5 ข้อผิดพลาดในงานแต่งงาน ที่บางครั้งว่าที่บ่าวสาวอาจนึกไม่ถึง

พอรู้ตัวเองอีกทีว่าจะต้องเป็นว่าที่บ่าวสาว ก็ทำเอาหลายคู่ตั้งตัวไม่ทัน เริ่มต้นไม่ถูก ลืมโน้น พลาดนี่ จนบางครั้งอาจทำให้เกิด ข้อผิดพลาดในงานแต่งงาน ที่ยากจะกลับมาแก้ไข แพรว wedding เลยถือโอกาสนี้มาเตือนเหล่าว่าที่ทั้งหลายให้รู้ตัวกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ว่ามีเรื่องไหนบ้างที่ต้องระวังอย่าให้พลาดหรือเกิดขึ้นในงานแต่งงานเด็ดขาด


1. #hashtags สุดยาก
#hashtags ในงานแต่งงานนอกจากจะเป็นชื่อบ่าวสาว วันเดือนปีที่แต่งงานแล้ว บ่าวสาวบางคู่ก็อยากที่จะครีเอทให้ดูดีไม่เหมือนใคร แต่ก่อนที่จะคิดคำอะไรที่ยากๆ แบบเข้าใจกันสองคน เราขอให้เหล่าว่าที่บ่าวสาวไตร่ตรองสักนิดเพราะเจ้าแฮชแท็กนี้จะต้องพิมติดกันแบบไม่เว้นวรรค เพราะฉะนั้น การคิดคำที่อ่านง่าย ไม่ยาวมาก แบบที่แขกไม่ต้องเพ่งตามองแล้วมองอีกก็ยังงงว่า “มันอ่านว่าอะไร” เพราะถ้าทั้งยากทั้งยาว สุดท้ายแฮชแท็กที่บ่าวสาวอุตส่าห์คิดขึ้นมาก็สูญเปล่า เพราะว่าแขกขี้เกียจจะพิมเอานะ

2. เดรสโค้ดสุดครีเอทีฟ
สิ่งที่จะช่วยสร้างสีสันอีกอย่างให้กับงานแต่งงาน และช่วยให้แขกที่มางานรู้สึกสนุกและมีส่วนร่วมคือ เดรสโค้ด แต่ถ้าบ่าวสาวมีความครีเอทีฟสูงเกินไป ด้วยการเลือกเดรสโค้ดยากๆ เพราะอยากให้งานแต่งมีสีสัน เช่น ธีมการ์ตูน หรือธีมสียากๆ อย่าง สีเขียวนกแก้ว หรือสีเขียวหัวเป็ด ชนิดที่แขกเสิร์ชหาจากูเกิ้ลจนปวดหัว แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ และถ้างานแต่งงานของบ่าวสาวมีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้เกียรติมาร่วมงาน เดรสโค้ดก็ควรจะเป็นอะไรที่ดูเรียบง่ายจะเหมาะสมกว่า

3. เปลี่ยนชุดแต่งงานแค่ 2 ชุดก็พอ
แต่งงานครั้งเดียว แต่ชุดแต่งงานที่อยากใส่ดันเยอะเหลือเกิน เกิดอาการรักพี่เสียดายน้องขึ้นมาหากต้องตัดชุดไหนออกไปสักชุด แถมคุณเจ้าบ่าวก็ช่วยซัพพอร์ตเรื่องชุดแบบเต็มที่ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จัดไปค่ะ แต่!! สิ่งที่เจ้าสาวต้องพึงระวังและคิดให้ดีคือ ช่วงเวลาที่จะใช้ในการเปลี่ยนชุด รวมไปถึงลุคแต่งหน้า-ทำผมด้วย

ซึ่งลุคแต่งหน้าทำได้มากสุดก็อาจจะแค่เติมแก้มนิด เติมตาหน่อย แล้วจบด้วยเปลี่ยนสีปาก ส่วนทรงผมก็อาจจะเริ่มจากปล่อยผม แล้วเกล้าผม จบด้วยการติดเครื่องประดับ เพราะฉะนั้นเจ้าสาวต้องคุยกับช่างแต่งหน้า-ทำผมให้เคลียร์ว่าจะมีกี่ชุด เปลี่ยนหน้ากี่ลุค เปลี่ยนผมกี่ทรง เพื่อที่ช่างจะได้ววางแผนในการแต่งหน้า-ทำผมได้ถูก รวมไปถึงแจ้งกับทางผู้จัดงานด้วยว่าคุณจะเปลี่ยนชุดในช่วงพิธีไหนบ้าง เพื่อที่ผู้จัดงานจะได้จัดไทมไลน์ในช่วงเวลาที่เจ้าสาวไปเปลี่ยนชุดได้ถูก

แต่จริงๆ แล้วการมีชุดแต่งงานเพียงแค่ 2 ชุด ดูจะเป็นอะไรที่เหมาะสมลงตัวที่สุด ทั้งสำหรับไทม์ไลน์ของช่วงพิธี และลุคแต่งหน้าทำผมที่ไม่ต้องยืดเยื้อเพราะต้องรอเจ้าสาวแค่คนเดียว

TIP หากเจ้าสาวอยากออกแบบชุดแต่งงานด้วยตัวเองที่มีรายละเอียดต่างๆ ที่ชอบและอยากได้ ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะสามารถใส่ทุกอย่างที่ต้องการลงไปในชุดแต่งงานชุดเดียวได้หรอกนะ เพราะหนึ่ง. ต้องคำนึงถึงรูปร่างของเจ้าสาวด้วยว่าเหมาะกับชุดแต่งงานแบบที่เจ้าสาวอยากได้หรือไม่ และสอง. ยังต้องดูให้เหมาะสมกับรูปแบบของงานและสถานที่ด้วย เพราะฉะนั้นการรับฟังและเชื่อใจผู้เชี่ยวชาญจึงสำคัญมากในการที่จะได้มาซึ่งชุดเจ้าสาวที่ทั้งสวยงามและเหมาะสม

4. เลือกดอกไม้ที่ชอบแต่ไม่ตรงตามฤดูกาล
ดอกไม้คือส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยสร้างสีสัน ความสดชื่น ความสวยงาม และความอ่อนหวานให้กับงานแต่งงานของคุณ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกว่าอยากได้ดอกไม้อะไรมาประดับไว้ในงานแต่งงาน เราขอแนะนำให้คุณเลือกช่วงเวลาที่จะจัดงานให้ได้ก่อน เพราะการเลือกดอกไม้นอกฤดูกาลมาจัด นั่นเท่ากับว่าบ่าวสาวจะต้องแบกรับคอร์สอันมหาศาลเอาไว้ด้วย ดังนั้นให้ช่วงเวลาที่จัดงานเป็นตัวกำหนดดอกไม้ที่จะใช้ในงานน่าจะช่วยให้บ่าวสาวประหยัดได้มากกว่านะ

5. งานแต่งจีนนะ ไม่ใช่งานแซยิด
ภาพถ้วยจานชามสีขาว-ฟ้าที่เป็นลวดลายจีน หรือแม้กระทั่งเซตสำหรับยกน้ำชา ที่ผู้ใหญ่หลายคนอาจจะมองว่าเหมาะสมและดูดีเป็นทางการสำหรับงานแต่งงานที่มีแต่แขกผู้ใหญ่เป็นคนจีน แต่ระวังว่าภาพถ่ายที่ออกมาแทนที่จะดูเป็นงานแต่งงาน อาจจะดูเป็นงานเลี้ยงแซยิดครอบครัวแทนนะ ซึ่งถึงแม้จะเป็นงานแต่งจีนจ๋า แต่ก็ไม่ต้องใช้จานชามแบบจีนก็ได้ อาจจะลองเปลี่ยนมาใช้อะไรที่เป็น สีแดง ซึ่งเป็นสีมงคลแทนดูก็ได้นะ

>> ดูไอเดียดีๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพ pexels.com

สูตรไม่ลับระงับอาการ “Bridezilla” ของเหล่าว่าที่เจ้าสาวสายขี้กังวล

มันก็เป็นเรื่องแปลกนะคะ ที่อยู่ๆ ผู้หญิงอย่างเราๆ จะกลายเป็นคนละคนในช่วงระหว่างเตรียมงานวิวาห์ จากที่เคยอ่อนหวานในวันที่เขาเอ่ยปากขอแต่งงาน  กลับแทนที่ด้วยร่างทรงองค์ Bridezilla  ซะอย่างนั้น! งานนี้ใครที่กำลังจะกลายร่าง เรามีวิธีที่จะใช้สะกดอาการนี้มาฝาก

1. ผ่อนคลายบ้างก็ได้

การเตรียมงานที่มีรายละเอียดมากมายมักทำให้เจ้าสาวเกิดความเครียดและมีอารมณ์ฉุนเฉียว ซึ่งเป็นสัญญาณการมาของร่างไบรด์ซิลล่าเพราะฉะนั้น เมื่อเริ่มรู้สึกถึงความไม่เข้าที่เข้าทางของอารมณ์   จงปลีกตัวออกมาหาเวลาผ่อนคลาย อาจจะไปนอนแช่น้ำอุ่นๆ หรือขับรถเล่นแถวชานเมืองให้จิตใจสงบลง และเมื่อร่างปกติกลับมา คุณก็จะมีพลังในการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป

2. ฟังไปยิ้มไป อย่าหน้าบึ้ง

ถึงแม้ว่าการแต่งงานจะเป็นเรื่องของคนสองคนตกลงจะใช้ชีวิตร่วมกัน  แต่การเตรียมงานแต่งนั้นคงจะไม่ใช่ เห็นได้ชัดว่าจะมีใครหลายคนมาพูดแนะนำนู่นนี่นั่น โดยเฉพาะเหล่าญาติผู้ใหญ่ที่ชอบพูดว่า “ทำอย่างนั้นสิ ทำอย่างนี้สิ” ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเลย ถึงแม้จะรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องทนฟัง แต่ก็ขอให้ปั้นยิ้มแล้วพยักหน้าตามเป็นผู้ฟังที่ดี อย่าปล่อยให้ร่างไบรด์ซิลล่าออกมาทำหน้าบึ้งตึงเด็ดขาด หากพบเจอกับคำแนะนำดีๆ ก็นำไปทำตามได้ แต่ถ้าไม่ ก็แค่ปล่อยให้มันลอยไปกับลมเท่านั้น

3. เพื่อนช่วย ช่วยเพื่อน

อย่างที่บอกแหละค่ะ ว่าการเตรียมงานแต่งงานมันเหนื่อย ดีไม่ดีจะมีของแถมเป็นโรคประสาทพ่วงมากับ อาการไบรด์ซิลล่าอีก  ดังนั้น เพื่อนเจ้าสาวจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะมาช่วยเราเตรียมงาน ซึ่งเราควรลิสต์รายการว่ามีอะไรที่เพื่อนพอจะช่วยได้บ้าง จัดสรรแบ่งปันกันไปตามงานที่เพื่อนถนัด และไม่หนักจนเกินไป หากมีอะไรไม่ได้ดั่งใจก็อย่าโวยวายเจ้ากี้เจ้าการสั่งนั่นสั่งนี่เด็ดขาด ให้คิดไว้เสมอว่า “นี่เพื่อนนะ ไม่ใช่คนใช้” ถ้าไม่รักกันจริงคงไม่มาช่วยให้แหนื่อยเปล่าหรอกนะ

