สวัสดี.. นี่แฮร์รี่ พอตเตอร์ไง! ที่สุดของแรงบันดาลใจ สู่ธีมงานแต่งในโลกของเวทย์มนตร์

อาโลโฮโมร่า แพรว wedding ขอร่ายเวทมนตร์พาทุกคนเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการที่แฝงไปด้วยเวทมนตร์ แต่ขอบอกว่างานนี้เป็นเวทย์มนต์แห่งความรักนะคะ Cassie และ Lewis Byrom คู่รักที่ชื่นชอบแฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นชีวิตจิตใจได้เนรมิตงานแต่งงานของพวกเขาออกมาใน ธีมงาน ที่แสนจะสุดวิเศษโดยมีอินสไปเรชั่นจากนวนิยายชื่อดังแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่ทุกรายละเอียดภายในงานแต่งงานเป็นโลกของพ่อมดแม่มด เรียกได้ว่าแทบจะขนมาทุกภาคของนวนิยายเรื่องนี้เลยแหละ จะเต็มอิ่มและเหมือนหลุดไปอยู่ในโลกของแฮร์รี่ พอตเตอร์ขนาดไหนไปดูกันเลย

 

ธีมงานบรรยากาศของสถานที่จัดงานที่สุดแสนจะโรแมนติก

3การ์ดเชิญที่ถูกออกแบบให้เหมือนกับใบประกาศจับพ่อทูนหัวของแฮร์รี่ ซีเรียส แบล็ค

ธีมงานรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างรองเท้าของเจ้าสาวก็ถูกนำมาเพ้นท์เป็นชื่อและสัญลักษณ์ประจำบ้านใน Hogwarts

5สร้อยข้อมือที่ได้แรงบันดาลใจมากจากลูกสนิช

6ลายเครื่องรางยมทูตที่ถูกเพ้นท์บนเล็บของเจ้าสาว

7และเธอก็ไม่ลืมสัญลักษณ์ประจำบ้านลงบนสิ่งนี้ด้วย !

8ช่อบูเกต์สวยๆ ของเจ้าสาวที่รังสรรค์จากกระดาษที่ตัดมาจากในเล่มจริงของนวนิยายเรื่องนี้

9ช่อดอกไม้ติดหน้า ของเจ้าบ่าวก็มีด้วยนะ

10รองเท้าของเจ้าสาวก็มีแล้ว เจ้าบ่าวก็ไม่พลาดนะ

11หมอนวางแหวนหมั้นที่คุ้นตาถูกแทนที่ด้วยแฮร์รี่ ภาคสุดท้าย

13งานแต่งงานถูกสรรสร้างให้อยู่ในโลกแห่งเวทย์มนตร์

14แขกผู้ร่วมงานนับ 130 คนต่างถือคฑาร่ายมนตร์แสดงความยินดีกับบ่าวสาว

15สวยงามราวกับถูกต้องมนตร์

ธีมงานเหล่าบรรดาโต๊ะอาหารของแขกผู้มาร่วมงานถูกตกแต่งด้วยบรรดาสัญลักษณ์และของต่างๆจากโลกพ่อมดแม่มด

17ลูกสนิชสีทองและหนังสือบ้านเรเวนคลอ

ธีมงานเค้กที่ถูกออกแบบอย่างสวยงามให้กับเข้ากับบรรยากาศ

19มีเราตลอดไป

20ยาพิษที่รักษาโรคได้ทุกประเภท

ธีมงานส่วนหนึ่งของหนังสือที่วางเรียงรายบนโต๊ะ

ธีมงานอาจารย์ใหญ่ผู้น่าเคารพในฮอกวอตส์ อัลบัส ดัมเบิลดอร์

ธีมงานเมื่อปีที่แล้วทั้งคู่ได้ทำพิธีหมั้นในตรอกไดแอกอน ที่รัฐฟลอลิด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา

ธีมงานรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่บ่าวสาวพิถีพิถันให้เกิดขึ้น

ธีมงานลิ้มลองลูกอมหลากรส ใครแจ๊คพอตได้รสอะไรขี้มูก รสอ้วก ก็โชคร้ายหน่อยนะคะ

ธีมงานบรรยากาศช่างเป็นใจให้ทั้งคู่จริงๆ

ธีมงานพร้อมเดินทางไปชานชาลา เก้าเศษสามส่วนสี่หรือยัง ?

ธีมงานนกฮูกคู่ใจของพ่อมดผู้มีแผลเป็นบนใบหน้า

               แต่เอ๊ะ ! แล้วคุณๆ ผู้อ่านล่ะคะ มีการ์ตูนหรือนิยายที่ชื่นชอบบ้างหรือเปล่า ถ้ามีมาลองนำมาจัดเป็นธีมแบบคู่นี้กัน

 

ภาพ : today.com

เจ้าสายฝ. ต้องรู้ไว้!! กับ 5 เคล็ดที่ต้องมีในพิธี แต่งงานแบบฝรั่ง

ไม่ใช่แค่พิธีแต่งงานแบบไทยหรือจีนเท่านั้นที่ถือเคล็ดความเชื่อในเรื่องต่างๆ มากมาย พิธี แต่งงานแบบฝรั่ง ก็เช่นกัน แพรว wedding เลยขอหยิบยกเอาหนึ่งในเคล็ดความเชื่อที่น่าสนใจในพิธีแต่งงานแบบฝรั่งมาบอกเล่าให้บรรดาเจ้าสาวสายฝ. ที่จะโกอินเตอร์ ได้รู้ไว้เพื่อจะได้นำไปถือเคล็ดเอาฤกษ์เอาชัยให้ชีวิตคู่สดใสราบรื่นไกลในต่างแดน

แต่งงานแบบฝรั่ง

ในพิธีแต่งงานของชาวอังกฤษและอเมริกัน จะถือเคล็ดความเชื่อตามวลีที่ว่า “Something Old, Something New, Something Borrowed, Something Blue and a Silver Sixpence in Her Shoe.” ซึ่งแปลตรงตัวก็คือ “ของเก่า, ของใหม่, ของยืม, ของสีฟ้า และเหรียญหกเพนนีในรองเท้าของเจ้าหล่อน” โดยทั้งหมดนี้จะต้องมีอยู่ในตัวเจ้าสาวที่จะเข้าพิธี แต่งงานแบบฝรั่ง งั้นไปดูกันค่ะว่าข้าวของเหล่านี้คืออะไร ต้องหาจากไหน และมีที่มาที่ไปกับความหมายอะไรที่ซ่อนอยู่บ้าง

แต่งงานแบบฝรั่ง

Something Old คือ สิ่งของเก่าจากครอบครัวที่เจ้าสาวนำติดตัวมาด้วย เพื่อระลึกถึงช่วงเวลาดีๆ และเป็นเครื่องเตือนใจในการครองเรือน ทั้งนี้จะเป็นของที่ได้รับตกทอดมา เช่น ชิ้นส่วนผ้าจากชุดแต่งงานของคุณแม่ เครื่องประดับจากคุณยาย เป็นต้น

Something New คือ สิ่งของใหม่ที่ทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ของความหวัง และอนาคตอันสดใสของชีวิตคู่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น อาจเป็นแหวนแต่งงานใหม่ ชุดเจ้าสาวใหม่ รองเท้าใหม่ หรือเครื่องประดับชิ้นใหม่ เป็นต้น

Something Borrowed คือ สิ่งของที่หยิบยืมมาจากคนในครอบครัว หรือเพื่อนสนิทที่แต่งงานแล้ว และประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ เพราะเชื่อกันว่าเป็นเสมือนเครื่องรางที่จะส่งมอบความโชคดีในการใช้ชีวิตคู่ให้แก่คู่บ่าวสาว อีกทั้งยังเป็นเครื่องเตือนใจให้คิดถึงมิตรภาพ และกำลังใจจากญาติสนิทมิตรสหายอีกด้วย เช่น บางนางยืมรองเท้ามาใส่ บางนางยิ้มสร้อยคอมาสวม หรือแม้แต่บางคนก็ยืมผ้าคลุมผมมาใช้ แบบนี้ไงคะ ที่เรียกว่า ของยืมมา

Something Blue คือ สิ่งของที่มีสีฟ้า ทั้งนี้มาจากความเชื่อของชาวโรมันที่เจ้าสาวจะสวมใส่ชุดสีฟ้า เพื่อแสดงถึงความรัก ความนอบน้อม และความซื่อสัตย์ อีกทั้งความเชื่อของชาวคริสเตียนที่มักจะแต่งรูปปั้นพระแม่มารีในชุดคลุมสีฟ้า ดังนั้นจึงเชื่อว่า สีฟ้า หมายถึง ความบริสุทธิ์ผุดผ่องอีกด้วย โดยของสีฟ้าที่ว่านี้จะเป็นสิ่งของอะไรก็ได้ที่ซ่อนไว้ในตัวเจ้าสาว เช่น ริบบิ้นผูกช่อบูเกต์ สีเล็บ ชุดชั้นใน เป็นต้น

อันนี้ขอเพิ่มให้อีกนิดกับความเชื่อที่ว่า A Silver Sixpence in Her Shoe คือ การนำเหรียญมูลค่าหกเพนนีใส่ไว้ในรองเท้าข้างซ้ายของเจ้าสาว ซึ่งปัจจุบันเหรียญเพนนีนั่นไม่มีใช้แล้ว จึงเปลี่ยนมาเป็นเหรียญเก่าที่เป็นของสะสม หรือของเลียนแบบเพื่อใช้ในพิธีแต่งงานโดยเฉพาะ และขอย้ำ!! ต้องจำให้ขึ้นใจนะคะว่าต้องใส่เหรียญไว้ที่เท้าซ้ายเท่านั้น (แต่เพราะอะไรเรายังพยายามหาเหตุผลกันอยู่) สิ่งนี้เป็นการถือเคล็ดให้เงินทองไหลมาเทมา มีความมั่งคั่งในอนาคต ซึ่งก็น่าจะคล้ายๆ กับประเพณีเงินขวัญถุงของบ้านเรานั่นเอง

จากทั้ง 5 เคล็ดที่เล่ามา ล้วนแล้วแต่เป็นความเชื่อที่ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้ว่าที่บ่าวสาวดำเนินชีวิตคู่ได้อย่างมีความสุข แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องไม่ลืมถือเคล็ดสำคัญก็คือ การใช้ความรักและความเข้าใจเป็นที่ตั้ง เพราะต่อให้คุณมีของขลังมากมาย ถือเคล็ดร้อยแปด แต่ขาดความรักความเข้าใจ ชีวิตคู่ก็ไม่มีวันยืนยาว ฉะนั้นเราจึงขอการันตีว่า การมี 5 เคล็ดลับคู่กับความรัก จะช่วยส่งให้ความรักของคุณทั้งคู่มั่นคง ยืนยาว และเข้าใจกันไปตลอดรอดฝั่งแน่นอน

ภาพ : https://vimeo.com

เลือกจิ้มได้ตามใจกับแบบ ชุดไปงานแต่ง ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครสุดยูนีค

ไปงานแต่งทีไรปวดหัวทุกที เพราะไม่อยากเอาชุดเดิมมาเวียนใส่ แต่จะเลือกชุดใหม่ก็อยากได้แบบพีคๆ ไม่ซ้ำใครดูดีมีสไตล์เป็นของตัวเอง แพรว wedding เลยจัดแบบชุดไปงานแต่งสวยล้ำไม่ซ้ำใครที่มีถึง 8 สไตล์มาให้สาวๆ ได้เลือก

  1. เน้น Neck Line สวยๆ

ไล่จากใบหน้าลงมาก็ช่วงคอนี่แหละที่น่าสนใจ แถมยังช่วยปรับรูปร่างให้ดูสวยสมส่วนได้อีกด้วย หรือถ้าอยากมั่นให้สุดก็เลือก neck line แปลกๆ แหวกแนวไม่เหมือนใครไปเลย
– คอกลม เหมาะกับสาวคอยาว รูปร่างผอม
– คอลึก เหมาะกับสาวคอสั้น ไหล่แคบ ทำให้ไหล่ดูกว้างขึ้น
– คอวี เหมาะกับทุกรูปร่าง อกเล็ก อกใหญ่ ตัวเล็ก ตัวใหญ่ ก็รอดทุกนาง
– คอเหลี่ยม ช่วยลดสรีระให้ดูเพรียว ปรับสะโพก ต้นขาให้สมส่วน
– คอเต่า ต้องเป็นสาวตัวเล็ก และคอยาวเท่านั้น
– คอปาด เหมาะมากกับสาวร่างบาง ไหล่แคบ แต่สะโพกดินระเบิด

  1. โชว์ดีเทลช่วงหลัง

อีกหนึ่งลูกเล่นของชุดที่ไม่ควรพลาด และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ชุดดูมีอะไร ถึงแม้ข้างหน้าจะเรียบแค่ไหน แต่ด้านหลังต้องเอาให้สุด ตอนถ่ายรูปก็เบี่ยงหันข้างโชว์ดีเทลด้านหลังสักนิดรับรองดูดีสุดๆ แต่อย่าลืมขัดแผ่นหลังมาให้ใสสะอาดด้วยนะคะ

  1. Jumpsuite สวยง่ายแต่เอาอยู่

ชุดไปงานแต่ง

สำหรับสาวๆ ที่กลัวพลาดหากต้องมามิกซ์แอนด์แมตช์ด้วยตัวเอง จัดจัมพ์สูทมาเลยให้ไว แล้วสวมคู่กับรองเท้าส้นสูงเก๋ๆ บวกกับคลัทช์สวยๆ รับรองว่าเริด

  1. Flower Power สวยหวานทรงพลัง

หวานให้สุดไปเลยค่า กับธีมลายดอก ไม่ว่าจะ ลายพิมพ์ ลายปริ้นท์ หรือลายกราฟิกเก๋ๆ แต่อย่าลืมจัดให้เหมาะกับรูปร่างของตัวเองตามนี้

