จากเมทาลิคสู่กรีนเนอรี่กับ 5 แบบการ์ดแต่งงานมาแน่ปลายปี 2017

ใช่ว่าจะมีแต่ชุดเจ้าสาวหรือเครื่องประดับเท่านั้นที่จะมีเทรนด์ เพราะ การ์ดแต่งงาน ก็มีเทรนด์เช่นกัน โดยเฉพาะในปี 2017 นี้ บอกเลยว่ามีให้คุณเลือกถึง 5 แบบเลยทีเดียว อยู่ที่ว่าคุณอยากจะสร้างความประทับใจให้กับวันพิเศษของคุณด้วยธีมอะไร

ส่วนเรื่องกระดาษที่จะนำมาจัดพิมพ์ เราขอแนะนำให้สอบถามมืออาชีพจากทางร้าน รับรองไม่ผิดหวัง ส่วนตอนนี้ไปดูกันว่า จากเทรนด์ปีที่แล้วสู่เทรนด์ปีนี้ มีอะไรยังไงบ้าง ถ้าคุณอยากตามโลกแห่งการแต่งงานให้ทันต้องทำการ์ดแบบไหนบ้าง

1. MONOCHROME COLORS

เลือกโทนสีหลักที่ใจชอบสุดๆ ได้แล้วก็ไม่จำเป้นต้องหาคู่สีตรงข้ามเสมอไป แต่เลือกเฉดสีให้ต่างกันก็ทำให้การ์ดแต่งงานของคุณเป็นอะไรที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณได้มากมายอยู่แล้ว ก็แหม…สีในโลกมีมากมายสารพัดเฉด ต้องมีสักสีที่ตรงใจคุณแน่ๆ

2. TOUCHES OF GOLD LEAF

เทคนิกการใส่ความแวววาวจากโลหะลงไปในตัวการ์ด เพิ่มความเมทาลิคให้การ์ดแต่งงานของคุณดูมีอะไรมากกว่าสีเรียบๆ ที่แอบดูเหงาๆ ในบางดีไซน์

3. PANTONE’S PICK—GREENERY

ถ้า Pantone’s Color ของปี 2017 คือ Greenery แล้วคุณจะยอมเอาต์ไปได้ยังไง เลือกสีเขียวเป็นหัวใจหลักของความชุ่มฉ่ำหัวใจ พร้อมนำรูปทรงของใบไม้ เส้นสายที่แลดูอิงธรรมชาติมาใส่ไว้ในการ์ดเชิญ แค่นี้ก็อินแบบไม่มีเอาต์

4. ORGANIC AND WOOD GRAIN TEXTURES

จัดงานแต่งเอาต์ดอร์หรือเปล่าคะ ถ้าใช่แล้วยังหาแบบการ์ดไม่ได้ เราขอแนะนำให้ใส่ลวดลายบนผิวไม้ลงไปบนการ์ด รวมถึงเลือกสีน้ำตาลจากไม้ชนิดต่างๆ มาเพิ่มความเป็นงานเอาต์ดอร์ให้กับงานแต่งงานของคุณสิคะ

5. USE OF CITRUS ELEMENTS

การ์ดแต่งงาน

งานแต่งงานเมืองร้อนอย่างบ้านเรา ถ้าจะให้ดีงามในการ์ดแต่งงานควรมีสีสันสดใสที่ช่วยย้ำความเป็นซัมเมอร์หลายเดือน ด้วยการเลือกสีส้มมาเป็นหัวใจหลักในการใช้สีแจ่มๆ กับการ์ดแต่งงาน รับรองว่างานไม่มีจืด แต่จะเปี่ยมไปด้วยสีสันที่สดชื่นหัวใจทั้งคนแต่งและแขกเหรื่อ

10 ไอเดียเนรมิตทางเข้างานแต่งสุดชิค

ทางเข้างานถือเป็นจุดสำคัญสำหรับงานแต่ง เพราะเป็นจุดแรกที่แขกได้พบเจอก่อนจะเข้าสู่ตัวงาน…จะประทับใจหรือไม่เริ่มจากจุดนี้ก่อนเลยก็ว่าได้ เราจึงไม่รีรอที่จะนำไอเดียการตกแต่งทางเข้างานหลากสไตล์มาฝากคุณผู้อ่านค่ะ

1.ทางเข้างานเล่นไฟระยิบระยับ  ทางเดินทอดยาวสีแดงดูมีลูกเล่นมากขึ้นเมื่อมีไฟระยิบระยับจับตาประดับภายใต้หลังคาทรงโค้ง เมื่อแขกเดินผ่านจะให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปตลอดทาง

1WD-1

2.ทางเข้างานประดับมวลดอกไม้สะพรั่ง สองข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้น้อยใหญ่ปกคลุมตลอดทางเดิน ให้ความรู้สึกสดชื่นและอ่อนหวานในคราวเดียวกัน

2WD-13.ทางเข้างานแบบย้อมไฟ การย้อมไฟตั้งแต่ทางเข้างานเป็นการใส่อารมณ์ความรู้สึกเพิ่มเข้าไปในบรรยากาศ เช่น ย้อมไฟสีชมพูให้ความรู้สึกหวานละมุน ย้อมไฟสีม่วงให้ความรู้สึกแฟนตาซีชวนฝัน เป็นต้น

3WD-14.ทางเข้างานพรมแดงหลากบรรยากาศ พรมแดงมักเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหรา การปูพรมแดงจึงช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหราให้กับงานเอ้าท์ดอร์ที่มักจะดูสบายๆไม่เป็นทางการได้ดี

4WD-35.ทางเข้างานกลิ่นอายแดนซากุระ บ่าวสาวผู้หลงใหลในดินแดนอาทิตย์อุทัย สามารถเนรมิตทางเข้างานให้มีบรรยากาศโรแมนติกโดยนำต้นซากุระจำลองมาวางเรียงรายตลอดสองข้างทางเดิน หรือนำอุปกรณ์อื่นๆที่สื่อถึงความเป็นญี่ปุ่นมาวางประกอบจะช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับแขกที่มางานได้อินกับบรรยากาศมากยิ่งขึ้น

5WD-16.ทางเข้างานในรูปแบบของฟาร์ม  การจัดงานธีมฟาร์มนั้น นอกจากซุ้มประตูไม้แล้วการนำกองฟางวางเรียงรายบริเวณทางเข้างานจะช่วยให้แขกรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของฟาร์มอย่างแท้จริง

6WD-17.ทางเข้างาน = ทางเข้าบ้าน การแปลงโฉมทางเข้างานให้กลายเป็นทางเดินสู่บ้านของบ่าวสาวช่วยสร้างบรรยากาศความเป็นกันเองได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสื่อถึงครอบครัวแสนสุขในอนาคตด้วย

7WD-18.ทางเข้างานที่มาจากความประทับใจในเรื่องราวของความรัก หากบ่าวสาวมีความประทับใจในการเจอกันครั้งแรก หรือมีความชอบร่วมกันในบางสิ่งบางอย่าง เช่น ชอบเพลงรักเพลงเดียวกัน ก็สามารถนำเนื้อเพลงมาสกรีนบนทางเข้าเพื่อเพิ่มความโรแมนติกให้กับงาน

8WD-19.ทางเข้างานแบบป่าเขาลำเนาไพร เอาใจบ่าวสาวที่รักธรรมชาติด้วยบรรยากาศทางเข้างานแบบป่าเขาลำเนาไพรเพิ่มความสดชื่นให้กับแขกผู้ร่วมงาน

9WD-110.ทางเข้างานที่ได้แรงบันดาลใจจากสถานที่สุดประทับใจ คู่รักที่มีสถานที่สุดประทับใจร่วมกันสามารถเนรมิตโถงทางเข้างานแบบเรียบๆ ให้กลายเป็นสะพานสถานที่สวยงามได้ดังใจฝัน เช่น สะพานพระราม 8 ประดับไฟ  ทอดยาวไปสู่บริเวณงาน

10WD-1

เราหวังว่าบ่าวสาวจะได้ไอเดียทางเข้างานสวยๆ ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างสวยงามนะคะ

ภาพเปิด : SmallmoonPhoto ตกแต่งโดย Marisa The Planner and Organizer

งานแต่งงานดอกไม้แดงของ Rebecca Dunlevy & Nikolas Takacs

ไปเจองานแต่งงานที่เรียกได้ว่าเรียบง่าย แต่มีรายละเอียดตรงใจบ่าวสาวอยู่หนึ่งงาน ซึ่งงานนี้เป็นของคู่รักต่างชาติ Rebecca Dunlevy และ Nikolas Takacs ทั้งคู่จัดงานที่ SAN YSIDRO LANE, SANTA BARBARA ในธีมสุดโรแมนติกท่ามกลางบรรยากาศสวนสวยอารมณ์วินเทจที่พรั่งพร้อมไปด้วยดอกไม้สีแดง ซึ่งเป็นสีที่เจ้าสาวชอบค่ะ ความเรียบง่ายในการจัดงานจะมีอะไรบ้าง และอะไรที่บ่าวสาวชาวไทยสามารถนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในงานแต่งงานของตัวเองได้ ไปดูกันเลยไหมคะ

เมื่อเลม่อนกับดอกไม้คือกิมมิคของท้องถิ่น สองสิ่งนี้จึงกลายมาเป็นส่วนประกอบสำคัญในการ์ดเชิญ

เฟิร์สแดนซ์ท่ามกลางบรรยากาศแสนอบอุ่นกลางสวนที่มีเพื่อนๆ และครอบครัวรวม 120 คน ถือว่าเป็นงานกะทัดรัดกำลังพอดีที่มีแต่ความสุขจริงๆ นะคะ

เรื่องและภาพ : http://www.marthastewartweddings.com

5 เคล็ดลับจัดงานแต่งงานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ECO Wedding งานแต่งงาน ที่จัดแล้วไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม จัดไปแล้วโลกยังมีสีเขียวไม่สร้างมลพิษ แถมยังไม่เปลื้องเงินในกระเป๋าทำได้ไม่ยากหรอกนะคะ อยู่ที่ว่าคุณจะมองภาพการตกแต่งด้วยเคล็ดลับที่เรากำลังจะแนะนำคุณหรือเปล่า ว่าแล้วก็เลื่อนไปดูเคล็ดลับที่ 1 ได้เลยค่ะ

1. SOMETHING OLD

เคยรู้สึกไหมคะว่า ลูกไม้หรือของตกแต่งบนชุดแต่งงานหรือชุดเดรสบางชุดที่คุณหรือคนใกล้ตัวมีอยู่ช่างสวยงามอะไรเช่นนี้ พอเดินหาซื้อก็ไม่มีแบบเดียวกันนั้นแล้ว ทีนี้ทำยังไงดีละ ลองเอ่ยปากขอกับเจ้าตัวดูสิคะ ผ้าลูกไม้ที่คลุมกระโปรงที่เจ้าตัวไม่ใส่มานานแล้วแต่ยังสภาพดี หรือแม้แต่ของตกแต่งที่ประดับอยู่บนเสื้ออย่างดอกไม้หรือโบ แล้วนำมาประยุกต์ให้เข้ากับชุดเจ้าสาวที่คุณกำลังร่วมกันออกแบบกับดีไซเนอร์คู่ใจไงคะ

2. RENT DECORATIONS

เช่าสิคะ ของตกแต่งบางชิ้นน่ะ อย่างเฟอร์นิเจอร์บางชุดไม่ต้องลงทุนซื้อเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เพราะอย่างลืมนะคะว่าหลังเสร็จงานแล้วจะไปวางไว้ตรงไหนของบ้าน ถ้าบ้านคุณใหญ่โตก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าบ้านไม่ได้ใหญ่โต ซื้อมาใช้ครั้งเดียว แล้วยังไงต่อละทีนี้ หรือแม้แต่ถ้าบ้านใหญ่ แต่สไตล์ข้าวของที่ซื้อมาไม่ได้เข้ากับการตกแต่งของบ้านที่อยู่เลย จะดูแปลกๆ ขนาดไหน ทางออกก็คือ เลือกเช่าพร๊อพตกแต่งงานเอาสิคะ ใช้เสร็จส่งคืน ไม่แพงไม่เป็นภาระด้วยนะ

