ซัมเมอร์นี้คู่ไหนที่กำลังจะมีข่าวดีและมองหา ธีมงานแต่งงาน ที่ร้อนแรงไม่แพ้อุณหภูมิของประเทศไทย และอยากทำให้เข้ากับบรรยากาศในตอนนี้คงหนีไม่พ้นธีมงานแต่งงานซัมเมอร์ที่ต้องใช้ไอเดียเนรมิตกันซะหน่อย เพราะเราเชื่อว่าคุณคงอยากได้ธีมงานแต่งงานที่นำเทรนด์ ไม่ค่อยซ้ำใคร และคงรู้สึกเบื่อกับงานแต่งงานในฤดูร้อนที่มีเพียงแต่สีสันสดใส แต่ขาดความมีไลฟ์สไตล์ของคู่บ่าว-สาว งั้นเราก็ขอเสนอธีมงานที่มีความกิ๊บเก๋เล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยทำให้งานแต่งงานในช่วงซัมเมอร์ดูไม่น่าเบื่ออีกต่อไป…พร้อมไปดูกันรึยังคะ? ถ้าพร้อมแล้วตามมาชมกันเล๊ยยย

ธีมสีโอลด์โรส

ด้วยเฉดสีสันอันอ่อนหวานของสีส้มอมชมพูทำให้งานแต่งงานของคุณดูโรแมนติกเป็นมิตรกับทุกคนในงาน คงจะดีไม่น้อยถ้าคุณจะลองปรับโทนสีนี้กับการจัดตกแต่งในงานของคุณ ด้วยการเลือกเฉดสีไล่โทนเข้มถึงอ่อนให้คุมอยู่ในโทนเดียวกัน หากใครคิดว่าสีโอลด์โรสตอนนี้เอ้าท์ไปแล้วก็ลองเปลี่ยนมาเป็นธีมงานสีพีชที่มีความคล้ายกัน แต่ก็ยังนำเทรนด์อยู่น้า ส่วนของประดับตกแต่งให้เลือกใช้ของที่ดูหวานๆ เช่น ดอกไม้ ริบบิ้น ลูกโป่ง ที่สำคัญควรใช้สีขาวเข้ามาช่วยลดความหวานเลี่ยนจนเกินไปด้วย และแน่นอนชุดทีมเพื่อนเจ้าสาวก็สำคัญไม่แพ้กันสำหรับธีมสีนี้ การที่เพื่อนเจ้าสาวแต่งตัวสีเดียวกันครบแก๊งก็จะดูน่ารักสดใสมากๆ เลยแหละค่ะ

ธีมคันทรี่

เอาล่ะหนีแดดร้อนๆ มาหลบร่มเงากับงานแต่งงานในสวนสไตล์คันทรี่สบายตา เพิ่มไอเดียไม่ธรรมดาด้วยเก้าอี้กองฟางนุ่มสบายคล้ายอยู่ในฟาร์ม ส่วนการตกแต่งสถานที่ด้วยธงสีหลากสี ลวดลายน่ารัก ห้อยระโยงระยางให้ความรู้สึกเหมือนมาปาร์ตี้ ตกแต่งคู่กับบรรดาดอกไม้สีสันสดใสที่เข้ากันอย่างดีกับซัมเมอร์นี้ และจะดีแค่ไหนถ้าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของคุณได้เป็นสักขีพยานในวันพิเศษของคุณด้วย มันคงเป็นบรรยากาศอันแสนอบอุ่นที่ทุกคนจะอดยิ้มไม่ได้:)

ธีมฮาวาย

ร้อนนี้ทีมฮาวายต้องมา! แน่นอนนาทีนี้ใครๆ ก็ใส่เสื้อฮาวาย งานแต่งงานธีมฮาวายทำไมจะมาสำหรับซัมเมอร์นี้ไม่ได้จริงไหม ลองเลือกใช้สีสันโทนร้อนคู่โทนเย็นกับลายดอกไม้มากมายที่แสดงถึงความสนุกสนานไม่เป็นทางการ เหมาะกับงานแต่งงานริมทะเลสุดๆ และขอเสนอไอเดียให้เพื่อนเจ้าบ่าวใส่เสื้อฮาวายแบบเดียวกัน กางเกงขาสั้นดูสบาย ทางด้านเพื่อนเจ้าสาวควรเลือกใส่ชุดที่มีสีสันสดใสอาจมีลายดอกเล็กๆ ผ้าพริ้วๆ รับลมทะเล แค่การแต่งตัวก็ทำให้งานดูน่ารักไม่เบา ส่วนทางด้านดอกไม้ตกแต่งต้องเป็นสีเจ็บๆ เข้มๆ เลยนะคะ โดยเฉพาะสีแดงจะเข้ากับความสดใสของธีมเลยค่ะ

