พฤติกรรมทำร้ายเส้นผม ที่ควรหยุด ก่อนจะสายเกินแก้สำหรับสาวๆทั้งหลาย

สาวๆทุกคนย่อมอยากมีผมสวยๆด้วยกันทั้งนั้น แต่บางทีก็ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ทำอยู่ ส่งผลร้ายกับเส้นผมขนาดไหน เรามาหยุด พฤติกรรมทำร้ายเส้นผม ของเรากันเถอะ มาดูค่ะว่าพฤติกรรมทำร้ายเส้นผม มีอะไรบ้าง โดยเฉพาะว่าที่เจ้าสาวที่อยากปล่อยผมในวันแต่งงานต้องรู้

ทรงผมเจ้าสาวผมสั้นนี่แหละช่วยให้เจ้าสาวสวยชิคดูอ่อนวัย

ทรงผมเจ้าสาวงานเย็นแบบเกล้าหางม้า ได้ลุคเจ้าสาวสมัยใหม่สุดๆ

เจ้าสาวปล่อยผมได้ไม่ผิดกฎ ทรงผมเจ้าสาวยาวตรงสวยเรียบดูดีเกินคาด

 

1. สระผมเป็นประจำทุกวัน

การรักษาความสะอาดด้วยการสระผมเป็นประจำทุกวัน ฟังดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องดี แต่ว่าจริงๆแล้ว ถ้าสระผมทุกวัน หนังศรีษะของคุณจะแห้ง สูญเสียความชุ่มชื้น เส้นผมจะเริ่มหยาบและเปราะขาด แตกปลายง่าย ควรสระผมสองถึงสามวันต่อหนึ่งครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพหนังศรีษะและกิจกรรมของคุณในแต่ละวัน

2. สระผมด้วยน้ำร้อนจัด หรือเย็นจัด

อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมสำหรับใช้สระผมคือน้ำอุณหภูมิห้อง น้ำร้อนจัดหรือเย็นจัด จะทำให้เส้นผมแห้ง

3. หวีหรือแปรงผมบ่อยเกินไป

การหวีผมหรือแปรงผมบ่อยๆไม่ได้ทำให้ผมสวยขึ้นแต่จะเป็นการทำร้ายเส้นผมมากกว่า เพราะยิ่งหวีผมมาก จะยิ่งดึงรั้งรากผมยิ่งขึ้น หวีจะเสียดสีเส้นผมจนเกร็ดผมเปิดออก และเสียความชุ่มชื้น อาจเกิดปัญหาผมบางผมร่วงตามมา ควรหวีแค่วันละสิบกว่าครั้งก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

4. หวีผมตอนผมเปียก

ตอนผมเปียกจะเป็นช่วงที่ผมและรากผมอ่อนแอ ขาดร่วงง่าย ถึงแม้จะใช้หวีซี่ห่างแล้วก็ยังเสี่ยงอยู่ดี ควรหวีตอนผมใกล้แห้งจะดีที่สุด

5. ผมโดนความร้อนมากเกินไป

เมื่อออกแดดควรกางร่มหรือสวมหมวก เพื่อปกป้องเส้นผมจากรังสียูวี แต่ไม่ใช่แค่นั้น ความร้อนที่ควรหลีกเลี่ยงรวมถึงความร้อนจากอุปกรณ์เสริมสวยต่างๆด้วย ทั้งไดร์เป่าผม เครื่องรีดผมไฟฟ้า และแกนม้วนผมไฟฟ้า จะทำให้เส้นผมกรอบ บางลง และสีผมซีดลง ก่อนใช้อุปกรณ์ดังกล่าวจึงควรฉีดสเปรย์ป้องกันผมจากความร้อนทุกครั้ง

6. เปลี่ยนสีผมบ่อยเกินไป

ลองสังเกตว่าเส้นผมของคุณแห้งและหยาบขึ้นทุกครั้งที่เปลี่ยนสีผมใหม่หรือเปล่า ถ้าใช่ แสดงว่าคุณประสบปัญหาผมเสียจากสารเคมีสะสมจากน้ำยาเปลี่ยนสีผมแน่ๆ ซึ่งถ้ายังคงทำแบบเดิมต่อไป ปัญหาอาจเกิดถึงขั้นผมขาดหลุดร่วงเลยก็ได้ ควรเลือกใช้เคมีเปลี่ยนสีผมแบบ ไร้แอมโมเนีย เพื่อผมแห้งเสียน้อยที่สุด และควรทิ้งช่วงให้ผมได้พักบ้าง

7. บำรุงโปรตีนให้ผมมากเกินไป

ในผลิตภัณฑ์บำรุงผมต่างๆ ล้วนมีสารอาหารที่ให้โปรตีนผมผสมอยู่ ซึ่งโปรตีนจะเป็นตัวช่วยซ่อมแซม เพิ่มความแข็งแรง และเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผม แต่การบำรุงมากเกินไปจะทำให้หนังศรีษะมัน และเส้นผมหนักเกินไปจนขาดหลุดร่วงได้ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพเส้นผมของเราจริงๆ

หากพลั้งพลาดไป จนผมของคุณเสียแตกปลายแล้วล่ะก็ ให้เล็มปลายผมออกทุกๆเดือน เพราะถ้าปล่อยไว้ผมก็จะเสียแตกปลายลุกลามขึ้นเรื่อยๆ แล้วยิ่งถ้าคุณทำผมสีอ่อน จะยิ่งเห็นได้ชัดเจน และทำให้เสียบุคลิก นอกจากเล็มปลายผมออกแล้ว ควรทำทรีตเม้นต์ฟื้นฟูสภาพเส้นผมด้วย

6 ทริคอุดรูรั่วฉาบรอยร้าวก่อนเตียงหักรักจะแตกแหลกสะบั้น

แม้บางคู่จะพยายามสานสัมพันธ์ด้วยทริปกระชับรักหรือบางคู่จะยอมถอยคนละก้าวก็แล้วเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เตียงหัก แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุในยามที่อาการรักเข้าขั้นโคม่า (แบบว่ามันก็ช้าไปอ่ะตัว)  เราจึงขอนั่งสาระตะหาวิธีอุดรอยรั่วความสัมพันธ์ที่แตกร้าว เพื่อประคองรักให้รอดพ้นมรสุมมาฝากกัน

1. ลองดูวิธี Take a break

ถ้าคิดจะพัก ก็ควรพักกันตั้งแต่ขาเตียงเริ่มสั่นไหวตอนที่ปัญหากำลังส่อเค้ารุนแรง อย่าฝืนไปมันจะยิ่งล้า แถมเร่งให้พังกันทั้งคู่ แต่เมื่อตัดสินใจจะหยุดพักก็ใช่ว่าจะไปลั้ลลากับคนใหม่ได้ ให้พักเพื่อสำรวจตัวเองและความสัมพันธ์ว่าตรงไหนที่ทำให้ขาเตียงไม่มั่นคง แล้วแก้ปัญหาไปด้วยกันทีละจุด ไม่ใช่ว่างปุ๊บห่างปั๊บก็เปิดโลกใหม่กับคนอื่นทันที

2. จำไว้เลย เพื่อนเยอะ (อาจ) ไม่ช่วยอะไร

บางครั้งคำแนะนำจากกลุ่มเพื่อนอาจไม่ช่วยอะไร (นอกจากจะให้กำลังใจ)  บางคนเพื่อนดีก็โชคดีไป แต่บางคนแนะนำเยอะยิ่งแย่ก็มี เพราะสุดท้ายแล้วชีวิตคู่คือเรื่องของสองคน ยิ่งคิดจะปรึกษาเพื่อนฝูงร้อยแปดพันคน ก็ยิ่งมากความเพราะชาวแก๊งไม่ได้มาร่วมเตียงที่ขาสั่นพับๆ กับคุณสักหน่อย สู้เราปรึกษากันเงียบๆ บนที่นอนเดียวกัน คุยกันสองคนจุ๊งจิ๊งดีกว่า โบราณว่า ความในอย่านำออก ความนอกอย่านำเข้า ปัญหาชีวิตคู่แก้ให้ถูกที่คันถึงจะดี

3. สติมา ความไว้ใจเกิด

ถ้าเริ่มระแคะระคายว่าอีกฝ่ายหนีบใครสักคนไปดูหนังหรือล่องเรือสำราญสองต่อสอง ก็อย่าพึ่งวีนเหวี่ยงแหกอกให้ความสัมพันธ์มันร้าวราน ชีวิตคู่ต้องอยู่บนความไว้ใจ บางทีคุณอาจต้องดูตัวเองว่า หนังที่เขาไปดูเป็นหนังที่คุณชอบหรือเปล่า บอกตัวเองว่าเพื่อนกันไปดูหนังกันได้ แถมเข้าโรงหนังไม่ใช่โรงแรมอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ แต่ถ้าถี่จนเกินรับไหว การคุยกันแบบมีสติคือสิ่งสำคัญ  ลองถามดูไหมว่า เธอ คนที่เธอไปด้วยบ่อยๆคือใคร หรือเปลี่ยนจากไปดูหนังกับคนอื่นเป็นเราไปดูด้วยกันไหม

4. โมโหโกรธา ลงไม้ลงมือมีแต่พังๆๆ

หากยอมปล่อยให้เกิดการใช้กำลังโดยที่ไม่มีการพูดคุยตั้งแต่แรก ก็ถือว่าเป็นความผิดของคนทั้งคู่ที่พาให้ความรักครั้งนี้มาถึงจุดจบ แต่ถ้าให้ดีคุณผู้ชายทั้งหลายโปรดรู้ไว้เถอะว่า ผู้หญิงไม่ได้ถูกสร้างให้มีมัดกล้ามแกร่งเช่นชายฉกรรจ์ ฉะนั้นคุณคือเพศที่แข็งแรงกว่า และการทำร้ายผู้หญิงไม่ใช่สิ่งที่สุภาพบุรุษพึงกระทำ เพราะฉะนั้นจงมีสติยั้งคิดเอาไว้เสมอ

5. ปรับทีละนิดเข้าหากันทีละหน่อย

ต่างคนต่างที่มา คนหนึ่งอาจอยู่ติดบ้าน อีกคนอาจชอบสังสรรค์เฮฮากับเพื่อนฝูง แต่เมื่อคิดจะรักและใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันแล้ว การค่อยๆปรับไลฟ์สไตล์ให้มาเจอกันตรงกลางเป็นสิ่งสำคัญ คนอยู่ติดบ้านอาจออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านด้วยกันบ้าง ส่วนคนที่เอะอะออกจากบ้านก็ลองใช้ชีวิตในบ้านบ้าง มันไม่น่าเบื่อหรอกกับกิจกรรมในบ้านแบบที่คู่รักเขาทำกัน

6. รักฟ้าแลบ แต่อย่าแต่งฟ้าผ่า

ตัดสินใจเร็ว ด่วนแต่งอาจทำให้ไม่มีเวลาในการศึกษาดูใจกันเพียงพอจนยังไม่เห็นด้านมืด ด้านสว่างแบบครบทุกด้าน นั่นอาจทำให้ยามที่ต้องมาอยู่ด้วยกันเกือบ 24 ชั่วโมง ตื่นมาดมขี้ฟันกันแต่เช้าอาจเกิดปัญหาได้ เพราะไม่อาจทนรับพฤติกรรมบางอย่างได้ สู้ใช้เวลาศึกษากันนานสักหน่อย แล้วถามใจว่ารับได้ทุกอย่างแล้วใช่ไหม ถ้าใช่จะตัดสินใจร่วมเตียงหนุนหมอนเดียวกันก็ยังไม่สาย

แต่ที่พูดแบบนี้ใช่ว่าคู่รักฟ้าแลบแปร๊บๆ ทั้งหลายจะต้องเลิกกัน ถ้ารู้จักยอมรับและยอมปรับในสิ่งต่างๆ และทำตามคำแนะนำของเรา ต่อให้สายฟ้าจะฟาดจะแลบสักกี่ครั้งความสัมพันธ์ก็ยั่งยืนได้

คำแนะนำทั้ง 6 ที่เล่ามาสามารถทำได้ตั้งแต่รักยังมั่นคง เพราะการปล่อยให้เกิดปัญหาแล้วค่อยแก้ ต่อให้ไปกระชับสัมพันธ์กันถึงต่างแดนก็ไม่ช่วยอะไร และสำคัญที่สุดคืออย่าทำพฤติกรรมอะไรที่จะสั่นคลอนความสัมพันธ์ของเราเลย

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติม คลิกเลย! <<

เช็คหัวใจและสถานะตัวเองด่วนกับ 4 สัญญาณที่กำลังบอกว่าคุณ อยากมีแฟน แล้ว!!

มาเช็กกันสิว่า ความโสดที่คุณถือครองอยู่นั้นกำลังเปลี่ยนไปแล้วแทนที่ด้วยคำว่า อยากมีแฟน แล้วนะหรือเปล่า!!

สาวยุคใหม่มักจะครองตนเป็นโสด เพราะด้วยไลฟ์สไตล์และการทำงานที่ทำให้คุณใช้ชีวิตตัวคนเดียวได้สบายใจมากกว่า และหลายคนก็เป็นผู้หญิงเก่งที่รับผิดชอบตัวเอง ดูแลตัวเองได้ มีความสุขกับ daily routine ต่างๆ ไม่ว่าจะออกกำลังกาย ช้อปปิ้ง รับประทานอาหารดีๆ หรือท่องเที่ยวในที่แปลกใหม่ ทั้งแบบตัวคนเดียว หรือกับเดอะแก๊ง ทำให้วันหนึ่งๆ ของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ แต่จะดีกว่านี้ไหม ถ้าในแต่ละวันของคุณนั้น มีอีกคนมาร่วมแชร์ความทรงจำไปพร้อมกับคุณ แพรว wedding เลยมี 4 สัญญาณมาให้สาวๆ ได้เช็คกันว่า อยากมีแฟน แล้วนะหรือเปล่า

1. ทุกอย่างก็เหมือนเดิม แต่ทำไมในใจรู้สึกว่างเปล่า?

สัญญาณแรกที่จี๊ดสุดๆ เราใช้ชีวิตในแต่ละวันเหมือนๆ เดิม แต่พอวันหนึ่งเกิดรู้สึกว่า มันไม่เหมือนเดิม ความมีชีวิตชีวาที่เคยมีมันหายไป หลายๆ คนอาจคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ชีวิตก็ต้องมีขึ้นมีลงบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ช้าก่อน เรื่องเหล่านี้มันไม่ปกตินะ เพราะทุกวันนี้ความรู้สึกว่างเปล่าแบบนี้ ส่งผลให้คนป่วยเป็นโรคทางจิตใจ เรียกว่าเป็นโรคฮิตของคนรุ่นใหม่ก็ว่าได้ ความสุขจึงมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิต ลองตามหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ หรือเปิดใจให้ใครสักคนเข้ามาในชีวิต ทำให้เราอยากมีวันที่มีกันและกัน ดูแลกันแบบนี้ก็อบอุ่นหัวใจมากๆ

อยากมีแฟน

2. กินข้าวคนเดียวบ่อยเกินไปหรือเปล่า?

