|
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
|
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
12 – 9 เดือนก่อนวันแต่งงาน
1. วางงบสำหรับเสริมสวย เริ่มวางแผนว่าจะทำอะไรบ้าง เช่น ทำทรีตเมนต์ ลดหุ่น กระชับสัดส่วน ทำผม ทำเล็บ ฯลฯ
2. หากอยากเข้าคอร์สเจ้าสาวอย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจจัดเต็ม หาข้อมูล เปรียบเทียบราคาและถามตัวเองก่อนว่าต้องการปรับส่วนไหนเป็นพิเศษ
3. หาวิธีแก้ไขข้อบกพร่องของเรา เช่นอยากมีใบหน้าเนียนใสไร้สิวต้องทำอย่างไร อยากลดหุ่นเพื่อชุดแต่งงานหรูหรามีวิธีไหนบ้าง หากอย่างไหนทำได้ด้วยตัวเองโปรดรีบลงมือทำก่อน แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญควรไปขอคำปรึกษาจากสถาบันต่าง ๆ เพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียและราคาก่อนตัดสินใจ
4. เตรียมสุขภาพให้พร้อมและเริ่มวางแผนการรับ ประทานอาหารที่ถูกต้อง ลดการดื่มที่มีที่ผสมกาเฟอีน ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 6 – 8 แก้วเพื่อให้ผิวดูสดใสอ่อนกว่าวัย ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น และเป็นการขับของเสียออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี
5. หาเวลาไปออกกำลังกายใหบ่อยขึ้น เพราะคุณยังมีเวลาอีกเป็นปีก่อนถึงวันแต่งงาน เพื่อรูปร่างที่เพอร์เฟ็กต์ในการลองชุดแต่งงานครั้งสุดท้าย
6. หาแบบหน้า – ผมที่ชอบเตรียมไว้ และหาข้อมูลเกี่ยวกับช่างแต่งหน้า – ทำผมว่าใครที่เหมาะกับสไตล์ของเรา (กรณีที่อยากจองช่างดัง ๆ ในวันฤกษ์ดีมาก ๆ อาจต้องจองล่วงหน้านานหลายเดือน)
7. เริ่มดูแลทำความสะอาดผิวหน้าและเติมความชุ่มชื่นให้แก่ใบหน้าด้วยผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับผิว อย่าลืมทาครีมกันแดดและโลชั่นบำรุงผิวกายด้วยนะ ทั้งหมดนี้ควรทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะผิวที่ดีเริ่มต้นจากการดูแลตัวเอง
ผม
• ยังมีเวลาทดลองทำสีผมใหม่รับวันสำคัญเพื่อหาสีที่เพิ่มออร่าให้แก่ใบหน้าที่สุด
• เริ่มต้นดูแลเส้นผมให้เจริญเติบโตและแข็งแรงจากภายใน โดยเน้นกินอาหารที่มีโปรตีนและเคราตินสูง เช่น ไข่แดง เนื้อปลแซลมอนและทูน่า หอยนางรมสดสะอาด หรือกินวิตามินประเภทไบโอติน หากเริ่มตั้งแต่ตอนนี้จนถึงวันแต่งงาน สามารถเพิ่มความยาวเฉลี่ยได้มากถึง 14 นิ้ว
• เล็มผมทุก 4 – 6 สัปดาห์เพื่อป้องกันไม่ให้ผมแตกปลายและช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น
ฟัน
• ไปพบหมอฟันเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่นคราบชากาแฟ หรือหินปูน
มือและเท้า
• บำรุงมือด้วยการทาครีมทุกวัน
• หากคุณใส่ชุดแต่งงานแบบสั้นคู่กับรองเท้าเจ้าสาวแบบเปลือย เท้าและนิ้วเท้าอาจเป็นอีกส่วนที่ต้องดูแล เริ่มด้วยการสครับเท้าทุกเดือน ทาครีมบำรุงก่อนนอนเพื่อลดความหยาบกร้าน และอย่าลืมดูแลเรียวขาด้วยโลชั่นเป็นประจำ
8 – 5 เดือนก่อนวันแต่งงาน
1. ถึงเวลาต้องเริ่มดูแลผิวอย่างจริงจังหาครีมบำรุงดี ๆ ที่เหมาะกับสภาพผิว พยายามล้างเครื่องสำอางให้สะอาด แล้วอย่าลืมโบกมอยส์เจอไรเซอร์ก่อนนอนเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ใบหน้า และขยันมาสก์หน้าให้บ่อยขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่คุณไม่แพ้ประมาณ 3 ครั้ง /สัปดาห์ หากผิวแห้งมากแนะนำให้พกสเปรย์น้ำแร่ติดตัวไว้ฉีดทุกครั้งเมื่อเริ่มรู้สึกว่าผิวแห้ง
2. จัดระเบียบคิ้วที่รกรุงรังด้วยการหาแบบคิ้วที่เหมาะกับรูปหน้าแล้วเข้าร้านไปจัดการให้เป็นทรง
3. เริ่มขัดผิวหน้าและผิวกาย อย่าลืมบริเวณข้อศอก มือ และเท้า ทำเป็นประจำ 1 ครั้ง / สัปดาห์
4. เริ่มทำทรีตเมนต์ทุก 4 – 6 สัปดาห์ทั้งใบหน้าและผิวกาย ถ้าอยากลองคอร์สใหม่ ๆ ให้เริ่มทดลองตั้งแต่ตอนนี้ เพราะหากทำแล้วพลาดยังมีโอกาสฟื้นฟูผิวได้ แต่ทางที่ดีควรบำรุงในแบบที่คุณเคยทำแล้วไม่แพ้อย่างสม่ำเสมอ
5. เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่อยากลองฉีดโบท็อกซ์ดูสักครั้ง แต่ควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนและเลือกรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น (การฉีดโบท็อกซ์จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด และเห็นผลชัดเจนที่สุดประมาณ 2 เดือนแล้วจากนั้นจะค่อย ๆ กลับสู่สภาพเดิมภายใน 6 – 7 เดือน)
6. เริ่มกินวิตามินแนะนำให้กินเฉพาะที่จำเป็นและเลือกให้ตรงกับส่วนที่ต้องการจะบำรุงจริง ๆเท่านั้น
7. ถึงเวลาตัดสินใจเลือกแบบหน้าและผมที่ชอบ รวมถึงช่างแต่งหน้า – ทำผมที่คุณมั่นใจว่าจะแต่งออกมาได้ตรงกับสไตล์ของคุณมากที่สุดแนะนำให้รีบโทรจองตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ
8. อย่าลืมคุมอาหาร ออกกำลังกาย ดูแลมือและเล็บอย่างต่อเนื่อง
9. หากต้องการกำจัดขนแบบถาวร (แขน ขาใต้วงแขน) ควรเริ่มทำตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อป้องกันอาการแพ้หรือระคายเคืองในระยะยาว เพราะการรักษาต้องทำอย่างต่อเนื่อง หากเกิดอาการผิดปกติจะได้เปลี่ยนวิธีการทัน
4 – 3 เดือนก่อนวันแต่งงาน
1. ทำทรีตเมนต์ผม เช่น หมักผม อบไอน้ำหรือทำสปาเพื่อความนุ่มสลวยเงางาม สำหรับเจ้าสาวผมดำถึงเวลาเปลี่ยนสีผมให้อ่อนลงเพื่อเพิ่มมิติให้แก่ทรงผม
2. หากผิวแพ้ง่าย ไปทำสปาที่ไหนก็ไม่รอดรีบหาหมอรักษาให้หายแล้วใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่เป็นประจำเพื่อความปลอดภัย
3. เริ่มลดหุ่นและควบคุมอาหารอย่างจริงจังได้แล้ว หากเหงากับการออกกำลังกายคนเดียวก็ชักชวนว่าที่เจ้าบ่าวไปด้วยกัน จะได้กระชับความสัมพันธ์ไปในตัว
4. หาซื้ออุปกรณ์เสริมความงาม เช่น แฮร์พีชเครื่องประดับผม หรือเครื่องสำอางที่ชอบเตรียมไว้
2 – 1 เดือนก่อนแต่งงาน
1. ได้เวลาเติมโบท็อกซ์แล้วค่า
2. ถ้าอยากดัดผมเพื่อปล่อยสยายในวันแต่งงานก็ถึงเวลาแล้ว!