3. REUSE AND RECYCLE

ถ้าคุณแค่เดินทางไปตังแคมป์เที่ยวเล่นกันวันสองวันจะใช้กระดาษเพื่อความสะดวกสบายให้ย่อยสลายไปตามกาลเวลาอันนั้นเราไม่ว่ากัน แต่สำหรับในงานแต่งงาน การใช้ของประเภทรอการย่อยสลายบางทีกว่าจะถึงวันนั้นโลกร้อน มลพิษเพี้ยบ สู้หันมาใช้แก้ว จานชาม หรือของที่สามารถล้างแล้วนำกลับมาใช้ได้จะดีกว่าไหม ลองคิดดูนะคะ จานกระดาษ 500 ใบ แก้วพลาสิตอีกเป็นพันใบ โลกกลมๆ ของเราจะเป็นยังไง

4. SKIP THE PAPER INVITATIONS

นี่มันยุคดิจิตอลแล้วนะคะ จะมานั่งส่งการเชิญเป็นกระดาษใบๆ เพื่ออะไร นอกจากจะเสียเวลาหลายขั้นตอนแล้ว ยังเปลื้องไม้ที่ต้องเอามาทำกระดาษอีกตั้งเท่าไหร่ เชิญแบบออนไลน์สิคะ ประหยัด เก๋ไก๋ เช็คปริมาณแขกได้ด้วย แต่ถ้าคุณยังมีพ่อแม่หรือแขกผู้ใหญ่ที่ต้องแจกการ์ดเป็นใบๆ จริงๆ ก็อนุโลมให้ สั่งพิมพ์แต่น้อย หรือปริ้นซ์เองก็ประหยัดดีนะ

5. DIY

สำรวจสิว่าอะไรบ้างในงานแต่งงานที่คุณสามารถทำขึ้นมาเองได้ ก็ลองถามๆ กับพ่อแม่พี่น้องดูว่าช่อวยกันทำได้ไหม เพราะของ DIY เนี่ย แม้ไม่สวยงามแต่ทำด้วยใจ รับรองว่าแขกชอบและดีต่อใจ และดีต่อโลกมากมาย ไม่เชื่อลองดูสิคะ

S.O.S ตัวช่วยสวยด่วนรับเช้าหลังแต่ง!

อย่าให้ภาพนางเอกตื่นเช้ามาพร้อมหน้าสวยเด้งพบพระเอกอยู่เคียงข้างมาสร้างความเข้าใจผิดให้กับคุณ ในชีวิตจริงไม่มีใครแต่งหน้าเต็มอัตราศึกเพื่อต้อนรับคุณสามีในยามเช้า ดังนั้นเพื่อไม่ให้ว่าที่เจ้าบ่าวถึงกับหวาดผวายามตื่นมาพบหน้า เรามีเคล็ดลับดีๆ ให้คุณได้ สวยด่วน พร้อมเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของใบหน้าสดใสรับเช้าวันใหม่หลังแต่ง!

ล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าให้หมดจด

แน่นอนว่าในวันแต่งงานสาวๆ ไม่เพียงแต่งหน้าจัด  แต่ยังใช้เครื่องสำอางประเภทกันน้ำเพื่อให้เครื่องสำอางติดทนนาน  หากคุณทำความสะอาดใบหน้าไม่หมดจด  นอกจากจะทำให้สิ่งสกปรกตกค้างบนผิวหน้าแล้ว  ยังอาจทำให้เป็นสิวและใบหน้าหมองคล้ำในเช้าวันรุ่งขึ้น

ทำความสะอาดผิวหน้าฉบับเมคอัพอาร์ติสท์

สำหรับเจ้าสาวที่แต่งหน้าจัดและใช้เครื่องสำอางประเภทกันน้ำ  เรามีคำแนะนำในการทำความสะอาดผิวหน้าดังนี้

สำหรับการทำความสะอาดรองพื้น  เราแนะนำให้ใช้คลีนซิ่งออยล์  เพราะน้ำมันในคลีนซิ่งออยล์จะไปละลายครีมรองพื้นบนผิวหน้า  เมื่อสาวๆ ใช้คลีนซิ่งออยล์เช็ดผิวหน้าแล้ว  อย่าลืมใช้สำลีชุบน้ำเช็ดตามอีกครั้งเพื่อไม่ให้น้ำมันรวมทั้งเครื่องสำอางตกค้างอยู่บนผิว

สำหรับการทำความสะอาดเมคอัพบริเวณรอบดวงตารวมทั้งมาสคารา  ให้ใช้คลีนซิ่งออยล์ประคบดวงตาทิ้งไว้สักครู่ก่อนจะเช็ดออก

อายไลเนอร์บริเวณขอบตาบนและขอบตาล่างนับเป็นบริเวณที่ทำความสะอาดได้ยาก  เราแนะนำให้สาวๆ ใช้คอตต้อนบัตชุบคลีนซิ่งออยล์ไล่เกลี่ยเช็ดอายไลเนอร์

แม้หลายคนจะเคยชินกับการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างรวดเร็ว  แต่ขอให้งดเว้นในคืนนี้  เพราะเจ้าสาวประโคมใบหน้าด้วยสารพัดเครื่องสำอางอีกทั้งยังออกงานตลอดทั้งวัน  ดังนั้นการทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดหมดจดจึงนับเป็นสิ่งสำคัญ

คอนซีลเลอร์  ตัวช่วยสาวหน้าใสแบบธรรมชาติ

ปัญหารอยสิว  ฝ้า  กระ  และจุดด่างดำสามารถแก้ไขได้ด้วยเมคอัพไอเทมชิ้นเล็กอย่างคอนซีลเลอร์  สำหรับสาวๆ ที่อยากเปลือยหน้าสบายๆ รับเช้าวันใหม่  อาจใช้คอนซีลเลอร์ที่ตรงกับสีผิวหรืออ่อนกว่าสีผิวเพียงเล็กน้อยแต้มบริเวณที่มีปัญหา  คอนซีลเลอร์ที่ใกล้เคียงกับสีผิวจะช่วยให้จุดแดงหรือจุดด่างดำกลืนไปกับผิวของคุณ

แก้มมีเลือดฝาดดูสุขภาพดี

สำหรับสาวๆ ที่อยากเป็นเจ้าของแก้มสุกปลั่งราวกับเด็กสาวสุขภาพดีอย่ามองข้ามทินท์ที่มีให้เลือกหลากเฉดสี  เคล็ดลับนั้นแสนง่ายเพียงแตะแต้มทินท์เฉดสีที่ต้องการลงบนพวงแก้มแล้วเกลี่ยเบาๆ  หาก อยากดูเลือดฝาดสุขภาพดี  ให้เลือกทินท์ในโทนสีแดง  หากคุณอยากดูสดใสและอ่อนกว่าวัย  ให้เลือกทินท์ในโทนสีชมพู

แม้คุณไม่อาจเป็นเจ้าของลุคสวยเพอร์เฟ็คต์ได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง  แต่อย่าลืมว่าเคล็ดลับเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณได้ลุคสวยธรรมชาติ  แถมยังสวยได้แบบรวดเร็วพร้อมยิ้มรับคนข้างกายยามตื่นมาเจอคุณ

ขอบคุณภาพจาก: www.theluxuryspot.com  www.independent.ie  www.galslobby.com  www.wealthwalkeronlinestores.blogspot.com  www.blog.thefind.com  www.fashion.telegraph.co.uk

9 ไอเดียการเขียนคำอวยพรแต่งงานสุดประทับใจ

“คำอวยพร” ถือเป็นอีกหนึ่งความประทับใจในคืนวันอันแสนพิเศษที่คู่บ่าวสาวอยากจะเก็บบันทึกไว้ในความทรงจำให้เนิ่นนานที่สุด แต่บางคู่ก็เบื่อที่จะให้แขกเขียนลงในสมุดประสาทพรเท่านั้น ลองมาดู 9 ไอเดียการเขียนคำ อวยพรแต่งงาน ที่เรานำมาแนะนำค่ะ

ซึ่งวิธีเบสิกที่นิยมปฏิบัติกันในงานแต่งงานก็คือการเขียนคำอวยพรลงในสมุดอวยพร แต่เชื่อว่าคงมีบ่าวสาวที่อยากจะเก็บบันทึกคำอวยพรในรูปแบบที่พิเศษกว่านั้น วันนี้เราจึงของนำเสนอไอเดียเก๋ๆ ในการเขียนคำอวยพรแต่งงานสุดประทับใจมาฝากกันค่ะ
1. แขวนบัตรอวยพรไว้ที่ต้นไม้จำลอง จนกลายเป็น Wish Tree ที่เต็มไปด้วยความรักจากคำอวยพรของทุกคนที่มาร่วมงาน นอกจากจะสร้างความประทับใจแล้ว ยังกลายเป็นของประดับตกแต่งหน้างานสวยๆ อีกด้วย
 
  2. ใส่ลูกเล่นให้การเขียนคำอวยพรสนุกสนาน ด้วยการให้แขกพิมพ์ลายนิ้วมือด้วยสีสันสดใส พร้อมเขียนคำอวยพรกำกับไว้ข้างๆ
  
 3. ออกแบบเบลสซิ่งการ์ดใบเล็กๆ ในสไตล์คุณ ให้แขกเขียนคำอวยพร แล้วเก็บรวบรวมไว้ในกล่องแห่งความทรงจำหรือโหลแก้วสักใบ
 
4. เลือกอัดภาพคู่บ่าวสาวในโมเม้นต์สุดประทับใจ ให้แขกเขียนคำอวยพรเพื่อช่วยเติมเต็มความสุขในภาพ ก็เป็นไอเดียง่ายๆ ที่ได้เก็บทั้งภาพและคำอวยพรไว้ด้วยกัน
 
5. สร้างกิจกรรมสนุกสนานให้แขกที่มาร่วมงาน ได้แสดงความยินดีผ่านการถ่ายรูปโพลารอยด์แล้วเขียนคำอวยพรลงบนภาพ เชื่อว่าแขกหลายๆ คนต้องชื่นชอบจนอาจเผลอหยิบรูปตัวเองกลับบ้านแน่นอน
 
6. ให้เบลสซิ่งการ์ด หรือรูปถ่ายที่แขกเขียนคำอวยพรกลายเป็นแบ็กดร็อปหรือมุมถ่ายรูปแสนเก๋
  
7. เก็บความประทับใจของคืนวันอันแสนพิเศษไว้บนของรักของหวง ของคุณทั้งคู่สักชิ้น ด้วยการให้แขกเขียนคำอวยพรลงไปบนนั้นซะเลย เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร แถมมีชิ้นเดียวในโลกด้วยนะคะ
 
8. ใส่ไอเดียให้สมุดอวยพร ธรรมดาๆ กลายเป็นสมุดอวยพรเล่มพิเศษ ด้วยการออกแบบสมุดอวยพรให้บ่งบอก
ความเป็นตัวคุณทั้งคู่ อาจเป็นรูปวาดคู่บ่าวสาวหรือแสดงถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัว
9. จัดมุมสแครปบุ๊กสุดเก๋ ให้แขกที่มาร่วมงานได้เขียนคำอวยพรแล้วโชว์ฝีมือการตกแต่ง ถือเป็นกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่สนุกสนาน แล้วยังช่วยฆ่าเวลาให้แขกที่มาร่วมงานไม่รู้สึกเบื่อได้ดีทีเดียว

10 ดีไซน์ดอกไม้ติดหน้าอก ที่เจ้าบ่าวจะต้องเลิฟสุดๆ

เบื่อหรือยังกับดอกไม้ติดหน้าอกที่โรงแรมทำให้มาแบบเสียไม่ได้ วันนี้เราก็เลยนำไอเดีย ดอกไม้ติดหน้าอก สุดแนวมาฝากกันค่ะ บอกเลยว่าแต่ละแบบมีจุดเด่นที่การนำเสนอความชอบ ตัวตนและสไตล์การใช้ชีวิตของคุณว่าที่เจ้าบ่าวทั้งหลาย ถ้าพร้อมแล้วไปไล่ดูกันได้เลยค่ะ

แบบที่ 1 พาซูปเปอร์ฮีโร่ทั้งหลายมาเป็นส่วนหนึ่งของงานแบบเนียนๆ แค่เตรียมตุ๊กตุ่นตุ๊กตาไว้แล้วให้ช่างดอกไม้ช่วยประดิษฐ์ได้ดอกไม้ติดหน้าอกที่เป้นตัวคุณแล้วค่ะ