มันอาจจะเป็นเรื่องปกติที่เราคนเดียวจะกินข้าวคนเดียว แต่มื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อกลางเย็น เป็นแบบนี้ซ้ำๆ ตลอด 1 สัปดาห์ 1 เดือน 1 ปี หรือมากกว่านั้น OMG! แม้ว่าคุณจะมีนัดสังสรรกินข้าวกับเพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน แต่มีวิจัยกล่าวว่า การกินข้าวคนเดียวส่งผลต่อจิตใจ เพราะบรรยากาศการกินข้าวคนเดียวแบบนี้ อาจจะทำให้คุณซึมเศร้าได้ แต่ถ้าคุณมีเพื่อนร่วมโต๊ะอาหารในทุกเช้า ทุกเย็น มันจะมีสีสันและดีต่อใจกว่านี้แน่ๆ

รีบแต่งงาน

3. ทำไมเด็กๆ ถึงน่ารักจังเลยนะ?

เป็นธรรมชาติของผู้หญิง กับความเป็นแม่ที่ติดตัวมา แต่ก็ไม่ใช่ว่าหลายๆ คน จะรักเด็กเป็นพิเศษหรอกนะ เพราะสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เราใช้ชีวิตมาก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความคิดส่วนบุคคล เรื่องนี้จึงตัดสินกันไม่ได้เนอะ อย่างไรก็ตาม ความเอ็นดูเด็ก ที่อยากดูแลให้เขาเติบโตมาอย่างดี ความรักที่มีเหล่านี้ที่ทำให้คุณอยากมีลูก คอยทะนุถนอม เอาใจใส่และอยู่เคียงข้าง เราคิดว่า ถึงจุดนี้แล้ว น่าจะทำให้หลายๆ คนตัดสินใจอยากมีชีวิตครอบครัวนะ ซึ่งแม้ว่าจะมีอีกหลายปัจจัยต่างๆ ตามมา ทั้งความพร้อมของคู่รัก และฐานะทางการเงิน ก็ตาม ลูกก็คือความรักของคุณนั่นเอง

รีบแต่งงาน

4. บั้นปลายชีวิตจะเป็นยังไงนะ?

บางคนอาจจะคิดว่า การใช้ชีวิตโสดก็มีความสุขเพียงพอแล้ว แต่ว่าชีวิตหลังวัยเกษียณหรือเมื่อคุณอยู่ในวัย 60 ปีขึ้นไป แม้ว่าคุณจะดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี แต่ร่างกายของคุณก็ไม่คล่องแคล่วเท่าแต่ก่อน ถ้าวันหนึ่งคุณเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา มันคงจะลำบากหากคุณอยู่คนเดียว เพราะเพื่อนคุณก็อาจจะไม่ได้มีเวลาสำหรับคุณเสมอไป ดังนั้น คนที่จะอยู่ดูแลคุณได้จึงเป็นครอบครัว อีกทั้งลูกๆ หลานๆ ยังช่วยเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ดีด้วยนะ

รีบแต่งงาน

หากกังวลว่าคนแบบไหนนะที่เราควรจะเปิดใจเพื่อมาเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ตามอ่าน >> “ศีลเสมอกัน” ทริคการเลือกคู่ให้ดีตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

ภาพจาก Unsplash

สารพัดปัญหางานแต่งงานสุดกวนใจ รู้ไว้จะได้เตรียมรับมือ

สารพัด ปัญหางานแต่งงาน สุดกวนใจ ที่คู่รักต้องทำใจก่อนสละโสด!!

งานแต่งงานยังไม่ทันเริ่มก็มีปัญหาต่างๆ นานารุมเร้าเข้ามาจนคู่รักบางคู่ถึงขั้นถอดใจว่าไม่แต่งดีไหมนะเรา อ่ะๆๆ…ช้าก่อน อย่าได้ถอดถอนใจขนาดนั้นค่ะ เพราะแพรว wedding ได้รวบรวมทุก ปัญหางานแต่งงาน และเรื่องเมาท์มอยของคนที่บ่าวสาวต้องระวังในวันแต่งงานจนอาจทำให้คุณถึงขั้นคิ้วผูกโบเอามือกุมขมับ เพราะฉะนั้นถ้าคุณกำลังจะสละโสดเตรียม (ใจ) รับมือให้ดี ตามนี้เลย

เจ้าบ่าว เจ้าสาว

ปัญหางานแต่งงาน

ก่อนจะบ่นหรือถอนหายใจใส่ใคร ควรเริ่มมองที่ตัวเองก่อนว่าได้เผลอทำให้คนรอบข้างต้องปวดหัวบ้างหรือเปล่า เพราะบางครั้งความคาดหวังของคุณก็อาจทำร้ายตัวคุณเอง คุณว่าที่ และคนอื่นๆ โดยไม่รู้ตัว ว่ากันตั้งแต่เรื่องการตกแต่งงาน ลำดับพิธี ชุด หน้า-ผม การ์ด อาหาร การรับรองแขก ฯลฯ

เท่าที่เราเคยเห็นส่วนใหญ่ เจ้าสาวจะนอยด์เรื่องการตกแต่งงาน เพราะอยากให้สวยงามอลังการตามความใฝ่ฝัน เรื่องลำดับพิธีการเพราะอยากให้งานออกมาเป๊ะเว่อร์และเรื่องชุด + หน้าผมเพราะอยากสวยที่สุดในงานแต่ง (นี่ก็แทบจะครบทุกองค์ประกอบแล้ว) ของแบบนี้ว่ากันไม่ได้ ฝันใครก็ฝันมันแต่หากคุณมีความคาดหวังสูง นั่นก็ทำกับว่าคุณต้องจัดการทุกเรื่อให้ดี ใส่ใจ และเต็มที่กับมันให้มากที่สุด เพราะถ้ามัวแต่นอยด์แล้วไม่ลงมือแพลนนิ่งให้ดีมันก็เท่านั้น จริงไหมจ๊ะ แถมคนข้างๆ อาจรำคาญใจจนต้องส่ายหน้า

ส่วนเจ้าบ่าวมักจะออกแนว “ยังไงก็ได้” หรืออาจมีแค่งอแงไม่ยอมใส่โจงกระเบนในพิธีเช้า ถ้าคุณเป็นเจ้าบ่าวประเภท “ยังไงก็ได้” ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะถ้ามา “ไม่ได้” ตอนหลังจะวุ่นวายมาก และอาจทำให้เจ้าสาวสติแตกจนร้องกรี๊ด

 

คุณพ่อ คุณแม่

ปัญหางานแต่งงาน

คือผู้ทรงอิทธิพลอันดับ 1 ในการจัดงานเลยทีเดียว เพราะเป็นคนที่รักเราและเรารักมากที่สุด ซึ่งปัญหากระทบกระทั่งระหว่างคู่บ่าวสาวกับญาติผู้ใหญ่พบได้บ่อยมาก เพราะความเห็นของคน 2 เจเนอเรชั่นมักไม่ค่อยไปในทิศทางเดียวกัน

สำหรับวัฒนธรรมไทย การแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคน 2 คน ดังนั้นถ้าคุณอยากจัดงานแหวกแนว เช่น งานริมทะเลเชิญแขกน้อยๆ หรืองานสไตล์ปาร์ตี้สบายๆ ที่ไม่มีประธานและคุณพ่อคุณแม่ขึ้นพูดบนเวที ฯลฯ ก็ควรทำความเข้าใจกับท่านตั้งแต่แรก เพื่อความสมานฉันท์และความสบายใจของทุกฝ่าย ที่สำคัญควรซ้อมคิวกับท่านด้วยว่าต้องทำอะไรตอนไหนบ้าง เพราะถึงเวลาจริงรับรองว่าตื่นเต้นกันทุกคน บางท่านผิดคิวหยิบมาลัยมงคลมาคล้องให้ตัวเองก็มีมาแล้ว

แต่หากคุณพ่อคุณแม่เป็นคนชิลๆ ก็ถือว่ารอด ก็แค่แจ้งให้ท่านทราบว่างานของเราจะแปลกและแตกต่างอย่างไรบ้าง ท่านจะได้เตรียมตัวถูก

แต่หากคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้กว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น นักธุรกิจ นักการเมือง หรือ อบต.ต้องทำใจว่าท่านย่อมอยากเชิญแขกจำนวนมากและเกินครึ่งเป็นแขกที่บ่าวสาวไม่รู้จัก ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณก็คงต้องจัดงานใหญ่ตามใจท่าน เพราะถือว่าเป็นหน้าเป็นตาและเป็นคอนเน็กชั่นในอนาคต แล้วค่อยไปจัดรอบส่วนตัวกับเพื่อนๆ ภายหลัง แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องงบประมาณ แนะนำให้ปรึกษาท่านตรงๆ ว่าพอจะลดทอนแขกบางส่วนหรือช่วยสมทบทุนให้เราได้บ้างไหม

และถ้าคุณพอจะรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นคนเยอะหรือมีแนวโน้มคิดเล็กคิดน้อยต้องสืบหาความต้องการที่แท้จริงของท่านให้ได้ เพราะบางท่านไม่พูดออกมา แต่กลายเป็นปัญหาทีหลัง เราเห็นมาหลายคู่แล้ว เช่น ทักท้วงไปเสียทุกเรื่องจนไม่เป็นอันทำอะไร หรือมีงานหนึ่งคุณแม่เจ้าบ่าวไม่ได้ขึ้นพูดบนเวทีแล้วน้อยใจจนพานไปมีปัญหากับสะใภ้อยู่หลายเดือน

  • เยอะในเรื่องพิธีการหรือความเชื่อ เคสนี้รับมือไม่ยาก แค่ยกพิธีเช้าไม่ว่าจะเป็นแบบไทยหรือจีนให้ท่านจัดการ แล้วคุณมาเต็มที่กับงานเย็นแทน
  • เยอะในรายละเอียด กรณีนี้คุณอาจปวดหัวเยอะหน่อย เช่น คุณแม่อยากมีดอกไม้เยอะๆ (แต่ลูกอยากเท่) คุณแม่อยากจัดที่โรงแรมนี้ อยากจัดให้ใหญ่กว่าหรือเหมือนกับลูกคนนั้น ฯลฯ ดังที่เจ้าสาวรายหนึ่งเคยปรารภว่า “มันเป็นความฝันของพ่อแม่ว่าอยากให้ลูกแต่งงานอย่างไร แต่ในความเป็นจริงลูกไม่ได้ฝันอย่างเดียวกัน”…ก็ต้องจับเข่าคุยว่า ขอพบกันครึ่งทาง ให้คุณแม่ได้ตามฝันในเรื่องใดบ้างและเราจะขอจัดอย่างที่ฝันได้ในส่วนไหนบ้าง (ถอนหายใจแป๊บ)

 

เพื่อนเจ้าบ่าว – เจ้าสาว

ปัญหางานแต่งงาน

ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนๆ ฝ่ายหญิงที่มีข้อเรียกร้องเยอะ ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก ก็เรื่องสวยๆ งามๆ ตามประสาผู้หญิงนั่นล่ะ ที่เคยฟังเจ้าสาวตัวจริงบ่นมาก็มีตั้งแต่แขนใหญ่อ่ะ ไม่ใส่สไบนะ ไม่ใส่สีฟ้านะเดี๋ยวดำ ไปจนถึงห้ามแกใช้สีเขียวมิ้นต์นะ ฉันจอง (เอิ่ม คุณน้องคะ รอให้ได้แต่งเองก่อนดีไหม) ซึ่งถ้าไม่ได้ดังใจบางคนก็งอนอีก แล้วยิ่งถ้าเพื่อนแต่ละคนต้องการคนละอย่างด้วยล่ะก็…อย่าให้ถึงงานแกบ้างแล้วกัน! (ขอพูดความในใจแทนเจ้าสาว)

เรื่องนี้อยากบอกให้สาวๆ ให้คิดถึงใจเจ้าสาวไว้บ้างนะคะ เพราะแค่เตรียมงานให้ถูกใจทั้งตัวเองและญาติผู้ใหญ่ เธอก็นอยด์มากมายอยู่แล้ว กับแค่เรื่องชุดทีมเพื่อนเจ้าสาวก็หยวนๆ ให้เธอหน่อยเถอะ ถือว่าช่วยเพื่อนลดเรื่องปวดหัวแล้วกันนะ ส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวส่วนใหญ่มักมาแนวอยากให้ใส่อะไรก็ใส่ ขอแค่อย่าหายาก อยากให้ทำอะไรก็ใช้มาละกัน แต่หลังงานเลี้ยงเบียร์ด้วยนะ ฮ่าๆๆ (มาแนวตลกดื่ม)

 

แขก

06_132-Scoop3

คู่บ่าวสาวที่จัดงานแบบซิตดาวน์ดินเนอร์และมีการทำซีตติ้งชาร์ตมักจะเจอปัญหาแขกไม่ยอมนั่งตามผังที่ระบุไว้ กลายเป็นปัญหาหน้างาน เพราะพอแขกที่เป็นเจ้าของที่นั่งตัวจริงมาถึงก็เหวอ บางคนก็หยวนๆ ยอมย้ายไปนั่งตรงที่ว่าง แต่ถ้าไปเจอแขกต่างชาติบางคนที่ไม่ยอมถูกละเมิดสิทธิ์ง่ายๆ ก็จะเป็นเรื่องเป็นราวเอาได้ง่ายๆ นะคะ เราเคยเห็นกับตามาแล้วที่ฝรั่งก็จะรักษาสิทธิ์ขอนั่งที่เดิม ส่วนคนไทยที่นั่งไปแล้วก็ไม่ยอมย้าย ทำเอาออร์แกไนซ์และบ่าวสาวปวดหัวตึ้บ!