3. ยังทันหากคุณจะเข้าคอร์สเจ้าสาวแบบจริงจังและจัดเต็ม แต่ห้ามไปลองของใหม่เด็ดขาดไม่ว่าจะเจ๋งแค่ไหนหรือโปรโมชั่นแสนคุ้ม เพราะหน้าสวย ๆ อาจจะพังได้ในพริบตา จะดีมากกว่าหากดูแลตัวเองด้วยวิธีการที่เคยทำมาไปจนถึงวันแต่งงาน
4. ดูแลร่างกายและอาหารการกินอย่างระมัด-ระวัง อย่าไดเอตจนทำลายสุขภาพ ควรรับประทานผักผลไม้เยอะ ๆ เพื่อทดแทนพลังงานที่เสียไป
5.ลองแว็กซ์ขนบริเวณที่ต้องการ เพราะหากเกิดอาการแพ้จะได้หายทัน ใครที่ใส่ชุดเจ้าสาวแบบสั้นอย่ามองข้ามขนหน้าแข้งนะจ๊ะ
3 – 2 สัปดาห์ก่อนวันแต่งงาน
1. คอนเฟิร์มช่างแต่งหน้า -ทำผมอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าจะไม่ลืมวันสำคัญของคุณ
2. ตัดผม เล็มผม เติมสีโคนผม หรือทำผมสีเดิมให้ชัดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย เพราะถ้าทำในช่วงนี้จะช่วยให้ผมมีเวลาเซตตัวและดูสวยเป็นธรรมชาติในวันแต่งงาน จากนั้นห้ามทดลองอะไรใหม่ ๆ โดยไม่จำเป็น เพราะถ้าเกิดพลาดขึ้นมาจะแก้ไขไม่ทัน
3. ช่วงนี้สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อรักษาหลุมสิวและแก้ไขรูขุมขนกว้างได้อีกทั้งสามารถเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง IPL Treatment ด้วย AHAซึ่งเป็นการผลักวิตามินเข้าสู่ผิว หรือฉายแสง LED ทั้งใบหน้า แผ่นหลัง ไหล่และแขน เพื่อความขาวเนียน
4. เริ่มต้นใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกฟันขาวด้วยตัวเองติดต่อกันเป็นเวลา3 สัปดาห์ก่อนถึงวันแต่งงาน ควรหาข้อมูลและวิธีใช้อย่างละเอียด หากไม่สะดวกแนะนำให้พบทันตแพทย์เพื่อจัดการฟันให้ขาววิ้ง (แต่ต้องทุ่มค่าใช้จ่ายไหวนะจ๊ะ เพราะราคาค่อนข้างสูง)
5. หากคุณมีความเครียดจากการเตรียมงาน ควรหาเวลาไปนวดผ่อนคลายสักนิดจะได้ดูสดใสจากภายใน
6. Grooming My Groomหากว่าที่เจ้าบ่าวต้องการเปลี่ยนทรงผมควรรีบทำตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อผมจะได้เข้าทรงและไม่ดูแปลกตาในวันงาน
1 สัปดาห์ก่อนวันแต่งงาน
1. รักษาความชุ่มชื่นของผิวด้วยการใช้โลชั่นที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช้อยู่เป็นประจำ ไม่ควรทดลองอะไรใหม่ ๆ
2. ทำทรีตเมนต์หน้าและตัวเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเพิ่มความเปล่งปลั่งพร้อมเผยผิวในวันสำคัญ และหลังจากนี้ควรงดการทำทรีตเมนต์ ขัด นวด พอก เลเซอร์ และหยุดทาครีมที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA หรือครีมที่ทำให้ผิวลอก เช่น ยาแต้มสิวเพราะหากแพ้คงไม่สามารถรักษาได้ทัน
3. กำจัดขนรอบสุดท้ายเพื่อเก็บรายละเอียดให้เรียบเนียนที่สุด (ถ้าขนขึ้นเร็วให้ทำวันท้าย ๆ ของสัปดาห์ถ้าผิวเซ้นสิทีฟให้ทำต้นสัปดาห์ ผิวจะได้มีเวลาฟื้นฟู)
4. เตรียมของใช้กระจุกกระจิกที่อาจจะต้องใช้แบบกะทันหันในวันงาน เช่นกระดาษทิชชู กระดาษซับมัน คอตต้อนบัดส์สำหรับเช็ดเวลามาสคาราเปื้อนลิปกลอสหรือลิปบาล์ม แนะนำให้เก็บทั้งหมดไว้ในที่เดียวกันตั้งแต่เนิ่น ๆ และอย่าลืมเตรียมเครื่องประดับที่ต้องการให้พร้อม
2 – 1 วันก่อนวันแต่งงาน
1. เตรียมเสื้อเชิ้ตไว้ใส่ตอนแต่งหน้า – ทำผม เมื่อถอดเปลี่ยนเป็นชุดแต่งงาน หน้าจะได้ไม่เลอะและผมไม่เสียทรง ขอแนะนำให้ใช้เสื้อสีขาวหรือสีเดียวกับชุดแต่งงาน เพราะสีสว่างจะช่วยเพิ่มแสงสะท้อน ให้ช่างแต่งหน้าออกมาได้ใกล้เคียงกับสีชุดแต่งงานมากที่สุด
2. สระผมโดยใช้เพียงแค่แชมพูอย่างเดียวในคืนก่อนวันแต่งงานเพราะจะช่วยให้เซตผมได้ง่ายขึ้น
3. เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวมา กที่สุดด้วยการดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ ทามอยส์เจอไรเซอร์ยี่ ห้อที่ใช้อยู่ ประจำ อ ย่าลืมบำรุงริมฝี ป ากด้ วยลิปบาล์มเพื่อป้องกันริมฝีปากแห้งเป็นขุยในตอนเช้า จบด้วยการทาโลชั่นบำรุงผิวกาย
4. ไปทำเล็บให้สวยงามตามสีที่ชอบหรือแบบที่ต้องการ บวกการทำสปาอีกนิด แต่อย่าทำสวยจนขโมยซีนแหวนแต่งงานวงโตของคุณละลดอาหารเค็ม หวาน และเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน รวมทั้งไม่ควรดื่มน้ำเยอะหลังสองทุ่ม เพื่อลดอาการบวมน้ำในวันรุ่งขึ้น
5. หากคุณใส่ คอนแท็คท์เลนส์เป็นประจำ แนะนำให้ถอดออกตั้งแต่หัวค่ำ เพื่อป้องกันอาการตาแดงหรือระคายเคืองในวันแต่งงาน
6. พักผ่อนให้ได้ 8 – 10 ชั่วโมง จะได้ตื่นมาสดใสไม่เป็นหมีแพนด้า
7. อย่าลืมเตือนว่าที่เจ้าบ่าวของคุณให้โกนหนวดเคราให้เรียบร้อยเพื่อใบหน้าอันเกลี้ยงเกลา
วันแต่งงาน
1. ตื่นแต่เช้าแล้วดื่มน้ำแก้วใหญ่ ๆ หากพอมีเวลาลองออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
2. อาบน้ำให้หอมและสดชื่นก่อนออกจากห้องน้ำอย่าลืมเปิดน้ำเย็นรดตัวเพื่อกระชับรูขุมขน
3. เผื่อเวลาแต่งหน้า ทำผม แต่งตัว ก่อนงานเริ่มสัก 4 ชั่วโมง
4. หาอาหารว่างกินรองท้อง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกากใยมากหรืออาหารที่เสี่ยงต่อการท้องเสีย
5. ก่อนงานเริ่มทัชอัพอีกครั้งแล้วพรมน้ำหอมก่อนออกไปโชว์ตัว
6. สุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ การปล่อยวางและทำจิตใจให้ผ่อนคลาย พร้อมโปรยยิ้มให้กับทุกคนในงาน โดยเฉพาะสุดหล่อที่ยืนอยู่ข้างกาย
|
|
|
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
|
|
|
|
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
|
|
|
|
|
|
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
เกาะกระแสนิยายแนวอิโรติค Fifty Shades of Grey กันสักหน่อย เพราะได้ยินสาวๆ พูดถึงกันมาสักพักใหญ่จนมาดามอดใจไม่ไหว ต้องขอหยิบขึ้นมาอ่านบ้าง ครั้นพออ่านเสร็จก็แบบว่า…เอิ่ม มันน่าสนแฮะ!! แต่ไม่ใช่พ่อคริสเตียน พระเอกโคตรรวยและจ่ายได้ทุกอย่างหรอกนะ แต่เป็นวิธีการจัดเซ็กส์แบบที่พ่อเจ้าประคุณคิดได้ต่างหากที่มาดามว่า
บทเรียนเซ็กส์ที่ 1 : “Vanilla Sex” จัดเซ็กส์ธรรมดาให้หวือหวาเร้าใจ
เซ็กส์ธรรมดาๆ ที่คุ้นเคยไม่ใช่ไม่มีพิษสงนะจ๊ะ เพราะการค่อยๆ เพิ่มจังหวะการเล้าโลมให้นำอารมณ์ไปถึงจุดสุดยอดแต่กั๊กไว้ไม่ให้ถึงสักที มันเร้าใจยิ่งกว่าอะไรดี ทำแบบนี้ดูบ้าง เซ็กส์ธรรมดาท่าเดิมๆ ก็หวือหวาขึ้นมาได้เหมือนกัน
บทเรียนเซ็กส์ที่ 2 : “Feel the Freeze” ความเย็นกระตุ้นจุดเดือด
ก้อนน้ำแข็งถูหลังแบบจันดาราเอ๊าท์ไปนานแล้ว ถ้าจะมีเซ็กส์แบบคริสเตียนและแอนนาต้องอมน้ำแข็งไว้ในปากแล้วละเลียดลิ้นเย็นๆ ลงบนกลางหลังเธอรวมถึงเพิ่มความเร้าร้อนให้กับการออรัลเซ็กส์ได้ด้วย วิธีนี้ไม่เจ็บปวดแต่สุดสยิวเป็นที่สุด
บทเรียนเซ็กส์ที่ 3 : “Do It Everywhere- But Bed” เซ็กส์สนุกทุกที่ แต่ไม่ใช่บนเตียง
