Bangkok City Break

เอนกายในใจกลางมหานครที่ “โซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท (Sofitel Bangkok Sukhumvit)” ซิตี้โฮเทลที่ผสมผสานความโมเดิร์นของศิลปะฝรั่งเศสกับความอ่อนหวานในแบบไทยจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของความผ่อนคลายที่ห้ามพลาดเช็คอิน
untitled-101

ความโอ่งโถงของโถงล็อบบี้ที่นำภาพถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศฝรั่งเศสมาแต่งแต้มเป็นงานศิลปะสุดโมเดิร์น ตัดกับการจัดดอกไม้เป็นพานพุ่มไทยโบราณ ทั้งหมดสร้างความแตกต่างให้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาสัมผัส และแม้ที่นี่จะเป็นโรงแรมบนถนนสายเศรษฐกิจที่วุ่นวายติดอันดับหนึ่งของเมืองกรุง แต่โซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท ก็ไม่ลืมที่จะใส่ความผ่อนคลายด้วยการใช้งานศิลปะเข้ามาตกแต่งในทุกมุม

ex6a5318

untitled-1

โดยชั้นล่างสุดของโรงแรมจัดแบ่งพื้นที่เป็น S Gallery ที่มีงานศิลปะจากศิลปินทั้งไทยและต่างประเทศหมุนเวียนเข้ามาร่วมจัดแสดง ด้านห้องพักนั้นเติมเต็มด้วยภาพถ่ายที่บอกเล่าความหมายของกรุงเทพฯ และปารีส อิ่มอารมณ์การพักผ่อนด้วยการปูเตียงแบบพิเศษอันเป็นซิกเนเจอร์ของโซฟิเทล พร้อมด้วยโปรแกรม My Bed Experience ที่ช่วยให้ผู้เข้าพักนอนหลับฝันดียิ่งขึ้น ซึ่ง My Bed Experience นี้มีให้เลือกทั้งความนุ่มของหมอน กลิ่นอะโรมาที่ใช้ในห้อง โปรดักส์สปาในห้องน้ำ รวมไปถึงเครื่องดื่มอุ่นๆ ที่จัดเสิร์ฟก่อนนอน และสำหรับคู่ฮันนีมูนและคู่แต่งงาน ทางโรงแรมยังมีชุดอาฟเตอร์นูนทีสุดน่ารัก รวมทั้งแชมเปญให้ได้ดื่มฉลองในวันสุดพิเศษอีกด้วย

ex6a5333

นอกจากห้องพักแล้ว Le Spa เป็นอีกไฮไลต์ที่คู่รักทั้งหลายห้ามพลาด ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์สปาจาก L’ Occitane และห้องทรีตเมนต์ที่ออกแบบเป็นเตียงคู่สำหรับคู่รักแล้ว ที่นี่ยังมีห้องซิกเนเจอร์ที่ครบทั้งห้องสตรีม และอ่างจากุชชี่สุดผ่อนคลาย

untitled-1135

มาถึง โซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท แล้วห้ามพลาดกับห้องอาหารฝรั่งเศส L’ Appart ที่นำเอาเสน่ห์ของวิลล่าหรูในปารีสและไลฟ์สไตล์ของชาวปารีเซียงมาเป็นแรงบันดาลใจ เสิร์ฟอาหารฝรั่งเศสต้นตำรับพร้อมด้วยวิวดาวบนดินกลางมหานครเป็นของหวาน

โซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท โทร. 0-2126-9999 เว็บไซต์: www.sofitel-bangkok-sukhumvit.com

เปิดภาพรัก 12 คู่ผู้นำและสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา

เรามักจะเห็นความรักของดาราเซเลบกันอยู่บ่อยครั้ง แต่เรื่องราวความรักของคนดังระดับผู้นำประเทศสหรัฐอเมริกา น้อยนักที่คนทั่วไปจะได้เห็น สัปดาห์นี้ Weweddingguide.com จึงนำบรรดาแหล่าผู้นำและสตรีหมายเลขหนึ่งมาให้ยลโฉมกัน บอกเลยว่าตอนพวกเขากำลังเป็นหนุ่มเป็นสาว สวยหล่อทุกคน

1.HILLARY RODHAM AND BILL CLINTON

ภาพรัก สตรีหมายเลขหนึ่งและผู้นำอเมริกา
ฮิลลารี โรดแฮม และ บิล คลินตัน

ใครจะรู้ล่ะว่า ฮิลลารี โรดแฮม ตัวเต็งของการลงเลือกตั้งประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา จะเคยปฏิเสธคำขอแต่งงานของ บิล คลินตัน ! แต่ด้วยอะไรก็แล้วแต่เธอได้รับรักและเปลี่ยนใจแต่งงานกับบิล ในปี 1975 จากนั้นอีกไม่กี่ปีผ่านมา บิล คลินตัน ก็ได้รับชัยชนะและดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 42 ส่วนฮิลลารีก็ได้กลายเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกาไปโดยปริยาย

 

2.BARACK OBAMA AND MICHELLE ROBINSON

ภาพรัก สตรีหมายเลขหนึ่งและผู้นำอเมริกา
มิเชล โรบินสัน และ บารัค โอบามา

มิเชล โรบินสัน สตรีหมายเลขหนึ่ง คู่ชีวิตของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประธานาธิบดีคนที่ 44 และยังเป็นผู้นำประเทศผิวสีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าทรัมป์จะได้ชัยชนะจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2016 แต่ในตอนนี้ตำแหน่งก็ยังเป็นของเขาอยู่ วันวานรักในอดีตของมิเชลและโอบามานั้นทั้งคู่พบรักกันในที่ทำงานซึ่งในขณะนั้นทั้งคู่ทำงานอยู่ที่สำนักกฎหมาย ในเมืองชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์  และได้สานสัมพันธ์รักเรื่อยมาจนหมั้นหมายและแต่งงานกันเมื่อปี 1992 มีลูกสาวที่น่ารักด้วยกัน 2 คน

 

3.JIMMY CARTER AND ROSALYNN SMITH

 

จิมมี่ คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีคนที่ 39 ของสหรัฐอเมริกาและโรซาลีนน์ สมิธ ภรรยาของเขา พบรักและออกเดตกันเมื่อปี 1945 ซึ่งในขณะนั้นเขายังเป็นทหารในเมืองอนาโปลิส หลังจากที่คบหาดูใจกันได้ซักพักทั้งคู่ก็ได้จูงมือเข้าวิวาห์ในปี 1946 และมีลูกสาวและชายทั้งหมด 4 คน

 

4. GEORGE H.W. BUSH AND BARBARA PIERCE

ภาพรัก สตรีหมายเลขหนึ่งและผู้นำอเมริกา
จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช และ บาร์บาร่า เพียซ

จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช หรือที่เราเรียกว่าเขาสั้นๆ ว่า จอร์จ บุช ประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐอเมริกาได้พบรักกับสาวน้อย บาร์บาร่า เพียซ เมื่อตอนเธออายุเพียง 16 ปีเท่านั้นและในขณะที่เขาเป็นทหารเรือหนุ่มรูปงาม ทั้งคู่สานสัมพันธ์เรื่อยมา จนกระทั้ง จอร์จ บุชไปสงครามโลกครั้งที่ 2 กลับมาเพียงสองสัปดาห์ทั้งคู่ก็ได้เข้าพิธีแต่งงานเมื่อปี 1945

 

5.GEORGE W. BUSH AND LAURA WELCH

ภาพรัก สตรีหมายเลขหนึ่งและผู้นำอเมริกา
จอร์จ ดับเบิล ยู บุช และ ลอรา เวลซ์

คนพ่อไปแล้วเรามาดูคนลูกกันต่อดีกว่า จอร์จ ดับเบิล ยู บุช  บุตรชายคนโตของ จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช เขานั้นได้สืบสานตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาโดยดำรงตำแหน่งเป็นคนที่ 43 ความรักของจอร์ ดับเบิลยู บุชนั้นเขาพบรักกับ ลอรา เวลซ์ ในขณะที่กำลังปิกนิกบาร์บีคิวในสวนหลังบ้าน หลังจากนั้นผ่านมาเพียงสามเดือนทั้งคู่ได้หมั้นหมายและแต่งงานในปี 1977 และยังมีลูกโซ่คล้องใจเป็นลูกสาวสาวฝาแฝดอีกด้วย

 

6. RONALD REAGAN AND JANE WYMAN

ภาพรัก สตรีหมายเลขหนึ่งและผู้นำอเมริกา
โรนัลด์ เรแกน และ เจน วายแมน

โรนัลด์ เรแกน นักแสดงฮอลลีวูดชื่อที่ผันตัวมาเล่นการเมืองและได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 40 ก่อนหน้าที่เขาจะแต่งงานกับแนนซี เรแกน น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาเคยแต่งงานมาแล้วกับนักแสดงสาว เจน วายแมน แต่ภายหลังทั้งคู่ได้หย่าร้างกัน ต้องบอกเลยว่าในงานแต่งงานของทั้งคู่นั้นชุดเจ้าสาวเริ่ดสุดเรียกได้ว่า เจน วายแมน สวมชุดแต่งงานที่สวยงาม งานขนเฟอร์ที่เห็นได้น้อยมากในชุดเจ้าสาวก็ฟรุ้งฟริ้งได้ใจจริงๆ

 

7. RONALD REAGAN AND NANCY DAVIS

ภาพรัก สตรีหมายเลขหนึ่งและผู้นำอเมริกา
โรนัลด์ เรแกน และ แนนซี่ เดวิส

หลังจากที่โรนัลด์ เรแกนได้หย่าร้างกับ เจน วายแมน เขาก็ได้พบรักกับ แนนซี่ เดวิส ซึ่งเป็นนักแสดงสาวฮอลลีวูดอีกเช่นกัน โดยทั้งคู่ได้ร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่อง Hellcats of the Navy และได้สานสัมพันธ์เรื่อยมา หนึ่งปีถัดมาทั้งคู่ได้เข้าพิธีแต่งงานกันที่ลอสแองเจอลิส โดยในขณะนั้นโรนัลด์ก็มีลูกติดมาด้วยจากภรรยาคนเก่าด้วยแต่นั้นไม่ใช่ปัญหา หลังแต่งงานแนนซี่ได้เลิกทำงานบันเทิงโดยหันมาดูแลครอบครัวเป็นหน้าหลัก เธอยังได้เคียงบ่าเคียงไหล่จนกระทั้ง โรนัลด์ได้รับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 40 ถึงแม้ปัจจุบันทั้งคู่จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่คนทั่วไปก็ยกย่องให้เป็นตำนานรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

 

8. JOHN F. KENNEDY AND JACKIE BOUVIER

ภาพรัก สตรีหมายเลขหนึ่งและผู้นำอเมริกา
จอห์น เอฟ เคนนาดี และ แจ๊คกี้ บูเวีย

จอห์น เอฟ เคนนาดี หรือ JFK ชื่อย่อที่คนทั่วไปนิยมเรียก เขาประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา และเป็นประธานาธิบดีที่คนสหรัฐยกย่องมากที่สุดคนหนึ่ง เพราะได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศเป็นอย่างมากแต่กลับเสียชีวิตเมื่ออายุยังน้อยเพราะถูกลอบยิง  ย้อนกลับไปเมื่อปี  1951 จอห์น ได้พบรักกับ แจ๊คกี้ บูเวีย สาวสวยผู้ดีชาวอังกฤษ  งานนี้ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะตกหลุมรักกันอย่างแรง JFK และ Jackie O เข้าพิธีแต่งงานเมื่อปี 1953 ที่ Newport  Rhode Island ภายในงานมีแขกที่มาร่วมงานถึง 700 คน เป็นงานที่คลาสสิกทั้งชุดแต่งงานและบรรยากาศในงานก็ยังดูอบอุ่น เป็นกันเอง

 

9.DWIGHT EISENHOWER AND MAMIE GENEVA DOUD

ภาพรัก สตรีหมายเลขหนึ่งและผู้นำอเมริกา
ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ และ มามี เจนีวา เดาด์

หลายคนอาจจะไม่ค้อยคุ้นชื่อหรือคุ้นตากับประธานาธิบดี ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 34 ซึ่งเขากับภรรยา มามี เจนีวา เดาด์ เรียกได้ว่าเป็น ไอคอนทางแฟชั่นในสมัยนั้นดูจากรูปถ่ายแต่งงานแบบ Portrait  ที่หลายคนชื่นชอบมาก ทั้งคู่เข้าพิธีวิวาห์อย่างหวานชื่นที่เมืองโคโลราโด ภายหลังจากที่เข้าพิธีหมั้นในวันวาเลนไทน์

 

10. GERALD FORD AND ELIZABETH “BETTY” BLOOMER

ภาพรัก สตรีหมายเลขหนึ่งและผู้นำอเมริกา
เจอรัลด์ ฟอร์ด และ เบ็ตตี้ ฟอร์ด

เจอรัลด์ ฟอร์ด ประธานาธิบดีคนที่ 40 และในอดีตยังเป็นนักกฎหมายและทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2 เจอรัลด์ สมรสกับ เบ็ตตี้ ฟอร์ด และถึงแม้ว่าเบ็ตตี้จะเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา  ทั้งคู่เข้าพิธีแต่งงานเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม คศ.1948  และใช้ชีวิตคู่ยาวนานถึง 58 ปีมีลูกสาวและชายรวมกัน 4 คน

