6 ไอเดียออกเดทในสุดสัปดาห์แบบสั้นๆ แบบไม่ง้อวันหยุดยาว

วันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งทีคู่สามีภรรยาหรือคู่รักทั่วๆ ไปต่างก็ต้องการออกไปใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ตัวเองรักกัน แต่ถ้าแฟนของคุณต้องทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน วันหยุดที่มีก็คือวันอาทิตย์แค่วันเดียวเท่านั้น คงไม่มีใครอยากตื่นแต่เช้าไปที่ไกลๆ ให้เหนื่อย ถ้ามีใครเป็นอย่างที่กล่าวมานี้ ลองมาดู 6 ไอเดียสำหรับไป ออกเดท ในวันหยุดพักผ่อนอันแสนสั้นดู เผื่อว่าจะได้ชวน คนรักของคุณออกไปทำกิจกรรมชิลๆแบบนี้ด้วยกัน เพิ่มความหวานแถมยังไม่เหนื่อย ไม่วุ่นวายอะไรมากมายอีกด้วยนะคะ

 

ออกเดท

  • ชวนดื่มกาแฟ

ไม่ว่าจะเป็นช่วงบ่าย หลังอาหารเที่ยง หรือว่าหลังอาหารเย็น ลองชวนเขาไปร้านกาแฟ ที่มีบรรยากาศดีๆ แล้วนั่งจิบกาแฟไปคุยกันไป ก็สบายๆดีนะ

ออกเดท

  • ชวนกันออกกำลังกาย

สำหรับคู่รักที่ห่วงใยสุขภาพ ถ้าอีกฝ่ายทำงานหนักตลอดเวลา ก็คงไม่มีเวลาออกกำลังกายเป็นแน่ การชวนกันไปออกกำลังกาย นอกจากจะแสดงถึงความห่วงใยต่อสุขภาพ ของอีกฝ่ายแล้ว ยังได้ใช้เวลาร่วมกันอีกต่างหาก

ออกเดท

  • ดูทีวี

เป็นอะไรที่ง่ายดายมากที่สุดแล้ว เมื่อเขาตื่นขึ้นมา และทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ก็นั่งดูทีวีด้วยกัน อาจเป็นรายการวาไรตี้ เบาสมอง หรือว่าหนังสนุกๆซักเรื่อง เท่านี้ก็มีความสุขแล้วล่ะ

ออกเดท

  • ขับรถเล่น

ถ้าวันอาทิตย์ เป็นช่วงเวลาที่ถนนโล่งที่สุด ก็ลองหาโอกาส ไปขับรถกินลมเล่นกันดู อาจพากันไปหาร้านอาหารใหม่ๆ หรือไปเดินซื้อของเล็กๆน้อยๆด้วยกัน พร้อมกับเปิดเพลงสบายๆ ระหว่างอยู่ในรถ ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวนะ

ออกเดท

เล่นเกม

จะเป็นเกมแบบไหนก็ได้ อยู่ที่ว่าคุณ หรือแฟนของคุณ ชอบแบบไหน อาจเป็นเกมคอมพิวเตอร์ หรือเกมที่ต้องใช้สมอง อย่างหมากรุก หรือหมากฮอส

ออกเดท

  • ไปปิกนิค

ไปซื้ออาหารที่ซุปเปอร์ล่วงหน้า แล้วทำอาหารเตรียมไว้ สำหรับวันหยุดพักผ่อนที่เฝ้ารอ ลองชวนเขาไปที่สวนสาธารณะ บรรยากาศดีๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ พร้อมกับผ่อนคลายความเครียด จากการทำงานไปในตัว

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

cr : livluv.com, cupidspulse.com, crosswalk.com, theromantic.com

4 เคล็ดลับจากกูรูด้านเวดดิ้งเทคนิคจัดงานแต่งหรูแบบประหยัดงบงานแต่ง

ลืมความเชื่อเดิมๆ ไปได้เลยที่ว่างบน้อยงานห่วย  เพราะคุณก็สามารถจัดงานแต่งหรูให้ดูราคาหลักล้านได้เพียงแค่ใช้เทคนิคเล็กๆ น้อย แต่ ประหยัดงบงานแต่ง สุดๆ ลองมาดูกันว่าเหล่าผู้เชี่ยวชาญการจัดงานแต่งเขามีเคล็ดลับ จัดงานแต่งงานราคาประหยัด อะไรมาแนะนำกัน

1. เรียบง่ายไว้ก่อน

ศัตรูตัวฉกาจที่ทำให้งานของคุณดูเป็นงานแต่งงานราคาถูกคือการตกแต่งที่ดูรกรุงรัง  ดังนั้นหากคุณอยากให้งานออกมาดูหรูหรา  สิ่งสำคัญคือการทำให้ภาพรวมการจัดงานออกมาดูเรียบง่าย  ไม่ใช่เต็มไปด้วยการตกแต่งที่ดูเยอะเกินความจำเป็น  โทนสีที่ใช้ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน  หากคุณอยากได้อารมณ์เรียบหรู  ให้เลือกโทนสีขาว  เทา  และไอวอรี่  เป็นต้น

2. วางยุทธศาสตร์การจัดดอกไม้

การตกแต่งดอกไม้ภายในงานแต่งงานเป็นสิ่งสำคัญ  แต่หากคุณวางแผนไม่ระวังอาจทำให้งบบานปลายได้  เคล็ดลับช่วยประหยัดค่าดอกไม้คือ  ให้คุณตัดการตกแต่งดอกไม้ในบริเวณที่ไม่จำเป็น  เลี่ยงการใช้ดอกไม้ที่มีราคาสูงแล้วหันไปเลือกดอกไม้ชนิดอื่นที่ให้ปริมาณที่มากกว่าในราคาเท่ากัน  เป็นต้น

3. จำกัดจำนวนแขก

แทนที่คุณจะโหมเชิญแขกเป็นร้อยๆ  เราขอให้คุณเชิญเฉพาะแขกคนสำคัญของคุณจริงๆ  เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องไปตัดค่าใช้จ่ายทางอื่นเพื่อเอามาลงกับงานจัดเลี้ยง  และที่สำคัญคือคุณจะได้ใช้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตท่ามกลางคนที่คุณรัก

4. ทางเข้าเว่อร์วังอลังการ

ทำให้แขกของคุณตื่นตะลึงไปกับการตกแต่งบริเวณทางเข้างานเพื่อสร้างความประทับใจแรกพบ  คุณสามารถประโคมบริเวณนี้ด้วยดอกไม้  เทียน  และการตกแต่งอื่นๆ ได้เต็มที่  อีกทั้งหากคุณมีหัวครีเอทีฟสักหน่อย  ก็สามารถใช้ไอเทม D.I.Y ตกแต่งเพื่อลดค่าใช้จ่ายจากการซื้อของตกแต่งราคาแพงมาประดับงาน

>> ติดตามไอเดียและคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ข้อมูลจาก brides.com

5 ร้านชุดเพื่อนเจ้าสาว จะสั่งตัด หรือแบบเช่า ก็ดีไซน์สวยเลิศ รีเควสได้เลย

ร้านชุดเพื่อนเจ้าสาว ที่จะมาเนรมิตชุดสวยให้เหล่าเพื่อนๆ จะมาเดี่ยวหรือเป็นทีมก็คุ้มค่าแน่นอน

เพราะดีไซน์ชุดเพื่อนเจ้าสาวในปัจจุบันนี้มีดีไซน์ที่ร่วมสมัย เพื่อเสริมให้เพื่อนเจ้าสาวดูดี และมักจะแต่งตัวตามสีธีมงานแต่ง เพื่อให้เกียรติบ่าว-สาว ร้านชุดเพื่อนเจ้าสาว จึงได้เพิ่มทางเลือกให้เพื่อนเจ้าสาวสามารถเลือกชุดที่สวยงาม และเข้ากับธีมงานแต่งได้ แพรว wedding ได้รวบรวมร้านชุดเพื่อนเจ้าสาวทั้งร้านสั่งตัดเฉพาะ และร้านเช่าชุด ซึ่งเพื่อนเจ้าสาวสามารถดูแบบจากทางร้านและเข้ามาปรึกษาได้ หรือจะนำแบบชุดที่ชอบมาให้ทางร้านตัดก็จะได้ชุดสวยๆ ใส่ออกงาน คุ้มค่าและถูกใจสุดๆ

  • ร้านสั่งตัดชุดเพื่อนเจ้าสาว

Pattra Boutique

ไม่ว่าจะนำผ้ามาสั่งตัดชุดเพื่อนเจ้าสาว หรือจะใช้ผ้าของทางร้าน ก็สามารถตอบโจทย์ได้ตามความชื่นชอบ และยังมีดีไซน์ที่ได้รับความนิยมในลุคสวยเรียบหรู และถ้าหากเจ้าสาวสนใจก็ยังสามารถสั่งตัดชุดเจ้าสาวได้เหมือนกันนะ

ราคาสำหรับการนำผ้ามาให้ตัด: ชุดเดรสสั้น เริ่มต้นที่ 1,600 บาท ชุดเดรสยาว เริ่มต้นที่ 1,900 บาท

ราคาสั่งตัดปกติ: ชุดเดรสสั้น เริ่มต้นที่ 1,900 บาท ชุดเดรสยาว เริ่มต้นที่ 2,300 บาท

ออเดอร์ล่วงหน้า 2-3 เดือน

สนใจติดต่อเพิ่มเติม ไลน์: @pattraboutique หรือเฟซบุ๊ก: รับตัดชุดราตรี ชุดสูท ชุดแต่งงาน ทีมเพื่อนเจ้าสาว-เจ้าบ่าว by Pattra

SELECTED P.

ดีไซน์ชุดที่โดดเด่นในสไตล์มินิมัล เรียบๆ แต่มีดีเทลเก๋ไก๋ถูกใจผู้หญิงยุคใหม่ ซึ่งทางร้านมีทั้งแบบรับสั่งตัด จะมาเดี่ยวหรือมากลุ่มก็พร้อมให้บริการ โดยสามารถนำแบบชุดมาให้ทางร้านดูเพื่อสั่งตัดตามแบบ หรือจะมาเลือกชุดหน้าร้านก็พร้อมให้บริการทั้งสองแบบ

ราคา เริ่มต้นที่ 2,290 บาท

ออเดอร์ล่วงหน้า 3-14 วัน

สนใจติดต่อเพิ่มเติม ไลน์: @selectedp หรือเฟซบุ๊ก: Selectedp

  • ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว

Style N Star

ชุดเพื่อนเจ้าสาวสไตล์เรียบหรู โดดเด่นด้วยชุดผ้าซาตินจับเดรป พร้อมมีชุดเพื่อนเจ้าสาวทุกเฉดสีให้เลือกได้หลากหลาย บอกได้เลยว่าแต่ละชุดแบบไม่ซ้ำจริงๆ พิเศษสำหรับทีมเพื่อนเจ้าสาว สามารถเช่าชุดเดรส 5 ชุด ฟรี 1 ชุด อีกด้วยล่ะ

ราคาสำหรับชุดเดรสสั้น เริ่มต้นที่ 800 บาท และชุดเดรสยาว เริ่มต้นที่ 1,000-1,200 บาท

ระยะเวลาการเช่า 5 วัน

สนใจติดต่อเพิ่มเติม โทร.096-2417933 หรือเฟซบุ๊ก: ร้านเช่าชุดราตรี Style N Star อนุสาวรีย์ชัย ดินแดง รางน้ำ อ่อนนุช

THEME HOUSE

เต็มไปด้วยชุดเพื่อนเจ้าสาวหลากหลายสไตล์ มีให้เลือกพร้อมเฉดสีและผ้า จะมาลุคสวยหวาน เปรี้ยว หรือเซ็กซี่ ก็ช่วยเสริมบุคลิกและความมั่นใจให้เพื่อนเจ้าสาว รับรองได้ว่าธีมงานแบบไหน ก็มีชุดเหมาะๆ ใส่ไปร่วมงาน เริ่ดมากๆ

ราคา เริ่มต้นที่ 500-900 บาท หรือเกรดพรีเมี่ยม 1,000-1,500 บาท

ระยะเวลาการเช่า 5 วัน

สนใจติดต่อเพิ่มเติม โทร.092-4154663 หรือเฟซบุ๊ก: THEME HOUSE เช่าชุดราตรี ชุดออกงาน

be i Am

ชุดเพื่อนเจ้าสาวแบบสากลดีไซน์หรูหรา เผยสไตล์ของเพื่อนเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี และยังมีชุดสำหรับผู้หญิงทุกไซส์ นอกจากนี้ยังมีชุดไทยเพื่อนเจ้าสาวสวยวิจิตรสุดคลาสสิก พร้อมเครื่องประดับไว้บริการ จึงมั่นใจได้ว่าสวยครบดูดีแน่นอน

ราคา สำหรับชุดไทย เริ่มต้นที่ 500 บาท และชุดสากล เริ่มต้นที่ 700 บาท

ระยะเวลาการเช่า 5 วัน

สนใจติดต่อเพิ่มเติม โทร.097-0088383 หรือเฟซบุ๊ก: เช่าชุดราตรี be i Am

หากทีมเพื่อนเจ้าสาวอยากประหยัดงบชุดของเดอะแก๊ง เรามี >> 5 สไตล์ชุดเพื่อนเจ้าสาวที่สวยได้ทั้งงานกลางวันและงานยามค่ำคืน <<

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Pattra Boutique/ SELECTED P./ Style N Star/ THEME HOUSE/ be i Am

5 เทคนิคจัดงานแต่งริมทะเลด้วยตัวเองให้สวยปิ๊ง

บรรยากาศสายลมแสงแดดเสียงคลื่นกับคนที่ใช่ ไม่ว่าใครๆ ก็ปรารถนา จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม งานแต่งริมทะเล หรือเรียกเกร๋ๆ ว่า  Beach Wedding ถึงเป็นธีมงานแต่งในฝันของใครหลายๆ คน และหากคุณผู้อ่านคือหนึ่งในนั้น ต้องไม่พลาดบทความนี้ที่แพรว Wedding นำเทคนิคการจัดงาน Beach Wedding มาเสิร์ฟกันถึงที่ รับรองว่างานนี้สวยปิ๊งจนต้องร้องว้าว! แน่นอน

1. ใช้วัสดุธรรมชาติจากท้องทะเล

1

จัดงานแต่งริมทะเลก็ต้องตกแต่งด้วยข้าวของจากท้องทะเลถึงจะเหมาะ เปลือกหอยนี่แหละไอเท็มน่ารักๆ ที่ห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถนำมาประดิษฐ์เป็นนั่นนู่นนี่และตกแต่งได้ทุกสิ่งอย่างในงาน ไม่ว่าจะเป็น บูเกต์ บูโทเนียร์ เค้ก เซ็นเตอร์พีซ หรือแค่วางประดับประดาไว้ตามทางเดินก็ยังเริดเลยค่ะ

2. ใช้ของตรงธีม

2เลือกใช้ข้าวของต่างๆ ให้เข้ากับธีมและบรรยากาศ โดยอาจตกแต่งสถานที่ด้วยเรือ ห่วงยาง สมอเรือ แจกของชำร่วยเป็นแว่นกันแดด หมวก รองเท้าแตะ ให้แขกเขียนคำอวยพรลงบนสิ่งของที่เกี่ยวกับทะเล เช่น กระดานโต้คลื่น เก้าอี้ชายหาด ไม้พาย เป็นต้น