เล็งมุมให้ทั่วบ้าน เพราะทุกพื้นที่สามารถจัดเซ็กส์ยอดเยี่ยมได้ไม่แพ้กัน ดูอย่างคริสเตียนกับแอนนาสิ คู่นี้ยังจัดเซ็กส์ได้ทุกซอกมุม ทั้งบนโต๊ะทำงาน บนเปียโน ไม่เว้นแม้แต่ในลิฟท์ขึ้นบ้าน (ที่ได้ข่าวว่าเป็นของสาธารณะ) เพียงแต่มาดามจะขอเตือนไว้ว่า ถ้าริจะขึ้นไปขย่มกันตรงจุดไหน จงเช็คให้มั่นใจก่อนว่า จุดนั้นรับน้ำหนักได้ดี และไม่มีช่องว่างให้ใครมาแอบดู เพราะอย่าลืมนะว่า ใช่ว่าแม่บ้านหรือบอดี้การ์ดของคุณจะดีเริ่ดอย่างมิสซิสโจนส์และเทเลอร์
บทเรียนเซ็กส์ที่ 4 : “Tying One On” ล่ามเธอไว้
แค่ยอมให้เขาล่ามไว้สักนิดก็เหมือนเป็นการบอกโดยนัยว่า ยอมให้เขามีอำนาจเหนือกว่าในเกมนี้ ฉะนั้นจะล่ามไว้ด้วยกุญแจมือ (ขอให้มั่นใจว่าลูกกุญแจไม่ได้หายไปไหน) หรือจะเป็นเนคไทเส้นโปรดก็ได้ เพราะเมื่อคุณถูกพันธนาการไว้จนไม่สามารถขยับหนีไปไหนได้อย่างที่ต้องการ ความตื่นเต้นจะบังเกิดจนเพลงรักที่กำลังบรรเลงดึงดูดใจมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า
บทเรียนเซ็กส์ที่ 5 : “Going Blind” ปิดตาเธอซะ
การลดประสาทสัมผัสอย่างการมองเห็น จะไปเพิ่มความสามารถให้ประสาทสัมผัสด้านอื่นทำให้จินตนาการกระเจิดกระเจิง เคล็ดลับเด็ดอยู่ที่การแอบฟังเสียงการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย แล้วเดาเล่นๆ ในใจว่า อะไรบ้างหนอจะลงมาสัมผัสจุดสงวนของคุณ
บทเรียนเซ็กส์ที่ 6 : “Get Ballsy” ซี๊ดซ๊าดทุกก้าวย่าง
ทริกการใส่ของเล่นไว้ในตัวสาวๆ เพิ่มเลเวลความสนุกให้กับเซ็กส์ได้ไม่น้อย ลองทำตามแอนนาดูบ้างก็ไม่เลว แต่ต้องชัวร์นะว่า ลูกบอลที่ใส่เข้าไปกับความรับได้ของตัวคุณไม่ขัดแย้งกัน เพราะในชีวิตจริงอาจเสี่ยงที่จะทำตามมากไปหน่อย ถ้าคิดว่าแน่ไม่พอ ลองซี๊ดเบาๆ กับช๊อตที่แอนนาแกล้งลืมใส่กางเกงในในคืนเดทดีกว่าไหม แต่ทำแล้วต้องกระซิบบอกเขาให้รู้ด้วยล่ะ (จะให้ดีต้องไปถึงงานก่อนค่อยบอก) แล้วหลังจากนั้น เชื่อมาดามเถอะว่า การเล้าโลมที่รอคอยและเซ็กส์สวาทจะไล่ล่ามาหาคุณเอง
บทเรียนเซ็กส์ที่ 7 : “Get Your Engines Revving” กระตุ้นเร้าตามจังหวะคันเร่ง
ไม่ต้องถึงกับหาฉากไล่ล่ามาบิ้วบรรยากาศก่อนจัดเซ็กส์ แค่มองหาสถานที่เหมาะๆ ที่คุณทั้งคู่มั่นใจในความปลอดภัยได้ เช่นลานจอดรถที่เต็มไปด้วยรถยนต์มากมาย หรือจุดพักรถที่ไม่พลุกพล่าน จากนั้นโฟกัสกันเองสองต่อสองในรถ ช็อตต่อไปน่าจะเป็นเรื่องเบาะๆ ที่มาดามไม่ต้องบอก คุณก็คงเรียนรู้กันเองได้อยู่แล้วใช่ไหมว่าต้องทำอะไรกันดี
บทเรียนเซ็กส์ที่ 8 : “Be a Little Naughty” เด็กไม่ดีจะโดนตี
มาดามไม่เถียงที่คริสเตียนบอกว่า การตีก้นก็ช่วยให้ถึงจุดสุดยอดได้ แต่ไม่ใช่เอาแต่ฟาดไม่ยั้งมือ แค่ตีเบาๆ ตอนที่เล้าโลมหรือระหว่างสอดใส่ก็พอ เพราะทั้งความเจ็บปวดและความพึงพอใจที่ได้มีช่วงเวลาดีๆ ร่วมกัน จะทำให้สมองหลั่งสารโดพามีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เหมือนกับตกอยู่ในภวังค์มึนเมาเวลาที่ตกหลุมรักและเป็นฮอร์โมนที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้
บทเรียนเซ็กส์ที่ 9 : “Get Clean and Dirty” แค่ฝักบัวและการลูบไล้
พูดเลยว่าต่อให้เขาทั้งหล่อ รวยและสุดเซ็กซี่แต่มีเซ็กส์ด้วยกันตอนอาบน้ำยังไงก็ไม่เวิร์ค! เพราะน้ำจะชะล้างความชุ่มชื้นตามธรรมชาติออกไปหมด และคุณคงไม่ปลื้มที่จะให้ฟองสบู่เข้าไปในตัวคุณ เอาแบบนี้ไหม ถ้าไม่อยากรู้สึกว่ากำลังมีเซ็กส์ท่ามกลางฟองสบู่ก็ให้เขาประกบคุณจากด้านหลัง โดยตัวคุณหันหน้าชิดกำแพง วางมือของคุณไว้บนกำแพงห้องน้ำและใช้ออยเป็นสื่อกลาง แบบนี้มาดามว่าไหลลื่นกว่าเยอะ
บทเรียนเซ็กส์ที่ 10 : “Be Open to “OFF-Limits” Ideas” เปิดรับประสบการณ์แบบไร้ขีดจำกัด
“บริเวณรูทวารและใต้หัวหน่าวเต็มไปด้วยประสาทสัมผัส” แม้ตอนแรกแอนนาจะแอบตาเหลือกที่ได้ยินว่าคริสเตียนตั้งใจมั่นว่าวันหนึ่งจะมีเซ็กส์กับเธอในจุดที่ว่าให้ได้ก็ตาม แต่ถ้าคุณเริ่มต้นดีอย่างคริสเตียน แอนนาก็ยอมศิโรราบ เพียงแต่งานนี้ต้องไม่ลืมให้เขานำร่องด้วยเจลหล่อลื่นและนิ้วก่อน รับประกันได้เลยว่าคุณจะถึงจุดสุดยอดแบบถึงใจ
บทเรียนไหนโดนใจคุณบ้างก็ลองเลือกกันดูละกัน มาดามเชื่อแบบล้านๆ เปอร์เซนต์เลยว่า แม้ที่บ้านจะไม่มี Playroom ที่เต็มไปด้วยเซ็กส์ทอยต่าง ๆ อย่างคู่นี้ แต่ทุกวิธีสามารถนำไปปรับประยุกต์ให้เวิร์คกับคู่ของคุณ และทั้งหมดนี้จะช่วยเปลี่ยนรูปแบบชีวิตเซ็กส์ของคุณให้เหมือนอย่างในนิยายสุดฮิตได้แน่นอน
เรื่อง : Madam Hong Hern
ภาพ : www.celebuzz.com
สร้างตัวอักษรจากเส้นริบบิ้น ร้อยเรียงเป็นคำพูดแทนใจ จากนั้นถ่ายรูปเพื่อนำไปทำการ์ดแต่งงานหรือประดับภายในงานได้
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
แทนที่แจกันดอกไม้ด้วยแก้วน้ำชาสีหวาน วางไว้ตามโต๊ะของว่าง หรือโต๊ะจัดเลี้ยงในบรรยากาศทะเล
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
1. สีผมเด่นชัดถึงวันแต่งงาน
หลังจากทำสีผมแล้วไม่ควรทำอะไรกับเส้นผมมากไปกว่าการบำรุง เพราะผมทำสีต้องการการดูแลเป็นพิเศษ หากอยากให้สีผมเด่นชัดจนถึงวันแต่งงาน ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงเส้นผมที่มีสารซัลเฟตเป็นส่วนประกอบเพราะจะทำให้สีผมซีดจางเร็ว
– L’oreal Professionnel Inoa Color Care Protective Cream Shampoo
– L’oreal Professionnel Inoa Color Care Protective Conditioner
– L’oreal Professionnel Inoa Color Care Protective Conditioning Masque
– Kerastase Reflection Chroma Protect
2. เสกผมให้ยาวทันใจราวกับมีเวทมนต์
Long Term Plan ผมยาวขึ้นครึ่งนิ้วได้ภายใน 1 เดือนด้วยการรับประทานสารอาหารที่มีไบโอตินสูง เช่น ไข่แดงสุก กล้วย นมสด ขนมปังธัญพืช ปลา หรือเล็มปลายผมทุก 6 สัปดาห์ นอกจากจะช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้นยังป้องกันผมแตกปลายได้ด้วย
Short Term Fix ถ้าผมยาวไม่ทันการขอแนะนำ แฮร์พีช ที่มีให้เลือกทั้งแบบตรงและแบบลอน เทคนิคอยู่ที่การเลือกโทนสีให้ใกล้เคียงกับสีผมจริงมากที่สุดเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ
3. ผมยาวนุ่มสลวยไม่ใช่เรื่องยาก
Long Term Plan วันแต่งงานหากอยากโชว์เรือนผมนุ่มสลวย ควรถนอมเส้นผมด้วยการหลีกเลี่ยงเครื่องหนีบผม ดรายเป่าผม และที่ม้วนผมไฟฟ้าให้มากที่สุดเพราะความร้อนจะไปทำลายเส้นผมชั้นนอกให้ดูแห้งกร้าน แต่ถ้าจำเป็นแนะนำให้ใช้ลมเย็นเป่าผมแทนลมร้อนหรือเลือกระดับความร้อนของที่หนีบและที่ม้วนผมในระดับต่ำสุด