อีกเรื่องที่เห็นแล้วปวดหัวแทนบ่าวสาวคือ ในงานที่มีการวางป้ายชื่อแขกไว้บนโต๊ะแล้วมีบางคนหัวหมอสลับป้ายชื่อตัวเองทำให้คนที่คอยเชิญแขกมานั่งสับสนไปหมด เพราะฉะนั้นอย่าลืมซีร็อกซ์แผนที่การนั่งไว้เช็กกันด้วยนะ จะได้เป็นยันต์กันงง

แต่จะว่าไปเรื่องแบบนี้เป็นความแตกต่างทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง เพราะคนไทยชินกับการนั่งกับคนคุ้นเคยตามใจชอบและไม่คิดว่าการย้ายที่นั่งเองจะเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นหากคุณคิดจะจัดผังที่นั่งแบบงานแต่งของฝรั่ง ขอให้ตรึกตรองให้ดีว่าแขกของคุณจะเข้าใจไหม ไม่อย่างนั้นจัดไว้คร่าวๆ จะยืดหยุ่นกว่า เช่น โต๊ะญาติเจ้าสาว 3 โต๊ะ โต๊ะเพื่อนที่ทำงาน 2 โต๊ะ ฯลฯ แล้วให้ไปเลือกกันเองว่าอยากนั่งตรงไหนกับใคร แบบนี้สบายใจกันทุกฝ่ายแน่นอน

 

ประธาน

ปัญหางานแต่งงาน

 

ที่เราหยิบข้อนี้มาไว้เป็นข้อสุดท้าย ก็เพราะตัวท่านประธานอาจไม่ได้ทำให้ใครปวดหัว ยกเว้นบางท่านที่กล่าวอวยพรนานไปหน่อย แต่เรื่องนั้นเราแก้ไขได้ง่ายๆ เพียงแค่ซักซ้อมคิวกับท่านก่อนว่า “ขอไม่เกิน 10 นาทีนะคะ เพราะมีคิวต่อไปรออยู่” ส่วนถึงเวลาจริงท่านจะกระชับเวลาได้แค่ไหนก็ต้องปล่อยไปนะคะ

ส่วนเรื่องหนักใจจริงๆ อยู่ที่ว่า “จะเชิญใครมาเป็นประธาน” มากกว่า เพราะแต่ละฝ่ายก็มีผู้ใหญ่ที่นับถือและเกรงใจอยู่หลายคน ทั้งของคุณพ่อคุณแม่และของเราเอง ถ้าเกิดกรณีนี้ลองแบ่งเชิญท่านละช่วง เช่น เชิญผู้ใหญ่ที่คุณพ่อคุณแม่นับถือเป็นประธานหรือเถ้าแก่ในช่วงเช้า เชิญผู้ใหญ่ที่บ่าวสาวนับถือเป็นประธานในพิธีฉลอง ซึ่งอาจมีได้ประมาณ 2 ท่านกำลังดี หรือถ้ามีมากกว่านั้น อาจแยกให้บางท่านคล้องมาลัยมงคลแล้วอวยพรส่วนอีกท่านมากล่าวให้โอวาท เรียกว่าหาทางจัดสรรให้ลงตัว จะได้มีบทบาทกันครบทุกคนนั่นเอง

สุดท้ายอยากฝากไว้สำหรับคู่ที่เชิญประธานที่เป็นคนดัง ควรเช็กคิวท่านให้ดีด้วยนะคะ เพราะบางครั้งอาจมีงานอื่นเชิญท่านเป็นประธานชนกับงานเราทำให้ต้องมีการวิ่ง 2 งาน และแน่นอนว่าถ้าคุณได้คิวที่ 2 จะต้องลุ้นกันจนเครียดว่าท่านจะมาทันไหม งานจะเลทหรือเปล่า … ซึ่งถ้ารู้ว่าคิวชนแน่ๆ ทางที่ดีเปลี่ยนแผนหรือหาแผนสำรองรอไว้เลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องเครียดสะสมตั้งแต่ก่อนวันแต่งจนถึงวันจริง

ที่ว่ามาทั้งหมดไม่ได้อยากให้เครียดแค่อยากให้ทำใจและหาทางรับมืออย่างชาญฉลาด ส่วนถ้าคุณเป็นหนึ่งในบุคคลเหล่านี้ก็อย่าเผลอตัวทำให้บ่าวสาวต้องกุมขมับแล้วกัน เดี๋ยวถึงงานตัวเองกรรมจะตามสนองนะเออ แฮ่ๆ

>> อ่านคำแนะนำและดูไอเดียงานแต่งงานอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

3 เนคไลน์ชุดแต่งงาน กับทิปส์การเลือกให้สวยปังในวันแต่งงาน

เนคไลน์ชุดแต่งงาน คืออีกส่วนสำคัญของชุดที่จะช่วยเสริมลุคให้กับเจ้าสาว

สาวๆ หลายคนมีชุดแต่งงานในฝัน บางคนก็ชอบแบบเรียบหรู บางคนก็ชอบแบบลูกไม้ บางคนชอบกระโปรงพองฟูแบบเจ้าหญิง แต่น้อยคนที่จะเลือกชุดเจ้าสาวจาก เนคไลน์ชุดแต่งงาน ซึ่งจริงๆ แล้วส่วนนี้ของชุดก็มีความสำคัญไม่น้อย เพราะเป็นส่วนที่จะช่วยเสริมให้ลุคโดยรวมของเจ้าสาวดูดี แพรว wedding เลยจัด 3 เนคไลน์ยอดฮิตมาให้ พร้อมทิปส์การเลือกใส่ให้เหมาะกับรูปร่าง (>> เจาะลึกซิลลูเอตต์ชุดแต่งงานยอดนิยมแบบไหนที่เหมาะกับรูปร่างคุณที่สุด <<)และข้อพึงระวัง รวมทั้งการแมตช์แอคเซสซอรี่ด้วย

 

คอวี (V Neck) คอเสื้อลุคหรูหรา งามระหงปนเซ็กซี่เล็กๆ

หากจะพูดให้เห็นภาพชัดเจนว่า ชุดแต่งงานคอวี คือแบบไหน เราอยากให้ว่าที่เจ้าสาวนึกถึงชุดของเจ้าหญิงเคท กับชุดเจ้าสาวคอวีแขนยาวจนกลายเป็นที่ต้องการของเจ้าสาวทั่วโลกมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวในขณะนั้น และในเวลาไล่เลี่ยกัน นางแบบระดับโลกอย่าง เคท มอสส์ ก็เลือกชุดแต่งงานคอวีแขนกุดสไตล์วินเทจมาสวมใส่ในวันสำคัญของชีวิต

ซึ่งจุดเด่นที่เห็นได้ชัดของคอวีคือ ทำให้คอดูยาวขึ้น แต่ก็นำสายตาให้คนมองมาที่หน้าอก จึงเหมาะกับสาวหน้าอกได้สัดส่วนประมาณคัพ B-C นอกจากนี้สาวหุ่นอ้วนกลมจำไว้เลยว่า ยิ่งปิดยิ่งตัน ฉะนั้นถ้าเลือกคอวีคุณจะไม่ผิดหวัง เพราะช่วยปรับลุคให้ดูระหงปนเซ็กซี่ได้ในบัดดล ที่สำคัญเป็นคอเสื้อที่ปรับได้หลายลุค เพียงแค่เลือกว่าจะคอตื้นหรือคอลึก ถ้ากลัวว่าลึกมากไปแล้วจะทำให้ดูเซ็กซี่จนผู้ใหญ่ส่ายหน้า ก็อาจเพิ่มผ้าซีทรูพรางเนินอกเอาไว้ แต่ถ้าอยากระหงคงความเรียบร้อยก็เว้าสีแค่เนินอกเบาๆ ก็พอ

พึงระวัง : สาวอกใหญ่คับ D ขึ้นไปต้องคิดดีๆ เพราะคอวีอาจทำให้หน้าอกแน่นเต็มเสื้อจนเกินไป รวมไปถึงไหล่ต้องไม่กว้างมากนัก เพราะถ้าไหล่ใหญ่เกินจะกลายเป็นปีกนกยักษ์ไปทันที นอกจากนี้โครงหน้าเจ้าสาวก็เป็นส่วนสำคัญ หากหน้าแหลมอยู่แล้วใส่คอวีจะกลายเป็นวีสองตัวซ้อนกัน คงไม่ต้องบอกนะว่าความแหลมจะทวีคูณแค่ไหน

ทรงชุดเจ้าสาวที่เข้ากันได้ดี : ทรงหางปลา เหมาะมากๆ กับคอวีลึกเพราะยิ่งเพิ่มความเซ็กซี่ไปทั้งตัว และทรงเอไลน์ เหมาะกับคอวีตื้นมากกว่า เพราะช่วยคงความหรูหราและเรียบร้อย

ทรงผมและเครื่องประดับสุดแมตช์ : ควรเลือกสร้อยที่มีลักษณะเป็นรูปหยดน้ำหรือสร้อยคอยาวทิ้งตัวลงมาพร้อมจี้ห้อย ไม่ใช่สร้อยติดคอ โดยจับคู่กับต่างหูตุ้งติ้งไปจนถึงระย้า ส่วนทรงผมนั้นจะเกล้าหลวมๆ แล้วแสกกลางด้านหน้าหรือปาดข้างก็สวยมั่นได้เหมือนกัน

คอปาด (Off the Shoulder) คอเสื้อลุคหรูนำหวานตาม

ชุดเจ้าสาวคอปาด ไม่ว่าจะปาดกว้าง ปาดแคบ รวมถึงปาดแบบเกาะไหล่หรือเลยไหล่ จะทำให้คนใส่กลายเป็นสาวหวานก็ได้ เรียบหรูก็ดี แถมยังเป็นดีไซน์ที่ได้รับความนิยมในหมู่เจ้าหญิงอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เจ้าหญิงวิกตอเรีย มกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดน หรือจะเป็นคนธรรมดาที่กลายมาเป็นเจ้าหญิงอย่างชาร์ลีน วิตต์สต็อก

คุณสมบัติสั้นๆ ของเสื้อคอปาดคือ ทำให้ผู้สวมใส่มีลุคหรูนำหวานตามและยังเสริมบุคลิกความเป็นสาวเรียบร้อยให้เด่นชัดขึ้น นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการปาดให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะใช้ผ้าลูกไม้ทำเป็นตัวเสื้อทั้งชิ้น หรือเลือกนำผ้าโปร่งมาโอบไหล่ สาวๆ จึงสามารถเลือกลักษณะและระดับการโอบได้ตามต้องการ เหมาะมากกับคนที่อยากใส่เกาะอกแต่ไม่กล้าเพราะกลัวจะโป๊เกินไปหรือกลัวเกาะแล้วจะหลุด เมื่อใส่ชุดคอปาดคุณจะดูหวานหรูและได้เผยผิวคล้ายใส่เกาะอก

พึงระวัง : อย่างแรกคือ ถ้าคุณเป็นสาวไหล่กว้าง จงลืมชุดเจ้าสาวคอปาดไปเสียเถอะ เพราะจะยิ่งทำให้ไหล่ดูกว้างจนอาจดูแมนมากกว่าเจ้าบ่าวได้ นอกจากนั้นควรระวังการตัดเย็บให้ดี โดยเฉพาะดีเทลบริเวณช่วงไหล่หรือแขน เพราะหากตัดเย็บไม่พอดีอาจจะไม่เกาะไหล่ ทำให้ต้องคอบจับคอยยกตลอดเวลาขยับตัว ฉะนั้นตอนลองชุดอย่าลืมขยับเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าใส่ได้พอดี

ทรงชุดเจ้าสาวที่เข้ากันได้ดี : หากเป็นชุดหมั้นแบบสั้นจะเพิ่มลุคสาวน่ารักเรียบร้อยสมเป็นหญิงไทยได้ดี ถ้าเป็นชุดเจ้าสาวในพิธีฉลอง คอปาดสามารถเข้าได้กับทุกชุดทุกทรง รับรองอลังการแน่นอน

ทรงผมและเครื่องประดับสุดแมตช์ : เกล้าเก็บผมแบบรวบตึงแล้วแสกกลางก็ช่วยชูลุคหรูหราให้เป๊ะขึ้นไปอีก ยิ่งจับคู่กับต่างหูระย้าและสร้อยคอทรงกลมที่รับกับความโค้งของคอปาด ยิ่งทำให้คุณเป็นเจ้าสาวหรูนำหวานตามตัวจริง

เนคไลน์ชุดแต่งงาน

คอปีนหรือคอสูง (High Collar) คอเสื้อลุคสง่างาม โก้หรู

เนคไลน์ชุดแต่งงาน

ชุดเจ้าสาวคอปีนที่ยังอยู่ในความทรงจำของหลายคนน่าจะมาจากภาพของเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโก ซึ่งถือเป็นไอดอลของว่าที่เจ้าสาวที่ฝันถึงภาพความสง่างามราวกับเจ้าหญิงในชุดเจ้าสาวคอปีนแบบใกล้เคียงกัน

จุดเด่นของคอปีนคือ เป็นคอเสื้อที่ช่วยปรับลุคคนใส่ให้ดูสง่างามในพริบตา แถมยังช่วยปรับบุคลิกภาพให้โดยไม่รู้ตัว เพราะทันทีที่สวมใส่คอคุณจะตั้งตรง ส่งผลให้หลังตรงดูสง่างาม นอกจากนี้ยังเสริมความโก้หรูและทำให้รูปร่างดูโปร่งมากขึ้นหากช่วงบนนับจากเนินอกถึงคอตัดเย็บจากผ้าซีทรูหือผ้าลูกไม้ซีทรู

เนคไลน์ชุดแต่งงาน

พึงระวัง : ถ้าคิดจะเลือกชุดเจ้าสาวแบบคอปีน คุณก็ต้องมีคอให้ปีนด้วย ฉะนั้นอาจไม่เหมาะกับสาวคอหนาและสั้น แต่หากมั่นใจและอยากได้คอเสื้อแบบนี้จริงๆ ให้ปรับโครงสร้างของชุดเล็กน้อยคือ ปาดช่วงหน้าอก (ช่วงต่อระหว่างผ้าทึบเกาะอกกับผ้าซีทรู) ให้ลึกกว่าปกติเพื่อช่วยพรางให้คอดูยาวและยังเสริมความระหงได้อย่างแนบเนียน

ทรงชุดเจ้าสาวที่เข้ากันได้ดี : คอปีนคู่กับทรงหางปลาให้ลุคเซ็กซี่ แต่ถ้าเน้นความสง่าสุดๆ ให้จับคู่กับทรงเอไลน์หรือทรงบอลกาวน์

เนคไลน์ชุดแต่งงานเนคไลน์ชุดแต่งงาน

ทรงผมและเครื่องประดับสุดแมตช์ : เกล้าเก็บผมขึ้นทั้งหมดแล้วสวมเทียร่าคู่กับต่างหูแบบแป้นติดหูไปจนถึงต่างหูแบบตุ้งติ้ง ห้ามใส่ต่างหูทรงระย้าเด็ดขาด เพราะช่วงคอมีผ้ามาปิดอยู่แล้ว จึงดูไม่เข้ากันอย่างแรง

เนคไลน์ชุดแต่งงาน

4 เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่บอกว่าแต่งงานแล้วสุขภาพจะดีขึ้น

จากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่าการ แต่งงาน สามารถทำให้สุขภาพของคู่รักดีขึ้น และนี่คือการวิจัยสุดเซอร์ไพรส์เกี่ยวกับเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่ว่าทำไมการแต่งงานถึงทำให้สุขภาพของคู่รักยืนยาว

1. สามารถลดระดับความเครียดได้

อาจจะฟังดูเหมือนตรงกันข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคู่ที่แต่งงานไปแล้ว แต่นี่เป็นความจริง จากการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยชิคาโกและนอร์ธเวสเทิร์นพบว่า คนที่ไม่ได้แต่งงานหรือไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์จะมีความเครียดมากกว่าคนที่มีคู่แล้ว ซึ่งความเครียดส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาจนนำไปสู่ปัญหาทางด้านสุขภาพ

2. ลดการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ

ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรังของคุณ เช่น ความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน หรือโรคไขข้อ ที่อาจจะมีอาการเพิ่มขึ้นตามอายุ แต่อาการเรื้อรังเหล่านี้มีโอกาสจะลดลงหากคุณแต่งงาน จากการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยมิสซูรี ภาควิชา Department of Human Development and Family Studies ได้วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างสุขภาพของคนที่ไม่มีคู่กับคนที่แต่งงานแล้ว พบว่าคนที่แต่งงานแล้วมีแนวโน้มที่จะมีภาวะของโรคเรื้อรังต่างๆ น้อยกว่าคนที่ไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์ใดๆ

3. สามารถลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งร้ายแรงได้

มีหลายสาเหตุที่ทำให้คนเป็นโรคมะเร็ง เช่น พันธุกรรมหรือสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งผลต่อการต่อสู้กับโรคร้ายนี้ได้คือการแต่งงาน จากการศึกษาวิจัยที่ได้ตีพิมพ์ในวารสาร Oncology บอกว่า จากการสำรวจผู้ป่วยอเมริกันกว่า 700,000 รายที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง พบว่าคนที่แต่งงานแล้วมีแนวโน้มที่จะตรวจพบโรคได้เร็วขึ้น จึงส่งผลให้สามารถเข้ารับการรักษาได้เร็ว และอาจมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าคนที่ยังไม่ได้แต่งงาน

