เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถือเป็นของคู่กันกับงานแต่งงาน โดยเฉพาะ ไวน์งานแต่ง ที่บ่าวสาวหลายคู่เลือกใช้เสิร์ฟในวันงาน จากประสบการณ์อันโชกโชนงานวิวาห์ของเรา ไวน์ส่วนใหญ่ที่นิยมเสิร์ฟในงานแต่งมักจะเป็น ไวน์แดง ไวน์ขาว และสปาร์กลิ้งไวน์ แต่ละชนิดก็เสิร์ฟมาในแก้วต่างทรงกัน

ใส่ใจเลือกแก้ว ไวน์งานแต่ง ให้เหมาะกับไวน์แต่ละชนิด จะจิบอร่อยและละมุนมากขึ้น

สำหรับงานแต่งที่จัดเป็นแบบ “ค็อกเทล” หรือ “โต๊ะจีน” ที่ต้องใช้แก้วจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเลือกให้บริการด้วยแก้วไวน์ทรง Bordeaux (เบอร์โดซ์) ที่มีขนาดเล็กกว่ามาตรฐาน นิยมใช้กับไวน์แดงและไวน์ขาว ส่วนการจัดเลี้ยงแบบ “ซิทดาวน์ดินเนอร์” ควรจะใช้แก้วที่เหมาะกับประเภทของไวน์ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเมนูอาหารที่เสิร์ฟนั้นเป็นเมนูอะไร เหมาะกับไวน์ชนิดใด จากนั้นจึงเลือกแก้วไวน์ที่ต้องใช้ให้เข้ากันอีกทีหนึ่ง เรื่องแบบนี้บ่าวสาวที่ไม่สันทัดการดื่มไวน์ สามารถขอคำแนะนำจากแคทเทอริ่งที่คุณจ้างมาได้เลย

ยังไม่หมดเท่านี้นะคะ ยังมีช่วงที่เราต้องยกแก้วร้องไชโยให้กับคู่บ่าวสาวอีก ซึ่งในช่วงนี้แนะนำให้เลือกไวน์ประเภท Sparkling wine แล้วใช้แก้วทรง Flute หรือที่คนไทยเรียกกันว่าแก้วแชมเปญนั่นเองค่ะ

มาถึงตอนนี้ก็รู้แล้วว่าจะใช้แก้วแบบไหนให้ตรงกับไวน์ที่เลือก หากต้องการให้ทางแคทเธอริ่งเป็นคนจัดเตรียมให้ ทางเจ้าภาพต้องนัดแนะกับทางแคทเธอริ่งให้แน่นอน และควรบอกจำนวนแขกให้ชัดเจนว่ามีกี่คน ใช้ไวน์แบบไหน ยี่ห้ออะไร และยังต้องถามให้ละเอียดถึงเงื่อนไขค่าปรับในกรณีที่แก้วแตกด้วย ซึ่งแคทเธอริ่งแต่ละเจ้าจะมีค่าปรับไม่เท่ากัน

ส่วนใครที่คิดจะเตรียมแก้วไวน์มาเอง สิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือ “ราคาของแก้วไวน์” ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมีแบบที่ขายแยกใบ ราคาตั้งแต่ 50-1,000 บาท บางที่ขายเป็นเซต 2,000-6,000 บาทก็มี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ผลิตแก้ว แต่สำหรับงานแต่งที่ต้องใช้แก้วจำนวนมาก แนะนำให้ซื้อแบบถูกๆ เพราะถ้าเกิดแตกเพล้งขึ้นมาจะได้ไม่ต้องนั่งเสียดายทีหลัง

อย่างไรก็ตามการจะเลือกใช้แก้วไวน์ก็ควรคำนึงถึงชนิดของไวน์ด้วย เพราะแก้วไวน์บางชนิดจะช่วยเก็บกักความหอมและชูรสชาติของไวน์ออกมา (คอไวน์เขาว่ากันแบบนั้น) รวมถึงความสวยงามยามที่ไวน์ไหลลงแก้ว เอาเป็นว่าจะเลือกดื่มไวน์ทั้งทีก็ต้องให้มีศิลปะกันหน่อยนะจ๊ะ

รู้เรื่องการเลือกแก้วไปแล้ว ก็ต้องรู้เรื่องการเลือกไวน์ด้วย >>> 4 ข้อควรทราบหากเลือกเสิร์ฟไวน์ในงานแต่ง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : บริษัท Ambrose Wine

ภาพ : www.wineware.co.uk, www.made-in-italy.com

แต่งตัวไปงานแต่ง เดรสโค้ดไหนก็ไม่มีหวั่น

ถึงเวลาต้อง แต่งตัวไปงานแต่ง ทีไร บรรดาแขกที่ไปร่วมงานต่างหัวหมุนไปตามๆ กัน เพราะไม่รู้จะเลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับธีมงานอย่างไรดี แพรว  wedding ขออาสาเป็นสไตลิสต์ส่วนตัวให้คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายได้สวยหล่อไปกับ 4 ธีมยอดฮิตที่แต่งแล้วเนียนไปกับธีมงาน การันตีว่าบ่าวสาวไม่เคืองแน่นอน