Short Term Fix เพื่อให้เส้นผมเปล่งประกายดูมีสุขภาพดีแบบเร่งด่วนในวันงาน เพียงแค่ใช้ Shiseido Professional The Hair Care Sleekliner Smoother ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมแบบไม่ต้องล้างออก ช่วยให้เส้นผมจัดทรงง่ายปัองกันผมชี้ฟูที่เกิดจากความร้อน
4. กำจัดสิวเจ้ากรรมให้ทันวันแต่งงาน
Long Term Plan เหงื่อและฝุ่นละอองเป็นปัจจัยอันร้ายกาจที่ทำให้เกิดสิว เพราะฉะนั้นควรทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจดทุกวันด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน Kiehl’s Calendula Deep Cleansing Foaming Face Wash เนื้อโฟมเข้มข้นไม่มีฟองเหมาะกับผิวแพ้ง่าย และมาส์กหน้าทุกสัปดาห์ด้วย Origins Clear Improvement™ เพื่อดึงสิ่งสกปรกที่อุดตันออกจากรูขุมขน อย่าพยายามซื้อยาหรือครีมรักษามาใช้เองเพราะหากแพ้จะเป็นเรื่องใหญ่
Short Term Fix หากเป็นสิวเม็ดใหญ่มากก่อนวันแต่งงานควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาให้เม็ดเล็กลงซึ่งเป็นวิธีที่ดีและปลอดภัยที่สุด หรือจะลองวิธีที่ง่ายกว่านั้นด้วยตัวเอง คือนำดินสอพองผสมกับน้ำมะนาวคนให้เข้ากันพอเหนียว ป้ายหัวสิวทิ้งไว้ก่อนนอนรับรองว่าสิวจะยุบในข้ามคืน ตอนแต่งหน้าเพียงแค่ลง Collection Lasting Perfection Concealer เพื่อกลบรอยสิวก็พอแล้ว
5. ผิวเนียนเรียบ หมดปัญหาจุดด่างดำกวนใจ
Long Term Plan แนะนำให้ทำทรีทเม้นต์ด้วยวิตามินเอเพราะจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่เพื่อให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ช่วงเวลาที่ดีในการทำคือ 6 เดือนก่อนแต่งงาน หากใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินเอควรใช้ตอนกลางคืนเนื่องจากเป็นสารที่ไวต่อแดด หากทากลางวันประสิทธิภาพในการบำรุงอาจลดลง
Recommended Estée Lauder Nutritious Rosy Prism Radiant Gel Emulsion เพื่อผิวเนียนเรียบ Eucerin White Therapy Concentrate-Serum ช่วยลดปัญหาจุดด่างดำ
Short Term Fix ในวันงานครีมรองพื้นจะช่วยให้ใบหน้าดูเนียนและปิดจุดด่างดำได้ในเวลาเดียวกัน ควรเริ่มต้นปรับสภาพผิวด้วย Pupa Professionals Primer Smoothing Foundation Primer จากนั้นลง Red Earth CC Light Perfection Colour Corrector เพื่อความเรียบเนียน ปิดท้ายด้วย Estee Lauder Double Wear Mineral Rich Loose Powder Makeup SPF 12 เนื้อแป้งเบาสบายพรางรูขุมขนได้ดีเยี่ยม
6. บอกลาปัญหาแพนด้า พร้อมขนตาหนาฟู
Long Term Plan การเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ เช่น ชาเขียวและเกรปซีดมีคุณสมบัติช่วยลดรอยคล้ำใต้ดวงตาซึ่งเป็นส่วนผสมใน Clinique Even Better Eyes Dark Circle Corrector จากนั้นอย่าลืมบำรุงขนตาด้วย Vichy Liftactiv Serum 10 Eyes & Lashes เพื่อขนตาดูหนางอนงาม
Short Term Fix ก่อนแต่งหน้ามาส์กตาด้วย SK-II Signs Eye Mask เพื่อลดรอยคล้ำใต้ตา เติมความเป๊ะอีกขั้นด้วยการลงคอนซีลเลอร์ Shiseido Sheer Eye Zone Corrector เพื่อให้ดวงตาดูสดใสขึ้น แล้วเสริมด้วยขนตาปลอม Mac ปิดท้ายด้วย Lancome Hypnose Star Waterproof Mascara เพื่อความโดดเด้งถึงขีดสุด
7. ฉีดน้ำหอมมากเกินไป มีทางแก้
กลิ่นกายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่เจ้าสาวต้องการ แต่ดันฉีดน้ำหอมมากเกินไปจนกลิ่นหอมกลายเป็นกลิ่นฉุน ใจเย็นๆ แล้วมองหาสำลีชุบแอลกอฮอล์บิดหมาดๆ มาเช็ดบริเวณที่ฉีดน้ำหอมลงไปจะช่วยให้กลิ่นเบาลง หรือทาบอดี้โลชั่นทับลงไป จะช่วยให้กลิ่นฉุนจางหายไปได้ แต่หากฉีดน้ำหอมโดนชุดแต่งงานให้ตบแป้งฝุ่นเบาๆ ก็ช่วยได้แล้ว
– Jo Malone London Red Roses Cologne
8. สร้างคิ้วให้ Cute
Long Term Plan ให้ผู้เชี่ยวชาญครีเอทคิ้วให้สวยเข้ากับรูปหน้าจะดีที่สุด จากนั้นดูแลต่อด้วยการถอนขนคิ้วที่ขึ้นเกินมาทุก 2 สัปดาห์ด้วยเครื่องมือง่ายๆ เช่น แหนบ กรรไกรแต่งขนคิ้ว หรือที่โกนคิ้วแบบไฟฟ้า และควรทาครีมบำรุงตามแนวขนที่ถอนออกไปเพื่อลดการระคายเคืองและทำให้ขนคิ้วขึ้นช้าลง ในวันงานเพียงแค่วาดคิ้วให้เข้ารูปด้วย Shu Uemura Brow:ink ก็จะได้เรียวคิ้วที่สวยดูเป็นธรรมชาติ
9. ริมฝีปากอวบอิ่มน่าจุมพิต
ริมฝีปากเกิดลอกเป็นขุยแถมวันแต่งงานก็ใกล้เข้ามา ควรหาทางรับมือโดยเร็วด้วยการจิบน้ำสะอาดที่มีอุณหภูมิปกติบ่อยๆ คนที่ปากแห้งเพราะกินยาบางชนิดควรหยุดก่อนชั่วคราว อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น แต่ถ้าจำเป็นต้องกินควรจิบน้ำให้เยอะขึ้น สำหรับคนที่นอนห้องแอร์หรือสาวออฟฟิศที่อยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน แนะนำให้วางแก้วใส่น้ำเอาไว้ใกล้ตัวเพื่อช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ จะช่วยลดอาการผิวและริมฝีปากแห้งได้ ที่สำคัญหมั่นทาลิปมันที่มีสารป้องกันแสงแดดอย่าง Kiehl’s Lip Balm เพื่อคงความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากอยู่เสมอ
เทคนิคง่ายๆ การสร้างริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มเพียงใช้ลิปไลเนอร์วาดไปตามเส้นขอบปากเพื่อสร้างมิติ จากนั้นเติมลิปสติกเฉดสีเดียวกันให้ทั่วริมฝีปาก แล้วทาทับด้วยลิปกลอสเพื่อสร้างความฉ่ำวาวน่าจุมพิต
– Nars Fantasia Lipliner
– Nars Lipstick Goodbye Emmanuelle
– Shiseido Perfect Rouge
– Mac Mineralize Glass
10. เจ้าสาวฟันเหลืองฟังทางนี้
Long Term Plan ผลิตภัณฑ์ฟอกฟันและสติ๊กเกอร์แปะฟันขาวเป็นที่นิยมมากและมีให้เลือกหลายแบบ ให้ผลเร็วเพียงเริ่มต้นทำ 3 สัปดาห์ก่อนถึงวันแต่งงาน แต่ระหว่างนี้ควรงดอาหารที่ทำให้เกิดคราบที่ฟัน เช่น กาแฟ ชา ไวน์แดง และบลูเบอร์รี่
Short Term Fix ขับฟันให้ขาวขึ้นง่ายๆ ด้วยการทาลิปสติกสีชมพูเบจ สีแดง หรือสีเบอร์รี่
1. Yves Saint Laurent Rouge Pur Couture The Mats
2. Mac Pedro Lorenco Lipstick
11. เล็บสวย-มืออ่อนนุ่ม เป๊ะสำหรับช็อตสวมแหวน
Long Term Plan ดูแลรักษาในทุกสัปดาห์ด้วยการตัดแต่งและขัดเล็บให้เงางาม เสริมการบำรุงด้วย Pola Junbisho Hand Treatment เพื่อความเรียบเนียน ชุ่มชื้น และกระจ่างใส หรืออาจใช้น้ำมันบำรุงผมแทนการใช้โลชั่นก็ได้
Short Term Fix ก่อนแต่งงาน 1 วันแนะนำให้ทาสีหรือทำเล็บแบบเรียบๆ และคลาสสิกในโทนสีธรรมชาติ จะได้ไม่แย่งซีนแหวนแต่งงานเม็ดโตบนนิ้วของคุณ
Recommend ยาทาเล็บ Madar (ราคาสอบถามได้ที่ร้าน Lashes), RMK , Pupa Nail Art Special Effects “Sandy Matt” , Pupa Extra Smoothing Base Coat , Mac Pedro Lorenco Nail Lacqure
12. ใส่ชุดแต่งงานแบบสั้น แต่ขนขาพรึ่บ!!!