4. ฟื้นตัวจากอาการผ่าตัดได้เร็ว

หากคุณเกิดประสบเหตุให้ต้องผ่าตัด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ใครๆ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนรัก แต่ถ้าคุณแต่งงานแล้วคุณก็อาจจะใจชื้นขึ้นมาได้นิดนึงว่า คุณจะฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้เร็วกว่าคนที่ไร้คู่ จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยเอมอรี่ (Emory University) พบว่าผู้ที่แต่งงานแล้วสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าจากการผ่าตัดหัวใจทั้งชายและหญิง

ข้อมูลจาก www.marthastewartweddings.com

>> ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนรักและครอบครัวเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครด้วยของชำร่วยสไตล์ Rustic ที่เข้ากับทุกธีมแน่นอน

หลายคนอาจจะแอบบ่นในใจว่า เอ๊ะ ก็ไม่ได้จัดงานธีม Rustic แล้วจะมี ของชำร่วยงานแต่ง สไตล์นี้ในงานได้เหรอ เอาจริงๆ เราอยากจะบอกว่า มันก็ได้อยู่นะคะ เพราะด้วยสไตล์ที่ดูเรียบง่ายและโทนสีที่ไม่ฉูดฉาดจึงทำให้ของชำร่วยสไตล์ Rustic นั้นดูจะเข้ากันกับทุกธีมงานแต่ง (หากคุณไม่ได้มองหาของชำร่วยที่เฉพาะเจาะจง หรืออยากจะให้เข้าธีมงานสุดๆ) แพรว wedding เลยนำไอเดียของชำร่วยสุดเก๋ในสไตล์นี้มาฝาก ไปดูกันดีกว่าว่าแบบไหนที่จะเข้ากับงานแต่งของคุณได้ดีที่สุด

1

ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติต้องมา

นิยามความเป็น Rustic สิ่งที่โดดเด่นด้วยความเรียบง่ายสไตล์ธรรมชาติ ที่เน้นการเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติมาเป็นองค์ประกอบหลัก ดังนั้นการเลือกใช้ของชำร่วยที่เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติจึงเป็นความลงตัวที่ดูกลมกล่อม เราขอนำเสนอเป็นต้นไม้ต้นเล็กๆ เมล็ดพันธุ์พืช น้ำผึ้ง สบู่สมุนไพร หรือเทียนหอม ที่แขกสามารถนำกลับไปใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย

2

ของแฮนด์เมดต้องมี

โชว์ไอเดียสร้างสรรค์ด้วยการเลือกใช้ของแฮนด์เมดมาเป็นของชำร่วย แนะนำให้เลือกของที่ประดิษฐ์จากวัสดุจากธรรมชาติอย่างไม้ ผ้า หรือกระดาษ เพื่อให้มีความเป็น Rustic อยู่ในตัว

3

แพคเกจจิ้งดูดีสไตล์ Rustic

ถ้าหากว่าที่บ่าวสาวมีของชำร่วยในใจไว้อยู่แล้ว ที่ไม่ใช่ทั้งผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและของแฮนด์เมด ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะเราสามารถใส่ความเป็น Rustic ให้ของชำร่วยได้ง่ายๆ ด้วยการเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติมาตกแต่งหรือประดิษฐ์เป็นแพคเกจจิ้ง เช่น ถุงผ้ากระสอบ ถุงกระดาษ กล่องไม้ เป็นต้น

เพียงแค่เลือกทำตามข้อใดข้อหนึ่ง บ่าวสาวก็สามารถสร้างสรรค์ของชำร่วยธีม Rustic ได้ง่ายๆ ไม่ลำบาก รับรองว่าถูกใจคนรับแน่นอน

>> ดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพ www.pinterest.com, www.jarfulhouse.com

ส่องชุดไทยสายบุญราคาเรือนแสนของเหล่าซุปตาร์เมืองไทย

ใครว่าจะได้เห็นแต่เหล่าคนดังประชันชุดแต่งงานกันอย่างเดียว ตอนนี้ ชุดไทย งานบุญก็แรงแซงทางโค้งไม่แพ้กันจ้า เรียกว่าเป็นเทรนด์ที่ฮิตติดลมบนของเหล่าดาราเซเลบริตี้ในยุคนี้กันเลยทีเดียว เพราะหลังจากได้เห็นเหล่าซุปตาร์หลายคนต่างเลือกสวมใส่ผ้าไหมเข้าวัดกันมากขึ้นก็ทำให้รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจไม่น้อย เพราะลุคของแม่หญิงไทยไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูน่ารักและสวยงดงามจับตาไปหมดจริงๆ เรียกได้ว่าสวยจริงสวยจังไม่หักแม้แต่คะแนนเดียว แพรวเวดดิ้งเลยนำภาพของเหล่าซุปตาร์ที่ใส่ชุดไทย จากห้องเสื้อวนัช กูตูร์ ไปงานบุญมาฝากกัน ซึ่งแต่ละชุดนั้นรับรองว่าสวยงดงามและเลอค่ามากๆ แถมราคานั้นก็ไม่เบาเลยค่า

ชุดไทย

ชุดไทย

เริ่มด้วยสาวสวยคนนี้ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ ที่เมื่อยามใส่ชุดไทยทีไร ก็ดูสวยงดงามทุกครั้งไป ต้องยอมรับเลยว่าผ้าไหมไทยเป็นอะไรที่เข้ากับสาวแต้วมากจริงๆ ตัวเสื้อตัดเย็บจากผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสมีระบายช่วงอก แขนสั้น ส่วนตัวผ้านุ่งใช้เป็นผ้าไหมแพรวาสีชมพูกลีบบัวที่สั่งทอพิเศษ คาดด้วยเข็มขัดเงินแท้ที่ถูกออกแบบมาให้เข้ากับชุดของสาวแต้วโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สวยงดงามละมุนละไมไปหมด อาจเป็นเพราะชุดนี้สาวแต้วร่วมออกไอเดียรูปแบบชุดด้วยตัวเอง เลยยิ่งดูงดงามตามสไตล์ของสาวแต้วเค้าเลย และมูลค่าของชุดนี้สูงถึง 150,000 บาท เลยทีเดียว

ชุดไทย

ชุดไทย

ตามมาด้วยเธอคนนี้ที่ถูกจัดอันดับให้เป็นเจ้าแม่แห่งวงการแฟชั่น ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ ไม่ว่าเธอจะขยับตัวทำอะไรก็ดูจะเป็นกระแสไปเสียหมด ล่าสุดกับชุดทำบุญสุดเก๋สไตล์ใหม่ ดาวิกา ก็ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล ด้วยความน่ารักและเป็นธรรมชาติของสาวใหม่ที่มาในลุคชุดไทยคู่กับรองเท้าแฟลตชิคๆ ทำให้ดูมิกซ์แอนด์แมทช์แบบสาวทันสมัย ประมาณว่าเฟียร์สให้สุดแล้วหยุดที่ชุดไทยกันไปเลยจ้า เรียกได้ว่าลบภาพจำเก่าๆ ของชุดไทยที่ดูแก่หรือโบราณไปได้แบบหมดสิ้นซึ่งชุดนี้ตัวเสื้อถูกออกแบบด้วยผ้าลูกไม้แต่งบ่าไหล่แบบซีทรู ผ้านุ่งตัดเย็บด้วยผ้าไหมแพรวาสีฟ้า คาดด้วยเข็มขัดเงินลายโบราณ ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ลงตัวมากๆทำให้ลุคนี้สาวใหม่ได้คะแนนไปแบบ 10 เต็ม 10ไม่หักแม้แต่คะแนนเดียวเลยค่า ส่วนราคาของชุดนี้นั้นจัดไปแบบตัวเบาหวิว 150,000 บาท

ชุดไทย

มาถึงนางเอกสายสตรองอีกหนึ่งคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือสาว แมท-ภีรนีย์ คงไทย ไม่ว่าเธอจะปรากฎตัวในลุคไหนก็ดูเป็นที่จับตามองอยู่เสมอๆ แต่ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็เมื่อตอนที่เธอปรากฏตัวในลุคชุดไทยจ๋าที่ทิ้งความเป็นสาวแฟชั่นนิสต้าไปได้จนหมดสิ้นเหลือไว้เพียงความงดงามในแบบสาวไทย ซึ่งเธอเลือกใช้ชุดนี้ในงานบวชของเพื่อนคนสนิทที่เรียกได้ว่าใครเห็นก็ชมไม่ขาดปากกันเลยทีเดียวโดยตัวเสื้อนั้นทำมาจากผ้าลูกไม้เกรดพรีเมียมแต่งชายเสื้อด้วยผ้าไหมปักธงชัย นุ่งทับด้วยผ้าถุงที่ทำมาจากผ้าไหมแพรวาสีน้ำเงินคราม ทอแบบเต็มผืน คาดทับด้วยเข็มขัดเงินแท้ลายโบราณสุดหรู ซึ่งรวมมูลค่าทั้งชุดสูงถึง 150,000 บาท 

ปิดท้ายด้วยว่าที่เจ้าสาวคนสวย ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ ในลุคชุดไทยสุดสง่างาม สวยปังแบบสุดๆ หยุดไม่อยู่เลยจริงๆ สำหรับชุดนี้ ต้องบอกเลยว่าสวยตาแตกมากค่ะแม่ ทั้งชุดได้รับการออกแบบด้วยความประณีตในรายละเอียดตั้งแต่เสื้อลูกไม้แขนยาว ไปจนถึงผ้านุ่งทอลายที่ทำจากผ้าไหมแพรวาสีเทาอมเขียว ทำให้ชุดของสาวก้อยนั้น ดูงดงามไร้ที่ติจริงๆ และมูลค่าของชุดนี้แตะถึง 160,000 บาท เลยทีเดียว ของจริงไม่ต้องพูดเยอะเรียกได้ว่าสวยทั้งคน สวยทั้งชุด กินกันไม่ลงเลยทีเดียวเชียวค่า

สำหรับใครที่อยากมีลุคแบบสาวไทยที่ดูเรียบหรูและดูสวยสง่างามแบบนี้สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ที่ ห้องเสื้อ  วนัช กูตูร์ ปากซอยลาดพร้าว 50 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/vanuscouture หรือโทร 0-2002-4895, 0-2002-4896, 09-5948-1137  หรือทาง Line: @ vanuscouture

>> ดูแบบชุดแต่งงานห้องเสื้อ วนัช กูตูร์ เพิ่มเติม คลิกเลย <<

ฮวงจุ้ยเสริมรัก เคล็ดลับเสริมดวงทั้งคนไร้คู่และคู่แต่งงานให้รักนี้ราบรื่น

หลายคู่อยากมีรักที่ยั่งยืน ชีวิตคู่ราบรื่น เราเลยจัดเคล็ดลับ ฮวงจุ้ยเสริมรัก มาฝากกันค่ะ ขอบอกตรงนี้เลยว่า สั้นๆ อ่านง่าย ทำตามก็ไม่ยาก แค่ปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ รับรองเลิฟกันดีมากกว่าเดิมแน่นอนค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและความเชื่อของแต่ละบุคคลนะคะ

  • คนที่ยังไม่มีคู่

ว่ากันว่าในทางฮวงจุ้ยจะมีทิศแห่งความสัมพันธ์นะคะ นั่นก็คือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้  ซึ่งถ้าคุณยังไม่มีคู่แล้วอยากเริ่มต้นความสัมพันธ์ควรหาอะไรที่เป็นสัญลักษณ์ของการกระจายพลังอย่าง คริสตัล หรือของคู่ เช่น หงส์คู่ เป็ดคู่ ไปตั้งไว้ทิศนี้ของห้องนอน จะช่วยส่งเสริมส่งให้คุณได้เริ่มต้นความสัมพันธ์สมใจได้ (ลองดูก็ไม่เสียหานี่นาเนอะ)

คริสตัลแบบนี้แต่ต้องวางเป็นคู่นะคะ

แต่ก่อนจะตั้งของเหล่านี้ ควรทำห้องนอนให้สมดุลก่อน อย่างพวกทีวีจอใหญ่ ข้าวของที่มากเกินไป หรือสัตว์เลี้ยงที่นอนอยู่บนเตียง ถือเป็นข้อห้าม เพราะจะทำให้อยู่ติดบ้าน หาคู่ลำบาก การสร้างสมดุลคือ มีของให้น้อยที่สุดซึ่งในทางฮวงจุ้ยคือลดพลังหยาง เอาสิ่งที่เคลื่อนไหวเยอะๆ อย่างทีวีจอใหญ่หรือคอมพิวเตอร์ออกไป (ถ้าเป็นสมัยนี้ก็อาจต้องลดอาการติดแท็บเล็ตหรือโทรศัพท์มือถือลง) เมื่อเกิดความสมดุลแล้วสิ่งตรงข้ามจะมีโอกาสเข้ามา ทั้งนี้ ต้องประกอบกันหลายอย่าง ทั้งฮวงจุ้ย ดวง และความพร้อมของเจ้าตัวค่ะ

  • คนที่แต่งงานแล้ว

ทีนี้มาดูฮวงจุ้ยสำหรับคนที่มีคู่กันแล้วบ้างนะคะ เรื่องเตียงค่ะ สำคัญมากๆ  เพื่อให้ขาเตียงมั่นคงหัวเตียงควรอยู่ในที่ที่ทึบแน่น เดี๋ยวนี้มีบ้านดีไซน์ใหม่ๆ ที่ชอบดึงเตียงมาตั้งอยู่ลอยๆ จะทำให้มีปัญหาเยอะ ถ้ามีหน้าต่าง-ช่องแสง ควรปิดผ้าม่านไว้เพื่อไม่ให้พลังมากวนกัน ระวังไม่ให้ประตูห้องน้ำตรงกับเตียงเพราะเป็นพลังที่ไม่ดี หรือกระจกซึ่งหมายถึงเรื่องมือที่สามก็ไม่ควรจะส่องเตียงเพราะอาจทำให้เกิดปัญหาในความสัมพันธ์

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ การแบ่งของในห้องนอนต้องสมดุล บางบ้านห้องนอนเหมือนเป็นของผู้หญิงฝ่ายเดียว มีแต่เสื้อผ้าข้าวของเยอะไปหมด ลองนึกภาพว่าถ้าในบ้านมีเก้าอี้ที่เราชอบนั่งอ่านหนังสือ เวลาเราเดินผ่านก็อยากจะไปนั่ง ห้องนอนก็เหมือนกัน เราใช้เวลาในนั้นอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง ถ้าไม่มีความเป็นตัวเราอยู่ในนั้นเลย อาจทำให้รู้สึกไม่อยากจะอยู่ ดังนั้น ควรนึกถึงใจเขาใจเราด้วย ตรงนี้จะว่าไปก็เป็นหลักพื้นฐานในการครองเรือนซึ่งเราเห็นได้จากห้องนอน ถ้าเข้าไปดูแล้ว โห…ไม่เคยคิดถึงอีกคนหนึ่งเลยคงจะอยู่กันลำบากนะคะ

เห็นไหมคะ สั้นๆ ง่ายๆ ลองนำไปทำตามกันดูได้ผลยังไง บอกเราบ้างนะคะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ชุดไทยแต่งงานประยุกต์ ปรับได้หลายลุคช่วยเจ้าสาวประหยัดบัดเจ็ต