3. ใช้ไอเท็มพลิ้วไหวรับกับสายลม

3งานแต่งริมทะเลก็ต้องมีสายลมโชยพัดผ่าน ดังนั้นการเลือกใช้ไอเท็มที่พลิ้วไหวรับกับสายลมในการตกแต่งจึงเป็นไอเดียที่เริดสุดๆ ไอเท็มพลิ้วไหวที่ว่ายกตัวอย่างเช่น ผ้า ริบบิ้น หรือกระดาษ โดยอาจใช้ผ้าในการตกแต่งซุ้มพิธีหรือซุ้มเค้ก นำริบบิ้นสีสันสดใสมาตกแต่งเก้าอี้ หรือประดับประดาสถานที่ด้วยโมบายกระดาษน่ารักๆ

4. ใช้ดอกไม้ให้เป็น

4งานแต่งริมทะเลไม่จำเป็นต้องตกแต่งดอกไม้ให้ฟู่ฟ่ามากจนเกินไป เพราะแค่แบ็กดร็อปธรรมชาติที่เป็นท้องฟ้าท้องทะเลก็สวยฟินกินขาดอยู่แล้ว อาจแซมเล็กๆ น้อยๆ บางจุดเพื่อเพิ่มความหวานเท่านั้น นอกจากนี้การใช้ดอกไม้ตกแต่งงานแต่งริมทะเลยังมีข้อจำกัดเรื่องความทนของดอกไม้ต่อสภาพแวดล้อมอีกด้วย เพราะคลื่นลมแสงแดดมีผลทำให้ดอกไม้เหี่ยวเฉาเร็วขึ้น ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ดอกไม้ที่มีความแข็งแรงคงทนเป็นพิเศษอย่างกล้วยไม้ กุหลาบ หน้าวัว ลิลลี่ และดอกบัว

5. ใช้สีอย่างมีสไตล์

5สีฟ้าและสีขาวเป็นสีที่เหมาะกับงานแต่งริมทะเล เพราะเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสบายๆ ชิลๆ และดูกลมกลืนไปกับบรรยากาศฟ้าสวยทะเลใสได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากเป็นงานแต่งริมทะเลสไตล์ปาร์ตี้สนุกสนานล่ะก็ ขอแนะนำให้ใช้สีสันสดใสสไตล์ซัมเมอร์อย่างสีส้ม สีเหลือง สีเขียว สีชมพู เพียงเท่านี้ก็จะได้อารมณ์เหมือนยกเกาะฮาวายมาไว้ในงานแต่งของคุณแล้วล่ะค่ะ

>> ติดตามเทคนิคการจัดงานและไอเดียดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพ : lacarolita.tumblr.com, flickr.com, allthingscupcake.com, destination-wedding-experts.com, indulgy.com, stylemepretty.com, buzzfeed.com, imgfave.com, luxxculture.com a a a a

ไอเดียจัดงานแต่งตาม สีมงคล ส่งเสริมรักให้ยาวนาน

ในพิธีแต่งงานล้วนเต็มไปด้วยความเชื่อเรื่องสิ่งมงคลต่างๆ อะไรที่ทำแล้วส่งเสริมให้รักยืนยาวก็ล้วนเป็นเรื่องดีน่าทำทั้งนั้น อย่างเรื่องของ สีมงคล ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำแล้วไม่เสียหาย แถมทำให้งานออกมาดูเก๋ไก๋คุมโทนแบบชิคๆ ได้อีกด้วย

สีฟ้า สีน้ำเงิน

สีมงคล

เป็นสีที่แสดงถึงความมั่นคง อำนาจ และก่อให้เกิดความสงบสุข เพราะเป็นสีแห่งธรรมชาติ แถมเมื่อก่อนยังเชื่อว่าสีฟ้าจะช่วยปัดเป่าความโชคร้ายและปกป้องเจ้าสาวได้ด้วย จึงเป็นที่มาของ Something Blue ที่เจ้าสาวฝั่งตะวันตกเขาพกกัน ซึ่งงานแต่งโทนสีฟ้าและสีน้ำเงินจะเป็นงานที่จัดให้ดูชิล หรือเรียบหรูทางการก็ได้ทั้งนั้นเลย

 สีเขียว

สีมงคล

เป็นสีสบายตา และยังบ่งบอกถึงความโชคดี ความสดชื่น สดใส รวมไปถึงความร่ำรวยด้วยนะ ซึ่งงานแต่งในโทนสีเขียวก็ได้รับความนิยมอย่างสูงโดยเฉพาะในสไตล์รัสติค ที่เน้นความเป็นธรรมชาติของใบไม้และป่าไม้ แถมยังเป็นธีมงานที่จัดได้เอง ดีไอวายกันเต็มเหนี่ยวได้แบบไม่ยาก

สีแดง

สีมงคล

สีแห่งความรักสุดหรู เป็นสีที่ให้ความร้อนแรงและดูกระตือรือร้น อีกนัยหนึ่งของสีแดงคือความมั่งคั่ง ร่ำรวย โชคดี และอีกความหมายคือความสุขและชีวิตที่ยั่งยืน เมื่อมาอยู่ในงานแต่งก็แปลว่าชีวิตคู่จะยั่งยืนยาวนานอีกด้วย ซึ่งหลายๆ คู่ที่ต้องจัดงานแต่งแบบจีน ก็มักจะเลือกสีแดงเป็นธีมงาน เพราะทางความเชื่อจีนสีแดงมงคลสุดๆ และสามารถขับไล่สิ่งไม่ดีต่างๆ ออกไปได้ด้วย

สีเหลือง

เป็นสีที่ดูแล้วสดใสร่าเริง งานแต่งที่อยากให้ดูสนุกสนานจึงมักเลือกโทนสีเหลือง โดยเฉพาะสีเหลืองมัสตาร์ดที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ ส่วนความหมายมงคลของสีเหลืองก็คือเป็นตัวแทนของความอบอุ่น การมองโลกในแง่บวก ความสุข ความหวัง ไปจนถึงความมั่งคั่งเลยทีเดียว บางงานที่ไม่ได้อยากให้งานออกมาสดใสหรือหวานเกิน อาจเลี่ยงไปใช้สีทองแทน ก็ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับงานแต่งมากยิ่งขึ้น

สีม่วง

อีกหนึ่งสีที่มีความหมายดีๆ หมายถึงความมั่งคั่ง ชนชั้นสูง และจิตวิญญาณ และยังเป็นสีแห่งเกียรติยศอีกด้วย ดังนั้นหนุ่มสาวคู่ไหนที่เลือกงานแต่งในโทนสีม่วงแล้วล่ะก็ ไม่เพียงไม่ตกเทรนด์เท่านั้น แต่ยังทำให้งานมีมนต์ขลังอีกด้วย

นี่ก็คือ 5 สีมงคล ทั่วโลก ที่ไม่เพียงแค่สวย แต่ยังแฝงไว้ด้วยความหมายดีๆ ที่เป็นการอวยพรให้คู่บ่าวสาวได้พบแต่สิ่งดีๆ ในชีวิตคู่ และสำหรับไอเดียเจ๋งๆ ในการจัดงานแต่งงานเรายังมีให้ดูอีกเพียบ คลิกเลย

ภาพ pinterest

เคล็ดลับผิวสวย เปล่งออร่าเจ้าสาวรับวันแต่งงานด้วย 10 ผักและผลไม้ใกล้ตัว

เจ้าสาวที่อยากมีผิวดีรับวันแต่งงาน จะมัวแต่บำรุงด้วยสารพัดครีมก็อาจจะไม่ทันการ แพรวเวดดิ้งมี เคล็ดลับผิวสวย ที่เพิ่มพลังจากภายในสู่ภายนอกด้วยผักและผลไม้ที่อุดมด้วยประโยชน์จากธรรมชาติ ที่สำคัญคือกินแล้วไม่อ้วน ถือเป็นการฟิตหุ่นไปในตัว แต่จะมีอะไรบ้างที่น่ากิน มาดูกัน

แตงกวา

ผิวดี

แตงกวาที่บางคนยี้ ทั้งที่ก็รู้ว่าเนี่ยล่ะฉ่ำน้ำสุดๆ แตงกวาอุดมด้วยวิตามินซี วิตามินเค กากใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ จึงทำให้เป็นอาหารที่ทั้งดีต่อหุ่น และดีต่อผิว เพราะทำให้อิ่มท้องได้นาน แล้วยังทำให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ เปล่งประกาย แล้วยังลดเลือนเหล่าตีนกาบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี

ข้อควรใช้

  1. กินสดๆ ใส่ในสลัด จิ้มน้ำพริก
  2. มาส์กธรรมชาติ ฝานเป็นแว่นๆ แล้วแปะบนผิวหน้า ทิ้งไว้ทั่วใบหน้า

มะเขือเทศ

ผิวดี

อีกหนึ่งยอดยี้ที่หลายคนเกลียดกลิ่น แต่เจ้าลูกกลมแดงลูกนี้อุดมด้วยสารอาหารเพื่อผิวดี ไม่ว่าจะเป็น วิตามินซี ธาตุเหล็ก โดยเฉพาะไลโคปีน มะเขือเทศมีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นสดใส ให้ผิวอมชมพูแบบสาวสุขภาพดีมีเลือดฝาดแบบไม่ต้องฟาดบลัชออน ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย

ข้อควรใช้

  1. กินสุก มะเขือเทศถ้าจะกินได้ประโยชน์สูงสุดต้องเป็นมะเขือเทศที่ผ่านความร้อนมาแล้ว
  2. น้ำมะเขือเทศ หลังต้มทั้งลูกแล้วเอาไปปั่นจนเละแบบไม่ต้องผสมน้ำ ก็จะได้น้ำมะเขือเทศ 100 % ดื่มดี พอกหน้าได้ ว่าที่เจ้าสาวควรมีติดตู้เย็น
  3. มาส์กหน้า ฝานเป็นแว่น แล้ววางลงบนผิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น

มะพร้าว

ผิวดี

ผลไม้ที่เติมความสดชื่นให้กับชาดหาดริมทะเล แถมอุดมด้วยแร่ธาตุมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นสารพัดวิตามิน แคลเซียม โพแทสเซียม แถมยังมีไปถึงฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือฮอร์โมนเพศหญิง แล้วแบบนี้จะไม่เหมาะกับคุณเจ้าสาวได้ยังไง เพราะช่วยทำให้ผิวใส สุขภาพดี สร้างคอลลาเจน อิลาสตินให้ผิวกระชับเด้งดึ๋ง แล้วยังช่วยอัพอึ๋มให้ได้ด้วยนะ อิอิ

ข้อควรใช้

  1. ดื่มสดๆ น้ำมะพร้าวดื่มสดๆ จากลูกเนี่ยล่ะ คุณประโยชน์ล้ำสุดๆ ได้ครบทุกสารอาหาร
  2. น้ำมันมะพร้าว ใช้น้ำมันมะพร้าวบำรุงผิว บำรุงผม รับรองว่าวสวยปิ๊งตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเลยล่ะ

 อะโวคาโด

ผิวดี

ถ้าใครเอาชนะความเหม็นเขียวของอะโวคาโดไปได้จะต้องหลงรักผลไม้รูปทรงประหลาดนี้แน่นอน เพราะทั้งอร่อยและมีประโยชน์ต่อทั้งผิวและหุ่น ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ ไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้อะโวคาโดสามารถเสกผิวใส หน้าเด้ง ริ้วรอยน้อยลง และลดไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้

ข้อควรใช้

  1. กินสดๆ จะเอาไปผสมในสลัด หรือกินเล่นๆ ก็ดีทั้งนั้น
  2. ห้ามกินเกินวันละ 1 ผล เพราะเป็นผลไม้ให้พลังงานสูง จึงไม่ควรกินมากเกินไป เพราะจากที่จะช่วยให้ผอมเพรียว จะกลายเป็นน้ำหนักขึ้นไม่รู้ตัว

 

ส้ม

ผิวดี

ผลไม้สีสันสดใสที่ใครๆ ก็รู้ว่าอุดมด้วยวิตามินซี กลูต้าไธโอน เบต้าแคโรทีน และกากใยอาหาร จึงช่วยให้ชะลอการเกิดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นเปล่งปลั่งให้กับผิว และยังทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีอีกด้วย

ข้อควรใช้

  1. กินสด ส้มเนี่ย กินสดดีที่สุด ไม่สูญเสียคุณค่าทางสารอาหาร
  2. คั้นน้ำ มาส์กหน้า น้ำส้มสามารถเอามาพอกหน้าเพื่อความกระจ่างใสได้ หรือจะผสมกับน้ำผึ้งหรือโยเกิร์ต เพื่อความชุ่มชื้นของผิวก็ดี

มะละกอ

ผิวดี

มะละกอสุกอุดมด้วยวิตามินและเอมไซน์ต่างๆ เป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติรอบตัวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ หรือผิวพรรณ เพราะทั้งช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ผ่องใส ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว อีกทั้งยังรักษาสิว และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอได้อีกด้วย

ข้อควรใช้

  1. กินผลสด การกินมะละกอสุก โดยไม่ผ่านกรรมวิธีอะไรจะช่วยให้ได้คุณค่าทางอาหารสูง หรือถ้าอยากเพิ่มรสชาติก็บีบมะนาวลงไป อร่อยดี มีประโยชน์
  2. มาส์กหน้า บีบมะละกอให้เละ แล้วผสมนมพอกหน้าไว้ จะทำให้สีผิวสม่ำเสมอกัน แต่ถ้าผสมน้ำผึ้งก็จะเพิ่มความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี

กล้วย

ผิวดี

ซูเปอร์ฟรุ๊ตที่มีประโยชน์รอบตัว ดีต่อผิว ดีต่อหุ่น อุดมด้วยสารพัดวิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด ช่วยชะลอความแก่ เพิ่มความชุ้มชื้นให้แก่ผิว ลดความแห้งกร้าน สร้างคอลลาเจน และยังปกป้องผิวจากรัวสี UV เท่านั้นยังไม่พอ ยังทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย

ข้อควรใช้

  1. กินผลสด เป็นผลไม้เหมาะสำหรับกินยามเช้าเพื่อให้ระบบในร่างกายทำงานได้ดี แถมถ้ากินได้ 2 ลูกต่อวันก็จะดีมากๆ
  2. มาส์กหน้า บดให้ละเอียด แล้วพอกหน้าผิวจะชุ่มชื้นเปล่งปลั่งนุ่มเด้งเหมือนผิวเด็กเลย

แอปเปิ้ล

ผิวดี

ผลไม้ยอดนิยมของสาวๆ ที่อยากจะลดหุ่น แต่ไม่เพียงแค่รูปร่างดีเท่านั้นที่ได้จากแอปเปิ้ล เพราะยังอุดมด้วยวิตามิน เส้นใยอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ รวมไปถึงสารต้านอนุมูลอิสระ จึงทำให้ชะลอความแก่ ลดความเหี่ยว หน้าใส ผิวนุ่ม