 

11. HARRY S. TRUMAN AND BESS WALLACE

ภาพรัก สตรีหมายเลขหนึ่งและผู้นำอเมริกา
แฮรี่ เอส. ทรูแมน และ เบส วอลเลส

แฮรี่ เอส. ทรูแมนประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 33 และ เบส วอลเลส แต่งงานกันเมื่อปี 1919 ในโบสถ์เล็กๆ ที่ภายในงานตกแต่งไปด้วยสวนดอกไม้ ชุดแต่งงานที่นิยมสมัยนั้นดูจากภาพจะเป็นชุดเดรสแขนและกระโปรงยาว ตัวกระโปรงมีระบายเป็นชั้นแต่ไม่มาก ส่วนกิมมิคของชุดนี้คือ สวมหมวกปีกกว้าง ทำให้ทั้งชุดดูคลาสสิกและมีความสวยหวาน เรียบร้อย

 

12. LYNDON B JOHNSON AND LADY BIRD TAYLOR

ภาพรัก สตรีหมายเลขหนึ่งและผู้นำอเมริกา
ลินดอน บี. จอห์นสัน และ เลดี้ เบิร์ด จอห์นสัน

แน่นอนว่าในภาพนี้คงไม่ใช่ในงานแต่งงานแต่เป็นภาพของประธานาธิบดี ลินดอน บี. จอห์นสันกับเลดี้ เบิร์ด จอห์นสัน ทั้งคู่เข้าสมรสเมื่อปี 1934 ณ เมืองซาน แอนโตนิโอ้ รัฐเท็กซัส ด้วยความชื่นมื่น

 

ภาพวันวานยังคงสวยงามถึงแม้ว่าปัจจุบันแต่ละคู่จะได้เลิกรา หรือ เสียชีวิตไปแล้ว แต่หลายคู่ก็ยังมีความรักให้กันตราบนานเท่านานที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่

 

เรื่อง : Nitcha

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

http://www.instyle.com/

 

 

 

 

 

 

 

 

 

20 โรงแรมฮิตที่บ่าวสาวเทใจไปจัดงานแต่ง

ในช่วงที่ผ่านมามีโรงแรมไหนฮอตฮิตบ้าง เราส่องมาให้แล้วสำหรับบ่าวสาวที่วางแผนจะแต่งงานภายในปีนี้หรือยาวไปปีหน้า ก่อนอ่านเตรียมปากกา สมุดจดเอาไว้ให้ดี ข้อมูลมาครบแล้ว

  1. โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพ (Millennium Hilton Bangkok)
โรงแรมยอดฮิตจัดงานแต่ง
ห้องแกรนด์บอลรูม รองรับแขกได้สูงสุด 700 คน โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพ (Millennium Hilton Bangkok)

ห้องแกรนด์บอลรูม ดีไซนทันสมัยโฉบเฉี่ยวโดดเด่นด้วยโคมไฟแผ่นกลมรูปทรงคล้ายร่ม  รองรับแขกได้สูงสุด 700  คน   (ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ 650,000 บาท ) และห้องธนบุรี บอลรูม  ด้วยการตกแต่งห้องที่เรียกได้ว่าเป็นฝาแฝดในแบบฉบับย่อส่วน รองรับแขกได้สูงสุด 250 คน  (ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ 350,000 บาท)

ราคาอาหาร : ค็อทเทล 1,150 บาท ต่อคน, บุฟเฟ่ต์ 1,500 บาทต่อคน, โต๊ะจีน ขั้นต่ำโต๊ะละ 16,500 บาท

ติดต่อ : โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพ (Millennium Hilton Bangkok)  ถนนเจริญนคร โทร. 0-2442-2020

  1. โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพ (Plaza Athenee Bangkok a Royal Meridien)
โรงแรมยอดฮิตจัดงานแต่ง
ห้องแอทธินี่ คริสตัล ฮอลล์ รองรับแขกได้มากถึง 3,000 คน โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพ (Plaza Athenee Bangkok a Royal Meridien)

ห้องแอทธินี่ คริสตัล ฮอลล์ ห้องจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่เน้นความเรียบหรูพร้อมให้บ่าวสาวตกแต่งเพิ่มเติมได้เต็มที่รองรับแขกได้มากถึง 3,000 คน  ส่วนห้องแกรนด์ฮอลล์ที่เล็กลงมาหน่อย เป็นห้องสไตล์หรูหราคลาสสิคเหมาะสำหรับจัดงานในธีมสีทองและขาว สามารถรองรับแขกได้สูงสุด 900 คน

ราคาอาหารเริ่มต้น: ค็อทเทล 1,290 บาท ต่อคน, บุฟเฟ่ต์ 1,500 บาทต่อคน, โต๊ะจีน ขั้นต่ำโต๊ะละ 16,500 บาท

ติดต่อ : โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพ (Plaza Athenee Bangkok a Royal Meridien) ถนนวิทยุ  โทร. 0-2254-0109 

  1. โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ (Grand Hyatt Erawan)
โรงแรมยอดฮิตจัดงานแต่ง
ห้องบอลรูม รองรับแขกได้สูงสุดถึง 1500 คน โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ (Grand Hyatt Erawan)

ห้องบอลรูมกว้างตกแต่งในโทนสีทองและครีม เหมาะสุดๆกับงานแต่งในธีมหรูหรา รองรับแขกได้สูงสุดถึง 1500 คน

ราคาอาหารเริ่มต้น: ค็อทเทล 1,200 บาท ต่อคน (ขั้นต่ำ 600 คน) , บุฟเฟ่ต์ 1,700 บาทต่อคน, โต๊ะจีน ขั้นต่ำโต๊ะละ 17,000 บาท

ติดต่อ : โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ (Grand Hyatt Erawan) ถนนราชดำริ โทร. 0-2254-1234

  1. โรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพ (W Hotels)

โรงแรมยอดฮิตจัดงานแต่ง
ห้องเกรท รูม รองรับแขกได้สูงสุด 500 คน โรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพ (W Hotels)

ห้องเกรท รูม  ห้องแต่งงานที่ตกแต่งอย่างทันสมัย  เหมาะมากกับสำหรับบ่าวสาวที่อยากให้งานแต่งออกมาในธีมสนุกสนาน รองรับแขกได้สูงสุด 500 คน

ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ 399,999 บาท

ติดต่อ : โรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพ (W Hotels) ถนนสาทรเหนือ โทร.0-2344-4000

  1. โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล  กรุงเทพ (Mandarin Oriental Bangkok)
โรงแรมยอดฮิตจัดงานแต่ง
ห้องรอยัล บอลรูม ลวดลายแบบยุคหลุยส์ รองรับแขกได้สูงสุดถึง 1000 คน โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ

บ่าวสาวที่มีงานแต่งงานในธีมหรูหรา ปราสาทราชวัง เจ้าหญิงเจ้าชาย ต้องจัดที่ ห้องรอยัล บอลรูม ด้วยการดีไซน์ในโทนสีครีมทอง และลวดลายแบบยุคหลุยส์ สามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง 1000 คน

ราคาอาหารเริ่มต้น: ค็อทเทล 1,300 บาท ต่อคน, บุฟเฟ่ต์ 2,000 บาทต่อคน, โต๊ะจีน ขั้นต่ำโต๊ะละ 21,888 บาท

ติดต่อ :   โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล  กรุงเทพ (Mandarin Oriental Bangkok) ถนนเจริญกรุง โทร. 0-2659-9000

  1. โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพ  (Shangri – la Hotel Bangkok)
โรงแรมยอดฮิตจัดงานแต่ง
ห้องแกรนด์บอลรูม รองรับแขกได้มากถึง 1,600 โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพ (Shangri – la Hotel Bangkok)

ห้องแกรนด์บอลรูม ในสไตล์หรูหราโอ่อ่าเชิญได้ตั้งแต่เพื่อนเก่าคุณแม่ ยันเพื่อนใหม่ของบ่าวสาวเพราะสามารถรองรับแขกได้มากถึง 1,600 คนเลยทีเดียว

ราคาอาหารเริ่มต้น: ค็อทเทล 1,400 บาท ต่อคน, บุฟเฟ่ต์ 1,750 บาทต่อคน, โต๊ะจีน ขั้นต่ำโต๊ะละ 18,888 บาท

ติดต่อ :   โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพ  (Shangri – la Hotel Bangkok)  ถนนใหม่ โทร. 0-2236-8579

  1. โรงแรมดุสิต ธานี (Dusit International)
โรงแรมยอดฮิตจัดงานแต่ง
ห้องนภาลัย บอลรูม รองรับคนได้มากถึง 1,500 คน โรงแรมดุสิต ธานี (Dusit International)

ห้องนภาลัย บอลรูม ห้องจัดงานในสไตล์หรูหรา เน้นสีขาว – ทอง เป็นหลัก จึงเหมาะกับคู่รักที่ชอบความอลังการ ที่สำคัญคือรองรับคนได้มากถึง 1,500 คน แต่ถ้าอยากมีงานแต่งที่เล็กลงมาหน่อย แต่ยังคงหรูหราไม่ทิ้งกัน ต้องที่ห้องดุสิตธานี ฮอลล์ ที่รองรับคนได้สูงสุด 500 ท่าน

ติดต่อ : โรงแรมดุสิต ธานี (Dusit International)  ถนนพระราม 4 โทร. 0-2200-9000

  1. โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพ (Siam Kempinski Hotel Bangkok)
โรงแรมยอดฮิตจัดงานแต่ง
ห้องฉัตราบอลรูม รองรับคนได้สูงสุดถึง 1,200 คน โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพ (Siam Kempinski Hotel Bangkok)

ห้องฉัตราบอลรูม ห้องจัดเลี้ยงที่เน้นความเรียบหรู แต่ก็ง่ายต่อการที่บ่าวสาวจะตกแต่งเพิ่มเติมให้เป็นในสไตล์ที่ชื่นชอบ รองรับคนได้สูงสุดถึง 1,200 คน

ราคาอาหารเริ่มต้น: ค็อทเทล 1,400 บาท ต่อคน(ขั้นต่ำ 500 คน) , โต๊ะจีน ขั้นต่ำโต๊ะละ 20,000 บาท (ขั้นต่ำ 40 โต๊ะ)

ติดต่อ : โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพ (Siam Kempinski Hotel Bangkok) ถนนพระราม 1 โทร. 0-2162-9000

  1. โรงแรม ดิโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพ (The Okura Prestige Bangkok)
โรงแรมยอดฮิตจัดงานแต่ง
ห้องแกรนด์ บอลรูม รองรับคนได้สูงสุด 350 คน โรงแรม ดิโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพ (The Okura Prestige Bangkok)

ห้องแกรนด์ บอลรูม ตกแต่งโทนสีน้ำตาลที่ให้ความรู้สึกสงบ เหมาะสำหรับจัดงานที่ไม่เน้นความเอิกเกริกแต่อบอุ่นและเป็นกันเอง สามารถรองรับคนได้สูงสุด 350 คน

ราคาอาหารเริ่มต้น: ค็อทเทล 1,050 บาท ต่อคน (ขั้นต่ำ 300 คน) , บุฟเฟ่ต์ 1,400 บาทต่อคน(ขั้นต่ำ 170 คน) , โต๊ะจีน ขั้นต่ำโต๊ะละ 17,000 บาท (ขั้นต่ำ 15 โต๊ะ )

ติดต่อโรงแรม ดิโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพ (The Okura Prestige Bangkok)  ถนนวิทยุ โทร. 0-2687-9001

  1. โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพ (The St. Regis Bangkok)
โรงแรมยอดฮิตจัดงานแต่ง
ห้องบอลรูม รองรับคนได้ 475 คน โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพ (The St. Regis Bangkok)

ห้องบอลรูม หรูหราด้วยผ้าไหมบุผนังในโทนสีน้ำตาลที่ให้ความรู้สึกสงบ แถมโคมไฟระย้ายังทอประกายวิบวับเล่นแสงกับคริสตัลช่วยให้งานสว่างไสวในความทรงจำได้มากขึ้น สามารถรองรับคนได้ 475 คน

ราคาอาหารเริ่มต้น : ค็อทเทล 1,300 บาท ต่อคน, บุฟเฟ่ต์ 1,600 บาทต่อคน, โต๊ะจีน ขั้นต่ำโต๊ะละ 19,000 บาท (ขั้นต่ำ 15 โต๊ะ )

ติดต่อ : โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพ (The St. Regis Bangkok) ถนนราชดำริ โทร. 0-2207-7777

ติดตามอีก 10 โรงแรมฮิต ได้ในหน้าที่ 2

The Chic Man โปรแกรมเด็ดเสริมหน้าเด้งให้หนุ่มๆ หล่อเป๊ะไร้ริ้วรอย

Review สัปดาห์นี้ขอเอาใจหนุ่มๆ ที่อยากมี หน้าเด้ง และสุขภาพดี ด้วยสปาแพ็คเกจ “The Chic Man” ซึ่งเป็นโปรแกรมการปรนนิบัติและบำรุงดูแลคุณผู้ชายครบถ้วนตั้งแต่หัวจรดเท้าจาก อนันตรา สปา โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ  โดยทีเด็ดของโปรแกรมนี้อยู่ที่สปาทรีตเม้นต์ใบหน้า ELEMIS Skin IQ+ Facial for Men ที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล Men’s Spa Treatment of the Year ประจำปี 2559 จากงานประกาศรางวัลประจำปี AsiaSpa Awards 2016 ณ ประเทศฮ่องกง

