ดูดวงความรัก

ดูดวงความรัก แต่เจอหมอดูทักว่าถึงขั้นต้องเลิก จะทำยังไงดีนะ?

ใครที่ชอบไป ดูดวงความรัก พอโดนทักว่าต้องเลิกก็ออกอาการจิตตก ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง งานนี้ แพรวเวดดิ้ง มีเคล็ดลับสู้คำทำนายจากหมอดูมาบอก ดูดวงความรัก กันบ่อยๆ ก็ใช่ว่าจะดี เพราะบางทีหมอดูอาจจะพูดในสิ่งที่เราไม่อยากได้ยิน เช่น ทักว่าต้องเลิกกันบ้างล่ะ ไม่ใช่เนื้อคู่กันบ้างล่ะ อยู่กันไม่รอดบ้างล่ะ ใครได้ยินแบบนี้ทำใจร่มๆ ก่อน แล้วตามไปอ่านวิธีการรับมือกับคำทำนายแบบนี้กัน 1.ทำตัวเหมือนเดิม ไม่ต้องคิดมาก แบบนี้คงต้องขอปลอบใจกันหน่อยว่า “อย่าไปคิดมาก” ถือซะว่าไปดูดวงเอาสนุก ขำๆ ท่องให้ขึ้นใจว่าหมอดูคู่หมอเดา บางครั้งก็ไม่ได้ถูกต้องเสียทุกอย่าง (หรืออาจดูผิดไปหมดเลยก็ได้) การดูดวงจากลายมือ วันเดือนปีเกิด ฯลฯ อาจทำให้เขารู้เรื่องราวของเราได้เพียงน้อยนิด แต่คนที่รู้ดีอยู่แก่ใจมากที่สุดว่าความรักและความสัมพันธ์ของเราเป็นเช่นไร คือ “ตัวเราเอง” ถ้ามั่นใจว่ารักเราแข็งแรงพอก็อย่าย่อท้อหรือหมกหมุ่นจนเก็บเอาคำทำนายของคนนอกอย่างหมอดูมาเป็นสิ่งบันทอนจิตใจของเราเลยดีกว่า 2.ชวนคนรักไปทำบุญแบบว่ากันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าการเลิกคิดมากแบบข้อแรกยังไม่ตอบโจทย์ ของอย่างนี้จะป้องกันก็ไม่เสียหาย ชวนกันไปทำบุญสักหน่อยเพื่อเสริมดวงชะตาความรัก อย่างที่โบราณเขาว่า “ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน” แล้วแผ่บุญกุศลเสริมฐานบุญให้กันและกัน หรือถ้าเอาแบบขั้นแอดวานซ์ก็ต้องแผ่ไปเผื่อเทวดาประจำตัวที่คอยดูแลเราและแฟน แล้วอธิษฐานให้เขาดูแลคนทั้งคู่ รวมถึงดูแลความรักให้ไปในทางที่ดีไม่มีอุปสรรค แบบนี้น่าจะช่วยให้สบายใจขึ้นเยอะ 3.ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ปล่อยให้คำทำนายเป็นเรื่องของอนาคต หมอดูอยากจะทักอะไรก็ปล่อยเขาไป อะไรดีให้เก็บใส่ใจ อะไรไม่ดีต้องคอยระวัง หากว่าคุณรู้ตัวอยู่แล้วว่าชีวิตรักกระท่อนกระแท่นแต่ก็ไม่ได้อยากให้เป็นไปตามคำทำนาย สิ่งที่ควรทำคือ “ทำทุกวันให้ดีที่สุด” […]

ปัญหาชีวิตคู่, ชีวิตคู่, ความรัก, คนรัก, ความสัมพันธ์

ไม่ใช่แค่คุณกับฉัน! 4 ปัญหาชีวิตคู่ อย่าปล่อยให้หมักหมม รีบเคลียร์เดี๋ยวนี้

ปัญหาชีวิตคู่ เชื่อว่าเจอกันทุกคู่ชีวิต ไม่ว่าจะฐานะใด สัญชาติไหน ไม่มีใครหลีกพ้นสักราย ก็คิดดูเถอะ คนสองคนที่ภูมิหลังแตกต่างกัน วันหนึ่งเมื่อมาอยู่ร่วมกัน แม้จะมี “ความรัก” ้เป็นตัวจูน แต่หลายครั้งก็พบว่า “รักคำเดียว” นั้นยังไม่พอ คำถามคือเมื่อเกิด ปัญหาชีวิตคู่ ขึ้นมา คนสองคนจะจับมือฟันฝ่ากันไปด้วยวิธีใด ลิสต์นี้แพรวเวดดิ้งลองไล่เลียงตัวอย่างปัญหาพร้อมแนวทางแก้ไขมาให้ดู หลายคนที่อ่านแค่หัวข้อ อาจเบ้หน้าว่า เบๆ (เบสิค) แต่ปัญหาพื้นๆ อย่างนี้แหละ ถ้าไม่คุย ไม่ปรับ ก็ทำเอาทางใครทางมันมาเยอะแล้ว 1.ไม่ชินกับสถานภาพ “สมรสแล้ว” อย่างที่เคยได้ยินคนเพิ่งแต่งงานบ่นบ่อยๆ ว่ายังไม่ชินกับความรู้สึกที่ว่า “นี่เราแต่งงานแล้วเหรอ”  ความรู้สึกนี้เป็นเรื่องปกติของคนทั้งโลก  ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย  การจะปรับทัศนคติและปรับตัวให้ชินกับสถานภาพใหม่ย่อมต้องใช้เวลา  ต้องลดความรู้สึกแบบคนโสดลง  ซึ่งนักจิตวิทยาบอกว่าคู่สมรสอาจต้องใช้เวลาในปีแรกเพื่อปรับตัวไปสู่การใช้ชีวิตคู่ที่แท้จริง เจ้าสาวป้ายแดงคนหนึ่งเล่าว่า  “ช่วงแรกรู้สึกว่าคุณสามียังไม่เคยชินกับการมีอีกคนอยู่ในบ้าน  เขาเคยชินกับการทำอะไรคนเดียว จนบางครั้งลืมนึกถึงเรา  แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็กระตุ้นต่อมน้อยใจทุกที” แนวทางแก้ปัญหา เมื่อไม่ชินกับสถานภาพใหม่ สามี- ภรรยามักมีปัญหาเรื่องความอิหลักอิเหลื่อในบทบาทหน้าที่ของแต่ละคน ทางที่ดีควรคุยกันให้เข้าใจก่อนว่า หลังแต่งงานแล้ว ใครต้องมีหน้าที่อะไรในบ้านและในความสัมพันธ์ใหม่บ้าง แนะนำว่าการกำหนดกะเกณฑ์ทุกอย่างจนเป๊ะไปเสียหมดอาจทำให้อีกฝ่ายอึดอัดได้ทั้งที่เพิ่งแต่งงาน  จึงควรคุยกันในลักษณะของการวางแผนในจังหวะที่เหมาะสม เช่น  ตอนที่ช่วยกันเลือกซื้อของแต่งบ้าน จัดบ้าน […]

