สไตล์งานแต่งของคุณเป็นอย่างไร

อยากรู้ไหมว่างานแต่งแบบไหนใช่สไตล์ของคุณ มาเช็คสิ่งที่เป็นคุณไปพร้อมๆ กับ WE-MAG.COM เลยค่่ะ

 

ผิวลายจางหายด้วยสครับน้ำตาลสูตรเด็ด

          สาวๆ ส่วนใหญ่มักจะประสบปัญหาผิวแตกลายบนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นตรงหน้าอก หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ถึงแม้ในเวลาปกติมันจะถูกปกคลุมด้วยเสื้อผ้า แต่เวลาที่ต้องใส่ชุดเกาะอกหรือกางเกงขาสั้นตัวสวยล่ะ  เรื่องหนักใจก็ผุดขึ้นมาทันที วันนี้ WE เลยสรรหาวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้รอยแตกลายเหล่านั้นจางไปมาฝาก

          สิ่งที่สาวๆ ต้องจัดเตรียมให้พร้อมได้แก่ น้ำตาล, น้ำมันอัลมอนด์, น้ำมะนาว โดยวิธีการผสมก็ง่ายนิดเดียวเพียงนำเจ้า 3 อย่างนี้มาผสมให้เข้ากันในอัตราส่วนพอเหมาะ จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ว่ารอยแตกลายมันขยายวงกว้างไปเยอะขนาดไหน เมื่อได้สครับตามที่ผสมไว้แล้ว ก็จัดแจงนำมาขัดลงเบาๆ ในบริเวณที่เป็นรอย ทำอย่างนี้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง รับรองว่ารอยแตกลายที่เคยกวนใจจะค่อยๆ จางลงไป สาวๆ จะได้ความมั่นใจกลับมาแน่นอน

ภาพ : www.fitandhappy.org

                

เรื่องโดย: Jeen Hui Bin
ช่างภาพ: 

7 เคล็ดลับอัพลุคเจ้าสาวสวยเด้งในพริบตา

               คุณขา…  อย่าพึ่งด่วนสรุปว่าสไตล์ที่เห็นอยู่บนรันเวย์จะไม่สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตจริง  เพราะ WE มีเคล็ดลับเบื้องหลังความงามจากคนในแวดวงแฟชั่นชุดแต่งงานระดับโลกมาให้คุณได้อัพเดทก่อนใคร

หน้าเป๊ะด้วยเซ็ตติ้งพาวเดอร์

               วิเวียนน่า  มาร์ติน  เมคอัพอาร์ทิสต์ผู้อยู่เบื้องหลังแฟชั่นโชว์ชุดแต่งงานกูตูร์ชื่อดังอย่าง Claire Pettibone  แนะนำบรรดาสาวๆ ไม่ให้มองข้ามขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งหน้านั่นก็คือ  “การตบท้ายด้วยเซ็ตติ้งพาวเดอร์”  เคล็ดลับคือให้สาวๆ เลือกเซ็ตติ้งพาวเดอร์ที่มีสีเข้มกว่ารองพื้นหนึ่งเฉดเพื่อช่วยให้ใบหน้ายังดูสวยคมชัดแม้จะไม่ได้เติมเครื่องสำอางระหว่างวัน

สวยคลาสสิกด้วยผมทรงอัพดู (Updo)

               หนึ่งในทรงผมที่ได้รับการยอมรับว่าดูสวยคลาสสิกตลอดกาลสำหรับบรรดาเจ้าสาวคือทรงอัพดู (Updo) หรือเกล้าเก็บไว้ด้านหลัง  “เกล้าผมเก็บไว้ด้านหลังนอกจากจะทำให้ดูเป็นผู้หญิงมั่นใจแล้ว  ยังทำให้ผมไม่หลุดรุ่ยระหว่างงาน”  โจเซฟ  ดิมักโจ  แฮร์สไตลิสท์ชื่อดังออกมาฟันธงทรงผมที่ช่วยให้เจ้าสาวดูหรูหราสง่างามในวันแต่ง  “ยิ่งถ้าคุณทำให้ทรงดูเบาและมีมิติ  ยิ่งทำให้ดูเดิร์นขึ้นไปอีก” โจเซฟกล่าว

ชุดคือดาวเด่น  ไม่ใช่เมคอัพ

                “ในเมื่อคุณใช้เวลาเลือกชุดแต่งงานที่สวยที่สุด  แล้วคุณจะให้การแต่งหน้ามาขโมยซีนทำไม” แดเนียล  มาร์ติน  ช่างแต่งหน้าจากรันเวย์แฟชั่นชุดแต่งงานแบรนด์ดังจากนิวยอร์กอย่าง Naeem Khan  เตือนบรรดาว่าที่เจ้าสาวไม่ให้พลาดเหมือนรุ่นพี่  สำหรับสาวๆ ที่อยากแต่งหน้าให้สวยคมชัดตาแดเนียลเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร  แต่ขอให้แต่งแบบพอดีไม่มากจนเกินไปก็เท่านั้นเอง

เล็บสีไหนก็ได้  ไม่จำเป็นต้องชมพู

               ช่างแต่งเล็บนางแบบจากรันเวย์ชุดแต่งงานอย่าง จูดี้  คานดัลเล็ก  ออกมาให้ความมั่นใจสาวๆ ที่ชื่นชอบการแต่งเล็บ  แต่รู้สึกไม่แน่ใจว่าจะแต่งเล็บแบบใดในวันแต่ง  “สีไหนก็ได้  แต่ขอให้เข้ากับบุคลิกและชุดแต่งงานของคุณแค่นั้นพอ”  จูดี้แนะ

หน้าเป๊ะ!  แต่อย่าลืมสีผิวโดยรวม

               “สิ่งสำคัญที่สุดในการแต่งหน้าคือ  อย่าลืมมองภาพรวมว่าผิวหน้า  คอ  หรือแม้แต่ผิวกาย  ไปด้วยกันได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า”  จีน่า  เบตเตลลิ  เมคอัพอาร์ทิสต์จากชุดแต่งงานแบรนด์ดังอย่าง Monique Lhuillier กล่าว  เคล็ดลับการแต่งหน้าของเธอคือ  ใช้ไพรเมอร์เพื่อลดรอยแดงหรือหมองคล้ำของผิวหน้าแล้วรองพื้นให้ผิวหน้าดูกลมกลืนกับสีผิวโดยรวม

ดูหรูหราด้วยโกลว์ลุค

               “ไม่มีใครอยากให้ใบหน้าของตัวเองดูเหมือนประโคมไปด้วยเครื่องสำอาง” ทาเลีย  สแปโรว์  เมคอัพอาร์ทิสต์จากรันเวย์แฟชั่นชุดแต่งงานแบรนด์ Jenny Packham กล่าว  เธอบอกว่าเธอใช้รองพื้นเท่าที่จำเป็น  ก่อนจะปกปิดริ้วรอยต่างๆ บนผิวหน้าด้วยคอนซีลเลอร์  อีกหนึ่งเคล็ดลับที่เธอแทรกเข้าไปในขั้นตอนแต่งหน้าของเหล่านางแบบคือการแตะแต้มออยล์ลงบนผิวหน้า  เพื่อให้ใบหน้าของนางแบบดูเงาหรู

บาลานซ์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

               งานนี้คำแนะนำส่งตรงจากดีไซน์เนอร์และเจ้าของชุดแต่งงานแบรนด์ดัง Elizabeth Fillmore  ที่ออกมาแนะนำให้บรรดาว่าที่เจ้าสาวอย่าลืมคำนึงถึงภาพรวมที่ออกมา  เนื่องจากกระแสชุดแต่งงานสไตล์หวานและเซ็กซี่มาแรง  เพื่อให้ได้ส่วนผสมที่พอเหมาะพอดี  ให้คุณเลือกสไตล์ใดสไตล์หนึ่งให้ชัดเจนแล้วไปเสริมลุคที่ต้องการผ่านทรงผม  “ถ้าชุดเซ็กซี่เล็กๆ  คุณก็ทำผมให้ดูเบาดูหวาน  แม้สไตล์จะต่างกันแต่ภาพรวมออกมาก็ลงตัว”  เอลิซาเบธ  ฟิลมอร์ กล่าว
               ลองเก็บเคล็ดลับความงามจากเหล่ากูรูไปใช้ดู  จะได้เจิดรับวันแต่งกันไปเลย

เรื่องโดย: สาวอักษรข้างสยาม
ช่างภาพ:  www.inticeonline.com www.onewed.com www.dessy.com www.southboundbride.com www.fanfiction.net www.sanpatrick.com www.pinterest.com

The A-lister : คณชัย เบญจรงคกุล

คณชัย เบญจรงคกุล
อายุ 26 ปี
ช่างภาพอิสระ

เซเล็บหนุ่มหล่อ-ขาวตี๋-การศึกษาดี-มีชาติตระกูล แค่นี้ก็เพียงพอจะทำให้สาวๆ มองจนเหลียวหลังแล้ว นี่ยังไม่นับมาดเท่ๆ ยามสะพายกล้องระดับโปรนะ เขาคือ “คุณคิด-คณชัย เบญจรงคกุล” ช่างภาพอิสระ ทายาทเจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล

ด้วยความที่เป็นช่างภาพ เราจึงขอถามถึงมุมมองการถ่ายภาพเวดดิ้งซึ่งเจ้าตัวให้ความเห็นว่า “สไตล์การถ่ายพรีเวดดิ้งขึ้นกับแต่ละคู่ เพราะภาพถ่ายน่าจะสื่อเรื่องราวของคน 2 คนว่ามีคาแรกเตอร์แบบไหน บางคู่สนุกสนาน บางคู่เปรี้ยว เช่นเดียวกับโลเกชั่นที่น่าจะสะท้อนถึงความเป็นมาของความรัก แต่ถ้าจะให้แนะนำสถานที่สวยๆ ผมว่าเมืองทางใต้ของฝรั่งเศสโรแมนติกนะครับ มีทั้งปราสาทเก่าๆ และทุ่งหญ้าที่ดูเป็นธรรมชาติ

“แต่ถ้าเป็นวันแต่งงานผมว่าช็อตที่หวานที่สุดคือช็อตที่บ่าวสาวคุยกันอยู่บนเวที สังเกตว่าภาพที่เราเห็นบ่อยคือภาพตัดเค้ก แต่ผมกลับคิดว่าโมเม้นต์ที่พูดกันดู Real มีความรู้สึกที่แสดงออกมาทางสีหน้าและอารมณ์ จนเราสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั้น

“ส่วนเรื่องมุมมองความรักสำหรับผมคือการที่คนคนหนึ่งมาเติมเต็มให้ชีวิตของอีกคนดีขึ้นในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นงาน การใช้ชีวิต หรือความสุข” คุณคิดตอบด้วยสายตาอันละเมียดละไมของช่างภาพ แต่เราว่าสาวๆ คงไม่อยากได้เขามาเป็นตากล้องในงานหรอก อยากให้เป็นอย่างอื่นมากกว่าใช่ไหมล่ะ รู้นะ!