แบบที่ 2 เจ้าบ่าวช่างประดิษฐ์ก็สร้างกิมมิคให้เข้ากับงานได้ด้วยการเลือกวัสดุและสีที่ชอบมาสร้างสรรค์ดอกไม้ติดหน้าอก

แบบที่ 3 เพิ่มกิมมิคให้กับช่อดอกไม้ติดหน้าอกด้วยการนำเข็มกลัดชิ้นโปรดมากลัดเพิ่ม

แบบที่ 4 จับคู่ดอกไม้จริงกับดอกไม้ประดิษฐ์ก็ลงตัวได้ในแบบของคุณ

แบบที่ 5 ชอบกีฬาหรือมีอุปกรณ์คู่กายก็ทำจำลองเป็นชิ้นเล็กๆ มาจับคู่กับดอกไม้ในธีมงาน

แบบที่ 6 ชอบนาฬิกาพกหรือนำลูกกุญแจแลดูมีสไตล์มาประดับที่อกแทนการช่อดอกไม้

แบบที่ 7 นำสัญลักษณ์ประจำราศีที่สั่งทำเป็นพิเศษมาจับคู่กับดอกไม้ที่เธอชอบก็ไม่เลวนะคะ

แบบที่ 8 ชอบเล่นกีต้าร์ก็แค่นำปิคกีต้าร์สีเข้ากับธีมงานมาประกอบกับริบบิ้นทำเป็นช่อดอกไม้ติดหน้าอกซะเลย

แบบที่ 9 เจ้าบ่าวสายกินก็นำอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารอย่าช้อนส้อมมาติดหน้าอกได้เหมือนกัน

แบบที่ 10 ถ้าความรักของคุณโล่ดแล่นในโลกออนไลน์ งั้นก็จำลอง Mac Book หรือ Iphone จิ๋วมาติดหน้าอกซะสิ

ไปดูกัน! งานแต่งงาน 2017 อะไร IN อะไร OUT

เข้ากลางปีเข้าไปแล้วนะคะ แต่ว่าที่บ่าวสาวบางคู่ยังไม่แน่ใจเลยว่า จะเลือกธีมไหนมาใช้ใน งานแต่งงาน ปลายปีที่จะถึง เพราะช่วงก่ำกึ่งกลางปีแบบนี้ ถ้าเลือกผิดไปบางทีก็อาจมีโดนเม้าท์ได้ว่าเช๊ยยยยยเชยใช่ไหมล่ะ เราจึงไปสืบเสาะหาเทรนด์จากเมืองนอกมาเพิ่มความมั่นใจให้คุณได้รู้ว่า งานแต่งงานที่ล้ำนำสมัยและน่าตื่นเต้นในปีนี้เป็นอย่างไร และงานแบบไหนที่ต้องเขี่ยออกไปจากสมองโดยด่วน

In : สถานที่จัดงานที่สวยงามประณีต
Out : งานแต่งงานธีมโรงนา

แชนนอน เลฮี โรเซนโบม  มันสมองของ Shannon Leahy Events บอกว่า “งานแต่งงานแบบเอิกเกริกอึกทึกนั้นได้หมดอายุขัยไปแล้วสำหรับปีนี้ และถูกแทนที่ด้วยความเรียบง่ายแต่ดูดี บ่าวสาวมากมายไม่อินกับธีมงานแต่งงานสไตล์โรงนาอีกแล้ว แต่กลับมาสนใจสถานที่จัดงานแต่งงานที่สวยหรูดูงามและดูเป็นอมตะอย่างอาคารโบราณ ห้องบอลรูมที่หรูหรา และสวนที่ตัดแต่งด้วยมืออย่างประณีตแทน”

In : การตกแต่งภายในที่สวยงามน่าอยู่ดูสบาย
Out : เฟอร์นิเจอร์เช่าที่ดูแข็งกระด้าง

เจสซี ทูมบ์ส ผู้บริหารหุ้นส่วนของ Alison Events + Design ประกาศว่ายุคสมัยแห่งเฟอร์นิเจอร์แนวเข้มขรึมได้สิ้นสุดลงแล้ว และถูกแทนที่ด้วยการตกแต่งภายในตามรสนิยมส่วนตัวของลูกค้าเอง “หากคุณเริ่มเบื่อกับเฟอร์นิเจอร์เช่าที่ดูธรรมดาแล้วละก็ ลองปรึกษากับเวดดิ้งแพลนเนอร์ให้ลองติดต่อบริษัทตกแต่งภายในดู เพราะเขาเหล่านี้สามารถออกแบบและทำเวทีเพื่อให้ได้งานตกแต่งภายในตามแบบที่ต้องการ ซึ่งจะให้ความรู้สึกพิเศษและอยู่เหนือกาลเวลา ไม่เหมือนงานแต่งงานอื่นๆ ที่คุณพบได้ทั่วไปอย่างแน่นอน”

In : การตัดต่อวิดีโอแบบหลายชั้นและการจัดแสง
Out : ภาพนิ่ง

แมรี ครูเกอร์  ผู้ก่อตั้ง Carmona Design + Events บริษัทออกแบบและจัดการเวทีในอีเว้นท์ที่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางได้แนะนำลูกค้าให้ลองพิจารณาการทำวิดีโอและจัดแสงให้ดูทันสมัยแต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวไว้ “การผลิตและติดตั้งภาพขนาดยักษ์ หรือการฉายภาพ ด้วยเทคโนโลยีการจัดแสงในปัจจุบันที่ทั้งทันสมัยและมีราคาไม่สูงเกินไป ทำให้สามารถดึงเอางานจัดแสงมาเล่นได้มากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนจะทำในงานแต่งงานที่หรูหราอลังการมากๆ เท่านั้น แต่สำหรับในปีนี้ มีการออกแบบการฉายภาพวิดีโอที่ยิงภาพซ้อนทับกัน ควบคู่ไปกับการใช้แสงแบบเลเซอร์เพื่อกั้นพื้นที่จัดงานให้ดูมีหลายส่วนโดยใช้เลเซอร์สร้างการเคลื่อนไหวให้ดูมีมิติมากขึ้น ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็น”

In : สีชัดจัดจ้าน
Out : ธีมชนบทและงานไม้

เคท ไรอัน และเชลซี ดิลลอน ผู้อยู่เบื้องหลัง Gold Leaf Event Design & Production ได้ประกาศว่าปีนี้ไม่ใช่ปีของเฟอร์นิเจอร์เช่าธีมชนบทอีกต่อไปแล้ว และจงอ้าแขนรับความคลาสสิกที่สะอาดสะอ้านเรียบร้อยแต่หักมุมจบ “เฟอร์นิเจอร์เก่าที่โชว์ไม้มากมาย และการใช้คำว่า ‘Rustic’ ที่ผ่านมานั้นเยอะจนเฝือ ตอนนี้ทีมดีไซเนอร์ของเรากำลังตื่นเต้นกับการสร้างและพัฒนาลุคใหม่ๆ สำหรับลูกค้าของเรา” ไรอันและดิลลอนยังบอกอีกด้วยว่า “ในปีนี้ ผ้าปูโต๊ะที่มีเนื้อผ้าที่สวยงาม เก้าอี้สั่งทำ และสีจัดจ้านจะเข้ามามีส่วนในผ้าคลุมเต๊นท์จัดงาน การตกแต่งห้องบอลรูม และสถานที่จัดงานอีกหลายแห่งทั่วโลก”

In : เซอร์ไพรส์อลังการ
Out : ตู้ถ่ายรูป

อแมนด้า โอ’คัลลาแกน ผู้ก่อตั้งbyAmanda Event Studio ซึ่งเป็นอีเว้นท์สตูดิโอที่ตั้งตามชื่อของเธอนั้นมองว่า ปี 2560 นี้จะเป็นปีที่คนจะหันมานิยมทำเซอร์ไพรส์เพื่อเพิ่มสีสันให้งานแต่งงานแบบเดิมๆ มากขึ้น โดยจะเป็นเซอร์ไพรส์ที่เน้นเอาใจแขกที่มาร่วมงาน “คู่แต่งงานหลายคู่พยายามหาเซอร์ไพรส์แบบ คิดนอกกรอบ’ เพื่อสร้างความประทับใจให้แขกที่มาร่วมงานเลี้ยงตอนค่ำมากขึ้น ลืมตู้ถ่ายรูปที่เคยฮิตในช่วงปีที่ผ่านมาได้เลย แล้วเพิ่มเซอร์ไพรส์ใหม่ๆ เข้าไปแทน เช่น หาวงอะแคปเปลล่ามาร้องเพลงรักสร้างความบันเทิงให้กับแขก นักมายากล หรือโชว์เขียนตัวอักษรตามโต๊ะแขกพิเศษ เป็นต้น” กูรูอีเว้นท์แนะนำ

In : สีเขียวและธีมรักษ์สิ่งแวดล้อม
Out : ความเรียบง่ายสไตล์มินิมัล

เวอร์จิเนีย เอเดลสัน เจ้าของ Bluebird Productions แนะนำเจ้าสาวให้หันมาใช้สีเขียวและสนใจงานแต่งงานแบบรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้นในปีนี้ Pantone ได้ปล่อยสีประจำปี 2560 มาแล้วซึ่งก็คือ Greenery คุณสามารถเลือกจัดดอกไม้ด้วยธีมสีเขียว ใช้ชุดกระดาษและเครื่องเขียนสีเขียว ใช้ผ้าปูโต๊ะสีเขียว ธีมสีเขียวจะมาแรงในปีนี้” เทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมได้ขยายวงกว้างไปไกลกว่าการตกแต่งองค์ประกอบต่างๆ ในงานด้วยสีเขียว ในที่นี้ได้รวมไปถึงการใช้ไม้ดอกสวยงามด้วย “ดอกไม้ได้รับความนิยมมาตลอดเวลาที่ผ่านมา แต่ปีนี้จะเป็นปีที่ดอกไม้เป็นนางเอกอย่างแท้จริง เราจะได้เห็นการจัดดอกไม้ที่มีสเกลงานขนาดใหญ่ ผนังและเพดานที่ประดับด้วยดอกไม้ รวมไปถึงการใช้ดอกไม้ตกแต่งเครื่องเขียนและรายละเอียดอื่นๆ ในงาน”

เรื่อง :  ไทเลอร์ แอทวู้ด จาก http://www.brides.com
เรียบเรียง : ชวลิดา

9 ไอเดียธีมงานแต่งสุดสร้างสรรค์สำหรับบ่าวสาวมือใหม่

บ่าวสาวมือใหม่ที่กำลังคิด ธีมงานแต่ง แต่ยังไร้ไอเดีย เราธีมงานเก๋ๆ มาฝากเผื่อจะนำไปประยุกต์ใช้ในวันสุดพิเศษของคุณได้ค่ะ

01_weddingIdeas(500)

1. ธีมเทพนิยายชวนฝัน

ผู้หญิงหลายคนมีความใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าหญิง งานแต่งจึงถือเป็นโอกาสในการสานฝันให้เป็นจริง องค์ประกอบหลักๆที่ต้องมีในงานแต่งธีมนี้ก็คือรถม้าแบบเจ้าหญิงและบรรยากาศในจินตนาการ เช่น สวนดอกไม้ เสาโรมันสีขาว เหล่านางฟ้า ฯลฯ ซึ่งเมื่อผ่านการย้อมสีไฟ ก็จะช่วยเนรมิตให้โลกในเทพนิยายปรากฏขึ้นจริงต่อหน้าคุณ

02_weddingIdeas(500)

2. ธีมสุดล้ำของบ่าวสาวคอไอที

บ่าวสาวที่ชื่นชอบเทคโนโลยีสุดล้ำอาจนำสัญลักษณ์ของแบรนด์สุดรักหรือกราฟฟิกที่สื่อถึงความเป็นดิจิตอลมาใช้ในงาน แล้วเน้นสีเงินที่แสดงถึงความไฮเทค โดยอาจนำดอกไม้หลากสีเข้ามาผสมเพื่อให้งานไม่ดูแข็งจนเกินไป

03_weddingIdeas(500)

