“ยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน ยามร้าวรานน้ำตาลยังว่าขม” ชีวิตคนเรามีรักมีเลิกเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับคู่รักที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นเซเลบริตี้เหล่านี้ แน่นอนว่าต้องถูกสายตาประชาชีจับจ้องทั้งตอนแต่งและตอนหย่า! บางคู่อยู่กันก้นหม้อข้าวไม่ทันดำก็ใส่คอนเวิร์สบอกลากันซะแล้ว วันนี้ฮีบินเลยขอพาคุณผู้อ่านไปพบกับคู่ “สามีภรรยาระยะสั้น” ไปดูว่าเขาอยู่กันได้นานแค่ไหน!
1. Britney Spears และ Jason Alexander
เริ่มกันที่คู่ของนักร้องสาวป๊อปสตาร์ชื่อดังแม่นางบริทนีย์กับสามี 55 ชั่วโมง “เจสัน อเล็กซานเดอร์” แรกเริ่มเดิมทีความสัมพันธ์ก็แค่เพื่อนกัน แต่ไหงไปๆ มาๆ กลับจูนคลื่นรักติดซะงั้น จนวันหนึ่งที่นางตัดสินใจชวนฝ่ายชายแต่งงานและจดทะเบียนสมรสที่ลาสเวกัส แต่เมื่อเรื่องถึงหูผู้จัดการส่วนตัวก็ช็อกและปรี๊ดแตกไปตามระเบียบ สุดท้ายแม่นางบริทนีย์ก็ออกมาประกาศเซย์กู๊ดบายคุณสามีหลังจากแต่งงานกันไปเพียงแค่ 2 วัน สิริรวมชั่วโมงการนอนกอดทะเบียนสมรสก็แค่ 55 ชั่วโมงเอ๊งงง!
2. Cher และ Gregg Allman
ย้อนเวลาไปไกลสักนิดกับคู่รักในอดีตอย่างนักร้องนักแสดงสาว Cher และดาวร็อกผมยาว Gregg Allman (ตอนนี้ก็กลายเป็นคุณลุงคุณป้ากันไปละ) โดยทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันในปี 1975 แต่หลังจากวันแต่งเพียงแค่ 9-10 วันก็จรดปากกาลงบนใบหย่ากันซะอย่างงั้น สุดท้ายก็ไม่วายกลับมาจูบปากจูบคอคืนดีและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนถึงปี 1979 คราวนี้เลิกขาดแบบของจริงไม่มีรีเทิร์นรอบสองให้แฟนคลับได้ลุ้นอีกต่อไป
3. Kim Kardashian และ Kris Humphries
ก่อนที่นักแสดงสาวนางนี้จะกลายมาเป็นคู่รัก “คิมเย่” (Kimye : Kim Karadashian – Kanye West) อย่างในปัจจุบัน เมื่อก่อนนางเคยร่ายมนตร์รักบั้นท้ายสะบึ้มใส่นักบาสเกตบอล NBA “Kris Humphries” ขนาดว่าจัดงานแต่งใหญ่โตจนคนในตระกูลคาร์ดาเชี่ยนถึงกับสะเทือนเรื่องเงินที่ใช้เชียวนะจ๊ะ เพราะงานแต่งครั้งนั้นคิมและคริสใช้เงินไปกว่า 10 ล้านดอลล่าร์ แหวนเพชรเม็ดเป้งอีกเกือบๆ 20 กะรัต แต่ก็นั่นแหละค่ะคุณผู้อ่าน เวลาแสนหวานในชีวิตคู่ครั้งนั้นมีอายุอยู่เพียง 72 วัน จากนั้นความรักก็หมดอายุและเซ็นใบหย่ากันจนได้
4. Dennis Rodman และ Carmen Electra
อีกหนึ่งคู่รักนักแสดงสาวกับนักบาสหนุ่มที่ก็ยังไปกันไม่ยืด (เหมือนคู่คิมกับคริสเลยจ้ะ!) โดยทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 1998 แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 9 วัน (โธ่…ยังไม่ถึง 2 สัปดาห์ดีเลย) พ่อนักบาสหนุ่มผิวสี Dennis Rodman ก็ออกมาพูดกับสื่อว่างานแต่งที่ผ่านมากลายเป็นโมฆะไปซะอย่างนั้น พร้อมกับให้เหตุผลว่าที่ผ่านมานั้นตัวเขาเองอยู่ในสภาวะขาดสติ! (แต่งงานทั้งๆ ที่ไม่สติสัมปชัญญะเนี่ยนะ!) แม้ว่าหลังจากนั้นจะมีข่าวคราวเรื่องคืนดีรีเทิร์นกันอยู่บ้าง แต่ท้ายที่สุดความจริงก็ปรากฏใน 6 เดือนถัดมาว่าทั้งคู่หย่าขาดกันแล้วจริงๆ งานนี้ฝ่ายหญิง Carmen Electra เปิดใจให้สัมภาษณ์กับ Oprah Winfrey ว่าช่วงเวลาที่แต่งงานกันนั้น เป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิตของเธอเลยล่ะ!