The Executive : ดร.ตวงอัฐ ชัยกิจโกสีย์

อัฐ-ดร.ตวงอัฐ ชัยกิจโกสีย์
อายุ 38 ปี
นักบริหาร

“งานกับความรัก” จะบริหารอย่างไรให้ลงตัวแบบที่ยังมีเธอมีเขา และกลายเป็นเราได้อยู่ “คุณอัฐ – ดร.ตวงอัฐ ชัยกิจโกสีย์” ผู้บริหารหนุ่มใหญ่แห่ง บมจ.ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) มีคำอธิบายในแบบนักบริหารมาบอกสาวๆ กันค่ะ

“ถ้าย้อนไปตอนที่ยังเป็นวัยรุ่น เวลาผิดหวังในเรื่องความรักผมมักจะหาทางออกให้ความรู้สึกของตัวเองด้วยการหาความรักครั้งใหม่มาทดแทนเสมอ ผลคือก็ยังคงผิดหวังเหมือนเดิมซ้ำๆ เลยเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมความสัมพันธ์ของเราถึงเดินไปได้สักพักก็สะดุดเสมอ สุดท้ายได้คำตอบว่าเพราะเราเองนี่แหละที่คบคนอื่นแบบฉาบฉวย มองแต่สิ่งที่เราต้องการจากเขา โดยไม่สนใจว่าเขาต้องการอะไร ซึ่งนั่นคือเรากำลังเห็นแก่ตัวเพราะห่วงแต่ความต้องการของตัวเอง โดยลืมไปว่าเราก็เป็นเรา เขาก็เป็นเขา พื้นฐานที่มาต่างกัน ถ้าเราอยากมีความรักที่ไปได้ตลอดรอดฝั่งคงต้องมีทั้งตัวเราตัวเขา ไม่ใช่แค่เราหรือเขาเท่านั้น

“งานกับความรักมีจุดที่เหมือนกันคือเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเผชิญกับความต่างในนิสัยของแต่ละคน เวลาที่ทำงานเป็นทีม เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนในทีมปรับทัศนคติของตัวเองเพื่อการทำงานร่วมกับคนอื่นได้ เหมือนกันกับที่ต้องคิดว่าทำอย่างไรให้เรากับคนรักสามารถจูนกันติดทั้งๆ ที่มาจากครอบครัวคนละแบบ ซึ่งการปรับที่ว่านี้ต่างก็ต้องอาศัยเวลาที่พอดีและลงตัวเหมือนกัน

“การจะดูว่าเรามีแนวโน้มเข้ากันได้ไหม สามารถพัฒนาไปสู่ความเป็นคนรักหรือคู่ชีวิตได้หรือเปล่า ต้องดูว่าต่างฝ่ายต่างยอมทำในสิ่งที่ไม่ชอบหรือไม่ ยืดหยุ่นให้กันได้มากแค่ไหน เพราะผมว่าทั้งคู่ต้องผลัดกันใช้ชีวิตอยู่ในโลกของอีกฝ่าย ไม่ใช่ให้คนใดคนหนึ่งเดินเข้าไปอยู่ในโลกของอีกคน

“สิ่งที่ต่างกันระหว่างความรักและงานคือ เมื่ออยู่ในการทำงาน เราต้องหาข้อสรุปที่ลงตัวบนพื้นฐานของเหตุและผล แต่ความรักเป็นเรื่องที่หาเหตุผลไม่ได้ ทำไมเราต้องยอมคนๆ นี้ ต้องถอยให้กับเขา ทั้งที่ไม่ใช่ตัวเรา แต่สิ่งที่ต้องไม่ลืมคือเราไม่ใช่คนเดียวที่ยอมหรือถอย เขาเองก็มีสิทธิ์จะไม่ชอบอะไรๆ ที่เป็นเราเหมือนกัน ฉะนั้นเขาเองก็คงต้องยอมต้องถอยไม่ต่างกัน เราไม่จำเป็นต้องหาจุดตรงกลางว่ายอมเท่านี้พอไหม ถอยเท่านี้ได้หรือเปล่าเพราะไม่มีทางรู้ว่าจุดตรงกลางในแต่ละเรื่องของแต่ละคู่อยู่ตรงไหน แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือเราถอยและยอมเพื่อเป้าหมายเดียวกันคือการใช้ชีวิตร่วมกันใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ ผมว่านี่จะเป็นบททดสอบหนึ่งที่จะช่วยบอกเราได้ว่าความสัมพันธ์ในครั้งนี้จะไปถึงปลายทางของการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างที่ตั้งเป้าไว้ไหม

“สิ่งสำคัญอีกข้อที่ผมว่าแต่ละคู่ควรตอบให้ได้คือ เมื่อปรับตัวแล้ว ยอมและถอยให้กันแล้ว ต่างฝ่ายต่างยอมรับและเข้าใจจริงไหมว่า ‘ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ’ เพราะถ้าเข้าใจและยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบนั้นได้จริงๆ ก็จะไม่เกิดความคาดหวังอะไรในการอยู่ร่วมกัน ซึ่งผมว่าน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีที่จะบอกกับเราได้ว่าคนรักคนนี้สามารถพัฒนาเป็นคู่ชีวิตได้”

The Young Millionaire : ศุภากร ประทีปถิ่นทอง

เอก-ศุภากร ประทีปถิ่นทอง
อายุ 26 ปี
นักธุรกิจและนักแสดง

“เอก-ศุภากร ประทีปถิ่นทอง” เด็กหนุ่มวัยใสที่แจ้งเกิดจากฉายา “เด็กวัดร้อยล้าน” ที่ไม่ได้มีดีแค่จำนวนตัวเลข 9 หลัก แต่ด้วยหน้าตาหล่อเหลาเข้าขั้นเทพบุตรก็ช่วยทำให้เขาได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงได้แบบไม่ยากเช่นกัน

เมื่อถามถึงสาวในสเป็กเอกก็ทำหน้าตาจริงจังพร้อมกับบอกว่า “ผู้ชายทุกคนล้วนมีสาวในสเป็กอยู่แล้วแต่มันจะค่อยๆ ลดลงไปตามกาลเวลา สำหรับผมสิ่งภายนอกเป็นแค่เรื่องรองเพราะทุกอย่างมันสำคัญที่ข้างในมากกว่า ผมขอแค่ให้คนๆ นั้นเข้าใจในเรื่องการดำเนินชีวิตของผมก็พอแล้ว เพราะผมทำงานไม่ค่อยเป็นเวลาเหมือนคนอื่นที่เข้างาน 8 โมงเช้าเลิกงาน 5 โมงเย็น เพราะฉะนั้นผมจึงต้องการความเข้าใจจากเขามากที่สุด”

รู้ถึงสเป็กสาวข้างกายไปแล้วลองมาดูว่าในวันสบายๆ เขามีกิจกรรมอะไรบ้าง “ส่วนมากผมจะใช้เวลาว่างอยู่กับครอบครัวเพราะผมออกจากบ้านมาอยู่วัดเป็น 10 ปีทำให้ช่วงเวลาการใช้ชีวิตกับครอบครัวหายไปจึงอยากชดเชยเวลานี้ให้กับคุณพ่อคุณแม่บ้าง แต่ถ้าพวกท่านไม่ว่างผมก็จะมองถึงธุระส่วนตัวว่ามีอะไรที่ต้องทำ ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นการนัดกับคนรักเพื่อไปพักผ่อนและใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากที่สุด” เป็นหนุ่มรักครอบครัวขนาดนี้เอาใจไปเลยเต็มสิบพร้อมกดเลิฟให้แบบรัวๆ
          มาเป็นหนึ่งในเจ้าบ่าวในฝันทั้งทีถ้าไม่พูดถึงมุมโรแมนติกอย่างสถานที่ฮันนีมูนเห็นทีจะไม่ฟิน“ผมอยากไปฮันนีมูนในสถานที่เงียบๆ อยู่ในมุมส่วนตัวอากาศดีๆ สถานที่สวยๆ อาหารอร่อย อยากให้การไปฮันนีมูนคือการได้ไปพักผ่อนและเที่ยวจริงๆ ไม่ใช่เหมือนไปกับกรุ๊ปทัวร์ที่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปขึ้นรถหรือต้องวางแผนว่าพรุ่งนี้จะทำอะไรบ้าง แต่ผมแค่อยากนอนตื่นสายแล้วปล่อยเวลาให้ค่อยๆ ผ่านไปมากกว่า”

รักที่เพียงพอ..กับงานแต่งที่พอเพียง

ในที่สุดความรักที่บ่มเพาะมายาวนานกว่า 14 ปีระหว่างคุณน้ำ-รัตนิน สุพฤฒิพานิชย์ และคุณแก๊ป-ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล ก็สุกงอมออกดอกผลพร้อมจะขยับสถานะให้แนบแน่นขึ้น เมื่อทั้งคู่ได้ฤกษ์จูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์ในธีมงานแต่งแบบรักโลกสไตล์อีโค่ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรม S31 กรุงเทพฯ ซึ่งงานนี้บ่าวสาวขอทุ่มแรงกายแรงใจจัดงานด้วยตัวเองทั้งหมด

ที่มาของไอเดียการจัดงาน

เจ้าบ่าว : “เราพยายามคิดงานให้ต่อยอดจากธุรกิจกระดาษที่ทำอยู่ เพราะอยากให้คนเห็นว่ากระดาษสามารถนำมาทำเป็นงานคราฟท์ได้ แล้วจึงใส่ความเป็นอีโค่เข้าไปอีกนิด ทำให้งานออกมาเป็นสไตล์อีโค่คราฟท์ ซึ่งเจ้าสาวสามารถทำงาน D.I.Y กระดาษได้ เราจึงไปขอกระดาษปอนด์ขาวเหลือใช้จากโรงพิมพ์ที่เป็นพาร์ทเนอร์ซึ่งกระดาษยังมีคุณภาพดีมาก เพื่อนำมาทำดอกไม้กระดาษตกแต่งในงานทั้งหมด”
เจ้าสาว : “เราใช้ดอกไม้กระดาษเพราะประหยัดกว่าดอกไม้สด และเป็นการนำสิ่งเหลือใช้มารีไซเคิล บางคนอาจคิดว่าจัดงานแต่งแค่ครั้งเดียวทุ่มงบไปเลยไม่อั้น แต่สำหรับคู่เรามองว่าประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ ที่สามารถทำกันเองได้แล้วนำเงินตรงนั้นไปเป็นทุนหลังแต่งน่าจะดีกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะประหยัดจนทำให้งานออกมาดูไม่ดี เราจึงพยายามใช้ฝีมือที่มีอยู่ให้มากที่สุดด้วยการยอมเหนื่อยทำทุกอย่างเองเพื่อชดเชยตัวเงินที่จะต้องเอาไปจ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์ และการจัดงานเองก็ทำให้งานออกมาเป็นตัวเรามากที่สุดด้วย”