3. ธีมของคนรักหนัง

เนรมิตงานแต่งให้กลายเป็นบรรยากาศของงานประกาศรางวัลภาพยนตร์ด้วยการออกแบบแบ็กดร็อปเป็นตั๋วหนัง การตกแต่งหน้างานเลียนแบบโรงหนัง การตกแต่งส่วนต่างๆด้วยม่านคล้ายโรงหนังและปิดท้ายด้วยจุดถ่ายภาพที่จัดเป็นเก้าอี้ผู้กำกับประมาณ 3 – 4 ตัวเพื่อเพิ่มจุดสนใจ

04_weddingIdeas(500)

4. ธีมโรงนา

คู่รักที่ชอบบรรยากาศของฟาร์มและอยากได้กลิ่นอายแห่งความเป็นชนบท สามารถตกแต่งสถานที่สำหรับจัดงานแต่งได้ ด้วยการทำกองฟางมาจัดไว้ในบริเวณงาน ทำธงสามเหลี่ยมหลากสีมาประดับและใช้งานโครงสร้างไม้ต่างๆ มาเพิ่มบรรยากาศของฟาร์มแสนสุข

05_weddingIdeas(500)

5. ธีมการเดินทาง

บ่าวสาวที่รักการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจสามารถนำความชอบมาเป็นธีมงานแต่งได้โดยออกแบบ   แบ็กดร็อปให้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศต่างๆ ที่มีความหมายกับความรักบางคู่อาจนำกระเป๋าเดินทางใบโตมาวางประดับด้านข้าง และอาจเลือกของชำร่วยเป็นกระเป๋าใบย่อมเพื่อจะได้สื่อถึงการเดินทางมากขึ้น

06_weddingIdeas(500)

6. ธีมประเทศญี่ปุ่น

บ่าวสาวที่หลงใหลกลิ่นอายของประเทศญี่ปุ่นสามารถจำลองบรรยากาศงานแต่งเพื่อให้แขกที่มางานรู้สึกราวกับได้เดินอยู่บนแดนปลาดิบได้ง่ายๆ โดยเน้นองค์ประกอบที่เป็นต้นซากุระออกแบบแกลเลอรีให้เป็นฝาผนังบ้านทำแบ็กดร็อปเป็นภาพวิวภูเขาไฟฟูจิหรือแลนด์มาร์กอื่นๆ เท่าที่จะครีเอทได้(แต่ควรสื่อความหมายในทางดีและเป็นที่รู้จักพอที่แขกจะไม่งง)

07_weddingIdeas(500)

7. ธีมกีฬาสุดโปรด

บ่าวสาวคู่ไหนที่มีกีฬาสุดโปรดในดวงใจร่วมกัน สามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่งในวันสำคัญของชีวิต เช่น กีฬามวย คุณสามารถเปลี่ยนเวทีในห้องจัดเลี้ยงที่แสนเรียบง่ายให้กลายเป็นเวทีมวย แน่นอนว่านอกจากไม่เหมือนใครแล้วยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แขกผู้มาร่วมงานอีกด้วย

08_weddingIdeas(500)

8. ธีมฤดูใบไม้ร่วง

ใครที่อยากได้บรรยากาศช่วงฤดูใบไม้ร่วง สามารถเนรมิตบรรยากาศได้ด้วยการนำบรรดาต้นเมเปิ้ลจำลองมาจัดเป็นสวนที่คลาคล่ำไปด้วยใบไม้สีส้มสวยงามและโรแมนติกราวกับสวนในยุโรปช่วงเดือนตุลาคม

09_weddingIdeas(500)

9. ธีมวินเทอร์สุดโรแมนติก

บ่าวสาวคู่ที่ชอบกลิ่นอายของความเป็นวินเทอร์ สามารถตกแต่งได้โดยการใช้ดอกไม้โทนสีขาวและใบไม้สีเขียวแต้มจุดขาวราวกับมีหิมะมาจับ แล้วนำสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์เมืองหนาว เช่น กวางเรนเดียร์ มาจัดวางไว้ในอาณาเขตเดียวกันก็จะช่วยให้งานดูมีกลิ่นอายของฤดูหนาวที่มีหิมะโปรยปรายมากยิ่งขึ้น

เราหวังว่าธีมหลากสไตล์ที่ได้แนะนำไปข้างต้นจะเป็นไอเดียให้บ่าวสาวได้ธีมที่ถูกใจนะคะ

ภาพเปิด : http://shaadietyadi.com

5 เทรนด์ชุดเจ้าสาว ล่าสุดจาก Bridal Runway 2018

แค่กำลังจะเข้ากลางปี 2017 เท่านั้น แต่เหล่าดีไซเนอร์จากฝั่งอินเตอร์ปั้น ชุดเจ้าสาว สวยๆ ที่คัดดีไซน์มาแล้วว่าแต่ละแบบมาแน่ และเอาอยู่กับเจ้าสาวทุกลุคทั่วโลก บอกก่อนไปเจอของจริงว่า Spring 2018 Bridal Fashion Week สาดไอเดียกันกระหน้ำ โดยเฉพาะการเลือกใช้สีดำมาเป็นส่วนหนึ่งของชุด ให้ความเข้มของสีตอกย้ำความเป็นสาวมั่นในแบบของคุณอย่างเต็มที่แต่ยังคงความเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในงานได้อย่างลงตัว

แต่ถ้าคุณกำลังมองหาชุดเจ้าสาวที่ให้ความรู้สึกทัดเทียบเจ้าบ่าวละก็ คอลเล็กชั่นนี้จัดชุดแต่งงานแบบกางเกงมาเอาใจกันแล้ว ส่วนสาวๆ ที่ยังคงอยากหวาน อยากน่ารักและดูหรูหราก็มีให้ดู เพราะดีไซเนอร์ทุกคนรู้ว่าความต้องการของคนเป็นเจ้าสาวคืออะไร

Black & White “HIGH CONTRAST”

จับคู่สีดำขาวให้ลงตัวในทุกชุดทุกแบบที่เจ้าสาวต้องการ โดยเฉพาะการนำริบบิ้นสีดำมาสร้างเส้นสายลายสวยให้กับชุด และผ้าลูกไม้สีดำก็ไม่พลาด เพราะงานนี้มาแน่มาแรงจับคู่กับผ้าลูกไม้สีขาวได้อย่างสง่างาม

Justin Alexander

“OFF-THE-SHOULDER”

งานโชว์ไหล่ยังไม่หนีไปไหน ว่าที่เจ้าสาวเตรียมตัวเข้าสปาขัดผิวเนียนไว้ได้เลย ชุดแต่งงานเปิดไหล่ สวยเซ็กซี่ มองแล้วปาดใจน่าค้นหา แถมบางแบบยังช่วยพลางไหล่และต้นแขนที่หนาเกินหน้าสตรีทั่วไปได้ด้วยนะ

Lela Rose

“PUT A BOW ON IT”

ชุดมีโบออกจะน่ารักกรุ๊งกริ๊ง แม้จะเป็นเทคนิกการเพิ่มรายละเอียดให้กับชุดได้อย่างง่ายๆ แต่บอกเลยว่าต้องคิดให้ถี่ถ้วน เพราะโบใหญ่ยักษ์เกินไปและวางผิดที่ชุดคุณมีแป๊ก ถ้าเล็กไปก็ไม่ดีเพราะจะเกิดคำถามว่าแล้วจะติดเพื่อ? เอาเป็นว่าปรึกษากับดีไซเนอร์ที่ไว้ใจให้ดี แล้วลงมือออกแบบกันเลย

Reem Acra

“LITTLE WHITE DRESS”

เจ้าสาวไม่ต้องใส่ชุดยาวใหญ่อลังการเสมอไป เพราะของแบบนี้อยู่ที่ธีมงานแต่งงานที่คุณเลือกจัด รวมถึงความคล่องตัว สไตล์ที่อยากได้ต่างหาก เพียงแต่ชุดแต่งงานแบบสั้นต้องทำให้ไม่ดูเหมือนเป็นเดรสใส่ออกงานปกติทั่วไปเท่านั้นเอง อย่าลืมนะว่า วันนี้คุณคือคุณเจ้าสาวไม่ใช่แขกรับเชิญ!!

Berta

“LESS IS MORE”

“น้อยแต่มาก” คำนี้ได้ยืนมาหลายปีแล้ว และปีหน้าคุณว่าที่เจ้าสาวยังคงต้องได้ยินต่อไป เพราะจุดเด่นของชุดที่มีความน้อยแต่มากนี้คือความเรียบหรูที่หาตัวจับได้ยาก ถ้าดีไซน์ไม่ดี ตัดเย็บไม่โดน ชุดออกแบบไม่มาก สไตล์ไม่เยอะจะกลายเป็นมาก แบบว่า…พังมากงาม แบบนั้นระวังไว้ก็ดี

EMILIA WICKSTEAD

“PANTS”

ชุดเจ้าสาวแบบกางเกงเริ่มนิยมกันมากขึ้นในระยะหลังๆ นั่นเพราะว่าความเท่ ใส่สบายที่ยิ่งจับคู่กับรองเท้าส้นสูงแบบส้นเข็มด้วยแล้วละก็มองดูเซ็กซี่ขึ้นมาทันที ความดีงามของชุดแต่งงานแบบกางเกงอีกอย่างคือ จบงานแต่งใส่ไปทำงานก็ได้ไปเที่ยวก็ไม่ผิด คุ้มแบบนี้ ดีไซเนอร์คิดมาแล้ว คุณทำหน้านี้แค่ซื้อมาใส่

ชุดแต่งงาน
Alexandra Grecco

3 แบบบูเก้ต์เจ้าสาว ของขวัญนำโชคสู่สาวโสดคนต่อไป

บูเก้ต์เจ้าสาว แสนสวยถือเป็นหนึ่งในเอเลเม้นท์ที่ขาดไม่ได้ของเจ้าสาว เพราะเป็นองค์ประกอบที่ช่วยส่งให้คุณดูงามพิสุทธิ์ยามเดินเข้าสู่พิธีทั้งในโบสถ์และในงานฉลอง ทั้งยังเป็นของขวัญนำโชคแห่งความรักที่จะได้ส่งต่อให้กับเพื่อนเจ้าสาวด้วย

Naturally Cozy

บูเก้ต์จาก Swissôtel Nai Lert Park Bangkok หนึ่งในโรงแรมที่มีชื่อเสียงด้านดอกไม้ มาในโทนสีคลาสสิค “ขาว-แชมเปญ” พร้อมให้ความรู้สึกอบอุ่นอิงแอบแนบชิดธรรมชาติด้วยการแซมใบไม้เข้าไปอย่างกลมกลืน ดูสวยบริสุทธิ์แบบเบาๆ ในสไตล์สากล

  1. บูเกต์สีขาวบริสุทธิ์สำหรับเข้าโบสถ์ เลอค่าด้วยดอกพีโอนีจากฮอลแลนด์ที่ดูบอบบางน่าทะนุถนอมราวสาวแรกรุ่น ชายเป็นเถาไม้เลื้อยยาวระย้าส่งให้เจ้าสาวดูงามสง่ายามเดินสู่พิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ช่อนี้เหมาะกับชุดแต่งงานสากลที่ค่อนข้างเป็นทางการทุกแบบ
  2. บูเกต์ดอกทิวลิปและไฮเดรนเยียไซส์ใหญ่พิเศษสีขาวล้วน ผูกโบสีขาว – เงินพวงใหญ่ ช่วยให้เจ้าสาวดูโดดเด่นในวินาทีที่เดินเข้าสู่ห้องบอลรูมท่ามกลางแขกมากมาย เหมาะกับชุดสากลแนวอลังการและชุดแต่งงานสี ๆ เช่น แดง เทา เพราะนอกจากสีชุดกับสีดอกไม้จะไม่ตีกันแล้วยังช่วยเสริมความเด่นให้กันด้วย
  3. บูเกต์ช่อกลมสีขาว – เขียว – แชมเปญ จากดอกฟรีเซีย ไฮเดรนเยีย และกุหลาบ จัดในสไตล์ธรรมชาติดูสดชื่นและอบอุ่น เหมาะมากสำหรับช่วงโยนดอกไม้เพื่อส่งต่อความรักและปรารถนาดีให้เพื่อนเจ้าสาว

Directory : Swiss tel Nai Lert Park Bangkok โทร. 0-2253-0123

รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ของ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์

• ราวพุทธศตวรรษที่ 4 ชนกลุ่มแรกที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ประเทศไอซ์แลนด์ในปัจจุบัน เชื่อกัน
ว่าเป็นนักบวชชาวไอริช