สปาสำหรับผู้ชาย
The Chic Man โปรแกรมการปรนนิบัติและบำรุงดูแลคุณผู้ชายครบถ้วนตั้งแต่หัวจรดเท้าจาก อนันตรา สปา โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ

แพ็คเกจสปาสำหรับสุภาพบุรุษ “The Chic Man” นี้ใช้เวลาทั้งหมดอยู่ที่ 4 ชั่วโมง 30 นาที เริ่มตั้งแต่การออกกำลังกายกับครูฝึกส่วนตัว ที่หนุ่มๆ สามารถออเดอร์และปรึกษาเทคนิกกับเทรนเนอร์ส่วนตัวของคุณคนนี้ได้เลยว่าต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อหรือกระชับส่วนไหนเป็นพิเศษ ซึ่งหลังจากเรียกเหงื่อไปพอหอมปากหมอคอแล้ว จะเป็นในส่วนของการเสริมหล่อกับโปรแกรมการจัดแต่งหนวดและทรงผมจากช่างมืออาชีพที่ขอบอกเลยว่า ฝีมือเก๋าสุดๆ เพราะอยู่คู่กับโรงแรมมายาวนาน หากต้องการให้เก็บทรงแบบไหน หล่อเนี้ยบระดับใด ขอให้บอก แม้จะอายุเยอะ แต่การันตีว่าสไตล์โดนใจคนยุคนี้อย่างแน่นอน

สปาสำหรับผู้ชาย
จัดแต่งหนวดและทรงผมจากช่างมืออาชีพ หนึ่งในบริการของแพ็คเกจสปาสำหรับสุภาพบุรุษ “The Chic Man”

หลังจากการจัดแต่งทรงผมเรียบร้อยแล้ว ก็ต่อกันการดูแลสุขภาพเล็บมือและเท้าโดยช่างผู้ชำนาญการที่แม้คุณจะเป็นคุณผู้ชายที่ไม่เคยเข้าร้านทำเล็บเลยก็ไม่ต้องขยาดไป เพราะเจ้าหน้าที่ดูแลด้านนี้ได้รับการฝึกมาอย่างชำนาญและมือเบามากๆ ที่สำคัญ ยังช่วยพิจารณาด้วยว่ารูปเล็บและมือของแต่ละคนเป็นแบบไหน ควรหรือไม่ควรที่จะตัดหนังมุมเล็บออกไหม รวมไปถึงช่วยแนะนำทรงเล็บที่เหมาะสมเพื่อความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ก่อนที่จะพาหนุ่มๆ เข้าสู่โปรแกรมเด็ดที่ถือว่าเป็นตัวเอกของโปรแกรมนี้ค่ะ

ELEMIS Skin IQ+ Facial for Men

อย่างที่เราเกริ่นไปแล้วว่า ความเด็ดของ The Chic Man อยู่ที่สปาทรีตเม้นต์ใบหน้า 75 นาที กับ ELEMIS Skin IQ+ Facial for Men ซึ่งครั้งนี้เราได้เชิญ Mr. GG  ว่าที่เจ้าบ่าวตัวจริงมาเป็นผู้พิสูจน์คุณภาพของสปาตัวนี้กับเรา ส่วนทรีตเม้นต์ที่ว่านี้ดีงามแค่ไหน มาทำความรู้จักรายละเอียดของทรีตเม้นต์และฟังความรู้สึกจากผู้ที่ได้พิสูจน์ด้วยตัวคุณเองได้เลยค่ะ

สปาสำหรับผู้ชาย
ELEMIS Skin IQ+ Facial for Men คือโปนแกรมลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า โดยการใช้ผลิตภัณฑ์จาก ELEMIS ประเทศอังกฤษ

ELEMIS Skin IQ+ Facial for Men คือโปนแกรมดูแลริ้วรอยบนใบหน้าในลดลง โดยการใช้ผลิตภัณฑ์จาก ELEMIS ประเทศอังกฤษ ควบคู่ไปกับฝีมือการนวดประทินผิวหน้าในแบบฉบับของอนันตรา สปา ค่ะ กระบวนการแรกสู่การหล่อเด้งคือ การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก ซึ่งการทำความสะอาดผิวหน้าในขั้นแรกคือการช่วยเปิดรูขุมขน ก่อนที่จะลงโทนเนอร์ ทำความสะอาดอย่างล้ำลึกอีกครั้ง

จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการสครับผิวหน้าเพื่อขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพรวมถึงนำเครื่องสำอางหรือครีมกันแดดออกไปให้หมดจด ช่วยทำให้หน้ากระจ่างใส ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการมาร์กหน้า 15-20 นาที ซึ่งในระหว่างที่มาร์กไม่ต้องกลัวว่าจะนอนเบื่อ เพราะในระหว่างนี้พนักงานจะนวดผ่อนคลายให้ที่บริเวณคอบ่าไหล่หรือตามจุดที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษก่อนจะปิดท้ายโปรแกรมด้วยการลงมอยเจอร์ไรเซอร์พร้อมๆ กับนวดใบหน้าด้วยท่าที่ฝึกมาโดยเฉพาะเพื่อยกกระชับผิวและริ้วรอยให้ตื้นขึ้น

“ปกติแล้วผมไม่คอยได้เข้าไปรับบริการสปาเท่าไหร่ โดยเฉพาะการดูแลผิวหน้าอาจเรียกได้ว่านานๆ ครั้งจะเข้าไปดูแลสักที เพราะด้วยงานที่ทำประกอบกับความเป็นผู้ชาย จึงไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องนี้สักเท่าไหร่ แต่เมื่อเข้ามารับบริการ ELEMIS Skin IQ+ Facial for Men รู้สึกว่า สิ่งที่ได้รับ เป็นอะไรที่มากกว่าการที่ผิวหน้าดูดีขึ้นครับ

สปาสำหรับผู้ชาย
ลงมอยเจอร์ไรเซอร์พร้อมๆ กับนวดใบหน้าด้วยท่าที่ฝึกมาโดยเฉพาะเพื่อยกกระชับผิวและริ้วรอยให้ตื้นขึ้น

“สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ ผลิตภัณฑ์ที่ทางอนันตรา สปา เลือกใช้ไม่ได้มีกลิ่นแรงเลย ต่างจากตอนแรกที่คิดไปเองว่าถ้าเป็นผลิตภัณฑ์อะไรพวกนี้อาจมีการปรุงกลิ่นเข้าไป ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่จะไม่ค่อยคุ้น ฉะนั้นสัมผัสแรกในเรื่องกลิ่นสำหรับผมเลยให้คะแนนเต็มนะ ส่วนเรื่องเนื้อผลิตภัณฑ์ผมอาจบอกไม่ได้เต็มที่แบบผู้หญิงนะครับ แต่เท่าที่สัมผัสได้ในตอนที่พนักงานนำมาดูแล ก็ไม่รู้สึกว่าเหนอะหนะ แต่กลับรู้สึกว่าซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว ซึ่งตรงนี้ ผมว่าแม้ไม่ได้สัมผัสด้วยมือตัวเอง แต่ผิวหน้ารับรู้ได้

“เรื่องรูปแบบการนวดเนี่ย อาจเพราะว่าไม่ได้เข้าสปาบ่อยๆ แต่ที่รู้สึกคือ สบายและผ่อนคลายมากครับ ผมเชื่อว่าประสบการณ์ของพนักงานที่ดูแลช่วยทำให้ลูกค้าผู้ชายไม่รู้สึกอึดอัดนะ เพราะผู้ชายบางคนอาจจะเกร็งๆ เวลาต้องมานอนนวดหน้า แต่การดูแลในทรีตเม้นต์นี้ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้านในครอบครัวใหญ่ที่มีคนมาดูแล เพราะสิ่งที่สังเกตได้คือ ถ้าเป็นสปาอื่นๆ อาจจะคัดพนักงานที่อายุน้อยกว่านี้มาดูแล แต่การเลือกพนักงานสูงวัยมาดูแลลูกค้าไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกว่า ไม่มีแรงนวดหรืออะไรทั้งนั้น แต่กลับรู้สึกว่าคือความใส่ใจในความชำนาญและความเป็นมืออาชีพที่จะมามอบให้เรามากกว่า พอบวกย้อนกลับไปที่ตัวผลิตภัณฑ์ เลยทำให้รู้สึกลงตัวมากๆ

“ถ้าถามว่าหลังทำ หน้าเราไม่มีริ้วรอยเลยไหมแล้วผมตอบว่า ไร้ตีนกาเลยคงเป็นการโกหก เพราะการทำทรีตเม้นต์แบบนี้ ผมเชื่อว่าทำครั้งเดียวไม่เห็นผลชัดเจน จึงขอวัดที่ความผ่อนคลายเป็นสำคัญ อย่างผมทำงานมาหนัก การเข้ามารับการดูแลทรีตเม้นต์นี้ทำให้ได้พักผ่อน และได้ผิวหน้าที่ชุ่มชื่นกลับไป แถมพนักงานยังได้ให้คำแนะนำการดูแลผิวหน้าในวัย 30+ กลับไปด้วย เท่านี้ก็คุ้มค่าแล้วครับ

ก่อนที่จะกล่าวลาสปาสำหรับหนุ่มๆ ในครั้งนี้ เรามีคำแนะนำจากอนันตรา สปา มาฝากกัน ถึงเทคนิกการดูแลตัวเองที่สามารถทำได้ไม่ว่าคุณจะเป็นหนุ่มหรือสาวคือ ถ้าคุณอายุมากขึ้นจะต้องดื่มน้ำมากขึ้นด้วยนะคะ  เพราะความชุ่มชื่นและประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวจะลดลงกว่าตอนที่อายุยังไม่มาก จึงต้องมีการดื่มน้ำเพื่อชดเชย

นอกจากนี้หากมีเวลา ขอแนะนำให้เริ่มดูแลตัวเองด้วยการทำสปาและเลือกใช้ลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้หน้าหนุ่มๆ ของคุณก็จะอยู่คู่กับคุณไปนานกว่าเดิม แล้วรับรองค่ะว่า ต่อให้คุณจะเป็นเจ้าบ่าวไปแล้ว สาวๆ ก็ยังเหลียวแน่นอน

“ELEMIS Skin IQ+ Facial for Men” จาก The Chic Man สร้างสรรค์มาเพื่อคุณผู้ชายโดยเฉพาะ ซึ่งต่อให้คุณไม่ใช่เจ้าบ่าว แต่รักที่จะดูแลตัวเอง บอกเลยว่าไม่ควรพลาดโปรแกรมนี้

หมายเหตุ : “ELEMIS Skin IQ+ Facial for Men” ใช้เวลา 75 นาที ราคา 5,900 บาทสุทธิ พิเศษ !! รับชุดของขวัญกิฟท์เซ็ตผลิตภัณฑ์ ELEMIS “Smooth Operator” มูลค่า 3,800 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม 2560  หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

ขอขอบคุณ อนันตรา สปา โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. โทร. 0-2253-9195

4 ทรง 41 แบบผมเจ้าสาวแห่งปี 2016

เจ้าสาวที่ยังหาทรงผมในวันแต่งงานไม่ได้ อย่าเพิ่งขมวดคิ้วเป็นโบว์จนหน้าผากเหี่ยวย่นก่อนวันแต่งงาน เพราะวันนี้ WEweddingguide รวบรวม ทรงผมเจ้าสาวยอดนิยม ในปี 2016 นิยมทำเพื่อเป็นไอเดียให้เจ้าสาว 2017 ค่ะ

 

ปล่อยผมยาวสยาย

ภาพ : room-bridal-studio-%e0%b9%82%e0%b8%97%e0%b8%a3
ภาพ : Room Bridal Studio

เป็นทรงผมที่มาแรงสำหรับเจ้าสาวในปี 2016 ทำให้คุณเจ้าสาวดูมีลุคที่ค่อนข้างผ่อนคลาย ไม่เป็นทางการเกินไปและก็ไม่หวานสุดโต่ง ถ้าเลือกปล่อยยาวสยายส่วนใหญ่คุณเจ้าสาวมักทำให้ผมเป็นลอนคลื่นดูนุ่มนวลเวลาถ่ายภาพก็อาจปัดมาข้างใดข้างหนึ่งสร้างความเป๊ะให้แก่ใบหน้า หรือถ้าหน้าตรงก็โกยผมมาแนบสองข้างแก้มเกร๋ๆ  แต่ผมทรงนี้ก็ทำให้เปรี้ยวแซ่บได้ถ้าคุณเจ้าสาวมีผมสีบรอนซ์ทอง

 

มวยสวยอมตะ

%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%98%e0%b8%ad-the-wedding-%e0%b9%82%e0%b8%97%e0%b8%a3
ภาพ : กาลนานเธอ The Wedding

