ฤกษ์แต่งงานแบบฤกษ์สะดวก ถ้าเลือกให้ดีก็เป็นมงคลได้

ฤกษ์สะดวก ก็เป็น ฤกษ์แต่งงาน ได้นะ

ฤกษ์แต่งงาน ในปัจจุบันสำหรับบ่าวสาวหัวสมัยใหม่อาจจะไม่ถือเรื่องนี้สักเท่าไหร่นัก แต่สำหรับพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ในครอบแล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่ายังเป็นเรื่องซีเรียสที่ต้องดูกันให้ดี เพราะฉะนั้นเพื่อลดความขัดแย่งระหว่างการเลือกฤกษ์ดีหรือฤกษ์สะดวก แพรว wedding มีทางออกสำหรับเรื่องนี้มาฝาก

ตามความเชื่อมาแต่โบร่ำโบราณที่ผู้เฒ่าผู้แก่ยึดถือกันมานั้นบอกไว้ว่า วันที่ไม่ควรแต่งงาน คือวันเกิดของคู่บ่าวสาว, วันพระ, วันอังคาร, วันพุธ, วันพฤหัส และวันเสาร์ โดยเฉพาะวันเสาร์นั้นคนโบราณจะห้ามเด็ดขาดเพราะมีคำกล่าวเอาไว้ว่า “วันศุกร์ห้ามเผา วันเสาร์ห้ามแต่ง” ถึงแม้วันเสาร์จะเป็นฤกษ์ที่สะดวกก็ตาม เพราะมีความเชื่อว่าวันเสาร์เป็นวันทุกข์โทษ เป็นวันแรง หากจัดงานมงคลอย่างงานวิวาห์หรือขึ้นบ้านใหม่ จะทำให้ชีวิตพบแต่อุปสรรค ครอบครัวไม่มีความสุข

แต่สำหรับในปัจจุบันนั้นการจัดงานตามฤกษ์สะดวกนั้นมีมากขึ้น ซึ่งบางครั้งก็ดันไปตรงกับวันที่โบราณเขาถือ เพราะฉะนั้นหากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็เพียงแค่ต้อง หลีกเลี่ยงวันข้างขึ้นข้างแรมตามนี้เท่านั้น

วันอาทิตย์ ขึ้น/ แรม 12 ค่ำ

วันจันทร์ ขึ้น/ แรม 11 ค่ำ

วันอังคาร ขึ้น/ แรม 7 ค่ำ

วันพุธ ขึ้น/ แรม 3 ค่ำ

วันพฤหัสบดี ขึ้น/ แรม 6 ค่ำ

วันศุกร์ ขึ้น/ แรม 12 ค่ำ

วันเสาร์ ขึ้น/ แรม 12 ค่ำ

วันอุบาทว์ และวันโลกาวินาศ (สามารถเช็กได้จากปฏิทินที่มีฤกษ์ดังกล่าวบอกไว้)

นอกจากที่บ่าวสาวจะต้องระวังเรื่องวันแล้ว ยังต้องระวังเดือนนั้นๆ ที่ห้ามจัดงานแต่งตามอีกด้วย

เดือน 1 และเดือน 4 ขึ้น/ แรม 2 ค่ำ

เดือน 2 และเดือน 11 ขึ้น/ แรม 12 ค่ำ

เดือน 3 ขึ้น/ แรม 4 ค่ำ

เดือน 5 และเดือน 8 ขึ้น/ แรม 3 ค่ำ

เดือน 7 และเดือน 10 ขึ้น/ แรม 8 ค่ำ

เดือน 9 และเดือน 12 ขึ้น/ แรม 10 ค่ำ

รู้อย่างนี้แล้วบ่าวสาวหลายคนก็อาจจะอุ่นใจขึ้นหน่อยๆ ว่าถึงแม้จะเลือกจัดงานในฤกษ์สะดวกแต่ก็ยังมีความเป็นสิริมงคลไม่แพ้วันฤกษ์ดีแน่นอน

ติดตามเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับพิธีแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ : globe-views.com

รักนี้ไม่มีนก! เสริมดวงความรักไปกับ 5 สถานที่ขอพรยอดนิยม

เริ่มต้นปีใหม่นี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับคู่รักที่จะจูงมือพากันไปขอพร เสริมดวงความรัก ที่มีนั้นให้ครองคู่กันแน่นแฟ้นยั่งยืนและมีชีวิตชีวามากขึ้น สำหรับสาวโสดหนุ่มโสดก็ถือเป็นโอกาสดีที่ปีนี้แหละถึงเวลาที่จะได้เจอเนื้อคู่ ได้สละโสดกันสักที ด้วยการเสริมสร้างกำลังใจโดยการไปขอพรจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ให้โชคในเรื่องความรัก กับ  5 สถานที่ขอพรเรื่องความรักยอดนิยม ที่ แพรว wedding จะแนะนำต่อไปนี้ค่ะ

พระกฤษณะ วัดเทพมณเฑียร เสาชิงช้า

เสริมดวงความรัก

พระกฤษณะเป็นปางอวตารปางที่ 8 แห่งองค์พระนารายณ์ เชื่อกันว่า พระกฤษณะสามารถประทานพรให้คนสมหวังในความรัก เนื่องจากเมื่อยามที่ท่านใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ ท่านมีนางสนมถึง 10,000 คน แต่ถึงแม้พระกฤษณะท่านจะมีนางสนม กำนัลมากขนาดไหน ท่านก็มีจิตใจรักมั่นต่อนางราดานะคะ ซึ่งเป็นหญิงเลี้ยงวัว เป็นรักแรกแห่งพระกฤษณะ ความรักครั้งนั้นประทับใจและฝังอยู่ในใจของพระกฤษณะตลอดจนชั่วอายุขัย

พระแม่อุมาเทวี วัดพระศรีมหาอุมาเทวี

เสริมดวงความรัก

เชื่อกันว่าพระแม่อุมาเป็นเทวีที่มีความเมตตากรุณาสูงและรักพระศิวะยิ่งนัก การได้มากราบไหว้ขอพรจากท่าน จึงเป็นการเสริมดวงในเรื่องความรัก ใครที่มีคู่ครองอยู่แล้วก็จะประสบความสำเร็จในการด้านการใช้ชีวิตกับคนรัก ใครที่โสดก็จะได้พบเนื้อคู่เร็วขึ้น

เจ้าแม่เขาสามมุข แหลมสามมุก จ.ชลบุรี

เสริมดวงความรัก

มีตำนานในเรื่องความรัก และมีคำร่ำลือของผู้ที่ศรัทธาว่า หากผู้ใดต้องการที่จะสุขสมหวังในเรื่องความรัก ต้องมาขอพรกับ “เจ้าแม่เขาสามมุก” ผู้ศรัทธาจะนำ “ว่าว” ซึ่งเป็นสื่อที่ทำให้ แสน และ สามมุก ได้พบรักกัน มาเป็นเครื่องบูชา พร้อมทั้งเขียนข้อความเพื่อขอพร

หลวงพ่อนาค วัดมัชฌิมาวาส จ.อุดรธานี

เสริมดวงความรัก

เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญที่ผู้คนที่มากราบไหว้มักจะนิยมขอในเรื่องของความรัก ทั้งความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ครูเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ที่ผู้คนที่มากราบไหว้มักจะนิยมขอในเรื่องของความรัก ทั้งความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ครูอาจารย์ต่อศิษย์ หรือความรักของหนุ่มสาวก็ได้ทั้งนั้น ให้ถวายของเป็นคู่ เช่น เชิงเทียนหนึ่งคู่ เป็นต้น

พระธาตุศรีสองรัก จ.เลย

เสริมดวงความรัก

ปิดท้ายที่พระธาตุศรีสองรักที่ชาวไทยและชาวลาวต่างเชื่อกันว่า หากใครมากราบไหว้ละบนบานด้วยต้นผึ้งที่พระธาตุศรีสองรัก และขอพรก็จะได้พบกับความสมหวังตามปรารถนาทุกประการ และถ้าขอพรในด้านที่เกี่ยวกับความรัก และมิตรภาพ สัมพันธภาพนั้นก็จะยั่งยืนสืบไปหากใครได้มา

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติม คลิกเลย!

cr : TAT

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

เผยความออร่าด้วย 5 สมูทตี้ผิวสวยทำเองได้แถมดื่มง่ายด้วย

สวยจากภายในเปล่งประกายสู่ภายนอก ดูเป็นคำพูดที่เหมาะกับความเป็นเจ้าสาวสุดๆ เพราะเมคอัพที่ดีก็ต้องอาศัยพื้นฐานสุขภาพผิวที่ดีด้วย แถมผิวเนียนใสสุขภาพดีนั้นก็จะทำให้เจ้าสาวได้ลุคเมคอัพที่เป็นธรรมชาติแบบไม่ต้องอัดรองพื้นหรือถมแป้งให้หน้าแน่นเพื่อปกปิดความหมองคล้ำหรือจุดด่างดำต่างๆ แพรว wedding เลยจัดเคล็ดลับง่ายๆ ในการดูแลผิว ง่ายชนิดที่ว่าเอาเข้าปากปุ๊บสวยปั๊บ! กับเครื่องดื่ม สมูทตี้ผิวสวย กับสูตรง่ายๆ ที่ว่าที่เจ้าสาวสามารถทำเองได้ที่บ้าน แถมเรามีมาให้ครบทั้ง 5 วันแบบที่ดื่มได้ทุกวันไม่ซ้ำซากอีกด้วย ส่วนอีก 2 วันที่เหลือเราเว้นไว้ให้เจ้าสาวได้ดื่มเครื่องดื่มแก้วโปรด

Monday : เครื่องดื่มลดน้ำหนัก

ส่วนผสม : น้ำมะพร้าว 1 ถ้วย, แครนเบอร์รี่แช่เย็น ½ ถ้วย, ขิงขนาด ½ นิ้วปอกเปลือกและสับ, สับปะรดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ½ ถ้วย, กล้วย 1 ลูก เบลนด์ทุกอย่างให้เข้ากัน

สมูทตี้ผิวสวย

สับปะรดที่อุดมไปด้วยวิตามินซี จะช่วยให้ผิวกระจ่างใส, ช่วยย่อยอาหาร และลดการกักเก็บน้ำในร่างกาย

Tuesday: สมุนไพรช่วยรีแลกซ์

ส่วนผสม : น้ำมะพร้าว 1 ถ้วย, ผักคะน้าหรือผักโขม 1 ถ้วย, ใบมิ้นต์สด ¼ ถ้วย, เมล็ดยี่หรา ½ ช้อนโต๊ะ, เกสรน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

เบลนด์น้ำมะพร้าว, ผักคะน้าหรือผักโขม (ตามที่ชอบ), ใบมิ้นต์สด, เมล็ดยี่หร่าเข้าด้วยกัน โดยเริ่มต้นจากปั่นอ่อนๆ แล้วค่อยเร่งความเร็ว เสร็จแล้วเสิร์ฟใส่แก้วพร้อมโรยเกสรน้ำผึ้ง

เกสรน้ำผึ้งอุดมไปด้วยวิตามินและโปรตีน ส่วนใบมิ้นต์ให้ความสดชื่น

Wednesday: เครื่องดื่มจากผลไม้มหัศจรรย์

ส่วนผสม : น้ำมะพร้าว 2/3 ถ้วย, ผง Acai Berry (อาซาอิ เบอร์รี่) 1 ช้อนโต๊ะ, กล้วย 1 ลูก, ผงโกโก้, อบเชย ¼ ช้อนโต๊ะ, อะโวคาโด 1/4 , อินทผลัม 1 ผล

เบลนด์น้ำมะพร้าว, ผงอาซาอิ เบอร์รี่, กล้วย, ผงโกโก้เข้าด้วยกัน จากนั้นจึงเติมอบเชย, อะโวคาโด และอินทผลัม แล้วปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกันพร้อมดื่ม

อาซาอิ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเทียบเท่ากับบลูเบอร์รี่, อบเชย หรือ ชินนาทอน มีสารที่ช่วยต้านอาการอักเสบจึงช่วยลดรอยแดงและสิวได้

Thursday: ช่วยระบบย่อยอาหาร

ส่วนผสม : มะละกอหั่นชิ้นเล็กๆ 1 ถ้วย, ขิงขนาด ¼ นิ้วปอกเปลือกและสับ, ลูกจันทร์เทศ, ผงกระวาน, อินทผลัม 2 ผล , กล้วย ½ ลูก แล้วเบลนด์ทุกอย่างให้เข้ากัน

มะละกออุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวล

Friday: ส่งท้ายด้วยเครื่องดื่มแสนอร่อย

ส่วนผสม : นมอัลมอนด์ไม่หวาน 1 ถ้วย, กล้วยหั่นเป็นชิ้นแช่เย็น 1 ถ้วย, เนยอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะ, ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ, ผักขม 1 ถ้วย, อินทผลัม 1 ผล แล้วเบลนด์ทุกอย่างให้เข้ากัน

ผักขมและผงโกโก้ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบกินช็อกโกแลต

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ข้อมูลบางส่วน : brides.com
ภาพ : modernhoney.com, thespruce.com, medicinalherbals.net, rivertea.com, plants-rule.com, drweil.com, greenblender.com

ชวนสาวๆ มาทำความรู้จัก 7 เนื้อผ้ายอดนิยมสำหรับตัดชุดเจ้าสาว

ว่าที่เจ้าสาวที่กำลังเลือก ชุดเจ้าสาว เพื่อวันสำคัญของชีวิต นอกจากจะต้องดูแบบที่ชอบทรงที่ใช่แล้ว ชนิดผ้าและเนื้อผ้าที่จะมาใช่ตัดเย็บก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ชุดเจ้าสาว บางสไตล์เหมาะกับผ้าบางประเภท รวมถึงเวลคลุมผมก็ใช้ผ้าชนิดต่างกันด้วย เราจึงได้รวบรวมชนิดผ้าที่นิยมนำมาตัดชุดเจ้าสาวให้อ่านกัน จะได้ตัดสินใจเลือกผ้าให้เหมาะกับชุดที่เลือก ใส่แล้วสบาย แถมยังสวยที่สุดในงานแต่งงาน

