เคยรู้สึกไหมคะว่า เวลาที่แสงนวลๆ ส่องกระทบมาโดนตัวทำให้คุณสวยหล่อขึ้นกว่าเดิม ถ้าเคยละก็ ในวันแต่งงานห้ามพลาดเด็ดขาดกับการจัดไฟในงานแต่งที่จะช่วยเสริมให้คุณสวยหล่อและสร้างบรรยากาศ งานแต่งสุดโรแมนติก ให้อย่างไม่น่าเชื่อ  แต่จะออกมาน่าประทับใจหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการวางตำแหน่งของแสงนะคะ  ซึ่งถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะจัดแสงยังไงดี แพรว wedding มีวิธีเนรมิตงานแต่งงานให้น่าประทับใจด้วยแสงสีมาบอกต่อ

พันไฟประดับไว้กับต้นไม้ใหญ่ในสวน โดยทิ้งปลายสายไฟประดับลงมาจากต้นไม้ คล้าย ๆ กับลักษณะของรากอากาศของต้นไม้

ตกแต่งเพดานเต็นท์พร้อมให้แสงสว่างด้วยโคมไฟกระดาษแทนการใช้หลอดไฟหรือสปอร์ตไลท์

ส่วนการแขวนไฟประดับโดยให้สายไฟทิ้งตัวลงมาเหมือนสายน้ำเหนือโต๊ะอาหาร ก็ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับงานแต่งได้ไม่น้อยเหมือนกัน

การจัดไฟโดยรวมปลายสายด้านหนึ่งไว้ที่จุดเดียวกัน แล้วกระจายปลายสายไฟอีกข้างไปยังจุดต่างๆ แบบเดียวกับลักษณะของหลังคาเต็นท์ ก็ยิ่งทำให้คืนวันแต่งงานพิเศษกว่าที่หวังเอาไว้ด้วย

นอกจากนี้แล้วการใช้ไฟประดับแทนหลังคาก็ให้ภาพความสวยงามในแบบที่ไม่เคยเห็นที่ใดอีกต่างหาก

สำหรับคนที่ต้องการบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร ลองนำหลอดไฟผูกกับร่ม แล้วนำมาตกแต่งงาน เพียงเท่านี้ก็มีงานแต่งที่ดูแตกต่างจากคู่รักคู่อื่นๆ แล้ว

ส่วนคนที่ต้องการวิธีที่ง่ายกว่านั้น ก็แค่นำไฟประดับตกแต่งไปตามเชือกที่ผูกเอาไว้ในงาน พร้อมกับนำไฟประดับบางส่วนใส่ลงในเมสันจาร์ เท่านี้ก็ได้ของตกแต่งงานที่สวยงามแล้ว

การประดับงานแต่งด้วยเทียนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน ทั้งนี้หากกลัวปัญหาเรื่องน้ำตาเทียน แค่นำเทียนใส่ในภาชนะก่อนที่จะนำไปตกแต่งก็พอแล้ว

ลองทำตามกันดูนะคะ ไม่แบบใดก็แบบหนึ่งรับรองไฟส่อกระทบหน้ามาสวยหล่อไปพ่อ เราการันตีว่างานแต่งของคุณจะสวยงามอย่างฝันเชียวล่ะ

Cr. marthastewartweddings.com, brides.com, huffingtonpost.com

ยุคนี้ยุคประหยัด อะไรที่ไม่ต้องจ่ายแพงแต่ให้ลุคอลังการเข้าไว้บ่าวสาวช๊อบชอบ วันนี้แพรว Wedding จึงหามาให้กับหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานแต่ง กับ ฉากถ่ายภาพ 20 แบบที่นอกจากจะเข้ากับธีมงานแต่งงานตามกระแสอย่าง Greenery แล้ว ยังเหมาะสุดๆ กับงานแต่งงานขนาดเล็กที่หนุ่มสาวยุคใหม่นิยมจัดกันอีกด้วย

ไหนใครจัดงานเอาทดอร์ริมแม่น้ำกันบ้าง การทำฉากถ่ายภาพที่เป็ฯซุ้มโค้งประดับใบไม้และดอกไม้แบบนี้ก็ดูดีให้ความเขียวและราคาไม่แพง แถมมีฉากหลังสวยๆ แบบไม่ต้องลงทุนด้วยนะ

จับคู่ให้ลงตัวกับริบบิ้นสีขาวหรือผ้าลูกไม้ตัดเป็นเส้นยาว ห้อยลงมาแบบไม่ต้องเทากันทั้งหมด ก่อนจะตกแต่งด้วยดอกไม้ใบหญ้าสีเขียวที่มุมแบบนี้ ทริคมีนิดนึงคือตั้งไว้หน้ากำแพงสีพื้นรับรองแจ่ม