ข้อควรใช้

  1. กินสดๆ กินแอปเปิ้ล เป็นของว่างไม่เพียงทำให้อิ่มท้อง ยังได้ประโยชน์อีกมากมาย ทางที่ดีควรกินทั้งลูกไม่ปลอกเปลือก
  2. ขูดเนื้อ ขูดเนื้อแอปเปิ้ลแล้วพอกหน้าทิ้งไว้ 10 นาที จะทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นอย่างคาดไม่ถึงเลยล่ะ

แคนตาลูป

ผิวดี

ผลไม้ยอดนิยมของสาวออฟฟิศ ที่ไม่เพียงหวานฉ่ำ พลังงานน้อย ยังมีวิตามิน และสารอาหารต่างๆ มากมาย จึงช่วยให้คงความเด็กของผิว ลดเลือนจุดด่างดำ และที่เหมาะกับแดดเมืองไทยสุดๆ ก็คือ ช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน ฟื้นฟูผิวที่หมอคล้ำ แล้วยังลดไขมัน ได้อีกด้วย ดีสุดๆ ไปเลย

ข้อควรใช้

  1. กินสดๆ กินเป็นของว่างระหว่างมื้อเนี่ยละ เด็ดมาก ไม่เพียงจะอิ่มท้อง ยังทำให้ระบบขับถ่ายดีเลิศอีกต่างหาก
  2. มาส์กหน้า ปั่นให้ละเอียด แล้วพอกหน้าเพื่อความชุ่มชื้นกระจ่างใส

บร็อกโคลี่

ผิวดี

ผักเขียวๆ ที่รสชาติไม่อ่อนโยนต่อจิตใจ แต่มีประโยชน์เหลือเกินกับผิวและร่างกาย เพราะมีทั้งวิตามิน เบต้าแคโรทีน ที่ทำให้ฟื้นฟูเซลล์ผิว ทำให้ผิวใส ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความเปล่งปลั่งให้กับผิว แล้วยังมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านมะเร็งอีกด้วย

ข้อควรใช้

  1. ผ่านความร้อนนิดๆ กำลังดี บร็อกโคลี่ เป็นผักที่อาจทำให้เกิดโรคไทรอยด์ได้ จึงไม่ควรกินดิบ แต่สุกเกินไปสารอาหารก็หดหาย จึงควรกินแบบที่ผ่านการลวก หรือผัดเพื่อคงคุณค่าทางสารอาหารเอาไว้

เห็นไหมคะว่า เคล็ดลับผิวสวย ที่เรานำมาฝากง่ายนิดเดียว ถ้าเจ้าสาวคนไหนกินอาหารเหล่านี้ ก่อนแต่งงานสัก 4 – 5 เดือน รับรองเลยว่าเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากภายในสู่ภายนอกแน่นอน นอกจากนี้ เรายังมีเคล็ดลับดีๆ เพื่อเจ้าสาวอีกเพียบ >> คลิกเลย <<

ภาพ unsplash.com, pixabay.com

จัดปาร์ตี้เก๋ๆ ด้วยอาหารค็อกเทลสุดครีเอทีฟกับ I Do Catering ที่จะเนรมิตทุกงานเลี้ยงให้อิ่มอร่อยสนุกสุดประทับใจ

หากจะจัดงานเลี้ยงสักงานเรื่องอาหารเป็นเรื่องแรกและเรื่องสำคัญที่หลายคนต้องนึกถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากงานนั้นเป็นงานเลี้ยง งานปาร์ตี้ หรืองานแต่งงานที่อาหารถือเป็นพระรองรองลงมาจากธีมงานเลยทีเดียว และปัจจุบันเทรนด์การจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลกำลังมาแรง เพราะเน้นการเสิร์ฟอาหารที่มีรูปแบบสวยๆ รับประทานง่าย และเหมาะกับผู้คนทุกช่วงวัย ซึ่งหนึ่งในแคเทอริ่งที่มีจุดเด่นทั้งในเรื่องของการครีเอทเมนูสุดสร้างสรรค์ที่มาพร้อมรสชาติแสนอร่อยคงต้องยกให้กับ I Do Catering แคเทอริ่งที่รับบริการจัดเลี้ยง จัดปาร์ตี้แสนเก๋ด้วยอาหารค็อกเทลหลากหลายเมนูสุดครีเอทีฟ ที่จะทำให้ทุกงานเลี้ยงของคุณสนุก มีความสุข อิ่มอร่อย และสร้างความประทับใจแน่นอน

ซึ่งนอกจาก I Do Catering จะโดดเด่นในเรื่องของอาหารค็อกเทลคำเก๋แสนอร่อยที่มาพร้อมรูปแบบอันสวยงามแล้ว ก็ยังมีรูปแบบเมนูแบบ Chef Table ที่สามารถเนรมิตทั้งการตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม พร้อมออกแบบเมนูอาหารจานพิเศษให้กับแขกทุกคนในงานได้อิ่มอร่อยได้อย่างน่าประทับใจ โดยพร้อมให้บริการทั้งสำหรับงานเลี้ยงและงานแต่งงานในทุกรูปแบบ

และล่าสุด I Do Catering เพิ่งจัดงานสุดพิเศษในชื่อว่า Chef Table in Wonderland โดยได้เชฟเด็กคนเก่ง ด.ช. สิริศักดิ์ มาทอง มาสเตอร์เชฟจูเนียร์ มารังสรรค์ผลงานอาหารจานสวยให้แขกทุกคนได้ดื่มด่ำไปกับรสชาติอันแสนอร่อยและหน้าตาอันหน้าสวยงามชวนรับประทานสุด เรียกได้ว่าชวนให้แขกทุกคนที่มาร่วมงานได้เคลิบเคลิ้มไปกับเมนูสุดพิเศษนี้ราวกับต้องมนต์สะกดในดินแดนมหัศจรรย์สมชื่องานเลยทีเดียว

ด.ช. สิริศักดิ์ มาทอง มาสเตอร์เชฟจูเนียร์

โดยบรรยากาศภายในงานก็เต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ่ม ซึ่งงานนี้นอกจากแขกที่มาร่วมงานจะได้อิ่มอร่อยไปกับเมนูสุดพิเศษแล้ว ยังได้อิ่มบุญไปด้วยในตัว เพราะรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดงานทาง I Do Catering ได้นำไปบริจาคมอบให้กับมูลนิธิปากแหว่งเพดานโหว่เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆ ได้กลับมาสดใสอีกครั้ง

 

ว่าที่บ่าวสาวหรือใครก็ตามที่สนใจและกำลังมองหาแคเทอริ่งสุดเก๋แสนอร่อย สามารถติดตามกิจกรรมและงานอาหารสวยๆ สุดเก๋ไก๋ของ idocatering ได้ที่โทร : 087-510-0776
ไอจี : idocatering
เฟซบุ๊ก : idocateringparty
ไลน์ : @idocatering
เว็บไซต์ : www.ido-catering.com

ปักหมุด 8 สถานที่จัดงานแต่งงานริมน้ำที่ทั้งหรูเลิศแถมได้ฟีลโรแมนติก

สถานที่จัดงานแต่งงานริมน้ำ พร้อมบรรยากาศพาฟิน <3

สำหรับว่าที่บ่าวสาวที่กำลังจะลั่นระฆังวิวาห์ในเร็วๆ นี้ แต่ยังหา สถานที่จัดงานแต่งงานในเมืองกรุงที่ถูกใจไม่ได้ แพรวเวดดิ้งขอแนะนำ สถานที่จัดงานแต่งงานริมน้ำ ที่ทั้งเย็นสบายและได้อารมณ์โรแมนติก แถมยังเดินทางสะดวกอีก จะมีที่ไหนบ้างนั้นไปดูกันเลยดีกว่า

1.The Shangri La Hotel (โรงแรมแชงกรีล่า)

bangkok

โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว เปิดให้บริการมานานกว่า 29 ปี แต่ความสวยเริดของที่นี่ไม่เคยเก่าเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะห้องอาหารไทยศาลาทิพย์ที่อยู่ภายนอก อาคารติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เหมาะที่จะใช้เป็นห้องพิธีหมั้นหรือหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ของว่าที่บ่าวสาวเป็นที่สุด ภายในมี 3 ห้องสามารถรับรองแขกได้ห้องละ 50 คน ส่วนคู่รักคู่ไหนที่มีแขกมาจากต่างประเทศอย่าได้หวั่นเพราะใช้เวลาเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิสู่ที่หมายเพียง 45 นาทีเท่านั้น เรื่องอาหารก็ไม่ต้องกังวล เพราะที่นี่มีบริการรับจัดอาหารราคาเบาๆ ให้คุณได้อุ่นใจ

ที่ตั้ง : 89 ซ.วัดสวนพลู ถ.ตัดใหม่ สอบถามเพิ่มเติม โทร.0-2236-7777

2. The Peninsula (โรงแรมเพนนินซูล่า)

bangkok.peninsula.com---Copy

คู่ไหนที่ชอบความคลาสสิกต้องที่นี่เลย มีทั้งลานเอาต์ดอร์อย่าง เดอะ เพนนินซูล่า ลอว์น กว้างขวางรับบรรยากาศแม่น้ำแบบเต็มที พร้อมให้คุณได้เนรมิตงานวิวาห์ได้อย่างจัดเต็ม หรือหากใครชอบแบบอินดอร์แล้วอยากเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาไปด้วย แนะนำห้องเจสเตอร์รับรองว่าถูกใจแน่นอน  แถมที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดงานแต่งของเจ้าสาวร้อยล้านอย่าง คุณชมพู่ อารยา ถ้าไม่ดีจริงนางคงไม่มาว่าไหม

ที่ตั้ง : 333 ถ. เจริญนคร เขตคลองสาน สอบถามเพิ่มเติม โทร.0-2861-2888 www. bangkok.peninsula.com

3. Mandarin Oriental (โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล)

www.explore.mdโอเรียนเต็ล---Copy

อีกหนึ่งความหรูหราระดับห้าดาวที่คู่บ่าวสาวทั้งไทยและเทศต่างนิยมคงหนีไม่พ้นที่นี่ ด้วยบรรยากาศโรแมนติกติกริมแม่น้ำของศาลาริมน้ำ โรงเเรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ที่ผสมผสานความเป็นไทยและยุโรปอย่างลงตัว สามารถรองรับแขกได้ประมาณ 50 คน หากอยากเน้นเรื่องรสชาติอาหารในงานแต่งที่นี่เขาก็ขึ้นชื่อว่าเด็ดเหมือนกัน

ที่ตั้ง :  48 ซอย โอเรียนเต็ล อเวนิว เขต บางรัก สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2659-9000 www.mandarinoriental.com

4. Praya Palazzo(คฤหาสน์สองชั้น พระยาพาลาซโซ)

www.mktevent.com---Copy

คฤหาสน์สุดอลังการที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 เนรมิตใหม่ให้กลายเป็นโรงแรมสุดหรู พร้อมสวนริมแม่น้ำเจ้าพระยาบรรยากาศร่มรื่น สามารถรองรับแขกได้ทั้งหมด 150 คน เหมาะกับงานวิวาห์เรียบง่ายสไตล์ยุโรป จุดเด่นที่บ่าวสาวไม่ควรพลาดต้องมายืนถ่ายรูปคู่เก็บไว้คือ บริเวณระเบียงระหว่างทางเดินไปยังห้องโถงกลางชั้นสองที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบเวนิส

ที่ตั้ง : 757/1 ถ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ซ.2 บางยี่ขัน สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2883-2998, 08-1402-8118 www.prayapalazzo.com

5.จักรพงษ์วิลล่า

travel.edtguide.comวังจัก---Copy

คู่ไหนอยากให้งานออกมาแบบเรียบๆ แต่แลดูโรแมนติกต้องที่นี่ “จักรพงษ์วิลล่า” แบ่งพื้นที่มาจาก“วังจักรพงษ์” หรือ “วังท่าเตียน” อันเป็นวังของราชสกุลจักรพงษ์ หากอยากรับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาแบบจัดเต็มเป็นต้องศาลาริมน้ำที่สามารถรองรับแขกได้ 100 คน นอกจากนี้ภายในยังมีพื้นที่จัดงานให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สนามหญ้า สระน้ำ ห้องจัดเลี้ยง และพระตำหนัก

ที่ตั้ง : 396/1 ถนนมหาราช ท่าเตียน เขตพระนคร สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-9810-0498, 0-2222-1290, 0-2622-1900 www.thaivillas.com

6.หอประชุมกองทัพเรือ

www.mahidol.ac.thหอประชุม---Copy

อีกหนึ่งสถานที่จัดงานแต่งสุดเริดคงต้องเป็น “ลานทัศนาภิรมย์” หอประชุมกองทัพเรือที่เป็นลานกว้างให้คู่รักและแขกได้ดื่มด่ำบรรยากาศริมแม่น้ำอย่างเต็มที่ แถมยังมีเรือให้เช่าสำหรับจัดงานอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีห้องจัดงานให้บ่าวสาวเลือกถึง 9 ห้อง  ไม่ว่าจะเป็น ห้องอรุณอมรินทร์ ห้องเจ้าพระยา ห้องชมชลธี ห้องวิชัยประสิทธิ์ ห้องโพธิ์สามต้นและห้องชมวัง เป็นต้น

ที่ตั้ง : ซอยอรุณอมรินทร์ 30 แขวงบางกอกใหญ่ เขตบางกอกใหญ่ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2475 5303, 0 2475 5494 (ฝ่ายการตลาด) www.navyhall.com

7.Royal Orchid Sheraton Hotel, Bangkok (โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท)

www.agoda.comรอยัล---Copy

สำหรับห้องจัดงานแต่งริมแม่น้ำที่ดีไซน์โดดเด่นและสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้จากห้องบอลรูมต้อง “ห้องรอยัล ออคิด บอลรูม” ตกแต่งด้วยศิลปะไทยแบบร่วมสมัย ให้ความรู้สึกทันสมัยแต่ยังคงไว้ซึ่งความงามแบบไทย เช่น เสาที่ติดกับผนังรอบด้านห้องบอลรูมทำจากกระจกลายนก หากจัดเลี้ยงแบบค๊อกเทลสามารถรองรับได้ถึง 1,500 คน หรือแบบโต๊ะรับประทานอาหารรองรับได้จำนวน 800 คน

ที่ตั้ง : 2 ซ.เจริญกรุง 30 (ซ.กัปตันบุช) ถ.สี่พระยา  แขวงสี่พระยา  เขตบางรัก สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2266 -0123 www.royalorchidsheraton.com  อีเมล์: [email protected]

8.Anantara Bangkok Riverside Resort & Spa, Bangkok (โรงแรมอนันตรา กรุงเทพฯ ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา)

thaitraveland.com---Copy

อีกหนึ่งโรงแรมที่จะทำให้งานแต่งของคุณกลายเป็นงานแต่งสุดประทับใจแบบไม่รู้ลืม โดยเฉพาะห้องอาหารที่ติดริมแม่น้ำ “ริเวอร์ไซด์ เทอเรซ” ที่มีทั้งแบบเอาต์ดอร์และอินดอร์ สามารถรองรับแขกได้  350 คน และ “ห้องเจ้าพระยา แกรนด์บอลรูม” ที่รองรับแขกได้ 500 คน มีบรรยากาศร่มรื่นรับสายลมจากแม่น้ำเบาๆ ผสมกับกลิ่นอายของความเป็นไทยเล็กน้อย ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก จากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ คู่ไหนที่มีแผนแต่งงานช่วงฤดูหนาวต้องที่นี่เลยจ้า เพราะบรรยากาศริมแม่น้ำโรแมนติกสุดๆ

