สัปดาห์นี้ Princess Hydrangea มี 3 ทรีทเม้นต์เสกหน้าสวยเป๊ะทุกอณูรูขุมขนแบบไม่พึ่งมีดหมอ มาเสิร์ฟให้เหล่าว่าที่เจ้าสาวได้เลือกสรรทั้งนวัตกรรมเทคโนโลยีสุดล้ำและทองคำบริสุทธิ์
1. Nano Perfector
ทรีทเม้นต์ยกกระชับหน้าเรียวแบบด่วนๆ ผ่านเทคโนโลยีคลื่นความถี่สูงและกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กระดับนาโน (Nano Current) ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์และการไหลเวียนเลือดใต้ชั้นผิว
ความพิเศษของทรีทเม้นต์อยู่ตรงที่…
เมื่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูงและกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กระดับนาโนแผ่รัศมีลึกลงไปในชั้นผิว จะตรงไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ขณะเดียวกันก็ช่วยให้กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อให้กลับมาสตรองดังเดิมจนสามารถยกกระชับใบหน้าให้กลับเด้งดึ๋งอีกครั้ง
นอกจากความเด้งที่คืนกลับมา ทรีทเม้นต์นี้ยังช่วยฟื้นสภาพผิวที่พังจากริ้วรอยแห่งวัย การอักเสบจากสิว ผิวไหม้จากแสงแดด อาการบวมน้ำ และขอบตาบวมได้เห็นผลดีทีเดียว ทั้งยังช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ใบหน้าจึงดูเรียวเล็ก เปล่งปลั่ง และอ่อนเยาว์ขึ้นหลังทำทรีทเม้นต์ผ่านไป 45 นาที OMG!!! มั้ยล่ะ
2. 24K Gold Facial Treatment
ชุบชีวิตผิวหน้าด้วยทรีทเม้นต์ที่คัดสรรขุมทรัพย์ความงามสุดอมตะตามแบบฉบับของพระนางคลีโอพัตราด้วยการใช้ทองคำบริสุทธิ์ 99.99 % มากระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยย้อนวัยให้ผิวหน้าเปล่งประกายออร่าอีกครั้ง
ความพิเศษของทรีทเม้นต์อยู่ตรงที่…
มีการเพิ่มความชุ่มชื้นลึกถึงผิวชั้นในด้วยเซรั่มสกัดจากถั่วนัตโตะจากญี่ปุ่นที่อุดมไปด้วยไฮยาลูรอนิกแอซิดถึง 10 เท่า ช่วยให้ผิวเรียบเนียนนุ่มน่าสัมผัส ก่อนนำแผ่นทองคำบริสุทธิ์ 99.99 % ที่มีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการเซลล์ผิวที่ติดเชื้อโดยไม่ทำให้เกิดผื่นแพ้ ทั้งยังฟื้นฟูผิวที่เสียจากรังสียูวีที่มากับแสงแดดมาวางไว้ทั่วใบหน้า ก่อนปิดท้ายด้วยการบูสท์ผิวให้เปล่งปลั่งฉ่ำน้ำด้วยการพ่นละอองไอน้ำที่อุดมไปด้วยสารอาหารผิวผ่านกระบวนการนำพาเซรั่มซึมซาบเข้าสู่ผิวโดยเครื่อง Facial SPA System ที่ช่วยให้อาหารผิวซึมลึกสู่ผิวชั้นในได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ถือเป็นหนึ่งทรีทเม้นต์เลอค่าที่สาวๆ ไม่ควรพลาด
3. Photo Therapy
จบปัญหาสิว ผิวมัน ผิวแห้งขาดน้ำในเวลารวดเร็วด้วยพลังงานแสงเข้มข้นสูงที่ช่วยกระตุ้นกลไกการทำงานของผิวให้กลับมาฟื้นฟูตัวเองใน 20 นาที
