สารพัดปัญหางานแต่งงานสุดกวนใจ รู้ไว้จะได้เตรียมรับมือ

สารพัด ปัญหางานแต่งงาน สุดกวนใจ ที่คู่รักต้องทำใจก่อนสละโสด!!

งานแต่งงานยังไม่ทันเริ่มก็มีปัญหาต่างๆ นานารุมเร้าเข้ามาจนคู่รักบางคู่ถึงขั้นถอดใจว่าไม่แต่งดีไหมนะเรา อ่ะๆๆ…ช้าก่อน อย่าได้ถอดถอนใจขนาดนั้นค่ะ เพราะแพรว wedding ได้รวบรวมทุก ปัญหางานแต่งงาน และเรื่องเมาท์มอยของคนที่บ่าวสาวต้องระวังในวันแต่งงานจนอาจทำให้คุณถึงขั้นคิ้วผูกโบเอามือกุมขมับ เพราะฉะนั้นถ้าคุณกำลังจะสละโสดเตรียม (ใจ) รับมือให้ดี ตามนี้เลย

เจ้าบ่าว เจ้าสาว

ปัญหางานแต่งงาน

ก่อนจะบ่นหรือถอนหายใจใส่ใคร ควรเริ่มมองที่ตัวเองก่อนว่าได้เผลอทำให้คนรอบข้างต้องปวดหัวบ้างหรือเปล่า เพราะบางครั้งความคาดหวังของคุณก็อาจทำร้ายตัวคุณเอง คุณว่าที่ และคนอื่นๆ โดยไม่รู้ตัว ว่ากันตั้งแต่เรื่องการตกแต่งงาน ลำดับพิธี ชุด หน้า-ผม การ์ด อาหาร การรับรองแขก ฯลฯ

เท่าที่เราเคยเห็นส่วนใหญ่ เจ้าสาวจะนอยด์เรื่องการตกแต่งงาน เพราะอยากให้สวยงามอลังการตามความใฝ่ฝัน เรื่องลำดับพิธีการเพราะอยากให้งานออกมาเป๊ะเว่อร์และเรื่องชุด + หน้าผมเพราะอยากสวยที่สุดในงานแต่ง (นี่ก็แทบจะครบทุกองค์ประกอบแล้ว) ของแบบนี้ว่ากันไม่ได้ ฝันใครก็ฝันมันแต่หากคุณมีความคาดหวังสูง นั่นก็ทำกับว่าคุณต้องจัดการทุกเรื่อให้ดี ใส่ใจ และเต็มที่กับมันให้มากที่สุด เพราะถ้ามัวแต่นอยด์แล้วไม่ลงมือแพลนนิ่งให้ดีมันก็เท่านั้น จริงไหมจ๊ะ แถมคนข้างๆ อาจรำคาญใจจนต้องส่ายหน้า

ส่วนเจ้าบ่าวมักจะออกแนว “ยังไงก็ได้” หรืออาจมีแค่งอแงไม่ยอมใส่โจงกระเบนในพิธีเช้า ถ้าคุณเป็นเจ้าบ่าวประเภท “ยังไงก็ได้” ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะถ้ามา “ไม่ได้” ตอนหลังจะวุ่นวายมาก และอาจทำให้เจ้าสาวสติแตกจนร้องกรี๊ด

 

คุณพ่อ คุณแม่

ปัญหางานแต่งงาน

คือผู้ทรงอิทธิพลอันดับ 1 ในการจัดงานเลยทีเดียว เพราะเป็นคนที่รักเราและเรารักมากที่สุด ซึ่งปัญหากระทบกระทั่งระหว่างคู่บ่าวสาวกับญาติผู้ใหญ่พบได้บ่อยมาก เพราะความเห็นของคน 2 เจเนอเรชั่นมักไม่ค่อยไปในทิศทางเดียวกัน

สำหรับวัฒนธรรมไทย การแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคน 2 คน ดังนั้นถ้าคุณอยากจัดงานแหวกแนว เช่น งานริมทะเลเชิญแขกน้อยๆ หรืองานสไตล์ปาร์ตี้สบายๆ ที่ไม่มีประธานและคุณพ่อคุณแม่ขึ้นพูดบนเวที ฯลฯ ก็ควรทำความเข้าใจกับท่านตั้งแต่แรก เพื่อความสมานฉันท์และความสบายใจของทุกฝ่าย ที่สำคัญควรซ้อมคิวกับท่านด้วยว่าต้องทำอะไรตอนไหนบ้าง เพราะถึงเวลาจริงรับรองว่าตื่นเต้นกันทุกคน บางท่านผิดคิวหยิบมาลัยมงคลมาคล้องให้ตัวเองก็มีมาแล้ว

แต่หากคุณพ่อคุณแม่เป็นคนชิลๆ ก็ถือว่ารอด ก็แค่แจ้งให้ท่านทราบว่างานของเราจะแปลกและแตกต่างอย่างไรบ้าง ท่านจะได้เตรียมตัวถูก