ที่ตั้ง : 257/1-3 ถ.เจริญนคร เขตธนบุรี  สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2476-0022

>> ดูสถานที่จัดงานแต่งงานและสถานที่ฮันนีมูนเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ : www.bangkok.com, www.bangkok.peninsula.com, www.thaitraveland.com, www.thaivillas.com, www.travel.edtguide.com, www.agoda.com, www.backyardtravel.com, www.explore.md, www.mahidol.ac.th, www.mktevent.com

เช็กลิสต์ความงามเจ้าสาว จัดให้ครบตามนี้เพื่อต้อนรับตำแหน่งเจ้าสาวมีออร่า

ตำแหน่งเจ้าสาวนั้นไม่ได้มีโอกาสให้ได้เป็นกันได้บ่อยๆ บางคนอาจจะได้สวมบทบาทตำแหน่งนี้แค่คนละครั้งเท่านั้น เพราะฉะนั้น ไม่ผิดหรอกค่ะ ที่เราจะต้องเตรียม ความงามเจ้าสาว ให้สวยสมบูรณ์แบบที่สุดในวันงาน เรามาเริ่มเช็คกันเลยค่ะว่าเรื่องความสวย เราต้องเตรียมตัวทำอะไรกันบ้าง

1. ผิวหน้าสะอาด สุขภาพดี

เทคนิคง่ายๆที่จะช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง สุขภาพดี  เราต้องเริ่มตั้งแต่วิธีการล้างหน้าและทาครีมอย่างเบามือ ไม่ทาขึ้นๆลงๆหรือถูไปมาบนใบหน้า แต่ควรลูบขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ควรทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง ข้อสำคัญอีกอย่างคือทาครีมที่หน้าแล้วอย่าลืมทาที่ลำคอด้วยนะคะ และก่อนออกจากบ้านให้ทาครีมกันแดดทุกครั้ง

2. ผิวกายนุ่มชุ่มชื่น

ควรหมั่นทาครีมให้ความชุ่มชื้นผิวอยู่เสมอ วางครีมหรือโลชั่นทาผิว ไว้ทุกที่ เพื่อได้หยิบใช้สะดวกเมื่อนึกขึ้นได้ และสามารถเติมความชุ่มชื่นได้ตลอดทั้งวัน

3. ริมฝีปากเรียบเนียน

ทาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปากให้เรียบเนียน ไม่ลอกเป็นขุย และหมั่นสครับริมฝีปากเพื่อผลัดเซล์ผิวออก

4. ฟันขาวสะอาด

พบทันตแพทย์ ปรึกษาปัญหาช่องปาก หากสีฟันหมอง แนะนำให้ฟอกสีฟัน เพื่อรอยยิ้มที่สดใส

5. ผมสลวย ไร้รังแค

ควรเชคเส้นผมของเราว่ามีรังแคหรือเปล่า ถ้ามี ให้หาผลิตภัณฑ์มาทดลองใช้ ค้นหาสิ่งที่เหมาะกับหนังศรีษะและเส้นผมของเรา         หากไม่มีผลิตภัณฑ์ชิ้นใดตอบโจทย์ ควรปรึกษาแพทย์ อย่าปล่อยให้เป็นปัญหาเรื้อรัง รบกวนใจในวันแต่งงาน

6. เล็บต้องเป๊ะ

การดูแลเล็บและมือให้สะอาดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะคุณจะต้องสวมแหวนในวันงาน และทุกคนคงจะโฟกัสมาที่มือของคุณ ควรทาครีมบำรุงมือให้นุ่มชุ่มชื่นอยู่เสมอ และควรเข้าร้านทำเล็บก่อนถึงวันงาน ให้ช่างดูแลเล็บสวยๆให้ ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบให้เราเลือกใช้บริการ

7. บอกลากลิ่นทั้งหลาย

ถ้าวันงานมีกลิ่นไม่พึงประสงค์เล็ดลอดออกมา คงจะดูไม่งามแน่ๆ

กลิ่นปาก ควรแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหารเสร็จ หรือลองหาหมากฝรั่ง sugar free มาเป็นตัวช่วย หากไม่สะดวกแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ

กลิ่นกาย วันงานถ้าเป็นงานอินดอร์ อยู่ในห้องแอร์คงไม่น่าห่วงมากนัก แค่เลือกใช้น้ำหอมกลิ่นหอมๆเป็นตัวช่วย แต่ถ้างานเอ้าดอร์ละก็ คงอาจจะต้องพกสเปรย์ระงับกลิ่นและน้ำหอม ติดไว้กับเพื่อนเจ้าสาวสักหน่อย เผื่อฉุกเฉินได้เรียกใช้ได้

กลิ่นเท้า อาจไม่เป็นปัญหาในวันงาน เพราะคงสวมรองเท้าอยู่ตลอด แต่ตอนเข้าห้องหอสิคะ คงจะไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ ดังนั้น ควรรักษาเท้า โดยการหมั่นใส่ถุงเท้าสะอาดอยู่เสมอๆ และรักษารองเท้าไม่ให้มีกลิ่นอับ

8. กำจัดขนให้สิ้นซาก

ขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง กำจัดออกไปซะ แนะนำวิธีเลเซอร์ด้วยเครื่อง YAG ที่กำจัดถึงรากถึงโคน เกลี้ยงเกลา ไม่มีปุ่ม ลองสอบถามตามคลินิกความงามทั่วไป เขามีบริการอยู่ แต่ควรศึกษารายละเอียดก่อนเข้ารับบริการนะคะ

9. สุขภาพกายแข็งแรง สดชื่น กระฉับกระเฉง

ในวันงาน ภาพลักษณ์ภายนอกต้องดูดีเสมอ และต้องใส่ส้นสูงเป็นเวลานาน ต้องยืนเกือบตลอดงาน การออกกำลังกาย เป็นวิธีที่รักษาสุขภาพโดยรวมได้ ทั้งช่วยเรื่องความแข็งแรง บุคลิกภาพดี และเพิ่มความสดชื่น

>> อ่านเคล็ดลับเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ pinterest

เนรมิตงานแต่งงานริมทะเลบนชายหาดส่วนตัวสุดโรแมนติกได้แบบใกล้แค่เอื้อม @โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน

งานแต่งงานริมทะเล น่าจะเป็นธีมงานที่อยู่ในใจว่าที่บ่าวสาวหลายคู่เพราะเต็มไปด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติกของสายลม หาดทราย พร้อมวิวพระอาทิตย์ฉาบแสงสีส้มสุดโรมานซ์ที่จะช่วยให้งานแต่งงานของว่าที่บ่าวสาวสวยขึ้นแบบคูณสอง เอาเป็นว่าหากภาพนี้คือภาพฝันงานแต่งงานของคุณล่ะก็ แพรวเวดดิ้งจะขอชวนว่าที่บ่าวสาวมาท่องโลกแห่งจินตนาการพร้อมจัดงานแต่งงานที่ไม่เหมือนใครที่ โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน ในบรรยากาศงานวิวาห์ชวนฝันริมทะเลบนชายหาดส่วนตัว พร้อมอีกหลากหลายพื้นที่ที่พร้อมให้บริการทุกรูปแบบการจัดเลี้ยงที่ว่าที่บ่าวสาวสามารถสร้างสรรค์ได้ตามต้องการ ไม่ว่าคุณและคนรักปรารถนาสิ่งใด โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน ก็พร้อมที่จะเป็นทุกคำตอบให้กับคุณได้อย่างแน่นอน

โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน รีสอร์ทที่ออกแบบได้อย่างไม่เหมือนใครผสมผสานความหรูหราเข้ากับงานออกแบบสไตล์แฟชั่นดีไซน์จนเกิดเป็นความเก๋ไก๋ผ่านฝีมือของ “คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค” นอกจากนี้ยังได้ มร. โดนาเทียน คาราทิเยร์ นักออกแบบภายในชาวฝรั่งเศสมาแต่งแต้มจิตนาการและภาพชวนฝันโดยจำลองรูปปั้นสัตว์นานาชนิดไว้ตามที่ต่างๆ ภายในรีสอร์ทอีกด้วย

โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน มีห้องพักและวิลล่ารวมทั้งหมด109 ห้อง โดยในห้องพักทั้งหมดมีการตกแต่งในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยจะตกแต่งออกมาเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่

สไตล์โซอาร์ตี้ (SO Arty) ห้องพักที่มีความทันสมัย ที่แสดงภาพความงดงามของศิลปะที่มนุษย์สร้างขึ้นผสมผสานกับศิลปะร่วมสมัยและประดับตกแต่งด้วยภาพถ่ายอันแสดงถึงอิริยาบถอันงดงามของมนุษย์โดยฝีมือของช่างภาพชาวอเมริกันมิสโลอิสกรีนฟิลด์ (Lois Greenfield)

สไตล์โซเนเจอร์ (SO Nature) ห้องพักที่แสดงถึงความเป็นธรรมชาติ ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติอันงดงามพร้อมประดับด้วยภาพถ่ายแนวธรรมชาตินิยมโดยช่างภาพมากฝีมือชาวนิวซีแลนด์มร. มาร์ตินฮิล (Martin Hill)

อีกทั้งที่นี่ยังมีทรีตเมนท์สปาที่ โซ สปา (SO/ SPA) ที่นำศาสตร์การบำบัดแบบดั้งเดิมรวมกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดี ผสมผสานกับเทคนิคการนวดโดยนักบำบัดผู้เชี่ยวชาญ หรือจะเลือกออกกำลังกายที่ โซ ฟิต(SO/ FIT) ซึ่งเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมี 3 สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ได้แก่ SO Pool สระว่ายน้ำขนาดใหญ่สำหรับครอบครัวตั้งอยู่บริเวณหน้าชายหาด, Solarium Pool สระว่ายน้ำสีฟ้าสดใสสะท้อนแสงแดดตั้งอยู่ใจกลางรีสอร์ท และ Signature Pool สระว่ายน้ำหลักของรีสอร์ทขนาดกว้าง 16 เมตรยาว 60 เมตรพร้อม Wibit ฐานกิจกรรมแอดเวนเจอร์ลอยน้ำที่ให้คุณและเพื่อนๆ หรือครอบครัวได้สนุกกันอย่างเต็มที่

ในส่วนของห้องจัดเลี้ยง และแพ็คเกจงานแต่งที่โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน ก็พร้อมเนรมิตงานวิวาห์ในฝันให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบผ่านการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ ที่คุณและคนรักสามารถคลายความกังวลได้ในวันสำคัญ ผ่านการวางแผนการจัดงานอย่างราบรื่นในหลากหลายพื้นที่การจัดงานภายในโรงแรม และแพ็คเกจพิเศษที่รังสรรค์มาเพื่อคุณและคนรักโดยเฉพาะ

แพ็คเกจถ่ายภาพแต่งงาน (พรีเวดดิ้ง) *ราคา 13,000 บาทสุทธิ

เก็บภาพพรีเวดดิ้งหวานๆ กับสายลม แสงแดด และเกลียวคลื่น ณ บริเวณริมสระว่ายน้ำ พื้นที่หน้าหาด พื้นที่สวน พื้นที่บริเวณล็อบบี้ ระหว่างเวลา 8:00 น. – 18:00 น. ประกอบด้วย

  • ห้องพัก SO Comfy พร้อมอาหารเช้าสำหรับคู่บ่าวสาวที่ห้องอาหาร White Oven
  • ชุดอาหารค่ำสำหรับคู่บ่าวสาว พร้อมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์แบบฟรีโฟลว์ที่ห้องอาหาร White Oven หรือ บริการนวดน้ำมันอโรมาเธอราพี สำหรับคู่รักที่ SO/ SPA
  • มินิบาร์ในห้องพัก เครื่องดื่ม ชา และกาแฟ
  • อินเตอร์เน็ทความเร็วสูง
  • บริการ Early Check-in ตั้งแต่เวลา 8:00 น. หรือ Late Check-out เวลา 14:00 น. (ขึ้นอยู่กับห้องพักที่ว่างในขณะนั้น)

แพ็คเกจพิธีแต่งงานแบบไทย *ราคา 129,000 บาทสุทธิ

งานพิธีไทยสุดหรู ณ ห้อง SO Ballroom หรือห้อง Galerie สำหรับแขกจำนวน 50 ท่าน ประกอบด้วย

  • พิธีสงฆ์ พร้อมนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป
  • พิธีหมั้น และพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์พร้อมการตกแต่งดอกไม้บริเวณแท่นพิธี
  • พวงมาลัยบ่าวสาว
  • เข็มกลัดดอกไม้สำหรับพ่อแม่บ่าวสาว
  • ชุดกลองยาว
  • สมุดเขียนอวยพร
  • อาหารพร้อมเครื่องดื่มสำหรับแขก 50 ท่าน
  • ชุดอาหารว่างสำหรับบ่าวสาว บริการเสิร์ฟขึ้นห้องในวันพิธี
  • หัองพัก One-Bedroom SO Pool Villa พร้อมอาหารเช้าสำหรับบ่าวสาว จำนวน 1 ห้อง1 คืน
  • สปาทรีตเม้นท์ 60 นาที ณ SO/ SPAสำหรับบ่าวสาว

แพ็คเกจพิธีงานแต่งงานริมทะเล *ราคา 119,000 บาทสุทธิ

ให้งานแต่งงานของคุณเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และความประทับใจไม่รู้ลืม ณ บริเวณสนามหญ้าริมชายหาด Event Lawn สำหรับแขกจำนวน 50 ท่าน ประกอบด้วย

  • การตกแต่งดอกไม้บริเวณแท่นพิธี และบริเวณงาน
  • ช่อดอกไม้สำหรับเจ้าสาว เข็มกลัดดอกไม้สำหรับเจ้าบ่าว
  • ช่อดอกไม้สำหรับเพื่อนเจ้าสาว2ช่อเข็มกลัดดอกไม้สำหรับเพื่อนเจ้าบ่าว 2ชุด เข็มกลัดดอกไม้สำหรับพ่อแม่บ่าวสาว
  • ผู้ดำเนินพิธีการ
  • เค้ก 3 ชั้น (10 ปอนด์)
  • สปาร์คกลิ้งไวน์ 1 ขวด
  • สมุดเขียนอวยพร
  • เครื่องดื่มต้อนรับสำหรับแขก 50 ท่าน
  • ชุดอาหารว่างสำหรับบ่าวสาวบริการเสิร์ฟขึ้นห้องในวันพิธี
  • หัองพักOne-Bedroom SO Pool Villa พร้อมอาหารเช้าสำหรับบ่าวสาวจำนวน 1 ห้อง 1 คืน
  • สปาทรีตเม้นท์ 60 นาทีณSO/ SPA สำหรับบ่าวสาว


