เจาะลึก ชุดแต่งงานเมแกน มาร์เคิล ดัชเชส แห่ง ซัสเซ็กซ์

ในที่สุดก็เผยโฉม ชุดแต่งงานเมแกน มาร์เคิล ‘ดัชเชส แห่ง ซัสเซ็กซ์’ ที่ทั่วโลกรอคอย

หลังจากที่คาดเดากันมานานว่า เมแกน มาร์เคิล จะใส่ชุดแต่งงานของแบรนด์ใดในพิธีเสกสมรส ในที่สุดคำตอบนี้ก็ได้รับการเฉลย และดีไซเนอร์ผู้โชคดีที่วิ่งเข้าวินเป็นผู้ชนะเลิศได้เป็นผู้ออกแบบ ชุดแต่งงานเมแกน ก็คือ แคลร์ เวท เคลเลอร์ ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษแห่งแบรนด์ Givenchy นั่นเอง

เมแกน มาร์เคิล ได้พบกับ เวท เคลเลอร์ เป็นครั้งแรกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยเมแกนไดเลือก เวท เคลเลอร์ ให้เป็นผู้สร้างสรรค์ชุดแต่งงานร่วมกับเธอภายใต้คอนเซ็ปต์ “สง่างามและเรียบง่าย” โดยทั้งเมแกน และเวท เคลเลอร์ ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อดีไซน์ชุดแต่งงานสุดพิเศษชุดนี้ ซึ่งเป็นชุดที่เรียบง่ายสไตล์ timeless แต่เต็มไปด้วยความสง่างาม โดยได้แรงบันดาลใจมาจากความเป็นกูตูร์ของแบรนด์ Givenchy ที่โดดเด่นในเรื่องผลงานอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความประณีตและยังเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในปารีสตั้งแต่ปี 1952 อีกด้วย

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสในการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับ เมแกน มาร์เคิล ในโอกาสพิเศษดังกล่าว เราต้องการสร้างชิ้นงานที่ไม่มีวันตกยุคซึ่งจะเน้นถึงสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ความเป็นแฟชั่นของ Givenchy รวมไปถึงการถ่ายทอดความทันสมัยด้วยเส้นสายที่เพรียวบางและรูปแบบชุดแต่งงานที่เฉียบคม” เวท เคลเลอร์ กล่าว และจากการที่ได้ค้นคว้าหาข้อมูลอย่างกว้างขวางในโรงงานผลิตผ้าทั่วยุโรป เวท เคลเลอร์ ก็ได้พบกับผ้า silk cady สุดพิเศษและได้นำมาพัฒนาต่อจนเกิดเป็นชุดแต่งงานสุดพิเศษชุดนี้ขึ้นมา ซึ่งผ้า silk cady เป็นผ้าสุดเพอร์เฟกต์ที่เหมาะสมกับการนำมาตัดเย็บชุดในรูปแบบที่ต้องการได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นผ้าไหมที่มีประกายแวววาว ถักทอขึ้นอย่างละเอียด และมีสีขาวอันบริสุทธิ์ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งเมแกน และ เวท เคลเลอร์ ต้องการเพื่อทำให้ชุดเกิดความสดใหม่และทันสมัยนั่นเอง

ชุดแต่งงานเมแกน

ชุดแต่งงานของ ดัชเชสแห่งซัสเซ็กซ์ สอดคล้องกับประเพณีและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ Windsor Castle อันเก่าแก่

โดยภาพรวมชุดแต่งงานของเมแกน นั้นให้อารมณ์ความสวยงามที่มีกลิ่นอายของความเป็นยุค 50s นิดๆ แต่ก็เต็มไปความโมเดิร์นในแบบฉบับของเธอเอง กับรูปแบบชุดแต่งงานดีไซน์แบบ boat-neckline หรือชุดแต่งงานแบบคอปาด ที่เผยให้เห็นช่วงไหล่อันสง่างาม กับการตัดเย็บสุดประณีต โดยมีการเย็บตะเข็บเอาไว้ 2 ที่บริเวณด้านหน้าของชุดตั้งแต่ช่วงหน้าอกลงมาแล้วลากยาวไปจนถึงช่วงกระโปรง โดยเป็นฝีตะเข็บที่เย็บขึ้นอย่างบรรจง ส่วนกระโปรงเป็นทรงเอ-ไลน์ ที่มีความหลวมนิดๆ บริเวณสะโพก แต่มีช่วงเอวที่ดูเพรียวบาง และเข้ารูปตั้งแต่ช่วงสะโพกด้านล่างลงมาจนถึงบริเวณช่วงต้นขา จากนั้นจึงปล่อยทิ้งชายกระโปรงให้แผ่ออกไป นอกจากนี้หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าตะเข็บที่ด้านหลังชุดแต่งงานนั้นสวยงามและประณีตสุดๆ และยังมีการซ่อนแนวซิปเอาไว้ตรงข้ามกับกระดุมผ้าไหมเอาไว้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ชุดแต่งงานชุดนี้เป็นชุดแต่งงานที่เรียบง่ายแต่กลับเต็มไปด้วยความโดดเด่น นอกจากนี้ เวท เคลเลอร์ ดีไซเนอร์ยังได้เพิ่มความทันสมัยให้กับชุดนี้ด้วยการดีไซน์แขนเสื้อให้เป็นแบบสามส่วน และเทรนที่ลากยาวภายใต้กระโปรงที่ตัดเย็บจากผ้าไหมออแกนซ่าที่ซ้อนกันถึงสามชั้น ส่วนตัวกระโปรงด้านหน้านั้นได้ดีไซน์ให้มีความยาวแบบกรอมพื้น (floor-length) เพื่อให้สะดวกต่อการก้าวเดินนั่นเอง

แต่ถึงแม้ชุดแต่งงานของเมแกนจะมีดีไซน์เรียบง่ายขนาดไหน แต่ก็โดดเด่นสุดๆ ภายใต้เวลลากยาวในสไตล์ cathedral length ที่มีสัญลักษณ์ที่เป็นนัยยะบางอย่างซ่อนอยู่และเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของเจ้าชายแฮร์รี่ ในฐานะเอกอัครราชฑูตเครือจักรภพอีกด้วย (Commonwealth Youth Ambassador) ซึ่งเมแกนได้ออกแบบเวลด้วยตัวเอง ด้วยการประดับประดาไว้ด้วยดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์และมีความสำคัญของทั้ง 53 ประเทศในเครือจักรภพทั้งหมด

โดยเวลนั้นมีความยาวถึง 5 เมตรทำจากผ้าไหมทูลล์ และลวดลายดอกไม้ที่เห็นนั้นเป็นการปักด้วยมือจากด้ายไหมและผ้าออแกนซ่าทั้งหมด แถมขณะทำเหล่าดีไซเนอร์ต้องล้างมือทุกๆ 30 นาทีอีกด้วย!! และนอกจากเวลอันทรงคุณค่าจะประดับไว้ด้วยดอกไม้ของทั้ง 53 ประเทศแล้ว ยังประกอบไปด้วยดอกไม้ที่เมแกนชื่นชอบอีกด้วย นั่นคือดอก Wintersweet และดอก California Poppy ที่เป็นดอกไม้ที่เติบโตอยู่ใน Nottingham Cottage ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งรัฐบ้านเกิดของเธอนั่นเอง

ส่วนสิ่งที่หลายคนรอคอยนอกจากชุดแต่งงานของเธอก็คือ เทียร่า โดยเมแกนนั้นทรงเทียร่า Queen Mary’s diamond bandeau ที่พระราชินิอลิซาเบธที่ 2 ทรงยืมมาเพื่อให้ใช้ในพิธีเสกสมรส ซึ่งเทียร่าองค์นี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1932 โดยเข็มกลัดประดับเพชรที่ประดับอยู่ตรงกลางของเทียร่านั้นได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1893 และเทียร่าองค์นี้ถูกสวมครั้งล่าสุดเมื่อปี 1800s มาแล้ว เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาอวดโฉมอีกครั้งได้อย่างทรงเกียรติ

ส่วนช่อดอกไม้ที่เมแกนถือนั้น เป็นผลงานของนักจัดดอกไม้ที่ชื่อ Philippa Craddock กับช่อดอกฟอร์เก็ตมีน็อต ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเจ้าหญิงไดอาน่า นอกจากนี้ยังแซมไว้ด้วยดอกมะลิ และแน่นอนว่าจะขาดดอกไม้ประจำราชวงศ์อังกฤษอย่าง ดอกเมอร์เทิล ไปไม่ได้ ซึ่งดอกไม้ชนิดนี้ก็ได้นำมาจากสวนของปราสาท Kensington นั่นเอง แถมงานนี้เจ้าชายแฮร์รี่ลงทุนเก็บดอกไม้จากหลังวังมาให้ด้วยตัวเองอีกด้วย แหม โรแมนติกไปอีกกกกก

ส่วนเครื่องประดับเพียงน้อยชิ้นที่เมแกนสวมในพิธีเสกสมรสอย่าง ต่างหู และสร้อยข้อมือนั้นเป็นของแบรนด์ Cartier ส่วนรองเท้าเจ้าสาวนั้นเป็นของแบรนด์ Givenchy ที่ทำมาจากผ้า silk duchess satin

มารู้จัก เทียร่าที่ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ สวมใส่ในพิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่ กันต่อเลย

เรียบเรียงข้อมูลและภาพจาก www.bloomberg.com, www.vogue.com, www.nydailynews.com, brides.com

ของชำร่วยงานแต่ง สุดแสนง่าย มารู้วิธีทำ Bath Bomb กันดีกว่า

ถ้ากำลังหาวิธีการทำ DIY ของชำร่วยงานแต่ง แบบง่ายๆ และสุดแสนจะคิ้วท์อยู่ เข้ามาอ่านกันเร็ว เพราะเราจะนำวิธีการทำ Bath Bomb มาแนะนำให้คู่บ่าวสาวได้ลองร่วมด้วยช่วยกันทำออกมา แจกให้กับแขกที่มาร่วมงานกันค่ะ

เพราะในปัจจุบันราคา ของชำร่วยงานแต่ง มีราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ บางทีถ้านำมาแจกแขกในจำนวนเยอะๆ ก็จะทำให้งบประมาณบานปลายได้ แต่ไม่ต้องเครียดไป เพราะวิธีการทำ Bath Bomb นั้น สุดแสนจะง่าย อุปกรณ์ก็หาได้ตามร้านขายเบเกอรี่ทั่วไป และราคาไม่แพงด้วยนะจ๊ะ ให้ใคร ใครก็ยิ้ม เพราะมันนำไปใช้ได้จริงไง ^^

ของชำร่วยงานแต่ง

มาดูกันว่ามีอุปกรณ์ใดบ้างที่ต้องเตรียม

ส่วนผสม

  1. เบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยตวง
  2. กรดมะนาว 1/4 ถ้วยตวง
  3. แป้งข้าวโพด 1/4 ถ้วยตวง
  4. น้ำมันบำรุงผิว 3 ช้อนชา
  5. สีไมก้า (เป็นสีที่ขายตามร้านอุปกรณ์สบู่ เลือกสีที่ชื่นชอบได้เลย)
  6. น้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชื่นชอบ 3 ช้อนชา
  7. น้ำเปล่า 1 ช้อนชา

อุปกรณ์

  1. ชามใบใหญ่สำหรับผสม
  2. ไม้ตีแป้ง หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่
  3. ถ้วยตวง
  4. แก้วสำหรับผสมน้ำมัน
  5. กระชอนร่อนแป้ง
  6. บล็อคกลม สำหรับใส่ Bath Bomb หาซื้อได้ตามร้านขายสบู่

 

ของชำร่วยงานแต่ง

วิธีการทำ

  1. นำชามใบใหญ่มาวางตั้ง และนำกระชอนร่อนแป้ง วางทับ
  2. เทเบกกิ้งโซดา กรดมะนาว แป้งข้าว ตามที่ตวงเอาไว้ลงไปในกระชอนร่อนแป่ง และค่อยๆ ร่อนให้ส่วนผสมตกลงมายังชามใบใหญ่ข้างล่าง ร่อนจนส่วนผสมเป็นเนื้อละเอียด ไม่จับกันเป็นก้อน
  3. นำแก้วเปล่าขึ้นมา แล้วผสมน้ำมันบำรุงผิว น้ำมันหอมระเหย ตามที่ตวงไว้ลงไป
  4. นำสีไมก้ามาผสมลงไปในแก้วที่มีน้ำมันอยู่ โดยกะเอาแค่พอให้สีติดปลายช้อนชา อย่าใส่เยอะ ค่อยๆ ผสมจนสีเข้ากับน้ำมัน สามารถเลือกผสมสีได้ตามที่ชอบนะคะ จะเลือกใช้สีใดสีหนึ่งก็ได้ หรือจะจับคู่สี เช่น เหลืองกับชมพู ก็ได้ค่ะ
  5. เทส่วนผสมในแก้ว ลงไปในชามใบใหญ่
  6. ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  7. นำน้ำเปล่า 1 ช้อนชา เทตามลงไป และผสมให้เข้ากัน
  8. ลองดูหากส่วนผสมจับกันเป็นก้อน ก็ผสมน้ำเปล่าตามลงไป 1-2 ช้อนชา เพื่อให้ตัว Bath Bomb สามารถปั้นเป็นก้อนได้
  9. นำส่วนผสมที่ผสมเสร็จ จับกดเข้าบล็อค Bath Bomb ที่ีเตรียมเอาไว้ แล้วอัดให้เนื้อ Bath Bomb ให้แน่นที่สุด
  10. จากนั้นปิดฝา แล้วทิ้งไว้ 1 วัน ให้ส่วนผสมจับตัวกัน

ของชำร่วยงานแต่ง

เพียงเท่านี้เราก็จะได้ Bath Bomb มาเป็นของชำร่วยงานแต่งที่สุดแสนจะน่ารักแล้วล่ะค่ะ ถ้าอยากเพิ่มความมุ้งมิ้ง จะนำกากเพชรมาทาเพิ่มก็ได้นะ ในส่วนของการแพ็กเกจอาจจะหาถุงผ้าโปร่งสวยๆ มาใส่ หรือหากล่องใสมาใส่ก็ได้นะจ๊ะ