• พ.ศ. 1417 ชาวไวกิ้งเริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไอซ์แลนด์

• พ.ศ. 2487 ไอซ์แลนด์ประกาศเป็นสาธารณรัฐโดยมีสเวน ปีเยิร์นสซอน เป็นประธานาธิบดีคนแรก

• พ.ศ. 2559 ผศ. ดร.ธรณ์กับบุญยรัตน์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ สองสามี-ภรรยาจากประเทศไทยที่อยู่ห่างไกลจากไอซ์แลนด์นับพันนับหมื่นกิโลเมตร ได้ไปเยือนเกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือบนพื้นที่ 102,775 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้
โดยระหว่างการเดินทางไปยังน้ำตกยักษ์แห่งเวสต์ฟยอร์ด ดร.ธรณ์ ก็ได้โพสต์ภาพคู่กับภรรยาหรือ “หนูดาว”ของเขา โดยมีสายรุ้งเหนือหน้าผาสูงและหินที่เรียงรายอยู่ริมลำธารเบื้องล่างเป็นฉากหลัง ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อม
กับมีข้อความกำกับไว้ว่า

“ภาพวันแต่งงานสำคัญ แต่ยิ่งกว่านั้นคือภาพหลังวันแต่งงาน 19 ปี หลังจากงานของเรา ฉันมาถึงสถานที่ที่เคยกระซิบบอก จะพาเธอไปให้ถึงสุดปลายสะพานสายรุ้ง #ไม่มีภาพพรีเวดดิ้ง #มีแต่ภาพโพสต์เวดดิ้ง”

“ถ้าฮันนีมูนหมายถึงการไปเที่ยวปัจจุบันคู่ผมยังฮันนีมูนอยู่เลย ไปกันทุก 3 เดือน 6 เดือน” ดร.ธรณ์…ผู้ชายที่รั้งตำแหน่งต่างๆ มากมาย ทั้งรองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
ไปจนถึงสุดยอดแฟนพันธุ์แท้ของรายการ แฟนพันธุ์แท้ ตอนทะเลไทย กล่าวขึ้นมาท่ามกลางสวนร่มรื่นภายในบ้านย่านเอกมัย  สิ่งที่ไม่ได้พูดถึงทว่าแฝงอยู่ในประโยคนี้ก็คือ แม้การได้เดินทางไปยังที่ต่างๆ ทั่วโลก จะเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดของชีวิตเพราะอยากเห็นโลกให้มากที่สุดก่อนตายแล้ว การท่องเที่ยวยังเป็นหนึ่งในคำมั่นสัญญาที่เขาได้เคยให้ไว้กับผู้หญิงร่างบอบบางที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ เขาเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว

“แต่งงานกันนะ รับรองว่าจะเลี้ยงดูให้เหมือนเดิม”

“เหมือนเดิม” หมายรวมถึง “การพาไปเที่ยว” ด้วย

เป็นข้อเสนอในการร่วมชีวิตกันที่มีจุดเริ่มต้นในช่วงเวลา 2 ปีครึ่งก่อนหน้านั้น

เมื่อครั้งที่ ดร.ธรณ์เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ และเริ่มต้นทำงานเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และได้พบกับคุณดาว ที่เวลานั้นยังเป็นนิสิตปี 3

“ครั้งแรกที่เจอกัน ดาวยังไว้ผมสั้นวันนั้นเขาเดินมาหน้าภาค ผมสะดุดตาตรงที่เขาใส่แว่น เพราะผู้หญิงในสเป็คผมจะต้องใส่แว่น”

อย่างไรก็ตาม ความสะดุดตาก็เป็นเพียงความรู้สึกวูบวาบที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปด้วยอาจารย์หนุ่มมีคนรักอยู่แล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาจารย์กับกลุ่มนิสิตร่วมคณะรวมถึงนิสิตสาวแว่นคนนั้นก็มีโอกาสได้ออกภาคสนามอย่างสม่ำเสมอ กอปรกับความรักที่เคยมีได้กลายเป็นอดีต ความประทับใจแรกพบนั้นก็เริ่มงอกเงยมากขึ้นเป็นลำดับ

สิ่งที่ทำให้นิสิตคนนี้มีความพิเศษกว่านิสิตคนอื่นๆ คืออะไร

“น่าจะนิสัยของเขา ดาวไม่ค่อยเหมือนกับผู้หญิงคนอื่น นิสัยเขาเหมือนผู้ชาย เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา แล้วที่สำคัญที่สุดคือไม่งอน เพราะผมไม่มีเวลาในชีวิตพอจะไปง้อคนอื่นหรอก” ดร.ธรณ์กล่าวพร้อมชูสองแขน “สาระสำคัญลำดับที่สองก็คือ อ่านหนังสือ ข้อนี้สำคัญมากครับ ผมเป็นแฟนกับคนไม่อ่านหนังสือไม่ได้ เพราะชีวิตส่วนใหญ่ผมอ่านหนังสือ ดังนั้นถ้าเกิดไม่อ่านหนังสือแล้วเขาจะทำอะไรล่ะ (หัวเราะ) แล้วคนอ่านหนังสือก็ย่อมจะเข้าใจกัน ดาวเขาก็สามารถอ่านหนังสือเงียบๆ ได้โดยไม่รู้สึกว่าต้องทนอะไร นอกจากนั้นดาวยังเป็นคนที่ผมเดาทางไม่ค่อยถูกว่าเขาจะพูดอะไร คือผมทำงานกับคนเยอะ ผมเลยค่อนข้างเดาทางคนถูก แต่กับคนนี้นี่เดาไม่ถูกเลย เวลาเขาพูดอะไรออกมา ผมจะต้องร้อง ‘เฮ้ย’ อยู่เสมอ เลยรู้สึกว่าดาวเป็นผู้หญิงที่มีอะไรให้ค้นหา นอกจากนั้นเรายังเป็นคน
ชอบเที่ยวเหมือนกัน ดาวมาเรียนประมงเพราะเหตุผลเดียวคืออยากเที่ยว ตรงนี้ชัดเจนมาก ตอนเอนทรานซ์เขาเลือกแค่ 2 คณะคือ วนศาสตร์กับประมง เป้าหมายก็คือ อยากเที่ยวภูเขากับอยากเที่ยวทะเล แค่นั้นเอง”

คุณดาวสังเกตไหมว่าอาจารย์คนนี้เขารู้สึกพิเศษกับเรา

“ต้องรู้สึกบ้างเนอะ (หัวเราะ) ไม่รู้สึกเลยคงไม่ไหว”

แล้วเริ่มชัดเจนตอนไหนว่ารักลูกศิษย์คนนี้เข้าแล้ว

“ผมไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องความรักนะ ความรักแปลว่าอะไรยังไม่รู้เลย ผมสนใจแค่ว่าคนคนนี้จะสามารถอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตได้ไหม อยู่ด้วยกันแล้วชีวิตทั้งเราและเขาจะยังคงเหมือนเดิม ผมเป็นคนไม่เปลี่ยนอะไรอยู่แล้ว เหมือนกับที่ผมตั้งใจจะทำงานด้านทะเลมาตั้งแต่ ม.3” ดร.ธรณ์อธิบาย “แล้วผมก็ไม่เคยใช้คำว่า ‘เลือก’ แต่ใช้คำว่า ‘รอจนกว่ามีโอกาสเจอคนที่เขาคิดว่าจะอยู่กับเราได้ตลอดชีวิต’ ผมคิดเสมอว่าคนเราไม่ควรจะเลือกใครเขาไม่ได้เกิดมาเป็นตัวเลือก คนเราแต่ละคนมีสิทธิ์เท่ากัน ผมไม่ได้เลือกแฟน ผมแค่รอให้แฟนปรากฏตัวขึ้นมา แล้วมั่นใจว่าคนคนนี้จะอยู่กับเราได้ แล้วคำว่า ‘คนที่ใช่’ ของผมไม่ใช่มองตากันสามวันแล้วบอกว่าคนนี้ใช่นะ แต่ต้องผ่านการศึกษาพิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะไม่ทำให้เกิดปัญหากับเราในภายภาคหน้าก่อนที่จะตัดสินใจถามว่า เขาคือคนที่ใช่
สำหรับเรา แล้วเราคือคนที่ใช่สำหรับเขาหรือเปล่า ซึ่งสำหรับดาว เราก็เห็นมาตลอดว่าเขาเป็นคนยังไง เลยยิ่งมั่นใจ”

และความมั่นใจนี้เองที่นำไปสู่การขอแต่งงานแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยหลังจากที่ฝ่ายหญิงเรียนจบได้เพียง 3 วัน

ความรู้สึกของคุณดาวในตอนนั้นเป็นอย่างไร

“พอเขาบอกว่าแต่งงานกันเถอะ เราก็ตกใจ ยังไม่อยากแต่ง จะไปเรียนต่อต่างประเทศ เขาก็บอกเลยว่า ไม่ต้องไปหรอกจะไปเรียนต่อทำไม กลับมาก็ไม่ต้องทำงานให้แต่งงานเลย” คุณดาวเล่าถึงช่วงนาทีสำคัญก่อนจะพูดต่อด้วยรอยยิ้มว่า “นอกจากนั้นเขาก็บอกว่าจะเลี้ยงดูเราให้เหมือนเดิม หลังแต่งงานแล้วชีวิตจะไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย
เราเลยตกลง แต่เขาต้องชดใช้ด้วยการพาเราไปเที่ยว (หัวเราะ) พอเรียนจบก็หมั้นกันก่อนเพราะที่บ้านให้รอรับปริญญาก่อนถึงจะแต่งงานแล้วเราก็ชอบเป็นคู่หมั้น ชอบคำว่า ‘คู่หมั้น’ ก็เลยให้หมั้นก่อน เพื่อที่จะได้มีช่วงที่เรียกว่า
เป็นคู่หมั้นกันสัก 3 - 4 เดือน”

อาจารย์เผื่อใจสำหรับความผิดหวังเอาไว้บ้างหรือเปล่า

“ไม่เคยเผื่อใจ…ดร.ธรณ์ไม่เคยเผื่อใจเรื่องอะไรเลย ผมเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูงเพราะฉะนั้นค่อนข้างมั่นใจ นี่ไม่ใช่รายการนัดเดต ถ้านัดเดตอาจจะต้องมีเผื่อใจ เพราะเราเพิ่งรู้จักเขามาวันสองวัน แต่นี่เราเห็นหน้าเขามาสองปีกว่าแล้ว รู้อยู่แล้วว่านิสัยเขาเป็นอย่างไร ถ้าเขาไม่มีใจเลย แล้วเราจะไปบอกเขาทำไมล่ะ แต่ถ้าเกิดคิดว่าเขาน่าจะยอมรับก็ไม่จำเป็นต้องเผื่อ” ดร.ธรณ์ตอบเสียงดัง

“ตอนที่ขอแต่งงาน เขาบอกว่าเขาดูเรามานานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่อยู่กับเพื่อน ได้เห็นตัวตนเราเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน รวมทั้งคิดไว้แล้วว่าเราน่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เขาถึงได้มั่นใจในตัวเรา”

แล้วจากนั้นคู่อาจารย์ - นิสิตได้ขยับมาเป็นหัวใจของกันและกัน โดยเริ่มต้นสร้างครอบครัวใหม่ร่วมกันที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งโดยฝ่ายสามียังคงรักษาคำสัญญาทั้งหมดอย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง “ชีวิต
ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย”

เป็นเรื่องที่เหมือนพูดง่าย แต่ทำยากนะครับ เคล็ดลับคืออะไร

“ผมเชื่อว่าถ้าคนเราไม่เปลี่ยนมาตั้งแต่ต้นซะแล้ว รักที่เคยหวานตั้งแต่ปีแรกก็จะหวานจนถึงปีต่อๆ ไปได้แน่นอน” ดร.ธรณ์อธิบาย “เราต่างก็ชัดเจนในสิ่งที่ตัวเองเป็นดังนั้นถ้าหากว่าเราเชื่อมั่นในสิ่งที่เห็นหรือสิ่งที่แต่ละคนเป็นได้ตั้งแต่วันแรกแล้ว ยังไงก็อยู่ด้วยกันได้ โดยที่ชีวิตเรายังคงเหมือนเดิม”

