THE PERFECTEST GROOM EVER

          จะเป็นเจ้าบ่าวทั้งทีไม่ควรปล่อยให้ตัวเองดูโทรมจนราศีไม่จับ ต้องดูแลตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าให้เป๊ะไม่แพ้เจ้าสาว เอาละ ได้เวลาปฏิวัติตัวเองให้เป็นเจ้าบ่าวสุดเพอร์เฟ็กต์แล้ว

          ไม่ว่าจะผมสั้นหรือผมยาวต่างก็ต้องการการดูแล หากคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะควรรีบจัดการอย่างเร่ง-ด่วนเพื่อวันสำคัญที่กำลังจะมาถึง

          1. ผมสั้นและหนังศีรษะมัน ควรใช้แชมพูอ่อน ๆ สำหรับเด็กหรือสำหรับผมมันโดยเฉพาะ และไม่จำเป็นต้องใช้ครีมนวดเวลาสระให้เน้นบริเวณเส้นผมมากกว่าหนังศีรษะ เพราะหากยิ่งกระตุ้นหนังศีรษะจะยิ่งผลิตน้ำมันออกมา ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงน้ำมันใส่ผมและครีมจัดแต่งทรงผมทุกประเภท

          2. ผมบาง เลี่ยงการใช้ครีมบำรุงเส้นผมหรือผลิตภัณฑ์แต่งผมทุกชนิด ไม่ควรไว้ผมยาวเกินไป แนะนำให้ไปพบช่างผมอย่างน้อยเดือนละครั้ง หากศีรษะเริ่มล้านให้ตัดผมบริเวณที่บางให้สั้นลงหรือจะตัดเป็นทรงสกินเฮดเพื่อให้ดูกลมกลืนทั้งศีรษะไปเลยก็ได้

          3. มีรังแค ทุกครั้งที่สระผมควรนวดหนังศีรษะเบา ๆ เพื่อขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออก และควรหาแชมพูสูตรขจัดรังแคมาใช้โดยด่วน เมื่อหายจากอาการรังแครังควานแล้วให้สลับมาใช้แชมพูแบบปกติเพื่อป้องกันการดื้อยา

          4. ผมร่วงและผมหงอก ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารเคมีทุกชนิดและหันมาใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ

          5. ผมหยักศก อย่าสระผมบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ผมพันกันง่าย พยายามใช้ดรายร์เป่าผมให้น้อยที่สุด การใช้ผ้าซับผมพอหมาดแล้วปล่อยให้แห้งเองจะช่วยให้ผมหยักศกดูเป็นทรงตามธรรมชาติ

 TIP : วิธีที่จะช่วยให้เจ้าบ่าวของคุณมีทรงผมหล่อเนี้ยบคือ จัดการพาเข้าร้านตัดผมก่อนวันแต่งงานประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้ทรงผมเข้าที่และรับกับใบหน้าได้อย่างพอดิบพอดีในวันงาน

          ว่าที่เจ้าบ่าวส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาหรือไม่นิยมไปเข้าคอร์สบำรุงผิวหน้าอย่างว่าที่เจ้าสาว แต่อย่างไรก็ไม่ควรละเลยการดูแลผิวหน้า เพราะในวันสำคัญทุกสายตาจะจับจ้องมาที่ใบหน้าหล่อ ๆ ของคุณ

          1. ผิวธรรมดา มีลักษณะเนียนเรียบ เห็นรูขุมขนไม่ใช่ชัด ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อครีมที่ไม่เข้มข้นหรือบางเบาเกินไป หรือเลือกตามสภาพอากาศที่ต้องเผชิญ เช่น หากต้องอยู่ในอากาศหนาวหรือห้องแอร์ควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นกว่าที่ใช้เป็นประจำ

          2. ผิวผสม รูขุมขนจะกว้างบริเวณทีโซนและมีผิวธรรมดาหรือผิวแห้งบริเวณข้างแก้ม ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันในบริเวณที่มีสภาพผิวแตกต่างกัน หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีผิวผสมโดยเฉพาะ

          3. ผิวมัน เป็นผิวที่รูขุมขนกว้าง หลังการล้างหน้า ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ชนิดบางเบา เพื่อรักษาความชุ่มชื่นตามธรรมชาติเอาไว้ และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีผิวมันโดยเฉพาะ

          4. ผิวแห้ง รูขุมขนไม่กว้างและผิวละเอียดกว่าผิวมัน ผิวจึงจำเป็นต้องได้รับความชุ่มชื่นอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นควรใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดผิว โดย เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมไขสบู่และไม่มีแอลกอฮอล์ และปกป้องผิวด้วยการใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นเป็นประจำ

TIP : พอใกล้วันงานว่าที่เจ้าสาวควรจะพาว่าที่เจ้าบ่าวไปขัดหน้า พอกหน้า หรือนวดหน้าบ้างก็ดี แต่ถ้ายังไงเขาก็ไม่ยอม ลองหาวิธีง่าย ๆ อย่างการใช้แผ่นมาสก์หน้าที่แสนสะดวกสบาย เพื่อขจัดเซลล์เก่าให้หลุดออกเพื่อเผยผิวกระจ่างใสในวันงาน

          ว่าที่เจ้าบ่าวหลายคนอาจกำลังกังวลว่าจะลดพุงที่ยื่นออกมาอย่างไรไหล่เล็กขนาดนี้แล้วจะเพิ่มให้ใหญ่ได้ไหม เอาเป็นว่าหากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยท่าต่อไปนี้ รับรองหุ่นในฝันอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

ลดหน้าท้องช่วงบน
          1. นอนราบ วางมือทั้งสองข้างไว้ที่หลังหูกางศอกออกให้สุด
          2. ชันเข่าโดยกางขาให้เท่ากับความกว้างของหัวไหล่
          3. เกร็งหน้าท้องแล้วยกตัวขึ้น
          4. ทำ 3 เซต เซตละ 20 ครั้ง

เน้นกล้ามเนื้ออกให้ผึ่งผาย
          1. อยู่ในท่าวิดพื้น โดยวางมือให้กว้างกว่าหัวไหล่เล็กน้อย เกร็งบริเวณหลังแขนและหน้าอก
          2. หย่อนตัวลงไปเกือบถึงพื้นพร้อมกางศอกออก
          3. ทำ 3 เซต เซตละ 12 – 15 ครั้ง

บริหารกล้ามเนื้อต้นขา
          1. ยืนเท้าสะเอวโดยก้าวขาซ้ายไปด้านหน้าส่วนขาขวาวางไว้ด้านหลังพร้อมกับเปิดส้นเท้าขึ้น
          2. ย่อเข่าขวาลงจนเกือบถึงพื้น พร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อต้นขาไว้
          3. สลับทำข้างละ 12 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซต

การลดน้ำหนักเพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หากคุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน
          1. จดบันทึก การรับประทานอาหารและการออกกำลังกายในแต่ละวัน เมื่อย้อนกลับไปดูจะได้ทราบว่าควรลดอาหารหรือเพิ่มการออกกำลังกายมากน้อยแค่ไหน
          2. ออกกำลังกาย ให้ได้สัปดาห์ละ 4 วัน วันละ 40 นาที
          3. รับประทานแคลเซียมให้มากขึ้น จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น แหล่งแคลเซียมใกล้ตัว เช่น ปลาตัวเล็กที่กินได้ทั้งตัว กุ้งแห้ง โยเกิร์ตไขมันต่ำ
          4. ควรมีโปรตีนในอาหารทุกมื้อ เป็นการช่วยลดปริมาณของไขมันในระหว่างที่ลดน้ำหนักและช่วยคงสภาพกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี
          5. รับประทานอาหารเช้า เพื่อให้ฮอร์โมนที่ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานอยู่ในระดับคงที่
          6. อย่าอดอาหาร ควรรับประทานอาหารให้ได้อย่างน้อย 3 มื้อต่อวันหรือซอยมื้ออาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ และรับประทานถี่ขึ้น ก็จะช่วยควบคุมความหิวได้
          7. ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรหักโหมในการลดน้ำหนักให้มากเกินไป เพราะอาจทำให้เหนื่อยล้าจนเกิดความท้อใจและเลิกราไปในที่สุด
          8. หาคู่หูลดน้ำหนัก เพื่อช่วยให้กำลังใจซึ่งกันและกันและไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น
          9. อาหารสีรุ้ง เลือกรับประทานผักและผลไม้หลากสีที่มีแคลอรีต่ำและไม่มีไขมัน รวมทั้งข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ เพราะร่างกายจะย่อยและดูดซึมอย่างช้า ๆ ทำให้ไม่หิวบ่อย
          10. ให้รางวัลตนเอง เช่น เมื่อลดได้ตามเป้าหมายจะซื้อของที่ชอบ แบบนี้ช่วยให้มีใจจดจ่อกับการลดน้ำหนักได้นานกว่า แต่ไม่ควรใช้อาหารเป็นรางวัลเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นที่พยายามมาจะกลายเป็นศูนย์

Q : ถ้าว่าที่เจ้าบ่าวเป็นคนไหล่เล็ก การออกกำลังกายจะสามารถเพิ่มช่วงไหล่ให้ดูกว้างขึ้นได้หรือไม่
A: การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ไหล่ดูกว้างขึ้น เพราะเมื่อออกกำลังกายทุกครั้งเราจะต้องระวังให้หลังตรงอยู่เสมอ จึงทำให้อกและไหล่ยกขึ้น ส่งผลให้บุคลิกดี ในบางรายที่มีปัญหาหลังค่อมก็ทำให้กลายเป็นคนที่เดินหลังตรงอกผึ่งผายขึ้นได้

Q : หากมีเวลาเตรียมตัวไม่มากสำหรับการลดหน้าท้อง การซิตอัพทุกวันจะช่วยให้หน้าท้องลดลงได้หรือไม่
A : การซิตอัพเพียงอย่างเดียวไม่สามารถลดไขมันบริเวณหน้าท้องได้ทันใจ หากต้องการลดหน้าท้องอย่างรวดเร็วควรทำอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น การเดินเร็ว จ๊อกกิ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ จะทำให้เห็นผลเร็วขึ้น

GURU’S ADVICE
          หากเลือกออกกำลังกายที่ฟิตเนส โดยมีเทรนเนอร์เป็นผู้ดูแล เริ่มแรกควรเล่นแบบทั่วไปก่อน คือออกกำลังกายทุกส่วนของร่างกาย หลังจากนั้นจึงขยับไปเล่นในระดับ Beginner ซึ่งเป็นการเล่นเฉพาะส่วน Upper Body (ร่างกายส่วนบน) และ Lower Body (ร่างกายส่วนล่าง) เมื่อเล่นไปได้สักระยะจึงเข้าสู่การออกกำลังกายขั้น Advance เป็นการเล่นแบบแบ่งกล้ามเนื้อ ออกกำลังกายเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายประมาณ 3 – 7 วัน จากนั้นจึงเปลี่ยนไปเน้นส่วนอื่นต่อไป การออกกำลังกายทุกส่วนจะเป็นการช่วยเผาผลาญพลังงานไปด้วยในตัว จึงเป็นทั้งการลดน้ำหนักและเพิ่มกล้ามเนื้อ โดยทั้งหมดนี้สามารถเห็นผลได้ภายในระยะเวลา 3 เดือนขึ้นอยู่กับความมีวินัยของผู้เล่นด้วย

ขอบคุณเทรนเนอร์ ประณต โชคเจริญ (เอ็น) จากฟิตเนส Fit Forward ซอย 5 ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ห้วยขวาง โทร. 0-2691-1915 www.fitforward.com

Recommended