แต่ถ้าไม่อยากจะทำแจก เจ้าสาวจะลองทำเพื่อใช้เองก็ได้ เพราะ Bath Bomb นั้นช่วยบำรุงผิวพรรณเจ้าสาวได้ด้วยน้า … หรือถ้าอยากจะลองทำน้ำมันหอมระเหยเพื่อเป็นของชำร่วยงานแต่ง ก็ทำได้นะจ๊ะ บอกเลยว่าไม่ยากเหมือนกัน น้ำมันหอมระเหยกลิ่นกุหลาบ ของชำร่วยงานแต่ง DIY ทำเองได้ง่ายนิดเดียว

ภาพจาก : Pinterest.com

มารู้จักเทียร่าที่ ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ สวมใส่ใน พิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่

เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ กับงาน พิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่ กับ เมแกน มาร์เคิล หรือ ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ที่บรรยากาศของงานนั้นสวยงามและโรแมนติกราวกับงานแต่งงานในเทพนิยายเลยทีเดียว

และอีกหนึ่งสิ่งที่นอกเหนือจากชุดเจ้าสาวแล้ว ผู้คนต่างก็ให้ความสนใจกับเทียร่า (มงกุฎ) ที่เมแกนสวมใส่ในงาน พิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่ เพราะธรรมเนียมการใส่มงกุฎเพชรในวันพิธีอภิเสกสมรส หรือ พิธีเสกสมรสในราชวงศ์อังกฤษนั้นมีมานานจนเรียกได้ว่าเป็นประเพณีเลยก็ว่าได้

ซึ่งหลังจากที่ผู้คนคาดเดากันมานานว่า เมแกนจะสวมใส่เทียร่าใด หรือจะไม่สวมใส่เลย แต่ในที่สุดเมแกนก็เลือกที่จะปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของราชวงศ์อังกฤษ และเทียร่าที่เลือกสวมก็คือ Queen Mary’s Diamond Bandeau Tiara เป็นเทียร่าที่พระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 2 ทรงประทานให้เมแกน ยืมสวมใส่ในงานพิธีนั่นเอง ส่วนประวัติความเป็นมาของเทียร่าองค์นี้ก็ไม่ธรรมดานะจ๊ะ ตามมาดู

พิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่พิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่

Queen Mary’s Diamond Bandeau Tiara ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1932 ภายในประเทศอังกฤษ แต่ตัวเข็มกลัดตรงกลางเทียร่านั้น มีอายุยาวนานมาก ถูกเจียระไนมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1893 ซึ่งเทียร่าองค์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อควีนแมร์รี่แห่งอังกฤษ ในวันพิธีอภิเสกสมรสระหว่างดยุกแห่งยอร์กในปี ค.ศ.1983 ซึ่งแคว้นลินด์คอร์นเป็นผู้มอบให้กับควีนแมร์รี่นั่นเอง

พิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่

นอกจากนี้เทียร่าองค์นี้ยังถูกออกแบบมาอย่างพิเศษ คือสามารถถอดออกจากกันได้ โดยแบ่งเป็น 11 ชิ้น และสามารถเปลี่ยนเข็มกลัดตรงกลางได้ ตามแต่ว่าอยากจะดีไซน์ออกมาแบบใด หรือจะเลือกอัญมณีชนิดใดก็แล้วแต่ผู้สวมใส่ ซึ่งแต่ก่อนเข็มกลัดตรงกลางเทียร่าเป็นแซฟไฟร์เม็ดโต แต่เมแกนเลือกที่จะเปลี่ยนเป็นเพชรแทนเพื่อสวมในพิธี

พิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่

พิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่ พิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่

เรียกได้ว่า Queen Mary’s Diamond Bandeau Tiara อยู่คู่กับอังกฤษมานับร้อยปี และได้กลับมาอวดโฉมอีกครั้งในพิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่ กับเมแกน มาร์เคิล เรียกได้ว่าสวยงามสมพระเกียรติจริงๆ

และหากลองย้อนกลับไปในงาน พิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลี่ยม และ เจ้าหญิงเคท ก็จะเห็นว่า เจ้าหญิงเคททรงสวมใส่ ฮาโล่  เทียร่า ซึ่งเป็นเทียร่าจากปี 1936 ที่ดยุกแห่งยอร์ก (ต่อมาคือกษัตริย์จอร์จที่ 6) ทรงสั่งทำเทียร่าองค์นี้เพื่อเป็นของขวัญวันครบรอบอภิเษกสมรสแก่พระชายา ต่อมาได้พระราชทานเป็นของขวัญในโอกาสวันคล้ายวันประสูติครบ 18 พรรษาแก่เจ้าหญิงเอลิซาเบทในปี 1944 และล่าสุดสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบทที่ 2 ได้พระราชทานยืมแก่เจ้าหญิงเคท เพื่อสวมเข้าพระราชพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายวิลเลียมในปี 2011

พิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่

และอีกหนึ่งงานที่ยังอยู่ในใจของผู้คนทั้งโลก ก็คืองานอภิเสกสมรสระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลสและเจ้าหญิงไดอาน่า โดยเจ้าหญิงไดอาน่าทรงเลือกสวม สเปนเซอร์เทียร่า เป็นเทียร่าเก่าแก่ของตระกูลสเปนเซอร์ ที่ผู้หญิงในตระกูลสเปนเซอร์ใช้เป็นเทียร่าเจ้าสาวมาแล้วรุ่นต่อรุ่น และถึงแม้ว่าเทียร่าองค์นี้จะไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากราชวงศ์ แต่ก็มีความสำคัญและเป็นที่จดจำ เพราะไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เลือกทรงเทียร่าองค์นี้ในวันอภิเษกสมรสกับเจ้าชายชาร์ลสในปีค.ศ. 1981 นั่นเอง

พิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่

นับว่าเป็นเทียร่าที่งดงาม และน่าจดจำทุกองค์ สวยสมพระเกียริตราชวงศ์อังกฤษจริงๆ ค่ะ หากยังดูกันไม่จุใจก็สามารถไปดูแบบมงกุฎในงานพิธีอภิเสกสมรส และงานเสกสมรสเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ รวมแบบเทียร่าเจ้าหญิงในงาน Royal Wedding สวยงามน่ายลขนาดไหน มาดูกัน

ภาพปก : Getty Image
ภาพจาก : Tumblr , Pinterest.com , Youtube Live , Getty Image

Amazing Places for Amazing Honeymoon ฮันนีมูนทั้งที ธรรมดาได้ที่ไหนกัน!

ได้ลางานไปทริป ฮันนีมูน ทั้งทีงานนี้จะธรรมดาได้ที่ไหน

ฮันนีมูน ทั้งที่งานนี้ธรรมดาไม่ได้แน่ๆ ก็แหม คู่รักต่างตั้งตารอคอยกันทั้งนั้น ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลายหลังจากต้องเหน็ดเหนื่อยและเครียดกับการเตรียมงานแต่งกันมานาน ที่สำคัญนี่คือทริปเติมความหวานอย่างแท้จริงชนิดที่ว่างานนี้มีแต่เราสอง ก้างที่ไหนไม่มีให้รกตา ว่าแล้ว แพรว wedding จึงเตรียมสถานที่สุดมหัศจรรย์ดีต่อใจสมกับทริปการเริ่มต้นชีวิตคู่บทใหม่ของคุณ เก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางสู่สถานที่สุดอัศจรรย์กันเลยค่ะ

Tunnel of Love in Klevan, Ukraine

ฮันนีมูน

เริ่มต้นกันที่ อุโมงค์แห่งความรัก (Tunnel of Love) ที่นี่คืออีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศยูเครน เป็นอุโมงค์รถไฟที่สร้างขึ้นจากต้นไม้อย่างสวยงามตั้งอยู่ในเขตเมืองเคลเว่น (Klevan) เมืองเล็กๆ ในจังหวัดริฟเน (Rivne region) จังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกของประเทศยูเครนนั่นเอง เห็นแบบนี้โรแมนติกอย่าบอกใคร แนะนำให้เก็บเงินแล้วเตรียมไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่เลย

Glowworm Caves in Waitomo, New Zealand

ฮันนีมูน

เหมือนดาวอยู่ใกล้แค่เอื้อมในถ้ำสุดมหัศจรรย์แห่งนี้ “Waitomo Glowworm Caves” หรือถ้าแปลตรงตัวก็คือ “ถ้ำหนอนเรืองแสง” ตั้งอยู่ที่เกาะเหนือ ทางตอนใต้ของเมืองไวกาโต ประเทศนิวซีแลนด์ คำว่า Waitomo แปลว่า น้ำที่ลอดผ่านถ้ำ ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากลักษณะทางกายภาพภายในถ้ำที่มีสายน้ำไหลผ่าน และสิ่งที่ทำให้หลายคนต้องตกตลึงเมื่อเข้าไปสู่ถ้ำแห่งนี้ ก็คือ แสงระยิบระยับ จนเหมือนว่ากำลังมองดูดวงดาวบนฟ้าในยามค่ำคืน โดยสาเหตุของแสงที่ว่านี้ก็เนื่องมาจาก หนอนเรืองแสง ที่อยู่ภายในถ้ำนั่นเอง

Antelope Canyon in Arizona, United States

ฮันนีมูน

หุบเขาแอนทีโลพ เป็น 1 ในสถานที่ยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยว อยู่ที่เมืองเพจ รัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยภูมิประเทศที่เป็นร่องหินทรายที่ถูกน้ำกัดเซาะและได้ทิ้งร่องรอยการกัดเซาะที่คล้ายกลับหินผา เกิดจากการพังทลายของชั้นหิน Navajo Sandstone ซึ่งถูกกัดเซาะอย่างฉับพลันจากกระแสน้ำที่ซัดผ่าน ผสานความแรงจากกระแสลม พายุฝน ผ่านฤดูกาลต่างๆ ที่นี่กลายเป็น หุบเขาที่อันตรายที่สุด เนื่องจากบริเวณนั้นอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ตลอดเวลา และระดับน้ำสามารถสูงถึง 10 เมตรทีเดียว อีกทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งดึงดูดใจช่างภาพทั่วโลก เพราะสีสันจากธรรมชาติซึ่งเกิดจากการตกกระทบของแสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านช่องแคบ สะท้อนกับสีของชั้นหิน Navajo Sandstone เกิดเป็นความสวยงามสุดประทับใจแก่ทุกสายตา

Salar De Uyuni in the Potosí and Oruro departments of southwest Bolivia

ฮันนีมูน

Salar de Uyuni เป็นทะเลเกลือที่ใหญ่ได้ชื่อว่าเป็น กระจกเงาที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เป็นพื้นที่ราบที่ประกอบด้วยเกลือจำนวนมหาศาลบนเนื้อที่ 10,582 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลเกลือใหญ่ที่สุดของโลก อยู่ติดเขตระหว่างสองจังหวัดคือ Potosi และ Oruro ทางตอนใต้ของประเทศโบลิเวีย ลองมาตอนหน้าฝน จะเหมือนได้ยืนอยู่ท่ามกลางทะเลที่สะท้อนกับท้องฟ้าราวกับกระจก

Ancient Region of Anatolia in Cappadocia, Turkey

ฮันนีมูน

ปิดท้ายกันที่ คัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมืองมหัศจรรย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นเมืองที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 เป็นพื้นที่พิเศษเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟ ฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว (ปัจจุบันภูเขาไฟทั้ง 2 ดับแล้ว) ทำให้ลาวาที่พ่นออกมา เถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา เกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวงสารพัดรูปร่าง เมืองนี้ได้กลายเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม และเป็นจุดที่ชื่นชอบสำหรับบอลลูนอีกด้วย

 

cr : freeyork.org, nanotechnologyinstitute.org, inhabitat.com

ตามมาดูผลงาน ชุดแต่งงานแบรนด์ Givenchy ของคนดังก่อนหน้านี้กันดีกว่า

หลังจากงานพิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่ กับ เมแกน มาร์เคิล สิ่งที่ผู้คนล้วนจับตามองก็คือ ชุดแต่งงานแบรนด์ Givenchy ที่ ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ได้เลือกแล้ว

เพราะก่อนที่งานพิธีจะเริ่มก็มีการคาดเดาไปต่างๆ นานาว่าว่าที่เจ้าสาวจะสวมใส่ชุดแต่งงานแบรนด์ใดกันแน่ และจะมีดีไซน์ชุดเป็นแบบไหน จนเมื่อวันสำคัญมาถึงสิ่งที่สงสัยก็ได้รับการเฉลยเพราะ ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ได้เลือก ชุดแต่งงานแบรนด์ Givenchy ให้เป็นผู้ดูแลลุคความงามในวันสำคัญ

ชุดแต่งงานเมแกน

ชุดแต่งงานเมแกน

ซึ่งจากการคาดเดาไปต่างๆ นานา ว่าชุดแต่งงานเมแกน มาร์เคิล จะต้องตัดเย็บออกมาตามแบบฉบับงานโอต์ กูตูร์ เน้นงานปักบรรจงตัดเย็บจากแบรนด์ Ralph & Russo ที่มีราคา 100,000 ปอนด์ หรือ 4.2 ล้านบาท

แต่เมื่อเมแกน มาร์เคิล ได้ปรากฎตัวหน้าโบสถ์เซนต์จอร์จทุกคนต่างตะลึงกับชุดแต่งงานของเธอ แถมยังเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เพราะชุดแต่งงานของเธอนั้นมีการดีไซน์ที่ออกมาแบบเรียบ แต่หรู ไม่เยอะเกินไป และที่สำคัญชุดแต่งงานชุดนี้เป็นชุดจากแบรนด์ Givenchy ที่ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษ แคลร์ เวท เคลเลอร์ เป็นผู้ออกแบบให้นั่นเอง

ชุดแต่งงานเมแกน

ชุดแต่งงานสีขาวล้วนแขนสามส่วนไร้การปักใดๆ ในสไตล์แบบคอปาดที่เผยให้เห็นความสง่างามของช่วงลำคอและช่วงไหล่ของเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี พร้อมกับเวลเจ้าสาวที่ลากยาวถึง 5 เมตร บวกกับการประดับประดาด้วยดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์และมีความสำคัญของทั้ง 53 ประเทศในเครือจักรภพทั้งหมด บอกได้คำเดียวว่า สวยสง่า ไม่ผิดหวังกับการรอคอยจริงๆ