ความพิเศษของทรีทเม้นต์อยู่ตรงที่…
มีแสงที่มีส่วนช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตและออกซิเจนให้แก่ผิวมาปรนนิบัติผิวหน้าให้สวยปังถึง 3 สี ซึ่งแต่ละสีจะมีคุณสมบัติในการรักษาผิวบนใบหน้าแตกต่างกัน ดังนี้ 1. Blue Light (แสงสีฟ้า) ช่วยฆ่าเชื้อสิว และลดการอักเสบของผิว 2. Yellow Light (แสงสีเหลือง) ช่วยจัดการรอยดำ รอยแดง ฝ้า กระ เม็ดสีที่เข้มให้จางลง กระตุ้นระบบน้ำเหลือง และระบบการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น 3. Red Light (แสงสีแดง) รักษาผิวที่ไหม้จากแสงแดด กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเรือนริ้วรอย พร้อมปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ถือเป็นทรีทเม้นท์ครอบคลุมปัญหาผิวของสาวๆ ได้ตรงจุดตรงใจซะเหลือเกินว่ามั๊ย
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : Holistic Medical Centre, Aster Sprin , Aime clinic
ห้องบอลรูมนี้เน้นการตกแต่งห้องโทนสีขาว-ครีม ให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่น มีระดับ พร้อมด้วยความกว้าง 14.7 เมตร ยาว 23.6 เมตร และสูง 5 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่ง สบาย ไม่ทำรู้สึกอึกอัด อีกทั้งบนเพดานห้องประดับด้วยโคมไฟระย้าทรงโค้งตัวเอสขนาดใหญ่ช่วยห้องดูหรูหราแต่ยังคงความนุ่มนวลเอาไว้ สามารถรองรับการจัดประชุมและสัมมนา รวมทั้งงานเลี้ยงในหลากหลายรูปแบบ ทั้ง งานหมั้น พิธีสงฆ์ หรือพิธียกน้ำชา และด้วยขนาดพื้นที่ 346 ตารางเมตร ทำให้เหมาะกับการจัดงานแต่งงานที่ไม่ใหญ่มาก
วิธีกำจัดคราบไวน์ออกจากชุดที่เร็วที่สุดคือ การใช้ผ้าเช็ดปากตบลงบริเวณคราบไวน์เบาๆ ที่สำคัญ “ห้ามถูเด็ดขาด” ส่วนอีกวิธีหนึ่งที่ทำได้เช่นกันคือ ใช้ผ้าชุบน้ำหรือชุบคลับโซดาตบลงไป บนคราบไวน์เบาๆ ทิ้งไว้จนบริเวณที่เช็ดแห้ง จากนั้นนำชอล์กมาถูบดบังคราบไวน์ให้ทั่วโดยไม่ต้องเช็ดออก และรีบส่งร้านซักแห้งหลังจบงานโดยด่วน
ช้อนแช่ช่องแข็งช่วยคุณได้ ขอวงเล็บอีกนิดว่าช้อนที่ใช้โปะตาต้องเป็นเวอร์ชั่นโลหะเท่านั้น ช้อนพลาสติกไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น หลังจากแช่ช้อนโลหะ 2 คันในช่องฟรีสจนเย็นยะเยือกได้ที ให้นำช้อนทั้งสองออกมาวางทิ้งไว้ 15 ถึง 20 นาที ขณะที่คุณดื่มน้ำมะนาวแก้วโตเพื่อล้างพิษในร่างกาย จากนั้นในนอนหงายหน้าขึ้น แล้ววางช้อนลงบนเปลือกตาทั้งสอง ให้ส่วนที่โค้งมนของช้อนแปะทับเปลือกตา หากไม่มีช้อนแช่แข็ง สามารถใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ห่อก้อนน้ำแข็งแล้วประคบดวงตาแทนได้