แต่หากคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้กว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น นักธุรกิจ นักการเมือง หรือ อบต.ต้องทำใจว่าท่านย่อมอยากเชิญแขกจำนวนมากและเกินครึ่งเป็นแขกที่บ่าวสาวไม่รู้จัก ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณก็คงต้องจัดงานใหญ่ตามใจท่าน เพราะถือว่าเป็นหน้าเป็นตาและเป็นคอนเน็กชั่นในอนาคต แล้วค่อยไปจัดรอบส่วนตัวกับเพื่อนๆ ภายหลัง แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องงบประมาณ แนะนำให้ปรึกษาท่านตรงๆ ว่าพอจะลดทอนแขกบางส่วนหรือช่วยสมทบทุนให้เราได้บ้างไหม

และถ้าคุณพอจะรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นคนเยอะหรือมีแนวโน้มคิดเล็กคิดน้อยต้องสืบหาความต้องการที่แท้จริงของท่านให้ได้ เพราะบางท่านไม่พูดออกมา แต่กลายเป็นปัญหาทีหลัง เราเห็นมาหลายคู่แล้ว เช่น ทักท้วงไปเสียทุกเรื่องจนไม่เป็นอันทำอะไร หรือมีงานหนึ่งคุณแม่เจ้าบ่าวไม่ได้ขึ้นพูดบนเวทีแล้วน้อยใจจนพานไปมีปัญหากับสะใภ้อยู่หลายเดือน

  • เยอะในเรื่องพิธีการหรือความเชื่อ เคสนี้รับมือไม่ยาก แค่ยกพิธีเช้าไม่ว่าจะเป็นแบบไทยหรือจีนให้ท่านจัดการ แล้วคุณมาเต็มที่กับงานเย็นแทน
  • เยอะในรายละเอียด กรณีนี้คุณอาจปวดหัวเยอะหน่อย เช่น คุณแม่อยากมีดอกไม้เยอะๆ (แต่ลูกอยากเท่) คุณแม่อยากจัดที่โรงแรมนี้ อยากจัดให้ใหญ่กว่าหรือเหมือนกับลูกคนนั้น ฯลฯ ดังที่เจ้าสาวรายหนึ่งเคยปรารภว่า “มันเป็นความฝันของพ่อแม่ว่าอยากให้ลูกแต่งงานอย่างไร แต่ในความเป็นจริงลูกไม่ได้ฝันอย่างเดียวกัน”…ก็ต้องจับเข่าคุยว่า ขอพบกันครึ่งทาง ให้คุณแม่ได้ตามฝันในเรื่องใดบ้างและเราจะขอจัดอย่างที่ฝันได้ในส่วนไหนบ้าง (ถอนหายใจแป๊บ)

 

เพื่อนเจ้าบ่าว – เจ้าสาว

ปัญหางานแต่งงาน

ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนๆ ฝ่ายหญิงที่มีข้อเรียกร้องเยอะ ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก ก็เรื่องสวยๆ งามๆ ตามประสาผู้หญิงนั่นล่ะ ที่เคยฟังเจ้าสาวตัวจริงบ่นมาก็มีตั้งแต่แขนใหญ่อ่ะ ไม่ใส่สไบนะ ไม่ใส่สีฟ้านะเดี๋ยวดำ ไปจนถึงห้ามแกใช้สีเขียวมิ้นต์นะ ฉันจอง (เอิ่ม คุณน้องคะ รอให้ได้แต่งเองก่อนดีไหม) ซึ่งถ้าไม่ได้ดังใจบางคนก็งอนอีก แล้วยิ่งถ้าเพื่อนแต่ละคนต้องการคนละอย่างด้วยล่ะก็…อย่าให้ถึงงานแกบ้างแล้วกัน! (ขอพูดความในใจแทนเจ้าสาว)

เรื่องนี้อยากบอกให้สาวๆ ให้คิดถึงใจเจ้าสาวไว้บ้างนะคะ เพราะแค่เตรียมงานให้ถูกใจทั้งตัวเองและญาติผู้ใหญ่ เธอก็นอยด์มากมายอยู่แล้ว กับแค่เรื่องชุดทีมเพื่อนเจ้าสาวก็หยวนๆ ให้เธอหน่อยเถอะ ถือว่าช่วยเพื่อนลดเรื่องปวดหัวแล้วกันนะ ส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวส่วนใหญ่มักมาแนวอยากให้ใส่อะไรก็ใส่ ขอแค่อย่าหายาก อยากให้ทำอะไรก็ใช้มาละกัน แต่หลังงานเลี้ยงเบียร์ด้วยนะ ฮ่าๆๆ (มาแนวตลกดื่ม)

 

แขก

06_132-Scoop3

คู่บ่าวสาวที่จัดงานแบบซิตดาวน์ดินเนอร์และมีการทำซีตติ้งชาร์ตมักจะเจอปัญหาแขกไม่ยอมนั่งตามผังที่ระบุไว้ กลายเป็นปัญหาหน้างาน เพราะพอแขกที่เป็นเจ้าของที่นั่งตัวจริงมาถึงก็เหวอ บางคนก็หยวนๆ ยอมย้ายไปนั่งตรงที่ว่าง แต่ถ้าไปเจอแขกต่างชาติบางคนที่ไม่ยอมถูกละเมิดสิทธิ์ง่ายๆ ก็จะเป็นเรื่องเป็นราวเอาได้ง่ายๆ นะคะ เราเคยเห็นกับตามาแล้วที่ฝรั่งก็จะรักษาสิทธิ์ขอนั่งที่เดิม ส่วนคนไทยที่นั่งไปแล้วก็ไม่ยอมย้าย ทำเอาออร์แกไนซ์และบ่าวสาวปวดหัวตึ้บ!