เป็นทรงผมอมตะสำหรับเจ้าสาว และแม้จะเป็นผมทรงเดียวกันแต่ก็มีดีเทลยิบย่อยตั้งแต่ช่วงหน้า ที่เลือกทำได้ทั้งหวีเสยไปด้านหลังทั้งหมดหรือจะแสกกลางแสกข้างเปิดหน้าผากรับสิ่งดีๆ แต่ถ้าคุณสาวๆ ไม่มั่นใจในเหม่งของตัวเอง อาจเลือกปาดผมลงมาหน้าผาก เพื่อไม่ให้เหม่งดูเถิกเกินไปนัก

ส่วนตัวมวยก็ยังมีอีก 2 แบบ คือมวยสูง และมวยต่ำ ส่วนดีเทลก็มีทั้งรวบผมเป็นมวยแบบธรรมดา หรือจะสายหวานถักเป็นเปียก่อนก่อนจะพันเป็นมวยผม ส่วนเจ้าสาวสายวินเทจเกล้ามวยก้นหอยก็ได้ลุควินเทจเรียบหรูอมตะ

อีกอย่างที่มาแรงไม่แพ้ใครในลุคเจ้าหญิงก็คือใส่เทียร่าแล้วเกล้ามวยต่ำที่ด้านหลัง เป็นทรงที่สวยงามอลังการมากจริงๆ

 

เวลเจ้าสาว

21dayphoto%e0%b9%82%e0%b8%97%e0%b8%a3
ภาพ : 21Day Photo

เจ้าสาวกับเวลยังเป็นของคู่กันอยู่เสมอ ซึ่งการใส่เวลก็ทำได้ลุคเจ้าสาวเต็มตัวแฝงด้วยด้วยความละมุน ซึ่งทรงผมที่นิยมทำคู่กับการใส่เวลก็คือการทำมวยต่ำ และจะเพิ่มความหรูหราอลังการด้วยเทียร่าอันน้อยก็ดูดีสมฐานะเจ้าสาว

 

โพนี่แกว่งไกว

ทรงผมเจ้าสาวยอดนิยม
ภาพ : ทีมงานนิตยสาร WE

ทรงโพนี่หรือทรงเกล้าหางม้ารที่เราคุ้นเคยกันดีเป็นทรงที่มาแรงแบบเงียบๆ สำหรับเจ้าสาวที่อยากได้ลุคสบายๆ หรือจะเป็นงานเอาท์ดอร์ที่ไม่อยากรวบตึงแต่ก็ไม่โอเคถ้าจะปล่อยผมยาวให้ลมพัดกระเซิง จึงมาเป็นทรงเกล้าผมหางโพนี่เนี่ยละคะ และถ้าอยากเพิ่มกิมมิคไม่ให้ธรรมจนเกินไปก็สามารถติดดอกไม้ให้มุ้งมิ้งได้นะคะ อีกอย่างที่จะบอกคือ ทำผมทรงหางม้าแล้วดัดลอนสวอนเบาๆ ทำให้หน้าดูเด็กลงได้ด้วยนะ

4 ทรงผมของเจ้าสาว 2016 บอกเลยว่าจะยังสวยต่อเนื่องไปถึงปี 2017  รับรองว่าไม่มีคำว่าเอาท์แน่นอน

ดูแบบทรงผมเจ้าสาว…คลิก

9 รองเท้าแต่งงานที่คุณหยิบมาใส่ได้ตล๊อด ตลอด

งานแต่งงานเป็นอีเวนท์ของชีวิตที่บอกเลยว่าใช้เงินไปไม่น้อย ไหนจะทั้งค่าสถานที่ ค่าอาหาร แล้วยังมีเสื้อผ้าหน้าผมโดยเฉพาะของเจ้าสาวที่ต้องสวยเป๊ะ สวยอลัง มีแสนจ่ายแสนถึงจะใส่ได้ครั้งเดียวก็ยอมทุ่ม แต่จะดีกว่าไหมถ้าของที่ได้มาจะใส่ได้หลายครั้งเหมือนอย่างรองเท้าแต่งงานเก๋ๆ ถึงจะราคาแพงก็ยังใส่ได้เรื่อยๆ

1

  1. รองเท้าส้นสูงปรี๊ด คาดด้วยสายเส้นเล็กๆ ด้วยสีม่วงสุดเซ็กซี่แต่เพิ่มความละมุนด้วยพู่ขนฟูฟ่องและโบว์สีเดียวกัน จาก Sake แบบนี้นอกจากจะใส่คู่กับชุดแต่งงานแล้ว ชุดเที่ยวเล่นก็ทำให้ได้ลุคสนุกสนาน2015_bridescom-editorial_images-08-wedding-shoes-you-will-wear-again-large-wedding-shoes-you-will-wear-again-christian-louboutin-laser-cut-1
  2. คัชชูว์หนังสีขาวใส่ได้กับทุกสิ่งอย่าง เหมือนรองเท้าหนังสีขาวฉุลายดอกไม้จาก Christian Louboutin คู่นี้ที่ไม่ต้องหวานฟรุ้งฟริ้งมากมายแต่ก็เข้าได้ดีกับชุดแต่งงานสีขาว แถมยังมีกิมมิคที่ส้นรองเท้าไม่ต้องตรงเป๊ะ แต่มีลายคลื่นให้ดูสนุกสนาน2015_bridescom-editorial_images-08-wedding-shoes-you-will-wear-again-large-wedding-shoes-you-will-wear-again-jimmy-choo-suede
  3. รองเท้า Something Blue  จาก Jimmy Choo คู่นี้หวานละมุนไม่เว่อร์วังจนเกินไปที่จะหยิบมาใส่ในชีวิตประจำวัน แต่ก็ไม่เรียบเปี๊ยบจนไร้จุดเด่นด้วยเครื่องประดับวิบวับที่ด้านหน้าจึงสวยเด่นได้ในวันแต่งงาน2015_bridescom-editorial_images-08-wedding-shoes-you-will-wear-again-large-wedding-shoes-you-will-wear-again-oscar-de-la-renta-beaded
  4. เมทัลลิคไหมละเธอว์ รองเท้าหนังสีเงินดอกไม้จาก Oscar de la Renta สวยหรูสมฐานะเจ้าสาวแถมจับคู่กับกางเกงยีส์ก็ดูเป็นสาวร็อคได้เหมือนกัน2015_bridescom-editorial_images-08-wedding-shoes-you-will-wear-again-large-wedding-shoes-you-will-wear-again-sergio-rossi-embellished
  5. รองเท้า Sergio Rossi สีนู้ดเรียบไม่แย่งซีนชุดแต่งงาน แต่ก็มีดีเทลวิบวับสะดุดดาด้วยคริสตัลด้านหน้าและงานเมลทัลลิคเบาๆ ที่ด้านหลังของรองเท้า2015_bridescom-editorial_images-08-wedding-shoes-you-will-wear-again-large-wedding-shoes-you-will-wear-again-badgley-mischka-silk
  6. รองเท้าสีขาวทางการสุภาพๆ จาก Badgley Mischka โดดเด่นด้วยผ้าซาตินเรียบหรู ประดับคริสตัลด้านหน้านอกจากวันแต่งงานที่ใส่ได้แล้ว งานทางการก็ยังเหมาะสม
    2015_bridescom-editorial_images-08-wedding-shoes-you-will-wear-again-large-wedding-shoes-you-will-wear-again-charlotte-olympia-floral
  7. สาวสายหวานมุ้งมิ้งจุ้งจิ้งต้องชอบ Charlotte Olympia คู่นี้ ลองนึกภาพว่าจับคู่กับกระโปรงสั้นฟู่ฟ่องสิ น่ารักสุดๆ ไปเลย แถมเรียกสายตาด้วยคริสตัลเม็ดเป้งยิ่งทำให้สวยโดดเด่น2015_bridescom-editorial_images-08-wedding-shoes-you-will-wear-again-large-wedding-shoes-you-will-wear-again-stuart-weitzman-pave
  8. เจ้าสาวที่ไม่อยากได้ลุคมุ้งมิ้งกระดิ่มแมวต้องถูกใจรองเท้าดีไซน์เท่จาก Stuart Weitzman ที่ผสมผสานงานหนังและสีเมทัลลิคได้อย่างกลมกลืนแน่ๆ เพราะนอกจากจะมีความร็อคอยู่นิดๆ ยังใส่กระชับเพราะที่รัดเท้าด้านหน้ากว้างกว่าคู่อื่นๆ2015_bridescom-editorial_images-08-wedding-shoes-you-will-wear-again-large-wedding-shoes-you-will-wear-again-ivanka-trump-lace
  9. รองเท้าประดับลูกไม้แต่ไม่หวานจ๋าจาก Ivanka Trump ใส่ในวันแต่งงานก็ได้ลุคเจ้าสาวเซ็กซี่ ใส่ในวันอื่นๆ ของชีวิตก็สร้างลุค Working Woman ที่มีความปราดเปรียวไม่ต่างจากเจ้าของแบรนด์เลยทีเดียว

นี่แหล่ะค่ะแนวทางของรองเท้าแต่งงานที่ซื้อมาแล้วใส่ได้หลายครั้ง คือไม่จำเป็นต้องเป็นรองเท้าแต่งงานอลังการระดับเพชรยอดมงกุฎ แต่ก็มีความสวยสง่าอยู่เบาๆ

ขอบคุณภาพและข้อมูล brides.com

ติดตามเรื่องรองเท้าแต่งงาน

28 ทริคเตรียมสวยสู่การเป็นเจ้าสาวใน 1 ปี

หลังจากที่เหล่าสาวๆ เซย์เยสกับแฟนหนุ่มไปแล้วคราวนี้ก็ถึงคิวที่ต้องหาฤกษ์หายามเตรียมงานแต่ง ซึ่ง เราขอแนะนำว่า ถ้าไม่ฉุกละหุกต้องรีบแต่งให้เร็วที่สุด เวลาที่เหมาะสมสำหรับการเตรียมงานและเตรียมตัวคือ 1 ปี และใน 1 ปีนี้ คุณว่าที่เจ้าสาวจะต้องเตรียมตัวเพื่อความสวยให้สมฐานะ เจ้าสาว ต้องเตรียมผิว เตรียมผ้า เตรียมหน้าอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย!

1. จัดการความเครียดให้ได้ซะก่อน (เริ่มต้นตั้งแต่วันแรก)

เตรียมตัวสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
ขจัดความเครียดซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาผิวหน้าด้วยการหาเวลาออไปพักผ่อนหรือทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ

หลายๆ คนพอรู้ตัวว่าจะแต่งงานก็เครียดเรื่องนู้นเรื่องนี้มากมาย วิตกกังวลหรือตื่นเต้นมากเกินไป ขอบอกเลยนะคะว่า ถ้าคุณไม่จัดการความรู้สึกเหล่านี้ให้อยู่หมัด มันก็จะทำให้คุณนอนไม่ค่อยหลับ จากนั้นผลที่ตามมาก็คือ ปัญหาผิวหน้าทั้งสิวเอย ผื่นเอย ขอบตาดำคล้ำเอย และอีกมากมาย เพราะฉะนั้นอย่าเครียดจนเกินไป หาเวลาออไปพักผ่อน รีแล็กซ์ เข้าวัดฟังธรรม นั่งสมาธิ เล่นโยคะ หรืออะไรก็ได้ที่คุณทำแล้วได้ผ่อนคลายจากความเครียด

2. หาหมอเพิ่มความสวย (1 ปีก่อนวันแต่ง)

เตรียมตัวสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ 1 ปีก่อนวันแต่งงาน

ข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าให้ศัลยกรรมผ่านู่นเสริมนี้บนใบหน้านะจ๊ะ แต่หมายถึงว่าให้ว่าที่เจ้าสาวนัดคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังใกล้บ้าน (และเชื่อถือได้) เพื่อปรึกษาปัญหาผิวพรรณ ใครมีกระ สิว ฝา ก็รีบรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ รวมไปถึงใครมีปัญหาริ้วรอยจะฉีดจะเติมฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ร้อยไหม ก็ต้องรีบทำกันในช่วงนี้ เพราะขั้นตอนการรักษาผิวมักจะใช้เวลานานติดต่อกันหลายเดือน เพื่อประสิทธิภาพและความสวยงามที่เพอร์เฟ็กต์ ดังนั้นคุณควรจะปรึกษาและวางแผนเวลาการปรับปรุงสภาพผิวให้แม่นยำ และตัวช่วยที่ดีที่สุด เข้าใจปัญหาผิวดีที่สุดก็คงไม่พ้นคุณหมอหรอกค่ะ

3. เติม Vitamin A ให้ผิว ( 9 เดือนก่อนวันแต่ง)

เตรียมสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
Vitamin A ตัวแม่ ที่ช่วยดูแลผิวพรรณให้กับหญิงสาว ใช้ 9 เดือนก่อนวันแต่งงาน

เดี๋ยวนี้มีผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่โฆษณาความมหัศจรรย์แบบร้อยแปดพันเก้ามากมายเหลือเกินค่ะ แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับ Vitamin A ตัวแม่ ที่ช่วยดูแลผิวพรรณให้กับหญิงสาว ช่วยลดสิว ลดริ้วรอย ลดจุดด่างดำ ทำให้ผิวเรียบเนียนเสมอกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มี Vitamin A ในบ้านเราก็มีอยู่มากมาย หาซื้อกันได้ง่ายเหลือเกิน บางตัวเดินเข้าร้านขายยาก็หามาใช้ได้แล้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใดก่อนที่คุณจะไปหามาใช้มาทาก็ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรกันก่อนนะจ๊ะ