*หมายเหตุ เงื่อนไขเป็นไปตามที่โรงแรมฯกำหนด

คู่รักที่สนใจไปใช้เวลาพักผ่อน หรือจะไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งพร้อมเป็นทริปซ้อมฮันนีมูนย่อมๆ หรือจะไปจัดงานแต่งงานในฝัน โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน ก็พร้อมที่จะดูแลและให้บริการพร้อมเนรมิตทุกภาพฝันของว่าที่บ่าวสาวให้สมบูรณ์แบบเป็นที่น่าประทับใจไม่รู้ลืมแน่นอน สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มโทร. 032-709-555 หรืออีเมล์ [email protected]

6 อาหารกินแล้วสวย ว่าที่เจ้าสาวควรหามาทานกันโดยด่วนรับรองเวิร์ค

เจ้าสาวทุกคนย่อมอยากสวยดูดี ในวันแต่งงานด้วยกันทั้งนั้น  ถ้าอยากดูดีสมบูรณ์แบบก็ต้องรีบดูแลกันแต่เนิ่นๆ ยิ่งเรื่องอาหารการกินด้วยแล้ว ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าสาวทุกคนควรต้องดูแล แพรวเวดดิ้งขอแนะนำ 6 อาหารเพิ่มความสวย ให้คุณว่าที่เจ้าสาว รีบหามาทานกันด่วนๆ อาหารกินแล้วสวย มีอะไรบ้าง ลองดูกันเลย

1. ผลไม้สด

องุ่นเป็นสุดยอดอาหารต้านความชรา บลูเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระ แตงโมช่วยขับปัสสาวะและของเสียในร่างกาย ผลไม้แต่ละชนิดล้วนมีสารอาหารที่แตกต่างกันออกไป จึงควรหามาทานให้หลากหลาย

ผลไม้

2. น้ำ

ช่วยขับสารพิษในร่างกาย ควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง และดื่มน้ำอุ่นตอนเช้าและก่อนนอนจะช่วยให้กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป

น้ำ

3. อาหารที่มีเส้นใย

การทานอาหารที่มีเส้นใยสูงอย่างผัก มันเทศ และสาหร่าย จะช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดี ส่งผลให้ไม่เหลือสิ่งสกปรกตกค้างบนผิว และการทานข้าวกล้องยังส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักอีกด้วย

ผัก

4. ชา

การดื่มชาสมุนไพรที่ไม่มีคาเฟอีนในช่วงเย็นจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษในร่างกาย เช้าวันต่อมาจะทำให้หน้าไม่บวมอีกด้วย

ชา

5. อาหารรสเผ็ด

ในพริกเผ็ดๆ มีสารแคปไซซินที่เป็นตัวช่วยลดน้ำหนักและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ควรทานอย่างพอเหมาะเพื่อไม่ให้กระเพาะอาหารทำงานหนัก และอย่าลืมหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มด้วย

พริก

6. ไวน์

การดื่มไวน์แดง และไวน์ข้าว(ไวน์ที่ได้จากการหมักข้าว) นั้นดีกับผิว แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรให้ไวน์สัมผัสผิวโดยตรง โดยใช้ไวน์แดงสำหรับมาสก์หน้า  สาร AHA ในไวน์แดงจะช่วยกำจัดผิวหนังที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยนและทำให้ผิวนุ่มขึ้น ใช้ไวน์ข้าวตอนอาบน้ำ ไวน์ข้าวจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน คงความชุ่มชื่น

ไวน์แดง

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

เครดิตภาพ : pinterest

พิธีล้างเท้าเจ้าบ่าว พร้อมข้าวของที่ต้องเตรียม และสคริปต์ที่ต้องมี

เมื่อพูดถึง พิธีล้างเท้าเจ้าบ่าว ในปัจจุบันนี้บ่าวสาวหลายคนอาจจะไม่คุ้นหู แต่ถ้าไปถามคุณพ่อคุณแม่ หรือปู่ย่าตายายแล้วล่ะก็ พวกท่านจะร้องอ๋อโดยทันที ซึ่งสาเหตุที่ปัจจุบันนี้ไม่ค่อยมีพิธีนี้ให้เห็นแล้วอาจจะเป็นเพราะด้วยขั้นตอนที่ยุ่งยากและอาจทำให้ช่วงเวลาดูยืดเยื้อ แต่ถ้าหากคุณเป็นคู่ที่อยากสืบสานวัฒนธรรมและอนุรักษ์สิ่งนี้ไว้ แพรว wedding ได้รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ พร้อมสคริปต์เป๊ะๆ แบบ 2 ภาษามาให้แล้วค่า

 

สิ่งที่ต้องเตรียม

ฝ่ายเจ้าสาวตระเตรียมแบบโบราณ : ใบตองวางทับด้วยหินก้อนใหญ่ที่เจ้าบ่าวสามารถขึ้นไปยืนได้และน้ำสะอาดผสมมะกรูดมะนาวในขันเงินสำหรับล้างเท้าเจ้าบ่าว

ฝ่ายเจ้าสาวตระเตรียมแบบประยุกต์ : ก้านมะยมและน้ำสะอาดใส่ในขันเงินสำหรับพรมเท้าเจ้าบ่าว

ฝ่ายเจ้าบ่าว : เตรียมซองเงินหรือสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่ฝ่ายเจ้าสาว

ขั้นตอนในพิธี

เมื่อเจ้าบ่าวมาถึงหน้าประตูบ้านเจ้าสาวแล้ว น้องหรือญาติผู้น้องของเจ้าสาวจะเป็นผู้ล้างเท้าเจ้าบ่าว โดยเจ้าบ่าวจะต้องถอดรองเท้าและยืนอยู่บนหินที่รองด้วยใบตอง จากนั้นน้องหรือญาติผู้น้องของเจ้าสาวจะตักน้ำที่เตรียมไว้ในขันเงินล้างและช่วยเช็ดเท้าให้เจ้าบ่าว เพื่อเป็นการต้อนรับและเป็นการแสดงความเคารพเจ้าบ่าวที่จะเข้ามาอยู่ในครอบครัว หลังจากนั้นเจ้าบ่าวจะให้ซองเงินเป็นสินน้ำใจตอบแทน

ปัจจุบันคนไทยสวมรองเท้าเดินกันจนเป็นเรื่องปกติจึงไม่จำเป็นต้องล้างเท้าก่อนเข้าบ้าน ทำให้มีการประยุกต์พิธีล้างเท้าโดยเปลี่ยนมาใช้ก้านมะยมมัดแล้วจุ่มน้ำในขันที่เตรียมไว้ พรมบนรองเท้าเจ้าบ่าว ไม่ต้องล้างจนเท้าเปียกเหมือนสมัยก่อน และบางพื้นที่อาจมีการชิงรองเท้าเจ้าบ่าว เพื่อเอาไว้เรียกค่าไถ่ และสร้างสีสันสีสันในงานแต่ง

 

The Feet Washing Ceremony (if necessary)

  • The groom takes off his shoes and stands on a rock placed on a banana leaf.
  • The younger sibling of the bride pours water onto the groom’s feet to welcome and to show respect to the person who will become his or her brother-in-law. (In the old days, Thais walked barefoot everywhere, so they had to wash their feet before stepping in to houses.)
  • The groom gives money to say thank you.

    NOTE
    : For convenience, these steps can be reduced to simply sprinkling water on the groom’s feet.

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีแต่งงานไทยเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ใส่สูทยังไงให้ดูดี ต้องไม่มี 3 สิ่งต่อไปนี้ที่ผู้ชายมักพลาดเวลาใส่สูท

ใส่สูทยังไงให้ดูดี ? คำถามนี้หนุ่มๆ หลายคนคงกำลังหาคำตอบอยู่ ขอบอกเลยว่าคำตอบและเทคนิคนั้น ง่ายนิสสเดียว

หนุ่มๆ ที่กำลังจะเป็นเจ้าบ่าว หรือเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว หรือต้องแต่งตัวไปงาน ก็คงอยากจะดูดีด้วยกันทั้งนั้น แต่รู้ไหมคะ ว่าเทคนิค ใส่สูทยังไงให้ดูดี คืออะไร? บอกเลยว่าคำตอบนั้นไม่ใช่ สูทราคาแพง แต่อยู่ที่เทคนิคการใส่ต่างหาก ซึ่งหนุ่มๆ หลายคนมักจะทำผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อยู่เสมอเวลาใส่สูท แล้วสิ่งที่พลาดที่ว่านั้นคืออะไร ตามไปอ่านกันได้เลย

  • การใส่ทั้ง Suspenders และเข็มขัด

Suspenders หรือที่เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า Braces คือสายรั้งกางเกง มีหน้าที่แบบเดียวกับเข็มขัดคือทำให้กางเกงกระชับเอว ไม่ไหลหลุดไปตามแรงโน้มถ่วง เพราะฉะนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่ทั้งสองอย่างพร้อมกัน เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งดีกว่า หรือบางครั้งเวลาใส่สูทสุภาพบุรุษหลายท่านเลือกที่จะไม่ใส่ทั้งสองอย่างเลยในกรณีที่กางเกงพอดีตัวอยู่แล้ว ทิปส์เล็กๆ ในการเลือก Suspenders คือ ไม่ควรใส่เส้นที่สั้นจนเกินไป

ใส่สูทยังไงให้ดูดี

  • นั่งแล้วไม่ปลดกระดุทสูท

เวลานั่งเก้าอีทุกครั้ง คุณสุภาพบุรุษควรปลดกระดุมสูททุกเม็ด เพราะการนั่งลงไปทั้งที่ติดกระดุมอยู่จะทำให้เสื้อนอกคุณรั้งจนแทบจะปริออกมา นอกจากดูไม่ดีแล้วยังทำให้สูทเสียทรงอีกด้วย

  • ติดกระดุมสูททุกเม็ด

จริงๆ แล้วเรื่องการติดกระดุมสูทเป็นที่ถกเถียงกันในสไตล์หมู่กูรูว่าจริงๆ แล้วควรจะติดแบบไหน แต่สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับสูท Single Breasted แบบ 2 กระดุมก็คือติดเฉพาะเม็ดบน ถ้าถามว่าทำไมคนไม่นิยมติดกระดุมเม็ดล่าง ก็อาจเป็นเพราะมันรัดพุง ทำให้ขยับตัวไม่ถนัด ดูเหมือนตัวคุณกำลังจะปริออกมา ในขณะที่สูท Single Breasted แบบกระดุม 3 เม็ดก็นิยมติดเฉพาะเม็ดกลางหรือเม็ดบนสุด ส่วนสูทประเภท Double Breasted กระดุม 6 เม็ด ก็มักจะไม่กลัดกระดุมแถวสุดท้ายอีกเช่นกัน แต่บางครั้งเราอาจเห็นสุภาพบุรุษหลายท่านนิยมมากลัดกระดุมแถวสุดท้ายเมื่อใส่สูทแบบ Double Breasted ก็ถือว่าไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด เอาเป็นว่าเลือกให้เข้ากับตัวเองมากที่สุดก็พอ

ภาพ stocksnap.io, pinterest

ติดตามเทคนิคการใส่สูท และแบบสูทเท่ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ >> คลิกเลย!

10 อาหารทำลายสุขภาพที่เจ้าสาวต้องหลีกเลี่ยงให้ห่างก่อนวันแต่งงาน

จะสวยในวันสำคัญทั้งทีต้องสวยแบบมีสุขภาพดีจากภายใน เพราะฉะนั้นเรื่องอาหารการกินจึงสำคัญ แพรวเวดดิ้งเลยจัด 10 อาหารทำลายสุขภาพ ที่เจ้าสาวต้องหลีกให้ห่างก่อนถึงวันวิวาห์มาให้ เอาเป็นว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน จะได้เผยผิวแบบมีออร่าในวันแต่งงานกันนะคะ

1. น้ำตาล

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมนูน้ำตาลนั้นไม่ดีต่อสาวๆ อย่างไรบ้าง ยิ่งกับเจ้าสาวที่กำลังจะแต่งงานด้วยแล้วยิ่งต้องห้ามเป็นการใหญ่ เพราะฉะนั้นช่วงนี้ก็งดเดินผ่านตู้เค้กหรือร้านน้ำหวานกันสักพักนะคะ แล้วหันมากินผลไม้บางอย่างที่ให้ความหวานแบบไม่อ้วนแทนดีกว่า แต่ผลไม้ก็ไม่ใช่ว่าจะกินได้ทุกอย่างนะคะ เพราะจากผลการวิจัยพบว่า กล้วยและองุ่น นั้นมีปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง นักโภชนาการจึงแนะนำให้กินเป็นผลไม้จำพวกเบอร์รี่ กีวี และส้มแทน

2. ชีส

ชีสสีเหลืองทองที่ไม่ว่าจะราดลงบนอะไรก็ดูน่าอร๊อยอร่อย แต่ในความน่ากินนั้นกลับมีภัยร้ายซ่อนอยู่ เพราะชีสอุดมไปด้วยไขมันที่ย่อยยาก พอย่อยยากก็เกิดการสะสมในร่างกาย กายเป็นห่วงยางรอบพุงให้เจ้าสาวต้องกลุ้มใจ แถมถ้ากินมากๆ ก็จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องอืด และอ่อนล้าได้อีกด้วย

3. คาเฟอีน

กาแฟช่วยให้เจ้าสาวที่อ่อนล้าจากการเตรียมงานรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น แต่ในวันแต่งงานการดื่มคาเฟอีนอาจทำให้เจ้าสาวเกิดความกระวนกระวายหรือกังวลใจได้เพราะฤทธิ์ของกาแฟที่ไปกระตุ้นให้เจ้าสาวอะเลิร์ตตลอดเวลา ซึ่งก่อนหรือในวันแต่งงานเจ้าสาวควรจะมีอารมณ์ที่สงบที่สุดถึงจะถูก เพราะฉะนั้นลองเปลี่ยนมาเป็นชาสมุนไพรร้อนๆ สักแก้วที่ช่วยให้เจ้าสาวรู้สึกผ่อนคลายจะดีกว่านะคะ

4. กราโนล่า

ธัญพืชจากทางฝั่งตะวันตกนิยมทำเป็นซีเรียลมีส่วนผสมของข้าวโอ๊ต ถั่ว และน้ำผึ้งผสมกันแล้วนำไปอบให้กรอบ และมีน้ำตาลในปริมาณที่สูงด้วย!! และจากผลการวิจัยพบว่ากราโนล่าไม่ได้ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นลองมาทำกราโนล่าสไตล์โฮมเมดที่ไม่ผสมน้ำตาลด้วยการมิกซ์ส่วนผสมที่อุดมไปด้วยโปรตีน แถมยังสามารถเลือกถั่วหรือธัญพืชที่เจ้าสาวชอบได้อีกด้วย

5. แอลกอฮอล์

พอได้ฤกษ์สละโสดปาร์ตี้ของแก๊งเพื่อนก็ตามมาเป็นหางว่าว เราไม่ได้ห้ามปาร์ตี้นะคะ แต่ควรจะสนุกให้เต็มที่ล่วงหน้าก่อนที่จะถึงวันแต่งงานให้นานสักหน่อย เพราะในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไอออกไซด์ออกมาในกระเพาะอาหาร จึงทำให้เกิดอาการท้องอืดและท้องผูกได้ อดใจไว้สักนิดแล้วไปสนุกให้เต็มที่ในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ดีกว่านะคะ

