่ปากไม่ดี ชอบดูถูกเพศแม่ และไม่ให้เกียรติผู้หญิงแบบนี้ ใครเห็นเขาก็ต้องเดินหนีค่ะ คงไม่มีใครอยากเอาตัวเองไปเป็นที่ลับฝีปากให้คุณหรอกนะ บ๊ายยย!!

Photo by Liks Digital on Unsplash

7. ติดเพื่อน ติดบอล ติดเกม

ข้อนี้แทบจะเป็นปัญหาโลกแตกของคนเป็นแฟนกันเลยก็ว่าได้ จริงๆ แล้วผู้หญิงเราก็ไม่อยากห้ามคุณออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ไปดูบอล หรือเล่นเกมที่คุณชอบหรอกนะคะ แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชายที่ไม่รู้จักจัดสรรเวลาระหว่างแฟน เพื่อน ฟุตบอล และเกมให้ดีล่ะก็ รับรองเลยค่ะว่าผู้หญิงจะต้องรู้สึกว่าตัวเองไม่มีสำคัญกับคุณ เริ่มเบื่อหน่าย และอีกไม่นานเธอจะต้องถอยห่างและหายไปจากชีวิตคุณแน่

8. เจ้าชู้ ขี้โกหก

เรื่องแบบนี้ไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็คงไม่มีใครชอบทั้งนั้นแหละค่ะ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ซื่อสัตย์กับคนที่คุณรัก ถ้าคุณเป็นประเภทชอบเผลอมองสาวๆ สวยๆ ที่เดินผ่านแต่ไม่ได้คิดอะไร แบบนี้ก็ยังพอเข้าใจได้ แต่ถ้าเที่ยวให้เบอร์สาว แจกไอดีไลน์ไปทั่ว ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีคู่ใจอยู่แล้วเนี่ย แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าเฟรนด์ลี่นะคะ เขาเรียกว่าเจ้าชู้!

นอกจากนี้ ลักษณะอีกอย่างหนึ่งที่มักจะมาคู่กับความเจ้าชู้คือ ชอบโกหก แถเก่ง แถไปเรื่อย ชอบพูดว่าป่าวนะ ไม่ใช่นะ แค่เพื่อนกันนะ โอ๊ย! คุณค่ะ จะบอกให้รู้ว่าผู้หญิงเขาดูออกนะคะ ระวังให้ดีถ้าเธอรู้แล้วแกล้งโง่เนี่ย คลื่นสึนามิจะตามมาแบบไม่ทันตั้งตัวนะจ๊ะหนุ่มๆ

9. โลเล ไม่ชัดเจน

ผู้หญิงหลายคนเวลาคุยกับใครไปนานๆ เธอก็ต้องการความชัดเจนเหมือนกันนะคะว่า ตอนนี้คุณและเธอกำลังคุยกันอยู่ในสถานะไหน เรียกว่าแฟนได้หรือยัง ถ้าเกิดว่าเธอถามแล้วคุณตอบแบบอึกๆ อักๆ ชี้ชัดไม่ได้ว่ารู้สึกต่อกันเช่นไร หรือคุณอยากจะขยับความสัมพันธ์ให้มันมากกว่าเพื่อนคุยหรือเปล่า บอกเลยนะคะว่าผู้หญิงส่วนใหญ่จะรู้สึกว่ามันเสียเวลามาก คุยกันมาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่าอยู่ในสถานะอะไร เพราะฉะนั้นขอเซย์กู๊ดบายเลยแล้วกัน!

Photo by Icons8 Team on Unsplash

10. ใจร้อน ขี้หงุดหงิด

ผู้ชายคนไหนที่รู้ตัวเป็นคนใจร้อน ขี้หงุดหงิด อะไรไม่ได้ดั่งใจก็เริ่มหน้าบึ้ง หน้างอ อารมณ์โมโหพลุ่งพล่าน บอกเลยค่ะว่ารีบปรับปรุงตัวด่วนๆ อย่าว่าแต่ผู้หญิงเขาจะไม่ชอบเลยค่ะ คนรอบข้างคุณเขาก็คงไม่ปลื้มกับพฤติกรรมแบบนี้เหมือนกัน เพราะเขาไม่รู้ว่าคุณจะปะทุอารมณ์ออกมาเมื่อไหร่ และที่สำคัญคงไม่มีใครเขามาคอยเอาใจคุณอยู่ตลอดเวลาหรอกนะ

11. ติดเหล้า ติดบุหรี่

ข้อนี้ถ้าเป็นการออกไปสังสรรค์กินดื่มเพื่อเข้าสังคมผู้หญิงหลายคนก็พร้อมที่จะเข้าใจนะคะ แต่สำหรับผู้ชายคนไหนที่ต้องดื่มทุกวัน สูบบุหรี่ตลอดเวลา แบบนี้ก็ขอปล่อยผ่านเหมือนกันค่ะ เพราะนอกจากคุณจะตัวเหม็นไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นบุหรี่จนไม่น่าเข้าใกล้แล้ว มันยังส่งผลเสียต่อทั้งร่างกายของคุณเองและคนรอบข้างด้วยนะ เผลอๆ เสียสุขภาพจิตกันไปอีก แบบนี้ไม่โอเคเลย

12. ชอบตอบว่า “อะไรก็ได้แล้วแต่เธอเลย”

จริงๆ ผู้หญิงเราชอบผู้ชายที่ชอบตอบคำถามแบบนี้นะคะ แต่ขอให้เป็นคนที่อะไรก็ได้จริงๆ ตามใจเราจริงๆ ถ้าเป็นพวกที่อะไรก็ได้ไม่จริงแบบนี้มีเคืองนะ เช่น ถ้าผู้หญิงถามว่าอยากกินอะไรดี แล้วคุณตอบว่ากินอะไรก็ได้ เธอก็จะเลือกร้านที่เธอชอบแล้วนะ แต่พอเธอเลือกร้านที่เธออยากกินแล้วคุณกลับบอกว่าไม่เอา ไม่กิน แบบนี้เนี่ยมันเสียอารมณ์นะ คุณจะต้องโดนสายตามองแรงด้วยความโกรธปนรำคาญแน่นอน

Photo by Christian Erfurt on Unsplash

13. ชอบผิดนัด ชอบมาเลท

ข้อนี้เห็นมาบ่อยนะคะ มาช้าพอทนได้เพราะถึงยังไงเขาก็มา (แต่อย่าเลทแบบนี้ทุกครั้งนะ ผู้หญิงก็โมโหเป็น) แต่คนที่นัดกันไว้ซะดิบดี อยู่ๆ ก็มาขอเลื่อนขอลา ถ้าบอกล่วงหน้าก่อนวันนัดก็ยังทำใจให้โกรธน้อยลงได้ แต่ผู้ชายจำพวกที่ว่ามาบอกกะทันหันตอนที่เธออยู่จุดนัดพบแล้วเนี่ย โอ้โห้! เลเวลความโกรธจะพุ่งปรี๊ดสูงมาก แล้วคุณก็อาจจะไม่ได้นัด ไม่ได้เจอกับเธออีกเลยก็ได้ เรียกว่าผิดนัดกันครั้งเดียวก็เกินพอ

14. ชอบโชว์พาวเวอร์

ชายหนุ่มคนไหนที่เวลาอยู่กับแฟนในที่สาธารณะหรือว่าในวงเพื่อน วงเหล้า แล้วชอบทำโชว์ว่าตัวเองเก่งกว่าแฟน เหนือกว่าแฟน แต่พออยู่กันสองคนกับเจี๋ยมเจี๊ยม ผู้ชายแบบนี้นานวันไปผู้หญิงก็เบื่อและเซ็งเป็นธรรมดา สุดท้ายก็เธอก็จะโบกมือลา ปิดฉากความสัมพันธ์กับคุณแน่นอน

15. เอาแต่ใจตัวเอง

ถ้าผู้ชายไม่ชอบให้ผู้หญิงเอาแต่ใจตัวเองฉันใด ผู้หญิงก็ไม่ชอบผู้ชายที่เอาแต่ใจตัวเองฉันนั้น เพราะถ้าคุณเป็นคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากไปไหนผู้หญิงก็ต้องตามใจ พอไม่ได้ดั่งใจก็หงุดหงิด ทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ก็ไม่ไหวค่ะ ไม่มีใครตามใจคุณได้ตลอดไปหรอก