4. ทำทรีทเมนท์ผิวหน้ากับผู้เชี่ยวชาญ ( 6 เดือนก่อนวันแต่ง)

เตรียมตัวสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
ทำทรีทเมนท์ผิวหน้ากับร้านเป็นมีอาชีพจริงๆ ก่อนวันแต่งงาน 6 เดือน

ร้านทำสปาผิวพรรณมีอยู่ทั่วไปในเมืองไทย แต่สำหรับใครที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวแล้วต้องการทำทรีทเมนท์ผิวหน้า อย่าสุ่มสี่สุ่มห้าเดินเข้าสปาที่ไหนก็ได้เด็ดขาด คุณควรจะหาอ่านรีวิวให้แน่ใจว่าร้านนั้นๆ มีความเป็นมีอาชีพจริงๆ สามารถให้คำแนะนำและคำปรึกษาที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณได้อย่างแม่นยำด้วย

5. เปลี่ยนไวน์เป็นน้ำผลไม้สีเขียว ( 3 เดือนก่อนวันแต่ง)

เตรียมสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
ดื่มน้ำผลไม้สีเขียววันละ 1 แก้วแทนการดื่มไวน์ก่อนวันแต่งงาน 3 เดือน

สาวๆ คนไหนที่มีใจรักในการดื่มไวน์ ไม่ว่าจะเป็นไวน์ขาวหรือไวน์แดง WEweddingguide อนุญาตให้คุณดื่มได้ (แต่อย่ามาก) จนกระทั่งถึงเวลาก่อนแต่งงาน 3 เดือน ขอให้คุณหยุดดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ เพราะมันจะทำให้ร่างกายคุณขาดน้ำ ผิวพรรณดูไม่ชุ่มชื่น แล้วหันมาดื่มน้ำผักผลไม้ที่มีสีเขียว เพราะมีสรรพคุณช่วยเพิ่มออกซิเจนและแร่ธาตุที่ช่วยให้ระบบน้ำเหลืองดีขึ้น แนะนำให้ดื่มสัก 1 แก้วต่อวันก็จะดี

6. ลดแก้มแดงด้วยไฟ LED ( 3 เดือนก่อนวันแต่ง)

เตรียมสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังเกี่ยวกับการใช้ไฟ LED (Light Emitting Diodes) เพื่อช่วยลดรอยแดงจากแสงแดด 3 เดือนก่อนวันแต่ง

ใครที่ทำงานแล้วต้องเจอกับแสงแดดอันร้อนแรงจนแก้มน้อยๆ ของคุณเกิดอาการแดง (ที่ไม่ใช่แบบสุขภาพดี) อยู่ทุกวี่ทุกวันล่ะก็ ขอแนะนำให้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังเกี่ยวกับการใช้ไฟ LED (Light Emitting Diodes) เพื่อช่วยลดรอยแดงเหล่านั้นให้จางลงซะก่อนวันแต่งงาน

7. นวดหน้าด้วยตัวเองกันดีกว่า ( 6 เดือนก่อนวันแต่ง)

ทำสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
นวดหน้าเองโดยเสิร์ชคำว่า Facials Massage แล้วทำตามวิดีโอใน Youtube 6 เดือนก่อนวันแต่งงาน

ผ่อนคลายกล้ามเนื้อผิวหน้าด้วยการนวดหน้าด้วยตัวเองก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำไม่ยาก สามารถทำได้ทุกวัน และไม่ต้องเปลืองเงินเดินเข้าร้านนวดหรือร้านสปาด้วยนะ ใครที่อยากรู้ว่านวดหน้าด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ทำได้อย่างไร ลองเสิร์ชคำว่า Facials Massage ดูวิดีโอใน Youtube รับรองว่าทำตามได้ไม่ยาก

ปิ-ติ (PHITI) พานขันหมากร่วมสมัย

คุณว่าที่ที่กำลังมองหาดีเทลอย่างละนิดอย่างละหน่อยมาทำให้งานแต่งของตัวเองสวยสมบูรณ์แบบคงกำลังขัดใจ พานขันหมาก แบบเดิมที่ดูยังไง๊ ยังไงก็ไม่เห็นเข้ากับงานเลยสักนิด อย่าพึ่งเครียดไปค่ะ เรามีของใหม่อย่าง “ปิ-ติ (PHITI)” พานขันหมากร่วมสมัย มานำเสนอรับรองว่าดีไซน์ออกมาโดนใจบ่าวสาว แถมยังถูกหลักประเพณีเป๊ะไม่ขัดใจบุพการีแน่นอน

“ปิ-ติ” พานขันหมาก ที่ไม่จบแค่งานใบตอง

พานขันหมาก

phiti00

พอพูดถึง “พานขันหมาก” ในใจก็คงคิดไปถึงธูปเทียนและใบตอง แถมบางครั้งจากใบตองสดยังกลายเป็นใบตองผ้าซะงั้น พอไปตั้งในงานแต่งงานที่มีธีมสวยเก๋ก็ทำเอาความสวยเพอร์เฟ็คของงานลดฮวบฮาบ พาให้เซ็งตามๆ กัน ซึ่งงานนี้ไม่ใช่แค่บ่าวสาวที่เซ็งนะคะ เหล่าคนออกแบบสายอาร์ตเขาก็นอยด์เหมือนกันที่จะต้องเห็นอะไรขัดหูขัดตาก็เลยปิ้งไอเดียจับงานออกแบบมาชนกับประเพณีไทยออกมาเป็นพานหมากที่ไม่เห็นต้องง้อใบตองเลยสักนิด

phiti000

 พานขันหมากดีไซน์แฟชั่น

phiti02_01

phiti11

ก็ในเมื่อทุกสิ่งอย่างสามารถปรับโฉมให้เป็นแฟชั่นได้ แล้วทำไมพานขันหมากจะเป็นแฟชั่นกับเขาไม่ได้ ปิ-ติ จึงจัดการออกแบบพานขันหมากที่มีความร่วมสมัยและกลมกลืนไปกับงานแต่งในธีม หรือสถานที่ต่างๆ ได้อย่างแนบเนียน ทั้งงานสำหรับคู่รักษ์ธรรมชาติ ปิ-ติ ก็ออกแบบให้พานมีสีเขียวแซมขาวดูเป็นธรรมชาติท่ามกลางความมินิมอล แต่ถ้าคู่รักรุ่นใหม่ที่อยากให้งานมีความเป็นเมทัลลิค ปิ-ติ ก็เนรมิตงานที่มีความเป็นทองแดงที่ผสานความแข็งแกร่งของผู้ชายและความอ่อนโยนของผู้หญิงได้แบบลงตั๊ว ลงตัว ส่วนลูกหลานชาวจีนที่อยากได้ความโมเดิร์น ปิ-ติ ก็มีพานขันหมากแบบที่ไม่ขัดใจญาติผู้ใหญ่แถมยังถูกหลักประเพณีจีนเป๊ะๆ  มาให้เลือกใช้

phiti02_05

นอกจากชุดพานขันหมากร่วมสมัยที่ ปิ-ติ รังสรรค์ขึ้นมา หากบ่าวสาวมีความต้องการเฉพาะตัว อย่างธีมงาน สีในใจ หรือดอกไม้พิเศษแห่งความทรงจำก็ปรึกษาบอกกล่าวกับทีมดีไซเนอร์ให้เสริมแต่งเพิ่มเติมเข้าไปได้ ตามที่ใจคุณบ่าวสาวปรารถนาเลยทีเดียว เนื่องจากว่าในพานขันหมากนั้นจะมีการผสมผสานระหว่างดอกไม้สดและดอกไม้เสมือนจริงเพื่อให้ได้ความถูกต้องของสีและคุณภาพของดอกไม้แบบเป๊ะๆ ไม่ผิดเพี้ยนในธีมสีที่บ่าวสาวอยากได้

งานดีไซน์ในทุกองค์ประกอบของพิธีไทย

phiti03_08

ขอย้ำตรงนี้ว่าแม้จะเป็นงานดีไซน์ร่วมสมัย แต่ ปิ-ติ ก็ใส่ใจในทุกรายละเอียดแม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ เพราะทั้งหมดคือการออกแบบใหม่เพื่อให้งานออกมาสวยเพอร์เฟ็ค สมใจบ่าวสาวไม่ว่าจะเป็นชุดพานขันหมาก พานรับขันหมาก สายกั้นประตูเงินประทอง ยันเครื่องสังฆทานถวายพระ แต่ถ้าบ่าวสาวอยากได้เลยเถิดไปจนถึงช่อรับดอกไม้รับตัวเจ้าสาวหรือช่อบูโทเนียร์ติดอกแน่นๆ ของคุณเจ้าบ่าว เขาก็สามารถคอมพลีทลุคทั้งหมดให้ได้แบบวันสต๊อปเซอร์วิสเลยทีเดียว

ค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่า

phiti33

มาถึงตรงนี้คุณบ่าวสาวคงอยากรู้แล้วว่าค่าใช้จ่ายสำหรับพานขันหมากสุดครีเอทนี้อยู่ที่เท่าไหร่ ขอเฉลยตรงนี้เลยว่า พานขันหมาก 11 พาน ราคาเช่าชุดละ 35,000 บาท แต่ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมพิเศษอย่างถ้าเป็นพานขันหมากจีนที่มีต้องมีส้มอยู่ด้วยแล้วบังเอิ๊ญบังเอิญช่วงนั้นส้มแพงหูฉีก ก็ต้องคิดราคาเพิ่มนิดๆ หน่อยๆ ซึ่งบอกเลยว่าราคานี้ไม่ต่างจากพานขันหมากใบตองแบบเก่ามากนักหรืออาจราคาเทียบเท่ากันในบ้างรูปแบบเสียด้วยซ้ำ

phiti03_03

ส่วนเรื่องการจัดส่งทาง ปิ-ติ จะจัดส่งให้ในคืนก่อนวันแต่งงาน บ่าวสาวแค่เตรียมสถานที่เอาไว้ให้พร้อมก็พอ และควรเป็นห้องที่มีความเย็นเพื่อคงความสวยของดอกไม้สดที่อยู่ในชุดพานขันหมาก ส่วนตอนจัดเก็บก็ไม่ต้องห่วงเพราะว่าทาง ปิ-ติ ก็มารับกลับเอง

สำหรับคุณบ่าวสาวที่ยังลังเลไม่แน่ใจอยากดูผลงานของ ปิ-ติ ก็เข้าไปดูได้ในเฟซบุ๊กและอินสตราแกรมที่ @phitidesign หรืออยากโทรสอบถามเพิ่มเติมแบบชัดๆ ติดต่อ โทร. 09 – 0970 – 2843 ได้เลยมีทั้งนักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญด้านพานขันหมากรอรับสายอยู่แล้ว

เจ้าสาวเผยผิวสวยในเทรนด์แต่งหน้าใสสไตล์เกาหลี

เทรนด์บิวตี้ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้สำหรับผิวหน้าแบบสาวเอเชียอย่างเราๆ คงต้องเป็นเทรนด์แต่งหน้าสไตล์เกาหลีเลยค่ะ เพราะสาวๆเกาหลีจะเน้นการแต่งหน้าโดยเผยความเนียนใสของผิวพรรณ และเน้นความเป็นธรรมชาติด้วยลุคใสๆ

วันนี้ WEweddingguide จึงขอเอาใจสาวเอเชีย ด้วยไอเดียการแต่งหน้าเผยผิวใส เน้นความฉ่ำวาวของผิว ให้สาวๆ ได้อวดผิวสวยแบบเบาสบายในวันออกเดท ด้วยลุคธรรมชาติ สวยสดใส รับรองว่าใครเห็นเป็นต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอนค่ะ

20

19

18

17

16

15

14

13

12

11

งานแต่งในสวน งานเล็กที่ใครๆ ก็ชอบ

เรารู้ว่ามีหนุ่มสาวหลายคู่อยากจัดงานเรียบง่ายในสวนมีคนสนิทไม่กี่คน วันนี้เราจึงเอานำเสนอไอเดีย จัดงานแต่งในสวน ในสวนแบบเรียบง่ายของมายา และแอนดี้ หนุ่มสาวชาวนิวซีแลนด์ ที่เลือกจัดงานในสวน เซนต์ มากาเร็ต มาฝากกัน

600x600_1481747654930-st-margarets-garden2

งานแต่งของทั้งคู่ใช้ธีมสีที่กำลังฮิตสุดๆ ในเวลานี้อย่างธีม Green Natural  ที่มีสีหลักอย่าง ขาว เขียว และน้ำตาล

600x600_1481747664024-st-margarets-garden3

เพราะเป็นงานเรียบงายในสวน เจ้าสาวจึงเลือกเมคอัพในโทนธรรมชาติ มีความนู้ดอมชมพู

600x600_1481747669646-st-margarets-garden4

ชุดเจ้าสาวสายเดี่ยวผ้าลูกไม้ทรงเอไลน์ เปิดหลัง เป็นทรงที่ใส่สบายและเหมาะสุดกับงานเอาท์ดอร์  จาก Secret Lace Bridal

600x600_1481747862217-st-margarets-garden13

มายาและแอนดี้เลือกกล่าวคำปฎิญาณที่สนานหญ้าโล่งท่ามกลางการโอบล้อมของญาติและเพื่อนสนิท