ธีมสีของสวนเขตร้อน (TROPICAL LUXE)

แรงบันดาลใจจากธรรมชาติอันเขียวชอุ่มของป่าไม้เขตร้อนประยุกต์ให้กลายเป็นธีมงานแต่งงานที่มีสไตล์ได้ด้วยการใช้โทนสีเขียว-ขาว แซมสีส้มหรือแดง และปิดท้ายด้วยการเลือกใช้ภาชนะที่มีสีทองเพียงเล็กน้อยให้พอหรูหรา สะท้อนถึงตัวตนเขตร้อนในฉบับลักซ์ชัวรี่ ใช้พืชพรรณสีเขียวเข้มเข้ามาตกแต่งเพิ่มเสน่ห์ความงามตามธรรมชาติด้วยรูปทรงของพืชที่แปลกๆ สำหรับแขกที่จะมาร่วมงานก็ยังได้สนุกกับการแต่งตัวสไตล์ฮิปสเตอร์ได้อีกด้วย

ธีมสีน้ำเงิน-ขาว

สุดท้ายนี้เรามากับธีมโทนเย็นของสีน้ำทะเลกับธีมงาน Navy Blue Wedding ที่มาพร้อมกับสีครามมหาสมุทรตัดกับสีขาวเล็กน้อยให้ความสวยสงบแบบคูลๆ ดับร้อนให้ซัมเมอร์นี้ไปเลยค่ะ แถมสีโทนนี้ยังให้อารมณ์ที่ดูคลาสสิกจะมองกี่ครั้งๆ ก็ไม่เบื่อ เริ่มจากเก็บรายละเอียดกับการ์ดเชิญที่ออกแบบให้เรียบแต่แฝงความอ่อนหวานด้วยการฉลุลายดอกสีขาวที่การ์ด แต่จุดเด่นงานนี้คงอยู่ที่ชุดเจ้าบ่าวสีกรมหรือบางคนเลือกใส่สูทผ้ายีนส์ดูวัยรุ่นขึ้น แถมเข้ากับธีมไปอีก

ทางด้านช่อดอกไม้ของเจ้าสาวรับซัมเมอร์นี้ก็มีเช่นกันค่ะ หากอยากรู้ว่ามีไอเดียอะไรแปลกใหม่บ้างลองตามไปดูกันในนี้เลย เกาะติดเทรนด์ ช่อดอกไม้เจ้าสาวเตรียมรับซัมเมอร์ 2018

Cr : pacificweddings.com, pinterest.com

ฟู้ดทรัคงานแต่ง ไอเดียเสิร์ฟอาหารในงานแต่งงานให้แตกต่าง

มารู้เคล็ดลับเสิร์ฟอาหารให้เก๋ไก๋ ไม่ซ้ำใครอย่างสไตล์ฟู้ดทรัคกันดีกว่า … บ่าวสาวอาจจะคุ้นๆ หูกับชื่อฟู้ดทรัคมาบ้าง นั่นก็คือการเสิร์ฟอาหารหรือขายอาหารโดยใช้รถยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งสิ่งที่ทำให้ฟู้ดทรัคได้รับความนิยมเกิดมาจากใช้พื้นที่น้อย ไม่ต้องตั้งร้านขาย และสามารถเคลื่อนย้ายอาหารได้สะดวกดังนั้น ฟู้ดทรัคงานแต่ง จึงเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่เหมาะกับบ่าวสาวที่กำลังหาอาหารมาเสิร์ฟในงานแต่ง แต่งานนี้อาจจะเหมาะกับงานแต่งที่เป็นกันเอง หรือจัดในสวนนะคะ

มาดูกันดีกว่าว่าเคล็ดลับการเสิร์ฟ ฟู้ดทรัคงานแต่ง มีอะไรบ้างที่ต้องคำนึงถึงบ้าง ตามนี้เลย