4. ขอเวลาคุยกันสักนิด

ช่วงเตรียมงานวิวาห์ ถ้าไม่คุยกับว่าที่เจ้าบ่าวแล้วจะให้ไปคุยกับใคร ถูกไหม? แบ่งปันเวลาว่างๆ ในแต่ละวัน จะมากหรือน้อยก็ขอให้เป็นเวลาที่คุณทั้งคู่ได้พูดคุยกัน เพราะท่ามกลางสถานการณ์วุ่นวาย คนที่ช่วยให้ผ่อนคลายได้ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเจ้าบ่าวของคุณนั่นแหละ หาเวลาว่างซักนิดเพื่อเติมกำลังใจจากคนรัก เพียงเท่านี้ก็จะสามาถรช่วยระงับอาการไบรด์ซิลล่าได้ชะงัดทีเดียว

5. ยอมรับและปล่อยวาง

เมื่อถึงวันงานจริง ขอให้เจ้าสาวทุกคนมองข้ามความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และตั้งใจทำหน้าที่เจ้าสาวให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าคุณจะอยากให้งานแต่งงานออกมาสมบูรณ์แบบไร้ที่ติขนาดไหน แต่อย่าลืมว่าคุณไม่ใช่ซุปเปอร์วูแมนที่จะสกัดกั้นทุกความผิดพลาดได้ทั้งหมด ขอให้เลือกเก็บแต่ความทรงจำที่สวยงามในวันสำคัญ และเป็นนางเอกของงานอย่างสมสง่าก็พอ

ความตื่นเต้นและความเครียดเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร โดยเฉพาะเจ้าสาวมือใหม่ที่กำลังเตรียมงานแต่งงาน อาจจะกดดันจนกลายร่างเป็น Bridezilla พาเอาคนรอบข้างออกอาการเหวอกันได้ แต่ถ้าไม่อยากให้ร่าง Bridezilla ออกมาแสดงอิทธิฤทธิ์จนกลายเป็นเจ้าสาวสติแตก ก็ให้เอาวิธีที่เราแนะนำไปใช้กัน  รับรองสติจะอยู่กับตน คนรอบข้างรักหลงยกให้เป็นเจ้าสาวแสนหวานแน่นอน

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติม คลิกเลย! <<

ภาพ : www.sheknows.coma a a a a a

4 สัญญาณนี้จะบอกว่า…ว่าที่เจ้าสาวได้เจอ ชุดแต่งงาน ที่ใช่แล้ว

ชุดแต่งงาน ชุดไหนกันนะที่จะเหมาะกับสไตล์และมีรูปทรงที่เหมาะกับธีมงานแต่งด้วย

บางครั้งการที่เจ้าสาวตามหา ชุดแต่งงาน อย่างบ้าคลั่ง หรือมีแบบชุดแต่งงานประมาณ 100 ชุดเซฟเก็บไว้นั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าแบบชุดแต่งงานที่เจ้าสาวชอบหรือกำลังมองหานั้นจะเหมาะสม หรือเข้ากับสถานที่ หรือสไตล์งานแต่งของเจ้าสาว เช่น หากเจ้าสาวคิดว่าอยากจะเต้นรำเปิดฟลอร์สวยๆ แต่ดันเลือกชุดแต่งงานลากยาวประมาณ 20 ฟุตก็ดูจะไม่เหมาะกับช่วงเต้นรำที่ต้องหมุนและขยับตัวอยู่ตลอดเวลา หรือหากงานแต่งงานของคุณเป็นงานแต่งงานที่เป็นทางการมากๆ และมีแขกผู้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ หรือจัดงานในสถานที่ที่ค่อนข้างศักดิ์สิทธิ์ อย่างเช่น งานแต่งงานแบบไทย บางครั้งการใส่ชุดแต่งงานแบบคอลึกมากๆ ก็เป็นสิ่งไม่เหมาะไม่ควร เป็นต้น เพราะฉะนั้นเหนือความสวยงามและแบบชุดที่ว่าที่เจ้าสาวอยากได้ สไตล์งานแต่งและสถานที่แต่งงานของเจ้าสาวจะเป็นตัวกำหนดให้ว่า ชุดแต่งงานที่คุณกำลังมองหาและเหมาะกับคุณนั้นคือชุดแต่งงานชุดไหนกันแน่

ชุดนั้น…คุณจะต้องชอบด้วยเหตุผลของคุณเอง โดยไม่มีคนอื่นมาบอกว่าดี

ถึงแม้ว่าบางครั้งคุณอาจจะได้รับความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ หรือแม้กระทั่งข้อติชม จากครอบครัว เพื่อน หรือจากดีไซเนอร์ร้านชุด แต่คุณจะต้องแน่ใจว่า หากคุณมาเลือกชุดเพียงคนเดียว โดยที่ไม่มีความคิดเห็นจากบุคคลรอบข้างเลย คุณก็จะยังคงชอบชุดนี้อยู่ดี และถ้าหากคุณมั่นใจว่าชุดแต่งงานชุดนี้จะต้องดูดีเมื่อคุณสวมใส่ล่ะก็ มันอาจจะเป็นสัญญาณของความเป็นไปได้ว่า ชุดแต่งงานชุดนี้แหละคือชุดที่คุณกำลังมองหา

ชุดนั้น…คุณจะต้องซื้อมาด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง

ข้อนี้คล้ายๆ  กับข้อข้างบน เพราะคุณจะต้องมั่นใจว่า คุณไม่ได้ซื้อชุดแต่งงานชุดนี้ด้วยเหตุผลอย่างอื่น นอกเหนือจากความจริงที่ว่า คุณชอบชุดนี้และอยากจะใส่จริงๆ เช่น ไม่ได้ซื้อเพราะว่า คุณแม่ไม่ชอบชุดอื่นที่คุณเลือกเลย หรือซื้อเพราะมีชุดนี้เพียงชุดเดียวที่ไซส์พอดีกับรูปร่าง หรือเป็นชุดที่กำลังอยู่ในช่วงโปรโมชั่น หรือแม้กระทั่งคิดเอาเองว่าชุดนี้เป็นสไตล์ที่คุณคิดว่าน่าจะใส่ได้พอดีในอีก 8 เดือนข้างหน้าก่อนถึงวันงาน หรือซื้อเพราะว่าร้านกำลังจะปิด!! และคุณไม่อยากกลับมาอีกเป็นครั้งที่สอง อย่ากลัวและอย่าเร่งเร้าตัวเอง เพราะคุณต้องมั่นใจว่าการที่คุณตกลงจะซื้อหรือเลือกชุดนั้นๆ คุณจะต้องอยู่ในอารมณ์และความรู้สึกที่อยากซื้อจริงๆ โดยที่ไม่อยู่ในสถานการณ์การกดดันต่างๆ

ชุดแต่งงาน

ชุดนั้น…คุณจะสามารถกิน เดิน เต้น และสนุกไปกับการเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่างๆ ได้

อย่าลืมว่าคุณจะต้องยืน นั่ง และทำกิจกรรมต่างๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมงในชุดนี้ เพราะฉะนั้นจงแน่ใจว่า คุณจะรู้สึกสะดวกสบายในชุดนี้ เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่มีการปรับแก้ไซส์ให้พอดี อย่าลืมลองทำกิจกรรมเหล่านี้ทุกครั้ง เพื่อที่จะเช็กได้ว่าชุดนั้นหลวมหรือฟิตเกินไปหรือเปล่า เพราะคุณคงไม่อยากมายืนพะวงในวันงานว่า เกาะอกจะหลุดไหมตอนเดินเข้างาน หรือตอนนั่งแล้วหายใจไม่ออกเพราะชุดรัดแน่นจนเกินไปหรอกนะ

ชุดนั้น…คุณจะต้องได้เห็นตัวเลือกอื่นมาหมดแล้วจริงๆ

ถึงแม้ว่าคุณจะมั่นใจกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ว่า ชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์คือชุดแต่งงานที่คุณต้องการและอยากใส่จริงๆ แต่เราอยากแนะนำให้คุณว่าที่เจ้าสาวลองคิดนอกกรอบในสิ่งที่ตัวเองต้องการดีๆ อีกที ด้วยการลองชุดสไตล์อื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ลิสต์ของคุณดูบ้าง เพราะคุณอาจจะเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ว่า คุณอาจได้เจอกับชุดแต่งงานทรงอื่น หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะกับคุณ และช่วยให้คุณรู้สึกเป็นเจ้าสาวจริงๆ

ติดตามเคล็ดลับการเลือกชุดแต่งงาน และอัพเดทชุดแต่งงานสวยๆ ได้ที่นี่ >> คลิกเลย <<

ภาพ unsplash.com

ทำตัวแบบนี้ไม่โดนนินทากับ 7 มารยาทในการนั่งร่วมกินโต๊ะจีนกับคนแปลกหน้าในงานแต่ง

แพรวเวดดิ้งเชื่อล้านเปอร์เซ็นต์เลยว่า ใครก็ตามที่เคยมีประสบการณ์เป็นแขกในงานแต่งงานที่เลี้ยงแบบโต๊ะจีนต้องเคยเกิดอาการวางตัวไม่ถูกเมื่อต้องนั่งร่วมโต๊ะกับคนแปลกหน้า และปัญหาสำคัญใหญ่บิ๊กก็คือ ใครจะเริ่มตักก่อนเบิ้ลได้ไหม และต้องคุยอะไรไหม วันนี้เราก็เลยทำสรุปมาให้ว่า มารยาทโต๊ะจีน ที่ควรปฏิบัติเมื่อนั่งกินกับคนแปลกหน้ามีอะไรบ้าง

 1. กำลังจะนั่งก็ถามสักหน่อย

การเลี้ยงแบบโต๊ะจีนจะไม่ได้มีระบุที่นั่งชัดเจนแบบงานเลี้ยงซิตดาวน์ดินเนอร์ แต่ส่วนใหญ่เจ้าภาพจะใช้วิธีจัดโต๊ะตามกลุ่มความสัมพันธ่น กลุ่มที่ทำงาน เพื่อนมหาวิทยาลัย แต่ในกรณีที่คุณไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้นๆ และต้องนั่งกับโต๊ะแขกทั่วไป หากเป็นโต๊ะโล่งๆ ก็สบายไปเพราะคุณคือคนแรกที่ได้เลือกที่นั่งที่ชอบ แต่ถ้าคุณต้องไปแจมกับโต๊ะอื่นเมื่อไหร่ ถามคนที่นั่งก่อนสักหน่อยว่า ที่ว่างบนโต๊ะมีคนนั่งหรือยัง ไม่ใช่เห็นว่าเห็นว่างก็นั่งพรวดลงไป แม้คุณจะคิดว่าก็ไม่ได้ระบุนี่นาทำไมจะนั่งไม่ได้ แต่ก็ควรเช็คนะคะว่า คนที่นั่งก่อนมากับใคร มากี่คน จริงไหม