จากฉากกั้นเก่าๆ ที่อาจไม่ใช้แล้ว นำมาทาสีปรับปรุงซะใหม่ก็ให้ความวินเทจเบาๆ และเพิ่มความ Greenery ลงไปด้วยการจัดช่อไม้ใบฟอร์มสวยลงไป แค่นี้เองคุณก็ได้ฉากถ่ายภาพสวยๆ เข้าธีมฮิตแล้วค่ะ

ฉากถ่ายภาพไม่ต้องเป็นแผ่นไม้สีขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมแต่ตั้งเป็นพร้อมที่มีไม้เป็นองค์ประกอบคู่กับการนำมอสมาตกแต่งแบบนี้ก็ดูดีเป็นฉากถ่ายรูปในงานแต่งได้ไม่ยาก

หามาให้สำหรับคู่รักแบบเบสิคที่แค่ทำโครงเหล็กมาตั้งไว้หน้างาน แล้วห่ไม้ใบขนาดใหญ่มาเลื้อยพันให้ทั่ว ตั้งโชว์ที่หน้างาน แล้วบ่าวสาวไปยืนซะ แค่นี้เองก็ถ่ายรูปที่ระลึกได้แล้ว

อีกหนึ่งแบบฉากถ่ายภาพสไตล์ Greenery ที่สามารถประหยัดงบประมาณได้ แค่หากำแพงเท็กเจอรืสวยๆ แล้วหาดอกไม้มาร้อยด้ายห้อยประดับไว้ แบบนั้นก็สวยและไม่แพง

ความเป็น Greenery ไม้ต้องมีแค่สีเขียว เลือกดอกไม้ในธีมสีเดียวกับคู่สีที่เลือกมาจับคู่ แบบนี้ก็สวยงามดูเป็นธรรมชาติมากๆ

ฉากถ่ายภาพไม่ต้องเป็นสี่เหลี่ยม ออกแบบให้เป้นวงกลมแบบนี้ก็ได้เหมือนกัน ไฮไลน์ที่ขาดไม่ได้คือฉากหลังที่ควรเป็นไม้จะได้แลดูธรรมชาติมากๆ

ฉากหลังในห้องจัดเลี้ยงของงานแต่งงานขนาดเล็กที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย แค่ร่างลายเส้นเพื่อจัดวางต้นไม้ตามแนวแบบตัวอย่างที่เราหามาให้ จะเพิ่มเติมโลโก้บ่าวสาวตรงกลางอีกนิดก็ไม่ว่ากัน

ห้องจัดงานขนาดเล็กของงานแต่งงานขนาดกะทัดรัด ต้องไม่ใช้ฉากถ่ายภาพที่เว่อร์วังอลังการ เพราะนอกจากจะกินพื้นที่แล้วยังแลดูไม่เข้ากันอีกด้วย ลองดูแบบที่เราหามาฝากแล้วนำไปประยุกต์กับงานของคุณดูนะคะ

ผู้หญิงเนี่ยดีใจก็ร้องไห้ เสียใจก็ร้องไห้นะคะ ยิ่งเฉพาะวันแต่งงานด้วยแล้วละก็ พิธีเช้าก็ร้อง พิธีเย็นก็ร้อง น้ำตาไหลเป็นว่าเล่นจนช่างแต่งหน้าเหนื่อยใจจะเติมเครื่องสำอางให้! บางคนอินจัดร้องหนักจนมาสคาร่าเยิ้มมากองใต้ตาจนถ่ายรูปออกมาไม่สวยอีก ว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่รู้ตัวว่าบ่อ น้ำตา ตื้นแล้วไม่อยากหน้าเยิ้มในวันสำคัญ เรามีวิธีสกัดกั้นน้ำตามาบอกจ้า

ซึ้งมาก แต่ไม่อยากน้ำตาไหลจนมาสคาร่าเยิ้ม ต้องมาดูวิธีกันบ่อ น้ำตา ตื้น ในวันแต่งงาน

1. ฝึกพูดคำในใจให้มั่นแม่น

แน่นอนว่าซีเคว้นท์สำคัญอย่างหนึ่งในวันแต่งงานคงจะหนีไม่พ้นการพูดถึงกันและกัน พูดความประทับใจ พูดขอบคุณแขก รวมไปถึงการกล่าวคำปฏิญาณสำหรับคู่รักที่นับถือศาสนาคริสต์ และก็เป็นเรื่องที่แน่นอนเช่นกันว่าช่วงพูดนี่แหละ น้ำตาแตกชัวร์! เราเลยขอแนะนำให้ว่าที่บ่าวสาวร่างสคริปต์สิ่งที่อยากจะพูด แล้วฝึกพูดจนคล่องเสียก่อน เวลาขึ้นเวทีเจอแขกมากมายจะได้ไม่ประหม่า ไม่ตื่นเต้น ถ้าเป็นไปได้ให้คุณฝึกพูดกับเจ้าบ่าวของคุณด้วย เผื่อว่าเกิดอาการซึ้งใจน้ำตาไหลจะได้มีโมเม้นท์หวานๆ เช็ดน้ำตากันสองคน (ไม่ต้องมีคนอื่นมาคอยจ้องมอง!) แถมวันงานเจ้าสาวก็จะไม่ต้องเสี่ยงอายไลนเนอร์และมาสคาร่าเยิ้มด้วยนะ เพราะว่าร้องไปแล้วก่อนหน้านี้ไง ฮ่าๆ