รับมือกับปัญหาหลังแต่งงาน, เจ้าสาวมือใหม่, ปัญหาชีวิตคู่, คู่รัก, คู่แต่งงาน

ไม่เป็นอย่างที่คิด! 5 Tips รับมือกับปัญหาหลังแต่งงาน ที่เจ้าสาวมือใหม่ต้องรู้

ปัญหาชีวิตคู่ สามีเปลี่ยนไปหลังแต่งงาน หลังแต่งงานไม่เป็นอย่างที่คิด กับอีกสารพัน บลาๆๆ ที่บีบให้เจ้าสาวต้องตื่นจากฝัน แล้วก้าวเข้าสู่โลกแห่งความจริง โลกที่ต้อง รับมือกับปัญหาหลังแต่งงาน งานแต่งงานที่งดงามเหมือนฝัน ความสนใจของคนรอบข้างที่จ้องมองมาที่คุณราวกับคุณเป็น “เจ้าหญิง” ได้ผ่านไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงคุณกับเขาที่ต้องดำเนินชีวิตคู่กันต่อไป และนั่นคือจุดเริ่มต้นของปัญหาหลังแต่งงานทั้งหลายแหล่ อะไรที่ไม่เคยเจอ ก็จะได้เจอตอนนี้แหละ แต่จะดีกว่าไหม ถ้าคุณเจ้าสาวมือใหม่ได้รู้เคล็ดวิชา รับมือกับปัญหาหลังแต่งงาน ฉบับ Expert Tip ที่แพรวเวดดิ้งรวบรวมมาไว้ในสิลต์นี้ 1. Wedding Blues ซึมเศร้าหลังงานแต่งผ่านพ้นไป อาการซึมเศร้าหลังแต่งงานที่ฝรั่งเรียกภาษาบ้านๆ ว่า “Wedding Blues” (ภาษาทางการเรียก Postnuptial Depression) เป็นคำตอบของความเศร้าหลังแต่งงานที่เจ้าสาวหลายคนอาจประสบ  แต่ไม่สามารถนิยามสิ่งที่ ตัวเองเป็นได้ว่าคืออะไร งานแต่งงานงดงามดั่งฝันเพิ่งจบไป  แม้แต่ชุดเจ้าสาวแสนสวยก็จะไม่ใช่ของเราอีกต่อไป สิ่งเหล่านี้ทำให้เจ้าสาวทั้งหลายเกิดความรู้สึกใจหาย จากที่เคยวุ่นวายเตรียมงานมาเป็นปี  บัดนี้เป้าหมายได้สำเร็จลุล่วงไปแล้ว ความรู้สึกราวกับเจ้าหญิงจบลงแล้วเมื่อแขกคนสุดท้ายลากลับ  ทำให้เจ้าสาวหลายคนรู้สึกหดหู่จนถึงกับว่างเปล่า วิธีรับมือ: การเตรียมงานแต่งงานเป็นเรื่องวิเศษ  ตราบใดที่คุณไม่ถึงขนาดบ้าคลั่งไปกับมัน  การใช้ชีวิตหนึ่งปีก่อนแต่งงานเพื่อวันเพียงวันเดียวจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนสูญเสียกะทันหันเมื่อมันจบลง ควรแบ่งเวลาสำหรับการเตรียมงานและใช้ชีวิตปกติของคุณให้พอดี  จำไว้ว่าปีแรกของการแต่งงานก็ควรเป็นช่วงเวลาที่พิเศษเช่นกัน  อย่ามัวนอยด์จนพลาดเก็บเกี่ยวช่วงเวลาดีๆ ลองจัดปาร์ตี้เล็กๆ  นัดเพื่อนและครอบครัวมาดูรูปถ่ายและวิดีโองานแต่ง หาเวลาว่างในช่วงวันหยุดสั้นๆ ไปเที่ยวใกล้ๆ กันสองคน ไม่ใช่กลับจากฮันนีมูน […]

เสน่ห์บนเตียงตามราศี ความลึกลับของดวงชะตาที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

ไม่มีใครรู้แน่ชัดหรอกว่าดวงชะตาราศีสามารถส่งผลกับชีวิตรักของคนได้มากน้อยเพียงใด แต่ถ้าเป็นเรื่อง เสน่ห์บนเตียงตามราศี ละก็ เขาว่ามีชัวร์นะยูว์ อย่างที่เรารู้กันว่าความสัมพันธ์ของคนสองคนจะเวิร์กหรือไม่นั้น ในทางวิทยาศาสตร์อาจตัดสินกันด้วยความรู้สึกเข้ากันได้ทางเคมี แต่ถ้าเป็นทางโหราศาสตร์ การยิงคำถามแรกใส่คนที่เพิ่งคบหาว่า “คุณเกิดราศีอะไร?”  คงถูกมองบนใส่ว่าเพี้ยนแหง ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้นสำหรับคนที่ “อิน” กับดวงชะตา มันถือเป็นเรื่องดีมากๆ หากได้รู้ราศีของอีกฝ่ายก่อนจะเริ่มสานสัมพันธ์ เพราะตามตำราว่าด้วยราศีต่างๆ ไม่ใช่ว่าทุกราศีจะเข้ากันได้ดีไปซะหมด มันจะมีราศีที่ “ส่งเสริมให้เป็นคู่ชิด” กับราศีที่ “ขัดแย้งเพราะเป็นคู่ปฏิปักษ์” ซึ่งแน่นอนว่าทุกคู่รักคงไม่ต้องการให้ตัวเองกับคู่ของตนเป็นอย่างหลังหรอกใช่ไหม? แต่ถึงคุณจะไม่อินเรื่องดวงชะตาราศี การได้เรียนรู้รสนิยมทางเพศของคนราศีต่างๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่ดี ลิสต์นี้แพรวเวดดิ้งเลยจัดหลักสูตร “เรียนลัด” เพื่อให้คุณได้รู้เรื่อง เสน่ห์บนเตียงตามราศี ครบทั้ง 12 ราศี เผื่อว่ามันจะช่วยให้คุณเข้าใจและสานสัมพันธ์กับคู่ของคุณได้ใกล้ชิดมากขึ้น ราศีเมษ ในทางโหราศาสตร์ ดาวอังคารคือตัวแทนของความเร่าร้อนและความปรารถนา ซึ่งความเร่าร้อนที่ว่านั้น แน่นอนว่าต้องรวมถึงเรื่องบนเตียงด้วย โดยคนที่เกิดในราศีเมษนั้นมีทั้งความอึดที่น่าทึ่งและความรักที่ร้อนแรงอยู่ในตัว ด้วยลักษณะเด่นของคนที่มีวิญญาณนักรบ ชางเมษมักเป็นพวกรุกไม่ยั้ง จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ชาวเมษจะรุกหนักเพื่อครองใจคุณอย่างรวดเร็ว ความท้าทายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ชาวราศีเมษชื่นชอบ คำเตือนคือคุณไม่ควรปล่อยให้ชาวราศีเมษต้องอดทนรอนานจนเกินไป จนพวกเขารู้สึกหมดความอดทนอ่ะนะ และด้วยลักษณะเด่นชัดนี้เอง ส่งผลให้การมีเซ็กส์ของชาวราศีเมษมักเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและดุดัน แถมยังชอบเป็นฝ่ายคุมเกมอย่างสมบูรณ์แบบ 100% อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรก็ตาม อย่าเพิ่งจุ๊ปากจิ๊จ๊ะว่า… ชั้นเป็นหญิง รุกก่อนหน้าเกลียดตาย […]

แฟนเก่า, คนรักเก่า, อดีตคนรัก, คนเคยรักกัน

ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย ใครมอง แฟนเก่า ในแง่ดีกว่ากัน?

