ของชำร่วยงานแต่ง ในปัจจุบันนั้นมีมากมายให้บ่าวสาวได้เลือก แต่ถ้าบ่าวสาวคู่ไหนอยากจะลองลงมือทำของชำร่วยที่มีสีสันด้วยตัวเอง แถมยังมีดีไซน์สวยงาม น่ารัก และสามารรับประทานได้ เราขอแนะนำ ขนมอาลัว เลยค่ะ
หลายคนคงเคยเห็นและคุ้นหน้าคุ้นตาขนมจิ๋วสุดน่ารักชนิดนี้มาแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า แม่มะลิ หรือ มารี กีมาร์ เป็นผู้คิดค้นขนมชนิดนี้ขึ้นมา และได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมี 2 แบบ คืออาลัวชาววัง และอาลัวจิ๋ว แตกต่างกันตรง อาลัวชาววังจะมีส่วนผสมของกะทิเยอะกว่า และมีขนาดใหญ่กว่านั่นเอง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูวิธีการทำและส่วนผสม ของชำร่วยงานแต่ง สุดน่ารักนี้กันดีกว่า บอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิดนะจ๊ะ
อุปกรณ์
- แป้งเค้ก หรือแป้งเอนกประสงค์ 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
- น้ำกะทิ 2 ถ้วย
- สีผสมอาหารที่ชอบ
- กลิ่นมะลิ 2-3 หยด
- กระทะเทฟร่อน หรือกระทะทองเหลือง
- ไม้ตีแป้ง
- ตะแกรงร่อนแป้ง
- กระดาษ และหัวบีบสำหรับใช้บีบตัวแป้ง
วิธีทำ
- นำแป้งเค้ก หรือแป้งเอนกประสงค์ที่เตรียมไว้ มาเทลงตะแกรงร่อน เพื่อให้แป้งไม่เกาะตัวเป็นก้อน
- นำแป้งที่ร่อนจนเป็นผงละเอียดมาใส่ในถ้วยใบใหญ่ พร้อมเทน้ำกะทิลงไป ผสมให้เข้ากัน
- เทน้ำตาลลงไป แล้วผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- นำไปตั้งไฟ โดยใช้ไฟอ่อนๆ ค่อยๆ ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน
- พอแป้งสุก ผสมสีผสมอาหารที่ต้องการลงไป และเมื่อแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อนเหนียวๆ ให้ปิดไฟ
- นำแป้งที่ได้มาใส่ถุงกระดาษที่มีหัวบีบอยู่
- บีบแป้งลงไปในจาน หรือถาดแบนๆ ให้เป็นก้อนสวยๆ
- จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้ง ใช้เวลา 1 วัน
เพียงเท่านี้เราก็จะได้ขนมอาลัวสวยๆ ที่จะทานเองก็ได้ หรือจะนำมาแจกเป็นของชำร่วยในงานแต่งก็ดี สวยงามน่ารัก มุ้งมิ้งสุดๆ … แต่ถ้าทำทานเองก็ดูปริมาณให้พอดีนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นหุ่นจะเสียได้ และเบาหวานอาจจะมาหาโดยไม่รู้ตัว
นอกจากนี้บ่าวสาวสามารถหากล่องเล็กๆ หรือถุงสวยๆ มาบรรจุลงขนมอาลัวลงไป ก็จะเพิ่มความสวยงามและความเก๋ไก๋ให้กับขนมมากยิ่งขึ้นค่ะ … นอกเหนือจากอาลัวแล้ว ยังมีของชำร่วยงานแต่งอีกหนึ่งสิ่งที่อยู้คู่กับคนไทยมาแสนนานนั่นก็คือ ‘จำปาดอง’ ภูมิปัญญาชาววัง ที่แจกเป็นของชำร่วยงานแต่งก็ดีของรับไหว้ก็เริด ลองทำดูนะจ๊ะ
ภาพจาก : Pinterest.com