2. คิดไว้เสมอว่า เดี๋ยวหน้าเละ!
วิธีนี้แพรว wedding เชื่อว่าได้ผลชะงัดนักนะคะ กับการสะกดจิตตัวเองเอาไว้ว่า “เดี๋ยวไม่สวย! เดี๋ยวหน้าเยิ้ม! เดี๋ยวหน้าเละ!” ใช่ค่ะ เรากำลังจะบอกคุณว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ความตื้นตันปลื้มปีติมันล้นเอ่อและกลั่นตัวออกมาเป็นน้ำตา ให้คุณคิดไว้เสมอว่าคุณแต่งหน้าอยู่ พร้อมทั้งสะกดจิตตัวเองด้วยวลี “เดี๋ยวหน้าเละ!” ท่องวนไปค่ะสาวๆ

3. เพลงสนุกๆ ช่วยคุณได้!

เราเข้าใจว่าหลายๆ คนคงชื่นชอบเพลงรักหวานๆ ช้าๆ ซึ้งๆ และนิยมเลือกเพลงเหล่านี้มาใช้ในช่วงเวลาสำคัญๆ เสมอ อิฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธนะคะว่ามันเริดและเข้ากับสถานการณ์วันแต่งงาน แต่อย่าลืมว่าเพลงช้าๆ แบบนี้แหละที่บิ้วท์อารมณ์ให้บ่อน้ำตาแตกมานักต่อนักแล้ว! เพราะฉะนั้นใครที่คิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีภูมิต้านทานกับเพลงรักต่ำ ได้ยินเมื่อไหร่น้ำตาจะต้องไหลออกมา ขอแนะนำว่าลองเลือกเพลงสนุกๆ ดูไหมคะ รับรองว่าซึ้งแค่ไหนก็ไม่มีน้ำตาซึม เชื่อดิ!

4. เรียกเสียงฮากลบน้ำตาก็ดีนะ

ข้อนี้ดูเหมือนจะทำได้ยากถ้าคุณเป็นคนที่ไร้ซึ่งอารมณ์ขัน ชีวิตจริงจังอยู่ตลอดเวลา เพราะเรากำลังจะบอกว่า ระหว่างที่คุณพูดความในใจหรือพูดขอบคุณแขกอยู่บนเวที เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดว่าน้ำตาต้องมาแน่ๆ ให้คุณรีบสต๊อปถ้อยคำหวานซึ้งนั้นไว้ก่อน แล้วสอดแทรกด้วยมุขตลกๆ น่ารักๆ (แต่ไม่ใช่หยาบคาย ทะลึ่งนะ) เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้มาแทนน้ำตาก่อนชั่วคราว แล้วค่อยพูดคำซึ้งๆ ต่อ หรือถ้าจะให้ดีระหว่างที่คุณกำลังร่างสคริปต์สิ่งที่อยากพูด ให้คุณลองสังเกตว่าช่วงประโยคไหนที่คุณรู้สึกว่าจะมีน้ำตา ให้ลองโน้ตเรื่องตลกๆ ไว้สักนิดก็ดีนะคะ

อีกวิธีหนึ่งที่เราอยากแนะนำก็คือ เรื่องที่คุณจะพูดควรเป็นเรื่องราวความสุขที่ทำให้เจ้าบ่าวหรือแขกฟังแล้วจะต้องยิ้ม อย่าเล่าเรื่องชีวิตประเภทฝ่าฟันอุปสรรคกันมามากมายจนกว่าจะมีวันนี้ แบบนี้รับรองว่ามุกตลกก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้นนะ

อย่างที่บอกไปค่ะว่าในวันสำคัญแบบนี้ เพศหญิงอย่างเราๆ ก็มักจะเซนซิทีฟกันมากกว่าปกติ แค่เจออะไรซึ้งๆ มาสะกิดหน่อยก็บ่อน้ำตาแตกซะแล้ว (บางคนร้องไห้ตั้งแต่เห็นหน้าเจ้าบ่าว!) พอน้ำไหลเครื่องสำอางที่ประโคมมามีหรือจะอยู่ติดทน ต่อให้กันน้ำดีขนาดไหนก็ต้องมีไหลมีย้อยบ้างเป็นธรรมดา ดังนั้นถ้าใครไม่อยากให้ใต้ตามีมาสคาร่าไหลมากอง ลองนำ 4 วิธีนี้ไปใช้กันได้นะจ๊ะ รับรองว่าหน้าแห้งไปจนส่งตัวเข้าหอเลยจ้า