5. Pamela Anderson และ Rick Salomon
นักแสดงหญิงอย่าง Pamela Anderson นางก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีคดีรักร้างฉับไวกับอดีตสามี Rick Salomon นักเล่นไพ่โป๊กเกอร์มืออาชีพ ทั้งคู่แต่งงานกันครั้งแรกในปี 2007 แต่หลังจากนั้นเพียง 2 เดือนก็มีเหตุให้ต้องเลิกร้างกันไป แต่ไม่วายความรักคืนชีพกลับมาแต่งงานกันอีกครั้งในปี 2014 แล้วก็เหมือนประวัติศาสตร์ซ้ำรอย รักนี้ทู่สีไปไม่รอด สุดท้ายก็หย่ากันรอบสองเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วนี่เองจ้า
6. Bradley Cooper และ Jennifer Esposito
คู่รักนักแสดงอย่างหนุ่ม Bradley และสาว Jennifer ที่ถึงแม้จะอยู่วงการเดียวกัน ทำอาชีพเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าชีวิตรักจะไปกันรอด เพราะเมื่อหลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานหวานช่ำ ณ ประเทศฝรั่งเศสไปแล้ว หลังจากนั้น 4 เดือนก็แยกย้ายโบกมือบ๊ายบายชีวิตรักกันไปอีกคู่
ตอนรักกันจนกระทั่งแต่งงานโลกนี้ก็ยังคงสวยใสเป็นสีชมพู ครั้นพอได้ใช้ชีวิตเคียงคู่อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาจริงๆ ความรักกลับเล่นตลกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ไอ้ที่เคยรักเคยหวานก็ดูท่าจะหมดอายุ สุดท้ายก็ตัดสินใจคอนเวิร์สเดินจากกันไปในที่สุด แต่ไม่ว่าจะเลิกกันเร็วหรือเลิกกันช้า เหตุผลเดียวที่หลายคนคิดตรงกันก็คือ คนไม่ใช่ยังไงก็ไม่ใช่อยู่ดี ยื้อไปก็มีแต่เสียเวลาเสียสุขภาพจิต เหนื่อยกายเหนื่อยใจกันทั้งคู่ ถูกไหมละ?