DovidsPhotographer_40(800)การตกแต่งงานสไตล์อีโค่

ทางเข้างานใช้ไม้ยูคาลิปตัสทำเป็นอุโมงค์ทางเดินไปสู่แบ็กดร็อปถ่ายภาพ ด้านบนประดับด้วยดอกไม้กระดาษที่ห้อยระย้าลงมาอย่างสวยงามแลดูเข้ากับโครงไม้เป็นอย่างดี ด้านข้างตกแต่งด้วยผ้าขาวช่วยให้งานดูหวานขึ้นแล้วเพิ่มความโรแมนติกด้วยไฟราว ตรงกลางมีภาพถ่ายพรีเวดดิ้งตั้งเป็นแถวตลอดแนวทางเดิน ปิดท้ายบริเวณปลายทางด้วยแชนเดอเลียดอกไม้กระดาษที่ดูดีไม่แพ้กับแชนเดอเลียคริสตัลเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีลูกโป่งสีน้ำเงินลอยล่องสร้างสีสันอยู่ทั่วงานอีกด้วย

ส่วนแบ็กดร็อปถ่ายภาพยังคงคอนเซ็ปต์ของโครงไม้ยูคาลิปตัสเอาไว้ ตกแต่งด้วยดอกไม้กระดาษที่มีดีไซน์แตกต่างกันไปดูราวกับเป็นใบไม้และดอกไม้ที่โดนหิมะปกคลุมเป็นสีขาวโพลน โดยมีฉากหลังเป็นผืนผ้าสีน้ำเงินรับกับสีพรมบนพื้น บนเวทีภายในงานตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยโลโก้ของบ่าวสาวที่ทั้งคู่เป็นคนออกแบบเองประดับไว้กลางผ้าม่าน และมีซุ้มเค้กสีขาว-น้ำเงินเข้ากับธีมสีของงานตั้งตะหง่านอยู่ด้านข้างของเวทีและรายล้อมไปด้วยดอกกุหลาบสีขาวดูนุ่มนวลอ่อนหวาน

DovidsPhotographer_43(700)

ไม้ยูคาลิปตัส มีข้อดีคือราคาถูกและสามารถนำกลับไปใช้ซ้ำได้ แถมยังมีความดิบปนเท่อยู่ในตัว แต่ก่อนนำมาใช้แนะนำให้ปอกเปลือกด้านนอกออกให้ดูสะอาดจะได้ไม่ดูเหมือนโครงไม้ตามไซต์ก่อสร้างทั่วไป

DovidsPhotographer_08(800)

ดอกไม้กระดาษ เจ้าสาวพิถีพิถันในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และทำแบบกลีบต่อกลีบ จนเป็นดอกแล้วจับให้เป็นช่อดูมีกลิ่นอายฝรั่งนิดๆ

DovidsPhotographer_46(800)               แชนเดอเลียดอกไม้กระดาษ มีดีเทลของเกสรดอกไม้ซึ่งเจ้าสาวตั้งใจทำสุดฝีมือ

DovidsPhotographer_12(800) ลูกโป่งสีน้ำเงิน มี 20 Facts about You&Me ที่บ่าวสาวเขียนถึงกันห้อยอยู่ ซึ่งสิ่งนี้จะเชื่อมโยงไปถึงสคริปต์ของงาน และแขกสามารถอ่านได้เพลินๆ ก่อนเข้างานอีกด้วย

DovidsPhotographer_51(800)มุมถ่ายรูปเล่น บ่าวสาวใช้แผ่นไม้มาดีไซน์ให้เป็นผนังโดยมีคำว่า Grow Together ที่วาดฟ้อนท์ลงไปบนกระดาษแล้วใช้คัตเตอร์ค่อยๆ ตัดเป็นตัวอักษร (ทำมือทุกขั้นตอนจริงๆ)

DovidsPhotographer_37(800)Live Presentation

เมื่อพิธีกรของงานคุณแหม่ม-สุริวิภา และคุณใหญ่-ฝันดี กล่าวต้อนรับแขกเสร็จเรียบร้อย เพลง “ของขวัญ” ก็ดังขึ้นพร้อมกับขบวนเพื่อนๆ ทั้งในและนอกวงการเดินเรียงแถวเข้ามา 6 คู่พร้อมถือลูกโป่งที่มี 20 Facts ของบ่าวสาวเข้างาน ปิดท้ายด้วยบ่าวสาวที่เดินร้องเพลงเข้ามาด้วยกันก่อนเดินขึ้นสู่เวที

จากนั้น Live Presentation จึงเริ่มต้นขึ้นเมื่อเพื่อนคู่แรกถือลูกโป่งเดินขึ้นเวทีเพื่อส่ง Fact ที่ทั้งคู่เขียนถึงกันให้กับพิธีกร เมื่อพิธีกรอ่านจบจึงให้บ่าวสาวได้เล่าความในใจและความรู้สึกที่เขียนไว้ในกระดาษ สลับไปกับการบรรเลงบทเพลงที่มีเนื้อหาตรงกับช่วงเวลาที่ทั้งคู่พูดถึงจากวงดนตรีเพื่อนๆ ของบ่าวสาวเอง โดยจะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนครบทั้ง 6 คู่ ก่อนจะจบด้วยเซอร์ไพร้ส์ซึ้งๆ จากเจ้าบ่าวกับเพลงที่แต่งขึ้นเองเพื่อเจ้าสาวโดยเฉพาะ

แล้วก็มาถึงช่วงเวลาสุดท้ายที่สาวๆ ภายในงานตั้งตารอคือการรอรับดอกไม้ช่อโตจากเจ้าสาว งานนี้บ่าวสาวขอสร้างความแตกต่างด้วยช่อดอกไม้กระดาษดีไซน์สุดครีเอทที่สวยงามไม่แพ้ดอกไม้จริง เพื่อป้องกันการแย่งชิงจนดอกไม้กระดาษฉีกขาดบ่าวสาวจึงขอร่อนเป็นเครื่องบินกระดาษลงไปก่อนแล้วให้คนที่คว้าได้ขึ้นมารับช่อดอกไม้บนเวที…แต่ด้วยแอร์ที่ค่อนข้างแรงทำให้เครื่องบินร่อนไปไม่ถึงไหนเสียที สุดท้ายบ่าวสาวจึงตัดสินใจโยนช่อดอกไม้กระดาษลงไปเสียเลย

DovidsPhotographer_07(800)

บ่าวสาวไม่อยากได้วิดีโอพรีเซ้นท์เทชั่นเพราะรู้สึกว่าแขกอาจไม่อินกับเรื่องราวในวิดีโอที่นำเสนอ หรือหากจะทำเป็นหนังสั้นโดยแสดงกันเองก็คงดูเขินๆ ไม่สมจริงเท่าไหร่ ประกอบกับเห็นว่างานแต่งทั่วไปบ่าวสาวไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดคุยกันจึงตัดสินใจทำเป็นแบบไลฟ์พรีเซ้นท์เทชั่นไปเลย โดยมี 20 Facts เป็นตัวเดินเรื่องแล้วคั่นด้วยดนตรี ในรูปแบบกึ่งละครเวทีที่ใช้เพลงเล่าเรื่องราวความรักของทั้งคู่

การวางแผนการทำงาน

บ่าวสาวแบ่งหน้าที่การทำงานกันอย่างชัดเจนจึงทำให้การวางแผนในเรื่องต่างๆ ค่อนข้างง่ายถึงแม้จะมีเวลาเตรียมงานเพียง 3-4 เดือน โดยทางเจ้าสาวรับผิดชอบในเรื่องของการตกแต่งทั้งหมดรวมไปถึงการทำดอกไม้กระดาษ และทำโครงสร้าง 3 มิติในคอมพิวเตอร์ซึ่งวิธีนี้ดีกว่าการสเก็ตช์ด้วยมือเพราะสามารถเห็นภาพรวมของงานได้แบบ 360 องศา เพื่อที่จะได้ทราบว่าการตกแต่งในแต่ละจุดเต็มจนสวยงามแล้วหรือยัง

ส่วนเจ้าบ่าวดูแลในเรื่องของสคริปต์งานทั้งหมด ซึ่งการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ จะขึ้นอยู่กับคนที่ดูแลในเรื่องนั้นๆ แต่ก็ต้องขอไอเดียจากอีกคนด้วยเพื่อให้มุมมองกว้างขึ้นและที่สำคัญต้องเชื่อในการตัดสินใจของอีกฝ่ายซึ่งรับผิดชอบงานในด้านที่ถนัดฉะนั้นต้องทำได้ดีกว่าอยู่แล้ว

ข้อดี-ข้อเสียของกระดาษรีไซเคิล

ข้อดีคือประหยัด แต่มีข้อเสียและข้อจำกัดตรงที่กระดาษจะเป็นเส้นยาว เจ้าสาวจึงต้องออกแบบองค์ประกอบของกลีบดอกไม้ให้พอดีกับกระดาษไซส์นี้ให้ได้ และเนื่องจากกระดาษมีสีขาวจึงต้องกำหนดธีมของงานให้ชัดเจนว่าอยากให้ออกมาเป็นแบบไหน โดยงานนี้บ่าวสาวเลือกให้งานอยู่ในโทนสีขาว น้ำเงิน และน้ำตาล โดยไม่เปลี่ยนสีกระดาษแม้แต่น้อย

จากใจบ่าวสาว…ถึงคู่ที่อยากจัดงานเอง

“ต้องวางแผนให้ดีเพราะใช้เวลาค่อนข้างเยอะ และต้องดูเวลาในคืนก่อนวันงานด้วยว่าจะจัดทันหรือไม่ อย่างตอนแรกเราจะทำโครงไม้กันเองแต่สุดท้ายด้วยเวลาในการเข้าเซตพื้นที่ที่จำกัดจึงต้องตัดสินใจจ้างมืออาชีพ (ทางโรงแรมกำหนดเวลาเข้าเซตพื้นที่) ฉะนั้นเราต้องออกแบบทุกอย่างให้เป็นองค์ประกอบแบบถอดได้เพื่อที่จะสามารถทำงานได้เร็วขึ้น ซึ่งหากเวลาไม่พอจริงๆ ก็ต้องยอมเสียเงินค่าห้องเพิ่มเพื่อซื้อเวลาเพิ่มขึ้น

“ถึงแม้เราจะใช้คำว่าจัดงานเองแต่สุดท้ายแล้วก็ต้องมีเพื่อนที่พร้อมจะมาช่วยในจุดเล็กๆ น้อยๆ และสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นพิเศษคือความคิดที่เยอะมากทั้งจากบ่าวสาวและครอบครัว ฉะนั้นต้องตกลงกันให้ดีว่าอยากให้งานออกมาในรูปแบบไหนเพื่อที่จะสามารถทำงานได้เร็ว ทางที่ดีที่สุดคืออะไรที่ยอมได้ก็ต้องยอม อาจต้องลดส่วนหนึ่งเพื่อให้ได้อีกสิ่งมา เพราะวันแต่งงานเป็นวันที่ทุกคนควรจะมีความสุข”

DovidsPhotographer_36(800)ช่อดอกไม้กระดาษสุดครีเอทจากฝีมือของเจ้าสาว

DovidsPhotographer_25-copy(800)เซอร์ไพร้ส์สุดซึ้งที่ทำเอาเจ้าสาวถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