คนส่วนมากมักจะมอง แฟนเก่า ของตัวเองแย่ลง หลังจากที่ความสัมพันธ์หวานชื่นสิ้นสุดลง คำถามก็คือมุมมองของผู้หญิงกับผู้ชายที่มีต่ออดีตคนรักนั้นมีความแตกต่างกันไหม? ต้องบอกก่อนว่าสาเหตุที่คนส่วนใหญ่มักมองคนรักเก่าแย่ลงภายหลังเลิกลากันนั้น มีเหตุผลรองรับที่ดีอยู่ 2 ข้อ เหตุผลแรกก็คือการเลิกราเกิดขึ้นด้วยเหตุผลที่ดี แต่เหตุผลที่ว่ากลับดูเลวร้ายลงเมื่อเวลาผ่านไปจนทำให้รู้สึกแย่กับอดีตคนรัก อีกเหตุผลหนึ่งคือโดยทั่วไปแล้ว ตอนที่ยังคบกับคนรักเก่าอยู่นั้น เรามักจะเชื่อว่าคนที่คบด้วยนั้นเป็นคนที่ดีพอสำหรับเรา แต่เมื่อเลิกรากันไปแล้ว เราจะปกป้องตัวเองว่าการตัดสินใจเลิกกับคนเก่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว ด้วยเหตุนี้ Ursula Athenstaedt แห่งมหาวิทยาลัย University of Graz ประเทศออสเตรีย และทีมวิจัยจึงได้ทำการสำรวจความแตกต่างทางทัศนคติของผู้หญิงกับผู้ชายที่มีต่อคนรักเก่า จนนำมาตีพิมพ์ไว้ในหนังสือ Social Psychological and Personality Science ผลจากการสำรวจความเห็นของผู้เข้าร่วมการวิจัยจำนวนมากกว่า 800 คน ด้วยการสอบถามความเห็นของผู้เข้าร่วมการวิจัยที่มีต่อคนรักเก่า ปรากฏว่าได้รับคำตอบที่หลากหลาย ตั้งแต่คำตอบแง่ดีอย่าง “แฟนเก่าของฉันมีข้อดีหลายอย่าง” ไปจนถึงคำตอบแบบ “นึกถึงแฟนเก่าทีไร ฉันโมโหทุกที” และเมื่อนำคำตอบทั้งหมดมาแปลงเป็นค่าประมาณโดยเฉลี่ยของมุมมองแง่ดีที่คนเรามีต่อคนรักเก่าแล้วพบว่า … ผู้ชายมองอดีตคนรักในแง่ดีมากกว่าผู้หญิง คำถามคือแล้วทำไมผู้ชายจึงมอง แฟนเก่า ในแง่ดีมากกว่าผู้หญิงล่ะ? เรื่องนี้มีเหตุปัจจัยที่สนับสนุนคำตอบนี้ 4 ข้อ คือ 1.เพราะผู้ชายชอบมีความต้องการสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดหรือไม่ยืนยาว ในแง่ของการวิวัฒนาการ ผู้ชายจะต้องการมีคู่จำนวนมาก ในขณะที่ผู้หญิงจะต้องการมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมั่นคง ดังนั้นผู้ชายจึงเลือกรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรักเก่ามากกว่า […]

นอกใจแฟน, คนนอกใจ, มีกิ๊ก, แอบมีกิ๊ก, มือที่สาม

17 เหตุผลที่คนเลือก นอกใจแฟน มันทั้งน่าตกใจและชวนใจสลายมาก!

ปัญหา นอกใจแฟน เป็นปัญหาระดับสากลโลกที่มีอยู่ในทุกเชื้อชาติ ทุกสีผิว และทุกเพศ จากข้อมูลของสมาคมที่ปรึกษาปัญหาครอบครัวและชีวิตคู่แห่งอเมริการะบุว่า กว่า 60% ของคู่ชีวิตทั้งหมด ล้วนเคยประสบปัญหาคู่ครองนอกใจ อย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงชีวิตแต่งงาน เห็นตัวเลขสูงเกินกึ่งแล้วก็อย่าเพิ่งตาโต ถ้าจะบอกว่ามันเป็นเพียงตัวเลขประมาณขั้นต่ำ เนื่องจากว่าไม่ใช่ทุกคนจะยอมรับว่าตนเองหรือคู่ครองของตนเคยนอกใจกันมาก่อน โดยเฉพาะเมื่อยังมีกลุ่มคนที่มีแนวความคิดว่าแค่พูดคุย คบหากับ “กิ๊ก” ไม่เรียกว่าเป็นการนอกใจแต่อย่างใด เพราะยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กันซะหน่อย จะว่าไปมุมมองต่อปัญหานอกใจนี้ก็เข้าข่าย คนทำไม่ได้คิด(มาก) แต่คนที่ถูกกระทำ(ไม่ได้ทำ) ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน กลับคิดและต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ถึงจะเป็นการนอกใจแบบไม่มีเพศสัมพันธ์มาเกี่ยวข้อง แต่ความรุนแรงของมันก็ไม่ต่างอะไรกับการนอกใจแบบมีเพศสัมพันธ์ และเป็นการบ่งบอกว่า “คู่ของเรา” ได้ตัดสินใจลาออกจากชีวิตคู่แล้ว เพราะการนอกใจในรูปแบบนี้สามารถทำลายความสัมพันธ์ได้ยิ่งกว่าการนอกใจแบบมีเพศสัมพันธ์ ค่าที่มันสร้างความเจ็บปวดให้กับคู่ครองได้มากกว่าการยอมรับตรง ๆ ว่านอกใจเสียอีก เนื่องด้วยมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าการหลอกลวงนี้เกิดขึ้นอย่างจงใจ ซึ่งถือเป็นหัวใจของการทรยศเลยทีเดียว โดยผู้หญิง 88% จะให้ความสำคัญกับการที่คู่ครองคบหากับคนอื่นมากกว่าการที่คู่ครองมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่มากกว่าคำตอบของฝั่งผู้ชายถึง 2 เท่า แล้วทำไมเมื่อรู้ว่าผลของการนอกใจสร้างความเจ็บปวดให้กับคู่ครองเพียงใดแล้ว คนจำนวนมากถึงยังเลือก นอกใจแฟน กันอีกล่ะ? 17 เหตุผลชวนใจสลายต่อไปนี้ อาจทำให้คุณที่ผ่านพบประสบการณ์แย่ๆ เข้าใจถึงสาเหตุมากขึ้น 1.คนที่นอกใจเป็นพวกหลงตัวเองและต้องการย้ำเตือนความสำคัญของตัวเองไม่มีที่สิ้นสุด คนประเภทนี้มักจะค้นหาเป้าหมายใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ตัวเองยังรู้สึกมั่นใจอยู่ […]

ระดับความต้องการทางเพศ

5 เช็กสิสต์ที่คู่รักต้องเข้าใจเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ระดับความต้องการทางเพศ