เรื่อง : JeenHuiBin
เรียบเรียง : www.vogue.com
ภาพ : www.popsugar.com, www.dailymail.co.uk, www.usmagazine.com, www.pinterest.com, rolexblog.blogspot.com
เราขอประเดิมด้วยห้องเพนท์เฮาส์สุดหรูอย่าง SUN 01 ความพิเศษของห้องนี้คือ เตียงขนาดบิ๊กที่นอนกลิ้งได้ 2 คนแบบสบายๆ ระเบียงด้านบนสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลหัวหินได้อย่างเต็มตา รวมทั้งอ่างจากุซซี่เริดๆ ให้นอนแช่น้ำพร้อมอาบลมชมทะเลสบายๆ ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจไปกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
ทรงผมที่ 1 :ออเดรย์ เฮปเบิร์น (Audrey Hepburn) จากภาพยนตร์เรื่อง Funny Face ในปีค.ศ.1957 ทำผมทรงรวบตึงเป๊ะ เนี้ยบกริบ ผมไม่กระดิกสักเส้น
ทรงผมที่ 2 : กาทรีน เดอเนิฟว์ (Catherine Deneuve) จากภาพยนตร์เรื่อง The Vice and the Virtue ในปีค.ศ.1962 ทำผมทรงหน้าม้าพองไล่ระดับความยาวถึงช่วงข้างหู ตีโป่งผมช่วงบนไม่สูงมากนัก และม้วนลอนใหญ่ช่วงปลายผม
ทรงผมที่ 3 : เคิร์สเตน ดันสท์ (Kirsten Dunst) จากภาพยนตร์เรื่อง Marie Antoinette ในปีค.ศ.2006 ทำผมทรงม้วนลอนเกลียวเป็นหลอดเรียงแถวลดหลั่นกัน ตามแบบฉบับยุคขุนนาง
ทรงผมที่ 4 : ซาราห์ เจสสิกา ปาร์กเกอร์ (Sarah Jessica Parker) จากภาพยนตร์เรื่อง Honeymoon in Vegas ในปีค.ศ.1992 ทำผมทรงดัดลอนเกล้าตึงขึ้นด้านบน มาพร้อมกิมมิกปอยผมม้วนลอนด้านหน้าซ้าย-ขวาข้างละ 2-3 ปอย
ทรงผมที่ 5 : แคทธาลีน รอส (Katharine Ross) จากภาพยนตร์เรื่อง In The Graduate ในปีค.ศ.1967 ทำผมทรงรวบครึ่งหัวสไตล์สาวเซอร์ จะเห็นว่ามีเส้นผมตกลงมาตามกรอบหน้าบ้างเล็กน้อย ด้านบนตีโป่งไม่สูงมากนัก ส่วนปลายผมทำเป็นลอนคลาย
ทรงผมที่ 6 : อูมา เธอร์แมน (Uma Thurman) จากภาพยนตร์เรื่อง Kill Bill : Volume 2 ในปีค.ศ.2004ผมทำทรงหน้าม้า รวบครึ่งหัว ปล่อยปลายผมให้พลิ้วไหวไปกับสายลม
ทรงผมที่ 7 : เจน รัสเซลล์ และ มาริลิน มอนโร (Jane Russell and Marilyn Monroe) จากภาพยนตร์เรื่อง Gentlemen Prefer Blondes ในปีค.ศ.1953 เจ้าสาวผมสั้นแนววินเทจที่อยากเผยความเซ็กซี่เล็กๆ ทำทรงผมดัดลอนแบบเปิดหน้าผากทรงนี้เหมาะมากจริงๆ
ทรงผมที่ 8 : คาเมรอน ดิแอซ (Cameron Diaz) จากภาพยนตร์เรื่อง What Happens in Vegas ในปีค.ศ.2008 ผมทรงนี้คือคำตอบของสาวผมตรง นิยมปาร์ตี้ และมีเวลาเตรียมงานไม่มาก แค่หาที่คาดผมเก๋ๆ ที่เข้ากับชุดมาสักอัน เป็นอันจบพิธี
ทรงผมที่ 9 : โรบิน ไรท์ (Robin Wright) จากภาพยนตร์เรื่อง The Princess Bride ในปีค.ศ.1987 ทรงผมสำหรับสวมมงกุฎทรงนี้ ทำตามได้ง่ายมากๆ เพียงแสกกลางแล้วจับช่อผมขึ้นมาทีละข้าง ม้วนบิดเกลียวติดกิ๊บล็อกให้แน่น และปล่อยปลายผมดัดลอนเรียงตัวสวยตามธรรมชาติ
ทรงผมที่ 10 : โดโรธี แดนดริดจ์ (Dorothy Dandridge) จากภาพยนตร์เรื่อง The Harlem Globetrotters ในปีค.ศ.1951 ทรงผมเกล้าสูงรวบตึง คลุมด้วยหมวกติดเวลประดับคริสตัลและเลื่อม