Theme Paper Art & Eco Friendly
Setting Ballroom
Gimmick Paper Flowers
Color น้ำเงิน ขาว น้ำตาล
We Love This แชนเดอเลียดอกไม้กระดาษเข้ากับธีมงานสุดๆ

ชุดบ่าว-สาว Poem โทร. 0-2115-1449
แต่งหน้า พรพงษ์ อมาตยกุล โทร. 09-6224-4569
ทำผม วรรณวนัช เล็กอิ่ม โทร. 08-1920-0268
ภาพ Dovids Photographer โทร. 08-1890-7748

Guru : Bridal Make-Up “วินิจ บุญชัยศรี”

                เมคอัพเป็นสิ่งที่เจ้าสาวให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ เมื่อมีแผนการวิวาห์ แต่จะแต่งยังไงให้สวยเด่นแบบกาลเวลาทำร้ายไม่ได้ คุณป้อม-วินิจ บุญชัยศรี เมคอัพอาร์ติสชื่อดังมีคำตอบมาฝาก

แต่งหน้าแบบไหนไม่ให้ตกเทรนด์
               เทรนด์การแต่งหน้าของเจ้าสาวในปีนี้ที่ต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วคือการทาลิปสติกสีแดง แต่ในปีนี้จะลดความเด่นในการแต่งตาลงทว่ายังคงความเข้มเอาไว้ด้วยเทคนิคการคอนทัวร์พร้อมแก้ไขรูปตาให้ดูสวยขึ้น แม้ปัจจุบันเจ้าสาวชอบลุคสวยใสเป็นธรรมชาติ แต่ก็ยังต้องแต่งให้ดูเข้มขึ้นอีกนิด เพื่อให้ดูสวยเด่นเมื่อต้องเจอกับแสงไฟในช่วงต่างๆ หรือเมื่ออยู่บนเวที

Untitled-2sdf

               “ส่วนเทรนด์การแต่งหน้าในปี 2016 อาจจะลดความเบาของขนตาและรองพื้นลง เจ้าสาวจะดูแลผิวพรรณมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นการแต่งหน้าที่โชว์ผิวของเจ้าสาวซึ่งดีอยู่แล้ว ไม่ใช่การแต่งหน้าแบบอัดทุกอย่างเข้าไปเพื่อช่วยให้ผิวดูดี แต่ไม่ว่าจะเป็นปีไหนการแต่งหน้าควรจะนำสิ่งที่เจ้าสาวต้องการตั้งไว้เป็นอันดับหนึ่ง ส่วนช่างมีหน้าที่ทำทุกอย่างให้ลงตัวด้วยการเติมสไตล์ส่วนตัวหรือเทรนด์ในตอนนั้นเข้าไปเพื่อให้เกิดความสวยงามและลงตัวมากที่สุด

ระวัง “เจ้าบ่าว-เพื่อนเจ้าสาว” ขโมยซีน
               อย่าลืมว่าวันงานเจ้าบ่าวก็ต้องแต่งหน้าเหมือนกัน! ฉะนั้นเจ้าสาวจึงต้องแต่งหน้าให้ดูสวยแต่ยังคงความอ่อนเยาว์เอาไว้ เพราะเวลาเจ้าบ่าวแต่งหน้าจะดูเด็กกว่าเจ้าสาวเสมอ เนื่องจากช่างจะกลบปัญหาทุกอย่างจนผิวหน้าดูดี ซึ่งสำหรับผู้ชายแค่เติมคิ้วให้ชัด-ทำผมให้เยอะก็ดูเด็กลงแล้ว ในทางกลับกันเวลาผู้หญิงแต่งหน้าแบบจัดเต็มจะดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทันที ช่างแต่งหน้าจึงต้องดูความเหมาะสมเมื่อบ่าวสาวยืนคู่กันด้วย
               ส่วนแก๊งเพื่อนเจ้าสาวก็เป็นสิ่งที่เจ้าสาวค่อนข้างกังวลเพราะกลัวว่าจะสวยเกินหน้าเกินตา ทางที่ดีที่สุดคือการทำใจให้สบายเพราะเจ้าสาวต้องสวยที่สุดในงานอยู่แล้ว ถึงแม้ช่างแต่งหน้าจะไม่ใช่หมอศัลยกรรมที่จะช่วยให้คุณเป๊ะไร้ที่ติ แต่ก็ช่วยให้ผิวของเจ้าสาวดูสวยผุดผ่องมีน้ำมีนวลและสวยที่สุดในแบบฉบับของตัวเองได้

เตรียมผิวให้พร้อมก่อนแต่งหน้า
               วิธีการเตรียมผิวที่ดีที่สุดคือการพักผ่อนให้เพียงพอ และเจ้าสาวสามารถลงครีมบำรุงผิวมาก่อนได้ตามปกติ ที่สำคัญ ก่อนแต่งหน้าอย่าลืมบอกถึงปัญหาของตัวเอง เช่น เป็นคนหน้ามันมาก แพ้เครื่องสำอางหรือครีมตัวไหน สุดท้ายขณะแต่งหน้าต้องปล่อยวางจากทุกสิ่งที่รบกวนจิตใจ เช่น การรับโทรศัพท์ตลอดเวลาหรือกังวลว่างานจัดไปถึงไหนแล้ว เพราะหากเจ้าสาวกังวลช่างเองก็ไม่มีสมาธิไปด้วย แต่ถ้าเจ้าสาวปล่อยวาง ช่างมีสมาธิและมีความสุขในการทำงาน ความสุขนั้นก็จะไปปรากฏอยู่บนใบหน้าของเจ้าสาวด้วยเช่นกัน

ความมั่นใจคือคีย์เวิร์ดของความสวย
               ในการแต่งหน้าเจ้าสาวต้องมีทั้งความสวยและความพึงพอใจ ต้องทำให้เจ้าสาวมีรอยยิ้มและความสุขที่มาพร้อมความมั่นใจ ไม่เอาความคิดของตัวเองไปตัดสินแทนเจ้าสาวว่าต้องเป็นแบบไหนและไม่ควรเติมสิ่งที่ดูแปลกหรือเกินจริงให้กับเจ้าสาว เพราะไม่ว่าจะอีกกี่สิบปีสิ่งที่เจ้าสาวต้องการก็คือความงามแบบคลาสสิคที่ดูสวยไม่เสื่อมคลาย

(เครดิตภาพ) ชมพู่-อารยา Narakorn Photography
(เครดิตภาพ) ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์ Gorgai Studio

เผยเคล็ดไม่ลับให้คุณได้เป็นเพื่อนซี้เจ้าสาวได้แบบไม่ขโมยซีนแม่งาน

Untitled-3

หากวันแต่งงานเป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตของเจ้าสาว ก็ขอให้วันนี้เป็นวันแห่งความทรงจำสำหรับกลุ่ม เพื่อนเจ้าสาว ของคุณด้วยเช่นกัน ตามมาดูคำแนะนำจากกูรูคนดัง คุณซายน์ – กรรณิการ์ วนะเกียรติกุล กรรมการผู้จัดการร้าน Cher’Z ที่จะช่วยให้เจ้าสาวแอนด์เดอะแก๊ง สวยจบ – สวยเจิด – สวยเริด กันยกกลุ่ม

สเต็ปเลือกชุดสุดเพอร์เฟ็กต์

ลำดับขั้นตอนง่ายๆ ที่ไม่ว่าเพื่อนซี้กลุ่มไหนก็ทำตามได้ไม่ยาก

  1. เริ่มต้นที่เจ้าสาว ก่อนการออกแบบชุดเพื่อนเจ้าสาว ต้องเริ่มต้นจากตัวของเจ้าสาวก่อนว่าอยากแต่งตัวแบบใด และอยากให้กลุ่มเพื่อนในวันงานออกมาเป็นแบบไหน
  2. วางคอนเซ็ปต์ชุด โดยปกติแล้วเจ้าสาวจะมีภาพรวมชุดเพื่อนเจ้าสาวไว้ในใจ ดังนั้นเจ้าสาวและเพื่อนควรพูดคุยกันเพื่อวางคอนเซ็ปต์ให้ชัดเจน ขั้นตอนนี้ให้เอาเจ้าสาวและความต้องการของเจ้าสาวเป็นตัวตั้ง จากนั้นค่อยต่อยอดรายละเอียดปลีกย่อย
  3. เพื่อนเจ้าสาวเลือกแบบชุด เลือกแบบที่ตัวเองมั่นใจแต่ต้องอยู่ในความพอดี ไม่น้อยหรือเยอะจนเกินไป และไม่เด่นเกินเจ้าสาว ถ่ายรูปออกมาจะได้ดูบาลานซ์และไปด้วยกันได้กับกลุ่มเพื่อน

เทรนด์ผ้ามาแรง

เปลี่ยนความคิดที่ว่าชุดจะสวยถ้าตัดด้วยผ้าราคาแพง เพราะผ้าแต่ละชนิดก็เหมาะสำหรับแบบชุดที่แตกต่างกันไป ถามถึงเทรนด์ผ้าตอนนี้ ถ้ามีงบค่อนข้างมากและอยากดูสวยหรู แนะนำให้เลือกผ้าซิลค์ซาติน หากอยากได้ผ้าชีฟอง ให้เลือกซิลค์ชีฟอง ถ้าอยากได้ผ้าราคากลางๆ ที่มีเนื้อมันวาวตัดออกมาแล้วดูดี ให้เลือกผ้าออแกนดี

ชุดเจิด – คนจบ – งบไม่บาน

สิ่งสำคัญอันดับแรกเมื่อเริ่มตัดชุดคือ เรื่องผ้า แนะนำให้เจ้าสาวซื้อผ้าเผื่อให้เพียงพอและซื้อแบบครั้งเดียวจบ เพราะมีข้อดีมากมายไม่ว่าจะเป็น ได้รับส่วนลดจากการซื้อผ้าจำนวนมาก ตัดชุดได้หลากหลายแบบเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อผ้าแบบจำกัด ไม่ต้องวิ่งหาผ้าชนิดอื่นมาผสมหากผ้าไม่พอ และข้อสุดท้ายคือคุณสามารถนำผ้าที่เหลือไปใช้ทำอย่างอื่นได้อีก

เรื่องต่อมาคือภาพรวมชุดเจ้าสาว แนะนำให้ตัดชุดเพื่อนเจ้าสาวจากร้านเดียวกัน เพราะร้านหรือดีไซเนอร์แต่ละคนจะมี signature อันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ภาพรวมชุดที่ออกมาดูกลมกลืนไปด้วย การสั่งตัดชุดแบบแยกร้าน แม้จะใช้ผ้าสีและชนิดเดียวกัน แต่เมื่อมาอยู่รวมกันอาจดูโดดไปกันคนละทาง

เรื่องสุดท้ายที่อยากฝากถึงบรรดาเพื่อนเจ้าสาวคือ อย่าลืมว่างานแต่งงานนั้นเป็นงานของเจ้าสาว เป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิงที่อยากสวย แต่ไม่ว่าสไตล์ชุดหรือธีมสีที่เจ้าสาวเลือกจะถูกใจคุณหรือไม่ ก็ขอให้ยิ้มรับและมีความสุขกับงานครั้งสำคัญของเพื่อน