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์ คืออีกหนึ่งชุดไทยที่บรรดาเจ้าสาวสมัยใหม่ให้ความสนใจ ด้วยดีไซน์ที่เก๋ โดดเด่น อีกทั้งยังสวมใส่ง่ายกว่าชุดไทยพระราชนิยมแบบปกติ ทำให้ได้ชุดไทยแบบผสมผสานกับความเป็นโมเดิร์นที่สวยงาม คล่องตัว ตอบสนองการใช้งานในพิธีต่างๆ บางชุดยังได้รับการออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนนำไปใช้ได้หลายงาน แพรว wedding จึงขอพาไปชมชุดไทยประยุกต์จากแบรนด์ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันงดงาม – เรื่อง : Tomalin ภาพ : วรสันต์ ผู้ช่วยช่างภาพ : ณัฐชา ชาวเกวียน

DEEP LOVE WEDDING STUDIO

Deep Love Wedding Stuido เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ให้บริการอย่างครบวงจรตั้งแต่บริการแต่งหน้า – ทำผม การถ่ายภาพในวันสำคัญ แน่นอนว่าสิ่งที่โดดเด่นคือการเช่า – ตัดชุดวิวาห์ที่มีแบบให้เลือกมากมาย เช่นเดียวกับชุดไทยที่ Deep Love Wedding Studio มีความเข้าใจเจ้าสาวไม่แพ้ใคร

อย่างชุดไทยประยุกต์ที่คุณเจี๊ยบ – ชยานิษฐ์ พฤฒพีระวิทย์ นำมาให้ชมในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการนำดีไซน์และเทคนิคของชุดราตรีในยามค่ำคืนมาทอนส่วนผสมให้ผสานเข้ากันได้อย่างลงตัวกับชุดไทยพระราชนิยม เพื่อตอบโจทย์รูปแบบงานแต่งงานในยุคปัจจุบัน ลูกค้าหลายคนนิยมจัดงานแบบพิธีไทยในช่วงเช้าและจัดเลี้ยงในตอนบ่าย เวลาแต่งตัวของเจ้าสาวจึงน้อยลง หลายคนเปลี่ยนชุดแทบไม่ทัน เราจึงพยายามคิดชุดที่สามารถดัดแปลงใช้ได้ทั้งสองงานและสะดวกในแง่สวมใส่ อย่างชุดนี้นำแบบมาจากชุดไทยจักรีแล้วปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมให้ดูทันสมัยขึ้น

ชุดไทยแต่งงานประยุกต์

“เริ่มจากชุดในพิธีไทยก่อน ตัวเสื้อเราออกแบบให้เป็นแบบแขนเดี่ยวเพื่อให้ดูแตกต่างและทันสมัย มีความเป็นชุดราตรีเบาๆ แล้วห่มทับด้วยสไบทรงโค้งดูอ่อนช้อย ต่างจากสไบปกติ ส่วนผ้านุ่งทำเป็นทรงหางปลาคือบานออกในช่วงปลายเพื่อให้ดูอ่อนหวาน ทั้งชุดทำจากผ้าไหมแท้ ทอด้วยไหมสี่เส้นทั้งตัว ซึ่งเป็นเส้นไหมที่เราคัดพิเศษให้มีขนาดของเส้นไหมเท่าๆ กัน และเลือกใช้สีขาวออฟไวท์ซึ่งช่วยเสริมให้ดูงามสง่า

 

“จุดเด่นอยู่ที่ดีเทลงานปักมือเป็นลวดลายเครือเถาดอกไม้ด้วยวัสดุหลายชนิด รวมถึงคริสตัลสวารอฟสกี้ทำให้ดูมีมิติและความหลากหลาย โดยปักที่ตัวสไบปลายแขนเสื้อ หน้านาง และชายกระโปรง ทั้งหมดเราออกแบบและขึ้นลายเอง ทำให้ได้ลวดลายที่ไม่ซ้ำใคร

ชุดไทยแต่งงานประยุกต์

“พอถึงช่วงงานเลี้ยง ชุดนี้สามารถปรับให้เป็นลุคที่สอง โดยนำสไบออก แล้วสวมสุ่มกระโปรงทำจากผ้าออร์แกนดี้อัดพลีตนำมาซ้อนกันเป็นเลเยอร์ทับเข้าไป ก็จะได้เป็นชุดราตรีสีขาวบานฟูฟ่อง ผสมผสานกับกระโปรงแบบไทยด้านใน ดูอลังการไปอีกลุค

“สำหรับชุดนี้แนะนำว่าให้ใส่คู่กับเครื่องประดับเงินหรือเพชรก็ได้ค่ะ สวยหมด หรือถ้าใครมีสร้อยเพชรมรกตสีเขียว นำมาใส่กับชุดนี้ก็จะยิ่งสวยเด่นเลย เพราะชุดมีความเรียบหรูอยู่ในตัว สไตล์ร้านเราจะเน้นคัตติ้งเนี้ยบงานฝีมือ และวัสดุที่ดีค่ะ อย่างงานปักก็เป็นการปักมือโดยให้ช่างของเราขึ้นลายเอง อย่างชุดนี้ก็ออกแบบเองจึงได้งานปักที่สวยวิจิตร เช่นเดียวกับลูกไม้ หากเจ้าสาวอยากได้แบบที่ไม่เหมือนใคร เราก็วาดและออกแบบให้ได้

“สิ่งที่อยากแนะนำเจ้าสาวในการเลือกชุดไทยคือ ให้ลองก่อนว่ารูปร่างของเราเหมาะกับชุดแบบไหน พอรู้แล้วค่อยมาลงดีเทลว่าชอบการตกแต่งมากน้อยเพียงใด จุดเด่นของชุดจะเป็นอะไร อย่างชุดนี้ จุดเด่นคือการปรับเปลี่ยนได้สองลุคและความเป็นมินิมัล ตอบความต้องการของเจ้าสาวในแง่ที่ให้ความสะดวกสบาย ประหยัดงบประมาณ ในขณะเดียวกันก็เก๋แตกต่างไม่ซ้ำกับใครค่ะ

“ต้องบอกว่าชุดไทยประยุกต์ได้รับความนิยมมากขึ้น คือส่วนใหญ่เจ้าสาวก็ยังชอบชุดไทยคลาสสิคอยู่ แต่ใช้เวลาแต่งตัวนาน ต้องจับจีบสไบให้สวยงาม ต้องมีคนช่วยแต่งตัว ถ้าแต่งละเอียดก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ทีนี้ด้วยรูปแบบการจัดงานในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปอย่างที่บอก เจ้าสาวจึงทำได้แค่ถอดบางชิ้น และเพิ่มบางชิ้น ชุดประยุกต์จึงเข้ามาตอบโจทย์ ในขณะเดียวกันชุดไทยคลาสสิคนั้นมีความสุดในเรื่องของดีเทลการปัก คือตระการตาทุกอณูพอถึงจุดหนึ่งคนก็จะวนกลับมามองหาความเป็นมินิมัลมากขึ้น ชุดไทยประยุกต์ก็จะยิบยื่นความเรียบง่ายในส่วนนี้ให้แทน แต่ยังคงความสวยหรู

“ส่วนตัวคิดว่าปีนี้เทรนด์แบบมินิมัลจะมา โดยเน้นความเรียบหรูไปที่เนื้อผ้าและวัสดุที่มีคุณภาพ แพตเทิร์นที่สวยเป๊ะดูสง่างาม ซึ่งการจะทำชุดเรียบแต่เป๊ะได้ต้องอาศัยช่างที่มีประสบการณ์มากๆ เพราะชุดจะออกมาเรียบพอดีตัวหรือไม่อยู่ที่รายละเอียดของแพตเทิร์นและวัสดุ อย่างเนื้อผ้าที่ใช้ความเนี้ยบในการตัดเย็บ เราจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ค่ะ

“ความจริงที่นี่ออกแบบให้ได้ทุกอย่าง แค่มาคุยกันก่อนว่าลักษณะที่คุณต้องการเป็นอย่างไร อยากได้ชุดแบบไหน แล้วเราค่อยมาหาความเป็นตรงกลางของตัวคุณ สิ่งสำคัญที่เจ้าสาวต้องพิจารณาคือ ในแต่ละพิธีคุณต้องทำกิจกรรมอะไรบ้าง ลุก นั่ง กราบ ขึ้นเวที ฯลฯ เราจะช่วยคุณคิดว่าชุดจะเข้ากับกิจกรรมที่ต้องทำทั้งหมดได้ไหม อย่างชุดที่นำมาให้ถ่ายรูปวันนี้ชายกระโปรงเป็นหางปลา ซึ่งเราออกแบบและทดลองมาแล้วว่าสะดวกต่อการเดิน สามารถก้าวขาได้ ไม่ลำบากเหมือนผ้านุ่งปกติ

“เราพยายามลงรายละเอียดให้ได้มากที่สุด จึงมีทีมงานที่พร้อมดูแลหลากหลายด้าน เพื่อให้เจ้าสาว – เจ้าบ่าวได้ในสิ่งที่ต้องการมากที่สุด เพราะปัจจุบันก็มีลูกค้าหลายคนที่มีความต้องการแบบยูนีคจริงๆ ซึ่งเราก็สามารถจัดให้ได้ค่ะ

“เพราะวันสำคัญของคุณ คืองานสำคัญของเรา”

MONIQUE WEDDING

หนึ่งในแบรนด์ดังที่ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าสาว ด้วยชุดแบบตะวันตกที่เรียบโก้ คัตติ้งเนี้ยบไปจนถึงงานดีเทลสุดอลังการ เช่นเดียวกับชุดไทยของ MONIQUE wedding ที่ละเอียดประณีต ทำให้ผู้สวมใส่ดูหรูหราสง่างามสมกับวันสำคัญที่รอคอย

โดยชุดไทยประยุกต์ที่นำมาให้เราชมในวันนี้ เป็นโทนสีทองเพิ่มความหรูหราและช่วยขับผิวให้เจ้าสาวดูสวยเปล่งปลั่ง คุณณัจสิยาภรณ์ เลิศประธานพร ผู้ช่วยผู้จัดการร้าน และ คุณกัญญาภัทร เหรียญทอง ผู้ช่วยในการสวมใส่ชุดไทย (Professional Dresser) เล่าให้ฟังว่า “ชุดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งเสด็จฯ ออกต้อนรับพระราชอาคันตุกะที่เสด็จเยือนไทย ณ ทำเนียบรัฐบาล เป็นชุดไทยประยุกต์จากชุดไทยศิวาลัยแบรนด์ของเราจึงนำมาปรับใหม่เป็นชุดไทยกึ่งสมัยใหม่ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นไทย และความเป็นจีน เพื่อตอบโจทย์เจ้าสาวไทยเชื้อสายจีนที่ทำพิธีแบบไทย และพิธียกน้ำชาแบบจีนในวันเดียวกัน โดยเราออกแบบเสื้อตัวในเป็นแบบแขนกุดคอตั้งสไตล์จีน ห่มทับด้วยสไบที่มีความเรียวเล็กหน่อยเพื่อให้ดูโมเดิร์นและโชว์สรีระท่อนบนของเจ้าสาว ส่วนผ้านุ่งเย็บติดกับท่อนบนเป็นเหมือนชุดยาว มีหน้านางและชายพก ทั้งหมดตัดเย็บจากผ้ายกเทศ หรือผ้าเยียรบับสีชมพูพิ้งค์โกลด์ลายประจำยามก้านแย่งสอดดิ้นทองนำเข้าจากประเทศอินเดีย แล้วปักทั้งชุด รวมถึงปักสไบและหน้านางด้วยเลื่อมกับลูกปัดคริสตัลสวารอฟสกี้และไข่มุกสีพิ้งค์โกลด์เป็นลายดอกพิกุลทั้งชุด เพิ่มความแวววาวให้ดูระยิบระยับงดงาม

ชุดไทยแต่งงานประยุกต์

“จุดเด่นของชุดนี้จึงอยู่ที่ลายปักด้วยมืออันละเอียดอ่อน กับสีของผ้านุ่งที่หาได้ยาก เพราะเราสั่งย้อมพิเศษเพื่อให้ได้สีโทนโรสโกลด์ผสมพีช ซึ่งทำให้สามารถใส่ได้ทั้งสาวผิวขาวและผิวแทน เมื่อถึงช่วงยกน้ำชา เจ้าสาวอาจถอดสไบออกให้เหลือเสื้อแขนกุดคอจีนด้านใน ก็จะได้ความคล่องตัวและได้ความสวยงามแบบกึ่งไทยกึ่งจีนในอีกลุคหนึ่ง ซึ่งลูกค้าชอบมากค่ะ

“ส่วนอีกชุดที่นำมาคือ เป็นชุดไทยประยุกต์ในสไตล์โมเดิร์นที่ออกแนวสวยหวาน ท่อนบนเป็นเสื้อลูกไม้แขนเดียวทำจากผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสสีชมพู
กลีบบัว ดูโปร่งบาง อ่อนหวาน และหรูหราไปในตัว ห่มทับด้วยสไบลายดอกราตรี ส่วนท่อนล่างออกแบบให้มีความคล้ายชุดราตรีด้วยชายกระโปรงแบบเมอร์เมด ผ้านุ่งทำจากไหมอินเดียแท้ทอยกดอกขึ้นลายปักดอกราตรีทั้งตัว แล้วปักทับด้วยลูกปัดปล้องอ้อยสีพิ้งค์โกลด์ จุดเด่นของชุดนี้อยู่ที่วัสดุซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ และลวดลายของงานปักที่เราออกแบบเองโดยให้สอดคล้องกับลวดลายของผ้า ชุดท่อนบนและลูกไม้ทุกอย่างต้องผสมผสานเข้ากันให้ออกมาดูนุ่มละมุนที่สุด

“จุดเด่นของงานชุดไทยในแบบ MONIQUE wedding คือความโก้หรู ดูสง่างาม โดยคัดสรรผ้าไหมแท้และออกแบบลวดลายเองเพื่อให้มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ลวดลายแต่ละชุดเราหยิบแรงบันดาลใจมาจากงานศิลปะไทยในยุคกรุงสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยาแล้วนำมาปรับให้มีความเป็นเราทำให้ได้ความอ่อนหวานที่สง่างาม คงความเป็นไทย ขณะเดียวกันก็ดูแปลกใหม่ ทรงคุณค่า เช่นเดียวกับงานย้อมสีผ้าที่เรามักสั่งทำพิเศษ ทำให้ได้สีชุดที่แตกต่างอย่างมีรสนิยมไม่เหมือนใคร นอกจากนี้เรายังลงลึกไปถึงเครื่องประดับที่จะใช้คู่กับชุดไทยด้วย โดยทางร้านจะออกแบบและสั่งทำเครื่องประดับเลียนแบบของไทยโบราณขึ้นมาใหม่ โดยใช้ช่างทำเครื่องประดับโบราณสกุลช่างทองหลวง ที่ลงดีเทลจนดูคล้ายทั้งรูปแบบ ลวดลาย และสีสัน ยอดกลางฝังด้วยเพชรและล้อมมณีนพรัตน์หรืออัญมณีเก้าสี ทำให้ได้เครื่องประดับที่ครบถ้วนงดงาม เป็นสิริมงคล ดูดีมีมูลค่า เฉกเช่นที่สตรีชั้นสูงสวมใส่ ช่วยให้การสวมใส่ชุดไทยของเจ้าสาวสวยงามครบองค์ประกอบ โดยเราจะให้เช่าไปพร้อมกับชุด รวมถึงมี Professional Dresser หรือผู้ช่วยในการแต่งตัวไปช่วยแต่งชุดไทยในวันสำคัญด้วยค่ะ