6. ของเผ็ด

เพราะการกินของเผ็ดร้อนจะทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้ แถมของเผ็ดที่กลิ่นแรงอาจทำให้ลมหายใจของเจ้าสาวไม่หอมสดชื่นด้วยนะจ๊ะ ถนอมลมหายใจหอมสดชื่นไว้จุมพิตสุดหวานกับเจ้าบ่าวสุดหล่อดีกว่า เพราะคุณคงไม่อยากมีความทรงจำที่แย่ในฐานะจูบแรกของสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ จริงไหม

7. น้ำอัดลม

ดูเผินๆ เจ้าสาวอาจจะคิดว่าไม่เห็นน่าจะกังวลตรงไหน แต่บางครั้งการดื่มน้ำอัดลมในปริมาณมากๆ ก็อาจทำร้ายกระเพาะอาการของคุณให้ระคายเคืองและเกิดอาการท้องอืดได้ เพราะฉะนั้นเปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าหรือชาก็สามารถเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายได้ไม่แพ้กัน

8. ผักตระกูลกะหล่ำปลี

เช่น บล็อคโคลี่, กะหล่ำดาว, ผักฉ่อย ล้วนเป็นผักที่ดีต่อสุขภาพ แต่อาจทำให้ท้องของคุณปั่นป่วนได้หากรับประทานแบบดิบๆ เพราะฉะนั้นก่อนถึงวันแต่งงานประมาณสองวัน เราขอแนะนำให้เจ้าสาวงดกินผักดิบ เนื่องจากผักที่มีเส้นใยอาหารสูงอาจสร้างแก๊สในกระเพาะได้ หากระดับเอนไซม์ย่อยอาหารของเจ้าสาวอยู่ในระดับต่ำ เพราะฉะนั้นควรทำให้ผักสุกสักนิดเพื่อช่วยลดความเครียดและการทำงานหนักของระบบย่อยอาหาร

9. ของทอด

ขึ้นชื่อว่าทอดแน่นอนว่าอาหารนั้นต้องผ่านน้ำมันมาแน่นอน และนี่แหละค่ะตัวการความอ้วนชั้นดี เพราะฉะนั้นหันมากินน้ำมันที่มีประโยชน์กับร่างกายแทนดีกว่าด้วยอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำมันที่มีประโยชน์กับร่างกาย เช่น อะโวคาโด, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันมะกอก ที่ปลอดภัยและดีต่อการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดด้วย

10. คาร์โบไฮเดรต

ผลไม้อบกรอบ, ขนมปัง, แครกเกอร์ และมันฝรั่งทอดหลากรสเป็นสิ่งที่เจ้าสาวต้องหลีกให้ห่าง เพราะนี่เป็นคาร์บที่บั่นทอนสุขภาพของเจ้าสาว ซึ่งอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีปริมาณเส้นใยสูงจะทำให้เกิดแก๊สในระบบย่อยอาหารได้ และเป็นสาเหตุให้เจ้าสาวท้องป่องในชุดแต่งงาน เพราะฉะนั้นลองเปลี่ยนมาเป็นการกินธัญพืชที่ย่อยง่าย อย่างเช่น บัควีท,คีนัว, ลูกเดือย ที่ดีต่อระบบย่อยอาหารและลดอาการท้องอืดได้เป็นอย่างดี

>> ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติม คลิกเลย! <<

ภาพ : www.thedailymeal.com, www.eatingwell.com, www.huffingtonpost.com

10 สถานที่สวนสวยในโรงแรมที่มีไว้ให้จัดงานธีมแต่งงานในสวน

งาน แต่งงานในสวน เป็นงานแต่งในฝันของสาวๆ หลายคน ที่จะวาดภาพถึงพื้นหญ้าสีเขียว กับงานแต่งสีขาว แต่กว่าจะเจอสวนสวยที่ถูกใจ ก็พาลเอาห่อเหี่ยวอยากจะล้มความฝันยอมไปแต่งงานใต้หลังคาและโคมแชนเดอเลียเหมือนเดิม แพรว wedding เราไม่ยอมให้สาวๆ ละทิ้งความฝัน จึงจัด 10 โรงแรมที่มีสวนสวยพร้อมบริการครบถ้วนมาให้ สาวๆ แค่เลือกแล้วโทรหาเป็นอันจบ ก็ได้ แต่งงานในสวน สมใจอยากแล้ว

1. Trader Vic’s  Garden @ Anantara Riverside Bangkok Resort

แต่งงานในสวน,Trader Vic's  Garden
สวนกว้างที่เขียวชอุ่มไปด้วยพันธุ์ไม้เขตร้อนสีสันสดใส วิวแม่น้ำเจ้าพระยา

โรงแรมสวยฝั่งธนบุรีติดแม่น้ำเจ้าพระยา กับสวนเทรเดอร์ วิคส์ (Trader Vic’s Garden) สวนกว้างที่เขียวชอุ่มไปด้วยพันธุ์ไม้เขตร้อนสีสันสดใส เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ในลานสายตาแบบไม่ต้องชะเง้อมองจนคอยืดเป็นเต่า สวนแห่งนี้รองรับคนได้มากที่สุด 200 คน

แต่งงานในสวน,Trader Vic's  Garden
สวนแห่งนี้รองรับคนได้มากที่สุด 200 คน

ค่าใช้จ่าย : ขั้นต่ำ 400,000 บาท

ติดต่อ  ถนนเจริญนคร เขตธนบุรี กรุงเทพ โทร. 0-2476-0022

เว็บไซต์ bangkok-riverside.anantara.co.th/

เฟชบุ๊ค anantara

ภาพจาก www.bangkokriver.com, http://www.hotel-r.net/

2. สวนลอยฟ้า @ Amari Watergate

สวนลอยฟ้า,Amari Watergate,แต่งงานในสวน
สวนลอยฟ้า ชั้น 8 มองเห็นแสงสีเมืองหลวงชัดเจนแต่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว

โรงแรมกลางใจเมือง เดินทางสะดวกสุดๆ แถมสวนลอยฟ้า ชั้น 8 ยังเลอค่า เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นสวนติดดินธรรมดา คุณจึงได้ทั้งวิวสวนและวิวเมืองแบบพาโนราม่า มองเห็นแสงสีแห่งเมืองหลวงชัดเจนแต่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว เป็นงานแต่งงานโรแมนติคในแบบที่ไม่สามารถทำจำลองขึ้นได้เลย สวนลอยฟ้าแห่งนี้เหมาะกับจัดงานขนาดเล็กๆ เพราะรองรับคนได้เพียงแค่ 200 คนเท่านั้น

สวนลอยฟ้า,Amari Watergate,แต่งงานในสวน
เหมาะกับจัดงานขนาดเล็กๆ เพราะรองรับคนได้เพียงแค่ 200 คน

ค่าใช้จ่าย : ค็อทเทลเริ่มต้นที่ 1,000 บาท

ติดต่อ :  ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพ โทร 0-2653-9000

เว็บไซต์ : th.amari.com/watergate/

เฟชบุ๊ค : amarihotels

ภาพ th.amari.com/watergate/

3. สวนสราญรมย์ @Kalanan Riverside Resort

สวนสราญรมย์,แต่งงานในสวน
สวน สราญรมย์ สวนขนาดใหญ่โอบล้อมด้วยกำแพงต้นไม้ สนามหญ้าปลอมที่ถูกโอบรอบด้วยกำแพงต้นไม้

บ้านใครอยู่แถวเมืองนนฯ เราขอเสนอให้ไปเยี่ยมชม Kalanan Riverside Resort  โรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่วิวดี๊ดีแถมบรรยากาศยังเงียบสงบเป็นส่วนตัว กับสวนสราญรมย์ สนามหญ้าเทียมที่ทำให้เบาใจได้ว่าตัวแมลงทั้งหลายจะมีน้อยกว่าหญ้าจริง แถมสวนยังถูกโอบรอบด้วยกำแพงต้นไม้มองไปทางไหนก็เขียวครึ้ม ภายในพื้นที่มีห้องสำราญราษฎร์ 1 ที่สามารใช้เป็นห้องงานหมั้นวิวสวน หรือพื้นที่สำหรับรองรับแขกผู้ใหญ่เมื่อจัดงานในสวนอีกด้วย  นอกจากนี้ ยังมีศาลา 8 เหลี่ยมสำหรับจัดเป็นแลนด์มาร์คของงาน สวนแห่งนี้จุคนได้มากถึง 600 คน จัดงานใหญ่โตได้เลยทีเดียว

ค่าใช้จ่าย : แพคเกจเริ่มต้น 250,000 บาท

ติดต่อ : ซอยสุขาประชาสรรค์ 2 แขวงบางพูด ปากเกร็ด นนทบุรี

โทร. 0-2584-2222

เว็บไซต์ www.kalananriverside.com

เฟชบุ๊ค kalananriverside/

ไลน์ : @Kalananriverside

ภาพ www.kalananriverside.com

4. Praya Dinning @ Praya Palazzo Boutique Hotel Bangkok

Praya Dinning,แต่งงานในสวน
บูติคโฮเทลหรูสไตล์ไทยโคโลเนียลริมแม่น้ำเจ้าพระยา

บูติคโฮเทลหรูสไตล์ไทยโคโลเนียลริมแม่น้ำเจ้าพระยา สวนของที่นี่เด็ดตรงทางเข้าที่เป็นซุ้มเหล็กดัดเชื่อมต่อกับท่าเรือของโรงแรม ก่อนที่แขกผู้มางานจะประทับใจกับสวนเขียวขจี ภายใต้กิ่งไม้น้อยใหญ่และฉากหลังที่เป็นตึกสไตล์โคโลเนียลวินเทจ จึงเหมาะมากหากบ่าวสาวจะจัดงานในสไตล์ย้อนยุค ที่ส่วนของ Praya Dinning แห่งนี้จุคนได้ประมาณ 150  คน

ค่าใช้จ่าย :  450,000 บาท รวมค่าอาหาร ดอกไม้ ที่พัก แชมเปญ และเค้กแต่งงาน

ติดต่อ ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า เขตบางพลัด กรุงเทพ  โทร. 0-2883-2998 ,08-1402-8118

เว็บไซต์ www.prayapalazzo.com

เฟชบุ๊ค prayapalazzo/

ภาพ www.prayapalazzo.com, www.facebook.com/prayapalazzo/

5. ศาลาทิพย์ @ Shangri-La Hotel Bangkok

ศาลาทิพย์,แต่งงานในสวน
ศาลาทรงไทยริมแม่น้ำเหมาะเป็นพิเศษกับการจัดงานพิธีไทย

โรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเวิ้งที่ว่ากันว่าสวยที่สุด มีสวนอยู่กลางศาลาทิพย์ ศาลาทรงไทยริมแม่น้ำ จึงเหมาะเป็นพิเศษกับการจัดงานพิธีไทย แต่ถ้าจะจัดงานที่สวนแห่งนี้จองศาลาทิพย์ด้วย โดยศาลาหลัง รองรับคนได้ 50 คน

ศาลาทิพย์,แต่งงานในสวน
ศาลา 1 หลัง รองรับคนได้ 50 คน

ค่าใช้จ่าย : บุฟเฟ่ต์เริ่มต้นหัวละ 1,450 บาท ค่าศาลาหลังละ 20,000 บาท

ติดต่อ :  ซอยวัดสวนพลู ถนนใหม่ เขตบางรัก กรุงเทพ โทร. 0-2236-7777

เว็บไซต์ www.shangri-la.com/bangkok/shangrila/

เฟชบุ๊ค shangrilabkk

ภาพจาก http://www.shangri-la.com/bangkok/shangrila/

6. Rotunda Lawn  @ Siam Kempinski Hotel Bangkok

Rotunda Lawn,งานแต่งในสวน
สนามหญ้าสีเขียวอันร่มรื่นเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ

Rotunda Lawn  สนามหญ้าสีเขียวอันร่มรื่นเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ อยู่ภายใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่ที่ดอกส่งกลิ่นหอมฟุ้ง เหมาะสำหรับงานเช้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมีแขกไม่มากนัก เพราะสวนแห่งนี้รองรับแขกได้เพียง 50 คนเท่านั้น

ค่าใช้จ่าย : ขั้นต่ำ 300,000 บาท

ติดต่อ  ถนนพระราม 1  เขตปทุมวัน กรุงเทพ โทร. 0-2162-9000

เว็บไซต์ www.kempinski.com/en/bangkok/siam-hote

เฟชบุ๊ค SiamKempinskiHotelBangkok

ภาพ www.kempinski.com/en/bangkok/siam-hotel, www.facebook.com/SiamKempinskiHotelBangkok

7. The Lawn @ The Peninsula Bangkok

The Lawn,งานแต่งในสวน
สนามหญ้าขนาดใหญ่วิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่รองรับคนได้มากถึง 300 คน

โรงแรมหรู 5 ดาว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศในสวน The Lawn บอกเลยว่าดีเยี่ยม กับงานกลางสนามหญ้าขนาดใหญ่ ที่พื้นเรียบจนสามารถแดนซ์และสโลว์ซบสุดโรแมนติคภายใต้หมู่ดาวได้ แถมยังเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ตลอดทั้งสวน และที่สำคัญคือสวนมีขนาดใหญ่มากชนิดรองรับคนได้มากถึง 300 คน

ค่าใช้จ่าย : ขั้นต่ำ 520,000 บาท

ติดต่อ ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน กรุงเทพ โทร. 0-2020-2888

เว็บไซต์ www.peninsula.com/

เฟชบุ๊ค ThePeninsulaBangkok/

ภาพ www.peninsula.com/

8. กมลทิพย์ @ The Sukosol Bangkok

แต่งงานในสวน,กมลทิพย์
โรงแรมใจกลางเมือง เหมาะสำหรับบ่าวสาวที่อยากได้ทั้งงานเอาท์ดอร์และอินดอร์

โรงแรมใจกลางเมืองเดินทางสะดวก เหมาะสำหรับบ่าวสาวที่อยากได้ทั้งงานเอาท์ดอร์ชิลๆ ตามใจตัวเอง และอินดอร์เอาใจญาติผู้ใหญ่ เนื่องจากจัดงานที่ห้องกมลทิพย์ ที่จุคนได้ถึง 800 คนก็จะได้พื้นที่สวนด้านนอกที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำไปด้วย คราวนี้ก็มีที่นั่งสบายๆ สำหรับญาติผู้ใหญ่ และสถานที่แฮงค์เอาท์ใต้ต้นไม้ตระกูลปาล์มสำหรับกลุ่มเพื่อน

