บ่าวสาวที่ฝันอยาก จัดงานแต่งริมทะเล เหมือนในหนังรักสุดโรแมนติกแต่ยังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนและไม่รู้ต้องเตรียมงานอย่างไร เราได้เชิญ คุณวศุมา คณาธนาวนิชย์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ โรงแรมรีเจ้นท์ชะอำบีช มาช่วยแนะนำการเตรียมงานอย่างมืออาชีพ

Q  :  ช่วงเดือนและช่วงเวลาที่เหมาะกับการจัดงานแต่งริมทะเล

A  :  เดือนที่เหมาะกับการจัดงานแต่งริมทะเลที่สุดได้แก่ มกราคม- กุมภาพันธ์ เพราะอากาศดีไม่ร้อนไม่มีฝนและลมไม่แรงมาก ส่วนช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการจัดพิธีช่วงเช้าคือ  7.00  น.- 9.00 น.  ช่วงเย็นคือ  15.00 น.- 17.00 น. ส่วนช่วงเวลาสุดโรแมนติกที่บ่าว- สาวเก็บภาพ ประทับใจจากแสงธรรมชาติได้สวยที่สุดคือ 1 ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ตกดินเพราะจะได้ภาพ แสงสีทองของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า

Q  :  การตกแต่งงานริมทะเลให้โดดเด่น

A  :   แน่นอนว่าคู่รักที่เลือกจัดงานแต่งริมทะเล ย่อมอยากจะเก็บภาพท่ามกลางความงดงามของ ท้องฟ้า หาดทราย  และผืนน้ำที่เป็นเสมือน แบ็กดร็อปของงานส่วนดีเทลความงามที่เหลือเป็นหน้าที่ของทีมจัดงานที่จะต้องสรรหาวัสดุอย่างม้านั่ง เทียน  แจกันดอกไม้  ริบบิ้น  เปลือกหอย รวมถึงดอกไม้อย่างกล้วยไม้และดอกคาลล่าลิลี่ที่ทนอากาศร้อนของเมืองไทยได้ดีส่วนโทนสีที่ช่วยให้งานแต่งริมทะเลสวยโดดเด่นคือโทนสีส้มอมแดง (Coral) และ สีเขียวมินต์ ซึ่งบ่าว -สาวสามารถนำโทนสีเหล่านี้ไปปรับใช้กับชุดเพื่อนเจ้าบ่าว – เจ้าสาวก็ได้

Q  :  จำนวนแขกที่เหมาะสมและสิ่งที่ต้อง คำนึงถึง

A  :  การจัดงานริมทะเลไม่เหมือนการจัดงานในห้องบอลรูมจึงควรจะจัดงานแบบหันหน้าออกไปทางหาดเพื่อให้เห็นความงามของหาดทรายสายลมแสงแดดแบบพานอรามาซึ่งจำนวนแขกที่เหมาะกับการจัดงานริมทะเลคือ 50- 100 คน ส่วนสิ่งที่ต้องคำนึงถึงได้แก่ลมจึงต้องเช็กให้ชัวร์ว่าไมโครโฟนสามารถจัดการกับเสียงลมและเสียงแทรกได้เป็นอย่างดีจะได้ไม่มีเสียงรบกวนระหว่างทำพิธีสำคัญชุดเจ้าบ่าว – เจ้าสาวไม่ควรหนาหนักหรือประดับ

Q  :  รูปแบบอาหารและเครื่องดื่ม

A  :   อาหารที่เสิร์ฟให้แขกในช่วงพิธีนอกจากซอฟต์ดริ๊งค์ควรมีอาหารรองท้องเบาๆ สไตล์ Finger  Food  ซึ่งทางโรงแรมรีเจ้นท์ชะอำบีชมีทีมงานที่พร้อมจัดสรรอาหารรูปแบบต่างๆ สำหรับรองรับแขกในช่วงพิธีและช่วงงานเลี้ยง อาทิ  บุฟเฟต์อาหารทะเลซิตดาวน์ดินเนอร์ โต๊ะจีน และค็อกเทลฯลฯ แต่สัดส่วนและรูปแบบอาหารขึ้นอยู่กับวัยของแขกที่บ่าว- สาวเชิญมาด้วย

