รักเป็น …ไม่เห็นทุกข์ ข้อคิดเรื่องความรัก จากแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต

ข้อคิดเรื่องความรัก “รักให้เป็น ก็ไม่เห็นทุกข์” จากแม่ชีศันสนีย์

อย่ากลัวความรักไปเลย ถ้า ” รักเป็น ” คุณก็จะไม่เป็นทุกข์ ใครกำลังหวาดกลัวความรัก อยากให้อ่านบทความต่อไปนี้ค่ะ แล้วคุณจะพบว่าถ้าเรารักด้วยความเข้าใจ รักด้วยสติปัญญา … ความรักก็เป็นสิ่งสวยงาม แต่ถ้าความรักของเราเริ่มต้นอย่างขาดสติปัญญา … เราจะพบว่าความรักนั้นจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดแบบที่ไม่มีใครปรารถนา ดังนั้น คงจะดีไม่น้อยหาก ข้อคิดเรื่องความรัก ในบทความนี้จะชักนำให้ผู้อ่านเลือกใช้สตินำทางความรักจากนี้เป็นต้นไป 🙂

เพราะความรักคือความสวยงาม เมื่อใดก็ตามที่มีความรัก ชีวิตจะร่าเริงเบิกบาน ยามใดที่ขาดรัก จะเห็นว่าจิตใจของเราห่อเหี่ยว ลองนึกย้อนไปถึงความรู้สึกเมื่อแรกรักดูว่า ความรักทำให้คุณและเขา ร่าเริงเบิกบานแค่ไหน ลองมองกลับมาที่ตัวเอง จะเห็นว่า … เวลาที่เรารักใครสักคนหนึ่ง เรามักจะปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำให้คนคนนั้น มีความสุขเพราะเรา เวลาที่เรารักใครสักคนหนึ่ง เรามักจะดำรงชีวิตของเรา เพื่อคนคนนั้นอย่างเต็มที่ เราจะรักษาความสุขในปัจจุบันเพื่อให้คนที่อยู่ข้างหน้าเรามีความสุขไปกับเราด้วย

เวลาที่เรามีความรัก เราต้องฝึกฝนที่จะเข้าใจคนที่เรารักด้วย ถ้าเรามัวแต่ปรารถนาให้คนที่เรารัก ทำอะไรดั่งใจเรา เราอาจจะทุกข์ก็ได้ แต่ถ้าเรามีโอกาสที่จะพัฒนาสติปัญญาของเรา แล้วเข้าใจคนที่เรารักอย่างลึกซึ้ง การเข้าใจอย่างลึกซึ้งนี้เอง จะทำให้เรารู้ว่าทำไมเขาจึงเป็นเช่นนั้น

การฝึกมองคนอย่างนี้ เราจะรู้ว่าความปรารถนาดีของเราที่แผ่ออกไปนั้น เป็นผลพวงแห่งความรัก แล้วการให้โอกาสคนที่เรารักได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อย่างคนที่รู้ว่าเราพร้อมที่จะให้โอกาสเขาเสมอนั้น เป็นหนทางที่ดีที่จะทำให้ความรักของเรายั่งยืน อย่าคิดที่จะรักแล้วทำให้คนที่เรารักเป็นดั่งใจคุณ แต่ขอให้คุณมีความสุขที่ได้รัก และพัฒนาชีวิตของคุณให้รักได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่คนที่คุณรักนั้นทำสิ่งที่ผิดพลาด แล้วก็รู้ว่าความผิดพลาดนั้นจะทำให้สามารถมองหาทางออก ที่จะพัฒนาความรักของคุณและเขาด้วย

ความรักไม่ใช่เรื่องน่ากลัวค่ะ ฉะนั้น ไม่จำเป็นต้องเข็ดความรัก เพราะขยาดความทุกข์ แค่รักให้เป็น … ก็ไม่เป็นทุกข์ความรักไม่ได้ทำให้เราทุกข์ … ความยึดติดที่จะให้เขาเป็นดั่งใจเราต่างหากที่ทำให้ทุกข์

ว่าแล้วก็มาดูวิธีรักษาความรักให้สดใสอยู่เสมอกันดีกว่า >>> “รักเราไม่เก่าเลย” 5 วิธีดูแลความรักให้สดใสอยู่เสมอ

Cr : นิตยสาร Secret

คอร์สเร่งรัด! เรียนรู้อุปกรณ์พร้อมมารยาทงานแต่งแบบโต๊ะจีนที่แขกต้องรู้

อีกหนึ่งรูปแบบงานแต่งที่ได้รับความนิยมคือ งานแต่งแบบโต๊ะจีน เพราะนอกจากจะมีที่นั่งแล้วยังรับประกันได้ว่าแขกจะทานอาหารอิ่มอร่อยกลับบ้านชัวร์ แถมบ่าวสาวยังควบคุมงบประมาณได้ง่ายอีกด้วย แต่ที่ไม่ง่ายสำหรับแขกก็คือหากต้องนั่งร่วมโต๊ะกับแขกแปลกหน้าที่ไม่สนิทนี่สิจะต้องทำตัวยังไง? แพรว wedding เลยจัดคอร์สมารยาทบนโต๊ะจีนแบบเร่งรัดมาฝาก

โต๊ะจีนของแท้ต้องทรงกลม

เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของโต๊ะจีนคือโต๊ะทรงกลม ซึ่งไม่เกี่ยวกับความเสมอภาคใดๆ ทั้งสิ้น แต่เพื่อให้แขกทุกคนบนโต๊ะสามารถตักอาหารทุกจานได้อย่างทั่วถึง โดยที่ไม่ต้องยกจานส่งต่อกันแขนล้าเพราะก็อย่างที่เห็นๆ กันนั้นล่ะค่ะว่าอาหารที่มาเสิร์ฟแต่ละจานนั้นก็ใหญ่โตใช่เล่น เพราะฉะนั้นคนที่นั่งกินหมดโอกาสยกจานส่งต่อกันแน่นอน นอกเสียจากว่าอยากจะออกกำลังกายลดเหนียงระหว่างมื้ออาหาร ซึ่งปัจจุบันโต๊ะจีนก็ได้พัฒนาดีไซน์ใหม่ให้ง่ายกว่าเดิมที่เรียกว่า เลซี่ ซูซาน (Lazy Susan) หรือกระจกกลางโต๊ะที่หมุนได้รอบ จึงทำให้แขกไม่ต้องลุกขึ้นเพื่อข้ามไปตักอาหารอีกฝั่งให้หน้ามืด แค่นั่งหมุนกระจกสวยๆ อาหารจานโปรดก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว

งานแต่งแบบโต๊ะจีน

อาวุธพิชิตอาหาร

ส่วนมากแล้วโต๊ะจีนจะมี 10 ที่นั่ง แต่ละที่นั่งก็จะมีอุปกรณ์ไม่เยอะแถมไม่ยุ่งยากเท่ากับการจัดโต๊ะแบบยุโรปที่เต็มไปด้วยสารพัดช้อนส้อม แต่อุปกรณ์บนโต๊ะจีนนั้นแค่เริ่มต้นด้วย ตะเกียบ 1 คู่ วางอยู่นอกสุดทางด้านซ้าย ต่อด้วยช้อนขนาดใหญ่ 1 คัน อ๊ะ! แต่ไม่ใช่สำหรับตักอาหารเข้าปากนะคะ แต่เพื่อใช้คลุกเคล้าอาหารที่อยู่ตรงหน้าต่างหาก

ถัดจากช้อนและตะเกียบแล้ว ลำดับถัดมาคือ จานอาหาร มักจะเป็นจานที่ไม่ใหญ่มากนักประมาณ 6.5 นิ้ว เล็กๆ กำลังดี เหนือจานขึ้นไปคือ ถ้วยชาร้อน เป็นถ้วยชาขนาดเล็ก ซึ่งสาเหตุที่โต๊ะจีนมักจะเสิร์ฟเป็นชาจีนก็เนื่องมาจากว่าอาหารจีนส่วนมากจะทั้งเลี่ยนและน้ำมันเยอะจึงต้องมีน้ำชามาดับความเลี่ยนของอาหารนั่นเอง

ส่วนตำแหน่งข้างๆ ถ้วยชา คือถ้วยซุปและช้อนซุป ซึ่งในบางที่ถ้วยซุปนี้จะไมได้ทำหน้าที่เป็นถ้วยใส่ซุปหรอกนะคะ แต่จะใช้เป็นแค่ที่พักช้อนเท่านั้นเอง เพราะเมื่อถึงเวลาเสิร์ฟก็จะมีถ้วยซุปมาให้อยู่แล้ว

มารยาทเล็กๆ น้อยๆ ที่ควรรู้บนโต๊ะจีน

  • คำแรกของโต๊ะ ต้องตักให้ผู้อาวุโสที่สุดก่อน
  • ถ้าอยากจะคีบอาหารให้กับใคร ต้องกลับด้านตะเกียบก่อนเสมอ
  • เศษอาหารทิ้งไว้บนโต๊ะได้นะ
  • ปลาตัวใหญ่ ไม่ต้องพลิกกลับด้าน แต่ใช้วิธีเลาะก้างปลาออก

เป็นไงบ้างคะ เห็นไหมว่าถึงจะเป็นโต๊ะจีนที่เราคุ้นๆ กันอยู่แล้ว แต่กลับมีเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ซ่อนเอาไว้ที่ต้องรู้ เพื่อที่จะได้เข้าร่วมโต๊ะแบบไม่เคอะเขินแถมยังดูดีมีมารยาทอีกด้วย

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณวีรพงษ์ ซ้อนศรี ผู้จัดการแผนกจัดเลี้ยงโรงแรม โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพ และ คุณ ภัทรียา ณ นคร
ภาพ : yoyochinese.com, www.sino-hotels.com

วางไทม์ไลน์วันแต่งงานล่วงหน้า ตัดปัญหาพาหัวหมุนในวันจริง!

แพรวเวดดิ้งมาชวนคุณเตรียมทำไทม์ไลน์สำหรับ วันแต่งงาน ของคุณกันค่ะ เริ่มกันตั้งแต่ตื่นนอน จนถึงขั้นตอนส่งแขกกลับหลังจากงานเลี้ยงเสร็จสิ้น และถ้าจะให้ดีสุดๆ เราแนะนำให้ชวนคุณว่าที่สามีมานั่งทำด้วยกันเลย เพราะมันมีประโยชน์มากๆ และเรารับรองว่าเมื่อถึงวันนั้นคุณทั้งคู่จะคลายกังวลไปได้มากเลยล่ะค่ะ

 

  • วางไทม์ไลน์ให้ครบถ้วนทุกขั้นตอน แล้วเผื่อเวลา 5-10 นาทีไว้ในแต่ละขั้นตอน เพราะระหว่างนั้นอาจมีอีเวนท์ที่ไม่คาดฝันเข้ามา แค่วางขั้นตอนให้เป๊ะและเผื่อเวลาไว้บ้างเท่านั้นเอง งานนี้นอกจากจะไม่พลาดทุกขั้นตอนของวันสำคัญแล้ว คุณเองก็ไม่ต้องกังวลหรือเครียดกับเรื่องเวลาที่วางไว้อีกด้วย

  • ก่อนวันงาน 2 สัปดาห์ เราแนะนำให้คุณทำลิสท์แขกคนสำคัญให้กับช่างภาพ คุณจะได้มั่นใจว่าโมเม้นท์ในวันสำคัญของคุณกับคนพิเศษเหล่านั้นจะไม่ตกหล่นหายไป และถูกเก็บไว้โดยช่างภาพของคุณ

  • ถ้างานนี้คุณจัดเองโดยไม่พึ่งแพลนเนอร์ คุณควรจัดไทม์ไลน์ในการเตรียมงานในวันนั้นให้เหมาะสม สถานที่จัดงานอนุญาตให้เข้าเตรียมงานได้เทื่อไร ทีมดอกไม้ควรเริ่มและใช้เวลาแค่ไหน ทีมแสงสีเสียงควรเข้าตอนไหน อาหารและเครื่องดื่มควรพร้อมก่อนงานเริ่มสักกี่ชั่วโมง เป็นต้น คุยกับทุกเวนเดอร์ของคุณให้ชัดเจน ทำความใจให้ตรงกันจะได้ไม่เกิดความผิดพลาด ทั้งนี้คุณควรวางไทม์ไลน์ให้รอบคอบเพื่อให้งานของคุณไม่ต้องขาดองค์ประกอบที่สำคัญต่างๆ ไป

  • ใช้เวลาสำหรับเสริมสวยให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในวันสำคัญอย่างนี้เสื้อผ้า หน้า และผมนั้นสำคัญซะยิ่งกว่าอะไรสำหรับคุณเจ้าสาว เพื่อนเจ้าสาวเองก็ต้องทำงานหนักในขั้นตอนนี้ ดังนั้นเราแนะนำว่าอย่าเร่งรีบกับขั้นตอนนี้จนเกินไปนัก เพราะฉะนั้นเริ่มให้ไว เพื่อที่คุณจะได้มีเวลาทำสวยเยอะๆ

  • อย่าพลาดช็อตสำคัญขณะเตรียมตัวระหว่างขั้นตอนต่างๆ สะกิดช่างภาพกันลืมให้เก็บโมเม้นท์พวกนั้นไว้ ไม่ว่าจะเป็นชุดบ่าว-สาว รองเท้าคู่สวย ของชำร่วย เป็นต้น แล้วอย่าลืมให้ช่างภาพเก็บภาพคุณกับคู่รักยิ้มกว้างๆหลังจากเตรียมตัวเสร็จไว้ด้วย ยิ่งกับสถานที่ที่สวยงามและมีความหมายด้วยแล้ว งานสำคัญแบบนี้ก็ต้องเริ่มต้นด้วยความสดใสสิ จริงไหมคะ

วันแต่งงาน

  • ถ้างานนี้มีเด็กน้อยน่ารักมาเป็นส่วนหนึ่งของงานด้วย คุณต้องแน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการดูแลที่ดี มีสถานที่ให้เด็กๆ ได้พักผ่อน พร้อมขนมนมเนยที่จะทำให้หนูๆ ทั้งหลายสดชื่นและมีพลัง

วันแต่งงาน

  • อย่าลืมใส่ช่วงเวลาในการรับประทานอาหารของคุณและคู่รักลงไปในไทม์ไลน์ช่วงงานเลี้ยงฉลองเชียว จะวุ่นวายหรือซาบซึ้งกินในจนทานอะไรไม่ลงคุณก็ต้องเตือนตัวเองไว้ กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะคะสาวๆ ไม่ทานอะไรแล้วออกไปเต้นรำเปิดฟลอร์นี่อาจจะพาคุณหน้ามืดได้ง่ายๆ เลยน้า

วันแต่งงาน

  • เจรจากับทุกเวนเดอร์ของคุณไว้ก่อน ในกรณีที่งานอาจจะเลทออกไปด้วยหลายๆ ปัจจัย พูดคุยกันให้เข้าใจว่ามันอาจเกิดขึ้นได้และนั่นอาจหมายถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องเพิ่มขึ้นด้วย

>> ดูไอเดียงานแต่งและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

cr : marthastewardwedding.com

7 คาถามหาเสน่ห์ เสริมความเนื้อหอมแบบไม่ต้องพึ่งน้ำหอม!!