ชุดแต่งงานเมแกน

ซึ่งแบรนด์ Givenchy นั้นก็ไม่ธรรมดา เพราะเป็นแบรนด์จากประเทศฝรั่งเศสที่โด่งดังมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1952 และ เมแกน มาร์เคิล ก็ไม่ใช่เจ้าสาวคนแรกที่สวมใส่ชุดจากแบรนด์นี้นะจ๊ะ เพราะ Givenchy ได้รับความนิยมมานานแล้วก่อนหน้านี้ งั้นมาดูกันว่ามีเจ้าสาวคนไหนบ้างที่สวมใส่ชุดของ Givenchy กันบ้าง

ชุดแต่งงานเมแกน

เริ่มต้นกันที่งานนี้เลย กับการแต่งงานครั้งที่สองของ ออเดรย์ เฮปเบิร์น ที่เธอสวมชุด Hubert de Givenchy ในสไตล์ชุดแบบมินิเดรสแขนยาว มาพร้อมคอเสื้อแบบตั้งสูง บริเวณปลายแขนเสื้อดีไซน์ให้เป็นแขนกระดิ่งนิดๆ และเธอแมตช์ลุคนี้กับถุงน่องสีขาว และรองเท้าทรงแฟลตสไตล์แบบรองเท้าบัตเล่ต์

ชุดแต่งงานเมแกน ชุดแต่งงานเมแกน

ต่อมาคือ คิม คาร์ดาเชียน เธอเลือกสวมชุดจากแบรนด์ Givenchy ในงานแต่งงานครั้งที่สามกับ คานเย่ เวสต์ สามีของเธอ กับชุดแต่งงานทรงเมอร์เมดแขนยาวลูกไม้ทั้งชุด โดดเด่นด้วยช่วงแขนที่เป็นลูกไม้แบบซีทรู ที่ช่วยส่งให้เจ้าสาวดูสง่างาม แถมชุดทรงเมอร์เมดยังช่วยเน้นทรวดทรงองค์เอวของเธอให้โดดเด่นมากขึ้นไปอีก

ชุดแต่งงานเมแกน

เรียกได้ว่าแบรนด์ Givenchy นั้นไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานจากเหล่าคนดังและเซเลบ และตอนนี้บอกได้เลยว่า ชุดแต่งงานของ เมแกน มาร์เคิล ก็กำลังกลายเป็นกระแสและมีคนพูดถึงเยอะมาก ด้วยความสวยงามและเรียบหรูตามแบบฉบับยุค 1950 ในสไตล์เรียบหรูแบบมินิมอล เราเชื่อเหลือเกินว่านี่คืออีกหนึ่งชุดไอคอนิคสไตล์เจ้าหญิงจากแบรนด์ Givenchy ที่จะกลายเป็นตำนานอีกหนึ่งชุดได้ไม่ยาก สามารถอ่านรายละเอียดชุดเพิ่มเติมได้ที่ เจาะลึก ชุดแต่งงานเมแกน มาร์เคิล ดัชเชส แห่ง ซัสเซ็กซ์

ภาพจาก : Pinterest.com ,Youtube Live , Women Mthai

เชื่อหรือไม่ เล็บเจ้าสาว ของเมแกน มาร์เคิล ราคาไม่ถึง 300 บาท!

งานแต่งงานระดับราชวงศ์ใช่ว่าของทุกอย่างต้องแพง เพราะมีรายงานว่า สี เล็บเจ้าสาว ของเมแกน มาจากยาทาเล็บราคาดี๊ดี ว่าที่เจ้าสาวก็อปลุคด่วน!

ถึงแม้ว่าเราจะเห็นชุดเจ้าสาวงานประณีตระดับ โอต์ กูตูร์ ทั้งสองชุดของเมแกน มาร์เคิล รวมทั้งเทียร่าที่เธอสวมใส่ซึ่งมีประวัติความเป็นมาอันยาวนานประเมินค่าไม่ได้ แต่เมแกน มาร์เคิล เจ้าสาวหมาดๆ และดัชเชสแห่ง Sussex คนใหม่ นี้ก็ยังอยากแสดงถึงความถ่อมตัวและติดดินดังเช่นที่เธอเป็น เมแกนแต่งหน้าเจ้าสาวในวันแต่งงานด้วยตัวเองเหมือนที่เจ้าสาวรุ่นพี่อย่าง เคธ มิดเดิลตัน ทำ ผมเจ้าสาวของเธอก็เป็นสไตล์ effortless chic ที่แม้ไม่อลังการงานสร้างแต่กลับส่งให้เธอดูสวยละมุน แต่ที่ทำให้อินเตอร์เน็ทแทบแตกคือ เล็บเจ้าสาว ของเธอ ซึ่งสื่อเมืองนอกรายงานมาว่า มาจากแบรนด์ยาทาเล็บที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในราคามิตรภาพ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 300 บาทเท่านั้น! ทำเอาว่าที่เจ้าสาวพุ่งตัวไปซื้อกันจนน่าจะแทบหมดสต็อก ซึ่งยาทาเล็บที่ว่านี้คือ ยี่ห้อ Essie สีทีมีชื่อว่า Ballet Slippers นั่นเอง

เล็บเจ้าสาว
ยาทาเล็บ Essie สี Ballet Slippers

https://www.instagram.com/p/Bi8rt-OglSo/?utm_source=ig_embed

ซึ่งยาทาเล็บยี่ห้อ Essie นั้น เป็นที่รู้กันดีว่า เหล่าบิวตี้บลอกเกอร์และเซเลบหลายคนโปรดปราน เพราะราคามิตรภาพ คุณภาพดี และมีสีให้เลือกหลายหลาย ถึงแม้ในเมืองไทยจะยังไม่มีการนำเข้าอย่างเป็นทางการ แต่เราก็ยังสามารถซื้อผ่านเว็บไซด์ได้ หรือเลือกใช้สีที่ใกล้เคียงเหล่านี้จากแบรนด์อื่นๆ ที่มีขายในไทยดู อย่างเช่นแบรนด์เหล่านี้เป็นต้นค่า

เล็บเจ้าสาว
Essence The Gel Nail Polish สี pink the ballerina
เล็บเจ้าสาว
Chanel LE VERNIS สี Ballerina
DIOR VERNIS สี TRA-LA-LA

เหล่าว่าที่เจ้าสาวที่อยาก ก้อปลุค จากเจ้าสาวระดับราชวงศ์ของ เมแกน มาร์เคิล คงจะเห็นได้ว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงไปซะทุกอย่าง ก็สามารถดูหรูเลอค่าในวันแต่งงานได้เหมือนกันนะคะ สิ่งสำคัยอยู่ที่การรู้จักเลือกลุคและบิวตี้ไอเท็มที่เหมาะกับเราที่สุดนั่นเองค่า

credit story: harpersbazaar.com

รวมแหวนแต่งงานทั้ง 3แบบที่ ดัสเชสแห่งซักเซกซ์ ทรงสวมใส่รวม

ตามไปส่อง แหวนแต่งงาน ทั้ง 3  ของดัชเชสแห่งซัสเซกซ์

ถึงแม้งานพิธีเสกสมรมเจ้าชายแฮร์รี่ กับ เมแกน มาร์เคิล จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นกระแสที่ทุกคนยังพูดถึงอยู่ รวมไปถึง แหวนแต่งงาน ที่ดัสเชสแห่งซักเซ็กซ์ ได้ทรงสวมใส่ในงานพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายแฮร์รี่นั้นก็มีทั้งหมด 3 วง ด้วยกัน ซึ่งแต่ละวงบอกได้เลยว่า สวยงามสมพระเกียรติมากๆ จะมีรูปแบบใดบ้างตามมาชมกันค่ะ

แหวนแต่งงาน

แหวนแต่งงาน

แหวนแต่งงาน

1. แหวนหมั้น

สำหรับแหวนหมั้น (พระธำมรงค์หมั้น) เจ้าชายเเฮร์รี่เปิดเผยว่าทรงออกแบบเอง ได้ใช้เพชรเม็ดใหญ่จากบอตสวานาซึ่งเป็นสถานที่แห่งความทรงจำพระองค์กับเมแกน นอกจากนี้เพชรทั้งสองเม็ดที่ประดับอยู่ข้างๆ กัน เจ้าชายแฮร์รี่ได้นำมาจากเพชรที่เป็นเครื่องประดับของเจ้าหญิงไดอาน่า พระมารดาของพระองค์ เพื่อสื่อว่า แม้เจ้าหญิงไดอาน่าจะไม่สามารถอยู่ยินดีกับทั้งคู่ได้ แต่เพชรนี้ก็เปรียบเสมือนตัวแทนของพระองค์ที่คอยอยู่ใกล้ๆ และร่วมยินดีกับงานแต่งงานในครั้งนี้ (นอกจากแหวนแต่งงานจะสวยแล้ว ความหมายยังซึ้งโดนใจอีกต่างหาก)

แหวนแต่งงาน

แหวนแต่งงาน

2. แหวนที่ใช้แลกในพิธีเสกสมรส

ภายในพิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่ กับ เมแกนนั้น แหวนที่ใช้แลกกันภายในโบสถ์เซนต์จอร์จ พระราชวังวินด์เซอร์ คือแหวนทองคำล้วน ซึ่งเป็นทองคำที่มาจากเหมืองทองที่มีชื่อว่า Clogau (โคลกัว) อยู่ทางตอนเหนือของเวลส์ เป็นเหมืองที่ขุดทองมาเพื่อนำมาทำเครื่องประดับให้แก่ราชวงศ์อังกฤษเท่านั้น

แหวนแต่งงาน

แหวนแต่งงาน

3. แหวนที่สวมใส่ในงานฉลองสมรสตอนค่ำ

หลังจากงานพิธีเสกสมรสแล้ว เจ้าชายแฮร์รี่ได้พาเมแกน ไปยังงานเลี้ยงฉลองสมรสในตอนค่ำ ซึ่งเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฏราชกุมารแห่งอังกฤษ พระบิดาของเจ้าชายแฮร์รี่ ทรงเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงเป็นการส่วนตัว โดยมีการเชิญแขกที่มีความใกล้ชิดจำนวน 200 คน โดยเมแกน ดัสเชสแห่งซักเซกซ์ ได้เผยโฉมในชุดราตรีสีขาวเปิดไหล่ พร้อมกับแหวนพลอยอคามารีนเม็ดใหญ่สีฟ้าสดใส ซึ่งแหวนวงนี้เป็นแหวนของเจ้าหญิงไดอาน่า พระมารดาของเจ้าชายแฮร์รี่ จากนั้นเจ้าชายแฮร์รี่ทรงเป็นผู้ขับรถจากัวร์คลาสสิค ปี 1986 นั่งด้วยพระองค์เองอีกด้วย
เรียกได้ว่าแหวนแต่งงาน ของเมแกน ดัสเชสแห่งซักเซ็กซ์ ที่ได้สวมใส่แต่ละวงนั้น ล้วนแต่เป็นแหวนที่มีคุณค่าทางจิตใจและเกี่ยวข้องกับเจ้าหญิงไดอาน่า พระมารดาของเจ้าชายแฮร์รี่ รวมไปถึงเกี่ยวข้องกับราชวงศ์อังกฤษอีกด้วย อีกทั้งยังมีรูปแบบที่สวยงามเหลือเกิน

นอกจาก แหวนแต่งงาน ที่ผู้คนให้ความสนใจแล้วยังมีเทียร่าที่สวยงามสมพระเกียรติมากๆ สามารถอ่านต่อได้ที่ มารู้จักเทียร่าที่ ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ สวมใส่ใน พิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่

ภาพจาก : Pinterest.com , www.independent.co.uk , CNN.com

แหวนแต่งงานอัญมณีสีฟ้า.. แรงบันดาลใจจากปราสาทวินด์เซอร์

ยังคงอยู่ในควันหลงหลังพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนกันอยู่ถูกไหมคะ แพรว wedding เองก็ยังคงหลงอยู่ในปราสาทวินด์เซอร์เช่นกันค่ะ มีหลายสิ่งหลายอย่างเลยที่เราอยากหยิบยกมาพูดคุยกับสาวๆ เพื่อต่อยอดให้เกิดแรงบันดาลใจจากงานแต่งแห่งปีที่ทุกคนรอคอย และเรื่องที่วันนี้เราอยากหยิบมาเมาท์กับสาวๆคงหนีไม่พ้น แหวนแต่งงาน อความารีนสีฟ้าทรงเหลี่ยมเม็ดตู้มบนนิ้วของเมแกนในงานฉลองหลังเสร็จสิ้นพิธีการทางศาสนา แหม..ใหญ่กระแทกตาชนิดที่ว่าไม่อยากเห็นก็ต้องเห็นนั่นแหลค่ะ แหวนล้ำค่าบนเรือนนิ้วงามกับที่มาอันสุดแสนจะโรแมนติก แหวนที่เรียกทั้งรอยยิ้มและคราบน้ำตาเมื่อหวนนึกถึงเจ้าของเดิมอย่างเจ้าหญิงไดอาน่า พระมารดาที่ยังคงประทับอยู่กลางหัวใจเจ้าชายหนุ่มทั้งสองตลอดมา และเผื่อแผ่มาถึงหญิงผู้เป็นที่รักของเจ้าชายทั้งสองอีกด้วย

 

แหวนแต่งงาน

เมแกนกับแหวนอความารีนสีฟ้าจึงทำให้เราอยากรวบรวมไอเดียแหวนแต่งงานอัญมณีสีฟ้าหลากชนิดไม่ว่าจะเป็นอความารีน, แชฟไฟร์, โทพาซ, แทนซาไนท์ ฯลฯ ในหลายเฉดสี ตั้งแต่สีฟ้า ไปจนถึงสีน้ำเงิน และน้ำเงินอมม่วง มาให้สาวๆที่ยังไม่ตกลงปลงใจเรื่องแหวนได้เลือกชมเลือกลิสต์กัน เผื่อจะถูกใจจะได้ไปสะกิดบอกว่าที่เจ้าบ่าวกันค่ะ เพราะแหวนเพชรแต่งงานไม่จำเป็นต้องเป็นสีขาวเสมอไปว่าไหมคะ 😉

อความารีน (ฺAquamarine)

แหวนแต่งงาน

แชฟไฟร์ (ฺSapphire)

โทพาซ (ฺBlue Topaz)

แทนซาไนท์ (ฺBlue Tanzanite)

 

cr : newsneednews.com, praisewedding.com

 