ชายหนุ่มคนไหนยังมีหลุด นิสัยผู้ชาย สุดยี้บ้างบางข้อ แบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ค่ะ ถ้ารู้แล้วก็ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เปลี่ยนตัวเองไปนะ ส่วนคุณผู้หญิงทั้งหลายก็ต้องคิดไว้ตลอดนะคะว่า “Nobody Perfect” คุณอาจจะมองหาผู้ชายที่มีข้อติดน้อยที่สุดก็ได้ แล้วก็ต้องถามใจตัวเองด้วยว่าคุณรับข้อเสียของผู้ชายคนนั้นได้แค่ไหน แต่ถ้าจะรอคนที่เพอร์เฟ็ก 100 % จริงๆ คงต้องรอเทพบุตรจุติมาเกิดแล้วล่ะคะสาวๆ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ : www.cooladvices.com

6 เรื่องต้องคิดให้ดีสักนิดก่อนตัดสินใจแต่งงานกับพ่อแม่เรือพ่วง

แพรวเวดดิ้งเข้าใจดีว่าความรักไม่เข้าใครออกใคร ดังนั้นเราจึงเห็นกันอยู่บ่อยๆ ว่ามีคนโสดตกหลุมรักกับพ่อหม้ายหรือแม่หม้ายลูกติด บางคู่รักกันมากจนถึงขั้นคิดจะแต่งงานรอบสอง ไอ้เรื่องแต่งงานน่ะมันก็เป็นเรื่องน่ายินดีค่ะ แต่! แพรวเวดดิ้งอยากให้คนที่อยู่ในสถานการณ์นี้คิดให้รอบคอบก่อนจะเซย์เยส แต่มีเรื่องอะไรที่ต้องคิดต้องคุยกันก่อนตัดสินใจแต่งงานกับ พ่อแม่เรือพ่วง บ้าง ไปดูกันค่ะ

1. ลูกเขากับเราเข้ากันได้หรือไม่

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเลยค่ะ แค่คุณสองคนรักกันอย่างเดียวคงไม่พอ ความรู้สึกของเด็กก็สำคัญเช่นกัน ลองประเมินตัวคุณเองและลูกของคนรักดูสิว่า เข้ากันได้หรือไม่ ตัวเด็กฉายแววต่อต้านหรือแสดงท่าทีคัดค้านกับการแต่งงานหรือเปล่า ถ้าลูกของเขายินดีและยอมรับคุณเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แพรวเวดดิ้งก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ เพราะถือว่าคุณได้ผ่านบททดสอบสำคัญไปหนึ่งข้อแล้ว

2. รักลูกเขาเหมือนเป็นลูกตัวเองได้ไหม

สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ คุณจะสามารถรักเด็กคนนั้นให้เหมือนเป็นลูกคุณเองได้หรือไม่ รวมถึงถ้าวันหนึ่งคุณมีลูกของตัวเอง คุณจะให้ความรักกับเขาทั้งสองคนได้เท่าเทียมกันหรือเปล่า มันอาจจะฟังดูยากที่จะให้รักลูกคนอื่นเท่ากับลูกของตัวเอง แต่อย่าลืมนะคะ เมื่อคุณตกลงแต่งงานกับผู้ปกครองของเขา นั่นเท่ากับว่าคุณได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา และชีวิตเขา และถ้าคุณไม่สามารถทำได้ มันต้องกลายเป็นปมในใจของเด็กแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องคิดเรื่องนี้ให้หนักด้วยนะ

3. รับพันธะของคนรักได้หรือไม่

หากว่าคนรักของคุณเป็นพ่อหม้ายหรือแม่หม้ายที่คู่คนก่อนเสียชีวิตไปเรื่องนี้คงสบายใจไปเปราะหนึ่ง แต่ถ้าเป็นการหย่าขาดจากกัน คุณคงต้องคิดสักหน่อยว่าความสัมพันธ์ของเขาและคนเก่าในตอนนี้เป็นเช่นไร เหลือไว้เพียงแค่การเป็นพ่อแม่ที่ดีของลูกเท่านั้นหรือไม่ และคุณรับได้แค่ไหนกับการที่เขายังต้องติดต่อกันเรื่องลูกหรือแวะมาหาลูกของเขาบ้าง ซึ่งคุณเองก็ไม่สามารถห้ามได้ นี่ก็เป็นอีกข้อหนึ่งที่คุณควรจะถามใจตัวเองให้ดีว่า “รับได้หรือไม่” ถ้าคำตอบคือ “ไม่” แพรวเวดดิ้งขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งแต่งจะดีกว่าค่ะ

4. เรื่องการเงินก็ต้องคิดนะ

เรื่องเงินก็สำคัญเช่นกันค่ะ คุณควรสังเกต (หรือถ้าจะให้ดีก็ถามเลย) ว่าคนรักของคุณมีภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูกของเขาอย่างไรบ้าง เช่น ค่าเทอม ค่าเรียนพิเศษ ในกรณีฝ่ายชายอาจต้องดูเพิ่มอีกว่า เขายังต้องส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้กับภรรยาเก่าหรือไม่ จากนั้นก็กลับมาคิดสิว่า ถ้ามีเราเพิ่มเข้าไปในครอบครัวอีกคนเขาจะดูแลเราไหวหรือเปล่า รวมถึงเราจะต้องส่งเสียเลี้ยงดูลูกของเขาด้วยไหม เรื่องนี้ต้องเคลียร์กันให้ชัดเจนนะคะ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในภายหลัง

5. จะมีลูกของเราเองด้วยไหม?

นอกจากจะต้องคิดเรื่องลูกของเขาแล้ว อยากให้คุณและคนรักเปิดใจคุยกันเรื่องลูกของตัวเองด้วย เพราะบางทีการที่คุณมีลูกคนใหม่อาจไปกระทบจิตใจของลูกอีกคน (ลูกคนเก่า) โดยเฉพาะเรื่องการดูแลเอาใจใส่และการแบ่งปันความรัก มีหลายคู่ที่ตกลงกันว่าจะไม่มีลูกใหม่ เพราะเขารักลูกของเขามากและไม่อยากให้ลูกรู้สึกไม่ดี สำหรับคู่ที่ตัดสินใจว่าอยากมีลูกของตัวเองก็ต้องให้ความรักกับทั้งสองคนได้อย่างเท่าเทียมกันด้วย (แนะนำให้กลับไปอ่านข้อ 2  อีกครั้งนะคะ)

6. จะให้เด็กเรียกคุณว่าอะไร?

ถ้าคุณตอบทุกคำถามและผ่านมาจนถึงข้อนี้คงแสดงให้เห็นว่าคุณจะแต่งงานแน่แล้ว อีกหนึ่งเรื่องสุดท้ายที่อยากให้คิดก็คือ “ลูกของเขาจะเรียกคุณว่าอะไร?” ซึ่งเรื่องนี้คงต้องให้เด็กเป็นคนตัดสินใจเองนะคะ แต่อย่าไปบังคับให้เขาเรียกพ่อหรือแม่ถ้าเขาไม่เต็มใจเด็ดขาด เพราะบางครั้งคำสำคัญเหล่านี้เขาคงอยากเก็บไว้ให้มีแค่คนเดียวที่ได้ฟังนะ จำไว้ว่าต้อง “แล้วแต่เขาจะเรียก” เท่านั้นค่ะ

สำหรับใครที่กำลังมีความรักกับคุณพ่อคุณแม่เรือพ่วงและกำลังจะตัดสินใจแต่งงาน แพรวเวดดิ้งอยากจะให้คุณลองคิดถึงสิ่งสำคัญที่เราแนะนำมาให้อ่านทั้ง 6 ข้อนี้ และมองให้รอบด้านก่อนตอบตกลงแต่งงาน เพราะบางครั้งความสุขก็ไม่ได้จบลงที่การแต่งงานเสมอไปหรอกจริงไหม

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ : www.genesismasterofevents.wordpress.com

คู่สีผิวเจ้าสาวกับสีสันของชุดไทยเลือกอย่างไรให้สวยเป๊ะ…ตามนี้

ว่าที่เจ้าสาวหลายคนใฝ่ฝันที่จะได้ใส่ ชุดไทย สวยงามในวันวิวาห์ของตนเอง วันนี้เราอยากให้ทุกคนสวยสมดังหวัง จึงสรรหาเคล็ดลับการเลือกชุดไทยให้เข้ากับสีผิวมาฝากค่ะ