ค่าใช้จ่าย : ค่าอาหารหัวละ 990 + +  ค่าปิดสถานที่ 30,000 บาท

ติดต่อ ถนนศรีอยุธยา เขตพญาไท กรุงเทพ  โทร.0-2247-0123

เว็บไซต์ www.thesukosol.com

เฟชบุ๊ค TheSukosolBangkok

ภาพ www.thesukosol.com

9. สนามหญ้าในสวน @ ทับขวัญ รีสอร์ตแอนด์ สปา

ทับขวัญ รีสอร์ตแอนด์ สปา,งานแต่งในสวน
สวนกว้างที่โอบล้อมไว้ด้วยต้นไม้ใหญ่และหมู่เรือนไทยหลังงาม

รีสอร์ตแอนด์สปาในจังหวัดนนทบุรี ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนักแต่เหมือนย้อนเวลากลับไปในวันวาร สวนกว้างแห่งนี้ที่รองรับคนได้มากถึง 400 คน ถูกโอบล้อมไว้ด้วยต้นไม้ใหญ่และหมู่เรือนไทยหลังงาม บอกเลยว่าเหมาะมากสำหรับงานเช้า และบ่าวสาวที่มีธีมงานแบบไทยแท้ๆก็ต้องไม่พลาดที่นี่เช่นกัน

ค่าใช้จ่าย : ค่าอาหารบุฟเฟ่ต์ไทยและเครื่องดื่มสมุนไพร หัวละ 750 บาท ขั้นต่ำ 50 คน

ติดต่อ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมือง นนทบุรี โทร. 02 969 1200

เว็บไซต์ www.dhabkwan.com

เฟชบุ๊ค dhabkwanresort

ภาพ www.dhabkwan.com/

10. สวนริมแม่น้ำนครชัยศรี  @ สามพราน ริเวอร์ไซต์

สวนริมแม่น้ำนครชัยศรี,แต่งงานในสวน
สนามหญ้ากว้างขวางใกล้ชิดแม่น้ำนครชัยศรี บรรยากาศอบอุ่น

โรงแรมและสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก บรรยากาศร่มรื่นเขียวขจีตลอดปี โดดเด่นด้วยสนามหญ้ากว้างขวางใกล้ชิดแม่น้ำนครชัยศรีอันเงียบสงบมีบรรยากาศอบอุ่นเหมือนจัดงานในสวนหลังบ้านยังไงอย่างนั้น แถมรองรับคนได้มากกว่า 500 คน

ค่าใช้จ่าย : ค่าสถานที่ 40,000 บาท ค่าอาหารบุฟเฟ่ต์ หัวละ 800 บาท ขั้นต่ำ 50 คน

ติดต่อ ถนนเพชรเกษม อำเภอสามพราน นครปฐม  0-3432-2544 , 0-34322-588 ถึง93

เว็บไซต์ sampranriverside.com/

เฟชบุ๊ค SampranRiverside.Thailand/

ภาพ sampranriverside.com, www.facebook.com/SampranRiverside.Thailand/

ครบแล้ว 10 โรงแรมที่มีสวนสวยสำหรับเนรมิตงาน แต่งงานในสวน ในฝันให้สาวๆ มีทุกแบบเลยเชียวทั้งสวนหญ้าสีเขียว สวนสวยริมแม่น้ำ หรือจะเป็นลานกว้างก็เก๋ไก๋ คราวนี้ก็สุดแล้วแต่ใจของบ่าวสาวแล้วล่ะคะ ว่าจะเลือกแบบไหนที่ใช่สำหรับคู่ของคุณที่สุด

ทำไม & จำเป็นหรือไม่ที่เจ้าสาวต้องใส่ เครื่องประดับแบบเซ็ต ในวันสำคัญ

เครื่องประดับแบบเซ็ต เสริมความงามให้เจ้าสาวในวันสำคัญได้จริงหรือ?

เครื่องประดับที่ใช้ในงานแต่งงานก็สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้นะคะ เพียงแต่ต้องวางแผนให้ดีตั้งแต่เริ่มต้นมองหาแหวนแต่งงานกันเลย ซึ่งหัวใจสำคัญคือทั้งสองจะต้องเข้าชุดกันก่อน เพราะเมื่อคุณนำมาประดับคู่กับชุดเจ้าสาวจะได้สวยเป๊ะสมบูรณ์แบบ หลังจากนั้นเมื่อจบงานแล้วยังสามารถนำ เครื่องประดับแบบเซ็ต นั้นมาแยกชิ้นและหยิบใช้งานได้ในหลายวาระโอกาสด้วยนะคะ

  • แหวนเพชรเม็ดเดี่ยว คือแหวนแต่งงานอันดับหนึ่งของเจ้าสาวทุกคน

จากการสำรวจความสงสัยของว่าที่เจ้าสาวเกี่ยวกับแหวนแต่งงาน เราได้คำตอบว่า คำถามยอดฮิตคือ แหวนแต่งงานแบบไหนที่สามารถใช้ได้หลายโอกาสและยังสามารถจับคู่กับเครื่องประดับเซ็ตได้ทุกรูปแบบ คำตอบคือ แหวนเพชรเม็ดเดี่ยว (Solitaire Ring) และ แหวนคู่ (Wedding Band) ค่ะ

Untitled-2

เหตุผลที่แหวนสองแบบนี้สามารถจับคู่กับเครื่องประดับเซ็ตได้ทุกรูปแบบคือ ความเรียบง่ายที่แฝงไว้ด้วยรายละเอียดอย่างที่คุณคาดไม่ถึง เพราะด้วยการออกแบบของแหวนทั้งสองนี้เน้นไปที่ความคลาสิค เรียบหรูและเอื้อต่อการหยิบมาใส่คู่กับเสื้อผ้าทุกรูปแบบ ทำให้แหวนสไตล์ที่ว่านี้ครองใจเจ้าสาวมายาวนาน

จุดเด่นของแหวนเพชรเม็ดเดี่ยวอยู่ที่ความเรียบง่ายของตัวเรือนและเพชรกลมเม็ดงามที่นำมาประดับ ซึ่งในความเรียบง่ายนี้ไม่ได้ตีกรอบไว้จนว่าที่เจ้าสาวไม่สามารถออกแบบอะไรได้เลย เพราะคุณยังสามารถใส่รายละเอียดเพิ่มเติมลงไปในแหวนได้ตามที่ต้องการไม่แพ้แหวนสไตล์ไหน ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของตัวเรือนที่สามารถเลือกก้านแหวนให้เป็นแบบบางหรือหนาเพื่อให้รับกับรูปทรงนิ้วผู้สวม หรือจะเป็นการปรับจำนวนหนามเตยให้สอดรับกับขนาดของเพชร นอกจากนี้ยังสามารถลงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มเติม เช่นการเลเซอร์สลักชื่อบ่าวสาวหรือลงวันที่แต่งงานบนท้องแหวนที่หลายคู่นิยม

Untitled-1

ส่วนแหวนคู่นั้นเป็นแหวนแต่งงานที่บ่าวสาวทุกยุค พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า Must Have!! เพราะสามารถใส่ติดตัวได้ทุกวัน เวลาหยิบจับอะไรในชีวิตประจำวันก็ไม่ต้องคอยระวังว่าหัวแหวนจะไปเกี่ยวเสื้อหรือเปล่า แถมยังสามารถออกแบบให้แหวนเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วก็ได้ หรือจะใส่ความต่างนิดหน่อยด้วยการเพิ่มเพชรเม็ดเล็กๆ ลงไปบนแหวนที่เจ้าสาวต้องสวมก็ไม่ผิด

  • แหวนแต่งงานพร้อมแล้ว จึงเริ่มมองหาเครื่องประดับครบเซ็ต

เมื่อได้แหวนแต่งงานที่ถูกใจแล้วก็ถึงเวลาที่เจ้าสาวควรเลือกเครื่องประดับแบบครบเซ็ตที่มีต่างหู สร้อยคอและกำไลหรือสร้อยข้อมือพร้อม ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความสวยสมบูรณ์แบบสมศักดิ์ศรีเจ้าสาวของงาน แต่จะเลือกให้เข้าเซ็ตกัน เรามี 2 เทคนิกเจ๋งๆ มาฝากค่ะ
prima_adv0
1.    เข้าเซ็ตสวยในงานแต่งด้วยรูปทรงของเพชรที่เหมือนกัน

จำไว้ให้ขึ้นใจเลยนะคะว่า สิ่งที่เหมือนกันย่อมอยู่ด้วยกันได้ไม่ยาก ไม่ว่าคุณจะเลือกแหวนแต่งงานสไตล์เรียบหรูหรือเปรี้ยวปรี๊ด แหวนทุกวงจะมีเพชรเป็นองค์ประกอบหลัก ลองดูว่าเพชรบนแหวนแต่งงานที่เลือกเป็นเพชรรูปทรงไหน ให้นำรูปทรงเพชรนั้นมาเป็นรูปทรงหลักในการเลือกเครื่องประดับชิ้นอื่นๆ ต่อไป  เช่นหากแหวนแต่งงานของคุณคือแหวนเพชรกลมเม็ดเดี่ยว เมื่อจะเลือกเครื่องประดับชิ้นอื่นๆ ก็ควรเลือกเครื่องประดับที่มีองค์ประกอบของเพชรกลมหรือรูปทรงเพชรประกอบที่รวมร่างแล้วกลายมาเป็นทรงกลมเป็นสำคัญ

2.    เข้าเซ็ตสวยด้วยดีไซน์โดยรวม

หลังจากเลือกรูปทรงของเพชรได้แล้ว สิ่งที่ตามมาคือการออกแบบที่ควรไปในทิศทางเดียวกัน เช่น หากแหวนแต่งงานของคุณประกอบขึ้นจากเพชรทรงกลมหลายๆ เม็ดมาจัดวางจนกลายเป็นรูปดอกไม้ ต่างหูหรือสร้อยคอก็ควรมีการออกแบบในลักษณะของดอกไม้เช่นกัน โดยสร้อยคออาจเป็นเพชรกลมเรียงเม็ดแล้วห้อยจี้รูปดอกไม้ที่จัดเรียงขึ้นจากเพชรกลมเม็ดเล็กๆ ส่วนต่างหูก็อาจเลือกแบบที่มีลวดลายอ่อนหวานโค้งมนไปในทิศทางเดียวกันกับความกลมของเพชร เป็นต้น

603R8485-01

 

 

แล้วทำไมต้องใส่เครื่องประดับเข้าเซ็ต?

ข้อดีของการเลือกใช้เครื่องประดับที่เข้าเซ็ตกันคือ ทำให้เจ้าสาวแต่งตัวง่ายขึ้นในวันแต่งงาน แถมยังมองแล้วดูดี มีรสนิยม ไม่ใช่แต่งตัวไปคนละทิศละทางเหมือนคนแต่งตัวไม่เป็น นอกจากนี้ผลพลอยได้จากการเลือกชิ้นเครื่องประดับที่เข้าชุดกันคือ เมื่องานฉลองแต่งงานสิ้นสุดลง คุณยังสามารถนำเครื่องประดับเซ็ตนั้นมาแยกชิ้นใช้งานได้แบบสบายๆ โดยไม่ต้องกังวลเลยว่าจะไม่สวย เพราะขนาดว่ารวมเซ็ตกันยังสวยเพอร์เฟค มีหรือที่เมื่อแยกชิ้นแล้วจะไม่เกิด

ส่วนที่ว่าจะเลือกให้เข้าเซ็ตแบบชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน แต่เชื่อเถอค่ะว่า ไม่ว่าจะโอกาสไหน เลือกเครื่องประดับเข้าเซ็ตไว้ก่อนมีชัยกว่าครึ่ง  ทีนี้รู้แล้วใช่ไหมคะว่า แค่เลือกเครื่องประดับให้ดี ให้เข้าเซ็ตเหมาะกัน คุณจะเฉิดฉายได้กับทุกปาร์ตี้ที่ไปเยือนและทุกวันธรรมดา

แต่ถ้าเจ้าสาวคนไหนอยากเสริมความงามด้วยไข่มุกต้องไม่พลาด เครื่องประดับไข่มุกเลือกแมตช์กับช่วงอายุยังไงให้ดูไม่แก่

ภาพเครื่องประดับ : Prima Diamond
ภาพเปิด : www.thebridalboutique.com

เจ้าสาวห้ามลืม! 8 สิ่งเสริมความเป๊ะให้สวยมั่นตลอดวันแต่งงาน

ความงามขั้นเทพคือ สิ่งที่เจ้าสาวทุกนางปรารถนา แต่เมื่อก้าวขาออกจากห้องแต่งตัว แน่นอนว่าทุกท่วงท่าอิริยาบถประกอบกับความวุ่นวายยุ่งขิงกับทุกสิ่งอันในแต่ละซีเควนซ์ของงานนั้น ย่อมนำมาซึ่งความเสียหายทางกายภาพที่คุณอาจคาดไม่ถึง และส่วนใหญ่มักปราศจากช่างหน้า ช่างผมมือฉมังผู้สร้างสรรค์ในขั้นต้นมาคอยดูแลใน วันแต่งงาน (เพราะต้องจ่ายค่าเสียเวลาเพิ่ม) 

แพรวเวดดิ้งจึงขอนำเสนอ 9 สิ่งที่คุณต้องมีติดตัวใน วันแต่งงาน 9 สิ่ง ของที่เจ้าสาวต้องพก เพื่อบันดาลความงามให้คุณเลอเลิศตลอดรอดฝั่งกระทั่งงานจบ

 1. กิ๊บติดผม – แม้ว่าศีรษะอันสวยงามสง่าของคุณจะได้ช่างทำผมมือหนึ่งจัดทรงบรรจงประดิษฐ์มาอย่างพิถีพิถันแล้ว แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อเกิดหลุดลุ่ยขึ้นมา จะโทร.ตามช่างผมคงเป็นไปไม่ได้ จะใช้เพื่อนเจ้าสาวออกไปตามล่าหากิ๊บมาติดซ่อมก็คงไม่ทันกาล กิ๊บดำแผงละ 5 บาทช่วยคุณได้

2. แป้งฝุ่น – การซับมันและการเช็ดเหงื่อคือการทำความสะอาดใบหน้าให้ดูสดใส แต่ถ้าจะให้โดดเด้งไกลไปห้าร้อยเมตร คงต้องพึ่งแป้งฝุ่นเนื้อบางเบาชั้นดีสักตลับ จะให้สะดวกกว่านั้นคือ เตรียมพัฟฟ์ที่วอร์มแป้งไว้เรียบร้อยให้พร้อมใช้ทันที เติมหน้าเบาๆ เพียง 2 นาทีก่อนขึ้นเวทีเท่านั้น แล้วคุณก็จะดูเหมือนใหม่อีกครั้ง

3. ลิป – ยืนต้อนรับแขกอยู่หน้าแบ็กดร็อปแค่ 10 นาที กล่าวคำขอบคุณเกินร้อยครั้งได้ มีหรือที่สีปากที่ทาทาบมาอย่างดีจะไม่หลุดล่อน เตรียมลิปให้พร้อมเติมอยู่เสมอ จะเป็นแบบสติ๊กหรือเป็นกลอสก็ตามแต่ชอบเลย แนะนำว่าควรเป็นสีเดียวกันกับที่ช่างแต่งหน้าทาให้