ระดับความต้องการทางเพศ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถวัดปริมาณความต้องการจากค่าของฮอร์โมนในกระแสเลือด เหมือนเวลาเราไปเจาะเลือดหาค่าคลอเรสเตอรอล หรือไตรกลีเซอไรด์ได้ ทั้งนี้ในแต่ละคนจะมีระดับความต้องการทางเพศ มากน้อยต่างกันไป โดยความเหมาะสมของความต้องการของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีก ความต้องการทางเพศควรมีแค่ไหน คำว่า “พอเหมาะ” ไม่อาจบอกได้ว่าเท่าไหร่ เพราะไม่มีค่าฮอร์โมนหรือสารเคมีวัดได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของตนเองและคู่ครอง ความพอเหมาะของคนหนึ่งอาจน้อยไปหรือมากไปสำหรับคนอื่น ๆ ก็ได้ แต่หากวัดจากการมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ ซึ่งทำให้มีลูกง่ายในวัยเจริญพันธุ์ ควรมีความต้องการทางเพศอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ส่วนคนที่มีความต้องการมากทางเพศทุกวัน แต่สามารถควบคุมตนเอง แสดงออกอย่างเหมาะสม เช่น ช่วยตนเองในสถานที่ส่วนตัว ไม่เป็นปัญหากับการทำงาน หรือการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น ก็ยังเรียกว่ามีความต้องการทางเพศในระดับที่พอเหมาะได้เช่นกัน แต่สำหรับคนที่มีความต้องการที่เข้าข่ายใช้คำว่า “ไม่เหมาะสม” คือ คนที่มีความต้องการทางเพศมากเกินไป หรือที่เรียกว่า Allosexual โดยไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกตนเองได้ ชอบแสดงออกในทางผิด จนเลยเถิดถึงขั้นกระทำผิดกฎหมาย เช่น  ทำอนาจารผู้อื่น หรือชอบโชว์ (Exhibitionist)  กลุ่มนี้ควรได้รับการบำบัดรักษาจากทางแพทย์ เหมาะสมหรือไม่ก็เรื่องหนึ่ง แต่ระดับความต้องการเข้ากันได้รึเปล่า นี่สิที่สำคัญ ต้องบอกว่าสำหรับคู่ชีวิต ระดับความต้องการทางเพศที่เข้ากันได้ของคนสองคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากฝ่ายหนึ่งมีความต้องการทางเพศสูง ในขณะที่อีกฝ่ายมีความต้องการทางเพศต่ำ การสานสัมพันธ์คู่รักก็คงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะถ้าฝ่ายหนึ่งมีความรู้สึกว่าการมีเซ็กส์เป็นส่วนสำคัญกับชีวิตคู่ ในขณะที่อีกฝ่ายไม่ต้องการมีเซ็กส์เอาซะเลย แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนที่คุณจะเริ่มจิ๊จ๊ะว่า […]

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? 7 ประเด็นน่าคิดที่อาจทำให้คุณมองเรื่องเซ็กส์ใหม่

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? วินาทีแรกที่ใครก็ตามถูกยิงคำถามนี้ใส่ ใจต้องคิด… ทำไมต้องถาม? มีคู่แล้วไม่มีเซ็กส์ จะมีไปทำไม เพราะฉะนั้นไม่ต้องให้หมอไหนมาฟันธง เพราะมันสำคัญชัวร์ แต่ในความเป็นจริงกับคำถามที่ไร้ความซับซ้อนใดๆ นี้ แพรวเวดดิ้งกลับพบว่าไม่มีคำตอบใดที่จะตอบคำถามนี้ได้อย่างถูกต้อง 100% เพราะคนเราแต่ละคนมีสิ่งที่ให้คุณค่าไม่เหมือนกัน สิ่งที่สำคัญมากสำหรับคนๆ หนึ่ง อาจไม่มีความหมายใดๆ กับคนอีกคนหนึ่งเลยก็ได้ คำตอบที่ถูกต้องของคำถามว่า… เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? จึงขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเชื่อ ความต้องการทางกาย และลักษณะของความสัมพันธ์ที่คุณมีอยู่กับคู่ของคุณ และต่อจากนี้คือ 7 ประเด็นน่าคิดที่อาจจะทำให้คุณมองเรื่องเซ็กส์ในมุมมองใหม่ 1.เซ็กส์ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นกับชีวิตคู่เสียทีเดียว บนโลกนี้ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่สามารถมีชีวิตคู่ที่ดีและมีความสุขได้โดยไม่ต้องมีเซ็กส์ (หรือมีเซ็กส์บ้างเป็นครั้งคราวกับคู่ของตน) ซึ่งเหตุผลที่คนเหล่านี้ไม่มีเซ็กส์หรือไม่ต้องการมีเซ็กส์นั้นก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ความต้องการทางเพศต่ำ มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง อยากคบดูใจกันนาน ๆ ก่อนจะตัดสินใจมีเซ็กส์ ยังไม่ได้แต่งงานและไม่ต้องการมีเซ็กส์ก่อนแต่ง แต่ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลข้อใดก็ล้วนไม่ได้ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของคู่รักต้องพังทลายลง และก็ไม่ได้เป็นสัญญาณบอกว่าคู่รักของคุณหมดใจกับคุณแล้วอีกด้วย ขอย้ำอีกครั้งว่าการมีเซ็กส์ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ที่ดีเสมอไป 2.แต่การมีเซ็กส์ก็มีความสำคัญกับคนอีกกลุ่มเช่นกัน แน่นอนว่าสำหรับคนอีกกลุ่มแล้ว การมีเซ็กส์ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาและรักษาชีวิตคู่ คนอีกจำนวนไม่น้อยต้องการมีเซ็กส์กับคู่ของตน ซึ่งความต้องการทางเพศนี้ก็มีหลายระดับ ทั้งกลุ่มคนที่เป็น Asexual ซึ่งมีความรู้สึกสนใจในกิจกรรมทางเพศต่ำจนถึงขั้นอาจจะไม่สนใจเลย ในขณะที่กลุ่มคนที่เป็น Allosexual จะมีความรู้สึกสนใจในกิจกรรมทางเพศสูง และด้วยความหลากหลายทั้งในด้านความรู้สึกที่มีต่อการมีเซ็กส์และความรู้สึกสนใจในกิจกรรมทางเพศนี้เอง ทำให้คนเราตอบสนองต่อการมีเซ็กส์แตกต่างกันไป ซึ่งก็ไม่มีสิ่งใดที่ผิดอีกเช่นกัน 3.เหตุผลที่แต่ละคนเลือกจะมีเซ็กส์นั้นมีหลากหลาย เหตุผลที่การมีเซ็กส์อาจเป็นสิ่งที่สำคัญต่อชีวิตคู่ของคุณนั้นมีมากมาย […]

ก่อนแต่งงาน

5 เรื่องก่อนแต่งงานที่คู่รักควรตกลงก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกันให้เสร็จ

ไม่ว่าคุณทั้งคู่จะตั้งใจอยากลองย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันดู ก่อนแต่งงาน หรือจะเป็นการย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังเดียวกันหลังจากแต่งงานไปแล้ว เราขอแนะนำให้คุณทั้งคู่มีข้อตกลงบางอย่างในบางเรื่องร่วมกัน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเริ่มต้นชีวิตคู่ค่ะ เพราะการมีข้อตกลงก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกัน จะนำความสบายใจมาให้คุณในเบื้องต้นอย่างแน่นอน แล้วเรื่องจุกจิกใจจะลดน้อยลง เมื่อทั้งคู่มีข้อตกลงต่อไปนี้ 1. ค่าใช้จ่ายที่ต้องเคลียร์ ทุกสิ่งค่ะ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารเข้าบ้าน ค่าซื้อของจิปาถะ จะแบ่งกันดูแลยังไง ถ้าบ้านยังผ่อนอยู่จะต้องช่วยผ่อนไหม ใครผ่อนมากผ่อนน้อย บางคู่บอกว่าต้องจุกจิกหยุมหยิมขนาดนี้เลยหรือ ใช่ค่ะ ก็เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร แล้วชีวิตจริงไม่ใช่ในละครที่จะมีพระเอกร่ำรวยมาดูแลคุณทุกอย่าง หรือจะแต่งงานกับคุณหนูของตระกูลใหญ่ เราต้องอยู่กับโลกของความจริงค่ะ เอาเรื่องจริงมาคุยกันเลยจะได้กินอยู่ในบ้านหลังเดียวกันแบบสบายใจ ไม่มีเกร็ง ไม่รู้สึกเสียเปรียบได้เปรียบ 2. หน้าที่ดูแลบ้านที่ต้องแบ่ง ยุคนี้แล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าเรื่องดูแลบ้านต้องเป็นของฝ่ายหญิงเท่านั้นซะที่ไหน คุยกันเลยค่ะ เช่นเราจะมีวันทำงานบ้านด้วยกันไหม อะไรเสียอะไรต้องซ่อมจะเรียกช่างหรืออะไรยังไง ตัดต้นไม้ใครจะทำ เพราะบางอย่างผู้หญิงก็ทำไม่ไหว ผู้ชายก็ไม่ถนัดตกลงกันคร่าวๆ ไว้ก่อน อะไรช่วยกันได้ก็ลองดู แต่อย่าฝืนกำลังตัวเองซะล่ะ เพราะเดี่ยวข้าวของเสียหายไปจะเป็นเรื่อง 3. พื้นที่ส่วนตัวมีไหม ต่อให้คุณจะรักกันมากแค่ไหน แต่เราเชื่อว่าทุกคนย่อมต้องมีพื้นที่ส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น คุณอาจไม่ถึงกับขีดเส้นแบ่งเขตว่าห้ามเข้ามาในโซนนี้ แต่ต้องมีมารยาทเวลาจะเข้าไปในพื้นที่ของเขา หรือแม้แต่จะเปิดกระเป๋าสตางค์ หรือหยิบดูไอแพดของเขามาเล่นก็ควรคิดสักนิดว่านั่นน่ะ พื้นที่ส่วนตัวของเขาอย่างหนึ่งนะ ต่อให้คุณจะบอกว่า ขนาดคุณยังเปิดเผยทุกอย่าง ทำไมเขาไม่เปิดบ้างล่ะ คนเราไม่เหมือนกันค่ะ […]