2. กั๊กที่ได้แต่ก็ต้องปล่อยที่ได้

เคยมีใช่ไหมละค่ะที่คุณทำการจองที่นั่งไว้ให้กับเพื่อนหรือคนที่นัดแนะว่าจะมาร่วมโต๊ะด้วย ซึ่งในช่วงแรกๆ ที่แขกยังมาไม่เยอะ คุณอาจพูดบอกกับแขกที่มาสอบถามหาที่นั่งว่างได้อยู่ แต่ถ้าในกรณีที่โต๊ะแทบจะเต็มอยู่แล้วทุกโต๊ะ คนที่นัดแนะว่าจะมานั่งด้วยยังไม่มา คุณก็ควรมีมารยาทในการปล่อยที่นั่งนั้นให้คนอื่นได้นั่งนะคะ ยิ่งถ้างานกำลังจะเริ่ม แล้วคนที่ว่ายังไม่มา อย่าไปกั๊กเลยค่ะ สงสารแขกท่านอื่นเนอะ

3. ใครเปิดก่อนดี

เวลาที่อาหารลงวางบนกลางโต๊ะ สิ่งที่เจอกันแทบทั้งนั้นคือ อาการลังเลหรือเรียกอีกอย่างว่าดูเชิงจะเกิดขึ้นทันทีประมาณคนไหนบนโต๊ะจะเริ่มต้นตักอาหารก่อนนะ วิธีง่ายๆ ที่เรียกได้ว่าเป็นมารยาทที่ควรทำคือ ลองสังเกตดูว่ามีผู้อาวุโสอยู่ร่วมโต๊ะหรือเปล่า ซึ่งแม้คุณจะไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ก็ควรเชื้อเชิญบอกกล่าวแขกผู้อาวุโสท่านนั้นให้ทานก่อน เพราะเป็นมารยาทที่ผู้อ่อนวัยกว่าพึงกระทำ แต่ในกรณีที่ดูๆ แล้วน่าจะเป็นคนวัยเดียวกัน คุณจะเปิดก่อนก็ไม่ผิด แต่อย่าลืมหันไปชวนคนร่วมโต๊ะทานสักนิดนะคะ

4. ตักเพิ่มได้ไหม

ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นกับเมนูที่เป็นซุปค่ะ อย่างกระเพาะปลา หูฉลามที่มาเป็นชามโต ถ้ามองแล้วทุกคนได้ทานกันครบและยังมีอยู่ในชามกลาง ก็ไม่แปลกนะคะที่คุณจะยื่นมือไปตักเพิ่ม แต่จะแปลกและดูแย่ทันทีหากการตักนั้นเป็นการตักแบบคนทั่วชามเพื่อคัดเฉพาะเนื้อๆ มาใส่ถ้วยส่วนตัว และตักอยู่คนเดียวมากกว่ารอบสอง

มารยาทโต๊ะจีน

5. อย่าลืมใช้ช้อนกลาง

แน่นอนว่าเมื่อนั่งร่วมโต๊ะจีนที่กินอาหารร่วมกันจะมีช้อนกลางมาให้ทุกเมนู ดังนั้นคุณต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่าต้องหยิบช้อนกลางมาตักอาหารสู่จานของตัวเองเสมอ เพราะนอกจากเป็นมารยาทพึงทำแล้ว ยังเป็นการเลี่ยงเรื่องโรคติดต่อที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่าแฝงมากับช้อนของคนอื่นๆ

6. มีความเกรงใจผู้ร่วมโต๊ะ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลุกขึ้นตักอาหาร มารยาทในการทานอาหาร เป็นสิ่งที่คุณควรระวังตัวเสมอเมื่ออยู่ร่วมโต๊ะกับคนอื่น เพราะคุณคงไม่อยากให้ใครเม้าคุณว่าทานอาหารอย่าตะกละตะกลามหรือแม้แต่ลุกขึ้นตักอาหารข้ามหน้าข้ามหัวใช่ไหมล่ะ

7. มีน้ำใจบ้าง

มารยาทข้อสุดท้ายเรียกว่าเป็นคัมภีร์ในการอยู่ร่วมกันกับคนอื่นในสังคมที่คุณต้องไม่ลืมนำมาใช้กับเรื่องมารยาทในการการกินโต๊ะจีนร่วมกับผู้อื่นเสมอ นั่นคือ มีน้ำใจให้เพื่อนร่วมโต๊ะไม่ว่าจะช่วยหยิบช้อนกลางส่งให้ ขยับเก้าอี้เพื่อให้คนอื่นแทรกตัวเข้ามานั่ง หรือแม้แต่การช่วยเติมน้ำที่หมดแก้ว

ทำตามทั้ง 7 ข้อที่แพรวเวดดิ้งแนะนำเสมอเมื่อต้องร่วมทานอาหารโต๊ะจีนกับคนแปลกหน้า รับรองเลยว่า เมื่อลุกขึ้นจากโต๊ะเมื่อไหร่ ไม่มีการโดนนินทาลับหลังชัวร์

 >> ดูไอเดียงานแต่งและคำแนะนำดีๆ ในการวางแผนจัดงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : www.cbc.ca, jonathankuhnphotography.com

10 อาหารที่เหมือนจะเฮลท์ตี้ แต่เจ้าสาวที่อยาก ลดน้ำหนัก ไม่ควรกิน!

อย่าถูกหลอกด้วยชื่อที่เหมือนจะดูดี เพราะ 10 อาหาร ที่คนส่วนใหญ่กินเพื่อ ลดน้ำหนัก เหล่านี้ เจ้าสาว ไม่ควรทานก่อนแต่งงาน!

Anna Mitsios, นักโภชนาการจาก นิว ยอร์ค เปิดเผย 10 อาหารที่ล้วนฟังดูเป็นอาหาร ลดน้ำหนัก และที่จริงหากทานในช่วงเวลาปกติก็สามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้เหมือนกัน แต่ถ้าหากทานช่วงใกล้วันสำคัญแล้วละก็ มีโอกาสที่จะกลับกลายเป็นให้ผลร้ายมากกว่าผลดี มาเฉลยว่าเป็นอาหารอะไรบ้าง มาอ่านกันค่ะ

1. มุสลิ บาร์ (Muesli Bars)

อาหารประเภทแท่ง หรือ บาร์ มักจะต้องใช้น้ำตาลหรือน้ำผึ้งเพื่อยึดเหนื่ยวส่วนประกอบอื่นๆให้อัดอยู่เป็นแท่งได้ เราจึงทานน้ำตาลเข้าไปเป็นปริมาณสูงแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว

ลดน้ำหนัก
babyology.com.au

 

2. น้ำผลไม้บรรจุกล่อง

ต่อให้เขียนข้างกล่องว่าน้ำตาลน้อย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำให้อ้วน ทางที่ดีคั้นสดๆเองที่บ้าน (หรือถ้าอยากทานจริงๆ เลือกยี่ห้อที่ใช้น้ำตาลหญ้าหวานแทนน้ำตาลทรายหรือน้ำเชื่อมค่ะ)ลดน้ำหนัก

3. โปรตีนบาร์

ยี่ห้อส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ มีส่วนผสมที่เป็นสารสังเคราะ์สูง แถมยังมีน้ำตาลเยอะอีกต่างหาก ถ้าอยากได้โปรตีน ทานอาหารจริงๆ อย่างเนื้อสัตว์ หรือไข่ไก่ ดีกว่าค่ะ

ลดน้ำหนัก
Bariatric Food Source

4. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ

หากไม่ใช่กรีกโยเกิร์ตที่ระบุชัดเจนกว่าน้ำตาล 0% จริงจริ๊งงงง โยเกิร์ตส่วนใหญ่แม้จะเป็นรสธรรมชาติก็มักจะเต็มเปี่ยมด้วยน้ำตาลเช่กนัค่ะ

ลดน้ำหนัก
prettysimplesweet.com

5. โปรตีนเกษตร

เพราะเนื้อสัตว์ปลอมส่วนใหญ่ทำจากเต้าหู้ที่ใส่ยีสต์และส่วนผสมสังเคราะห์ในปริมาณสูง สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้อาหาร รวมทั้งสามารถกระตุ้นการเกิดสิวด้วยลดน้ำหนัก

6. ผลไม้อบแห้ง

เหมือนจะเฮลท์ตี้แต่เช่นกันค่ะ….ผลไม้อบแห้งส่วนใหญ่เต็มไปด้วยน้ำตาล เพราะน้ำในเนื้อผลไม้ถูกดูดออกหมดแล้วนั่นเอง

ลดน้ำหนัก
nutritiouseats.com

7. น้ำผลไม้สกัดเย็น (แยกกาก)

เป็นอีกหนึ่งอาหารที่คนเข้าใจผิดว่าแสนจะเฮลท์ตี้ แต่น้ำตาลสูงอีกเช่นเคย และอีกหนึ่งประการคือเมื่อน้ำผลไม้แยกกากออกไปแล้ว จึงไม่มีไฟเบอร์ที่เป็นประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารค่ะ

ลดน้ำหนัก
withfoodandlove.com

8. นมถั่วเหลือง

คนส่วนใหญ่เลือกทานนมถั่วเหลืองเพราะกลัวฮอร์โมนในนมวัว แต่นมถั่วเหลือง (ถ้าไม่ได้คั้นเองที่บ้าน) ก็เสี่ยงที่จะมีสารสังเคราะห์สูง รวมทั้งหากคุณมีปัญหาเรื่องไทรอยด์หรือฮอร์โมนไม่สมดุลอยู่แล้ว ยิ่งไม่ควรทานนมถั่วเหลืองค่ะ

9. กราโนลา

เหมือนกันกับมุสลิบาร์ และโปรตีนบาร์ เพราะกราโนลายี่ห้อส่วนใหญ่ในตลาดจะเคลือบน้ำตาลให้รสชาติดี พยายามหายี่ห้อที่ไม่ผสมน้ำตาลจริงๆ หรือทำกราโนลาเองที่บ้านง่ายๆ ด้วยการผสมข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด กับถั่วอังมอนด์และถั่วอื่นๆ ที่เราชอบค่ะ

10. ซูชิ

หากเป็นปลาที่ไม่สดสะอาดจริง ทานใกล้ๆวันแต่งงานอาจเสี่ยงอาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะปลาแซลมอนที่หากไม่ได้คุณภาพจะมีสารสังเคราะห์เจือปนในปริมาณสูงทีเดียวค่ะ

เซอร์ไพรส์กันไหมคะ สำหรับ 10 อาหารที่เหมือนจะสุขภาพดี แต่ที่จริงอาจจะยิ่งทำให้เราอ้วน หรือมีผลกระทบต่อร่างกายส่วนอื่นได้ รู้แบบนี้เลี่ยงได้ก็เลี่ยงดีกว่าค่าาา แล้วถ้าใครอยากรู้ว่าช่วงใกล้วันแต่งงานเราควรทานอะไรดีละ? คลิกอ่านที่นี่เลย!