600x600_1481747940162-st-margarets-garden21

สถานที่จัดเลี้ยงของคนทั้งคู่ จัดเป็นโต๊ะนั่งในเต้นท์สีขาวเปิดโล่งรับลมเย็นๆ

600x600_1481747877264-st-margarets-garden16

ใช้ถังไม้เก่าที่ใช้หมักไวน์มาทำเป็นขาบาร์เครื่องดื่ม

600x600_1481747992437-st-margarets-garden26

โคมไฟเข้ากับธีมงานสุดๆ ด้วยการใช้ไม้เป็นโครงง่ายๆ พันด้วยเถาวัลย์และไฟหลอดกลม

600x600_1481747947517-st-margarets-garden23

เซนเตอร์พีชเก๋ๆ ใช้ท่อนไม้มาวางหมายเลขโต๊ะ ประดับด้วยดอกไม้สีขาวช่อเล็กๆ

600x600_1481748031205-st-margarets-garden29

ท็อปเปอร์ของเค้กเป็นดอกไม้จริงสีขาวช่วยสร้างความสดชื่นให้กับเค้กเรียบๆ ก้อนนี้

เชื่อว่าทุกคนคงอยากดูภาพเต็มๆ กันแล้ว เราไปดูกันเลยดีกว่า

ธีมงานแต่งงานยังมีให้คุณเลือกอีกเพียบนะคะ

10 เว็บเด็ดแอพฯ ดังช่วยจัดการงานแต่งงาน

ยุคนี้อะไรก็มีให้เบ็ดเสร็จสะดวกสุดๆ ในเว็บไซต์ หรือล้ำไปอีกก็อยู่ในแอพฯ ใช้งานผ่านมือถือเครื่องเล็กๆ บางๆ เรื่องงานแต่งงานก็เหมือนกัน มี เว็บจัดงานแต่งงาน และแอพฯ ดีๆ อยู่ในโลกออนไลน์รอให้คุณว่าที่ทั้งหลายมาใช้งานแล้ว ลองไปดูกันนะคะ รับรองว่าแต่ละแอพแต่ละเว็บช่วยคุณได้ในช่วงยุ่งๆ ของการเตรียมงานแต่งค่ะ

  1. Carats & Cake : แหล่งรวมไอเดียจัดงานแต่งที่ดีที่สุด

2560-01-07-03_45_06-carats-cake-find-the-best-local-vendors

รวมไอเดียงานแต่งงานพร้อมการตกแต่ง แต่ที่ทำให้เด็ดที่สุดคือบอกด้วยว่าใครเป็นคนทำ เป็นคนออกแบบ เรียกได้ว่าถ้าประทับใจหนักมากก็สามารถติดต่อมาจัดงานให้ได้เลย แถมยังมีรีวิวของบ่าวสาวคู่ก่อนๆ ด้วยว่า จัดแบบนี้แล้วประทับใจแค่ไหน มีข้อดี ข้อเสียยังไงบ้าง ให้บ่าวสาวรุ่นหลังได้พิจารณาและเลือกสิ่งที่ดีที่สุด

  1. Wedding Happy : แอพสำหรับบ่าวสาวที่จัดงานแต่งเองแบบไม่พึ่งแพลนเนอร์

2560-01-07-03_48_32-wedding-app-for-your-iphone-or-ipad

เป็นแอพฯ ฟรีดีๆ ที่เริ่มต้นด้วยการให้บ่าวสาวกำหนดวัน งบประมาณ และระยะเวลาสำหรับจัดเตรียมงานแถมยังสามารถส่งจดหมายเชิญแขกได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเหมือนผู้ช่วยจัดการงานแต่งให้บ่าวสาวเลยทีเดียว  แต่น่าเสียดายที่มีในระบบ IOS เท่านั้น

  1. pantone : เว็บไซต์คู่คิดเลือกสีโดนใจ

2560-01-07-03_50_09-pantone-pantone-color-products-and-guides-for-accurate-color-communication

สำหรับบ่าวสาวที่อยากมีธีมสีหลายๆ ธีมในงานแต่ก็กลัวว่าสีจะไม่เข้ากัน หรือกำลังมองหาเฉดสีพิเศษที่ไม่ค่อยได้เห็น ก็สามารถแคปสี หรือรหัสสีจากเว็บนี้ได้เลย ง่ายสะดวกและออกมาสวยมาก

  1. Riley & Grey : เว็บไซต์เชิญเข้าร่วมงานแต่งที่เจ๋งที่สุด

2560-01-07-03_52_44-luxury-wedding-websites-_-riley-grey

สำหรับบ่าวสาวยุคใหม่ ที่ไม่อยากเชิญแขกผ่านการ์ด ที่ทั้งต้องเสียเงินพิมพ์ แถมยังเสียเวลาไปแจก ก็ทำเว็บขึ้นมาแล้วส่งถึงทุกคนไปเลยดีกว่า จะต้องรัก  Riley&Grey  เพราะเป็นทั้งเวบเท็มเพลส แล้วยังดูแลเรื่องการตอบรับของแขกทั้งหลาย ทำให้รู้จำนวนแขกแบบคร่าวๆ ได้ ก็ประหยัดเงินได้อีกเยอะ แต่เว็บนี้ไม่ฟรีนะคะ มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ $35 ต่อสัปดาห์

  1. Mint : แอพฯ ฟรีบัญชีแม่น

2560-01-07-03_55_29-mint_-money-manager-bill-pay-credit-score-budgeting-investing

สำหรับบ่าวสาวที่กลัวว่าจะควบคุมการใช้จ่ายเงินในเรื่องแต่งงานของตัวเองไม่ได้ ต้องโหลดแอพฯ นี้มาใส่มือถือให้ไวเลย เพราะว่านอกจากจะบันทึกรายรับ รายจ่ายแล้ว ยังเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารและบัตรเครดิต คุณก็เหมือนทำบัญชีไปในตัว และยังส่งเมล์มาบอกด้วยนะว่าคุณได้จ่ายค่าอะไรไปแล้วเท่าไหร่

  1. Google Drive : เอกสารทุกอย่าง ฝากไว้กับเรา

2560-01-07-03_57_22-google-drive-cloud-storage-file-backup-for-photos-docs-more

แอพฯ ดีเด่นช่วยให้อ่านเอกสารทุกอย่างได้ง่ายขึ้น และไม่พลาดทุกการจดบันทึกไม่ว่าจะเป็นไฟล์ Word Excel ยัน PDF ซึ่งคุณบ่าวสาวสามารถบันทึก  ค่าใช้จ่าย รายชื่อแขก และอื่นๆ และจะหยิบมาอ่าน มาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ แม้อยู่นอกบ้านก็สะดวกสุดๆ

  1. Trello : เว็บดีๆ เพื่อคนรักการทำเช็คลิสต์

2560-01-07-03_58_37-_tutorial-board-start-here-_-trello

บ่าวสาวบางคู่รู้สึกว่าการทำเช็คลิสต์ทำให้รู้สึกปลอดภัย หายห่วง และชีวิตจะรอดพ้นจากเหตุการณ์เฉพาะหน้า และเว็บนี้คือผู้ช่วยในการทำสารพัดเช็คลิสต์ให้คุณบ่าวสาวได้คอยเช็ค คอยสร้างลิสต์ขึ้นมาได้แบบไม่จำกัด

  1. Weddington Way : คู่คิดเพื่อนเจ้าสาว

2560-01-07-03_59_47-wedding-party-fashion-and-bridal-accessories-_-weddington-way

เป็นเว็บไซต์ที่ขายเสื้อผ้าเครื่องประดับของเพื่อนเจ้าสาวให้ช้อปปิ้งง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว และถึงแม้จะไม่ส่งมาถึงเมืองไทย แต่ก็มีชุดสวยๆ ที่เป็นไอเดียเก๋ๆ ให้แก่เพื่อนเจ้าสาวชาวไทยได้ไม่น้อย

  1. allseated : ออกแบบงานแต่งได้ง่ายๆ ด้วยมือบ่าวสาว

2560-01-07-04_00_55-allseated_-free-and-easy-floor-plans-seating-charts-and-guest-lists-for-your-e

ถ้ามีภาพงานจัดเลี้ยงอยู่ในหัว แต่อธิบายออกมาแล้วไม่มีคนเข้าใจ เว็บไซต์นี้จะให้คุณสร้างภาพอินทีเรีย 3 มิติขึ้นมาด้วยตัวคุณเอง เลือกได้เลยว่าจะวางโต๊ะตรงไหน เค้กอยู่ตรงกลางหรือเปล่า เวทีจะค่อนไปทางซ้าย  พอเสร็จเป็นรูปร่างคุณก็สามารถนำไปให้แพลนเนอร์ หรือคนจัดโต๊ะเก้าอี้ดูได้เลยง่ายสบายใจ แถมฟรีตลอดการใช้งาน

10 Postable : ไปรษณีย์ดิจิตอล

เว็บจัดงานแต่งงาน

คุณยังจำอี-การ์ดได้หรือเปล่า เว็บนี้ก็ทำหน้าที่แบบนั่นแหละ ส่งอีการ์ดไปทางอีเมล์ของผู้รับ ซึ่งมักนิยมทำกันสำหรับการ์ดขอบคุณแขกที่มีร่วมแสดงความยินดีในงาน

 

10 เว็บไซต์และแอพที่เรารวบรวมมาเสนอในครั้งนี้  เป็นของต่างประเทศทั้งหมดเลย แต่ถ้าอยากได้เว็บไทยๆ ที่ใช้งานง่ายแถมมีครบทุกฟังค์ชั่นทั้ง วางแผนจัดการงานแต่งงาน วางแผนการใช้เงิน ความรู้เรื่องงานแต่งงาน หรือจะเป็นสารพัดไอเดียแต่งงาน เว็บที่ว่าก็คือ WEweddingguide ของเรานี้เองค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : brides.com

สวยเก๋มีสไตล์ 10 การ์ดแต่งงานคนดังน่าเอาอย่าง

แม้งานแต่งงานจะผ่านไปแล้ว แต่บอกเลยนะคะว่า การ์ดแต่งงาน ของคนดังที่เราคัดมาฝาก 10 แบบด้านล่างนี้ ยังคงได้รับการพูดถึงจากว่าที่บ่าวสาวหลายคู่ แต่ละแบบจะมีจุดเด่นที่ตรงไหน ไปดูกันเลยค่ะ

การ์ดรูปภาพสุดโรแมนติกของ ซี-เอมี่ และ กระแต-หลุยส์

ซี-เอมี่ และ กระแต-หลุยส์
การ์ดแต่งงาน ซี-เอมี่ และ กระแต-หลุยส์ สไตล์ธรรมชาติบริสุทธิ์และวิวสวยๆ

เป็นสองคู่เพื่อนซี้ที่การ์ดแต่งงานเป็นไปในแนวทางเดียวกัน กับการ์ดแต่งงานที่นำภาพถ่ายพรีเวดดิ้งในบรรยากาศแสนสวยสุดโรแมนติกท่ามกลางบรรยากาศดี๊ดีที่เปี่ยมไปได้ธรรมชาติบริสุทธิ์และวิวสวยๆ มาเป็นส่วนสำคัญของการ์ดแต่งงาน ซึ่งการ์ดทั้งสองใบนี้ได้รับการดูแลจากร้านการ์ด Anya โดยทั้งคู่เน้นการเลือกฟอนด์ที่มีลักษณะเหมือนตัวเขียน ให้ความรู้สึกผ่อนคลายแต่คงความหรูหรา

การ์ดเซ็ตในซองสุดหรูของแมทธิว-ลิเดีย

แมทธิว-ลิเดีย
การ์ดแต่งงานแบบเซ็ตของแมทธิว-ลิเดีย ฉากหลังเป็นหอไอเฟล

การ์ดเซ็ตชุดนี้มีครบทั้งภาพสวยๆ ของบ่าวสาวที่บินไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกันไกลถึงฝรั่งเศส โดยภาพที่ทั้งคู่เลือกมาใช้คือ ภาพที่มีฉากหลังเป็นหอไอเฟล ตอกย้ำความอลังการเพิ่มไปอีกด้วยความหรูหราของสีขาวทอง และไม่ลืมหยอดความหวานด้วยโทนสีชมพูไล่เฉดกับการ์ด 3 แผ่นในหนึ่งเซ๊ต นอกจากนี้ ยังไม่ลืมใส่รายละเอียดความไฮไซหรูหราด้วยการฉลุลายลงไปในตัวการ์ด เห็นไหมละว่า หรูหราเว่อร์วังและงานดีเป็นยังไง

การ์ดแบบ Box Set ของ ชมพู่- อารยา

ชมพู่-อารยา
ชมพู่-อารยา การ์ดแต่งงานแบบ Box Set

การ์ดแต่งงานของสาวชมพู่-อารยา และ น็อต – วิศรุต ที่ไม่ได้มาแค่การ์ดแต่งงานแบบๆ ไร้มิติ แต่มาแบบยิ่งใหญ่อลังการด้วยลักษณะของการทำการ์ด Box Set สีขาวคลิปทอง ด้านหน้าผูกโบสีเขียว ซึ่งทั้งหมดออกแบบและผลิตอย่างปราณีตจากร้าน Miidear ภายในกล่องใส่การ์ดหลายใบลงไปเพื่อแจกแจงรายละเอียดงานอย่างครบถ้วน แต่ไฮไลน์ที่เรียกได้ว่าเป็นภาพจำของหลายคนคือ ภาพแนวย้อนยุคขาวดำของชมพู่และน๊อตที่ให้อารมณ์คลาสสิก หรูหราไปในตัว พร้อมโลโก้ตัวย่อชื่อบ่าวสาว AV แบบปั๊มนูน