1. ผ้าซาติน / ผ้าดัชเชสซาติน (Satin)

aliexpress-satin

เป็นผ้าที่ช่างตัดเย็บหลายคนนิยมนำมาใช้ตัดชุดเจ้าสาว ซึ่งส่วนมากแล้วจะทำมาจากผ้าไหม 100 % เนื้อผ้ามีความนุ่มลื่น มันวาว (ไม่ค่อยเหมาะกับสาวร่างอวบ) ทิ้งตัวได้ดี ไม่แนบเนื้อ เหมาะสำหรับชุดเจ้าสาวหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะกับชุดที่มีการจับเดรปผ้าและชุดเจ้าสาวทรงบอลกาวน์ แต่ถ้าว่าที่เจ้าสาวคนไหนคิดจะจัดงานแต่งแบบเอ๊าต์ดอร์ในช่วงฤดูร้อน ขอให้เลี่ยงชุดแต่งงานที่ใช้ผ้าซาตินเพราะผ้าชนิดนี้ค่อนข้างหนาและหนัก ใส่แล้วจะไม่สบายตัว

2. ผ้าชาร์มัวส์ (Charmeuse)

moodfabrics-charmeuse

เป็นผ้าไหมที่ผสมใยสังเคราะห์ลงไปด้วย เนื้อผ้าค่อนข้างเบา มันวาว เป็นประกายดูหรูหรา สัมผัสนุ่มลื่นคล้ายกับผ้าซาติน มักนิยมนำมาตัดชุดเจ้าสาวทรงชีท (Sheath) ที่ต้องโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งของเรือนร่าง จึงไม่ค่อยเหมาะกับสาวเจ้าเนื้อ และเนื่องจากผ้าชนิดนี้เป็นรอยได้ง่าย เจ้าสาวจึงต้องระมัดระวังอย่าให้ชุดเจ้าสาวโดนข่วนหรือครูดกับสิ่งของรอบตัว

3. ผ้าชีฟอง (Chiffon)

fabricandart-chiffon

เนื้อผ้ามีความโปร่งบาง น้ำหนักเบา มักใช้ตกแต่งเป็นผ้าระบายหรือคลุมทับด้านนอกของตัวกระโปรง เพื่อให้ชุดดูมีน้ำหนักและมีมิติ เหมาะกับเจ้าสาวที่จัดงานแต่งแบบเอ๊าต์ดอร์ในช่วงฤดูร้อน เพราะเนื้อผ้าโปร่ง ไม่แนบติดตัว ใส่แล้วสบายไม่อึดอัด แต่ต้องระวังไม่ให้เนื้อผ้าโดนขูดหรือโดนเกี่ยวเพราะจะทำให้ด้ายหลุดรุ่ยง่าย

4. ผ้าออร์แกนซ่า (Organza)

southpartyrents-organza

เนื้อผ้าเป็นผ้าไหมผสมกับไนลอนและโพลีเอสเทอร์ ทำให้ผ้ามีความบางเบา โปร่งใส่คล้ายกับผ้าชีฟอง แต่จะแข็งกว่าและไม่มันวาว นิยมใช้คลุมทับด้านนอกของกระโปรง ชายกระโปรง และใช้ทำเวลคลุมผม เหมาะกับเจ้าสาวที่ต้องการความหวานแต่ไม่อยากใช้ผ้าลูกไม้ และเช่นเดียวกันกับผ้าชีฟองที่ต้องระวังด้ายลุ่ยง่าย

5. ผ้าทูล (Tulle)

etsy-tulle

เนื้อผ้าเป็นลักษณะตาข่ายเนื้อนิ่ม โปร่งและเบา อากาศถ่ายเทได้สะดวก นิยมใช้คู่กับผ้าลูกไม้และผ้าชนิดอื่นๆ ใช้คลุมทับด้านนอกของกระโปรงให้ดูฟูฟ่อง โดยเฉพาะชุดเจ้าสาวทรงแกรนด์-เอไลน์ ปริ้นเซส บอลกาวน์ และใช้ทำเวลคลุมผม

6. ผ้าลูกไม้ (Lace)

thunderlily-lace

นิยมใช้เพิ่มดีเทลให้กับชุดเจ้าสาวทุกรูปแบบ ใช้ตกแต่งรายละเอียดด้านนอกของชุด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเนคไลน์ ตัวเสื้อ แขนเสื้อ กระโปรง รวมถึงเวลคลุมผม ให้ลุคที่ดูวินเทจ อ่อนหวาน และหรูหรา

7. ผ้าทาฟต้า (Taffeta)

dreamdrapes-taffeta

เนื้อผ้าค่อนข้างบาง น้ำหนักเบา และมีความอยู่ตัวมากกว่าผ้าชนิดอื่นๆ เหมาะกับชุดเจ้าสาวทรงบอลกาวน์และทรงปริ๊นเซส ค่อนข้างยับง่าย ซึ่งถือเป็นกิมมิกที่เพิ่มความงามให้กับชุดเจ้าสาวเช่นกัน

ถึงแม้ว่าผ้าที่จะใช้ตัดเย็บชุดเจ้าสาวจะมีให้เลือกหลากหลายประเภท แต่ขอบอกไว้เลยว่าผ้าบางชนิดเหมาะกับชุดบางสไตล์เท่านั้น รวมถึงสภาพภูมิอากาศและสถานที่ในช่วงวันแต่งงานด้วย ถ้าอากาศร้อนและจัดแบบเอ๊าต์ดอร์รับสายลมแสงแดดก็ควรเลือกผ้าที่โปร่ง เบา ใส่แล้วสบาย แต่ถ้าจัดในโรงแรมหรูก็เลือกผ้าที่เหมาะกับรูปร่าง ใส่แล้วสวยไม่พังละกันนะสาวๆ

ดูไอเดียชุดแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

ข้อมูล : www.brides.com
ภาพ : www.aliexpress.com, www.dreamdrapes.com, www.etsy.com, www.fabricandart.com, www.moodfabrics.com, www.southpartyrents.com, www.thunderlily.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

6 ข้อสำหรับว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายควรจะต้องรู้ก่อนเลือกซื้อชุดแต่งงาน

เรื่องการเลือก ชุดแต่งงาน เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเจ้าสาวมากสุดๆ เลยนะคะ แต่ครั้นจะเดินเข้าร้านชุดแบบแค่มีชุดที่ชอบในใจแค่นั้นก็คงไม่พอ เพราะนอกจากจะทำให้ไม่ได้ชุดที่ชอบที่โดนใจและเหมาะสมจริงๆ แล้ว ยังอาจทำให้เสียเวลาในการเลือกหามากขึ้นไปอีก เอาเป็นว่าเพื่อความเป๊ะและไม่เสียเวลา มาอ่านข้อควรรู้ก่อนที่ว่าที่เจ้าสาวจะเดินเข้าร้านและเลือกชุดแต่งงานกันดีกว่า

  1. การตัดเย็บที่พอดีกับรูปร่าง

การตัดเย็บที่พอดีกับรูปร่างจะช่วยให้เจ้าสาวดูดีและโดดเด่นมากขึ้นในวันแต่งงาน ที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องชุดเจ้าสาวจะช่วยแนะนำได้ว่าชุดเจ้าสาวแบบไหนที่เหมาะกับเจ้าสาวแต่ละคนในวันแต่งงาน อย่ากลัวที่จะลองชุดเจ้าสาวในหลากหลายรูปแบบ แม้แต่ชุดเจ้าสาวที่อาจไม่ได้สนใจในทีแรก เพราะอาจจะต้องแปลกใจเมื่อได้ลองชุดเหล่านั้นแล้วพบว่ามันช่วยเสริมความสวยและความโดดเด่นได้ไม่แพ้กัน

นอกจากจะคำนึงถึงความสวยงามและความพอดีกับรูปร่างเมื่อสวมใส่ชุดเจ้าสาวแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความถนัดทางร่างกายในการเคลื่อนไหวด้วย อย่างเช่น ถ้าต้องเต้นรำ ก็ไม่ควรเลือกชุดเจ้าสาวที่รัดตรงช่วงขามาก ควรมีช่องว่างสำหรับช่วงเข่าและช่วงขา เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้คล่องตัว หรือประเภทรองเท้าที่ต้องการสวมใส่ก็อาจช่วยให้เลือกรูปแบบชุดเจ้าสาวที่ต้องการได้

สำหรับการเลือกชุดเจ้าสาว ทางที่ดีไม่ควรตัดสินชุดจากที่แขวนไว้เพียงอย่างเดียว หรือแค่ดูจากในนิตยสาร ควรลองชุดให้แน่ใจว่าชุดเจ้าสาวที่เลือกจะช่วยให้ดูสวยและมั่นใจจริงๆ ในวันแต่งงาน

  1. ความบานของกระโปรง

ความบานของกระโปรงชุดเจ้าสาวมีหลากหลายรูปแบบแต่ก็อาจเป็นสิ่งที่เจ้าสาวหลายคนมองข้าม ความบานของกระโปรงคือความยากง่ายเวลาที่เจ้าสาวจะเดินหรือเต้นรำ ที่ปรึกษาเกี่ยวกับชุดเจ้าสาวสามารถให้คำแนะนำได้ว่ากระโปรงแบบไหนที่เหมาะกับรูปลักษณ์ของคนที่สวมใส่ เวลาเลือกซื้อชุดเจ้าสาวควรถามในสิ่งที่สงสัยและบอกในสิ่งที่ต้องการให้ชัดเจน อาจจดโน้ตย่อๆ เกี่ยวกับรูปแบบกระโปรงที่ชอบหรือถ่ายภาพเพื่อเป็นตัวอย่างให้พนักงานในร้านดูเพื่อการค้นหาชุดแต่งงานในฝัน

  1. เทรนด์ล่าสุด

เจ้าสาวจำนวนมากไม่ต้องการความล้าสมัยในวันแต่งงาน ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับชุดเจ้าสาวถึงรูปแบบชุดเจ้าสาวที่กำลังเป็นที่นิยมหรืออาจลองหาข้อมูลด้วยตัวเองจากอินเตอร์เน็ตหรือในนิตยสาร พยายามมองหาแรงบันดาลใจจากหลายๆ แหล่งเพื่อให้ได้ชุดเจ้าสาวที่ถูกใจและดูดีมากที่สุด

ชุดแต่งงาน

  1. สถานที่และวันที่แต่งงาน

สถานที่และเวลาสำหรับจัดงานแต่งงานก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกำหนดรูปแบบของชุดเจ้าสาว เมื่อมีโอกาสปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับชุดเจ้าสาว ควรต้องอธิบายให้ที่ปรึกษาทราบถึงจำนวนแขกที่จะมางาน สถานที่จัดงาน เวลาที่จะแต่งงานและรูปแบบของงานแต่งงาน เพราะที่ปรึกษาจะได้แนะนำได้ถูกว่าชุดเจ้าสาวแบบไหนที่ควรจะสวมใส่ ชุดเจ้าสาวสำหรับงานกลางคืนวันเสาร์แบบหรูหรากับงานแต่งงานตอนเช้าวันอาทิตย์ท่ามกลางสวนดอกไม้จะแตกต่างกัน ที่ปรึกษาสามารถช่วยได้เกี่ยวกับความแตกต่างของชุดเจ้าสาวที่ควรใส่และช่วยแนะนำว่าชุดเจ้าสาวแบบไหนเหมาะในการร่วมพิธีในสถานที่และเวลานั้นๆ มากที่สุด

  1. ค่าธรรมเนียมและราคา

ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะได้มาฟรีๆ  และโลกแห่งการแต่งงานก็ไม่มีข้อยกเว้น เจ้าสาวหลายคนอาจจะต้องจ่ายมากกว่าราคาบนป้ายสำหรับการลองชุดและปรับแต่งขนาดหรือรูปแบบให้เข้ากับรูปร่าง ดังนั้นอย่าลืมถามถึงค่าธรรมเนียมที่จะเพิ่มขึ้นจากการปรับแต่งส่วนต่างๆ ของชุดเจ้าสาว อย่างเช่น ความบานของกระโปรง การแก้การตัดเย็บและการเก็บความเรียบร้อย อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะกำหนดราคามาตรฐานของชุดเจ้าสาว ลองถามหาราคาส่วนลดหรือกำหนดราคาชุดเจ้าสาวที่ต้องการจะจ่ายก่อนเดินเข้าร้านเพื่อลองชุด เพราะจะช่วยให้ได้ชุดเจ้าสาวที่มีราคาอยู่ในงบประมาณที่กำหนด

  1. การขนส่ง

ช่วงเวลาระหว่างการส่งซื้อชุดเจ้าสาวกับเวลาที่ชุดแต่งงานที่สั่งจะมาถึงมือขึ้นอยู่กับดีไซเนอร์แต่ละคน แจ้งตารางเวลาแก่ดีไซเนอร์ เพื่อให้ได้ชุดเจ้าสาวตามกำหนดเวลา

ดูไอเดียชุดแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

Cr : weddingpartyapp.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

5 วิธีช่วยว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวคลายเครียดจากการเตรียมงานแต่ง

อย่าปล่อยให้ความเครียดจาก การเตรียมงานแต่ง ครอบงำจิตใจของคุณนะคะว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งหลาย เพราะเจ้าความเครียดนี่มันสามารถทำร้ายสุขภาพกายและสุขภาพจิตของคุณได้มากอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว ว่าอย่างนั้นแล้ว วันนี้ แพรว wedding เลยขอชวนคุณมาคลายเครียดด้วย 5 วิธีนี้กันดีกว่า มาทำให้ชีวิตช่วงการเตรียมงานแต่งงานของคุณโล่งสบาย และผ่อนคลายมากขึ้นกันเถอะค่ะ เพราะเราเชื่อว่าถ้ากายพร้อมใจพร้อมแล้ว อย่างไรเสียงานของคุณจะต้องออกมาดีอย่างแน่นอนค่ะ