Long Term Plan 2 เดือนก่อนวันแต่งงานแนะนำให้ทำเลเซอร์กำจัดขน จากนั้นดูแลเรียวขาด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วย Three Foot&Leg Treatment Oil AC เพื่อให้เรียวขาชุ่มชื้นเนียนกระชับพร้อมเปล่งประกายผิวสวย ทั้งนี้ควรทำหลังจากเลเซอร์ไปแล้ว 4 สัปดาห์ สำหรับเจ้าสาวที่มีปัญหาขนคุดการสครับผิวด้วย Sheer White Tea Scrub จะช่วยให้ปัญหาดังกล่าวลดน้อยลงได้
Short Term Fix การแว็กซ์เป็นวีธีที่เร็วที่สุดแถมยังให้ผลยาวนานมากกว่าการโกน ทางที่ดีควรแว็กซ์ขน 3 วันก่อนแต่งงาน และอย่าลืมสครับเท้าเพื่อลดความหยาบกร้านด้วย H2O Pumice Foot
13. ใต้วงแขนดำ ปัญหาที่เจ้าสาวไม่ควรมองข้าม
Long Term Plan ช่วงโยนช่อดอกไม้เป็นช็อตสำคัญ หากใต้วงแขนดำคล้ำก็บอกคำเดียวว่า “จบ” ฉะนั้นควรสครับผิวใต้วงแขนเบาๆ ทุกวันแล้วทาโลชั่นสูตรไวน์เทนนิ่ง เพิ่มความเรียบเนียนด้วยการใช้มะขามเปียกผสมกับนมสดถูอย่างเบามือ แล้วพอกทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รับรองเห็นผล ระหว่างนี้หลีกเลี่ยงการถอนหรือแว็กซ์เพราะอาจส่งผลให้ผิวหนังอักเสบและคล้ำมากกว่าเดิม
Short Term Fix การทำเลเซอร์เหมาะสมที่สุดสำหรับเจ้าสาวที่ไม่มีเวลา แต่หากต้องการงานด่วนมากกว่านั้นขอแนะนำวิธีที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีอุปกรณ์ดังนี้ ดรายโรลออน, รองพื้นแบบน้ำสีใกล้เคียงกับผิว, พัฟฟองน้ำ 2 อัน, แป้งผสมรองพื้น
เริ่มต้นด้วยกำจัดขนรักแร้ให้เกลี้ยงเกลา แล้วทาดรายโรลออนเพื่อป้องกันเหงื่อใต้วงแขน ทิ้งให้แห้งสนิท จากนั้นหยดรองพื้น Mac Face and Body Foundation ปริมาณพอเหมาะลงบนฝ่ามือ ใช้พัฟฟองน้ำแตะรองพื้นแล้วเกลี่ยใต้วงแขนรอจนแห้งสนิทจึงใช้พัฟอีกอันแตะแป้งผสมรองพื้น Suqqu Frame Fix Pact Foundation แล้วทาให้ทั่วเพื่อให้ดูเรียบเนียน
Credit :
Kiehl’s, Estée Lauder, Sk-II, Nars, Yves Saint Laurent, Lancome, M.A.C, Shiseido, Shu Uemura, Pupa, Origins. Clinique, Jo Malone, H2O, Coffret D’or, Red Earth หาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป Eucerin, Collection หาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปและร้านวัตสัน Shiseido Professional, L’oreal Professional หาซื้อได้ที่ซาลอนชั้นนำทั่วไป Kerastase หาซื้อได้ที่ร้านซาลอนที่มีเครื่องหมายเคเรสตาส, ร้าน To Be One ร้าน Cut & Curl ทุกสาขา Vichy หาซื้อได้ที่ร้านบูธและร้านขายยาชั้นนำ Rmk, Pola, Suqqu หาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าดิเอ็มโพเรี่ยมและห้างสรรพสินค้าอิเซตัน Madar หาซื้อได้ที่ร้าน Lashes ทั้ง 6 สาขา Sheer หาซื้อได้ที่ร้านลอฟท์ ร้าน The Selected สยามดิสคัฟเวอร์รี่, พาราไดซ์ พาร์ค Three หาซื้อได้ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลชิดลม, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลเวิล์ด และสีลมคอมเพล็กซ์
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
เลือกช็อกโกแลตเป็นขนมภายในงาน อาจวางบนจานไม้ เพื่อให้เข้ากับธีมงานมากขึ้น
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
สบู่รูปต่าง ๆ นำมาวางบนผ้าลินินแล้วมัดด้วยเชือกป่าน ดูมีสไตล์สุด ๆ
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
นำการ์ดแต่งงานแปะลงบนผ้ากระสอบ จากนั้นจึงทากาววางทับบนไม้กระดานอีกทีแล้วใส่ไว้ในซองกันกระแทก หาตัวอักษรฟ้อนต์ต่าง ๆ มาแปะเป็นชื่อแขกหน้าซอง เท่านี้ก็ได้การ์ดและซองการ์ดแต่งงานแบบไม่ซ้ำใครแล้ว
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
อาจารย์ชลดาให้คำแนะนำว่า ปี 2557 เป็นปีมะเมีย ซึ่งเป็นปีของอาชาที่คึกคะนอง เป็นปีแห่งความทะเยอทะยาน กล้าได้กล้าเสีย อาจส่งผลให้มีการปะทะรุนแรงและการล่มสลายของภาคธุรกิจ ในช่วงเวลาแบบนี้ การรู้จักเลือกใช้สีให้ถูกโฉลกกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า การแต่งหน้า หรือเครื่องประดับ จะช่วยเสริมอำนาจบารมี ส่งเสริมชะตาให้มีพลังแห่งการต่อสู้ ตลอดจนเสริมเสน่ห์ต่อผู้พบเห็น
ราศีมังกร (16 ม.ค. – 15 ก.พ.)
• ดอกไม้คู่ราศี : ดอกกุหลาบ ดอกแก้ว
• สีอาภรณ์ : ควรแต่งกายด้วยสีแดงสด อย่างสีแดงเลือดนก หรือสีดำจะช่วยเรียกพลังรักให้เบิกบาน ส่วนสีเขียวแก่และสีน้ำตาลจะช่วยเพิ่มสง่าราศี
• โทนสีแต่งหน้า : เน้นโทนสีอบอุ่น ทาปากสีสดเพื่อเสริมความมั่นใจ
• อัญมณีประจำราศี : โกเมน พลอยการ์เนต นิล
ราศีกุมภ์ (16 ก.พ. – 15 มี.ค.)
• ดอกไม้คู่ราศี : ดอกบานไม่รู้โรย ดอกเฟื่องฟ้า ดอกเข็ม
• สีอาภรณ์ : สีม่วงคราม สีส้มโอลด์โรส สีชมพูแซมขาว
• โทนสีแต่งหน้า : เน้นโทนอ่อนหวาน ถ้าอยากค้นหาหัวใจตัวเองให้แต่งตัวและแต่งหน้าโทนสีเดียวกัน คือ ชมพูหรือม่วงหวาน
• อัญมณีประจำราศี : แอเมทิสต์ โอปอ โกเมน
ราศีมีน (16 มี.ค. – 15 เม.ย.)
• ดอกไม้คู่ราศี : ดอกเบญจมาศ ดอกกล้วยไม้ ดอกเฟื่องฟ้า
• สีอาภรณ์ : สีของแฟชั่นที่เด่นล้ำและไฉไลคือชุดรัดแนบกาย เน้นสีแดงเพลิง ปักฉลุสลับลายด้วยสีดำให้ดูเด่น กระโปรงสีม่วง
• โทนสีแต่งหน้า : โทนสีฟ้า สีม่วง เน้นดวงตาและปากให้เป็นรูปกระจับ
• อัญมณีประจำราศี : โอปอ บลัดสโตน มรกต
ราศีเมษ (16 เม.ย. – 15 พ.ค.)
• ดอกไม้คู่ราศี : ดอกเยอบีร่า ดอกเฟื่องฟ้า
• สีอาภรณ์ : เน้นสีแสดและสีแดงสด เพราะเป็นสีเฮง ส่งเสริมดวงให้เด่น
• โทนสีแต่งหน้า : ควรแต่งหน้าทาปากด้วยสีแดงสดเสมอและควรมีไฮไลต์ที่ดวงตาเพื่อเพิ่มเสน่ห์
• อัญมณีประจำราศี : ทอง เพชร ทับทิม โกเมน
ราศีพฤษภ (16 พ.ค. – 16 มิ.ย.)
• ดอกไม้คู่ราศี : ดอกบัว
• สีอาภรณ์ : สีม่วงเม็ดมะปราง สีเขียวอ่อน สีฟ้า
• โทนสีแต่งหน้า : เน้นทาโทนสีน้ำตาลหรือสีเขียวทองที่ขอบตาจะช่วยให้เด่นเกินใคร ๆ วันไหนที่รู้สึกเหงาใจ ให้เลือกใส่เสื้อผ้าโทนสีเทาแล้วทาปากสีชมพูเข้มถึงแดงจะช่วยได้
• อัญมณีประจำราศี : มรกต นิล แซปไฟร์
ราศีเมถุน (16 มิ.ย. – 15 ก.ค.)
• ดอกไม้คู่ราศี : ดอกกล้วยไม้และดอกกุหลาบสีขาวหรือสีเขียวใบไม้สด
• สีอาภรณ์ : แต่งกายสีสันผสมกลมกลืนหลากสี
• โทนสีแต่งหน้า : เน้นโทนสีสดใสเพื่อเสริมดวง
• อัญมณีประจำราศี : บุษราคัม เพชร มรกต
ราศีกรกฎ (16 ก.ค. – 15 ส.ค.)
• ดอกไม้คู่ราศี : ดอกรักเร่ ดอกเขียวหมื่นปี
• สีอาภรณ์ : สาวทันสมัยต้องเน้นสีเด่นเป็นสีสด ๆ หรือสีดำสลับเทา
• โทนสีแต่งหน้า : เหมาะที่สุดกับโทนสีสดใส
• อัญมณีประจำราศี : เพชร ไข่มุก เงิน
ราศีสิงห์ (16 ส.ค. – 15 ก.ย.)
• ดอกไม้คู่ราศี : ดอกเข็มหรือดอกไม้สีแดง สีน้ำตาลแดง เหลืองโทนเทา และเบจ
• สีอาภรณ์ : แต่งกายสีขาวแล้วตัดด้วยจุดดำจะดีมาก
• โทนสีแต่งหน้า : เน้นโทนสีน้ำตาลออกเบจ
• อัญมณีประจำราศี : ทอง เพชร คริสตัล
ราศีกันย์ (16 ก.ย. – 15 ต.ค.)
• ดอกไม้คู่ราศี : ดอกเฟื่องฟ้า ดอกไม้สีเขียว น้ำเงิน คราม
• สีอาภรณ์ : สวมเสื้อสีแสด สีเหลืองทองหรือสีขาว – น้ำเงินจะรุ่งมาก
• โทนสีแต่งหน้า : โทนสีส้ม สีทอง แล้วปัดมาสคาราหรือเขียนขอบตาล่างด้วยสีน้ำเงิน
• อัญมณีประจำราศี : ไพลิน ไข่มุก เพริดอต
ราศีตุล (16 ต.ค. – 15 พ.ย.)
• ดอกไม้คู่ราศี : ดอกจำปี ว่านสี่ทิศ ดอกไม้สีแดง น้ำเงิน ม่วง
• สีอาภรณ์ : ชุดสีม่วงครามจะช่วยเรื่องความรัก
• โทนสีแต่งหน้า : โทนสีเหลืองทอง แต่ถ้าอยากลดความเครียดให้แต่งหน้าโทนสีฟ้าเบา ๆ
• อัญมณีประจำราศี : หยก โอปอ
ราศีพิจิก (16 พ.ย. – 15 ธ.ค.)
• ดอกไม้คู่ราศี : ดอกดาวเรือง ดอกไม้สีส้มสุก สีดำกรมท่าสีออกมืด ๆ หรือสีบรอนซ์ทอง
• สีอาภรณ์ : เสริมเสน่ห์ด้วยสีฟ้าครามกับเหลืองทอง ถ้ามีปักระยิบระยับจับตาจะดีมาก
• โทนสีแต่งหน้า : เหมาะกับสีระยิบระยับเช่นกัน
• อัญมณีประจำราศี : บุษราคัม โกเมน โอปอ เพชร
ราศีธนู (16 ธ.ค. – 15 ม.ค.)