Chic & Glam

สถานที่จะเป็นห้องบอลรูมหรือสวนเอ้าท์ดอร์ หากได้เดรสโค้ดนี้คุณก็ต้องแต่งตัวให้ดูหรูหราเข้าไว้ ชุดควรเป็นแบบราตรียาวที่เน้นเนื้อผ้าพลิ้วไหว ส่วนคุณผู้ชายต้องดูหล่อภูมิฐานในชุดสูทสีดำกึ่งทางการเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสมกับหญิงสาวที่ควงคู่ไปด้วยกัน

Luxury Vintage

ยุคแกตส์บี้ หรือธีมงานสไตล์วินเทจสุดหรู ถือเป็นช่วงเวลาของความหวือหวาในการแต่งการแต่งกายของคุณผู้หญิงด้วยชุดทรง Flapper Dress ที่เน้นความตรงไม่อวดทรวดทรงและกระโปรงสั้นแค่หัวเข่า ส่วนคุณผู้ชายลองเปลี่ยนจากการผูกเนคไทมาเป็นโบไท และอย่าลืมสวมเสื้อกั๊กอีกชิ้นเพื่อให้ดูเป็นหนุ่มยุคนั้น หรือธีมงานที่มีกลิ่นอายวินเทจให้มากที่สุด แถมธีมนี้ยังเหมาะกับช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้สุดๆ ไปเลย

ทำ ผมเพื่อนเจ้าสาว ไปงานแต่งงานให้สวยแต่ก็ไม่แย่งซีนเจ้าสาวให้โดนเม้าท์ต้องทำยังไง ไม่ต้องนั่งคิดเองเพราะเรามีแบบมาให้แล้ว ทำตามนี้รับรองเซฟชัวร์

ไปงานแต่งงานในฐานะเพื่อนเจ้าสาว เราก็อยากทำ ผมเพื่อนเจ้าสาว ให้สวยสมเกียรตินิดนึง แต่ไม่รู้ว่าจุดแห่งความพอดีระหว่าง สวยสมสถานะเพื่อนเจ้าสาว กับ สวยจนเกินหน้าเจ้าสาว มันอยู่ตรงไหนน่ะสิ (แถมเดี๋ยวนี้เทรนด์มินิมัลมา เจ้าสาวก็ทำผมเรียบๆน้อยๆ ไปอี้กกก) ไม่ต้องเครียดค่ะ แค่มีเช็คลิสต์ และตัวอย่างทรงผมเหล่านี้ (ที่ทำไปงานไหนก็รอดชัวร์) แค่นี้พวกเราเพื่อนเจ้าสาวก็ไม่ต้องกลัวโดนเม้าท์ว่าแต่งเด่นเกินหน้าเจ้าสาวอีกแล้ว

สไตล์หลุดนิดๆ ไม่ตั้งใจ ยังไงก็รอด

เพราะเจ้าสาวส่วนใหญ่จะทำผมที่เน้นความเนี้ยบ เพื่อนเจ้าสาวควรหนีมาทำสไตล์ messy หรือหลุดๆ นิดๆ เพื่อให้ดูดรอปลงกว่าเจ้าสาวค่ะ

ปล่อยผมไปเลย

อีกหนึ่งสไตล์ที่ไม่เกินหน้าเจ้าสาวแน่นอน คือลุคผมยาวตรง หรือลอนอ่อนๆ ค่ะ

อย่าทำผมข้างบนให้ใหญ่

เพราะไม่ว่าเจ้าสาวจะทำผมตีโป่งขนาดไหน คุณในฐานะเพื่อนเจ้าสาวหากตีโป่งข้างหน้าใหญ่เหมือนกันก็จะดูโดดเด่นจนอาจจะเกินหน้าเจ้าสาวไป เพราะฉะนั้นพยายามยึดติดกับผมเกล้าแบบเรียบๆไว้ก่อนดีกว่า

อย่าติดแอ็คเซสเซอรี่ชิ้นใหญ่ที่โดดเด่นเกิน

เพราะแน่นอนว่าจะดึงทุกเป้าสายตามาที่คุณจนเกินควร ยกเว้นว่านั่นคือธีมงานแต่งงาน (อารมณ์เช่น ยุคแกสบี้ที่ติดขนนกใหญ่ๆ) ลองเลือกติดชิ้นเล็กๆ กำลังดี หรือไม่ติดเลยก็ได้ค่ะ

นัดกันกับแก๊งเพื่อนเจ้าสาว

คงจะเก๋ไก๋ไม่น้อยถ้าเพื่อนๆทุกคนทำผมทรงเดียวกันหมด และเมื่อยืนเคียงกันกับเจ้าสาว ยังช่วยส่งให้เจ้าสาวดูโดดเด่นขึ้นอีกด้วยค่ะ