 

ผ่อนคลายด้วยการฟังเพลง

จากการวิจัยพบว่าการฟังเพลงจะทำให้คนเรารู้สึกดีขึ้นแม้ว่าจะกำลังเคร่งเครียดอยู่ก็ตาม แต่ต้องเป็นเพลงที่มีเนื้อหาเบาๆ ฟังสบาย หรือเพลงที่ชอบ แค่นี้ความสุขก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว

แดนซ์กระจาย

ถ้าฟังเพลงสบายๆแล้วยังเอาไม่อยู่ล่ะก็ แดนซ์กระจายไปเลยค่ะ บอกเลยว่าความเครียดจะหมดไปอย่างแน่นอน จะมีแต่ความสนุกเข้ามาแทนที่ ได้ปลดปล่อยเรื่องหนักๆออกไปบ้าง แบบว่าลืมความเครียดที่มีมาไปเลยล่ะ ซึ่งการแดนซ์นั้น อาจจะเปิดเพลงมันส์ๆ แดนซ์ตามลำพัง หรือจะชวนเพื่อนๆ มาแดนซ์ด้วยกันก็ได้ เอาที่สะดวกไปเลยสาวๆ หนุ่มๆ

กลิ่นอโรมาช่วยคลายเครียด

กลิ่นหอม ของน้ำหอมกลิ่นอโรมา ก็ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ดีเช่นกัน โดยกลิ่นอโรมานั้นจะทำให้สมองและจิตใจของคุณสงบลง นับเป็นช่วงเวลาที่จะช่วยเรียกความสดชื่นให้กลับคืนมาได้มากเลยล่ะค่ะ

ไปเที่ยวเพื่อผ่อนคลาย

เครียดมากนัก ก็ลางานไปเที่ยวพักผ่อนกันเสียเลย จะมัวรอแต่งเสร็จไปฮันนีมูนทีเดียวคุณเองนั่นแหละที่อาจจะพังเสียก่อน ลองเลือกสถานที่เที่ยวที่อยากไปสัก 2-3 แห่ง อาจจะเป็นที่ที่กำลังเปิดให้เที่ยวในราคาถูกหรือใช้งบที่ประหยัดสุดๆ ก็ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งเครียดเรื่องเงินที่เสียไปกับการเที่ยวในภายหลัง

อ้อมกอดจากคนที่รัก

สุดท้ายแล้วเครียดแค่ไหน แค่ได้อ้อมกอดจากคนที่คุณรัก พร้อมคำพูดที่ช่วยให้กำลังใจเบาๆ ก็จะทำให้หายเครียดไปได้เยอะเลย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสุขความสบายใจให้มากขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากคุณสาวๆกำลังเครียดอยู่ล่ะก็ ลองกอดคนที่คุณรักดู ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ หรือว่าที่เจ้าบ่าวของคุณก็ตาม แล้วความเครียดจะมลายหายไปในพริบตาเลยทีเดียวเชียวค่ะ

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

เตือนไว้กันพลาด! กับ 5 ของใช้เจ้าสาวที่ไม่ควรมองข้ามในวันแต่งงาน

ของใช้เจ้าสาว ที่เหมือนแอคเซสซอรี่ช่วยเสริมความเพอร์เฟกต์ในวันสำคัญ

แน่นอนว่าสิ่งที่เจ้าสาวจะไม่ลืมเด็ดขาดในวันแต่งงานก็คือชุดแต่งงานสุดอลังการที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี แต่บางครั้งสิ่งเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างแต่ก็สำคัญไม่แพ้กันมักจะถูกมองข้ามหรือหลงลืมเสมอ จนบางครั้งอาจทำให้เจ้าสาวนั้นถึงกับยิ้มไม่ออก แพรว wedding ไม่อยากให้เจ้าสาวต้องมาโศกเศร้าเสียใจในภายหลัง เลยมาเตือนให้เจ้าสาวได้รู้ไว้กับ 5 ของใช้เจ้าสาว สุดจำเป็นที่ต้องเตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่พลาดในวันแต่งงาน

1. ชุดชั้นในที่เข้ากับชุดแต่งงาน

เจ้าสาวบางคนมักจะไม่ให้ความสำคัญหรือบางครั้งก็หลงลืมเรื่องชุดชั้นในที่จะต้องใส่กับชุดแต่งงาน หรือบางคนก็อาจจะเตรียมชุดชั้นในที่ใส่ในชีวิตประจำวันมาใส่กับชุดแต่งงานในวันสำคัญก็มี ซึ่งเราจะบอกว่านั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะบางครั้งชุดชั้นในธรรมดาก็อาจจะไม่เข้ากับชุดแต่งงานสุดเพอร์เฟกต์ของคุณ เช่น เก็บสายเสื้อชั้นในไม่ดีจนโผล่แพลมออกมาให้เห็น หรือขอบกางเกงชั้นในเผยให้เห็นเป็นรอยขอบเด่นชัด เพราะฉะนั้นจะดีกว่าไหมหากเจ้าสาวเตรียมชุดชั้นในสุดพิเศษที่เหมาะกับรูปแบบชุดแต่งงานที่เจ้าสาวจะสวมใส่ เพราะไม่ใช่แค่ชุดชั้นในจะโผล่ แต่ยังช่วยเสริมทรวดทรงของเจ้าสาวให้ดูดีขึ้นได้ด้วย เช่น ชุดชั้นในกระชับหน้าท้อง เสริมก้น เสริมหน้าอก หรือดันทรง เป็นต้น

2. เครื่องประดับสุดพิเศษที่สำคัญต่อใจ

หากเจ้าสาววางแผนไว้ว่าจะใส่เครื่องประดับที่ตกทอดมาจากคุณย่าคุณยายในวันสำคัญ หรือจะใส่ต่างหูคู่งามที่เจ้าบ่าวเซอร์ไพรซ์ซื้อมาให้ เราขอแนะนำให้คุณเตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้วใส่รวมไว้ในกระเป๋าหรือซองใส่ชุดแต่งงาน เพราะนั่นเป็นการการันตีได้ว่าสิ่งของสำคัญเหล่านั้นจะไม่ถูกหลงลืมในวันสำคัญแน่นอน และทางที่ดีควรเตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ หรือเตรียมไว้ตั้งแต่วันที่ได้ชุดแต่งงานเลยยิ่งดี เพราะในคืนก่อนแต่งงานเชื่อเถอะว่าคุณจะต้องวุ่นวายจนอาจหลงลืมเรื่องนี้ไปได้ง่ายๆ แน่นอน แต่ถ้าเจ้าสาวไม่ได้เป็นคนนำชุดแต่งงานไปเอง อย่าลืมจดเช็กลิสต์ว่าอย่าลืมอะไรบ้าง และโน้ตเน้นย้ำเป็นข้อความสำคัญให้กับคนที่จะนำชุดไปให้คุณด้วย

3. สก๊อตเทปใส หรือแฟชั่นเทป

แน่นอนว่าในวันสำคัญไม่ว่าใครก็คงไม่อยากให้มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้น แต่บางครั้งเหตุฉุกเฉินก็ชอบที่จะเกิดในช่วงเวลาสำคัญในแบบที่เราคาดไม่ถึง เพราะฉะนั้นการเตรียมสก๊อตเทปใสหรือเทปแฟชั่นเอาไว้ก็ช่วยให้อุ่นใจได้ไม่น้อย เพราะไม่ว่าชุดของใครจะฉีกขาดหรือซิปเกิดทำงานผิดปกติ ก็สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทัน ซึ่งนอกจากสก๊อตเทปใสหรือเทปแฟชั่นแล้ว ชุดเข็มและด้ายแบบพกพาก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมจำเป็นที่ต้องมีไว้เผื่อฉุกเฉินในกรณีที่เทปใสเอาไม่อยู่ด้วย

4. ชุดน่ารักๆ ไว้ถ่ายรูปก่อนสวมชุดแต่งงาน

บางครั้งช่างภาพก็มักจะเกาะติดคุณตลอดเวลาเพื่อที่จะได้ภาพโมเม้นต์ต่างๆ ที่ไม่ใช่แค่เฉพาะภาพในช่วงพิธี เราเลยขอแนะนำให้เจ้าสาวเตรียมชุดน่ารักๆ เอาไว้สักหนึ่งชุด ซึ่งอาจจะเป็นชุดที่เข้ากับแก๊งเพื่อนเจ้าสาวหรือเจ้าบ่าวสุดที่รักของคุณก็ได้ เช่น ชุดนอนสุดคิ้วท์หรือเสื้อคลุมอาบน้ำที่ปักโลโก้ของบ่าวสาวเอาไว้ รับรองว่าคุณจะได้ภาพโมเม้นต์สุดประทับใจเพิ่มขึ้นมาอีกหลายช็อตแน่นอน

5. รองเท้าสวมใส่สบายในชุดเจ้าสาว

ของใช้เจ้าสาว

บางครั้งเจ้าสาวอาจจะคิดว่ารองเท้าส้นสูงที่เลือกมาใส่กับชุดแต่งงานนั้นก็สบายเท้าดีอยู่แล้ว แต่เชื่อเถอะว่าการที่คุณยืนอยู่หน้าแบ็กดร็อปเป็นเวลาหลายชั่วโมง ต่อให้คุณใส่รองเท้าส้นเตี้ยแค่ไหนอาการปวดเมื่อยอ่อนล้าต้องถามหาอย่างแน่นอน จนอาจทำให้คุณเกิดอาการยิ้มไม่ออกเมื่อถึงเวลาต้องเดินเข้างาน เพราะฉะนั้นเจ้าสาวควรเตรียมรองเท้าที่ใส่สบายๆ เผื่อเอาไว้อีกสักคู่สำหรับใส่ยืนถ่ายภาพหน้าแบ็กดร็อปกับแขก เพราะหากเจ้าสาวเลือกใส่ชุดแต่งงานที่ลากยาวปิดเท้าล่ะก็รับรองว่าไม่มีใครรู้เลยว่าด้านในของชุดนั้นเจ้าสาวสวมรองเท้าอะไรอยู่ หรือถ้าไม่มั่นใจก็ลองเลือกเป็นรองเท้าแฟลตน่ารักๆ ที่เหมาะกับชุดแต่งงานของคุณก็ได้ แล้วเมื่อถึงเวลาเดินเข้างานจึงค่อยเปลี่ยนเป็นรองเท้าส้นสูงคู่สวยที่คุณตั้งใจออกแบบมาเป็นอย่างดี รับรองว่างานนี้เจ้าสาวจะยิ้มได้ยาวสบายเท้ายันอาฟเตอร์ปาร์ตี้แน่นอน

แต่ถ้าอยากเสริมแอคเซสซอรี่เพื่อความปังของลุคในช่วงถ่ายภาพ หรือเปิดตัว ต้องไม่พลาด เทียร่าเจ้าสาวแรงบันดาลใจจากลุคเจ้าสาวสุดปังของ เมแกน มาร์เคิล

ภาพ : www.theknot.com, www.pinterest.com, www.maggiesottero.com

a a a a a a a a a a a a

จัดไปแบบไม่กั๊ก 11 เรื่องที่ไม่มีใครเคยบอกก่อนไปลองชุดแต่งงาน

มีบางเรื่องบางอย่างที่ว่าที่เจ้าสาวควรรู้ เพื่อเตรียมตัวรับมือให้ดีก่อนจะเข้าร้านไปลอง ชุดแต่งงาน ในฝัน แต่ละเรื่องจะสุดลับท็อปซีเคร็ต แค่ไหนอ่านได้เลย เราจัดมาให้แบบไม่มีกั๊ก

1. กินให้อิ่ม

ก่อนจะไปช้อปปิ้งชุดเจ้าสาว สาวๆ ควรต้องกินให้อิ่มท้องเสียก่อน โดยเฉพาะว่าที่เจ้าสาวที่มีชุดทรงเมอร์เมด หรือชุดแต่งงานเข้ารูปอยู่ในใจ ไม่อย่างนั้นตอนลองหน่ะ หน้าท้องเรียบแปล้ใส่ได้พอดีเป๊ะ แต่พอวันจริงดันป่องกลางแถมคับติ๋วเพราะอาหารที่กินเข้าไป แย่เลยนะ

2. พาเพื่อนไปด้วย

ว่าที่เจ้าสาวควรลากเพื่อนสนิทไปเลือกชุดแต่งงานด้วย เพราะร้านชุดเจ้าสาวส่วนใหญ่มักจะปากหวาน ใส่อะไรก็ดีงามทั้งนั้น จนบางครั้งอาจทำให้เจ้าสาวสับสนได้ว่า เอ๊ะ ฉันใส่แล้วดูดีจริงหรือเปล่า ซึ่งคนที่จะช่วยสาวๆ คอนเฟิร์มได้ก็คือเพื่อนสาวที่พูดอะไรตรงๆ อย่าง “ชุดนี่มันไม่เหมาะกับเธอหรอก ใส่แล้วตันเชียว” แบบเนี้ยก็จะทำให้คุณเลือกชุดได้ง่ายขึ้น แถมได้ชุดที่ใส่แล้วสวยจริงๆ อีกต่างหาก

3. แต่งหน้าจัดเต็มไปเลย

สาวๆ ไม่ควรแต่งหน้าเอฟวี่เดย์ลุคไปลองชุดแต่งงานนะจ๊ะ แต่ควรแต่งหน้าทำผมที่คิดว่าอยากจะทำในวันงานไปเลือกชุดด้วย เพื่อที่จะได้เลือกชุดที่ดูลงตัวและให้คุณเจ้าสาวนึกสภาพตัวเองออกว่าในงานแต่งฉันใส่ชุดนี้ แต่งหน้าทำผมแบบนี้ แล้วสารร่างจะเป็นเยี่ยงไร