ท่องไว้ให้ติดปากกับ คาถามหาเสน่ห์ เสริมความเนื้อหอม

แพรว wedding ได้รวบรวมสารพัด คาถามหาเสน่ห์ มาฝากคุณสาวๆ หรือหนุ่มๆ ไว้ไปเพิ่มเสน่ห์กัน ถ้าพร้อมแล้วจุดธูปจุดเทียน พนมมือไว้ให้พร้อม แล้วเริ่มบริกรรมคาถาได้เลย

ขอเริ่มต้นที่ พระคาถามหาเสน่ห์ ซึ่งเป็นคาถาพุทธคุณ (คุณของพระพุทธเจ้า) ที่จะต้องท่องนะโม 3 จบก่อน แล้วจึงท่องพระคาถาตามดังนี้

พุทโธ จับจิต ธัมโม จับใจ สังโฆ รักใคร่
พุทโธ มามา ธัมโม มามา สังโฆ มามา
นะเมตตา โมเห็นหน้ารักสนิท พุทจับจิต ธามิให้กำจัด
ยะกระหวัดจิต…(ชื่อคนรัก)…รักอย่าละ
ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระนังคัจฉามิ ฯ

เวลาที่จะใช้คาถาพุทธคุณบทนี้ แนะนำให้สวดภาวนาพร้อมกับสีผึ้งทาปากหรือลิปสติกก่อนที่จะไปติดต่อพูดคุย เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้เกิดความรักใคร่เป็นมหานิยมคนรักคนหลงเป็นมหาเสน่ห์ อ่ะๆๆ รู้แบบนี้แล้ว จะค้าขายสร้างอนาคต หรือจะไปพบผู้ใหญ่ขอความรักความเอ็นดูก็อย่ารอช้า ท่องเลย!!

ต่อกันที่เซ็ตคาถามหาเสน่ห์ที่ทำให้เกิดความหลงใหลหรือความปลาบปลื้มใจกันดีกว่า ซึ่งสารพัดคาถาด้านล่างนี้สามารถใช้ได้ทั้งกับสาวโสดหนุ่มหงอย และหนุ่มสาวที่รักกันดีแต่อยากเพิ่มเติมความหวานให้แก่กัน

คาถามหาเสน่ห์ (เจอ) รักแท้

โอมนะโมพุทธายะ พุทธัง สระติ ธัมมัง สะระติ สังฆัง
สะระติจิตตังสะมาเรมะมะเอทิเอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา
พะหูชะนา เอหิ

คาถาแรกนี้จัดมาให้กับบรรดาคนโสดโดยเฉพาะ หากกำลังจะออกไปเจอคนที่หมายปอง แค่ท่องคาถานี้ใส่ลูกอมก่อน เมื่อเจอหน้ากันก็หยิบลูกอมเม็ดนี้มาอม เชื่อกันว่าเขาจะเกิดอาการปิ๊งๆ กลับมาแน่นอน

คาถามนต์รักมหาเสน่ห์

โอม นะ ปะ โร รันนะขุเภติ
พุทธัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา
ธัมมัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา
สังฆัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา

ว่ากันว่าคาถาบทนี้จะดีงามก็เมื่อท่องใส่ช่อดอกไม้ที่จะนำไปให้คนที่หมายปอง เพราะเมื่อเขาได้สูดดมกลิ่นหอมเข้าไปจะทำให้หลงเสน่ห์และมอบความรักกลับมา ถ้าอยากรู้ว่าจะเป็นจริงไหม ลองนำไปทำตามกันดูนะจ๊ะ

คาถามหาเสน่ห์อินเลิฟยิ่งกว่าเดิมร้อยเท่า

จันโทอะภกันตะโร
ปิติ ปิโย เทวะมนุสสานัง
อิตภิโยปุริ โส
มะ อะ อุ อุ มะ อะ อิสวาสุ อิกะวิติ

จัดว่าเป็นคาถาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเท่าที่ค้นคว้าข้อมูลมาการันตีเป็นเสียงเดียวกันว่า ใช้แล้วเห็นผลดีมานักต่อนัก เพียงแค่ภาวนาคาถานี้ 3 จบ ก่อนออกไปพบคนที่เราหมายปอง เขาก็จะให้ความรักเรากลับมา อ่ะ…ก็ลองดู!!

คาถาผัวรักผัวหลง

โอม นะจิตตัง เห็นหน้า…(ชื่อ)…รักสนิท
ธาจับจิต ยะจับใจ…(ชื่อ)…นะหลงใหล
จับใจ…(ชื่อ)…ให้มารัก นะโมพุทธายะ

ใครมีคู่แล้วต้องบทนี้ เพราะเชื่อว่าบทนี้จะช่วยทำให้เขาคนนั้นยิ่งรักยิ่งหลง วิธีใช้งานก็ง๊ายง่าย แค่สวดวันละ 3 จบ (แหม…ยังกับกินยาหลังอาหาร 3 มื้อ) ส่วนจะท่องเวลาไหนไม่ว่ากัน ขอให้ท่องทุกวี่วันเขาจะเลิฟเขาจะหลงคุณแน่นอน

คาถาขุนแผนมหาเสน่ห์

คาถาบทนี้ สวดสั้นๆ แต่เจ๋งแน่ๆ “เอหิมะมะ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ” เพราะขึ้นชื่อว่าขุนแผนขนาดนี้ เวลาท่องก็ต้องนึกถึงชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหล โดยคาถาบทนี้สามารถใช้ท่องกับของส่วนตัวชิ้นไหนของเราก็ได้ จากนั้นใช้ของชิ้นนั้นซะ เชื่อว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มเสน่ห์

ปิดท้ายคาถาเสริมเสน่ห์เพิ่มความเอ็นดูให้กับบุพการีของแฟนกันดีกว่า เราขอจัดให้ตรงๆ กับ คาถาเอ็นดูมหาเสน่ห์ ที่ว่า

วิชชาจะระณะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา
ปิยะเทวะมนุสสานังปิโยพรหมานะ มุตตะโม
ปิโยนาคะ สุปัณณานัง
ปิณินทะริยัง นะมามิหัง
นะเมตตา โมกรุณา พุทปรานี ธายินดี ยะเอ็นดู

คาถาบทนี้สาวๆ หนุ่มๆ ควรรู้ไว้ติดตัวหรือนำใช้ก่อนออกไปพบผู้หลักผู้ใหญ่จะทำให้ท่านเกิดความรัก ความเอ็นดู หรือจะใช้ตอนที่ต้องเข้าไปพบพ่อ-แม่แฟนที่บ้านก็เลิศไม่น้อย

คาถามหาเสน่ห์ที่ว่ามานี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลนะจ้ะ ถ้าท่องแล้วสบายใจไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ทำเถอะ แต่สิ่งที่คุณๆ ท่านๆ ทั้งหลายควรทำมากที่สุดคือการดูแลตัวเองให้ดี ประพฤติดีประพฤติชอบ และมอบความรักให้แก่กันด้วยความจริงใจ เพียงแค่นี้ คาถาไหนๆ ก็สู้ไม่ได้แล้วล่ะจ้ะ

แถมให้อีกนิดกับ วิธีการการทำบุญให้เจอคู่แท้

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.goosiam.com, www.rakjung.com, blog.eduzones.com/lunla, horoscope.sanook.com, บทสวดมนต์-คาถา.blogspot.com, board.palungjit.org

4 ข้อผิดพลาดต้องเตรียมการให้ดีเกี่ยวกับการขอแต่งงานที่หนุ่มๆ ควรรู้

ยังคงอินกันต่อกับเรื่องราวของการ ขอแต่งงาน อย่างที่เคยบอกกันไปแล้วว่าจะขอสาวแต่งงานทั้งทีก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม เพราะไม่ใช่ทุกคนหรอกนะคะที่จะสมหวัง ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แป้กๆ หนุ่มๆ ก็ควรจะรู้ก่อนว่าอะไรคือข้อผิดพลาดที่ทำให้การขอแต่งงานของคุณล่มไม่เป็นท่า

ขอเธอแต่งงานมือเปล่า

อย่ามีเพียงมือเปล่าไปขอสาวแต่งงานโดยเด็ดขาด จำไว้นะคะว่าผู้หญิงร้อยทั้งร้อยคาดหวังแหวนวงงามพร้อมถ้อยคำขอแต่งงานหวานๆ จากคุณ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่คุณมีและเป็นเครื่องการันตีว่าคุณไม่ได้มาเล่นๆ

ขอเธอแต่งงานเร็วเกินไป

อย่ามั่นใจในรักระยะสั้น เพราะมันสุ่มเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธเอามากๆ บางทีความรักที่ดูหวานแหวว ณ ปัจจุบันอาจไม่ได้แปลว่าเธอจะตัดสินใจใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกับคุณ เชื่อเถอะว่าดูกันไปนานๆ ดีที่สุด หรืออย่างน้อยก็ควรรอสัญญาณดีจากเธอเสียก่อน แล้วค่อยเดินหน้าสานรักแบบเต็มกำลังก็ยังไม่สายเกินไป

ขอเธอแต่งงานต่อหน้าสาธารณชน

ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนหรอกนะคะที่ชอบป่าวประกาศความรักให้คนทั้งโลกรู้ ดังนั้นการเซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงานต่อหน้าสาธารณชนจึงเป็นเรื่องที่คุณควรมั่นใจก่อนว่าสาวเจ้าเขาจะโอเค หนุ่มๆ หลายคนคงไม่รู้สินะว่าการอยู่กันสองต่อสองจะทำให้เธอเผยความในใจได้เต็มที่มากกว่า ดังนั้นถ้าอยากดื่มด่ำกับช่วงเวลาแสนหวาน เราขอแนะนำว่าขอกันสองคนก็ดูเอ็กซ์คลูซีฟดีนะคะ

บอกแผนการให้คนอื่นรู้มากเกินไป

การแพร่งพรายถึงแผนการให้คนอื่นรู้มากเกินไปอาจทำให้เรื่องไปถึงหูสาวคนรักของคุณก็ได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วมันจะไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพร้ส์สำหรับเธออีกต่อไป อีกทั้งแม่สาวของคุณอาจจะไม่ค่อยปลื้มใจเท่าไหร่นัก ถ้ารู้ว่ามีคนมากมายที่รู้แผนการนี้ เพราะมันดูไม่พิเศษเอาซะเลย

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

8 ไอเดียประหยัดงบตกแต่งงานแต่งงานให้สวยด้วยผ้าโปร่งทั้งผืน

เคยมีความคิดหนึ่งแว่บเข้ามาในหัวว่า ถ้าวันหนึ่งได้แต่งงานจะประหยัดงบประมาณในการ ตกแต่งงานแต่งงาน ด้วยการใช้ผ้าชนิดเดียวกัน แบบเดียวกัน ที่ซื้อมาทีละเยอะๆ ในราคาไม่แพงมาตกแต่งให้ทั่วทุกจุด และใช้กับทุกสิ่งเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งมาถึงวันนี้ แม้จะยังไม่ได้แต่ง แต่ไอเดียที่ว่าก็พวยพุ่งจนหาข้อมูลมาได้ว่า ผ้าโปร่งในความคิด ผลิตเป็นชิ้นงานในงานแต่งได้จริงเพียบเลย ว่าแล้วใครจะแต่งงานตอนนี้ ก๊อปปี้ไปใช้ได้เลย ไอเดียทั้งหลายนี้ไม่มีหวง