“สำหรับเจ้าสาวที่กำลังมองหาชุดไทยหรือชุดไทยประยุกต์ ทางร้านขอแนะนำว่า นอกจากจะคำนึงถึงแบบและสีของชุดแล้ว อยากให้พิจารณา
ความสะดวกและความเหมาะสมของสถานที่จัดงานและพิธีการด้วย อย่างทุกวันน้ไี ม่ใช่แค่ตักบาตร พิธีหมั้น หรือรดน้ำสังข์เท่านั้น แต่ยังมียกน้ำชา หรืองานเลี้ยงอื่นๆ อีก ซึ่งเจ้าสาวบางคนยังมีไอเดียว่าอยากได้ชุดแต่งงานที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ต่อในงานอื่นๆ ต่อไปได้อีก ไม่ได้อยากได้ชุดเจ้าสาวที่ใส่ทีเดียวแล้วจบ ดังนั้นชุดไทยประยุกต์จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ให้ความยืดหยุ่น สามารถช่วยให้ทำกิจกรรมได้หลากหลายและเสริมความมั่นใจได้มากขึ้น ชุดไทยบางแบบสามารถถอดสไบออกแล้วเติมเคปลูกไม้หางยาวเหมือนชุดแต่งงานสากล หรือหากเติมเสื้อคลุมลูกไม้ยาวสวยๆ สักตัวก็จะดูสวยเก๋ไปอีกแบบ ซึ่งการดัดแปลงหรือเติมลูกเล่นนี้ต้องขึ้นอยู่กับรูปร่างผู้สวมใส่ การใช้งาน สถานที่ และความเหมาะสมด้วยค่ะ จึงแนะนำว่าให้ลองเข้ามาคุยกันก่อน วันสำคัญทั้งที อยากให้ทุกคนได้ชุดที่สวยงามและถูกใจที่สุด หากเลือกชุดได้เหมาะสมกับพิธีการก็จะทำให้เราสวมใส่ชุดได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

“จะได้เป็นเจ้าสาวที่สวยสง่ามีออร่าจับตาจับใจค่ะ”

เสื้อผ้า
Deep Love Wedding
ซอยอุดมสุข 49
โทร. 0-2398-5739, 0-2399-1693, 09-5789-9556
เว็บไซต์ : www.deeplovewedding.com
เฟซบุ๊ก : DeepLove ชุดแต่งงาน ชุดไทย
ไอจี : @deeplove_official
ไลน์ : @deeplovewedding

Monique Wedding
418/8 – 9 ถนนสาธุประดิษฐ์
แขวงบางโพงพาง
เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
โทร. 0-2108-7800, 08-0279-7800
เฟซบุ๊ก : Monique Wedding
ไอจี : @moniqueweddingbkk

>> ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย <<

4 ปัญหาก่อนงานแต่ง ทะเลาะกันทำอย่างไรดี มารู้วิธีเตรียมรับมือและทางแก้ไขกัน

ปัญหาก่อนงานแต่ง เกิดการทะเลาะขึ้นระหว่างบ่าวสาว แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่พาให้ปวดหัวสุดๆ … อย่าเพิ่งหน้านิ่วคิ้วขมวดไปนะ มาดูสาเหตุและวิธีแก้ไขกันดีกว่า

อย่าลืมว่ากว่าจะรักกัน คบกัน และตัดสินใจแต่งงานกันนั้นมันไม่ได้ง่ายเลย อย่าถอดใจง่ายๆ เพียงแค่ไม่เข้าใจกันนิดๆ หน่อยๆ เนอะ แพรว wedding ขอนำ ปัญหาก่อนงานแต่ง ที่เคยเกิดกับคู่บ่าวสาวหลายๆ คู่ มาบอกเล่าเพื่อให้เตรียมตัวรับมือ และแก้ไขให้ถูกกันตามนี้ค่ะ

ปัญหาก่อนงานแต่ง

1. ปัญหาจากผู้ใหญ่ของบ่าวสาว

ถึงแม้บ่าวสาวจะรักกันมาก เข้าใจกันสุดๆ แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องคุณพ่อคุณแม่ของบ่าวสาวที่มาช่วยจัดแจงงานแต่งงาน ในส่วนต่างๆ เพื่อจะให้ออกมาเพอร์เฟกต์และดีที่สุด จนบางครั้งทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกิดขึ้น และมักจะเป็นปัญหาหลักๆ ที่พบเห็นอยู่บ่อยๆ เลยก็ว่า วิธีการแก้ไขคือ บ่าวสาวต้องบอกกับผู้ใหญ่ไปตรงๆ ค่ะ ว่าเดี๋ยวจะจัดการกันเอง แล้วให้ผู้ใหญ่แนะนำอยู่ห่างๆ ก็พอ ในเมื่อตัดสินใจจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแล้ว ก็ต้องกล้าตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นความรักอาจจะพังลงง่ายๆ เพียงเพราะเข้าใจผิดกัน

ปัญหาก่อนงานแต่ง

2. ค่าใช้จ่ายที่บานปลาย

ถึงแม้จะตกลงค่าใช้จ่ายในงานแต่งกันเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาจ่ายเงินจริงๆ ค่าใช้จ่ายกลับบานปลาย จนฝ่ายคนจ่ายเงินเริ่มรู้สึกอึดอัด ว่าทำไมต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถึงแม้บ่าวสาวจะตกลงกันไว้แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้นะคะ เพราะปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย บ่าวสาวต้องเปิดใจคุยกันแล้วหาทางแก้ร่วมกัน ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ หรือช่วยกันตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง

3. ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงจัดธีมงานอะไรดี เลี้ยงอาหารแบบไหน จัดที่สถานที่ใด บ่าวสาวควรคุยกันวางแผนให้เคลียร์ แล้วให้ตรงใจกันทั้งสองฝ่าย เพราะงานนี้เป็นงานของทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเอง อย่าให้เกิดเรื่องค้างคาใจแบบหยุ่มหยิ่ม มาทำให้เกิดปัญหาใหญ่นะจ๊ะ

ปัญหาก่อนงานแต่ง

4. ปัญหาในวันแต่งงาน

มีแน่นอนทุกคู่ ถึงแม้จะฟันฝ่ากันมาจนเกือบจะถึงเส้นชัยแล้ว เผลอๆ ในวันแต่งงานอาจจะเจอปัญหาที่เยอะกว่าเดิมด้วย เช่น ความเยอะของญาติ , แขกในงานเมาสุรา , ความวุ่นวายของเพื่อนเจ้าสาว , เด็กๆ มาวิ่งเล่น และร้องไห้ในงาน , ผิดคิว ไม่ได้สิ่งที่อยากได้ , กิ๊กเก่าของใครสักคนมาร่วมในงาน เป็นต้น ขอบอกเลยว่า ใจเย็นๆ ยิ้มเข้าไว้นะจ๊ะ อย่าทำหน้าเหวี่ยงวีน เดี๋ยวบรรยากาศจะเสียเปล่าๆ ไว้เลิกงานแล้วค่อยมาคุยกันว่าไม่ชอบอะไร อย่าทะเลาะกันก่อนงานหรือระหว่างงานจะดีที่สุด และจงจำไว้เสมอว่า ทุกอย่างไม่มีอะไรเพอร์เฟกต์เนอะ

ปัญหาก่อนงานแต่ง

เอาเป็นว่าทางแก้ที่ดีที่สุดสำหรับทุกเรื่องคือ การตั้งสติ แล้วค่อยๆ พูดคอยๆ คุยกันดีที่สุดนะจ๊ะ หรือถ้าคิดว่าอยากได้เทคนิคเสริมให้ความรักดียิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติมได้ตามนี้เลยค่ะ >>> 9 กุญแจสำคัญสู่รักแท้เสริมใยเหล็ก! <<< คลิกเลย!

ภาพจาก : Pinterest.com , Mthai.com

จดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ บริการดีๆ ที่รัฐเขามีไว้ให้

การจดทะเบียนสมรสเป็นสิ่งยืนยันทางกฎหมาย ว่าคุณและคนที่คุณรักเป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์ ซึ่งการจดทะเบียนสมรสสามารถจดได้ที่ที่ว่าการอำเภอและ จดทะเบียนสมรสนอกสถานที่

การที่คู่บ่าวสาว ต้องการจดทะเบียนสมรสให้ตรงกับฤกษ์แต่งงาน ซึ่งอาจจะตรงกับวันเสาร์อาทิตย์ที่ที่ว่าการอำเภอปิด หรืออยากได้ภาพบรรยากาศการจดทะเบียนสมรสสวยๆเก็บไว้เป็นที่ระลึก จดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ คือคำตอบ

สิ่งที่ต้องรู้สำหรับการจดทะเบียนสมรส

คุณสมบัติของผู้ที่จะจดทะเบียนสมรส

  1. จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปีบริบูรณ์แต่ถ้ายังไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ จะต้องมีบิดา มารดา หรือผู้ปกครองมาให้ความยินยอมด้วย ส่วนสาวๆ หนุ่มๆ คนไหนที่มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์แล้ว สามารถทำการจดทะเบียนสมรสได้ด้วยตัวเอง ส่วนสาวน้อยหนุ่มน้อยคนไหนที่อายุไม่ถึง 17 ปีบริบูรณ์ แต่อยากจะจดทะเบียนอย่างถูกกฎหมาย จะต้องได้รับอนุญาตจากศาลซะก่อน
  2. ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือไร้ความสามารถ
  3. ไม่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดามารดา
  4. ไม่เป็นคู่สมรสของบุคคลอื่น
  5. ผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้

เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมไปยื่นจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่

  1. บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนาของชายหญิง (บัตรที่ยังไม่หมดอายุ)
  2. ทะเบียนบ้านตัวจริงของชายหญิงพร้อมสำเนา
  3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของพยาน 2 คน โดยพยานทั้ง 2 คนจะต้องเป็นผู้ที่มาร่วมงานในวันงานด้วย
  4. ใครที่เคยหย่ามาก่อนต้องเอาหลักฐานการหย่ามาด้วย
  5. สูจิบัตรและทะเบียนบ้านของบุตร (หากมีบุตรที่เกิดก่อนจะมาจดทะเบียนสมรส)

หมายเหตุ : ใครจะจดทะเบียนสมรสกับคนรักที่เป็นชาวต่างชาติต้องมีสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) และ หนังสือรับรองสถานภาพบุคคลจากสถานทูต พร้อมคำแปล (ที่มีการรับรองว่าแปลถูกต้อง) มาด้วย

เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว ให้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อแจ้งขอจดทเบียนสมรสนอกสถานที่ ที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอที่โรงแรมหรือสถานที่ที่เราจัดงานตั้งอยู่ ไม่สามารถจดข้ามเขตได้ โดยต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าก่อนวันงานอย่างน้อย 3 วัน เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้จัดคิวไปงานของเราได้ถูก สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายทะเบียน โทร. 02-236-1395 ต่อ 6230 ถึง 6234

ค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขข้อตกลง

จดทะเบียนสมรสนอกที่ว่าการอำเภอ จะต้องเสียค่าธรรมเนียม 200 บาท รวมถึงจะต้องจัดหารถสำหรับรับ-ส่งนายทะเบียนอีกด้วย  (เรื่องรถบางกรณี นายทะเบียนจะจัดรถไปเอง แล้วแต่ตกลงกัน)

จดทะเบียนสมรสนอกสถานที่

เปลี่ยนคำนำหน้า เปลี่ยนนามสกุล

สำหรับฝ่ายหญิงที่คิดจะเปลี่ยนคำนำหน้าจาก “นางสาว” เป็น “นาง” หรือเปลี่ยนไปใช้ “นามสกุลสามี” (ซึ่งจะเปลี่ยนหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องแจ้งความจำนงค์ต่อเจ้าหน้าที่) หลังจากจดทะเบียนสมรสและทำการเปลี่ยนคำนำหน้าและเปลี่ยนนามสกุลเสร็จแล้ว เอกสารที่คุณจะต้องเก็บรักษาไว้ให้ดีก็คือ “หนังสือสำคัญการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.๕)” เพราะมันจะต้องใช้ในการเปลี่ยนชื่อสกุลของคุณกับเอกสารอื่นๆ ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น หนังสือเดินทาง บัตรเดบิต บัตรเครดิต บัญชีธนาคาร ฯลฯ

ติดตามไอเดียและเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับงานแต่งงานได้ที่ >> praewwedding <<

อัพดีกรีความหล่อให้เจ้าบ่าวกับไอเดียเติมเสน่ห์ให้ชุดเจ้าบ่าวเท่ๆ แบบง่ายๆ

ชุดเจ้าบ่าวเท่ๆ เพียงแค่เติมนี่นิด เพิ่มนี่หน่อยก็อัพความหล่อได้แล้ว

ว่าที่เจ้าบ่าวหลายต่อหลายคนมักจะเลือกสวมสูทหรือทักซิโดในวันแต่งงาน ซึ่งแน่นอนว่าลุคสุดคลาสิคแบบนี้ใครใส่แล้วก็รอด แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าบ่าวที่รักในการมิกซ์แอนด์แมตช์ อยากได้ลุคสุดเท่ไม่ซ้ำใคร และอยากเพิ่มเสน่ห์ให้กับ ชุดเจ้าบ่าวเท่ๆ ของคุณให้ดูโดดเด่น แพรว wedding มีไอเดียดีๆ มาเสิร์ฟให้แล้ว

 

คัฟลิงค์

ชุดเจ้าบ่าวเท่ๆ

ว่าที่เจ้าบ่าวหลายคนมักจะไม่ค่อยคุ้นชินกับการสวมคัฟลิงค์กับเสื้อเชิ้ตสักเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะว่า นี่เป็นแอคเซสซอรี่ที่จะช่วยเสริมให้เสื้อเชิ้ตตัวเก่งของคุณดูดีขึ้นทันตาภายในสูทหรือทักซิโดสุดคลาสสิค ซึ่งคัฟลิงค์นั้นก็มีดีไซน์ให้คุณว่าที่เจ้าบ่าวได้เลือกซื้อกันหลายสไตล์ แถมจบจากงานนี้ ยังสามารถนำไปใช้ต่อในโอกาสต่างๆ ได้อีกด้วย

 

สายเอี๊ยม

ชุดเจ้าบ่าวเท่ๆ

เป็นสไตล์ที่เหมาะกับว่าที่เจ้าบ่าวสไตล์ old school และเป็นรูปแบบที่เหมาะกับงานแต่งงานที่ไม่เป็นทางการมากนัก อย่างเช่น งานแต่งงานในสวน ในร้านอาหาร หรือริมน้ำ ริมทะเล เป็นต้น และสามารถนำไปแมตช์กับธีมงานสไตล์รัสติกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเติมโบไทเพิ่มความน่ารักให้ดูเด็กกว่าวัยได้อีกด้วย

 

ถุงเท้าลวดลายแฟนซี

ชุดเจ้าบ่าวเท่ๆ

เจ้าบ่าวเด็กแนวสายฮิปต้องไม่พลาดที่จะทำตามใจตัวเอง ซึ่งถุงเท้าถือเป็นแอคเซสซอรี่อีกชิ้นที่จะช่วยเผยตัวตนและสไตล์ของว่าที่เจ้าบ่าวได้เป็นอย่างดี แถมงานนี้เจ้าบ่าวยังสามารถชวนแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าวมาสนุกกับลุคนี้ได้ เช่น การเลือกลายถุงเท้าที่เหมือนกัน หรือเลือกลวดลายต่างๆ ที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของแก๊งคุณก็ได้ แล้วคุณจะได้กรุ๊ปช็อตดีๆ จากแอคเซสซอรี่ชิ้นนี้แน่นอน