เรียบเรียง : www.brides.com

ภาพ : https://www.rd.com

ของตกแต่งสำคัญมากๆ อย่างหนึ่งในงานแต่งงานที่เดี๋ยวนี้จะขาดไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งไทยหรืองานฉลองแบบสากลได้แก่ เซ็นเตอร์พีช สวยๆ ที่ตั้งอยู่กลางโต๊ะอาหาร (ซึ่งบางคนที่เป็นบ่าวสาวยุคเก่าหรือคุณพ่อคุณแม่จะเรียกว่า แจกันดอกไม้นั่นล่ะค่ะ) ซึ่งในวันนี้ แพรว Wedding หาไอเดียเซ็นเตอร์พีชสวยๆ ที่อยู่ในภาชนะต่างๆ กันมาฝาก ลองดูว่างานแต่งของคุณเป็นแบบไหนแล้วเลือกใช้ให้เหมาะสม รับรองงานนี้สวยแน่ค่ะ

กล่องไม้ใส่ดอกไม้ ถ้างานแต่งงานของคุณเป็นสไตล์รัสติคที่ฮิตกันตั้งแต่ปีที่แล้วหรือจัดงานแต่งงานในสวนสวย เซ็นเตอร์พีชแบบกล่องไม้แบบนี้เหมาะสุดๆ ยิ่งเป็นแบบไม้เก่ายิ่งเข้ากันแบบเนียนๆ ไม่เชื่อลองดูค่ะ

แจกันกระเบื้องเคลือบ แจกันดอกไม้ที่ทำจากกระเบื้องเคลือบใส่ลวดลายสวยสีตัดกันขาวน้ำเงินแบบนี้ก็ดูดีไม่ใช่เล่น แถมยังสามารถคัดขนาดและรูปทรงได้ต่างกันในแต่ละโต๊ะ ยิ่งถ้าบ้านไหนเก็บสะสมแจกันแบบนี้ไว้มากๆ เท่ากับคุณมีทางเลือกเพียบเลยนะ

พุ่มดอกไม้ทรงเตี้ย ไม่จำเป็นนะคะที่เซ็นเตอร์พีชต้องจัดให้สูงสง่าวางกลางโต๊ะ แต่คุณอาจหาภาชนะเล็กๆ ที่ไม่สูงมาก อย่างถ้วยเตี้ยๆ ปากกว้างมาจัดเป็นพุ่มดอกไม้ทรงเตี้ยวางไว้กลางโต๊ะก็ได้ เทคนิคคือเลือกดอกไม้ดอกใหญ่เป็นหัวใจสำคัญคู่กับดอกเล็กๆ หรือใบไม้ขนาดย่อมก็สวยดี

โคมไฟกะลาสีเรือ ใครจัดงานแต่งงานริมทะเลยกมือขึ้น เพราะสิ่งที่คุณสามารถนำมาเป็นเซ็นเตอร์พีชในวันงานก็คือสัญลักษณ์หรือสิ่งของเกี่ยวกับทะเล อย่างโคมไฟสีขาวที่คนเรือใช้ นำมาใส่เทียนด้านในและตกแต่งด้วยดอกไม้สักดอกสองดอกก็สวยแล้วค่ะ

ถาดใส่ผักผลไม้แบบแบน อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ คุณสามารถประยุกต์เอาถาด ใส่ผักผลไม้หรือแม้แต่ถาดขนมมาจัดเป็นเซ็นเตอร์พีชได้ แต่ถ้าจะให้เก๋ อย่าลืมหาผักรูปร่างสวยให้อารมณ์ดอกไม้อย่างกะหล่ำมาวางร่วมด้วย รับรองเก๋มาก

เถาวัลย์เลื้อยที่กลางโต๊ะ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของเซ็นเตอร์พีชที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ เพราะเพียงแค่คุณจับไม้ใบมาร้อยเป็นสายยาวแซมด้วยดอกไม้สีตัดกันแล้วางพาดกลางโต๊ะดินเนอร์แบบนี้ ก่อนจะจุดเทียนในยามฟ้ามืด

แจกันโถเตี้ย อีกหนึ่งภาชนะสำหรับจัดดอกไม้สำหรับวางเป็นเซ็นเตอร์พีชในงานแต่งงานคือโถเตี้ยๆ อาจเป็นแก้วหรือทำจากเงินเงาวับ เรียงรายกันบนโต๊ะอาหารแบบ Long Table วางบนผ้าปูอีกที แบบนี้ออกมาดูดีและหรูมาก

เซ็นเตอร์พีชบนพรมมอส บางทีตัวแจกันที่ใช้สำหรับใส่ดอกไม้ก็ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่รองแจกันที่ว่า อย่างพรมจากมอสที่เราหามาให้ในวันนี้ พิเศษที่การนำมอสมาวางปูเรียงแทนผ้าปู และเลือกสีดอกไม้ที่ตัดกันกับสีเขียวของมอสที่เลือกมาแต่ง