ใช้เป็นฉากหลังบนเวทีหรือแท่นประกอบพิธี

ห้อยผ้าโปร่งที่ฉากหลังบนเวทีหรือแท่นทำพิธีในงานแต่งงานเอาท์ดอร์ หรือในห้องจัดเลี้ยงได้ทั้งหมด ซึ่งถ้าอยากเพิ่มความมีอะไรก็นำผ้าโปร่งมาจับชั้นทำระบายใส่เลเยอร์ หรือแม้แต่มัดเป็นปมแบบมีดีไซน์ก็กลายเป็นการตกแต่งเก๋ๆ ได้อีกเยอะ แต่ถ้าขยันหน่อยและมีแรงงานช่วย จะวัดขนาดผ้าโปร่งตัดเป็นเส้นๆ ติดไปบนกำแพงให้พลิ้วไหวเวลาต้องลมก็จะได้ภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึกเพียบ

ตกแต่งงานแต่งงาน

ทำเป็นผ้าปูโต๊ะก็ได้

แค่การนำผ้าสีพื้นมาคลุมโต๊ะดินเนอร์หรือโต๊ะทานเลี้ยงแบบ Long Table อาจดูว่าธรรมดาเกินไป คุณอาจนำผ้าโปร่งมาคลุมทับหรือจับจีบแต่งช่วงปลายแล้วทิ้งชายลงข้างโต๊ะ ก็เพิ่มรายละเอียดความสวยงามในงานแต่งได้ไม่เหมือนใคร

จัดผ้าโปร่งมาคลุมเก้าอี้

อีกดีไซน์หนึ่งที่เข้ากันได้ดีและทำตามไม่ยาก คือตัดผ้าโปร่งเป็นชิ้นยาวขนาดพอดีคลุมเก้าอี้ในงาน โดยจะนำมาย้อมสีเข้าธีมก่อนก็ได้ (แต่ต้องชัวร์นะว่าสีไม่ตกและตากแห้งสนิทแน่นอน แบบว่านั่งลงไปไม่มีสีมาติดชุดสวยหรือฝนตกใส่สีไม่ละลายออกมา) คลุมลงไปที่เก้าอี้ทุกตัว โดยให้ความยาวของผ้าทิ้งชายจรดพื้นที่ด้านหน้าและตรงพนักพิง

ใช้ผ้าโปร่งกลบความไม่สวยงามด้านในเต๊นท์

อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะผ้าโปร่งที่ว่านี้สามารถช่วยกลบความไม่สวยที่บริเวณเพดานภายในเต๊นท์ แค่จับผ้าขึ้นด้านบนและขึงแบบทิ้งน้ำหนัก (ตามภาพ) โดยขึงให้ทั่วเพดานปกปิดความไม่สวยในจุดที่ต้องการค่ะ

ทำเป็นพู่ Pom Pom ย้อมสีตกแต่งงาน

ตัดผ้าโปร่งเป็นชิ้นๆ มาเป็นเป็นลูก Pom Pom คละขนาดแล้วย้อมสีแค่ช่วงปลาย จากนั้นนำมาห้อยแขวนเรียงรายกันที่ประดูทางเข้างาน กำแพง ห้อยจากเพดานหรือตกแต่งที่โต๊ะเค้ก สารพัดจุดที่สามารถตกแต่งได้ค่ะ

ง่ายสุดๆ กับการใช้เป็นผ้าม่าน

ไม่ยากสักนิดกับหัวข้อนี้ เพราะแค่วัดขนาดความสูงให้เหมาะแล้วทำเป็นผ้าม่านให้ครบทั้งสี่มุมในบริเวณจุดลงทะเบียน โต๊ะวีไอพี หรือแม้แต่ตรงประตูทางเข้าที่บางฮอลล์จะมีทางเข้าหลายจุด

พันไว้กับช่อดอกไม้เจ้าสาว

จากช่อดอกไม้เจ้าสาวธรรมดาๆ ที่นิยมใช้ริบบิ้นทึบๆ มาพันก้านเอาไว้กันหนามกุหลาบตำมือก็เปลี่ยนมาเป็นการใช้ผ้าโปร่งสีขาวพันแทน แบบนี้เข้าธีมกว่ากันเยอะเลยเห็นไหม

ประกอบใหม่เป็นเครื่องประดับสิ่งต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นกิ๊บติดผมเด็กโปรยดอกไม้นำบ่าวสาวเข้างาน ที่ผูกข้อมือเพื่อนเจ้าสาว ที่ติดหน้าอกเจ้าบ่าวหรือแม้แต่ประดับผมเจ้า แค่ตัดผ้าโปร่งมาจับช่อขึ้นรูปใหม่ติดกิ๊บหรือเข็มกลัดลงไปก็ใช้งานได้แล้วค่ะ

เห็นไหมละคะ ว่าผ้าโปร่งชนิดเดียวกัน ซื้อมาเป็นผืนใหญ่ๆ พับโตๆ คุณก็สามารถประหยัดงบประมาณได้เพียบ แถมยังนำไปตกแต่งได้อีกสารพัดสิ่งในงานเกินคาดหมายจริงๆ ค่ะ

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

จะจัดงานแต่งทั้งทีลองดูฮวงจุ้ยงานแต่งงาน จัดตามนี้รับรองว่าดี!

ฮวงจุ้ยงานแต่งงาน โดยซินแส เป็นหนึ่ง จัดตามนี้รับรองว่าดี!

จะสร้างเรือนหอ จะเปิดบริษัท ยังต้องมีหลักฮวงจุ้ย แล้วทำไมจะจัดงานแต่งทั้งที จะอาศัยหลัก ฮวงจุ้ยงานแต่งงาน มาเสริมดวงด้วยไม่ได้ งานนี้ ซินแสเป็นหนึ่ง  ซินแสด้านฮวงจุ้ยชื่อดังแห่งยุคและยังเป็นผู้ออกแบบโลโก้งานแต่งงานให้กับนางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ จะมาเปิดเผยความลับฟ้าดิน ทั้งตำแหน่งในงานแต่ง และการออกแบบการ์ดแต่งงาน วางตำแหน่งให้ถูกตำราชีวิตรักยั่งยืน!!

ฮวงจุ้ยงานแต่งงาน

การวางตำแหน่ง ฮวงจุ้ยงานแต่งงาน เป็นเรื่องสำคัญที่พลังจะช่วยหนุนนำคู่รักให้ครองคู่กันอย่างยั่งยืน  จำหลักง่ายๆ เมื่อหันหน้าเข้าหางาน คือ

ขวาไฟ ซ้ายน้ำ

ด้านขวาของงานควรจะเป็นโทนสีส้มแดง หรือมีการตกแต่งด้วยแสงไฟ

ด้านซ้ายของงานควรจะเป็นโทนสีฟ้า ที่ให้ความร่มเย็น หรือประดับด้วยสายน้ำ

หญิงยืนซ้าย ชายยืนขวา

ฮวงจุ้ยงานแต่งงาน

ตำแหน่งการยืนของคู่บ่าวสาว คือเมื่อหันหน้าเข้าสู่งาน ผู้หญิงต้องยืนฝั่งซ้าย ผู้ชายยืนฝั่งขวา เป็นไปตามหลักของหยินและหยาง

จำนวนโต๊ะในงานแต่ง ต้องเป็นเลขคี่! หรือบวกกันได้เลขคี่ เพราะเป็นเลขที่แฝงไว้ด้วยความสำเร็จ และทำให้เรื่องราวมีความสมดุลกัน

โลโก้งานแต่ง

การออกแบบโลโก้งานแต่งซินแสเป็นหนึ่ง บอกว่าเป็นเรื่องยากที่ใช้ความละเอียดอ่อนอย่างสูง ต้องดูวันเดือนปีเกิด ลักษณะนิสัย มาร่วมออกแบบด้วย หากเป็นคนอารมณ์ร้อนทั้งคู่ ก็จะต้องใช้เรื่องสีที่ให้รู้สึกว่าเย็น ลายเส้นต้องลื่นไหล หากเป็นคนชอบบริหารเสน่ห์ก็ต้องตัดบางอย่างออกเพื่อให้รักนี้สมบูรณ์

การ์ดแต่งงานเจนี่

ถึงจะฟังดูแล้วยาก แต่คู่รักที่อยากออกแบบเองอย่างง่าย ซินแสเป็นหนึ่งก็แง้มหลักสำคัญเอาไว้ให้ ตามนี้

  1. ลายเส้นโลโก้ควรเป็นลายเส้นที่ต่อเนื่องกัน ห้ามขาดออกจากกัน
  2. ห้ามมีเหลี่ยมมุมในตัวลายเส้น
  3. หากมีมุมแหลมในโลโก้ ก็ต้องทิ่มออกด้านนอก ห้ามทิ่มเข้าสู่ตัวโลโก้
  4. 3 รูปต้องที่มี คือ วงกลม หัวใจ และรูปอินฟินิตี้ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความสุข และการเงินที่สมบูรณ์

บ่าวสาวคู่ไหนที่อยากได้ทริคดีๆ แบบนี้สำหรับการจัดงานแต่งงาน เรายังมีอีกเพียบเลยนะ ไม่ว่าจะเป็น >> พิธีไทย << และ >> พิธีสากล <<

ภาพ IG : fengshui6909  และ pinterest

3 เคล็ดลับดี๊ดีของ อาหารมงคล ในงานแต่งทำแบบนี้แล้วดีคอนเฟิร์ม!

แน่นอนว่าในงานแต่งคุณต้องสรรหาอาหารรสเลิศมาบริการแขกเหรื่อ แต่เราขอเตือนไว้ว่าถ้าอยากให้ชีวิตคู่แฮปปี้ อาหารที่หามาจะอร่อยอย่างเดียวไม่พอ ต้องเป็น อาหารมงคล ด้วยนะจ๊ะ โดยหลักจำง่ายๆ ในเบื้องต้นคือ เมนูไหนเปล่งเสียงออกมาแล้วแบบว่าฟังดูไม่รื่นหูก็อย่าสั่ง เมนูไหนพูดออกมาแล้วรู้สึกถึงความหมายดีๆ ออเดอร์เลย ว่าแล้วไปดูค่ะว่า เมนูไหนบ้าง

1. เมนูฟังแล้วไม่รื่นหูก็อย่าสั่ง

อาหารคาวที่ว่ากันว่าห้ามไม่ให้นำมาเลี้ยงแขกหรือแม้แต่มีในงานแต่ง ได้แก่ อาหารจำพวกแกงบอน แกงหอยขม ต้มยำ เพราะชื่อไม่เป็นมงคล ฟังแล้วแสลงใจ เดี๋ยวก็ (ปาก) บอน เดี๋ยวก็ (ชีวิต) ขม  รู้แบบนี้ห้ามออร์เดอร์เด็ดขาด!

2. เมนูความหมายดีต่อใจ

ส่วนใครที่ปลื้มมากกับอาหารเส้น ไม่ว่าจะเป็นขนมจีนหรือแม้แต่ฝอยทอง ต้องใช้แบบที่เป็นจับสวย เส้นไม่ขาด เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้มีชีวิตคู่ยืดยาว ฉะนั้นแล้วถ้าจะนำมาเลี้ยงแขกขอให้กำชับคนจัดสำรับเลยว่าอย่าให้เส้นขาดเด็ดขาด OK นะจ๊ะ

3. ห้ามกินจนหมดเกลี้ยงชามเด็ดขาด

ในส่วนของประเพณีแต่งงานแบบจีนนั้น พิธีกินขนมอี๋หรือขนมบัวลอย บ่าวสาวต้องจำไว้ว่าห้ามกินจนหมดถ้วยเด็ดขาด จะต้องเหลือติดถ้วยประมาณ 4-8 ลูก เพราะชาวจีนเชื่อว่าจะทำให้บ่าวสาวร่ำรวย มีเงินเหลือกินเหลือใช้ไงจ๊ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับแนวทางการสั่งอาหารมงคลในงานแต่งงาน สั่งมาไว้ในงานเถอะจ้ะ รับรองได้ว่าจะมงคลกันทุกหน่วยในงานแน่นอน

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อในงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพ : site.google.com

5 ปัญหาก่อกวน ชีวิตคู่ ให้ล่มก่อนได้เริ่ม ที่ว่าที่บ่าวสาวต้องรู้ก่อนแต่งงาน

ชีวิตคู่ ใครๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อคนสองคนต่างที่มา ต่างการเติบโต แล้วต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่หนทางการประคับประคองให้ยืนยาวอยู่เป็นคู่จะง่ายมากขึ้น หากรู้จัก 5 ปัญหาเล็กๆ ที่อาจลุกลามจนนำไปสู่การหย่าร้างได้ตั้งแต่ก่อนวันแต่งงาน

1. ไม่มีความเป็นตัวเอง

หลายคนบอกว่า เป็นตัวเองมากไปก็อยู่กับคนอื่นยาก แต่ถ้าไม่มีความเป็นตัวเองเลย ก็ทำให้อยู่กับคนอื่นไม่ได้เหมือนกันนะ โดยเฉพาะกับคนที่จะต้องอยู่ไปด้วยกันตลอดชีวิต เพราะหากเริ่มต้นโดยการยอมไปเสียทุกอย่าง แล้วคุณคิดว่าจะยอมไปได้อีกนานแค่ไหนกัน เมื่อถึงวันที่ยอมไม่ไหวแล้ว ความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้น ทางที่ดีคือตลอดเวลาที่เรียนรู้กันคุณต้องค่อยๆ เปิดความเป็นตัวเองให้อีกฝ่ายได้เห็น ให้เวลาทำให้เราได้เรียนรู้กันมากขึ้น และอย่าลืมตระหนักในคุณค่าของตัวเองด้วย