– รูปร่างสูงเพรียว ไม่ว่าดอกเล็กดอกใหญ่ ดอกไหนก็ได้หมดค่ะ จัดไป
– สาวเจ้าเนื้ออวบอั๋น เลือกลายดอกเล็กๆ ที่มีโทนสว่างหรือเข้มหน่อย รับรองว่ารอด
– สาวสะโพกดินระเบิด สดใสให้สุดกับลายดอกใหญ่ๆ เพื่อช่วยพรางรูปร่าง

  1. Beaded Beauty วิบวับระยิบระยับ

งานวิ้งเน้นความฟรุ้งฟริ้งต้องมา เลือกชุดที่มีงานปักสวยๆ เช่น มุก เลื่อม หรือลูกปัดเก๋ๆ ที่สะท้อนไฟล้อไปกับแสงแฟลช แถมลุคนี้ยังช่วยทำให้คุณดูเป็นสาวมั่นสายแฟชั่นนิสต้าแบบสุดๆ

  1. Off Shoulder อ่อนหวานปนเซ็กซี่

อวดหัวไหล่อันกลมกลึงด้วยชุดเปิดไหล่ ที่เหมาะกับสาวไหล่แคบและช่วงคอสั้น แต่ไม่เหมาะอย่างแรงสำหรับสาวหน้าอกใหญ่เพราะจะยิ่งเน้นให้ดูตู้มๆ เข้าไปอีก ส่วนสาวที่ต้นแขนใหญ่ก็ไม่ต้องกังวล ลองหาแบบที่มีผ้าต่อแขนออกมาสักนิดก็สามารถช่วยพรางในส่วนนี้ได้สบายหายห่วง

  1. กระโปรงพลีทสุดแนว

สาวสายฮิป แต่ต้องการความอ่อนโยนสไตล์งานแต่งต้องไม่พลาด จับคู่ลุคนี้กับรองเท้าส้นสูงเพื่อให้ดูเพรียวและช่วยดึงสายตาจากความกว้างของกระโปรงพลีท แต่ถ้าอยากเซอร์ก็จัดรองเท้าผ้าใบคู่โปรดแต่ต้องแมตช์กับพลีทแบบสั้นหรือความยาวไม่เกิน 4 ส่วน แต่ถ้ามั่นใจว่าเป็นสาวหุ่นนางแบบก็จัดไปอย่าได้แคร์ ส่วนสาวสะโพกใหญ่ให้เลือกพลีทที่ขนาดไม่เล็กหรือกว้างเกินไป แต่คนที่ผอมให้เลือกพลีทขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยจะได้ดูมีสะโพก สุดท้ายลองจัดเข็ดขัดสักเส้นเพื่อลดช่วงเอวแถมยังเพิ่มความเก๋ให้กับลุคนี้ไปอีกแบบ

  1. สวยหรูดูแพงด้วยสไตล์ One Shoulder

เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่กำลังเป็นที่นิยม ดูเซ็กซี่นิดๆ ไม่โป๊จนเกินงาม แถมยังเป็นสไตล์ที่สามารถใส่ได้ทุกงานไม่ว่างานเช้าหรือเย็น ธีมอะไร สถานที่ไหนก็เอาอยู่ ที่สำคัญเป็นสไตล์ที่ทรงพลังใส่ปีไหนก็ไม่เอ้าท์ ชัวร์!!

ภาพ : pinterest.com

หนาวแล้วเก็บกระเป๋าได้! ปักหมุด 6 พิกัดฮันนีมูนแคมป์หรูรอบโลกเพื่อคู่รักนักผจญภัย

พอลมหนาวมาเยือนเมื่อไร แพลนเที่ยวก็ผุดขึ้นในหัวเราแบบนาทีต่อนาทีกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะสายนักเดินทางแล้วล่ะก็ก้นร้อนกันขึ้นมาเลยใช่มั้ยล่ะคะ แล้วบรรยากาศเย็นๆช่วงปลายปีแบบนี้ทริปในฝันสำหรับคู่รักที่ชอบอะไรแปลกใหม่และรักการผจญภัย คงหนีไม่พ้น ฮันนีมูน สไตล์ซาฟารีเก๋ๆ สัมผัสประสบการณ์นอนเต็นท์หรู ท่ามกลางบรรยากาศแบบธรรมชาติแท้ๆ จะเป็นป่าชอุ่มเขตร้อนที่มีน้ำตกไหลผ่าน ทะเลทรายสีทองสุดลูกหูลูกตา หรือป่าซาฟารีก็ตามแต่ใจปรารถนา บัดเจ็ทจะมากหรือน้อยก็ไปได้ทั้งนั้น ลองแมทช์ที่เราคัดมาให้คุณดูกันแล้วออกเดินทางไปเติมความหวานให้ชีวิตคู่กันเล้ยย

 

โฟร์ ซีซั่นส์ เต็นท์ แคมป์ สามเหลี่ยมทองคำ (Four Seasons Tented Camp Golden Triangle)

ฮันนีมูน

รีสอร์ทหรู ณ ดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ ซาฟารีเต็นท์ที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำรวกที่ทอดยาว และฝั่งตรงข้ามที่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศพม่า ห้องพักเป็นเต็นท์หรูที่ตั้งอยู่บนเชิงเขาที่ตกแต่งได้สวยงามมีสไตล์ ได้บรรยากาศของการพักเต็นท์กลางธรรมชาติแต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราในสไตล์ซาฟารี  ได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม และสนุกสนานไปกับชั้นเรียนงานหัตถกรรมและการทำอาหาร ทั้งกิจกรรมกลางแจ้งอย่างล่องแม่น้ำรวก เยี่ยมชมหมู่บ้านพื้นเมือง และใกล้ชิดกับช้าง เรียนรู้วิธีการขี่จากควาญช้างที่ชำนาญ และได้ขี่เจ้าช้างออกไปในป่าด้วย (ราคาห้องพัก 72,000-82,000+ บาทต่อคืน)

หินตก ริเวอร์แคมป์ กาญจนบุรี (Hintok River Camp)

ฮันนีมูน

ซาฟารีเต็นท์สุดหรูกลิ่นอายแอฟริกันท่ามกลางบรรยากาศริมแม่น้ำแควน้อย ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 10 รีสอร์ทแนวผจญภัยที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ให้คุณได้ใกล้ชิดธรรมชาติเหมือนอยู่ท่ามกลางป่าซาฟารี ในห้องพักแบบเต๊นท์ขนาดกว้างขวางเทียบเท่าโรงแรมหรู พร้อมทั้งระเบียงกว้างๆ ให้คุณนั่งซึมซับบรรยากาศประหนึ่งอยู่กลางป่าซาฟารี แถมยังได้ยังตื่นตาตื่นใจไปกับกิจกรรมการเดินถ้ำ ขี่ช้าง ดูนก เที่ยวน้ำตก และสำรวจเส้นทางช่องเขาขาดอีกด้วย (ราคาห้องพัก 3,100-6,200+ บาทต่อคืน)

เดสเสิร์ท ไนท์ แคมป์ โอมาน (Desert Night Camp)

ฮันนีมูน

สัมผัสฟีลแบบตะวันออกกลางกันบ้างดีกว่า แคมป์หรูกลางทะเลทรายวาฮิบา (Wahiba Sands) ที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา คุณจะได้พักกระโจมหรูหราระดับโรงแรม 5 ดาว ที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน พร้อมเสิร์ฟบุฟเฟ่ต์ในมื้อเย็น โดยกระโจมทุกหลังออกแบบมาเป็นอย่างดี ทำให้เห็นวิวแบบพาโนรามาที่สวยงามอลังการของทะเลทรายวาฮิบาที่งดงามและยิ่งใหญ่ ยามเช้าจะมีพนักงานจูงอูฐเดินเล่นภายในบริเวณแคมป์ สำหรับให้แขกที่เข้าพักได้ทดลองขี่อูฐไปอีก ดีงามจริงๆ (ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 13,000+ บาทต่อคืน)

คอตต้า 1920s ซาฟารี แคมป์ เคนย่า (Cottars 1920s Safari Camp)

ฮันนีมูน

เต็นท์พักที่หรูหราแบบซาฟารีขนานแท้ พรั่งพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับคู่รักนักท่องซาฟารีที่นิยมการเที่ยวชมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และความยิ่งใหญ่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์มาไซ มาร่า ที่เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่านานาชนิด กับกิจกรรมให้คุณได้เพลิดเพลินโดยไม่มีเบื่อตลอดทั้งวัน จะออกไปนั่งรถชมการใช้ชีวิตตามธรรมชาติของสัตว์ป่า แล้วตกกลางคืนก็นอนนับดาว ตื่นตอนเช้ามาพบกับวิวที่น่าทึ่งของเทือกเขาสูงตระหง่านแบบที่จะกลายเป็นประสบการณ์คั้งหนึ่งในชีวิต (ราคาห้องพักแบบฮันนีมูนเต็นท์  42,000-70,000+ บาทต่อคืน โดยราคาสามารถปรับขึ้นลงได้ ขึ้นอยู่กับฤดูกาลที่คุณเข้าพัก)

ซิงกิต้า กรูเมติ รีเสิร์ฟส แทนซาเนีย (Singita Grumeti Reserves)

ฮันนีมูน

ในเขตอุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ ทางตอนเหนือของประเทศแทนซาเนียที่โอบล้อมด้วยทะเลสาบอันกว้างใหญ่ คุณจะได้สัมผัสการนอนเต็นท์สุดหรูตามสไตล์ซาฟารีของแท้ พร้อมระเบียงส่วนตัวที่จะเผยให้เห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลของที่ราบ และสัตว์ป่านานาพันธุ์ในเขตอุทยานแห่งชาติเซอเรนเก็ตตี้ที่ใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ อาจจะมีกวาง ม้าลาย ช้าง หรือยีราฟ เดินผ่านมาทักทายคุณอยู่บ่อยครั้ง เป็นข้อดีของการเลือกพักภายในเขตอุทยานเลยนะคะ (ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 110,000+ บาทต่อคืน)

ไวท์ เดสเสิร์ท แห่งขั้วโลกใต้ (White Desert, South Pole)

ฮันนีมูน

ปิดท้ายกันที่แคมป์พักสุดหรูแห่งขั้วโลกใต้ การเดินทางไปค่อนข้างจะใช้เวลายาวนาน คุณจะได้เข้าพักในแคมป์ที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพียบพร้อมสูงสุด กับห้องพักที่ออกแบบเหมือนกระท่อมอิกลูสำหรับ 2 คน ที่มีเพียงแค่ 6 หลังเท่านั้น  โปรแกรมทัวร์ที่จะพาคุณไปใกล้ชิดธรรมชาติของทวีปแอนตาร์กติกาได้แบบเอ็กซ์คลูซีฟ เข้าพักได้เฉพาะช่วงเดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม เท่านั้น เพราะเป็นช่วงที่อากาศอบอุ่นที่สุด โดยค่าเฉลี่ยอุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ -30 องศาเซลเซียส เด็ดขนาดที่เจ้าชายแฮร์รี่ และพระคู่หมั้นเคยควงกันไปเที่ยวมาแล้วนะคะ แต่เราเตือนไว้ก่อนว่างานนี้เงินพร้อมแต่ร่างกายไม่พร้อมนี่อดแน่นอนนะจ๊ะ (ราคาแพ็คเกจสูงกว่า 2,500,000+ บาทต่อคน สำหรับทริป 8-10 คืน)

 

ภาพ : businessinsider.com, beyondkenyasafaris.com, forbes.com, expatliving.sg

“Vijittra’s Jewellery” Best of 2017 แพรว wedding

คงไม่ผิดถ้าแพรว wedding จะบอกว่า Vijittra’s Jewellery เป็นแบรนด์เครื่องประดับที่เน้นการผลิตที่ประณีตและการออกแบบที่เป็นตัวของตัวเองแบรนด์หนึ่งของประเทศ เพราะผลงานทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นแหวน สร้อยคอ ต่างหู หรือกำไล ล้วนผลิตขึ้นจากฝีมือของช่างผู้มีประสบการณ์ จนเมื่อไหร่ก็ตามที่มองหาเครื่องประดับสไตล์แฮนด์เมด ชื่อของแบรนด์นี้ก็มักจะปรากฏอยู่ในลิสต์อันดับต้นๆ

เอกลักษณ์ที่ยากจะมีใครลอกเลียนแบบได้ ทั้งเรื่องเทคนิคการผลิตที่ใส่ใจทุกขั้นตอน โดยลงรายละเอียดแม้กระทั่งเรื่องความเหมาะสมของดีไซน์กับขนาดเพชรและสไตล์ของผู้สวมใส่ และเพชรทุกเม็ดยังได้รับการคัดสรรโดยนักอัญมณีศาสตร์จากสถาบัน GIA ต่อเนื่องไปยังขั้นตอนการผลิตที่นำแต่ละชิ้นส่วนมาประกอบกันอย่างประณีต จนกลายเป็นเครื่องประดับแสนสวยที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก ทำให้ได้เครื่องประดับที่ตรงใจลูกค้าเสมอ

เครื่องประดับทุกชิ้นที่ออกมาจากโรงงานของ Vijittra’s Jewellery จึงเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ไม่เพียงคู่รักที่กำลังมองหาแหวนแต่งงานเท่านั้น แต่ทุกคนที่รักในเครื่องประะดับสวยๆ และทรงคุณค่าต่างก็ยกให้แบรนด์นี้เป็นที่สุดแห่งเครื่องประดับในสไตล์ Handmade Jewelry อีกหนึ่งแบรนด์สัญชาติไทยที่มีเอกลักษณ์และสวยทุกเหลี่ยมมุมอย่างแท้จริง