ทรงผมที่ 11 : มาริสา เบเรนสัน (Marisa Berenson) จากภาพยนตร์เรื่อง Barry Lyndon ในปีค.ศ.1975 ทำทรงผมลอนดัดตีฟูสูงครึ่งศีรษะ หากอยากเพิ่มความฟูของผมทรงนี้ ขอแนะนำให้ใส่แฮร์พีชเพิ่ม
ทรงผมที่ 12 : เกรซ เคลลี (Grace Kelly) จากภาพยนตร์เรื่อง High Noon ในปี ค.ศ.1952 ทำผมทรงเกล้ามวยต่ำบิดเกลียวช่วงปลายผมให้เป็นรูปดอกไม้
ทรงผมที่ 13 : จาง ซิยี่ (Zhang Ziyi) จากภาพยนตร์เรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon ในปีค.ศ.2000 ทำผมทรงแสกกลาง เกล้ามวยต่ำ แบบรวบตึงเรียบเป๊ะ
สำหรับเจ้าสาวที่มีบุคลิกหวานเป็นทุนเดิม ผมแสกกลาง ถักเปียข้างซ้ายและขวาก่อนตลบปลายทั้งสองไว้ที่ช่วงท้ายทอยทรงนี้ จะช่วยส่งให้พลังความอ่อนหวานแผ่ซ่านไปทั่วทั้งงาน
อยากได้ลุคเก๋แต่เวลาจำกัด ขอให้จัดทรงนี้ไปด่วนๆ แค่จับช่อผมมัดเป็น 3 ช่วง ได้แก่ บน กลาง ล่าง จากนั้นจับผมแต่ละช่อมาหมุนบิดเกลียวให้สวยงาม ไม่นานเกินรอออร่าความงามของเทพีก็เปล่งประกาย
งามสง่าท่ามกลางงานเต้นรำสุดคลาสสิคในสไตล์สตรีชั้นสูง กับทรงผมแสกกลางรวบตึง เกล้ามวยต่ำ ที่แต่งดีเทลความหรูหราด้วยเครื่องประดับเพชรระยิบระยับ
ทรงเสน่ห์น่าหลงใหลในแบบฉบับเจ้าหญิงราพันเซล กับทรงผมเปียที่เพิ่มความหนาและยาวด้วยแฮร์พีช เพิ่มพลังความพิเศษด้วยการแซมดอกไม้ มุก และเลื่อม เข้าไปในเกลียวผม
เลือกกินอาหารที่ไม่เพิ่มปริมาณอินซูลินและน้ำตาลในเลือด เช่น โปรตีนคุณภาพดีที่ซ่อนอยู่ในปลาแซลมอน ปลาเทร้า ปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำที่อุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศา หอย สัตว์ปีก และเต้าหู้
ควรกินวิตามินน้ำมันปลาโอเมก้า 3 วันละ 3 เม็ด เพราะเป็นวิตามินเสริมที่จำเป็นสำหรับผิว
ลดการกินเมนูแป้ง แล้วหันมากินผัก ผลไม้ ธัญพืช และถั่วเมล็ดแห้งแทน
กินน้ำมันมีประโยชน์ เช่น เมล็ดพืช ถั่ว และน้ำมันมะกอก
ดื่มเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ชาเขียว และน้ำแร่ธรรมชาติวันละ 6-8 แก้ว ที่นอกจากจะเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวแล้ว ยังช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกายอีกด้วย
หลีกเลี่ยงน้ำตาล ขนมอบ โซดา น้ำผลไม้ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ผิวหมองคล้ำไม่สดใส แต่ถ้าโหยน้ำตาลจริงๆ ขอแนะนำให้กินผลไม้สด โยเกิร์ต เบอร์รี่ ไม่ก็กินชอคโกแลตที่มีส่วนผสมของโกโก้ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือผงโกโก้ 100 เปอร์เซ็นต์แทน
สมูทตี้น้ำผักสด แหล่งรวมสารอาหาร ยิ่งใส่ผงยอดข้าวบาร์เล่ย์อ่อนลงไปด้วย ยิ่งเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว เพราะอุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์และสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีผักใบเขียวตัวช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย และแอ๊ปเปิ้ลที่อัดแน่นด้วยฟลาโวนอยช่วยบำรุงผิวแพ้ง่ายให้สวยอยู่เสมอ