2. แต่งงานเพราะอะไร

เมื่อคิดถึงเรื่องแต่งงาน อย่าลืมถามตัวเองด้วยว่า เราอยากแต่งงานเพราะอะไร หากมีคำตอบว่า เพราะแรงกดดันจากสังคม สถานภาพทางการเงิน การงาน นั่นอาจแปลว่าคุณยังไม่พร้อมแต่งงาน เพราะปัจจัยเหล่านี้ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้คู่รักอยู่ด้วยกันได้ยืนยาวเลย แต่หากคำตอบคือความรัก ความเข้าใจ ล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามัวรีรอที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเลย

3. ไม่เคยคุยเรื่องเป้าหมายการใช้ชีวิตกันเลย

เรื่องเป้าหมายการใช้ชีวิตเป็นเรื่องใหญ่ และใหญ่มากสำหรับคนสองคนที่จะมาอยู่ด้วยกัน หากว่าไม่ได้มีเป้าหมายเดียวกัน หรือไม่เคยรู้เป้าหมายของกันและกันมาก่อน ก็อาจจะต่างกันพาครอบครัวไปในทิศทางที่แตกต่างกัน ทางที่ดีจึงควรมานังจับเข่าเปิดอกพูดคุยถึงเป้าหมายของแต่ละคน หากว่าเหมือนกันก็โชคดีไป แต่ถ้าไม่ การยอมรับในเหตุผลและการพบกันครึ่งทาง จะทำให้ทางเดินที่วาดหวังไว้ทอดยาวไปได้อีกไกล

4. ไม่ยอมรับในความแตกต่าง

เราไม่จำเป็นต้องพูดถึงความแตกต่างในแง่ของการเลี้ยงดู พื้นฐาน ฐานะ หรือใดๆ เอาแค่เรื่องแรก คือความแตกต่างระหว่างความเป็นหญิง ความเป็นชาย หากไม่สามารถยอมรับและเข้าใจในจุดนี้ได้ เรื่องความแตกต่างอื่นๆ ก็ยากที่จะคุยกันลงตัวได้แล้ว ทางที่ดีจึงควรคุยกันด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริง บางคู่อาจรวมไปถึงการทำข้อตกลงต่างๆ ร่วมกันเพื่อเป็นบรรทัดฐานของการใช้ชีวิตคู่ และไม่ว่าจะคุยกันเช่นไรต้องไม่ลืมว่านี่คือการปรับตัวเข้าหากัน ไม่ใช่การที่ฝ่ายใดยอมจนไม่เหลือความเป็นตัวเองนะ

5. ไม่ตั้งความหวังจนเกินจริง

หลายคนอาจจะบอกว่า “หวังให้ไกล แล้วไปให้ถึง” แต่สำหรับชีวิตคู่แล้วการตั้งความหวังนั้นทำได้ แต่ควรอยู่บนพื้นฐานของความจริงด้วย แล้วให้ความหวังนั้นเป็นเพียงแรงผลักดันเพื่อไปให้ถึงสิ่งที่ดีกว่า อย่าเคร่งเครียดจนกลายเป็นแรงกดดัน และแรงบีบคั้น เพราะแต่ละคนก็มีกำลังที่จะทนแรงกดดันได้ไม่เท่ากัน หากว่าอีกคนยอมแพ้ไปก่อน ชีวิตคู่ ที่ตั้งใจไว้ก็อาจจะเหลือเพียงตัวคนเดียวได้เหมือนกัน

หากว่าคุณบ่าวสาวพูดคุยตกลงทั้ง 5 ข้อนี้ลงตัวแล้ว ก็จะทำให้เกิดความเข้าใจพื้นฐานในการใช้ชีวิตคู่ แล้วปัญหาที่เหลือก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะจับมือฝ่าฝันไปด้วยกันบนพื้นฐานของความเข้าใจ แต่ถ้าอยากรู้เรื่องเคล็ดลับให้รักยืนยาวก็ >> คลิกอ่านได้เลย <<

ภาพ unsplash.com

25 กิมมิคสร้างสีสันให้งานแต่งงานจากธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

แพรวเวดดิ้งขอนำ 25 กิมมิคน่ารักๆ จาก ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์ ที่เหล่าสาวกของการ์ตูนค่ายนี้ต้องลองนำไปใช้ตกแต่งงานแต่งงาน บอกเลยว่าไม่ควรพลาดจริงๆ

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

สร้างสีสันบนโต๊ะอาหารให้เหมือนกับอยู่ในท้องทะเลอย่างในการ์ตูนเรื่อง Little Mermaide โดยใช้ปลาดาวตกแต่งและใช้จานคล้ายเปลือกหอยโทนสีเขียวอ่อนๆ ตัดกับดอกไม้สีสวยๆ บนโต๊ะ ก็ดูสวยน่ารักไม่เบา

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

มอบความสดชื่นให้กับแขกที่มาร่วมงานด้วยเครื่องดื่มสุดวิเศษอย่างการ์ตูนในเรื่อง Alice in the wonderland แก้วทรงสูงผูกด้วยโบว์สีหวานพร้อมหลอดสีฟ้าตัดขาวโทนสีพาสเทล

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

การ์ดเชิญที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่อง Beauty and the Beast  สร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาร่วมงานตั้งแต่แรกเห็นและยังเปลี่ยนการ์ดเชิญแบบธรรมดาให้แตกต่างที่ทั้งสวยและหรูหรามากขึ้นโดยเพิ่มโบว์และอัญมณีสวยๆ และใช้อักษรที่ดูหรูเข้ากับการ์ด ดูแล้วเจิดสุดๆ

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

กิมมิคๆ เล็กทางประตูเข้าออกของงานจากเรื่อง Tinker Bell ใช้กากเพชร (pixie dust) โปรยปรายให้ระยิบระยับ ดูฟรุ้งฟริ้ง เพ้อฝัน ให้เหมือนเหล่าบรรดาแขกที่มาร่วมงานเป็นนางฟ้า เทวดา โลดแล่นอยู่ในงาน

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

เข็มกลัดผู้กล้าจากเรื่อง Up ก็เป็นกิมมิคที่สามารถติดบนเสื้อของเจ้าบ่าวได้

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

หมวกมิกกี้เม้าส์และมินนี่เม้าส์ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว อะไรจะน่ารักขนาดนี้

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

แรงบันดาลใจในการตกแต่งสถานที่ จากเรื่อง Tangled  ทำให้บรรยากาศในงานดูอบอุ่นและโรแมนติกที่สุด

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

หรือจะเป็นการถ่ายพรีเวดดิ้งแบบเรื่อง Tangled อีกเช่นกัน ที่ให้อารมณ์แปลกไม่เหมือนใคร และดูโรแมนติกเหมือนกับตัวการ์ตูนในเรื่อง

9

อีกหนึ่งที่กิมมิคที่เราขอแนะนำเลย เพราะในงานเหล่าบรรดาสาวๆ ที่จิกส้นสูงมางานก็คงต้องเมื่อยกันบ้าง หากมีสลิปเปอร์ให้เปลี่ยนก็คงดีไม่น้อย โดยไอเดียนี้ได้จากเรื่อง Cinderella

10

กระดุมมิกกี้เม้าส์ ดีเทลเกร๋สำหรับเจ้าบ่าวที่ทำให้ไม่น้อยหน้าเจ้าสาวได้นะจ๊ะ

11

กุหลาบในโหลแก้วหนึ่งดีเทลสำคัญในเรื่อง Beauty and the Beast หากลองนำมาตกแต่งบนโต๊ะอาหารในงานต้องสวยงาม ชวนฝัน และโรแมนติกสุดๆ ท่ามกลางแสงเทียนแน่นอน

12

สมุดภาพอัลบั้มรวมรูปถ่ายพรีเวดดิ้ง เก็บความทรงจำดีๆ ให้แขกได้ร่วมซาบซึ้งและยังเป็นของตกแต่งภายในงานได้อีกด้วย กิมมิคเกร๋ๆ จากเรื่อง Up

13

มาการองรูปมิกกี้เม้าส์และมินนี่เม้าส์ ของว่างในงานที่แสนจะอร่อยและยังน่ารักอีกด้วย

14

อย่าลืมมองข้ามสิ่งเล็กๆ อย่างเล็บที่มีส่วนให้สาวๆ ดูสมบูรณ์แบบที่สุดในวันสำคัญ ลองเพ้นท์เป็นลวดลายที่ชอบหรือ อย่างลายนี้ได้แรงบันดาลใจจากเจ้าหญิง จัสมิน จากเรื่อง Aladdin

15

คัพเค้กขนมยอดฮิตที่เราเห็นในงานแต่งงาน หากใส่จานก็คงดูธรรมดาไป ว่าไหม ลองเปลี่ยนมาใส่ถ้วยน้ำชาสวยๆ ปักข้อความเกร๋ๆ อย่างในภาพนี้นั้นได้กิมมิคจากเรื่อง Alice in wonderland

16

มองเผินๆ โต๊ะอาหารในภาพอาจจะดูธรรมดา แต่เดี่ยวก่อนลองดูบนโต๊ะอีกรอบเชิงเทียนที่อยู่ในรถฟักทองนั้นช่างทำให้ดีเทลบนโต๊ะอาหารดูหรูขึ้นมาทันทีและคงไม่ต้องบอกว่างานนี้นั้นได้แรงบันดาลใจจากเรื่อง Cinderella นั่นเอง

17

เค้กแต่งงานสุดน่ารักที่ได้หุ่นยนต์จากเรื่อง Wall E มาเป็นตัวแทนของบ่าวสาว น่ารักมากว่าไหม ?

18

สแครบเบิ้ลของเล่นที่เราเห็นในเรื่อง Toy Story ลองนำมาเป็นของตกแต่งในงานให้แขกได้เล่นเพลินๆ หรือจะตั้งไว้ให้แขกได้เรียงเป็นคำอวยพรถ่ายรูปเกร๋ๆ อัพ IG หรือ Facebook แฮชแทคชื่องงานเรา ก็เป็นกิมมิคที่ดูแล้วสร้างสรรค์ไม่น้อย

19

ของตกแต่งบนโต๊ะอาหารในบางทีก็ไม่จำเป็นต้องดูหรูหราเสมอไป ลองสร้างเรื่องราวหรือกิมมิคอย่างในเรื่อง Alice in the wonderland กาน้ำชาลอยได้ที่ดูแล้วชวนมองและดูวิเศษ รับรองว่าบนโต๊ะอาหารของคุณไม่จำเจและน่าเบื่อแน่นอน

20

หากใครเคยดูการ์ตูนเรื่อง Cinderllea ต้องไม่มีทางลืมรถฟักทองที่พานางซินของเราไปพบเจ้าชายแน่นอน แต่หากเรื่องจริงมีรถฟักทองมารับเจ้าสาวของเราบ้างล่ะ คงวิเศษสุดๆ ไปเลยล่ะ

21

ไอเดียจากเรื่อง Sleeping Beauty โดยนำแกนด้ายมาใช้ตกแต่งบนโต๊ะอาหาร และยังมีกระดาษเน็ตใบเล็กที่ซ่อนข้อความอยู่บนแกนด้ายให้แขกได้อ่านก็ดูสร้างสรรค์ไม่น้อย

22

นี่ต้องเป็นเตกิล่าที่ดูน่าดื่มและดูตื่นตาที่สุด เพราะได้ไอเดียจากเรื่อง Peter Pan นั้นเอง

23

บอลดอกไม้กลมๆ ที่เราเห็นทั่วไป อาจดูธรรมดาเกินไป เปลี่ยนบอลดอกไม้ของเราเป็นรูปมิกกี้เม้าส์ก็เกร๋อย่าบอกใครเชียวล่ะ

24

โอ้ว มาย ก็อด เจ้าสาวคนไหนได้แหวนวงนี้ไปต้องร้องกรี๊ดดีใจสุดๆ แน่นอน เพราะแหวนวงนี้ได้แรงบันดาลใจมากเจ้าหญิงเอลซ่า จากเรื่อง Flozen สวย เว่อ อลังการมาก

25

เค้กรูปปราสาท มีไฟวิบวับ ให้ความรู้สึกวิเศษ และดูน่าตื่นเต้นไม่เหมือนใคร สวยงาม หรูหรา แต่กินไม่ได้นะจ๊ะ

สาวๆ คนไหนดูแล้ว ได้ไอเดียก็นำไปลองใช้กับงานตัวเองเป็นกิมมิคเสริมในงาน รับรองว่างานของคุณต้องไม่น่าเบื่อและพิเศษกว่างานไหนๆ แน่นอน

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก www.huffingtonpost.com/,http://2.bp.blogspot.com/

รักหนักแน่น กับ 4 เรื่องช่วยเสริมความสตรองให้ชีวิตคู่

รักกันให้หนักแน่นหนึบ กับ 4 เรื่องช่วยเสริมความสตรองให้ ชีวิตคู่

คงไม่มีใครอยากให้ ชีวิตคู่ ต้องพังไม่เป็นท่า หรืออยู่ด้วยกันแบบปราศจากความสุขประมาณว่าก็อยู่ๆ กันไปจริงไหมคะ แต่พอเจอบางสถานการณ์ก็กระตุ้นความหงุดหงิดจนต้องถามตัวเองว่าจะไปต่อดีไหม เอาเป็นว่าก่อนจะผลีผลามแยกย้าย ลองใช้ 4 เรื่องนี้กระชับสัมพันธ์กันอีกสักรอบค่อยตัดสินใจ