ได้ไอเดียเลือกทรงผมเพื่อนเจ้าสาวที่เหมาะกับเราแถมยังไม่แย่งซีนเจ้าสาวแล้ว เราแนะนำให้คลิกอ่าน รวมร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาวสวยงามอลังการ ราคาแค่หลักร้อยถึงหลักพัน

credit cover photo: whiterunway.com

บ่าวสาวที่กำลังลิสต์ เพลงแต่งงาน แต่เบื่อสุดๆ กับเพลงชาติงานแต่ง แพรว wedding ขอนำเสนอ 10 เพลงแต่งงาน สมัยคุณแม่ยังสาว ที่ถ้อยคำประพันธ์ฟังแล้วเคลิ้ม ก็แต่ละประโยคเนี่ยสวยงามแฝงความหมายลึกซึ้งสุดๆ รับรองเลยว่า 10 เพลงต่อไปนี้จะทำเอาแขกทุกรุ่นทั้งงานอินเว่อร์

เพลงแต่งงาน ช่วยสร้างบรรยากาศในงานแต่ง ยิ่งเป็นเพลงเก่าด้วยแล้ว ยิ่งฟินไปกันใหญ่

1. คำมั่นสัญญา

เนื้อร้องของเพลงนี้มาจากวรรณคดีเรื่อง “พระอภัยมณี” เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องความไพเราะของเนื้อหาเลย ทั้งสัมผัสในสัมผัสนอกมาครบถ้วน โดยท่อนที่หยิบมาเป็นเพลงนั้นคือช่วงที่พระอภัยมณีให้สัญญารักมั่นกับนางละเวงวัณฬา บอกเลยว่าหวานล้ำมาก ไม่ว่าจะเป็น “ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน”  หรือท่อนสุดท้ายของเพลง “ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป…”  นี่คือสัญญารักชั่วนิจนิรันดร์เลยนะเนี่ย โอ้ยยย ใจละลาย แล้วยิ่งเสียงต้นฉบับ โดยคุณชรินทร์ นันทนาคร ยิ่งหวานซึ้งทะลวงใจสาวยุคคุณพ่อคุณแม่จริงๆ

2. รักในซีเมเจอร์

เพลงอมตะที่บ่าวสาวลองถามพ่อแม่สิมีอยู่ในเพลย์ลิสต์เพลงจีบ ที่คุณพ่อขาเฮ้วเคยเล่นกีตาร์แอ๊วคุณแม่แน่นอน แม้ตัวเพลงจะเป็นอารมณ์ของการช่วงการแอบรักแต่ก็หวานล้ำ เพลงนี้ร้องโดยวง แกรนด์ เอ็กซ์ ในยุคที่มีพี่แจ้เป็นนักร้องนำ ซึ่งน้ำเสียงเนี้ยทุ้มนุ่มเรียกใจแม่ยกได้เกรียวกราว บวกกับความหมายซึ้งๆ โดยเฉพาะท่อนนี้ ขยี้ใจมากจริงๆ “ขอรักจริง รักเพียงเธอ”

3. หนาวเนื้อ

เพลงฮิตจากวง ดิอิมพอสซิเบิ้ล กับท่อนฮิตที่ดังข้ามยุค คุ้นหูกันมาตั้งแต่เด็กว่า “หนาวเนื้อห่มเนื้อ จึงหายหนาว” หนาวอะไรก็ควรจะห่มสิ่งนั้นเหมือนท่อนต่อมาของเพลงที่ว่า “หนาวรักห่มรัก อุ่นรักสบาย” เป็นเพลงน่ารักๆ ที่แอบอีโรติคกิ๊วก๊าวอยู่เบาๆ เหมือนจะบอกคู่บ่าวสาวว่า ถ้าคืนนี้หนาว… ก็จงห่ม จงแนบซะน้า

4. โอ้รัก

ยังคงวนเวียนกับเสียงเพลงนุ่มๆ ของคุณลุงเศรฐา ศิระฉายา จากวง ดิอิมพอสซิเบิ้ล เพลงโอ้รัก เป็นเพลงหนึ่งที่บอกเล่าธรรมชาติของความรักได้อบอุ่นละมุนละไม ยิ่งเจอกับเสียงนุ่มๆ กับเนื้อเพลงซึ้งๆ “รักชั่วนิรันดร์ รักกันเรื่อยไป ดื่มด่ำฤทัย ไม่คลายใจรักกัน”   ได้ฟังแล้วขอควักใจฝากรักไว้กับสายลมด้วยคนเลยทีเดียว แล้วแบบนี้เจ้าสาวที่ได้ยินเพลงแบบนี้จะไม่ยิ้มแก้มปริได้อย่างไรคะ

5. รักเธอเสมอ

เพลงแทนใจคุณเจ้าบ่าวมาก็เยอะ ขอเป็นเพลงแทนใจคุณเจ้าสาวกันบ้างด้วยเพลงความหมายดีๆ โดย คุณสวลี ผกาพันธ์ กับเสียงหวานแหลมร้องเนื้อท่อนที่ว่า “เช่นกับฉัน มั่นคงตรงต่อเธอ ฉันรักเธอเสมอ” ได้บาดลึกและฝังลงในใจให้จำไว้เสมอนะคุณเจ้าบ่าว “ว่าฉันรักเธอเสมอ ชั่วนิจนิรันดร์”