ออกกำลังกายด้วยการวิ่ง โยคะ พิราทีส หรือยกเวทเบาๆ ช่วยขับพิษที่แทรกตัวอยู่ตามชั้นผิวให้ออกมาพร้อมเหงื่อ
การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ ช่วยให้เซลล์ผิวได้ฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ ผิวจึงเปล่งปลั่งแลดูอ่อยกว่าวัยเป็นพิเศษ
ห้องบอลรูมนี้เน้นการตกแต่งห้องโทนสีขาว-ครีม ให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่น มีระดับ พร้อมด้วยความกว้าง 14.7 เมตร ยาว 23.6 เมตร และสูง 5 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่ง สบาย ไม่ทำรู้สึกอึกอัด อีกทั้งบนเพดานห้องประดับด้วยโคมไฟระย้าทรงโค้งตัวเอสขนาดใหญ่ช่วยห้องดูหรูหราแต่ยังคงความนุ่มนวลเอาไว้ สามารถรองรับการจัดประชุมและสัมมนา รวมทั้งงานเลี้ยงในหลากหลายรูปแบบ ทั้ง งานหมั้น พิธีสงฆ์ หรือพิธียกน้ำชา และด้วยขนาดพื้นที่ 346 ตารางเมตร ทำให้เหมาะกับการจัดงานแต่งงานที่ไม่ใหญ่มาก
สวยใสตามแบบฉบับเทพธิดาในสวนสวรรค์ กับทรงเกลียวคลายตกแต่งด้วยมงกุฎดอกไม้หลากสีสัน
สวยตามวิถีเจ้าสาวที่ชอบเล่นดีเทลผมกับทรงม้วนลอน ก่อนบิดเกลียวเกล้าพันเป็นช่อดอกไม้อย่างละเอียดละออ
ทรงผมลอนรวบครึ่งปล่อยปลายพลิ้วไหว ถูกใจเจ้าสาวที่ไม่อยากโชว์หน้าหมด เพิ่มดีกรีความน่าสนใจให้เรือนผมด้วยเครื่องประดับมุก คริสตัล และขนนกโทนสีแมทช์กับชุด
เพิ่มพลังความงามสง่าแบบสาวยุค 80 กับทรงผมตั้งกระบังลอนสูง เกล้าบิดพันเกลียวไขว้ไปตามจังหวะลอนผมเล็กใหญ่แตกต่างกัน
เนรมิตลุคเจ้าหญิงให้เจ้าสาวงามล้ำเกินใครกับทรงผมเกล้าสูง บิดลอนผมเป็นก้อนเกลียวพันก่อน เพิ่มออร่าด้วยมงกุฎคริสตัล
สวยหวานซ่อนความเซอร์ในสไตล์เทพกรีก กับทรงถักเปียสามแทนที่คาดผม ก่อนซ่อนหางเปียและปลายผมที่เหลือไว้ใต้เปีย และทิ้งปอยผมลอนคลายด้านข้างเล็กน้อย
เซ็กซี่เปี่ยมเสน่ห์น่าหลงใหลตามสไตล์เจ้าสาวแนวเรโทร กับผมทรงดัดลอนความยาวระดับบ่า
ผมทรงมวยต่ำบิดพันเป็นก้อนกลมช่วงท้ายทอย ประดับด้วยสายคาดผมดอกไม้คละไซส์เล็กประดับมุก ปล่อยปอยผมดัดลอนด้านหน้า ช่วยเสกสวยให้เจ้าสาวที่มีเวลาน้อยได้เป็นอย่างดี
เจ้าสาวคนไหนอยากได้ทรงผมสวยเนี้ยบ ขอแนะนำทรงเกล้าสูงบิดเกลียวไขว้พันปลายแบบเรียบเรียงเส้น ประดับดอกไม้สีขาวฟอร์มสวย
ย้อนยุคทะลุสู่ห้วงเวลาวินเทจ ในคอนเซ็ปท์เจ้าสาวแกสบี้ กับทรงมวยต่ำ ประดับสายคาดผมดอกไม้ไซส์ใหญ่ที่มาพร้อมสายห้อยร้อยเรียงระย้า
ทรงทำง่ายสบายไม่ยุ่งยาก แต่สวยเอาอยู่ ด้วยเทคนิกเกล้าม้วยต่ำแบบง่ายๆ เริ่มจากแบ่งช่อผมออกเป็น 3 ช่อ จากนั้นนำช่อผมแต่ละช่อมัดบิดเกลียวคดเป็นก้อนกลมเรียงไล่ระดับช่วงท้ายทอย ก่อนแซมด้วยดอกไม้ดอกเล็กๆ