 

แจ็คเกตสีสัน & ลายแพตเทิร์นเท่ๆ

ชุดเจ้าบ่าวเท่ๆ

หากเจ้าบ่าวอยากสร้างคาแรคเตอร์ให้กับตัวเอง การเลือกแจ็กเกตสูทที่มีสีสัน หรือมีลวดลาย ก็ช่วยให้ว่าที่เจ้าบ่าวดูโดดเด่นท่ามกลางแขกคนอื่นๆ ที่สวมสูทหรือทักซิโดสีดำกันแทบทุกคน แถมถ่ายภาพออกมาแล้วยังดูไร้ที่ติอีกด้วย

และนี่คือไอเดียเติม ชุดเจ้าบ่าวเท่ๆ ได้ง่ายๆ แถมแอคเซสซอรี่ต่างๆ ข้างต้น ว่าที่เจ้าบ่าวยังสามารถนำไปใช้ในโอกาสอื่นๆ ต่อได้อีกด้วย แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือความมั่นใจที่ว่าที่เจ้าบ่าวต้องพกติดตัวไว้ในงานแต่งนะจ๊ะ ^^

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าบ่าวเพิ่มเติม คลิกเลย <<

ภาพ pinterest

ช้าแต่ชัวร์กับ 6 เหตุผลที่คุณและคนรักยังไม่ต้องรีบจองไปทริปฮันนีมูน

หลังจากใช้เวลาเตรียมงานแต่งงาน ทริปฮันนีมูน ก็ดูเหมือนแรงดึงดูดที่ทำให้คู่บ่าวสาวหลายคู่อยากจะให้ถึงช่วงเวลานั้นเร็วๆ เพื่อจะได้ใช้เวลาในการผ่อนคลายจากศึกหนักในงานแต่งงาน จึงทำให้คู่รักหลายคู่เลือกที่จะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ทันทีหลังจากแต่งงานเสร็จโดยเป็นทริป “มินิ-มูน” สั้นๆ 2-3 วัน เพื่อที่จะให้ทันกลับมาทำงานในวันจันทร์ และเพื่อไม่ให้ทริปฮันนีมูนของคู่รักกลายเป็นเรื่องเครียดแบบหนีเสือปะจระเข้ แพรว wedding ก็อยากจะแนะนำให้คุณและคนรักเบรกเรื่องไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ให้ช้าลงอีกนิด โดยมีเหตุผลดีๆ มาบอกว่าการไปฮันนีมูนช้าลงอีกนิดนั้นมันดีอย่างไร

และนี่คือหลากเหตุผลที่ทำให้หลายคู่รักชะลอทริปฮันนีมูนของพวกเขาออกไปก่อน

วางแผนการใช้วันหยุดอย่างเต็มที่

ไม่ใช่ทุกคู่รักจะมีตารางการทำงานที่ยืดหยุ่นเหมือนกัน บางครั้งคุณลาได้แต่คนรักลาไม่ได้ สลับกันไปมาอยู่อย่างนี้ นัดกันไปนัดกันมาชนิดที่ว่าต้องรีบจองตั๋วแล้วนะเธอ ดีไม่ดีจะกลายเป็นหัวเสียทะเลาะกันเปล่าๆ ยิ่งบางคู่อาจใช้วันลาไปกับการเตรียมงานแต่งงานชนิดแบบเทหน้าตักไปแล้วก็เป็นอันจบกัน เลยทำให้คุณและคนรักอาจมีช่วงเวลาไม่มากพอที่จะไปใช้เวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันแบบเต็มอิ่ม เพราะฉะนั้นอดใจรออีกนิดแล้วแพลนดีๆ หาช่วงวันหยุดยาวที่พอเหมาะพอดีแบบช้าแต่ชัวร์จะเวิร์กกว่า

มีเวลาเก็บเงินอีกนิด

นอกจากเวลาที่คู่รักทุ่มไปให้สำหรับการเตรียมงานแต่งงานแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่ทุ่มไปแบบสุดตัวเช่นกันก็เห็นจะเป็น “เงิน” เพราะฉะนั้นหากคุณและคนรักไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง หรือไม่ได้ออมเงินแยกไว้อีกก่อนสำหรับการไปฮันนีมูน เราขอให้คุณและคนรักอดใจเอาไว้อีกนิด แล้วออมเงินกันอีกหน่อยสำหรับทริปฮันนีมูนในฝัน เพราะจะ

รอฤดูกาลที่เหมาะสม

หากคุณและคนรักมีสถานที่ในฝันที่อยากจะไปฮันนีมูนด้วยกัน ไม่ใช่ว่าเงินพร้อม วันว่างมีแล้วจะจองตั๋วไปเลยก็ได้นะ อดใจเอาไว้อีกนิดแล้ววางแผนไปในช่วงฤดูกาลที่เหมาะสม ซึ่งคำว่าฤดูกาลในที่นี่ก็คือ ภูมิอากาศที่เหมาะสม ไม่มีมรสุมหรือพายุใดๆ มาแผ้วพาน รวมไปถึงช่วงเวลาที่คุณจะเดินทางไปนั้นเป็นช่วงไฮหรือโลว์ ซีซั่นด้วย เพราะจะมีผลต่อเงินในกระเป๋าสตางค์ของคุณแน่นอน

กำลังอยู่ในช่วงย้ายเข้าบ้านใหม่

หลังแต่งงานคุณและคนรักก็เข้าสู่สถานะสามีภรรยาอย่างเต็มตัว และเป็นช่วงเวลาที่บางคู่อาจจะเพิ่งย้ายเข้าเรือนหอหลังใหม่ หรือกำลังจะต้องวางแผนในการโยกย้ายครั้งใหญ่ หากเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง เราอยากให้คุณและคนรักได้ใช้ช่วงเวลานี้กันอย่างเต็มก่อน ไม่ว่าจะเป็น การไปซื้อของตกแต่งบ้าน ที่ก็ถือว่าเป็นการใช้เวลาร่วมกันอีกแบบก่อนที่จะไปสวีทหวานดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันเนอะ หรือการได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่เพื่อเคลียร์และตรวจสอบความเรียบร้อยของเรือนหอว่าไม่มีอะไรผิดพลาด จะได้ไปทริปฮันนีมูนแบบยาวๆ ได้อย่างสบายใจไม่มีอะไรต้องกังวล

ใช้เวลาวางแผนการแต่งงานค่อนข้างนาน

การไปฮันนีมูนก็เหมือนการได้โบนัสหลังจากที่คุณและคนรักแต่งงานเสร็จ ซึ่งบางคู่ก็ใช้เวลาในการวางแผนงานแต่งงานกันเป็นปี เพราะฉะนั้นจึงอาจทำให้คุณและคนรักพลาดช่วงเวลาหรือฤดูกาลดีๆ ในปีนั้นที่เป็นช่วงเวลาอันเหมาะสมสำหรับการไปฮันนีมูน แต่พลาดปีนี้ก็ใช่ว่าปีหน้าจะไปไม่ได้…จริงไหม ^^

ต้องใช้เวลากับครอบครัวหรือคนสำคัญ

หากคุณพ่อคุณแม่ หรือญาติสนิทมิตรสหายที่รักของคุณทั้งสองวางแผนลางานเพื่อเดินทางมาร่วมงานแต่งงานของคุณ การทำตัวเป็นเจ้าภาพที่ดีคือการใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับพวกเขาเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ เพราะคงไม่ดีแน่ถ้าแต่งงานเสร็จแล้วเจ้าภาพของงานทิ้งแขกที่อุตส่าห์ตั้งใจเดินทางมาร่วมงานให้ต้องแกร่วอยู่คนเดียว

ภาพ pexels.com

เริ่มสตาร์ท 4 สเต็ปความงามเจ้าสาว ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ารับวันวิวาห์

หากเจ้าสาวมัวแต่เตรียมงานจนลืมดูแลตัวเองคงไม่ดีแน่ เพราะฉะนั้นปลีกเวลามาดูแลตัวเองกันสักหน่อย ด้วยไทม์ไลน์การทำสวย 4 สเต็ปตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เพื่อ ความงามเจ้าสาว ในวันสำคัญที่สมบูรณ์แบบ

1. ดูแลผิวหน้าและผิวกาย

หากก่อนหน้านี้เจ้าสาวไม่ได้ดูแลตัวเองดีเท่าที่ควร ช่วง 1 เดือนก่อนถึงวันแต่งงาน เจ้าสาวจำเป็นที่จะต้องใส่ใจดูแลผิวหน้าและผิวกายเป็นพิเศษ เช่น เน้นการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดล้ำลึกเป็นพิเศษเพื่อช่วยลดปัญหาสารเคมีจากเครื่องสำอางตกค้างจนอาจทำให้เกิดปัญหาบนผิวหน้าได้ และบำรุงผิวหน้าและผิวกายด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำสม่ำเสมอเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและดูฉ่ำน้ำจะได้เปล่งออร่าได้ทันในวันสำคัญ และถ้าหากเจ้าสาวมีแผนจะไปแว็กซ์หรือไปขัดผิว นี่ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะจัดการปัญหารูขุมขนหรือปัญหาต่างๆ ได้อย่างทันเวลา

ความงามเจ้าสาว

และก่อนที่จะถึงวันแต่งงานประมาณ 1 สัปดาห์ ควรบำรุงผิวอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอเป็นพิเศษสักหน่อย ไม่ว่าจะเข้าคลินิกให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลหรือบิวตี้สปาเองที่บ้านก็แล้วแต่สะดวก แต่หากคุณทำด้วยตัวเองต้องแน่ใจก่อนว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้นั้นจะไม่ทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ รับรองว่าการดูแลและบำรุงเป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยให้เจ้าสาวมีใบหน้าและเรือนร่างที่เปล่งปลั่งแน่นอน

2. กำจัดขนอวดผิวสวย

ควรกำจัดขนในบริเวณที่ต้องการก่อนถึงวันแต่งงานประมาณ 3 วัน เพราะช่วงเวลานี้จะไม่เสี่ยงกับการเกิดขนคุด และรอยแดงต่างๆ ที่เกิดจากการกำจดขนก็จะหายได้ทันวันแต่งงานพอดี แต่ถ้าหากคุณเป็นมือใหม่เพิ่งเริ่มหัดกำจัดขน แนะนำให้ไปทดลองทำดูก่อนประมาณ 2 เดือนก่อนถึงวันแต่งงานเพื่อที่จะได้ทดสอบดูว่าผิวของคุณจะเกิดการแพ้หรือไม่

ความงามเจ้าสาว

3. ดูแลผมให้เปล่งประกาย

ดูแลสุขภาพผมให้เงางามไม่แห้งเสียชี้ฟูด้วยการเข้าร้านทำผมประมาณ 2-3 สัปดาห์ล่วงหน้าก่อนถึงวันแต่งงาน เพื่อเล็มเอาปลายผมที่แห้งแตกปลายออก อาจเพิ่มการบำรุงด้วยการทำทรีทเม้นต์เพิ่มเติมเพื่อให้ผมนุ่มสลวยเงางาม และหากเจ้าสาวต้องการจะทำสีผมหรือไฮไลต์เพื่อเพิ่มมิติให้กับผมที่ทำสี แนะนำให้ทำก่อนถึงวันแต่งงานประมาณ 7-10 วันและหลังจากทำเสร็จแล้วห้ามสระผม 2 วันเพื่อให้สีผมได้เซตตัวไม่หลุดไปกับแชมพูเสียก่อนและยังคงสีเดิมสว่างสดใสในวันสำคัญ

ความงามเจ้าสาว

4. ตกแต่งเล็บให้สวยงาม

ตกแต่งเล็บให้สวยงามล่วงหน้าก่อนถึงวันงาน 1-2 วัน จะเพ้นต์ จะทา หรือจะต่อก็ทำได้ในช่วงเวลานี้ แต่เมื่อทำเสร็จแล้วก็ต้องระมัดระวังในการหยิบจับหรือแกะอะไรด้วยนะคะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปแก้ไขให้เปลืองสตางค์ หรือจะเพิ่มงบอีกนิดทำสปามือและเท้าให้อ่อนนุ่มสักหน่อยก็ดีเหมือนกันนะคะ เพราะยิ่งเป็นวันสวมแหวน มือของคุณก็เปรียบเสมือนนางเอกของงาน เพราะจะต้องรองรับแหวนเพชรวิบวับที่เจ้าบ่าวบรรจงสวมให้ ส่วนเท้านั้นถึงแม้จะเห็นเพียงนิดหน่อย แต่ถ้าหากผิวบริเวณเท้าที่โผล่พ้นออกมานอกรองเท้าดูหยาบกร้านก็อาจทำให้ลุคทั้งหมดของเจ้าสาวดูเสียหายไปด้วยก็ได้ แถมช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ แนะนำให้ชวนคุณแม่หรือแก๊งเพื่อนสาวไปทำด้วยกันรับรองว่าทริปทำสวยนี้จะสนุกขึ้นเป็นกอง

ความงามเจ้าสาว

และสุดท้ายสิ่งสำคัญที่สุดก็คือสุขภาพของเจ้าสาว นั่นคือการพักผ่อนที่เพียงพอ ดื่มน้ำในปริมาณที่ร่างกายต้องการ และทานอาหารที่ดี เพราะความสวยภายนอกนั้นก็ขึ้นอยู่กับการบำรุงจากภายในด้วย

>> ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพ : www.harpersbazaar.com, www.dealsandyou.com, silknstone.com, www.brides.com,
singaporebrides.com

4 ทิปส์สร้างความโรแมนติกของคู่รักให้ยังคงอยู่ระหว่างช่วงเตรียมงานแต่งงาน

เตรียมงานแต่งงาน ไม่เห็นต้องเครียด ทำตามนี้รับรองแฮปปี้สุดๆ

สาวๆ หลายคนคงจะเคยฝันถึงวันพิเศษวันนี้ว่า งานแต่งของฉันจะต้องมีดอกไม้ มีเค้ก มีดนตรี มีชุดแต่งงานสวยๆ และทันทีทีชายหนุ่มคนนั้นคุกเข่าขอแต่งงานสิ่งต่างๆ ที่คุณคิดไว้ก็ผุดขึ้นมาและเริ่มที่จะเห็นภาพ และอยากทำให้ออกมาเป็นจริง ซึ่งหลังจากจบโมเม้นต์อันหวานซึ้ง ความจริงก็คอยคุณและคนรักอยู่แล้วกับช่วง เตรียมงานแต่งงาน ที่อัดแน่นไปด้วยหลายภารกิจที่คุณทั้งคู่จะต้องทำให้สำเร็จ จึงไม่แปลกที่คุณและคนรักจะต้องกระทบกระทั่งเหมือนลิ้นกับฟันกันบ้าง ทะเลาะกันนิด งอนกันหน่อย แต่…จะดีกว่าไหมหากไร้ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ แพรว wedding เลยมีทิปส์ดีๆ ที่จะช่วยให้คุณและคนรักยังคงความโรแมนติกเอาไว้เสมอมาฝาก

 