เช็กอินทริปฮันนีมูนใน 7 ปราสาทที่เข้าพักได้ดั่งเจ้าหญิงเจ้าชายในพระราชวัง

จัด ทริปฮันนีมูน แบบรอยัลใน 7 ปราสาทที่เข้าพักได้ ไม่ต้องไปแบบทัวร์ชะโงก

ในตอนนี้กระแสรอยัล เวดดิ้งกำลังมาแรง ทำเอาสาวๆ หลายคนใฝ่ฝันอยากที่จะมีงานแต่งงานแบบคลาสสิคเรียบหรูดั่งเจ้าหญิงเจ้าชายในนิยายบ้าง แต่ด้วยงบประมาณและปัจจัยอื่นๆ ภาพในหัวอาจเป็นได้แค่ฝันหวาน… ไม่เป็นไรค่ะ ถึงบินไปจัดงานแต่งงานไกลถึงยุโรปที่ให้บรรยากาศรอยัล เวดดิ้งไม่ได้ แต่เราก็สามารถบินไปฮันนีมูนในสถานที่สุดวิเศษพวกนั้นได้เหมือนกันน้า และวันนี้นี่เอง แพรว wedding จะพาคู่รักไปเช็กอินกับสถานที่พักรูปแบบปราสาทที่อลังการงานสร้าง ราวกับได้ย้อนไปสู่ห้วงความฝันสุดแสนจะโรแมนติก จะมีที่ไหนที่คุณและคนรักจะจัด ทริปฮันนีมูน พร้อมพักค้างแรมได้นั้นต้องตามมาดูกันค่ะ

ทริปฮันนีมูน

Ballynahinch Castle Hotel

ปราสาทสุดหรูตั้งอยู่ในมณฑลกัลเวย์ ประเทศไอร์แลนด์ สถานที่อันเงียบสงบท่ามกลางป่าไม้ที่มีเทือกเขาทเวลฟ์เบนส์เป็นฉากหลังที่สมบูรณ์แบบ เหมาะกับคู่รักที่ต้องการปลีกวิเวก เพราะพวกคุณจะได้อยู่กับธรรมชาติแบบส่วนตั๊ววส่วนตัว ไร้แสงสีเสียงอย่างแน่นอน คู่รักผู้หลงใหลธรรมชาติจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งหลายชนิดที่เชื้อพระวงศ์ในต่างประเทศต่างชื่นชอบ เช่น ขี่ม้าแคระชมธรรมชาติ ยิงนกปากซ่อมดง หรือพักผ่อนด้วยการเดินเล่นริมทะเลสาบและแม่น้ำเพื่อชมสัตว์ป่าในท้องถิ่นที่หาดูได้ยากในพื้นที่ 450 เอเคอร์ของโรงแรม

ทริปฮันนีมูน

Castello Di Pavone

แต่เดิมเคยเป็นปราสาทเก่าแก่ของประเทศอิตาลี ปัจจุบันได้กลายมาเป็นโรงแรมที่เต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์ของสถานที่ในสวนเขตร้อนบวกกับ Well of the Mysteries กำแพงอิฐอันเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้ ภายในห้องพักทั้งหมดตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ดั้งเดิมผสมผสานกับสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย อีกทั้งยังมีห้องโถงสำหรับรับประทานอาหารหลายห้อง  โดยแต่ละห้องจะมีเอกลักษณ์ต่างกันไปที่จะพาคู่รักนึกถึงฉากในนิทานเจ้าหญิงเจ้าชายในวัยเด็ก ด้านนอกเป็นสวนกุหลาบสีสันสดใส ว่ากันว่าสถานที่แห่งนี้จะช่วยนำโชคเรื่องความรักมาให้กับแขกที่มาเข้าพักอีกด้วยน้า

ทริปฮันนีมูน

Fairmont Le Chateau Frontenac

ที่พักสุดคลาสสิกแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของควิเบกซิตี้ ประเทศแคนาดา ซึ่งมีวิวของแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์และป้อมปราการเก่าแก่ที่เหล่านักท่องเที่ยวมักจะมาแชะภาพเป็นที่ระลึก แม้ว่าอาคารที่พักแห่งนี้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของเมือง แต่คุณก็สามารถเข้าพักในห้องพักสุดหรูสไตล์ยุโรป รวมถึงผ่อนคลายฟื้นฟูร่างกายที่สปา หรือเพลิดเพลินกับสระว่ายน้ำในร่มที่มีการตกแต่งเข้ากับตัวของปราสาทได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

ทริปฮันนีมูน

Parador de Cardona

ปราสาทยุคศตวรรษที่ 9 ที่ดูน่าค้นหาราวกับว่าหลุดออกมาจากเทพนิยาย ที่พักแห่งนี้มีวิวมุมกว้างเหนือทิวทัศน์ชนบทของแคว้นคาตาโลเนีย ประเทศสเปน มีการตกแต่งที่สะท้อนประวัติศาสตร์ของการ์โดนาได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมยุคกลางที่เห็นได้จากเพดานทรงโค้ง ผนังหิน และลานภายในตัวปราสาทที่สวยงาม พวกคุณทั้งคู่จะได้รับการบริการประหนึ่งว่าเป็นราชาหรือราชินี นอกจากนี้ผู้เข้าพักจะได้เอร็ดอร่อยไปกับอาหารจานเด็ดสไตล์คาตาโลเนียแท้ๆ ก่อนการเข้าพักอีกด้วย

ทริปฮันนีมูน

RAAS Devigarh

ที่พักสุดคลาสสิกแห่งนี้ตั้งอยู่ในอดีตพระราชวังยุคศตวรรษที่ 18 ในหมู่บ้านเดลวารา ประเทศอินเดีย อยู่ท่ามกลางเขาอาราวัลลี จึงมีฉากหลังเป็นขุนเขาที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่คู่รักที่ไปฮันนีมูนเท่านั้นนะคะ คู่รักที่กำลังจะไปแต่งงานก็สามารถไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสวยๆ ได้เช่นกันค่ะ ทางด้านคู่รักฮันนีมูนสามารถเลือกอ่านหนังสือเงียบๆ ได้ที่ห้องสมุดที่รอบริการพวกคุณอยู่ หรือพักผ่อนในห้องสวีทกว้างขวางซึ่งตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรูและซุ้มโค้งที่แกะสลักอย่างประณีตอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้เลยค่ะ

 ทริปฮันนีมูน

Roch Castle

ปราสาทแห่งนี้มีอายุนับย้อนได้ถึงศตวรรษที่ 12 ซึ่งตั้งตระหง่านอย่างงามสง่าอยู่บนโขดหินเหนือท้องทุ่งของมณฑลเพ็มโบรคเชียร์ ประเทศอังกฤษ พวกคุณจะได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศสุดคลาสสิกอันมีเอกลักษณ์ พร้อมสัมผัสความโรแมนติกของอ่าวเซนต์ไบรด์สยามพระอาทิตย์ตกดิน และวิวตระการตาของชายฝั่งอังกฤษในแถบพื้นที่ชนบท โดยห้องพักแต่ละห้องของที่นี่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา แต่ให้บรรยากาศทันสมัยในสไตล์โมเดิร์น เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันทำให้พวกคุณไม่รู้สึกว่าอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลความเจริญสักนิดเลยค่ะ

ทริปฮันนีมูน

The Castle Hotel, a Luxury Collection Hotel

บรรยากาศสไตล์บาวาเรียอันโดดเด่นของ The Castle Hotel อาจทำให้พวกคุณคิดว่ากำลังอยู่ท่ามกลางขุนเขาในเขตป่าดำของเยอรมนี แต่จริง ๆ แล้วคุณกลับอยู่ห่างจากจัตุรัสซิงไห่ ซึ่งเป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก แถมเป็นประเทศในเอเชียเพื่อนบ้านเราอย่างประเทศจีน ที่ใช้เวลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงที่หมายแล้วค่ะ ที่สำคัญโรงแรมแห่งนี้ให้บริการที่พักระดับไฮเอนด์ พร้อมด้วยบริการชั้นเลิศสำหรับผู้เข้าพักทุกคน ยิ่งไปกว่านั้น ที่พักสุดหรูแห่งนี้ยังรายล้อมด้วยป่าเขียวขจี อีกทั้งยังมีห้องพักซึ่งตกแต่งอย่างหรูหรา ตลอดจนบริการทรีทเมนท์เหนือระดับที่สปาและสระว่ายน้ำในร่ม รับรองทริปฮันนีมูนนี้คุณทั้งคู่ต้องฟินแน่ๆ อิอิ

และนอกจากกระแสรอยัล เวดดิ้งที่กำลังมาแรงในตอนนี้ กระแสการท่องเที่ยวก็บูมไม่แพ้กันเลยค่ะ ล่าสุด Travelers’ Choice Awards 2018 ก็ได้ประกาศรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่เหล่านักเดินทางต่างพากันเทคะแนนให้ ว่าแต่จะมีสถานที่ไหนบ้างตามมาดูกันได้ใน ฮันนีมูนตามรอยทริปเที่ยวสุดฮิต การันตีโดย Travelers’ Choice Awards 2018

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : booking.com

เครื่องดื่มในงานแต่ง เตรียมเองง่ายๆ แบบไม่ต้องง้อบาร์เทนเดอร์

หากพูดถึง เครื่องดื่มในงานแต่งงาน ก็สำคัญไม่น้อยไปกว่า
เรื่องอื่นๆ เลยนะ เพราะมันคือสิ่งที่ช่วยเพิ่มสีสันในงานแต่งนั่นเอง

บ่าวสาวหลายคนให้ความสำคัญกับ เครื่องดื่มในงานแต่งงาน มากๆ ถึงกับจ้างบาร์เทนเดอร์มาช่วยให้ทุกอย่างออกมาเพอร์เฟกต์ แต่เราบอกเลยว่า มีวิธีง่ายกว่านั้น แบบไม่ต้องง้อบาร์เทนเดอร์เลยทีเดียว แถมประหยัดงบในงานแต่งงานลงไปได้อีกเยอะเลยล่ะ

เพราะปัจจุบัน มีเครื่องดื่มสำเร็จรูปหลายประเภทที่สามารถนำมาเสิร์ฟเป็นเครื่องดื่มในงานแต่งงานได้ เพียงแค่เดินเข้าห้างสรรพสินค้าก็ได้แล้ว ด้วยรสชาติที่ปรุงแต่งมาอย่างดี สามารถดื่มได้เลย ไม่ต้องเสียเวลามาผสมให้เสียเวลา หรือถ้าหากอยากได้วิธีมิกซ์ค็อกเทลง่ายๆ ก็เพียงแค่เปิดสูตรจากอินเทอร์เน็ตเท่านั้นเองค่ะ

1. Sparkling Wine

เป็นไวน์ที่มีฟองคล้ายกับเบียร์ ดื่มแล้วจะรู้สึกสดชื่น ฟองข้างในเกิดจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์ที่ทำการหมักเอาไว้ นิยมนำมาเสิร์ฟก่อนอาหาร เพื่อที่ดื่มเข้าไปแล้วจะช่วยเรียกน้ำย่อยนั่นเอง และสปาร์คกิ้งไวน์ก็มีหลายรสชาติหลายกลิ่นให้เลือกดื่ม นับเป็นไอเดียดีๆ ที่สามารถนำมาเสิร์ฟได้เลยไม่ยุ่งยาก และหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปค่ะ

เครื่องดื่มในงานแต่ง

2. เครื่องดื่ม RTD

ย่อมาจาก Ready to Drink แปลตรงๆ ตัวก็คือเครื่องดื่มที่สามารถดื่มได้เลย เป็นเครื่องดื่มประเภทค็อกเทล สามารถหาได้ง่ายมาก ตามร้านสะดวกซื้อก็มีจำหน่าย และเครื่องดื่ม RTD ในประเทศไทยมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 5% เท่านั้น และมักจะผสมกับน้ำหวานหรือน้ำผลไม้ ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายไทยที่ระบุไว้ เครื่องดื่มนี้จึงดื่มง่าย มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่น้อย และมีสีสันสวยงาม รสชาติอร่อย เหมาะอย่างมากหากนำมาเป็นเครื่องดื่มในงานแต่งค่ะ จะรินใส่แก้วสวยๆ หรือเสิร์ฟทั้งขวดเลยก็ได้นะจ๊ะ

 

3. Wine

ไวน์นับเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่สามารถนำมาเป็นเครื่องดื่มในงานแต่งงานได้ ซึ่งไวน์ผลิตมาจากการหมักขององุ่นสายพันธุ์ต่างๆ ทำให้มีรสชาติที่แตกต่างกัน และมีตั้งแต่ราคาหลักร้อยจนถึงหลักพัน บ่าวสาวควรศึกษาก่อนว่าอยากจะเสิร์ฟไวน์ประเภทไหน จะเสิร์ฟพร้อมอาหาร หรือเสิร์ฟก่อนอาหาร เพราะไวน์แต่ล่ะชนิดมีวิธีการเสิร์ฟที่แตกต่างกันนะจ๊ะ และหากเลือกที่จะเสิร์ฟไวน์จริงๆ งานนี้ว่าที่บ่าวสาวอาจจะต้องเตรียมงบไว้ประมาณหนึ่งเลย

 

4. จูไฮ

เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ไม่อยากจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (จริงๆ ผู้ชายก็ดื่มได้นะ) เป็นเครื่องดื่มกระป๋องที่ประเทศญี่ปุ่นนิยมมาก โดยเป็นเครื่องดื่มที่ทำมาจากโซจูผสมกับโซดา และน้ำผลไม้ชนิดต่างๆ ทำให้ดื่มง่าย และมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ไม่สูงมากนัก แต่ก่อนหาซื้อได้แค่ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ตอนนี้ประเทศไทยนำเข้ามาแล้วนะจ๊ะ ลองไปเดินๆ ดูตามห้างสรรพสินค้าก็ได้

เครื่องดื่มในงานแต่ง

5. เครื่องดื่มม็อคเทล

เครื่องดื่มในงานแต่งไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้นนะ อย่างเช่น เครื่องดื่มม็อคเทล ที่เป็นประเภทน้ำผลไม้ที่ไม่ใส่แอลกอฮอล์ เพื่อที่แขกในงานบางคนเขาที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์จะได้มีเครื่องดื่มรสชาติดีไว้ดื่มด้วย ซึ่งเครื่องดื่มม็อคเทลทำได้ง่ายมาก เพียงแค่นำน้ำผลไม้มาผสมกันให้รสชาติอร่อย หรือถ้าไม่อยากทำ ในห้างสรรพสินค้าก็มีม็อคเทลเป็นขวดๆ ขายแล้วนะจ๊ะ เรียกได้ว่าสะดวกสบายสุดๆ ไปเลยล่ะ