1. สาวผิวเข้ม

สีชุดไทยที่เหมาะกับคุณคือ ชุดโทนสีเหลือง สีทอง สีชมพูอ่อน และสีโอลด์โรส เพราะจะช่วยขับสีผิวให้สวยพอดี ไม่ตัดกันจนดูหลอกตาจนเกินไป

ชุดไทย

ชุดไทย

ชุดไทย

2. สาวผิวสีน้ำผึ้ง (ขาวเหลือง)

สาวผิวงามตามฉบับไทยแท้ น่าอิจฉาที่คนผิวสีประเภทนี้ใส่ชุดไทยได้ทุกสี โดยเฉพาะสีแดง แล้วห่มทับด้วยผ้าตาดทอง ก็จะหญิงสวยราวกับเป็นกุลสตรีผู้สูงศักดิ์

ชุดไทย

3. สาวผิวขาว

จริงอยู่ที่ว่าสาวผิวขาวใส่ชุดแต่งงานได้ทุกสี แต่ถ้าจะใส่ชุดไทยแล้วให้สวยเป๊ะปัง แนะนำว่าเป็นชุดสีโทนเย็น เช่น สีเงิน สีฟ้า สีขาว ก็จะยิ่งสวย แถมให้อีกนิดว่าลองเลือกผ้านุ่งให้มีสีเข้มกว่าสไบชิ้นบน รับรองว่างามแท้แน่นอน

ชุดไทย

ในชีวิตหญิงไทยสมัยใหม่จะมีสักกี่ครั้งที่จะได้ใส่ชุดไทยแบบเต็มยศ อย่างน้อยในงานแต่งของตัวเองก็ครั้งหนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นเลือกชุดไทยให้เหมาะกับสีผิว จะได้สวยที่สุดและเก็บเป็นภาพความทรงจำไปได้อีกนานแสนนาน

>> ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย <<

ห้ามพลาด! เคล็ดลับลูกดกของสะใภ้อาหมวยที่แฝงไว้ในงานแต่ง

เรื่องหนึ่งที่ครอบครัวชาวจีนให้ความสำคัญหลังจากที่แต่งงานอยู่กินกันไปแล้วก็คือ เรื่องของการสืบสกุลหรือการมีบัตรนั่นเอง เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เหล่าอาม้าอากงทั้งหลายจะหาวิธีการสารพัดเพื่อทำให้สะใภ้อันเป็นที่รักมีบุตรให้ได้ในเร็ววัน ไม่เว้นแม้แต่ในพิธีแต่งงานที่มีการถือเคล็ดความเชื่อต่างๆ ไว้มากมายเพื่อที่จะให้เจ้าสาวนั้นมีลูกในเร็ววัน จะมี เคล็ดลับลูกดก แบบไหนบ้างที่จะช่วยให้คุณมีลูกเร็วเหมือนเสกได้ไปดูกันเลย

1. เอี๊ยมแดงในวันแต่งงาน

ในวันแต่งงาน ชาวจีนมักจะนิยมให้เจ้าสาวสวมเอี๊ยมสีแดง และใส่เมล็ดพืช 5 ชนิดไว้ในกระเป๋าของชุดเอี๊ยม ซึ่งเป็นตัวแทนของความเจริญงอกงาม มีต้นชุงเฉ้าหรือต้นเมียหลวง 2 ต้น พร้อมกับให้แม่เจ้าสาวปักปิ่นปักผมสีทองที่มีลายภาษาจีนเป็นคำว่า “ยู่อี่” ซึ่งหมายถึง “สมปรารถนา” ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นเคล็ดลับให้เจ้าสาวมีลูกมีหลานสืบสกุล

2. ไข่ต้มในขนมอี๊เพื่อลูกชายคนแรก

อาตี๋อาหมวยหลายคนที่แต่งงานจะต้องไม่พลาดการทาน “ขนมอี๊” หรือ “บัวลอยจีน” แน่นอน ซึ่งเคล็ดลับการทานไข่ต้มที่อยู่ในขนมอี๊นั้น ห้ามใช้ช้อนตัดแบ่งครึ่งในถ้วยเด็ดขาด ต้องทานเข้าไปทั้งลูก เพราะชาวจีนเชื่อกันว่าจะทำให้ลูกคนแรกที่เกิดมานั้นเป็นลูกชาย

3. อาบน้ำทับทิมแล้ววิ่งไปกินไข่ต้ม

ความเชื่อนี้ฮีบินเจอมากับคนใกล้ตัวค่ะ เพราะหลังจากที่เพื่อนสาวแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายชายไปแล้ว นางก็กลับมาเล่าให้ฟังว่า หม่าม๊าฝ่ายชายจัดเตรียมพิธีอาบน้ำให้นาง โดยนำกิ่งทับทิมมาโรยไว้ในน้ำที่ต้องใช้อาบ จากนั้นเมื่ออาบเสร็จเรียบร้อยก็ต้องรีบวิ่งออกปอกไข่ต้มแล้วกินเข้าไปในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้ก็เพื่อให้นางมีลูกมีหลานไว้สืบสกุลเร็วๆ นั่นเอง!

4. ฮวงจุ้ยเสริมดวง เร่งเจ้าตัวน้อยให้มาอยู่กับคุณ

ชาวจีนเชื่อกันว่าตำแหน่งของห้องนอนก็ส่งผลกับการมีเจ้าตัวน้อยเช่นกัน ดังนั้นตำแหน่งที่ดีที่สำหรับห้องนอนของคู่รักจะต้องอยู่ทางทิศตะวันตก หรือส่วนกลางค่อนไปทางขวามือของตัวบ้าน อีกทั้งภายในห้องนอนจะต้องทาผนังเป็นสีขาว เตียงนอควรทำด้วยโลหะมันวาว ขาเตียงต้องเป็นทรงกลม โคมไฟในห้องนอนก็ต้องเป็นทรงกลมเช่นกัน ส่วนอุปกรณ์เครื่องใช้ควรมีสีสันสดใสหรือสีโทรสว่าง ห้ามใช้ของสีแดงและของที่มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมที่มีมุมแหลม  ไม่ควรวางตู้ที่มีกระจกเงาไว้ปลายเตียง รวมถึงไม่ควรมีหิ้งพระหรือโต๊ะหมู่ไว้ในห้องนอน เพราะถือว่าเป็นห้องเฉพาะคน

5. ไหว้พระพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ขาดไม่ได้กับสถานที่ยอดฮิตที่คู่รักและครอบครัวมักจะพากันไปกราบไหว้ขอบุตร ไม่ว่าจะเป็น
– เจ้าแม่กวนอิม วัดเล่งเน่ยยี่ ถนนเจิรญกรุง กรุงเทพฯ
– หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา
– ศาลเจ้าพ่อเสือ (ตั๊วเล่าเอี๊ย) ถนนตะนาวศรี กรุงเทพฯ
– เจ้าแม่กวนอิมที่ Repulse Bay ประเทศฮ่องกง
– พระสังกัจจายน์ ที่วัดหลิงซาน ประเทศจีน

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ อยากจะบอกว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของแต่ละครอบครัวนะคะ บางอย่างชาวจีนก็ถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยรุ่นเหล่ากง เหล่าม่า บางอย่างก็เพิ่งจะเคยเจอกับคนใกล้ตัว  เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของบ่าวสาวด้วยนะคะ แต่ถ้าใครที่อยากทำตามเพื่อช่วยให้สบายใจ มีกำลังใจในการผลิตลูกก็อย่าได้เคอะเขิน (เพราะยังไงก็ไม่ขัดกับความหวังดีของบรรพบุรุษ) แต่ก็อย่าลืมว่า สมัยนี้วิทยาการทางการแพทย์เขาล้ำสุดๆ แล้วนะ ถ้าอยากจะมีลูกจริงๆ ควรไปตรวจความพร้อมของร่างกาย และปรึกษาคุณหมอ ก็น่าจะเป็นหนทางที่เชื่อถือได้มากที่สุดนะคะ

>> ดูเรื่องราวเกี่ยวความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย <<