1. ลักษณะอาหารที่จะนำมาเสิร์ฟ

ฟู้ดทรัคมีหลายร้านให้เลือก เพราะฉะนั้นก่อนอื่นบ่าวสาวจะต้องเลือกก่อนว่าอยากเสิร์ฟอาหารประเภทไหน จากนั้นจึงค่อยตกลงกับทางร้านให้นำรถฟู้ดทรัคเข้ามาในงาน และบ่าวสาวควรจะคุยกันให้ชัดเจนว่าใครจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ จะช่วยกันสั่ง หรือแยกกันสั่งไปเลย แต่ถ้าช่วยกันสั่งล่ะก็เช็คกันให้ดีนะคะ ไม่อย่างนั้นถ้าสั่งอาหารมาชนกันล่ะแย่เลย

2. คุยเรื่องรายละเอียดของรถ

อย่าเพิ่งมองว่าไม่สำคัญนะจ๊ะ ต้องดูด้วยว่าสถานที่ที่จะนำฟู้ดทรัคเข้าไปนั้นสามารถรับน้ำหนักรถฟู้ดทรัคได้หรือไม่ ซึ่งบ่าวสาวจะต้องสอบถามกับสถานที่จัดงานให้ดี ยิ่งในกรณีที่สถานที่เป็นสนามหญ้าด้วยแล้ว อาจต้องคุยกันให้ละเอียด เพราะบางสถานที่ก็ไม่อนุญาตให้นำรถวิ่งเข้าไปได้ และที่สำคัญอย่าลืมสอบถามว่าสถานที่นั้นว่าสามารถรองรับรถฟู้ดทรัคได้จำนวนกี่คัน เพื่อที่บ่าวสาวจะได้นำมาวางแผนในการเลือกร้านได้ถูก และเพื่อการจัดวางพื้นที่ให้เกิดความเหมาะสม เพื่อที่บรรยากาศภายในงานจะได้ไม่อึดอัดจนเกินไป อ้อ แล้วอย่าลืมสอบถามรายละเอียดขนาดตัวรถฟู้ดทรัคและน้ำหนักของรถมาด้วยนะคะ เผื่อทางสถานที่ถามจะได้ตอบได้

3. เรื่องเวลาอย่าให้พลาด

บ่าวสาวควรคุยกับทางร้านฟู้ดทรัคให้ชัดเจนว่า อยากจะให้ร้านมาถึงงานกี่โมง เพราะน่าจะเป็นภาพที่ไม่น่าดูเท่าไหร่ ถ้าหากงานเริ่มไปแล้วแต่จู่ๆ ก็มีรถฟู้ดทรัคขับฝ่าฝูงแขกผู้มีเกียรติเข้ามาจอดกลางงานนะจ๊ะ

4. ใส่ใจรายระเอียดเล็กๆ น้อยๆ

ถึงแม้จะเป็นร้านค้าภายนอก แต่ด้วยงานแต่งงานเป็นงานของเรา เพราะฉะนั้นบ่าวสาวก็มีสิทธิ์ที่จะคุยกับทางร้านไปเลยค่ะว่าอยากให้พ่อครัว แม่ครัว แต่งตัวไปในทางเดียวกันกับงานของเรา หรือตกแต่งตัวรถฟู้ดทรัคให้เข้ากับธีมงาน จะได้เพิ่มสีสันและความน่ารักเข้ากับบรรยากาศของงานได้ด้วย

5. เช็คก่อน กลิ่นอาหารแรงไปไหมนะ

หากบ่าวสาวไม่อยากให้กลิ่นมาทำให้บรรยากาศงานแต่งของคุณต้องเสีย ก็ควรหลีกเลี่ยงรถอาหารที่อาจมีกลิ่นแรงๆ เกิดขึ้นได้ เพราะฟู้ดทรัคคือการปรุงอาหารแล้วเสิร์ฟเลย เพราะคงไม่ดีนักหากทำไป เสิร์ฟไป ส่วนงานก็ดำเนินไป แต่ดันมีกลิ่นรุนแรงรบกวนบรรยากาศงานที่กำลังโรแมนติก แทนที่จะได้กลิ่นของความรักดันได้กลิ่นอาหารที่ตีกันตลบอบอวลแทน