4. เตรียมถูกเปลื้องผ้า

สูดลมหายใจเข้าลึกๆ  แล้วก็ยอมให้เขาเอาชุดออกจากร่างไปซะ ในห้องลองชุดแต่งงานหน่ะ พนักงานจะมาช่วยคุณใส่และถอดชุดเจ้าสาว ทางที่ดีสาวๆ ควรเลือกใส่บราไร้สายและกุงเกงลิงสีอ่อนในวันที่ไปลองชุดด้วย เผื่อต้องตาต้องใจกับชุดผ้าบางเบา หรือเกาะอกสุดเซ็กซี่

5. เชื่อคำแนะนำของพนักงานร้านชุด

หากพนักงานในร้านชุดมีคำแนะนำให้กับคุณ ลองเชื่อเขาสักหน่อยก็ดีนะ เพราะพนักงานพวกนี้เห็นเจ้าสาวมาเป็นร้อยเป็นพันคน แถมรู้ดีว่าหุ่นแบบไหนเหมาะกับชุดแบบไหน และจะเจ๋งมากถ้าคุณเจ้าสาวบอกในสิ่งที่ตัวเองชอบกับพนักงานร้าน คราวนี้ก็จะได้ชุดที่ทั้งถูกใจและถูกกาย

6. ไซส์มันเป็นเพียงแค่ตัวเลข

อย่ายึดติดกับไซส์ของชุดว่าฉันต้องใส่ไซส์ S ตลอดไป แม้ว่าชุดในชีวิตประจำวันจะเป็นอย่างนั้น แต่สำหรับชุดแต่งงานนั้นมันไม่เหมือนกัน ชุดที่ใส่จะเป็นไซส์อะไรก็ได้ ขอแค่ใส่สบายไม่อึดอัดก็พอ

7. ลองชุดหลายๆ แบบ

เจ้าสาวที่ดีควรต้องลองชุดหลายๆ แบบนะคะ อย่าไปปิดกั้นตัวเองว่าจะใส่ได้แค่ทรงใดทรงหนึ่งเท่านั้น หรือหาแต่ที่ปักใจหลงชอบ บางทีถ้าได้ลองชุดทรงอื่น คุณเจ้าสาวอาจจะเจอชุดที่ใช่แบบไม่คาดคิดเลยก็ได้ หรือจะลองมองดูเป็นชุดแต่งงานของคุณแม่ก็ได้นะ บางทีอาจจะช่วยให้คุณเปล่งประกายแบบ ว้าว ว้าว ว้าววววว

 8. แบ่งปันชุดให้คนอื่นได้ลองบ้าง

ใช่ว่าคุณจะเป็นลูกค้าคนเดียวของร้านเสียเมื่อไหร่ ต้องทำใจนะว่าบางทีชุดที่คุณลองก็อาจจะมีลูกค้าคนอื่นอยากลองบ้าง และบางทีคุณเองก็อยากลองชุดคนอื่นด้วย อ้อ…อย่าจับจองพื้นที่หน้ากระจกไว้คนเดียวนะ แบ่งปันให้คนอื่นด้วย

9. อย่าเอาแต่ยืนนิ่ง ขยับตัวด้วย

ลองชุดแต่งงานทั้งที ก็อย่าเอาแต่ยืนนิ่งอยู่บนแท่น ต้องลองเดินไปเดินมา และทำให้ครบทุกอิริยาบถ เพื่อจะทดสอบว่าชุดเจ้าสาวที่ใส่อยู่มันใช่คุณจริงๆ ไม่ทำให้เคลื่อนไหวลำบากและอึดอัดเพราะเป็นชุดที่คุณต้องใส่อยู่ตลอดเวลาทั้งวัน ทั้งคืน

10. เป็นเจ้าสาวต้องเข้มแข็ง

บางครั้งชุดที่คุณเลือก ชุดที่คุณใส่ก็อาจไม่โดนใจคนรอบข้างจนบางทีก็มีเสียงนกเสียงกาเข้ามาถึงหูเจ้าสาว ณ จุดนี้อยากบอกว่า อย่าไปแคร์ อย่าไปเอาคำพูดบั่นทอนของพวกขี้เมาท์เหล่านี้มาทำให้เสียความเป็นตัวเองไปเด็ดขาด จงมั่นใจในตัวเองและชุดที่เลือกค่ะ

11. ลองถามหาส่วนลดได้นะ

หลังจากที่เจ้าสาวตกลงปลงใจได้ชุดสุดเลิฟมาแล้ว ก่อนจ่ายเงินลองถามพนักงานดูว่า “มีส่วนลดหรือโปรโมชั่นพิเศษอะไรหรือเปล่าคะ” คุณคงไม่ได้ส่วนลด 50 % หรอก แต่ก็อาจจะได้ราคาพิเศษ หรือของแถมเด็ดๆ อย่างชุดเพื่อนเจ้าสาว หรือเวลผืนสวยที่เข้าชุดกันก็เป็นได้

นอกเหนือจาก 11 ข้อนี้แล้ว อีกอย่างที่อยากฝากไว้ก็คือ สาวๆ อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอนะจ๊ะ วันลองชุดจะได้สวยสดใส มองอะไรก็ดูดี ไม่หงุดหงิดง่าย เพราะวันลองชุดก็เป็นอีกวันที่เหนื่อยไม่ใช่เล่นเลย

ยังมีไอเดียดีๆ และแบบชุดแต่งงานสวยๆ อีกเพียบ คลิกเลย!

ขอบคุณข้อมูลจาก www.huffingtonpost.com

ขอบคุณภาพจาก www.easyweddings.com.au

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

มิกซ์แอนด์แมตช์ชุดเพื่อนเจ้าสาว 4 สไตล์สวยกันได้แบบยกแก๊ง

ได้รับเชิญให้ทำหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวทั้งทีงานนี้ก็ต้องสวยกันหน่อย แต่พอคนยิ่งเยอะความคิดก็ยิ่งแยะ คนนั้นก็อยากสวยอย่างนี้ คนนี้ก็อนากสวยอย่างนั้น แพรว wedding เลยอาสามาไกล่เกลี่ยสิ่งนี้ให้ด้วยการรวบ 4 สไตล์ ชุดเพื่อนเจ้าสาว ที่สวยได้แบบยกแก๊งมาฝาก

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

1. พาสเทลเย็นตา

เปลี่ยนโลกเพื่อนเจ้าสาวจากชุดในเฉดสีบลัช ชมพูหวานฉ่ำ หรือเฉดสีอ่อนนุ่มอื่นๆ มาเป็นเฉดสีเย็นตาในสไตล์พาสเทลที่ช่วยให้ลุคของสาวๆ ดูสดชื่นขึ้น เช่น เฉดสีเทา, สีมิ้นต์, หรือชมพูนม ที่ให้ความสวยงามอ่อนหวานไม่แพ้เฉดสีอื่นๆ ถ้าหากอยากโดดเด่นแบบยกแก๊งไปทางเดียวกันก็อาจจะเลือกเพียงเฉดสีใดเฉดสีหนึ่ง แต่ถ้าหากอยากโดดเด้งสไตล์ใครสไตล์มันก็อาจจะมิกซ์เฉดสีเย็นตาเหล่านี้เข้าด้วยกันก็ได้

2. ขาวดำสุดทันสมัย

สีขาวดำในบ้านเราอาจไม่เป็นที่นิยมมากนักเพราะเป็นสีที่ดูมืดหม่นซึมเศร้าไปหน่อย แต่ถ้าหากบ่าวสาวคู่ไหนที่หัวสมัยไม่ยึดติดอยู่กับที่ (รวมไปถึงครอบครัวของบ่าวสาวต้องเข้าใจด้วยนะจ๊ะ) การจับคู่สีขาวดำของแก๊งเพื่อนเจ้าสาวก็ให้อารมณ์สวยเก๋ทันสมัยที่น่าสนใจอีกหนึ่งลุค แถมยังช่วยพรางรูปร่างสำหรับสาวเจ้าเนื้อได้ดีอีกด้วย โดยอาจจะเพิ่มกิมมิกให้กับแก๊งด้วยการเลือกเนื้อผ้าที่ต่างกันออกไปเพื่อความน่าสนใจ เช่น ผ้ากำมะหยี่หรือผ้าลูกไม้ก็ให้ลุคที่น่าสนใจไม่น้อย หรือเพื่อความปลอดภัยและใส่เฉดสีนี้ได้อย่างหายห่วง อาจจะเปลี่ยนมาใส่ในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็ให้ลุคเรียบหรูดูมันได้ไม่แพ้กันนะจ๊ะ

3. เฉดสีสุดโรแมนติกของพระอาทิตย์ตก

ไม่ว่าจะเป็น เฉดสีส้ม เฉดสีฟ้า หรือเฉดสีม่วงอ่อนๆ ก็ให้ลุคที่สวยหวานโรแมนติกไม่ต่างกัน และไม่ว่าจะเลือกใส่ในเฉดสีเดียวกันทั้งแก๊ง หรือคละสีให้ต่างกันก็รับประกันความดูดีไม่แพ้กันแน่นอน เพราะทั้งหมดนี้เป็นเฉดสีที่สามารถไปด้วยกันได้ดีทั้งหมด ยิ่งถ้าหากงานแต่งของเพื่อนสาวเป็นงานแต่งริมทะเลด้วยแล้ว รับรองว่าลุคนี้ของแก๊งเพื่อนเจ้าสาวจะเพอร์เฟกต์ไร้ที่ติชนิดที่ว่าเข้ากับบรรยากาศแบบสุดๆ และแนะนำให้เลือกเป็นผ้าแบบพลิ้วไหวจะได้เข้ากับลมทะเลที่พัดมา แล้วอย่าลืมเลือกเนื้อผ้าที่มีความลื่นสักนิดจะได้ไม่เหนียวเหนอะหนะจากลมทะเลยังไงล่ะคะ

4. เฉดสีอัญมณีสุดหรู

เฉดสีอัญมณีต่างๆ จะช่วยให้แก๊งเพื่อนเจ้าสาวได้ลุคที่หรูหราโดยเฉพาะในเฉดสีเข้มที่เหมาะกับงานทางการในตอนกลางคืน ซึ่งเฉดสีนี้เป็นเฉดสีสุดอัศจรรย์เพราะไม่ว่าจะหยิบจับมาใส่ในโทนสีไหนก็ให้อารมณ์ที่หรูหราสง่างามขึ้นมาทันที อย่างเช่น เฉดสีแดงทับทิม เฉดสีแซฟไฟร์ หรือเฉดสีเขียวมรกตก็ตาม ยิ่งถ้าหากเลือกเป็นชุดราตรีประดับเลื่อมด้วยแล้วยิ่งช่วยให้ลุคของสาวๆ ดูน่าทึ่งเข้าไปอีก แถมในเฉดสีเข้มของอัญมณีเหล่านี้ยังช่วยทำให้รูปร่างของแก๊งเพื่อนเจ้าสาวดูดีเพรียวบางช่วยพรางรูปร่างได้อีกด้วย และเจ้าสาวในชุดแต่งงานสีขาวก็มั่นใจได้เลยว่าคุณจะโดดเด่นเป็นสง่าท่ามกลางแก๊งเพื่อนเจ้าสาวในชุดเฉดสีสุดหรูนี้แน่นอน

หาก 4 ลุคนี้ยังไม่ถูกใจตามไปดูลุคอื่นตามลิงค์ด้านล่างเลยจ้า
พาเลตต์ 3 เฉดสีสุดฮิตให้ชุดเพื่อนเจ้าสาวดูดีตลอดปี 2018
ชุดเพื่อนเจ้าสาวลายดอก ให้ลุคสวยหวานสดใสกันแบบยกแก๊ง
เทคนิคเลือกโทนสีชุดเพื่อนเจ้าสาวที่ใช่ให้เหมาะกับสไตล์ของแก๊ง

Cr. www.marthastewartweddings.com, www.everafterguide.net

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

เซอร์ไพรส์เจ้าบ่าวในงานแต่งงาน ยังไงให้เขาประทับใจเราไม่ลืม

เซอร์ไพรส์เจ้าบ่าวในงานแต่งงาน เป็นสิ่งที่น่ารักและทำให้คนโดนเซอร์ไพรส์ประทับใจน้ำตาแตกเอาได้ง่ายๆ  แต่จะเลือกเซอร์ไพรส์แบบไหน? แพรว wedding มีวิธีดีๆ มาแนะนำ

เซอร์ไพรส์เจ้าบ่าวในงานแต่งงาน มีมากมายหลากหลายวิธี ลองเลือกจากลิสต์ด้านล่างนี้ดูสิ

1. มีความสามารถพิเศษอะไรงัดเอาออกมาใช้ได้เลย

ร้องเพลง ใครเสียงดีร้องเพลงเพราะ จัดไปเลยค่ะ แนะนำว่าให้เลือกเพลงความหมายดีๆ ช้าๆซึ้งๆ มาสักเพลง หมั่นแอบฝึกร้องเอาไว้ ให้ชำนาญ เมื่อถึงเวลาต้องร้องเพลงจริงๆในวันงานร้องเพลงไป จ้องตาไปจะได้ไม่เขินกัน

ร้องเพลง

เพลงแนะนำ : แค่คุณ(Musketeers), ของขวัญ(Musketeers), เพราะอะไร(ป้าง), เธอทั้งนั้น(Groove rider), หยุด(Groove rider), คู่ชีวิต(Cocktail)

เต้น ใครมีความสามารถด้านการเต้น เปิดฟลอร์แดนซ์ วาดลวดลายได้เลย  แนะนำว่าให้เลือกเพลงที่มีท่าเต้นฮิตๆในช่วงนั้น หรือเพลงที่มีเนื้อหาและท่าเต้นน่ารักๆ เพราะจะทำให้เขาเอ็นดูคุณเพิ่มขึ้นอีกเป็นกอง

เต้น

เล่นดนตรี ถนัดดนตรีชิ้นไหนเอามาเล่นโชว์แสดงฝีมือกันสดๆไปเลย กีตาร์ เปียโน ไวโอลิน ได้หมด การที่คุณเล่นดนตรีได้ ทำให้คุณดูเป็นคนที่มีความสามารถและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น

เปียโน

แต่งเพลง ข้อนี้นี่พิเศษสุดๆ ใครๆก็อยากมีเพลงเป็นของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น ถ้าคุณมีความสามารถในการแต่งเพลงแล้วล่ะก็ จัดไปเลย เขาประทับใจคุณแน่ๆ

เพลง

ทำของขวัญ DIY มอบของขวัญให้เขา แต่เป็นฝีมือเราเอง ข้อนี้ต้องทำการบ้านมาว่า อะไรที่เขาชอบ อะไรที่เหมาะกับเขา และเราอยากทำให้ เมื่อได้ข้อมูลแล้วก็ลงมือได้เลย

ของขวัญ

2. ทำในสิ่งที่ทำไม่เป็น

อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ให้ทำในสิ่งที่เราทำไม่เป็น ไม่ถนัด และไม่เคยทำมาก่อน แต่เราอยากเรียนรู้มันเพื่อเขา  รับรองว่านี่แหละ คือสิ่งที่เซอร์ไพรส์เขาอย่างจริงจัง อย่างเช่น ลองหัดตีกลองแล้วโชว์ให้เขาดูในวันงาน หัดเล่นกีตาร์ และร้องเพลงบอกรักเขา หรือจะหัดเต้นก็ได้ สิ่งเหล่านี้ถ้าเราเรียนรู้เพื่อเขา คุณคิดหรือว่าเขาจะไม่ประทับใจ  แต่ว่าคุณต้องมุ่งมั่นหน่อยนะ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน แต่ถ้ามีความตั้งใจทำเพื่อคนที่เรารักมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก

3. เชิญศิลปินคนโปรดของเขามาร้องเพลงในงาน

ข้อนี้เหมาะกับคนที่มีศิลปินในดวงใจที่ชัดเจน ให้แอบติดต่อศิลปินคนนั้น อย่าให้เขารู้เป็นอันขาด เขาจะประทับใจแค่ไหนถ้าศิลปินในดวงใจมาร้องเพลงให้ในวันสำคัญของเขา

4. คลิปวิดีโอ

ใครที่ขี้อาย ยังเขินๆถ้าต้องแสดงสด ให้ใช้เป็นคลิปวิดีโอแทนก็ได้นะ อาจจะเป็นคลิปบอกรัก คลิปแสดงความสามารถหรือคลิปอวยพรจากศิลปิน ก็ได้ทั้งนั้น

ไม่ว่าเราจะเซอร์ไพรส์เขาด้วยวิธีไหน ถ้าเราทำด้วยความตั้งใจ ยังไงก็เวิร์ค

เครดิตภาพ : pinterest

ไอเดียงานแต่งเพิ่มเติม
5 ไอเดียงานแต่งเก๋ๆ สร้างความประทับใจให้แขกทันทีทีเดินเข้างาน

 

ริชชี่ สวยหวานเบอร์แรง แฟชั่นชุดแต่งงานไทยในนิตยสารแพรวเวดดิ้ง มิ.ย. 63

ริชชี่ – อรเณศ ดีคาบาเลส สะท้อนความอ่อนโยนของเจ้าสาวผ่านชุดไทยจากร้าน Deep Love Wedding รับประกันความงามที่ใจละลายแน่นอน

ชุดไทยมีหลายแบบให้เลือก แล้วจะเลือกยังไงให้ทั้งเหมาะ ทั้งสวย Deep Love Wedding แนะนำมาว่า

อย่างแรกเลยต้องดูก่อนว่าบุคลิกของเจ้าสาวเป็นลักษณะใด มีรูปร่างแบบไหน เช่น  เป็นคนตัวผอม สมส่วน เจ้าเนื้อ สูง หรือเตี้ย ต่อมาก็ต้องมาดูที่สถานที่จัดงานแต่งงาน หรือธีมของงานแต่ง ว่ามีลักษณะแบบไหน สีอะไร เพื่อที่เวลาเจ้าสาวใส่ชุดแต่งงานไทยแล้วเข้าไปยืนถ่ายภาพในงานแล้ว จะได้ไม่จมหายไปพร้อมกับสถานที่

วิธีการเลือกสีชุดแต่งงานไทยให้สวย

จริงๆ แล้วไม่ยากเลย ควรเลือกสีชุดให้แตกต่างกับสีผ้านุ่ง อย่างเช่น ถ้าเสื้อสีชมพูอ่อน ผ้านุ่งควรเป็นชมพูเข้ม หรือเป็นสีอื่นไปเลย เพราะถ้าสังเกตดีๆ ชุดไทยจะเป็นชุดทรงกระบอก เพราะฉะนั้นเราควรเลือกสีให้มีความแตกต่างกัน ให้คอนทราสต์กันนิดหน่อยเพื่อที่จะได้ให้เห็นทรวดทรงของเจ้าสาวได้อย่างชัดเจน ไม่เช่นนั้น ถ้าเราใส่สไบสีทอง ผ้านุ่งสีทอง เวลาดูแล้วก็จะเหมือนแท่งสีทองๆ เดินได้ แต่ในกรณีที่เสื้อเป็นสีเดียวกับผ่านุ่ง ก็อาจจะนำสไบมาห่มทับอีกชั้นก็ได้

นอกจากนี้ เนื้อผ้า ยังมีผลต่อความสวยงามของชุดแต่งงานไทยด้วย เพราะเนื้อผ้าจะเพิ่มความหนา-บางให้กับตัวของเจ้าสาวได้ ในกรณีที่เจ้าสาวตัวผอมมาก ควรเลือกผ้าที่พริ้วๆ บางๆ เพื่อที่จะได้เพิ่มเนื้อหนังให้เจ้าสาวมากยิ่งขึ้น  แต่ถ้าเจ้าสาวเป็นคนเจ้าเนื้อ ต้องเลือกหนาขึ้นมานิดนึงจะได้จับทรงให้เข้ารูปได้ง่าย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย

ดูแบบชุดแต่งงานร้าน Deep Love Wedding เพิ่มเติมคลิกเลย!

ชุดแต่งงานจาก Deep Love Wedding
ซอยอุดมสุข 49 ถนนสุขุมวิท 103 กรุงเทพฯ
โทร. 0-2398-5739, 0-2399-1693, 09-5789-9556
เว็บไซต์ : www.deeplovewedding.com
เฟซบุ๊ก : DeepLove ชุดแต่งงาน ชุดไทย
ไอจี : @deeplove_official
ไลน์ : @deeplovewedding

ขอบคุณสถานที่: วังราชพฤกษ์ Acts Studio โทร.02-997-3919

สิ่งที่เจ้าสาวต้องทำ 6 เดือนก่อนงานแต่ง เพื่อความสวยงามแบบไร้ที่ติ

หลังจากกำหนดวันจัดงานกันได้แล้ว คุณเจ้าสาวควรลิสต์ สิ่งที่เจ้าสาวต้องทำ ออกมาให้เร็วที่สุด เพราะเวลาไม่เคยรอใคร กลับเดินหน้าไปเรื่อยๆ คิดช้าไปอาจจะไม่ทันการณ์ โดยเฉพาะเรื่องความสวยความงาม ที่จะรีรอไม่ได้

สิ่งที่เจ้าสาวต้องทำ 6 เดือนก่อนงานแต่งงานนั้น มีมากมายหลากหลายเรื่องเลยเชียวละ และอันดับต้นๆคงหนีไม่พ้นเรื่องความงาม จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แพรว wedding มีคำตอบมาให้

1.กำหนดเป้าหมาย
พูดคุยเกี่ยวกับความกังวลที่สุดของคุณกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสามารถวางแผนการรักษาความกังวลนั้นให้เหมาะกับระยะเวลาและงบประมาณได้

เจ้าสาว

2.ค้นหาช่างหน้าช่างผม
ลองหาทรงผมและการแต่งหน้าในแบบที่คุณชอบจาก Pinterest หรือตามเว็บไซต์ต่างๆ แล้วนำแบบไปสอบถามช่างที่คุณหมายปองไว้ ว่าเขาสามารถทำตามแบบนั้นได้หรือไม่ แต่ทางที่ดี ควรเลือกช่างจากการดูผลงานที่ผ่านมาของเขาเสียก่อน ว่าถูกใจคุณมั๊ย และถ้ามีโอกาสซ้อมแต่งก่อนในการถ่ายพรีเวดดิ้งก็จะดี

3.ไว้ผมให้ยาวที่สุด
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผมยาวจะทำผมเจ้าสาวออกมาได้หลากหลายที่สุด ถ้าคุณยังเลือกทรงผมที่จะทำในวันงานไม่ได้ก็ควรไว้ผมให้ยาวที่สุดก่อน แล้วปรึกษาช่างทำผมอยู่เป็นระยะๆ ก่อนวันงานก็แค่จัดการให้เรียบร้อยเข้าทรง พร้อมให้ช่างทำผมต่อได้ง่าย

เจ้าสาวผมยาว

4.เลเซอร์กำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์
สำหรับเจ้าสาว ขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง มักเป็นสิ่งที่กวนใจอยู่ไม่น้อย กำจัดออกไปได้เลยค่ะ ศึกษาวิธีที่คิดว่าเหมาะสมกับเราและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

5.รักษาผิวหน้าให้ขาวใส
ผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้เป็นประจำทุกวันคือครีมกันแดด และช่วงเวลานี้ควรทำสปาผิวอย่างสม่ำเสมอ หรือถ้าทำงานจนยุ่งไม่มีเวลา ก็ควรมาส์กหน้าอย่างสม่ำเสมอแทน ขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์ออกใหม่ สดๆ ร้อนๆ โอเลย์ มาส์กกู้ชีพ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับชีวิตที่เร่งรีบ โดยมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้เปล่งปลั่งมีออร่า

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก www.facebook.com/olaythailand

 

สิ่งที่เจ้าสาวต้องทำ

 

6.ปั้นหุ่น
ปั้นหุ่นสวยด้วยการออกกำลังกาย ร่วมกับการควบคุมอาหาร เพื่อให้ได้หุ่นสวยเป๊ะ ใส่ชุดทรงไหนก็สวย แต่สำหรับใครที่ชอบแบบเร่งด่วน ลองปรึกษาทาง ฟิลิป เวน เพราะเขามี โปรแกรม Body Perfecta เพื่อขจัดไขมันส่วนเกิน ออกมาใหม่ รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก www.phillipwain-thailand.co.th

เจ้าสาว

เรื่องง่ายๆแค่นี้เอง ถ้าทำตามนี้อย่างเคร่งครัด รับรองวันงานคุณจะสวยเจิดที่สุด

 

เครดิตภาพ : pinterest

ติดตามไอเดียและเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับงานแต่งงานได้ที่ praewwedding

6.ปั้นหุ่น
ปั้นหุ่นสวยด้วยการออกกำลังกาย ร่วมกับการควบคุมอาหาร เพื่อให้ได้หุ่นสวยเป๊ะ ใส่ชุดทรงไหนก็สวย แต่สำหรับใครที่ชอบแบบเร่งด่วน ลองปรึกษาทาง ฟิลิป เวน เพราะเขามี โปรแกรม Body Perfecta เพื่อขจัดไขมันส่วนเกิน ออกมาใหม่ รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก6.ปั้นหุ่น
ปั้นหุ่นสวยด้วยการออกกำลังกาย ร่วมกับการควบคุมอาหาร เพื่อให้ได้หุ่นสวยเป๊ะ ใส่ชุดทรงไหนก็สวย แต่สำหรับใครที่ชอบแบบเร่งด่วน ลองปรึกษาทาง ฟิลิป เวน เพราะเขามี โปรแกรม Body Perfecta เพื่อขจัดไขมันส่วนเกิน ออกมาใหม่ รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

 

4 ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น หากคิดจัดงานแต่งงานในช่วงวันหยุดยาว

สำหรับคู่รักที่เซย์เยสตกลงปลงใจจะเข้าสู่ประตูวิวาห์กันแล้ว และกำลังเริ่มวางแผนจัด งานแต่งงาน กันอยู่ หนึ่งในขั้นตอนแรกๆที่สำคัญมากนั่นก็คือ การกำหนดวันแต่งงาน หรือหมายกำหนดการนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นฤกษ์สะดวก หรือฤกษ์งามยามดีที่ได้มาจากสำนักดังก็แล้วแต่ วันนี้ แพรว wedding มาสะกิดคุณไว้ก่อน ถึงความเสี่ยงในการเลือกจัด งานแต่งงานช่วงวันหยุดยาว รู้ไว้เสียก่อนจะได้ประเมิณในเบื้องต้นได้ไม่พลาดนะคะ

จัด งานแต่งงานช่วงวันหยุดยาว บ่าวสาวควรต้องเตรียมพร้อมและเตรียมใจรับความเสี่ยงกันสักนิด

งานแต่งงานช่วงวันหยุดยาว
Photo by freestocks on Unsplash

1.แขกบางคนอาจไม่สามารถมาร่วมงานได้

แขกบางคนอาจมีกิจกรรมส่วนตัวที่แพลนไว้อยู่แล้วในช่วงวันหยุดสำคัญ อาจจะต้องออกเดินทางไกลสำหรับการพักผ่อนหรือเยี่ยมญาติ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่แขกบางคนต้องการใช้เวลาตลอดสามวันของช่วงวันหยุดพักผ่อนในการพักผ่อนอย่างแท้จริง ที่สำคัญอีกข้อ คือ ไม่ใช่แขกทุกคนที่จะมีวันหยุดเหมือนคนอื่นในช่วงวันหยุดยาวนะคะ บางคนอาจจะต้องทำงานหรือมีงานด่วนที่ต้องแก้ไข ดังนั้นงานแต่งงานในช่วงวันหยุดยาวอาจทำให้พวกเขาไม่สามารถมาร่วมในงานแต่งงานได้ ดังนั้นคู่บ่าวสาวจึงควรเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิเสธที่จะเกิดขึ้นได้ถ้าทุกอย่างที่วางแผนไว้ไม่เป็นตามที่คาดหวังไว้เบื้องต้น

2. ไม่ได้ประหยัดเงินเสมอไป

เป็นเรื่องจริงที่การจัดงานแต่งงานในช่วงวันหยุดยาวอาจจะมีประโยชน์บางอย่าง เช่น ถ้าจัดงานวันอาทิตย์จะมีราคาถูกกว่า แต่สิ่งของต่างๆ ที่ใช้ในงานแต่งงานอย่างดอกไม้ในวันวาเลนไทน์หรือสถานที่จัดงานแต่งงานในคืนปีใหม่จะมีราคาแพงกว่าในช่วงเวลาอื่น และอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการต้อนรับแขกมากขึ้น เช่น ค่าตั๋วเครื่องบินสำหรับแขกที่อาจต้องเดินทางมาจากสถานที่ไกลๆ หรือค่าที่พักโรงแรมที่อาจมีราคาสูงขึ้นในช่วงวันหยุดพักผ่อนตามเทศกาล

3. ปัญหาการจราจร

ปัญหาการจราจรจะขึ้นอยู่กับสถานที่จัดงานแต่งงาน บางสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมากจะแออัดในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งหมายความว่าแขกที่จะมาร่วมงานต้องใช้เวลาในการเดินทางมากขึ้นกว่าจะมาถึงสถานที่แต่งงาน และทำให้ทุกคนๆ รวมทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวเองต้องใช้เวลามากขึ้นในการเดินทางมาถึงสถานที่จัดงานแต่งงาน

4. สถานที่แต่งงานอาจถูกจองไปแล้ว

วันหยุดยาวเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับทุกๆการเฉลิมฉลอง ไม่ว่าจะเป็น งานแต่งงาน(ที่ใจตรงกับคุณ) งานเลี้ยงรุ่น งานวันเกิด หรืองานสำคัญอื่นๆ ดังนั้นสถานที่จัดงานที่เป็นที่นิยมก็มักจะถูกจองไปแล้วอย่างรวดเร็ว ดังนั้นคุณจึงควรวางแผนแต่เนิ่นๆ เพื่อจองสถานที่จัดงานแต่งงานที่คุณต้องการในวันเวลาที่กำหนดได้ไม่พลาด

ติดตามไอเดียและคำแนะนำในการจัดงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

 

cr : asyouwishweddings.ca, shefinds.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

15 สไตล์ผมเจ้าสาว ตั้งแต่ผมสั้นไปจนถึงผมสั้นมากของเจ้าสาวตัวจริง

เจ้าสาวหลายคนพอรู้ตัวว่าจะต้องเตรียมตัวเข้าสู่ประตูวิวาห์ก็เร่งเตรียมการไว้ผมยาวกันใหญ่ เพราะกลัวว่าจะไม่สวยในวันสำคัญ บางคนก็กินวิตามิน บางคนก็ใช้ทางลัดอย่างการต่อผม โดยบางคนก็ยอมทิ้งตัวตนที่รักในการไว้ผมสั้นเพื่องานใหญ่ในชีวิตโดยเฉพาะ ซึ่งเราอยากจะบอกว่าในวันสำคัญของชีวิตคุณควรที่จะเป็นตัวเองให้มากที่สุด เพราะไม่ว่าผมสั้นแค่ไหนเจ้าสาวก็ดูสวยได้ในแบบของตัวเอง แพรว wedding เลยไปรวบรวม ผมเจ้าสาว รุ่นพี่ที่มีตั้งแต่ผมสั้นนิดๆ ไปจนถึงผมสั้นมากมาฝาก รับรองว่าดูแล้วได้ไปเดียไปปรับใช้กับทรงผมตัวเองแน่นอน

1. หากคุณเป็นเจ้าสาวผมหยิก ไม่ว่าจะหยิกแบบธรรมชาติหรือไปดัดมาก็ตาม เพียงแค่เซตผมให้เข้าทรงไม่ชี้ฟู แล้วปล่อยผมของคุณให้เป็นธรรมชาติเท่านี้ก็สวยในแบบของตัวเองแล้ว

2. เติมความสดชื่นให้กับผมเจ้าสาวด้วยดอกไม้สีสันแสนแหวนที่ไม่ต้องมากมายนักก็ช่วยให้เจ้าสาวสดใสดูมีอะไรแล้ว

3. งานนี้สวยได้แบบไม่ต้องพึ่งดอกไม้ เพียงแค่เติมใบไม้สีเขียวที่มีรูปทรงสวยงาม อย่างเช่น ใบเฟิร์น ที่จะโค้งรับพอดีกับรูปทรงศีรษะของเจ้าสาว แล้วติดเวลเพิ่มความอ่อนหวานให้ดูพลิ้วไหว เท่านี้ก็สวยจนขนลุกแล้ว

4. หากคุณมีความยาวของเส้นผมในระดับคาง เพียงแค่เพิ่มการทำสีและไฮไลต์ที่เหมาะกับตัวเองและโทนสีผิว ส่วนในวันงานก็ดัดลอนไว้พออ่อนๆ ก็ดูสวยได้แบบไม่ต้องพยายามแล้ว

5. เจ้าสาวผมสั้นประบ่าพร้อมหน้าม้าสุดน่ารัก ลองปรึกษากับช่างทำผมว่าจะเบี่ยงหน้าม้าไปไว้ด้านไหนให้รับกับใบหน้าดี แล้วเพิ่มวอลลุ่มให้กับผมด้วยการดัดลอน ก็สวยน่ารักแบบไม่ต้องเก็บหน้าม้าให้ยุ่งยากแล้ว

6. เครื่องประดับศีรษะประดับเพชรระยิบระยับเป็นอีกหนึ่งลุคที่เรียบง่ายแต่ให้พลังความงามมหาศาล ชนิดที่ว่าเป็นลุคที่กาลเวลาฆ่าไม่ตาย

7. เจ้าสาวผมสั้นมากกกกกก ก็สวยหวานสไตล์เจ้าหญิงได้นะจ๊ะ เพียงแค่ประดับเวลไว้ที่ด้านหลังก็ดูเป็นเจ้าสาวสวยหวานขึ้นมาทันที

8. เจ้าสาวผมสั้นทำสีที่มีไฮไลต์สุดโดดเด่น ลองเพิ่มเวลประดับศีรษะผ้าตาข่ายโปร่งบางที่เผยให้เห็นสีผมสุดแซ่บของคุณก็เป็นลุคที่เวิร์กไม่น้อยเหมือนกัน

9. ไม่ต้องทำผมให้ยุ่งยาก เพียงแค่สวมมงกุฎดอกไม้ก็ได้ลุคเจ้าสาวทันใจทันที

10. เพียงแค่หยิบแอคเซสซอรี่ที่บ่งบอกสไตล์ความเป็นตัวตนของคุณ ที่เข้ากับธีมงานและชุดเจ้าสาว ก็ช่วยให้คุณสวยได้แล้วในพริบตา แถมยังประหยัดค่าช่างทำผมไปอีก

11. เจ้าสาวเด็กแนวต้องไม่พลาดการติดเวลแบบ birdcage veil ที่เบี่ยงมาบังใบหน้าด้านข้างนิดๆ ให้ลุคสุดคลาสสิคแบบทันสมัย

12. เจ้าสาวลุคเปรี้ยวกับผมซอยสั้นแบบไล่เลเยอร์ เพียงแค่เซตผมให้อยู่ทรงโดยไม่ต้องเพิ่มแอคเซสซอรี่ใดๆ ให้มากมาย ก็ให้ลุคสุดเฉี่ยวได้ง่ายๆ แล้ว

13. ดัดผมให้เป็นลอนอ่อนๆ โดยที่ไม่ต้องอัดสเปรย์ให้ผมแข็งโป๊กมากนัก เพราะลุคนี้เราอยากให้ผมของเจ้าสาวดูพลิ้วไหวไปตามจังหวะการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ

14. โดดเด่นให้สุดด้วยการประดับดอกไม้สีสันสดใสดอกใหญ่สุดพลัง ซึ่งลุคนี้เหมาะกับเจ้าสาวสายชิลที่แต่งงานในสวยภายในบรรยากาศแบบเป็นกันเอง

15. ให้ลุคสวยหวานแบบผ่อนคลายด้วยการประดับดอกไม้ไว้ที่ด้านข้าง ที่สามารถเพิ่มกิมมิกให้กับดอกไม้ได้ เช่น ดอกไม้ที่ทำจากผ้าชนิดเดียวกับชุดแต่งงาน เป็นต้น

ดูเรื่องราวความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพและข้อมูล : www.brides.com, www.bridestory.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

เจ้าสาวเตรียมตัวไว้ 9 คำถามนี้ต้องตอบหลังจบงานหมั้น

ก่อนหมั้นทุกคนก็ถาม “เมื่อไรจะหมั้น” พอจบ งานหมั้น อีก 108 คำถามก็ยังจะตามมาชนิดที่อาจทำให้คุณคลื่นเหียนวิงเวียนไปชั่วขณะ เพราะอาจจะเยอะจนคุณตั้งรับไม่ทัน ถ้างั้นมาเตรียมรับมือกับคำถามที่ว่าที่บ่าวสาวมักจะเจอกันดีกว่า ตั้งใจอ่านให้ดี เพราะเรามีคำตอบดีๆ ที่รับรองได้ว่า ถูกใจมนุษย์ขี้สงสัยเหล่านั้นแน่นอน

“ขอดูแหวนหน่อยสิ”

จะว่าประโยคนี้เป็นประโยคบอกเล่าคงไม่ถูกเป๊ะ จะบอกว่าเป็นคำถามก็แบบว่า กึ่งๆ ถามความสมัครใจอยู่หน่อยๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง จงรู้ไว้เถอะค่ะว่าใครๆ ก็อยากเห็นแหวนของคุณใกล้ๆ กันทั้งนั้น ดังนั้นประโยคที่ว่า ขอดูหน่อยซิระยิบระยับแค่ไหนอะไรแบบนี้จึงเกิดขึ้นแน่ๆ ฉะนั้นคุณควรเตรียมมือให้พร้อมโดยเริ่มจากเลิกกัดเล็บก่อนเลย หรือไม่ก็ลงทุนเข้าเนลซาลอนก็เข้าท่าสุดๆ เวลาโชว์แหวนจะได้สวยพร้อมทั้งมือทั้งนิ้ว แต่ถ้าเหล่าบรรดาทั้งหลายได้ดูแล้วยังไม่หนำใจ อาจเจอคำถามต่อเนื่องประเภทว่า “กี่กะรัตคะเนี่ย” ขอแนะนำว่าคุณไม่จำเป็นต้องตอบ แค่ยิ้มเล็กๆ แล้วเปลี่ยนเรื่องคุยไปเลยก็ได้ไม่น่าเกลียด

“เค้าขอแต่งงานยังไงเหรอ”

ขอแนะนำให้คุณเตรียมคำตอบไว้ 2 แบบไปเลยค่ะ แบบแรกคือ ดีเทลจัดเต็มสำหรับเพื่อนสนิทและครอบครัว เข้มข้นทุกอารมณ์ประหนึ่งร่วมเหตุการณ์แบบริงไซด์ ส่วนแบบที่ 2 ก็ตามมารยาทสั้นๆ พอเป็นพิธี สำหรับคนรู้จักทั่วไปค่ะ เช่นว่า ก็ปกติแหละค่ะ จากนั้นยิ้มเบาๆ ก็พอ หรือถ้าอยากใส่ดีเทลอีกนิดก็อาจเติมพวกภาพกว้างของเหตุการณ์ลงไป เช่น ไปเที่ยวทะเลแล้วเขาขอ หรือดินเนอร์อยู่แล้วคุยๆ กันอะไรประมาณนี้ก็พอดีๆ แล้วค่ะ

“แต่งวันไหน”

จริงๆ ทุกคนก็คงจะรู้ว่าการกำหนดวันนี่ยุ่งยากขนาดไหน แต่ทำไงได้…ใครๆ ก็ล้วนตื่นเต้นไปกับคุณนี่นา คำถามคลาสสิคนี้เลยต้องมาแน่ๆ แต่ถ้าคุณยังไม่รู้วันที่แน่นอน ก็ตอบกว้างๆ ไปก่อนก็ได้ว่าจะเป็นช่วงฤดูไหน หรือจะเลี่ยงตอบเรื่องเวลาไปเลย ประมาณว่าสถานที่ยังไม่ลงตัวก็เป็นคำตอบที่โออยู่

“เลือกชุด ธีมสี หรือดอกไม้ได้แล้วยัง”

การที่มีคำถามนี้เกิดขึ้นมา เป็นโอกาสดีที่จะทำให้คุณจะมีโมเม้นท์จับเข่าคุยหาไอเดียงานแต่งอย่างสนุกสนานกับใครก็ตามที่ถามคำถามนี้กับคุณ จนเกิดไอเดียอีกล้านแปดฟุ้งกระจาย แต่ถ้าตอนนี้อะไรๆ ยังตีกันยุ่งไปหมด เราขอแนะนำให้คุณบอกไปกลางๆ ว่า ดูๆ อยู่ อาจะเป็นธีมทั่วๆ ไปแหละค่ะ ถ้าคนถามฟังแล้วไม่จบหรือมีการเสนอร้านรวงต่างๆ แล้วอาจเลยไปถามถึงงบประมาณล่ะก็ จึงยืนหยัดกอดตัวเลขบัดเจ็ทให้แน่น แล้วมั่นคงกับไอเดียตัวเองไว้ก่อนเป็นดี อย่าเพิ่งคล้อยตามไปเด็ดขาด

“แต่งแล้วจะมีลูกเลยไหม”

คำถามนี้ส่วนใหญ่จะมาจากคนใกล้ตัวอย่างผู้ใหญ่ในครอบครัว แล้วอาการมองบนก็มักจะเป็นคำตอบแรกๆ ของคนส่วนใหญ่ เอาเข้าจริงมันก็ไม่ใช่คำถามที่หยาบคายอะไร ดูเป็นความหวังดีซะมากกว่าด้วย เราแนะนำให้คุณลองถามกลับด้วยคำถามเดียวกัน ให้เกิดบทสนทนาที่อบอุ่นและแฝงความอ่อนน้อมต่อญาติผู้ใหญ่เหล่านั้นไว้ได้เป็นอย่างดี

“จะเปลี่ยนนามสกุลไหม”

เรื่องการเปลี่ยนไปใช้นามสกุลว่าที่สามี หรือยังใช้นามสกุลเดิมในสมัยนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดาสามัญสุดๆ เหมือนคุยกันเรื่องดินฟ้าอากาศ กินข้าวแล้วยังอะไรทำนองนี้ ก็แค่ตอบไปตามตรง เปลี่ยนก็บอกเปลี่ยน ไม่เปลี่ยนก็บอกไม่เปลี่ยนแค่นั้นเอง

“เชิญใครบ้าง”

เราสรุปให้ว่าจะมีคน 2 กลุ่มที่ถามคำถามนี้  กลุ่มแรก คืออยากรู้ว่าตัวเองได้รับเชิญหรือเปล่า ส่วนกลุ่มที่ 2 คืออยากรู้ว่าจะมีคนรู้จักมาร่วมงานไหม ซึ่งกลุ่มนี้มั่นใจว่าตัวเองได้รับเชิญแน่นอน.. แต่ถ้าเขาเหล่านั้นไม่อยู่ในลิสต์ คุณอาจตอบให้เหมือนเป็นการบอกใบ้ไปว่า คุณกับแฟนอยากจะจัดงานเล็กๆ ส่วนใครก็ตามที่กล้าถามว่าคุณจะเชิญแฟนเก่าไหม เราขอแนะนำให้คุณมองแรงใส่ทันทีค่ะ!

“ฮันนีมูนที่ไหน”

ถ้าคุณยังไม่ได้แพลนไว้ในใจ ตอบไปก่อนว่าหลังเสร็จงานแต่งถึงจะคิดก็ได้ ดีไม่ดีก็ขอไอเดียคนถามตุนไว้ซะเลย เพราะคุณเองอาจได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อย่างเช่น ทะเลแคริบเบียนไม่ควรไปช่วงไหน หรือพักหาดไหนในภูเก็ตถึงจะได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด เป็นต้น

“มีปาร์ตี้สละโสดไหม”

ไม่ว่าคุณจะแพลนไว้อย่างไรก็ไม่จำเป็นต้องตอบไปทั้งหมด เพราะปาร์ตี้นี้เป็นอะไรที่ดีเทลยิบย่อย แถมทุกอย่างไม่ได้อยู่ที่คุณคนเดียว ปัญหาคุณว่าง-เพื่อนไม่ว่าง เพื่อนว่าง-คุณไม่ว่างที่น่าปวดหัว แค่ตอบไปว่ายังไม่แน่ใจก็น่าจะจบ.. แต่ถ้าคนถามพยายามแรงมาก แต่คุณแน่ใจว่าจะไม่มีชื่อนางอยู่ในลิสต์แน่ๆ ก็ปล่อยเบลอไปเลยแล้วบอกว่าคุณวุ่นวายกับการเตรียมงานแต่งสุดๆ เรื่องปาร์ตี้นี้เอาไว้ทีหลังละกันนะจ๊ะ

ดูไอเดียและคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ stocksnap.io

4 ปก 4 นักแสดง สวยครบทั้งชุดสากลและชุดไทย นิตยสารแพรว wedding ฉบับ มิ.ย. 63

“พลอย – แพนเค้ก” & “แมท – ไอซ์” นิตยสารแพรว Wedding ฉบับเดือนมิถุนายน 2563 จัดเต็ม 4 ปกจุใจสุดๆ กับแฟชั่นชุดแต่งงานสากลและชุดไทยกว่าร้อยชุดที่เจ้าสาวไม่ควรพลาด!

สาวๆ ที่กำลังมีแพลนจะแต่งงานต้องมีนิตยสารแพรว wedding ฉบับเดือน มิ.ย. 63 เล่มนี้ไว้ในมือด่วนๆ! เพราะเรารวมแบบชุดแต่งงานทั้งสากลและไทยให้ดูแบบเต็มอิ่มชนิดที่ว่าไม่ต้องไปหาที่ไหนอีกแล้ว

ซึ่งนอกจากจะมี 4 นักแสดงคนดังมาร่วมถ่ายแฟชั่นเซตปกกับแพรวเวดดิ้งแล้ว เรายังได้คนดังมาร่วมถ่ายแฟชั่นสวยๆ ทั้วชุดสากล และชุดไทยอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น

  • โฟร์ – ศกลรัตน์
  • เจนิส – เจณิสตา 
  • ไอซ์ – อามีนา
  • แพท- ณปภา
  • ริชชี่ – อรเณศ

ทุกเล่มอัดแน่นด้วยเนื้อหาที่ว่าที่บ่าวสาวต้องทราบ!

  • สวยเว่อร์! เจาะลึกซิลูเอทชุดแต่งงานยอดนิยม พร้อมทริคเด็ดเลือกชุดแต่งงานให้เหมาะกับรูปร่าง
  • เอาใจเจ้าสาวสายประหยัดกับ 3 แบบชุดแต่งงานที่ตัดครั้งเดียวแต่นำกลับมาใส่ได้หลายโอกาส พร้อม How To มิกซ์แอนด์แมตช์ใส่ในวันธรรมดาอย่างไรให้ลงตัว
  • เคล็ดลับเสกชุดเพื่อนเจ้าสาวทั้งชุดไทยและชุดราตรีให้สวยเป๊ะยกทีม และรู้ก่อนเริดกว่า! กับ  5 สไตล์ชุดเพื่อนเจ้าสาวสุดฮ็อต
  • ครบเครื่องความสวยกับ 4 ทรงผมสไตล์ “มินิมอลลิสต์” ที่ทำปีไหนก็ไม่เอ้าท์ พร้อมทริคจับคู่เครื่องประดับผมให้เจ้าสาวดูสวยต่างระหว่างวันในผมทรงเดิม
  • 4 แบบชุดไทยประยุกต์ไอเดียเด็ดจาก 4 ร้านชุดแต่งงานชื่อดัง ที่ผสานความเป็นไทยและสากลเอาไว้ด้วยกันในชุดเดียว

พลอย – เฌอมาลย์ & แพนเค้ก – เขมนิจ

นิตยสารแพรว wedding

นิตยสารแพรว wedding

ไอซ์ – อภิษฎา & แมท – ภีรนีย์

นิตยสารแพรว wedding

นิตยสารแพรว wedding

ว่าที่บ่าวสาวที่มีแพลนแต่งงาน หรือสาวๆ ที่อินกับแฟชั่นเวดดิ้ง สามารถซื้อ นิตยสารแพรว wedding ฉบับเดือน มิถุนายน 2563 ได้แล้วที่ร้านหนังสือนายอินทร์ทุกสาขา และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ ส่วนใครที่พรีออเดอร์ไว้แล้วก็รอรับนิตยสารได้เลย ส่วนใครที่สนใจก็สามารถสอบถามสั่งซื้อเพิ่มเติมได้ที่ ร้านนายอินทร์ หรือติดต่อแผนกสมาชิกนิตยสาร โทร. 02-423-9999 กด 1 ได้เลยค่ะ

ภาพถ่ายพรีเวดดิ้ง สไตล์ต่างๆ รู้ไว้จะได้เป็นไอเดียไว้คุยกับช่างภาพได้ถูก

วันนี้แพรว wedding ขอนำเสนอตัวอย่าง ภาพถ่ายพรีเวดดิ้ง เพื่อเป็นไอเดียให้ว่าที่บ่าวสาวได้นำไปคุยกับช่างภาพ และงานนี้ไม่ต้องเกรงใจนะจ๊ะ เพราะถึงแม้ช่างภาพที่บ่าวสาวจ้างมาจะมีแนวทางการถ่ายภาพ หรือมุมมองเป็นของตัวเองแต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเปิดรับฟังความต้องการของคู่บ่าวสาวเสมอ เพราะฉะนั้นหากบ่าวสาวมีแนวภาพถ่ายพรีเวดดิ้งในดวงใจที่เคยเห็นผ่านๆ ตามาบ้าง และอยากได้ภาพถ่ายสไตล์นี้ก็จงบอกช่างภาพไปตรงๆ แต่ปัญหาอาจจะบังเกิด ถ้าหากบ่าวสาวดันเรียกไม่ถูกว่ามันคือภาพแนวไหน เพราะฉะนั้นก่อนเสิร์ชหาหรือบอกเรฟเฟอร์เรนซ์ภาพถ่ายพรีเวดดิ้ง เราขอนำเสนอหลักสูตรเร่งรัดที่ว่าด้วยการเรียกชื่อสไตล์ภาพถ่ายแต่ละแบบ รับรองรู้แล้วเรียกถูกบอกช่างภาพได้เป๊ะแน่นอน

1. ภาพ Silhouette

หรือเรียกว่าภาพซิลลูเอท คือภาพถ่ายย้อนแสงค่ะ สามารถถ่ายย้อนแสงในช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดินได้ โดยจะได้ภาพแสงสุดท้ายของวันที่งดงามมากๆ หรือจะถ่ายย้อนแสงไฟ แสงแฟลช ก็สวยไปอีกแบบเหมือนกันนะคะ

ตัวอย่างภาพถ่าย Prewedding

2. ภาพ Close up

นอกเหนือจากการถ่ายภาพบ่าวสาวแบบเต็มตัวหรือครึ่งตัวแล้ว บ่าวสาวก็สามารถมาโคลสอัพถ่ายภาพสิ่งของใกล้ๆ ตัวบ่าวสาวได้ ไม่ว่าจะเป็นแหวนหมั้น มือที่กำลังกุมกัน หรือใบหน้าของบ่าวสาวที่กำลังยิ้มให้กันอย่างสดชื่น ก็จะได้ภาพถ่ายแนวใหม่ที่เปลี่ยนมุมมองออกไปอีกแบบ

ตัวอย่างภาพถ่าย Prewedding

3. ภาพ Bird Eye View

หรือมุมมองของนก ถ้านกมองก็หมายความว่าต้องเป็นมุมสูงถูกต้องไหมคะ เบิร์ดอายวิว คือภาพถ่ายมุมมองจากที่สูงที่ มองกดลงมา ก็จะได้อีกหนึ่งมุมที่แปลกตาออกไปค่ะ

ตัวอย่างภาพถ่าย Prewedding

4. ภาพ Worm Eye View

มีมุมมองของนกแล้ว ก็ต้องมีมุมมองของหนอนเช่นกัน วอร์มอายวิวคือมุมถ่ายช้อนขึ้น เป็นลักษณะแหงนกล้องขึ้นฟ้า ถ้าจะให้สวยต้องตั้งกล้องติดพื้นไปเลยค่ะ แต่เจ้าสาวควรระวัง มุมนี้ต้องดูแลตัวเองดีๆ เพราะมันอาจจะกลายเป็นมุมเสยเหนียงได้ง่ายๆ นะคะ

ตัวอย่างภาพถ่าย Prewedding

 

5. ภาพกั้นกรอบ

เมื่อคิดอะไรไม่ค่อยออกแล้ว สามารถหากรอบมาทำเป็นกรอบภาพได้ ทั้งนี้อาจจะใช้กรอบรูปจริงๆ เลย หรือหาอย่างอื่นมากั้นกรอบให้บ่าวสาวดูเด่นขึ้นมา เช่น แหวน หรือแนวต้นไม้ เป็นต้น

ตัวอย่างภาพถ่าย Prewedding

6. ภาพ Foreground-Background

Foreground คือภาพที่เป็นฉากหน้า ส่วน Background คือภาพที่เป็นฉากหลัง โดยสามารถเลือกได้ว่าจะให้โฟร์กราวนด์ชัด หรือแบลค์กราวนด์ชัด โดยบ่าวสาวสามารถเลือกคลีเอทภาพถ่านสไตล์นี้ได้ตามความต้องการ โดยอาจเน้นความชัดไปที่สิ่งที่บ่าวสาวอยากให้ความสำคัญ อย่างเช่น การให้ภาพโฟร์กราวนด์เป็นแหวนแต่งงาน โดยมีภาพแบ็คกราวนด์เป็นบ่าวสาวที่กำลังพลอดรักกันอยู่ภายใต้เวล เป็นต้น

ตัวอย่างภาพถ่าย Prewedding

7. ภาพแสงแฟร์

ภาพถ่ายสไตล์นี้จะสวยและทรงพลังมาก หากบ่าวสาวเลือกใช้แสงแฟร์ที่มาจากแสงธรรมชาติ อย่างเช่น แสงพระอาทิตย์ ที่ช่วยให้อารมณ์ของภาพดูหวาน อบอุ่น และโรแมนติก

ตัวอย่างภาพถ่าย Prewedding

8. ภาพ High Key

หรือภาพที่ส่วนประกอบภายในภาพส่วนใหญ่เป็นสีขาว สว่าง ให้ความรู้สึกสะอาดตา ฝันๆ ฟุ้งๆ แต่ทั้งนี้ต้องเลือกสถานที่ดีๆ เพื่อให้ได้ภาพขาวๆ อย่างที่บ่าวสาวต้องการนะคะ

ตัวอย่างภาพถ่าย Prewedding

เป็นยังไงบ้างคะกับสไตล์ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งที่เรานำมาฝาก รู้อย่างนี้ก็ท่องจำให้ขึ้นใจแล้วเลือกสไตล์ที่ชอบไปคุยกับช่างภาพได้เลย แต่ระหว่างนี้หากทีมช่างภาพยังไม่ว่าง ระหว่างรอออกไปถ่ายพรีเวดดิ้งบ่าวสาวอาจจะลองไปฝึกโพสต์ท่าเล่นๆ ไว้ก่อนเพื่อที่จะเตรียมพร้อมรอถ่ายภาพก็ได้นะคะ แต่ถ้าอยากได้ภาพพรีเวดดิ้งสไตล์โอปป้าสายเกา ก็ลองเข้าไปดู ชอบสามีสไตล์อปป้า ต้องดูไอเดียถ่ายพรีเวดดิ้งสายเกานี่เลย รับรองฟิน!!!