ภาพเปิด : www.nutritionnews.abbott

สานฝันสาวอวบกับ 7 เคล็ดลับเด็ดเพื่อการเลือกซื้อชุดแต่งงานคนอ้วนในฝัน

คนอ้วนก็สวมชุดแต่งงานในฝันได้ไม่ต่างจากคนผอมหุ่นดีนะคะ และการจะเลือก ชุดแต่งงานคนอ้วน สวยๆ สักชุดที่มั่นใจว่าเหมาะกับตัวคุณนั้นไม่ใช่เรื่องยากค่ะ วันนี้เรามี 20 ชุดแต่งงานพร้อม 7 เคล็ดลับเด็ดเพื่อสาวอวบที่กำลังตามหาชุดแต่งงานในฝันมาฝากกัน แค่ทำตามที่บอก รับรองว่าได้ชุดงามๆ สมใจแน่นอนค่ะ

1. โทรสอบถามล่วงหน้า

ลองมองหาร้านชุดแต่งงานที่สนใจจากอินเตอร์เน็ตแล้วลองโทรถามทางร้านเพื่อบอกถึงขนาดรูปร่างของตั­วเองและถามว่าสามารถจัดหาชุดแต่งงานตามขนาดของคุณได้หรือไม่ เพราะโดยปกติแล้วร้านชุดแต่งงานทั่วไปจะมีแค่ชุดตัวอย่างตามขนาดมาตรฐานทั่วไปเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าอาจจะไม่มีชุดที่พอดีกับรูปร่างของว่าที่เจ้าสาวบางคน

2. มองหาร้านชุดแต่งงานขนาดใหญ่

ร้านชุดแต่งงานสาขาเล็กๆ อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักสำหรับว่าที่เจ้าสาวที่มีรูปร่างอวบ ลองไปร้านขายชุดแต่งงานสาขาหลักหรือร้านที่มีขนาดใหญ่แทนก่อน ร้านขนาดใหญ่เหล่านี้จะมีชุดแต่งงานให้เลือกมากมายและคุณอาจเจอชุดที่ใช่และเข้ากับรูปร่างได้ง่ายกว่าร้านสาขาเล็กๆ แต่ถ้ายังไม่คิดว่าจะเจอชุดที่ถูกใจ ร้านขนาดใหญ่เหล่านี้ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเริ่มต้นหาชุดเจ้าสาวสักชุดสำหรับงานแต่งงาน

3. อย่าปล่อยให้ใครมาชี้นำ

สำหรับการเลือกซื้อชุดแต่งงาน คนตัดสินใจคือตัวว่าที่เจ้าสาวเอง ดังนั้นอย่าให้ใครมาครอบงำการตัดสินใจ โดยเฉพาะพนักงานขาย คำแนะนำอาจรับฟังได้แต่ไม่ใช่การตัดสินใจแทน จำไว้นะจ้ะ

4. ปรับสไตล์ให้เข้ากับคุณ

เมื่อลองชุดแต่งงานแล้วรู้สึกถึงความไม่ใช่ อาจลองปรับเปลี่ยนเพื่อให้ชุดแต่งงานที่จะสวมใส่ดูเข้ากับรูปร่างและเพิ่มความสวยมากขึ้น อย่างการเพิ่มแขนของชุดเจ้าสาว ซึ่งสามารถเพิ่มได้ในช่วงการผลิตขั้นสุดท้าย หรือการเพิ่มเติมปรับเปลี่ยนอื่นๆ อย่างเช่น ความยาวสั้นที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงของกระโปรง ลองถามพนักงานขายถึงเรื่องการปรับเปลี่ยน และอย่ากลัวที่จะถามถึงเรื่องราคาสำหรับค่าการปรับเปลี่ยนชุด (เพราะทุกอย่างควรเป็นไปตามเหตุและผล)

5. รูปร่างของคุณไม่ใช่เรื่องน่าอาย

อย่ากลัวที่จะลองชุดแต่งงาน หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวไม่ดีเกี่ยวกับพนักงานขายที่ถามลูกค้าให้ลดน้ำหนักเพื่อให้ใส่ชุดเจ้าสาวได้ หรืออาจจะกรณีอื่นๆ ที่ทำให้ว่าที่เจ้าสาวต้องรู้สึกอับอายกับขนาดรูปร่างตัวเอง ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น สิ่งที่ควรทำคือมองหาพนักงานขายคนใหม่หรืออาจเปลี่ยนร้านเพื่อความสบายใจที่เพิ่มขึ้นแทน

6. มั่นใจในตัวเองเข้าไว้

ความมั่นใจคือสิ่งสำคัญ ลองมองหาชุดแต่งงานที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและพนักงานขายที่จะเป็นคนช่วยมองหาชุดแต่งงานที่ใช่ อย่าให้ใครมาลดความมั่นใจด้วยขนาดรูปร่างหรือการหาชุดแต่งงานที่ยากสำหรับการสวมใส่ ถ้าหากเจอคนที่ทำให้ความมั่นใจลดลง ลองมองหาร้านขายชุดแต่งงานที่อื่นเพราะยังมีร้านขายชุดแต่งงานมากมายที่มีชุดเจ้าสาวหลากหลายที่จะช่วยว่าที่เจ้าสาวดูสวยและดูดีในวันแต่งงาน

7. สนุกไปกับช่วงเวลานั้น

ช่วงเวลาแห่งการเลือกซื้อชุดแต่งงานคือประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่งในชีวิต ดังนั้นควรจะสนุกไปกับมัน ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่งงานที่น่ารัก ระยิบระยับ หรือมีกระโปรงเป็นชั้นๆ แค่ลองมองหาชุดแต่งงานที่ชอบและใช่ และเลือกซื้อด้วยความสนุกและมีความสุขเท่านั้น (แต่อย่าสนุกมากจนลืมเรื่องงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ด้วย)

>> ดูไอเดียชุดแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย! <<

ภาพ Pinterest

20 เทคนิคจัดงานแต่งงานให้ดูดี และน่าจดจำไปชั่วนิรันดร์ฟอร์เอเวอร์

ปีๆ หนึ่งมีคู่รักแต่งงานกันเป็นร้อยๆ คู่ และในบรรดาคนรอบกายคุณไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ เพื่อน พี่ น้อง หรือญาติคนอื่นๆ ก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานแต่งงานมาไม่น้อย ว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่อยากให้แขกของคุณรู้สึกว่างานแต่งครั้งนี้ดูดีและน่าจดจำมากกว่างานอื่นที่เคยไปมาและให้เขาเหล่านั้นรู้สึกว่าเป็นมากกว่าแค่งานเฉลิมฉลองตามธรรมดา ตามเรามาเลยค่ะ เพราะวันนี้เรามี ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ สำหรับการจัดงานแต่งงานให้ตราตรึงใจแขกมาฝากกัน

1. อย่ายืดเยื้อเยิ่นเย้อ

ถึงแม้ว่างานแต่งงานจะใช้เวลาอย่างน้อยๆ สามชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม บ่าวสาวทั้งหลายอย่าเพิ่งชะล่าใจไปว่ามีเวลาเหลือเฟือแล้วฉันจะทำอะไรนานเท่าไหร่ก็ได้ เราขอแนะนำว่า ให้คุณกระชับและกำหนดช่วงเวลาของแต่ละพิธีการให้ชัดเจน อย่าให้นานเกินไปจนแขกออกอาการเบื่อหรือรำคาญ จัดเวลาแต่ละช่วงให้เหมาะสมจะดีที่สุด

2. สร้างเอกลักษณ์จากตัวบ่าวสาว

ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ

การหยิบความชอบส่วนตัวหรือไลฟ์สไตล์ของคู่บ่าวสาวครีเอทสิ่งละอันพันละน้อยและของใช้ต่างๆ ในงานแต่ง เช่น การ์ด ซองใส่การ์ด ของชำร่วย ฯลฯ แบบนี้ก็ช่วยให้งานแต่งงานของคุณดูยูนีคไม่เหมือนใคร ไม่ว่าแขกคนไหนก็ไม่มีทางลืมงานแต่งครั้งนี้แน่นอน

3. ใครๆ ก็ใช้ #hashtag

ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะโผล่หน้าไปงานแต่งที่ไหนก็ล้วนแล้วแต่มี #hashtag ประจำงานแต่งกันทั้งนั้น ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้ชื่อบ่าวสาวเป็นคำสำคัญ หรือจะอยากครีเอทด้วยไอเดียสร้างสรรค์ ใช้คำเจ๋งๆ เท่ๆ แบบไม่มีใครเหมือนก็ได้ แต่อย่าลืมกำชับเหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่ให้ติด #hashtag เวลาอัพโหลดรูปด้วยนะ