• ดอกไม้คู่ราศี : ดอกมะลิ ดอกไม้สีเหลือง สีม่วง
• สีอาภรณ์ : เด่นด้วยสีน้ำเงินและน้ำตาล
• โทนสีแต่งหน้า : เน้นโทนสีเขียวเบา ๆ ที่เปลือกตา
• อัญมณีประจำราศี : หินเขี้ยวหนุมาน เทอร์คอยส์ โทแพซสีฟ้า
เทคนิคแต่งหน้า – แต่งตัวเสริมดวงปี 2557 สำหรับทุกราศี
• โทนสีที่ดีในปีนี้คือ สีโทนทึม ๆ เช่น สีดำ สีม่วงเข้ม นอกจากนั้นสีที่เข้ามามีอิทธิพลคือ สีส้ม สีแดง และสีทอง ซึ่งเราสามารถใช้โทนสีเหล่านี้แต่งหน้าเพิ่มเข้าไปได้ จะช่วยเสริมพลังและเสริมดวงการเงิน
• การแต่งหน้าควรมีความเป็นประกายและควรมีสีบลัชออนที่แก้ม จะช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ใบหน้า
• สไตล์การแต่งตัวของปีนี้ ควรเน้นเสื้อผ้าที่มีขอบ เช่น ขอบชายกระโปรง ขอบเสื้อ ขอบริมปก เพราะปีนี้ต้องเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง เพื่อฟันฝ่าเศรษฐกิจ การมีขอบจะช่วยเสริมดวงการเงินและช่วยดึงดูดสายตาทุกคน
• ปีนี้เทรนด์สีดำ สีดำทอง สีส้มเอิร์ธโทน หรือสีน้ำตาลมาแรง สามารถใช้ได้กับทุกคน แต่ต้องดูให้เหมาะสมกับอาชีพด้วย
• ว่าที่เจ้าสาวควรแต่งหน้าด้วยโทนสีน้ำเงินหรือสีฟ้าวิ้ง ๆ จะช่วยเสริมความสุขุมเยือกเย็น ทาปากโทนสีชมพูเข้มออกแดง เขียนขอบตาใต้ตาควรเป็นสีมีประกาย และมีไฮไลต์ที่หน้า
• สีที่ให้คุณด้านความรักที่ดีที่สุดคือสีชมพู แต่ถ้าชอบใส่เสื้อผ้าโทนสีเข้ม อาจเลือกใส่เครื่องประดับที่มีสีชมพูแทน
• หากไม่ชอบแต่งหน้า สามารถใช้สีผ้าพันคอแทนสีแต่งหน้าได้ ถ้าใช้ผ้าพันคอสีหวานจะช่วยดึงดูดความรัก ถ้ามีความรักแล้วอยากให้ความรักหวานชื่นยิ่งขึ้น ให้ใช้ผ้าพันคอลายดอกไม้เล็ก ๆ
• ถ้าไม่ชอบใช้ผ้าพันคอ สามารถใช้กำไลหรือแหวนสีสันตามโทนสีแต่งหน้าได้ จะให้ดีควรใช้กำไลสีเงินหรือสีทองที่มีเสียงกรุ๊งกริ๊งเวลาเคลื่อนไหวจะช่วยเสริมดวงได้
• สามารถใช้สีกระเป๋าตามโทนสีแต่งหน้าได้ เช่น กระเป๋าสตางค์ใบเล็ก กระเป๋าใส่เครื่องสำอาง แต่ควรใช้วัสดุที่ทำจากธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย
• ผู้หญิงควรเขียนขอบตา โดยขอบตาบนคือ อำนาจ ส่วนขอบตาล่างคือเสน่ห์ที่จะช่วยให้สะดุดสายตาหนุ่ม ๆ ได้เร็วขึ้น
• คิ้วกับปากก็สำคัญ การเขียนคิ้วคือ การมีบ้านอยู่ มีบริวาร ส่วนการทาปากคือ การมีกินมีใช้ ดังนั้นระวังอย่าให้ปากแห้ง ถ้าไม่ทาลิปสติกก็ควรใช้ลิปมันหรือใช้ลิปกลอสสี
• การทาลิปสติกสีชมพูจะทำให้เป็นที่รักที่เอ็นดู มีผู้ชายเข้าหา ส่วนลิปสติกสีแดงจะทำให้มีอำนาจ เสริมความมั่นใจ พูดอะไรแล้วคนอยากฟัง
อัญมณีและเครื่องรางน่าใช้
• คริสตัลควอร์ตซ์ ช่วยเสริมดวงการเงินและการงาน
• นิลและหินสะเก็ดดาว ช่วยปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากอันตราย
• โรสควอร์ตซ์ ช่วยเรื่องความรัก
• ตกแต่งบ้านด้วยเป็ดแมนดารินที่แกะสลัก ด้วยหินโรสควอร์ตซ์ จะช่วยเสริมดวงความรักดึงดูดความรักเข้ามาหา และช่วยให้มีคู่ที่ดี ถ้ามีแฟนแล้วก็จะได้แต่งงานเร็วขึ้น
• ใช้กรอบรูปหัวใจที่ทำจากโลหะ เช่น ทองเหลือง เงิน สเตนเลส จะทำให้ความรักดี ความสัมพันธ์ไม่ร้าวฉาน ถ้ามีแฟนแล้วให้ใส่รูปคู่ลงไป ถ้ายังไม่มีแฟนให้ใส่รูปตัวเอง และเขียนความปรารถนาไว้ด้านหลังรูปว่าต้องการมีคู่ จะช่วยให้หาคู่ได้เร็วขึ้น ส่วนตำแหน่ง ควรวางกรอบรูปไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของห้องนอนหรือตัวบ้านหรือจะวางไว้บนหัวเตียงฝั่งซ้ายก็ได้
• นำดอกไม้ประจำราศีมาทำเป็นดอกไม้แห้งแล้วใส่กรอบรูป จากนั้นอธิษฐานขอพร จะช่วยให้พบรักได้เร็วขึ้น
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
ไม่ว่าจะผมสั้นหรือผมยาวต่างก็ต้องการการดูแล หากคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะควรรีบจัดการอย่างเร่ง-ด่วนเพื่อวันสำคัญที่กำลังจะมาถึง
1. ผมสั้นและหนังศีรษะมัน ควรใช้แชมพูอ่อน ๆ สำหรับเด็กหรือสำหรับผมมันโดยเฉพาะ และไม่จำเป็นต้องใช้ครีมนวดเวลาสระให้เน้นบริเวณเส้นผมมากกว่าหนังศีรษะ เพราะหากยิ่งกระตุ้นหนังศีรษะจะยิ่งผลิตน้ำมันออกมา ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงน้ำมันใส่ผมและครีมจัดแต่งทรงผมทุกประเภท
2. ผมบาง เลี่ยงการใช้ครีมบำรุงเส้นผมหรือผลิตภัณฑ์แต่งผมทุกชนิด ไม่ควรไว้ผมยาวเกินไป แนะนำให้ไปพบช่างผมอย่างน้อยเดือนละครั้ง หากศีรษะเริ่มล้านให้ตัดผมบริเวณที่บางให้สั้นลงหรือจะตัดเป็นทรงสกินเฮดเพื่อให้ดูกลมกลืนทั้งศีรษะไปเลยก็ได้
3. มีรังแค ทุกครั้งที่สระผมควรนวดหนังศีรษะเบา ๆ เพื่อขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออก และควรหาแชมพูสูตรขจัดรังแคมาใช้โดยด่วน เมื่อหายจากอาการรังแครังควานแล้วให้สลับมาใช้แชมพูแบบปกติเพื่อป้องกันการดื้อยา
4. ผมร่วงและผมหงอก ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารเคมีทุกชนิดและหันมาใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ
5. ผมหยักศก อย่าสระผมบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ผมพันกันง่าย พยายามใช้ดรายร์เป่าผมให้น้อยที่สุด การใช้ผ้าซับผมพอหมาดแล้วปล่อยให้แห้งเองจะช่วยให้ผมหยักศกดูเป็นทรงตามธรรมชาติ
TIP : วิธีที่จะช่วยให้เจ้าบ่าวของคุณมีทรงผมหล่อเนี้ยบคือ จัดการพาเข้าร้านตัดผมก่อนวันแต่งงานประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้ทรงผมเข้าที่และรับกับใบหน้าได้อย่างพอดิบพอดีในวันงาน
ว่าที่เจ้าบ่าวส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาหรือไม่นิยมไปเข้าคอร์สบำรุงผิวหน้าอย่างว่าที่เจ้าสาว แต่อย่างไรก็ไม่ควรละเลยการดูแลผิวหน้า เพราะในวันสำคัญทุกสายตาจะจับจ้องมาที่ใบหน้าหล่อ ๆ ของคุณ
1. ผิวธรรมดา มีลักษณะเนียนเรียบ เห็นรูขุมขนไม่ใช่ชัด ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อครีมที่ไม่เข้มข้นหรือบางเบาเกินไป หรือเลือกตามสภาพอากาศที่ต้องเผชิญ เช่น หากต้องอยู่ในอากาศหนาวหรือห้องแอร์ควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นกว่าที่ใช้เป็นประจำ
2. ผิวผสม รูขุมขนจะกว้างบริเวณทีโซนและมีผิวธรรมดาหรือผิวแห้งบริเวณข้างแก้ม ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันในบริเวณที่มีสภาพผิวแตกต่างกัน หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีผิวผสมโดยเฉพาะ
3. ผิวมัน เป็นผิวที่รูขุมขนกว้าง หลังการล้างหน้า ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ชนิดบางเบา เพื่อรักษาความชุ่มชื่นตามธรรมชาติเอาไว้ และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีผิวมันโดยเฉพาะ
4. ผิวแห้ง รูขุมขนไม่กว้างและผิวละเอียดกว่าผิวมัน ผิวจึงจำเป็นต้องได้รับความชุ่มชื่นอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นควรใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดผิว โดย เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมไขสบู่และไม่มีแอลกอฮอล์ และปกป้องผิวด้วยการใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นเป็นประจำ