Q  :  แผนสำรองที่ต้องมี

A  :   ทีมจัดงานจะต้องเช็กสภาพอากาศตลอดเวลา หากเห็นว่าสภาพอากาศไม่ดีจะต้องแจ้ง บ่าว-สาวล่วงหน้า 1 ชั่วโมงว่าหากเกิดฝนตก จะมีการย้ายไปยังห้องจัดเลี้ยงอินดอร์ที่ใกล้ที่สุดแทน

ลูกไม้เยอะเกินไปทรงผมควรเกล้าให้เรียบร้อยจะได้ไม่บดบังใบหน้าขณะทำพิธีและควรมีแอร์เคลื่อนที่วางตามจุดต่างๆ รอบงาน เพราะเมืองไทยอากาศร้อนอีกเรื่องคือแสงเพราะงานฉลองมักล่วงเลยไปถึงค่ำการใช้โคมไฟหรือเทียนโทนสีวอร์มมาตกแต่งตามทางเดินต้นไม้และโต๊ะจะช่วยเพิ่มความโรแมนติกให้งานได้เป็นอย่างดี แต่อย่าลืมว่าลมทะเลค่อนข้างแรงการใช้อุปกรณ์ไฟประเภทไฟฟ้าจึงเหมาะสมกว่า

สิ่งสุดท้ายที่ห้ามลืมคือที่พักแขกเพราะแขกที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ไม่สามารถขับรถไปเช้า – เย็นกลับได้ ในฐานะเจ้าภาพจึงควรจัดเตรียมที่พักให้พร้อมซึ่งทางโรงแรมรีเจ้นท์ชะอำบีช สามารถปิดโซน  Regency Wing   ที่มีห้องพักถึง 158 ห้อง พร้อมสระว่ายน้ำและล็อบบี้ส่วนตัว ให้แขกที่มาร่วมงานพักได้สบายๆ

ว่าที่บ่าว-สาวหลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับการจัด งานแต่งแบบไทย ทั้งเกรงงานไม่สวยสมใจและกลัวบัดเจ็ตบานปลายแบบไม่รู้ตัว เราจึงเชิญ คุณโอ๊ค-วิทวัส  อุดมกิตติ  แห่ง Love Indeed The Wedding Planner and Decoration Organizer เจ้าของรางวัล  The  Best  Budget-Friendly  Wedding  จากนิตยสาร WE 2 ปีซ้อนมาเผยเคล็ดลับที่จะทำให้ทุกปัญหาหมดไป

งานไทย  ณ  เรือนไทยจัดอย่างไรไม่ให้เชย

“ผมได้แรงบันดาลใจมาจากความสามารถของบรรพชนไทยซึ่งเห็นได้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีการนำศิลปะสไตล์ยุโรปมาผสมผสานกับศิลปะไทยเรียกง่ายๆ ว่าเป็นศิลปะร่วมสมัยซึ่งสังเกตจากพระที่นั่งต่างๆ ที่สร้างขึ้นในสมัยนั้นไม่ว่าจะเป็นพระที่นั่งอนันตสมาคมหรือพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยผมเลือกหยิบไอเดียจากสิ่งที่เห็นมาประยุกต์ใช้ในการตกแต่งเช่น การประดับแชนเดอเลียร์การเลือกใช้ภาชนะเครื่องแก้วหรือกระถางปูนปั้นลวดลายสไตล์ยุโรป ซึ่งนับว่าเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ใช้ได้ผลทำให้งานไทยที่จัดในเรือนไทยไม่ออกมาเชยอย่างที่หลายคนคิด”