Credit Story: marthastewartwedding.com

มงคลแฝดและพวงมาลัยแฝด ใน พิธีแต่งงานแบบไทย เสร็จงานแล้วห้ามทิ้ง!

มงคลแฝด & พวงมาลัยใน พิธีแต่งงานแบบไทย ของมงคลที่บ่าวสาวต้องเก็บรักษาไว้ให้ดี

จัด พิธีแต่งงานแบบไทย หนึ่งครั้งก็มีของที่ต้องใช้มากมายก่ายกอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งของสำคัญอย่าง “ มงคลแฝด ” และ “พวงมาลัยแฝด” ที่มักจะมีคำถามเข้ามาหลังไมค์กับเราเสมอว่า “เสร็จงานแล้วต้องทำอย่างไร?” คราวนี้ใครที่ยังไม่รู้ เรามีคำตอบมาให้ค่ะ

สำหรับมงคลแฝด ตามประเพณีแล้วจะนิยมนำไปใส่ในหมอนหรือที่นอนของคู่บ่าวสาว จากนั้นจึงเย็บปิดแล้วใช้นอนตามปกติ หรือใครที่ไม่อยากกรีดหมอนให้ลำบาก จะนำไปวางไว้บนหัวเตียงหรือเก็บไว้บนหิ้งพระก็ไม่ผิดแต่อย่างใด ส่วนพวงมาลัยแฝด หรือที่หลายคนมักเรียกว่าพวงมาลัยบ่าวสาว หลังเสร็จงานแล้วมักจะนำไปเก็บหรือแขวนไว้กับหิ้งพระภายในเรือนหอก็ได้ค่ะ

รู้อย่างนี้แล้วเจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งหลายอย่าเผลอนำของมงคลทั้งสองอย่างนี้ไปทิ้งนะคะ เก็บไว้ให้เป็นสิริมงคลกับความรักของคุณทั้งคู่จะดีกว่า

และยังมีข้าวของอีกหลายสิ่งที่บ่าวสาวต้องรู้นะ >>> ข้าวของที่ต้องใช้ในพิธีแต่งงานแบบไทย มีอะไรบ้างไปเช็คกัน

อาหารงานแต่งเมนูไหนดี เมนูไหนร้าย บ่าวสาวควรรู้ไว้เพื่อเสริมมงคล

อาหารงานแต่ง เมนูไหนรอด เมนูไหนห้าม มาดูกัน

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญในงานแต่งงานที่บ่าวสาวไม่ควรมองข้ามก็คือเรื่อง อาหารงานแต่ง ที่นอกจากจะต้องอร่อยแล้ว อาหารเหล่านั้นจะต้องเป็นมงคลด้วย แพรว wedding เลยขอพาเข้าครัวบุกชี้เมนูไหนดีพร้อมเสิร์ฟ และเมนูไหนควรเก็บให้ไกลด่วนๆ มาฝาก (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละครอบครัวนะคะ ^^)

อาหารมงคล เสริมรักยั่งยืน

ห่อหมก สื่อความหมายให้คู่บ่าวสาว เออออห่อหมก ไปกันได้ด้วยดีในทุกเรื่อง
ขนมจีบ หมายถึงความรักหวานชื่นเหมือนตอนจีบกันใหม่ๆ ตลอดไป
ขนมจีนน้ำยา เชื่อว่าจะทำให้ครองรักกันยืนยาวเหมือนเส้นขนมจีน และผักเครื่องเคียงอย่างถั่วงอก มีความหมายถึงความเจริญงอกงาม
ข้าวเหนียว สื่อถึงความรักที่เหนียวแน่น มั่นคง

อาหารต้องห้าม นามไม่เป็นมงคล

ต้มยำ เป็นอาหารรสชาติเผ็ดร้อน เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตคู่เกิดการทะเลาะกันแบบร้อนแรง
ปลาร้า เป็นของหมักดอง มีกลิ่นเหม็น เชื่อว่าจะทำให้ความรักของทั้งคู่โดนดอง จนเบื่อและเหม็นหน้ากัน
หอยขม ด้วยชื่อสื่อถึงความรักที่ขมขื่น จึงไม่นิยมนำหอยขมมาทำเป็นอาหารในงานมงคล
แกงบอน เปรียบได้กับปากบอน ปากเสีย เป็นเหตุให้ทะเลาะกันจนเลิกรา
หมี่กรอบ มีลักษณะหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ง่าย สื่อความหมายถึงความรักที่เปราะบางถึงขั้นแตกหัก
ข้าวต้ม เป็นอาหารที่ใช้ในการอวมงคลหรืองานศพ จึงไม่นิยมนำมาใช้ในงานแต่งงาน
ตีนไก่ ไม่นิยมนำมาทำเป็นอาหารในงานแต่ง เพราะเชื่อว่าจะทำให้คู่บ่าวสาวทะเลาะวิวาทกันจนถึงขั้นเลือดตกยางออก

ปัจจุบันความเชื่อเรื่องอาหารเหล่านี้ถูกลดทอนลงไปบ้างแล้ว อย่างเช่น ต้มยำ หมี่กรอบ หรือข้าวต้ม ก็เป็นอาหารที่พบเห็นกันมากขึ้นในงานแต่ง แต่สุดท้ายเราเชื่อว่าความรักความเข้าใจของคนสองคน มีอิทธิพลกับชีวิตคู่มากกว่าสิ่งอื่นใด จริงไหมล่ะคะ

ว่าแล้วก็ตามไปส่อง ธรรมเนียมการกินของบ่าวสาวในงานแต่งงานของแต่ละประเพณี กันหน่อยดีกว่า

ภาพ : jitramas.co.th, www.yaklai.com

ความเชื่อถือตะเกียงไฟในงานแต่งงานจีนมีความสำคัญอย่างไร

เคยสงสัยกันไหมคะ ว่าทำไมถึงมีความเชื่อเรื่องถือตะเกียงไฟใน งานแต่งงานจีน ด้วย แล้วตะเกียงไฟมีความสำคัญ อย่างไร ใช้ตอนไหนในพิธี เราหาคำตอบมาให้แล้วค่ะ

งานแต่งงานจีน

งานแต่งงานจีน

เมื่อจัดงานแต่งงานพิธีจีนเสร็จลุล่วงแล้ว ขั้นตอนต่อไป จะเป็นการพาเจ้าสาวไปหาเจ้าบ่าวยังเรือนหอ ทางญาติฝั่งเจ้าสาวจะต้องเป็นผู้เตรียมตะเกียงน้ำมันเอาไว้ (แต่ในปัจจุบันใช้เป็นตะเกียงไฟฟ้า) แล้วมอบให้ทางญาติเจ้าบ่าว ทั้งนีี้ผู้ที่ถือตะเกียงจะต้องเป็นผู้ชาย ซึ่งอาจจะเป็นน้องชายเจ้าบ่าวหรือหลานก็ได้ แต่ให้อายุน้อยกว่าและเป็นผู้ชายเท่านั้น เพราะมีความเชื่อว่าถ้าผู้ชายเป็นคนถือตะเกียง จะทำให้บ่าวสาวได้ลูกชายนั่นเอง ส่วนผู้ที่ได้ถือตะเกียงก็จะได้รับ
ซองอั่งเปาแดงๆ จากเจ้าบ่าวไปอีกจำนวนหนึ่งเลยล่ะค่ะ

งานแต่งงานจีน

ระหว่างทางการเดินทางไปยังเรือนหอ ห้ามทำไฟในตะเกียงดับเด็ดขาด เพราะถือเป็นแสงสว่างที่ช่วยทำให้คู่บ่าวสาวเดินทางได้โดยสวัสดิภาพ ในปัจจุบันจึงนิยมให้ผู้ถือตะเกียงเดินทางโดยรถยนต์ไปพร้อมกับบ่าวสาว โดยนั่งเบาะหน้านั่นเองค่ะ แล้วเมื่อถึงเรือนหอแล้ว ห้ามทำตะเกียงดับเด็ดขาด และให้จุดวางไว้บนหัวนอนตลอด 3 วัน 3 คืน ที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวอยู่ภายในเรือนหอค่ะ

งานแต่งงานจีน

ในปัจจุบันจะนิยมใช้ตะเกียงไฟฟ้าแทนตะเกียงน้ำมันแล้ว โดยคู่บ่าวสาวสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของแต่งงานพิธีจีนได้ หรือจะลองไปเดินเลือกแถวเยาวราชก็ได้นะจ๊ะ

Read More : ข้าวของห้ามมี…ความเชื่อในงานแต่งจีน

ภาพจาก : Pinterest.com , Chinatownyaowarach.com

เลือกดอกไม้งานแต่งตามฤดูกาล เคล็ดลับช่วยบ่าวสาวประหยัดงบได้

เพราะดอกไม้กับงานแต่งงานนั้นเป็นเรื่องที่แทบแยกออกจากกันไม่ได้ ยิ่งเป็นงานแต่งงานขนาดใหญ่ ปริมาณในการใช้ดอกไม้ก็ยิ่งมากขึ้นตามไปอีก แล้วถ้าเป็นดอกไม้หายากหรือต้องสั่งจากต่างประเทศด้วยล่ะก็ เรื่องราคาคงไม่ต้องพูดถึง อย่างที่เห็นกันอยู่บ่อยๆว่างานแต่งงานบางงานนั้นงบประมาณในการจัดดอกไม้สูงมาก หรืออาจจะเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ในตอนแรกอีกด้วย การเลือกใช้ดอกไม้จึงมีผลต่อสุขภาพของกระป๋าสตางค์คุณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าอย่างนั้นลองเลือกดอกไม้ที่หาได้ง่ายในช่วงเวลาที่คุณจัดงานแต่งกันดีมั้ยคะ ง่ายๆคือ เมื่อกำหนดวันแต่งงานได้เรียบร้อยแล้ว ก็ลองดูว่าในช่วงเวลานั้นจะมีดอกไม้อะไรออกมาบ้าง วิธีการนี้จะทำให้คุณมีดอกไม้ในปริมาณที่เพียงพอเพราะหาได้ง่ายตามท้องตลาด และที่สำคัญคือได้ ดอกไม้งานแต่ง ราคาที่สบายกระเป๋าขึ้นอีกเป็นกอง ลองดูค่ะ

 

ดอกไม้งานแต่ง

ดอกกุหลาบ เป็นดอกไม้ที่สามารถเลือกใช้ได้ตลอดทั้งปี แต่หากคุณแต่งงานในช่วงวันวาเลนไทน์ล่ะก็ ราคาของดอกกุหลาบจะแพงโหดมาก หากแต่งงานในช่วงนี้อาจจะหลีกเลี่ยงการใช้ดอกกุหลาบไปก่อน แล้วลองดูพวกดอกเยอบีร่า คาร์เนชั่น ดอกยิปโซ ดอกบัว หรือหน้าวัวที่มีราคาน่าคบหาแถมยังหาได้ตลอดทั้งปีด้วยนะคะ

