บ่อยครั้งที่เรื่องราวความรักความผูกพันของคนในครอบครัวได้ส่งผ่านของขวัญจากรุ่นสู่รุ่น ยิ่งถ้าเป็น เซตเครื่องประดับ ที่งดงามและเลอค่าวำหรับสวมใส่ในพิธีวิวาห์ซึ่งเป็นวันสำคัญของการเริ่มชีวิตคู่ ก็ยิ่งทำให้จิเวลรี่เหล่านั้นมากด้วยคุณค่าและความทรงจำเหนือกาลเวลาจนไม่อาจบรรยายได้ครบถ้วน และนี่คือเครื่องประดับสุดเลอค่าที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นของ 3 เจ้าสาวคนดังและเรื่องราวสุดประทับใจของเครื่องประดับแสนพิเศษในวันสำคัญ
กรณ์ – ศรีริต้า ณรงค์เดช
“เวลาเห็นริต้าใส่เครื่องประดับของคุณแม่ ผมรู้สึกเหมือนได้เห็นผู้หญิงสองคนที่ผมรักที่สุดมายืนอยู่ตรงหน้า”
สาวริต้ามอบหน้าที่ให้กับกรณ์ ณรงค์เดช รองประธานกรรมการกลุ่มบริษัทเคพีเอ็นหนุ่มหล่อสุดเพอร์เฟ็กต์ บอกเล่าเรื่องราวนี้
“ผมบอกริต้าตั้งแต่แรกว่าทั้งงานหมั้นและงานแต่งงานอยากให้เขาใส่เครื่องประดับของคุณแม่ (คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช) ที่ท่านสวมใส่
มาตลอด เพราะผมอยากให้คุณแม่เป็นส่วนหนึ่งในงานของเรา แม้ท่านจะไม่อยู่กับเราแล้ว แต่เครื่องประดับเปรียบเหมือนตัวแทนที่อยู่ใกล้เราสองคนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบงาน คืออยู่ในทุกโมเมนต์แห่งความสุขของเราครั้งนี้
“ก่อนหน้านี้ผมได้เรียนคุณพ่อ (เกษม ณรงค์เดช) กับพี่กบ (กฤษณ์ ณรงค์เดช) ว่าวันหมั้นกับวันฉลองสมรส ผมขอให้ริต้าใส่เครื่องประดับของคุณแม่ คุณพ่อกับพี่กบอนุญาตแล้วให้ผมเลือกเองเลย เพราะผมจำได้หมดว่าคุณแม่ใส่เครื่องประดับแบบไหนบ้าง เพราะทุกครั้งที่ท่านซื้อ
เครื่องประดับผมมักจะอยู่ด้วยเสมอ
“เริ่มจากงานหมั้นเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้เราสองคนอยากให้งานออกมาเรียบๆ แต่อบอุ่นน่ารัก ตั้งแต่การตกแต่งสถานที่จัดงานไปจนถึงชุดหมั้นแบรนด์สเตลลา แมคคาร์ตนีย์ ริต้าเลือกดีไซน์เรียบๆ ไม่มีดีเทล ไม่ปักเลื่อม ไม่มีลูกไม้อะไรเลย เพราะอยากให้ทุกคนโฟกัสไปที่ความรักของเราสองคน
“ผมตั้งใจเลือกเครื่องประดับชิ้นเดียวคือ ต่างหูเพชรที่คุณแม่ได้มาจากการประมูลกับสถาบันประมูลคริสตี้ส์ที่ประเทศฮ่องกงเมื่อประมาณ
16 ปีที่แล้ว ด้วยดีไซน์เป็นเพชรเม็ดใหญ่ทรงไข่แล้วล้อมด้วยเพชรเม็ดเล็กๆ น้ำหนักเพชรข้างละ 7 กะรัต เพราะสามารถตอบโจทย์งานหมั้นของเราได้ คือเป็นต่างหูที่เรียบที่สุดเท่าที่คุณแม่มีแล้ว (หัวเราะ) เพราะเครื่องประดับคุณแม่จะมีดีเทลมากและพิเศษเสมอ”
สำหรับงานแถลงข่าวพิธีฉลองสมรสและงานฉลองสมรสในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ เจ้าบ่าวยอมรับว่าเลือกเครื่องประดับยากมาก เพราะไม่มีโอกาสได้เห็นชุดเจ้าสาวมาก่อนต้องใช้วิธีคาดเดาเท่านั้น
“ผมถามริต้าว่าชุดวันแต่งดีไซน์เป็นอย่างไร เขาบอกสั้นๆ ว่า เป็นชุดเกาะอก แล้วบอกว่าน่าจะเหมาะกับเครื่องประดับเรียบๆ แค่นั้น ผมก็เดาเองต่อว่าน่าจะเป็นชุดเจ้าสาวทรงปริ๊นเซสและมีดีเทล มีความดรามาติกนิดหนึ่ง จึงตัดสินใจเลือกสร้อยเพชรที่มีดีไซน์พิเศษเส้นนี้ที่คุณแม่น่าจะชอบมากที่สุด เพราะเห็นท่านใส่มาตั้งแต่ผมอายุ 10 กว่าขวบ และเรียบที่สุดด้วย (หัวเราะ) จากร้านแฟรงค์ จิเวลรี่ จริงๆ แล้วดีไซน์แบบเต็มๆ ของสร้อยคอเส้นนี้จะมีจี้เพชรห้อยลงมาด้วย แต่ผมมองว่าอาจจะเยอะไปเลยเอาจี้เพชรออก”