หนึ่งสิ่งสำคัญที่เจ้าสาวทุกคนต้องซื้อหามาติดตัวไว้คือ ชุดอุปกรณ์เย็บปักถักร้อยพร้อมด้ายสีเดียวกันกับชุดเจ้าสาว เพราะคุณคือผู้ที่จะเนรมิตชุดแต่งงานที่มุกหลุด เลื่อมหล่น หรือผ้าอ้าเพราะด้ายรัน ให้กลับมาสวยงามดังเดิมได้ด้วยตัวคุณเอง
หากมาสคาร่าที่ใช้อยู่ไม่กันน้ำ จงเปลี่ยนให้ไว แต่หากลงแปรงปัดลงไปแล้ว และมาสคาร่าก็ละลายกลายเป็นวงดำรอบดวงตาไปเรียบร้อย ให้ใช้คอตตอนบัดชุบรีมูฟเวอร์เช็ดออกซะ แล้วทัชอัพพื้นที่รอบดวงตาให้กลับมาปิ้งบริ๊งค์อีกครั้งด้วยคอนซีลเลอร์ รองพื้น และตามด้วยแป้งอีกนิดหน่อย วิธีนี้ช่วยจัดการคราบดำของมาสคาร่าและอายไลเนอร์ที่เลอะรอบดวงตาดีที่สุด
ตลอดงานคุณคือผู้ที่ถูกจับตาจากแขกในงานทุกอิริยาบถ ฉะนั้นรองเท้าคู่สวยจะต้องช่วยให้คุณเดินอวดโฉมเฉิดฉายได้จนจบงาน แต่หากไม่ชัวร์ในความทึกทนของมัน ให้หยิบมาใส่เดินก่อนวันงานจริง 2-3 วัน หากรองเท้ามีรอยอ้าช่วงรอยต่อที่เชื่อมส้นกันตัวรองเท้า ให้ใช้ปืนกาวอุดรอยนั้นซะ
หากคุณเผลอปัดของระหว่างรอเล็บแห้งจนเล็บเลอะน่าเกลียด ให้ใช้คอตตอนบัดหรือนิ้วมือของคุณแตะน้ำยาล้างเล็บ แล้วเช็ดสีเล็บที่เลอะออกให้หมด รอให้เล็บแห้งครู่หนึ่ง แล้วนำยาทาเล็บสีนั้นทาทับอีกครั้ง ถ้าให้ชัวร์คุณควรพกสียาทาวเล็บที่จะใช้ในวันงานพกติดกระเป๋าไว้
เมื่อกลิ่นปากและลมหายใจของชายหนุ่มที่รักเต็มไปด้วยกลิ่นกาแฟอบอวล ขอให้คุณยื่นใบสะระแหน่หรือเลมอนชิ้นเล็กให้เขาเคี้ยว เท่านี้ลมหายใจของที่รักก็สดชื่นเกินห้ามใจ จุ๊บรัวเท่าไหร่ก็หายห่วง
ขั้นแรกจุ่มมือลงในอ่างน้ำแข็งเพื่อลดอาการนิ้วบวม จากนั้นใช้เนย น้ำมัน โลชั่น หรือครีมนวดผมที่มีความหล่อลื่นสูงมาทาให้ทั่วนิ้ว แล้วค่อยๆ ขยับแหวนออกจากนิ้วทีละนิดๆ
วิธีที่ได้ผลและอยากจะนำมาแนะนำมากเลยก็คือ การดื่มน้ำหลายๆ อึกขณะอุดหู อาจดูตลกไปหน่อย แต่มันได้ผลจริงนะเออ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ายาทาเล็บจบปัญหานี้ได้ เพียงแต้มยาทาเล็บสีใสลงไปบริเวณที่ถุงน่องรันบางๆ ก็ช่วยหยุดการรันของถุงน่องได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดขอให้เจ้าสาวทาโลชั่นให้ผิวเนียนนุ่มก่อนใส่ถุงน่อง หนังแข็งๆ จะได้ไม่ข่วนถุงน่อง
จัดเวลาโทรนัดหมอผิวหนังฉีดสิวโดยด่วน และรีบกลับมาโบกคอนซีลเลอร์ปกปิดรอยแดง แต่หากมีเวลาเหลือสัก 2-3 ชั่วโมง ให้ตบยาสีฟันรสมิ้นท์ลงไปเบาๆ เพื่อจัดการรอยแดง ก่อนลงคอนซีลเลอร์ แป้งฝุ่น และแป้งพัฟเนื้อแมตต์ตาม
ทรงผมที่ 1 :ออเดรย์ เฮปเบิร์น (Audrey Hepburn) จากภาพยนตร์เรื่อง Funny Face ในปีค.ศ.1957 ทำผมทรงรวบตึงเป๊ะ เนี้ยบกริบ ผมไม่กระดิกสักเส้น
ทรงผมที่ 2 : กาทรีน เดอเนิฟว์ (Catherine Deneuve) จากภาพยนตร์เรื่อง The Vice and the Virtue ในปีค.ศ.1962 ทำผมทรงหน้าม้าพองไล่ระดับความยาวถึงช่วงข้างหู ตีโป่งผมช่วงบนไม่สูงมากนัก และม้วนลอนใหญ่ช่วงปลายผม