เครื่องดื่มในงานแต่ง

และนี่คือเครื่องดื่มในงานแต่งที่เราคัดมาให้แล้ว บอกเลยว่าสะดวกสบาย ไม่ต้องจ้างบาร์เทนเดอร์เลยทีเดียว นอกจากนี้เราลองมาดู  เครื่องดื่มในงานแต่ง ครีเอทใหม่ได้ให้เป็นซิกเนเจอร์เฉพาะงานแต่งของเรา

ภาพจาก : Pinterest.com

หอมกลิ่นวันวาน กับสถานที่แต่งงานรีโนเวทจากบ้านโบราณรอบกรุง

หากคุณกำลังมองหา สถานที่แต่งงาน ที่มีบรรยากาศสุดคลาสสิคอยู่ คุณมาถูกที่แล้วค่ะ แพรว wedding บทความนี้จมาแนะนำอาคารสถาปัตกรรมสไตล์โคโลเนียลอายุกว่า 100 ปี 4 หลังจากทั่วกรุง ที่ทรงคุณค่าทั้งทางด้านสถาปัตยกรรมและประวัติศาสต์ร และปัจจุบันได้รับการปรับปรุงใหม่ และเปิดให้เข้าชมและจัดงานอีเว้นต์ต่างๆ รวมถึงงานแต่งงานอีกด้วย ว่าแต่มีที่ไหนกันบ้างนั้น ไปชมกันค่ะ

 

Baannai the Reminisence

บ้านใน บูทีคโฮเทลสไตล์โคโลเนียลในย่านสามเสน ซึ่งนอกจากจะมีโรงแรมที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์แล้ว มีร้านอาหารไทยสวย ๆ ให้ได้ไปนั่งทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศแบบเก่า ๆ กันอีกด้วย ใครที่ก้าวเข้ามาในโรงแรมแห่งนี้คงรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคไปในสมัยรัชกาลที่ 6 เพราะองค์ประกอบต่าง ๆ ของบ้านนั้นดูสวยงามและมีเสน่ห์ ที่นี่ยังคงเก็บรักษาและใช้ไม้เดิมบางส่วน และมีการแกะไม้เป็นลายดอกไม้ตามที่ต่าง ๆ ส่วนพวกเฟอร์นิเจอร์ในล็อบบี้และร้านอาหารก็มีความสวยงามเข้ากับสไตล์ย้อนยุค ทั้งเก้าอี้หวาย โซฟาผ้าไทยจาก Jim Thompson

นอกจากนี้ที่นี่ยังสามารถจัดงานเลี้ยงรับรอง และะงานแต่งงานขนาดอบอุ่นได้อีกด้วย เหมาะมากสำหรับใครที่มองหาสถานที่ฟีลแบบนี้

สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2619-8783

The House on Sathornสถานที่แต่งงาน

หลายคนน่าจะคุ้นตากับอาคารสไตล์โคโลเนียลสีเหลืองสุดคลาสสิคบนถนนสาทรเหนือในบริเวณโรงแรม W Bangkok ในอดีตคฤหาสน์หลังนี้คือบ้านของหลวงสาทรราชายุกต์ คหบดีในสมัยรัชกาลที่่ 4 ในขณะที่ปัจจุบันที่ได้รับการบูรณะภายใต้การดูแลของกรมศิลปากร และเปิดให้บริการเป็นร้านอาหารและบาร์สุดหรูในชื่อว่า The House on Sathorn  

The House on Sathorn เป็นสถานที่อีกหนึ่งแห่งที่เหมาะกับการจัดงานแต่งงานสุดพิเศษ เพราะด้วยความที่ทั้งอาคารมีห้องรับรองหลายส่วน และยังมีสวนด้านนอกที่เหมาะกับการชมธรรมชาติและจิบน้ำชาเป็นอย่างดี ส่วนการเดือนทางก็ง่ายเพราะสามารถขับรถมาได้ หรืออยากจะนั่งรถไฟฟ้ามาก็สะดวกเช่นกัน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-2344-4000

บ้านเลขที่ 1สถานที่แต่งงาน

บ้านเลขที่ 1 เป็นอาคารสองชั้นเก่าแก่ของย่านสี่พระยา ก่อสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ด้วยสถาปัตยกรรมยูโรเปียนนีโอคลาสสิค ล้อมรอบด้วยลานกว้างและสวนหย่อม เหมาะสำหรับการจัดงานทั้งภายในและภายนอกตัวอาคาร นอกจากนั้นบ้านเลขที่ 1 ยังมีส่วนที่จอดรถขนาดใหญ่คอยให้บริการอีกด้วย

สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2651-4849

บ้านปาร์คนายเลิศสถานที่แต่งงาน

เรือนไม้สักหลังใหญ่ใจกลางเมืองที่มีอายุกว่า 100 ปีของพระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) นักธุรกิจชื่อดังที่มีชีวิตในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และ 7 โดยแต่เดิมบ้านนายเลิศเป็นเพียงบ้านตากอากาศ แต่ภายหลังนายเลิศและครอบครัวได้ย้ายมาพักอาศัยเป็นการถาวร

ปัจจุบันทายาทได้ปรับปรุงบ้านหลังนี้ใหม่และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม ในขณะที่ให้เช้าเป็นสถานที่จัดงานสุดพิเศษสำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่สวยๆ พร้อมบรรยากาศดีๆ ท่ามกลางต้นไม้และสวน แถมยังเดินทางง่ายเพราะตั้งอยู่ใจกลางเมืองอีกด้วย

สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2253-0123

 

cr : timeout.com, bkkmenu.com

9 ชุดแต่งงานไทยคนดัง ที่ผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังสวยงามและน่าใส่ตามเสมอ

ชุดแต่งงานคนดัง ที่ไม่เคยเอ้าท์ และเข้ากับยุคสมัยเสมอ

ก่อนหน้านี้ WE เคยได้รับเกียรติจากเหล่าเจ้าสาวคนดังในความกรุณาให้นำชุดไทยที่ใช้ในวันสำคัญมาให้ได้ชมกันและนำเสนอกับเจ้าสาว ซึ่งพอเราเปลี่ยนชื่อมาเป็น แพรว wedding เราก็เห็นว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าและความงามที่เราน่าจะนำกลับมาให้ว่าที่เจ้าสาวได้นำไปเป็นแรงบันดาลใจให้กับชุดแต่งงานไทยของตัวเองอีกครั้ง เผื่อว่าที่คนต่อไปจะเกิดปิ๊งไอเดียหยิบมาเป็นต้นแบบสักชุด รับรองไม่มีใครว่า แถมยังจะปลื้มเสียอีกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำของคุณ ว่าแล้วก็ไปชม ชุดแต่งงานไทยคนดัง สวยๆ ที่เราตั้งใจนำมาเสนอกันเลย

1. ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล

“ดูแบบชุดหมั้นมาจากรูปเก่าหลายๆแบบค่ะ สมัยก่อนแค่รูปแบบของแขนเสื้อก็มีมากมาย เลยลองให้ดีไซเนอร์จาก Vatit Itthi ช่วยทำโครงเสื้อจากผ้าดิบหลายๆ แบบมาให้ลองว่าอันไหนที่ใส่แล้วชอบ สวยและคล่องตัวมากที่สุด เพราะวันงานต้องทำหลายอย่าง โดยตลอดเวลาระหว่างทำชุด คุณแม่ (หม่อมกมลา ยุคล) ก็จะช่วยดูแลตลอดไม่ว่าจะเลือกลูกไม้ว่าเป็นแบบไหน หรือควรใส่สีอะไร

“ส่วนที่เลือกให้ Vatit Itthi เป็นคนทำชุดให้ เพราะเคยดูผลงานของเขาที่ Elle Fashion Week แล้วชอบค่ะ พอได้คุยกันก็รู้สึกว่าเขาเข้าใจว่าแมงมุมชอบไม่ชอบอะไรเราอยากได้ชุดที่เป็นตัวเองแต่ยังคงความเป็นไทยไว้ ซึ่งพอได้เห็นชุดที่ตัดสำเร็จในเช้าวันหมั้นก็ยิ่งชอบค่ะ”

2. หม่อมไฉไล ยุคล ณ อยุธยา

“ชุดราตรียาวจากผ้าเลื่อมชุดนี้อายุ 40 กว่าปีแล้ว ผ้าที่ใช้ตัดเย็บ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคลทรงซื้อมาให้ ด้วยความที่ท่านทรงชอบออกแบบเสื้อผ้าอยู่แล้วสำหรับผืนนี้รับสั่งว่าให้ตัดเป็นชุด แต่อย่าตัดเป็นชิ้น จะออกแบบยังไงก็ได้ แต่ในอนาคตผ้าผืนนี้จะต้องสามารถนำไปใช้อย่างอื่นได้อีกวันที่สวมเป็นครั้งแรกคือวันสำคัญของเรา แต่ต้องขอบอกว่าหม่อมไม่ได้จัดงานแต่งงานเหมือนลูกสาว (ท่านหญิงภานุมา พิพิธโภคา)เราจัดงานในครอบครัว เป็นการเลี้ยงภายในตอนนั้นหม่อมอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น จึงยังไม่ได้คิดถึงคุณค่าของผ้าเท่าวันนี้ ตอนนั้นมองว่าผ้าปักเลื่อมผืนนี้ทันสมัยจัง แต่พอผ่านมาถึงวันนี้ที่ลูกสาวแต่งงานแล้วเขานำไปใส่ก็ยิ่งเห็นถึงคุณค่าที่มากทวีคูณขึ้นจริงๆ

“ส่วนอีกชุดเป็นผ้าลูกไม้สมัยใหม่ที่เราแม่ลูกช่วยกันออกแบบ แล้วหาลูกมือมาตัดเย็บจากนั้นเลือกสไบที่มีอยู่แล้ว เป็นผ้าทอเก่าแก่มาห่มแล้วติดเข็มกลัด ซึ่งเป็นเครื่องประดับที่เราเก็บสะสม แล้วบางส่วนก็ขายอยู่ที่ร้านไฉไลพอเอามาผสมผสานก็ออกมาดูดี”

3. ม.ร.ว.เขมาสินี ยุคล

“ชุดนี้ทางบ้านช่วยกันออกแบบและออกไปหาซื้อผ้ากันเองจากจังหวัดลำพูนตอนแรกตั้งใจจะใช้อีกผืน แต่พอเอาไปให้ช่างตัด เขาก็ตีกลับมาบอกว่าผ้าผืนนั้นทอลายผิด คือปกติต้องทอแนวตั้ง ผืนนั้นทอแนวนอน แต่ยังโชคดีที่ซื้อสีชมพูมาอีกผืนก็เลยเปลี่ยนทัน

ส่วนสไบเป็นลูกไม้สีทองแบบเรียบง่ายที่ไปเลือกซื้อเองที่ร้านลูกไม้ธรรมดาๆแต่เข้ากันดี ในวันพิธีหมั้นท่านหญิงศรีสว่างวงศ์ บุญจิตราดุลย์ กรุณาให้เครื่องทองโบราณจากศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย มาทั้งเซตชุดก็เลยสวยสมบูรณ์”

4. เกรซ มหาดำรงกุล

“ตอนแรกอยากจะใส่ชุดไทยแต่งงานอยู่แล้ว แต่ความคิดก็หลุดไป เพราะกลัวว่าชุดไทยจะใส่ยาก คือนึกไปถึงตอนที่ถ่ายหนังแล้วต้องใช้คนแต่งตัวให้เราคนเดียว 4 – 5 คน เลยกะว่าจะใส่ชุดลำลองตัดเย็บจากลูกไม้ธรรมดาแต่พอพี่ฟูกช่างแต่งงานรู้เข้า ก็เลยแนะนำว่าใส่ชุดไทยเถอะ เพราะเป็นงานพิธีไทยด้วยและแนะนำให้ไปที่ร้าน Arada

พอเจอคุณตุ้มเจ้าของร้านเขาก็ให้ดูแบบ ถึงได้รู้ว่าจริงๆ เดี๋ยวนี้ชุดไทยสำเร็จใส่ไม่ยาก แค่รูดซิปก็เสร็จแล้ว จึงตัดสินใจดูแบบเลือกผ้าแล้วตัด จบคือมันง่ายมากเลย เสร็จในตัว พอใส่แล้วก็รู้สึกดี อาจเพราะคุ้นเคยการเดินเหินในชุดสไตล์นี้อยู่แล้ว และชุดก็ไม่ได้แก้เยอะด้วย”

5. คัทลียา กระจ่างเนตร์

“ชุดนี้พี่ป้อม – ธีระพันธ์ วรรณรัตน์เป็นคนออกแบบให้ พอเห็นชุดครั้งแรกก็ถูกใจเลย เพราะสวยมาก ไม่ได้เรียบหรือเยอะเกินไป แถมพี่ป้อมยังเป็นคนเลือกสีชุดให้เองด้วยพี่ป้อมไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยค่ะ ยิ่งพอสวมใส่เข้าไป ยิ่งรู้สึกถึงความเป็นผู้หญิงไทยโบราณคือเป็นผู้ยิ้งผู้หญิง ผู้หญิงมากๆ ชอบค่ะดูเรียบร้อย เรียบง่าย เก๋ดูดีมีสไตล์ เหมาะกับพิธีรดน้ำสังข์และพิธีไทยจริงๆ”

6. จริยดี สเปนเซอร์

“เปิ้ลได้ยินชื่อเสียงของพี่เจี๊ยบ – พิจิตราบุณยรัตพันธุ์ ในเรื่องการตัดเย็บชุดไทยมานานแล้ว เปิ้ลบอกพี่เจี๊ยบว่าอยากได้ชุดไทยบรมพิมาน เรียบโก้ พี่เจี๊ยบก็ออกแบบได้อย่างใจ ไม่มากไม่น้อยไป

“เราสองคนอยากแต่งงานแบบไทยอยู่แล้ว แต่เราต้องทำพิธีสวมแหวน ซึ่งเป็นการแลกแหวนทองแต่งงานแบบฝรั่ง ก็เลยตัดสินใจแลกแหวนในพิธีหมั้น ปรากฏว่าตอนแลกแหวนตื่นเต้นมากจนใส่แหวนผิดข้าง ทำให้ต้องสวมใหม่ โชคดีที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่ถือ เลยกลายเป็นเรื่องคลายเครียดไปหลังจากแต่งงานเราทั้งสองก็ใส่แหวนแต่งงานไว้ตลอดเวลา”