  • ออกเดทกัน 1 วันต่อสัปดาห์

ในทุกสัปดาห์คุณและคนรักลองหาวันว่างดีๆ สักวันแล้วไปทำกิจกรรมสุดพิเศษร่วมกัน โดยมีข้อแม้ว่าระหว่างวันนั้นคุณและคนรักจะต้องห้ามพูดถึงเรื่องการเตรียมงานแต่งงานที่ยังคั่งค้างเด็ดขาด! ซึ่งกิจกรรมที่คุณและคนรักจะทำร่วมกันในทุกสัปดาห์นั้นไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกครั้งเสมอไปนะคะ อาจจะสลับหมุนเวียนกันไปเช่น ไปดินเนอร์ ไปนั่งฟังเพลง ไปช้อปปิ้ง ดูหนัง หรือจะ 1 day trip ก็ได้ หรือหากจะให้พิเศษไปกว่านั้นก็อาจจะหาสักวันไปย้อนรอยความรักระหว่างคุณและเขา เช่น สถานที่ที่เจอกันครั้งแรก ที่ที่ตกลงเป็นแฟนกันก็ได้ จะได้เพิ่มระดับความโรแมนติกในหัวใจขึ้นไปอีก

  • แชร์ความคิดและตัดสินใจร่วมกัน

หลายคู่เมื่อถึงเวลาต้องวางแผนจัดงานแต่งงาน ว่าที่เจ้าบ่าวมักจะให้ว่าที่เจ้าสาวเป็นแม่งานไปหมดทุกเรื่อง อาจเพราะด้วยเพศหญิงเป็นเพศที่ละเอียดอ่อนและรอบคอบมากกว่าเพศชาย หรืออีกนัยหนึ่งก็คือตามใจเรานั่นแหละ อิอิ ^^ แต่ยังไงก็อย่าลืมนะว่าวันแต่งงานไม่ใช่วันของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นวันสำคัญของคุณทั้งคู่ เพราะฉะนั้น จะเป็นการดีกว่าหากคุณทั้งสองมีส่วนร่วมทั้งทางแรงกาย แรงความคิด แรงใจ ไอเดีย และคำแนะนำต่างๆ ซึ่งบางครั้งอีกฝ่ายอาจจะมีไอเดียเจ๋งๆ หรือการจัดการกับปัญหาที่ดีกว่าเราก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมให้ความสำคัญกับคนข้างกาย ด้วยการทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นคนพิเศษที่สามารถเป็นที่ปรึกษา และที่พึ่งพาให้คุณได้ เชื่อเถอะว่าการรับฟังซึ่งกันและกันจะช่วยให้คุณทั้งคู่จัดงานนี้ออกมาได้สมบูรณ์แบบที่สุดแน่นอน

เตรียมงานแต่งงาน

  • ให้ความสำคัญกับวันหรือวาระอื่นๆ ด้วย

เมื่อต้องเริ่มวางแผนงานแต่งงาน นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหยุด งด หรือละเว้นจากกิจกรรมอื่นๆ นะ เพราะระหว่างทางกว่าจะถึงวันแต่งงานของคุณ ก็จะต้องมีเหตุการณ์ หรือวาระสำคัญต่างๆ เกิดขึ้นมาระหว่างทางแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ปาร์ตี้วันเกิดเพื่อน งานวันเกิดคุณพ่อคุณแม่ หรือเพื่อนสาวคลอดลูกคนแรก เป็นต้น เพราะฉะนั้น จงอย่านำเหตุผลที่ว่า คุณต้องเตรียมงานแต่งงาน มาเป็นข้ออ้างที่อาจจะทำให้คุณพลาดโมเม้นต์ดีๆ ร่วมกับคนอื่นในช่วงชีวิตไปนะ

  • แค่มีความสุขและสนุกไปกับมัน!!

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเตรียมจัดงานแต่งงานเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่แสนจะเคร่งเครียดในชีวิต ทั้งๆ ที่คุณควรจะจัดงานนี้ขึ้นอย่างมีความสุขไม่ใช่เหรอ เพราะฉะนั้น หายใจเข้าให้เต็มปอด ทิ้งความทุกข์และกังวลใจไว้เบื้องหลัง แล้วมาสนุกไปกับทุกช่วงเวลานี้ร่วมกันกับคนรักดีกว่าค่ะ เพราะงานนี้เป็นงานแต่ง ไม่โปรเจกต์สอบไฟนอลที่คุณต้องทำคนเดียว เพราะงานนี้ไม่ว่าคุณจะหันซ้าย หันขวา หันหน้า หรือหันหลัง ก็จะมีคนที่พร้อมจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและซัพพอร์ตคุณเสมอ โดยเฉพาะกับคุณว่าที่ข้างกายที่เขาจะไม่ทิ้งคุณไปไหนแน่นอน แพรว wedding ว่าเอาเวลาที่เครียดไปเตรียมขัดแหวนแต่งงานให้ใสกิ๊ง ซ้อมเต้นเพลงโปรดในอาฟเตอร์ปาร์ตี้ หรือจะนั่งหาทริปฮันนีมูนสุดฟินเตรียมกันไว้เลยก็ได้

งานแต่งงานไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต แต่หลังจากเสร็จสิ้นจากงานต่างหาก ที่ถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่แท้จริงเพราะฉะนั้นจะดีกว่าไหม หากคุณทำทุกช่วงเวลาให้มีความสุข เมื่อเวลาผ่านไปและคุณได้หวนกลับไปนึกถึงช่วงเวลานี้ ก็จะเต็มไปด้วยการพูดคุยที่ยิ้มแย้มมีความสุขว่า “ตอนนั้นมันสนุกจริงๆ นะ” ^^

ภาพ unsplash.com

ติดตามเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับความรัก และการจัดการกับชีวิตคู่ทั้งก่อนแต่งและหลังแต่งเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> คลิกเลย! <<

เช็กกันด่วนๆ!! 5 นิสัยเสียส่อแววรักล่มแค่เริ่มต้นใช้ชีวิตคู่

เพื่อนคนหนึ่งโทรมาบ่นค่ะว่า เพิ่งจะสานรักสานสัมพันธ์กับสาวนางหนึ่งได้ราวๆ หนึ่งอาทิตย์ แต่กลายเป็นหนึ่งอาทิตย์ที่กลับต้องมานั่งคิดว่า ตัดสินใจถูกหรือผิดในเรื่อง ชีวิตคู่ แล้วทำไมความสัมพันธ์ถึงไม่หวานเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันอย่างที่หวังสักนิด เพราะแต่ละเรื่องที่เจอเนี่ย บอกตรงๆ ว่า ฟังแล้วเกรงว่า ชีวิตคู่ จะไม่รอด จะมีนิสัยอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

1. ขี้ระแวง เช็คมันทุกอย่าง

เรื่องแรกที่เจอและเจอมาตลอดคือความขี้ระแวงสารพัด โดยเฉพาะเรื่องที่กลัวจะกลับไปหาแฟนเก่าทั้งๆ ที่แฟนใหม่ก็รู้ชัดเจนว่าเคลียร์กันลงตัวกับแฟนเก่าและได้ข้อสรุปในการเปลี่ยนความสัมพันธ์มาเป็นเพื่อนเรียบร้อยแล้ว แถมเวลาที่ไลน์ไปไลน์มาก็ไม่มีปกปิด ให้ดูและเช็คได้ตลอดเวลา แต่ความระแวงนั้นไม่เคยแปรเปลี่ยนเป็นความไว้ใจหรือแม้แต่จะมองว่านี่คือกำลังแสดงความบริสุทธิ์ใจอยู่นะ กลับเสียดังโวยวายตลอดๆ เหมือนไม่เคยรับรู้เรื่องใดๆ มาก่อน โอ๊ย…ฟังละเพลียแทน

2. ไม่ควักจ่ายแม้แต่บาทเดียว

จริงอยู่ที่หลายคนอาจมีความคิดว่าผู้ชายควรเป็นฝ่ายดูแลจ่ายเงินให้กับผู้หญิงเวลาไปเดทหรือดินเนอร์ แต่ไม่ใช่ทุกครั้งหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้สามารถส่อได้ถึงการใช้เงินในอนาคตเมื่อจะร่วมหอกันเลยนะว่า สาวนางนั้นคงไม่คิดจะมีส่วนร่วมเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านเป็นแน่แท้ เพราะขนาดเสื้อผ้าและเครื่องสำอางที่อยากได้ทั้งต่อหน้าก็บอกให้จ่าย พอไปเจอเองก็ไม่ซื้อเองแต่รอให้ไปรูดให้ตลอดๆ บางทีเหมือนจะเกรงใจออกอาการบอกว่าไม่เอาไม่ต้องโอนเงินมา แต่ไม่เกินหนึ่งนาทีเลขที่บัญชีปรากฏบนมือถึงเรียบร้อย คืออะไรง่ะ??

3. บ่ายเบี่ยงทุกเรื่อง ทำตัวมีความลับ

เมื่อไหร่ก็ตามที่ถูกถามถึงครอบครัวหรือเรื่องเพื่อนฝูง ก็ทำการบ่ายเบี่ยงทุกคำถามที่อยากรู้ทั้งๆ ที่ถามเพราะอยากทำความรู้จักกันให้มากขึ้นและไม่ว่าจะเพียรถามอะไรแค่ไหนก็ไม่เคยได้คำตอบ จนเกิดเป็นความสงสัยขึ้นในใจเรื่อยๆจนอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมต้องทำตัวมีความลับกันขนาดนี้ คือถ้าก่อนเป็นแฟนจะปิดๆ ไว้คงไม่เท่าไหร่ แต่นี่เป็นแฟนแล้วยิ่งปิดกั้นทุกเรื่องแล้งจะอยู่กันยังละนั่น

4. วางอำนาจเหนือทุกเรื่องในชีวิต

อาการที่ทำตัวข่ม เป็นอะไรที่หนุ่มๆ ไม่เคยชอบเลยนะคะ ถ้าทำเล่นๆ เอาขำๆ ครั้งสองครั้งยังพอทน แต่ถ้าแสดงออกทุกครั้งที่เจอเพื่อนหรือครอบครัว ไม่ว่าจะฝั่งคุณหรือเธอ ถือเป็นการไม่ให้เกียรติอย่างรุนแรง  แต่สาวๆ บางคนก็ไม่สน เพราะรู้สึกว่าเธอรักฉันก็ต้องยอมสิ ซึ่งจริงๆ แล้วหนุ่มๆ อยากบอกว่า ทำแล้วน่าเอ็นดู อันนี้ไม่ว่า แต่มากไปก็ไม่ไหว เพราะทำแล้วเสียความรู้สึกมากกว่า

5. ท้าเลิกทุกครั้งที่ไม่ได้ดั่งใจ

คำฮิตคำฮอตของสาวๆ ที่คิดว่าถือไพ่เหนือกว่า โดยเฉพาะพวกข้าวใหม่ปลามันที่คิดว่าเขาไม่มีทางยอมเลิกกับฉันอย่างแน่นอน ก็เลยงัดเอาคำบอกเลิกมาพูดตลอดเวลาที่เกิดอาการขัดใจ ระวังเถอะว่าท้าทุกวันทุกครั้งที่ไม่ได้อย่างใจ เขาเลิกไปจริงๆ จะกราบกรานให้คืนมารักกันไม่ทัน

ก็นี่แหละค่ะ 5 นิสัยที่ไม่ไหวจะทนกับคนที่เพิ่งรักกันใหม่ๆ บอกเลยตรงนี้ว่าถ้ายังทำตัวอยู่แบบนี้ไม่ปรับปรุง รักนี้ไม่รุ่งแน่ มีแต่จะร่วง

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติม คลิกเลย! <<

เรื่อง :Hoyamemoria
ภาพ :Crosswalk.com

ส่งต่อความหวังดีกับ 6 ของชำร่วยเพื่อสุขภาพที่แขกปลื้มแน่

ยุคนี้ พ.ศ. นี้ จะหา ของชำร่วย ทั้งที ต้องมีคอนเซ็ปต์ แพรว wedding ก็เลยจัดมาให้หนึ่งคอนเซ็ปต์ กับไอเดียของชำร่วยสุดอินเทรนด์ที่การันตีได้ว่าใครได้ไปไม่มีทิ้ง แถมยังเอาไปใช้ประโยชน์ได้จริง เพราะทั้งหมดที่กำลังจะพูดถึงคือ ของชำร่วยเพื่อสุขภาพ จะกินก็ดีจะใช้ก็ได้ ลองไปดูกันค่ะ

ของชำร่วย

ธัญพืชสารพัดชนิด

ไม่ว่าจะเป็นถั่วแดง ลูกเดือย ถั่วเขียว เม็ดบัว ถั่วลิสงหรือข้าวโพด ฯลฯ ล้วนเป็นของดีมีประโยชน์ที่สามารถเป็นตัวแทนความปรารถนาดีอยากให้แขกมีสุขภาพแข็งแรงที่บ่าวสาวส่งต่อให้แขกได้ ซึ่งบางคู่ที่งบไม่มาก ก็อาจจัดเรียงไว้ในซองเล็กๆ แล้วใช้วิธีติดแท็กแจงประโยชน์ แบบนั้นก็น่ารักและเปี่ยมไปด้วยความรู้ดีๆ ที่แขกจะได้รับแล้วล่ะค่ะ

ของชำร่วย

น้ำผึ้ง

คงไม่ต้องบอกว่าน้ำผึ้งสารพัดประโยชน์แค่ไหน เพราะนอกจากจะนำไปทานได้เพียวๆ แล้ว ยังนำไปประกอบอาหารและใช้บำรุงผิวได้ด้วย นอกจากนี้ความหวานของน้ำผึ้งยังเป็นตัวแทนความรักที่อบอวลไปทั่วทั้งงานด้วยนะคะ

ของชำร่วย

ชา

จะเป็นชาฝรั่ง ชาจีนหรือชาญี่ปุ่น ก็มีประโยชน์ทั้งนั้นจริงไหมค่ะ  แถมระยังหลังยังออกแบบแพ็คเกจจิ้งซะสวยงามน่ารักแบบว่าพร้อมจะส่งมอบให้เป็นของชำร่วยแบบสบายๆ

ของชำร่วย

น้ำแร่

ถูกแล้วค่ะ น้ำแร่นี่แหละที่เราขอนำเสนอให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับที่บ่าวสาวจะใช้เป็นของชำร่วย บางยี่ห้อมีขวดสวยงามดูหรูหราอยู่แล้วก็แทบไม่ต้องทำอะไรมาก ติดโบว์ห้อยป้ายชื่อบ่าวสาวก็แจกแขกได้แล้ว จริงไหมคะ

ของชำร่วย

ข้าว

ในช่วงปีสองปีหลังบ่าวสาวชาวไทยนิยมออเดอร์ข้าวมาแจกเป็นของชำร่วยในงานแต่งงานมากขึ้นค่ะ แต่ข้าวที่เลือกไม่ใช่ข้าวหอมมะลิเท่านั้น เป็นข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวกล้อง ข้าวกล้องงอกสีนิล ฯลฯ ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าการแจกข้าวมีดีและได้ประโยชฯมากมายแค่ไหน ที่สำคัญไม่มีใครทิ้งแน่นอนค่ะ

ชุดสปาบำรุงผิว

อย่างสุดท้ายที่ขอแนะนำแม้จะกินไม่ได้แต่ช่วยให้ผิวสวย สะอาดและสุขภาพดี เพราะชุดสปาบำรุงผิวที่หลายคนเลือกจะมอบให้แขกมีทั้งเกลือขัดผิว เกลือแช่เท้า สบู่สมุนไพร เทียนหอม ฯลฯ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า งบประมาณของแต่ละคู่มีมากน้อยแค่ไหน ถ้าสำรวจว่าพร้อมก็จัดไปได้ทั้งชุดเล็กชุดใหญ่

>> ดูไอเดียงานแต่งและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : pinterest