ปัญหาชีวิตคู่

ครอบครัวเธอใหญ่ ครอบครัวฉันเล็ก ปัญหาชีวิตคู่ ทำยังไงให้ลงตัว

การแต่งงานคือการที่คนสองคนรักกันน่ะใช่ค่ะ แต่เมื่อแต่งไปแล้วคุณไม่ได้รักกันแค่สองคนนะคะ แพรวเวดดิ้งเชื่อว่าหลายคู่เคยได้ยินประโยคที่ว่า การแต่งงานไม่ใช่เรื่องของสองคน เพราะคือการแต่งกับทั้งครอบครัวของอีกฝ่าย แล้วทีนี้จะทำอย่างไรล่ะค่ะ เมื่อครอบครัวของคุณทั้งคู่มีขนาดที่ไม่เท่ากัน กรณีครอบครัวฝ่ายหนึ่งเป็นครอบครัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยญาติพี่น้องที่ทุกเทศกาลต้องมาเจอกัน แต่อีกครอบครัวอยู่กันไม่กี่คน เทศกาลต่างๆ ก็ทำกันเงียบๆ แล้วเมื่อต้องมาแต่งงานกันจะทำยังไงให้ ปัญหาชีวิตคู่ นี้ลงตัว ลองดูวิธีเหล่านี้ค่ะ เริ่มต้นที่เราสองคนก่อน ก่อนจะพาคนที่บ้านมาเจอกัน ลองใช้ตัวเองเข้าไปสัมผัสกับครอบครัวอีกฝ่ายให้มากก่อน เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของบ้านอีกฝ่าย เพราะคุณย่อมรู้อยู่แล้วว่าบ้านคุณเป็นแบบไหน ถ้าเจอแบบบ้านเขาจะว่ารู้สึกอย่างไร เรียกง่ายๆ คือเอาตัวคุณเองเป็นตัวแทนวัดความรู้สึกกันก่อน จากนั้นค่อยมาคิดพิจารณาว่า สไตล์บ้านของอีกฝ่ายเป็นแบบนั้น จะมีวิธีไหนเหมาะๆ ที่จะให้ครอบครัวตัวเองเข้าไปจอยได้อย่างสบายใจ บอกกล่าวเล่าเรื่องก็ช่วยได้ คุณอาจใช้วิธีพูดถึงครอบครัวของคุณให้ครอบครัวอีกฝ่ายได้รู้จัก แต่ต้องรู้จักพูดในระดับพอดีๆ ไม่พูดมากพูดเยอะหรือแนวอวดตัวเด็ดขาด แบบนั้นจะนำพาความรู้สึกติดลบตั้งแต่ก่อนเจอมากกว่าจะชื่นชม ใช้ของฝากเชื่อมสัมพันธ์ ไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวไหน ก็อย่าลืมซื้อของมาฝากคนทางบ้านทั้งสองบ้านให้พอๆ กัน หรือหากคุณไปเที่ยวกับครอบครัวของคุณก็ซื้อมาฝากครอบครัวของเขา โดยอาจบอกว่าครอบครัวฝากมาให้ อะไรแบบนั่น ความรู้สึกนึกถึงจะช่วยจูงใจให้ความต่างมาผสานกันได้ง่ายขึ้นอีกทาง ค่อยๆ พาครอบครัวเข้าแทรกซึม เมื่อคุณพอจะรู้รูปแบบของอีกครอบครัวแล้ว ลองค่อยๆ พาคนในครอบครัวของคุณเข้าไปแทรกซึมทำความคุ้นเคย ซึ่งถ้าคุณเป็นฝ่ายครอบครัวใหญ่ก็อาจเลือกพี่น้องสักคนสองคนค่อยๆ เข้าไปทำความคุ้นเคยกับบ้านอีกฝ่ายก่อน ส่วนคุณฝั่งครอบครัวเล็กก็ทำเช่นกัน เพื่ออย่างน้อยเวลาไปร่วมงานเทศกาลอะไรของอีกบ้านจะได้มีคนรู้จักอื่นๆในบ้านอีกฝ่ายให้พูดคุย ไม่ใช่คุยได้แต่กับลูกเขยหรือสะใภ้ตัวเอง อย่าบังคับใจโดยเด็ดขาด ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายครอบครัวใหญ่หรือเล็ก อย่าบังคับใจคนในครอบครัวของตัวเองให้ต้องมีส่วนร่วมถ้าเขาไม่ต้องการ เช่น บ้านฝ่ายหญิงมีงานเลี้ยงสังสรรค์ประจำปีที่มาทั้งตระกูลแต่บ้านฝ่ายชายอยู่กันเองแค่พ่อลูก ถ้าพ่อสามีไม่ได้อยากไปร่วมก็อย่าไปบังคับ […]