TIP : พอใกล้วันงานว่าที่เจ้าสาวควรจะพาว่าที่เจ้าบ่าวไปขัดหน้า พอกหน้า หรือนวดหน้าบ้างก็ดี แต่ถ้ายังไงเขาก็ไม่ยอม ลองหาวิธีง่าย ๆ อย่างการใช้แผ่นมาสก์หน้าที่แสนสะดวกสบาย เพื่อขจัดเซลล์เก่าให้หลุดออกเพื่อเผยผิวกระจ่างใสในวันงาน
ว่าที่เจ้าบ่าวหลายคนอาจกำลังกังวลว่าจะลดพุงที่ยื่นออกมาอย่างไรไหล่เล็กขนาดนี้แล้วจะเพิ่มให้ใหญ่ได้ไหม เอาเป็นว่าหากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยท่าต่อไปนี้ รับรองหุ่นในฝันอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
ลดหน้าท้องช่วงบน
1. นอนราบ วางมือทั้งสองข้างไว้ที่หลังหูกางศอกออกให้สุด
2. ชันเข่าโดยกางขาให้เท่ากับความกว้างของหัวไหล่
3. เกร็งหน้าท้องแล้วยกตัวขึ้น
4. ทำ 3 เซต เซตละ 20 ครั้ง
เน้นกล้ามเนื้ออกให้ผึ่งผาย
1. อยู่ในท่าวิดพื้น โดยวางมือให้กว้างกว่าหัวไหล่เล็กน้อย เกร็งบริเวณหลังแขนและหน้าอก
2. หย่อนตัวลงไปเกือบถึงพื้นพร้อมกางศอกออก
3. ทำ 3 เซต เซตละ 12 – 15 ครั้ง
บริหารกล้ามเนื้อต้นขา
1. ยืนเท้าสะเอวโดยก้าวขาซ้ายไปด้านหน้าส่วนขาขวาวางไว้ด้านหลังพร้อมกับเปิดส้นเท้าขึ้น
2. ย่อเข่าขวาลงจนเกือบถึงพื้น พร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อต้นขาไว้
3. สลับทำข้างละ 12 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซต
การลดน้ำหนักเพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หากคุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน
1. จดบันทึก การรับประทานอาหารและการออกกำลังกายในแต่ละวัน เมื่อย้อนกลับไปดูจะได้ทราบว่าควรลดอาหารหรือเพิ่มการออกกำลังกายมากน้อยแค่ไหน
2. ออกกำลังกาย ให้ได้สัปดาห์ละ 4 วัน วันละ 40 นาที
3. รับประทานแคลเซียมให้มากขึ้น จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น แหล่งแคลเซียมใกล้ตัว เช่น ปลาตัวเล็กที่กินได้ทั้งตัว กุ้งแห้ง โยเกิร์ตไขมันต่ำ
4. ควรมีโปรตีนในอาหารทุกมื้อ เป็นการช่วยลดปริมาณของไขมันในระหว่างที่ลดน้ำหนักและช่วยคงสภาพกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี
5. รับประทานอาหารเช้า เพื่อให้ฮอร์โมนที่ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานอยู่ในระดับคงที่
6. อย่าอดอาหาร ควรรับประทานอาหารให้ได้อย่างน้อย 3 มื้อต่อวันหรือซอยมื้ออาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ และรับประทานถี่ขึ้น ก็จะช่วยควบคุมความหิวได้
7. ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรหักโหมในการลดน้ำหนักให้มากเกินไป เพราะอาจทำให้เหนื่อยล้าจนเกิดความท้อใจและเลิกราไปในที่สุด
8. หาคู่หูลดน้ำหนัก เพื่อช่วยให้กำลังใจซึ่งกันและกันและไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น
9. อาหารสีรุ้ง เลือกรับประทานผักและผลไม้หลากสีที่มีแคลอรีต่ำและไม่มีไขมัน รวมทั้งข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ เพราะร่างกายจะย่อยและดูดซึมอย่างช้า ๆ ทำให้ไม่หิวบ่อย
10. ให้รางวัลตนเอง เช่น เมื่อลดได้ตามเป้าหมายจะซื้อของที่ชอบ แบบนี้ช่วยให้มีใจจดจ่อกับการลดน้ำหนักได้นานกว่า แต่ไม่ควรใช้อาหารเป็นรางวัลเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นที่พยายามมาจะกลายเป็นศูนย์
Q : ถ้าว่าที่เจ้าบ่าวเป็นคนไหล่เล็ก การออกกำลังกายจะสามารถเพิ่มช่วงไหล่ให้ดูกว้างขึ้นได้หรือไม่
A: การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ไหล่ดูกว้างขึ้น เพราะเมื่อออกกำลังกายทุกครั้งเราจะต้องระวังให้หลังตรงอยู่เสมอ จึงทำให้อกและไหล่ยกขึ้น ส่งผลให้บุคลิกดี ในบางรายที่มีปัญหาหลังค่อมก็ทำให้กลายเป็นคนที่เดินหลังตรงอกผึ่งผายขึ้นได้
Q : หากมีเวลาเตรียมตัวไม่มากสำหรับการลดหน้าท้อง การซิตอัพทุกวันจะช่วยให้หน้าท้องลดลงได้หรือไม่
A : การซิตอัพเพียงอย่างเดียวไม่สามารถลดไขมันบริเวณหน้าท้องได้ทันใจ หากต้องการลดหน้าท้องอย่างรวดเร็วควรทำอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น การเดินเร็ว จ๊อกกิ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ จะทำให้เห็นผลเร็วขึ้น
GURU’S ADVICE
หากเลือกออกกำลังกายที่ฟิตเนส โดยมีเทรนเนอร์เป็นผู้ดูแล เริ่มแรกควรเล่นแบบทั่วไปก่อน คือออกกำลังกายทุกส่วนของร่างกาย หลังจากนั้นจึงขยับไปเล่นในระดับ Beginner ซึ่งเป็นการเล่นเฉพาะส่วน Upper Body (ร่างกายส่วนบน) และ Lower Body (ร่างกายส่วนล่าง) เมื่อเล่นไปได้สักระยะจึงเข้าสู่การออกกำลังกายขั้น Advance เป็นการเล่นแบบแบ่งกล้ามเนื้อ ออกกำลังกายเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายประมาณ 3 – 7 วัน จากนั้นจึงเปลี่ยนไปเน้นส่วนอื่นต่อไป การออกกำลังกายทุกส่วนจะเป็นการช่วยเผาผลาญพลังงานไปด้วยในตัว จึงเป็นทั้งการลดน้ำหนักและเพิ่มกล้ามเนื้อ โดยทั้งหมดนี้สามารถเห็นผลได้ภายในระยะเวลา 3 เดือนขึ้นอยู่กับความมีวินัยของผู้เล่นด้วย
ขอบคุณเทรนเนอร์ ประณต โชคเจริญ (เอ็น) จากฟิตเนส Fit Forward ซอย 5 ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ห้วยขวาง โทร. 0-2691-1915 www.fitforward.com
ครบรอบหนึ่งทศวรรษทั้งที WE ขอชวนผู้อ่านทุกท่านนั่งไทม์แมชีนกลับไปดูวันหวานแห่งความทรงจำผ่านภาพประทับใจ พร้อมความนัยที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนของ 11 คู่รัก ซึ่งบอกได้เลยว่าครบทุกอารมณ์และช่วงวัย แต่ใครจะเป็นใคร แต่งกันมานานแค่ไหน กดปุ่มสตาร์ตเดินทางไปกับเราได้เลย
|
กุลนัดดา ปัจฉิมสวัสดิ์
“ช่วงเฟิร์สต์แด๊นซ์เป็นช่วงที่อยู่ในความทรงจำของนิน่ามากที่สุด เพราะจู่ ๆ เพื่อนที่มาเป็นดีเจให้ก็ทำเซอร์ไพร้ส์ประกาศเรียกบ่าว – สาวขึ้นไปบนเวที แล้วเปลี่ยนจากเพลงดิสโก้ยุค 70 มาเปิดเพลงของคุณดอน สอนระเบียบ ให้เราเต้นรำกัน ไม่ถึงนาทีญาติ ๆ ก็กระโดดขึ้นมาเต้นด้วยแล้วก็เต้นกันอย่างนั้นจนถึงตีหนึ่ง เป็นโมเมนต์ที่สนุกและมีความสุขมาก ซึ่งภาพที่เลือกมาเป็นภาพที่เก็บอารมณ์ตอนนั้นได้หมด
“เมื่อไม่นานมานี้นิน่าเปิดดูภาพแล้วนึกถึงความสุขในวันนั้นเลยเอามาตั้งเป็นล็อกสกรีนโทรศัพท์ พอโชว์ให้สามีดูเขาก็ชอบ เลยชวนให้เขาใช้ภาพนี้เป็นล็อกสกรีนเหมือนกัน (ยิ้ม) ตอนนั้นเราแต่งงานกันมา 5 ปีแล้วก็หวังว่าคู่เราจะอยู่ด้วยกันนานๆ เหมือนที่ WE อยู่คู่ผู้อ่านตลอดไป"
|
ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา
“ความทรงจำที่ประทับใจที่สุดในวันแต่งงานคือ ครอบครัวเพื่อนฝูงที่มาร่วมงานกันพร้อมหน้า อาจเป็นเพราะหนิงแต่งงานเป็นคนแรก ๆ ด้วย ตอนนั้นเพื่อนทุกคนยังโสด ไม่ต้องรีบกลับไปดูแลลูกหรือครอบครัว ทำให้ช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้สนุกกันสุดเหวี่ยง เมาจนต้องหิ้วปีกกันกลับ บางคนกลับไม่ไหวก็ต้องนอนที่โรงแรมกับหนิง” (หัวเราะ)
|
ม.ร.ว. เขมาสินี ยุคล
“จริง ๆ ประทับใจทุก ๆ นาทีในงานอยู่แล้ว แต่พอมาย้อนดูรูปแล้วชอบภาพตอนโยนดอกไม้มาก ๆ เพราะทำให้นึกถึงวินาทีที่ยืนอยู่บนเวทีแล้วมองลงไปเห็นบรรยากาศความสนุกสนาน เสียงกรี๊ดกร๊าดของคนที่จะแย่งดอกไม้ ซึ่งสีหน้าทุกคนเป็นธรรมชาติมาก ๆ ให้ความรู้สึกว่าไม่ใช่เราสองคนเท่านั้นที่มีความสุข แต่แขกก็สุขไปด้วย กับอีกโมเมนต์คือตอนที่กำลังเซ็นอวยพรให้ตัวเองบนจอ เพราะปกติตรงนั้นมีไว้ให้คนอื่นเซ็นอวยพรเรา แต่นาทีนั้นมีคนเชียร์ว่าเขียนอวยพรให้ตัวเองด้วยสิ ก็เลยหยิบปากกาขึ้นมาเขียนว่า ‘เริ่มต้นกันแล้วนะ’ ”