Kai Boutique เพราะชุดแต่งงานคิดความฝันที่เป็นจริง

kai

ด้วยประสบการณ์การทำงานและชื่อเสียงที่สั่งสมมานาน ทำให้คุณไข่-สมชาย แก้วทอง พา Kai Boutique ขึ้นทำเนียบร้านชุดแต่งงานที่เจ้าสาวจำนวนมากใฝ่ฝันอยากจะสวมใส่ในวันสำคัญของชีวิต

กว่าจะเป็นแบรนด์ชุดแต่งงานในดวงใจ

เราเริ่มต้นจากทำชุดทุกรูปแบบ เวลาจัดแฟชั่นโชว์ก็เริ่มจากชุดลำลอง ชุดกลางวัน ชุดค็อกเทล ชุดราตรี แล้วจบด้วยชุดแต่งงาน ต่อมาเราจับทางของตัวเองได้จึงทำเฉพาะชุดราตรีและชุดแต่งงาน ซึ่งบางครั้งก็จัดแฟชั่นโชว์คอลเล็คชั่นชุดแต่งงานล้วน ทำให้เป็นที่พูดถึงกันว่าร้านเราทำชุดแต่งงาน ซึ่งไม่ใช่ว่าเราโดดเด่นกว่าเพื่อน เพราะดีไซเนอร์คนอื่นก็ทำผลงานออกมาสวยหมด เพียงแต่ว่าลูกค้าจะให้ความไว้วางใจใคร ซึ่งเราถือเป็นรายต้นๆ ที่ลูกค้านึกถึง อาจจะมาดูที่ร้านเราก่อนแล้วค่อยไปดูร้านอื่นๆ เพื่อเปรียบเทียบกัน

ประสบการณ์กว่า 48 ปี ในวงการ

ปัจจุบันการทำงานเปลี่ยนไปเพราะมีอาชีพ Wedding Planner เกิดขึ้นในเมืองไทย ซึ่งสามารถให้คำแนะนำเรื่องลุคกับเจ้าสาวได้ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เขาจะรู้ว่าเจ้าสาวคนนี้ชอบแนวชุดของร้านไหน ทำให้เราทำงานง่ายขึ้น ประกอบกับเจ้าสาวสมัยนี้รู้ความต้องการของตัวเอง บางคนมีเรฟเฟอเรนซ์มาว่าชอบสไตล์นี้ หรือบางคนมีภาพเจ้าสาวที่ใส่ชุดของเรามาให้ดูเลยว่าชอบแบบนี้ก็ยิ่งง่ายใหญ่ เพราะมีให้ลองอยู่แล้วก็ลองสวมเลยว่าใส่แล้วสวยหรือเปล่า ถ้าสวยก็จบ แต่ถ้าไม่ก็ช่วยกันดัดแปลงแก้ไข

การที่เราอยู่มานานทำให้ได้เห็นค่านิยมที่เปลี่ยนไป สมัยก่อนเจ้าสาวถือว่าชุดแต่งงานมีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นประวัติศาสตร์ของชีวิต จึงนิยมตัดชุดใหม่แล้วเก็บไว้จนรุ่นลูกรุ่นหลาน ไม่ค่อยมีใครอยากใส่ชุดเช่า แต่สมัยนี้เจ้าสาวไม่ค่อยถือเรื่องนี้ บางคนอาจรู้สึกว่าใส่ยืนรับแขกแค่ไม่กี่ชั่วโมงเช่าหรือเช่าตัดเอาก็ได้ จนร้านเราต้องปรับตัวตามค่านิยมของยุคสมัย ทำให้ตอนนี้ Kai Boutique มีทั้งชุดเช่า เช่าตัด และตัดใหม่

ฝากไว้ในใจเจ้าสาว

สไตล์ชุดของร้านเราคือความสง่างาม เพราะเราทำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง การแต่งงานคือปาฏิหาริย์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน เราจึงให้ความเคารพกับผลงานที่ตัวเองสร้างสรรค์ ชุดหนึ่งต้องมีการลองและปรับแก้หลายรอบ ใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้ออกมาสวยและพอดีที่สุด จึงอยากให้เจ้าสาวเคารพในการทำงานของดีไซเนอร์ด้วย ถ้าตัดสินใจเลือกแบบไหนหรือร้านไหนแล้วขอให้มั่นใจจริงๆ ไม่ใช่มาเปลี่ยนใจหรือเปลี่ยนร้านทีหลัง มันเกิดความเสียหายขึ้น ข้อนี้ขอพูดแทนดีไซเนอร์ทุกคน

หากเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจแนะนำให้ทำการบ้านมาให้ดี ลองเลือกแบบที่ชอบมาก่อนแล้วเอาไปถามคุณแม่หรือคุณยายว่าแบบไหนดี ท่านจะชื่นใจมากที่ลูกสาวยอมให้มีส่วนร่วม พอเลือกดีแล้วค่อยมาจบที่ดีไซเนอร์ซึ่งเป็นตัวแปรสุดท้ายที่จะบอกว่าคุณใส่แขนยาวไม่เหมาะนะ หรือคุณใส่เกาะอกสวยหรือไม่สวย

ชุดแต่งงานคือ “ความฝัน”

ชุดแต่งงานคือความต้องการของเจ้าสาวล้วนๆ ไม่มีเทรนด์หรือข้อกำหนดใดๆ อยากขอร้องดีไซเนอร์ทั้งหลายในโลกให้หยุดพูดว่าชุดแต่งงานมีเทรนด์ เพราะมันไม่เป็นความจริง มันจะมีได้อย่างไรในเมื่อเจ้าสาวมีรูปร่างไม่เหมือนกัน ความชอบก็ไม่เหมือนกัน ผู้หญิงที่วันหนึ่งได้เป็นเจ้าสาวเขามีความฝันกันทั้งนั้น บางคนชอบชุดของออเดรย์ แฮปเบิร์น ในเรื่อง Sabrina บางคนชอบชุดของเจ้าหญิงเกรซ เคลลี่

…นี่ไม่ใช่แฟชั่น แต่มันคือความฝัน

ภาพเปิด : http://www.kaiboutique.com/

5 ลุค 5 สไตล์ เจ้าสาวแบบไหนก็เจิดได้ในแบบคุณ

เรียบเรียง : สาวอักษรข้างสยาม

          วันนี้ WE รวมลุคสุดฮอตมาตอบโจทย์สาวๆ หลากสไตล์ ลองมาดูแบบแต่งหน้าที่ใช่เพื่อใช้ในวันสุดพิเศษของคุณ

สาวเรียบร้อย

1          สาวเรียบร้อยที่ไม่ชอบการแต่งหน้าจัดและฉูดฉาด  เพื่อให้คุณรู้สึกมั่นใจในวันงาน  เราแนะนำให้คุณแต่งหน้าในโทน Natural Look ที่เน้นการลงรองพื้นใกล้เคียงกับสีผิว  แต่งตาโทนสีธรรมชาติที่มีกลิตเตอร์เบาๆ  ปิดท้ายด้วยการลงแก้มและปากในโทนสีชมพูนู้ดสำหรับสาวผิวขาว  หรือโทนสีพีชสำหรับสาวผิวเข้ม

สาวหรู

2          สำหรับสาวๆ ที่อยากดูหรูหราในวันแต่ง  เคล็ดลับแรกที่เราอยากแนะนำคือการทำสีผมในโทนน้ำตาลสว่าง  โดยไล่ตั้งแต่โทนน้ำตาลบรูเน็ท  ออเบิร์น  ไปจนถึงแดงคอปเปอร์  สำหรับการแต่งหน้า  เราแนะนำให้คุณใช้อายแชโดว์ในโทนสีทองหรือโทนสีส้มไปจนถึงน้ำตาลที่มีส่วนผสมของโกลด์ชิมเมอร์  เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณเป็นเจ้าของลุคหรูได้ง่ายๆ

สาวเซ็กซี่

3          ลุคแต่งหน้าที่เราขอแนะนำสำหรับสาวเซ็กซี่คือ ลุค Hollywood Glamour ที่เน้นการลงรองพื้นให้ผิวดูนวลเนียน  กรีดอายไลเนอร์ให้ดวงตาสวยคมชัด  ปิดท้ายด้วยการลงลิปสติกสีแดงดูเย้ายวน  หรือสีส้มสว่างหากอยากดูเปรี้ยวนิดๆ  เพียงเท่านี้คุณก็สวยได้ไม่แพ้เหล่าดาราฮอลลีวูด

สาวหวาน

4          สำหรับสาวๆ ที่อยากดูสวยหวานในวันแต่ง  จำไว้ว่าอย่าลงเมคอัพบนใบหน้าด้วยสีชมพูทั้งหมด  เช่น ลงเปลือกตา  แก้ม  และปากด้วยสีชมพูโทนเดียวกัน  เคล็ดลับการแต่งหน้าให้ดูสวยหวานอยู่ที่การลงบลัชสีชมพูบนพวงแก้ม  ตามด้วยลิปสติกสีชมพูที่มีเฉดใกล้เคียงกับริมฝีปากของคุณ  อาจปิดท้ายด้วยกลอสเพื่อให้ได้ลุคใสๆ หรือใช้ลิปเนื้อแมตที่ทำให้ดูสวยหวานแบบผู้ใหญ่

สาวเปรี้ยว (แถมแนว)

5          ไม่ต้องถึงขนาดก็อปลุคมาจากรันเวย์คุณก็ดูสวยเฉี่ยว (อย่างสุภาพ) ในวันแต่งได้  เคล็ดลับคือการกรีดอายไลเนอร์แบบ Cat Eye ที่เปลือกตาบนและเปลือกตาล่างเพียง 1ใน 3 แบบเฉียงขึ้นเพื่อให้ดูสวยเฉี่ยว  สำหรับการลงรองพื้นนั้นให้ลงแบบ Natural Look คือใกล้เคียงกับสีผิวจริง    ลงบลัชออนกับลิปสติกโทนสีใกล้เคียงกัน  ปิดท้ายด้วยการลงบรอนเซอร์ไล้ไปตามกรอบหน้าเบาๆ  เพียงเท่านี้คุณก็ได้ลุคอย่างซูเปอร์โมเดลที่ใช้ได้จริงในวันแต่งงาน
          ไม่ว่าสาวๆ อยากสวยแบบไหนในวันสำคัญที่สุดของชีวิต  เราขอแนะนำให้คุณเลือกลุคที่ถ่ายทอดตัวตนของคุณ  ไม่ใช่สวยเพื่อใคร  แต่สวยเพื่อตัวของคุณเอง

ภาพ: www.prestonbailey.com  www.dressforthewedding.com  www.crazyforus.com  www.btseventmanagement.wordpress.com  www.vogue.com.au  www.backbayspa.com