ย้ายเข้าบ้านอีกฝ่าย

5 นิสัยคนมีคู่ต้องรู้และต้องเปลี่ยนเมื่อคิดจะย้ายเข้าบ้านอีกฝ่าย

หลังแต่งงานจะอยู่บ้านใครไม่ใช่ประเด็น เพราะสำคัญกว่านั้นคือ การย้ายเข้าไปอยู่กับครอบครัวของอีกฝ่าย คุณจะใช้นิสัยแบบเดิมๆ เมื่อครั้งอยู่กับครอบครัวตัวเองไม่ได้เด็ดขาด แล้วมีนิสัยอะไรบ้างล่ะ ที่คุณต้องเปลี่ยนเมื่อคิดจะ ย้ายเข้าบ้านอีกฝ่าย มาดูกันค่ะ 1. นอนตื่นสาย ตอนอยู่กับครอบครัวตัวเอง คุณจะทำตัวเป็นคุณนายตื่นสาย หรือเจ้าชายสายเสมอไม่มีใครว่า แต่เมื่อเข้ามาอยู่กับบ้านอีกฝ่ายจะทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด เพราะอย่าลืมว่า แต่ละบ้านก็มีกิจกรรมยามเช้าที่ต่างกัน เช่น การร่วมกันกินข้าวเช้า การทำความสะอาดบ้าน ฯลฯ ลองคิดดูสิว่า ขณะที่คนทั้งบ้านตื่นมาทำนั่นนี่แต่คุณนอนสายตะวันโด่งกว่าจะลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว มันดูดีซะที่ไหน 2. ไม่ช่วยงานบ้าน แม้อยู่ที่บ้านของตัวเอง คุณจะมีใครต่อใครทำงานบ้านให้จนคุณแทบไม่ต้องกระดิกตัว แต่เมื่อมาอยู่บ้านอีกฝ่าย ต้องรู้จักหยิบจับทำนั่นนี่ซะบ้าง และแม้ว่าบ้านหลังใหม่ที่คุณย้ายเข้าไป จะมีคนช่วยทำงานบ้านให้ก็เถอะ คุณเองก็ควรช่วยเป็นหูเป็นตา หรือลงมือช่วยทำงานเล็กๆ น้อยๆ บ้าง ไม่ใช่เอาแต่ชี้นิ้วสั่ง หรือรอให้ฝุ่นปลิวหายไปเอง 3. ช่างติ แม้คุณจะรู้สึกว่า ที่บ้านคุณไม่ได้มีวิถีชีวิตแบบนี้ก็เถอะ อย่าลืมว่าบ้านใครบ้านมัน บ้านหลังนี้คือครอบครัวใหม่ที่คุณเข้ามาอยู่ การเรียนรู้และเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามสำคัญมาก เห็นอะไรไม่ถูกใจอย่าเพิ่งเปิดปากเอาแต่ติ ลองดูไปสักพักเพื่อให้ได้ข้อมูลก่อนว่า ก่อนคุณจะเข้ามาอยู่ คนที่นี่เขาใช้ชีวิตกันอย่างไร ถ้าสิ่งที่เป็นอยู่ไม่เข้าท่า เลือกใช้คำพูดดูดีที่ไม่ใช่การเอาแต่ติ หรือแต่พูดว่าที่บ้านของคุณเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ 4. หัดมีน้ำใจและช่วยจ่ายซะบ้าง แม้ครอบครัวของอีกฝ่ายร่ำรวยเงินทองแต่นั่นก็คือเงินของครอบครัวฝ่ายนั้น อะไรที่คุณช่วยดูแลจับจ่ายให้ได้ก็ควรแสดงน้ำใจ […]

หลังแต่งงาน

5 พฤติกรรมชวนยี้ที่คุณอาจต้องเจอหลังแต่งงานแบบไม่ทันตั้งตัว

นี่เหรอ คือสิ่งที่เราต้องเจอ หลังแต่งงาน !! “ไม่คิดว่าเขา/เธอจะเป็นแบบนี้” หรือ “ตอนเป็นแฟนกันไม่เห็นทำเลย” ประโยคเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ในทุกคู่แต่งงานค่ะ เพราะส่วนใหญ่แล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันจะมาปรากฏก็เมื่อร่วมหอกันไปเรียบร้อยแล้ว ก็แหม…คนเราต้องอยู่ด้วยกันนี่นา จะกั๊กตัวตนได้ตลอดเหมือนตอนอยู่บ้านใครบ้านมันได้ไงล่ะ ซึ่งพออีกฝ่ายรู้ก็อาจมีอึ้ง มียี้และมีส่ายหน้าได้ ว่าแต่มีพฤติกรรมอะไรบ้าง ที่คุณอาจเจอ หลังแต่งงาน แพรวเวดดิ้งรวมมาให้แล้ว จะได้เตรียมตัวรับมือกับยี้ที่คาดไม่ถึง ผายลมเรี่ยราด ตอนเป็นแฟนกันต้องระวังตัวสุดๆ แต่พอมาใช้ชีวิตด้วยกันแล้วคุณคงเลี่ยงที่จะเจอไม่ได้ บางคนบอกว่าปวด_ด ก็เดินออกไป_ด ที่โซนอื่นสิ ไม่ใช่มา_ดต่อหน้า ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ไม่ใช่พฤติกรรมชวนยี้หรอกค่ะ เพราะคุณไม่ต้องเหวอหรือยี้ๆๆ กับสิ่งที่อีกคนทำ เรอดังลำโพงแตก มาแต่เสียงยังไม่เท่าไหร่ บางคนมาพร้อมกลิ่น ใครที่คิดว่าชาตินี้ไม่น่าจะเจอก็อาจเจอได้หลังแต่งงาน แม้ว่าตอนเป็นแฟนกันคุณจะเคยกินข้าวด้วยกันเป็นร้อยมื้อมาแล้วก็ตาม แต่อย่างที่บอกไงค่ะว่า เมื่อมาร่วมบ้านเรื่องเหล่านี้เลี่ยงยากจริงๆ ฉะนั้นละก็ ทำใจซะ!! ถ่ายหนักแล้วไม่กดชักโครก ถ้าคุณสงสัยว่าจะมีคนแบบนั้นเหรอ คำตอบคือ มีค่ะ มีแน่นอน เพียงแต่จะมีใครมาพูดเท่านั้นเอง แต่แพรวเวดดิ้งขอเป็นตัวกลางมาบอกให้คุณรับรู้ และทำความเข้าใจสักนิดว่า จริงๆ แล้วเขาอาจไม่ใช่คนซกมกหรอกค่ะ เพียงแต่ใช้ชีวิตแบบนี้มาจนชิน พอมีคนมาอยู่ด้วยก็เผลอไป ชีวิตส่วนตัวตอนที่ยังใหม่แต่งงานของคนกลุ่มนี้คือ พอขับถ่ายแล้ว ไม่กดชักโครกทันที แต่จะมีการสำรวจตรวจตราสุขภาพตัวเองก่อนเสมอ อาจลืมกดจนเป็นนิสัย […]