ทรงผมที่ 3 : เคิร์สเตน ดันสท์ (Kirsten Dunst) จากภาพยนตร์เรื่อง Marie Antoinette ในปีค.ศ.2006 ทำผมทรงม้วนลอนเกลียวเป็นหลอดเรียงแถวลดหลั่นกัน ตามแบบฉบับยุคขุนนาง
ทรงผมที่ 4 : ซาราห์ เจสสิกา ปาร์กเกอร์ (Sarah Jessica Parker) จากภาพยนตร์เรื่อง Honeymoon in Vegas ในปีค.ศ.1992 ทำผมทรงดัดลอนเกล้าตึงขึ้นด้านบน มาพร้อมกิมมิกปอยผมม้วนลอนด้านหน้าซ้าย-ขวาข้างละ 2-3 ปอย
ทรงผมที่ 5 : แคทธาลีน รอส (Katharine Ross) จากภาพยนตร์เรื่อง In The Graduate ในปีค.ศ.1967 ทำผมทรงรวบครึ่งหัวสไตล์สาวเซอร์ จะเห็นว่ามีเส้นผมตกลงมาตามกรอบหน้าบ้างเล็กน้อย ด้านบนตีโป่งไม่สูงมากนัก ส่วนปลายผมทำเป็นลอนคลาย
ทรงผมที่ 6 : อูมา เธอร์แมน (Uma Thurman) จากภาพยนตร์เรื่อง Kill Bill : Volume 2 ในปีค.ศ.2004ผมทำทรงหน้าม้า รวบครึ่งหัว ปล่อยปลายผมให้พลิ้วไหวไปกับสายลม
ทรงผมที่ 7 : เจน รัสเซลล์ และ มาริลิน มอนโร (Jane Russell and Marilyn Monroe) จากภาพยนตร์เรื่อง Gentlemen Prefer Blondes ในปีค.ศ.1953 เจ้าสาวผมสั้นแนววินเทจที่อยากเผยความเซ็กซี่เล็กๆ ทำทรงผมดัดลอนแบบเปิดหน้าผากทรงนี้เหมาะมากจริงๆ
ทรงผมที่ 8 : คาเมรอน ดิแอซ (Cameron Diaz) จากภาพยนตร์เรื่อง What Happens in Vegas ในปีค.ศ.2008 ผมทรงนี้คือคำตอบของสาวผมตรง นิยมปาร์ตี้ และมีเวลาเตรียมงานไม่มาก แค่หาที่คาดผมเก๋ๆ ที่เข้ากับชุดมาสักอัน เป็นอันจบพิธี
ทรงผมที่ 9 : โรบิน ไรท์ (Robin Wright) จากภาพยนตร์เรื่อง The Princess Bride ในปีค.ศ.1987 ทรงผมสำหรับสวมมงกุฎทรงนี้ ทำตามได้ง่ายมากๆ เพียงแสกกลางแล้วจับช่อผมขึ้นมาทีละข้าง ม้วนบิดเกลียวติดกิ๊บล็อกให้แน่น และปล่อยปลายผมดัดลอนเรียงตัวสวยตามธรรมชาติ
ทรงผมที่ 10 : โดโรธี แดนดริดจ์ (Dorothy Dandridge) จากภาพยนตร์เรื่อง The Harlem Globetrotters ในปีค.ศ.1951 ทรงผมเกล้าสูงรวบตึง คลุมด้วยหมวกติดเวลประดับคริสตัลและเลื่อม
ทรงผมที่ 11 : มาริสา เบเรนสัน (Marisa Berenson) จากภาพยนตร์เรื่อง Barry Lyndon ในปีค.ศ.1975 ทำทรงผมลอนดัดตีฟูสูงครึ่งศีรษะ หากอยากเพิ่มความฟูของผมทรงนี้ ขอแนะนำให้ใส่แฮร์พีชเพิ่ม
ทรงผมที่ 12 : เกรซ เคลลี (Grace Kelly) จากภาพยนตร์เรื่อง High Noon ในปี ค.ศ.1952 ทำผมทรงเกล้ามวยต่ำบิดเกลียวช่วงปลายผมให้เป็นรูปดอกไม้
ทรงผมที่ 13 : จาง ซิยี่ (Zhang Ziyi) จากภาพยนตร์เรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon ในปีค.ศ.2000 ทำผมทรงแสกกลาง เกล้ามวยต่ำ แบบรวบตึงเรียบเป๊ะ