การ์ดแบบ Pop Up ของ เอมมี่ – มรกต 

เอมมี่ - มรกต
การ์ดแต่งงานแบบ Pop Up ที่จำลองสถานที่จัดงานแต่งมาไว้ในการ์ด

พูดถึงเพื่อนชมไปแล้ว จะขาดงานสาวเอมมี่-มรกต ไม่ได้แน่นอน เพราะสาวเอมมี่และหนุ่มเจมส์ – จิรายุทธ เองก็ใช้บริการเรื่องการออกแบบและทำการ์ดเชิญมาจากร้านการ์ด Miidear เช่นกัน แต่เป็นรูปแบบการ์ดที่ต่างออกไป เพราะเอมมี่เลือกการ์ดเชิญแบบป๊อปอัพสีชมพู ขาวและทอง ที่เปิดออกมาแล้วพบกับการจำลองสถานที่จัดงานแต่งงานมาไว้ในการ์ด พร้อมยังลงรายละเอียดเก้าอี้สำหรับแขกลงไปด้วย เรียกว่าการ์ดใบนี้น่ารักอย่างเดียวไม่พอ ยังพรีเซ็นความหวานและไอเดียที่คนรับอยากเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึกแน่นอน

การ์ดแนวบิลบอร์ดโปรโมทหนังของ ชาม – ไอยวริญท์

ชาม – ไอยวริญท์
ถ่ายภาพตามแบบหนัง Mr. & Mrs. Smith มาไว้บนการ์ดแต่งงาน

สาวเปรี้ยวสุดมั่นอีกหนึ่งคนที่ตัดสินใจเลือกใช้ภาพถ่ายมาเป็นส่วนสำคัญในการ์ดแต่งงาน เพียงแต่งานนี้ ชาม – ไอยวริญท์ ขอแตกต่างด้วยการถ่ายภาพของเธอและแฟนหนุ่มในท่าทางที่ก๊อปปี้หนังดังอย่าง Mr. & Mrs. Smith มาเป็นการ์ดแต่งงาน โดยในตอนแรกชามอยากให้ใช้แค่ฟอนด์สีดำเท่านั้น แต่ดีไซเนอร์จากร้าน  Anya แนะนำให้เพิ่มสีแดงลงไปเพื่อความเฉี่ยวและเปรี้ยวสุด ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า หลังจากการ์ดแต่งงานของคู่นี้ร่อนไปถึงมือแขกเหรื่อ ว่าที่บ่าวสาวทั้งหลายก็เริ่มใส่ไอเดียแบบเธอเยอะขึ้น

ท้าไอร้อนกับการสูดหายใจเต็มปอดที่ วิรันดา รีสอร์ต หัวหิน กันเถอะ

พบจุดหมายใหม่แห่งคามโรแมนติกที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองกรุงกับคามผ่อนคลายที่มาพร้อมกับคามเป็นส่นตัในแบบฉบับพูลวิลล่า ณ วิรันดา รีสอร์ต หัวหิน (Veranda Resort Hua Hin) 

สำหรับนักท่องเที่ยวสายหวานแบบฉบับคู่ฮันนีมูนคงจะรู้จักชื่อของวิรันดามาไม่บ้างไม่มากก็น้อยในฐานะพูลวิลล่าส่วนตัวที่มีจุดเด่นเรื่องความอลังการของสระว่ายน้ำที่อิงแอบอยู่กับแลนด์สแคปของสถานที่นั้นๆ ได้อย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ พัทยา และวิรันดา รีสอร์ตแห่งแรกที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างชายหาดชะอำและหัวหิน ซึ่งโดดเด่นด้วยบรรยากาศการพักผ่อนที่แสนสงบและเป็นส่วนตัว พร้อมห้องพักที่มีให้เลือกถึง 3 โซน

_mg_8697_resize

โซนแรกนั้นเป็นห้องพักริมทะเลที่มีให้เลือกทั้งห้อง Deluxe ริมสระว่ายน้ำ และพูลวิลล่าริมทะเลที่มีครบทั้งสระว่ายน้ำ อ่างอาบน้ำเอาท์ดอร์ เตียงอาบแดดส่วนตัว จากุชชี่ และปาร์ตี้บาร์บีคิวเล็กๆ ริมสระไว้คอยบริการอย่างครบครัน

_mg_8694_resize

ถัดมาคือโซนพูลวิลล่าในอาคารที่แม้จะไม่ได้ตั้งประชิดติดทะเล แต่ก็มีความแกรนด์ของวิวทะเลพาโนรามาจากมุมสูงเป็นจุดตรึงทุกสายตา โดยเฉพาะห้อง Veranda Jacuzzi นั้นมีการนำอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่ไปตั้งไว้บนระเบียงด้านนอก ให้คู่รักได้แช่น้ำชมวิวได้อย่างเพลิดเพลิน

_mg_8716_resize

ด้านห้อง Sky Pool Villa ที่อยู่ในอาคารเดียวกันได้เพิ่มฟังก์ชั่นความว้าวด้วยการเสกสระว่ายน้ำส่วนตัวมาไว้ยังชั้นดาดฟ้า และที่จะขาดไม่ได้ของโซนนี้คือ Spa Pool Villa ที่นอกจากจะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่พร้อมวิวพระอาทิตย์ขึ้นเหนืออ่าวไทยอย่างไม่มีอะไรมาบดบังแล้ว ในห้องนี้ยังมีการนำเตียงสปามาจัดวางไว้ในห้องพัก เพื่อให้คู่รักสามารถทำทรีตเมนต์สปาได้แบบส่วนตัว

_mg_8837_resize

และเพื่อให้การพักผ่อนสวีตหวานยิ่งกว่า ทางวิรันดา รีสอร์ต หัวหิน จึงเปิดห้องพักโซนใหม่ Pool Suite ที่ตกแต่งให้โมเดิร์นขึ้นด้วยการใช้โทนสีขาวดำมาตัดกับความจัดจ้านของแสงไฟ พร้อมด้วยมุมพักผ่อนที่มีครบทั้งสระว่ายน้ำส่วนตัว สวนขนาดย่อม อีกทั้งบางห้องยังมีสไลเดอร์ให้ได้ไถลลื่นลงสู่สระว่ายน้ำสุดไพรเวทอีกด้วย

_mg_8843_resize

นอกจากห้องพักที่มีการปรับโฉมใหม่แล้ว วิรันดา รีสอร์ต หัวหิน ยังมีความน่ารักของมุมกาแฟ และทางเดินกระจกของห้องอาหาร ISea เป็นอีกความฮ็อตฮิตที่ถ้าไม่ได้ถ่ายรูปคู่ก็บอกได้เลยว่ามาไม่ถึงวิรันดา รีสอร์ต หัวหิน

วิรันดา รีสอร์ต หัวหิน ถ.มุงทะเล อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี  โทร.0-3270-9000 เว็บไซต์:  www.verandaresort.com

เรื่อง ศรัณยู

ภาพ วารินทร์ 

ผู้ช่วยช่างภาพ อารีรัตน์ คงเภา

งานแต่งในปราสาท…ดุจเทพนิยายในฝัน

มีสาวๆ จำนวนมากที่ฝันอยากจะแต่งงานในปราสาทเหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นได้แค่ความฝัน แต่ไม่ใช่กับเธอคนนี้ Wanwan Lei สาวชาวจีนที่ได้สานความฝัน จัดงาน แต่งงานในปราสาท Schloss Tarasp ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ งานนี้เราขอโฉบนำรูปมาให้สาวๆ ได้อิจฉากันเล่นๆ หรือใครจะเอาเป็นไอเดียในการจัดงานแต่งงานก็ไม่ว่ากัน

6

ชุดแต่งงานเกาะอกสุดคลาสสิคทรงบอลกาว์นจาก Masha Ma ดีไซน์เนอร์ชื่อดังแห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ ที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อ Wanwan โดยเฉพาะ

7

รองเท้าเจ้าสาวสีขาวไล่สีส่วงอ่อนๆ ประดับคริสตัลจาก Gianvito Rossi

8

เวลเจ้าสาวที่ออกแบบให้มีความร่วมสมัยด้วยทรงคล้ายโบว์ที่ด้านบนและประดับลายโพกาด็อต

24

เจ้าบ่าวในชุดสูท 3 ชิ้นจาก Tom Ford ที่มีเสื้อกั๊กสีขาวและไทสีเทา แม้จะต่างสีกันแต่ทั้งหมดดูเข้ากันอย่างลงตัว

12

เจ้าบ่าวกับประตูซุ้มโค้ง เป็นไอเดียถ่ายภาพที่ดูดี หากว่าเจอซุ้มโค้งแบบนี้เมื่อไหร่ รีบเข้าไปจับจองถ่ายรูปนะจ๊ะสาวๆ หนุ่มๆ

13

ได้แต่งงานในปราสาททั้งที ต้องขี่ม้านะจ๊ะจะได้ครบถ้วนเรื่องเทพนิยาย แถมอีกนิดถ้าวางแผนจะมีกิจกรรมในงานแต่ง อย่าลืมเลือกกระโปรงทรงกว้างนะ

15

เพราะโบสถ์ในปราสาทมีขนาดเล็กนิดเดียว แขกที่มีเพียงแค่ 20 คน จึงต้องยืนอยู่ด้านนอกโบสถ์

20

ดินเนอร์ในปราสาทขนาดนี้ก็ต้องทางการแบบซิทดาวน์ดินเนอร์เท่านั้น

22

เพราะปราสาทมีความสวยงามอยู่แล้ว จึงไม่ต้องตกแต่อะไรเพิ่มเติมเลย เหมาะสำหรับการแต่งงานในสถานที่ที่มีสถาปัตยกรรมสวยๆ และลงตัวอยู่แล้ว

เรามาดูภาพแบบจัดหนัก จัดเต็มของสาว Wanwan กันดีกว่า

เป็นไอเดียสวยๆ ที่บอกเลยว่าอิจแรงในความโชคดีของสาว Wanwan ที่ได้มีโอกาสจัดงานแต่งในสถานที่สวยๆ ขนาดนี้ แต่จะว่าไปแล้วเมืองไทยเองก็มีสถานที่กลิ่นอายปราสาทแบบนี้อยู่บ้าง ไม่เชื่อลองหาดูนะคะ

ขอบคุณภาพและเรื่องจาก vogue.com

ไอเดีย เมคอัพสำหรับเจ้าสาวให้สวยปังที่สุดจนสะดุดตาแขกในงาน

สิ่งสำคัญสำหรับสาวๆ หลายๆ คนก็คือเรื่องของการเมคอัพให้สวยเลิศ เด่น สง่า หนุ่มๆ เห็นเป็นต้องหลงใหล  สำหรับเจ้าสาวก็เช่นกัน ในวันแต่งงานก็อยากจะเป็นวันที่ตัวเองสวยที่สุด สำหรับเจ้าสาวที่กำลังมองหาไอเดียเมคอัพให้กลายเป็นเจ้าสาวที่สวยเลิศ ทั้งลุคโทนสีอ่อนๆ เป็นเจ้าสาวสวยหวาน หรือเข้มจัดจ้าน เป็นเจ้าสาวสวยแซ่บ  WEweddingguide ขอรวมไอเดียเมคอัพมาให้ ส่งตรงถึงเจ้าสาวหลายๆ คน ทั้งสาวที่มีผิวขาวหรือผิวเข้ม หรือบรรดาเพื่อนเจ้าสาวอาจจะนำไปเป็นไอเดียในการเมคอัพให้สวยปิ๊งได้เช่นกันนะคะ

makeup-1_resize makeup-7_resize makeup-6_resize makeup-5_resize makeup-4_resize makeup-3_resize

 

เครตดิตภาพ : Pinterest

จับตาเทรนด์เจ้าสาว 2017 จากรันเวย์ Bridal Fashion Week

ช่วงปลายปีที่ผ่านมาหลากหลายแบรนด์ชุดเจ้าสาวระดับโลกก็เริ่มปล่อยคอลเล็กชั่นใหม่ให้โลดแล่นบนรันเวย์ Bridal Fashion Week แน่นอนว่าชุดเจ้าสาวแต่ละแบรนด์ก็ประชันกันสวยงาม แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ สไตล์การแต่งหน้าของนางแบบแต่ละแบรนด์ที่น่าจับตาว่าอาจจะกลายเป็น เทรนด์เจ้าสาว ยอดฮิตของปีนี้

1. ชมพูหวานๆ จากแบรนด์ Sachin & Babi

blogs-aisle-say-sachin%20%2526%20babi%202

กลายเป็นเจ้าสาวหวานสดใสกับ Eyeshadow สีชมพู ที่จับคู่แมทช์มากับลิปสติกสีชมพูโทนเดียวกัน จะเป็นชมพูพาสเทลหรือชมพูแบบมีกลิตเตอร์ก็สวยใสเป็นเจ้าสาววัยกระเตาะ