ฟู้ดทรัคงานแต่ง ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียในการเสิร์ฟอาหารที่น่าสนใจนะคะ หากบ่าวสาวคู่ไหนที่อยากเปลี่ยนสไตล์ในการจัดงานก็ลองศึกษากันดีๆ เพราะเป็นทางเลือกที่เก๋ไก๋ น่ารักแน่นอน หรือถ้าอยากจะเปลี่ยนมาจัดงานแต่งงานในร้านอาหารสุดน่ารักก็สามารถเข้าไปดูการสร้างสรรค์ ร้านอาหารน่ารัก เนรมิตปาร์ตี้งานแต่งแสนอบอุ่น กันได้เลย

ภาพจาก : Pinterest.com

ชุดเด็กถือดอกไม้ มีวิธีเลือกแบบไหนให้ปัง และน่ารักสมกับวัย

เพราะเด็กถือดอกไม้เป็นอีกหนึ่งความน่ารัก และสดใสภายในงานแต่ง ไม่ว่าพวกเธอจะเดินไปทางไหน ก็จะมีตะกร้าใบเล็กๆ พร้อมนิ้วมือป้อมๆ น่ารักๆ คอยโปรยกลีบดอกไม้ให้เจ้าสาว สร้างความน่ารักและความน่าเอ็นดูให้กับทุกคนภายในงานเป็นอย่างดี ดังนั้นมาดูกันดีกว่าว่าจะเลือก ชุดเด็กถือดอกไม้ แบบไหนให้น่ารักสมวัยดี

1. เลือกสีชุดก่อน

เป็นสิ่งที่ควรเลือกเป็นอย่างแรก จะได้มีสีที่ไม่แปลกไปจากสีในงานนั่นเอง โดยสามารถเลือก ชุดเด็กถือดอกไม้ ตามสีของชุดเจ้าสาวก็ได้ เช่น สีขาวหรือสีงาช้าง หรือไม่ก็เลือกให้เป็นสีเดียวกับชุดเพื่อนเจ้าสาว หรือธีมงานไปเลยค่ะ

2. เลือกชุดที่ไม่คับ หรือพอดีตัวจนเกินไป

แน่นอนว่าเด็กๆ วัยกำลังโต จะมีขนาดร่างกายที่เปลี่ยนแปลงได้ไว ดังนั้นไม่ควรเลือกชุดที่พอดีกับตัวมากนัก เพราะกว่าจะถึงวันงานจริง เหล่าเด็กถือดอกไม้ตัวน้อยๆ เหล่านี้ อาจจะเจ้าเนื้อเพิ่มมากขึ้นก็ได้นะคะ

3. เลือกความยาวให้เหมาะสมกับวัย

ยิ่งอายุน้อย การระวังตัวหรือดูแลตัวเองก็จะน้อยตามลงไป แต่ถ้าเป็นเด็กโตขึ้นมาหน่อย ก็จะมีความระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะฉะนั้นควรเลือกความยาวของชุดตามช่วงวัยให้เหมาะสม ถ้ายิ่งอายุน้อยแล้วใส่กระโปรงยาวมาก จะทำให้เด็กๆ สะดุดล้มได้ง่ายๆ นะคะ

4. เลือกจากเนื้อผ้า

ถึงแม้ผ้าที่ดูไว้จะสวยงาม ราคาแพงขนาดไหน แต่ถ้าใส่แล้วระคายเคืองต่อผิวเด็ก อันนี้ก็ไม่ไหวนะคะ อย่าลืมว่าเด็กๆ ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกผ้าที่มีความเบาสบาย โปร่ง ไม่อับ ไม่คัน ไม่เช่นนั้นเราคงได้เห็นเหล่าเด็กๆ เดินเกาผิวยุบยิบๆ แทนการโปรยดอกไม้ได้

5. เลือกจากสภาพอากาศตอนจัดงาน

ข้อนี้สามารถพิจารณาได้ตามความเหมาะสมของสถานที่จัดเลยนะคะ ถ้าจัดในช่วงฤดูร้อน ก็ควรเลือดชุดที่ถ่ายเทอากาศได้ดี หรือถ้าจัดในฤดูหนาวอากาศเย็นๆ ควรเลือกผ้าให้หนาขึ้นมานิดหน่อย เมื่อส่วมใส่แล้วจะได้สบายตัวค่ะ

นอกจากเด็กถือดอกไม้แล้ว ก็ยังมีเด็กถือแหวนอีกด้วยนะจ๊ะ ซึ่งเด็กถือแหวนนั้นมีหน้าที่ทำอะไรบ้างมาดูกัน รู้ไว้ซะ เด็กถือแหวนในพิธีแต่งงาน…ไม่ใช่ใครก็เป็นได้