สำหรับเจ้าสาวที่มีบุคลิกหวานเป็นทุนเดิม ผมแสกกลาง ถักเปียข้างซ้ายและขวาก่อนตลบปลายทั้งสองไว้ที่ช่วงท้ายทอยทรงนี้ จะช่วยส่งให้พลังความอ่อนหวานแผ่ซ่านไปทั่วทั้งงาน
อยากได้ลุคเก๋แต่เวลาจำกัด ขอให้จัดทรงนี้ไปด่วนๆ แค่จับช่อผมมัดเป็น 3 ช่วง ได้แก่ บน กลาง ล่าง จากนั้นจับผมแต่ละช่อมาหมุนบิดเกลียวให้สวยงาม ไม่นานเกินรอออร่าความงามของเทพีก็เปล่งประกาย
งามสง่าท่ามกลางงานเต้นรำสุดคลาสสิคในสไตล์สตรีชั้นสูง กับทรงผมแสกกลางรวบตึง เกล้ามวยต่ำ ที่แต่งดีเทลความหรูหราด้วยเครื่องประดับเพชรระยิบระยับ
ทรงเสน่ห์น่าหลงใหลในแบบฉบับเจ้าหญิงราพันเซล กับทรงผมเปียที่เพิ่มความหนาและยาวด้วยแฮร์พีช เพิ่มพลังความพิเศษด้วยการแซมดอกไม้ มุก และเลื่อม เข้าไปในเกลียวผม
เลือกกินอาหารที่ไม่เพิ่มปริมาณอินซูลินและน้ำตาลในเลือด เช่น โปรตีนคุณภาพดีที่ซ่อนอยู่ในปลาแซลมอน ปลาเทร้า ปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำที่อุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศา หอย สัตว์ปีก และเต้าหู้
ควรกินวิตามินน้ำมันปลาโอเมก้า 3 วันละ 3 เม็ด เพราะเป็นวิตามินเสริมที่จำเป็นสำหรับผิว
ลดการกินเมนูแป้ง แล้วหันมากินผัก ผลไม้ ธัญพืช และถั่วเมล็ดแห้งแทน
กินน้ำมันมีประโยชน์ เช่น เมล็ดพืช ถั่ว และน้ำมันมะกอก
ดื่มเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ชาเขียว และน้ำแร่ธรรมชาติวันละ 6-8 แก้ว ที่นอกจากจะเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวแล้ว ยังช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกายอีกด้วย
หลีกเลี่ยงน้ำตาล ขนมอบ โซดา น้ำผลไม้ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ผิวหมองคล้ำไม่สดใส แต่ถ้าโหยน้ำตาลจริงๆ ขอแนะนำให้กินผลไม้สด โยเกิร์ต เบอร์รี่ ไม่ก็กินชอคโกแลตที่มีส่วนผสมของโกโก้ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือผงโกโก้ 100 เปอร์เซ็นต์แทน
สมูทตี้น้ำผักสด แหล่งรวมสารอาหาร ยิ่งใส่ผงยอดข้าวบาร์เล่ย์อ่อนลงไปด้วย ยิ่งเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว เพราะอุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์และสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีผักใบเขียวตัวช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย และแอ๊ปเปิ้ลที่อัดแน่นด้วยฟลาโวนอยช่วยบำรุงผิวแพ้ง่ายให้สวยอยู่เสมอ
ออกกำลังกายด้วยการวิ่ง โยคะ พิราทีส หรือยกเวทเบาๆ ช่วยขับพิษที่แทรกตัวอยู่ตามชั้นผิวให้ออกมาพร้อมเหงื่อ
การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ ช่วยให้เซลล์ผิวได้ฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ ผิวจึงเปล่งปลั่งแลดูอ่อยกว่าวัยเป็นพิเศษ
