8. Dry brushing แปรงผิวก่อนอาบน้ำ ( 1 ปีก่อนวันแต่ง)

ในเมืองไทยบ้านเราคงจะคุ้นเคยกับการใช้หินขัดขี้ไคล แต่วันนี้ WEweddingguide ขอแนะนำการแปรงผิวแบบเบาๆ ก่อนอาบน้ำ ซึ่งการแปรงผิวแบบนี้เป็นที่นิยมมากสำหรับสาวฝรั่ง เพราะมันจะช่วยในเรื่องของระบบหมุนเวียนเลือดและระบบน้ำเหลือง และช่วยให้ผิวกายของว่าที่เจ้าสาวดูมีสุขภาพดี
9. เพิ่มวิตามินให้เส้นผมพร้อมกับนวดศีรษะ ( 1 ปีก่อนวันแต่ง)

ดูแลหน้า ดูแลผิวกันไปแล้ว คราวนี้ก็ต้องมาดูแลเส้นผมกันบ้างด้วยการเพิ่มวิตามินและสารอาหารให้กับเส้นผม ทานอาหารที่มีโปรตีน อย่างเช่น ไข่ ไขมันดี อะโวคาโด และถั่ว รวมไปถึงอาหารที่มีแร่ธาตุซัลเฟอร์ ไอโอดีน และซิงค์ ควบคู่ไปกับการหมั่นนวดศีรษะเป็นประจำ เพื่อผมสวยและแข็งแรง
10. อยากยืดผมต้องรีบทำ ( 9 เดือนก่อนวันแต่ง)

สำหรับว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่ผมหยิก หยักศก เป็นลอนคลื่น แล้วอยากได้ผมตรงสลวยในวันแต่งงาน WEweddingguide แนะนำว่าให้รีบไปยืดเสียแต่เนิ่นๆ เพราะเราจะได้รู้ว่าน้ำยายืดผมตัวไหนใช้แล้วเหมาะกับผมของเรา หรือตัวไหนใช้แล้วดูไม่ได้ ยืดเสร็จตรงก็จริง แต่แข็งเป็นไม้กวาด ถ้าเกิดเหตุการ์แบบนี้จะได้แก้ไข เปลี่ยนช่าง เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้อย่างทันท่วงที
11. ทำสีผมให้สวยแบบมั่นใจ ( 6 เดือนก่อนวันแต่ง ทำซ้ำอีกครั้งก่อนวันแต่ง 10 วัน)

ไม่ว่าคุณจะทำสีผมให้ดูสว่างขึ้น หรือทำให้มันดูเข้มลง ก็ควรจะทดลองสีเสียตั้งแต่ 6 เดือนก่อนแต่งงาน ปรึกษากับช่างทำผมที่คุณไว้ใจว่าสีไหนทำแล้วจะรอด เลี่ยงสีผมที่ทำแล้วพัง เมื่อตัดสินใจได้แล้ว อย่าเพิ่งรีบร้อนทำทั้งหัว ลองเทสดูก่อนสักนิดกับปลายผมว่าสีนั้นโอเคหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็เปลี่ยนสี แต่ถ้าถูกใจใช่เลยก็ทำโลด แล้วเราค่อยมาย้ำสีให้ดูสวยงามอีกทีก่อนวันแต่งงานสัก 10 วันก็ได้
12. แชมพูแบบถนอมสีผม ( 6 เดือนก่อนวันแต่ง)

แน่นอนว่าเสียเงินทำสีผมมาก็แพง คงไม่อยากให้มันรีบร้อนจืดจาง เพราะบางครั้งตัวการสำคัญที่ทำให้สีผมจางเร็วก็อาจจะเป็นน้ำที่เราใช้อาบ หรือแชมพูทั่วไป ดังนั้นเมื่อรู้ตัวว่าทำสีผมมาแล้ว ก็ควรที่จะเลือกแชมพูสูตรสำหรับผมทำสีที่จะช่วยถนอมสีผมไม่ให้จางเร็ว และทางที่ดีคืออย่าสระผมบ่อยจนเกินไป เช้าสระ เย็นสระ หรือสระทุกวันแบบนี้ก็จะทำให้สีผมจางเร็วเช่นกัน จำนวนครั้งที่เหมาะสมคือ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
13. เลือกทรงผมที่คุณมั่นใจ ( 2 เดือนก่อนวันแต่ง)

“เป็นตัวของตัวเอง” คือวลีเด็ดที่ WEweddingguide บอกคุณว่าที่เจ้าสาวอยู่เสมอ โดยเฉพาะการเลือกทรงผม ว่าที่เจ้าสาวควรจะเลือกทรงผมที่คุณคิดว่าทำแล้วมั่นใจ จะผูก จะมัด หรือจะปล่อยก็เลือกที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าใครจะพูดหรือคอมเมนท์อย่างไร ขอแค่คุณคิดว่าทำแล้วมั่นใจ ใช่ตัวคุณก็จงทำซะ Kyriakos แฮร์สไตลิสต์คนดังกล่าวว่า “ถ้าทั้งชีวิตคุณไม่เคยรวบตึงผมหรือเก็บผมขึ้นไปทั้งหมด เพราะคุณไม่ชอบทรงหูของคุณล่ะก็ วันแต่งงานก็ไม่ต้องทำ ไม่ว่าใครจะบอกว่ารวบผมตึงมันสวยแค่ไหนก็ตาม ถ้าทำแล้วไม่มั่นใจ อย่าทำ!”
14. เลือกรองพื้นเนื้อซาตินให้ดูธรรมชาติ ( 1 ปีก่อนวันแต่ง)

เชื่อว่าสาวๆ หลายๆ คนคงจะแต่งหน้าแต่งตากันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคงรู้จักรองพื้นเป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะสภาพผิวแบบไหน ในวันแต่งงาน WEweddingguide ขอแนะนำให้คุณใช้รองพื้นเนื้อซาติน (Satin Finish) เหมาะกับทุกสภาพผิว กึ่งวาว กึ่งแมท ให้ลุคสวยแบบธรรมชาติ