ภาพจาก : Pinterest.com

งานแต่งงาน นั้นถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งในชีวิตบ่าวสาวที่ทุกคนปรารถนาจะให้กลายเป็นวันแห่งความทรงจำดี ๆ ตลอดไป ดังนั้นหากเราได้รับเกียรติให้เป็นแขกไปงานแต่งงาน ก็ควรที่จะต้องเตรียมตัวให้ดีก่อนซึ่งถือว่าเป็นมารยาทในงานแต่งงานที่ดีที่ควรทำ และระวังสิ่งที่ไม่ควรทำเพื่อเป็นมารยาทในงานแต่งงานที่ดี ว่าแต่พฤติกรรมแบบไหนที่ทำแล้วชวนยี้กันบ้างนั้นล่ะก็ ไปดูกันเลยค่ะ

การแต่งกายเหมือนเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว

การแต่งกาย ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดและเป็นมารยาทในงานแต่งงานที่ดี เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกตัวตนของคนผู้นั้นได้เป็นอย่างดี การแต่งกายเมื่อไปงานแต่งงานจะต้องสุภาพเรียบร้อย และควรดูข้อมูลให้ดีว่าเจ้าภาพจัดงานสถานที่ใด โทนหรือธีมของงานเป็นอย่างไร บางครั้งจะมีการระบุไว้ในการ์ดแต่งงานและควรหลีกเลี่ยงการสวมใส่ชุดขาวและชุดสีเดียวกับเพื่อนเจ้าสาวเมื่อไปงานแต่งงาน เนื่องจากคนที่สวยที่สุดในงานแต่งงานคือเจ้าสาว เพราะฉะนั้นแขกที่ไปงานงานแต่งงานห้ามแย่งซีนเจ้าสาว พวกชุดขาว ครีม ออฟไวท์ แชมเปญเหล่านี้ห้ามเลือกมาใส่เด็ดขาดยกเว้นจะเป็นแบบเรียบปลอดภัยจริงๆ  รวมทั้งชุดที่มีสีเดียวกับชุดเพื่อนเจ้าสาวก็ไม่ควรค่ะ

ไม่สนใจพิธีบนเวที

เมื่อคุณถูกเชิญไปงานแต่งงาน เข้าใจว่าในงานแต่งงานคุณอาจจะได้พบเจอเพื่อนพ้อง ญาติพี่น้อง รุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่มหาวิทยาลัย ที่ไม่ได้พบปะกันมานานแสนนาน ก็อาจจะมีเรื่องต้องคุยกันเยอะ แต่หากพิธีการบนเวทีเริ่มขึ้น ก็ควรจะหยุดสนทนาและหันไปสนใจกับพิธีกรบนเวทีแทน เพื่อเป็นการให้เกียรติเจ้าบ่าวเจ้าสาว ซึ่งเป็นมารยาทในงานแต่งงานที่ควรทำ

เตรียมตัวไปกิน-ดื่มอย่างเดียว

cr : mywedstyle.com, gavincato.com.au

ซัมเมอร์นี้คุณพร้อมรับ ช่อดอกไม้เจ้าสาว แล้วหรือยัง?

สำหรับช่อดอกไม้ถือเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเจ้าสาวเลยก็ว่าได้นะคะ เพราะในงานแต่งงานแบบสากลคุณจะเห็นช่อดอกไม้อยู่ในมือของเจ้าสาวที่ช่วยเสริมราศีให้เจ้าสาวสวยเด่นมาแต่ไกล และตอนนี้ก็ยิ่งเข้าช่วงฤดูร้อนแล้วด้วย ช่อดอกไม้เจ้าสาว ก็ไม่ควรธรรมดาจริงไหมคะ? ต้องมีการครีเอทให้ออกมาดูเก๋ไก๋ มีลูกเล่นต้อนรับฤดูแห่งความสนุกกันซะหน่อยแล้ว

เอาล่ะค่ะ แพรว wedding ก็ขออาสาอีกเช่นเคยจะช่วยคุณสรรหาแบบช่อดอกไม้สุดแปลกที่เข้ากับฤดูร้อนนี้ให้คุณกลายเป็นเจ้าสาวนำเทรนด์ได้ในพริบตา โดยช่อดอกไม้เจ้าสาว 6 แบบที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ คุณทั้งสามารถจัดหาทำได้ด้วยตนเองหรือสั่งทางร้านทำเป็นพิเศษ เพียงแค่นำแบบไปให้ที่ร้านดอกไม้ดูก็ได้แล้วค่ะ อ่ะ ว่าแล้วจะช้าอยู่ไยตามมาดูกันดีกว่าว่าจะมีแบบไหนสวยถูกใจคุณเจ้าสาวกันบ้าง ตามมาเลยๆ