2. เครื่องประดับผมเรียบหรูจากแบรนด์ Marchesa

blogs-aisle-say-marchesa%201

สำหรับใครที่เคยคิดว่าจะใส่มงกุฎดอกไม้ให้ดูเป็นเจ้าสาวมุ้งมิ้ง วันนี้ลองเปลี่ยนสไตล์มาเป็นเครื่องประดับที่ดูเรียบหรูมากกว่าดอกไม้ธรรมดาอย่างไข่มุกหรือคริสตัลที่เป็นเฮดพีซชิ้นเล็กๆ แซมไว้บนผม แบบนี้ก็ดูสวยคลาสสิก

3. สไตล์ปากแดงอมส้มจากแบรนด์ Alfred Angelo

blogs-aisle-say-alfred%20angelo

ลุคเจ้าสาวสุดเฉี่ยวเปรี้ยวจี๊ดกับเทรนด์ปากแดงไม่เคยตกหายไปไหน แต่ในปีนี้ความแดงที่มาแรงต้องเป็นลิปสีแดงอมส้ม เนื้อแมท กรีดตาให้เฉี่ยวคมแบบ Cat Eye ดูสวยมีพลังแบบนางพญา

4. มงกุฎดอกไม้สไตล์โบฮีเมียนจากแบรนด์ Theia

blogs-aisle-say-theia

ปี 2017 นี้แฟชั่นมงกุฎดอกไม้ก็ยังไม่จางหายไปไหน เพียงแต่แค่อัพไซส์ให้กลายเป็นดอกไม้ที่ใหญ่กว่าเดิม เน้นดอกไม้ป่ามากกว่าดอกเล็กๆ มุ้งมิ้ง โทนหน้าเป็นสีน้ำตาลนู้ดธรรมชาติตามสไตล์สาวโบฮีเมียน

5. เปรี้ยวปนเซ็กซี่กับสีชมพูอมส้มจากแบรนด์ Mark Zunino for Kleinfeld

blogs-aisle-say-mark%20zunino%20for%20kleinfeld

แนะนำเทรนด์สีชมพูพาสเทลหวานๆ ไปแล้ว คราวนี้ขอเอาใจสาวเปรี้ยวอมหวานกับการฟาดทั้งเปลือกตาด้วยสีชมพูอมส้มแบบเริดๆ สีปากแบบนู้ดๆ เนื้อๆ ไม่ให้เด่นเกินสีตา ดูองค์รวมทั้งหน้าแล้วคล้ายกับตัวละครในภาพยนตร์ Sci-fi แต่แฝงไปด้วยความเซ็กซี่ร้อนแรง

6. สวยใสสไตล์มินิมอลจากแบรนด์ Lela Rose

blogs-aisle-say-lela%20rose

ลุคแบบสาวน้อยบ้านนาที่มีผิวสุขภาพดีราวกับว่าสวยตามธรรมชาติไม่จำเป็นต้องเสริมเติมแต่งอะไรมากมาย ผิวหน้าฉ่ำวาวแบบเบาๆ โทนรวมๆ คือสีน้ำตาลส้มแบบธรรมชาติ เพิ่มความแดงวาวที่ริมฝีปากให้เข้มกว่าส่วนอื่นสักเล็กน้อย

7. สวยแบบแฟนตาซีจากแบรนด์ Rime Arodaky

blogs-aisle-say-rime%20arodaky

งานแต่งของใครที่จัดเป็นธีมแฟนตาซีคงต้องมาดูเทรนด์หน้าเจ้าสาวจากแบรนด์นี้กันสักหน่อย บอกเลยว่ามีไฮไลท์เท่าไหร่คงต้องปัดให้เต็มที่อย่าได้ยั้ง โดยเฉพาะตรงเปลือกตาและโหนกแก้ม รับรองว่าคุณจะเป็นเจ้าสาวหน้าพุ่งแบบแฟนตาซีแน่นอน

7 เทรนด์ที่ WEweddingguide นำมาฝากเหล่าว่าที่เจ้าสาวกันวันนี้ หวังว่าสาวๆ คงจะเลือกเทรนด์และสไตล์ที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด ชอบแบบไหนก็จัดแบบนั้น จะเป็นสาวหวาน สาวเฉี่ยว สาวเปรี้ยวก็เลือกเอาที่แต่งแล้วมั่นใจไม่พังได้เลยจ้า

เรื่อง : สนมจาง

เรียบเรียงและภาพ : www.brides.com, trendimi.com

Black & White Reception งานแต่งธีมขาวดำที่คุณก็จัดได้

งานแต่งธีมสีขาวดำ อาจเป็นสีต้องห้ามในงานแต่งงานตามความเชื่อของคนไทยอย่างเราๆ นะคะ แต่ว่ากันไปตามจริงแล้ว ธีมสีที่ว่านี้สร้างความคลาสิคให้กับงานแต่งของคุณได้ที่เรียกว่าหยิบรูปมาดูกี่ครั้งก็ยังไม่มีตกเทรนด์ แต่งานนี้ใครอยากจะจัดบ้างคงต้องมีทริกกันสักหน่อย ซึ่งเคล็ดลับก็คือ ความพอดีๆ ที่ไม่ทำให้งานกร่่อยด้วยการใส่สีดำหนักหน่วง หรือไม่ใส่ขาวโพลนจนดูเหมือนทั้งงานเป็นงานถือศีลกินเจ

1

วันนี้เราขอนำตัวอย่างงานแต่ง Black  & White Reception ของคู่รักอินเตอร์ มากาเร็ตและอารอน มาให้คุณๆ ได้ลองนำไปเป็นไอเดียคัดสรรธีมงานแต่งสุดคลาสิกบ้าง ขอบอกตรงนี้ก่อนว่า นอกจากสีขาวดำที่เรียบๆ แต่คลาสิก ยังมีเรื่องของสถานที่จัดงานแต่งงานที่ทั้งคู่เลือก โดยจัดพิธีแต่งงานตามหลักศาสนาคริสต์กันที่โบสถ์ St Monica Catholic School Church มิชิแกน ที่โดดเด่นด้วยงานไม้และความเรียบง่ายทางสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ซึ่ง WEweddingguide เห็นว่า ไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมายจนงบประมาณบานปลาย แต่ทั้งคู่กลับไปงานแต่งงานอย่างฝันไปจริงๆ นั่นแปลว่า บ่าวสาวชาวไทยอย่างเราๆ ท่านๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน แค่เลือกโบสถ์สวยๆ จะได้ประหยัดงบตกแต่ง

10

11

9

12

13

ต่อด้วยงานฉลองมงคลสมรสกันที่  Kalamazoo Country Club ภายในห้องจัดเลี้ยงสีขาวที่เพิ่มความโรแมนติกด้วยการโยงผ้าโปร่งที่เพดานและประดับไฟหยดน้ำเป็นเส้นเรียงไปตามการทิ้งตัวของเนื้อผ้า สำหรับโต๊ะทานอาหารจัดเป็นโต๊ะยาวแบบง่ายๆ เน้นการจัดวางอุปกรณ์บนโต๊ะ ซึ่งแน่นอนว่าคุมโทนสีขาวครีมเป็นหลัก เพิ่มรายละเอียดที่ทุกจานวางขนมปังแท่งเคลือบช้อกโกแลตในโทนสีขาวดำตามธีมงาน

14

16

ทีนี้มาดูเค้กแต่งงานกับของตกแต่งบนโต๊ะลงทะเบียนกันบ้าง ทั้งคู่เลือกบัตเตอร์เค้กสามชั้นกตกแต่งด้านบนด้วยดอกไม้สดในธีมสีขาว คู่กับตะเกียงเล็กๆ สีขาววางประดับโต๊ะ

22

15

ปิดท้ายงานแต่งสุดคลาสิกนี้ด้วยไฮไลน์ที่ถือว่าเป็นกิมมิคในงานนี้อีกเรื่องคือ ชุดเพื่อนเจ้าสาวของมากาเร็ตที่ทุกนางหยิบชุดราตรีสีขาวล้วน และเป็นแบบคอกลมกว้างแขนกุดมาสวมใส่ นอกจากนี้ยังพร้อมใจกันหยิบสร้อยมุกมาประดับ ซึ่งมั่นใจได้ว่าไม่มีใครบอกว่าแยกไม่ออกระหว่างเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว เพราะแบบชุดที่เลือกมาเป็นทีมที่ทุกคนใส่เหมือนกัน เจ้าสาวคนสวยจึงยังคงโดดเด่นเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังย้ำให้รู้ว่าใครคือนางเอกของงานด้วยช่อดอกไม้ที่เพื่อนๆ จะถือช่อดอกไม้สีขาวล้วน แต่เจ้าสาวขะถือช่อดอกไม้ขาวแซมสีชมพูส้มอ่อน

4

3

2

พูดถึงเพื่อนเจ้าสาวแล้ว ต้องมีเพื่อนเจ้าบ่าวอีกสักนิด งานนี้อาจสับสนได้ เพราะเจ้าบ่าวและแก๊งเพื่อนสวมสูทสีดำพร้อมหูกระต่ายดำเป็นแพทเทิร์นเดียวกัน แต่เด่นที่ถุงเท้าลายพร้อยที่เพื่อนๆ พร้อมใจกันโชว์ทันทีเมื่อช่างภาพร้องขอ

5

7

ส่วนบรรยากาศในงานจะอบอุ่นแค่ไหน พอไฟในห้องเริ่มสลัว เพลงขึ้นเท่านั้นแหละ ได้คำตอบเลย ไม่เชื่อไปส่องบรรยากาศแห่งความสุขของทั้งคู่กันเลยค่ะ

17

18

19

20

21

23

24

ภาพ : Classic Michigan Club Wedding Margaret & Aaron by Apaige Photography

รักแท้ไม่แพ้ทุกสิ่ง

ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 7 ปีก่อน คุณน้ำหวาน-ธนัญญา ธนากิจอำนวย ทายาท AIIZ ได้รู้จักกับคุณคิด-คงภัทร์ จิรมณีกุล ทายาทบริษัทจำหน่ายจิเวลรี่ S.T. Diamond และนำเข้านาฬิกาแบรนด์หรู เพราะน้องชายของคุณน้ำหวานเป็นเพื่อนกับคุณคิด และด้วยเหตุบังเอิญนี้เองทำให้ทั้งคู่มีโอกาสได้เจอกันบ่อยครั้ง ความสนิทสนมคุ้นเคยทำให้ความสัมพันธ์ค่อยๆ พัฒนาอย่างไม่รู้ตัว จากคนรู้จักกลายเป็นคนสนิท และปิดท้ายด้วยการเป็นคนรู้ใจ

เมื่อต่างคนต่างรู้หัวใจตัวเอง ทั้งคู่จึงตัดสินใจเรียนรู้กันอย่างจริงจัง แต่ช่วงนั้นคุณน้ำหวานเรียนอยู่ที่อเมริกา ส่วนคุณคิดเรียนอยู่ที่อังกฤษ ระยะทางที่สร้างความห่างไกลและความแตกต่างจึงเป็นบททดสอบหัวใจสำคัญ ซึ่งทำให้ทั้งคู่เรียนรู้ที่จะปรับตัวเพื่อกันและกัน หลังจากทั้งคู่เรียนจบก็กลับมาอยู่เมืองไทย ทำให้หัวใจได้ใกล้กันอีกครั้ง บททดสอบหัวใจบทใหม่ๆ เกิดขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นบทหนักแค่ไหน ทั้งคู่ก็ใช้ความรักและความเข้าใจในการก้าวผ่านร่วมกันได้เสมอ

เมื่อความรักผลิบานสวยงาม คุณคิดจึงตัดสินใจขอคุณน้ำหวานแต่งงานที่เกาะสมุยท่ามกลางบรรยากาศแสนโรแมนติก และใช้เวลากว่า 1 ปีในการสร้างงานวิวาห์ในฝันให้กลายเป็นความจริง

nwkj-khaoyai-28_resize

งานวิวาห์ในฝัน

เราเคยคุยกันเมื่อหลายปีก่อนว่าฝันถึงงานแต่งไว้ยังไงบ้าง ผมจำได้ว่าน้ำหวานอยากจัดงานแต่งท่ามกลางพื้นที่สีเขียวของทุ่งหญ้าหรือภูเขา ผมเลยอยากทำความฝันของเขาให้เป็นจริง เพราะถ้าความฝันของเขาเป็นจริง ความฝันของผมก็เป็นจริงด้วยเหมือนกัน ถ้าไม่มีน้ำหวาน งานที่เขาใหญ่ก็คงไม่เกิดขึ้น”

“งานแต่งของเรามี 3 วัน 4 งาน โดยทำทุกงานให้เชื่อมโยงกัน ทั้งนี้งานที่เขาใหญ่ถือเป็นความตั้งใจแรก เพราะเราอยากให้งานแต่งมีบรรยากาศอบอุ่น สบายๆ มีแค่ญาติและเพื่อนสนิท เราจึงเอาคอนเซ็ปต์ของงานนี้เป็นธีมสำหรับงานอื่นๆ ด้วย โดยรูปกราฟิกที่เป็นรูปเราสองคนยืนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นภาพหลักที่นำมาแตกเป็นองค์ประกอบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการ์ด ของชำร่วย หรือการตกแต่ง”