พ่อสามี

ว่าที่ลูกสะใภ้รู้ไว้ก็ดีจะได้ทำตัวถูกกับ 4 นิสัยพื้นฐานของพ่อสามี

ส่วนใหญ่เราจะได้ยินปัญหาของแม่ผัวลูกสะใภ้ใช่ไหมคะ แต่จริงๆ แล้ว พ่อผัวกับลูกสะใภ้ก็มีปัญหาให้เห็น แถมบางบ้านสะสมความขุ่นใจกันมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นสงครามเย็นโดยไม่รู้ตัวซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคุณมองข้ามนิสัยบางอย่างของ พ่อสามี หรืออาจเป็นเรื่องคาดไม่ถึง ซึ่งไม่ใช่ความผิดแต่อย่างใด วันนี้เราจึงสรุปแบบกว้างๆ มาให้ ถ้าคุณกำลังจะเข้าไปเป็นสะใภ้บ้านไหน ลองอ่านบทความนี้ดู จะได้เตรียมปรับตัวให้เข้ากับพ่อสามีในอนาคตได้ พ่อสามีส่วนใหญ่ไม่พูดเยอะแต่ดูอยู่ห่างๆ อย่าคิดว่าพ่อสามีจะละเลยเรื่องชีวิตคู่ของคุณกับลูกชายของเขานะคะ เพราะส่วนใหญ่จะเน้นดูการกระทำของคุณอยู่เงียบๆ ประกอบกับดูปฏิกริยาของลูกชายตัวเองว่ามีความสุขดีอยู่ไหม ชีวิตคู่เป็นไปอย่างที่ลูกชายเคยคุยเคยฝันหรือเปล่า และการไม่พูดไม่ใช่กำลังจับผิด แต่เป็นการให้เกียรติในการใช้ชีวิตของคุณต่างหาก ฉะนั้นว่าที่สะใภ้ทั้งหลายอย่าคิดว่าทำอะไรก็ได้ตามใจฉัน พ่อนั้นไม่สนหรอก ขอบอกเลยว่าคิดผิด พ่อสามีพูดทีมีอึ้ง ต่อเนื่องให้รู้กันไปจากข้อที่แล้ว คือไม่พูดก็คือไม่พูด แต่ถ้าเปิดปากพูดเมื่อไหร่ ส่วนใหญ่จะแปลว่าสุดๆ แล้วล่ะ ไม่พูดให้รู้ตัวคงไม่ได้ อะไรประมาณนั้น ซึ่งตรงนี้จะต่างจากแม่สามีที่เห็นปุ๊บก็อาจพูดปั๊บจนคุณอาจรู้สึกเบื่อหน่ายจนฟังทะลุหูไปเลยด้วยความเคยชิน แต่ถ้าเป็นพ่อสามีพูดเมื่อไหร่ รู้ไว้เถอะค่ะว่าพฤติกรรมของคุณนั้น เข้าขั้นต้องตรวจสอบแล้วนะ พ่อสามีก็มีความเป๊ะเหมือนกัน จริงๆ แล้วพ่อสามีมีความหยวนมากกว่าแม่สามีก็จริงนะคะ ฉะนั้นทำความสะอาดบ้านเนี้ยบไหม ทำอาหารอร่อยหรือเปล่าไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะมานั่งจุกจิกกันทุกวี่วัน แต่มักจะจุกจิกเฉพาะเรื่องมากกว่า เช่น ความเป๊ะในเรื่องที่เกี่ยวกับประเพณีสืบทอด การไหว้เจ้า ธรรมเนียมทำตามกันมา (โดยเฉพาะครอบครัวคนจีน) หรือบางบ้านอาจมีเรื่องเงินๆ ทองๆ เข้ามาในบางสถานการณ์ซึ่งหากคุณเป็นคนไม่ละเอียด ไม่ค่อยจะเป๊ะกับหลายๆ เรื่อง อาจค่อยๆ เริ่มสร้างความละเอียดให้กับตัวเองผ่านเรื่องเหล่านี้ก็ดีนะคะ พ่อสามีไม่หวงลูกชายแต่จะห่วงมากกว่า […]

แฟนทะเลาะกับพ่อแม่

เมื่อแฟนทะเลาะกับพ่อแม่ แล้วคนกลางอย่างเราจะวางตัวอย่างไร?

เลี่ยงไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าบังเอิญว่าคุณต้องกลายเป็นคนกลางเวลาที่ แฟนทะเลาะกับพ่อแม่ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ ยิ่งถ้าอยู่ในสถานที่บังคับแบบไปไหนไม่ได้อย่างในรถ ร้านอาหาร หรือแม้แต่ในบ้านของตัวเอง แล้วคนกลางอย่างคุณจะวางตัวแบบไหนดี เพื่อให้คุณเองไม่ต้องกลายเป็นอีกคนที่มีปัญหา นิ่งไว้ก่อนปลอดภัยสุด คำแนะนำแรกที่เราขอให้คุณทำเมื่อสถานการณ์ตรงหน้ามาคุคือ การอยู่นิ่งๆ ค่ะ อย่าเอาตัวเองเข้าไปเป็นเอี่ยว เพราะเดี๋ยวเรื่องจะไปกันใหญ่ นิ่งและฟังอย่างเดียวว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วดูเชิงสักนิดว่าคุณออกมาจากเหตุการณ์ตรงนั้นได้ไหม เหตุผลคือ เป็นการให้เกียรติคนในครอบครัวคุยกันเองยังไงละค่ะ ต่อให้คุณจะสนิทกับครอบครัวของเขามากแค่ไหนก็ตาม หรือแม้จะแต่งงานเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขาก็ตาม นิ่งค่ะ ขอย้ำให้นิ่ง เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ ห้ามไม่ได้ให้นิ่งไว้ บางคนบอกว่า เหตุการณ์มันสุดๆ จริงๆ ไม่เอี่ยวไม่ได้ ถ้าคุณลองเอ่ยปากพูดไกล่เกลี่ยให้ต่างฝ่ายใจเย็นลงแล้วก็ยังไม่ได้ผล อย่าพยายามค่ะ เพราะเสียงที่สามอาจไปกระตุ้นให้เรื่องไปกันใหญ่ และดีไม่ดี คนที่ทะเลาะกันอยู่ อารมณ์กำลังพุ่ง อาจจะลากคุณเข้าไปเอี่ยวจนกลายเป็นไฝว้หนักไปใหญ่ตามประสาคนพาลหรือคุมอารมณ์ไม่ได้ ฉะนั้น จำไว้เลย เมื่อเอ่ยปากห้ามแล้ว ไกล่เกลี่ยแล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้น จงนิ่ง!! อย่าเข้าข้างใครเด็ดขาด เวลาที่คนเราทะเลาะกันแล้วมีบุคคลที่สาม (อย่างคุณ) ที่ไม่เกี่ยวอยู่รับรู้เหตุการณ์ด้วย มีสิทธิ์ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะหันมาถามความเห็นของคุณว่าคิดยังไง ใครคือคนผิด จะต้องการหาพวก หรือให้คุณตัดสินก็ตามที แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณเอ่ยปากทำนองเข้าข้างใครคนนึงแล้วละก็ งานเข้าแต่ๆเพราะอีกคนจะหมางใจกับคุณได้ทันที ถ้าคนที่คุณเข้าข้างคือแฟนตัวเอง อีกคนที่อาจเป็นพ่อแม่พี่น้องเขาจะพลอยไม่ชอบคุณขึ้นมา หรือถ้าคุณเข้าข้างอีกฝ่าย คุณก็มีสิทธิ์ทะเลาะกับแฟนตัวเอง […]

ชีวิตคู่

6 ข้อดีของการมีชีวิตคู่ที่รู้แล้วจะซึ้งใจว่ามีรักที่ดีมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