เซ็นเตอร์พีชแบบห้อยหัว ถ้าถามว่าเซ็นเตอร์พีชต้องอยู่บนโต๊ะเท่านั้นเหรอ? ขอบอกเลยว่าไม่ต้อง คุณอาจจัดดอกไฮเดรนเยียแสนรักไว้บนโต๊ะคู่กับเทียนเล่มขาว ขณะเดียวกันก็จัดการห้องช่อไฮเดรนเยียที่ว่านี้ที่ด้านบนด้วยก็ไม่มีใครว่า

เซ็นเตอร์พีชมาครบทั้งรากใบ เก๋ไก๋ใส่ไอเดียเข้าไปกับการวางแผนปลูกต้นข้าวสาลีไว้แต่เนิ่นๆ จากนั้นเมื่อถึงวันงานก็ยกมาเลยทั้งดินที่ปลูกและต้นเขียวที่งอก แต่อย่าลืมทีเด็ดเติมดอกไม้สดสีจัดลงไปด้วยล่ะ

แจกันเทอราเรี่ยม จากแกกันปลูกสวนในขวดสุดฮิต นำมาจัดวางดอกไม้ดอกโตที่เป็นกิมมิคของงานเข้าไป แล้ววางไว้บนโต๊ะอาหาร แค่นี้ก็มีแจกันเซ็นเตอร์พีชสวยๆ เกลื่อนงาน

จับคู่หนังสือเก่าและเหยือกแก้ว ใครที่วางธีมชัดเจนเรื่องการย้อนวัย หรือใส่ความวินเทจ รวมถึงกำหนดธีมงานแบบหนอนหนังสือรักการอ่าน อาจจำหนังสือเก่าที่ชอบหรือซื้อมาจากตลาดหนังสือมือสองมาตกแต่งบนโต๊ะอาหารแบบนี้ในงานก็พรีเซนตัวตนบ่าวสาวได้ดีนะคะ

ขอนไม้ฟอร์มสวย ก่อนจะเลือกดอกไม้อะไรก็ตามมาตกแต่งโต๊ะอาหารในค่ำคืนแห่งความสุข เราขอแนะนำให้คุณเลือกขอนไม้สวยๆ ลายงามๆ มาแทนแจกันดอกไม้ที่มนุษย์ปั้นขึ้นมากับมือ วางขอนไม้ไว้กลางโต๊ะได้ความเป้นธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

กล่องใส่ดอกไม้ทำเอง อีกหนึ่งทางเลือกที่เราอยากนำเสนอกับบ่าวสาวที่พอมีเวลาคือ ทำกล่องใส่ดอกไม้ที่จะใช้เป็นเซ็นเตอร์พีชด้วยตัวเองซะเลย เพราะคุณสามารถวัดขนาดโต๊ะที่ใช้สำหรับจัดงานได้ด้วยตัวเอง ออกแบบขนาดและดีไซน์ดอกไม้ที่จะใส่ลงไปได้ แบบนี้รับรองว่าเป๊ะและใช้ต่อได้ยาวๆ หลังจบงาน

 

ห้อยระย้าบนแจกันทรงเตี้ย อีกหนึ่งรูปแบบการจัดดอกไม้เป็นเซ็นเตอร์พีชในงานแต่งคือการเลือกแจกันทรงเตี้ยแล้วประดับดอกไม้ให้ห้อยระย้าออกมาด้านข้างราวน้ำตกที่ไหลริน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับไอเดีบเซ็นเตอร์พีชทั้ง 15 แบบที่เรานำมาฝาก ชอบแบบไหนลองเลือกกันดูให้เหมาะกับธีมงานแต่งงานที่คุณเลือกได้เลยค่ะ

ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าสาว ใครๆ ก็ฝันอยากจะสวยที่สุดในวันแต่งงาน แต่เพราะมีปัญหาหน้าไม่เป๊ะนี่สิ! จะทำอย่างไรดี โถ…แม่คุณ เรื่องแค่นี้ เราช่วยได้จ้ะ

เจ้าสาวหน้าเด็ก

ทรงผมน่ารักน่าชังนี้ขอแนะนำสำหรับเจ้าสาวที่แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศอย่างชุดไทยศิวาลัยหรือชุดไทยบรมพิมานซึ่งอาจกลัวว่าความเป็นทางการจะส่งเสริมให้ดูสูงวัยเกินควร กูรูหน้า-ผมเจ้าสาวแนะนำว่า “เปีย” คือตัวช่วยในการลดอายุ เช่น เกล้าผมแล้วมีเปียประกอบ นอกจากนี้ การทำสีผมให้อ่อนลงก็ช่วยได้ และอาจบอกให้ช่างแต่งหน้าเบามือหน่อย อย่าลงสีปากเข้ม ขอแบบใสๆ วัยรุ่นชอบ จะช่วยให้ดูเยาว์วัยลงได้