 

ตั้งสติคิดก่อนเหวี่ยง

เวลาที่เจอเรื่องอะไรก็ตามที่ทำให้คุณรู้สึกแย่กับอีกฝ่าย จงเริ่มต้นจากการบอกตัวเองให้ใจเย็น ตั้งสติและคิดให้รอบถึงต้นเหตุของการกระทำก่อนจะแสดงอาการไม่พอใจหรือเหวี่ยงวีนรุนแรงก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องเปิดศึกปะทะคารมได้นะคะ นอกจากนี้ข้อดีของการตั้งสติคิดก่อนก็คือ คุณจะได้ฝึกตัวเองให้มีเหตุผลมากขึ้นอีกขั้นด้วยนะคะ

เข้าใจสถานการณ์ชีวิตของอีกฝ่าย

บางครั้งความกดดันภายในจิตใจของอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องสุขภาพ รวมถึงปัญหาของครอบครัวฝั่งเขา ก็ส่งผลทำให้การแสดงออกกับคุณซึ่งอยู่ในฐานะคู่ชีวิตแปลกไปจากเดิม เช่นจากที่เคยขี้เล่นก็กลายเป็นคนนิ่งขรึม อารมณ์ขึ้นหงุดหงิดง่ายทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เผลอๆ บางทีก็พูดจาไม่เข้าหูโดยไม่รู้สาเหตุ ซึ่งถ้าคุณรู้อยู่แล้วว่า ณ ตอนนี้ ชีวิตเขากำลังเผชิญปัญหาอยู่ก็อย่าถือเป็นอารมณ์ อย่าเอามาน้อยใจเลยนะคะ ในทางตรงข้ามคือต้องยิ่งเข้าใจและเป็นกำลังใจเคียงข้างให้เขาผ่านพ้นไปให้ได้

แบ่งเบาปัญหาแบบไม่ก้าวก่าย

บางคนเวลามีปัญหาก็ไม่อยากรบกวนให้ใครมาเดือดร้อนด้วย จึงอยากลงมือแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง แต่คุณเอง ซึ่งอาจจะอยู่ในฐานะสามีหรือภรรยาก็นิ่งเฉยดูดายไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้อีกฝ่ายลงมือแก้ปัญหาตามที่เขาต้องการค่ะ แล้วคุณทำหน้าที่ช่วยแบ่งเบาปัญหาด้วยการรอดูจังหวะให้เหมาะๆ แล้วค่อยแสดงความเห็นหรือให้ความเห็นในยามที่เขาร้องขอก็พอ เพราะในระหว่างที่เขามีปัญหา สมองอาจไม่แล่นเท่าไหร่หรือคิดวนเวียนจนหาทางออกไม่เจอ คุณอาจเป็นคนที่ช่วยเปิดความคิดสู่ทางออกของปัญหาได้ แบบนี้แหละค่ะที่คุณช่วยแบ่งเบาให้เขาได้โดยที่ไม่ไปก้าวก่ายปัญหาหรือศักยภาพของตัวเขามากเกินไป

เติมความเอื้ออาทรให้กันเสมอ

หัวใจสำคัญที่จะทำให้ชีวิตคู่มีแต่เดินหน้าไม่ได้มีแค่เพียงการให้ความรักที่แสนหอมหวานด้วยการมอบดอกไม้ทุกวันพิเศษ การกอดกันแล้วหลับไป แต่คือการแสดงออกซึ่งความห่วงใย เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และหวังดี ซึ่งคุณทั้งคู่ควรมีและมอบให้กันอย่างสม่ำเสมอ

ลองทำกันดูนะคะ แล้วเชื่อเถอะค่ะความรัก ความเข้าใจที่ก่อเกิดจะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณเดินหน้าสู่อนาคตอันสวยงามที่ตั้งใจไว้

>> ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ชีวิตคู่ และความสัมพันธ์อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : redbookmag.com a a a

7 คำถามช่วยเจ้าสาวตัดสินใจว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องมีชุดแต่งงานสองชุด

การมี ชุดแต่งงาน สองชุดในวันแต่งงานอาจจะทำให้เจ้าสาบางคนรู้สึกดี และถือเป็นการสร้างสีสันให้กับลุคในการเปิดตัวในช่วงต่างๆ ของเจ้าสาวได้อีกด้วย แต่การจะทำอย่างนี้ได้แน่นอนว่าต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณและข้อจำกัดต่างๆ ของเจ้าสาวด้วย แพรว wedding เลยอยากจะขอให้เจ้าสาวได้ลองมาทำแบบทดสอบด้วยการตอบคำถาม 7 ข้อที่ด้านล่าง ว่าจริงๆ แล้วคุณต้องการชุดแต่งงานสองชุดจริงหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วไปตอบคำถามกันเลย

1. คุณมีสถานที่แต่งงานที่หรูหราอลังการหรือไม่?

สถานที่แต่งงานอันหรูหราเหมาะสำหรับการใส่ชุดแต่งงานมากกว่าหนึ่งชุด นั่นหมายความว่าสถานที่ของคุณมีขนาดใหญ่ทางเดินที่ทอดยาวไปสู่เวที เจ้าสาวอาจจะคิดภาพชุดแต่งงานที่เรียบง่ายหนึ่งชุดสำหรับถ่ายรูปที่แบ็กดร็อป และอีกหนึ่งชุดสำหรับการเปิดตัวเข้างานอย่างอลังการ แต่ช้าก่อนหากคุณตอบว่า ‘ใช่ สถานที่จัดงานของฉันอลังการ’ เราขอย้อนไปยกตัวอย่างงานแต่งงานของ เคต มิดเดิลตัน ที่เธอเดินมาอย่างงามสง่าภายใต้ชุดแต่งงานแบบเรียบง่ายทรงเอไลน์เพียงชุดเดียวของเธอ

2. คุณชอบเต้นไหม?

ถ้าคุณเป็นเจ้าสาวสายแดนซ์นี่ก็เป็นโอกาสที่คุณจะสามารถเปลี่ยนชุดแต่งงานได้อีกหนึ่งชุด ไม่ว่าจะใส่ชุดเดรสสั้นหรือชุดแบบเบาสบายที่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก ซึ่งคุณอาจจะเตรียมไว้หนึ่งชุดสำหรับในช่วงพิธี และเปลี่ยนอีกหนึ่งชุดในช่วงเต้นรำเพื่อเปิดฟลอร์หรืออาฟเตอร์ปาร์ตี้ นั่นเท่ากับว่าเจ้าสาวจะไม่ต้องอยู่ในชุดแต่งงานชุดเดิมตลอดทั้งคืน และสำหรับชุดที่สองนั้นเจ้าสาวก็อาจจะเลือกลุคให้ดูสนุกและเป็นตัวของคุณเองสุดๆ ได้แบบไม่มีข้อจำกัด

ชุดแต่งงาน

3. งานแต่งงานของคุณยาวนานหรือไม่?

ถ้าหากงานแต่งงานของคุณเป็นแบบเรียบง่ายไม่เน้นพิธีรีตองอะไรมากมายการมีชุดแต่งงานถึงสองชุดก็อาจจะตกไป แต่ถ้าหากงานแต่งของคุณนั้นกินเวลายาวนานและเต็มไปด้วยพิธีการต่างๆ บางครั้งการที่เจ้าสาวจะอยู่ในชุดแต่งงานที่ฟิตเป๊ะพอดีหุ่นในชุดเดียวตลอดงานที่อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6 ชม. แถมยังต้องยืนถ่ายรูปหน้าแบ็กดร็อปกับแขกนับร้อยอีกด้วย จนอาจทำให้เจ้าสาวรู้สึกอึดอัดเกินไป เพราะฉะนั้นการเตรียมชุดแต่งงานไว้อีกหนึ่งชุดเพื่อใส่ในช่วงพิธีการที่ต่างกันก็อาจะเป็นไปได้ เช่น ใส่หนึ่งชุดในช่วงถ่ายรูปกับแขก อีกหนึ่งชุดสำหรับงานในพิธี แต่คุณต้องแน่ใจว่าจะสามารถเปลี่ยนชุดได้เร็วและทันก่อนที่พิธีจะเริ่มด้วย

4. งานแต่งงานอยู่ในสภาพอากาศที่รุนแรงหรือไม่?

เช่น คุณอาจจะจัดงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ในวันที่มีสภาพอากาศร้อนจัด เพราะฉะนั้นอาจจะไม่ดีแน่หากเจ้าสาวต้องเหนียวเหนอะหนะในชุดแต่งงานชุดเดียวไปตลอดทั้งวันจนจบพิธี ซึ่งเจ้าสาวอาจจะสวมชุดแต่งงานผ้าโปร่งสบายตัวในช่วงต้อนรับแขก แล้วเปลี่ยนอีกชุดในช่วงพิธีเพื่อเพิ่มความรู้สึกมั่นใจในชุดใหม่ที่ไร้เหงื่อ เพราะฉะนั้นเรื่องของสภาพอากาศของสถานที่จัดงานก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยเจ้าสาวในการตัดสินใจว่าควรจะมีชุดแต่งงานอีกชุดหรือไม่

ชุดแต่งงาน

5. คุณกำลังวุ่นวายใจกับเรื่องนี้?

สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในจิตใจของเจ้าสาว เพราะการไปเลือกชุดแต่งงานเจ้าสาวอาจจะรู้สึกถูกใจชุดแต่งงานมากกว่าหนึ่งชุดก็ได้ โดยที่ไม่สามารถจะตัดสินใจได้ว่าจะเลือกชุดไหนดี ซึ่งหากเจ้าสาวมีงบเหลือการตัดสินใจเลือกทั้งสองชุดคงไม่ใช่ปัญหา หรือเจ้าสาวบางคนที่คิดว่าหากเลือกสองชุดก็ไม่เกินงบที่ตั้งไว้อยู่ดี ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่ผิดหากเจ้าสาวจะจัดสองชุดกลับมา เพราะนี่เป็นวันสำคัญในชีวิตเพียงครั้งเดียวของคุณ

6. ชุดแต่งงานของคุณทำถูกกฎระเบียบของสถานที่หรือไม่?

บางสถานที่จัดงานแต่งอาจจะไม่อนุญาตให้เจ้าสาวใส่ชุดแต่งงานที่โชว์เนื้อหนังมังสามากนักแต่ต้องเน้นความเรียบร้อยเพื่อให้ความเคารพกับสถานที่ อย่างเช่น การแต่งงานในโบสถ์ (ไม่ทุกโบสถ์นะคะที่เคร่งครัด เพราะฉะนั้นจึงควรเช็กกับทางสถานที่ให้ดีก่อนไปเลือกชุด) เป็นต้น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาที่จะทำให้คุณไม่สามารถใส่ชุดแต่งงานในฝันได้ เช่น หากเจ้าสาวอยากใส่ชุดแต่งงานแบบเกาะอก ก็เพียงแค่หาเสื้อหรือผ้าคลุมสไตล์เจ้าสาวที่เข้ากับชุดแต่งงานเพื่อใส่ในช่วงพิธีภายในสถานที่ แล้วสลัดผ้าหรือเสื้อคลุมออกเมื่อออกมาโยนช่อดอกไม้ที่ด้านนอก เท่านี้ก็เปลี่ยนลุคเจ้าสาวได้ทันตาแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าให้ข้อจำกัดของสถานที่มาปิดกั้นความฝันในการใส่ชุดแต่งงานที่คุณรอคอย

7. คุณนำชุดแต่งงานของคุณแม่มาใส่หรือเปล่า?