เติมเต็มกลิ่นอายไทยให้สมบูรณ์แบบ

“การสร้างบรรยากาศความเป็นไทยจะทำให้งานไทยสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นสิ่งแรกที่ผมแนะนำคือการสื่อสารทางตรงด้วยการ์ดเชิญซึ่งถือเป็นเฟิร์สต์อิมเพรสชั่นเพื่อบอกให้แขกทราบว่างานเป็นแบบไหนและอยากให้เขาร่วมเป็นส่วนหนึ่งอย่างไรบ้าง โดยหากเป็นงานไทยก็ใส่ความเป็นไทยลงไปในการ์ดด้วยการใช้ภาษาไทยโบราณและแสดงข้อความเชิญชวนให้แขกแต่งชุดไทยมาร่วมงาน

“ต่อมาคือการสอดแทรกศิลปะวัฒน-ธรรมไทย ยกตัวอย่างเช่น อาหาร แทนที่จะมีแค่บุฟเฟต์ก็เพิ่มซุ้มอาหารไทยเข้าไปเช่น ผัดไทย ขนมเบื้องโบราณ น้ำสมุนไพร รวมถึงการให้ทีมงานที่ดูแลซุ้มอาหารแต่งชุดไทยด้วย ก็เป็นอีกหนึ่งกิมมิกที่ทำให้งานน่าสนใจ นอกจากนี้การนำศิลปะการแสดงไทยไม่ว่าจะเป็นดนตรีไทย รำไทย หุ่นละครเล็กหรือโขนมาโชว์ก็ช่วยสร้างสีสันและความเพลิดเพลินให้แขกได้เป็นอย่างดี”

งานไทยงบจำกัด…จัดการได้

“ถ้ามีงบจำกัดอันดับแรก ผมแนะนำให้ชวนญาติและแขกแต่งชุดไทยมาร่วมงาน เพราะเขาต้องรับผิดชอบตัวเองและส่วนใหญ่ พร้อมจะให้ความร่วมมืออยู่แล้ว สองคือ ไม่จำเป็นต้องถมดอกไม้เยอะ เลือกตกแต่งเฉพาะจุดสำคัญโดยอาจนำดอกไม้ไทยๆ อย่างดอกบัว ดอกบานไม่รู้โรย หรือดอกกล้วยไม้ มาจัดตกแต่งในสไตล์ฝรั่งก็ได้ สามคืออย่างที่ผมแนะนำไปแล้วว่าให้เสิร์ฟอาหารไทยและให้ทีมงานที่ดูแลอาหารแต่งชุดไทย เพียงเท่านี้ก็ช่วยสร้างบรรยากาศไทยๆ ให้กับงานได้แล้ว

“สุดท้ายคือของชำร่วยลองเลือกเป็นของที่โชว์ศิลปะความเป็นไทยอย่างพัดสานซึ่งต้นทุนไม่สูงหรือหากเป็นของทั่วไปก็ให้เลือกใช้แพ็คเกจจิ้งสไตล์ไทยอย่างชะลอมใบจิ๋วทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นได้ว่าการคุมงบสำหรับงานไทยนั้น ไม่ยากเลยเพียงแค่ต้องรู้จักเลือกเท่านั้นเอง”

เมื่อคิดจะใช้ชีวิตคู่ก็ถึงเวลาที่บ่าว-สาวต้องออกตามหาเพชรเม็ดงามมาทำเครื่องประดับ เราจึงเชิญ คุณพีรวัฒน์         สุรเศรษฐ กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท L.S. Jewelry Group ที่มีชื่อเสียงยาวนานมาเผยเคล็ดลับในการเลือกเพชรน้ำงามที่ควรค่าแก่การครอบครอง