งามระเหิดระหง

สำหรับเจ้าสาวนางใดที่กังวลว่าความเรียบร้อยมิดชิดของคอเสื้อชุดไทยศิวาลัยหรือบรมพิมานจะทำให้ลำคอที่ไม่ค่อยระหงนักยิ่งดูสั้นและตันไปกว่าเดิม ลองบอกให้ช่างเกล้าผมสูงเพื่อเปิดท้ายทอยให้ช่วงคองามระหง ดังเช่นทรงนี้ที่มวยสูงด้านบนยังช่วยให้รูปศีรษะดูทุยขึ้นด้วย ด้านหลังเยอะแล้วด้านหน้าขอเรียบหรูเพื่อความดูดีและงามสง่าถึงขีดสุด

หน้าเรียวไม่พึ่งโบท็อกซ์

ชุดไทยห่มสไบดูจะเป็นชุดยอดนิยมของเจ้าสาวเพราะดูงามอ่อนหวานราวสาวน้อยโบราณ แต่ถ้าบังเอิญเราเกิดมามีดวงหน้าเต็มอิ่มดังดวงจันทร์ ซึ่งผู้ใหญ่ว่าโหงวเฮ้งดีนักแล แต่แหม ตอนนี้มันยุคทองของสาวหน้าวีเชปนะ อย่ากระนั้นเลย ทรงผมพอช่วยคุณได้ เทคนิคคือต้องยกผมด้านบนศีรษะให้สูงกว่าปกติเพื่อดึงให้รูปหน้าดูเรียวยาวขึ้น แล้วหวีผมด้านข้างให้เฉียงขึ้นจะช่วยดึงเส้นข้างใบหน้าให้ดูเรียวขึ้น แล้วก็บอกให้ช่างแต่งหน้าเฉดดิ้งด้านข้างช่วยอีกแรง จะได้สวยที่สุดในแบบฉบับของเรา ไม่ต้องไปพึ่งโบท็อกซ์ให้เป็นบล็อกเดียวกับใคร

เช้าชาร์ม เย็นชาร์ม

ทรงนี้แนะนำสำหรับเจ้าสาวที่หมั้นเช้าแต่งเย็นและคะเนเวลาแล้วว่างานเช้าลากยาวแน่ๆ อาจไม่มีเวลาเปลี่ยนทรงผม กูรูแนะนำว่าควรเกล้าสำหรับงานเย็นเป็นหลักเพราะเป็นช่วงที่เจ้าสาวส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ จะเกล้าเนี้ยบหรือเกล้าฟุ้งๆ หวานๆ ก็ได้แต่ขอให้เรียบร้อยพอจะอยู่กับชุดไทยในงานเช้าได้อย่างไม่ขัดเขิน (ไม่ควรรุงรังมาก) จากนั้นใช้วิธีเปลี่ยนเครื่องประดับผมแทน ดังเช่นทรงนี้ที่เกล้าฟุ้งๆ แล้วติดมาลัยดอกพุดบิดเป็นเกลียวสำหรับพิธีเช้า พอถึงงานฉลองก็แค่เปลี่ยนเป็นดอกไลเซนทัสสีขาวสุดคลาสสิค เพียงเท่านี้คุณก็สวยมีเสน่ห์ตั้งแต่เช้าจรดเย็น เรียกว่าเช้าชาร์ม (Charm) เย็นชาร์มเลยทีเดียว

แต่งหน้า-ทำผม และข้อมูล : พิษณุ ดีวิพุธ โทร.09-4562-4249 ไอจี: @numakeup
ผู้ช่วยช่างภาพ : ทศพล ฆ้องคำ, ปวเรศ ขวัญทองยิ้ม
สไตลิสท์ : สลาลี สมบัติมี
นางแบบรับเชิญ : ณิชชา แก้วประกายแสงกูล
ชุดไทยและเครื่องประดับ : ห้องเสื้อลอร่า โทร.0-2882-3390, 0-2882-3391 เฟซบุ๊ก: ห้องเสื้อลอร่า

เพื่อนเจ้าสาว อีกหนึ่งกลุ่มคนสนิทของเจ้าสาวที่มีอิทธิพลในงานแต่งงาอย่างไม่น่าเชื่อนะคะ เพราะเธอเหล่านี้ช่วยสร้างสีสันในงานให้กับคุณได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเป็นผู้ช่วยของเจ้าสาวในงานแต่ง ทั้งในเชิงช่วยเหลืออำนวยความสะดวก ช่วยฟังเธอบ่น ช่วยหยิบของให้ ช่วยดูความเรียบร้อย และแก๊งเพื่อนเจ้าสาวังเป็นหัวใจหลักที่ทำให้หนุ่มโสดทั้งหลายในงานคึกคักขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ

แต่วันนี้ แพรว Wedding ไม่ไ้มามาเยินย่อความดีงามของเธอเหล่านี้หรอกนะคะ แต่นำเอาธีมสีชุดของเพื่อนเจ้าสาวมาฝากกัน เพราะสไตล์ชุดเพื่อนเจ้าสาวจากเดอะแก๊งตัวจริงในงานแต่งงาน เผื่อว่าสาวไทยทั้งหลายที่กำลังจะดำรงตำแหน่งเพื่อนเจ้าสาวจะได้อินสไปเรชั่นไปหาชุดมาใส่ตาม เพราะสีฟ้า-น้ำเงิน-เทาที่เราหามาให้ นอกจากจะฮิตตลอดกาลแล้ว ยังเก็บไว้ในงานอื่นๆ ได้อีกเพียบ

ใส่ชุดสีฟ้าสดใสใกล้เฉดพาสเทลแบบไหล่เฉียงเหมือนกันทั้งทีม

สีเทาไม่ได้หม่นหมอง แถมยังมีหลายเฉดให้เหลือ ใครอวบหน่อยเลือกสีเข้ม ให่ตัวบางเลือกสีอ่อน แต่ก็ยังรวมทีมกันได้

ใครว่าชุดเพื่อนเจ้าสาวทั้งทีมต้องเป้ฯแบบเดียวกัน ขอบอกว่าไม่จริง คละทั้งแบบทั้งสี ดูให้ดีให้เหมาะกับตัว โอเคไหมคะ

สีฟ้าเทอร์คอยซ์ที่ใส่เหมือนกันทุกคน สามารถใส่ลวดลายลงไปพร้อมส่งพร้อพให้ถือเหมือนกันได้ด้วย น่ารักออก

ตัดปัญหาความเทาที่อาจจะรู้สึกมากไปด้วยการเอาสีขาวมาสลับแบบนี้ก็ดูดี และน่ารักแบบเป็นทีมได้ด้วย

ว่ากันว่าอย่าใส่สีขาวเหมือนเจ้าสาว แต่ถ้าไม่อยากให้หลุดธีมก็เลือกเทาอ่อนมากๆๆๆ เข้าไว้แบบนี้

ฟ้าออกเขียวและตัดเย็บด้วยเนื้อผ้าและสไตล์เดียวกัน แค่นี้ก็พร้อมใส่เดินนำเจ้าสาวเข้างานแบบสวยๆ ละ

อีกสีที่น่าสนใจและยังดูหรูหราอย่างสีเทาอมฟ้าแบบนี้ การันตีเลยว่าปังแน่

ไม่ต้องเว้นว่าเป้นเด็กน้อยในงานแต่ง เพราะถ้าเลือกจะให้เธออยู่ในทีม เราขอบอกว่า ใส่เฉดต่างกันก็เลอค่าน่ามอง

หาจุดร่วมที่เหมือนกันมากกว่าเรื่องสี ก็คือช่อดอกไม้ของทีมเพื่อนๆ ที่ควรเหมือนกัน อย่างน้อยๆ เราก็แก๊งเดียวกันนะ

ชุดเจ้าสาวยังมี cape ได้ แล้วชุดเพื่อนเจ้าสาวสีน้ำเงินเข้มแบบนี้จะมีผ้าคลุมไหล่บ้างทำไมจะไม่ได้ จริงไหมคะ

ความยาวของชุดก็มีผล เมื่อให้คุณเลือกสีชุดฟ้าน้ำทะเลสวยๆ เหมือนกันแล้ว ลองออกแบบชุดให้มีความยาวแับใช้เทคนิคคล้ายๆ กันมาเป็นชุดทีมสิคะ

ชุดเพื่อนเจ้าสาวสีน้ำเงินสดใส ใส่รายละเอียดดอกกุหลาบที่ช่วงคอแบบนี้ ดูดีเรียบง่ายและเก็บไว้ใช้ได้เรื่อยๆ

แม้คุณจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวแต่เมื่อหยิบชุดสีฟ้าอ่อนมาร่วมตัวกันแล้ว อย่าลืมเข้าไปโพสต์ท่าถ่ายรูปกับเจ้าบ่าวที่เลือกสีเนคไทโทนสีและเนื้อผ้าเดียวกันล่ะ

ออเดอร์เนื้อผ้าของชุดเพื่อนเจ้าสาวให้เหมือนกันทุกคน แล้วปล่อยให้แต่ละนางตัดชุดตามที่ชอบ แบบนั้นก็โอเคอยู่นะ

คลาสิคสุดๆ ก็ต้องเดรสเกาะอกตัวยาวแบบนี้ไงล่ะ

สีเทาอมม่วงนิดๆ แบบนี้ ช่วยให้ผิวสวยๆ ของเพื่อนเจ้าสาวงามขึ้นมาได้ คุณว่าจริงไหม

จุดเริ่มต้นของสีน้ำเงิน-ฟ้าในสีชุดเพื่อนเจ้าสาว แต่อย่าลืมใส่การจับเดรฟที่หน้าอกแบบนี้ รับรองว่าดูแล้วเป้นทีมเดียวกัน