“ตอนเลือกเรามีสิทธิ์เท่าเทียมกันนะคะดังนั้นก่อนที่จะเลือกเราก็ต้องคิดให้ดี เพราะเขาจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตที่เหลือ ความที่เราเองก็รู้จักกันดีอยู่แล้วว่าแต่ละคนเป็นยังไงพอมาอยู่ด้วยกันเลยไม่ต้องเปลี่ยนอะไร(หัวเราะ) เราอยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องปรับตัวเลยเพราะเราสองคนไม่ใช่คนคิดมาก เลยไม่เคยทะเลาะกันแบบใหญ่โต แป๊บเดียวก็จบ ไม่งอนกันหรอก เสียเวลา”

ตั้งแต่ใช้ชีวิตด้วยกันมาเคยทะเลาะหนักที่สุดด้วยเรื่องอะไรครับ

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ แค่ขับรถหลงทางอยู่ในยุโรป แล้วสมัยก่อนไม่มี GPS ไม่มี Navigator นำทางน่ะครับ ต้องอ่านแผนที่อย่างเดียว จุดที่ผู้หญิงกับผู้ชายทะเลาะกันง่ายที่สุดก็คือ ผู้ชายขับรถแล้วผู้หญิงบอกทาง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น” ดร.ธรณ์ตอบ

“ฉันออกจะเก่ง” คุณดาวท้วงยิ้มๆ ก่อนที่สามีจะโต้กลับเสียงดังว่า

“เก่งบ้าอะไร! เลี้ยวผิดเลี้ยวถูก วนอยู่นั่น! แล้วสมัยก่อนไปยุโรปไม่มีแผนที่ภาษาอังกฤษ เจอชื่อเมืองภาษาเยอรมันนี่ตายเลย”

“ส่วนใหญ่จะเป็นทะเลาะกันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ น่ะค่ะ” คุณดาวยิ้ม “อย่างเรื่องหลงทางพอหาที่เจอก็จบ ส่วนเรื่องสำคัญหรือเรื่องใหญ่ๆ ของชีวิตนี่ไม่ค่อยมี เพราะว่าเราค่อนข้างจะมีความเห็นตรงกัน อย่างเรื่องลูกเข้าโรงเรียน เรื่องอะไร ก็คิดแนวเดียวกันหมด”

และก็เป็นเรื่อง “ลูก” นี่เองที่ยังผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในชีวิตคู่ของทั้งสองคนเป็นครั้งแรก…

ทั้งคู่ตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านของครอบครัว “ธำรงนาวาสวัสดิ์” เมื่อฝ่ายภรรยาตั้งครรภ์ลูกคนแรก (ธรา ธำรงนาวาสวัสดิ์) ด้วยอยากให้เลือดเนื้อเชื้อไขที่กำลังจะเกิดมาได้สัมผัสกับธรรมชาติที่พร้อมพรั่งภายในบ้าน ทั้งสนามหญ้า ต้นไม้ และผืนดิน โดยมีผู้เป็นแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งข้อตกลงที่ทั้งสองมีร่วมกัน

“ผมชอบที่จะทำงานคนเดียว โดยให้ผู้หญิงอยู่บ้าน เลี้ยงลูก นั่นคือข้อตกลงแรกเพราะผมมั่นใจว่าถ้าเกิดให้ผู้หญิงไปทำงานข้างนอก บางทีค่าแต่งหน้าค่าทำผมอาจจะแพงกว่าเงินเดือนที่เขาได้รับซะอีก” ดร.ธรณ์อธิบายพร้อมหัวเราะอารมณ์ดี “อันนี้เป็นหลักทางเศรษฐศาสตร์นะ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการอยากเป็นช้างเท้าหน้า ส่วนข้อที่สอง ผม
ต้องการผู้หญิงที่สามารถทำในสิ่งที่ผมทำไม่ได้และสำคัญที่สุด สามารถรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้โดยไม่ต้องกรีดร้องโวยวายให้มากความ”

พอยกตัวอย่างได้ไหมครับ

“เช่น ลูกคนเล็กของผมป่วยหนักอยู่3 ปี เขาป่วยเป็นโรคลำไส้สั้น (ธรรธ ธำรง-นาวาสวัสดิ์) ดาวต้องอยู่โรงพยาบาลติดต่อกัน 3 ปี เพราะเราคงฝากความหวังไว้กับพยาบาล ซึ่งต้องดูแลเด็กทีหนึ่ง 50 คนมากไม่ได้ และส่วนใหญ่แล้วสาเหตุที่เด็กวัยนั้นมีโอกาสเสียชีวิตก็เพราะการติดเชื้อ เพราะฉะนั้นดาวเลย ทำแผลให้ลูกเอง จนต้องนอนโรงพยาบาล 2 อาทิตย์กลับบ้านวันเดียวตลอดสามปี ไม่ใช่ไปเช้าเย็นกลับ ซึ่งผมทำไม่ได้ แล้วผมก็มั่นใจ
ว่าผู้หญิงอีกครึ่งโลกก็ทำไม่ได้ เวิร์คกิ้งวูแมนทั่วไปทำได้ไหมล่ะ” ดร.ธรณ์ถามกลับขณะที่สายตานั้นมองไปยังแม่ของลูกชายทั้งสองคนของเขา ซึ่งเสริมขึ้นมาว่า

“ตอนนั้นเขาดูแลลูกคนโตอยู่ที่บ้านส่วนเราอยู่กับลูกคนเล็กที่โรงพยาบาล เพราะถ้าไม่ดูแลให้ดีพอก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเราโทร.เล่าอาการให้เขาฟังทุกวัน แม้จะเศร้าบ้างแต่ก็ต้องสู้ เราไม่ต้องให้กำลังใจกัน ตัวเราไม่ได้เป็นอะไร ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำไป มีลูกก็เลี้ยงกันไป ลูกโตเดี๋ยวเขาก็ต้องไป ถ้าลูกป่วยเราก็มีหน้าที่ดูแล ต้องทำทุกอย่างให้เขาดีขึ้น”

มั่นใจไหมว่าสายตาของเรามองได้ถูกต้อง

“ผมมั่นใจอยู่แล้วครับ ไม่มีมั่นใจเพิ่มขึ้นหรอก (หัวเราะ) ดาวเขาทำในสิ่งที่ผมรู้ว่าผมไม่มีวันทำได้ เขาเป็นลูกสะใภ้ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้ช่วยดูแลพ่อแม่ผม รวมถึงพ่อแม่ของเขาด้วย ดาวเคยต้องพาพ่อผมไปฉายรังสีทุกวัน แล้วก็ทำแผลให้พ่อติดต่อกัน 40 วันรวด ซึ่งผมมั่นใจมากว่าตัวเองทำไม่ได้แน่นอนนี่ก็เพิ่งพาแม่ผมไปรักษาตามาเอง เขาเจ๋งมากนั่งรอคิว 3 ชั่วโมงได้อย่างมีความสุขโดยไม่เคยบ่นเลย ซึ่งหาได้ยากมาก จนอดคิดไม่ได้ว่าชาติก่อนดาวคงเป็นนางพยาบาลมาก่อน ใครก็ตามที่ทำในสิ่งที่ผมทำไม่ได้แน่ๆ นี่ผมก็ต้องชื่นชมและชื่นชอบ ยิ่งเป็นเมียตัวเองก็ต้องชื่นชมและชื่นชอบเป็นพิเศษ” ดร.ธรณ์หัวเราะลั่น ขณะที่ฝ่ายภรรยาเสริมขึ้นมาสั้นๆ ถึงเหตุปัจจัยที่ทำให้ทุ่มเทชีวิตจิตใจไปกับหน้าที่ของความเป็นแม่และลูกสะใภ้ว่า “ก็เขาไม่ให้ทำงาน เขาเคยบอกว่าตั้งใจให้เราอยู่เฉยๆ อยู่เป็นเพื่อนเขา แล้วก็เลี้ยงลูกอยู่แล้วน่ะค่ะ เลยมีเวลาว่างค่อนข้างเยอะ” (หัวเราะ)

แต่ดูเหมือนว่าสามีอารมณ์ดีแสนไฮเปอร์คนนี้จะไม่เห็นด้วยนัก

“หลังจากช่วงเวลา 3 ปีที่ดูแลลูกคนเล็กจนอาการดีขึ้นแล้ว ดาวก็ต้องดูแลพ่อผมเป็นระยะ ๆ ตอนนี้ก็เริ่มดูแลแม่ ไหนจะต้องดูแลพ่อแม่เขาด้วย แค่นี้ก็เหนื่อยมากพอแล้วละ”

แล้วทำให้รักภรรยามากขึ้นไหมครับ

“ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าผมไม่รู้จักคำว่ารักหรอก ผมอาจจะแค่บอกดาวไปว่า ‘เก่งดีนะ’”

ตั้งแต่รู้จักกันมา ดร.ธรณ์บอกรักคุณดาวบ่อยไหมครับ

“ครั้งเดียว ตอนขอแต่งงาน” คุณดาว ตอบ ซึ่งทำให้ ดร.ธรณ์แปลกใจไม่น้อย

“เคยบอกด้วยเหรอ”

“อื้ม” คุณดาวตอบเสียงสูง ขณะที่ฝ่ายสามียังคงไม่ยอมแพ้

“บอกว่า…”

“ก็บอกว่ารักนั่นแหละ จำไม่ได้ก็ช่างเถอะ ฉันจำได้ของฉันเอง”

ส่วนที่สนุกที่สุดของการเป็นคนในครอบครัวนี้คืออะไร

“กวนตีนกันไปมา จุดนี้ชัดเจนมากๆ เลยนะคะ” คุณดาวตอบก่อนจะหัวเราะเสียงใส

“ลูกผมก็กวนตีน” ดร.ธรณ์เสริมภรรยา

“กวนกันไปมาในบ้านนี่แหละ” คุณดาวพูดกลั้วหัวเราะ

แล้วข้อดีของการเป็นภรรยาของผู้ชายแบบ ดร.ธรณ์ ล่ะครับ

“เขาอดทนดีนะคะ เพราะว่าเราก็มีนิสัยเอาแต่ใจตัวเองสูง เขาเองก็เอาแต่ใจเหมือนกัน แล้วก็จะทำในสิ่งที่เขาอยากทำเราก็แค่อย่าก้าวเข้าไปยุ่งกับชีวิตเขา ใจใครใจมัน เขาเอาแต่ใจเขา เราก็เอาแต่ใจเราแค่เรารู้ว่าเขาเป็นอย่างนั้น แล้วเขาก็รู้ว่าเราเป็นอย่างนี้ เท่านี้ก็อยู่ด้วยกันได้แบบไม่มีปัญหาแล้วค่ะ” คุณดาวตอบ พร้อมเผยถึงเคล็ดลับชีวิตคู่ของเธอไปในคราวเดียวกันซึ่ง ดร.ธรณ์เสริมในประเด็นหลังเอาไว้ว่า

“คุณลองมองไปข้างหน้าก็ได้ครับมองไปอีก 20 ปีว่าคุณจะต้องเจออะไรบ้าง ถ้าคบกับคนนี้ อีกหน่อยก็จะต้องมีลูก
ถ้าเกิดลูกเจ็บจะอยู่ด้วยกันได้ไหม วันหนึ่งพ่อแม่คุณต้องเข้าโรงพยาบาล แฟนคุณจะดูแลพ่อแม่คุณได้ไหม หรือคุณแก่ตัวไปเขาจะอยู่ดูแลคุณได้ไหม เมื่อคุณตัดสินใจแล้วและมั่นใจแน่นอน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากมาย ที่จะต้องมาคอยปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงอะไร…ก็แค่นั้นเอง ตรงไปตรงมา ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อนมากมาย”

• พ.ศ 2559 ผศ. ดร.ธรณ์กับบุญยรัตน์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เดินทางกลับจากสาธารณรัฐไอซ์แลนด์…

เป็นอีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับดินแดนที่พื้นที่ 62% ของประเทศเป็นที่รกร้าง และอีก 11% เป็นธารน้ำแข็งเฉกเช่นคนอื่น ๆ หรือเหตุการณ์อื่นๆ อีกมากมายที่ผ่านมา…แล้วก็ผ่านไป

วันเวลาอาจทำให้หลายสิ่งเปลี่ยนไป…แต่สำหรับคู่รักผู้ไปเยือนและจากมา ซึ่งใช้ชีวิตร่วมกันมานานร่วม 2 ทศวรรษ…