Q  :  วิธีการคัดสรรเพชรสำหรับทำเครื่องประดับสักชิ้นต้องทำอย่างไรบ้าง

A  :  กว่าจะได้เครื่องประดับแต่ละชิ้นการคัดสรรคุณภาพเพชรคือสิ่งสำคัญรูปทรงเพชรที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเพชรคุณภาพดีคือเพชรทรงกลม Hearts & Arrows หรือเพชร H&A ที่มีเหลี่ยมเจียระไนที่ประณีตและสวยสมบูรณ์แบบมากที่สุด  ซึ่งทุกขั้นตอนในการเจียระไนต้องอาศัยความแม่นยำทั้งสัดส่วน (Proportion) ความสมมาตร   (Symmetry) และการขัดเงา  (Polish) เมื่อมองเพชรจากด้านบนผ่านกล้อง ชนิดพิเศษ H&A  Loupe จะเห็นเป็นรูปลูกศร 8  ดอกซึ่งมีขนาดและสัดส่วนที่เท่ากันและเมื่อมองจากด้านล่างจะเห็นเป็นรูปหัวใจ 8 ดวงที่สมบูรณ์เช่นกัน  การเจียระไนแบบพิเศษนี้เองที่ทำให้เพชร H&A เปล่งประกายสะท้อนความงามออกมาได้อย่างเต็มที่

Q  :  อะไรคือความพิเศษของเพชร DeBeers ที่ทำให้ร้านหลีเสงวางใจเลือกใช้

A  :  โรงงาน DTC (De Beers Sightholder Belgium) เป็นผู้ผลิตเพชรชั้นนำของประเทศเบล- เยียม มีความเชี่ยวชาญการผลิตเพชรน้ำงามที่สุดในโลกโดยเฉพาะเพชร Hearts  &  Arrows  (Ideal Cut) น้ำ  99%- 100% ลูกค้าจึงมั่นใจได้เลยว่า เครื่องประดับเพชรทุกชิ้นของที่ร้านมีคุณภาพสูง เพราะเพชรทุกเม็ดผลิตและนำเข้าจากที่นี่

Q  :  คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาวที่กำลังมองหาเพชรมาทำแหวนแต่งงาน

A  :  หลักการง่ายๆ ในการเลือกซื้อเครื่องประดับเพชรคือการตั้งสเป็คเพชร Hearts & Arrows สวยๆ และแบบที่ใส่ง่ายไว้ในใจก่อนออกตามหาของดีในราคาสมเหตุสมผลจากร้านที่ขายเพชรมายาวนานมีการบริการหลังการขายที่ดี  และหากเป็นร้านขายส่งลูกค้าควรจะได้ของคุณภาพเยี่ยมในราคาไม่แพงข้อสำคัญควรลองสวมก่อนตัดสินใจ

Q  :  วิธีดูแลเพชรเม็ดงามให้วาววับจับตาอยู่เสมอ

A  : จริงๆ แล้วเพชรคุณภาพสูงน้ำดีแม้ไม่ได้รับการดูแลใดๆ ก็จะยังคงความงามอยู่ชั่วนิรันดร์การทำความสะอาดเพชรก็แสนง่ายเพียงใช้แปรงสีฟันนุ่มๆ ทำความสะอาดไม่ควรใช้น้ำยาล้างแรงๆ เพราะจะไปกัดกร่อนตัวเรือนซึ่งเพชรที่ลูกค้าซื้อจากร้านหลีเสงจะได้รับการบำรุงรักษาและทำความสะอาดฟรีตลอดอายุการใช้งาน

คงต้องยอมรับว่า NARAKORN PHOTOGRAPHY คือ ช่างภาพพรีเวดดิ้ง ชื่อดังแห่งยุคที่ดารา-เซเลบต่างวิ่งจองคิวกันให้วุ่น เราจึงขอลัดคิวแน่นๆ ของคุณนรา จิรายุวัฒนา หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในนาม “นุก  นรากรณ์” มาให้คำแนะนำว่าที่บ่าว-สาวในเรื่องการถ่ายภาพทั้งพรีเวดดิ้งและในวันงาน