7. นาเดีย โสณกุล

“คุณแม่สามียกผ้าไหมไทยทอยกทองสีกลีบบัวผืนนี้ให้ทั้งม้วน ซึ่งเป็นม้วนที่ชนะการประมูลมาด้วย ท่านชอบและยกให้ใช้ในวันแต่งงาน และยังได้ใช้ช่างตัดชุดของท่านมาตัดเย็บให้เดียอีกด้วย ก็พอดีกับความใฝ่ฝันของเราว่าอยากใส่ชุดไทยในวันแต่งงาน เพราะเดียเชื่อว่าไม่มีชาติไหนใส่ชุดไทยได้สวยเท่าคนไทยอีกแล้ว

อีกอย่างเดียเป็นคนชอบผ้าดีๆวัสดุดีๆ พอใส่ไปก็ลูบไปด้วย บางทีก็นั่งดูลายไปทะนุถนอมไป คือรู้สึกว่ามันพิเศษและสวยจริงๆเป็นน้ำพักน้ำแรงคนที่ทำออกมาได้สวยขนาดนี้เราเหมือนนางในวรรณคดี เหมือนได้ย้อนยุคเลย”

8. สุวนันท์ คงยิ่ง

“ด้วยความที่พี่บรู๊คกับกบชอบงานพิธีแบบไทยอยู่แล้ว พอจัดพิธีแต่งงาน ชุดไทยก็เลยเหมาะสมที่สุด กบเลือกสีชมพู – ขาวซึ่งเป็นสีที่ชอบมาให้พี่ตุ้มจากร้าน Arada ช่วยออกแบบให้ ซึ่งพี่ตุ้มก็ออกแบบเป็นชุดไทยประยุกต์ให้เสื้อกับสไบด้านบนเข้ากับผ้านุ่งโบราณสีแดงชมพู แล้วยิ่งได้รับเครื่องประดับทองจากคุณแม่พี่บรู๊คมาใส่ด้วยกันชุดนี้ยิ่งสมบูรณ์แบบ

ตอนที่ใส่รู้สึกว่าสวยสง่าเป็นความรู้สึกคนละแบบกับตอนใส่ชุดไทยเล่นละคร เพราะด้วยบรรยากาศและองค์ประกอบของงาน ทำให้วันนั้นเป็นวันที่พิเศษสุดของกบจริงๆ”

9. อ.วีรธรรม ตระกูลเงินไทย

“ชุดนี้ได้แบบมาจากชุดไทยโบราณที่สตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ในสมัยก่อนแต่งอย่างเต็มยศที่เรียกว่านุ่งยกห่มตาด คือท่อนล่างจะนุ่งผ้ายกทองลายพุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแย่งสีแดงแบบจีบหน้า ท่อนบนจะห่มสไบด้านใน จากนั้นจะมีสะพักที่ทำด้วยผ้าตาดทองแท้ เครื่องประดับที่เข้ากับชุดคือสังวาลเข็มขัดพร้อมหัวเข็มขัดแบบโบราณที่เรียกว่าปั้นเหน่งหรือเป็นทับทรวงขนาดใหญ่ นอกจากนี้ก็เป็นเครื่องประดับแขนต่างๆ

“เจ้าสาวหลายๆ คนที่เคยได้ใส่ชุดไทยแบบนี้พร้อมเครื่องประดับครบหมดจะรู้สึกภูมิใจเหมือนได้ย้อนกลับไปในสมัยก่อนที่มีการแต่งกายสวยงามและใส่ใจรายละเอียดของการแต่งตัว ซึ่งจะคนละอารมณ์กับเสื้อผ้าสมัยนี้ที่ทำขึ้นมาให้สวมใส่ง่าย แม้ว่าชุดนี้จะใส่ยาก กว่าจะเสร็จเป็นชั่วโมงๆ แต่ความยากนั้นก็ทำให้ได้รู้สึกถึงความพิถีพิถันของคนสมัยก่อน”

ขอขอบคุณ :

  • เครื่องประดับจาก ร้านไฉไลสยามพารากอน โทร. 0-2610-9498
  • คุณกุณฑล ฉัตรพิทักษ์โชคช่างแต่งหน้าของคุณกบที่ช่วยอำนวยความสะดวก

DIY ของชำร่วยงานแต่ง ง่ายๆ ด้วยตัวเอง กับเกลือสมุนไพรขัดผิว

พอพูดถึง ของชำร่วยงานแต่ง แล้ว บ่าวสาวหลายคนอาจจะกำลังกังวลอยู่ เพราะต้องหาให้ได้หลายๆ ชิ้น แล้วบางอย่างก็มีราคาสูงมากจนสู้ไม่ไหว

แต่ถ้าอยากได้ ของชำร่วยงานแต่ง ที่ดีๆ น่ารักกุ๊กกิ๊ก เพื่อนำมาเป็นของขอบคุณแขกในงาน วันนี้แพรว wedding จะขอนำไอเดีย DIY ของชำร่วยงานแต่งที่ทำเองได้ง่ายๆ แถมประโยชน์เพียบ นั่นก็คือ “เกลือสมุนไพร” ขัดผิวนั่นเองค่ะ

ของชำร่วยงานแต่ง

เกลือขัดผิว หรือเกลือสปา บอกเลยว่าทำได้ง่ายๆ แต่สรรพคุณเพียบ!!! เพราะว่าเกลือมีส่วนช่วยบำรุงผิวเยอะมาก ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แถมตัวเกลือเองก็สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ไว และยังช่วยเผยความกระจ่างใสให้กับผิวอีกด้วย และถ้าเรานำสมุนไพรผสมลงไป ซึ่งแน่นอนว่าสมุนไพรต่าง ก็ล้วนมีสรรพคุณในตัวเองอยู่แล้ว ก็จะยิ่งช่วยบำรุงผิวพรรณเราเข้าไปอีกแบบคูณ ดังนั้นนี่จึงเป็นไอเดียของชำร่วยงานแต่งที่ดีเริดเก๋กู๊ดมากๆ เลยล่ะ

ของชำร่วยงานแต่ง

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูวิธีการทำ “เกลือสมุนไพรขัดผิว” เพื่อเป็นของชำร่วยงานแต่งแบบง่ายๆ กันดีกว่า เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม แล้วลงมือทำเลย

อุปกรณ์

  1. ดอกเกลือ (หาซื้อจากนาเกลือ)
  2. สมุนไพรผง เช่น ขมิ้น ไพล
  3. น้ำมันมะกอก แบบไม่มีกลิ่น
  4. น้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบ
  5. ถ้วยใบใหญ่สำหรับใช้ผสมเกลือ
  6. สีผสมอาหาร
  7. ที่คนเกลือ (ใช้เป็นไม่พาย หรือช้อนได้)
  8. ที่ร่อนแป้ง

ของชำร่วยงานแต่ง

วิธีการทำ

  1. นำดอกเกลือที่ได้ มาร่อนในที่ร่อนแป้งไม่ต้องละเอียดมาก แต่แค่ให้ขนาดของเกล็ดเล็กลง
  2. นำดอกเกลือที่ร่อนเสร็จแล้ว ไปใส่ในชามใบใหญ่ หยดสีผสมอาหารลงไปให้ทั่ว พอให้สีผสมเข้ากับเนื้อของเกลือ
  3. จากนั้นนำผงสมุนไพรที่เตรียมไว้มาผสม โดยเลือกผสมให้ได้ 1/4 ของจำนวนเกลือ
  4. เทน้ำมันมะกอกลงไป อย่าเยอะมาก แค่พอให้เกลือเริ่มจับกันเป็นก้อนหยาบๆ ถ้าเทเยอะเกลือจะเหลว นำมาขัดผิวไม่ได้นะจ๊ะ
  5. จากนั้นนำน้ำมันหอมระเหยหยดลงไป แค่พอให้มีกลิ่น หรือถ้าชอบกลิ่นหอๆ ก็สามารถใส่ลงไปได้ตามที่เราต้องการค่ะ

และสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการอยากจะทำใช้เอง ยังไม่อยากทำเป็นของชำร่วยงานแต่งก็ได้นะ เพื่อที่จะใช้เตรียมตัวเป็นเจ้าสาว อาจจะลองนำนมวัวมาผสม หรือโยเกิร์ตก็ได้ จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็น 1 คืน เท่านี้ก็สามารถนำมาใช้ได้แล้วค่ะ แล้วบอกเลยว่าสรรพคุณก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นตาม เพราะนมและโยเกิร์ตช่วยทำให้ผิวนุ่มเนียนขึ้น แต่ถ้านำมาผสมเพื่อเป็น ของชำร่วยงานแต่งเกรงว่าจะไม่ดี เพราะจะหมดอายุไวและต้องแช่เย็นตลอดนั่นเอง

ของชำร่วยงานแต่ง

เมื่อได้เกลือสมุนไพรขัดผิวออกมาแล้ว ก็ต้องหาแพ็กเกตน่ารักๆ สวยๆ มาใส่เนอะ จะลองดูเป็นตลับแก้วก็ได้ เพื่อที่จะให้เห็นความสวยงามของเกลือในตลับ

เอาเป็นว่าลองนำไปทำดูนะจ๊ะ อุปกรณ์ก็หาง่าย ราคาไม่แพง แถมยังสามารถแพ็คใส่แพ็คเกจจิ้งสวยๆ ได้อีกต่างหาก อ่อ ขอเสริมอีกนิดว่า เกลือขัดผิวนั้นสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวหนัง ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวสุขภาพดีไม่แห้งกร้าน และที่สำคัญช่วยรักษาอาการปวดตามข้อต่อร่างกายได้ด้วยน้า เกลือสมุนไพรขัดผิว จึงเป็นอีกหนึ่งไอเดียของชำร่วยที่เราอยากให้ว่าที่บ่าวสาวเก็บไว้พิจารณานะจ๊ะ

ไหนๆ ก็ทำเกลือสมุนไพรขัดผิวเป็นแล้ว ลองมาทำ น้ำมันหอมระเหยกลิ่นกุหลาบ ของชำร่วยงานแต่ง DIY ทำเองได้ง่ายนิดเดียว กันดูนะ

ของชำร่วยงานแต่ง

ภาพจาก : Pinterest.com

รวมสเปรย์กันแดดกันน้ำสุดปัง ที่ว่าที่เจ้าสาวควรมีติดกระเป๋าไว้

สเปรย์กันแดด กันน้ำ ตัวช่วยชั้นดีเป็นเกราะป้องกันผิวได้ทันทีที่ต้องการ

ว่าที่เจ้าสาวที่ต้องเผชิญกับแสงแดดอยู่ทุกวี่ทุกวัน แถมยังต้องดูแลผิวให้ดีเพื่อรับวันสำคัญอีก แน่นอนว่าครีมกันแดดมักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่จะนึกถึงเสมอ แต่บางครั้งหากต้องออกไปข้างนอก ครั้นจะพกครีมเป็นหลอดก็อาจจะไม่สะดวกในการทาถูๆ เราเลยอยากแนะนำไอเท็มอน่าง สเปรย์กันแดด ที่ใช้ง่าย พกพาสะดวก และซึมเข้าผิวได้ไวอีกด้วย

สงสัยกันใช่ไหมคะว่าสเปรย์กันแดด กับครีมกันแดด แตกต่างกันอย่างไร จริงๆ แล้วแตกต่างกันที่การใช้งานค่ะ ครีมกันแดด คือครีมมีหน้าที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวว่าที่เจ้าสาว คนไหนที่มีผิวแห้งเราขอแนะนำให้ใช้แบบครีมค่ะ แต่ถ้ารู้สึกว่าครีมมันเหนียวเหนอะหนะ เราขอให้คุณเปลี่ยนมาใช้เป็นสเปรย์กันแดดแทน เพราะสเปรย์จะมีเท็กซ์เจอร์ที่เป็นละอองสามารถซึมซับเข้าสู่ผิวได้ไว เพียงแค่ฉีดและเกลี่ยให้ทั่วผิว แต่ไม่สามารถฉีดพ่นที่หน้าได้นะจ๊ะ เพราะละอองสเปรย์อาจเข้าตาเอาได้ เราขอแนะนำให้ฉีดลงมือก่อนแล้วค่อยนำไปทาที่ผิวหน้าจะดีกว่า

เมื่อรู้ถึงประโยชน์ และความสะดวกสบายของสเปรย์กันแดดแล้ว เรามีแบรนด์สเปรย์กันแดดที่คัดมาให้ว่าที่เจ้าสาว แล้วว่าใช้แล้วดีแน่นอน และสามารถพกติดตัวไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย จะมีแบรนด์ไหนบ้าง มาดูกัน

1. L’Oréal Paris UV Perfect Aqua Essence City Face Mist SPF50+/PA++++

ตัวนี้ช่วยกันแดดได้ดีสุดๆ เนื้อสเปรย์มีความเบาบางเวลาฉีดแล้วไม่หนักผิว แต่จะออกมันนิดๆ ถ้าว่าที่เจ้าสาวคนไหน ผิวมันก็ไม่ค่อยอยากจะแนะนำเท่าไหร่ เพราะเวลาฉีดแล้วผิวจะฉ่ำๆ นิดนึง แต่ถ้าใครอยากได้สเปรย์กันแดดที่ช่วยทำให้ผิวฉ่ำน้ำล่ะก็ ตัวนี้คือทางเลือกที่ดีเลยค่ะ และที่สำคัญสามารถฉีดทับบนผิวหน้าเวลาแต่งหน้าได้ด้วยนะจ๊ะ บอกเลยว่าขวดเดียวอยู่

ว่าที่เจ้าสาว

2. Banana Boat UltraMist Clear Sunscreen Spray SPF50 PA+++

สำหรับ Banana Boat น่าจะเป็นยี่ห้อในใจสาวๆ หลายคน เพราะมีส่วนผสมจากวิตามินอี สารสกัดจากพืช และว่านหางจระเข้ ซึ่งว่านหางจระเข้ขึ้นชื่อในด้านการดูแลผิวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะช่วยสะท้อนรังสี UV ออกจากผิว และช่วยลดรอยดำบนผิวอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีคอลลาเจนที่ช่วยคืนความชุ่มชื่นให้กับผิวด้วยนะจ๊ะ และที่สำคัญ สเปรย์ตัวนี้กันน้ำกันเหงื่อได้ไปอีก ว่าที่เจ้าสาวที่กำลังจะไปเล่นน้ำทะเล หรืออยากใช้สเปรย์เวลาฝนตก เราขอแนะนำตัวนี้เลยค่ะ เพราะเหมาะกับตอนนี้สุดๆ !!!