กระบองเพชร VS ดอกกุหลาบ

เลือกต้นกระบองเพชรที่มีสีเขียวเข้ม ต้นเล็กๆ เอาพันธุ์ที่ไร้หนามด้วยก็จะดีมากนะคะจะได้ไม่เป็นอันตรายตอนถือและตอนโยน แล้วนำมาจัดเป็นช่อแล้วแซมด้วยดอกกุหลาบสีอ่อน เช่น สีโอลด์โรสอ่อนๆ สีเหลืองอ่อน สีขาว และใช้ผ้าหรือกระดาษสีเดียวกับดอกกุหลาบห่อช่อดอกไม้เพื่อให้กระบองเพชรดูโดดเด่นขึ้นมา ส่วนใครคิดว่ายังดูเรียบไปก็อาจจะหาดอกไม้ที่มีขนาดเล็กสีเข้มเข้ามาช่วยแซมอีกนิดหน่อย นอกจากนี้การใช้กระบอกเพชรยังสื่อความหมายถึงความรักที่มั่นคงแข็งแรงเหมือนต้นกระบองเพชรที่สามารถอยู่ได้ถึงแม้จะขาดน้ำยังไงล่ะคะ

Succulents

เมื่อมีกระบองเพชรแล้วก็ต้องมีต้นซัคคิวเล้นท์หรือต้นไม้ชนิดอวบน้ำ ที่มีลักษณะคล้ายกับต้นแคคตัส ผิวใบมันเคลือบด้วยแว๊กซ์ บางชนิดจะปกคลุมด้วยหนามแหลมหรือขน จุดเด่นของเจ้าต้นนี้คือมีรูปร่างเป็นดอกไม้ และมีหลายสายพันธุ์ที่มีสีแตกต่างกัน ไม่ได้มีเพียงสีเขียวเท่านั้นนะคะ จึงสามารถนำมาใช้จัดแทนดอกไม้ก็จะเก๋ไปอีกแบบเลยแหละ

ทานตะวัน

ดอกไม้สีเหลืองเปรียบเหมือนดวงอาทิตย์อันสดใส เหมาะกับบรรยากาศของฤดูร้อนที่มีแสงแดดเจิดจ้า หากคุณเจ้าสาวถือช่อดอกทานตะวันในงานแต่งงานคุณต้องดูสว่างเฉิดฉายสุดๆ แน่นอน ช่อดอกทานตะวันสำหรับเจ้าสาวนิยมนำมาจัดคู่กับดอกไม้ที่มีสีขาวให้ดูทันสมัยมากกว่าการใช้ดอกทานตะวันล้วนๆ แต่ถ้าใครอยากได้ดอกทานตะวันเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำให้ดูมีรสนิยมได้นะคะ คือเน้นความเรียบเก๋โดยการใช้ดอกทานตะวัน 6-8 ดอก ตัดมาให้ก้านยังคงมีขนาดยาวแค่นี้ก็จะมินิมอลแบบทันสมัยได้เลยค่า

เลมอนหรือสีเหลืองมะนาว

ช่อดอกไม้ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ดอกไม้เท่านั้น เพราะเดี๋ยวนี้ก็มีการนำผักผลไม้มาครีเอทใช้แทนดอกไม้กันแล้วนะคะ แต่ผักหรือผลไม้ที่เข้ากับซัมเมอร์นั้นคงต้องเป็นสีเหลืองของเลมอนที่ให้ความสดชื่น เช่น การนำเลมอนมาแจมในช่อดอกไม้แล้วใช้การจับคู่สีกับดอกไม้ให้มีสีที่แตกต่างกัน แต่เจ้าสาวคนไหนที่ใช้ผลเลมอนของจริงก็ควรมีช่อดอกไม้สำรองไว้สำหรับโยนให้สาวๆ ในงานด้วยนะคะ ไม่เช่นนั้นช่อเลมอนของคุณอาจทำให้สาวๆ ได้รับบาดเจ็บก็เป็นได้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ผลเลมอนเสมอไปนะคะ เพราะเจ้าสาวสามารถเลือกดอกไม้ที่มีสีเหลืองแบบเลมอนและใช้ใบไม้ดอกไม้ที่มีสีเขียวเข้ามาตัดก็ทำให้เข้ากับช่วงเวลาของซัมเมอร์แล้วค่ะ