บางที…วันเวลาก็ไม่ได้ทำให้บางสิ่งต้องเปลี่ยนแปลง

story : พีรภัทร โพธิสารัตนะ
photo : ดวงพร
style : กุลกณิช
แต่งหน้า - ทำผม ศิโรบล ปานชู
ผู้ช่วยช่างภาพ อัครพนธ์ อภิชาติโยธิน

12 เทรนด์งานแต่งงานยอดฮิตที่บ่าวสาวปิดไม่มิด

รวมสารพันเรื่องราวจากประสบการณ์ไปร่วมงานแต่งนับร้อยที่ เราอยากกระซิบบอกว่าที่เจ้าสาวดังๆ ว่า เราสรุป เทรนด์งานแต่งงาน ยอดฮิตที่บ่าวสาวนิยมจัดกันมาฝาก

 1. เทรนด์เจ้าสาวเปลี่ยนหลายชุด จากเดิมที่เป็นชุดไทยในพิธีเช้ากับชุดฉลองสมรสในช่วงค่ำ เดี๋ยวนี้กลายเป็นชุดยกน้ำชา ชุดหมั้น ชุดรดน้ำสังข์ ชุดรับแขกตอนค่ำ ชุดตอนเปิดตัวขึ้นเวที และจบที่ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ช่วยตัดปัญหาเลือกชุดที่ชอบที่สุดไม่ได้ เราไม่มีคอมเมนต์ในเรื่องนี้ เพราะขึ้นอยู่กับงบประมาณและความพอใจล้วนๆ แต่ขอเตือนว่า ถ้าเปลี่ยนหลายชุดต้องกะจังหวะเวลาดีๆ เพื่อไม่ให้เกิดเดดแอร์ที่เจ้าสาวหายตัวไปจากงานนานเกินเหตุ

 2. อาฟเตอร์ปาร์ตี้จัดหนัก บ่าวสาวยุคนี้ทุ่มทุนกับช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้มาก ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม เครื่องดื่มและเพลงมันๆ บางคู่ลงทุนจ้างดีเจค่าตัวแพงมาเปิดแผ่นแข่งกับผับดังเลยทีเดียว เพราะถือว่าจะได้จัดงานในแบบที่ชอบอย่างเต็มที่ และเดอะแก๊งได้สนุกสุดเหวี่ยงแบบไม่ต้องเกรงใจผู้ใหญ่ที่ทยอยกลับไปตั้งแต่ช่วงโยนดอกไม้แบบรู้งาน

3. บ่าวสาวถูกขโมยซีน คู่รักกระเป๋าหนักที่คิดจะทุ่มทุนจ้างดารานักร้องยอดนิยมมาโชว์ในงาน ขอให้จัดซีเควนซ์ดีๆ และคำนึงถึงธรรมชาติของแขกด้วย เช่น คนดังที่มีแฟนคลับเยอะมากไม่ควรจัดให้ขึ้นโชว์กลางพิธีการ เพราะอาจเกิดเหตุการณ์แขกตามกรี๊ดคนดังออกไปข้างนอกจนไม่เหลือใครอยู่ร่วมพิธีต่อ และในทางกลับกันถ้างานของเรามีแต่แขกผู้ใหญ่ (มาเร็วกลับเร็ว) ก็ไม่ควรจัดโชว์ไว้ช่วงท้ายสุด เพราะจะไม่มีใครอยู่ดู

 4. ย้อมไฟอลังการ  ถ้าคิดจะย้อมไฟ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการย้อมไฟขณะมีพิธีการบนเวทีเพราะจะทำให้ใบหน้าบ่าวสาวที่บรรจงแต่งมาอย่างสวย รวมทั้งใบหน้าอันทรงเกียรติของท่านประธานกลายเป็นสีม่วง ฟ้า ชมพู…ดูไม่จืดจริงๆ

 5. เพื่อนเจ้าสาวเป๊ะเว่อร์  จากที่เมื่อก่อนเจ้าสาวแค่กำหนดสีแล้วให้เพื่อนแยกย้ายไปหามาใส่เอง วิธีนี้เจ้าสาวสบายแต่อาจไม่ได้ดั่งใจ เช่น กำหนดสีชมพูก็อาจได้เพื่อนเจ้าสาวในชุดชมพูบานเย็นยันนมเย็น ดังนั้นถ้าคิดจะใช้มุกนี้ควรระบุโทนสีให้ชัด แต่ถ้าเจ้าสาวซีเรียสว่าเพื่อนจะต้องแต่งตัวเหมือนกันเปี๊ยบเพื่อให้ถ่ายรูปออกมาเป๊ะเว่อร์ ก็อาจต้องลงทุนตัดหรือเช่าให้เพื่อนๆ ใส่

01_13ThingWed

 6. ธีมงานเริด  เดี๋ยวนี้แต่ละงานครีเอตมาเต็ม ทั้งโครงสร้างดอกไม้ ซีเควนซ์ ชุด – หน้า – ผม ไม่ว่าจะเป็นธีมเทพนิยาย ธีมต่างประเทศ ธีมการ์ตูน ฯลฯ ซึ่งถ้าจะยึดธีม เราขอแนะว่าควรดึงเฉพาะเอกลักษณ์เด่นๆ ของสิ่งนั้นมาแจมกับงานแต่งอย่างพอเหมาะ เพราะไม่เช่นนั้นอาจแปลกจนเกินเข้าใจ หรืออีกสิบปีมาดูรูปแล้วเขินตัวเอง แต่ถ้าคู่ของคุณ don’t care ก็เต็มที่เลยจ้า

7. พรีเซ็นเทชั่นสวยๆ ไม่ซ้ำใคร  กลายเป็น must have ที่เราพบได้ในทุกงาน ขอบอกว่าทั้ง 3D และแอนิเมชั่นนั้นราคาสูงมาก ควรสอบถามให้แน่ชัดว่าพรีเซ็นเทชั่นนี้จะทำขึ้นใหม่เพื่อคู่ของเราโดยเฉพาะหรือเป็นเรื่องราวหวานแบบสแตนดาร์ดแล้วค่อยใส่ตัวละครเข้าไป ซึ่งถ้าอยากได้เรื่องราวที่ทำขึ้นใหม่เพื่อคู่เราก็อาจต้องยอมจ่ายมากหน่อย และสำหรับคู่ที่ต้องการงานที่ดูกระชับและโมเดิร์น พรีเซ็นเทชั่นราคาเรือนแสนอาจไม่ใช่สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง

8. ของชำร่วยจากเซินเจิ้น  ของชำร่วยที่บ่าว – สาวไปซื้อหามาเองจากเมืองจีนเป็นที่นิยมมากในช่วงนี้ เพราะสนนราคาสุดคุ้ม แถมมีให้เลือกหลากหลายมาก เช่น แฟลชไดรฟ์รูปต่างๆ เครื่องคิดเลข ชุดอโรมา ฯลฯ กรณีนี้รวมถึงชุดเจ้าสาวจากเมืองจีนที่ถูกแสนถูกด้วย

 9. ระวังเซอร์ไพร้ส์ที่ไม่ค่อยเซอร์ไพร้ส์  เช่น วีทีอาร์โชว์เล่นดนตรีที่รู้ว่าเล่นเป็นอยู่แล้ว ในขณะที่ถ้าทำในสิ่งที่ทำไม่เป็น เช่น เจ้าสาวแอบไปเรียนเปียโนมาเพื่อการนี้…ถึงจะเพี้ยนบ้างแต่ก็ซึ้ง

 10. ช็อตบังคับ  ขอบอกว่าช็อตถ่ายรูปประเภทโชว์ทะเบียนสมรส หอมแก้มโชว์ เอาหน้าผากและจมูกชนกัน ฯลฯ เราไม่จำเป็นต้องทำตามๆ กันเสมอไป บางช็อตที่สวยและทั้งคู่รู้สึกโอเคที่จะทำก็ทำ แต่บางช็อตที่ไม่อยากทำก็ปฏิเสธได้

11. ปัญหาของยุค หลาย G!!  ทุกงานจะมีช่างภาพมือสมัครเล่นชูมือถือและไอแพ็ดเต็มหน้าเวที จนกลายเป็นโฟร์กราวนด์อยู่ในทุกภาพ ของแบบนี้ห้ามกันไม่ได้ แต่แก้ไขได้ด้วยการจัดพื้นที่เฉพาะเอาไว้สำหรับกล้องหลักของงาน

02_13ThingWed
12. งานแต่ง DIY  เป็นอีกเทรนด์ที่อินมาสักพักและน่าจะยังอยู่อีกนาน เพราะหลายคู่ยึดคติที่ว่า “ความทรงจำอันยิ่งใหญ่ไม่จำเป็นต้องมาพร้อมสเกลงานใหญ่โต” จัดงาน DIY ต้องคุมดีๆ ไม่อย่างนั้นจะเลยเถิดทั้งไอเดียและงบ

Credit magnoliarouge.com, theperfectpalette.com, stylemepretty.com

เป็นตัวเองได้เต็มร้อยกับ 20 ชุดแต่งงานจาก Vera Wang Spring 2018

นับตั้งแต่เปิดตัวคอลเล็กชั่น ชุดแต่งงาน ครั้งแรกในปี 1990 ชื่อของแบรนด์ Vera Wang ก็เป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่บัดนั้น และกลายมาเป็นแบรนด์ชุดแต่งงานในดวงใจของว่าที่เจ้าสาวทั่วโลก เพราะไม่ว่าจะเป็นทายาทนักการเมืองดังอย่างอีวานก้า ทรัมป์ ลูกสาวของดอนัลด์ ทรัมป์, เชลซี คลินตัน ลูกสาวของบิล คลินตัน และแอชลีย์ ไบเดิน ลูกสาวคนสวยของโจ ไบเดิน ก็ล้วนแต่เลือกชุดแต่งงานจากแบรนด์นี้ด้วยกันทั้งนั้น รวมไปถึงเหล่าบรรดาคนดังมากมาย อาทิ ลิลลี่ อัลดริดจ์, มารายห์ แครี, วิกทอเรีย เบคแคม, ฮิลารี ดัฟ และอลิเชีย คีส์ ที่เมื่อเอ่ยคำว่า “I Do” ก็มีชื่อของ Vera Wang ขึ้นมาทันที

ถ้าคุณถามถึงจุดเด่นของ Vera Wang สิ่งที่หลายคนติดใจ ได้แก่การนำลูกไม้ลวดลายหวานๆ มาจัดวางและจับคู่กับเนื้อผ้าชั้นดีที่คัดแล้วว่าเหมาะกับดีไซน์หลากหลาย จนได้เป็นชุดเจ้าสาวที่ลงตัวได้กับทุกรูปร่าง ทั้งยังดีไซน์ออกมาในรูปแบบชุดแต่งงานหลายรูปทรง เอาใจว่าที่เจ้าสาวที่อยากได้ชุดเกาะอก ชุดมีแขน ไม่มีแขน แม้แต่ชุดที่ดูไม่สมมาตรก็ยังลงตัวอย่างพอดิบพอดีได้อย่างน่าอัศจรรย์ เช่นเดียวกับคอลเล็กชั่นล่าสุดที่เปิดตัวออกมาในช่วง Spring 2018 ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้

ชุดแต่งงาน

ไอเดียเทคนิกสีน้ำ กิมมิกเนรมิตงานแต่งให้เก๋ขั้นสุด

คนรักงานศิลป์หลายคนชื่นชอบงานที่ใช้เทคนิคสีน้ำ เหตุผลเพราะไม่ดูแข็งจนเกินไปทั้งในเรื่องของลายเส้นและน้ำหนักสีที่ระบายลงไป ซึ่งความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ในตัวแบบนี้แหละที่ทำให้ว่าที่บ่าวสาวหลายคนนำมาสร้างเป็นไอเดียในการจัด งานแต่งงาน

  1. ไอเดียการใช้เทคนิคสีน้ำมาทำการ์ดเชิญมางานแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็นการนำมาระบายเป็นพื้นหลังในการ์ดแต่งงานหรือใช้พู่กันวาดเป็นตัวอักษรสื่อความหมายดีๆ

2. โทนสีเสื้อผ้าและรองเท้าของบ่าวสาว ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากสีน้ำที่มีโทนสีไล่ระดับไปตามน้ำหนักมือและความเจือจางของสี