ช่างภาพเวดดิ้งเหมือนหรือต่างกับช่างภาพทั่วไปอย่างไร

ช่างภาพแต่ละสายมีความถนัดแตกต่างกันเหมือนนักกีฬาที่แม้ร่างกายจะแข็งแรงเหมือนกันแต่ถ้าเอานักฟุตบอลมาว่ายน้ำก็สู้นักว่ายน้ำตัวจริงไม่ได้เพราะชำนาญคนละด้านหากจะแต่งงานอยากให้เลือกช่างภาพเวดดิ้งที่มีประสบการณ์เพราะมีความเข้าใจในเรื่องพิธีการทำให้เก็บภาพได้ครบทันเหตุการณ์รู้ว่าต้องถ่ายอะไรบ้างถ่ายตอนไหนและมุมไหนถึงจะสวยทั้งยังรู้ว่าต้องทำงานกับแขกจำนวนมากอย่างไร ช่างภาพที่เคยผ่านงาน มาเยอะจะช่วยสร้างบรรยากาศได้ เช่น ตอนเรียกถ่ายภาพถ้าเงียบๆ แขกจะเกร็งแต่ถ้ามีลูกเล่นแขกก็ สนุกสนานหรืออาจให้คำแนะนำบ่าว-สาวเพื่อให้งานราบรื่นขึ้นเช่น จากนี้ต้องทำอะไรต่อ

เลือกช่างภาพอย่างไรไม่ช้ำใจทีหลัง

ควรเลือกช่างภาพที่มีความเป็นมืออาชีพและมีความน่าเชื่อถือเพราะงานแต่งเป็นเหตุการณ์ครั้งเดียวในชีวิต ถ้าวันนั้นโทรไปแล้วคนที่คุยกันไว้ปิดเบอร์นี่คือจบเลยนะครับ ทั้งนี้อาจจะดูจากความมีตัวตนมีเว็บไซต์ที่ชัดเจนหรือมีลูกค้าที่เคยใช้บริการมาแล้วปัญหาในการถ่ายภาพแต่งงานที่พบบ่อย

ในการถ่ายพรีเวดดิ้งคู่บ่าว-สาวไม่ใช่นายแบบนางแบบโดยเฉพาะ เจ้าบ่าวที่อาจจะไม่เคยเซลฟี่มาก่อนด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจะไม่สามารถโพสได้เหมือนมืออาชีพช่างภาพต้องทำความรู้จักตัวตนของคู่บ่าว-สาวดูว่าเขาถนัดแนวไหน  โพสได้มากน้อยแค่ไหนมีเทคนิคในการพูดคุยให้ผ่อนคลายและทำให้เขาเชื่อในตัวเรา

ส่วนในวันงานปัญหาหลักๆ เลยคือความกังวลโดยเฉพาะเจ้าสาวส่วนเจ้าบ่าวบางทีก็เป็นแต่ไม่ค่อยแสดงออก ความกังวลมีตั้งแต่เพื่อนมาครบหรือยังคุณแม่อยู่ไหนทาปากสีนี้ดีไหม ขึ้นเวทีจะพูดอะไรฯลฯ ซึ่งถ้าบ่าว-สาวเครียดจะแสดงออกมาทางสีหน้าทำอะไรก็ดูไม่สบายใจ ไม่ยิ้มแย้มบรรยากาศของงานก็พลอยเคร่งเครียดไปด้วย ทางออกคือการเลือกเวนเดอร์ที่มั่นใจและไว้วางใจได้ พยายามคิดบวกถ้าเราคิดว่ามันโอเคทุกอย่างจะโอเคเมื่อสบายใจถ่ายรูปออกมาก็สดใสบรรยากาศของงานก็ดี

เทรนด์การถ่ายพรีเวดดิ้ง

การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในปีหน้าน่าจะมีลูกเล่นมากขึ้นจากที่เคยใส่ ชุดแต่งงานปกติก็อาจจะมีธีม เช่น นางเงือกกับเจ้าสมุทรเจ้าหญิงกับอสูรหรือเน้นสถานแที่ปลกใหม่ไม่จำเจ เช่น บางคนเบื่อหัวหินหรือเขาใหญ่ก็อาจจะไปสถานที่ที่เป็น Unseen Thailand หรือไปถ่ายต่างประเทศ

นอกจากนี้ควรดูพอร์ตหลายๆ งานจะช่วยคอนเฟิร์มประสบการณ์ได้และเลือก พอร์ตให้ตรงกับความต้องการ              เช่น ถ้าจะแต่งริมทะเลก็ควรดูพอร์ตบีชเวดดิ้งเยอะๆ เพราะการถ่ายกลางแจ้งต่างจากถ่ายในห้องบอลรูมหรือถ้าจะแต่งโรงแรมไหน เช่น แต่งที่โอเรียนเต็ลก็ควรขอดูพอร์ตงานที่โอเรียนเต็ลเลยเพราะถ้าช่างภาพชำนาญพื้นที่จะรู้ว่าห้องนี้ต้องไปยืนตรงไหนจึงจะถ่ายภาพออกมาสวย

ผู้หญิงอยากสวยที่สุดในวันสำคัญนี่คือเหตุผลที่ทำให้ วิธีเลือกชุดเจ้าสาว กลายเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ของเจ้าสาวที่จะเลือกอย่างไรให้ฉลาด คุ้มค่า และ เติมเต็มหัวใจของตัวเอง คุณ เอ-มธุรดา วงศ์ไวโรจน์ แห่ง Bridesmaid ร้านชุดแต่งงานที่อยู่คู่เจ้าสาวยุคใหม่มากว่า 8 ปี มีคำตอบ

การตั้งงบประมาณสำหรับชุดเจ้าสาว

ควรจัดงบประมาณตามลำดับความสำคัญซึ่งการให้คุณค่าของแต่ละคนก็แตกต่างกันไปบางคนบรรยากาศงานต้องเหมือนสรวงสวรรค์บางคนอาหารต้องอร่อยหรือบางคนคือการที่ฉันต้องสวยที่สุดในชีวิต ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ งบของชุดก็ต้องพิเศษหน่อย วิธีนี้จะทำให้เจ้าสาวรู้ว่าถ้าต้องประหยัดควรจะไปตัดงบส่วนไหน แน่นอนว่าต้องตัดจากลำดับท้ายขึ้นมา ไม่ใช่ตัดทั้งหมด

ชุดเจ้าสาวที่คุ้มค่าคือ

ชุดที่ตอบโจทย์และเติมเต็มความสุขของเจ้าสาว เรื่องที่อยากแนะนำคือการคิดถึงเรื่องความคุ้มค่าอย่างมองแค่ตัวเงินแต่ให้มองในแง่ที่ชุดเจ้าสาวจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตทั้งในภาพถ่ายและความทรงจำ อย่าเลือกอะไรที่จะต้องมานั่งเสียดายทีหลังว่า “รู้อย่างนี้น่าจะเลือกชุดนั้น” เช่น เจอชุดที่ใช่แต่เกินงบมาประมาณ 20,000 บาท ถ้าชั่งใจแล้วว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรง จากวันที่ลองจนถึงวันงานก็อีกหลายเดือน อาจงดมื้อหรู แล้วหยอดกระปุกเดือนละ 2,000 กว่าบาท ก็จะมาเติมตรงนี้ได้โดยไม่กระทบงบโดยรวม

ชุดเจ้าสาวที่ทาง Bridesmaid แนะนำ

เราสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นมาจากมาจากแนวคดิ4C’s เหมือนเพชร คือ Clean ดูโมเดิร์นสะอาดตา มีรายละเอียดแต่ไม่รุงรัง Convertibleปรับเปลี่ยนได้ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งนำไปสู่ CostSaving คือแทนที่จะตัด 2-3 ชุดสำหรับงานเช้า งานเย็น อาฟเตอร์ปาร์ตี้ ก็ตัดเพียงชุดเดียวแล้วปรับเปลี่ยนลูกเล่นเพื่อให้ใช้ได้กับทุกพิธีซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัย Creativity ในการคิดนอกกรอบเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างชุดที่มาถ่ายใน WE เป็นผ้าโปร่งตกแต่งลูกไม้กับกระโปรงทรงหางปลาที่ไม่ใหญ่มาก มาพร้อม Kits เป็นเกาะอกผ้า พลีตดีไซน์เก๋ เข็มขัดเพชร และผ้าโปร่งเสริมช่วงสะโพก สำหรับพิธีหมั้นอาจใส่แค่เสื้อกับกระโปรงแล้วคาดเข็มขัด พอถึงพิธีฉลองก็เติมเกาะอกทับเข้าไปแล้วเสริมผ้าโปร่งให้กระโปรงพองฟู ส่วนในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ อาจถอดกระโปรงออกไปใส่กางเกงผ้าสวย ๆ สีนู้ดสักตัวเปลี่ยนรองเท้าแล้วนำชิ้นเสริมสะโพกมาคาดทับกางเกงหรือคาดผมเป็นเวลก็สวยไม่เหมือนใคร