Editor’s Note

“แม้จะเป็นแบรนด์เครื่องประดับที่มีหัวใจสำคัญอยู่ที่กระบวนการผลิตที่ประณีตแบบชิ้นต่อชิ้น แต่ด้วยประสบการณ์ของช่างบวกกับความมืออาชีพของแบรนด์กว่า 40 ปี ทำให้ใช้เวลาผลิตชิ้นงานไม่นานอย่างที่คิด แหวนแต่งงานในฝันของคู่บ่าว-สาวสามารถได้รับการรังสรรค์ให้ตรงใจเรียบร้อย อ่อนช้อย และสวยงามได้ภายในระยะเวลาเพียง 20 วัน แบบนี้สิถึงจะเรียกได้ว่าคือที่สุดของงาน Handmade Jewelry อย่างแท้จริง”

ติดต่อ : Vijittra’s Jewellery

ชั้น 3 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว โทร. 0-2103-4008, ชั้น 2 เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า โทร. 0-2884-9891, ชั้น 1 ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต โทร. 0-2958-0598, ชั้น 1 ห้อง F119A เจ.เจ.มอลล์ จตุจักร โทร. 0-2265-9618, ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางกะปิ โทร. 0-2363-3044, ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางแค โทร. 0-2454-9159 ฮ็อตไลน์ โทร. 06-1614-5096 เว็บไซต์ : www.vijittra-jewellery.com ไลน์ : vijittra-jewellery

4 ไอเดียแต่งรองเท้าเจ้าสาวให้เริ่ดสมฐานะนางเอกของงาน

นอกจากชุดแต่งงานจะสวยเป๊ะอย่างฝันแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่แพรว wedding ไม่อยากให้ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายมองข้ามก็คือความสวยงามของ รองเท้าเจ้าสาว ที่คุณสามารถเติมแต่งรายละเอียดให้มีความพิเศษได้ไม่แพงองค์ประกอบไหนๆ ในงานด้วย 4 ไอเดียต่อไปนี้ค่ะ

 

ไอเดียที่พื้นรองเท้า

เราอยากให้คุณนึกถึงจังหวะที่เท้ายกก้าวหรือนั่งคุกเข่ายกน้ำชาไม่ก็รับไหว้ที่เลี่ยงไม่ได้ในการโชว์พื้นรองเท้า ก็เลยนำไอเดียหากิมมิคน่ารักๆ มาใส่ โดยการนำอุปกรณ์เสริมอย่างแผ่นกันลื่นมาติดที่พื้นรองเท้า โดยเลือกแบบที่เป็นรูปทรงน่ารักๆ อย่างรูปหัวใจ หรือรูปรอยจูบ ก็ช่วยใส่รายละเอียดให้รองเท้าเจ้าสาวน่ารักทุกย่างก้าวแถมยังมีประโยชน์เดินง่ายๆ ไม่ลื่นล้มอีกด้วย

ไอเดียใส่สติ๊กเกอร์เพิ่มความทรงจำ

รองเท้าเจ้าสาว

ใส่ใจรายละเอียดเพิ่มเติมอีกนิดด้วย วิธีง่ายสุดๆ แค่เดินไปซื้อสติกเกอร์คำต่างๆ ที่ต้องการมาติดไว้ที่พื้นรองเท้าหรือถ้าอยากได้คำพิเศษก็ลงทุนให้ทางร้านสติกเกอร์ตัดคำพูดหรือประโยคที่ชอบมาติดไว้ คุณก็จะได้รองเท้าแสนพิเศษที่มีแค่ 2 คู่ในโลกที่มีความทรงจำและเรื่องราวเฉพาะคู่ของคุณเท่านั้น

ไอเดียคลิปติดรองเท้าให้เข้าธีม

แน่นอนว่างานแต่งงานทุกงานมีธีมเฉพาะ และแน่นอนยิ่งไปอีกว่ารองเท้าเจ้าสาวส่วนใหญ่คือเป็นสีขาวสะอาดตา ถ้าอย่างนั้นก็แค่ซื้อคลิปติดรองเท้าให้ตรงตามธีมมาติดไว้ แค่นั้นก็ได้รองเท้าเจ้าสาวน่ารัก สวยเป๊ะตามธีมงานแล้วค่ะ อย่างเช่น

รองเท้าเจ้าสาว

คลิปรองเท้าจากพลอยเทียม : ใส่ความเชื่อของฝรั่งเรื่องของสีฟ้าในงานแต่งที่รองเท้าด้วยคลิปติดร้องเท้าที่ออกแบบมาจากพลอยเทียมสีฟ้าแบบนี้

รองเท้าเจ้าสาว

คลิปรองเท้าจากขนนกยูง : ไม่จำเป็นว่ารองเท้าเจ้าสาวต้องเป็นสีขาว ถ้าคุณเลือกรองเท้าสีอื่นๆ มาสวมใส่ก็ให้เลือกวัสดุเข้ากันไปแบบนี้รับรองว่าสวยเริ่ด

รองเท้าเจ้าสาว

คลิปรองเท้ามีกลิตเตอร์ :ใส่ความวับวาวลงบนรองเท้าเจ้าสาว ให้ทุกย่างก้าวที่เดินในงานมีความวิบวับเมื่อกระทบแสงไฟแสงแฟลช

รองเท้าเจ้าสาว

คลิปรองเท้ารูปโบว์ : ใช่ว่าจะต้องติดคลิปรองเท้าที่ด้านหน้าเท้าเท่านั้น อย่างการนำโบว์สีหวานมาติดที่รองเท้าก็ใส่ความน่ารักที่บริเวณส้นรองเท้าแทนไงคะ

รองเท้าเจ้าสาว

คลิปรองเท้ารูปดอกไม้ : จะเป็นดอกไม้ทำเองจากกระดาษสวยๆ หรือผ้าโปร่งก็ได้ แต่ประเด็นคือทำให้เป็นรูปดอกไม้หวานๆ เติมแต่งให้อารมณ์เจ้าสาวของคุณได้หวานตั้งแต่หัวจรดเท้าของจริง

รองเท้าเจ้าสาว

คลิปรองเท้าแบบขนนกปอมปอม : ช่วงหลังขนนกเทียมสไตล์ปอมปอมมาแรง แล้วคุณจะพลาดไม่นำมาเป็นคลิปติดรองเท้าได้ยังไง

ไอเดียประดับส้นรองเท้าด้วยเม็ดคริสตัลปลอม

รองเท้าเจ้าสาว

ปิดท้ายด้วยไอเดียประดับความงามให้รองเท้าเจ้าสาวด้วยการนำคริสตัลปลอมเม็ดๆ แบบที่ยุคหนึ่งชอบนำมาติดบนเคสมือถือมาติดให้เต็มส้นรองเท้า แบบนี้ช่วยเพิ่มความหรูหราให้เจ้าสาวได้เป็นคนพิเศษที่สุดในงาน จริงไหมคะ

 

เรื่อง : ดอกปีบ

ภาพ : https://www.loveandlavender.com, http://www.rogervivier.com

Bridal Tale อิทธิพลสังคมต่อชุดเจ้าสาวจากอดีตถึงปัจจุบัน

คีย์โน้ตสำหรับ ชุดเจ้าสาว สุดเก๋ในทศวรรษ 1920 ที่หลอมรวมเอาศิลปะอาร์ตเดโค เพลงแจ๊ซและการเต้นรำแบบชาร์ลสตัน ภาพวาดสุดมหัศจรรย์จากศิลปินนามเออร์เต้ งานปักวิจิตรจากลองแวง และผลพวงจากสงครามโลกครั้งที่ 1 จนกลายเป็นก้าวแรกที่เปลี่ยนวิถีชีวิต ความคิดและการแต่งกายที่ส่งอิทธิพลมาถึงยุคปัจจุบัน

1. Edwardian Style

ในยุคเอ็ดวาร์เดียน ราวปี ค.ศ. 1901 – 1910 คอร์เสตยังทำหน้าที่รัดเอวคอดกิ่วของผู้หญิง กระโปรงยาวกรอมเท้า คอเสื้อตั้งปิดขึ้นไปถึงคอหอยที่เรียกว่า “Wedding Band Collar” หรือคอเสื้อแหวนแต่งงาน แขนเสื้อพองช่วงต้นแขนและลีบเล็กตั้งแต่ช่วงศอกลงมาจนถึงข้อมือที่เรียกว่า “Gigot Sleeves” หรือแขนเสื้อขาแกะ ซึ่งฝ่ายสตรีนิยมมองว่าเครื่องแต่งกายแบบนี้สร้างมาเพื่อทรมานผู้หญิง เหมือนการรัดเท้าให้เล็กเพื่อจะถูกมองว่าสวย เป็นผู้ดี บอบบาง

คอนซูเอโล แวนเดอร์บิลท์ทายาทอภิมหาเศรษฐีชาวอเมริกันผู้ร่ำรวยทรัพย์แต่อับจนศักดินา ชุดแต่งงานของเธอออกแบบโดยชาร์ลส์เฟเดอริกเวิร์ธ แฟชั่นดีไซเนอร์ผู้ทรงอิทธิพลในยุคนั้น เธอแต่งงานกับชาร์ลส์ สเปนเซอร์ – เชอร์ชิลล์ ดยุคแห่งมาร์ลโบโรห์ ผู้ร่ำรวยที่ดินแต่จนเงินในปี ค.ศ. 1895 และกลายเป็นต้นแบบของเจ้าสาวที่กลายเป็นเซเลบริตี้ มีนิตยสารรายงานพิธีแต่งงานละเอียดยิบ ความงามของเธอถึงกับทำให้ผู้ชายคนหลายเพ้อ เช่น เซอร์เจมส์แบร์รี่ ที่รำพึงว่า “ข้าพเจ้านั่งรอกลางสายฝนได้ทั้งคืน เพียงเพื่อจะได้ยลโฉมคอนซูเอโล แวนเดอร์บิลท์ ก้าวขึ้นรถม้า”

2. Paul Poirel

ชุดเจ้าสาว

ในปี ค.ศ. 1905 ปอลปัวเรต์ ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสนำเสนอดีไซน์ใหม่ที่เรียกว่า “Nouvelle Vague” ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากชุดกรีกโบราณที่เน้นการจับเดรปและปล่อยให้ชายผ้าทิ้งตัวลู่ไปตามสรีระของผู้หญิงโดยไม่มีคอร์เสตเข้ามาช่วยจัดแจงรูปร่าง ต่างจากแฟชั่นแบบเอ็ดวาร์เดียนที่ขับเน้นทรวดทรงองค์เอวชัดเจน โดยคอลเล็คชั่นต่อมาปัวเรต์ยังนำเสนอชุดที่ได้แรงบันดาลใจจากตะวันออก เช่น กิโมโน กางเกงแขก ผ้าโพกหัว ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของดีไซเนอร์ผู้นี้ที่กล้าปฏิเสธคอร์เสตอย่างสิ้นเชิง

3. WWI

สงครามโลกครั้งที่ 1 ส่งผลให้ผู้หญิงชนชั้นล่างซึ่งทำงานเป็นคนรับใช้ตามบ้านต้องตกงานเป็นจำนวนมาก ซ้ำยังถูกแย่งอาชีพไปโดยชนชั้นกลางที่ต้องการหารายได้เช่นกัน อีกทั้งระหว่างสงคราม ผู้ชายถูกเกณฑ์ให้ไปรบอยู่แนวหน้ากันหมด บรรดานายจ้างหรือเจ้าของกิจการต่างๆ ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องว่าจ้างผู้หญิงที่ถูกทิ้งให้อยู่แนวหลังพวกเธอกลายเป็นแรงงานสำคัญเป็นทั้งสาวโรงงาน คนขับรถ พยาบาล ทำงานในไร่นาเป็นอาสาสมัครกาชาดและทำงานในกองทัพ ซึ่งในหลายๆ อาชีพมีข้อบังคับให้ต้องใส่เครื่องแบบผู้คนลดความสุรุ่ยสุร่ายในการใช้ชีวิตลง ผู้หญิงงดใส่เครื่องประดับ ลดความบอบบางของวัสดุเช่น ลูกไม้ การปักเลื่อมพราย ฯลฯ

ประมาณกันว่าช่วงสงครามระหว่างปี ค.ศ. 1914 – 1918 มีผู้หญิงเป็นแรงงานกว่า 1,600,000 คน จึงอาจกล่าวได้ว่า สงครามที่อาจจะไม่มีข้อดีให้พูดถึงมากนัก แต่ในแง่หนึ่ง มันได้ปลดปล่อยผู้หญิงให้เป็นอิสระ เพราะการทำงานไปด้วยใส่สุ่มคอร์เสตไปด้วยนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เครื่องทรมานร่างกายจึงถูกปลดออกจากสรีระผู้หญิงในที่สุด

4. Bohemian Gown

ลูซิล (Lucile) และเอด้าวูล์ฟ (Aida Woolf) สองดีไซเนอร์สร้างสไตล์ใหม่ที่ถือว่าเป็นแฟชั่นอาวองต์การ์ด หรือแฟชั่นที่มาก่อนกาลในทศวรรษ 1900 จากโครงสร้างรูปตัว S ที่เน้นอก เอว และสะโพกของผู้หญิง ถูกทดแทนด้วยอิทธิพลจากยุคกลาง ทำให้แฟชั่นคลี่คลายไปเป็นเชปทรงตรงเหมือนหลอด ช่วงเอวสูง และแขนเสื้อมีระบาย

5. Royal Weddings

ชุดเจ้าสาว

พิธีแต่งงานในราชวงศ์หลายคู่ส่งผลต่อเทรนด์ชุดแต่งงานในห้วงเวลานั้น เนื่องจากสื่อมวลชนกระจายข่าวอย่างแพร่หลาย