เจ้าสาวอาจจะเอาใจหรือทำความต้องการของคุณแม่ด้วยการนำชุดแต่งงานของท่านมาใส่ในงานแต่งงานของคุณ แต่ลึกๆ แล้วคุณไม่ได้ต้องการที่จะอยู่ใส่ชุดนี้จริงๆ เพราะมันไม่ใช่ชุดแต่งงานในฝันที่คุณอยากจะสวมใส่ หรือบางคนอาจเกิดอาการคันหากชุดนั้นเป็นผ้าลูกไม้ ซึ่งเพื่อไม่ให้คุณแม่เกิดอาการน้อยใจ ทางออกของปัญหานี้คือ คุณอาจจะใส่ชุดของท่านสำหรับถ่ายภาพ แล้วเปิดตัวอย่างอลังการในชุดแต่งงานที่คุณต้องการจริงๆ ในช่วงพิธีแทน

ทั้งหมดนี้คือแบบทดสอบความเหมาะสมว่าเจ้าสาวควรที่จะมีชุดแต่งงานสองชุดหรือไม่ หากว่าที่เจ้าสาวคนไหนตอบว่า ‘ใช่’ มากกว่าหนึ่งข้อก็ไม่แปลกที่คุณจะมีชุดแต่งงานสองแบบสองสไตล์ในวันสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของคุณ

>> ดูไอเดียชุดแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพ : jeffallendance.com, greenweddingshoes.com, chicvintagebrides.com,
theweddingday.com

10 วิธี เปิดตัวบ่าวสาวยอดนิยมทั้งแบบธรรมดาไปจนถึงต้องกล้ามากๆ

ปัญหาเล็กๆ อีกเรื่องที่แทบทุกคู่ต้องเจอคือ จะเปิดตัวเดินเข้าใปในงานแต่งของตัวเองยังไงดีให้มันดูว่า ใช่!! นี่แหละสไตล์คู่ของเรา เพราะจะให้เดินเข้าไปทื่อๆ ก็กระไรอยู่ จะเปิดตัวอลังการเกินก็เคอะเขิน  เราจึงรวบรวม 10 วิธี เปิดตัวบ่าวสาว ยอดนิยมมาให้เลือก รับรองว่าไม่แหวกแหกประเพณี แต่ก็มีดีเทลเก๋ไก๋ ชอบแบบไหนก็เลือก เปิดตัวบ่าวสาว แบบนั้นไปเลย

เปิดตัวแบบที่  1 : เพราะเราคู่กัน

การเปิดตัวแบบยอดนิยมที่ไม่ได้มาคนเดียว แต่บ่าวสาวคล้องแขนกันเข้ามาภายในงาน บางคู่ชวนแก็งค์เพื่อนนำขบวนเข้ามาในงานเป็นคู่ๆ แล้วปิดท้ายด้วยบ่าวสาว หรือถ้าไม่อยากให้ขบวนมันยาวนัก อาจให้คุณเพื่อนตั้งแถวรอรับ พร้อมโยนกลีบดอกไม้ หรือเปเปอร์ชู้ต เป็นการต้อนรับ

เปิดตัวแบบที่ 2 : เจ้าสาวมาดมั่น

เดินเข้ามาคนเดียวด้วยความมั่นใจโดยมีคุณเจ้าบ่าวยืนรอรับอยู่ในงาน ลูกเล่นของการเปิดตัวแบบนี้คือแสงไฟที่จะส่องตามเจ้าสาวไป ยิ่งถ้าชุดของเจ้าสาวมีคริสตัลเล่นแสงไฟวิบวับ คุณเจ้าสาวจะสวยเหมือนนางฟ้าที่มีประกายท่ามกลางความมืด เปรียบเหมือนผู้นำแสงไฟในชีวิตของเจ้าบ่าวเลยทีเดียว

เปิดตัวแบบที่ 3 : เธอรออยู่บนนั้น ฉันจะปีนขึ้นไปหา 

เป็นการเปิดตัวที่ให้อารมณ์เจ้าหญิง เจ้าชายมากๆ โดยส่วนใหญ่แล้วการเปิดตัวแบบนี้ มักจะมีเวทีที่ตกแต่งเป็นหอคอย หรือปราสาทสวยงาม ซึ่งงานนี้คุณเจ้าบ่าวก็อาจจะเดินเข้ามาเดี่ยวๆ หรือมาพร้อมกับขบวนเพื่อนๆ ก็ได้ แต่ไอไลนืเด็ดคือ จังหวะที่จะรับตัวเจ้าหญิงของงานนี่แหละ ฟินไม่ฟินมันวัดกันตรงนี้!

เปิดตัวแบบที่ 4  : ควงแขนคุณพ่อยอดดวงใจเข้างาน 

มีหลายคู่เลยทีเดียวที่ให้คุณพ่อเดินมาส่งคุณเจ้าสาวให้กับคุณเจ้าบ่าวที่ยืนรออยู่ในงาน เป็นสัญญาที่บอกว่า ขอมอบเจ้าหญิงตัวน้อยๆของพ่อให้แก่ผู้ชายคนนี้ดูแล อัยยะลึกซึ้งน่าดู

เปิดตัวแบบที่ 5  : เซอร์ไพรส์ซะเลย  

เมื่อเจ้าสาวเสียงดี งานเซอร์ไพรส์จึงเกิด โดยคุณเจ้าบ่าวยืนรออยู่อาจจะที่กลางงาน หรือบนเวที รอคอยให้เจ้าสาวคนงามปรากฏตัวขึ้น แต่มิเท่านั้นสิค่ะ แทนที่คุณเจ้าสาวจะเดินเข้ามาเฉยๆ ก็เดินร้องเพลงเข้ามาเป็นการเซอร์ไพรส์เจ้าบ่าว เพลงที่เลือกอาจเป็นเพลงสำคัญของคนทั้งคู่ หรือเป็นเพลงแทนใจที่เจ้าสาวอยากบอกให้เจ้าบ่าวรู้

เปิดตัวแบบที่ 6 : แต่เราก็หากันจนเจอ 

บ่าวสาวเดินกันมาคนละทิศคนละทาง โดยวิธีก็มีหลากหลาย อาจจะเดินมาเฉยๆ เดินร้องเพลงคู่ หรือเดินตามเพื่อนๆ ก็ได้ และจะให้โรแมนติคสุดๆ ต้องเป็นเพื่อนบ่าวสาว ล้อมวงให้กลายเป็นฟลอร์เต้นรำขนาดย่อม แล้วคู่พระนางของงานที่เดินมาจากคนละมุมห้องมาพบกันที่ฟลอร์นี้ เต้นรำสวยๆสักเพลง บอกเลยว่าเทพนิยายชัดๆ

เปิดตัวแบบที่ 7  : สายย่อก็มา 

เปิดตัวแบบนี้รับรองว่าดิ้นกันกระจาย โดยให้คุณเจ้าบ่าวเจ้าสาวแดนซ์เข้ามาในงานเลยจร้า เพลงที่ใช้หากเป็นเพลงในเทรนด์ อย่างแนว EMD รับรองว่าตื๊ดกันระเบิดระเบ้อ

เปิดตัวแบบที่ 8  : รับคนดีจากห้องหอ

ก้อปปี้ช่วงรับตัวเจ้าสาวในพิธีเช้ามาใส่ในลำดับพิธีเปิดตัวก็ไม่เลวนะคะ แต่งานนี้อาจต้องพึ่งเทคนิคกันนิดหน่อย โดยให้เจ้าสาวรออยู่อีกห้องหนึ่ง แล้วเจ้าบ่าวก็เดินไปรับ แล้วมีทีมช่างภาพตามติดถ่ายทอดสดบรรยากาศมาขึ้นจอที่ห้องจัดเลี้ยง  แล้วให้บ่าวสาวปรากฏตัวพร้อมกันในงาน เท่ไม่หยอกแถมล้ำไปอีก

เปิดตัวแบบที่ 9 : เซอร์ไพรส์เป็นหมู่คณะ

เซอร์ไพรส์คนเดียวอาจไม่อลังการพอ บ่าวสาวบางคนจึงอาจมีการเตี๊ยมกับเพื่อนๆ เพื่อเซอร์ไพรส์อีกฝ่าย เช่น เจ้าบ่าวรวมกลุ่มกับแก๊งค์เพื่อน เปิดตัวในลุคส์บอยแบรนด์แล้วเต้นให้เจ้าสาวได้ยิ้ม เป็นต้น

เปิดตัวแบบที่ 10  : แฟชั่นโชว์ไหมล่ะ 

งานนี้เพื่อแฟชั่นนิสต้าเลยนะ ด้วยการให้เพื่อนนำขบวนเข้ามาในงานด้วยท่าเดินราวซุปเปอร์โมเดล แล้วปิดท้ายด้วยบ่าวสาว กิมมิคงานอีกอย่างของวิธีนี้อยู่ที่เพื่อนบ่าวสาวเดินขึ้นไปบนเวทีด้วย แล้วตั้งขบวนสวยงามให้ตรงกลางเป็นตำแหน่งของบ่าวสาวที่ต้องไม่ลืมโพสต์เริ่ดๆ ทั้งคณะเป็นการปิดท้าย

ได้ไอเดีย เปิดตัวบ่าวสาว กันหรือยัง แต่ถ้ายังไม่ได้ เราขอแนะนำให้ไปส่อง >> คลิกเลย! Real Wedding << ได้เลย เรามีภาพจากงานแต่งที่เกิดขึ้นจริง อีกเป็นร้อยๆ งานให้คุณดูเป็นไอเดีย

ภาพเปิด : pexels.com

“ศีลเสมอกัน” ทริคการเลือกคู่ให้ดีตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

หลายคนคงจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วกับคำว่า “ศีลเสมอกัน” ที่มักจะกล่าวถึงการเลือกคู่ครองให้ดี แต่นอกจากนี้ยังมีคำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่อง ศรัทธาเสมอกัน, จาคะเสมอกัน และปัญญาเสมอกันด้วย ซึ่งหลายคนคงสงสัยว่า แต่ละอย่างนั้นหมายถึงอะไร แพรว wedding มีคำอธิบายมาฝาก

ศีลเสมอกัน
Photo by Alex Azabache on Unsplash

1. ศรัทธาเสมอกัน

การมีศรัทธาเสมอกัน หมายถึง มีความเชื่อ ความเลื่อมใสในศาสนาหรือสิ่งเคารพบูชาเดียวกัน รวมถึงมีความคิดเห็น จุดมุ่งหมาย และรสนิยมไปในทางเดียวกัน ไม่ขัดแย้งกัน แบบนี้เวลาอยู่ด้วยกันจะไม่เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง หรือเถียงกันว่าความเชื่อของตนดีกว่า เด่นกว่า  น่าเลื่อมใสศรัทธามากกว่า เพื่อเอาชนะความคิดของกันและกัน

ในปัจจุบันสังคมเราเปิดกว้างมากขึ้น อีกทั้งความรักก็ไม่เข้าใครออกใคร คนต่างชาติ ต่างศาสนาก็ข้ามน้ำข้ามทะเลมาพบกันได้ ทางที่ดีควรเคารพในความเชื่อของกันและกัน ไม่แบ่งว่าความเชื่อใครดีกว่าใคร เรียนรู้ในความแตกต่างทั้งความคิด วัฒนธรรม และความเชื่อของกันและกัน แบบนี้ก็ช่วยให้ชีวิตคู่มีความสุขได้

2. ศีลเสมอกัน

ข้อนี้หมายถึงการมีความประพฤติ มารยาท และการปฏิบัติตนที่เหมาะสมสอดคล้องกัน รู้จักให้เกียรติกันและกัน ไม่ต้องยกตนข่มคู่ตัวเอง หรือไม่ประพฤติปฏิบัติต่างกันจนเกินไปแล้วทำให้ชีวิตคู่เป็นทุกข์ ไม่ราบรื่น เช่น ฝ่ายหนึ่งขี้เหล้าเมายา ชอบเล่นการพนัน แต่อีกฝ่ายหนึ่งคอยห้ามปราม ไม่ชอบการดื่มเหล่าและสิ่งผิดกฎหมาย เช่นนี้ชีวิตคู่ก็ไม่มีความสุข ความประพฤติไม่ตรงกัน ขัดแย้งกัน อยู่ด้วยกันไม่ได้ก็เรียกว่าศีลไม่เสมอกัน

ศีลเสมอกัน
Image by pasja1000 from Pixabay

3. จาคะเสมอกัน

จาคะ หมายถึง การสละสิ่งของและความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น หากเป็นเรื่องของความรักและชีวิตคู่ก็คงจะเป็นเรื่องของความมีน้ำใจ ใจกว้าง โอบอ้อมเอื้ออารีในระดับเสมอกัน รู้จักเป็นผู้ให้และผู้รับในเวลาที่เหมาะควร รวมทั้งการให้แก่คู่รักและการทำทานแก่ผู้อื่นด้วย หากว่าจาคะไม่เสมอกัน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเห็นแก่ตัว ขี้เหนียว ขี้งก ชีวิตคู่ก็คงจะอยู่กันยาก

4. ปัญญาเสมอกัน

ในข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าทั้งคู่จะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญในระดับเดียวกัน จบปริญญาวุฒิเท่ากันเป๊ะๆ นะคะ แต่ปัญญาในที่นี้หมายถึง การมีความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญที่เกื้อหนุนกันและกันได้ รู้ดี-ชั่ว รู้ว่าอะไรเป็นประโยชน์ และอะไรเป็นโทษ รวมถึงคอยรับฟัง เข้าใจในเหตุผลของกันและกัน และเป็นคู่คิดช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ต้องเผชิญ

หลายคนคงเกิดคำถามว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนๆ นี้กับเราจะมีทั้ง 4 ข้อเสมอกัน เรื่องนี้เราขอบอกว่าไม่ใช่เรื่องยาก ให้คุณและเขาค่อยๆ ศึกษากันและกัน ทั้งนิสัยใจคอและการกระทำ ขอแค่เพียงคุณไม่ตัดสินใจเร่งรีบแต่งงาน มีเวลาได้คบหากันสักนิด ก็จะสามารถรู้ได้ว่าคุณและเขาเป็นคู่กันตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ถ้าใช่ รับรองว่าชีวิตคู่ของคุณจะมีความสุขราบรื่นไปตลอดแน่นอน

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ข้อมูล : torthammarak.wordpress.com
ภาพ : unsplash.com

ขาย? เก็บ? บริจาค? ทำแบบไหนดีกับชุดเจ้าสาวและข้าวของหลังแต่งงาน

หลังงานแต่งงานผ่านพ้นไป หลายคู่กลับต้องมานั่งคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรกับข้าวของที่ซื้อหามาตกแต่งในงาน รวมถึง ชุดเจ้าสาว ราคาแพงที่ไม่รู้จะเก็บไว้ตรงส่วนไหนของบ้าน ก็แหม…ไอ้ตอนที่หาซื้อมาถมใส่ในงานก็ไม่ได้คิด ว่าแต่งเสร็จจะไปไว้ไหนใช่ไหมล่ะ เพราะ ณ จุดนั้นงานแต่งของเราต้องสวยและดีดั่งฝัน เอาค่ะๆ ไม่เป็นไร ลองมาดูทางออกที่แพรวเวดดิ้งนำมาเสนอกันดีกว่า

  • ขายสิคะไม่ต้องรอราคาตก!!