ชุดดีไซน์นี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในโอกาสอื่นได้ด้วย เช่น นำเสื้อไปแมตช์กับกระโปรงกลิตเตอร์ใส่ไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวกระโปรงทรงหางปลาสีขาวอาจแมตช์กับเชิ้ตซาตินสีดำติดเข็มกลัดเพชรก็กลายเป็นชุดออกงานหรูแกมเท่ หรือถ้ารู้สึกว่าใส่ยากหลังจบงานอาจตัดชายให้เป็นกระโปรงหน้าสั้นหลังยาวหรือตัดสั้นไปเลย เอาไว้แมตช์กับเสื้อสีดำสำหรับใส่ไปงานค็อกเทลเก๋ ๆ

เรียกว่าตอบโจทย์ทั้งความสวยงามความสร้างสรรค์ และความคุ้มค่าได้อย่างครบครัน

คุณเอ – มธุรดา วงศ์ไวโรจน์ ผู้บริหาร Bridesmaid (Thailand)

โทร. 0-2515-0878, 0-2955-9772,08-1239-7218

เว็บไซต์ : bridesmaidthailand.com

เทคนิคจัดงานสวยในงบจำกัดจากมือโปร เรารู้มาว่าบ่าวสาวชาวออฟฟิศหลายคู่ไม่กล้าใช้บริการเวดดิ้งแพลนเนอร์ เพราะกังวลว่ามีงบน้อย เราจึงนัดคุณโอ๊ค วิทวัส อุดมกิตติ แห่ง Love Indeed The Wedding Planner and Decoration Organizer เจ้าของรางวัล The Best Chic Budget-Friendly Wedding 2014 จากนิตยสาร WE มาแนะนำ การใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์แบบสบายกระเป๋าพร้อม เทคนิคจัดงานแต่ง สวยเริดในงบจำกัด

งบไม่เยอะ คุยกับแพลนเนอร์อย่างไร

ควรตั้งงบไว้ในใจและคิดว่าอยากให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด จากนั้นคุยกับแพลนเนอร์ตรงๆว่ามีงบเท่านี้อยากได้แบบนี้ ทำได้ไหม หากงบน้อย น่าจะกันเงินไว้สำหรับการตกแต่งราว 20 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าไม่ไหวจริง ๆ 10 – 15 เปอร์เซ็นต์ก็ยังทำได้ โดยเน้นไปที่แบ็กดร็อปกับเวที เพราะแบ็กดร็อปเป็นเฟิร์สต์อิมเพรสชั่น ส่วนเวทีเป็นจุดรวมสายตาของแขก แต่ถ้างบน้อยลงมาอีก ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ผมเชียร์ให้เลือกเวทีเพราะเป็นจุดรวมทุกซีเควนซ์ ถ่ายภาพออกมาแล้วเห็นการตกแต่งชัด ส่วนกรณีที่เงินเหลือแนะนำให้เพิ่มซุ้มทางเข้างานเพื่อสร้างความว้าวตั้งแต่แรกเห็น

งบน้อยจัดธีมนี้สิ…รอดชัวร์

แนะนำธีมแกตส์บี้ เพราะไม่ต้องถมดอกไม้เยอะสามารถตกแต่งให้งานดูสวยฟูฟ่าได้ด้วยพร็อปอย่างผ้าเล่อื มขนนก ฯลฯ ซึ่งสามารถเช่าได้ในราคาไม่แพง