ดอกไม้งานแต่ง

ดอกไฮเดรนเยียร์ ที่มีแพร่หลายในประเทศไทยนั้นออกดอกทั้งปี แต่จะสวยงามและออกดอกมากที่สุดในช่วงหน้าร้อนถึงช่วงต้น ฤดูฝน เพราะเมื่อเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวดอกจะเริ่มแคระแกรนไม่เหมาะแก่การใช้งานแล้วค่า

ดอกไม้งานแต่ง

กล้วยไม้ เป็นดอกไม้ที่หาง่ายในบ้านเราและมีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือก ความสวยงามก็จะแตกต่างกันไป ทั้งนี้กล้วยไม้อาจจะสามารถหาได้ง่ายก็จริง แต่ดอกจะสวยและออกสู่ตลาดในปริมาณมากๆ พร้อมกับราคาถูกสุดๆ ในช่วงฤดูหนาวเท่านั้นนะคะ

ดอกไม้งานแต่ง

ดอกลิลลี่ ปัจจุบันเมืองไทยเราปลูกดอกลิลลี่กันแพร่หลายมากที่ภาคเหนือ และจะออกดอกมากตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปจนถึงช่วงฤดูหนาวของทุกปี ใครหลงรักลิลลี่ห้ามพลาดเชียว

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเทคนิคการจัดงานแต่งงานและดูไอเดียงานแต่งได้อีกเพียบที่นี่ คลิกเลย <<

#ฟินหนักมาก กับไอเดียการจัดงานแต่งงานริมทะเลสุดเก๋

ได้จัด งานแต่งงานริมทะเล ทั้งทีจะมาจัดแบบพิ้นๆ ธรรมดาคงไม่ได้ ก็แหม ได้โลเคชั่นสุดเก๋ขนาดนี้ในงานก็ต้องมีดีเทลกันหน่อย แพรวเวดดิ้งไม่รอช้าขอมุ่งหน้าสู่ทะเลไปซึมซับบรรยากาศ แล้วนำเอาไอเดียการจัดงานแต่งริมทะเลสุดเก๋มาฝากว่าที่ทั้งหลายให้แล้วจ้า

Seashell

FullSizeRender[2]          ใช้เปลือกหอยในการตกแต่งสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เค้ก แบ็กดร็อป บูเกต์ บูโทเนียร์ เซ็นเตอร์พีซ ฯลฯ

Beach Wedding Favours

FullSizeRenderแจกของชำร่วยเก๋ๆ ที่เข้ากับบรรยากาศริมทะเลอย่างหมวก แว่นกันแดด ร่ม รองเท้าแตะ หรือผ้าขนหนู รับรองว่าบรรดาแขกเหรื่อต้องถูกอกถูกใจและได้หยิบมาใช้ประโยชน์กันทันที

Beach Wedding Guestbook

FullSizeRender[3]เปลี่ยนจากการเขียนคำอวยพรลงในสมุดมาเป็นการเขียนลงบนสิ่งของที่เกี่ยวกับทะเล เช่น ห่วงยาง กระดานโต้คลื่น ไม้พาย เก้าอี้ชายหาด เปลือกหอย เป็นต้น

Sand Ceremony

137ed7811df75b2c6f0dc770f656fd9aเปลี่ยนกิจกรรมไฮไลท์จากการตัดเค้กมาเป็น Sand Ceremony ที่เป็นการเททรายลงในขวดโหลร่วมกัน ดูน่ารักกุ๊กกิ๊กเข้ากับบรรยากาศหาดทรายสายลม แถมยังมีความหมายดีๆ ที่สื่อถึงการรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคู่บ่าวสาวและสองครอบครัวอีกด้วย

Sparklers

FullSizeRender[1]เตรียมไฟเย็นไว้ให้แขกเหรื่อได้จุดเล่นกัน นอกจากจะเป็นการสร้างกิจกรรมสนุกๆ แล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศริมทะเลยามค่ำคืนที่โรแมนติกชวนฝันอีกด้วย แต่เสร็จงานแล้วอย่าลืมเก็บก้านให้หมดนะคะ รักกันแล้วต้องรักโลกด้วย

Anklet

FullSizeRender[4]          สำหรับเจ้าสาวหรือเพื่อนเจ้าสาวที่เปลือยเท้า ลองใส่สร้อยข้อเท้าสวยๆ สักเส้นสิคะ รับรองว่าเริดแน่นอน

ขอบคุณภาพจาก : www.pinterest.com

>> ดูไอเดียและคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<a a

3 ธีมพานขันหมากไทยสไตล์ประยุกต์สวยหรูสุดสร้างสรรค์

ปัจจุบันว่าที่บ่าว – สาวหลายคู่นิยมจัดพิธีแต่งงานไทยแบบประยุกต์กันมากขึ้น เช่น ไม่เน้นพิธีที่เป็นทางการมากนัก เลือกจัดในสถานที่เรียบง่ายหรือบรรยากาศแบบเอ๊าต์ดอร์ และบางคู่เลือกสวมชุดเดรสหรือสูทสากลแทนชุดไทย จึงทำให้เทรนด์ พานขันหมากไทย แบบประยุกต์ที่ไม่เน้นงานใบตอง แต่โดดเด่นด้วยดีไซน์อันสร้างสรรค์จากการจัดดอกไม้หรือใช้พร็อปส์ต่างๆ เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น

แพรว wedding เลยคัด 3 ร้าน 3 สไตล์พานขันหมากไทยแบบประยุกต์มาให้ว่าที่บ่าว – สาวได้ชม เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจดีๆ ในการนำไปใช้กับงานของตัวเอง

DREAMISTA STUDIO

พานขันหมากไทย

Dreamista Studio ร้านพานขันหมากที่มีจุดเด่นอยู่ที่ดีไซน์แปลกใหม่ไม่เหมือนใครในคอนเซ็ปต์ Rustic Wood โดยได้แนวความคิดมาจากงานแต่งงานสไตล์สวนที่มีกลิ่นอายรัสติกนิดๆ ซึ่งปัจจุบันงานแต่งในสวนกำลังเป็นที่นิยมของบ่าว – สาว และเป็นเทรนด์งานแต่งในปี 2019 อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเข้ากันได้ดีกับงานแต่งงานในร้านอาหารที่มีบรรยากาศไม่เป็นทางการมากนัก

พานขันหมากเน้นสีเขียวของใบไม้ในการตกแต่ง หรือถ้าหากบ่าว – สาวกลัวว่าสีจะเข้มเกินไปดูไม่อ่อนหวาน อาจแซมด้วยดอกหญ้าหรือดอกยิปโซเล็กๆ สีขาวเพิ่มได้ นอกจากนี้ตัวโครงสีขาวที่ครอบพานขันหมากยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบหรือตามธีมงานของแต่ละคู่ได้อีกด้วย

พานขันหมากคอลเล็กชั่น Rustic Wood เหมาะสำหรับธีมงานสีขาว – เขียว ยิ่งถ้าหากสถานที่แต่งงานตกแต่งด้วยไม้เป็นหลักจะยิ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดี ส่วนชุดแต่งงานเจ้าสาวที่เป็นชุดไทย แนะนำให้สวมชุดในโทนสีฟ้าไปจนถึงโทนสีเขียว โดยเลือกเฉดสีให้เหมาะกับสีผิวของตัวเองเป็นหลักก็จะยิ่งช่วยให้ภาพรวมของงานทั้งหมดออกมาดูดี

พานขันหมากไทย

พานขันหมากไทย

พานขันหมากไทย

พานขันหมากไทย

นอกจากพานคอลเล็กชั่น Rustic Wood ในธีมสีเขียวแล้ว ทางร้านยังมีคอลเล็กชั่น White Pink Brass และ Red Roses ไว้รองรับสำหรับธีมงานแต่งสไตล์อื่นๆ อีกด้วย

ร้าน Dreamista Studio
โทร.
08-3639-3546
ไอจี : @dreamista.stu
เฟซบุ๊ก : Dreamista Studio :พานขันหมากให้เช่า
ไลน์ : @dreamista.studio
เว็บไซต์ : www.dreamistastudio.com

แพตเทิร์น สูทเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าบ่าวสุดคลาสสิค ใส่ปีไหนก็ไม่ตกยุค

4 สไตล์ สูทเจ้าบ่าว และผองเพื่อนบอกเลยว่าหล่อรอดทุกลุค

ว่าที่เจ้าบ่าว หรือเพื่อนเจ้าบ่าวที่ยังเก้ๆ กังๆ ตกลงกันไม่ไดสักทีว่าจะแต่งธีมแบบไหนไปงานแต่งเพื่อน ไม่ต้องเถียงกันให้คอขึ้นเอ็นอีกแล้วค่ะ เพราะแพรว wedding รวบ 4 ธีม สูทเจ้าบ่าว และผองเพื่อนสุดฮิตที่ใส่ไปงานไหนก็รอดทุกคน แถมยังหยิบมาใส่วนได้ทุกปีเพราะการันตีไม่มีตกยุคแน่นอน

1. Black Tie

สูทสีดำพร้อมโบไทสีเดียวกันสุดเข้ม เป็นสไตล์ที่ไม่ว่าเจ้าบ่าวชาติไหนก็นิยมใส่กันทั่วโลกไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพราะเข้ากับบรรยากาศงานแต่งทุกงานไม่ว่าจะเป็นงานเช้าแบบสบายๆ ไปจนถึงปาร์ตี้ค็อกเทลแบบจัดหนัก ซึ่งสามารถเพิ่มกิมมิกเปลี่ยนสีโบไทให้เข้ากับธีมสีของงานดูก็ได้นะคะ เก๋ๆ ไปอีก

2. Light Jackets

แจ็คเกตสูทสีอ่อนให้อารมณ์กึ่งทางการ เหมาะมากหากคุณจัดงานเอ้าท์ดอร์หรือท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ของสวนสีเขียวที่ไม่ต้องการพิธีรีตองมากนัก ถ้าจะให้ดีแนะนำให้เพิ่มแอคเซสซอรี่อย่างเนคไทหรือไบไทสีอ่อน ก็จะดูเป็นชายหนุ่มละมุนขึ้นมาทันตา

3. Royal Blue

อีกหนึ่งเฉดสีสุดฮิตที่ใส่แล้วดูเป็นหนุ่มมีมาดสายแฟชั่นนิสต้าขึ้นมาทันที และยังเป็นสีสุดคลาสสิคที่ชายหนุ่มควรจะมีติดตู้ไว้สักหนึ่งชุด เพราะเป็นธีมสีที่ได้รับความนิยมไม่เคยตกยุคจริงๆ และหากอยากดูเป็นเด็กหนุ่มแสนซนขี้เล่นขึ้นมาอีกนิด แนะนำให้เลือกเฉดสีน้ำเงินที่สว่างๆ หน่อยนะคะ จะได้ไม่เป็นทางการมากเกินไป และถ้าจะให้ดีควรสวมสูทสีนี้คู่กับรองเท้าสไตล์ Brogues สีน้ำตาลอ่อน การันตีลุคนี้คอมพลีทแน่นอน

4. Check Mate

ลายตาราง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับใส่ไปงานแต่ง เพราะให้ลุคดูเป็นหนุ่มแคชชวล ไม่ว่าจะสวมเป็นเสื้อกั๊กด้านใน หรือจะเลือกใส่เป็นสูทด้านนอกก็ทันสมัยไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสวมไปงานแต่งธีม rustic รับรองว่าโดดเด่นเกินใครแน่นอน

อย่าลืมจบลุคด้วย 10 แบบปกคอเสื้อคุณผู้ชายกับการแมตช์แอคเซสซอรี่ยังไงให้ลงตัว

ภาพ : elizabethannedesigns.com, http://blog.trashness.com, pinterest.coma a

เช็กลิสต์บิวตี้ นับถอยหลัง 12 เดือนเป็นเจ้าสาวสุดเพอร์เฟกต์

ช่วงต้นปีแบบนี้เจ้าสาวหลายคนอาจจะกำลังเตรียมนับถอยหลังเข้าสู่ประตูวิวาห์ในช่วงปลายปี โดยเฉพาะการเตรียมเรื่องความสวย ความงามเจ้าสาว ที่มักให้ความสำคัญเป็นพิเศษ แพรว wedding เลยจัด เช็กลิสต์บิวตี้ ฉบับสมบูรณ์แบบมาให้ได้เตรียมตัวกันยาวๆ แต่ถ้าเจ้าสาวคนไหนที่มีวันสำคัญเร็วกว่านั้นเช็กลิสต์นี้ก็ช่วยกู้ความงามฟื้นฟูความสวยได้เหมือนกัน มีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

9 – 12 MONTH BEFORE

เช็กลิสต์บิวตี้

เริ่มคิดภาพตัวเองในลุคเจ้าสาว
ด้วยการภาพคิดแบบชุดแต่งงาน และหน้าผมว่าอยากให้ออกมาเป็นอย่างไร สิ่งนี้โลกอินเทอร์เน็ตและพินเทอเรสต์ช่วยคุณได้

วางแผนและดูแลเส้นผม
เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เจ้าสาวอยากจะตัด ดัด หรือยืดผม และเตรียมหาช่างทำผมคู่ใจ และหาแบบทรงผมในวันงาน แล้วอย่าลืมจองคิวช่างหากเขาคนนั้นคือคนที่เจ้าสาวจะเลือกใช้

เตรียมหาช่างแต่งหน้าในวันงาน และจองคิวไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ

***ก่อนจองช่างแต่งหน้าทำผมอย่าลืมตกลงเรื่องราคา นัดวัน เวลา และสถานที่ให้เรียบร้อยแน่ชัด

5 – 6 MONTH BEFORE

เช็กลิสต์บิวตี้

วางแผนการดูแลผิวอย่างถูกต้อง
ให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังดูแลผิวของเจ้าสาว เพื่อที่จะได้เลือกการบำรุงรักษาได้อย่างตรงจุดและเหมาะกับสภาพผิวของเจ้าสาวที่สุด และนี่ยังเป็นช่วงเวลาที่เจ้าสาวอยากจะลองทรีทเม้นต์หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อที่จะหาสิ่งที่เหมาะกับสภาพผิวที่สุด เพราะถ้าหากเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองยังพอมีเวลาแก้ไขรักษาได้ทัน และถ้าหากเจอผลิตภัณฑ์หรือการบำรุงผิวที่ถูกต้องแล้ว เราขอแนะนำว่าให้ทำและใช้สิ่งนั้นเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ และอย่าได้ลองเปลี่ยนสิ่งใหม่เด็ดขาด

วางแผนการกินวิตามิน
โดยเฉพาะวิตามินบีรวมที่มีประโยชน์กับร่างกายเหมาะกับเจ้าสาวที่ต้องเตรียมงานแต่งอย่างหนักหน่วง และอาจจะเสริมด้วยวิตามินสำหรับผิว ผม และเล็บ ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าสาวอยากดูแลสิ่งไหนเป็นพิเศษ

วางแผนการดูแลสุขภาพ
ตัดความหวานและกาเฟอีนออกจากชีวิตในช่วงนี้ไปก่อน แล้วหันมาดื่มน้ำเปล่าเพื่อสุขภาพที่ดีต่อทั้งร่างกายและผิวพรรณ รวมทั้งหาแผนออกกำลังกายที่คุณชื่นชอบ

2 – 4 MONTH BEFORE

ได้เวลาทำสีผมสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการเปลี่ยนลุคแล้ว รวมไปถึงการสร้างเค้าโครงของคิ้วให้ได้รูป เช่น การแว็กซ์ เป็นต้น

เช็กลิสต์บิวตี้

1 MONTH BEFORE

เตรียมอุปกรณ์เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในวันแต่งงาน
– ชุดเข็มและด้ายขนาดพกพา
– แฟชั่นเทป
– อุปกรณ์สำหรับทัชอัพ เช่น กระดาษซับมัน, แป้งพัฟ, ลิปสติก, ลิปกลอส
– เข็มกลัด
– กิ๊บดำและสเปรย์จัดแต่งทรงผมขนาดเล็ก
– น้ำหอมเพิ่มเสน่ห์ หรือสเปรย์ระงับกลิ่นกาย
– ยาแก้ปวดหัว ปวดท้อง

3 WEEKS BEFORE

– ทำทรีทเม้นต์ผิวครั้งสุดท้ายเพื่อให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ส่วนเจ้าสาวคนไหนที่ยังไม่ได้เริ่มทำ ช่วงเวลานี้ล่ะค่ะที่คุณจะต้องเริ่มแล้ว
– ได้เวลาเล็มผมครั้งสุดท้าย และเติมโคนผมสำหรับเจ้าสาวผมทำสี

1 WEEKS BEFORE

– สครับริมฝีปาก
– มาร์กหน้า
– เริ่มแว็กซ์ขนในบริเวณที่เจ้าสาวต้องการ
– ตัดอาหารประเภทโซเดียมเพื่อลดอาการท้องอืด และหันมารับประทานอาหารที่เพิ่มการเผาผลาญ
– ปล่อยวางความเครียดแล้วหากิจกรรมเพื่อความผ่อนคลาย เช่น โยคะ จะได้เป็นเจ้าสาวที่สวยจากภายในอย่างแท้จริง

1 DAY BEFORE WEDDING DAY

– ทำเล็บให้สวยเตรียมรับวันสำคัญ
– ไปผ่อนคลายให้เต็มอารมณ์ด้วยการทำสปากับแก๊งเพื่อนสาวหรือเจ้าบ่าวสุดที่รัก
– เตรียมผิวให้สวยครั้งสุดท้ายก่อนถึงวันแต่งงาน ด้วยการบำรุงผิวหน้าเพื่อช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นของผิว
– หากเจ้าสาวจะสระผมในคืนก่อนวันแต่งงาน ห้ามลงครีมนวดเด็ดขาด เพราะจะทำให้ช่างทำผมของคุณได้ยากขึ้น
– นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

WEDDING DAY

– อย่าลืมบอกให้เจ้าบ่าวโกนหนวดสักนิด
– เติมความชุ่มชื้นให้ผิว
– สุดท้ายปล่อยวางทุกสิ่ง ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น แล้วสนุกในวันสำคัญของคุณให้เต็มที่

ภาพ : videoblocks.com, pinterest.com, travelandleisure.com

>> ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<a a a a

5 เรื่องสำคัญที่เพื่อนเจ้าสาวต้องรู้ ถ้าไม่อยากสร้างปัญหาให้งานแต่ง

งานแต่งที่ใดเป็นได้แค่ เพื่อนเจ้าสาว แหม! ถึงจะเป็นแค่เพื่อนเจ้าสาวแต่ตำแหน่งนี้ก็สำคัญนะจ๊ะ เพราะเปรียบเสมือนมือขวาที่เจ้าสาวไว้ใจให้ช่วยดูแลเรื่องต่างๆ ของงานวิวาห์ จะมาทำตัวโก๊ะๆ กังๆ ไม่ได้นะ ต้องทำตัวให้เริด เชิด เตรียมพร้อมรับแขกอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากสร้างปัญหาในงานแต่งของเพื่อนรักก็อ่าน 5 ข้อต่อไปนี้ให้ดีๆ นะจ๊ะ

1. นัดต้องเป็นนัด อย่าช้า อย่ามาสาย!

เป็นเรื่องปกติที่ทุกงานแต่งจะต้องนัดเหล่าเพื่อนเจ้าสาวมาแต่งหน้าทำผมกันตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะฉะนั้นอย่าได้อิดออดขอนอนต่อจนมาสายเด็ดขาด หลายคนมักคิดว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวแต่งหน้าทำผมเองก็ได้” แต่ถ้าคุณไม่ใช่เพื่อนเจ้าสาวคนเดียวของงานก็เลิกคิดไปได้เลยค่ะ! เพราะสไตล์การแต่งหน้าของกลุ่มเพื่อนเจ้าสาวนั้นควรจะแมตช์และไปในทางเดียวกัน จะให้คนหนึ่งสโมกกี้อายทาปากแดง ส่วนอีกคนสวยหวานทาปากสีนู้ดมามันก็คงดูตลก เอาเป็นว่าถ้าเจ้าสาวเขาหาช่างหน้า-ช่างผมมาให้ คุณก็ตื่นไปแต่งหน้าฟรีๆ เถอะ รับรองว่าสวยแบบไม่แปลกแยกแน่นอน!