เปลือกหอย

นี่ก็เป็นอีกช่อที่เจ้าสาวควรเตรียมช่อดอกไม้สำรองไว้ด้วยนะคะ เพราะอาจทำให้เกิดเหตุการณ์แบบช่อเลมอนได้ สำหรับการใช้เปลือกหอยมาทำเป็นช่อดอกไม้จะเหมาะกับงานแต่งงานริมทะเลที่จะเข้ากับธีมบรรยากาศของสถานที่ บางคนอาจนึกไม่ออกว่าแล้วจะออกมาเป็นยังไง ซึ่งต้องบอกตามตรงว่ามันจะดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าดอกไม้ แต่ก็สามารถนำเปลือกหอยหลากหลายชนิดมาตกแต่งรวมกับไข่มุก ลูกปัด ดอกไม้ ผ้า ก็ทำให้ดูแฟนตาซีสวยงามไม้แพ้ช่อดอกไม้ธรรมดาเลยค่ะ

ดอกไม้โทนสีแซ่บ

เลือกใช้ดอกไม้ที่มีสีสันสดใสเข้ากับฤดูร้อนโดยเฉพาะสีส้ม สีแดง สีเหลือง โทนสีร้อนจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะให้ความรู้สึกเข้ากับบรรยากาศแล้วยังสามารถหาได้ง่าย จัดตกแต่งก็ยังง่ายอีกด้วย ซึ่งสามารถเลือกจัดได้ทั้งแบบการคุมโทน คือ ไล่ระดับสีของดอกไม้แต่ต้องเป็นสีเดียวกัน หรือหากคุณเลือกไม่ถูก ดอกไม้สีสดสีนั้นก็ดีสีนี้ก็แซ่บเบอร์แรง จะนำมาจัดรวมกันก็ยังได้นะคะลองดูค่ะ

ส่วนเจ้าสาวคนไหนที่หลงรักงาน DIY ก็สามารถทำช่อดอกไม้ขึ้นมาเองได้ง่ายๆ แถมไม่เหมือนใครด้วยน้า ลองทำตามนี้เลย ช่อดอกไม้ DIY สุดเก๋สำหรับวาเลนไทน์ที่มีช่อเดียวในโลก

ภาพจาก : pinterest.com

เป็นเพื่อนเจ้าสาว ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายกับสิ่งใดบ้างนะ?

การได้ เป็นเพื่อนเจ้าสาว ถือว่าเป็นการได้รับเกียรติจากเจ้าสาวสุดๆ เลยนะคะ เรียกได้ว่าเป็นแขกระดับวีไอพีเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นสาวๆ ที่ได้รับเกียรตินี้ก็ต้องเตรียมตัวให้ดีกันหน่อย แต่สำหรับสาวๆ ที่กำลังสับสนในการเตรียมตัวเป็นเพื่อนเจ้าสาวอยู่ว่าต้องเตรียมสิ่งใดบ้าง ควรแบ่งงบค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เพื่อจะได้เตรียมตัวสวยกันได้ถูก เอาเป็นว่าไม่ต้องกังวลค่ะ มาเช็คกันดีกว่าว่าสาวๆ จะกำจัดและจัดการข้อกังวลต่างๆ นี้ได้ยังไง

1. ชุดเพื่อนเจ้าสาว

ก่อนอื่นคุยกับเจ้าสาวก่อนว่าภายในงานจัดเป็นธีมสีอะไร เพื่อที่สาวๆ จะได้ไม่ดูโดดเด่นเกินไป และเมื่อได้เฉดสีที่เหมาะกับธีมงานแล้ว ต่อมาก็ถึงขั้นตอนการเลือกแบบชุด ซึ่งสาวๆ สามารถเลือกแบบชุดที่แตกต่างกันได้นะคะ หรือจะเลือกให้เหมือนกันไปเลยเพื่อแสดงความเป็นทีมเวิร์กก็ไม่ว่ากัน ซึ่งราคาชุดเพื่อนเจ้าสาวนั้นก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับความสวยงามของแต่ละชุดนั่นเอง ทางที่ดีเราว่าลองรวมกลุ่มแก๊งเพื่อนเจ้าสาวแล้วไปเช่ากันหลายๆ คน อาจจะได้ส่วนลดก็ได้นะคะ

2. เครื่องประดับ

บางร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาวจะมีเครื่องประดับให้เช่าติดมาด้วย หรือบางร้านอาจแถมมาให้พร้อมชุดไปเลยก้มี ส่วนราคาเช่าเครื่องประดับก็มีราคาไม่หนีจากราคาเช่าชุดสักเท่าไหร่ เพราะมีราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพันเหมือนกัน แต่ข้อควรระวังในการเลือกเครื่องประดับของเพื่อนเจ้าสาวก็คือ อย่าให้ดูเวอร์วังจนเกินหน้าเกินตาเจ้าสาวจนเกินไปนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเจ้าสาวงอนไม่คุยด้วย เราไม่รู้ด้วยน้า

3. แต่งหน้า ทำผม

เพื่อนเจ้าสาวควรแต่งหน้าทำผมให้คล้ายๆ กันจะได้ไม่ต้องมีใครเด่นแย่งซีนเจ้าสาวนั่นเอง ส่วนเทคนิคการจองช่างแต่ง ทำผม เราแนะนำให้จองช่างเพื่อมาทำสวยให้กับสาวๆ 1 คนขึ้นไปก็จะถูกกว่าจองช่างเพื่อมาแต่งเราแค่คนเดียวนะจ๊ะ หรือถ้ามีใครในกลุ่มมีสกิลด้านนี้ก็จัดการได้เลย จะได้ประหยัดงบส่วนนี้แล้วนำไปโถมกับเรื่องอื่นแทน แต่อาจจะต้องเผื่อเวลากันด้วยน้า เพราะอาจจะแต่งได้ช้ากว่าช่างมืออาชีพ

4. รองเท้า

ลองคุยกันในกลุ่มเพื่อนเจ้าสาวว่าจะใส่รองเท้าสีอะไรกัน เพื่อจะได้มีความคล้ายคลึงกันเป็นกลุ่ม และที่สำคัญเลือกให้เข้ากับสีชุดกันด้วยนะจ๊ะ ซึ่งในบางร้านเช่าชุดจะมีบริการเช่ารองเท้าให้ด้วยเหมือนกัน ก็อาจจะง่ายหน่อยที่ไม่ต้องไปตามหารองเท้าที่อื่นให้เสียเวลา เพราะฉะนั้นก็ลองเลือกดูว่าสะดวกแบบไหน และอย่าเลือกรองเท้าให้สูงมากเกินไป เพราะในวันงานเพื่อนเจ้าสาวอย่างเราอาจจะเดินๆๆ เพื่อช่วยเจ้าสาวจัดการในเรื่องต่างๆ จะได้เดินได้สะดวกคอยช่วยเหลือซัพพอร์ทเจ้าสาวได้อย่างเต็มที่นั่นเองค่ะ

5. ช่อดอกไม้

ช่อดอกไม้ที่ใช้ถือในงานสำหรับเพื่อนเจ้าสาว ส่วนมากจะเห็นบ่อยในงานแต่งศาสนาคริสต์ ซึ่งส่วนมากค่าใช้จ่ายในส่วนของช่อดอกไม้สำหรับเพื่อนเจ้าสาวนั้น ทางฝ่ายเจ้าสาวจะเป็นผู้รับผิดชอบส่วนนี้ให้กับเพื่อนๆ เองค่ะ

และทั้งหมดนี้นี่คือค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่เพื่อนเจ้าสาวควรเตรียมตัวและเตรียมเงินเอาไว้ล่วงหน้าก่อนนะจ๊ะ แต่ถ้าใครอยากจะลองทำผมเพื่อนเจ้าสาวเอง ก็สามารถทำได้  ทรงผมเพื่อนเจ้าสาว แบบทำเองได้ไม่ง้อช่าง แต่สวยปังเหมือนเดินออกจากซาลอน! ตามนี้เลยจ้า หรือถ้ายังไม่รู้ต้องช่วยเหลือเจ้าสาวยังไงบ้าง ก็ลองอ่าน คู่มือสำหรับ เพื่อนเจ้าสาว มือใหม่มีหน้าที่อะไรในงานแต่งงาน ดูนะจ๊ะ

ภาพจาก : Pinterest.com