เพราะเห็นตัวอย่างความรักที่ผิดหวังหรือเคยมีประสบการรักสุดแป้กมาจนสุดทน สาวๆ ยุคนี้ก็เลยเกิดอาการขยาดที่จะฝากหัวใจให้ใครดูแล แต่อย่าเพิ่งผลีผลามตัดสินใจครองตัวโสดไปตลอดช่วงอายุขัยค่ะ ลองมาอ่านข้อดีของการมี ชีวิตคู่ จากแพรวเวดดิ้งกันก่อนเพราะทั้ง 6 ข้อข้างล่างนี้ คือเรื่องดีๆ ที่คนมีคู่เขาโหวตมาแล้วว่านี่แหละคือข้อดีที่เธอและเขาตัดสินใจเป็นคู่ชีวิตกัน  1. มีเพื่อนอยู่ด้วยเสมอเรื่อยๆ ไปจนแก่ ข้อดีสุดฮอตที่แทบจะทุกคนที่ตัดสินใจแต่งงานกันบอกกับเราก็คือ ความรู้สึกที่ว่าจะมีเพื่อนอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ  จนแก่เฒ่า ซึ่งแม้การอยู่นั้นจะเป็นการอยู่แบบเลิฟมากไม่มีนาทีไหนทะเลาะกันเลยหรือยู่แบบลิ้นกับฟันที่กระทบกันมากบ้างน้อยมาก แต่สุดท้ายก็คือความเป็นเพื่อนที่แฝงอยู่นฐานะสามีภรรยาที่ไม่เคยทิ้งกัน ทำให้บ้านหลังนั้นไม่เงียบเหงา และอย่างน้อยๆ เดินไปในบ้านยังมีเพื่อนคนนี้นั่งอยู่เสมอ 2. มีคนคอยอยู่ดูแลกันไม่ห่างเมื่อยามเจ็บป่วย จริงอยู่ที่ความไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ แต่ใครบ้างจะไม่มีโรคจริงไหมค่ะ ซึ่งนี่แหละคืออีกหนึ่งข้อดีของการมีคู่ นั่นคือเมื่อคุณเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาเมื่อไหร่ จะมีคนๆ หนึ่งที่คอยอยู่ดูแลคุณไม่ห่าง หรือแม้บางคู่ที่อาจจะเถียงว่า ไม่จริงอะ เวลาป่วยยังต้องไปหาหมอคนเดียวเลย แต่ลองคิดดีๆ สิคะ อย่างน้อยๆ คุณก็บอกอีกคนใช่ไหมล่ะว่าป่วย ซึ่งหลังจากนั้น คุณจะได้รับความห่วงใยดูแลไม่มากก็น้อยในสไตล์ของคนๆ นั้น ซึ่งนั่นก็คือรูปแบบหนึ่งของการดูแลกันไงคะ 3. ได้ที่ปรึกษาส่วนตัว เวลาที่มีปัญหากับที่ทำงานหรือเรื่องส่วนตัว คู่ชีวิตของเรานี่แหละที่เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวที่คุณจะเอ่ยปากบ่นละขอความเห็นเป็นอันดับแรก เพราะคุณก็อยู่กันแค่สองคนผัวเมียแล้วจะบ่นให้ใครฟัง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อบ่นไปแล้ว คุณจะได้คำปรึกษาหรือความเห็นกลับมาไม่มากก็น้อย ซึ่งจะมีประโยชน์ไหมก็ว่ากันไปแล้วแต่กรณี แต่อย่างน้อยๆ คุณก็ไม่ต้องนั่งคิดคนเดียวให้ปวดหัว เพราะสามีหรือภรรยาของคุณคือเพื่อนคู่คิดที่พร้อมจะให้คำปรึกษากับคุณเสมอ 4. ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายในโลกกว้าง คู่รักนักเที่ยวบอกกับเราว่า การมีคู่ชีวิตคือมีบัดดี้ไปไหนต่อไหนด้วยกันเสมอ […]

ขอผู้ชายแต่งงาน ได้ไหม? แล้วขอยังไงไม่ให้น่าเกลียด?

ก็ในเมื่อเขาคนนั้นไม่ยอมเอ่ยปากซักที! เป็นสาวเป็นนางอย่างเรา จะ ขอผู้ชายแต่งงาน กับเขาบ้างได้ไหม แล้วจะขอยังไงไม่ให้โดนเม้าท์? คลิกสิ เรามีคำตอบ!

แฟนเก่า

ปล่อยให้เป็นแค่เรื่องเก่าๆ…เลิกคิดมากเรื่อง แฟนเก่า ของเขาซักทีเถอะนะ

เป็นเรื่องปกติที่คุณมักจะรู้สึกไม่ถูกชะตากับ แฟนเก่า ของคนรักนัก ทั้งๆ ที่คุณอาจไม่เคยเจอหรือรู้จักกันเลยด้วยซ้ำ จริงๆแล้วเรื่องนี้มันไม่มีอะไรซับซ้อนเลย

ครอบครัวแฟน

4 เคล็ดลับมัดใจครอบครัวแฟน รับรองเห็นผลผู้ใหญ่ปลื้ม

การจะไปหาผู้ใหญ่ของแฟนก็ต้องมีการเตรียมตัวเตรียมใจกันบ้าง ไม่ใช่ทะเล่อทะล่าเข้าไปก็คงไม่เหมาะ แต่ควรดูแลเสื้อผ้าหน้าผมให้สมกับการที่คุณจะเข้าไปเกี่ยวดองเชิงสร้างสรรค์กับ ครอบครัวแฟน กันไว้ก่อน เพราะถึงยังไงคุณก็ต้องทำตัวให้เอาชนะใจพ่อแม่ของเค้าให้ได้ งั้นมาดูแลตัวเองในวันที่รู้ว่าต้องไปพบญาติผู้ใหญ่ของแฟนด้วยการทำตามที่ แพรว wedding แนะนำกันดีกว่า รับรองว่าเวิร์คสุดๆ 😉 ระมัดระวังเรื่องคำพูดคำจา คุณควรหัดพูดจาให้ไพเราะเสนาะหูเข้าไว้ และใช้คำว่า คะ ขา ค่ะ หรือครับผมกันบ่อยๆ พูดให้ชินกันซะเดี๋ยวนี้ เผื่อวันหน้าได้ไปพบพ่อแม่ของหวานใจจะได้ไม่เคอะเขิน ก็แหม ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่จะไปทำตัวตามสบายเกินเหตุแบบตอนอยู่กับเพื่อนฝูงคงไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นเริ่มใช้คำพูดดีๆกันตั้งแต่วันนี้เลยก็แล้วกัน การแต่งกายควรเรียบร้อย เลือกชุดที่คุณใส่แล้วดูเรียบร้อย, น่ารักแต่คล่องแคล่วจะดีกว่า คุณควรแต่งกายให้ทะมัดทะแมงเข้าไว้ ท่านจะได้รู้สึกว่าคุณแข็งแรงพอที่จะทำงานทำการสู้ชีวิตต่อไปในวันข้างหน้าได้ยังไงล่ะคะ กริยามารยาทก็ต้องเรียบร้อยแต่พอดีเอาไว้ก่อน เรื่องนี้ถือเป็นธรรมเนียมกันเลยเชียวนะ เวลาที่คุณจะไปบ้านใครก็ควรจำไว้ให้ขึ้นใจว่า ความเป็นคนสุภาพเรียบร้อยและมีสัมมาคารวะนั้นเป็นเรื่องจำเป็น ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ด้วยแล้วยิ่งสำคัญ ตรงนี้ก็ขอให้ คุณอ่อนน้อมถ่อมตนกับผู้หลักผู้ใหญ่ไว้ก่อน ยังไงเราเป็นเด็กเป็นเล็กก็ควรรู้จักการไปลามาไหว้ จะให้ดีก็ควรหลีกเลี่ยงการสกินชิพกันตลอดเวลาตอนพูดคุยอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ด้วยนะคะ กันไว้ก่อน เพราะผู้ใหญ่แต่ละบ้านทัศนคติต่อเรื่องนี้ย่อมไม่เหมือนกันแน่นอน เวลาจะเข้าไปหาพ่อแม่ของเค้าก็ควรถือของฝากติดไม้ติดมือไปด้วย ของฝากที่จะนำไปมอบให้คราวนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องลงทุนเทกระเป๋าซื้อของอะไรที่มันแพงๆไปให้ท่านหรอก แค่มี ดอกไม้ไปฝาก, มีขนมไปให้ หรือหาผลไม้ตามฤดูกาลไปเยี่ยมก็เพียงพอแล้ว ถือเป็นการแสดงความมีน้ำใจทำให้ท่านเห็นว่าเรารลึกถึง และให้ความสำคัญกับการเข้ามาหาท่านเพราะมีการเตรียมข้าวของมา ที่เหลือก็เพียงให้ท่านรู้ว่า คุณมีความจริงใจและรักลูกหลานของท่านอย่างไม่มีเงื่อนไข เท่านี้ก็น่าจะสอบผ่านแล้วล่ะค่ะ cr : rd.com อ่านบทความเพิ่มเติม […]