4. กล่องยังชีพสุดน่ารักสำหรับแขก

ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ

สำหรับใครที่เลือกจัดงานแต่งงานตามต่างจังหวัด แล้วเหล่าแขกผู้มีเกียรติของคุณจะต้องเดินทางมาค้างอ้างแรมกันก่อนวันงาน เราแนะนำให้คุณเตรียมกล่องยังชีพไว้คอยต้อนรับจะดีที่สุด ซึ่งสิ่งของในกล่องนั้นอาจจะเป็นขนมทานเล่น น้ำ แผนที่สถานที่โดยรอบ เช่น ร้านอาหาร ร้านขายยา และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ด้วยก็ได้ ทำแบบนี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับแขก รับรองว่าปลื้มกันทั้งงาน

5. ทักทายแขกให้ครบทุกคน

ไม่ว่างานแต่งงานของคุณจะเชิญแขกเยอะแค่ไหน สิ่งสำคัญที่จะสร้างความทรงจำดีๆ ระหว่างคุณกับแขกก็คือการพูดคุยกันต่อหน้า ไม่ว่าจะเป็นแขกผู้ใหญ่ฝั่งใครก็ตาม คุณควรจะโอภาปราศรัยกับเขาเหล่านั้นด้วยร้อยยิ้ม อย่าเพียงแต่พูดประโยคซ้ำๆ อย่างคำขอบคุณเพียงอย่างเดียว ควรถามไถ่สารทุกข์สุกดิบบ้างพอหอมปากหอมคอและเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย

6. จัดโต๊ะจัดกลุ่มแขกให้ลงตัว

ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ

Seating Plan หรือแผนที่นั่ง ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียเก๋ไก๋สำหรับงานแต่งงาน คุณควรจะแบ่งแขกที่เชิญมาออกเป็นกลุ่มๆ เช่น เพื่อนสมัยประถม เพื่อนสมัยมัธยม เพื่อนสมัยมหา’ลัย เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนคุณพ่อ-คุณแม่ และอีกสารพัดแขก จากนั้นก็จัดการวางผังที่นั่งให้กับแต่ละกลุ่ม พร้อมทำป้ายวางไว้ที่หน้างานอย่างสวยงาม ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นของประดับให้งานดูดีเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ทั้งสำหรับเจ้าภาพและแขก ลดทอนความวุ่นวายของการเลือกที่นั่งไปได้เลย

7. เปิดบาร์ให้สายดริ๊งก์

ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ

งานแต่งที่ใดก็ล้วนแล้วแต่มีสายดริ๊งก์ สายจิบ สายกระดกอยู่เต็มงาน เพราะฉะนั้นเราแนะนำให้คุณเปิดบาร์เล็กๆ ไว้ภายในบริเวณสถานที่จัดงานแต่ง ใครที่งบเยอะ สามารถจัดหาเครื่องดื่มได้แบบไม่อั้นก็สามารถจัดไวน์ชั้นเลิศหรือบรั่นรสดีให้แขกได้ ส่วนใครที่งบพอตัวแต่ยังอยากสร้างความสนุกผ่านการดื่มก็สามารถเลือกเครื่องดื่มแบบไม่แพง อย่างเช่น เหล้า เบียร์ หรือค็อกเทลก็ได้เช่นกัน

8. เครื่องดื่ม Signature

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-signature-cocktail-julie-paisley

นอกจากเปิดบาร์เครื่องดื่มแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรมีเพื่อความน่าจดจำของงานแต่งก็คือ เครื่องดื่มพิเศษที่ไม่เหมือนงานไหนๆ อาจจะเป็นการผสมผสานเครื่องดื่มที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวชอบดื่มก็ได้ หรือจะสร้างค็อกเทลรสชาติใหม่ก็เข้าท่า ส่วนบ่าวสาวคู่ไหนที่ไม่สันทัดเรื่องของมึนเมา น้ำผักผลไม้อย่างเช่น น้ำฝรั่ง น้ำดอกอัญชัญ ฯลฯ ก็ใช้ทดแทนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้แบบไม่มีที่ติ แถมดีต่อสุขภาพด้วยนะ

9. สิ่งอำนวยความสะดวกต้องมีครบ

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-throw-the-best-wedding-guests-comfortable-ashley-mccormick

คุณควรจะเช็กให้แน่ใจว่ามีสิ่งไหนที่แขกต้องการเมื่อมาร่วมงานแต่งงานของคุณ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับวัน เวลา และสถานที่ที่คุณเลือกจัดงาน อย่างเช่น ถ้าคุณจัดงานแต่งบนชายหาดริมทะเล สิ่งที่ควรจะเตรียมไว้ให้แขกก็คือ รองเท้าแตะ แว่นกันแดด และร่ม เพราะฉะนั้นคุณควรจะ make sure ว่าแขกของคุณจะไม่รู้สึกลำบากเมื่อมางานแต่งงานของคุณ

10. มุมนั่งพักขา

บ่าวสาวคู่ไหนที่จัดงานแต่งแบบซิทดาวน์ดินเนอร์หรือแบบโต๊ะจีนคงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แต่ใครที่คิดจะจัดงานแต่งแบบค็อกเทลและบุฟเฟต์แล้วล่ะก็ เรื่องที่นั่งสำหรับแขกเป็นสิ่งสำคัญมาก! เพราะนอกจากโต๊ะนั่งของแขกผู้ใหญ่แล้ว คุณควรจะหาพื้นที่หรือมุมเล็กๆ ตกแต่งให้สวยงามตามธีมงานเพื่อตั้งเก้าอี้หรือโซฟาสำหรับให้แขกมานั่งพักขาบ้าง ตกแต่งมุมนั่งพักให้สวยงามตามธีมงาน คงไม่มีแขกคนไหนอยากยืนตั้งแต่ตอนต้นงานจนจบงานหรอกนะ

11. ไม่ต้องพูดยาวมากก็ได้

เราเข้าใจดีค่ะว่างานแต่งงานจำเป็นต้องมีญาติผู้ใหญ่ขึ้นมาอวยพรให้บ่าวสาว แต่สิ่งสำคัญคือ อย่าให้พูดยาวมากจนเกินไป เพราะแขกส่วนใหญ่จะเริ่มเบื่อและไม่สนใจฟัง (อันนี้เรื่องจริง!) ทางที่ดีให้แจ้งผู้ที่จะขึ้นพูดว่ามีเวลาให้พูดนานเท่าไหร่ ท่านละกี่นาที เพื่อที่ท่านจะได้เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ

12. เปิดช่วงให้แขกรีเควสต์เพลงแดนซ์

เสร็จจากพิธีการแล้วก็เข้าสู่ช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ถ้าคุณอยากเอนเตอร์เทนเหล่าเพื่อนพ้องให้แดนซ์มันจนฟลอร์ไฟลุก แนะนำให้หาดีเจเจ๋งๆ สักคนมาช่วยในงาน รวมถึงเปิดช่วงให้ขาแดนซ์ทั้งหลายสามารถรีเควสต์เพลงสนุกๆ ที่พวกเขาอยากออกสเต็ป รับรองว่าเต้นลืมเหนื่อยแน่นอน!