อีกเรื่องที่เห็นแล้วปวดหัวแทนบ่าวสาวคือ ในงานที่มีการวางป้ายชื่อแขกไว้บนโต๊ะแล้วมีบางคนหัวหมอสลับป้ายชื่อตัวเองทำให้คนที่คอยเชิญแขกมานั่งสับสนไปหมด เพราะฉะนั้นอย่าลืมซีร็อกซ์แผนที่การนั่งไว้เช็กกันด้วยนะ จะได้เป็นยันต์กันงง

แต่จะว่าไปเรื่องแบบนี้เป็นความแตกต่างทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง เพราะคนไทยชินกับการนั่งกับคนคุ้นเคยตามใจชอบและไม่คิดว่าการย้ายที่นั่งเองจะเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นหากคุณคิดจะจัดผังที่นั่งแบบงานแต่งของฝรั่ง ขอให้ตรึกตรองให้ดีว่าแขกของคุณจะเข้าใจไหม ไม่อย่างนั้นจัดไว้คร่าวๆ จะยืดหยุ่นกว่า เช่น โต๊ะญาติเจ้าสาว 3 โต๊ะ โต๊ะเพื่อนที่ทำงาน 2 โต๊ะ ฯลฯ แล้วให้ไปเลือกกันเองว่าอยากนั่งตรงไหนกับใคร แบบนี้สบายใจกันทุกฝ่ายแน่นอน

 

ประธาน

ปัญหางานแต่งงาน

 

ที่เราหยิบข้อนี้มาไว้เป็นข้อสุดท้าย ก็เพราะตัวท่านประธานอาจไม่ได้ทำให้ใครปวดหัว ยกเว้นบางท่านที่กล่าวอวยพรนานไปหน่อย แต่เรื่องนั้นเราแก้ไขได้ง่ายๆ เพียงแค่ซักซ้อมคิวกับท่านก่อนว่า “ขอไม่เกิน 10 นาทีนะคะ เพราะมีคิวต่อไปรออยู่” ส่วนถึงเวลาจริงท่านจะกระชับเวลาได้แค่ไหนก็ต้องปล่อยไปนะคะ

ส่วนเรื่องหนักใจจริงๆ อยู่ที่ว่า “จะเชิญใครมาเป็นประธาน” มากกว่า เพราะแต่ละฝ่ายก็มีผู้ใหญ่ที่นับถือและเกรงใจอยู่หลายคน ทั้งของคุณพ่อคุณแม่และของเราเอง ถ้าเกิดกรณีนี้ลองแบ่งเชิญท่านละช่วง เช่น เชิญผู้ใหญ่ที่คุณพ่อคุณแม่นับถือเป็นประธานหรือเถ้าแก่ในช่วงเช้า เชิญผู้ใหญ่ที่บ่าวสาวนับถือเป็นประธานในพิธีฉลอง ซึ่งอาจมีได้ประมาณ 2 ท่านกำลังดี หรือถ้ามีมากกว่านั้น อาจแยกให้บางท่านคล้องมาลัยมงคลแล้วอวยพรส่วนอีกท่านมากล่าวให้โอวาท เรียกว่าหาทางจัดสรรให้ลงตัว จะได้มีบทบาทกันครบทุกคนนั่นเอง

สุดท้ายอยากฝากไว้สำหรับคู่ที่เชิญประธานที่เป็นคนดัง ควรเช็กคิวท่านให้ดีด้วยนะคะ เพราะบางครั้งอาจมีงานอื่นเชิญท่านเป็นประธานชนกับงานเราทำให้ต้องมีการวิ่ง 2 งาน และแน่นอนว่าถ้าคุณได้คิวที่ 2 จะต้องลุ้นกันจนเครียดว่าท่านจะมาทันไหม งานจะเลทหรือเปล่า … ซึ่งถ้ารู้ว่าคิวชนแน่ๆ ทางที่ดีเปลี่ยนแผนหรือหาแผนสำรองรอไว้เลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องเครียดสะสมตั้งแต่ก่อนวันแต่งจนถึงวันจริง

ที่ว่ามาทั้งหมดไม่ได้อยากให้เครียดแค่อยากให้ทำใจและหาทางรับมืออย่างชาญฉลาด ส่วนถ้าคุณเป็นหนึ่งในบุคคลเหล่านี้ก็อย่าเผลอตัวทำให้บ่าวสาวต้องกุมขมับแล้วกัน เดี๋ยวถึงงานตัวเองกรรมจะตามสนองนะเออ แฮ่ๆ

>> อ่านคำแนะนำและดูไอเดียงานแต่งงานอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

Recommended