Human Touch ผู้ชายส่งสัญญาณ แตะตัวแบบไหนผู้หญิงต้องระวังตัว

ถ้าคืนนี้คุณได้อยู่กับคนที่รู้สึกดีคงมีความสุขทวีคูณเหลือล้นใช่ไหม เพียงแต่ในบางครั้งความรู้สึกที่แสนบริสุทธิ์ผุดผ่องที่สาวๆ มีให้หนุ่มๆ อาจไม่ได้รับความรู้สึกที่บริสุทธิ์ใสๆ เหมือนกันกลับมา เพราะหนุ่มบางคนก็ฉวยโอกาสหลอกล่อให้คุณมีอะไรด้วยในโมเม้นที่คุณกำลังอินกับความรู้สึกดีๆ ของค่ำคืนนั้น วันนี้มาดามจึงรวบรวมสัญญาณสวาทที่เกิดจากจุดเริ่มต้นของการ สัมผัสสยิว ของชายหนุ่มต่อหญิงสาวมาฝากกัน อ่านแล้วจำไว้เลยว่า ถ้าเขาเริ่มทำแบบนี้เมื่อไหร่ ระวังตัว ระวังใจไว้ คืนนี้อาจมีเซ็กส์แบบไม่ได้เตรียมตัว

จับมือด้วยท่วงท่าพิเศษ

สัมผัสแรกที่หนุ่มๆ ทั้งหลายมักใช้เป็นจุดเริ่มต้นของสัมผัสสวาทคือ การสัมผัสมือแต่ไม่ใช่ประเภทจับมือแบบธรรมดาทั่วไปนะจ๊ะ หนุ่มๆ ที่หวังอะไรในตัวคุณมากกว่าการจับมือมักมีท่าในการจับมือที่ซับซ้อนกว่าที่คุณคิด เขาอาจจะสอดแขนเข้าพันเกี่ยวแล้วค่อยจับหมับเข้าไปที่มือ เพื่อหวังผลให้ส่วนอื่นของแขนสัมผัสกับบางจุดบนเรือนร่างของคุณ จะได้จุดประกายความสยิวในเบื้องต้นไงล่ะ

ลมหายใจสัมผัสต้นคอ

จริงๆ แล้วมุกนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าไม่มีการขยับหัวเข้าหากัน แต่หนุ่มๆ บางคนก็มุกเยอะ เขาจะทำทุกวิถีทางให้ได้เอาหน้าของเขามาใกล้ๆ หน้าของคุณ จากนั้นจงใจปล่อยลมหายใจผ่านต้นคอเฉียดติ่งหู ทีนี้ล่ะความสยิวบังเกิดแน่ เพราะช่วงคอและหูคือจุดอ่อนระทวยของทุกเพศวัย สัมผัสต่อไปมีเฮแน่นอน

นัวเนียเคลียหน้า

เขาจะไม่จู่โจมคุณแบบโน้มหน้าเข้าหาแล้วบดขยี้ปากทันทีหรอกนะ แต่จะค่อยๆ เอาหน้ามาใกล้ๆใช้มือไล้เสี้ยวหน้าเบาๆ จากนั้นปลายจมูกเริ่มเฉียดไปมา โดยเน้นที่ข้างแก้มก่อนจะเฉียดมาที่ริมฝีปาก ถ้าคุณชะงักงันไปเมื่อไหร่ เขาจะหยุดไว้ก่อนประมาณว่าผมอดใจไม่ได้จริงๆ แต่นั่นน่ะทำคุณใจสั่นจนจะหลุดออกจากอกซะให้ได้ (ใช่ไหมล่ะ) และถ้าคุณคิดว่าเขาจะหักห้ามใจจงคิดใหม่ เพราะกระบวนท่าสัมผัสต่อไปคือประกบปากอย่างแน่นอน ส่วนจะแผ่วเบาหรือหนักหน่วงก็อยู่ที่ว่าอารมณ์จะกระเจิงกันแค่ไหน

กอดกันหน่อยได้ไหม

หนุ่มบางคนขอกอดกันตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม เพราะการกอดคือมือทั้งสองต้องโอบรอบ ไม่ว่าจะโอบมือคู่หรือมือเดียวยังไงก็ต้องขอกันก่อน ประโยคขอกอดได้ไหมจึงมักมาพร้อมๆ กับสายตาที่เว้าวอน และเมื่อไหร่ที่สาวๆ เซย์เยส เท่ากับเปิดช่องให้เขาได้นัวเนียใบหน้า เอาจมูกไซ้คอ แล้วต่อยอดไปถึงเซ็กส์ได้ทันที ก็แหมได้กอดทั้งที ต้องกอดแบบแนบชิดสนิทตัวอยู่แล้ว

นวดสบายนาบสนั่น

มุกสุดท้ายนี้สาวๆ พลาดกันเยอะ เพราะถ้าคุณยอมให้เขานวดแปลว่าคุณเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสเรือนร่างคุณอย่างเต็มใจไม่ต่างอะไรกับการยอมให้กอด แต่รอบนี้หนักกว่าเยอะ แม้มุกนี้สาวคิดบวกจะรู้สึกเขาหวังดี นวดแก้เมื่อยให้เฉยๆ แต่เปล่าเล๊ยหนูจ๋า จำไว้ว่านวดให้ของหนุ่มๆ มักตามด้วยการนาบเสมอ ฉะนั้นรู้ไว้นะจ้ะแม่ลูกแกะน้อยทั้งหลาย หมาป่ามือนวดที่นั่งอยู่ข้างหลังแยกเขี้ยวรอเขมือบอยู่อย่างตั้งใจ

รับรู้จุดเริ่มต้นของการสัมผัสจากหนุ่มๆ ไปแล้ว อยู่ที่คุณแล้วนะสาวๆ ว่าจะคล้อยตามหรือป้องกันตัว ถ้าชัวร์ว่าเขาดีจริงมาดามก็เชียร์ให้มัดเขาให้อยู่หมัด แต่ถ้ายังกล้าๆ กลัวๆ ก็อย่าเสี่ยง รอสัมผัสชัวร์ๆ จากคนที่รักจริงดีที่สุดนะเออ

เรื่อง : Madam Hong Hern

ภาพ : freepik.com

6 ไอเทมอัพสวยวันแต่ง

          หากสาวๆ อยากสวยพร้อมสำหรับวันสำคัญในชีวิตอย่างวันแต่งงาน ลองมาดูบิวตี้ไอเทม 6 ชิ้นที่ช่วยอัพลุคสวยให้คุณเจิดทุกองศา

 
แช่ตัวด้วย Bath Soak
1          หากคุณมีอ่างอาบน้ำที่บ้าน  เราแนะนำให้คุณแช่ตัวใน Bath Soak  โดยคุณอาจเลือกแช่ตัวในตอนเช้าเพื่อให้รู้สึกสดชื่นพร้อมสำหรับวันงาน  หรือแช่ตัวหลังจบงานเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย  เลือก Bath Soak ที่มีส่วนผสมตรงตามความต้องการของคุณ  เช่น  ดีท็อกซ์ผิว  เพิ่มความชุ่มชื้น  หรือมีส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง

ลงซีรั่ม
2          หากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยดูแลตัวเองหรือไม่ได้ใช้สกินแคร์เป็นประจำ  เราแนะนำให้คุณลงซีรั่มบนผิวหน้าในวันงาน  เพราะนอกจากจะเป็นการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกแล้ว  ยังเป็นการช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้ายามคุณต้องเจอสภาพอากาศร้อนจัดหรือเย็นจัดในพิธีแต่งงาน

ลิปสติกสีชัด

3          เราแนะนำให้คุณใช้ลิปสติกที่ให้สีชัดและติดทน  จะได้ไม่ต้องคอยเติมสีปากบ่อยๆ และหมดปัญหาสีลิปสติกไม่ชัดในภาพถ่าย  อีกหนึ่งเคล็ดลับคือหากคุณเลือกลิปสติกที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์  จะเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีกปากของคุณระหว่างงานได้อีกด้วย

แตะแต้มน้ำหอม
4          อย่าลืมจรุงกลิ่นกายของคุณในวันวิวาห์ด้วยน้ำหอม  เพราะนอกจากจะช่วยให้กลิ่นกายของคุณหอมอบอวลแล้ว  น้ำหอมแต่ละกลิ่นยังมีคุณสมบัติทางอโรมาเทอราปี  เช่น  กลิ่นมะนาวและกลิ่นส้มช่วยให้คุณรู้สึกตื่นตัว  กลิ่นมิ้นท์เย็นๆ ช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น  และกลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยให้ผ่อนคลาย  เป็นต้น

อย่าลืมทาเล็บ

5          จริงอยู่ที่ว่าเล็บที่ไร้การตกแต่งนั้นดูสะอาด  แต่ในวันแต่งงานที่คุณแต่งตัวแบบจัดเต็ม  หากไม่แต่งแต้มสีสันใดๆ ลงบนเรียวนิ้ว  อาจทำให้มือของคุณดูโล่งจนเกินไป  เราแนะนำให้คุณแต่งแต้มสีสันลงบนเล็บโดยเลือกยาทาเล็บเฉดสีที่คุณชอบและเข้ากับชุด  หรือหากคุณไม่ชอบทาเล็บจริงๆ  คุณอาจทาเพียงท็อปโค้ทเพื่อให้เล็บเงางามก็ได้

ใช้ทรีตเมนท์ผม
6          คุณไม่จำเป็นต้องเข้าซาลอนเพื่อทำสปาผมหรือทรีตเมนท์ผมราคาแพง แต่สามารถซื้อชุดทรีตเมนท์สำหรับดูแลผมมาทำเองที่บ้าน ซึ่งมีทั้งแบบซีรั่มและแบบบำรุงผมหลังสระ หรือแบบมาส์กแล้วล้างออก โดยเลือกใช้สูตรที่ให้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการของคุณ
          นับเป็นการรวมบิวตี้ไอเทมแบบน้อยชิ้นที่ทำได้เองและไม่ยุ่งยาก ลองเอาคำแนะนำของเราไปใช้ในวันสำคัญของคุณ แล้วเตรียมสวยเจิดรับวันแต่งกันเลย

ภาพ : www.elipeycosmetics.com  www.rankandstyle.com  www.vse-gosty.ru  www.openlettersmonthly.com  www.bridetobride.com.br  http:// fashionstylebeauty.com  http://thewowstyle.com

The Hunk : ศุกลวัฒน์ คณารศ

เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ
อายุ 30 ปี
นักแสดง

“คุณเวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ” พระเอกหนุ่มสุดฮอตแห่งวิก 7 สี ที่ฝากผลงานไว้ในใจแฟนๆ ปีละหลายเรื่อง และล่าสุดกับบทบาทของ “ลอ” หนุ่มบ้านนาหล่อล่ำกล้ามโตแห่ง ”เพื่อนแพง”

อยู่ในวงการบันเทิงมานาน ผ่านฉากแต่งงานมาหลายสไตล์ แล้วงานแต่งในชีวิตจริงล่ะ เขาฝันไว้แบบไหน “ผมอยากให้งานแต่งของผมไม่เหมือนงานทั่วไปที่จัดตอนเย็น มีพิธีกรรม อาฟเตอร์ปาร์ตี้ แล้วจบ ผมอยากจัดเป็นเอ็กซ์คลูซีฟทริป 3-4 วัน เชิญแขกสัก 3 คันรถ นัดให้มาขึ้นพร้อมกันโดยไม่บอกว่าจะไปที่ไหน จากนั้นพาล่องเรือเที่ยวแล้วไปจบที่เกาะหนึ่ง จัดพิธีหมั้นวันหนึ่ง อีกวันเป็นพิธีแต่งงานริมทะเล แขกทุกคนแต่งตัวชิลๆ เพราะครั้งหนึ่งในชีวิตอยากให้เป็นความทรงจำดีๆ ทุกคนได้เที่ยวพักผ่อนและสนุกสนานกันตามสไตล์ของผม

“สำหรับปาร์ตี้สละโสดก็อยู่ในทริปนี้ล่ะครับ ก่อนถึงเกาะที่จะแต่งงาน เรือเจ้าบ่าวและเพื่อนชายล้วนอาจแวะเกาะหนึ่งก่อน ปาร์ตี้กันให้เต็มที่แต่ไม่ถึงกับแฮงค์โอเวอร์นะ (หัวเราะ) แล้วคนที่ขาดไม่ได้เลยในปาร์ตี้นี้คือคุณพ่อของผมเอง ลูกชายสละโสดทั้งทีใช่ไหมครับ อีกอย่างงานแบบนี้ต้องมีรุ่นใหญ่ ชิลๆ เข้าใจวัยรุ่นมาเป็นประธาน”

เอ้า …สาวๆ คนไหนอยากร่วมทริปกับหนุ่มเวียร์ยกมือขึ้น-น-น

เติมใจให้กัน…จนเต็ม

The Bride To Be : สุทธดา จีระพันธุ (เอ๋ย) เจ้าของธุรกิจเบเกอรี่ Little Baker
The Groom To Be : สิรพัฐ พิพัฒน์วีรวัฒน์ (จอห์น) ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทเดอมอนด์ ประเทศไทย จำกัด

The Romance
          นับเป็นอีกคู่ที่พิสูจน์คำว่า คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน สำหรับคุณเอ๋ยและคุณจอห์นที่การพบหน้ากันครั้งแรกเมื่อสมัยเรียนพิเศษเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวความรักอันยาวนานของคนทั้งสอง
          แม้คุณเอ๋ยจะไม่ได้รู้สึกชอบคุณจอห์นในทันที แต่เจ้าตัวก็ตอบไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เวลาเพื่อนพูดถึงฝ่ายชายขึ้นมา คุณเอ๋ยถึงยังนึกหน้าของหนุ่มคนนี้ออก ราว 10 ปีต่อมาทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งโดยเพื่อนสนิทของคุณเอ๋ยพาคุณจอห์นมากินข้าวด้วยกันในวันหนึ่ง แม้ แม่สื่อจำเป็น คนนี้จะเป็นคนที่ทำให้ทั้งสองได้เริ่มพูดคุย และก็เป็นแม่สื่อคนนี้อีกเช่นกันที่เล่ากิตติศัพท์ความเจ้าชู้ของฝ่ายชายจนทำให้ฝ่ายหญิงตั้งกำแพงใจ แต่ด้วยแรงเชียร์จากเพื่อนๆ ที่ว่า ถ้าคิดจะรักก็ต้องเสี่ยง ทำให้คุณเอ๋ยตัดสินใจสานสัมพันธ์ต่อไปพร้อมๆ กับคุณจอห์นที่ต้องการหยุดหัวใจอยู่กับหญิงที่ตนรัก

The Honeymoon
          แม้ทั้งคู่จะยังไม่ได้วางแผนแน่นอนว่าจะไปฮันนีมูนหวานกันที่ไหน แต่มีแผนไว้ในใจว่าอยากจะท่องเที่ยวแบบ Road Trip ในประเทศแถบยุโรป ซึ่งต้องตกลงกันอีกทีว่าจะเป็นเมืองแห่งความรักอย่างปารีสหรือเมืองเล็กๆ ในชนบท

bg2
The Planning
          ทั้งคู่วางแผนแต่งงานข้ามปี โดยเมื่อได้ฤกษ์แล้วก็เริ่มจองโรงแรมเป็นอันดับแรก เพราะหากเตรียมทุกสิ่งพร้อมแต่หาสถานที่ไม่ได้ งานก็เกิดขึ้นไม่ได้ จากนั้นจึงจองช่างแต่งหน้าทำผมและช่างภาพ ตามด้วยการเฟ้นหาเวดดิ้งแพลนเนอร์เพื่อช่วยให้การจัดงานเป็นไปอย่างราบรื่นและช่วยจัดการในรายละเอียดยิบย่อย
          ในส่วนของการวางแผนเรื่องค่าใช้จ่าย คุณจอห์นเล่าให้เราฟังอย่างหมดเปลือกว่า พอรู้ราคาของแต่ละอย่างแล้ว ขอไม่รู้เสียดีกว่า จึงให้งบคุณเอ๋ยไปจัดสรรตามต้องการ

The Beauty
          เจ้าสาวมีใบหน้าที่สวยได้รูป จึงไม่ต้องใช้เฉดดิ้งหรือไฮไลท์เพื่อแก้ปัญหารูปหน้า และเพื่อให้การแต่งหน้าดูสมวัยสำหรับเจ้าสาวที่ยังวัยรุ่น จึงแต่งหน้าให้ดูบางเบาและสดใส โดยเน้นเพียงดวงตาให้สวยชัด และลงลิปสติกสีชมพู ปิดท้ายด้วยการลงกลอสเพื่อให้ริมฝีปากที่ค่อนข้างเล็กของเจ้าสาวดูอวบอิ่มขึ้น

bride
          สำหรับชุดเกาะอกเลือกเกล้าผมเพื่อความหรูหราและเหมาะกับพิธีการ โดยเกล้าหลวมๆ ให้ดูสมวัย ส่วนชุดเดรสสั้นเป็นทรงแสกกลางรวบเก็บครึ่งศีรษะด้านหลัง

The Dress
          เจ้าสาวดูสวยหวานในชุดแต่งงานเกาะอกประดับคริสตัล ช่วงเอวคาดโบขนาดเล็กดูน่ารัก ช่วงกระโปรงไล่ชั้นตกแต่งลูกไม้ดูหรูหรา สำหรับชุดเดรสสั้นมีชายด้านหลังแยกชิ้น เจ้าสาวสามารถสวมครบชุดหรือสวมเพียงเดรสเกาะอกเดี่ยวๆ ก็ได้

S6-210-rt
The Suit
          เจ้าบ่าวดูหล่อราวกับพระเอกหนังในชุดสูทสีดำสวมโบไท และเปลี่ยนเป็นเจ้าบ่าววัยรุ่นด้วยชุดสูทสีครีมที่ดึงลุคทันสมัยออกมาด้วยโบไทสีแดงเข้ม

WE Recommend
          เนื่องจากครอบครัวของเจ้าบ่าวเป็นเจ้าของธุรกิจร้านเพชร คุณจอห์นจึงเลือกแหวนเพชรรุ่น “Always Together” จาก Reverof by DER MOND เป็นของขวัญเซอร์ไพร้ส์ตอนขอคุณเอ๋ยแต่งงาน เพื่อสื่อถึงความรักของทั้งสองว่าจะครองคู่กันตลอดไปไม่ต่างจากแหวนคู่ ด้านในตัวแหวนยังสลักข้อความพิเศษสำหรับว่าที่บ่าว – สาวคู่นี้อีกด้วย

Venue
          สำหรับคู่บ่าว-สาวที่กำลังมองหาสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสไตล์โมร็อกโกริมหาด Marrakesh Hua Hin Resort & Spa อาจตอบโจทย์ความต้องการของคุณ นอกจากสถานที่จะโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Neo-Moroccan ที่ดูหรูหราและสง่างาม โรงแรมยังมีบริการแพคเกจพรีเวดดิ้งหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกสรร

Marrakesh-Hua-Hin-Resort-&-Spa_Beach-Dinner-2
Pre Wedding Day-Use Package (12,000 บาทสุทธิ)
          คู่บ่าว-สาวจะได้รับห้องจากุซซี่ สวีท ประเภทไม่พักค้างคืน 1 วัน สถานที่สำหรับถ่ายภาพพรีเวดดิ้งบริเวณโรงแรม และชายหาดหน้าโรงแรม เวลา 8.00-18.00 น. และเซทอาหารไทยมื้อเที่ยง 1 มื้อ
Pre Wedding Overnight Package (17,000 บาทสุทธิ)
          คู่บ่าว–สาวจะได้รับห้องจากุซซี่ สวีท 1 คืน พร้อมอาหารเช้า สถานที่สำหรับถ่ายภาพพรีเวดดิ้งบริเวณโรงแรม และชายหาดหน้าโรงแรม และเซทอาหารนานาชาติมื้อค่ำ 1 มื้อ โดยทั้ง 2 แพ็กเกจคู่บ่าว – สาว ยังจะได้รับ
          • ส่วนลด 20% สำหรับคู่บ่าว-สาว และทีมงาน ที่นูรา สปา
          • ส่วนลด 10% สำหรับคู่บ่าว-สาว และทีมงาน ที่ห้องอาหาร อัล ฮัมรา (เฉพาะอาหารและเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์)
          • ส่วนลด 35% จาก Best Available Rate บนเว็บไซต์ www.marrakeshresortandspa.com สำหรับการเข้าพักครั้งถัดไป

Marrakesh Hua Hin Resort & Spa
63/411 ถนนเพชรเกษม ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77110
โทร. 0-3261-6777
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์ www.marrakeshresortandspa.com

WE Directory
แต่งหน้า : รัตนโชติ โพธิ์ขำ (เดียว) โทร. 08-1699-9695
ทำผม : ธานุพล ภู่เทพอมรกุล (แจ้) โทร. 08-1890-2355
ชุดแต่งงานบ่าว – สาว : Fullrich หมู่บ้านเพอร์เฟคพาร์ค ร่มเกล้า 6/1เฟส 2 โทร 0-2181-4362, 08-9988-9289 www.fullrichbride.com www.facebook.com/Fullrichbride IG : @fullrichbride
เครื่องประดับเพชร : DER MOND ชั้น 1 สยามพารากอน โทร. 0-2129-4355-6 www.dermond.co.th

The Free Spirit : อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม

อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม
อายุ 33 ปี
นักแสดง

ลบภาพหนุ่มมาดเซอร์แบบไม่เหลือเค้าเดิมเลยทีเดียว เมื่อเรามีโอกาสได้สัมภาษณ์นักแสดงหนุ่มสุดหล่ออย่าง “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม “แบบเปิดอกหมดเปลือก ที่ทุกซอกหลืบของหัวใจไม่เหลือพื้นที่ให้เจ้าตัวได้ขอคืน

รู้สึกอย่างไรที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ้าบ่าวในฝันของสาวๆ เกือบทั้งประเทศ?

“จริงเหรอ? ผมเหมาะจะเป็นเจ้าบ่าวในฝันเหรอ พูดมาทั้งชีวิตว่าจะไม่แต่งงาน”

คิดว่าอะไรคือเสน่ห์ของตัวเองที่ทำให้สาวๆ หลงใหล?

“คือจริงๆ อันนี้อาจจะต้องถามคนอื่นเพราะว่าผมอาจจะไม่ได้มานั่งวิเคราะห์สักเท่าไหร่ แต่ผมว่าถ้าถามผู้ชาย Sense of Humor หรือการที่ไม่ซีเรียสกับตัวเองเกินไปเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกับสิ่งที่เรียกว่าเสน่ห์ผมว่ามันก็ต่างกันนะ อาจจะต้องถามคนอื่น”

เคล็ดลับในการจีบสาว?

“ไม่มีครับ (เวลาปิ๊งผู้หญิงทำยังไง) สำหรับผมคือ No strategy is the strategy คือ ผมนึกไปถึงขั้นว่า ถ้าเรามีจุดประสงค์แค่จะจีบเฉยๆ มันไม่ได้มีโอกาสได้รู้จักเขาจริงๆ น่ะครับ ผมเลยรู้สึกว่า แค่อยากรู้จักเฉยๆ และถ้ามันเกิดชอบกันขึ้นมา ก็เป็นโบนัสชีวิตไป (หัวเราะ) เพราะอย่างน้อยเราก็ได้เป็นตัวเอง และเราก็ได้ฟังเขาด้วย อีกอย่างหนึ่งคือ ผมรู้สึกมาตลอดว่า คนทุกคนเสน่ห์มันอยู่ที่ความ unique มันไม่มีหนึ่งเคล็ดลับหนึ่งวิธีที่ใช้ได้กับทุกคน เคล็ดลับอาจจะแบบใช้หูให้มากที่สุด ฟังเขาเยอะๆ ใส่ใจและสังเกตให้มากๆ เพราะคนสมัยนี้ไม่ค่อยฟังกัน”

เวลารักใครสักคนแสดงออกยังไงให้เขารู้ว่ารัก?

“บอกเขาเลยครับ ผมว่าการที่เราจะบอกรักใครสักคน เป็นสิ่งที่วิเศษมาก ไม่ว่าเขาจะตอบแทนเราในคำพูดเดียวกันหรือไม่มันไม่สำคัญ และผมรู้สึกว่าการที่เราจะบอกรักใครสักคน มันไม่สำคัญด้วยซ้ำไปว่าเขารักเราหรือเปล่า เพราะว่ามันคือสิ่งที่ positive มาก ก็เลยไม่มีปัญหากับการที่จะบอกว่าเรารักเขา”

มีเจ้าสาวในฝันหรือผู้หญิงในอุดมคติไหม?

“ไม่มี ในอดีตเคย (อะไรคือจุดเปลี่ยน) ตั้งแต่ผมคบกับคนมา ก็ไม่เห็นจะตรงกับสเป็คหรืออุดมคติที่เราเคยวาดฝันไว้ แต่เราก็รักเขาอยู่ดี ซึ่งแปลว่าอะไร ก็แปลว่าเราไม่ควรจะไปสร้างภาพขึ้นมาว่า คนที่เรารัก จะต้องเป็นแบบไหน”

ถ้าวันหนึ่งอนันดาจะต้องแต่งงาน?

“คือผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการแต่งงาน ผมแค่นึกไม่ออกว่ามันจะต้องเป็นยังไง แต่การใช้ชีวิตกับใครสักคนอย่างนี้คือนึกออก ผมอาจจะไม่ได้มาจากครอบครัวที่ซีเรียสเรื่อง tradition หรือ ศาสนา หรืออะไรอย่างนี้น่ะครับ มันก็เลยไม่ได้มี condition แบบนั้นตั้งแต่เรายังเด็กด้วยไง มันไม่เคยมีใครบอกว่าคุณต้องแต่ง แต่ก็ไม่ได้แอนตี้ (มองเป็นภาพครอบครัวได้ไหม) เห็นชัดเลยครับ ครอบครัวที่ผมเห็นคือ คงไม่ได้ fixed มาก ถ้าจะมีลูกก็อยากให้ลูกวิ่งเล่นเพ่นพ่านตามสไตล์ ภรรยาจะเป็นยังไงก็ตามใจเขา ขอแค่ให้ครอบครัวรักกัน”

สมมติว่าแต่งงานไปแล้ว จะพาภรรยาไปฮันนีมูนที่ไหน?

“ส่วนตัวผมชอบอะไรที่สามารถไปได้เรื่อยๆ อาจจะไม่ใช่สถานที่ อาจจะเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เราไปทำอะไรด้วยกันสักเดือนหนึ่งไหม ไปด้วยกันยาวๆ เรื่อยๆ มีเวลาให้กันและกัน ผมมีความสุขกับการที่ได้อยู่ใน journey มากกว่า มันอาจจะเป็น symbolic ด้วยมั้ง เป็นนัยยะของการไปสู่จุดมุ่งหมายอะไรบางอย่างด้วยกัน ถ้าจะขออะไร ผมขอเป็นเวลามากกว่า ไม่ใช่สถานที่”

เมื่อได้ฟังบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากพระเอกมาดเซอร์คนนี้ เราตอบได้เลยว่าไม่ใช่เพียงแค่ใบหน้าที่ทำให้เขาสามารถครองใจสาวๆ มาร่วม 18 ปีในวงการบันเทิง แต่หัวใจและแนวคิดที่หล่อไม่แพ้หน้าตาต่างหากที่ชนะใจสาวๆ อย่างเราจนถึงวันนี้

The Designer : ปิยะพงษ์ บุญฤทธิ์

กอล์ฟ-ปิยะพงษ์ บุญฤทธิ์
อายุ 31 ปี
มัณฑนากร

แค่อาชีพก็คูลพอจะทำให้หลายคนสนใจแล้ว เมื่อบวกกับความหล่อเข้มแถมกล้ามโต ก็ส่งให้ “คุณกอล์ฟ-ปิยะพงษ์ บุญฤทธิ์” กลายเป็นหนุ่มในฝันของสาวๆ ที่นิยมชายไทยมาดแมนแอนด์แฮนด์ซัมได้ไม่ยาก

ในฐานะนักออกแบบ เรายิงคำถามแบบแอ็บสแตร็คใส่คุณกอล์ฟว่า “รักออกแบบได้หรือไม่ได้” ซึ่งเขาก็ตอบได้แบบชัดเจนไม่มีแอ็บ (สแตร็ก) ว่า “ผมว่าออกแบบไม่ได้ครับ เพราะเราควบคุมคนรักให้เป็นอย่างที่ต้องการไม่ได้ สุดท้ายแล้วความรักมันคือการที่คน 2 คนรับในสิ่งที่อีกคนเป็นได้

“ผมมองว่าความรักอยู่ที่ความพอดีของคน 2 คน ถ้าให้เปรียบเทียบกับงานออกแบบ เวลาทำงาน 1 งาน เราอาจจะชอบทุกอย่างเลย แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกหยิบบางอย่างที่อาจจะเหมือนหรือต่างกันมารวมกันให้ลงตัว ก็เหมือนกับความรักที่เราเลือกคนคนหนึ่งจากคนมากมาย แต่กับคนนี้เซ้นส์เราบอกว่าอยู่กับเราแล้วลงตัวได้พอดี แม้ว่าเขาและเราอาจจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีทั้งความเหมือนและความต่าง”

เมื่อเราถามถึงการออกแบบที่ตอบโจทย์ของชีวิตคู่คุณกอล์ฟตอบได้อย่างน่าสนใจว่า “การออกแบบทำให้ทุกอย่างกลมกลืนได้ เช่น ในการแต่งบ้านที่ความชอบของผู้หญิงกับผู้ชายไม่ตรงกัน ถ้าผู้ชายชอบเรียบ ผู้หญิงชอบหวาน เราก็สามารถออกแบบบ้านเรียบๆ แต่มีดีเทลที่เป็นผู้หญิงขึ้นมาหน่อย หรือไม่อาจจะออกแบบให้แต่ละคนมีโซนของตัวเองแต่อยู่ในสเปซเดียวกันโดยไม่ต้องกั้นห้อง คือคิดหาทางให้ความชอบของเขาอยู่ด้วยกันได้ ซึ่งการออกแบบสมัยนี้ตอบโจทย์นี้มากขึ้นโดยคนที่เห็นไม่รู้สึกแปลกแล้ว แถมช่วยให้บ้านดูมีเอกลักษณ์ด้วยซ้ำ อย่างบ้านสไตล์เก่าๆ แต่เฟอร์นิเจอร์โมเดิร์น เป็นต้น” คุณกอล์ฟตอบผ่านมุมมองของนักออกแบบได้อย่างเป็นรูปธรรม แหม…ใครว่าหนุ่มติสท์เข้าใจยาก ไม่จริงเลยเนอะ

The Host : พุฒิชัย เกษตรสิน

พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน
อายุ 28 ปี
ดีเจ, พิธีกร, นักแสดง

ไม่ว่าจะบทบาทไหนก็ทำเอาสาวเล็กสาวใหญ่ฟินไปตามๆ กันสำหรับ “พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน” ที่มีความสามารถล้นเหลือทั้งบทบาทดีเจกับเสียงนุ่มละมุนหูและพระเอกลักยิ้มสวยที่ขโมยหัวใจสาวๆ ไปครองได้เพียงแค่ยิ้มเดียว

เห็นหล่อๆ แบบนี้ก็มีป๊อปปี้เลิฟตามจีบสาวเหมือนกันนะ “ผมแอบชอบรุ่นน้อง ม.3 อยู่คนหนึ่งแต่เราอยู่กันคนละโรงเรียนแต่มักจะเจอกันตรงท่าเรือก่อนไปโรงเรียนเสมอ ตอนนั้นผมนั่งเรือไป-กลับตั้งแต่ต้นสายไปจนสุดสายเพื่อจะได้ผ่านหน้าบ้านเขา อารมณ์มันคือได้เห็นแค่หน้าบ้านก็มีความสุขแล้วบางวันโชคดีก็จะเห็นเค้าอยู่ในบ้านด้วย ตามแจกขนมจีบอยู่สักพักเราก็ได้เป็นแฟนกันอยู่พักหนึ่งแต่พอเขาต้องย้ายโรงเรียนก็ทำให้เราต้องห่างกันไป แต่เรื่องราวทั้งหมดก็ยังอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ” ขอเอามือทาบอกแล้วกรี๊ดแปบ

“มุมมองความรักของผมเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามช่วงชีวิตที่โตขึ้น ผมมองว่าความรักมันก็เป็นเหมือนส่วนเติมเต็มในจิตใจให้เรามีกำลังใจในการทำสิ่งต่างๆ แต่สุดท้ายแล้วความรักก็ไม่ได้เป็นทุกสิ่งในชีวิตเราหรอกมันก็เป็นแค่ส่วนเล็กๆ ในชีวิตของคนสองคนที่อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขมากกว่า”