6. Jazz Age

ในยุคสงคราม ชาวแอฟริกัน – อเมริกันกว่า 500,000 คนในสหรัฐฯ พากันโยกย้ายไปหางานทำทางฝั่งเหนือของประเทศ พวกเขานำพาวัฒนธรรมทางดนตรีแจ๊ซบลูส์ และการเต้นรำแบบชาร์ลสตันเข้าไปเผยแพร่ในนิวยอร์กและชิคาโก ก่อนจะข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปฮิตในอังกฤษและฝรั่งเศส ศิลปินแจ๊ซผู้มีชื่อเสียงในยุคนี้ เช่น หลุยส์ อาร์มสตรอง, เบสซี สมิธ, วง The Hot Fives, ดุ๊กเอลลิงตัน, โจเซฟ โอลิเวอร์ และมาเรนีย์ การเต้นแบบชาร์ลสตันและจังหวะคึกคักของแจ๊ซ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่กระโปรงของผู้หญิงต้องหดสั้นขึ้นเพื่อให้เต้นได้สะดวก

7. Erte: King Of Art Deco

โรแมน ดิ ติรตอฟ (Romain de Tirtoff) หรือเออร์เต้ เป็นศิลปินชาวรัสเซียที่เดินทางสู่ปารีสเพื่อทำงานออกแบบ เขาเข้าทำงานกับปอลปัวเรต์ ในปี ค.ศ. 1913 จากนั้นอีกสองปีได้เซ็นสัญญาวาดภาพปกให้กับนิตยสาร ฮาร์เปอร์ส บาซาร์ ซึ่งได้ทำงานต่อเนื่องมาถึง 24 ปีกับภาพปกกว่า 250 ชิ้น เออร์เต้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งอาร์ตเดโค ศิลปะที่เข้ามาแทนที่อาร์ตนูโว อันมีโครงสร้างหลักเป็นเส้นสายโค้ง บอบบางและเหมือนจริงตามธรรมชาติ เช่น รูปดอกไม้ใบหญ้าทั้งหลาย แต่เออร์เต้ตัดทอนรายละเอียดต่างๆ ให้เหลือแต่เค้าโครง เป็นลักษณะการใช้คิวบิสม์และรูปทรงเรขาคณิตที่มีเส้นสายชัดเจน ตรง แข็ง เด็ดเดี่ยว รวมทั้งสีสันสดเข้มเออร์เต้ยังออกแบบคอสตูมละครเวทีต่างๆ ปกนิตยสาร และคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าอีกมากมาย และมีชีวิตยืนยาวถึง 97 ปี

8. The Flapper – Garconne

สังคมในช่วงหลังสงคราม ผู้คนมองชีวิตในกรอบกฎระเบียบอย่างเสียดเย้ยและสลัดความเศร้าจากสงครามด้วยการทำทุกอย่างที่เป็นด้านตรงข้ามของสิ่งที่เรียกว่าศีลธรรมจรรยาอันดี เป็นสังคมที่เมามายอย่างวายป่วง จนเอฟสกอตต์ฟิตซ์เจอรัลด์ ผู้ประพันธ์นวนิยาย The Great Gatsby ที่สะท้อนความเสื่อมของสังคมยุคนี้ ขนานนามว่าเป็น Lost Generation ผู้หญิงที่ออกจากบ้านมาทำงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ไม่เคยกลับไปเป็นแม่บ้านผู้สงบเสงี่ยมอีกเลยนับแต่นั้น พวกเธอขับรถเที่ยว สูบบุหรี่มวนต่อมวน ดื่มเหล้าเป็นน้ำในทุกปาร์ตี้ ตัดผมบ๊อบสั้น แต่งหน้าจัด เซ็กซี่ ใส่เดรสที่ช่วงเอวต่ำลงมาที่สะโพก ชายกระโปรงหดสั้นขึ้นไป เป็นสาวเก๋ซิ่งและซ่าเรียกว่า “แฟลปเปอร์” เพราะเด็กสาวในวิทยาลัยมักใส่รองเท้าบู๊ต โดยไม่ได้ติดกระดุม เวลาเดินสายคาดรองเท้าจะสะบัดไปมาเหมือนนกกระพือปีกเป็นที่มาของชื่อ Flapper (ลูกนก) หรือการ์ซอนน์ (เด็กผู้ชาย) ในภาษาฝรั่งเศส โดยมีโคโค่ชาแนล เป็นผู้นำเทรนด์นำเสื้อผ้าผู้ชายเข้ามาปรับใช้กับเสื้อผ้าผู้หญิงด้วยเดรสหลวมโพรกไม่ขับเน้นสรีระ

9. Mary Jane

ตั้งแต่ยุคเอ็ดวาร์เดียน ผู้หญิงใส่แต่รองเท้าบู๊ต แต่ในยุคนี้รองเท้าบู๊ตติดกระดุมได้พัฒนาขึ้นให้สวยงามด้วยการปักประดับหรือหุ้มด้วยผ้าไหมแต่งลายด้วยมือ มีสายคาดเหมือนรองเท้านักเรียนหรือเป็นสายรูปตัวทีด้านหน้ารองเท้า เสริมส้นแบบคิวบัน (Cuban Heel) สูง 2 นิ้วที่เรียกว่า “แมรี่เจน” เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ปาร์ตี้แอนิมอลของสาวๆ ยุคนี้โดยเฉพาะ

10. Shower Bouquet

ช่อดอกไม้ทรงน้ำตกเป็นที่นิยมแทนบูเกต์ทรงกลม เป็นอิทธิพลรูปทรงเรขาคณิตของศิลปะแนวอาร์ตเดโค และยังเป็นน้ำตกช่อใหญ่มาก ดอกไม้สุดฮิตคือลิลี่สีขาว สื่อถึงความบริสุทธิ์ของความรัก เจ้าสาวมักโอบช่อดอกไม้ไว้ข้างใดข้างหนึ่งแทนการถือช่อดอกไม้ไว้กลางลำตัว

11. Juliet Headdress

ยุคนี้ไม่มีหญิงรับใช้ตามบ้าน เพราะทุกคนต้องออกไปทำงานแทนผู้ชาย ทำให้ผู้หญิงที่เคยไว้ผมยาวถึงสะโพกและมีคนรับใช้คอยหวีจัดแต่งทรงผมให้ ต้องตัดผมสั้นเป็นทรงบ๊อบยาวแค่คางและด้านหลังตัดให้ทุยสูงขึ้นไป เรียกว่า “Eton Crop” สำหรับเจ้าสาวมีเครื่องประดับผมแบบใหม่ที่นำมาจากหมวกของจูเลียตตัวละครเอกในวรรณกรรมคลาสสิกของเชกสเปียร์ โดยใส่หมวกคาดทับปิดหน้าผากและติดเวลเข้าไป อีกทั้งเวลในยุคนี้ยาวเป็นพิเศษ จนกล่าวได้ว่า กระโปรงยิ่งสั้น เวลยิ่งยาว

12. Heavy Beading

อิทธิพลของอาร์ตเดโคส่งผลต่อการตกแต่งเสื้อผ้าผ่านการปักประดับชุดให้วิบวับแพรวพราวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเดรสรูปทรงตรงๆ เหมือนหลอดในยุคนี้ยิ่งทำให้การปักประดับเป็นไปได้สะดวกยิ่งขึ้น ผู้นำเทรนด์ปักคือฌานน์ ลองแวง (Jeanne Lanvin) ผู้ก่อตั้งห้องเสื้อ Lanvin ในปัจจุบัน งานออกแบบของเธอใช้ช่างปักจากเมซง เลอซาจ (Maison Lesage) ซึ่งเป็นงานฝีมือชั้นสูงของฝรั่งเศสที่ทำทุกอย่างด้วยมือ

13. 1920 s Themed Weddings
ชุดเจ้าสาว

และสุดท้ายสำหรับเจ้าสาวยุคปัจจุบันที่หลงใหลความงามในยุคแจ๊ซ แล้วนำมาปรับใช้กับพิธีแต่งงานในศตวรรษที่ 21ได้อย่างเก๋ไก๋และกลมกล่อม

ส่อง 8 ชุดแต่งงาน กับ 2 ธีมงานแต่งของเจ้าสาวป้ายแดง นิว นภัสสร บอกเลยว่าสวยปังอลังเวอร์!!

สละโสดอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ธ.ค. 60) สำหรับ เป๊ก-เปรมณัช สุวรรณานนท์ และนิว-นภัสสร ภูธรใจ ในธีม งานแต่ง “Ultra Space” สุดมันในบรรยากาศแบบดวงดาวและอวกาศ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้จัดพิธีแต่งงานแบบล้านนาไปแล้วที่ จ.เชียงใหม่ ในบรรยากาศสบายๆ สไตล์กลางทุ่ง ซึ่งสิ่งที่โดดเด่นที่สุดสำหรับทั้งสองธีมงานก็คือ ชุดแต่งงาน ของสาวนิว ที่จัดเต็มถึง 8 ชุด แถมสวยปังทรงพลังทุกชุดซะด้วย แพรว wedding เลยจัดมาให้ได้ชมกันแบบเต็มตาอีกครั้ง

เริ่มต้นกันที่ชุดแถลงข่าวที่ได้รับพระเมตตาจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ที่ทรงออกแบบชุดให้ โดยเป็นชุดขาวระยิบระยับเข้ากับธีมงาน พร้อมเครื่องประดับแบบครบเซต และเวลยาวดูชวนฝันสุดๆ โดยนิวได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ท่านทรงมีพระเมตตาดีไซน์ให้เอง แค่ท่านทรงพระกรุณามาดีไซน์ให้ก็คือความพิเศษที่สุดแล้ว ชุดนี้เป็นหนึ่งในคอลเลกชันที่พระองค์เคยดีไซน์ไว้ แต่ปรับเปลี่ยนตามธีมของเจ้าสาว และจะเพิ่มสวารอฟสกี้ มีรองเท้า มีเวลคลุมผมเจ้าสาวด้วย”

ชุดไทยบรมพิมานจากร้านอมิตา ทองหล่อ 20 ที่นิว สวมขณะได้รับประทานถุงทองจาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เพื่อเป็นของขวัญในงานมงคลสมรส โดยเป็นชุดไทยบรมพิมานสีขาวนวลตา ตัดเย็บจากผ้าไหมไทยของจังหวัดลำพูน ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ และไหมไทยสอดดิ้นเงิน บริเวณช่วงเชิงด้านล่างของผ้านุ่งปักด้วยเพชรของสวารอฟสกี้ ส่วนราคาชุดนี้ก็ 150,000 บาทเท่านั้นเองจ๊ะ!! และได้เครื่องประดับสวยๆ แบบเข้าชุดกันจากร้าน Sritavie-Thai Antique Jewelry แต่งหน้าสวยหวานโดย @nontapat และทำผมโดย @chai.surasen

สองชุดแต่งงานสไตล์ล้านนาที่สวยหวานแตกต่างกันไป ภายใต้คอนเซปต์ที่ว่า “หนุ่มเมืองกรุงหลงรักสาวเชียงใหม่” โดยในช่วงเช้าที่เป็นพิธีตักบาตรและพิธีหมั้นนั้นสาวนิว สวมสไบและเสื้อแขนกระบอกเฉดสีชมพูสุดหวาน และนุ่งผ้าซิ่นตีนจกลายราชสำนักเชียงใหม่ ซึ่งทางด้านดีไซเนอร์ได้ให้ข้อมูลว่า เป็นการแต่งกายที่เลียนแบบเจ้านายชั้นสูงของเมืองเชียงใหม่ และได้แรงบันดาลใจมาจากการแต่งกายของเจ้าดารารัศมี พระราชชายาในรัชกาลที่ 5

ส่วนในช่วงสวมแหวนและผูกข้อมือ ก็เปลี่ยนเพียงแค่ตัวเสื้อและสไบด้านบนแต่นุ่งผ้าซิ่นผืนเดิม โดยดีไซเนอร์บอกว่าแค่ต้องการอยากจะเปลี่ยนลุคให้ดูแตกต่างจากและอยากให้เจ้าสาวโดดเด่นท่ามกลางแขกและสถานที่จัดงานที่เป็นทุ่งนาสีเขียว จึงได้เลือกแต่งแบบนุ่งแดงห่มเขียวที่บอกเลยว่าสวยและโดดเด่นจริงๆ โดยชุดไทยล้านนาทั้งสองชุดออกแบบโดยร้าน Malee House Chiangmai WeddingStudio สวยใบหน้าสวยๆ นั้นจากฝีมือของ @nontapat และทำผมโดย @chai.surasen

ส่วนชุดสำหรับพิธีฉลองมงคลสมรสนั้นเจ้าสาวก็จัดเต็มถึง 2 ชุดด้วยกัน เริ่มด้วยชุดสำหรับถ่ายภาพกับแขกหน้าแบ็กดร็อป ซึ่งเป็นชุดเกาะอกสวยหวานปานเจ้าหญิงด้วยผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสโทนสีแชมเปญ ส่วนชุดที่เจ้าสาวใช้เดินเข้างานนั้น เป็นชุดที่เจ้าสาวมีส่วนร่วมในการช่วยออกแบบด้วย โดยเป็นชุดเจ้าสาวโทนสีขาวแบบคอตั้งแขนกุดสุดเก๋ พร้อมกระโปรงฟูฟ่องลากยาวเพื่อให้เข้ากับธีมอวกาศ และที่พิเศษไปกว่านั้นคือที่ชุดยังปักโลโก้บ่าวสาว NP เอาไว้ด้วย โดยทั้งสองชุดเป็นชุดจากร้านอมิตา ทองหล่อ 20

ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้สไตล์คันทรีแบบล้ำสมัย ที่ดูเข้ากับบรรยากาศของท้องทุ่งสุดๆ สวยหวานด้วยกระโปรงฟูฟ่อง ตัวชุดสีขาวพร้อมคอเสื้อแบบคอตั้งประดับโบสีน้ำเงินโดดเด่นสุดๆ โดยชุดนี้มาจากร้าน @limelight_bangkok ผู้สร้างสรรค์ชุดคือ @balloom_j และ @joke_thong ส่วนใบหน้าหวานๆ และผมสวยๆ จาก @nontapat และ @chai.surasen ตามลำดับ

ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้สุดชิคอีกชุดเป็นของแบรนด์ Milin ที่แซ่บเวอร์ ดูเป็นธีมอวกาศและปาร์ตี้สุดๆ ไปเลย ซึ่งชุดนี้เป็นชุดคอลเลคชั่นใหม่ของปีหน้าของแบรนด์ Milin ที่มีการนำมาปรับให้เข้ากับตัวเจ้าสาวและธีมงานมากขึ้น

ภาพ :  amitabridal, pecknewwillyoumarryme, njfanclub, sanook.com, @sirivannavari_shop, abhiwatthanakul, jaknatthaphon, @joke_thong, khaosod.co, sritavie-thai-antique-jewelry

First & Forever งานแต่งไทยเรียบหรูดูดีของคุณเอ๊บ & คุณก้อง @ บ้านเลขที่ 1 ซอยเจริญกรุง 30

สถานที่จัดงานไทยที่ไม่เหมือนใคร

เมื่อคุณเอ๊บ-เอษณีย์ และคุณก้อง-สุคเณศตัดสินใจจะเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนร่วมงานมาเป็นเพื่อนคู่คิดที่จะร่วมใช้ชีวิตในฐานะสามีภรรยา ทั้งคู่ไม่เลือกจัดงานหมั้นในโรงแรมหรือสถานที่รับจัดงานแต่งงานเหมือนคู่อื่น ๆ แต่เลือกจัด งานแต่งไทย ที่ “บ้านเลขที่ 1” ในซอยเจริญกรุง 30 ที่เดิมทีคืออาคารสถาปัตยกรรมยุโรป 2 ชั้น สร้างโดยบริษัทกลั่นสุราของฝรั่งเศส โดยผู้ใหญ่ที่ทั้งคู่เคารพเป็นผู้แนะนำให้รู้จักที่นี่ ซึ่งบ้านหลังนี้เพิ่งได้รับการปรับปรุงจนสวยงามเสมือนเป็นบ้านหลังใหม่ของคู่ชีวิตที่จะเริ่มต้นสร้างครอบครัว

ตกแต่งเบาๆ เน้นความสวยงามของสถานที่

แม้จะเป็นสถานที่ที่ไม่เคยมีใครจัดงานมาก่อน แต่คุณก้องบอกเคล็ดลับในการจัดงานว่า ถ้าเตรียมงานดี ๆ คุยกับทีมงานให้เป๊ะ รับรองว่างานไม่มีสะดุดเช่นงานของคุณก้องที่เห็นพ้องต้องกันว่า ไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก เพียงใช้
ดอกไม้สดมาเพิ่มความสดชื่นให้สมกับเป็นงานหมั้นแสนหวานในบรรยากาศไทยก็พอ

โดยการตกแต่งดอกไม้เป็นฝีมือนักเรียนทุนของมูลนิธิ SCG ที่ได้ยกทีมมาดูพื้นที่และร่วมกันออกแบบกับทั้งบ่าวสาวและครอบครัวโดยช่วยกันดูว่าแต่ละมุมของบ้านควรประดับด้วยดอกไม้ชนิดใดและโทนสีประมาณไหน เพื่อให้เหมาะกับบรรยากาศโดยรวมมากที่สุด

และเมื่อถามถึงซีนประทับใจของทั้งคู่ คุณก้องบอกว่าวินาทีที่เข้าไปรับตัวเจ้าสาว คือช่วงที่ดีมากๆ เพราะนอกจากแสงจะสวยมาก ภาพของคุณเอ๊บในชุดไทยที่นั่งอยู่ตรงจุดรับตัว คือภาพที่สวยงามและไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิตแน่นอน

 

The Details : Traditional Thai Wedding

• Venue : บ้านเลขที่ 1 ซอยเจริญกรุง 30 (ตรอกกัปตันบุช)
• Wedding Dress & Groom Suit : Vanus Couture
• Make Up & Hair : คุณจิม (ไลน์ : jimmakeup)
• Photo : Box Wedding (www.box.co.th)

ข้อมือเพื่อนเจ้าสาว ไอเทมสุดน่ารักที่ขาดไม่ได้

ต่อจากเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมก็ ข้อมือเพื่อนเจ้าสาว นี่แหละที่แก๊งเพื่อนสาวให้ความสำคัญกันหัวหมุน จะเป็นดอกไม้อะไร ต้องเยอะแค่ไหน ดอกไม้จริงดีไหม หรือแบบสำเร็จรูปดีจะได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ค่ะ สิ่งที่สังเกตเห็นเสมอคือ เหล่าเพื่อนเจ้าสาวที่รีบผูกข้อมือกันเป็นระวิงเพราะลืมใส่ไว้ตั้งแต่เริ่มงาน รู้ตัวอีกทีก็ถึงเวลาตั้งแถวเข้างานแล้ว หรือบางทีผูกหลวมเกินไปก็ดันร่วงระหว่างเดินสวยๆ ซะงั้น แพรว wedding เลยจัดข้อมือเพื่อนเจ้าสาวแบบสวมง่ายลื่นปรืด ไม่ต้องเรียกเพื่อนมาช่วยผูกให้ปวดหัว ต่อให้รู้ตัวช้าแค่ไหนก็ใส่ได้ทันเวลาแน่นอนมาฝากค่ะ

 

15 สถานที่จัดงานแต่งงานไม่ควรพลาดรอบโลก

บรรดาบ่าวสาวส่วนใหญ่ มักจะเลือกโรงแรมเป็น สถานที่จัดงานแต่งงาน เพราะสะดวกและคนได้เยอะ แต่เดี๋ยวก่อน ลองจัดเอ๊าท์ดอร์บ้างจะเป็นไร สัปดาห์นี้ เราคัดสถานที่เด็ดๆ รอบโลกที่เรียกได้ว่า ห้ามพลาดเลยเชียวแหละ เพราะแต่ละที่นั้น สวย บรรยากาศดี เหมาะมากกับวันสำคัญและวันพิเศษแบบนี้ 

1. ฮาวาย

สถานที่จัดงานแต่งงาน

หากใครอยากจัดงานแต่งงานริมทะเล หมู่เกาะฮาวาย เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่อยู่ในแพลนของคู่รัก ที่นิยมมากที่สุด เพราะมีชายหาดที่สวยงามล้อมลอบด้วยภูเขา พร้อมต้นไม้เขียวชอุ่ม แค่คิดว่าได้มีงานแต่งงานริมทะเลสวยๆ ก็เคลิ้มแล้วล่ะ

2. จาไมก้า

สถานที่จัดงานแต่งงาน

นอกจากฮาวายที่เป็นที่นิยมสำหรับจัดงานแต่งแล้ว ทะเลของประเทศจาไมก้าก็ดูเหมือนจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ให้กับคู่รักที่ชอบจัดงานริมทะเล เพราะนอกจากหาดทรายขาว ทะเลสวย โลเคชั่นก็เหมาะสุดๆ เพราะมีศาลาน้อยๆ ไว้เป็นที่ประกาศความรัก วันดีๆ พร้อมกับสถานที่ดีๆ ใครล่ะจะไม่ชอบ

3. แอฟริกาใต้

สถานที่จัดงานแต่งงาน

ใครว่าแอฟริกาใต้ จะมีแค่ทุ่งหญ้ากว้างล่ะจ๊ะ เรียกได้ว่าเป็นเกาะสวาทหาดสวรรค์ของเหล่าบรรดาคู่รัก เพราะมีแหลมกู๊ดโฮปที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับจัดงานแต่งงาน และยังวิวทางทะเลที่สวยเลิศพร้อมทั้งกิจกรรมที่มีให้ทำหลากหลาย เข้าพิธีเสร็จก็พร้อมฮันนีมูนได้เลยนะเออ

4. คอสตาริก้า

สถานที่จัดงานแต่งงาน

สาวๆ คนไหนอยากแต่งงานท่ามกลางธรรมชาติบ้างเอ่ย ถ้าอย่างนั้นสะกิดว่าที่เจ้าบ่าวให้ไปประเทศนี้ได้เลย คอสต้าริก้า ประเทศที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ภูเขาไฟที่สงบพร้อมต้อนรับคู่รักหรือจะเป็นชายหาดสีขาวก็เรียกได้ว่าเยี่ยมสุดๆ

5. หมู่เกาะเซเชลล์

สถานที่จัดงานแต่งงาน

หมู่เกาะเซเชลส์ สาวๆ อาจไม่คุ้นหูกันนะคะ เซเชลล์เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในประเทศเซเชลล์ ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา มหาสมุทรอินเดีย เซเชลล์เป็นสวรรค์ลอยน้ำเพราะมีหาดทรายสีขาว โขดหินน้อยใหญ่ และยังมีน้ำทะเลสีฟ้าสลับเขียว เป็นหมู่เกาะที่หากใครได้มาจัดงานแต่งงานจะต้องจดจำวันดีๆ เหล่านี้ได้อย่างไม่ลืมเลือน

6. เบอร์มิวดา

สถานที่จัดงานแต่งงาน

มาทำให้โลกของเราเป็นสีชมพูกันเถอะ เบอร์มิวดา ทะเลสวย น้ำใสมองเห็นตัวปลา แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ มีหาดทรายสีชมพู ที่เหยียบไปแล้วนุ่มราวกับเดินบนนุ่น และยังมีกิจกรรมให้กับผู้มาร่วมงาน ได้เพลิดเพลินอีกนะ

7. เม็กซิโก

สถานที่จัดงานแต่งงาน

ทะเลสีฟ้า หาดทรายสีขาว รีสอร์ทหรูหรา ทุกอย่างช่างลงตัว เหมาะสำหรับวันพิเศษ ของคู่รักที่มาจัดงานแต่งงาน ขอบอกไม่ควรพลาดเลยจริงๆ หากใครกำลังทรัพย์มากพอ จัดได้เลยจ๊ะ

8. ปารีส, ฝรั่งเศส

สถานที่จัดงานแต่งงาน

ปารีส นครที่มีแสงสีสวยงามยามค่ำคืน ที่โรแมนติกที่สุดในโลก เหมาะสุดๆ สำหรับเป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน และแลกเปลี่ยนคำสาบานของเหล่าคู่รักหน้าหอไอเฟล หากคุณต้องการความโรแมนติดถึงขั้นขีดสุด ปารีสก็เป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ที่ควรมาอย่างยิ่ง

9. บาร์เบโดส

สถานที่จัดงานแต่งงาน

บาร์เบโดส สวรรค์เขตร้อนของเหล่าคู่รัก ที่หากใครอยากสัมผัสอากาศที่อบอุ่นตลอดทั้งปี และชื่นชอบสถานที่จัดงานแต่งงานที่ล้อมรอบไปด้วย ทะเลสีฟ้า หาดทรายสีขาว ก็จัดได้เลยจ้า

10. ทัสกานี, อิตาลี

สถานที่จัดงานแต่งงาน

หากคู่รัก คู่ไหนต้องการจัดงานท่ามกลางไร่องุ่น มีทุ่งหญ้าสีเขียวกว้างสุดลูกหูลูกตา ให้อารมณ์ อบอุ่น เป็นกันเอง ลองดูที่นี่เลย ทัสกานี ประเทศอิตาลี แล้วคุณจะติดใจ

11. ไอร์แลนด์

สถานที่จัดงานแต่งงาน

หากอยากลองเป็นเจ้าหญิงสักครั้งหนึ่งในชีวิต และมีอัศวินหนุ่มเคียงข้างในวันแต่งงาน ปราสาทที่ตั้งอยู่บนเนินเขาท่ามกลางทะเลสาบ ของประเทศไอร์แลนด์ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่ทำให้ฝันของคุณกลายเป็นจริงได้

12. หมู่เกาะพันตาคาน่า, โดมินิกัน

สถานที่จัดงานแต่งงาน

นอกจากจะมีทะเลที่ใส หาดทรายสีขาว หมู่เกาะพันตาคาน่า ยังมีรีสอร์ทที่หรูหรา เหมาะสำหรับเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานและพักผ่อนจากการต้อนรับแขกมาทั้งวัน ลองเอนกาย ยืดแขนขา ใช้เวลาให้เต็มที่ ฮันนีมูนไปพร้อมกันก็คงฟินสุด

13. อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์

สถานที่จัดงานแต่งงาน

อัมสเตอร์ดัม ได้สมญานามว่าเป็น เวนิชทางเหนือ เพราะมีคลองล้อมรอบ อีกทั้งยังสามารถล่องเรือชมเมือง ให้อารมณ์โรแมนติกสุดๆ คู่รักหลายจึงนิยมมาจัดงานแต่งงานที่นี่ จุดเด่นที่สำคัญของอัมสเตอร์คือ เป็นเมืองที่มีจักรยานมากที่สุดในโลก เหมาะมากสำหรับคู่รักนักปั่นนะคะ

14. ภูเก็ต, ไทย

สถานที่จัดงานแต่งงาน

โอ๊ะ โอ ! ที่ไหนนี่ คุ้นจัง จังหวัดภูเก็ต ทะเลอันดามันทางใต้ของประเทศไทย ติดอันดับด้วยนะเนี่ย ต้องยอมรับจริงๆ ว่า จังหวัดภูเก็ตมีเกาะน้อยใหญ่ที่สวยงามมากที่สุดในประเทศ อย่าง อ่าวมรกต, หมู่เกาะสิมิลัน, เกาะไม้ท่อน, เกาะตาชัย ที่ไม่ว่าจะเป็นคู่รักประเทศไหนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากทะเลที่มีความสวยงาม ยังมีกิจกรรมมากมายให้กับคู่รัก ได้มาใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน และฮันนีมูนไปพร้อมกันเลย รู้อย่างนี้แล้ วก็ไม่ต้องไปถึงต่างประเทศ ภูเก็ตบ้านเราก็สร้างความสุข และวันพิเศษได้เหมือนกันจ้า

15. เซนต์จอร์เจส, เกรนาดา

สถานที่จัดงานแต่งงาน

เซนต์จอร์เจส เป็นเมืองหลวงของปะเทศเกรนาดา ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา แถมยังมีทะเลที่สวยงามราวกับอยู่บนสวรรค์ ชายหาดส่วนตัว เหมาะจัดงานแต่งงานที่มีแต่คนที่รัก สุดใดเล่าจะเท่ากับมีแต่คนที่รักในวันสำคัญ

ภาพและข้อมูล : escapehere.com, dubsdreadcatering.com, travelandleisure.com

 

Seaksakol Wedding Planner ถอดรหัสตัวตนสู่งานแต่งที่เป็นคุณ

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการจัดงานแต่งงาน คือการสะท้อนตัวตนของบ่าวสาวผู้เป็นหัวใจหลักของงานออกมาได้ชัดเจน ตรงตามภาพฝัน และทำให้แขกเหรื่อนับร้อยนับพันที่เดินเข้างานสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่บ่าวสาวต้องการจะสื่อออกมา ซึ่งการสะท้อนตัวตนที่ว่านี้ เราบอกเลยว่าไม่ใช่ใครก็ทำได้ แต่ Seaksakol Wedding Planner ที่บริหารงานโดยคุณต้น-เศกสกล ไชยานดำรง ก็สามารถสร้างสรรค์งานแต่งงานที่สะท้อนคาแรกเตอร์ของบ่าวสาวออกมาได้อย่างน่าประทับใจ 

Seaksakol Wedding Planner คือใคร

“ก่อนที่เราจะเป็นที่รู้จักกันในหมู่บ่าวสาวเช่นทุกวันนี้ เราก่อตั้งบริษัทในชื่อ เศกสกล1982 จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านโปรดักชั่น เป็นออแกไนเซอร์จัดทำอีเว้นท์มากว่า 15 ปี มีประสบการณ์จัดงานเปิดตัวสินค้าและโปรโมทธุรกิจต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมีบริการครบวงจรตั้งแต่การออกแบบธีมอีเว้นท์ตามโจทย์ของลูกค้า รวมถึงการดูแลเรื่องแสง สี เสียงให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ที่ลูกค้าต้องการ

“ในระหว่างนั้นเองมีลูกค้ากลุ่มเวดดิ้งให้ความไว้วางใจและให้โอกาสเราได้ดูแลจัดงานแต่งงานให้มากขึ้น เราจึงเริ่มเข้ามาอยู่ในธุรกิจเวดดิ้งอย่างจริงจังในรูปแบบ Exclusive Entertainment Wedding Planner ที่นอกจากจัดงานที่เน้นสะท้อนตัวตนบ่าวสาวแล้ว ยังใส่รายละเอียดของแสง สี เสียง เข้าไปอย่างครบถ้วนเพื่อให้เกิดภาพงานแต่งสุดตระการตา โดยสามปีที่ผ่านมามีบ่าวสาวที่วางใจในผลงานของเรามาแล้วกว่าร้อยคู่”

Seaksakol Wedding Planner

การบริการที่ครองใจบ่าวสาวมานับร้อยคู่

“บ่าวสาวฝันถึงงานแต่งงานแบบไหนหรือมีธีมงานอะไรอยู่ในใจ ทีมงานเศกสกลจะนำมาเป็นโจทย์แรกในการคิดรูปแบบงาน ควบคู่ไปกับการสังเกตคาแรกเตอร์ของคู่รักผ่านการพูดคุยอย่างเป็นกันเอง เพื่อเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของบ่าวสาว และนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดมาประกอบการออกแบบงาน โดยเราจะครีเอทธีมงานภายใต้ข้อจำกัดในการจัดงานของแต่ละคู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนแขก ขนาดของพื้นที่ รวมถึงงบประมาณที่ตั้งไว้

“จากนั้นจะเริ่มร่างแบบการตกแต่งงานให้เข้ากับธีมที่สะท้อนตัวตนของบ่าวสาว พร้อมทั้งวางลำดับพิธีการที่สอดคล้องกันตั้งแต่เริ่มจนถึงกระบวนการสุดท้ายของงาน เพื่อให้ทุกคู่รักประทับใจกับการบริการและโปรดักชั่นที่เกิดขึ้น รวมทั้งได้รับความทรงจำที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ที่มากกว่ามูลค่าของงบประมาณที่ตั้งไว้ และเกินกว่าความคาดหวังของทุกคู่”

จัดงานด้วยคอนเซ็ปต์ “งานแต่งไม่ซ้ำใครเพราะคู่ของคุณมีหนึ่งเดียว”

“ปรัชญาการทำงานที่เราให้ความสำคัญสูงสุดคือ สร้างงานแต่งงานให้มีรูปแบบที่ไม่ซ้ำกันเสมอ เพราะเราเชื่อว่า ทุกคนมีคู่แท้เพียงหนึ่งเดียวและแต่ละคู่ก็มีความชอบและภาพฝันในวันแต่งงานที่ต่างกันไป ทำให้งานแต่งงานมีความแตกต่างไปตามตัวตนของแต่ละคู่ ดังนั้นเมื่อเราได้พูดคุยกับบ่าวสาว เราจะพยายามดึงความเป็นตัวตนของเขาออกมา แล้วนำเสนอผ่านธีมงาน รูปแบบ และการตกแต่งองค์ประกอบต่างๆ ภายในงาน ภายใต้การบริการอย่างจริงใจและจริงจัง

“นอกจากเรื่องของภาพลักษณ์ที่สะท้อนออกมาผ่านธีมงานที่ต่างกันของแต่ละคู่แล้ว เราจะออกแบบไฮไลต์ของงานให้ตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิตของบ่าวสาวด้วย โดยผสานรูปแบบด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ที่เราถนัดเข้าไปเพื่อทำให้งานออกมาสมบูรณ์แบบและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น งานแต่ละงานจึงไม่เพียงสร้างความประทับใจให้บ่าวสาว แต่ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแขกที่มาร่วมยินดี ทำให้บรรยากาศของงานยิ่งอบอวลไปด้วยความสุข ความประทับใจ และสร้างความทรงจำที่ดีให้ทุกคนในงาน”

“ภูผาแห่งความรัก” ตัวอย่างงานแต่งที่ถอดรหัสตัวตนของบ่าวสาวอย่างรอบด้าน

“นอกจากเราจะออกแบบงานแต่งงานที่สะท้อนตัวตนของบ่าวสาวและสร้างงานในฝันให้เป็นความจริงแล้ว เรายังไม่ลืมที่จะมองถึงโอกาสในการสะท้อนภาพธุรกิจของคู่รักออกมาในรูปแบบของธีมงาน เพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ธุรกิจของบ่าวสาว เพราะนั่นคือชีวิตและตัวตนของทั้งคู่

“อย่างเช่นงานล่าสุด บ่าวสาวเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และปูนซีเมนต์ SCG ในเชียงใหม่ เราจึงนำอาชีพของทั้งคู่มาผสานคาแรกเตอร์ของแต่ละคน จนออกมาเป็นธีมงานแต่งงาน “ภูผาแห่งความรัก” ภายในงานจึงจำลองภูผาหินปูนซึ่งเปรียบเสมือนภูผาแห่งความรัก ล้อไปกับธุรกิจปูนซีเมนต์ที่ทั้งคู่ดูแลและยังแฝงความหมายถึงความรักที่แข็งแกร่งมั่นคงดั่งภูผา ไม่มีใครทำลายได้ง่ายๆ

“และเนื่องจากเจ้าสาวเป็นเจ้าของห้างทองนริศรา ซึ่งมีมากกว่า 10 สาขา เราจึงเพิ่มรายละเอียดลงไป โดยการใส่กากเพชรระยิบระยับสีทองอร่าม และตกแต่งเวทีเป็นแนวล๊อฟ แล้วประดับดอกไม้สีแดงซึ่งแฝงถึงความเซ็กซี่ และสีแดงยังเป็นสีที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับความรักความจริงใจที่ชัดเจนในความรู้สึกของคนทั้งคู่”

และนี่คือความโดดเด่นของมืออาชีพในการจัดงานแต่งงานที่สะท้อนตัวตนของคู่รัก ทำให้วันสำคัญที่สุดในชีวิตไม่ใช่แค่ความทรงจำชั่วคืน แต่มีความหมายจนประทับในใจตลอดไป

Seaksakol Wedding Planner โทร. 08-5713-7813, 08-4616-9196 เฟซบุ๊ก : เศกสกล1982 อีเมล : [email protected] ไลน์ :  ton0857137813

Amorini Gems เครื่องประดับเพชร ที่สะท้อนทุกอย่างที่เป็นคุณ

แม้จะเพิ่งเปิดตัวมาได้เพียง 6 ปี แต่ความเชี่ยวชาญเรื่องเพชรของ Amorini Gems ร้านเพชรกลางเมืองหาดใหญ่ ก็ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้ครอบครองเพชรคุณภาพเยี่ยมที่การันตีคุณสมบัติ 4Cs และยังจะได้รับคำแนะนำอย่างมืออาชีพ เพื่อให้ได้ เครื่องประดับเพชร ที่สะท้อนตัวตนและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละคนให้มากที่สุด

เพราะความที่เคยเป็นลูกค้ามาก่อน จึงเข้าใจถึงความกังวลเวลาเดินเข้าร้านเพชร ไม่ว่าจะเป็นการไม่กล้าเอ่ยปากขอลองเครื่องประดับ ความอายที่จะบอกงบประมาณกับคนขาย รวมถึงไม่มั่นใจว่าเครื่องประดับที่อยากได้จะเหมาะกับตัวเองไหม เมื่อมีโอกาสได้เปิด Amorini Gems คุณมณ-มณทิรา ชีววัฒนาพงศ์ จึงไม่รีรอที่จะนำความรู้สึกเหล่านั้นมาเป็นหัวใจหลักในการบริการ

สำหรับคุณมณธุรกิจจิเวลรี่คือธุรกิจแห่งความสุข เพราะการที่ใครสักคนตัดสินใจเดินเข้าร้านเพชร ก็ล้วนมีความตั้งใจอยากจะเป็นเจ้าของเครื่องประดับสวยๆ สักชิ้นในวาระโอกาสพิเศษของชีวิต อาจเป็นว่าที่เจ้าบ่าวที่พาเจ้าสาวมาเลือกแหวนแต่งงาน ลูกสาวที่มาเลือกกำไลสวยๆ เป็นของขวัญวันเกิดให้คุณแม่ หรือแม้แต่สาวโสดที่มีงบประมาณไม่มากนักแต่ตั้งใจจะซื้อต่างหูเล็กๆ เป็นรางวัลให้กับตัวเอง

ไม่ว่าลูกค้าจะเดินเข้ามาด้วยจุดประสงค์ใด Amorini Gems ก็พร้อมดูแลต้อนรับและคอยให้คำแนะนำอย่างเพื่อนผู้เชี่ยวชาญ เพราะพนักงานทุกคนได้รับการอบรมให้มีความรู้เรื่องคุณสมบัติเพชรอย่างถูกต้อง และมีประสบการณ์จนชำนาญใน 3 เรื่องหลักที่ถือเป็นหัวใจในการจับคู่เครื่องประดับกับว่าที่เจ้าของอย่างมืออาชีพ

มองคาแรกเตอร์ออกตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในร้าน

คาแรกเตอร์ของลูกค้าเป็นสิ่งแรกที่ทีมงาน  Amorini Gems ให้ความสำคัญ ซึ่งแม้จะไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่ก็สามารถสังเกตได้จากบุคลิกท่าทางรวมถึงการแต่งตัว การแต่งหน้าทำผมหรือแม้แต่ทำเล็บ เพื่อช่วยแมตช์เครื่องประดับให้เหมาะกับลุคของลูกค้า การเลือกซื้อเพชรสักเม็ดสามารถแสดงถึงคาแรกเตอร์ของเจ้าของได้ บางคนชอบเพชรที่มีความเนี้ยบไม่มีที่ติ บางคนชอบแบบคุ้มค่า หรือชอบแบบที่มีคาแร็กเตอร์ไม่เหมือนใคร ผู้เชี่ยวชาญจะต้องสามารถจับคู่เพชรให้เหมาะกับคาแร็กเตอร์เพื่อแนะนำลูกค้าแต่ละคนได้

ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงบุคลิกลุยๆ ชอบแต่งตัวสบายๆ ก็อาจเลือกแหวนชูแบบเรียบคลาสสิค แต่ปรับหัวแหวนให้ชูไม่สูงนัก เพื่อที่เวลาเอามือล้วงกระเป๋าหัวแหวนจะไม่ไปเกี่ยวกับเสื้อผ้า และเพิ่มความคล่องตัวในการสวมใส่ แต่หากคุณชอบแต่งตัวและใส่ใจในรายละเอียดทุกครั้งที่ออกงาน ก็จะเหมาะกับเครื่องประดับที่มีดีเทลได้เต็มที่ ทั้งแบบชิ้นใหญ่ห้อยระย้าหรือชิ้นเล็กที่ต้องนำมาประกอบร่าง สาวๆ ที่มีคาแรกเตอร์นี้พร้อมจะสนุกและมีความสุขกับการจัดเต็มได้อย่างมั่นใจ

มองออกถึงความเหมาะสมของชิ้นงานกับสรีระของผู้เป็นเจ้าของ

แม้คาแร็กเตอร์และรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันจะช่วยชี้นำไปถึงดีไซน์ของเครื่องประดับได้ แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะผู้เชี่ยวชาญที่ดีจะรู้จักการแก้ไขข้อบกพร่อง รวมถึงส่งเสริมจุดเด่นในสรีระของลูกค้าเพื่อให้จับคู่กับเครื่องประดับได้อย่างลงตัวที่สุด ซึ่งการได้ลองสวมใส่เครื่องประดับชิ้นนั้นจริงๆ จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยพิจารณาถึงความใช่ที่ลงตัวอย่างแท้จริง

Amorini Gems จึงเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เลือกลองเครื่องประดับชิ้นที่ชอบได้อย่างเต็มที่ เพื่อเปรียบเทียบหาชิ้นที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด โดยมีผู้เชี่ยวชาญประจำร้านช่วยให้คำแนะนำ ซึ่งในกรณีที่ลูกค้ายังไม่มั่นใจในความเพอร์เฟ็กต์ ผู้เชี่ยวชาญก็จะทำหน้าที่แนะนำวิธีการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนบางจุด เพื่อให้เกิดความลงตัวที่สุด

มองเทรนด์ออกและทันเทรนด์อยู่เสมอ

หัวใจหลักอีกเรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญต้องมีคือ เข้าใจเทรนด์เครื่องประดับที่เปลี่ยนไปในแต่ละยุค รวมถึงตามทันความเปลี่ยนแปลงและความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ เช่น ตอนนี้เทรนด์แหวนแต่งงานไม่ได้ถูกจำกัดแค่แหวนเพชรชูเม็ดเดี่ยวเท่านั้น แต่บ่าวสาวเริ่มที่จะเลือกใช้อัญมณีอย่างอื่น ที่มีความหมายกับตัวเองในทางใดทางหนึ่งมาเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำแหวนแต่งงานมากขึ้น เช่น เลือกใช้อัญมณีประจำราศีเกิดมาเป็นหัวแหวนคู่กับเพชรเม็ดงาม หรือการเลือกตัวเรือนทองชมพูที่กำลังมาแรงมาใส่ดีไซน์ให้ล้อไปกับแฟชั่นยุคปัจจุบัน เพื่อให้สามารถใส่แหวนแต่งงานติดนิ้วได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสไตล์การแต่งตัว แหวนแต่งงานในยุคนี้จึงมีความทันสมัย เข้ากับการแต่งกายและการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น

แพรว wedding เห็นด้วยว่า 3 เรื่องหลักนี้คือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับ The Experts ในการคัดสรรเครื่องประดับที่ดีที่สุดเพื่อคุณ ซึ่ง Amorini Gems ยึดมั่นมาโดยตลอด และยังมุ่งมั่นดูแลลูกค้าเพื่อตอบโจทย์คนรักอัญมณี รวมถึงลูกค้าที่รู้สึกว่าเพชรเป็นเรื่องลึกลับราคาแพง ไม่มีความรู้ จึงประหม่าและกังวลกับเงินในกระเป๋า ลูกค้าจะได้มากกว่าการเป็นเจ้าของเครื่องประดับที่ใช่ไปครอบครอง เพราะเราเชื่อว่าที่ Amorini Gems เพชรกับมิตรภาพจะเป็นเรื่องเดียวกัน

เครื่องประดับเพชร

ขอขอบคุณ Amorini Gems ร้านเพชร อมรรินี่เจมส์ หาดใหญ่ ถ.เทพสงเคราะห์ จ.สงขลา โทร. 07-4225-397, 08-8792-3629, 08-5029-3333 เว็บไซต์ : www.amorinigems.com เฟชบุ๊ก : Amorini Gems-หาดใหญ่ ไอจี : amorini_gems ไลน์ : @amorinigems

Milan Bridal Couture & Wedding Studio ร้านชุดแต่งงาน ที่เป็นมากกว่าแค่ร้านชุด

ร้านชุดแต่งงาน

สิ่งหนึ่งที่เจ้าสาวทุกคนต้องการสำหรับชุดแต่งงานคือความมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร แพรว wedding จึงคว้าตัวกูรูด้าน  ร้านชุดแต่งงาน อย่าง Milan Bridal Couture & Wedding Studio มาพูดคุยถึงเคล็ดลับและเทคนิคความงามของชุดแต่งงานที่จะช่วยสร้างให้เจ้าสาวมีสไตล์ที่โดดเด่นไม่ล้าสมัย และที่สำคัญยังมีบริการหลากหลาย ช่วยคุณเซฟเวลา ไม่ต้องไปตามหามืออาชีพอื่นๆ อีกมากมายให้เหนื่อยแรง

Q : เจ้าสาวจะได้ชุดไทยที่แตกต่างอย่างไรจากทางร้าน

A : เรามีทีมช่างแพตเทิร์นรุ่นเก่าที่ทำงานมานานกว่า 30 ปี จึงทำให้ชุดของเราประณีตสวยงามคงเอกลักษณ์ตามแบบไทย ใส่แล้วดูสวยเข้ารูป นอกจากนี้ทีมช่างแพตเทิร์นยังทำงานร่วมกับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ จึงทำให้ดีไซน์ของชุดโดดเด่นเป็นพิเศษ เช่น เทคนิคการนุ่งสดที่ช่วยให้ชุดดูพลิ้วไหวอ่อนหวาน หรืองานคัตติ้งผ้านุ่งที่นำเอาแพตเทิร์นสากลมาผสมกับความเป็นไทย จนกลายเป็นผ้านุ่งทรงเมอร์เมด เพื่อตอบโจทย์เจ้าสาวที่ต้องการความทันสมัยโดดเด่นไม่ซ้ำใคร และที่สำคัญทางร้านใช้ผ้าแพรทอมือเป็นไหมแท้ทุกผืน

ร้านชุดแต่งงาน

ส่วนสิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือสีของชุดที่มีทุกเฉด รองรับเจ้าสาวทุกสีผิว เช่น สีชมพูเงิน ชมพูทอง ชมพูโรสโกลด์ ชมพูกลีบบัว ชมพูพาสเทล แต่ถ้าอยากได้สีพิเศษที่ไม่ต้องการให้เหมือนใครก็สามารถสั่งย้อมสีใหม่ได้ตามต้องการ เนื่องจากเรามีทีมงานย้อมผ้าประจำอยู่ที่โรงงานเพื่อทำสีพิเศษโดยเฉพาะ จึงทำให้สีของชุดร้านเรามีความพิเศษไม่ซ้ำใคร และมีความคลาสสิคที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ยังดูร่วมสมัยอยู่เสมอ โดยทางร้านจะเน้นใช้สีโทนเรียบหรูไม่ฉูดฉาดมากนัก ซึ่งต่อให้เป็นสีแดงก็จะเป็นแดงที่ดูดีมีรสนิยม

ร้านชุดแต่งงาน

ร้านชุดแต่งงาน

Q : แล้วในส่วนของชุดแต่งงาน เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของร้านคืออะไร

A : นอกจากทางร้านจะสามารถดีไซน์ชุดแต่งงานได้ทุกรูปแบบตามความต้องการของเจ้าสาวแล้ว เรื่องการสร้างแพตเทิร์นลูกไม้ก็เป็นจุดเด่นเช่นกัน เราใช้เทคนิคการต่อและแตกลายลูกไม้ออกมาเพื่อนำมาผสมกันให้เกิดเป็นลายใหม่ บางชุดใช้ผ้าลูกไม้ไม่ต่ำกว่า 5 ลายก็มี เพราะฉะนั้นชุดของคุณจะไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน และที่สำคัญจะไม่มีใครรู้เลยว่าเราใช้ลูกไม้ลายอะไร เพราะเรานำลายต่างๆ มาผสมกันใหม่ ผ่านจินตนาการของดีไซเนอร์หรือความต้องการของลูกค้า จึงทำให้ชุดแต่งงานมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบหาที่ไหนไม่ได้ แต่เนื่องจากเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความประณีตเป็นอย่างมากจึงอาจใช้เวลาในการทำค่อนข้างนาน เพราะฉะนั้นหากเจ้าสาวมีแบบอยู่ในใจก็ต้องเผื่อเวลาให้ช่างได้นำมาสร้างสรรค์ต่อด้วย

ร้านชุดแต่งงาน

Q : ทางร้านดูแลอย่างไรหากเจ้าสาวรู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง 

A : ช่างของเรามีความประณีตและความเชี่ยวชาญในเรื่องการแก้ไขข้อบกพร่องของสรีระ เพราะฉะนั้นช่างที่นี่เมื่อวัดตัวเสร็จและเห็นรูปร่างจริงของลูกค้าแล้วจะสามารถคำนวณได้ทันทีว่า สรีระของเจ้าสาวเป็นอย่างไร ต้องปรับแก้ตรงไหน เช่น รู้เลยว่าเจ้าสาวเป็นคนลำตัวยาวต้องต่อเอวขยับให้สูงขึ้น เพื่อให้ตัวดูสั้นลงและให้ช่วงขาดูยาวสมส่วน เพราะฉะนั้นไม่ใช่แค่ว่าคุณต้องการอะไร แล้วเราทำตามคำสั่งอย่างเดียว แต่เราจะช่วยแก้ไขข้อบกพร่องให้ด้วย

อย่างไรก็ตามทางเจ้าสาวอาจจะต้องบอกข้อจำกัดบางอย่างกับทีมดีไซเนอร์ด้วย อย่างเช่น ไปทำหน้าอกมา เพราะช่างจะได้ทำบล็อกให้พอดีกับฐานเต้านม เมื่อสวมใส่แล้วจะได้รับกันพอดีและดูไม่โป๊จนเกินงาม นอกจากนี้เรายังทำงานกันเป็นทีมเวิร์กและให้ความเป็นกันเองกับลูกค้ามาก เพราะอยากให้เขามีความรู้สึกเหมือนมาหาเพื่อนหรือคนในครอบครัว และมีความสุขทุกครั้งที่เข้ามาเจอเรา

ร้านชุดแต่งงาน

Q : นอกเหนือจากการบริการเรื่องชุดแต่งงาน ทางร้านมีบริการเสริมด้านใดอีกบ้าง?

A : เรื่องเซอร์วิสก็เป็นหนึ่งจุดขายของเรา เนื่องจาก Milan Bridal Couture & Wedding Studio มีลักษณะเป็นเหมือน เวดดิ้ง สตูดิโอ ในรูปแบบของห้องเสื้อ เราจึงมีทีมงานช่างต่างๆ เป็นของตัวเอง แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือสตูดิโอ ซึ่งเป็นการแตกไลน์ให้เป็นลักษณะกึ่งครบวงจร เพราะฉะนั้นลูกค้าที่มาหาเราจะไม่ได้แค่ชุดกลับไปอย่างเดียว แต่จะมีบริการในส่วนอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นถ่ายพรีเวดดิ้งทั้งในสตูดิโอและนอกสถานที่ ผลิตพรีเซ้นต์เทชั่นสำหรับฉายในวันงาน ช่างภาพและช่างแต่งหน้าทำผมในวันงาน แม้กระทั่งคนในครอบครัวหรือเพื่อนเจ้าสาวที่มองหาร้านที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการตัดชุดเป็นพิเศษ เราก็รองรับในส่วนนี้ เนื่องจากเราคลุกคลีอยู่ตรงนี้มานาน จึงรู้ว่าคนแต่ละวัยชอบและต้องการอะไร เราจึงเป็นเหมือน one stop service ที่ไม่ได้มีแค่ชุดแต่งงานอย่างเดียว แต่มีเซอร์วิสอื่นๆ ซึ่งไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเช่นกัน

ร้านชุดแต่งงาน

Milan Bridal Couture & Wedding Studio

ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โทร. 0-2716-5203, 0-2718-0315 เว็บไซต์ : www.milanweddingbkk.com, www.thaiweddingdress.net เฟซบุ๊ก : Milan Bridal Couture & Wedding Studio
ไอจี : @milanwedding ไลน์ : @milanwedding

หน้าปังอลังเวอร์กับเทคนิค ดูแลผิว ให้หน้าพุ่งแบบไม่ต้องพึ่งเมคอัพ

เชื่อได้ว่าเจ้าสาวหลายคนคงไม่อยากโบกรองพื้นทับคอนซีลเลอร์ แล้วทับด้วยรองพื้นอีกทีจริงไหมค่ะ ใครๆ ก็อยากสวยใสแบบธรรมชาติ ประมาณว่าผิวแบบนี้แม่ให้มานะจ๊ะ เพราะฉะนั้นมาเตรียมผิวเพื่ออวดหน้าสวยๆ แบบพึ่งเมคอัพให้น้อยที่สุดกันดีกว่า กับเทคนิค ดูแลผิว แบบง่ายๆ ที่รับรองว่าหน้าพุ่งทะลุเมคอัพแน่นอน

ใช้ Face Oil แทนมอยส์เจอไรเซอร์ปกติ

ดูแลผิว

มอยส์เจอไรเซอร์มีโอกาสทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน และมักมีส่วนผสมที่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำได้ ในขณะที่ face oil จะมีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่และสามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายกว่า และเหมาะกับผู้ที่มีผิวมันและเป็นสิวง่ายเพื่อช่วยลดปัญหาการอุดตันที่มักจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ face oil ยังทำให้ใบหน้าชุ่มชื้นฉ่ำวาว แบบที่ไม่ใช่หน้ามันเป็นกระทะไข่ดาว และหมดกังวลกับปัญหาผิวมันบริเวณ T-Zone แนะนำให้เลือก face oil ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จะได้เพิ่มความรู้สึกน่าใช้และผ่อนคลายไปในตัว

ใช้สเปรย์สำหรับผิวหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำดอกกุหลาบ

ดูแลผิว

เพิ่มความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่องในระหว่างวัน โดยการสเปรย์ลงบนใบหน้าทุก 2-3 ชั่วโมง ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยล็อกความชุ่มชื้นเท่านั้นและยังช่วยควบคุมน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าไม่ให้ผลิตออกมามากเกินไป ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าหน้าจะแห้งนะคะ เพราะผิวของคุณจะชุ่มชื้นด้วยน้ำมันจาก face oil (ในข้อ 1) อยู่แล้ว อีกทั้งกลิ่นหอมอ่อนๆ จากน้ำดอกกุหลายยังช่วยให้รื่นรมย์อารมณ์ดี และรู้สึกใบหน้าสดชื่นไปพร้อมกัน และหากคุณใช้เป็นประจำสม่ำเสมอยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อีกด้วย

สวยจากภายในเปล่งประกายสู่ภายนอก ด้วยไปป์ไทด์คอลลาเจน

ดูแลผิว

ตัวช่วยชั้นดีที่ทำให้ผิวดูนุ่มนวลเด๋งดึ๋ง เรียบเนียนขึ้น และหมดปัญหาขอบตาคล้ำดำเป็นหมีแพนด้า พร้อมเผยผิวรอบดวงตาที่สดใสไฉไลกว่าเดิม แถมคอลลาเจนยังส่งผลดีไปถึงผมและเล็บให้แข็งแรงวาววับอีกด้วย หรือจะลองเติมคอลลาเจนลงในชาเขียวร้อนแล้วดื่มไปพร้อมกันก็ได้นะคะ เพื่อผลลัพธ์แบบคูณสอง

ขับสารพิษออกจากร่างกาย ด้วยกิจกรรมเรียกเหงื่อ

ดูแลผิว

การออกกำลังกายจะช่วยทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง (แถมได้หุ่นปังเป็นของแถม) เพราะเป็นการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต เพิ่มออกซิเจนและวิตามินที่สำคัญลงในเส้นเลือดฝอยเพื่อไปช่วยบำรุงผิว และยังเป็นการขับสารพิษออกจากร่างกายพร้อมกับเหงื่อที่เสียไปอีกด้วย ว่าแล้วก็หยิบรองเท้ากีฬาคู่โปรดแล้วออกไปจ๊อกกิ้งกันเถอะ

อาบน้ำด้วยดีเกลือ เคล้ากลิ่นลาเวนเดอร์

ดูแลผิว

ล้างคราบเหงื่อไคลที่หมักหมมมาทั้งวัน พร้อมผ่อนคลายร่างกายด้วยดีเกลือที่นอกจากจะปรับสมดุลสร้างความสดชื่น ช่วยลดความเครียดที่พบเจอมาตลอดวันแล้ว ดีเกลือยังมีคุณสมบัติที่ดีต่อผิวมากมาย เช่น น้ำมาขัดผิวให้ขาวใส ลดสิว ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม และได้ถ้าแช่ไปพร้อมกับกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ด้วยแล้วล่ะก็ เรียกได้ว่างานสบายผ่อนคลายก็มี งานผิวสวยก็มา

ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ หากคุณทำทุกอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอรับรองว่าความผุดผ่องจะอยู่ในกำมือ แล้วเตรียมตัวเฉิดฉายท้าแสงแฟลชในวันงานได้เลย

ภาพ : huffingtonpost.com, femside.com, experienceluxury.co, philvert.com, baremetics.com, medicaldaily.com

ส่อง แหวนหมั้น คนดังที่โลกจดจำไม่เคยลืม

ช่วงปลายปีที่อากาศมีลมเย็นพัดมานิดๆ เรามาเพิ่มอุณหภูมิให้กับร่างกายด้วยการทำตาให้ร้อนผ่าวๆ เล่นกันดีกว่า กับแหวนหมั้นของเหล่าคนดังระดับโลก ซึ่งขอบอกว่ามูลค่านั้นเกินกว่าจะประเมินค่า (ตาเริ่มร้อนกันแล้วใช่ไหมคะ) แต่เอาเป็นว่าดูไว้
1.แหวนแซฟไฟล์ในตำนานจากเจ้าหญิงไดอาน่าถึงเคทมิดเดิลตัน

1               แหวนหมั้นในความทรงจำวงแรกที่ต้องบอกเลยว่ามีความงดงามไม่แพ้เจ้าของได้แก่แหวนหมั้นของเจ้าหญิงไดอาน่า เจ้าหญิงผู้เลอโฉมของประเทศอังกฤษ ทรงเลือกแหวนหมั้นแซฟไฟล์เม็ดใหญ่ล้อมด้วยเพชร 14 เม็ดผลิตโดยช่างเพชรประจำราชวงศ์แต่ก็ไม่เป็นที่โปรดปรานในราชวงศ์มากนักเพราะดีไซน์นี้ไม่ได้ใช้กับแหวนของเจ้าหญิงไดอาน่าคนเดียวหลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมาได้กลายเป็นของเป็นแหวนหมั้นของเจ้าหญิงเคท มิทเดิลตัน

2.แหวนเพชรประดับมรกตของอดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง แจ๊กเกอลีน เคนเนดี

2               แหวนของอดีตสตรีหมายเลขหนึ่งประเทศสหรัฐอเมริกา แจ๊กเกอลีน เคนเนดี ภรรยาสาวแสนสวยอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี ในวันแต่งงานเขาได้มอบแหวนเพชรประดับมรกตที่มีขนาด 2.88 กะรัต ซึ่งแหวนวงนี้ออกแบบโดย แวน คลีฟและอาร์เพลส์ บ่งบอกถึงความมีรสนิยมชั้นสูงของเธอคนนี้จริงๆ

3.แหวนเพชรทรง Emerald Cut สุดอลังการของ เอลิซาเบธ เทย์เลอร์

3               ถึงเธอจะแต่งงานมาแล้วถึง 8 ครั้งแต่แหวนหมั้นที่มีชื่อเสียงมากอีกวงศ์หนึ่งของเจ้าแม่เพชรอย่าง เอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ก็คงไม่พ้นแหวนเพชรทรง Emerald Cut (เพชรทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าปลายตัด) ที่มีน้ำหนักถึง 30 กะรัตที่สามีคนที่3 ไมเคิล ทอดด์ มอบให้

4.แหวนเพชรบาเก็ตต์ ของนักแสดงสุดเซ็กซี่ตลอดกาล มาริลิน มอนโร

4               ถ้าพูดถึงหญิงสาวผมบลอนด์ สีปากแดงจัดจ้าน สวมชุดกระโปรงสีขาวสุดเซ็กซี่ ก็คงเดากันได้นะคะว่าน่าจะเป็น ดาราสาวอมตะตลอดกาลอย่างมาริลิน มอนโร แต่น้อยคนนักจะทราบเรื่องสวยงามๆอย่างแหวนหมั้นบาเก็ตต์ (แหวนที่มีเพชรเรียงตัวกันเป็นชั้นๆ) บนตัวเรือนทองคำขาวที่มีเพชรเรียงกันถึง35เม็ด โดยนักเบสบอลชื่อดัง โจ ดิแมกจีโอ สามีของเธอเป็นผู้มอบให้

5.แหวนหมั้นทรงลูกแพร์ ของนักแสดงรุ่นใหญ่ มีอา ฟาร์โรว์

5               มีอา ฟาร์โรว์ หลายคงไม่คุ้นชื่อมากนักเธอเป็นนักแสดงสาวชาวอเมริกันเธอได้หมั้นหมายกับนักร้องและนักแสดงหนุ่ม แฟรงค์ ซิเนตร้าในปี 1966 เขาได้มอบแหวนเพชรทรงลูกแพร์ขนาด 9 กะรัตเป็นสัญญาใจแต่ทั้งคู่ก็ไปได้กันไม่นานก็เลิกรากันไปแต่แหวนวงนี้เรียกได้ว่าโดดเด่นมากในสมัยนั้น

6.แหวนหมั้นสุดคลาสสิกของราชินีในดวงใจ ควีนเอลิซาเบธที่2

6               แหวนหมั้นที่เจ้าชายฟิลลิปมอบให้ควีน เอลิซาเบธที่2 ราชินีผู้เป็นที่รักของประชาชนชาวอังกฤษ พระองค์ในวันอภิเษกสมรสเมื่อปี 1947 เป็นแหวนแพลทินัมประดับด้วยเพชรเม็ดเดี่ยว 3 กะรัต มีความคลาสสิกและเป็นวงที่พระองค์สวมใส่ติดตัวอยู่ประจำ

7.แหวนหมั้นอภิมหาแพงของนักร้องสาวสีน้ำผึ้ง บียอนเซ่

7               ขอบอกเลยว่าแหวนหมั้นที่นานๆ ทีนักร้องสาวผิวสีน้ำผึ้งผู้มีทรวดทรงสุดเซ็กซี่และเป็นภรรยาของนักร้องแร๊ปเปอร์ เจย์ ซี อย่าง บียอนเซ่ จะหยิบมาอวดโฉมให้นักข่าวได้แชะภาพกันอย่างรัวนั้น มีมูลค่าถึง 170 ล้านบาทเพราะเป็นแหวนเพชรเม็ดโตขนาด 18 กะรัต มิน่าล่ะถึงจะเห็นเธอคนนี้หยิบมาใส่

8.แหวนทองประดับเพชรเม็ดโตของ นักแสดงสาวฮอลลีวูด เจนนิเฟอร์ อนิสตัน

8               นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังอย่างเจนนิเฟอร์ อนิสตัน หลังจากที่ประกาศข่าวหมั้นกับ จัสติน เตอโร ก็มีมือดีแชะภาพแหวนเพชรเม็ดโตขนาด 8 กะรัตที่ส่องวิบวับขณะที่เธอเดินสวีทกับหวานใจ

9.แหวนเพชรไม่ธรรมดาของ เซเลบระดับโลก คิม คาเดเชี่ยน

9               เซเลบคนดังระดับโลกไม่มีใครไม่รู้จักเธอ คิม คาเดเชี่ยน เธอเป็นภรรยาของ คานเย่ เวสต์นักร้องแร๊ปเปอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเมื่อคนดังระดับโลกมาเป็นสามีภรรยากันแหวนหมั้นก็ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้วเพราะแหวนหมั้นของ คิม เป็นแหวนเพชรทีมีขนาดถึง 15 กะรัต ราคา 28.2 ล้านบาทเรียกว่าแพงหูฉี่คนธรรมดาอย่างเราก็นอนฝันหวานกันไป

10.แหวนเพชรทรง Emerald Cut ของนักแสดงฮอลลีวูดตัวแม่ แองเจลิน่า โจลี่

10               เมื่อระดับนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง แองเจลิน่า โจลี่และแบรด พิต ครองคู่กัน อะไรๆ ก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ถึงแม้ปัจจุบันจะแยกย้ายกันไปแล้วก็ตาม แต่แหวนหมั้นนั้นยังทรงพลังเหลือเกิน สำหรับแหวนเพชรทรง Emerald Cut ถูกออกแบบโดยแบรด พิตและ โรเบิร์ต โปรค็อป นักแบบแหวนเพชรชื่อดัง แว่วมาว่าแหวนวงนี้มีราคาแพงถึง 23.55 ล้านบาท

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : www.theknot.com, www.popsugar.com,www.tlc.com, www.eonline.com, heritagegemsfinejewellery.files.wordpress.com, www.mylusciouslife.com, www.bestproducts.com, www.bridaltrendasia.com, the-engagement.com

รู้จักกับ “Croquembouche” เค้กแต่งงานสัญชาติฝรั่งเศส

Croquembouche (คร็อกออมบุช) ชื่ออาจฟังดูไม่คุ้นหูสักเท่าไหร่ใช่ไหมคะ ยิ่งพอได้เห็นหน้าตา หลายคนคงบอกว่านี่มันก็ขนมเอแคลร์บ้านเราไง แต่ไม่ใช่นะคะ จริงๆ แล้วเจ้าขนมหวานที่ว่านี้มันคือ เค้กแต่งงาน ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีที่มาที่น่าสนใจอยู่ทีเดียวเชียวล่ะค่ะ ว่าแล้วก็อย่ารอช้าไปทำความรู้จักกับเจ้า Croquembouche กันเลย

 

Croquembouche ทำมาจากครีมพัฟสอดไส้ครีมหลายๆ ลูกวางซ้อนกันเป็นรูปกรวยคว่ำหรือพีระมิด แล้วเชื่อมต่อครีมพัฟแต่ละลูกด้วยคาราเมล โดยชื่อ Croquembouche มีที่มาจากวลีภาษาฝรั่งเศสที่ว่า “croquet en bouche” แปลว่าของที่กรุบกรอบในปาก (croquet แปลว่า กรอบ, bouche แปลว่า ปาก) ซึ่งก็เป็นไปตามลักษณะของ Croquembouche ที่มีผิวนอกกรุบกรอบนั่นเอง

เค้กแต่งงาน

เห็นหน้าตาเก๋ไก๋แบบนี้ แต่เจ้า Croquembouche ก็มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานเหมือนกัน โดยย้อนไปในช่วงศตวรรษที่ 18 ผู้ให้กำเนิดขนมหวานนี้ก็คือ Marie-Antoine Carême เชฟชาวฝรั่งเศส ผู้ซึ่งได้รับฉายาว่า “Le Roi des Chefs et le Chef des Rois” หรือ “the King of Chefs, and the Chef of Kings” โดยเขาได้บันทึกวิธีการทำ Croquembouche ไว้ในตำราอาหารที่แต่งขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 ด้วย
นอกจากจะเห็น Croquembouche ได้ในพิธีแต่งงานแล้ว ที่ประเทศฝรั่งเศสและอิตาลียังนิยมใช้ในงานมงคลอื่นๆ อีกด้วย เช่น พิธีรับศีลจุ่ม พิธีรับศีลมหาสนิท เรียกได้ว่าเป็นขนมหวานที่หน้าตาดีแถมมีความหมาย สำหรับว่าที่บ่าวสาวคนไหนที่กำลังมองหาไอเดียเค้กแต่งงานเริดๆ อยู่ จะนำ Croquembouche ไปใช้ ก็ไม่ว่ากันนะคะ

 

เรื่อง : อรจิรา

ภาพ : sublimecakes.co.uk, cbc.ca