ข้อแนะนำพิเศษจาก Love Indeed

1. เลือกโรงแรมที่ตกแต่งสวยอยู่แล้วหรือมีเฟอร์-นิเจอร์ที่นำมาใช้ตกแต่งในงานได้
2. ดูว่าในแพ็คเกจของโรงแรมให้อะไรบ้าง เช่นถ้าให้ดอกไม้มาตรฐานตามจุดต่างๆ ลองเจรจาขอนำดอกไม้ทั้งหมดมารวมกันในกระถางโรมัน 2 – 4 ใบ แล้วใช้ตกแต่งเวที หน้างาน หรือทางเข้างาน
3. คุยกับแพลนเนอร์ว่าสามารถเตรียมงานเองในส่วนไหนบ้าง สถานที่ อาหาร การด์ ของชำร่วยจะได้ทุ่นค่าจ้างลง ส่วนที่เหลือค่อยใช้แพลนเนอร์
4. กรณีที่ใช้จ่าย Minimum Spend กับโรงแรมแล้วได้ทุกอย่างครบ แต่อยากให้งานดูพิเศษขึ้นอาจขอใช้บริการเช่าพร็อปเสริม หรือใช้บริการจัดโต๊ะแบบลองเทเบิลสำหรับแขกวีไอพีเพื่อสร้างความประทับใจ ซึ่งเราเองก็มีบริการในราคามิตรภาพอย่างที่บ่าวสาวนึกไม่ถึง

สีมงคล คือ“จัดงานแต่งสีไหนดี” อาจารย์เอ๋ – รดา พชรวิจิตรเมธี ผู้เชี่ยวชาญเรื่องพลังแห่งสีสันมีคำแนะนำดีๆ มาฝาก โดยเฉพาะบ่าว – สาวที่อยากหาคู่สีมงคล คอนเฟิร์มว่าเลือกตามนี้นอกจากความรักจะยืนยาวและแนบแน่นแล้ว ชีวิตเลิฟที่หวังไว้ก็จะมีแต่เฮงชั่วกัปชั่วกัลป์หลักการง่ายๆ ที่อาจารย์เอ๋แนะนำให้บ่าว – สาวใช้ในการเลือก

1.DAY OF BIRTH

เช็กก่อนว่าคุณทั้งคู่เกิดวันอะไรด้วยหลักการง่าย ๆ คือ พระอาทิตย์ขึ้นเมื่อไรนับเป็นวันใหม่เสมอ

2.Do & Don’ts

เช็กสีมงคลตามตารางด้านล่างนี้  วันอาทิตย์ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ วันเสาร์

3.CHOOSE WEDDING THEME COLOUR

ใช้สีมงคลของคุณทั้งคู่เป็นคู่สีในงาน เช่น เจ้าสาวเกิดวันอาทิตย์ เจ้าบ่าวเกิดวันศุกร์ คู่สีมงคลสำหรับการตกแต่งงานในเบื้องต้นคือ ขาว / ครีม/ เหลือง – น้ำเงิน / ฟ้า

4.MORE OPTIONS

เช็กว่าคู่สีที่ได้ตรงกับสีที่ควรหลีกเลี่ยงของแต่ละคนหรือไม่ ในกรณีนี้น้ำเงิน / ฟ้าคือสีที่ฝ่ายเจ้าสาวควรหลีกเลี่ยง ให้แก้ไขโดยจับคู่กับสีมงคลของวันที่จัดงานแต่งงานแทน เช่น จัดงานวันเสาร์ ก็ให้ตกแต่งด้วยธีม

สีแดงคู่กับสีมงคลของเจ้าสาวแทน (แต่ถ้าแจ็กพ็อตได้ฤกษ์วันศุกร์ ซึ่งมีสีที่เจ้าสาวควรหลีกเลี่ยง ก็ให้ใช้สีมงคลของเจ้าสาวเพียงฝ่ายเดียว

อาจารย์เอ๋ฝากทิ้งท้ายว่า หลักการที่ว่านี้ยังสามารถประยุกต์ใช้กับการเลือกผ้านุ่งของบ่าว – สาวในพิธีแต่งงานแบบไทยตามประเพณีนิยมได้ด้วยนะคะ

อาจารย์เอ๋ ผู้เขียนหนังสือ เปลี่ยนสีเปลี่ยนชีวิต

ขอบคุณภาพจาก Vocativ