พอริต้าปรากฏตัวในชุดเดรสสีงาช้างปักคริสตัลทั้งชุดพร้อมสร้อยเพชรในงานแถลงข่าว ทำเอาหนุ่มกรณ์ถึงกับตกตะลึงในความงดงามของเจ้าสาว
“ผมได้เห็นครั้งแรกพร้อมกับทุกคนเลย ริต้าดูสวยและเครื่องประดับก็เข้ากับชุดได้ดี”
สำหรับพิธีฉลองสมรสช่วงเย็น ริต้าสวมชุดจากแบรนด์ไมเคิล ซินโก้ ที่ออกแบบเพื่อเธอโดยเฉพาะ เจ้าบ่าวจึงตัดสินใจเลือกต่างหูเพชรเรียบๆแบบติดหูไม่ห้อยระย้า เพื่อจะได้ไม่ไปกวนหรือแย่งความสวยงามของชุด
“ผมทราบแค่ว่างานตอนเย็นเป็นชุดเกาะอกปักเลื่อมลายดอกไม้ น่าจะเหมาะกับต่างหูเพชรลายดอกไม้คู่นี้ที่คุณแม่ซื้อจากนิวยอร์ก แต่ได้นำมา
ปรับนิดหน่อย เนื่องจากวันหมั้นต่างหูของคุณแม่จะเป็นแบบหนีบทั้งหมด พอริต้าต้องใส่ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าถึงบ่ายสองทำให้เกิดอาการเจ็บพอสมควร เมื่อผมเลือกต่างหูสำหรับงานฉลองสมรสตอนเย็นได้แล้วก็รีบส่งให้ที่ร้านปรับเป็นต่างหูแบบเจาะเพื่อริต้าใส่ได้ง่ายขึ้น”
ณัฐปรี พิชัยรณรงค์สงคราม – วรวุฒิ อัจฉริยศรีพงศ์
“การได้สวมใส่เครื่องประดับที่ส่งต่อมาตั้งแต่รุ่นคุณยายในวันสำคัญของชีวิตเป็นความภูมิใจและประทับใจที่ไม่รู้ลืมค่ะ”
โดยในวันเข้าเฝ้ารับประทานน้ำพระพุทธมนต์จากสมเด็จพระสังฆราช ฝ่ายเจ้าสาวเลือกเครื่องประดับอายุ 100 ปีของคุณยาย คุณหญิงสุภัทรา
สิงหลกะ เป็นของคู่กายชิ้นสำคัญในวันมงคลของชีวิต
“เครื่องประดับทั้งสองชิ้นคุณยายมอบให้คุณแม่ (คุณสุภาพรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม) ค่ะ ท่านเล่าให้ปิ๋มฟังว่า คุณยายสั่งทำเครื่องประดับตั้งแต่สมัยท่านสาวๆ เมื่อมีลูกหลานแต่งงานทุกคนจะใส่เครื่องประดับชุดนี้ในพิธีแบบไทย ปิ๋มจึงเลือกเครื่องประดับของคุณยายมาสวมใส่เพื่อเป็นการระลึกถึงท่าน ซึ่งถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ปัจจุบันจะมีอายุ 110 ปี เพราะท่านเกิดในปลายสมัยรัชกาลที่ 5 จึงสันนิษฐานว่าเครื่องประดับทั้งสองชิ้นนี้น่าจะทำในสมัยรัชกาลที่ 6 ค่ะ
“โดยต่างหูและสร้อยข้อมือทำจากทองคำบริสุทธิ์ 99.99 เปอร์เซ็นต์ สร้อยข้อมือประดับด้วยพลอยนพเก้า ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอัญมณีมงคล 9 ชนิด
ประกอบด้วยเพชรซีก ซึ่งเป็นงานฝีมือในอดีตที่มีการนำเพชรมาเจียระไนเพื่อให้เกิดประกาย และพลอย 8 ชนิด ได้แก่ ทับทิม มรกต บุษราคัม ไพลิน (นิลกาฬ) โกเมน มุกดาหาร เพทาย และไพฑูรย์ (ตาแมว)
“ส่วนต่างหูประดับด้วยเพชร โดยใช้วิธีประดับตัวเรือนแบบโบราณที่เรียกว่า “ยัดขี้เถ้า” ทำให้เห็นเพชรเป็นสีเทาๆ มากกว่าจะเห็นความแวววาวเหมือนเครื่องประดับสมัยนี้ ก่อนนำมาสวมใส่พี่ฟลุ้คช่วยนำไปทำความสะอาดเพื่อให้ผิวเครื่องประดับดูสุกสว่าง