3. ป้ายชื่อแขกสำหรับนั่งร่วมพิธีสวมแหวนหมั้นก็ใช้เทคนิคเดียวกันนี้มาระบายเป็นพื้นหลัง โดยเลือกโทนสีเข้ากันและเลือกสีตัวอักษรเป็นสีขาวสะอาดตา

4. Blessing Card ที่เตรียมไว้ให้กับแขก ก็ทำลวดลายก้อปปี้สีน้ำมาเตรียมไว้ แขกชอบใจสีไหนลายใด หยิบมาเขียนความในใจได้เลย

5. ชุดจานชามและที่รองจานบนโต๊ะซิตดาวน์ดินเนอร์ไม่หลุดธีมแถมยังสดใสด้วยการเลือกโทนสีแนวซัมเมอร์

6. งานแต่งทั้งทีต้องมีเค้กใช่ไหมล่ะ แต่จะเป็นเค้กกลมดอกไม้หวานๆ ก็หลุดธีมไปหน่อย ลองออเดอร์กับเชฟดูสิคะว่าให้ใช้พู่กันระบายสีน้ำลงไปสร้างลวดลายแทน

7. ตกแต่งจุดต่างๆ ในงานด้วยอารมณ์สีน้ำนำ ทั้งโทนสีและรูปแบบการลงสีตามใจบ่าวสาวได้ทุกจุดที่ต้องการ

5 สีชุดแต่งงานไม่ขาวแต่เจิด

บรรดาว่าที่เจ้าสาวทั้งหลาย อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่า ชุดแต่งงาน ที่คุณใช้ควรจะเป็นสีขาวเท่านั้น เราจะพามาดูชุดแต่งงานสี ที่ทำให้เจ้าสาวสวยเจิดแบบไม่ต้องสนเทรดดิชั่น

สีไอวอรี่1สำหรับสาวๆ ที่ยังอยากใส่ชุดแต่งงานในโทนสีที่ไม่โดดไปจากสีขาว คุณอาจเลือกชุดแต่งงานในโทนสีไอวอรี่หรืองาช้าง เพราะนอกจากจะเป็นสีที่ดูสุภาพและไม่โดดจากสีขาว ยังเข้ากับผิวสีน้ำผึ้งของสาวไทยอีกด้วย เพราะหากสาวๆ กลุ่มนี้ใส่ชุดแต่งงานสีขาว สีของชุดจะดูตัดกับสีผิวเกินไปและอาจทำให้ดูหมอง

สีเทา2จุดเด่นของสีเทาคือเป็นสีโทนเย็นและดูโมเดิร์น สำหรับสาวๆ ที่อยากดูทันสมัย คุณอาจเลือกตัดชุดแต่งงานในโทนสีเทา ข้อควรระวังคือการเลือกเฉดสีที่นำมาตัดเป็นชุด หากเลือกสีเทาเข้ม นอกจากเจ้าสาวจะดูไม่เดิร์นแล้ว ยังทำให้ดูหมองอีกด้วย ดังนั้นให้คุณเลือกชุดสีเทาอ่อน เพื่อให้ดูทันสมัยและดูไม่หมองจนเกินไป

สีชมพู, พีช, และโอลด์โรส3สำหรับสาวหวาน อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าคุณไม่สามารถใส่ชุดแต่งงานสีสันสดใสได้ คุณสามารถเลือกเลือกชุดแต่งงานในโทนสีชมพู พีช หรือโอลด์โรส โดยคงความคลาสสิคและกลิ่นอายของงานแต่งแบบเทรดดิชั่นไว้ด้วยการเลือกในโทนสีอ่อน หรือเลือกชุดที่มีสีสันเด่นชัดหากงานของคุณไม่เป็นทางการมากนัก

สีทอง4หากคุณชื่นชอบสีทองเป็นพิเศษและจัดงานแต่งงานแบบหรูหรา ชุดแต่งงานในโทนสีทองเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ข้อควรระวังคือให้คุณเลือกจากแบบชุดแต่งงานที่เป็นสีทองหรือใกล้เคียง เพื่อจะได้เห็นภาพรวมที่ใกล้เคียงกับชุดในวันจริง เพราะการเลือกแบบจากชุดแต่งงานสีขาวแล้วมาตัดด้วยผ้าสีทอง ชุดที่ออกมาอาจไม่เหมือนที่คิด

สีแดง5สำหรับสาวเปรี้ยว คุณอาจตัดชุดแต่งงานในโทนสีแดง เจ้าสาวหลายคนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สวมชุดแต่งงานสีนี้แล้วดูเจิดเพียงไร หากคุณเลือกจะใส่ชุดแต่งงานสีแดง สิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญคือเฉดสี สำหรับสาวผิวขาวสามารถเลือกสีแดงได้แทบทุกเฉด สาวผิวเข้มให้เลือกสีแดงเชอรี่ เบอรี่ หรือไวน์แดง ส่วนสาวผิวสองสีให้เลือกสีแดงอมส้ม หรือแดงแบล็กเบอรี่

แม้สาวๆ จะคุ้นเคยกับภาพชุดแต่งงานสีขาวมาจนชินตาและเห็นเจ้าสาวใส่ตามกันมาแทบจะเป็นธรรมเนียม แต่ขอบอกเลยว่า ชุดแต่งงานในโทนสีอื่นๆ ก็สวยไม่แพ้สีขาวเช่นกัน

ภาพ: www.ruffledblog.com, www.onewed.com, www.admin.crazyforus.com

Kiehl’s ชวนคุณปลุกความสดชื่นให้ผิวใน 5 นาทีกับ Calendula & Aloe Soothing Hydration Masque

Calendula & Aloe Soothing Hydration Masque มาส์กสูตรใหม่ของคีลส์ที่มีกลีบดอกคาเลนดูล่าเก็บด้วยมือเป็นส่วนผสมหลัก ช่วยฟื้นคืนความสดชื่นและความมีชีวิตชีวาให้ผิวหลังใช้เพียง 5 นาที

Kiehl’s Since 1851ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณและเส้นผมคุณภาพเยี่ยมจากนิวยอร์กเสาะหาส่วนผสมธรรมชาติชั้นเลิศที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุดจากทั่วโลกมาตั้งแต่ปี  ค.ศ. 1851และแนะนำให้ลูกค้าได้รู้จักกับกลีบดอกคาเลนดูล่า (Calendula)หรือดอกดาวเรืองฝรั่ง ในช่วงคริสต์ทศวรรษ  1960 ด้วยการเปิดตัวCalendula Herbal Extract Toner โทนเนอร์ที่ประกอบด้วยกลีบดอกคาเลนดูลาซึ่งเก็บด้วยมือนี้เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าทันทีที่วางจำหน่ายด้วยสรรพคุณคืนความสดชื่นและปลอบประโลมผิว

วันนี้คีลส์ยังคงนำคุณประโยชน์ในการปลอบประโลมผิวอันอ่อนโยนของดอกคาเลนดูล่ามาใช้ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเปิดตัว Calendula & Aloe Soothing Hydration Masque มาส์กเนื้อเจลที่มีกลีบดอกคาเลนดูล่าและว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)เป็นส่วนผสมหลัก มาส์กสูตรนี้คืนความสดชื่นและเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิว มอบความรู้สึกเย็นสบายผิวทันทีที่ใช้

Calendula & Aloe Soothing Hydration Masque เหมาะสำหรับผิวทุกประเภท แม้ผิวบอบบางที่มีแนวโน้มแพ้ง่ายช่วยให้ผิวรู้สึกชุ่มชื่น ผ่อนคลาย และสดชื่นขึ้นทันทีหลังทาบนผิวไว้เพียง5 นาทีแล้วล้างออก จึงเป็นขั้นตอนเสริมที่ง่ายดายและรวดเร็วสำหรับการดูแลบำรุงผิว Calendula Masque สามารถใช้เป็นประจำได้ถึง3ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อช่วยปลุกผิวให้สดชื่นขึ้นทันทีหลังโดยสารเที่ยวบินระยะไกล วันอันเคร่งเครียด หรือคืนที่นอนไม่หลับคุณสมบัติปลอบประโลมผิวพร้อมฟื้นบำรุงความมีชีวิตชีวาทำให้มาส์กสูตรนี้ดีต่อผิวที่หมอง หรือขาดความชุ่มชื้นน้ำมันหอมระเหยจากมะนาว(LemonEssential Oil)และคาโมไมล์(ChamomileEssential Oil)เพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นและผ่อนคลายให้กับสูตรปราศจากสารแต่งสีและพาราเบน (paraben)

Calendula & Aloe Soothing Hydration Masque ขนาด 100 มล. ราคา 1,750 บาทขนาด 28 มล. ราคา 650 บาท วางจำหน่ายให้คุณได้ปลุกพลังผิวแล้ววันนี้

9 แบบเค้กแต่งงานสีจัดดีเทลเต็มรับหน้าร้อน

วันนี้เราคัดแบบ เค้กแต่งงาน มาให้ว่าที่บ่าวสาวที่กำลังหาควานหาแบบเค้กเหมาะๆ รับหน้าร้อนมาให้ค่ะ แต่ละแบบนอกจากสีจะจัดจ้านแล้ว ยังใส่รายละเอียดให้อารมณ์หน้าร้อนสุดๆ อีกด้วย แต่ละแบบจะเป็นยังไง ดีเทลไหนเหมาะกับคุณตามมาดูกันแบบต่อแบบเลยค่ะ

เค้กแบบที่ 1 : เค้กแต่งงานชั้นเดียวสีชมพูหวานประดับความสดใสสีจัดด้วยดอกไม้หน้าร้อนสีแรงๆ สุดโดดเด่น

เค้กแบบที่ 2 : นำสีคู่ตรงข้ามกับสีโทนร้อนอย่างสีม่วงมาทำเป็นลายหินอ่อนเพิ่มรายละเอียดให้กับเค้กแต่งงาน 5 ชั้น

เค้กแบบที่ 3 : เรียบง่ายด้วยการนำผลไม้เมืองร้อนอย่างสับปะรด มะพร้าวมาประดับไว้บนชั้นบนสุด แค่นี้ก็เป็นเค้กแต่งงานรับซัมเมอร์แล้ว

เค้กแบบที่ 4 : สาวกช็อกโกแลตสุดเข้ม แค่นำดอกไม้เมืองร้อนที่ให้สีแดงแรงฤทธิ์หรือสีส้มสีเหลืองสุดจัดจ้านมาประดับสลับชั้นก็ซัมเมอร์สุดๆ

เค้กแบบที่ 5 : เค้กวนิลาง่ายๆ แต่ทำให้เป็นซัมเมอร์สุดคลูด้วยการนำผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

เค้กแบบที่ 6 : ผสมผสานให้ลงตัวกับเค้กแต่งงานสีหวานและคุ้กกี้รูปเปลือกหอยให้ความรู้สึกได้เที่ยวทะเลรับหน้าร้อน

เค้กแบบที่ 7 : ผลไม้สดอาจไม่หวานพอ จะนำผลไม้เชื่อมในหน้าร้อนมาตกแต่งเค้กแต่งงานก็กลายเป็นเค้กรับซัมเมอร์ได้นะคะ

เค้กแบบที่ 8 : ใช้มาการอง…ขนมหวานยอดฮิตที่ปีหลังๆ มาแรงในบ้านเรามาถมให้เต็มแต่ละชั้นของเค้กก็หวานรับซัมเมอร์ได้เหมือนกันค่ะ

เค้กแบบที่ 9 : ร้อนนี้มีแต่ความสดชื่นแล้วจะขาดได้ไงกับการนำดอกไม้มาประดับเค้กแต่งงาน แต่เพราะดอกไม้สดอาจเหี่ยวได้กว่าจะถึงเวลาตัดเค้กก็เปลี่ยนเป็นดอกไม้ประดิษฐ์สีสดใสแทนสิคะ

เป็นยังไงบ้างคะกับ 9 แบบเค้กแต่งงานรับซัมเมอร์ที่เราหาไอเดียมาฝากกัน ลองดูกันตามชอบใจได้เลยนะคะว่า แบบไหน โดนใจ เสร็จแล้วส่งรูปให้เชฟทำตามกันเลยค่ะ

ภาพ : http://www.marthastewartweddings.com/