“ชุดเจ้าสาวแสนสวย อย่างแรกเลยที่เราขอแนะนำให้ขายต่อทันทีที่งานเสร็จสิ้นคือ ชุดเจ้าสาวค่ะ ถ้าคุณมั่นใจว่าจะไม่เก็บไว้ให้ลูกให้หลานดูหรือแม้แต่ไม่รู้ว่าจะมีทายาทรับช่วงต่อไปใส่ไหม ก็ขายเถอะค่ะ เพราะอย่าลืมนะคะว่ารูปแบบของชุดเมื่อเวลาผ่านไปก็อาจไม่ได้รับความนิยมเช่นทุกวันนี้ รวมไปถึงถ้าคุณเก็บไว้ไม่ดี ลูกไม้ที่เคยสวยจะผุพังไปตามกาลเวลาไหม หรือแต่วัสดุตกแต่งอย่างเลื่อมหรือลูกปัดจะคงสภาพได้นานสักแค่ไหนเชียว แต่ถ้าคุณตัดสินใจขายไปในวันนี้ ไม่ว่าจะขายทางออนไลน์หรือฝากร้านที่ตัดให้ขาย คุณอาจได้รับเงินคืนกลับมามากถึง 50% ของราคาตั้งต้นด้วยนะคะ

ชุดเจ้าสาว

“ของตกแต่งงาน”  ในกรณีที่คุณซื้อของมาตกแต่งงานด้วยตัวเองโดยไม่ได้ใช้บริการเวดดิ้งแพลนเนอร์ ของตกแต่งทั้งหลายจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่าทันทีที่ไฟในงานดับลง และถ้าคุณไม่ได้วางแผนไว้ก่อนว่า ของที่ซื้อมาจะเอาไปตกแต่งบ้านด้วยละก็ เลิกคิดจะเก็บหรือส่งต่อให้ใครไปเลยค่ะ เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าใครจะมารับช่วงต่อและคนนั้นจะจัดงานแต่งธีมเดียวกันหรือใกล้เคียงจนสามารถเอาของเหล่านั้นไปใช้ต่อได้ไหม และที่สำคัญ เทรนด์การจัดงานสไตล์คุณในปีนี้อาจเลอค่ามาก แต่ข้ามคืนปีใหม่ไปอาจเป้นธีมที่ตกยุคไปซะแล้วก็เป็นได้ ฉะนั้นขายเถอะค่ะ

การขายที่ว่านี้ง่ายที่สุดคือประกาศขายในเพจหรือบนโลกออนไลน์ต่างๆ หรือถ้าพอรู้จักบรรดาเวดดิ้งแพลนเนอร์หรือบริษัทรับจัดงานอีเว้นต่างๆ ก็ลองนำไปเสนอขายซะ เพราะบริษัทพวกนี้ต้องใช้พร้อพจัดงาน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเขาซื้อก็จะช่วยให้คุณกำจัดของเหล่านี้ไปได้ และแม้ราคาจะได้คืนมาไม่เท่าต้นทุนก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไร แต่มีของไม่ใช้แล้วเต็มบ้าน จริงไหมละ

  • เก็บไว้สิคะ ใช้งานต่อได้อีกเพียบ!!

“เครื่องประดับทั้งหลาย” จะเป็นต่างหู กำไล สร้อยคอหรือแม้แต่จี้ชิ้นเล็กๆ ที่เข้าข่ายเป็นเครื่องประดับทั้งหลายไม่ว่าจะของจริงหรือของปลอมสามารถนำไปใช้ต่อได้ในชีวิตประจำวัน เพราะของเหล่านี้คุณแยกชิ้นเอามาใส่กับชุดทำงานก็ได้ ออกงานก็ดี รวมไปถึงรองเท้าเจ้าสาวที่ไม่มีใครมานั่งจำหรอกว่าคุณใส่คู่นี้แต่งงาน เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วรองเท้ามันแอบซ่อนในกระโปรงเจ้าสาวทั้งนั้น

“สูทของสามี” จริงอยู่ที่ชุดเจ้าสาวของคุณควรขายไปซะ แต่สำหรับชุดสูทของคุณเจ้าบ่าวยังสามารถนำไปใช้ในวาระอื่นได้ เพราะเสื้อสูทสามารถแยกใส่คลุมกับเสื้อได้หลากหลาย กางเกงเองก็เช่นกัน ไม่ต้องจับมาเป็นชุดเดียวกันเสมอไปนี่นา  ซึ่งนอกจากชิ้นใหญ่ๆ แล้ว พวกเนคไทและหูกระต่ายยังสามารถนำไปใช้ใส่ต่อเวลาไปงานเลี้ยงต่างๆ ได้ด้วย เพราะฉะนั้นแล้วก็เก็บไว้ดีๆ ล่ะ

  • บริจาคสิคะอย่าได้เสียดายของ!!

“ดอกไม้ในงานแต่ง” อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้จริงหรือดอกไม้ปลอมคุณสามารถนำไปบริจาคได้ เพราะเพียงการใช้งาน 3 ชั่วโมงไม่ทำให้ดอกไม้สดเหี่ยวไปได้มากนัก และเคยมีมาแล้วที่เจ้าสาวนำดอกไม้สดที่ตกแต่งงานไปกระจายบริจาคให้กับโรงพยาบาลหรือสถานบำบัดต่างๆ เพื่อใช้ตกแต่งห้องพักคนไข้หรือส่วนต้อนรับ ช่วยสร้างบรรยากาศดีๆ ให้กับสถานที่เหล่านั้น ส่วนดอกไม้ปลอมไม่ต้องคิดมาก คุณบริจาคไป ที่เหล่านี้ใช้ได้ตลอดกาล เห็นไหมว่าได้บุญมากนะคะ

“ของชำร่วยและของรับไหว้” บางคนที่ซื้อของมาเกิน ซื้อมาในปริมาณที่มากเกินไป เช่น ผ้าขนหนูสำหรับใช้ในพิธีรับไหว้ ถุงผ้า พวงกุญแจเครื่องคิดเลข หรือสมุดโน๊ต ฯลฯ ของเหล่านี้เป็นของใช้ที่ยังทำประโยคต่อคนอื่นๆ ได้ แพรว Wedding ขอแนะนำให้นำไปบริจาคค่ะ เพื่อคนด้อยโอกาสจะได้มีของดีๆ เป็นของมือหนึ่งใช้ แม้คุณจะไม่ได้แพ็คสวยงามแบบว่ามีโบผูกก็ไม่สำคัญ เพราะของเหล่านั้นก็ยังใช้ได้

เห็นไหมคะว่ามีวิธีจัดการกับข้าวของต่างๆ ที่อยู่ในงานแต่งงานได้หลายวิธี ทั้งการจัดการที่สร้างรายได้ สร้างบุญกุศล คุณเองได้สบายใจ แถมบางทีได้เงินค่างแต่งงานคืนมาอีกด้วยนะคะ

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพเปิด : pxhere.com

10 ขั้นตอนสู่ภารกิจขอสาวแต่งงาน แค่ทำตามนี้เธอก็พร้อมเซย์เยส

เรียนรู้กันมาพอสมควรแล้วว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำในภารกิจ ขอสาวแต่งงาน คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนการปฏิบัติกันบ้าง สำหรับหนุ่มๆ ที่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี ทำตาม 10 ขั้นตอนนี้ได้เลยจ้า

1. สืบว่าเธอชอบแหวนแบบไหน

1

อันดับแรกต้องรู้ก่อนว่าเธอชอบแหวนแบบไหน เพราะผู้หญิงบางคนก็เอาใจย้ากยาก แถมแหวนก็มีให้เลือกหลายแบบเหลือเกิน จะแหวนเงิน แหวนทอง หรือแหวนทองคำขาว จะเพชรกี่เม็ด กี่กะรัต ถ้าหนุ่มๆ ต้องเลือกเองอาจจะเกิดอาการปวดเศียรเวียนเกล้าหรือไม่ถูกใจเธอก็เป็นได้ ยังไงให้ลองหลอกถามเธอดูก่อน หรือถ้ากลัวว่าแผนจะแตก ลองสืบจากเพื่อนหรือพี่น้องของเธอก็ได้นะ

2. เตรียมบัดเจ็ทให้พร้อม

2

เมื่อเลือกได้แล้วว่าแหวนวงไหนจะถูกใจเธอ ต่อไปก็ต้องเตรียมสตางค์ในกระเป๋าให้พร้อม ก็อย่างที่ทราบกันดีว่ายิ่งงามมากก็ยิ่งมีมูลค่าสูง ยังไงหนุ่มๆ ก็ต้องแบ่งสรรปันส่วนให้ดี เอาที่เหมาะและสบายใจ เพราะเชื่อเถอะว่าความจริงใจนั้นสำคัญกว่ามูลค่าแน่นอน

3. สืบขนาดแหวนที่พอดีกับนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ

3

อย่าลืมขั้นตอนนี้เด็ดขาด เพราะขนาดแหวนที่พอดีกับนิ้วนางข้างซ้ายจะทำให้สาวของคุณฟินขึ้นอีกเท่าตัว เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและพิถีพิถันของคุณ ถ้าไม่รู้ว่าจะทราบขนาดแหวนของเธอได้จากไหน WE-MAG.COM แนะนำให้แอบเทียบขนาดนิ้วของเธอกับนิ้วของคุณ หรือแอบวัดขนาดจากแหวนที่เธอใส่ประจำก็ได้

4. ซื้อแหวนวงงามแล้วซ่อนมันให้ดี

4

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วทั้งแบบ บัดเจ็ท และขนาด ก็มุ่งหน้าไปซื้อแหวนวงงามมาไว้ได้เลย แต่เรื่องสำคัญมันอยู่ตรงที่ว่าคุณจะซ่อนมันไว้ที่ไหน อย่าให้เธอจับได้ว่าจะถูกขอแต่งงานเพราะดันมาเห็นแหวนที่คุณเตรียมไว้เชียวล่ะ

5. แจ้งให้พ่อแม่ของเธอทราบ

5

ขั้นตอนนี้อย่าคิดว่าไม่สำคัญ เพราะถือเป็นธรรมเนียมของคนไทยเลยล่ะค่ะที่ต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู จะขอลูกสาวเขาแต่งงานก็ควรขออนุญาตหรือบอกกล่าวให้พ่อแม่ของเธอทราบก่อน ทำอย่างนี้รับรองว่าได้ใจเธอไปเต็มๆ แน่นอน

6. เลือกสถานที่ขอแต่งงาน

6เพราะสถานที่สุดประทับใจจะทำให้การแต่งงานของคุณออกมาสมบูรณ์แบบ อาจเลือกเป็นสถานที่แห่งความทรงจำของคุณทั้งคู่ เช่น ที่ที่เจอกันครั้งแรก ที่ที่เธออยากไป ร้านอาหารร้านโปรด และที่สำคัญอย่าลืมคำนึงถึงเรื่องความพลุกพล่านของผู้คนด้วยนะคะ เพราะถ้าเป็นสถานที่ที่ผู้คนพลุกพล่านจนถึงขั้นหนาแน่น ความโรแมนติกที่คุณฝันไว้อาจกลายเป็นความชุลมุนวุ่นวายแทน

7. เสื้อผ้าหน้าผมต้องพร้อม

7

แหวนก็มีแล้ว สถานที่ก็เล็งไว้แล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมตัวเองให้หล่อเหลากันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม แต่ขอเตือนนิดนึงนะคะว่า อย่าทำตัวให้หล่อมากจนดูผิดปกติ เพราะเธออาจจับได้เสียก่อน

8. ร่างคำพูดสุดประทับใจ

8

คิดไว้เลยนะคะว่าจะพูดอะไรกับเธอบ้าง เพราะถ้อยคำหวานๆ จะทำให้เธอตัดสินใจเซย์เยสได้ง่ายขึ้น เราแนะนำว่าควรร่างคำพูดไว้แล้วท่องให้แม่น หรือถ้ากลัวพลาดจะจดใส่กระดาษแล้วอ่านต่อหน้าเธอก็ได้ เพราะพอถึงวันจริงคุณอาจตื่นเต้นจนลืมไปหมดทุกสิ่งอย่าง

9. อย่าลืมเตรียมแผนสำรอง

9

เมื่อคุณเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วก็อย่าลืมเตรียมแผนสำรองเอาไว้ด้วย เพราะเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นจู่ๆ ฝนก็ตกลงมา หรือเธอจับได้ซะก่อน ยังไงลองคิดแผน 1 แผน 2 เผื่อไว้หน่อยก็ดีนะคะ

10. คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ

10ขอบอกเลยว่าขั้นตอนนี้แหละที่จะทำให้การขอแต่งงานของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด ใครจะหาว่าน้ำเน่าก็อย่าได้แคร์ เพราะหนุ่มๆ รู้ไหมคะว่า การโดนคุกเข่าขอแต่งงานเป็นความโรแมนติกที่สาวๆ ทั้งหลายใฝ่ฝันเลยล่ะค่ะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.mensfitness.com
ภาพเปิด : wallpaperswide.com