13. EIY bar – Eat It by Yourself

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-throw-the-best-wedding-diy-bar-chalk-shop-events

ปกติแล้วงานแต่งมักจะมีอาหารที่แคทเธอริ่งจัดมาให้ เรียงเป็นคำสวยงามเสร็จสรรพ ทำให้แขกต้องทานตามเมนูที่มี เราจึงอยากให้คุณลองจัดมุมขนมและเครื่องดื่มเล็กๆ แบบ Eat It by Yourself อาจเป็นขนมปังน่ารักๆ ล้อมรอบไปด้วยท็อปปิ้งหรือแยมต่างๆ ให้แขกเลือกจับคู่ทานตามที่อยาก รับรองว่าทั้งอิ่มและสนุก

14. มุมชาร์ตแบตต้องมี

เดี๋ยวนี้แบตเตอรี่โทรศัพท์ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก มางานแต่งทั้งทีต้องถ่ายรูปเป็นร้อยเป็นพัน เพราะฉะนั้นบ่าวสาวต้องไม่ลืมหามุมเล็กๆ ใกล้ห้องน้ำหรือทางเข้างาน ตกแต่งเป็นมุมสำหรับชาร์ตแบตโทรศัพท์ให้กับแขก และอย่าลืมติด #hastag งานแต่งไว้ตรงนั้นด้วย

15. เพิ่มความสนุกด้วยเกม

ในระหว่างที่แขกคนที่มาก่อนนั่งรอ ยืนรอ ให้ถึงเวลาที่บ่าวสาวลงมาถ่ายรูป หรือรอให้ถึงฤกษ์เริ่มพิธีการ นอกจากจะมีอาหารมาแก้ขัดในช่วงรอแล้ว เกมก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียดีๆ ที่จะช่วยให้แขกวัยสะรุ่น อย่างเพื่อนพี่น้องได้เล่นชิลๆ ฆ่าเวลา หรือจะใช้เบรกเวทีแดนซ์ในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ให้เหล่าหนุ่มสาวได้พักสเต็ปเท้าก็ได้เหมือนกัน

16. ของกินเล่นสำหรับช่วงปาร์ตี้

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-throw-the-best-wedding-late-night-harwell-photography-hot-chocolate

หลังจากจบช่วงพิธีการอาหารต่างๆ ก็มักจะหมดไปพร้อมกัน เหลือแต่เครื่องดื่มที่ยังมีให้เติมกันไม่อั้น แต่จะให้ขาแดนซ์ดื่มอย่างเดียวคงไม่ดีเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นบ่าวสาวควรคุยกับแคทเธอริ่งเพื่อให้เขาจัดเตรียมขนมทานเล่น (เรียกง่ายๆ ว่ากับแกล้ม) ไว้เติมพลังแดนซ์ให้ชาวปาร์ตี้ด้วย

17. ของชำร่วยที่ใช้งานได้จริง

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-throw-the-best-wedding-favor-people-want-annie-mcelwainเรามีโอกาสได้ร่วมงานแต่งมาหลายต่อหลายครั้ง เชื่อเถอะค่ะว่าของชำร่วยที่ดีที่สุดคือของชำร่วยที่ใช้งานได้จริง เพราะว่าทุกครั้งที่เขาหยิบมันมาใช้มันจะทำให้เขาระลึกถึงงานแต่งงานของคุณเสมอ และแน่นอนว่ามันจะไม่ได้ถูกทิ้งไว้ในตู้โชว์หรือที่ไหนสักที่ให้ฝุ่นจับ

18. มุมถ่ายรูปเก๋ๆ

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-photo-booth-sarah-chen

งานแต่งงานไหนๆ ก็มีมุมถ่ายรูปค่ะ แต่จะดีกว่าไหมถ้างานแต่งของคุณจะมีมุมถ่ายรูปที่ไม่ใช่แค่แบ็กดรอปแข็งๆ ธรรมดา ลองหาไอเดียใหม่ๆ ให้มุมถ่ายรูปมีสีสัน วางพร็อบหรือของตกแต่งที่แขกสามารถหยิบมาใช้โพสต์ท่าเก๋ๆ ดีกว่ายืนเอาหน้าแนบช่อดอกไม้เป็นไหนๆ

19. ปรับพิธีการตามสไตล์ใจอยาก

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-throw-the-best-wedding-first-look-marisa-holmes

พิธีการในงานแต่งงานในบ้านเราค่อนข้างที่จะเข้มงวด แต่ก็ใช่ว่าเราจะปรับแต่งให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความชอบของบ่าวสาวไม่ได้ ใครที่อยากได้งานสนุกสนานเฮฮา ก็สามารถลองใส่ลูกเล่นให้กับขบวนขันหมากในตอนเช้า หรือแม้กระทั่งงานฉลองตอนเย็น ลองเปลี่ยนจากโยนช่อดอกไม้ธรรมดามาเป็นจับฉลากชื่อสาวโสด แบบนี้รับรองว่าสาวไร้คู่ในงานไม่ต้องเหนื่อยกระโดดบนส้นสูง แต่ได้ลุ้นตัวโก่งเหมือนหวยออก!

20. จบงานแบบ Finale บนแคทวอล์กเริ่ดๆ!

2014_bridescom-editorial_images-11-how-to-throw-an-unforgettable-wedding-large-throw-the-best-wedding-cool-exit-the-grovers

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา แต่จะปล่อยให้งานจบแบบกร่อยๆ แขกเหรื่อหันหลังเดินออกจากงานธรรมดาไม่ได้! เราแนะนำให้บ่าวสาวขอความร่วมมือเพื่อนพี่น้องช่วยส่งท้ายงานแห่งความสุขด้วยการโปรยดอกไม้ กระดาษวิบวับ หรือจะเป็นไฟเย็นสวยๆ ช่วยส่งบ่าวสาวเข้าห้องหอ รับรองว่าจบงานแบบประทับใจ แถมได้รูปสวยๆ มาเป็นโหล

20 เทคนิคที่ เราแนะนำให้คุณไม่ได้ทำยากแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าที่บ่าวสาวใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ สักนิด รับรองค่ะว่างานแต่งงานของคุณจะต้องน่าจดจำและสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับทุกๆ ที่มาร่วมงานแน่นอน

>> ดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย <<

เรียบเรียงและรูปภาพ : www.brides.com

9 เหตุผลที่การันตีได้ว่าผู้หญิงรักสัตว์จะเป็นภรรยาที่เพอร์เฟ็กต์เว่อร์

ผู้หญิงรักสัตว์ จะเป็นภรรยาที่เพอร์เฟ็กต์เวอร์ อาจจะเป็นตรรกะที่แปลกสักนิด แต่ขอบอกว่าจริงนะเออ ถ้าไม่เชื่อ เรามี 9 เหตุผลที่จะสนับสนุนความคิดนี้ได้ดีมาเล่าสู่กันฟัง

เธอจะแบ่งปัน

บ่อยครั้งที่สายตาเว้าวอนของเจ้าตูบหรือเจ้าหมียวทำให้สาวๆ อดที่จะแบ่งปันอาหารให้กับมันไม่ได้ ด้วยเหตุนี้แหละทำให้สาวๆ ที่รักสัตว์เรียนรู้ที่จะแบ่งปันและมีน้ำใจ ทั้งต่อสัตว์โลกและเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสามี ลูก และคนในครอบครัว

เธอจะรอบคอบ

สัตว์เลี้ยงไม่สามารถพูดกับเราได้ว่ามันกำลังเป็นอะไรหรือต้องการอะไร ดังนั้นคนที่จะเลี้ยงน้องหมาหรือน้องแมวสักตัวหนึ่งต้องเป็นคนที่มีความรอบคอบ ใส่ใจ และระมัดระวังสิ่งต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงแสนรักได้ ซึ่งแน่นอนว่าความรอบคอบของสาวๆ ที่รักสัตว์จะส่งผลดีหลายๆ อย่างต่อการใช้ชีวิตคู่ด้วย เช่น เธอจะเป็นแม่บ้านที่ดูแลบ้านได้ดีเยี่ยม หรือเธอจะเป็นภรรยาที่ช่วยการงานของสามีได้อย่างเพอร์เฟ็กต์

เธอจะซื่อสัตย์

น้องหมาเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์เป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกถ้าสาวๆ ที่รักน้องหมาจะมีนิสัยซื่อสัตย์เช่นเดียวกัน เพราะเธอต้องซื่อสัตย์ที่จะเลี้ยงดูมันโดยไม่ทิ้งขว้างหรือเบื่อหน่าย แม้ในยามที่มันไม่น่ารักหรือแก่ชรา ซึ่งไม่ต่างกับการใช้ชีวิตคู่เลยที่ต้องอาศัยความซื่อสัตย์เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินความรักให้ราบรื่น

เธอจะให้อภัย

เป็นธรรมดาของสัตว์เลี้ยงที่ย่อมไม่รู้ประสีประสาจนทำอะไรให้เจ้าของต้องขุ่นเคืองใจ เช่น กัดรองเท้า คุ้ยข้าวของกระจุยกระจาย ซึ่งหากเป็นคนทั่วไปก็คงโกรธหรือโมโห แต่สำหรับสาวๆ ที่รักสัตว์แล้ว เธอจะพร้อมให้อภัยกับเรื่องเหล่านี้ได้เสมอ ซึ่งนั่นแปลว่าหากเธออยู่ในสถานะภรรยาก็จะมีคุณธรรมข้อนี้อยู่ในใจ คือรู้จักให้อภัย และไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องที่ใครๆ ก็ทำผิดพลาดกันได้

เธอจะมีความรับผิดชอบ

ความรับผิดชอบเป็นคุณสมบัติที่สาวรักสัตว์จะขาดไปไม่ได้เลย เพราะการเลี้ยงน้องหมาหรือน้องแมวสักตัวหนึ่ง เธอต้องรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ทั้งยังต้องรับผิดชอบต่ออีกหลายๆ หน้าที่ให้ดีไปพร้อมกันด้วย ซึ่งก็ถือเป็นข้อดีหากเธอต้องมารับบทบาทภรรยาหรือแม่ที่ต้องมีความรับผิดชอบสูง เชื่อว่าคุณผู้ชายคงจะเบาใจไปได้มากทีเดียว

เธอจะอดทน

หากผู้หญิงมีความอดทนมากกว่าผู้ชายเท่าไหร่ ผู้หญิงที่รักสัตว์ก็มีความอดทนมากกว่าผู้หญิงทั่วไปอีกเท่านั้น เพราะเธอต้องผ่านปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแสนรักมากมาย เธอต้องมีคุณสมบัติสำคัญอีกหลายประการจึงจะเป็นเจ้าของที่ดีได้ ซึ่งความอดทนที่ว่านั้นก็สร้างขึ้นจากเรื่องราวเหล่านี้นี่เอง

เธอจะอารมณ์ดี

ความน่ารักและความไร้เดียงสาของเจ้าตูบหรือเจ้าเหมียวทำให้สาวที่รักสัตว์กลายเป็นคนอารมณ์ดี คิดบวก ขี้เล่น และสนุกสนาน ซึ่งก็เป็นคุณสมบัติอีกข้อของสาวๆ ที่หนุ่มๆ ชื่นชอบ เพราะการได้อยู่กับคนที่มีความสุขก็จะทำให้เรามีความสุขตามไปด้วย

เธอจะใจเย็น
การเลี้ยงสัตว์ทำให้สาวๆ เป็นคนใจเย็น เพราะจะสังเกตเห็นได้ว่าในการสื่อสารกับมันหรือการฝึกหัดให้มันทำสิ่งต่างๆ ต้องใช้ความพยายามและเวลาเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นการฝึกจิตใจของผู้เลี้ยงไปในตัวด้วย ทีนี้หากหนุ่มๆ ได้สาวที่รักสัตว์มาเป็นภรรยาก็หมดกังวลได้เลยว่าเธอจะใจร้อนดั่งไฟหรือเปล่า

เธอจะมีสัญชาตญาณความเป็นแม่

ถ้าจะเปรียบเทียบกัน สัตว์เลี้ยงแสนรักก็ไม่ต่างกับลูกสาวลูกชายในอ้อมอกอ้อมใจของพ่อแม่สักเท่าไหร่ เพราะทั้งสองอย่างนี้ก็ต้องการการเลี้ยงดู การดูแล และการเอาใจใส่จากเจ้าของหรือพ่อแม่ ด้วยเหตุนี้ทำให้หนุ่มๆ มั่นใจได้ว่าสาวๆ ที่รักสัตว์ เธอจะมีสัญชาตญาณความเป็นแม่อยู่ในตัวเอง เธอจะรู้ว่าต้องเลี้ยงลูกอย่างไร จะเล่นกับเด็กอย่างไร หรืออย่างน้อยที่สุดเธอก็จะเรียนรู้วิธีการเป็นแม่ที่ดีได้อย่างรวดเร็ว

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย << 

ข้อมูลและภาพ : www.brides.com, www.legaltemplates.net

คิดจะแต่งงานกันทั้งที 5 เรื่องต่อไปนี้ต้องคุยกันให้ดีก่อนแต่งงาน

เมื่อมั่นใจแล้วว่าเขาและเธอคือคนที่ใช่ หัวใจก็เรียกร้องวันวิวาห์ แต่เดี๋ยว ก่อนแต่งงาน ! ทั้งทีมันก็มีเรื่องที่ต้องตกลงกันก่อน โดยเฉพาะ 5 เรื่องต่อไปนี้ที่คู่รักทุกคู่ควรจะเปิดอกคุยก่อนจะตัดสินใจลงไปอยู่ในเรือลำเดียวกัน

1. จับเข่าคุยกันสักนิดว่าการแต่งงานและการใช้ชีวิตคู่สำคัญสำหรับคุณทั้งคู่อย่างไร

แน่นอนว่าไม่มีคำตอบใดผิดและไม่มีคำตอบใดถูก แต่การที่คุณทั้งคู่ค่อยๆ คิดว่าอะไรคือสิ่งที่คาดหวังสำหรับชีวิตคู่ ทั้งในวันนี้และในอนาคต ย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ความรักหลังแต่งงานมีความสุขและราบรื่น แต่คิดเพียงฝ่ายเดียวไม่เกิดประโยชน์อะไรแน่นอน ดังนั้นก่อนจะเซย์เยส ลองถามใจตัวเองสักนิดว่ามีมุมมองที่แท้จริงต่อเรื่องนี้อย่างไร จากนั้นหาเวลานั่งคุยกันสักหน่อยว่ามีมุมมองการใช้ชีวิตคู่ตรงกันไหม อะไรบ้างที่ควรปรับให้เข้ากัน รวมถึงรูปแบบงานแต่งที่ต้องการเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ปรับจูนความเข้าใจและทัศนคติต่างๆ ให้เคลียร์ชัดก่อนที่จะตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน

2. เงินทองของต้องคุย

เรื่องเงินๆ ทองๆ นี่แหละ ที่ทำให้คู่รักกลายเป็นคู่ร้างมานักต่อนัก เพราะฉะนั้นคุณทั้งคู่ควรที่จะเปิดใจคุยให้รู้เรื่องกันไปเลยว่า มีความกังวลหรือมีหนี้สินใดๆ ผูกมัดเอาไว้ก่อนแต่งงานหรือไม่ อย่ากลัวที่จะต้องปรึกษาเรื่องการเงินของกันและกัน ให้คุณทั้งคู่นึกไว้เสมอว่า “รู้วันนี้ดีกว่ามีเซอร์ไพรส์วันหน้า” รวมไปถึงเรื่องสำคัญอย่างสินสอดทองหมั้นและงบประมาณการจัดงานแต่งว่ามีมากน้อยแค่ไหน วางแผนใช้เงินในอนาคตกันอย่างไร เงินเธอกับเงินฉัน ใช้กระเป๋าเดียวกันหรือเปล่า คุยกันให้กระจ่าง จะได้ไม่ต้องขุ่นเคืองใจกันในภายหลัง

3. บ้านเธอ บ้านฉัน อยู่กันที่ไหนดี

เรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาสำหรับคู่รักสมัยนิยมที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่ก่อนแต่งงาน แต่สำหรับคู่รักมือใหม่การตัดสินใจเรื่องเรือนหอรอรักนั้นก็จำเป็นไม่น้อย คุยกันให้ชัดเจนว่าจะอยู่บ้านเธอ จะอยู่บ้านฉัน หรือจะแยกออกมาเป็นครอบครัวเล็กๆ น่ารัก แต่อย่าลืมว่าคุณพ่อคุณแม่ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงด้วย บางคู่มีเงื่อนไขเรื่องการทำงานหรือเรื่องจำเป็นอื่นๆ ที่ทำให้ต้องอยู่แยกกันหรือสลับไปมาระหว่างสองบ้าน ก็ควรจัดสรรเวลาให้ดี จะอยู่บ้านนี้กี่วัน จะไปบ้านนั้นวันไหน ตกลงกันให้เข้าล็อค เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา

4. เจ้าตัวเล็กของเราจะให้เขามาเมื่อไหร่

หลังจากแต่งงานการมีพยานรักก็ต้องตามมา แต่ว่าควรจะมาในเวลาที่คุณทั้งคู่คิดว่าพร้อมแล้วที่จะให้ความรักและดูแลชีวิตน้อยๆ อีกหนึ่งชีวิตได้เป็นอย่างดี ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรึกษาหารือกันอย่างจริงจังว่าจะมีลูกไหม มีเมื่อไหร่และมีกี่คน อย่าให้โซ่ทองคล้องใจต้องกลายเป็นบ่วงผูกคอในเวลาที่ไม่พร้อมจะดีกว่า

5. ชีวิตหลังแต่งงานใน 10 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

การวางแผนชีวิตคู่ในระยะยาวไม่ใช่เรื่องเสียหาย หลายคู่วาดฝันว่าในอนาคตครอบครัวจะต้องมีธุรกิจที่มั่นคง ในขณะที่อีกหลายคู่ขอแค่ชีวิตที่สงบเรียบง่ายตามสไตล์พอเพียง ถ้าทั้งคู่คิดเหมือนกันก็สบายใจได้ แต่หากว่าคนหนึ่งเกิดอยากอยู่แบบชิลล์สบายในชนบท แต่อีกคนกลับอยากท่องไปให้ทั่วโลก ก็ไม่ควรจะละเลยหัวข้อสนทนานี้ไปเด็ดขาด หากความคิดไม่ตรงกัน ก็ถึงเวลาที่ต้องมานั่งจับเข่าคุย หาจุดกึ่งกลางระหว่างความต้องการของทั้งคู่ เลือกสิ่งที่ทำแล้วทั้งสองฝ่ายมีความสุข ใจเขาใจเรา ยืดหยุ่นกันบ้างก็สร้างชีวิตรักที่ดีได้

การวางแผนชีวิตคู่นั้นไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงแค่ว่าที่บ่าวสาวซื่อสัตย์ จริงใจ และกล้าที่จะเปิดอกคุยกัน รับรองว่าชีวิตหลังแต่งงานคุณจะได้เคียงคู่ชู้ชื่นกันอย่างราบรื่นแน่นอน

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

9 ร้านรับจัด พานขันหมาก กับราคาสุดว้าวที่จับต้องถึง!!

9 ร้านรับจัด พานขันหมาก ราคาสุดว้าวววว!!

ประเพณีแต่งงานของคนไทยสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ พานขันหมาก ที่เจ้าบ่าวจะนำไปสู่ขอเจ้าสาว แต่ก็มีเจ้าบ่าวหลายๆ คนที่มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณเลยทำให้กลัวว่าจะได้ขันหมากที่ไม่ครบชุดหรือไม่ถูกตามหลักประเพณี และเพื่อคลายกังวล แพรว wedding เลยเสาะหาและรวบรวม 9 ร้านรับทำชุดขันหมากที่มีระดับราคาตั้งแต่หลักพันต้นๆ จนไปถึงระดับหรูหราราคาแพงมาฝากจ้า

1. แทนคุณ เวดดิ้ง

ร้านให้บริการชุดขันหมากราคาประหยัด เพราะนอกจากจะมีชุดขันหมากใบตองสดแล้ว ทางร้านยังมีชุดขันหมากงานผ้าประดิษฐ์ให้เช่านับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
ราคา : 3,000 – 12,900 บาท
โทร : 08-4108-9393
ที่ตั้งร้าน : 1/1 ซ.ประชาอุทิศ 54 แยก 8 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม.
เว็บไซต์ : www.tankhunwedding.com

2. สปัณขันหมาก


ร้านจัดชุดขันหมากใบตองสดที่มีให้คุณเลือกหลากหลายรูปแบบ ใช้เทคนิคการประดิษฐ์ที่พิถีพิถันแบบวิจิตรศิลป์ชั้นสูง ทำให้ได้ชุดขันหมากที่มีความปราณีตสวยงาม
ราคา : 4,200 – 18,900 บาท
โทร : 0-2903-4820,08-0584-6049,08-4682-5371
ที่ตั้งร้าน : 48/72-73 หมู่ 4 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี
เว็บไซต์ : www.sapankanmak.com

3. ไอริส (Flower & Wedding)

เป็นร้านที่ใช้ใบตองและดอกไม้สดมาทำชุดขันหมากในราคาที่ถูกและประหยัด นอกจากนี้ทางร้านยังรับทำการ์ดในราคาย่อมเยา เหมาะกับงานที่มีงบประมาณจำกัดแบบสุดๆ
ราคา : 4,900 – 14,900 บาท
โทร : 0-2581-3492, 08-0772-5000, 08-9797-4849
ที่ตั้งร้าน : 18/260-2 ถ.ปทุม-กรุงเทพ ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี
เว็บไซต์ : www.irisflowerwedding.com

4. Wedding Thai by ม.ล.เมลดา จรูญโรจน์

ทางร้านรับจัดชุดพานขันหมากของไทยและจีน มีทั้งแบบใบตองสดและดอกไม้สด โดยลูกค้าสามารถเลือกสีดอกไม้และวัสดุที่ใช้ทำได้ตามธีมงาน ที่สำคัญทางร้านยังรับให้คำปรึกษาเรื่องพานขันหมากฟรี!
ราคา : 11,900 – 24,900 บาท
โทร : 09-1569-5195
ที่ตั้งร้าน : 310/1232 ถ.สรงประภา เขตดอนเมือง กทม.
เว็บไซต์ : www.weddingthai.net

5. พิธีรีตอง

ร้านนี้มีพานขันหมากให้เลือก 3 แบบคือ แบบกลีบพลับพลึง แบบกลีบกล้วยไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และแบบชาววังที่มีความประณีตและวิจิตรสวยงาม นอกจากนี้ทางร้านก็ยังมีพานขันหมากแบบจีนไว้ให้คู่รักได้เลือกใช้กันอีกด้วย
ราคา : 6,000 – 24,500 บาท
โทร : 08-9922-9857, 08-5088-9857
ที่ตั้งร้าน : 14/18 ม.เพลินวิภา ซ.รามอินทรา 40 แยก 33 ถ.รามอินทรา แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.
เว็บไซต์ : www.piteereetong.com

6. รับจัดขันหมากครบชุด (บริการทั่วไทย)พานขันหมากราคา : 12,900 – 31,900 บาท
โทร : 09-5518-8774, 09-5518-8775
ที่ตั้งร้าน : 77/447 ม.2 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
เว็บไซต์ : www.facebook.com/teeradech.tee

7. พานขันหมากพานขันหมากราคา: 8,000 – 65,000 บาท
โทร: 08-1123-4526
ที่ตั้งร้าน : ปากคลองตลาด (ตลาดส่งเสริมการเกษตร) ถ.จักรเพชร เขตพระนคร กทม.
เว็บไซต์ : พานขันหมาก.com

8. ดอกแก้วพานขันหมากราคา : 5,800 – 29,000 บาท
โทร : 084-439-1344
ที่ตั้งร้าน : 295/25 ม.สุขนิเวศน์2 สุขสวัสดิ์ 64 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม.
เว็บไซต์ : www.dorkkaew.com

9. พิธีไทย (ร้านเดียวกับ TK Center Organizer)

ราคา : 20,000 บาท
โทร : 09-7235-8885, 08-9874-9967, 08-4314-4994
ที่ตั้งร้าน : 99/447-448 ม.6 หมู่บ้านมณฑาทิพย์ ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม
เว็บไซต์ : www.piteethai.com

นี่คือ 13 ร้านรับจัดชุดขันหมากที่แพรว wedding หามาฝากคุณเจ้าบ่าวให้เลือกกันในระดับราคาต่างๆ ตามกำลังทรัพย์ที่มี เพราะนอกจากจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีแล้วยังทำให้ประหยัดเงินและมีเวลาเหลือทำอย่างอื่นได้อีกจ้า

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีแต่งงานไทยเพิ่มเติม คลิกเลย <<

ภาพเปิด : Mcsiri : Photography

ขอบคุณภาพ : www.facebook.com/Irispatumthani, www.facebook.com/พิธีรีตอง-พานขันหมาก-พิธีแต่งงาน, www.facebook.com/สปัณพานขันหมากขนมไทย, www.facebook.com/weddingthai, www.tankhunwedding.com, www.piteereetong.com, www.wiwathai.com, www.facebook.com/gardenflower.thai, www.firstlove-prakasit.com, www.bananaleafwedding.com, www.flowersskill.com, www.facebook.com/teeradech.tee, www.dorkkaew.com, www.weddingcafehatyai.com, พานขันหมาก.com, www.piteethai.com