ว่าที่เจ้าสาว

3. KA UV Extreme Protection Spray SPF50+ PA+++

สเปรย์กันแดดจาก KA มีเนื้อสเปรย์ที่บางเบาสุดๆ ซึมซับเข้าผิวได้ไว ราคาไม่แรงมาก สเปรย์ตัวนี้มีคุณสมับติกันน้ำ กันเหงื่อด้วยนะจ๊ะ เรียกได้ว่ามีขนาดกะทัดรัด ราคาเบาๆ และเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี EX-Solar TM Protection ที่ช่วยบำรุงผิว และไม่ทิ้งความมันความเหนียวไว้ที่ผิวอีกด้วย

ว่าที่เจ้าสาว

4. Eucerin Transparent Sun Spray Dry Touch SPF50

Eucerin เป็นแบรนด์จากเยอรมัน เหมาะสำหรับว่าที่เจ้าสาวที่มีผิวแพ้ง่าย ซึ่งผ่านการทดลองมาแล้วว่าใครก็ตามที่มีผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองต่อครีม หรือเครื่องสำอางต่างๆ สามารถใช้ได้แบบไร้กังวล แถมสามารถฉีดทับบนผิวที่มีสิวได้ด้วยนะ ตัวสเปรย์จะไม่ไปเพิ่มจำนวนสิวแน่นอน อีกทั้งตัวสเปรย์ยังมีเทคโนโลยี แอโรซอล คือมีละอองละเอียด ซึมซับสู่ผิวได้ไว ทำให้รู้สึกแห้งและสบายผิวหลังจากใช้ ที่สำคัญเป็นสเปรย์กันน้ำนะจ๊ะ

ว่าที่เจ้าสาว

5. Sunplay Watery Cool Body Mist SPF50+PA+++

พิเศษสุดๆ เพราะสเปรย์ตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษคือ “เย็น” นั่นเอง ว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่กำลังจะไปรับลมร้อน แต่ก็อยากได้ฟีลลิ่งเย็นๆ ที่ผิว ขอแนะนำสเปรย์ตัวนี้เลยนะจ๊ะ สำหรับ Sunplay จะมีความมันนิดๆ เหมาะสำหรับว่าที่เจ้าสาวที่ผิวแห้ง จะช่วยทำให้ผิวชุ่มน้ำมากขึ้น เพราะเวลาฉีดลงบนผิวแล้วจะให้ความรู้สึกเหมือนเคลือบผิวเอาไว้ มันๆ หน่อยๆ นอกจากนี้ยังติดผิวนานอีกด้วยนะ

ว่าที่เจ้าสาว

 

พอจะมีสเปรย์กันแดดในดวงใจกันแล้วหรือยังจ๊ะ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป แถมพกพาสะดวกจะได้ป้องกันผิวไว้ก่อน เพื่อจะได้มีผิวสวยๆ รอรับวันแต่งงานที่จะมาถึงนี้ หรือจะเตรียมไว้ไปฮันนูมูลริมทะเลก็ได้นะ … แต่ถ้าผิวเสียไปแล้ว เรามีวิธีฟื้นฟูผิวมาแนะนำค่ะ  กลยุทธ์ช่วยฟื้นฟูผิวไหม้จากแสงแดดง่ายๆ แบบไม่ต้องพึ่งสกินแคร์หลักพัน

ภาพจาก : Konvy.com , uat.loreal-paris.com.sg , Presstoday.news

Wedding Fair 2018 by NEO มหกรรมงานแต่งงานที่ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องไม่พลาด!!

งานเวดดิ้งแฟร์ดีๆ ที่รวบรวมทุกเรื่องเกี่ยวกับงานแต่งงานเอาไว้อย่างครบถ้วน เรียกได้ว่ามางานนี้งานเดียวได้ครบจบทุกอย่างกลับบ้านไปเลย

งานแต่งงาน

ว่าที่บ่าวสาวคู่ที่ไหนที่กำลังกลุ้มอกกลุ้มใจยังนึกภาพไม่ออกว่างานแต่งงานในฝันของเรานั้นจะออกมาสำเร็จหรือไม่ หรือจะออกมาได้ดั่งใจตามที่วาดฝันไว้หรือเปล่า หรือบางคู่ก็ไม่รู้จะตามหาสิ่งที่อยากได้ในงานแต่งงานที่ไหนดี
เราขอให้คุณว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวโยนเรื่องกลุ้มใจต่างๆ นานาออกไปเดี๋ยวนี้ เพราะ แพรว wedding มีกิจกรรมดีๆ มา
บอก ^^

กับงาน Wedding Fair 2018 by NEO งานแสดงสินค้าและบริการด้านต่างๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานที่ครบวงจรสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ที่จัดขึ้นในธีม “Happiness Bride” งานเดียวที่พร้อมให้คุณเป็นหญิงสาวที่มีความสุขที่สุด ซึ่งบอกเลยว่า เมื่อไปถึงงานแล้วว่าที่บ่าวสาวจะได้แฮปปี้สมชื่อแน่นอน เพราะงานนี้เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจดีๆ เกี่ยวกับการแต่งงานแถมยังได้รวบรวมเหล่ามืออาชีพในวงการเวดดิ้งเอาไว้อย่างมากมาย รวมถึงการแสดงสินค้าและบริการต่างๆ แบบครบวงจร พร้อมมีแพ็คเกจดีๆ อีกมากมายที่มีไว้รอให้ว่าที่บ่าวสาวได้เลือกช้อป รู้อย่างนี้ก็ต้องรีบเคลียร์คิวให้ว่างกันด่วนๆ เพราะงานจะมีขึ้นในวันที่ 7-10 มิถุนายน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสามารถเดินชมเดินช้อปกันได้ยาวๆ ตั้งแต่ 11.00-21.00 น.

แต่สิ่งดีๆ ไม่ได้หมดเพียงเท่านี้นะ เพราะภายในงานเหล่าคู่รักจะได้เพลินเพลินไปกับพาเหรดแฟชั่นโชว์ชุดแต่งงานสวยๆ ที่เป็นเทรนด์ใหม่ล่าสุดจากเหล่าห้องเสื้อชั้นนำอย่าง Cosilyby Apirassak, Crescendo, Dittawat Moulage, Prive Couture, Smile in Love เป็นต้น พร้อมด้วยเหล่านักแสดงและนางแบบแถวหน้าของวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น ญาญ่า อุรัสยา, น้ำตาล ชลิตา, ซาบีน่า ไมซิงเกอร์, คารีสา สปริงเก็ตต์ ฯลฯ แถมงานนี้ยังได้หน้ากากดอกไม้ หรือ ปุยฝ้าย ณัฎฐพัชร์ และไบรท์ วิชเวช ที่จะมาช่วยขับกล่อมสร้างสีสันให้รันเวย์มีชีวิตชีวาด้วยเสียงเพลงเพราะๆ อีกด้วย

นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้คู่รักได้ร่วมกันทำเพื่อกระชับความสัมพันธ์อีกด้วย กับโซน Love Plus Club ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมเสริมเสน่ห์ปลายจวักอย่าง “ข้าวกล่องแทนใจ” หรือจะจับมือกันมาประดิษฐ์ประดอยในกิจกรรม “ถักร้อย สร้อยรัก” ที่คุณและคนรักจะได้สร้อยข้อมือเก๋ๆ สไตล์แฮนด์เมดที่มีชิ้นเดียวในโลกกลับบ้านไป หรือจะเลือกเป็นกิจกรรม “Love Soap” กับการทำสบู่สไตล์ DIY ที่มีความพิเศษสำหรับคู่ของคุณโดยเฉพาะ และยังสามารถนำไปทำเป็นของชำร่วยได้แบบไม่ยากอีกด้วย

เอาเป็นว่าคู่รักที่กำลังมองหาไอเดียหรือแรงบันดาลใจดีๆ เราการันตีเลยว่าไปงานนี้คุณจะได้ทุกสิ่งที่หวังไว้กลับมา แถมยังเป็นงานที่จะทำให้ทั้งคุณและคนรักเป็นคู่แต่งงานที่มีความสุขที่สุดได้อย่างแน่นอน

9 ชุดแต่งงานสีชมพู สไตล์บลัชพิงค์ที่สวยพร้อมปนความอินเทรนด์

ชุดแต่งงานสีชมพู ไม่ได้มีแค่ความสวยหวานอย่างเดียวนะ แต่สวยหรูดูแพงด้วย

ชุดแต่งงานสีขาว แน่นอนว่าคือสัญลักษณ์ของความเป็นเจ้าสาวในภาพจำ แต่นี่มันปี 2018 แล้วนะจ๊ะคุณจ๋า เพราะฉะนั้นว่าที่เจ้าสาวหัวสมัยอย่างเราจะต้องกล้ากระโดดจากหน้าต่าง (อย่ากระโดดสูงมากนะ!!) เพื่อเปลี่ยนแนวมาเป็นอะไรใหม่ๆ บ้าง และหากคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวที่เกาะติดกระแสแฟชั่นชุดรันเวย์ หรือเทรนด์ชุดแต่งงานในปีนี้ก็คงจะพอรู้ว่าเทรนด์ ชุดแต่งงานสีชมพู หรือเทรนด์สีบลัชพิงค์นั้นกำลังมาแรง เป็นที่นิยม และพาเหรดกันขึ้นบนแฟชั่นรันเวย์มาตั้งแต่ต้นปี แม้กระทั่งใน Pinterest เองก็มีการเสิร์ชหาชุดแต่งงานสไตล์นี้เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น การเสิร์ชหาชุดแต่งงานสีชมพูกุหลาบ หรือแม้กระทั่งเฉดสีแชมเปญ เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับลุคของตัวเองในวันแต่งงานให้ไม่ซ้ำใคร และถ้าคุณเป็นเจ้าสาวที่อยากจะสร้างความจดจำอันแสนพิเศษในวันสำคัญให้กับทั้งลุคและชุดแต่งงานของคุณ ก็ลองฉีกกฎแล้วกระโดดออกจากกรอบเดิมๆ กันดูเนอะ ^^

และนี่คือ 9 ชุดแต่งงานเฉดสีบลัชพิงค์ที่เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวสไตล์ต่างๆ ที่เราคัดมาให้แล้วว่าเริด

สวยหวานสุดๆ ชุดเกาะอกทรงหัวใจพร้อมกระโปรงฟูฟ่องดุจเจ้าหญิง โดดเด่นด้วยการประดับดอกไม้แบบ 3D 

ถึงจะเป็นสาวอวบแต่ก็รอดในชุดเกาะอกนะบอกเลย อาจพรางช่วยสะโพกหรือช่วงล่างด้วยกระโปรงทรงเอ-ไลน์

เริดสุดๆ เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่ต้องการความหรูหรา ไม่เน้นความใหญ่โตของชุด แต่กลับมีออร่าด้วยงานปักสุดวิจิตร

เรียบหรูดูดี ชุดแต่งงานสายเดี่ยวคอวีที่ช่วยให้ช่วงคอดูระหง พร้อมลวดลายของลูกไม้ที่ให้เท็กซ์เจอร์แบบสมจริง

ดูเรียบง่ายด้วยกระโปรงทรงเอ็มไพร์ผ้าชีฟอง ตัวเสื้อด้านบนกลับโดดเด่นสุดๆ ด้วยการปักลูกไม้ไว้อย่างสวยงาม

เพิ่มลูกเล่นให้กับชุดแต่งงานด้วยช่วงบนแบบซีทรูผสมผ้าลูกไม้ พร้อมกระโปรงฟูฟ่องแบบเล่นเลเยอร์ที่สามารถหยอดเฉดสีบลัชไว้ได้อย่างลงตัว

ชุดนี้เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่อยากได้ลุคกึ่งทางการนิดๆ แต่ไม่ต้องการกระโปรงสุ่มฟูฟอง อาจเน้นเป็นโครงสร้างชุดที่เรียบง่าย แต่มีลูกเล่นที่การเล่นเลเยอร์ของผ้าที่ผสมผสานทั้งผ้าชีฟองประดับลูกไม้ไว้กับผ้าเฉดสีบลัชด้านในไว้ได้อย่างลงตัว

เจ้าสาวผิวคล้ำใส่นี้แล้วรอดนะจ๊ะ อาจจะเพิ่มกิมมิกให้ชุดด้วยกระปักคริสตัล หรือเลื่อมระยิบระยับเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศยามค่ำคืน

ชุดแต่งงานสีชมพู

ชุดแต่งงานดีไซน์หวานอมเปรี้ยวกับชุดสไตล์เปิดไหล่ แมตช์เข้ากับกระโปรงทรงเมอร์เมด พร้อมเพิ่มความโดดเด่นด้วยการเล่นกันกับเท็กซ์เจอร์การพิมพ์ลายดอกกุหลาบบนเนื้อผ้า แล้วจบลุคนี้ด้วยเข็มขัดประดับคริสตัลเก๋ๆ เท่านี้ก็เป็นอันสวย ^^

นอกจากจะสร้างความหวานผ่านชุดแต่งงานได้แล้ว ยังสามารถเพิ่มความหวานให้บรรยากาศงานแต่งได้อีกด้วยนะกับ ธีมงานแต่ง สีบลัชพิ้งค์ เทรนด์ใหม่เพิ่มความน่ารักมุ้งมิ้งให้กับงาน

ภาพจาก stylemepretty

รวมสุดยอดไอเดียสมุดอวยพรแบบกิ๊บเก๋ มาไว้ในงานแต่งของคุณ

มาดูไอเดีย สมุดอวยพร งานแต่งงานกันเถอะ^^

แม้กาลเวลาผ่านไป ธรรมเนียมการเขียนอวยพรบ่าว-สาวในงานแต่งงานก็ยังคงอยู่ ถึงจะมีการเปลี่ยนรูปแบบไปบ้างให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น อย่างในวันนี้ แพรว wedding ก็ได้รวบรวมไอเดีย สมุดอวยพร เก๋ๆ แปลกๆ ที่ครีเอทมาจากสิ่งของรอบๆ ตัวเรา ไม่จำเป็นต้องใช้เพียงสมุดเท่านั้น บ่าว-สาวสามารถสื่อความหมายผ่านสิ่งของที่นำมาใช้แทนสมุดหรือใส่ไลฟ์สไตล์ของพวกคุณเข้าไปให้เข้ากับบรรยากาศของงาน เริ่มอยากรู้กันรึยังเอ่ยว่าไอเดียสมุดอวยพรที่ว่าเนี่ย จะมีหน้าตาเป็นยังไงบ้าง? ถ้าอยากรู้ก็ตามมาส่องกันเลยดีกว่าค่า

