ไกลออกไปนับร้อยนับพันกิโลเมตรจากเมืองไทย ณ เกาะที่ได้รับฉายาว่า “ไข่มุกแห่งมหาสมุทรอินเดีย” มีคู่รักคู่หนึ่งยืนเคียงกันอยู่ ทั้งคู่สวมมงกุฎดอกไม้สีขาว ไม่ผิดแผกไปจากชุดที่ทั้งสองคนกำลังสวมใส่อยู่ ต่างคนต่างสวมแหวนให้กัน ก่อนที่จะให้คำมั่นสัญญาว่าพวกเขาจะรัก และให้เกียรติกันและกันไปจนตลอดชีวิต บรรยากาศท่ามกลางหาดทราย…สายลม…สองเราในชั่ววินาทีนั้นเปี่ยมไปด้วยความโรแมนติก และรอยยิ้มแห่งความสุข กระนั้น…ลึกลงไปในสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “หัวใจ” ของคู่รักคู่นี้ที่ได้รับการจับตามองจากสื่อมวลชนและสังคมมาตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปี กลับเต็มไปด้วยคำถามและความรู้สึกที่ตรงข้ามโดยสิ้นเชิงกับบรรยากาศที่ฉาบอยู่ในพิธีแต่งงานในฝันของใครหลายคน
ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ
ความรักของทั้งคู่มีจุดเริ่มต้นจากที่ได้พบกันในเกมโชว์รายการหนึ่ง โดยต่างฝ่ายต่างไม่เคยรู้จักกันมาก่อน…ว่าเขาคือทายาทมหาเศรษฐี และเธอคือนักแสดงและนางแบบที่มีชื่อเสียง
จากที่ได้เพียงพบสบตา ความสัมพันธ์ของทั้งสองได้ถูกต่อยอดออกไปจากนั้น เมื่อฝ่ายเจ้าบ่าวรู้สึกประทับใจในดวงตาและบุคลิกอันสดใสร่าเริงของฝ่ายเจ้าสาว กระทั่งเส้นทางชีวิตของทั้งคู่จะทอดยาวร่วมกันจนถึงวันสำคัญวันนั้น… ซึ่งฝ่ายหญิงมองย้อนกลับไปในวันนี้ด้วยความทรงจำที่ย้อนแย้งกับภาพสดใสของบรรยากาศรายรอบงาน ทั้งริมชายหาดขาว และทะเลสีฟ้าใส
“แม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนั้นคือสิ่งที่เราเคยฝันเอาไว้ ได้แต่งงานริมทะเลที่มัลดีฟส์ ได้มงกุฎดอกไม้ มีซุ้มดอกไม้ มีบาทหลวง ทุกอย่างมันใช่หมดเลย แต่ข้างในน่ะ (ชี้ไปที่อกข้างซ้าย) มันกลับเศร้ามากๆ”
เธอ…สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารันต์ หรือ ปีใหม่ นักแสดงสาวเซ็กซี่ เจ้าของเรือนร่างอันเป็นที่ต้องตาและปรารถนาของใครต่อใครกล่าวถึงงานแต่งงานที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 7 ปีก่อนเอาไว้เช่นนั้น
ขณะที่เขา (หรือเธอดี)… ปฏิญญา ควรตระกูล หรือที่แวดวงสังคมต่างรู้จักและเรียกขานกันในนาม “ป๋าต๊อบ” ทายาทเครือปัญญากรุ๊ป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มูลค่าเรือนหมื่นล้าน ที่เป็นที่รู้กันในการใช้ชีวิตแบบ “สุดขั้ว” มาทั้งชีวิต แน่นอน…ว่ารวมถึงเรื่องความรัก และผู้หญิง แม้แต่ในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์อย่างพิธีแต่งงานเขาก็ยังไม่แน่ใจหรือเข้าใจแบบเต็มร้อย ว่าที่สุดแล้วความรู้สึกที่นำไปสู่งานแต่งงานแสนหวานบนเกาะสวรรค์แห่งนั้นคือ “ความรัก” หรือเป็นเพียง “ความอยากได้ครอบครองเป็นเจ้าของ”
“ความรักของเราตอนนั้นมันจอมปลอม!” เจ้าบ่าวสาวหล่อแห่งแวดวงไฮโซกล่าวโดยหมายความตามนั้นแบบเต็มร้อย
ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะครับ
“เพราะมันไม่ได้อยู่บนรากฐานของความจริง อะไรก็ตามที่ไม่ได้อยู่บนรากฐานของความจริง แล้วมันจะจริงได้ยังไง” ป๋าต็อบ อธิบาย “เราแต่งงานกันก็จริง แต่ความรู้สึกวันนั้นกับความรู้สึกวันนี้ต่างกันลิบลับ ไม่เหมือนกันเลย การตัดสินใจไม่ว่าจะเรื่องใดหรืออะไรก็ตาม ถ้าไม่ได้ตัดสินจากความอ้อนน้อมถ่อมตน จากภาพแห่งความจริงตรงหน้า ว่าคุณน่ะผมสีดำ เป็นคนหน้าตาแบบนี้ ใส่แว่นอย่างนี้ ใส่เสื้อแบบนี้ แต่ตัดสินจากอีกมุมว่า (ดีดนิ้ว) คุณต้องมีตังค์เยอะแน่ๆ คุณต้องมีชื่อเสียงแน่ๆ ไม่ได้มองจากมุมที่เป็นตัวคุณที่แท้จริง”
“ในมุมของใหม่ ตอนที่เราแต่งงานกัน โลกของใหม่ไม่ได้เป็นสีชมพูนะคะ คือตอนนั้นทั้งความสัมพันธ์และชีวิตส่วนตัวของใหม่เริ่มแย่แล้ว แต่ความที่เราตกปากรับคำเขาไปแล้วตอนที่ยังแฮปปี้ (หัวเราะ) ตอนแรกก็ไม่รู้จะทำยังไงดี งานแต่งงานเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่ความที่รักเขาก็เลยคงงานแต่งงานไว้ แต่ในความรู้สึกกลับเศร้ามากกว่าที่จะมีความสุขกับงานแต่งงานในฝันของเรา”