ความยาวของชุดเพื่อนเจ้าสาวเป้นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้นะคะ ฉะนั้นอย่าลืมให้เพื่อนๆ นัดแนะกันให้ชัวร์ว่าไม่เอาชุดยาวลากพื้นเด็ดขาด

ถ้าเพื่อนสาวของคุณหุ่นต่างกันมากมายทั้งความสูงความอ้วน บอกเลยว่าสีน้ำเงินเข้มแบบนี้ รอดได้ทุกนาง

ใครๆ ก็คงอยากมีงานแต่งงานที่ไม่ซ้ำใครใช่ไหมค่ะ ยิ่งถ้าเป็นงานที่มีบรรยากาศแสนสนุกด้วยยิ่งดี เราจึงนำ 6 เทรนด์งานแต่งงาน มาให้เหล่าบรรดาว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้นำไปเป็นแบบสำหรับจัดงานแต่งงานในฝัน รับรองว่างานของคุณต้องเป็นที่ประทับใจทั้งกับตัวคุณเองและแขกที่มาร่วมงานแน่นอนค่ะ

1. CREATIVE SIGNAGE

บอกลาป้ายบอกทางแบบเดิมๆ แล้วครีเอทป้ายบอกทางไปงานแต่งให้แตกต่างจากรูปแบบเดิมกันดีกว่า ในปี 2017 นี้เราจะได้เห็นเทรนด์ในการออกแบบป้ายบอกทางไปงานแต่งงาน ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของบ่าวสาว วัสดุที่ใช้นั้นก็มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น แผ่นไม้ หินอ่อน กระจก เป็นต้น

2. INTERACTIVE STATIONS

เพิ่มความสนุกให้กับแขกที่มาร่วมงานงาน ด้วยเครื่องทำอาหารและเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ที่สามารถลงมือทำได้ด้วยตัวเอง เป็นกิมมิคอย่างหนึ่งของในปี 2017 นี้ที่บอกเลยว่าไม่ควรพลาด

3. MIXED METALS

นอกจากสี PANTONE ที่ได้รับความนิยมนำมาจัดงานแต่งงานแล้ว กลุ่มสีแมทธีเรียล เช่น สีทอง สีเงิน สีทองแดง หรือสีที่ตอนนี้ได้รับความนิยมอย่างมากอย่างสีโรสโกลด์ ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ในปี 2017 ควรอย่างยิ่งที่จะนำมาเป็นธีมสี เพราะสีโทนนี้จะทำให้งานดูหรูหราขึ้นมาทันทีค่ะ

4. GUEST SURPRISES

นอกจากสเตชั่นเครื่องดื่ม 1 ในเทรนด์ของปีนี้ที่ควรมีในงานอย่างยิ่ง กิจกรรมภายในงานอย่างเช่นคอนเสิร์ต จุดพลุเฉลิมฉลอง ก็เป็นกิจกรรมที่สามารถเซอร์ไพร้ส์ให้แขกในงานได้ร่วมสนุกและตื่นตาตื่นใจ แถมยังสร้างความประทับใจให้แขกได้อีกด้วย

5. GREENERY

ไม่ว่าจะปีไหน เทรนด์รักโลกร้อนก็ฮอตฮิตได้ทุกปี และยิ่งปีนี้ GREENERY เป็นสีแพนโทนประจำปี 2017 เราคงได้เห็นงานแต่งงานที่มีความร่มรื่นตลอดปีแน่นอน ใครชื่นชอบสีเขียว ที่ดูแล้วสบายตา ต้องจัดธีมนี้เลยรับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

6. OVERHEAD INSTALLATIONS

เทรนด์สุดท้ายที่ไม่ควรพลาดในปี 2017 หากอยากเพิ่มดีเทลให้กับแล้วล่ะก็ ลองตกแต่งเพดานด้วยดอกไม้แบบแฮงกิ้ง แต่ถ้าดอกไม้อาจจะเห็นมามากแล้วลองเปลี่ยนเป็น กระดาษที่ตัดตกแต่งเป็นลวดลาย โคมไฟแบบต่างๆ หรือจะเป็นขวดน้ำนำมาเพ้นท์สีก็เกร๋ไม่เบาแต่ระวังด้วยนะจ๊ะว่าจะต้องแข็งแรงไม่งั้นตกลงมาใส่หัวจะแย่เอา

เป็นไงกันบ้าง ถูกใจเทรนด์ไหนกันบ้างเอ่ย 6 เทรนด์ 2017 ที่นำมาให้ดูกันบอกเลยแต่ละเทรนด์นั้นดีงามจริงๆ ลองเอาไปปรับใช้กับงานแต่งงานก็เกร๋กู้ดไม่น้อยเลยนะคุณ

เรื่อง : Nitcha

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://www.mazelmoments.com/,http://ruffledblog.com/,