2. รับผิดชอบหน้าที่ให้ดีที่สุด

ถ้าคุณได้รับเกียรติให้เป็นเพื่อนเจ้าสาว ก็ขอให้นึกไว้เสมอว่า “เจ้าสาวไว้ใจคุณ” รายละเอียดเกี่ยวกับงานบางอย่างเธออาจมอบหมายให้คุณช่วยดูแล เพราะฉะนั้นอย่าทำให้เพื่อนรักของคุณต้องผิดหวังด้วยการละเลยหน้าที่ของตัวเอง หรือหลงลืมนำสิ่งของที่เธอบอกให้เตรียมมาด้วย เป็นเพื่อนเจ้าสาวทั้งทีก็ทำให้เต็มที่ไปเลยนะ

3. ดริ๊งก์แบบพอหอมปากหอมคอ

เข้าใจค่ะว่างานเลี้ยงฉลองมันก็ต้องมีจิบแอลกอฮอล์กันบ้าง แต่ถ้าเป็นพิธีการในช่วงเช้าแนะนำว่าเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปจิบกาแฟจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องยืนหาวหรือนั่งสัปหงกในงาน ส่วนงานเลี้ยงช่วงเย็นก็ขอให้ยับยั้งชั่งใจเอาไว้หน่อย ดื่มนิดๆ พอเป็นพิธี จะได้มีสติช่วยดูแลเจ้าสาวและแขกเหรื่อไปได้ตลอดรอดฝั่ง

4. อย่าจู้จี้ขี้บ่นเป็นคนแก่

ลำพังแค่เตรียมงานแต่งว่าที่เจ้าสาวก็ทั้งกังวลทั้งเครียดมากพออยู่แล้ว ไหนจะความคาดหวังจากคนในครอบครัวที่อยากได้อย่างนั่นอย่างนี่อีก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดที่เพื่อนเจ้าสาวอย่างคุณจะทำได้คือ “ให้กำลังใจ” กับเพื่อนรักของคุณ อย่าทำท่าทีขี้บ่นหรือติติงในเรื่องไม่เป็นเรื่องจนเจ้าสาวต้องพาลน้อยใจและทำให้บรรยากาศงานกร่อยไปอีก เอาเป็นว่าเพื่อนช่วยเพื่อน ต้องยืนเคียงข้างและเป็นกำลังใจให้กันดีกว่านะ

5. เป็นคนกลางที่ดี

ในช่วงระหว่างการเตรียมงานแต่งและวันงานจริง อาจมีข้อขัดแย้ง ข้อผิดพลาด หรือการกระทบกระทั่งกันระหว่างคนรอบตัวกับบ่าวสาว หรือแม้กระทั่งบ่าวสาวทะเลาะกันเอง ถ้ามันไม่เหนือบ่ากว่าแรงของเพื่อนเจ้าสาวอย่างคุณจนเกินไป ก็ขอให้คุณเป็นกรรมการระหว่างคู่ขัดแย้ง ช่วยคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นให้ลงตัว และพยายามไม่กลายเป็นคนมีปัญหาเสียเอง จำไว้เสมอว่า คุณมาช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น ทำให้เพื่อนมีความสุขและซัพพอร์ตเพื่อนรักจนกระทั่งเธอเดินถึงประตูวิวาห์อย่างหน้าชื่นตาบานเถอะ

>> ดูไอเดียเกี่ยวกับเพื่อนเจ้าสาวอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ข้อมูล : www.brides.com
ภาพ : pexels.com a a

อย่าเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยการเป็นหนี้! มาดูทริคการจัดการค่าใช้จ่ายงานแต่งงานสุดเวิร์ก

สำหรับการจัดงานแต่งงานเพื่อประกาศอย่างเป็นทางการว่าทั้งสองคนพร้อมที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ซึ่งว่าที่บ่าวสาวจะต้องร่วมกันคำนวณ ค่าใช้จ่ายงานแต่งงาน ที่จะใช้จัดงาน แต่อาจจะยังเริ่มต้นไม่ถูกว่าจะตั้งงบประมาณเท่าไรถึงจะเหมาะสม แพรวเวดดิ้ง จึงขอนำเสนอทริคการจัดการงบประมาณสุดเวิร์คสำหรับใช้จ่ายในงานแต่งงานโดยการแบ่งรายจ่ายออกเป็น 4 ส่วนง่ายๆ ดังนี้

 

1. ค่าใช้จ่ายในการจัดงาน >> 60%

ทั้งพิธีทางศาสนาและประเพณี รวมทั้งงานเลี้ยงฉลองเป็นค่าใช้จ่ายที่มีสัดส่วนที่มากที่สุด เนื่องจากมีการรับรองแขกของทั้งสองครอบครัวและเพื่อนๆ ประกอบไปด้วย ค่าสถานที่และอุปกรณ์จัดพิธี ค่าอาหารในพิธีและงานเลี้ยง ค่าเครื่องดื่ม บางงานอาจมีค่าผู้ช่วยจัดงาน (Organizer) อีกด้วย สำหรับว่าที่บ่าวสาวบางคู่อาจมีความหวังในการใช้เงินจากการที่แขกใส่ซองมาใช้จ่ายค่าจัดงาน แต่อย่าลืมว่าเงินซองที่ได้มาอาจไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ควรปรับลดค่าใช้จ่ายในการจัดงาน โดยอาจเปลี่ยนสถานที่จากโรงแรมหรูหราเป็นร้านอาหารบรรยากาศดีๆ จำกัดจำนวนแขกให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มี ลดหรืองดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

2. ค่าใช้จ่ายของบ่าวสาว >> 15%

ได้แก่ ค่าชุดแต่งงานในพิธีและงานเลี้ยงค่าจ้างช่างแต่งหน้าทำผม ค่าคอร์สบำรุงผิว เพื่อให้เป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่หล่อและสวยที่สุดในวันสำคัญ หากอยากจ่ายเงินน้อยลงในส่วนนี้ก็สามารถเช่าชุดแทนการตัดใหม่ หรือออกกำลังกายและกินอาหารที่มีประโยชน์เพื่อบำรุงผิวด้วยตัวเองแทนการเข้าคอร์สราคาแพง

3. ค่าใช้จ่ายในการสร้างบรรยากาศในงาน >> 10%

ได้แก่ ค่าดอกไม้ ตกแต่งสถานที่ แสงสีเสียง วงดนตรีที่จะช่วยสร้างบรรยากาศในงานให้เต็มไปด้วยความสุข แต่ก็สามารถลดค่าใช้จ่ายได้โดยเลือกใช้ดอกไม้ประดิษฐ์ เลือกสถานที่ที่สวยงามอยู่แล้ว จัดงานกลางวันเพื่อใช้แสงธรรมชาติ หรือเปิดเพลงแทนการจ้างวงดนตรี

4. ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด >> 15%

เช่น การ์ดเชิญ ของชำร่วย ของรับไหว้ญาติผู้ใหญ่ ช่างภาพวันงาน รูป Pre-wedding Presentation ฯลฯ หากต้องการประหยัดก็สามารถใช้ภาพถ่ายที่มีอยู่แทนการถ่ายใหม่ ประดิษฐ์ของชำร่วยหรือทำ Presentation เอง ซึ่งสามารถถ่ายทอดความเป็นตัวตนของบ่าวสาวได้ดี และสร้างความทรงจำที่ดีในการลงมือทำร่วมกันอีกด้วย

>> ติดตามไอเดียและคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ข้อมูลโดย ฝ่ายส่งเสริมความรู้ทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย

สารพัดไอเดียข้อมือเพื่อนเจ้าสาว ไม่ว่าจะแต่งธีมงานไหนก็จัดเลย

ข้อมือเพื่อนเจ้าสาว เป็นหนึ่งในหลายสิ่งที่ใช้เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าเธอคนนี้คือเพื่อนเจ้าสาว  แต่ถ้าเหมือนๆ กันทุกงานก็น่าเบื่อแย่ เราขอจัดดอกไม้ข้อมือสวยๆ มาให้ดูเป็นไอเดียสำหรับเจ้าสาวจัดให้เพื่อนรัก

0adbd1229250c4b4ba694a02b59ea842

ทำเป็นกำไลเก๋ๆ ใช้ดอกไม้ดอกใหญ่ดอกเดียวติดเข้ากับโครงกำไลทองเหลือง ถ้าใช้ดอกไม้ปลอมก็เอาไปใช้เป็นเครื่องประดับได้อีกยาวๆ

002f614432ef91bd73c25e3c8cd4d36e

ปกติจะเห็นแต่ดอกไม้ใหญ่ๆ กับริบบิ้นเล็กๆ งานนี้สลับกันเป็นโบว์ใหญ่กับดอกไม้เล็กๆ ก็สวยแปลกตาไปอีกแบบ แล้วถ้าที่ริบบิ้นมีลูกเล่นด้วยก็จะยิ่งทำให้สวยมากขึ้น

2a15a0d63edf003fffd8fd49fdbc0c0f

ใช้ดอกไม้หลายๆ สีมารวมเข้าช่อกันไว้ อย่างแบบนี้ก็เข้ากับธีมสีชมพูหวานตัดความเลี่ยนด้วยการแซมสีเขียวลงไป

2f7c9acf89c12cf4ad672055edf67464

งานนี้มาเป็นพวงมาลัยคล้องข้อมือเลยจ้า ดอกไม้กันทั้งวงไม่มีริบบิ้นมาผสมเลย

5e9cf0ad0cf72771402b8d6389a3e495

อีกไอเดียที่หลังจบงานแล้วยังนำไปใช้เป็นเครื่องประดับได้ ด้วยการใช่ไข่มุกร้อยเป็นกำไรแล้วติดด้วยดอกไม้ปลอมสวยเฉิดเริ่ดหรู

8f2e2b8f6f193576b5488b5d524192bf

ในช่อดอกไม้ติดมือเจ้าสาวไม่ต้องเป็นดอกไม้ล้วนๆ ก็ได้ อย่างอันนี้มีขนนกยูงมาแซมทำให้ดูสวยลึกลับคลาสสิคแถมแอบเซ็กซี่เล็กๆ ด้วย

9b0f40285783599ca709fb4f99807d58

ดอกไม้ผูกข้อมือ อาจเลือกดอกใหญ่เพียงช่อเดียว แล้วคัดใบไม้สวยๆ มาเป็นส่วนประกอบก็ทำให้ดอกไม้มีความสวยโดดเด่นไม่ตีกันให้ลายตา

23e7be8e87b40853f42e3cb3a8930d97

ช่อเล็กๆ ไม่สะใจ ถ้าอย่างนั้นจัดใหญ่ จัดหนักมาเลยจ้า

46c87de5308e6bb2d962239c0448fc68

ช่อดอกไม้ข้อมือดีไซน์เก๋ ที่ออกแบบให้พันเกี่ยวอยู่กับข้อมือ เป็นเครื่องประดับชิ้นเก๋ได้เลยทีเดียว

62a42104c972b658e51a6156d7906dac

ธีมสีในโทนฤดูไบไม้เปลี่ยนสีกำลังมาแรง ในแนวส้มเขียวแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกว่าช่างเป็นงานแต่งงานที่แสนสดใส

92a4f905deab561feb217d0a3144c97b

หลายๆ คนผูกโบว์หลบอยู่ใต้แขน แต่ถ้าเปลี่ยนมาผูกโบว์ข้างบนแล้วเลือกสีที่เข้ากับดอกไม้ก็ทำให้เข้ากันได้เป็นอย่างดี

0723acf28ea4dfd19a61832e3846b2b6

แต่งริมทะเลก็แค่เปลี่ยนจากดอกไม้เป็นปลาดาวสวยๆ แต่ขอบอกนิดนึงว่าใช้ของปลอมจะดีกว่านะ เป็นการรักษาธรรมชาติไปด้วยในตัว

75920a62aba208679c75efc9ab4bfd3a

ถ้าผูกข้อมือกันทุกงานก็ไม่เก๋สิ เลือนขยับมาผูกต้นแขนแบบนี้เริ่ดอยู่นะ แถมไม่เกะกะรำคาญที่สำคัญคือเสียหายยากกว่าไว้ที่ข้อมือด้วย

c88d634ab45b67f45c86321d4c919dbf

ถ้าการประดับดอกไม้อย่างเดียวจะไม่หรูเริ่ดพอ ก็แซมด้วยลูกปัดหรือคริสตัลจะช่วยเพิ่มความอลังการให้กับช่อดอกไม้น้อยๆ ช่อนี้ได้ดี

c466a446d7b38534972371cc21f113a2

สำหรับบ่าวสาวในธีมรัสติค เลือกริบบิ้นสีน้ำตาลแนวลูกไม้ถักแบบนี้เข้ากับงานได้พอดีเลย

มีปิ๊งแบบไหนกันหรือเปล่าค่ะ เพราะทั้งหมดที่เราสรรหามาให้ต่างก็สวยและเหมาะทุกธีมงาน อาจจะแค่เปลี่ยนสีของดอกไม้นิดๆ หน่อยๆ ก็พร้อมใช้การได้แล้ว

>> อัพเดตไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

รวมแบบผมหางม้าเจ้าสาวหลากสไตล์น่าทำตามสุดๆ จะสาวมั่นสาวหวานก็ทำได้หมด

เบื่อผมเกล้ามวยแบบเดิมๆ หรือยังจ๊ะ ถ้าเบื่อแล้วลองเปลี่ยนมาเป็น ผมหางม้าเจ้าสาว บ้างดีกว่า มาดูกันดีกว่าว่าแบบไหนบ้างที่เจ้าสาวทำแล้วปัง!