ภาพจาก : Pinterest.com

3 สถานที่จัดงานแต่งงานยอดฮิต กับไอเดียการตกแต่งงานให้สวยเริด

3 ธีมงานแต่ง กับ 3 สถานที่จัดงานแต่งงาน สุดฮิต … รับประกันความงามและความประทับใจ

สถานที่จัดงานแต่งงาน หลักๆ ที่อยู่ในใจว่าที่บ่าวสาวก็คงไม่อยู่ไม่กี่อย่าง แพรว wedding เลยคัดมาให้กับ 3 สถานที่จัดงานแต่งงานยอดฮิต ไม่ว่าจะเป็น ภายในห้องบอลรูมสุดหรู งานแต่งมินิมอลในสวนสวย และงานแต่งสุดชิลริมทะเล แถมงานนี้เราขนไอเดียการตกแต่งงานทั้ง 3 ธีมมาให้ด้วยนะ

Ballroom Wedding

สถานที่จัดงานแต่งงาน

การจับเดรปช่วยพรางส่วนที่ไม่ต้องตา ลดพื้นที่ของเพดานที่อาจสูงเกินไป ตลอดจนช่วยลดค่าใช้จ่ายในการถมดอกไม้สด

พร็อปส์และงานโครงสร้างเป็นอีกตัวช่วยในการสร้างธีมเก๋ๆ ให้ฉีกแนวไปเลย โดยไม่ต้องพึ่งดอกไม้สดมากนัก (เซฟไปได้เยอะ)

“การจัดโต๊ะแบบลองเทเบิลเป็นเทคนิคเพิ่มความหรูหราได้ดีอีกวิธีหนึ่ง”

หากไม่สะดวกจัดดอกไม้เป็นเซ็นเตอร์พีชไว้บนโต๊ะอาหาร สามารถวางแชนเดอเลียหรือเชิงเทียนสวยๆ แทนได้แบบไม่ขัดเขิน ถ้ามีจำนวนไม่ครบจะวางเฉพาะบางโต๊ะสลับกับแจกันใส่ดอกไม้ธรรมดาก็ได้

“คริสตัลระยิบระยับช่วยส่งให้งานในห้องบอลรูมดูหรูหราถึงขีดสุด ไม่จำเป็นจะต้องเป็นแชนเดอเลียกลางห้องเท่านั้น คุณสามารถใช้คริสตัลสร้างความเจิดจรัสได้ทุกจุด ไม่ว่าจะเป็น การประดับเป็นเซ็นเตอร์พีช การห้อยเป็นสายระย้าหน้าแบ็กดร็อป หรือฉากหลังเวที”

ลองหากรอบรูปสวยๆ มาใส่เมนูอาหารหรือเบอร์โต๊ะดูสิ รับรองเป๊ะเวอร์!! แถมหลังงานยังเก็บไว้ใช้ต่อได้ด้วยนะ

“สเปรย์น้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหย ช่วยสร้างอารมณ์โรแมนติกได้ตั้งแต่ก้าวเข้างาน”

การตกแต่งพนักเก้าอี้ ช่วยให้งานของคุณดูมีรายละเอียดที่น่าชื่นชม

จับปูน้อยใส่ธีม…บรรดาเด็กๆ ที่ติดตามพ่อแม่มาด้วยก็ช่วยสร้างสีสันได้ เพียงเตรียมเอเลเม้นต์ที่เข้ากับธีมงาน เช่น ปีกนางฟ้า ที่คาดผมรูปโบอันโต โบไทอันเล็กสีตามธีมงาน ไว้ให้เหล่านางฟ้าเทวดาตัวน้อยใส่วิ่งเล่นทั่วงาน เท่านี้ก็เรียกรอยยิ้มจากแขกได้แล้ว

 

Garden Wedding

  • ใครว่าแชนเดอเลียมีไว้สำหรับห้องบอลรูมเท่านั้น ลองใช้แชนเดอเลียคริสตัลตกแต่งงานในสวนของคุณดูสิ ไม่ว่าจะห้อยจากต้นไม้ เต็นท์ กระโจม หรือตั้งโต๊ะ จะช่วยให้งานของคุณดูหรูหราและโรแมนติกขึ้นอีก 10 เท่าตัว!!
  • คุมโทนความเป็นงานแต่งในสวนด้วยการห้อยการ์แลนด์ดอกไม้เพิ่มเข้าไปกับแชนเดอเลีย ถ้าอยากให้ติดหรูก็ให้เน้นการใช้สีขาว แต่ถ้าอยากให้งานดูหวานก็แค่เปลี่ยนมาใช้เป็นโทนสีพาสเทลแทน

โต๊ะเก้าอี้สีขาวทรงสวยจะช่วยอัพงานในสวนของคุณให้ดูไฮโซราวกับจัดอยู่หลังพระราชวังบัคคิงแฮม

  • ไอเท็มที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ไม้ กรงนก จักรยาน กิ่งไม้ เชือกป่าน ฯลฯ รวมทั้งงานคราฟต์อย่างลูกไม้ เชือกถัก ตาข่ายดักฝัน ฯลฯ ล้วนช่วยเสริมบรรยากาศให้งานในสวนดูมีดีเทล
  • ชิงช้ากับไม้เลื้อยดูจะเป็นกิมมิกยอดนิยมที่ทำให้งานแต่งในสวนของคุณดูน่ารักสุดๆ มีไว้รับรองว่าแขกเข้าคิวถ่ายรูปกันเพียบ หรือจะใช้เป็นจุดถ่ายภาพแทนแบ็กดร็อปก็ไม่เลวนะ

ใช้ต้นไม้สร้างเสน่ห์…ไหนๆ ก็จัดงานแต่งในสวนแล้ว อย่าลืมใช้พระเอกอย่างต้นไม้ใหญ่มาช่วยสร้างบรรรยากาศ ไม่ว่าจะใช้ห้อยตะเกียง ห้อยฟลาวเวอร์บอล ติดรูปพรีเวดดิ้ง หรือแม้แต่ใช้เป็นฉากหลังเวที รับรองว่าไม่เหมือนใครและได้ฟีลสุดๆ

  • เต็นท์สีขาวดูจะเป็นไอเท็ม Must-Have สำหรับงานแต่งในสวน โดยเฉพาะในเมืองไทยที่ฝนจะตกแดดจะออกเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครรู้ เตรียไว้ก่อนดีกว่ามานั่งปวดหัววันงานเนอะ
  • ไม่จำเป็นต้องใช้ดอกไม้สดตกแต่งงานเสมอไป ใบไม้นี่แหละเข้าธีมสุดๆ แถมราคาย่อมเยาอีกด้วย

ถ้าในสวนมีน้ำพุ เอาดอกไม้ไปลอย หรือเลื้อยไว้ รับรองว่าเก๋!!

  • ถ้าคุณเป็นเจ้าสาวประเภทสวยลืมตาย อย่างไรฉันก็จะขอใส่รองเท้าส้นสูงในงานแต่ง แพรว wedding มีไอเท็มเด็ดมาแนะนำ นั่นคือ High Heel Protectors จุกเสียบส้นรองเท้าที่จะช่วยให้คุณเฉิดฉายบนพื้นหญ้าหรือพื้นกรวดได้สบายขึ้น แต่เจ้าสาวบางคนก็ใช้จุกไม้ก๊อกมาเจาะรูแล้วสวมส้นรองเท้าแทนนะ
  • ธีมงานแน่นขนาดนี้ อย่าลืมชวนเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวแต่งตัวให้เข้ากับธีมด้วย สำหรับเพื่อนเจ้าสาวอาจเปลี่ยนจากชุดราตรีหรูหรามาใส่เป็นชุดพลิ้วไหวลายดอก หรือเดรสสั้นกับรองเท้าส้นแบนดีไซน์สวยๆ ส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวก็ไม่ต้องมาดแมนสวมทักซิโดมาให้เหงื่อซกนะคะ เพราะแค่หยิบทักซิโดมาใส่คู่กับเสื้อกั๊ก แล้วแมตช์ด้วยโบไทสีตามธีม เท่านี้ก็หล่อลื๊มมม!!

ไฟราวและแสงเทียนช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและโรแมนติกได้เป็นอย่างดี

  • อย่าลืมวางสเปรย์หรือโลชั่นกันแมลงไว้ให้แขกใช้ด้วย จะได้อยู่ร่วมในงานอย่างมีความสุข

 

Sea Wedding

การแจกแว่นกันแดดดูจะเข้ากับงานของคุณมว๊ากกกก!! เพราะแขกสามารถใช้ได้ทันที ทั้งใช้กันแดดหรือใส่ถ่ายรูปเก๋ๆ ก็ได้ แถมยังทำให้ภาพถ่ายบรรยากาศงานแต่งของคุณดูมีกิมมิกอีกต่างหาก หรือจะใช้แจกเป็นของชำร่วยไปเลยก็ได้นะ

ผ้าสีขาวหรือริบบิ้นพลิ้วไหวไปตามแรงลมยังคงเป็นไอเท็ม Must-Have สำหรับบีชเวดดิ้งอยู่วันยังค่ำ คุณอาจใช้ทำเป็นซุ้มพิธี ผูกไว้กับพนักเก้าอี้ของแขก หรือจะผูกไว้กับสแตนด์ดอกไม้ก็ได้

ใครๆ ก็รู้ว่าทะเลสวยแต่ร้อน!! พัดจึงเป็นอีกไอเท็มที่จะช่วยคลายร้อนให้กับแขกได้ แต่แทนที่จะแจกให้แขกได้ใช้พัดคลายร้อนเฉยๆ ก็ดูจะธรรมดาไป ลองพิมพ์กำหนดการ เมนูอาหาร หรือข้อมูลอื่นๆ ที่อยากแจ้งให้แขกทราบลงไปบนพัด ทั้งเก๋ไก๋และได้ประโยชน์อีกต่างหาก

เปลี่ยนจากสมุดเซ็นอวยพรธรรมดามาเป็นให้แขกเขียนคำอวยพรใส่กระดาษแล้วม้วนใส่ขวดแก้ว นัยว่าเป็น Message in a Bottle ให้แขกได้ส่งต่อความรู้สึกดีๆ ถึงบ่าวสาวผ่านช่องทางสุดคลาสสิค นอกจากจะดูคูลแล้ว คุณยังนำขวดนี้ไปวางแต่งบ้านได้อีก โกรธเคืองกันวันไหนก็แค่แกะออกมาอ่านข้อความนั้นอีกครั้ง เชื่อเถอะว่าโกรธจะหายแต่จะได้ความซึ้งมาแทนแน่นอน

เจ้าสาวสุดมั่นที่รักธรรมชาติ และอยากถอดรองเท้าเดินในงานแต่ง แพรว wedding ขอแนะนำ Barefoot Sandals หรือสาดคาดเท้าสุดเก๋ไก๋ ที่ดูเหมือนใส่รองเท้าแต่ฟรุ้งฟริ้งทั้งทีจริงๆ แล้วเดินเท้าเปล่าอยู่ต่างหาก

งานริมทะเลมักมีลมแรง หากคิดจะจุดเทียนสร้างบรรยากาศ แนะนำให้จุดแล้วใส่ไว้ในโหลแก้วจะได้ไม่ดับก่อนงานเริ่ม หรือจะเพิ่มอารมณ์บีช เวดดิ้งอีกหน่อยด้วยการโรยทราย และเรียงเปลือกหอยสวยๆ ไว้ที่ก้นโหล หากทำดีๆ สามารถใช้แทนเซ็นเตอร์พีชได้ด้วยนะ

วิวทะเลสวยสุดใจอยู่แล้วเพราะฉะนั้นแบ็กดร็อปถ่ายภาพอาจไม่จำเป็น แต่ถ้าบ่าวสาวอยากมีจุดถ่ายภาพแบบเป็นกิจจลักษณะ แนะนำให้จัดเป็นซุ้มดอกไม้แบบโปร่งๆ ที่มีท้องฟ้าและผืนน้ำสีครามเป็นฉากหลังจะดีกว่านะ

แขกที่มางานแต่งริมทะเล อาจประวบปัญหาเม็ดทรายติดเท้าน่ารำคาญ ลองหารองเท้าแตะสีขาววางไว้ให้แขกเปลี่ยนก่อนเดินลงชายหาด หรือหาแปรงวางไว้ให้แขกปัดทรายออกจากเท้าหลังจบงานแทนก็ได้ เชื่อเถอะว่าความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ นี้จะทำให้แขกประทับใจไปอีกนาน

ลองนำเปลือกหอยสวยๆ มาใส่แหวนแทนกล่องกำมะหยี่แบบเดิมๆ ดูสิ ก็ดูเข้าธีมเป็นเจ้าหญิงแอเรียลไปอีก

ภาพ pinterest, pexels.com