|
ผดุง ทรงแสง (แจ๊ส ชวนชื่น)
“พูดเลยว่า นี่คือครั้งแรกในชีวิตที่จัดงานเฉลิมฉลองให้กับตัวเอง เพราะที่ผ่านมาวันเกิดก็ไม่เคยจัดงาน แค่ไปกินข้าวที่ร้านอาหาร ยิ่งครั้งแรกเป็นงานแต่งด้วย ยิ่งอยากให้คนที่มางานได้อะไรมากกว่าการมากินกระเพาะปลาแล้วตบมือ ผมอยากให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่มาร่วมยินดีเป็นร้อย ๆ คนตรงหน้ารู้สึกชอบงานแต่งนี้ ก็เลยใส่ความเป็นตัวเองของผมกับแจงเข้าไป คือ ความกวนตีนและความสนุก
“ตอนเปิดตัวเราใส่ชุดบ่าว – สาวสลับกันออกมา เพราะตอนถ่ายพรีเวดดิ้งพี่ที่ร้านเขาเชียร์ให้ใส่ พอคิดว่าอยากได้อะไรเซอร์ไพร้ส์ในงานก็เลยเอาเรื่องชุดนี่แหละมาใช้ ตอนที่ทำก็ไม่คิดว่าคนจะพูดถึงเยอะขนาดนี้หรอก แต่คงเพราะความเป็นตัวเราเอง มันยิ่งเพิ่มความสนุกเข้าไปอีก ก็เลยกลายเป็นพาร์ตหนึ่งในวันแต่งงานที่ยังจำได้จนถึงทุกวันนี้และเชื่อว่าจะจำไปตลอดชีวิตเลยละ”
|
นภัสกร มิตรเอม
“รูปนี้เป็นช่วงสุดท้ายในงานแต่งงาน ผมร้องเพลง ขอรับรองว่าเป็นความจริง ซึ่งเป็นเพลงที่ผมแต่งเองเซอร์ไพร้ส์ป๊อก ในภาพเป็นตอนที่ร้องเพลงจบพอดีแล้วลงไปคุกเข่าต่อหน้าเขาเพื่อจะตอบคำถามที่เขาเคยถามผมว่า ผมจะรักและอยากใช้ชีวิตอยู่กับเขาจริง ๆ หรือเปล่า ผมบอกเขาไปว่า จริง คำตอบทุกอย่างอยู่ในเพลงเพลงนี้
“ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับรูปถ่ายหรือช่วงไหนในงานเป็นพิเศษเพราะสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผมในวันนั้นคือ ‘ป๊อก’ คนเดียวเท่านั้น”
|
พอลล์ กาญจนพาสน์
"ประทับใจช่วงเปิดตัวเจ้าบ่าว – สาวที่สุด เพราะถือเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ เสมือนการประกาศให้ทั้วโลกรับรู้ถึงความรักที่สวยงามของเรา ซึ่งพร้อมจะเดินทางเคียงข้างกันนับจากนี้ ในภาพจะเห็นได้ถึงรอยยิ้มที่สะท้อนความรู้สึกอิ่มเอมใจและเต็มไปด้วยความสุขออกมา ทำให้หลายๆ คนยิ้มได้ยิ้มไปกับเราด้วย นอกจากนี้ยังเป็นภาพมุมกว้างที่เห็นห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม ซึ่งผมเนรมิตให้สวยงามตระการด้วยตัวเอง ทำให้ทั้งสุขใจและภูมิใจทุกครั้งที่เห็นภาพนี้"
|
ไตรภพ ลิมปพัทธ์
"โบราณถือกันว่าห้ามทำแก้วแตกในวันแต่งงานเด็ดขาด แต่วันนั้นกลับมีพนักงานเดินสะดุดทำแก้วแตกหมด ไม่เหลือเลยสักใบเดียว ผู้ใหญ่ก็หน้าเสียไปตามๆ กัน แต่สำหรับผม ตอนนั้นถามตัวเองว่า เราจะเชื่อถือเรื่องพวกนี้หรือจะเชื่อถือตัวเองและเชื่อในสิ่งที่จะทำต่อไป คำตอบที่ได้คือ เราต้องเชื่อถือตัวเราอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างอยู่ที่เราทำทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับแก้ว การใช้ชีวิตคู่มันอยู่ที่ว่าเราจะทำให้มันแตกหรือเปล่า"
"อีกเรื่องคือ เมื่อก่อนผมเป็นคนกินเหล้ามาตลอด วันแต่งก็กินตามปกติ พอพิธีการเสร็จต้องออกไปยืนส่งแขกหน้างาน ผมยืนดื่มเหล้าคุยกับเพื่อนๆ แวบหนึ่งที่กันไปเห็นเขาก็เกิดความรู้สึกขึ้นในใจว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่เราต้องเลี้ยงและดูแลนับจากนี้เป็นต้นไป จากนั้นก้มองไปที่แก้วเหล้าในมือแล้วคิดขึ้นมาว่า ที่ผ่านมาเราเลี้ยงไอ้นี่มาตลอด นับแต่นี้ไปพอแล้ว ผมเลิกกินเหล้าตั้งแต่วันนั้นมาถึงวันนี้ หรือพูดง่ายๆ ว่าไม่กินเหล้ามาเท่ากับจำนวนวันที่แต่งงาน ทั้งหมดที่อยากบอกคนอื่นคือ วันแต่งงานมีอะไรน่าจำมากมายไม่ต่างจากวันอื่นๆ เพียงแต่สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตมนุษย์ ถ้าเรารู้จักแปลความหมาย หาสิ่งดีๆ ให้เจอชีวิตก็จะดีเอง ไม่ได้อยู่ที่สังคม ผู้คน ฐานะ มันอยู่ที่ทำอะไรต่างหาก นั่นแหละจะเป็นความทรงจำในชีวิตคู่ที่น่าจดจำ"
|
ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์
“วันที่เข้ารับสมรสพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯที่พระราชวังไกลกังวล เป็นวันที่มีความหมายกับขวัญมาก ๆ ไม่ใช่เพียงเพราะว่าได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จฯเพียงอย่างเดียว แต่การเข้าพิธีของขวัญในวันนั้นทำให้ได้รู้ว่า ท่านย่า (หม่อมเจ้าภัทรลดา ดิศกุล) มีความสุขมากกว่าขวัญหลายร้อยเท่า เพราะแม้ว่าเราจะต้องรอนานถึง 3 – 4 ชั่วโมงจึงจะได้เข้าพิธี ท่านก็ยังยิ้มแย้มและมีสีหน้าที่บ่งบอกให้รู้ได้เลยว่าท่านอิ่มเอิบใจและมีความสุขมาก ๆ กับวันนี้ของขวัญ ซึ่งเป็นหลานคนแรกที่แต่งงาน ยิ่งในวินาทีที่เข้าสู่พิธีการ ทันทีที่สมเด็จฯ ทักทายท่านย่าอย่างเป็นกันเอง ก็ยิ่งทำให้ท่านย่าปลาบปลื้มมากขึ้นไปอีก”
|
วลัยลักษณ์ มุสิกโปฎก
“ ในวันแต่งงานก้อยประทับใจอยู่ 2 ช่วง คือ ช่วงสวมแหวน เพราะเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งสองครอบครัวและเป็นสถานที่ที่เราเซตขึ้นมาเองในสไตล์วินเทจที่ไม่เน้นความหวานหรือดอกไม้ ส่วนอีกช่วงที่ประทับใจคือตอนที่โย่งต้องเย็บชุดแต่งงานช่วงเย็นให้ก้อยเพราะไม่พอดีกับตัว ก้อยว่ามันเป็นช็อตที่ดูน่ารักและอบอุ่นมาก ที่สำคัญคือ ชุดแต่งงานชุดนี้โย่งเป็นคนตัดให้ เขาไปเรียนตัดเสื้ออยู่ 3 เดือนจนได้ชุดนี้ออกมา ตอนนี้ชุดก็แขวนไว้ที่บ้าน เห็นเมื่อไรก็จะรู้สึกมีความสุขทุกครั้ง”
|
ปาลาวี บุนนาค อิสสระ
“ตลอดเวลาที่รู้จักกับครอบครัวของวาฬ (วรสิทธิ์ อิสสระ) แพรได้รับการต้อนรับและความอบอุ่นจากคุณพ่อคุณแม่ของวาฬ (สงกรานต์ – ศรีวรา อิสสระ) อย่างสม่ำเสมอ และยิ่งรู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อกลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว จนแพรเองรู้สึกว่า เราไม่เคยขาดความรักที่ท่านทั้งสองมอบให้เลยนับตั้งแต่วันแต่งงานจนถึงปัจจุบัน”
|
ชนัญชิตา ณ ระนอง
“ความจริงรูปนี้ก็น่าจะเป็นอะไรที่ธรรมดา เพราะเจ้าบ่าว – เจ้าสาวทุกคนต้องมี แต่สำหรับกุ้งมันเป็นอะไรที่พิเศษมาก ช็อตนี้ไม่มีในสคริปต์เพราะผู้ใหญ่บางท่านไม่อยากให้มี จนกระทั่งถึงช่วงสัมภาษณ์บนเวที พี่เอกบอกว่า ‘ช่วงเตรียมงานแต่งงานกุ้งเหนื่อยมากเพราะต้องทำอยู่คนเดียว ทำให้ไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลย แต่วันนี้กุ้งสวยมากครับ’ พอพูดจบเขาก็หันมาหอมแก้ม เราก็อึ้งไปเลยเพราะไม่คิดว่าเขาจะทำ เนื่องจากได้ตกลงกันแล้วและเขาก็เป็นคนขี้อายด้วย ก็เลยรู้สึกประทับใจช่วงเวลานี้เป็นพิเศษค่ะ”
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
ถ้วยชามเซรามิกเพ้นต์ลายทางขาว – ฟ้าวางซ้อนกันบนผ้าแคนวาสสีขาว ประดับธงบอกตำแหน่งโต๊ะอาหาร
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
ดีไซน์รูปเรือจากผลเลมอนผ่าซีกปักด้วยใบเรือกระดาษลายหวาน ไอเดียเก๋ ๆ ที่คุณทำเองได้ไม่ยาก
เรื่องโดย:
ช่างภาพ:
เจาะตัวอักษรลงบนกระดาษ แล้วทาบลงบนผ้าเช็ดปาก จากนั้นเพ้นต์สีน้ำเงินลงในช่องว่างที่เป็นรูปตัวอักษรด้วยแปรงฟองน้ำ
เรื่องโดย:
ช่างภาพ: