เชื่อว่าหากเปรียบความรัก และงานแต่งงาน เป็นดอกไม้ แน่นอนว่าส่วนมากก็คงนึกถึง “ดอกกุหลาบ” แล้วทำไมเราต้องจำกัดดอกกุหลาบไว้เพียงแค่ดอกไม้ประดับงานแต่งเท่านั้น ? ในเมื่อดอกกุหลาบดื่มได้ !! แถม น้ำดอกกุหลาบ ยังมากด้วยสรรพคุณเพื่อความงามของคุณเจ้าสาวเองอีกด้วย

น้ำดอกกุหลาบ แค่ชื่อก็ WoW แล้ว แถมสวยทั้งรูป จูบก็หอมหนักมาก ไม่เพียงเท่านั้น สรรพคุณด้านความงามก็เลื่องลือระดับตำนาน ยิ่งได้เห็นสีชมพูระเรื่อ ยิ่งดึงดูดใจเข้าไปใหญ่ เมื่อพูดถึงรสชาติแม้จะไม่ต่างอะไรกับน้ำเปล่า แต่ในส่วนของกลิ่นนั้น หอมสดชื่นเหมือนมีทุ่งดอกกุหลาบอบอวลอยู่ในปากเลยทีเดียว แถมอยู่ในงานแต่งงานก็สวยใสไม่อายใครอีกต่างหาก

อุปกรณ์

– กลีบกุหลาบ เลือกกุหลาบที่สีสดใส และถ้าเป็นแบบออร์แกนิคยิ่งดีเข้าไป เพราะเราต้องใช้กลีบกุหลาบนี่ล่ะ ไปต้ม ไปคั้น จนได้น้ำสุดชื่นใจ

– น้ำเปล่า เตรียมทั้งน้ำสำหรับล้าง และน้ำสำหรับต้มนะจ๊ะ

– หม้อต้ม เป็นหม้อที่มีฝาปิดจะดีมาก เพราะจะได้เก็บกลิ่นความหอมให้อยู่กับน้ำ ไม่หายไปในอากาศ

วิธีทำ

– เด็ดกลีบกุหลาบออกทีละกลีบ  แล้วล้างด้วยน้ำเปล่า จนมั่นใจว่าสะอาด

– ต้มกลีบกุหลาบในหม้อด้วยไฟปานกลาง ต้มไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสีของกลีบซีดลง

– พักจนเย็นลง เสิร์ฟพร้อมกลีบกุหลาบ หอมเย็นชื่นจายยยยยยย

 สรรพคุณ

ดอกกุหลาบเนี่ยเป็นเคล็ดลับความงามระดับพันปีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องประโยชน์หายห่วง มากเกินกว่าจำนวนกลีบของนางเสียอีก

– อุดมด้วยวิตามิน A, B3, C และ D พร้อมทั้งมอยเจอไรเซอร์ จึงช่วยให้ผิวพรรณสดใส ชุ่มชื้น เปล่งปลั่งออร่ากระจาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบำรุงผิวคุณเจ้าสาว

– ลดเลือนริ้วรอย ข้อนี้สำคัญมาก ในช่วงจัดงานแต่งงาน หน้าของเจ้าสาวก็จะโทรมๆ เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นตามหางตา มุมปาก และส่วนอื่นๆ ของใบหน้า น้ำกุหลาบที่อุดมด้วยแอนตี้ออกซิเดนท์ก็จะช่วยลดเลือนริ้วรอยเหล่านี้ลงไปได้

– ช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหาร ลดเหล่าคอเลสเตอรอลต่างๆ ด้วยนะ

– ทำให้อารมณ์ดี๊ ดี หลังจากที่เป็น Bridezilla มาทั้งวันแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำกุหลาบเนี่ยล่ะ จะช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น กลับเข้าสู่ภวังค์แห่งรักได้อีกครั้ง

เป็นไงล่ะ เจ้าน้ำดอกกุหลาบที่ทำง่ายๆ แต่สรรพคุณเพียบผสมกับสกินแคร์ต่างๆ ได้ แล้วยังหน้าตาดีสีหวานขนาดนี้ คุณว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายอย่ารอช้า มาทำน้ำกุหลาบดื่มกันเถอะ

ยังมีเรื่องสวยๆ งามๆ เพื่อคุณเจ้าสาวอีกเพียบ คลิกเลย

ภาพเปิด medicalnewstoday

ภาพประกอบ pinterest

ใน คืนก่อนแต่งงาน ไม่แปลกที่คุณเจ้าสาวทั้งหลายจะกระวนกระวายทำอะไรไม่ถูก เพราะกำลังตื่นเต้นกับวันพิเศษที่กำลังมาถึงในรุ่งเช้า คุณเจ้าสาวจึงต้องรู้ 10 สิ่งที่ต้องทำในเพื่อให้เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันพิเศษที่สมบูรณ์เพอร์เฟกต์สมดั่งใจ

1. มาส์กหน้า

วันแต่งงานเป็นวันที่เจ้าสาวต้องสวยที่สุด การบำรุงผิวในคืนก่อนแต่งงานจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณเจ้าสาวห้ามละเลยเด็ดขาด ซึ่งการทาสกินแคร์สำหรับวันปกติก็ต้องทำห้ามขาด และเพิ่มเติมด้วยการมาส์กหน้าที่ให้ทั้งความขาวใสเปล่งปลั่ง และคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวแบบเร่งด่วนทันใจสวยใสในวันรุ่งขึ้น

2. อายครีม

กว่าจะถึงวันแต่งงานคุณเจ้าสาวต้องเผชิญมาสารพัด จนบางครั้งอาจทำให้ดวงตาสวยๆ อ่อนล้า ถุงใต้ตามาเต็ม จำเป็นต้องมีผู้ช่วยมาคืนความสดใสให้กับดวงตา สิ่งที่ว่าก็คือ อายครีม ที่จะช่วยลดเลือนรอยดำคล้ำ และถุงใต้ตา ทำให้คุณเป็นสาวที่สวยสดใส ถ่ายรูปออกมาก็บริงค์ๆ ไร้วี่แววความเหนื่อยล้าสะสมจากการเตรียมงาน

3. ห้ามดื่ม!

คืนก่อนแต่งงานไม่ว่าจะดื่มน้ำ ดื่มนม ดื่มอะไรก็ได้ แต่ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด เพราะมันจะไม่จบแค่เพียงแก้วเดียว แล้วผลสุดท้ายก็คือความพังในวันแต่งงาน สาวๆ ที่อยากให้งานออกสวยพร้อม ไม่แฮงค์ ไม่มึน ก็ห่างไกลจากแอลกอฮอล์เสียดีๆ

4. ตั้งเวลาเข้านอน

ปกติจะตั้งเวลาปลุก แต่ครั้งนี้เราขอให้เพิ่มเวลาเข้านอนด้วย เพื่อให้ว่าที่เจ้าสาวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เพราะในคืนก่อนแต่งงานที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น การข่มตาให้หลับมันเป็นเรื่องยาก แล้วยิ่งมีใครมารบกวนก็ยิ่งไม่หลับไปกันใหญ่ และทางที่ดีควรบอกให้ทุกคนรับรู้ด้วย จะได้ไม่มีใครรบกวนให้ยิ่งนอนไม่หลับไปกันใหญ่

5. งดโซเชียล

เรารู้ว่าตื่นเต้น แต่ถ้ายิ่งเข้าโลกออนไลน์แล้วเมื่อไหร่จะได้หลับได้นอน มีหวังได้กลายเป็นเจ้าสาวตาโบ๋กันพอดี นอกจากการไม่ส่องเฟซ ไถทวิตแล้ว อีกอย่างที่ควรทำก็คือปิดแจ้งเตือนต่างๆ เอาไว้ด้วย เพราะต้องมีเสียงดังระรัวจากคนที่อยากแสดงความยินดี และแซวว่าที่เจ้าสาวแน่นอน ส่วนเรื่องจิตใจถ้ารู้สึกว่ามันกระวนกระวาย ทำยังไงก็สงบใจลงไม่ได้สักที เราแนะนำว่าให้เขียนความในใจลงบนกระดาษเอาไว้ก่อน พ้นคืนนี้ไปก็จัดเต็มเลยจ้า บอกทุกช่องทาง…ให้โลกรู้ความรู้สึกของเจ้าสาวหมาดๆ อย่างเรา

ผู้หญิงสวยที่สุดก็ในวันแต่งงาน แต่สวยเสร็จแล้ว พอจะ ล้างเครื่องสำอางเจ้าสาว บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเครื่องสำอางที่ใช้ล้วนแล้วติดแน่น เพราะฉะนั้นผู้หญิงที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวจึงต้องรู้เทคนิคการเลือกคลีนซิ่ง และวิธีการล้างเครื่องสำอางออกให้หมด เพื่อป้องกันผิวใสๆ จะเสียเอาได้โดยไม่รู้ตัว

เลือกคลีนซิ่งให้ถูกจริตกับผิวหน้า

ผิวหน้าของคนเรามีหลายแบบ เหมือนที่คลีนซิ่งก็มีหลายประเภทเช่นกัน การเลือกคลีนซิ่งมาล้างเครื่องสำอางเจ้าสาว จึงต้องเลือกที่เข้ากับผิวหน้าเพื่อรักษาสมดุลของผิว รวมไปถึงการเลือกประสิทธิภาพในการเช็ดล้างเครื่องสำอางด้วย

คลีนซิ่งมิลค์ และคลีนซิ่งออยล์

ทั้งคลีนซิ่งมิลค์ และคลีนซิ่งออยล์มีพลังในการกำจัดเครื่องสำอางได้เป็นอย่างดี แต่สาวๆ ทั้งหลายอย่าเพิ่งยิ้มแล้วคิดในใจว่า ฉันจะไปสอยเจ้าสิ่งนี้มาล้างเครื่องสำอางเจ้าสาว เพราะถึงแม้ว่าจะเช็ดเครื่องสำอางออกได้ง่ายเหมือนปลอกกล้วย แต่ด้วยความที่มีส่วนผสมของน้ำมัน จึงไม่เหมาะสำหรับสาวผิวมันและผิวผสม แต่เป็นคุณค่าที่สาวผิวแห้งคู่ควรเลยทีเดียว เพราะไม่เพียงจะชะล้างเครื่องสำอางออกได้อย่างหมดจด แต่ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเจ้าสาวหมาดๆ ไม่ให้แห้งตึงหลังจากถูกเครื่องสำอางกลบผิวมาทั้งวันอีกด้วย

คลีนซิ่งวอเตอร์

คลีนซิ่งที่มีส่วนผสมจากน้ำเป็นหลัก จึงเหมาะกับสาวผิวมันและผิวผสม เพราะไม่มีน้ำมันมาสร้างความไหลเยิ้มให้กับใบหน้า  แถมบางยี่ห้อยังมีส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมันอีกด้วย แต่ก็มีปัญหาเล็กๆ ว่าการล้างเครื่องสำอางเจ้าสาวที่โบกมาหนา ก็ลำบากลำบนนิดนึง โดยเฉพาะที่เป็นเครื่องสำอางแบบกันน้ำด้วยแล้วล่ะก็ งานนี้เสียเวลามากขึ้นอีก แต่เพื่อผิวหน้าใสก็ต้องทำให้ได้ เพียงแค่อดทนกันต่อไป

ล้างเครื่องสำอางให้ถูก หน้าเกลี้ยงก็ไม่ใช่เรื่องยาก

แม้ว่าการลบเครื่องสำอางเจ้าสาวจะต้องใช้เวลามากกว่าปกติ แต่ก็ไม่ยากขนาดที่ทำให้สาวๆ ต้องถอดใจยอมหน้าแน่นเข้านอนหรอกนะ เพราะว่าการนอนทั้งเครื่องสำอางแบบนั้น ถ้าคุณไม่ได้มีสกิลนางเอกละครล่ะก็ รับรองได้เลยว่าสิว และความหยาบกร้านถามหาแน่นอน เอาละ เรามาว่ากันถึงขั้นตอนการเช็ดเครื่องสำอางดีกว่า

รอบดวงตา

ถือได้ว่าเป็นจุดปราบเซียนในการ ล้างเครื่องสำอางเจ้าสาว เลยทีเดียว โดยสิ่งแรกที่ต้องทำคือการถอดขนตาปลอมออก ถ้าจะถอดแบบฉุดกระชากก็ทำให้หลุดเหมือนกัน แต่จะหลุดตั้งแต่ขนตาปลอมไปจนถึงขนตาจริงเลยทีเดียว เขาให้ใช้วิธีเทคลีนซิ่งลงบนสำลี แล้วแปะไว้ที่ดวงตา กดสำลีผ่านไปที่ขนตาปลอมสักประมาณ 5 – 10 วินาที แล้วลากสำลีลงมา จะทำให้ขนตาปลอมหลุดออกมาด้วยอย่างง่ายดาย เป็นการถนอมทั้งดวงตาและขนตาปลอมให้เก็บไว้ใช้ได้ในครั้งต่อไป

นอกจากขนตาปลอมแล้วมาสคาร่ารวมไปถึงอายไลเนอร์ก็เช็ดออกยากเช่นกัน วิธีการก็เหมือนเดิม เทคลีนซิ่งลงบนสำลี แปะทิ้งไว้บนบริเวณวงตาประมาณ 20 วินาที แล้วรูดออกเบาๆ ในทิศทางลงเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการล้างมาสคาร่าที่เกาะตามขนตาออกให้หมดจด

ริมฝีปาก

เป็นจุดที่เหมือนไม่ยาก แต่ถ้าเจอลิปชนิดจูบไม่หลุดเข้าไป การล้างด้วยคลีนซิ่งธรรมดาก็มีท้อใจเหมือนกันนะ วิธีที่แนะนำก็ทำเหมือนเช็ดรอบดวงตาเลย เทคลีนซิ่งลงบนสำลี แล้วแปะทิ้งไว้บริเวณริมฝีปากสักประมาณ 20 วินาที หลังจากนั้นจึงเช็ดออกในทิศทางขึ้นลง เพื่อป้องกันไม่ให้ริมฝีปากแตก และยังเช็ดลิปสติกออกจากร่องริมฝีปากได้อีกด้วย

ผิวหน้า

หลังจากที่เทคลีนซิ่งลงบนสำลีแล้ว ใช้นิ้วชี้และนิ้วนางคีบสำลีเอาไว้โดยเช็ดเป็นวงกลมจากล่างขึ้นบนอย่างเบาๆ เพื่อเป็นการถนอมผิว และเช็ดวนไปเรื่อยๆ อ้อ! แล้วอย่าลืมเช็ดบริเวณลำคอด้วยนะ โดยเช็ดจากล่างขึ้นบนเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเหี่ยวย่น แล้วจึงไปล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าอีกที แค่นี้ก็เรียบร้อย พร้อมเข้านอนแล้ว

นอกจากเรื่องล้างเครื่องสำอางเจ้าสาว แล้ว เรายังมีเทคนิคอื่นๆ เพื่อความสวยของคุณเจ้าสาวอีกเพียบเลย มาดูสิ…

ภาพ pixabay.com