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว อีกหนึ่งดีเทลชุดแต่งงานที่น่าหลงใหล

สร้างลุคเจ้าสาวให้ดูมีเสน่ห์น่าค้นหาด้วย ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว ที่เจ้าสาวต้องหลงรัก <3

เมื่อนึกถึงชุดแต่งงานแนวเซ็กซี่หรือเย้ายวนนิดๆ ว่าที่เจ้าสาวหลายคนก็อาจจะนึกถึงชุดแต่งงานแบบเกาะอก ชุดแต่งงานแบบเว้าหลัง หรือชุดแต่งงานแบบซีทรู แต่…ยังมีชุดแต่งงานอีกหนึ่งสไตล์ที่ว่าที่เจ้าสาวหลายคนอาจจะมองข้ามไปนั่นก็คือ ชุดแต่งงานแขนยาว ซึ่งระยะหลังมานี้หากว่าที่เจ้าสาวสังเกตจะเห็นได้ว่าบรรดาดีไซเนอร์ต่างงัดไม้เด็ดมาเติมกิมมิกให้แขนเสื้อมีความเซ็กซี่กว่าที่เคยในโลกของแฟชั่นชุดแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็น ดีเทลชุดแต่งงานแบบเปิดไหล่ที่เน้นผ้าลูกไม้ช่วงแขนอันสวยงาม หรือ ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว ที่เต็มไปด้วยอิลิเม้นต์อันน่าประทับใจ

ชุดแต่งงานสไตล์แบบเปิดไหล่

เปลี่ยนสไตล์ชุดแต่งงานแบบเปิดไหล่ให้ดูน่าสนใจกว่าเดิม ด้วยการเสริมความหวานปนความเย้ายวนนิดๆ ด้วยสไตล์ชุดแต่งงานเปิดไหล่แบบมีแขน แล้วเสริมดีเทลที่น่าสนใจด้วยผ้าลูกไม้สวยหรู อีกหนึ่งลุคชุดแต่งงานที่ให้กลิ่นอายเซ็กซี่แต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิคตามแบบฉบับเจ้าสาว

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว

เสริมความระยิบระยับให้สวยหรู

เพิ่มความหรูหราให้ชุดแต่งงานมีลูกเล่นขึ้นอีกหนึ่งระดับ ด้วยการประดับลูกปัดหรือกลิตเตอร์ในรูปทรงต่าง หรือลวดลายต่างๆ ที่แตกต่างและมีสไตล์กว่าเดิม รับรองว่าลุคนี้จะช่วยให้เจ้าสาวสวยหรูดูแพงแบบไม่ต้องพยายาม

เสริมลูกไม้ให้ดูเซ็กซี่

สร้างเลเยอร์ให้ชุดแต่งงานดูเย้ายวนน่าค้นหาด้วยเทคนิคการใช้ผ้าลูกไม้แบบผ้าซีทรู เช่น อาจจะเลือกเป็นชุดแต่งงานแบบเกาะอก ที่มีซิลลูเอทของผ้าลูกไม้สวยหวานสไตล์คอปาด ที่สามารถแมตช์ให้เข้ากันได้อย่างน่าหลงใหล แถมเป็นสไตล์ชุดที่ดูดีมีสไตล์จะใส่งานเช้าก็ได้ หรือใส่งานเย็นก็ดี

แต่ถ้าคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวสายโมเดิร์นที่ต้องการลุคแบบเรียบหรูกึ่งมินิมอลนิดๆ ก็อาจจะเลือกเป็นชุดแต่งงานแบบเรียบง่าย แล้วเสริมด้วยลูกไม้ดีไซน์เก๋ๆ เท่านี้ก็ช่วยให้ชุดแต่งงานที่ดูเรียบนั้นโดดเด่นขึ้นมาทันที

ชุดแต่งงานแบบสองชิ้น

แตกต่าง โดดเด่นไม่ซ้ำใคร และมีสไตล์เป็นของตัวเอง ด้วยชุดแต่งงานแบบสองชิ้น โดยช่วงบนเน้นเป็นเสื้อแขนยาวแบบซีทรู แล้วแมตช์ด้วยกระโปรงดีไซน์เรียบง่ายที่เข้ากับรูปร่างของคุณ เท่านี้ก็เป็นอันสวยเริดแบบตะลึงทั้งงาน!!

คราวนี้ว่าที่เจ้าสาวก็สวยหวานซ่อนเปรี้ยวกับดีเทลแขนเสื้อชุดแต่งงานที่เรานำมาฝากกันได้แล้วเนอะ แต่ถ้ายังดูกันไม่จุใจ ตามไปส่องชุดสวยๆ กันต่อได้ใน >> 30 ชุดแต่งงานแขนยาวสุดสง่า

ภาพ www.stylemepretty.com

เคล็ดลับรักทางไกล รักยังไงให้แฮปปี้ ถึงไกลแค่ไหนรักยังอยู่ดี

ขอบอกก่อนเลยค่ะว่า จุดเริ่มต้นของบทความ รักทางไกล จากแพรวเวดดิ้งนี้มาจากการท่องโลกอินเทอร์เน็ตและพบเห็นหนุ่มๆ สาวๆ หลายคนชอบตั้งกระทู้ว่า “อยู่ไกลกับแฟนจะดูแลความสัมพันธ์อย่างไรดี” บางคนก็โอดครวญว่าความรักไปไม่รอดเพราะรักแท้แพ้ระยะทาง รักแท้แพ้ความห่างไกล รักแท้แพ้คนใกล้ชิด และอีกสารพัดความพ่ายแพ้ของ “รักระยะไกล” แต่แม้จะรักกันแบบไกลๆ ก็มีวิธีดูแลให้รักยังดีอยู่ได้ค่ะ เชื่อเรา!

1. อัพเดตเรื่องราวของกันและกันทุกวัน

ยุคนี้มันยุคเทคโนโลยีครองโลกนะคะทุกคน เพราะฉะนั้นต่อให้อยู่ไกลกันขนาดไหนก็ยังเห็นหน้าและได้ยินเสียงกันสบายมาก ไม่ว่าจะเฟสไทม์ วิดีโอคอล ไลน์ เฟซบุ๊ก และแอพพลิเคชั่นอีกหลายอย่างที่จะเป็นตัวช่วยให้คุณและคนรักได้แบ่งปันเรื่องราวที่ตัวเองพบเจอในแต่ละวันมาเล่าให้กันและกันฟัง แบบนี้ก็สามารถช่วยย่นระยะความห่างไกลและความคิดถึงได้เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้ “คุยกันทุกวัน” ดีกว่านะ

2. เข้าใจในช่วงเวลาของกันและกัน

สำหรับคู่รักที่อยู่กันคนละประเทศ คนละทวีป และช่วงเวลาไม่ตรงกัน ขอแนะนำว่าให้ทำข้อตกลงเรื่องเวลากันให้ดีว่า จะโทรหากันตอนไหน คุยกันตอนกี่โมง เรื่องนี้สำคัญค่ะ เพราะบางคู่ที่อยู่กันคนละทวีป ไทม์โซนตรงข้ามกัน เช่น ตัวคุณอยู่ไทยแต่แฟนอยู่อเมริกา ระยะเวลาห่างกันตั้ง 12 ชั่วโมง แบบนี้ควรตกลงเวลาที่จะนัดคุยกันให้ดี เอาที่คุณและคนรักสะดวก เราเคยเจอมาว่ามีบางคนถึงกับต้องตั้งนาฬิกาปลุกตอนตีสองทุกคืนเพื่อตื่นมาคุยโทรศัพท์กับคนรักเลยนะ น่านับถือในความรักจริงๆ ค่ะ

3. ไม่โกหกกันคือเรื่องสำคัญ

ถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีช่วยย่นระยะทางแล้ว แต่ปัญหาทางใจก็ยังเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ คู่รักส่วนใหญ่ที่อยู่ไกลกันมักจะทะเลาะกัน เช่น ฝ่ายหญิงไม่พูดความจริง เพราะคิดว่าอยู่ไกลกันขนาดนี้ฝ่ายชายคงไม่รู้เรื่องอะไรหรอก ขอบอกไว้เลยนะคะว่าห้ามคิดแบบนี้เด็ดขาด ถ้าเกิดเขาจับได้ขึ้นมา รับรองว่าความรักจะไม่ราบรื่น ต้องมานั่งระแวงระวังกันไม่มีที่สิ้นสุด เพราะฉะนั้นพูดความจริงเป็นทางที่ดีที่สุด ถ้าจะออกไปสังสรรค์ปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงก็บอกตรงๆ ไปเลย ไม่ต้องอ้างเรื่องอื่นหรือโกหกเรื่องไหน

4. เชื่อใจและไม่คิดมาก

ข้อนี้ก็สำคัญไม่น้อยกว่าข้อข้างบนนะคะ เพราะในเมื่อเขาหรือเธอเลือกที่จะพูดความจริงแล้ว คุณก็ต้องเชื่อใจและอย่าไปคิดมากให้ฟุ้งซ่าน ไม่เช่นนั้นตัวคุณเองนั่นแหละที่จะกระวนกระวายใจจนไม่เป็นอันทำอะไรอย่างอื่น เพราะฉะนั้นแค่รับรู้ว่าเขาไปทำอะไร ที่ไหน กลับเมื่อไหร่ ก็ดีกว่าคอยตามคอยจิกจนเขาไม่บอกอะไรให้เรารู้เลย แบบนี้ความรักคงไปไม่รอดแน่ๆ

5. หมั่นเติมความหวานให้กันบ้าง

คู่รักหลายคู่อาจเกิดคำถามว่า “อยู่ไกลกันจะเติมความหวานให้กันอย่างไร” เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เพราะคุณก็สามารถทำเซอร์ไพร้ส์หรือเติมความหวานให้กันได้ ด้วยการส่งของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไปให้ เช่น จดหมายแห่งความคิดถึง ก็เป็นอีกหนึ่งของขวัญที่ยังคลาสสิกทุกยุคทุกสมัย หรือจะเป็นของขวัญทำมือ การ์ดวันเกิด การ์ดปีใหม่ หรือไปพบเจออะไรที่แฟนคุณชอบหรือสิ่งของน่ารักๆ ก็ซื้อส่งไปให้เขาก็ได้เช่นกัน

6. ส่งเพลงเพราะๆ ซึ้งๆ แทนความคิดถึง

ข้อนี้ถือเป็นข้อ recommend เลยนะคะ เพราะว่าเพลงสำหรับคนรักที่อยู่ไกลกันเนี่ยเยอะมากกก! แถมแต่ละเพลงความหมายก็กินใจสุดๆ ใช้เป็นตัวแทนความคิดถึงและความห่วงใยได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเพลง หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ (เวอร์ชั่นออริจินัลก็ไพเราะอมตะ แต่ถ้าอยากเปลี่ยนเมโลดี้เบาๆ ขอแนะนำเวอร์ชั่นวง sofa ค่ะ), ห่างไกลเหลือเกิน (บอย โกสิยพงษ์), อดทนกับความเหงา (วง Klear), ไกล (Musketeers), อยากเจอ (วง Blue Shade), มองได้แต่อย่าชอบ (ลุลา), ห่างไม่ไกล (ลุลา), ประตูวิเศษ (มิ้น สวรรยา), กระโดดกอด (วง Klear), และอีกหลายเพลง รับรองว่าคนฟังต้องนั่งยิ้มแก้มปริแน่นอน

7. มีเวลาก็มาหากัน

การใช้เวลาอยู่ด้วยกันก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญค่ะ แต่ด้วยความที่คุณทั้งคู่ไม่ได้อยู่ใกล้กันหรือใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากเหมือนคู่อื่นๆ เพราะฉะนั้นถ้ามีวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดยาวๆ ก็อย่าลืมนัดมาเจอกันนะคะ ได้จูงมือเดินเที่ยว โอบกอด และทำกิจกรรมด้วยกันบ้าง ความรักจะได้สดชื่นหวานฉ่ำอยู่เสมอ

ส่วนใครที่อยู่ไกลโพ้นคนละทวีป คงต้องขยันเก็บเงินค่าตั๋วเครื่องบินกันหน่อยนะคะ หรือจะนัดเจอกันคนละครึ่งทาง (ประเทศที่อยู่ตรงกลาง) ก็ดีนะ ได้เที่ยวต่างประเทศเพิ่มความโรแมนติกพร้อมกับซ้อมฮันนีมูนไปในตัว

“Distance means so little when someone means so much…ระยะทางไกลจะไร้ความหมาย หากว่าใครคนนั้นมีความหมายมากกว่า” ประโยคสุดฮิตจากโลกโซเชียลสำหรับคนที่มีรักระยะไกลที่เราไปเจอมา เลยปิ๊งความคิดขึ้นมาว่า ถ้าคนๆ นั้นเป็นคนที่สำคัญสำหรับคุณจริงๆ เป็นคนที่คุณรักจริงๆ ก็ขอให้คุณมั่นคงในความรักเข้าไว้ แล้วเชื่อเถอะค่ะว่า “รักแท้จะไม่แพ้อะไรทั้งนั้น”

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

cr : consciousreminder.com