หันไปทางไหนก็มีแต่เจ้าสาวทำผมเกล้ามวย แม้จะเป็นทรงผมที่ดูสวยและเป็นทางการ แต่แพรวเวดดิ้งอยากจะขอนำเสนอ ผมหางม้าเจ้าสาว ที่ทำแล้วดูสวยได้ไม่แพ้ทรงผมแบบเกล้ามวยเลย ได้ยินแล้วก็อย่าเพิ่งเบ้หน้าเพราะคิดว่าจะดูเด็กเกินไปหรือไม่เรียบร้อยไม่แกลมพอหรือเปล่า? เพราะที่จริงแล้วทรงผมหางม้าสำหรับเจ้าสาวนั้นสามารถปรับแต่งและใส่ลูกเล่นเข้าไปให้ดูเข้ากับลุคแบบต่างๆ ได้หลากหลาย เราก็เลยรวบรวมแบบทรงผมหางม้าสำหรับลุคที่แตกต่างกันมาให้ ตั้งแต่แบบสบายๆ ไปจนถึงสวยอลังการผมหางม้าก็ทำได้นะ มาดูกันเลยค่ะ

Messy Ponytail

ทรงผมหางม้าดึงปอยผมให้ดูหลุดนิดๆแบบไม่ได้ตั้งใจมากให้ลุคเจ้าสาวโมเดิร์นที่ดูน่ารักและสบายๆเป็นกันเอง

ผมหางม้าเจ้าสาว

Braid Ponytail

ดูหรูหราขึ้นมาอีกนิดด้วยการผสมผสานผมเปียเข้าไปกับผมหางม้า

ผมหางม้าเจ้าสาว

Curve Ponytail

ผมหางม้าลอนคลื่น เป็นทรงสุดฮิตของเจ้าสาวชาวไทยในตอนนี้เลยละค่ะ

ผมหางม้าเจ้าสาว

Twisted Ponytail

ผมหางม้าบิดเกลียว อีกหนึ่งลูกเล่นที่ช่วยเติมให้ทรงหางม้าไม่จืดชืดเกินไปค่ะ

ผมหางม้าเจ้าสาว

High Ponytail

ผมหางม้าเกล้าสูง ช่วยให้หน้าดูเด็กลง!

ผมหางม้าเจ้าสาว

Sleek Ponytail

ผมหางม้าเรียบโก้ดูสวยหรูเลอค่า จะประดับแอ็คเซสเซอรี่อีกเพิ่ทเพิ่มความแกลมก็ได้นะ

ผมหางม้าเจ้าสาว

Accessorized Ponytail

ยกระดับความแพงอีกขั้นด้วยการเสริมแอ็คเซสเซอรี่ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้สด เพชร หรือ เครื่องประดับต่างๆ

ผมหางม้าเจ้าสาว

เลือกแบบผมหางม้าเจ้าสาวที่ชอบกันได้หรือยังคะ? เลือกได้แล้วมาบอกกันบ้างนะ <3 และถ้ายังไม่มีช่างทำผมหรือแต่งหน้าในใจ >> คลิกอ่าน 11 ช่างผมมาแรงแห่งปีพร้อมราคา <<

credit photo: glamour.com, weddingforward.com, stylemepretty.com, thegoddess.com, fabmood.com, mywedding.com

5 คีย์หลักใส่พ็อกเก็ต สแควร์ยังไงให้หล่อปังในวันแต่งงาน

นอกจากเนคไท และโบไทแล้ว พ็อกเก็ต สแควร์ ก็เป็นอีกหนึ่งแอคเซสซอรี่ของเจ้าบ่าวที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะมีรูปแบบและลวดลายให้เลือกมากมายหลากหลายแบบ แถมยังช่วยเสริมลุคเจ้าบ่าวให้หล่อปังได้อีกด้วย ที่สำคัญไม่ว่าจะใส่เนคไท หรือโบไทแล้ว ก็สามารถเสริมพ็อกเก็ต สแควร์เข้าไปเพิ่มด้วยได้แบบไม่ต้องเคอะเขิน แพรว wedding เลยมีหัวใจสำคัญ 5 ข้อในการใส่พ็อกเก็ต สแควร์มาฝาก รับรองงานนี้หล่อปังในวันวิวาห์แน่นอน

1. ต้องโดดเด่นชัดเจนอยู่บนชุดสูท

แน่นอนว่าแอคเซสซอรี่เสริมหล่อสำหรับเจ้าบ่าวนั้นมีอยู่ไม่กี่ชิ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ พ็อกเก็ต สแควร์ เพราะฉะนั้นหากจะเลือกมาเติมสไตล์ของตัวเองในวันสำคัญทั้งทีก็ต้องเลือกให้ดีและต้องให้โดดเด่นเห็นชัดสักหน่อย ขอแนะนำให้เลือกสีที่โดดเด้งออกมาจากชุดสูทและเนคไทหรือโบไทที่เจ้าบ่าวสวม หรือจะเล่นเป็นลวดลายสุดชิคไปเลยก็ยังได้ เพราะการเล่นกับสีสันและลวดลายจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นได้มากกว่าการเลือกใช้ลายหรือสีแบบพื้นๆ ที่สำคัญไม่จำเป็นนะคะที่สีของเนคไทหรือโบไปจะต้องเป็นสีหรือแบบเดียวกันกับ พ็อกเก็ต สแควร์ เสมอไป เพราะยิ่งต่างมากเท่าไหร่ก็จะโดดเด่นมากเท่านั้น

พ็อกเก็ต สแควร์

2. เนื้อผ้าต้องช่วยเสริมให้ลุคดูดี

โดยส่วนใหญ่ผ้าไหมมักจะชนะเลิศในการได้รับเลือกสำหรับพ็อกเกต สแควร์ เสมอเพราะเป็นตัวเลือกสุดคลาสสิคและช่วยให้ลุคโดยรวมของเจ้าบ่าวอยู่ในเซฟโซนมากที่สุด แต่คุณคะ ปัจจุบันแฟชั่นได้ก้าวล้ำไปไกลมากแล้ว เราจึงไม่อยากให้เจ้าบ่าวติดอยู่กับกรอบความคิดเดิมๆ เพราะฉะนั้นลองออกจากนอกกรอบแล้วเปลี่ยนมาใช้เป็นเนื้อผ้าที่ให้ลุคโดดเด่นและดูดีไม่แพ้กัน อย่างเช่น เลือกใช้เป็นผ้าขนสัตว์ เพื่อเปลี่ยนชุดสูทที่ดูเป็นทางการให้มีลูกเล่นขึ้นมาอีกนิด หรือจะเลือกเป็นผ้าลินินก็ได้ หากเจ้าบ่าวอยากได้ลุคแคชชวลสบายๆ ซึ่งสามารถเลือกใช้แค่พ็อกเกต สแควร์ อย่างเดียวไปเลยก็ช่วยให้เจ้าบ่าวดูดีได้ไม่แพ้กัน

3. ขนาดคือส่วนสำคัญที่ช่วยให้ดูดี

ส่วนมากพ็อกเก็ต สแควร์ จะเป็นผ้าที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีขนาดประมาณไม่เกิน 45 เซนติเมตร เพราะหากมีขนาดใหญ่กว่านี้ก็อาจจะทำให้กระเป๋าสูทของเจ้าบ่าวดูบวมมากเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเนื้อผ้าที่เจ้าบ่าวเลือกใช้ด้วย และขนาดที่พอดีจะไม่ทำให้พ็อกเก็ต สแควร์ร่วงหายลงไปในกระเป๋าอีกด้วย ซึ่งผ้าไหมและผ้าลินินที่ทอแบบพิเศษเมื่อพับแล้วจะไม่บวมพองอยู่ในกระเป๋าเสื้อสูท เพราะด้วยลักษณะเนื้อผ้าพิเศษนี้จะค่อยๆ ฟีบลงเองตามธรรมชาติ

4. รอดหรือร่วงอยู่ที่การพับ

อาจจะง่ายหน่อยหากเจ้าบ่าวเลือกใช้พ็อกเก็ต สแควร์สีขาว เพราะเพียงพับแค่ทบเดียวแล้วให้โผล่พ้นออกมาจากกระเป๋าชุดสูทสีดำ เท่านี้ก็ดูดีได้แล้ว แต่ถึงแม้จะเลือกใช้พ็อกเก็ตสแควร์แบบมีลวดลายก็ไม่ต้องกังวลว่าจะพับยังไงให้ออกมาดูดีนะคะ เพราะเจ้าบ่าวสามารถศึกษาวิธีการพับได้จากอินเทอร์เน็ตที่มีวิธีการพับหลากหลายแบบให้เลือก แต่สุดท้ายแล้ว บางครั้งการลองผิดลองถูกด้วยตัวเองก็สามารถทำให้เจ้าบ่าวค้นเจอสไตล์และรูปแบบที่เหมาะสมกับตัวเองได้เหมือนกันนะคะ เพราะบางครั้งความสมบูรณ์แบบก็ไม่จำเป็นต้องเป๊ะเสมอไป

5. สั่งทำในแบบที่ชอบ

แน่นอนว่าเป็นวันที่พิเศษทั้งที จึงไม่แปลกที่เจ้าบ่าวอยากจะมีแอคเซสซอรี่พิเศษๆ สักชิ้นสำหรับวันสำคัญของเขา นั่นก็คือการสั่งทำพ็อกเก็ต สแควร์ ในแบบที่ชอบทั้งในส่วนของลวดลายและเนื้อผ้า หรืออาจจะเพิ่มกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ อย่างการปักโลโก้บ่าวสาวหรือวันแต่งงานเอาไว้ด้วย

Cr. wantthatwedding.co.uk, pinterest.com