จิ๊กซอว์

หนึ่งไอเดียน่ารักๆ ที่มาจากการนำภาพพรีเวดดิ้งของพวกคุณมาปริ้นลงในกระดาษอัดแข็ง ทำเป็นจิ๊กซอว์แต่ละชิ้นออกมาให้พอดีกับจำนวนแขก ไว้เขียนอวยพรในพื้นที่ว่างเปล่าของแต่ละชิ้น หรือบางคนอาจจะใช้เพียงจิ๊กซอว์ธรรมดาสีขาวล้วนและให้แขกของพวกคุณเขียนอวยพรลงไปแล้วนำของแต่ละคนมาต่อๆ กันก็แลดูมินิมอลดีนะคะ การใช้จิ๊กซอว์แทนสมุดอวยพรยังช่วยสร้างสีสันให้กับงานได้ด้วยการที่แขกของพวกคุณจะมาร่วมกันประกอบภาพจิ๊กซอว์ให้กลายเป็นภาพที่สมบูรณ์ ก็ถือได้ว่าเป็นการสื่อความหมายได้ดีเลยทีเดียว

สมุดอวยพร

สมุดอวยพร

Jenga Blocks

ตัวเลือกของคู่รักที่ชื่นชอบการเล่นเกมก็สามารถสื่อออกมาผ่านเกมจังก้าบล็อกได้ด้วยน้า แค่คุณวางบล็อกไม้พวกนี้ไว้บริเวณโต๊ะต้อนรับแขกที่หน้างาน และอาจมีการสั่งทำไม้แบบพิเศษที่เขียนชื่อคุณทั้งคู่ พร้อมวัน-เวลาและสถานที่ไว้เป็นที่ระลึกอยู่บนบล็อกไม้ จากนั้นก็ให้แขกของพวกคุณใช้ปากกาเมจิก (ขอย้ำนะคะว่าต้องแบบติดทนลบยากด้วย) มาร่วมเขียนอวยพรลงบนไม้แต่ละชิ้นและช่วยกันวางขึ้นไปให้สูงไปเล้ยยย

สมุดอวยพร

สมุดอวยพร

ไม้ไอศกรีม

ย้อนวันวานในวัยเด็กด้วยการเขียนอวยพรลงบนไม้ไอศกรีมด้วยปากกาหมึกสีดำก็ดูวินเทจไม้น้อยเลยนะคะ แล้ววางขวดโหลเล็กๆ สักใบเมื่อแขกของคุณเขียนเสร็จแล้วก็นำไปใส่ขวดโหลดประดับไว้ที่โต๊ะได้เลย

สมุดอวยพร

สมุดอวยพร

Photo Guest Book

เพิ่มบูธถ่ายรูปเล็กๆ บริเวณหน้างาน อาจจะจัดเป็นแบ็คดรอปหรือฉากหลังสีเรียบให้แขกของพวกคุณได้มาแชะภาพโดยกล้องโพลาลอยด์ที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ 1 2 3 แชะ! เรียบร้อยรูปที่ออกมาสามารถเลือกไว้ว่าจะให้พวกเขาเขียนอวยพรตรงจุดไหน แบบแรกที่เราอยากทำเสนอคือ เขียนลงที่รูปโพลาลอยด์นั่นแหละค่ะ บริเวณด้านล่างของรูปที่มีพื้นที่ว่างเปล่า ใกล้กันนั้นคุณอาจจะทำเป็นราวไว้หนีบรูปหลังจากเขียนเสร็จ ราวแกลลอรี่นั้นก็จะเป็นมุมถ่ายรูปได้อีกด้วยนะคะ อีกไอเดียคือ เมื่อแขกได้รูปเรียบร้อยแล้วให้นำมาแปะลงสมุดโฟโต้บุ๊คและเขียนอวยพรลงในหน้านั้น เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่า

สมุดอวยพร

สมุดอวยพร

เครื่องดนตรี

คู่รักนักดนตรีเหมาะกับการใช้เครื่องดนตรีชิ้นโปรด อย่างเช่น กีต้าร์ตัวโปรดของคุณมาสร้างกิมมิคเก๋ๆ ให้กับงานสำคัญในชีวิต โดยการให้คนพิเศษของพวกคุณได้มีโอกาสเขียนคำอวยพรหรือจะเซ็นต์ชื่อก็ได้ รับรองเครื่องดนตรีชิ้นนี้ของคุณจะดูมีความหมายมากขึ้นไปอีกเลยแหละคะ เพราะหลังจบงานคุณสามรถนำมาวางไว้ในบ้านไม่ว่าจะมองเห็นตอนไหนก็จะพาระลึกถึงวันสำคัญวันนั้นเสมอ หรือเมื่อคุณใช้มันเล่นให้คนรักของคุณฟัง เขาหรือเธอต้องฟินอ่ะบอกเลย

สมุดอวยพร

สมุดอวยพร

เขียนลงในกระดาษ

ลองเปลี่ยนจากสมุดให้กลายมาเป็นกระดาษดูนะคะ ประหยัดขึ้นด้วยน้า คุณไม่จำเป็นต้องซื้อสมุดเล่มใหญ่สุดอลังการ แค่นำกระดาษตัดเป็นชิ้นขนาด 3*3 นิ้ว หรือจะใช้เป็นกระดาษโพสต์-อิทเลยก็ได้ค่ะไม่ว่ากัน จากนั้นเมื่อแขกของคุณเขียนเสร็จก็ม้วนแล้วนำเชือกสาสีเรียบผูกไม่ต้องแน่นนะคะ และนำใส่ขวดใสที่วางรอการเติมเต็มด้วยกระดาษเมสเสจจากแขกของพวกคุณ ซึ่งถ้าพวกคุณเลือกใช้ธีมงานแต่งงานที่จัดริมทะเลก็จะยิ่งเหมาะเอามากๆ เลยแหละค่ะ

สมุดอวยพร

สมุดอวยพร

ลูกโลกจำลอง

คู่ที่รักการเดินทางเหมาะอย่างยิ่งที่จะเลือกใช้ Globe Travel เข้ามาสื่อความหมายให้กับพวกคุณ เพียงแค่ให้ทุกคนได้เซ็นต์ชื่อลงบนลูกโลกจำลอง พร้อมคำอวยพรสั้นๆ เท่านี้ก็เก๋ไม่เหมือนใครแล้วค่ะ แต่คู่ที่อยากใช้ลูกโลกจำลองมาแทนสมุดอวยพรก็ต้องเช็คจำนวนแขกด้วยนะคะ เพราะเจ้าสิ่งนี้จะเหมาะกับงานแต่งงานที่มีผู้มาร่วมงานน้อย เป็นงานขนาดเล็กจะดีกว่าค่ะ

สมุดอวยพร

สมุดอวยพร

โปสเตอร์หนัง

คู่รักที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์ลองหาหนังเรื่องที่พวกคุณชอบมากกก ดูกี่รอบๆ ก็เป็นภาพยนตร์ในดวงใจเสมอ แล้วยิ่งเรื่องนั้นมีโปสเตอร์สุดวินเทจด้วยยิ่งดีเลยค่ะ แขกทุกคนจะเพลิดเพลินกับการเขียนความปรารถนาดีของตนสู่พวกคุณลงบนโปสเตอร์ภาพยนตร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอดีต ซึ่งหลังจากจบงานนี้แล้วคุณสามารถนำมาแสดงไว้ในบ้านของคุณได้อีกด้วย

สมุดอวยพร

สมุดอวยพร

ขวดไวน์

แค่มีขวดไวน์ชั้นเยี่ยมวางอยู่บริเวณหน้างาน เพื่อให้แขกของพวกคุณได้มาเซ็นต์ชื่อเช็คอินเข้างานนี้ก็ดูหรูได้แล้วค่ะ การเลือกใช้ไวน์ในงานจะช่วยบ่งบอกรสนิยมของคุณ แถมไวน์ขวดนี้คุณยังสามารถเก็บมันไว้เปิดฉลองในวันครบรอบแต่งงานในอีกสิบปีข้างหน้าก็ไม่เสียหายน้า แต่การเลือกใช้ขวดไวน์ก็จะต้องมีข้อจำกัดคล้ายกับการใช้ลูกโลกจำลองเลยค่ะ คือต้องเป็นงานที่แขกไม่เยอะจนเกินไป ที่สำคัญควรเลือกใช้ปากกาเจลหมึกสีทองก็จะยิ่งทำให้ดูหรูมากยิ่งขึ้น

สมุดอวยพร

สมุดอวยพร

นอกจากนี้ยังมีไอเดียอีกมากมายที่รอพวกคุณอยู่นะคะ สามารถไปดูไอเดียเพิ่มเติมได้ใน 15 ไอเดียสมุดอวยพรในงานแต่งไม่ซ้ำแบบใคร

Cr : insideweddings.com, pinterest.com

มาทำความรู้จักกับ แหวนญาตินายร้อย แหวนแทนใจของเหล่านายร้อยกัน

เมื่อพูดถึงแหวนแล้ว แน่นอนว่ามีหลายประเภทให้เลือก แต่จะมีแหวนอยู่หนึ่งแบบ ที่เรียกได้ว่าเป็นแหวนรุ่นพิเศษ ที่ไม่ใช่ใครๆ ก็สามารถหาซื้อใส่ได้ นั่นคือ แหวนญาตินายร้อย นั่นเองค่ะ

เราได้นำข้อมูลจากกูรูด้าน แหวนญาตินายร้อย คือร้าน แน่งน้อยจิลเวอรี่ และ ร้านป้องราชย์เจมส์ ที่มีประสบการณ์ในการทำ “แหวนญาติ” มาพูดถึงความหมายของแหวนรวมไปถึงรายละเอียดต่างๆ ไปอ่านกันเลยดีกว่า

อยากให้ทางร้านพูดถึงแหวนญาติ ว่าคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร

แน่งน้อยจิลเวอรี่ : ขอเกริ่นก่อนว่า นักเรียนนายร้อยทั้ง 4 เหล่า ได้แก่ เหล่าทัพบก, เหล่าทัพอากาศ, เหล่าทัพเรือ และนายร้อยตำรวจ พวกเขาจะได้รับแหวนรุ่น เป็นแหวนที่แสดงว่าบุคคลที่สวมใส่นั้นจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อย, โรงเรียนนายเรือ, โรงเรียนนายเรืออากาศ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เอาไว้สวมใส่เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความผูกพันของรุ่นและสถาบันอันเป็นต้นกำเนิด เป็นสิ่งที่แสดงถึงความภาคภูมิใจในความพากเพียรพยายาม ความอดทน ความมุ่งมั่นตั้งใจระหว่างการเรียนจนสามารถจบการศึกษาจากสถาบันทางการทหารของประเทศได้

ส่วน “แหวนญาติ” นั้น โดยทั่วไปจะมีลักษณะเหมือนแหวนรุ่นแบบย่อ (ขนาดเล็กลงมาจากแหวนรุ่น) ซึ่งทำขึ้นมาสำหรับญาติ ในความหมายของนักเรียนเหล่า หมายถึง แฟน หรือคนรัก จึงเป็นที่มาของคำว่าแหวนญาติ หรือญาติจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ พี่ หรือน้องก็ได้

ร้านป้องราชย์เจมส์ : เดิมทีแหวนญาติมักนิยมทำให้แก่ญาติสวมใส่ นั่นคือบุพการีของนายทหาร หรือตำรวจ ซึ่งจบจากสถาบันนายร้อยสี่เหล่าทัพ ถัดมาเริ่มมีความนิยมทำแหวนญาติให้แก่ภรรยาหรือแฟน เพื่อแสดงถึงความรักและเจตจำนงค์ว่าได้เลือกผู้หญิงคนนี้เป็นคู่ครองหรือคู่ชีวิตแล้ว

 

แหวนญาตินายร้อย
ภาพจาก : แน่งน้อยจิลเวอรี่ – แหวนรุ่น
แหนญาตินายร้อย
ภาพจาก : แน่งน้อยจิลเวอรี่ – แหวนญาติ

 

แหวนญาติมากี่แบบ สวมใส่อย่างไร

แน่งน้อยจิลเวอรี่ : แหวนญาติ แบ่งได้ตามเหล่าของนายร้อยเลยคือมี 4 แบบด้วยกัน แต่ทางร้านจะรับทำเพียงแค่แหวนช่อชัยพฤกษ์ จึงขออนุญาตพูดเจาะลึกของแหวนช่อชัยพฤกษ์ หรือแหวนของนักเรียนนายเรืออากาศ แต่โดยทั่วไปแล้ว แหวนญาติ ของทุกๆ เหล่าทั่วไปจะมีลักษณะเหมือนแหวนรุ่นแบบย่อ โดยมีขนาดเล็กกว่าแหวนรุ่นของผู้ชาย แต่ แหวนญาติ ของนายเรืออากาศจะแตกต่างจากเหล่าทัพอื่นๆ โดยหัวแหวนจะเป็นตราโรงเรียนนายเรืออากาศเช่นเดียวกับแหวนรุ่นนายเรืออากาศ

ร้านป้องราชย์เจมส์ : แหวนญาติมักนิยมสวมใส่ไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย นัยยะเพื่อเตือนใจให้ระลึกเสมอ ว่าควรปฏิบัติตัวให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาแก่สามี ไม่ควรทำเรื่องเสื่อมเสียเกียรติยศแห่งสามีอันเป็นที่รัก ทั้งยังให้ระลึกไว้ว่าหน้าที่ของสามีต้องมาก่อนความรักเสมอ สวมแหวนไว้ติดกายเสมือนมีสามีอยู่ด้วยตลอดเวลา แม้ยามไปปฏิบัติหน้าที่ห่างไกลกันหรือหมดลมหายใจจากกันตลอดชีวิต

แหวนญาตินายร้อย
ภาพจาก : ร้านป้องราชย์เจมส์ – แหวนนายเรือ
ภาพจาก : ร้านป้องราชย์เจมส์ – แหวนนายร้อย จปร.
ภาพจาก : ร้านป้องราชย์เจมส์ – แหวนนายร้อยตำรวจ