“ปิ๋มเลือกใส่เครื่องประดับชุดนี้กับชุดไทยบรมพิมานสีงาช้างที่คุณป้อม – ธีระพันธ์ วรรณรัตน์ ออกแบบและตัดเย็บ โดยใช้ผ้ายกไหมทอมือจากลำพูน ด้านหน้ามีจีบหน้านางปักลาย ตกแต่งด้วยลูกปัดและคริสตัลชนิดด้าน เข้าเฝ้าและกราบขอพรจากสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งพระองค์ท่าน
ประทานน้ำพระพุทธมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลสำหรับใช้ในพิธีรดน้ำสังข์ และสวมใส่อีกครั้งในวันทำพิธีหมั้นและมงคลสมรสตามประเพณีไทยด้วย
“ปิ๋มเลือกเครื่องประดับไทยสมัยรัชกาลที่ 6 ของคุณยายมาผสมผสานกับเครื่องประดับเพชรสมัยใหม่ที่เรียบโก้จาก Gems Pavilion เพื่อให้
องค์รวมดูสวยร่วมสมัย มีความเป็นไทยตามประเพณี แต่ก็ยังมีความเป็นตัวเองของปิ๋มด้วย
วริษา ประธานราษฎร์นิกร – จักรกฤต เบเนเดทตี้
“ปายจึงเลือกใส่สร้อยเพชรและเข็มขัดทองคำขาวที่ท่านมอบให้ เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของท่านในวันสำคัญของชีวิตเราค่ะ”
“ความที่คุณป้า (เมธ์วดี นวพันธ์) ชอบจิเวลรี่เป็นทุนเดิม ทำให้ปายได้รับเครื่องประดับจากท่านมาตั้งแต่เด็ก มีช่วงหนึ่งที่ฮิตจิเวลรี่วินเทจท่านก็ให้แหวนพลอย พอโตขึ้นมาหน่อย เคยคุยให้ท่านฟังว่าอยากสะสมสร้อยเพชร เมื่อสี่ปีที่แล้วคุณป้าจึงแอบไปจัดหาสร้อยคอไว้ให้ปายใส่ออกงาน วิธีการให้ของท่านก็ไม่ธรรมดาด้วยนะคะ มีเซอร์ไพร้ส์ด้วยการชวนไปกินข้าวที่บ้าน แล้ววางกล่องใส่สร้อยเพชรไว้ให้ที่เก้าอี้ พอเปิดกล่องออกมาก็เห็นสร้อยคอเส้นนี้ ตัวเรือนเป็นแพลทินัม ประดับด้วยเพชรหยดน้ำกว่า 5 กะรัต เพชรทรงกลมเกือบ 19 กะรัต และเพชรรูปทรงแปดเหลี่ยมเกือบ 12 กะรัต ท่านพูดแค่ว่า ‘ของปายนะ’ ปายปลื้มมากเก็บรักษาอย่างดี โดยยังไม่มีโอกาสหยิบมาใช้สักที
“จนกระทั่งใกล้จะแต่งงาน โดยขั้นตอนคือ หลังจากทำพิธีแต่งงานในโบสถ์เสร็จเรียบร้อย เรามีจัดงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่โรงแรม โดยพี่แม็กซ์
(จักรกฤต เบเนเดทตี้ – เจ้าบ่าว) จะเปลี่ยนชุดมาใส่เสื้อกั๊กสีเบอร์กันดีทีแรกปายคิดไม่ออกว่าจะใส่ชุดอะไรดีที่สีแมตช์กัน แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ามี
เดรสคอลเล็คชั่นล่าสุดของ Dior ที่เขาส่งมาให้ดูที่บ้าน สีเข้ากันกับชุดเจ้าบ่าวพอดี ส่วนเครื่องประดับ ปายนึกถึงสร้อยคอที่คุณป้าให้ ซึ่งช่วยให้ชุดที่ใส่ดูเด่นขึ้นมาเลยค่ะ
“ส่วนเข็มขัดทองคำขาวเส้นนี้เป็นของเก่า หัวเข็มขัดประดับด้วยเพชรทรงกลม เพิ่งได้รับจากคุณป้าเมื่อปีที่แล้ว เพราะท่านรู้ว่าปายจะแต่งงานจึงมอบให้ใช้สำหรับพิธีแบบไทย ที่จริงคุณป้ามีเข็มขัดเพชรหลายเส้นท่านก็จะเลือกให้เหมาะกับหลานแต่ละคน ที่ปายได้เส้นนี้เพราะตัวเล็กกว่า
หลานคนอื่น (หัวเราะ) เข็มขัดไม่ยาวมาก หัวเข็มขัดจึงไม่ใหญ่ เสียดายว่าช่วงที่จัดพิธีแต่งงานคุณป้าไม่ได้มาร่วมด้วย เพราะสุขภาพท่านไม่อำนวย
อ่านบทความเพิ่มเติม
https://praewwedding.com/rings-and-accessories/20829
https://praewwedding.com/rings-and-accessories/35031
https://praewwedding.com/rings-and-accessories/accessories/94737