4. ลูกอม – แม้จะเพิ่งแปรงฟันตอนอาบน้ำแต่งตัวก่อนลงมาร่วมงาน แต่การชิทแชตอย่างออกรสออกชาติกับแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดีจนน้ำลายแตกฟอง ย่อมนำมาซึ่งกลิ่นอันไม่พึงประสงค์แน่นอน เพราะฉะนั้นพกลูกอมติดตัวไว้เสริมความมั่นใจดีกว่า แล้วอย่าลืมแบ่งคนให้เจ้าบ่าวด้วยนะ

ภาพ : https://tanarievents.files.wordpress.com

5. ออยล์ล้างหน้า + คอตต้อนบัดส์ – การแต่งหน้าทำให้ดวงตาสกปรกจากเครื่องสำอางที่ใช้สร้างความงามให้ดวงตา ขี้ตาออกง่ายเวอร์ ใช้คอตต้อนบัดส์เริดสุด อายแชโดว์ไม่เลอะแน่นอน ยิ่งวันสำคัญเยี่ยงนี้มีหรือที่เจ้าสาวเซ้นสิทีฟจะไม่ซึ้งจนน้ำตาไหลพราก แม้มาสคารา อายไลเนอร์จะกันน้ำ แต่หากคุณเผลอเอามือปาดก็จบกัน คอตต้อนบัดส์ชุบออยล์ล้างเครื่องสำอางที่เตรียมไว้คงได้เวลาออกโรง

6. ทิชชู่ – อุปกรณ์สารพัดประโยชน์ ซับหน้า ซับน้ำตา ซับเหงื่อใต้รักแร้ยามตื่นเต้นสุดพลัง ได้หมด ยิ่งชุดแต่งงานสีขาวแสนจะบริสุทธิ์เวอร์นั้นสวยงาม แต่ไม่ง่ายที่จะดูแลรักษา มันมีอะไรให้พะวงมากกว่านั้น หากเลอะเปรอะเปื้อนขึ้นมา ให้นำทิชชู่ชุบโซดาแล้วค่อยๆ ซับรอยเปื้อนเบาๆ ดีกว่าใช้น้ำเปล่าเยอะ

7. เข็มกลัด – เมื่อสถาบันความงามชื่อดังกับโปรแกรมควบคุมน้ำหนักไม่ใช่เพื่อนรักสุดเลิฟของคุณ มีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่ชุดจะขาดในวันงาน ไม่ได้หมายความว่าคุณอ้วน แต่การลุกนั่งขยับกายาในชุดเข้ารูปสุดรุ่มร่ามที่ไม่คุ้นชินก็อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ จะให้ดีควรพกเข็มด้ายไว้ครบชุดเลย

 8. น้ำหอม – เรื่องตัวมีกลิ่นไม่น่าเป็นไปได้ ด้วยยุคสมัยนี้คนส่วนใหญ่นิยมจัดงานกันตามโรงแรมนั่นเอง แต่ความหอมหวนอาจจางหายไปตามกาลเวลา น้ำหอมกลิ่นโปรดชนิดพกพาเท่านั้นที่คุณคู่ควร

รับรองว่ามี 8 สิ่งนี้แล้วชีวิตเจ้าสาวจะสวยเป๊ะตลอดทั้งคืนแน่นอนค่ะ

>> ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพเปิด : stylemepretty.com

5 เฉดสีเครื่องประดับเจ้าสาวช่วยปรับลุคสาวให้สวยเลอค่าในวันแต่งงาน

5 เฉดสี เครื่องประดับเจ้าสาว ที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นผู้หญิงมีธีมที่เปรี้ยวเก๋สุดๆ 

เครื่องประดับสีแดง

สีแดงเป็นสีของพระอาทิตย์และไฟ จึงเป็นสีที่ให้ความรู้สึกร้อน มีพลังงาน ทั้งยังสื่อถึงความกระตือรือร้น ความกล้าหาญ พละกำลัง ความมุ่งมั่น ความต้องการปรารถนา และความรัก แม้ว่าจะเป็นสีของอารมณ์ที่รุนแรงทั้งในแง่บวกและแง่ลบ แต่กระนั้นก็ยังเป็นสีที่ก่อให้เกิดความมีชีวิตชีวาด้วย แม้ว่าสีแดงจะเป็นสีมงคลตามความเชื่อของจีน แต่หากไม่ใช่พิธียกน้ำชาหรือแต่งงานแบบจีนแล้ว สีแดงไม่นิยมนำมาใช้ในการตกแต่งสถานที่จัดงานแต่งสักเท่าไร อาจเพราะให้ความรู้สึกที่แผดเผาอยู่ในที

แต่สำหรับการแต่งหน้าแล้ว การใช้สีแดงแต่งแต้มเรียวปากนั้นกลับเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากมาช้านาน เป็นสีสุดโปรดของสาวมั่นทุกนาง ไม่เพียงทำให้ปากดูโดดเด่น แต่ยังช่วยให้ใบหน้าดูสว่างขึ้นอีกด้วย เสริมลุคเจ้าสาวของคุณให้ดูเซ็กซี่มีเสน่ห์น่าค้นหามาก

อัญมณีที่มีสีแดงคือ โกเมนสีแดง (Red Garnet) เป็นอัญมณีแห่งชัยชนะ อำนาจ บารมีต่างๆ โกเมนเหมาะสำหรับเจ้าสาวที่เกิดในราศีมังกร เพราะราศีมังกรเป็นราศีที่บ่งบอกถึงอำนาจ ความยิ่งใหญ่มีความสามารถในการปกครองสูง ทำให้เจ้าสาวดูมีความสง่างาม ดุจดั่งองค์ราชินีผู้มีอำนาจครอบครองความสวยงามไว้แต่เพียงผู้เดียว


เครื่องประดับสีขาว

สีขาวเป็นสีของความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นตัวแทนของความหวัง ความถูกต้อง ความเรียบง่าย เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์แห่งจิตวิญญาณ พรหมจารี และความศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิต ชุดเจ้าสาวจึงเป็นสีขาวเพื่อบ่งบอกความหมายของสัญลักษณ์เหล่านั้น ส่วนสีเทาเป็นสีที่แสดงออกถึงความมั่นคง ปลอดภัย แม้จะเป็นสีที่มีส่วนผสมของสีดำเด่นชัดกว่าสีอื่น (ซึ่งคนไทยเชื่อว่าไม่เป็นมงคล)

แต่สีเทาก็ให้ความรู้สึกทางบวกได้เพราะช่วยให้เกิดความรู้สึกสมดุล เป็นกลาง และช่วยสร้างความน่าเคารพ ส่วนสีเงินเป็นสีของพระจันทร์ ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงหรือผันแปร มีลักษณะคล้ายกับอารมณ์และบุคลิกภาพพื้นฐานของผู้หญิงที่ไวต่อความรู้สึก แต่ก็มีดุลยภาพ ทั้งยังเป็นสีที่มีความหรูหรามีระดับ แต่ในขณะเดียวกันก็ดูโฉบเฉี่ยวอยู่ในที การแต่งหน้าด้วยโทนสีทั้งสามนี้ใช้ได้ในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานหมั้น งานแต่ง อาฟเตอร์ปาร์ตี้ หากเน้นความเป็นทางการก็เลือกเทาเด่น แต่ถ้าเน้นสนุกสนานก็ฟาดสีเงินได้เต็มที่ เด็ดสุดคือทาปากสีเงิน แซบเว่อร์ที่สุดในปฐพี

เพชร (Diamond) เป็นอัญมณีที่มีสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ ความสำเร็จและกระตุ้นให้เกิดความกล้าหาญ เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่เกิดในราศีเมษ ส่วนไข่มุก (Pearl) เป็นแร่รัตนชาติที่มีความบริสุทธิ์ ความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่เกิดในราศีกรกฏ ช่วยเสริมความมีสง่าราศี ให้กับเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี เป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนโยนและการปกป้อง และก่อให้เกิดความนุ่มนวล อ่อนหวาน

บางคนก็ว่ามุกเป็นน้ำตามหาสมุทร ถ้าไม่อยากใส่ยกเส้น เลือกมาเป็น element เด่นบนชุดก็ไม่ผิด


เครื่องประดับสีน้ำเงิน

สีน้ำเงินเป็นสีของความสงบ สุขุม เยือกเย็น และหนักแน่น เป็นตัวแทนของช่วงกลางคืน จึงให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ลุ่มลึก และละเอียดรอบคอบ ส่วนสีฟ้าเป็นโทนซอฟต์ของน้ำเงินด้วยการผสมสีขาวลงไป จึงให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกันแต่ปลอดโปร่ง สบาย และเป็นอิสระกว่า สำหรับสีเขียวนั้นช่วยสร้างสรรค์บรรยากาศของความผ่อนคลาย สงบ

ด้วยความที่สีน้ำเงินเป็นสีที่มีความหรูหรา สง่างาม และน่าเกรงขามอยู่ในตัว จึงถูกเลือกใช้เป็นธีมการจัดงานแต่งอยู่บ่อยครั้ง ส่วนสีเขียวนั้นเห็นบ่อยยิ่งกว่า ความสดชื่นจากแมกไม้ช่วยสร้างความร่มรื่นให้กับห้องสี่เหลี่ยมในโรงแรมได้มากแต่เนื่องจากทั้งสองสีนี้มีสีสันที่เด่นชัดมาก จึงไม่ค่อยนิยมใช้ในการแต่งหน้าเจ้าสาว แต่หากเป็นการดินเนอร์ส่งท้ายคำว่า “นางสาว” รับรองว่าเปรี้ยวจนมะนาวสามเข่งต้องยอมสยบ จะเล่นกับเปลือกตาหรือทาเล็บก็เก๋ไม่แพ้กัน

อัญมณีที่มีสีฟ้าคือ อะความารีน (Aquamarine) เป็นอัญมณีที่มีความเยือกเย็นสามารถคลายความเร่าร้อนทุรนทุรายในจิตใจ ทำให้จิตใจสงบ อะความารีนเป็นอัญมณีที่เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่เกิดในราศีมีน ซึ่งเป็นราศีของเจ้าสาวช่างฝัน รักความสงบ มีจิตใจที่มั่นคง อัญมณีที่มีสีเขียวคือ มรกต (Emerald) ซึ่งเป็นอัญมณีที่มีสีเขียวโดยสมบูรณ์ เป็นอัญมณีแห่งขุมทรัพย์ ความร่ำรวย ร่มเย็นและเป็นพลังแห่งชีวิต เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่เกิดในราศีพฤษภ ทำให้เจ้าสาวมีชีวิตชีวา มีพลังแห่งความสดชื่น ทำให้ดูร่าเริงแจ่มใส

เครื่องประดับสีชมพู

สีชมพูเป็นสีที่มีความหวานละมุน ให้ความรู้สึกอบอุ่นเพราะเกิดจากการผสมของสีแดงและสีขาว มีลักษณะปลอบประโลมจิตใจ จึงถูกเลือกให้เป็นตัวแทนแห่งความรัก ส่วนสีส้มเป็นสีแห่งความเบิกบานและความรื่นเริง สำหรับสีพีชนั้นเป็นอีกโทนสีหนึ่งของสีส้ม แต่มีความซอฟต์กว่า จึงให้อารมณ์ที่อ่อนโยนกว่า

แม้การแต่งงานในแง่หนึ่งจะหมายถึงการผูกมัด แต่สีพีชก็ยังให้ความรู้สึกของการลดความเห็นแก่ตัวลง และสร้างความยินดีที่จะแบ่งปัน อันเป็นคุณลักษณะสำคัญของการครองคู่อีกด้วย สีชมพูและสีพีชถือเป็นโทนสีคลาสสิกสำหรับเจ้าสาวในทุกยุคทุกสมัย การแต่งหน้าด้วยสองโทนนี้นอกจากจะทำให้ลุคของคุณดูหวานใสคลาสสิกประดุจดั่งเจ้าหญิงในเทพนิยายแล้ว ยังทำให้ผิวดูมีสุขภาพดีและสวยอย่างเป็นธรรมชาติด้วย ที่สำคัญคือ ใช้ได้ทุกจุดตั้งแต่หน้าผากจรดปลายคาง และขอบอกว่า รอดทุกนางจริง

อัญมณีที่มีสีชมพูคือ แซปไฟร์สีชมพู (Pink Sapphire) เป็นไพลินชนิดหนึ่งที่มีความสวยงาม และมีพลังอำนาจเสริมความเจริญก้าวหน้าต่าง ๆ แซปไฟร์สีชมพูเป็นเครื่องประดับที่เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่เกิดในราศีตุลย์ เพราะราศีตุลย์เป็นราศีของคนที่รักความสงบ รักความสวยงามแต่แฝงด้วยความร้อนแรง

 

เครื่องประดับสีทอง

สีเหลืองเปรียบเสมือนสีแห่งอรุณรุ่งของพระอาทิตย์ บ่งบอกถึงการเริ่มต้นที่ดี มักเป็นสีของความสุข ความเบิกบาน ความมีชีวิตชีวาให้อารมณ์ความรู้สึกที่สดชื่นแจ่มใส เกี่ยวข้องกับเรื่องของสติปัญญาและสมอง ทั้งยังช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และก่อให้เกิดการมองโลกในแง่ดี ส่วนสีทองเป็นสีที่จัดอยู่ในกลุ่มอิทธิพลของพระอาทิตย์เช่นเดียวกับสีเหลืองและมักจะเกี่ยวเนื่องกับพลังและความอุดมสมบูรณ์

นอกจากนี้สีทองยังหมายถึงการให้ชีวิตใหม่ ให้พลังใหม่ แค่พิจารณาความหมายข้างต้นคุณก็ไม่อาจปฏิเสธได้แล้วว่า สีทองและสีเหลืองเหมาะแก่การเลือกใช้ในวันแต่งงานมากขนาดไหน การเลือกแต่งเปลือกตาด้วยสีทองที่แวววาวเป็นประกายย่อมทำให้ใบหน้าของคุณดูเปล่งปลั่งสุดพลังชาติเกิด เลือกแมตช์กับสีน้ำตาล ไม่ว่าจะเป็นอายแชโดว์ อายไลเนอร์ หรือมาสคาราสำหรับปัดคิ้ว ก็ดูเข้ากันและช่วยลดทอนความแรงของสีทอง ทำให้ลุคเจ้าสาวไม่เหนือจริงจนเกินไป แต่ถ้าเป็นงาน rehearsal มื้อค่ำมื้อสุดท้ายก่อนเข้าพิธีวิวาห์ คุณก็จะดูเป็นแฟชั่นนิสต้าสาวสุดมาดมั่น

ทองคำ คือ สัญลักษณ์ของความหรูหรา ดูสูงศักดิ์ บ่งบอกถึงฐานะอันร่ำรวยและทรงอำนาจ ทองคำเหมาะกับเจ้าสาวที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งมั่นคงในฐานะของตน ส่วนอัญมณีที่มีสีเหลืองคือ บุษราคัม (Yellow Sapphire) ซึ่งเป็นหนึ่งในอัญมณีนพเก้าที่มีความทรงอำนาจในการผูกมิตร การมีสติปัญญาที่ดี บุษราคัมเป็นเครื่องประดับที่เหมาะที่สุดสำหรับผู้หญิงที่เกิดในราศีเมถุน เพราะจะช่วยทำให้มีสติปัญญาที่ดี เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั่วหล้า